WebSnow ได้เข้าเฝ้า พระพุทธเจ้าสมณโคดม หลวงปู่แหวน และหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

...........เวลาเป็นสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง การหยั่งรู้อดีต อนาคต เป็นการหยั่งรู้ด้วยจิต ไม่ใช่เห็นด้วยตาเนื้อ และในเมื่อจิตไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา ดังนั้น การจะเห็นพระพุทธองค์โดยย้อนเวลา เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ สำหรับผู้ที่มีจิตในระดับโลกุตตระ เป็นการสื่อสารระหว่างจิตถึงจิต

พุทธดำรัส ที่ว่า “ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเราตถาคต ผู้ใดเห็นเราตถาคต ผู้นั้นเห็นธรรม” ยังคงเป็นปริศนาที่ต้องตีความกันจนถึงทุกวันนี้ อีกนัยยะหนึ่งคือ ผู้ใดเห็นความจริงของธรรมชาติ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องจิต) ผู้นั้นจะได้พบกับองค์สัมมาสัมพุทธเจ้า หรือในทางกลับกัน ผู้ใดที่ได้พบกับพระพุทธเจ้าก็แสดงว่า ผู้นั้นเห็นความจริงของธรรมชาติแล้ว
fficeffice" /><O></O>
หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงปู่มั่น หลวงปู่หล้า และพระอริยะบุคคลต่างๆ ล้วนแล้วเคยสัมผัสกับพระพุทธเจ้าโดยสื่อทางจิต มาแล้วทั้งสิ้น หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน บอกว่า "ดวงจิตนี้ไม่เคยสูญ แดนพระนิพพานมีจริง หลวงปู่มั่นเล่าว่า พระพุทธเจ้าหลายพระองค์เสด็จมาเยี่ยมท่าน"

หลวงปู่ตื้อ อจลธมโน เทศน์ไว้ครั้งหนึ่งว่า " มนุษย์ที่ได้เป็นพระอรหันต์ เข้านิพพานไปแล้ว พระนิพพานก็ยังมีอยู่ไม่เสื่อมสูญ พระพุทธเจ้าเข้านิพพาน ก็มีอยู่ในพระนิพพานนั้นแล พระโมคคัลลานะ พระสารีบุตร พระอานนท์ เข้านิพพาน ก็มีอยู่ในพระนิพพานนั้นแล...ถ้าเราเป็นพระอรหันต์ เมื่อไร เมื่อนั้นแหละจึงจะเห็นจะรู้ที่อยู่พระพุทธเจ้า ที่อยู่ของพระอรหันต์เจ้าทั้งหลาย. "<O></O>

ตัดตอนมาจากหนังสือ ไอน์สไตน์พบ พระพุทธเจ้าเห็น 2 อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่

Einstein met Buddha

 

พระอรหันต์เจ้าเท่านั้นถึงเห็นกันเองได้ ผมคิดว่าคุณคงจะโดนธรรมะทดสอบนะ การที่จะเห็นพระอรหันต์เจ้านั้นตัวคุณต้องเป็นพระอรหันต์ก่อนซึ่งต้องบำเพ็ญเพียรอย่างมาก โปรดพิจารณาคำตอบของผมด้วยครับ

 

อนุโมทนาสาธุคะเพิ่งเจอWebนี้โดยบังเอิญแต่มีความสําคัญมากต่อชีวิตขอให้คุณวีรชัยมีอายุมั่นขวัญยืนเพื่อช่วยคํ้าชูพระพุทธศาสนาต่อไป



;41;41;41




;ปรบมือ



;aa2

 

ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้คุณเวปสโนว์ ผู้ก่อตั้งเวปค่ะ โมทนาบุญด้วยค่ะ

ท่านพร้อมถึงเราเสมอ อยู่ที่เราพร้อมถึงท่านหรือเปล่า สำหรับผู้ค้าน ทำได้ก่อนแล้วค่อยค้าน

 

ขอให้ตั้งสติให้มากกว่านี้นะครับ กลับไปอยู่ที่ลมหายใจแล้วพิจารนาให้เห็นเกิดดับจะดีกว่านะครับ ผมจะเอาใจช่วยนะครับ

 

ข้าพเจ้าคิดว่าทุกท่านสามารถ
พบองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้
ทั้งทางในนิมิตฝัน หรือเวลาที่สมาธิอยู่
หากได้ปฏิบัติจริงทุกท่านก็คงจะเคย
ได้สัมผัสท่านได้บ้างไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

