เรื่องเล่า ก่อนนอนคืนนี้..ของเหล่าคนผู้มีตาทิพย์

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย The Third Eyes, 12 พฤศจิกายน 2008.

  1. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    เดินๆดูไป ถ่ายรูปไป..มีปลากองหลากหลายพันธ์
    มากมาย รู้จักแต่ที่เคยกิน คือ ปลาอินทรีย์ /ปลากะพง/
    ปลาดุกทะเล/ ปลาดาบ/ปลาน้ำดอกไม้/ปลากุเลา/ปลาเก๋า ฯลฯ
    มี กุ้ง/ ปลาหมึก มากเช่นกัน ทั้งปลาหมึกสาย ปลาหมึกหอม
    ปลาอย่างอื่น ไม่เคยเห็น..แสดงว่าปลาเศรษฐกิจ
    ที่ ผู้คนนิยมกิน มีไม่กี่อย่าง..ถ้าไปเจอปลาแปลก ๆๆเราคงสั่งไม่เป็น
    ..................................................................
    ปลาน้ำจืด บางอย่างที่ บางคนนิยมกิน พอเอ่ยชื่อมา เราก็งง
    เช่น ปลาคัง / ปลาโคก /ปลารากกล้วย/..ได้ยินชื่อก็แปลกแล้ว
    ทำอะไร กินกัน..เราถนัดแต่ ปลาช่อน /ปลาดุก/ปลาสวาย/ปลาหมอ
    ปลากราย/ปลาเนื้ออ่อน/ปลาบู่....
    .........................................................................
    ว๊า!!!! ปลาบู่นี้ ตัวน่ารัก กลมๆๆลื่นๆๆ..สีออกเหลืองลายสลับ
    เวลาล้างจานในบ่อ..ในสระ..เขาชอบมาพัวพัน กินเศษอาหารในมือเลย
    ยิ่งมาเจอ นิทานพื้นบ้าน เรื่อง "ปลาบู่ทอง"..ที่ดำเนินเรื่องว่า
    แม่เลี้ยงใจร้าย พยายามฆ่า ลูกเลี้ยงด้วยความอิจฉา ริษยา
    ที่ ต้องกลายเป็น ปลาบู่ เป็น ต้นพริก..โดนทรมานสารพัด
    คนใจอ่อน อ่านแล้ว ร้องไห้ สงสาร..เลยไม่มีคนกินปลาบู่
    ..................................................................
    ต่อมา นักท่องเที่ยว จาก ญี่ปุ่น และจีนเข้ามา
    สองชาตินี้ ชอบ กินปลาบู่..บอกว่า อร่อยมาก
    ที่โน่น ตัวละ พันกว่า บาท
    คนไทย ไม่กินปลาบู่ ตาม นิทานพื้นบ้าน.
    .แต่จับส่งขาย ญี่ปุ่น กับ จีน..ได้ เงิน และไม่รู้สึกบาป
    เพราะไม่ได้ กิน แม่ปลาบู่ทอง..ที่ น่าสงสาร นั้น
    ..........................................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กุมภาพันธ์ 2009
  2. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    เดินๆๆอยู่ในแพปลา หรือ สะพานปลาระนอง
    รู้สึกมีอะไร วูบมาทางประสาท..มาจากด้านหลัง
    ก็หันไปมอง..เห็นก็จำได้..ครานี้ เธอลอยมาในอากาศ
    ไม่ได้ ลอยมาแบบอยู่ในน้ำ แบบที่เคยเจอกันมาก่อน
    เราก็ ทัก.."สวัสดี ครับ..เจอกันอีกแล้ว..มีอะไรหรือ ..?"
    ...........................................................
    เสียงหวานใส ตอบมา.
    ".รู้ว่า เจ้าอยู่ที่ นี่ ก็เลยมาเยี่ยม
    แต่ที่จริง เรามาทุกวัน..และไป ทุกแพปลาที่อยู่ในโลก
    เราไปได้เร็ว..เพราะเราเป็นจิต.แบ่งอณู ได้.ไปทีเดียวพันแห่ง
    เรามาเยี่ยม บริวาร เรา..ที่ จะต้องตาย กลายเป็น อาหารให้ แก่ ผู้อื่น
    เหมือนที่ ท่าน ก็ต้องไป งานศพ เพื่อนมนุษย์ ของท่านเช่นกัน
    ..อย่าลืมนะ..กินปลาบริวาร ของเรา เมื่อใด..แผ่เมตตาให้เขาด้วย
    เขามาเป็น ธาตุ อาหารให้ ท่าน..เพื่อ ท่านจะได้มีชีวิต อยู่ต่อไป
    การเกิดมาเป็นปลา ก็เป็นกรรมอย่างหนึ่ง
    อาจจะเป็นว่า ชาติ ก่อน เขากิน ท่าน..
    ชาตินี้ จึงต้อง มาถูกกินบ้าง..เป็นการล้างกรรม
    การที่พวกเขาตาย..เท่ากับ หมด กรรม ไป แล้ว อีกชาติหนึ่ง
    .............................................................
    พอฟัง..ในใจ..ก็เข้าใจ
    ตั้งแต่นั้นมา กินปลาทีใด ก็ขอบคุณ และแผ่เมตตาให้เขาไป
    เพราะ ไม่อยากเป็นผู้ เริ่มต้น ของ การกิน ที่ มีกรรม
    เดี๋ยวตายไป จะกลายเป็นปลาให้เขากินบ้าง
    .............................................................
    นอกจาก ขอบคุณและแผ่เมตตาให้แก่ ปลาที่เรากิน
    ทุก ครั้ง คราใด่กินข้าวเสร็จ
    เราก็จะยกมือไหว้ ขอบ คุณ พระแม่โพสพ
    ที่ได้ให้ ข้าว ปลาอาหารแก่ เรา..ให้เรามีชีวิตต่อ อย่างสุข สงบ
    ดังนั้นเวลา เห็นใครพนมมือ ไหว้ หลัง รวบช้อน ..
    แปลว่า เขาไหว้ พระ แม่โพสพ
    พวกเราทำกัน บ้างหรือ เปล่า..
    หรือ ว่า สักแต่ว่า กิน ????
    .........................................................
     
  3. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    ไก่ ซีพี

    ที่ บางนา ซอย ยี่สิบ บนถนน บางนา-ตราด
    มีโรงงาน ฆ่า และ ชำแหละ ไก่ ของ บริษัท ยักษ์ใหญ่ คือ ซีพี
    ที่ นี่ มีโรงงานขนาดใหญ่แห่งหนึ่งที่อยู่ในเขต กทม
    มีคนงาน นับพัน..ที่ เข้ามทำงาน กัน 24 ชม. ทำกันเป็นกะ
    .............................................................
    ผมเคยไปช่วยญาติ ขายอาหารตามสั่ง และ สำเร็จ รูป
    สำหรับ คนงานที่ออกมาหลังเลิก งาน
    การขายอาหารที่ นั่น..ต้องงมีระบบการขายที่ค่อนข้างยุ่งยาก
    ตอนเช้า..จะขายไม่ได้..เพราะ คนงาน
    ส่วนใหญ่เป็นหนุ่มสาว จาก อิสาน ทำงานเป็นกะ
    จะกินอาหารเช้ามาจาก บ้านแล้ว..ขายเขาไม่ได้
    ..............................................................
    ตอนเที่ยง ออกมานิด หน่อย..เพราะ ภายในโรงงานก็มีโรงอาหาร
    อาหารที่ นี่.ขายแพงก็ไม่ได้ โดยเฉลี่ย จานละ 10.-บาท
    ถ้ากับข้าวก็ไม่เกิน 15.-บาท /จาน
    เขากินกันถูกมาก
    มากันสามคน..สั่ง ซุปหน่อไม้หนึ่งจาน 10.-บาท
    ข้าวเหนียว ห่อ ละ 5.- บาท คนละห่อ รวม 15. บาท กินรวมกัน
    รวมหมด 25 บาท สำหรับ คน สามคน..ตกคนละ แปดบาทกว่า
    ....................................................................
    ที่ ยุ่งยาก คือ ช่วงเวลาขาย
    คนจะเข้าออกกะ มาก คือ สี่ ทุ่ม กับ ตีสี่
    ออกมาเป็นร้อยๆๆ..หิวโซ ทั้งนั้น..ก็กินกันมาก หน่อย
    ใครอยากขายดี ก็ต้องมาตอน สี่ ทุ่ม กับ ตีสี่
    พฤติกรรม ต้องเปลี่ยน ของ คน ขาย คือ กลางวัน นอน
    พอ สามทุ่มก็มาเตรียมอาหาร เพื่อ ขาย ตอนสี่ ทุ่ม ยัน ตีสี่
    ดูๆๆก็ ทารุณ ดี..ต้องขายอาหารตอน ดึก จนเช้า.
    พอเช้าก็กลับบ้านนอน...เตรียมมาใหม่ ตอน สามทุ่ม
    เป็นอย่างนี้ ทุกวัน
    ..............................................................
    นั่งดูเขาขายอาหาร ตอน มืด หน้าโรงงาน
    ตอนกลางคืน จะมีรถ สิบล้อ ขนาดใหญ่ ที่ออกแบบเป็น พิเศษ
    สำหรับ ขนไก่ เป็น ช่องๆๆ เป็น ล๊อคๆๆ
    สิบล้อคันหนึ่ง ขนมามากว่า แปดพันตัว
    คืนหนึ่ง มากกว่า 5 รถ ก็ นับ หลายหมื่นตัว
    .................................................................
    ดูๆๆไป คนงานไม่น่าต้องมาก นะ
    คนๆๆหนึ่งแยก แค่ ขาข้างหนึ่ง หรือ แยก ตับไก่ ออกมา ชิ้นหนึ่ง
    อย่างเดียว ง่ายๆๆ..แต่ลองคิด ดู ต้องเอามือ
    หยิบเข้า หยิบ ออก เป็น หมื่นๆๆครั้ง...จะเมื่อยแค่ไหน
    ถ้าไม่เชื่อ ลอง เซ็นชื่อ ตัวเองให้ ได้ สัก หนื่น ครั้ง หรือ
    20 หน้า กระดาษ..เซ็นไหวใหม..เรื่องเดียวกันเลย
    .............................................................
     