ข้าพเจ้าเป็นผู้หนึ่งที่ไม่ค่อยเชื่อเรื่องเหล่านี้
จนได้มาพบกับตนเอง จึงได้เริ่มหันมาปฏิบัติธรรม
catt10
<!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> <w:UseFELayout/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> [FONT=&quot]เ[/FONT][FONT=&quot]มื่อข้าพเจ้าได้เริ่มปฏิบัติสมาธิใหม่ๆ นั้น
[/FONT]
[FONT=&quot]มีอยู่วันหนึ่งข้าพเจ้าได้ นิมิตเหมือนตัวเองได้อยู่[/FONT]
[FONT=&quot]ในถ้ำแห่งหนึ่ง[FONT=&quot]และได้นั่งสมาธิอยู่ในที่นั้น[/FONT][FONT=&quot]
[/FONT][/FONT]
[FONT=&quot]ก็ได้เห็นพระภิกษุสงฆ์รูปหนึ่งท่านเดินเข้ามาหา ภาพที่ปรากฏ[/FONT]
[FONT=&quot]เป็นพระภิกษุสงฆ์ท่านมีอายุมาก หน้าตาท่านใจดีมาก
[/FONT]
[FONT=&quot]ยิ้มแย้มแจ่มใส ขณะที่ท่านเดินเข้ามาหาข้าพเจ้า[/FONT]
[FONT=&quot]ท่านสะดุดก้อนหิน ก้อนหนึ่งท่านกำลังจะล้มลง
[/FONT]
[FONT=&quot]ข้าพเจ้าตกใจ กลัวท่านจะหกล้ม จะไปประคองท่าน[/FONT]
[FONT=&quot]ทั้งที่รู้ว่าข้าพเจ้าเป็นสตรี มิควรถูกท่าน
[/FONT]
[FONT=&quot] แต่ด้วยในจิตคิดเป็นห่วงกลัวท่านจะล้มลง
[/FONT]
[FONT=&quot]จะไปประคองท่าน[FONT=&quot] ท่านบอกว่า [/FONT][FONT=&quot]“ ไม่ต้อง ท่านไม่ล้มหรอก ท่านเดินเองได้ ”
[/FONT][/FONT]
[FONT=&quot]แล้วท่านก็เดินเข้ามาหาข้าพเจ้า ข้าพเจ้านั่งคุกเข่าลงพนมมือลงกราบท่านด้วย[/FONT]
[FONT=&quot]ความเป็นห่วง [FONT=&quot] ท่านก็กล่าวต่อว่า “ ตั้งใจปฏิบัติ ”[/FONT][/FONT]
[FONT=&quot]และท่านก็เอามือของท่านวางไว้เหนือศีรษะของข้าพเจ้า
[/FONT]
[FONT=&quot]พร้อมกับบริกรรมพระคาถา [FONT=&quot]“ อิติ สัมมาสัมพุทธัสสะ มะมะ จิตตัง
[/FONT][/FONT]
[FONT=&quot]นิมิตจิตติ นิมิตจิตตา นิพพานจิตติ นิพพานจิตตา
[/FONT]
[FONT=&quot]ขีณาสวา อนิยตา และนิพพานสุขัง [FONT=&quot]” แล้วท่านก็บอกว่า
[/FONT][/FONT]
[FONT=&quot] “ ปู่ไม่ใช่พระ ปู่เป็นฤาษี ปู่เป็นฤาษีนะ ”[/FONT]
[FONT=&quot]แล้วท่านก็ยิ้มให้กับข้าพเจ้า ในใจข้าพเจ้าก็ยังสงสัย[/FONT]
[FONT=&quot]และงงอยู่เหมือนกันว่า ทำไมท่านเรียกตัวท่าน[/FONT]
[FONT=&quot]เองว่าเป็นฤาษี ทั้งๆที่ท่านก็ไม่ได้ใส่ชุดพระฤาษี
[/FONT]
[FONT=&quot]แต่ท่านก็ห่มจีวรพระ ในนิมิตข้าพเจ้าก็พยายาม[/FONT]
[FONT=&quot]จำพระคาถาของท่าน แต่พอเมื่อท่านหายไปก็สะดุ้งตื่น
[/FONT]
[FONT=&quot]จำได้แค่ [FONT=&quot]“ นิมิตจิตติ นิมิตจิตตา นิพพานจิตติ นิพพานจิตตา [/FONT][FONT=&quot]”
[/FONT][/FONT]
[FONT=&quot]อะไรทำนองนี้ รู้ว่าท่านบริกรรมพระคาถายาว แต่ข้าพเจ้าจำได้เพียงเท่านั้น[/FONT]
[FONT=&quot]
[/FONT]
[FONT=&quot]หลังจากนั้นข้าพเจ้าก็สงสัยว่าท่านเป็นผู้ใด ก็หาความรู้เพิ่มเติมในเรื่องที่นิมิต
[/FONT]
[FONT=&quot]แล้วก็พบว่า[FONT=&quot] ในบรรดาพระภิกษุสงฆ์ที่ท่านเรียกตัวท่านเองว่า พระฤาษี
[/FONT][/FONT]
[FONT=&quot] ก็มีเพียงพระราชพรหมยานเท่านั้น[FONT=&quot] ที่เรียกว่า [/FONT][FONT=&quot]“ หลวงพ่อพระฤาษีลิงดำ ”
[/FONT][/FONT]


[FONT=&quot]ภาพที่ข้าพเจ้าเห็นท่านเหมือนในนิมิต และพระคาถาที่ข้าพเจ้า[/FONT]
[FONT=&quot]ได้ท่องจำเหมือนกับของหลวงพ่อพระฤาษีลิงดำ ซึ่งทำให้ข้าพเจ้ายิ่งมั่นใจมากขึ้นว่า
[/FONT]
[FONT=&quot] คงจะเป็นท่าน[FONT=&quot]ที่มาสอนสั่งข้าพเจ้าในนิมิตนั้น[/FONT][/FONT]
[FONT=&quot]
[/FONT]
[FONT=&quot]ต่อจากนั้นข้าพเจ้าก็อธิฐานจิตหากเป็นหลวงพ่อพระฤาษีลิงดำ
[/FONT]
[FONT=&quot]ท่านได้มาโปรดสอนสั่งลูก ก็ขอให้ข้าพเจ้าได้ชานหมาก[/FONT]
[FONT=&quot]หรือพระธาตุของหลวงพ่อไว้บูชาด้วยเถิด
[/FONT]
[FONT=&quot]หากข้าพเจ้ามีบุญสัมพันธ์[FONT=&quot]กับหลวงพ่อ
[/FONT][/FONT]
[FONT=&quot]
[/FONT]
[FONT=&quot]หลังจากนั้นไม่นานข้าพเจ้าก็ได้ข่าวจากญาติธรรมผู้หนึ่งว่า[/FONT]
[FONT=&quot]จะนำท่านมาให้บูชา[FONT=&quot]เป็นชานหมากและเส้นพระเกศาของหลวงพ่อพระฤาษีลิงดำ
[/FONT][/FONT]
<!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> <w:UseFELayout/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> [FONT=&quot]ข้าพเจ้าได้ยินข่าวนั้นก็ปลาบปลื้มใจ[/FONT][FONT=&quot]ยิ่งนักว่าจะได้บูชาชานหมาก
และเส้นพระเกศาของท่าน[/FONT][FONT=&quot] ก่อนที่ท่านจะเสด็จมานั้น มีอยู่วันหนึ่งข้าพเจ้าได้ยินเสียง
เหมือนท่านมาปลุกให้ตื่น[/FONT] [FONT=&quot]ท่านบอกว่า [/FONT][FONT=&quot]“ ตื่นเถอะลูก ตื่นได้แล้ว ”
กระซิบอยู่ข้างหูของข้าพเจ้า
[/FONT]
[FONT=&quot]แล้วข้าพเจ้าก็สะดุ้งตื่น แล้ววันนั้นข้าพเจ้าก็ได้ชานหมากของ[/FONT]
[FONT=&quot]หลวงพ่อพระฤาษีลิงดำของท่านจำนวน ๓ องค์[/FONT][FONT=&quot]
พร้อมเส้นพระเกศาของท่าน ๑ เส้น[/FONT]
[FONT=&quot]
ต่อมาไม่นานก็มีญาติธรรมท่านอื่นส่งชานหมาก[/FONT][FONT=&quot]ของท่านมาให้อีก ๑ องค์
[/FONT][FONT=&quot]แต่ที่หน้าแปลกใจ คือ เมื่อข้าพเจ้าบรรจุท่านใส่ผอบเรียบร้อยแล้ว [/FONT]
[FONT=&quot]เมื่อไม่นานมานี้ ท่านก็เสด็จมาเองอีก ๑ องค์ รวมเป็น ๕ องค์
[/FONT][FONT=&quot]ข้าพเจ้าจึงเชื่อเรื่องนิมิตที่เกิดขึ้นว่า[/FONT][FONT=&quot]ต้องเป็นหลวงพ่อท่าน
[/FONT][FONT=&quot]มาโปรดสอนสั่งข้าพเจ้าในนิมิต และเชื่อในเรื่องของพระอรหันต์ [/FONT]
[FONT=&quot]ท่านสามารถเสด็จไปที่ไหนก็ได้ ท่านจะเสด็จไป
[/FONT][FONT=&quot]เมื่อใดก็ได้เหมือนดังชานหมากของท่าน[/FONT]
[FONT=&quot]ที่เสด็จมาเพิ่มกับข้าพเจ้าอีก ๑ องค์[/FONT]

 

หลังจากนั้น ข้าพเจ้าจึงเกิดความเลื่อมใสใน
หลวงพ่อพระฤาษีลิงดำ ต่อมาไม่นานก็มีญาติธรรม
ที่ไม่ได้เคยรู้จักกันมาก่อน แต่ท่านนับถือสายสมเด็จองค์ปฐม
และหลวงพ่อพระฤาษีลิงดำ มาสอนข้าพเจ้าฝึกสมาธิสายมโนยิทธิ
ทางโทรศัพท์พร้อมทั้งได้ส่ง พระบรมสารีริกธาตุสมเด็จองค์ปฐม
มาให้บูชาข้าพเจ้า จึงคิดว่าไม่ใช่เรื่องบัญเอิญ เป็นเรื่องที่ได้
สืบต่อมานิิมิตหลวงพ่อ หลังจากนั้นข้าพเ้จ้าจึงเริ่มฝึกมโนยิทธิ
ตามแนวทางของหลวงพ่อพระฤาษีลิงดำ

 

หลังจากหันมาปฏิบัติธรรมฝึกสมาธิ
ก็จะช่วยให้เรานิมิตล่วงหน้านิมิต
ถึงสิ่งศักดิ์มากขึ้น หากเราได้มาปฏิบัติ
เราถึงจะรู้ได้ด้วยตัวของเอง

<!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> <w:UseFELayout/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]-->[FONT=&quot]นิมิตน้ำพุทธมนต์[/FONT]

[FONT=&quot]เ[/FONT][FONT=&quot]หมือนตัวเองอยู่ในถ้ำบ้างในท่านั่งสมาธิบ้าง บางครั้งก็นิมิตเหมือนกับตัวเองได้
ไปที่เหมือนวัดหรือถ้ำสถานปฏิบัติธรรมแล้วไหว้พระพุทธรูป อยู่ดีก็นั่งสมาธิในท่าขัดสมาธิ
มีพลังงานคลื่นลูกใหญ่มาครอบคลุมตัวเอง ขยับตัวไม่ได้ ตัวเองเคลื่อนที่หมุนเป็นลูกข่าง
เป็นลักษณะวงกลม ในนิมิต[/FONT][FONT=&quot]ก็ไม่รู้ว่าที่เกิดขึ้น เพราะอะไรกันแน่ แต่จิตรู้ตัวเองว่า[/FONT]
[FONT=&quot]มีพลังงานควบคุมอยู่ หลังจากนั้นก็เห็นมีพระภิกษุสงฆ์ท่านเดินมาหา
[/FONT]
[FONT=&quot]และเฆี่ยนด้วยหวายอาคม ซักพักท่านก็นำน้ำมนต์มาให้เราดื่ม [/FONT]
[FONT=&quot]แล้วถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง ซักพักข้าพเจ้าก็หายจากพลังงานควบคุมนั้น
[/FONT]
[FONT=&quot]แล้วข้าพเจ้าก็สะดุ้งตื่น[/FONT][FONT=&quot]จากนิมิตนั้น[/FONT]

 

<!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> <w:UseFELayout/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> ​

[FONT=&quot]นิมิตแห่งพระหัตถ์[/FONT]

[FONT=&quot]นิมิตต่อไปที่ข้าพเจ้าได้สัมผัส เหมือนกับได้ไปไหว้พระพุทธรูป ห่มผ้าจีวรองค์ผ้าพุทธรูป[/FONT]


[FONT=&quot]และทำบุญต่างๆ ในวัดนั้น ต่อมามีพระภิกษุสงฆ์รูปหนึ่ง ท่านก็มีอายุมากแล้ว
บอกให้ข้าพเจ้า[/FONT][FONT=&quot]ไปไหว้พระภิกษุสงฆ์อีกรูปหนึ่ง ในวัดที่อยู่โบสถ์ถัดไป
[/FONT]
[FONT=&quot]ข้าพเจ้าก็ทำตามแล้วเดินตามไป
[/FONT]