  4. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    โรงงานไก่ ของซีพี ที่ ส่ง ไก่ เข้าทุกตลาด ทั้วประเทศ
    วันละละนับ แสนตัว จาก โรงงานที่ กระจายอยู่ทุคภาค
    หัวใจ คือ การฆ่า..ฆ่า อย่างไร ???
    ........................................................
    พวกเราโดยปกติ เป็น ชาวพุทธ
    กำหนดจิตให้ ฆ่า ไก่ แค่ หนึ่งด้วยการเชือดคอ..ทำลงไหม
    อ๋อ..หลายคนคงคิดมาก..เพราะศีลห้า ข้อแรก ห้ามการฆ่า
    เราเลย กลัว บาป กลัวกรรมจะตามมา
    แล้วถ้า ต้องฆ่า กัน วันละ หลายหมื่นตัว..จะทำยังไง
    .............................................................
    คนงานของโรงงาน ซีพี มีเป็นพันคน
    แต่จะมีคนงาน พิเศษ อยู่ กลุ่มหนึ่ง มีไม่เกิน6 คน
    จะเป็นโควต้า พิเศษ..เป็น ชาวมุสลิม
    ................................................................
    ไก่เป็นเวลา เข้ามาในโรงงาน..โดยรถสิบล้อ
    พอมาถึงจุด ขนลง..ก็จะมีคนเอาไก่เป็น ทะยอยลง
    ข้างบน จะมีระบบสายพานเลื่อนตลอด อย่าง ช้าๆๆ
    คนงานจะคว้าไก่ จาก กรงขัง..เอ ขาข้างหนึ่ง ของไก่
    เสียบล๊อค ห้อยไว้..แบบขาเดียว ห้อยหัวลง นิ่งๆๆ
    ...........................................................
    พอสายพานมาถึง ห้อง เชือดที่ มีหนุ่มมุสลิม ทำงาน
    งานของเขาง่ายมาก..คือเอาคัตเตอร์ คมๆๆ เชือด คอไก่ ทีละตัว
    การเชือด ต้องทำ แบบ ฮาฬาล Haral
    คือ หันหน้า ไป ทาง ที่เมกกะ ตั้งอยู่..และต้องเชือดทีเดียวให้ตาย
    เพราะ ตามกฏ ห้ามการฆ่า แบบ ทรมาณ
    .......................................................................
    ยืนเชือด คอไก่ เป็นหมื่นตัว ต่อ คืน/ ต่อวัน..น่าสยอง นะ
    ไก่ พอถูกเชือด สายพานก็จะพาไหลไปตามราง
    เลือดจากคอไก่ ก็ลงราง..แยกเลือดไป ต่างหาก
    ..............................................................
    จากนั้น ไก่ ที่ ตายแล้ว เอา เลือดออกหมดแล้ว
    จะถูกระบบสายพาน..นำผ่านระบบน้ำเดือด
    ไก่ตาย ลงจุ่มใต้น้ำ นานพอ สมควร
    พอขึ้นมา ก็ มีหน่วย แยก ถอนขนออก
    ขนไก่ ก็มีคนมาประมุล ต่อ เอาไปทำ ไม้กวาด /
    ลูกขนไก่ ตีแบต /พัดโบก..ฯลฯ
    .....................................................
     
  5. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    ระบบสายพานก็จะพาไก่ ไปยัง ห้องชำแหละ
    ผ่าท้อง แยกใส้ แยก ขา แยก ปีก แยก ตับ แยก หัวใจ ฯลฯ
    หนึ่งคนงาน หยิบ แค่ หนึ่ง ชิ้น..มองดู ง่าย
    ลอง ยื่นมือ หยิบ เข้า หยิบออก สัก หมื่นครั้ง..แล้วจะรู้สึก
    .............................................................
    คนงานในโรงงาน มี นับร้อยนับพัน
    แต่งานขึ้นอยู่กับ กลุ่มมุสลิม ผู้เชือดไก่
    ในเทศกาล หยุด งาน ของ มุสลิม อย่างวันออก บวช
    วันฮารีฬายอ หรือ วัน ขึ้นปีใหม่..พวกเขาจะหยุดงาน
    หยุด งานทีไร..โรงงาน ปิด ตาม..
    เพราะไม่มีใครกล้าเชือดคอไก่แทน
    .........................................................
    ถามว่า ชาวมุสลิม ที่ เชือดคอไก่ วัน ละ
    นับหมื่นตัว บาป ใหม???
    ต้องถามใจ คนเชือด..ถ้าเขามาให้ตรวจออร่า
    คนใน...กทม มาก ว่า หกล้านคน
    มี หนุ่ม มุสลิม รับงานฆ่าไก่ ไม่เกิน 100 คน จาก หลายโรงงาน
    โอกาศที่ เขาจะมาให้ ตรวจ หรือ ซักถามเรื่อง บาปกรรม
    คงมีแค่ 1 ในล้านคน..ถ้าเขามา แล้ว ได้ คำตอบ ก็จะมาเล่าต่อ
     
  6. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    โรงฆ่า สัตว์ใหญ่ วัว-ควาย
    เล่าเรื่อง การฆ่า ปลา และ ฆ่าไก่ มาแล้ว
    ที่ จริง มีโรงฆ่า สัตว์ อีกมาก เช่น ฆ่า หมู / ฆ่า วัว- ควาย
    ต่อไป จะเล่า แค่โรงฆ่า วัว ควาย..เอาให้ใหญ่ไปเลย
    หวังว่า หลังจากเล่า..คงจะมีหลายคนที่จะกินเนื้อไม่ลง
    ถ้าไม่อยากอ่าน เรื่อง ฆ่าๆๆ แสลงใจ ก็ ขอให้ อ่านข้ามๆๆไป
    ..............................................................
    ข้าพเจ้า เคยไป ชมการฆ่า สัตว์ใหญ่ที่ ว่า คือ วัว -ควาย
    โรงงานอยู่ แถว จังหวัด นครปฐม.เป็นโรงงาน ทันสมัย สากล
    เป็น โรงงาน ของ รัฐวิสาหกิจ
    ..................................................................
    ปกติ ข้าพเจ้า จะไป ซื้อ ชีวิต วัว-ควาย
    ที่ โรงฆ่า สัตว์ เทศบาล ปทุมธานี
    ที่ นั่นมีธนาคาร โค-กระบือ ตามพระราชประสงค์
    ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
    ทุก เสาร์-อาทิตย์ จะมีคนขับรถเก๋ง มาซื้อ ชีวิต วัว -ควาย
    มาก วัน ละ 20-30 ตัว..ยิ่ง เทศกาลบุญ อาจจะถึง 100 ตัว
    ตรงโรงทานปล่อย ชีวิต วัว-ควาย..จะมีพระมาสวด
    เมตตากับวัวที่ รอดตาย..มีเต้นท์ให้ นั่งฟังสวด
    ตรงข้ามคือ โรงงาน ฆ่า จริงๆๆ..จะมีสัตว์แพทย์ มาเลือก วัว ควาย
    ออกมาให้ ผู้คน ซื้อ ชีวิต แล้ว ปล่อย
    ตัวใหน ที่ มีท้อง ก็เอามาก่อน เพราะ ซื้อ 1 ตัว ช่วยสอง ชีวิต
    ต่อไป ก็เป็น ตัวในวัย หนุ่ม สาว วัย เจริญพันธ์..
    ทำงาน ออก ลูกออก หลานได้
    ที่แก่ๆๆเหนียงยาน..ก็ ต้องปล่อย ตามกรรม
    เพราะ ไม่มีประโยชน์ แก่ ก็ แก่ หนัง เหนียว เนื้อก็เหนียว
    ไม่เหมือนคน นะ..ยิ่งแก่..ลูกหลานยิ่งต้องดู แล
    แก่แล้ว มีสมบัติ..จะยิ่งมีคนมาดูแล
    ถ้าไม่มี ก็จะถูก ปล่อย ตามยะถากรรม
    ............................................................
    จะเห็นว่า ในทีวี มีอยู่ ช่องหนึ่ง
    ที่ ชอบ เอาเรื่อง คนแก่ ถูกลูกหลานทิ้ง.ให้อยู่ตามลำพัง
    มีชีวิต อย่างสาหัสสากรรจ์
    เลยต้องจำไว้ใส่กระโหลก..ว่า อย่างเพิ่ง แบ่งมรดกให้ ลูกๆๆหมด
    เดี๋ยวมันจะไม่ดูแลเรา...คือ ต้องแก่ แบบมีสตางค์ จึง จะ ปลอดภัย
    ......................................................................
    (มีต่อ)
     
  7. เต๊ะจุ๊ย

    เต๊ะจุ๊ย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    212
    ค่าพลัง:
    +695
    55+ พ่อผมให้สมบัติลูกๆไปตั้งกะสมัยนู้นน มิน่า..ไม่มีใครมาเห็นหัวกะบาลเลย..
     
  8. mhutom

    mhutom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    130
    ค่าพลัง:
    +264
    อนุโมทนากับอาจารย์และทุกท่านนะคะ...สาธุ

    ...
    ....เฮ้อ....ทำไมช่วงนี้เบื่อๆๆเซ็งๆๆก็ไม่รู้นะคะ...เฮ้อออ..

    ..วันเสาร์ที่ผ่านมา..วันแห่งความรักนั่นเอง..หนูไปวัดมาสองวัดค่ะ
    ..วัดแรกจำชื่อไมได้....อ้อ..!!..เห็นเพื่อนบอกว่าชื่อวัดอิน..ชื่อยาวก็จำไม่ได้ค่ะ...ได้มีดอกาสเข้าไปนมัสการหุ่นขี้ผึ้งหลวงพ่อโต....และนั่งสวดมนต์แล้วทำสมาธิสักพัก...

    ..ในห้องคนเยอะค่ะ...หนูนั่งสมาธิหายใจไม่ออกเลยเที่ยว...คงจะพลังเยอะมากในห้องนั้น..นั่งแปปก็ออก...

    ..ก็มาอีกวัด..ชื่อวัดไหม..สักอย่างอะค่ะ..แถว ประชาชื่น รึเปล่าไม่แน่ใจค่ะ ....สวดเหมือนกัน...แล้วก็นั่งสมาธิ...พบว่าที่นี่โล่งกว่าเยอะ..คนน้อยค่ะเงียบดี...

    ..ยังไงเอาบุญมาฝากนะคะ...อาจจะไม่มาก..แต่ก็เอามาฝากค่ะ...
     
  9. ป้องเกียรติ

    ป้องเกียรติ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +29
    สวัสดีครับขอเล่าเรื่องผมนิดหน่อยนะครับ

    ตอนเด็กๆ ผมนอนกับแม่ ผมเคยเห็นอาไรแปลกๆอะครับ เคยเห็นหัวหอยทากโผล่ออกมาจากแขนของแม่อะครับ ผมก็เรียก เฮ้ยแม่ ! พอเรียกปุ๊ปหอยทากก็หายไป แม่ก็บอกว่าอาไรลูก ผมก็ว่าไม่มีอาไร ซึ่งมันก็แปลกดีครับ สีเหมือนเนื้อเราเลย เหอ ๆ

    คราวหลังจามาเล่าอีกนะครับ สนุกดี คงไม่ว่ากันนะครับ
     
  10. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    โรงงานที่ ว่า ค่อนข้างจะสะอาด
    มีคอกกันแบ่งวัว-ควายที่ จะต้องถูกแปรรูปไว้เป็นสัดส่วน
    พอได้ เวลา จะมีคนมาลากจูง วัว/ควายที่ จะต้องเข้าคิวเชือด
    แต่ละตัว จะมีเชือกร้อย พานจมูก... เมื่อถูกดึงลาก
    และมีคนเอาไม้แทงก้นไล่..ก็เดินหน้าลูกเดียว
    ................................................................
    ถูกลากเข้าช่องซอง ที่เป็นราวแคบๆๆ
    ทำด้วยเหล็กแข็งแรง กัน สัตว์ดิ้น..จนพัง
    เป็นราวช่องเหมือน คนไปเข้าช่อง ซื้อตั๋วหนัง
    ที่หน้าโรงหนัง แล้ว ถูกเชือด ค่าดู คนละ 100- 120 บาท
    ..........................................................
    ราวมีขนาดช่อง พอตัว..เมื่อไป ถึงจุดก็จะมี เหล็กกั้น..ไม่ให้เลยออกไป
    ณ จุดนั้น พนักงานก็จะเอาแถบผ้า พัน มัด ขาทั้งสี่ กับหลักเสาให้แน่น
    ยก ที่กั้นหน้า ยันใต้คาง ให้แหงนหน้า แง ขึ้น
    วัว-ความทุกตัว ที่เข้ามาในช่องนี้ ส่วนใหญ่จะรู้ตีวว่า
    จะต้องถูกฆ่า ตายแน่ๆๆ..มันจึงร้องให้น้ำตาไหล
    ......................................................................
     