​

<!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> <w:UseFELayout/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> [FONT=&quot]ในนิมิตเห็นพระภิกษุรูปนั้นท่านงดงามมาก ดูเหมือนทรงเนื้อนาบุญ
[/FONT]
[FONT=&quot] ดูจากภายนอกอายุท่านก็ไม่มาก[/FONT][FONT=&quot]แต่ดูช่างงดงาม ควรแก่การกราบไหว้ท่าน[/FONT]
[FONT=&quot]และสักการะ ข้าพเจ้าจึงเกิดความเลื่อมใสในองค์ท่าน จึงก้มลงกราบ
[/FONT]
[FONT=&quot] ในนิมิตข้าพเจ้านึกได้ว่า ถ้าเราได้นั่งสมาธิกับผู้เป็นเนื้อนาบุญ
[/FONT]
[FONT=&quot]จะช่วยส่งเสริมให้เรามีบารมีตามท่าน ปฏิบัติสมาธิได้ดีขึ้น
[/FONT]
[FONT=&quot]ในนิมิตข้าพเจ้าจึงนั่งอยู่ตรงข้ามกับท่าน ข้าพเจ้าจึงหลับตา
[/FONT]
[FONT=&quot]นั่งสมาธิต่อหน้าท่าน ต่อมาอยู่ดีๆ ข้าพเจ้าก็มีพลังงานสูงเคลื่อนที่[/FONT]
[FONT=&quot]ลงมาสู่ร่างกายข้าพเจ้า
[/FONT]


<!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> <w:UseFELayout/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> [FONT=&quot]ข้าพเจ้าเหมือนถูกกระแสอะไรเดินเข้ามาภายในร่างกาย
[/FONT]
[FONT=&quot] พร้อมกันนั้นข้าพเจ้าขยับตัวไม่ได้ ลืมตาก็ไม่ขึ้น แต่จิตข้าพเจ้ายังรับรู้[/FONT]
[FONT=&quot]อยู่ในจิตข้าพเจ้าบอกว่า ข้าพเจ้าไม่ไหวแล้ว รับพลังงานคลื่นนั้น
[/FONT]
[FONT=&quot]ไม่ไหวแล้ว ซักพักข้าพเจ้า เหมือนมีความรู้สึกเหมือนมีใครมา
[/FONT]
[FONT=&quot]วางมือเหนือศีรษะของข้าพเจ้า และลูบถ่ายพลังงานเหนือศรีษะของข้าพเจ้า
[/FONT]
[FONT=&quot]ส่งผ่านบริเวณข้างสันจมูกข้างแก้มทั้งสองไหลผ่านลงสู่ [/FONT][FONT=&quot]ด้านล่างร่างกายของข้าพเจ้า
[/FONT]
[FONT=&quot]
[/FONT]
[FONT=&quot]หลังจากนั้นข้าพเจ้าจึงรู้สึก ดีขึ้น แล้วก็สะดุ้งตื่นจากนิมิตดังกล่าว [/FONT]
[FONT=&quot]แต่ความรู้สึกเหมือนมีใครมาสัมผัสเรานั้น ยังอยู่และดูเหมือนจริงมาก[/FONT]
[FONT=&quot]แต่ข้าพเจ้าก็ยังไม่สามารถ[/FONT][FONT=&quot]หาคำตอบได้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร[/FONT]

 

[FONT=&quot]นิมิตหลวงปู่พระธรรมสิทธาจารย์
[/FONT]​

[FONT=&quot]( วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร จังหวัดเชียงใหม่ )[/FONT]​

[FONT=&quot]ข้าพเจ้าได้นิมิตเหมือนไปวัด ที่ใดที่หนึ่งก็ไม่ทราบ เห็นในโบสถ์วัดมีการตั้งพิธีรูป[/FONT]
[FONT=&quot]พระภิกษุสงฆ์[/FONT][FONT=&quot]และดอกไม้ในโบสถ์ ข้าพเจ้าก็ไม่ทราบว่ามาทำอะไรที่นี่เหมือนกัน
[/FONT]
[FONT=&quot] แล้วข้าพเจ้าก็สะดุ้งตื่นจากนิมิต[/FONT][FONT=&quot]สุดท้ายข้าพเจ้า ได้มีโอกาสได้เดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่ และไปทำบุญกับญาติๆ ที่วัดพระสิงห์ วรมหาวิหาร จังหวัดเชียงใหม่ และได้เห็นภาพพระภิกษุสงฆ์รูปนั้นเหมือนในนิมิต มีดอกไม้ประดับประดาในโบสถ์ พร้อมที่บรรจุ[/FONT]
[FONT=&quot]พระศพของท่าน ได้มีพระภิกษุรูปหนึ่งท่านเป็นพระเลขา [/FONT][FONT=&quot]ท่านบอกกับข้าพเจ้าว่า[/FONT]


<!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> <w:UseFELayout/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> [FONT=&quot]“ ภาพภิกษุท่านนั้น คือ ท่านเจ้าอาวาส หลวงปู่พระธรรมสิทธาจารย์ [/FONT]
[FONT=&quot]( วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร จังหวัดเชียงใหม่ ) ท่านมรณะภาพแล้ว
[/FONT]
[FONT=&quot]ยังไม่ได้ทำพิธี พระราชทานเพลิงศพ ต้องรอองค์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา
[/FONT]
[FONT=&quot]ท่านมาทำพิธีให้แก่ท่าน [/FONT][FONT=&quot]” ดังนั้นข้าพเจ้า จึงเข้าใจว่า นิมิตที่ข้าพเจ้าเห็นนั้น
[/FONT]
[FONT=&quot]คือ ท่านเจ้าอาวาส วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร จังหวัดเชียงใหม่นั่นเอง
[/FONT]


[FONT=&quot]ข้าพเจ้าจึงเชื่อว่า ถ้าปฏิบัติธรรมก็อาจจะนิมิตเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้า
[/FONT]
[FONT=&quot]หรืออาจจะไปในที่ที่ยังไม่เคยไปมาก่อน จิตเราอาจจะไปสถานที่นั้นก่อนในนิมิต
[/FONT]
[FONT=&quot]และภายหลังก็อาจจะมีเหตุให้เราต้องไปในสถานที่นั้นในอนาคตก็ได้[/FONT]

 