  11. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    พอทุกขั้นตอน ครบ
    ขบวนการฆ่า เริ่มต้น
    พนักงานเอากระบอก ดำๆๆ ยาวประมาณ หนึ่งฟุตครึ่ง
    เหมือนกระบอกฉีดน้ำ หรือกระบอกสูบยางรถจักรยานแบบเก่า
    นี่คือ ปืนอัดลมอย่างแรง
    ........................................................
    เอาปืนนั้น จ่อ ที่หน้า แง ของ ตัวที่ จะถูกฆ่า
    กดไกปืน..มีเสียงดัง " พลุ๊วะ "..วัวยืนขาสั่น ตาเหลือก ค้าง
    คนกดปืนถอยออกมา..อีกคนถือ เหล็ก แบนยาวกว้าง 1 นิ้ว
    ยาวประมาณ 2 ฟุต..เดินเอาปลายเหล็ก แหย่เเข้ไปในรูทะลุ
    กระโหลกที่เกิดจากการยิง กระสุนลม..ค่อยๆๆเสียบเข้าไปจนมิด
    เข้าใจว่า จะตัดสมอง ออกทะลุ คอ
    ..................................................................
    วัว นั้น ตัวจะแข็งเกรง..เหมือนประสาทถูกทำลาย
    ปล่อยให้ ยืนแช่แข็ง ตาย นานประมาณ 10 นาที
    ลำดับต่อมา ก็ รอกโซ่ ที่แขวนเหนือเพดาน ลด รอก ลงมา
    ที่ปลายรอก มีตะขอ ใหญ่..เอาขอนั้นเกี่ยวเข้าที่ ใต้คาง
    ยก วัว ทั้งตัว ขึ้นลอย ไป กับพื้นช้าๆๆ
    ก็เพิ่งจะรู้ว่า กระดูกคอ วัว/ ควายแข็ง จริงๆๆ
    เอาขอเกี่ยว ยกน้ำหนัก เป็น ร้อยๆๆกิโลได้
    .............................................................
     
  12. ป๋าปี๋ปู้

    ป๋าปี๋ปู้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    164
    ค่าพลัง:
    +270
    เฮ้อ สงสาร จริงๆเลย สัตว์ก็มีชีวิตจิตใจ แม้จะฉลาดน้อยกว่าเรามาก

    ถ้าเกิดเราเป็น วัว เป็น หมู รอให้เขามาเชือด.....

    ขอแผ่เมตตาให้กับสรรพสัตว์ทั้งหลาย..ทั้งปวง ด้วเทอญ
     
  13. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    รอกโซ่ เลื่อนออกไป..รอกตัวใหม่ก็จะเลื่อนมาแทน
    สำหรับ วัว/ควายที่ จะต้องถูกเชือด เป็น ลำดับต่อไป
    ตัวที่ ตายแล้ว..รอกจะลากพา ลอยไป ยัง อีกแผนก
    ที่ นั่น มีพนักงานแข็ง แรง สอง คน..ถิอมีดคม
    .........................................................
    เขาทำงานกันเร็วมาก..กรีดมีดคม
    ที่ ข้อ เท้า ทั้งสี่ ที่ สีข้าง ที่ รอบคอ
    พอครบทุกจุด..ก็รวมกำลัง กระชาก แผ่นหนัง ออก
    คว๊ากเดียวหลุดมาแผ่นที่ ท้อง..อีกคว๊าก ที่หลัง
    เป็นการถลกหนัง ที่ดูง่ายอย่างเหลือเชื้อ
    เหมือนเราปอก เปลือกกล้วย
    หนังวัว หนังควายหนาขนาด นั้น ..ดึงคว๊ากเดียวหลุด
    แล้วหนังคน..มิง่ายกว่า หรือ
    ...........................................................
    หนังที่ถลก ออก ก็จะแยก ออกไป ยัง โรงฟอก ย้อม
    เอามาทำ รองเท้า / กระเป๋า หนัง แท้/ เข็มขัดหนังแท้..ฯลฯ
    ............................................................
    เนื่องจาก วัว ตายแล้ว หัวใจ ไม่ทำงาน..ระบบโลหิต ไม่มีแรงดัน
    วัวที่ ถูกถลกหนัง ก็เหมือนถูกจับ ถอดเสื้อผ้า
    มองเห็น เนื้อ แดงซีดๆๆ มี เลือด ซึมๆๆ..ลอยต่อไป ด้วยระบบรอก
    ตอนที่ ลอยไป..วัวจะเหมือนคนท้องโต..
    เพราะ อวัยวะ ภายใน ลำใส้ ตับ ฯลฯ..เลื่อนลงมากองที่ ท้องท้ายก้น
    ..................................................................
    เลื่อนมายัง แผนก ชำแหละ..มีพนักงานชายแข็งแรง รอ อยู่ 2 คน
    ทั้งคู่คงชำนาญมาก..กรีด ผ่าท้อง ตั้งแต่ คอ ลงมาที่ ก้น
    ผลั๊วะ เดียว..ใส้ และเครื่องใน หลุดลงมากอง บนถาดเหล็กที่ รองอยู่
    เอามีดคม ตัด ส่วนที่ ติด ห้อย อยู่ ทีละชิ้น
    หัวใจ / ปอด / ม้าม/ ลำใส้ / กะพี้/ ตัวเดียวอันเดียว
    ............................................................
    ถาดเครื่องในก็จะแยกออกไป ยัง แผนก แยกย่อย ออก เป็น
    ตับ เป็น หัวใจ / เป็นม้าม / ดอกจอก / ผ้าขี้ริ้ว / ฯลฯ แยกกันไป
    ทีนี้ก็จะเหลือ แต่ โครง หลัง สันนอก สันใน น่อง ขา ทั้งสี่
    ถ้ ทำเองต่อ ก็ จะส่งไป ยัง แผนก หุงต้ม..เข้ากระบวนการเนื้อกระป๋อง
    ........................................................................
    ส่วนที่ ขายต่อ ก็จะ แยกเป็นส่วนใหญ่ๆๆ พอ แบก
    อาจจะแยกเป็น สี่- หก ชิ้น เพื่อการแบก ส่ง ตลาด
    เราจึงได้ เห็น ว่า ตามตลาด จะมีรถ ปิคอัพ มาจอด
    มีกุลี แบก ชิ้นส่วนเนื้อ เป็น ท่อนใหญ่ๆๆ พอแบก
    ยกเข้าเเผงตามตลาดสด..เจ้าของเขียงก็จะ แยก ขาย
    ตามความต้องการของลูก ค้า
    ............................................................
    จากโรงงาน เมื่อ ตัด ส่วนตัว ขายไป
    ก็จะเหลือ ส่วนที่เป็น หัว และเขา
    เขาก็กองไว้..จะมีคนมาเหมา เอาเขาไป ทำประโยชน์
    ทำ เขาแกะสลัก สวย งาม ทำหวี..ฯลฯ
    แทบจะพูดได้ ว่า วัว ตายทั้งตัว..ใช้ประโยชน์ได้ หมด
    .................................................................
     