ส่วนเรื่องเข้าเฝ้าพระพุทธองค์
ข้าพเจ้าก็เคยสมาธิจนจิตนิ่ง
กึ่งหลับกึ่งตื่นซักพักก็ปรากฏ
เป็นภาพเฉพาะพระพักตร์
เศียรของพระพุทธองค์
มองลงมามีแสงสว่างออร่า
ของพระพุทธองค์ส่องลงมา
พอข้าพเจ้าอธิษฐานจิต
ขอบารมีรับแสงทิพย์อริยทรัพย์
ของพระพุทธองค์มากขึ้น
ก็ปรากฏแสงเจิดจ้าจนข้าพเจ้า
ในนิมิตตาสู้แสงพระพุทธองค์ไม่ได้
พระองค์ทรงสว่างเหมือนพระอาทิตย์
ขึ้นสว่างเหมือนสิบสิบดวง
อุณหภูมิในร่างกายเริ่มค่อยสูงขึ้น
จนร้อนสุดท้ายข้าพเจ้าก็บอกพระองค์ว่า
พอแล้วลูกรับรู้ถึงพระองค์แล้ว
แต่ข้าพเจ้าไม่ได้เห็นพระองค์เต็มองค์
เห็นแต่พระเศียรพระองค์แต่องค์ใหญ่มาก

 

บางครั้งข้าพเจ้าก็ไม่ค่อยเข้าใจในเรื่องต่างๆ
เหล่านี้นักว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่เป็นเหตุการณ์
ที่เกิดขึ้นจริงกับตัวข้าพเจ้า ซึ่งข้าพเจ้าคิดว่า
ท่านผู้อ่านคิดว่าฟังดูเหมือนเรื่องโกหก
แต่มันก็เกิดขึ้นจริงจากการปฏิบัติ

ข้าพเจ้าเองก็ไม่แน่ใจในเรื่องต่างๆ
ที่เกิดขึ้นกับตนเองมากนัก
ที่รู้แน่ข้าพเจ้าก็มีวิบากมากมาย
ไม่ว่าเรื่องชีวิตคู่ ครอบครัว ญาติพี่น้อง
โดยเฉพาะเรื่องหน้าที่การงานไม่ประสพผลสำเร็จ
ขึ้นๆ ลงๆ ก็เลยหันมาปฏิบัติธรรมเหมือน
คนอื่นๆ ที่ต้องการพ้นทุกข์ จนกระทั่งได้ยินเสียงจาก
เบื้องบนให้เราสร้างบารมี ทั้งๆที่ข้าพเจ้ามีความทุกข์
เช่นกัน แต่คิดว่าต้องทำเพราะ เสียงนั้นสั่งเราลงมา
จากเบื้องบนก้องกันวาลเป็นเสียงชายหนุ่ม
บอกว่าให้เราสร้างบารมี เราถามท่านว่า
ท่านเป็นผู้ใดท่านก็ไม่ยอมตอบ
แต่ด้วยเนื่องจากเป็นสิ่งที่เรามองไม่เห็น
จึงต้องทำต่อข้าพเจ้า จึงได้เริ่มทำซีดีแจกจ่าย
เป็นธรรมทานเพื่อเป็นการสืบสานพระพุทธศาสนา
โดยนำความรู้จากการปฏิบัติด้วยตนเอง
พร้อมทั้งศึกษาเพิ่มเติมไปในตัวด้วย
ให้เกิดประโยชน์กับผู้อ่านสำหรับผู้ปฏิบัติมือใหม่
จะนำไปใช้ประโยชน์ให้ได้มากที่สุด
และอ้างอิงจากตำราครูบาอาจารย์ต่างๆได้
เนื่องจากข้าพเจ้าไม่มีทุนทรัพย์ในการสร้าง
โบสถ์วิหาร จึงได้ทำซีดีชุดนี้ออกมาแจกจ่าย
เป็นธรรมทาน " พุทธธรรมจากการปฏิบัติ "

 

เมื่อก่อนข้าพเจ้าก็เป็นแต่ผู้รับ มิได้เป็นผู้ให้
ได้รับพระผงจักรพรรดิ์จากญาติธรรมในพลังจิต
จนกระทั่งสวดพระคาถาพระบรมจักพรรดิ์ของหลวงปู่ดู่
และนำลูกแก้วของหลวงปู่มาช่วยในการฝึกสมาธิ
และแผ่เมตตาปรับภพภูมิให้กับสรรพสัตว์ทั้งหลาย
แลอธิฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ทำ

จนกระทั่งวันหนึ่งข้าพเจ้าก็เริ่มสัมผัสได้ว่า
เวลาเราทำบุญมีอะไรใสๆ โปร่งแสงลอยเข้ามา
หาเราข้าพเจ้าเห็นเช่นนั้น ตอนแรกเป็นลักษณะกลม
เหมือนมีหางพุ่งเข้าหาเรา ข้าพเจ้าไม่ทราบว่า คือ สิ่งใด
แต่ที่รู้แน่ๆ ว่าเมื่อเราแผ่เมตตาออกไปให้พวกเขา
เขาก็มารับแล้ว ก็ลอยจากไป

 

ข้าพเจ้าเป็นคนไม่ค่อยสนใจเรื่องการเมือง

มีอยู่คืนหนึ่ง ข้าพเจ้าเคยฝันนิมิตถึงไปสถานที่แห่งหนึ่ง
เหมือนบริเวณวัด มีผู้คนมากมายอยู่ที่นั่น เห็นภาพ
คุณจตุรงค์ ฉายแสง ถือหนังสือขึ้นมาหนึ่งเล่ม
กำลังจะทำแจกให้คนที่มาในงาน สักพักข้าพเจ้า
ก็เห็นภาพปกหนังสือเป็น คุณ สมัคร หน้าพุ่งออกมา
จากหนังสือ ในนิมิตข้าพเจ้างงมาก แต่นึกได้ในจิต
คุณสมัครเพิ่งเสียชีวิตจากโรคของท่าน
ข้าพเจ้าก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องนิมิต
ถึงมวลชนในงานศพของคุณสมัคร

คิดว่าสงสัยตัวเองจะบ้า ปกติข้าพเจ้าอยู่เขตปริมณฑล
ไม่ค่อยได้เข้าเมือง จนกระทั่งวันหนึ่งได้เข้าเมือง
ยืนรอรถไฟฟ้าอยู่ก็เห็นภาพที่บอกเหมือนดวงจิต
กลมๆ มีหางลอยเต็มไปหมดบริเวณที่ยืนรอรถไฟฟ้า BTS
ข้าพเจ้าเหมือนมีความรู้สึกบางอย่างน่าจะเป็น
ดวงวิญญาณอะไรสักอย่าง หรืออาจจะเป็นผู้เสียชีวิตบริเวณนั้น

จึงอธิฐานจิตว่าหากท่านต้องการรับบุญกุศล
ขอได้โปรดจงรับบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติ
สิ่งที่ข้าพเจ้าเห็น น่าตกใจ เห็นเป็นดวงจิต
ข้าพเจ้ายืนอยู่ แต่ดวงจิตทุกดวงวิ่งพุ่งหาข้าพเจ้า
เป็นสายหลายสาย ข้าพเจ้าจึงแผ่เมตตาออกไป

เมื่อเขาทั้งหลายได้รับแล้วก็จึงจากไป
ข้าพเจ้าจึงคิดว่าสิ่งที่ข้าพเจ้านิมิต
เรื่องคุณ สมัคร การเมืองหน้าจะมาจาก
ให้ข้าพเจ้ามาแผ่เมตตา ณ สถานที่แห่งนั้น

แต่สิ่งหนึ่งที่ข้าพเจ้าสัมผัสได้
เมื่อข้าพเจ้านั่งในรถไฟฟ้า
หลับตาสมาธินิมิตที่แห่งนั้น
เป็นแสงสีออร่าสีแดงเข้ม
ซึ่งข้าพเจ้าเคยศึกษาว่า
สีแดงเข้มของออร่า
คือ สีแห่งความเกียจชัง โกรธแค้น
ซึ่งข้าพเจ้าสัมผัสได้ ข้าพเจ้าคิดว่า
สิ่งเหล่านี้จึงเป็นที่มาจากการปฏิบัติ

 

หลังจากนั้นไม่นาน ข้าพเจ้าก็มีโอกาสรู้จัก
กับพระอาจารย์วัดถ้ำเมืองนะ และเพื่อนกัลยานิมิตร
ให้แจกพระผงจักรพรรดิ์ ก่อนที่ข้าพเจ้าจะได้แจกนั้น

ถึงแม้ว่าข้าพเจ้าไม่เคยนิมิตหลวงปู่ดู่
แต่มีอยู่วันหนึ่งสมาธิข้าพเจ้าเห็นภาพ
พระพุทธนิมิต ( พระจักรพรรดิ์ )
ท่านอยู่สูงมากจากนิมิตมองลงมา

ข้าพเจ้าคิดว่าสิ่งนี้ กระมังที่ทำให้
ข้าพเจ้าจึงได้ต้องเป็นผู้ให้
โดยได้รับให้แจกพระผงจักรพรรดิ์
กับลูกแก้วจักรพรรดิ์ด้วยความบังเอิญ

ข้าพเจ้าคิดว่าสิ่งนี้อาจจะเป็นสิ่งที่เบื้องบน
ต้องการให้ข้าพเจ้าทำบุญกุศลสร้างทานบารมี
จากสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นนี้ก็เป็นได้

 

ส่วนเรื่องแดนนิพานข้าพเจ้าก็ยังไม่แน่ใจ
เคยมีพี่ทีปฏิบัติบอกว่าเมื่อสมาธิเรานิ่ง
สามารถอธิฐานจิตสิ่งที่เราอยากเห็น
อยากรู้ได้ด้วยตัวเราเอง สามารถพบสิ่งศักดิสิทธิได้
ข้าพเจ้าก็ไม่แน่ใจก็พยายามอธิฐานตลอด

จนมีอยู่วันหนึ่งข้าพเจ้าสมาธิจนจิตนิ่ง
เห็นแสงสีนวลระยิบระยับ อยู่ก็เห็นแสงส่องลงมา
เป็นจุดเล็กๆ จากเบื้องบนนั้น
ข้าพเจ้าเองก็อยากรู้ว่าสิ่งนั้น
คือ อะไรจึงอธิฐานจิตว่า
ข้าพเ้จ้าอยากรู้ขอให้ข้าพเจ้าเห็นชัด
กว่านี้ได้หรือไม่ ซักพักเหมือนตัวเอง
ถูกดูดขึ้นไปผ่านชั้นบรรยากาศเป็นหมอกๆ
แต่ละชั้น แต่กว่าผ่านแต่ละชั้นก็ค่อนข้างเหนื่อยมาก
เหมือนมีอยู่หลายชั้น จนทะลุขึ้นมาด้านบนสุด
ข้าพเจ้าตกใจ เห็นภาพนิมิต
สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี
ในถ้านั่งสมาธิสงบหลับ ผิวพรรณท่านผุดผ่อง
มีจรัส ท่านห่มจีวรสีส้มอมน้ำตาล
เหมือนพระธุดงค์ ข้าพเจ้าในจิต
คิดดีใจปลาบปลื้ม
องค์สมเด็จโตใช่ไหมค่ะ ?
ทำไมชีิวิตหนูลำบากอย่างนี้
ข้าพเจ้าคิดว่าที่นั่น
อาจจะเป็นแดนนิพพาน
ก็เป็นได้ ควรจะละกิเลส
หรือความคิดทางโลก
หรือไม่ก็ข้าพเจ้ายังฝึกสมาธิไม่ดีพอ
ซักพักข้าพเจ้าก็ตกหล่นลงมาอย่างรวดเร็ว
มาสู่จิตที่เดิมในห้องที่สมาธิอยู่
ไม่เหมือนกับตอนขึ้นไปใช้เวลา
และความพยายามากค่ะ
ข้าพเจ้าคิดว่าส่วนหนึ่งที่ได้พบท่าน
อาจจะเพราะว่าข้าพเจ้าก็สวดมนต์
พระคาถาชินบัญชรของท่านเหมือนกันค่ะ

ทุกอย่างที่เล่ามาโปรดใช้วิจารณาญาณ
และการปฏิบัติเองถึงจะทราบได้ค่ะ

;aa43เหล่าเป็นวิทยาทาน
สำหรับผู้ปฏิบัติด้วยตนเองค่ะ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับผู้ปฏิบัติ
จะรู้แจ้งด้วยตัวของท่านเอง

 

เพิ่งมีบุญได้รู้จักและสมัครเป็นสมาชิกเวปนี้เมื่อไม่กี่เดือนนี้เอง..