  14. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    ไปยืนมอง ตอน วัวทั้งตัว แขวนโตงเตง อยู่กับ รอก
    ก็คิด ถึงเรื่องเก่า..ตอนเป็น นักเรียน อยู่ ที่ ศรีราชา
    ที่ ตลาดศรีราชา ตรงสามแยก สายหลัก
    ตอนนั้นมีร้านขายก๋วยเตี๋ยว เนื้อ อยู่เจ้า..ขายดี.อร่อย
    ...........................................................
    เป็นห้องแถว แบบตึก กว้าง เกิอบ 5 เมตร
    ครึ่งทางขวา ทำเป็น ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อสด
    มีโต๊ะ เก้า อี้ นั่ง 4 โต๊ะ..นั่งได้ โต๊ะละ สี่คน
    .......................................................
    ครึ่งทางซ้าย เจ้าของ ขายเนื้อ วัวสด
    ด้านหน้า มีชั้น และเขียง..แต่ไม่มีเนื้อมาวางขาย
    เจ้าของ ร้านทำงานคนเดียว
    ใครมากินก๋วยเตี๋ยว แก ก็มาทำก๋วยเตี๋ยว
    ใครจะซื้อเนื้อเป็นกิโล.แกก็เดิน มาเชือด เนื้อตามสั่ง
    จาก ซากวัวที่แขวนอยู่ ทั้งตัว..กลางร้าน
    ........................................................
    พอเนื้อ ทำ ก๋วยเตี๋ยวหมด แก ก็เดินมาเชือด เอาเนื้อ
    จากซากที่แขวนโตงเตง ทั้งตัว.พอเอาไป ทำ
    ดูๆๆแล้วไม่น่ามี อะไร..แต่ลองคิดดู
    กินก๋วยเตี๋ยว อร่อย แซบๆๆ เติม พริก แยะๆๆ
    ข้างๆๆ มีซาก วัวสดๆๆ ทั้งตัว แขวนอยู่เห็น เต็มตา
    กินไป แซบไป.มีเลือด และ กลิ่นคาวเลือด หยด ติ๋งๆๆอยู่ ข้างๆๆ
    คิดดู ซิว่า ซาดิสซ์ ขนาดใหน
    มาถึงตอนนี้ ไม่รู้ว่า ในยุดนั้นกินอย่างนั้นได้ อย่างไร
    ร้านแบบนี้ คงไม่มีที่ไหน อีก แล้ว ในประเทศไทย
    .................................................................
    คำถามมีว่า ฆ่า วัว บาป ใหม..กินเนื้อ บาปใหม
    การฆ่า นั้นบาป แน่ เพราะ ผิดศีลข้อ แรก ที่ ห้ามฆ่า
    พระแม่กวนอิมจึง แนะนำว่า ถ้าเลี่ยงได้..ไม่กินเนื้อ จะดีกว่า
    แต่ท่านไม่ได้ บอกว่า ใครกินเนื้อ แล้ว ท่านจะไม่รับเป็น ศิษย์
    เพียงแต่แนะนำว่า..การไม่กิน จะดี กว่า
    ...................................................................
    ก่อนทีสัตว์ ใหญ่ จะตาย
    มันจะปล่อยสารเอนไซน์ บางอย่างที่เป็นพิษ
    ตรงข้ามกับ สารเอนไซน์ เอนโดฟินล์
    ที่ ทำให้ มีความยินดี มีความสุข
    สารที่ สัตว์ ใหญ่ก่อนตาย ปล่อยไว้
    เป็นสารที่ เกี่ยวกับ แรงอาฆาตพยาบาท
    เมื่อ คนกินสะสมไป มากๆๆ ก็จะรวมกัน ทำให้เกิด สารมะเร็งได้
    ................................................................
    ชิ้นส่วนสัตว์ ที่ ถูกฆ่า ถูกล่า โดยโรงงาน หรือ การเป็นพรานล่าเอง
    เช่น หัวกระทิง / หัวเสือ / หนังเสือ / ฯลฯ
    สะสมพลัง แห่ง การฆ่า / พลัง แห่งการพยาบาทไว้
    ถ้า คนที่เข้าใจ ก็ จะไม่เอามาประดับ ในบ้าน
    เพราะ ทำให้ บ้านนั้น ไม่มีความสงบ..เสีย ฮวงจุ๊ย หมด
    เอาแต่ของดีดี สวยๆๆ งาม เข้าบ้านดีกว่า
    .................................................................
    สองปีก่อน มีคนส่งตั๋วเรือบินให้ไปตรวจฮวงจุ๊ย
    ของ โครงการใหญ่ ของ คหบดี เศรษฐีภูเก็ต
    นั่นคือ โครงการ "จั๊งซีลอน Junk Ceylon"
    ซึ่งเป็น โครงการ ศูนย์ การบันเทิง ขนาดใหญ่ ที่ สุด ของภูเก็ต
    .................................................................
    เมื่อไป ตรวจพบว่า เป็นโครงการใหญ่มาก นับพันล้านบาท
    มีอาคารใหญ่โต และมากมาย
    เมื่อเป็นโครงการใหญ่ ก็ย่อมมี คนงานมาก
    และก็ต้องมีอุบัติเหตุในการก่อสร้าง
    ....................................................................
    ตรวจแล้ว พบว่า มีวิญญาณ คนงาน ตายคาสถานที่อยู่ 3 วิญญาณ
    เป็น คนงานชาย ตกจากที่ สูง จากนั่งร้าน 1 วิญญาณ
    อีกหนึ่งวิญญาณ ตายจากการทะเลาะวิวาท
    และอีกหนึ่ง ฉีดยาเสพติด เกิน ขนาด
    จึงได้ ทำการปลดปล่อย วิญญาณไป
    เพื่อจะได้ ไม่ ทำให้ โครงการ เวลาเปิด มีปัญหา
    ........................................................................
    เสร็จากงานตรวจ โครงการ..ก็ผ่านเข้าเมือง ภูเก็ต
    รถมาหยุด ที่หน้า อาคารใหญ่ มากๆๆ แห่งหนึ่ง
    มองดูเหมือนเป็น ศูนย์การค้า ร้าง
    คนที่พาไป บอกว่า อาคารศูนย์การค้านี้ เปลี่ยนเจ้าของ มาแล้ว 2 เจ้า
    แต่ก็เจ๊ง หมด ทำไม่ขึ้น..เลยเจ๊ง กลายเป็น ตึก ร้าง
    ....................................................................
    เราก็ เพ่งดู ว่า เป็น ยังไง
    พบว่า มีแต่เสียง โหยหวน กรีด ร้อง ของ สัตว์ ใหญ่ ระงม
    น่าจะหลายพันตัว อยู่ในตึก
    คนที่พามาบอก ถูกแล้ว
    แต่ก่อนตรงนี้ เป็น โรงฆ่าสัตว์ ของ เทศบาล
    ต่อมาโรงฆ่าสัตว์ ย้ายออกไป นอกเมือง
    ให้ เอกชนมาเช่า ทำ เป็น ศูนย์การค้า เพราะ อยู่กลางเมือง
    ....................................................................
    วิญญาณ สัตว์ ใหญ่อย่างหมู / วัว / ควาย.
    .ฆ่าโดยระบบเทศบาลมานาน หลายสิบปี
    จำนวนสัตว์ ที่ ถูกฆ่า น่าจะเกินหลักหมื่น
    คนที่จะมาปลดปล่อย วิญญาณ สัตว์ นับหมื่น จะต้องมี ทุนบุญสูงมาก จึงจะแก้ได้
    ...............................................................................
    อย่าลืมนะครับ
    กินปลาคราใด อย่าลืม แผ่ กุศลให้เขาด้วย
    กินข้าวคราใด อย่า ลืม ขอบคุณ พระแม่โพสพ.
    เพื่อจะได้มีข้าวกินในมื้อ ต่อไป
    ..........................................................................................
    อย่า เอาชิ้นส่วนสัตว์ ใหญ่ เข้าบ้าน..จะไม่มีความสุข
    เกิดมา อย่าเบียดเบียนกันดี กว่า..โลกจะมีสันติสุข
    ......................................................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กุมภาพันธ์ 2009
  15. visnu