อ่านกระทู้เก่าๆ ย้อนหลัง หนุกดี..ได้ความรู้ดีๆในระดับหนึ่ง

กระทู้นี้ถูกตั้งโดยคุณ Web Snow (ผู้ก่อตั้งเวบ)

จนถึงวันนี้ก็นานถึง 6 ปีกว่าๆแล้ว..นานที่เดียว

อายุทุกคนจนถึงป่านนี้..ก็คงไม่น้อยกันแล้ว

คุณ Web Snow เอง..ก็หายไปเลย (จากระทู้นี้..)

หรือได้ค้นพบแล้วว่า "ทำไมเรื่องบางเรื่อง พระพุทธองค์ท่านจึงทรงห้าม"

ทั้งๆที่ในทางโลก มีเหตุผลสนับสนุนมากมาย..ที่สมควรยิ่งที่จะเผยแพร่ออกไป..เพื่อความหวังดี มุ่งสู่สาธารณชน..

ทำไมเรื่องบางเรื่องจึงเรียกว่า "อจิณไตร"

นิมิตรบางนิมิตร.บางทีก็เป็นเรื่องจริง..บางที่ก็เป็นเรื่องฟุ้งเฟ้อ..จิตสร้างอุปาทานให้ตัวเอง..เอาแน่เอานอนไม่ได้

บางเรื่องก็เป็นคุณ..บางเรื่องกลับกลายเป็นโทษ

บางคนเมื่อเข้าทีภาวนา..จิตไม่นิ่ง.. สักเดี๋ยวพอเรื่มจะสงบหน่อย..ก็กระโดดแล้ว..เดี๋ยวไปนู้นไปนี้..กลายเป็นความยิดติด..หาความสงบที่แท้จริงไม่ได้

บางคนอุปทานตน..กลายเป็นผู้วิเศษเหนือมนุษย์ไปเลย

บางคนจิตเดิมผังใจ/ได้รู้/ ได้เห็น/ได้รับเรื่องเล่า/ ในเรื่องเทพหรือเจ้าพ่อเจ้าแม่ต่างๆ..จิตก็หลอกตนเอง สร้างเป็นอุปาทานจิต..จนกลายเป็นชมรมหมู่ผู้ติดต่อเทพ / ทรงเจ้า / เข้าผี ไปเลย จนจิตฝังลึกยากจะถอน

หากนำคำหลวงปู่ดุลย์ อตุโล ท่านว่า
" ที่เขาเห็นน่ะ เห็นจริง..แต่สิ่งที่ถูกเห็น.ไม่จริง "

ที่เขาพากันเห็นแสง เห็นพระพุทธเจ้า ต่างๆน่ะ..ดีแท้..น่าอนุโมทนา
แต่การเห็นเหล่านั้น..ไม่ว่าจะเห็นจริง หรือเห็นไม่จริง.ยังเป็นของภายนอก..พ้นทุกข็ไม่ได้

ให้น้อมเอาอาการที่เห็นเหล่านั้น..เป็นพุทธานุสติกรรมฐาน..ที่สุดให้น้อมลงไตรลักษณ์ อนิจจัง..ทุกขัง..อนันตา

"ไปดูทำไมที่ต่างๆ..ทำไมไม่ดูตัวเรา..

ธรรมมะทั้ง 84,000 พระธรรมขันธ์..ที่พระองค์ทรงตรัสสั่งสอนไว้..ที่สุดก็อยู่ที่ตัวเรานี้ล่ะ ..ให้ดูที่ตัวเอง (ผู้เห็น) ไม่ใช้ไปดู (ผู้ถูกเห็น)

อย่าส่งจิตส่งออกนอก..ดูไป..พิจารณาน้อมไป.มีเรื่องต่างๆให้พิจารณามากมาย..ที่สุดล้วนน้อมลงที่อนิจจัง..ทุกขัง..อนันตา..

ดูจิตตนเอง..กิเลสน้อยลงไปหรือไม่ ..โลภ โกรธ หลง มันน้อยลง..มันหดตัวลงหรือไม่

ความโกรธ..ความเกลียด..ความไม่ชอบ..ที่เคยมีปกติประจำจิต..เดี๋ยวนี้เวลามันเข้ามากระทบ..มันน้อยลง หรือไม่..มันรู้เท่าทันมันหรือไม่...

นั่น..พระพุทธเจ้าท่านสอนเท่านี้..พระไตรปิฏกทั้งเล่มก็สอนเท่านี้..ไม่เคยสอนเลยให้เป็นเที่ยวนรก..สวรรค์

ผมเองเมื่อเริ่มหัดนั่งภาวนาใหม่ๆ..ก็มีบ้างเล็กน้อย..ที่จิตหลอกเรา..พยายามจะเข้ามาสร้างอุปาทานเราบ้างเหมือนกัน แต่ดีที่ฟังครูบาอาจารย์ท่านสอนท่านเตือนมาก่อน เลยไม่ได้ใความสำคัญ ให้ความสนใจกับเรื่องพวกนี้เลย..เมื่อไม่ได้ให้ความสนใจ..จิตไม่หลงเตลิดเห้อเหิมตาม..น้อมดูแต่ตัวเรา..สักแพร๊บ..เรื่องเหล่านี้ก็หายไป

อันจะแตกต่างกับแนวอภิหาร อภิญญา ซึ่งจิตได้ฟัง ได้เชื่อ นานเข้าบ่อยๆ จนเกิดเป็นความฝังลึก..ความเชื่อ.ความใฝ่ฝัน..ในจิตโดยไม่รู้ตัว..

เมื่อเริ่มนั่งภาวนา..พอเริ่มต้นๆทาง จะพบกับความสงบ(เล็กน้อย) กับเขาบ้างเท่านั้น จิตที่ฝังตัวอยู่..ก็ออกลวดลายแล้ว สร้างจินตนาการเองเลย

(บางครั้งก็เหมือนพวกเสพยา..บางคนสงสัยว่าทำไมจึงติด ทำไมต้องเสพ..)