    visnu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,844
    ค่าพลัง:
    +23,778
    ปรกติเป็นคนชอบกินเนื้อมาก แต่ด้วยอะไรหลายๆอย่างทำให้ไม่กิน แต่ทุกวันนี้ผ่าน
    ร้านเนื้อย่างได้กลิ่นน้ำลายไหลทุกที คนชอบพูดกันว่าไม่กินนานๆจะเหม็น ผมเถียงตายเลย
    ผ่านทีไรน้ำลายไหลทุกทีแต่ก็ไม่ได้กินนะครับ..5-5-5
     
  16. ดาวทะเลทราย

    ดาวทะเลทราย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    3,424
    ค่าพลัง:
    +13,166

    ผม เอง ปกติ เป็นคนไม่กินเนี้อ ได้ กลิ่น ก็ ว่าเหม็น เหมือนกัน
    ยกเว้น เนื้อย่าง ดีๆ อย่างนี้ เจอ ก็ น้ำลายไหลเหมือนกัน ......555

    ก็ กลิ่น มัน ยั่วยวนใจ นี่นา
     
  17. deejaimark

    deejaimark เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,844
    ค่าพลัง:
    +16,511
    ขอบคุณคะ อาจารย์...มีคำตอบให้กับตัวเองมากมายเลยคะ

    วันก่อน เพิ่งจะถามคุณ visnu ไปว่า อยากทำฟาร์มปลานิล จะทำได้ไหม จะบาปไหม ซึ่งคุณ visnu ก็บอกมาแล้วว่าบาปคะ

    เมื่อประมาณเกือบ 10 ปีย้อนหลัง หลังจากที่เรียนจบมหาลัยใหม่ๆๆๆ ตอนนั้นมีความตั้งใจไว้ว่า จะทำฟาร์มวัวคะ คุณพ่อของเพื่อนสนิทเค้าจะยกวัวให้ทั้งฝูง มีวัวร้อยกว่าตัว ก็วางแผนไว้กับเพื่อนอย่างดีเลยคะ แต่มาจนบัดนี้ ก็ไม่ได้ทำ เพราะต่างคน ต่างแยกกันไปเสียก่อน เค้าก็ไม่ได้ทำ ขายทิ้งหมด...ตัวเราเอง ก็ไม่ลดละความพยายาม พยายามจะซื้อมาเลี้ยงสักคู่ หลายต่อหลายครั้ง แต่ก็มีอุปสรรค ทำให้ซื้อไม่ได้ทุกทีคะ......

    ฟาร์มไก่ ฟาร์มหมู เมื่อก่อนก็อยากทำมาก เพราะว่า เราพอมีความรู้ด้านพวกนี้อยู่บ้าง จะลงทุนหลายทีละ แต่ก็มีอะไรมาขัดขวางไม่ให้ทำตลอดคะ.......ก็นับว่า เรายังโชคดี ที่เค้าไม่ให้ทำในส่วนนี้คะ.......