ผมก็เคยได้สัมภาษณ์พวกนี้หลายๆคน ตอบเหมือนกันหมด เขาบอกว่า "เราจะไปไหนก็ได้ อยากจะรวย ก็รวย อยากใส่เสื้อผ้าดีๆ..ก็ได้ใส่ จำสี จำยี่ห้อได้ด้วย ขับรถเบนซ์ก็ได้ขับ ได้ขับจริงๆด้วย จำสีรถ..จำเบาะนั่ง..จำเส้นทางต่างๆที่ขับไปได้เลย ขับไปไหนบ้าง บางทีอยากจับดวงจันทร์ ก็ได้รูปไล้สัมผัสเลยจริงๆ..และต่างๆอีกมากมาย ( นี่แหละคือ..ความอัศจรรย์แห่งจิตของมนุษย์ )

บางท่านเตลิดแล้วเตลิดเลย..กู่ไม่กลับตลอดชีวิต ตั้งตนเป็นผู้วิเศษอย่างที่เห็นกันในปัจจุบันมากมาย..บางท่านโชคดีได้ครูบาอาจารย์ดี ก็ละได้..ที่สุดพบความสงบอันแท้จริง


มโนยิทธิ..เป็นของมีจริง..แต่จับประเด็นของหลวงปู่ฤาษีที่ท่านสอนให้ดี..เดี๋ยวจะพากันหลงทาง..ท่านไม่ได้เน้นแนวนั้น..นั่นมันแค่เบื้องต้น..ที่สุดพาจิตไปวางไว้ตรงไหน..ท่านก็บอกไว้ดีแล้ว

นิมตรเป็นของดี..เป็นของมีจริง..เกิดขึ้นกับเฉพาะ ผู้ที่เข้าเคยทำมาเท่านั้น

คุณ Web Snow น่าจะเป็นหนึ่งในบุคคลพิเศษเช่นนั้น

ผมขออนุโมทนาด้วยครับ.

(เรื่องกรรมฐาน อย่าไปเรียน อย่าไปท่องจำ อย่าไปทฤษฎีมากเลยครับ.มันจะกลายเป็นใบลานเปล่า..กลายเป็นสัญญาความจำได้หมายรู้ไป..

เรียนรู้มากไป..บางที่ก็กลายเป็นตัวขัดเป็นอุปสรรคสำคัญแห่งการปฏิบัติ..เรียนรู้จากของจริงดีกว่า..

เมื่อพบ..จะรู้ได้เอง..ไม่ต้องไปถามใคร..ว่าความสงบคืออะไร..จิตที่ถึงฐานจิตคืออะไร..สมาธิจากความสงบที่แท้จริงมีสภาพอย่างไร

คำว่า "สักแต่รู้" คืออะไร..เข้าที่ภาวนาได้นาน 6-8 ชม.เหมือนสัก 20 -30 นาทีได้อย่างไร..จิตถึงอัปนา หรือเป็นอุปจาร ไม่ต้องไปถามใคร..เขารู้เอง จิตอยากถอน หรืออยากพัก หรืออยากพิจารณาต่อ จะวางจิตไปที่ความสงบขั้นไหน..ทุกอย่างมีในทุกคนอยู่แล้ว..ถึงเวลานั้น..รู้ได้เองล่ะครับ..

ขอเพียงแต่ทำให้จริง..ทำให้มั่น..อย่าหลงทาง ก็เท่านั้น

ทั้งหมดแม้นทำได้..ก็ยังเป็นเพียงแค่บทเริ่มต้นเท่านั้น..ไม่ได้วิเศษวิโสใดๆเลย

สามารถเสื่อมได้ทุกขณะจิต..ยังเป็นเพียงแค่ชั้นโลกตระเท่านั้น

การเข้าถึง ซึ่งโลกุตระ..นั่นแทบไม่ต้องพูดถึง แสนลำบากยากเข็ญ

ยิ่งชั้นอรหัตตผล เห็นพูดกันจิง..เป็นของง่ายเช่นนั้นเลยหรือ

ยิ่งพุทธภูมิ..ต้องบารมีสะสมถึงแสนโกฎมหากัป

ทำไมพูดกันเหมือนธรรมดาๆเลยล่ะ

สาธุ..

ตัวข้าน้อยนี้..ขอเพียงได้แค่สัมผัสเศษเสี้ยว แห่งผงธุลี กระแสในพระนิพพาน ก็เป็นยิ่งแล้ว

 

โมทนาบุญด้วยครับ ผมก็ฝึกมานานพอสมควรแต่ยังไม่เคยพบคำสอนในนิมิตเลยครับ หรือว่าผมบุญน้อยครับ

 

ถอดจิต

ขอเป็นกำลังใจให้คุณ Websnow จงก้าวหน้าต่อไป........

 

ขณะนี้ เวปพลังจิต ก็เป็นที่นิยมของคนไทย ที่นับถือศาสนาพุทธ
กันอย่างท่วมท้น มีอยู่คราวหนึ่งที่เวปล่ม ล่มไปหลายวัน ทำเอา
แฟนคลับ ถึงกับกินไม่ได้ นอนไม่หลับ เลยทีเดียว ตัวดิฉันเอง
ด้วยล่ะ เพราะทุกวัน ขอให้เข้ามาดูพลังจิต ก่อนอื่น หาข้อมูล
ข่าวสารจากเวปบอร์ด ว่ามีอะไรดีๆเข้ามาบ้าง ให้หัวใจ ชุ่มชื่น
อิ่มบุญ ต้องขอบคุณ คุณเวปสโน เป็นอย่างยิ่ง คนอะไร อายุ
ก็ยังน้อยๆ คิดเรื่องที่ยิ่งใหญ่ แบบว่าที่สุดของที่สุดนะ (ไม่มี
อะไรที่จะยิ่งใหญ่กว่า พุทธ อีกแล้ว) ก็ขอเป็นกำลังใจ ให้สู้
สารความฝันที่เป็นจริงด้วยคนนะ เคยร่วมอนุโมทนาด้วย
การบริจาคแล้วบ้าง และคิดว่าจะช่วยอีก และช่วยไปเรื่อยๆ
เพื่อให้ทุกคนได้ พ้นจากการเวียนว่าย ตายเกิด นี่แหละ
ขอให้ทุกคน มีความสุข