    อาจารย์คะ แล้วการที่เราขายผลิตภัณท์ ที่ทำให้สัตว์ทั้งหลายเจริญเติบโต มีสุขภาพแข็งแรงนี่ ตรงนี้ ทำได้ใช่ไหมคะ
     
  18. tum399

    tum399 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    732
    ค่าพลัง:
    +2,908
    หลังสวดมนต์ก็แผ่เมตตาให้สัตว์รวมทั้งพืชน้อยใหญ่ที่เป็นอาหารให้แก่เราประจำ
     
  19. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    เรื่องเล่าก่อนนอนคืนนี้เรื่องที่ ยี่สิบห้า 25
    พลังสัมผัส..สื่อที่ดี ที่ สุด

    มีผุ้ให้คำจำกัดความไว้ว่า..คนเรามีอายตนะ หรือ ประสาทสัมผัส
    อยู่ ห้า อย่าง... คือ กาย /ตา /หู /จมูก /และ ลิ้น
    คนเรามีความเป็นอยู่ในการดำรงชีวิต ..ต้องอาศัย อายตนะ ทั้ง5

    กายเพื่อจับ ส่วนมากจะเป็น มือ และเท้า..หมายรวมถึงนิ้วมือ นิ้วเท้า
    ตา เพื่อการมอง และเห็น..บางคนมีตาปกติ และ ตาใน
    หู เพื่อการได้ ยิน เสียงปกติ หรือ เสียง จากอีกมิติ
    จมูก เพื่อ สัมผัส กลิ่น และ อากาศ
    ลิ้น เพื่อ ทดสอบ รสชาติ..และการลิ้มรส
    ...........................................................
    ในบางครั้ง เวลาเรา เกี่ยวข้องกับสิ่งนอกกาย
    เราจะใช้ อายตนะ 4-5 อย่างพร้อมๆกัน
    เช่นก่อนกิน..เราจะมองเห็นสิ่งนั้นด้วยตา
    เอามือจับเพื่อ สัมผัส
    เอามาดม เพื่อ ดู กลิ่น
    เอาใส่ปาก เพื่อ ชิมรส
    ของทุกอย่างมีแสงออร่า เปล่งออกมา
    เมื่อทำสิ่งใด บ่อยๆๆ ออร่า ตัวเรากับ ออร่า ของสิ่งนั้น
    จะมีการสัมพันธ์กัน..ในเชิงรายละเอียด
    ........................................................
    เช่นเมื่อเราจะกินมะม่วงมันอมเปรี้ยว
    ตาก็จะเห็น มะม่วงสีเขียว
    มือ จับ ก็รู้ ความนุ่ม แข็ง อ่อน ของ มะม่วง
    ดม ก็รู้ ถึง ความมัน และเปรี้ยว
    พอชิม ก็ รู้แน่นอน ถึงรสชาติ
    ทุกอย่างจะมาเป็น ชุด
    .................................................
    สมมุติ ต่อมา เราหยิบ มะม่วงมาโดยหลับตาไม่มอง
    เอามาดม กลิ่น..จากกลิ่น มันจะบอกได้ ทันทีว่า สิ่งนั้นคือ มะม่วง
    หรือ มีคนเอาชิ้นอาหารมาป้อนในปาก.
    .พอลิ้นสัมผัส ก็จะรู้ว่า เขาอะไร มาใส่ปาก
    เรารู้โดยไม่ต้องจับ /ไม่ต้องดม..ว่าเป็นอะไร
    ..............................................................
     
  20. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    คนบางคนเกิดมานานมีอายุ ค่อนข้างสูง
    จึงมีประสบการณ์ ในการสัมผัส โดยอายตนะมากกว่า ปกติ
    นั่นคือ ฝึกใช้ ออร่ากายสัมผัส กับ สิ่ง ต่างๆๆ รอบ ตัว มามาก
    เคยกินและจำอาหารได้ ทุกรส..เผ็ด มัน เค็ม เปรี้ยว หวาน ขม
    เมื่อใช้มากๆๆก็จะมีความสามารถพิเศษ..ในการสัมผัส
    .............................................................
    ไปที่ ร้าน 7-11 ซึ่งมีอาหารแห้งและ ตู้แช่ที่มีขวดเครื่องดื่มมากมาย
    แค่จับ ห่อ อาหาร แห้ง โดยไม่ต้องชิม..
    ออร่า ที่ออกมาจากห่อ ก็จะบอกว่า ข้างในคือ อะไร รสชาติเป็นอย่างไร
    หรือ ไปสัมผัส กระป๋องน้ำชนิดใหม่ที่ไม่เคยเห็น
    แค่เอามือ แตะก็จะบอกได้ ว่า.
    .น้ำข้างในจะเป็นอะไร รสชาติ จะเป็น อะไร
    ซึ่งเป็นผล จากการประมวลของ สมอง ที่ สะสมข้อมูล รสชาติไว้นั่นเอง
    .....................................................................
    คนบางคนมีออร่า เฉพาะตัว และ อาจจะถูกไปกันได้
    กับ สารเคมี ที่อยู่ในของใช้ หรือ อาหาร.
    .ก็เท่ากับ บอกว่า ใช้หรือ กินสิ่งนั้นได้
    แต่ถ้า ไปกันไม่ได้ ก็จะเกิดอาการแพ้ หรือรูสึกไม่ดี ต่อ ตัวเอง
    ..................................................................
    การไปกันได้ หรือไปกันไม่ได้..ถ้ารู้ก็จะเท่ากับ ป้องกัน ตัวเอง
    ดังนั้นในการสอนวิชาสัมผัส ในคอส "เปิดตาที่สาม"
    จึงมีการวิชาสัมผัสนี้ไว้ด้วย
    ในการไป ช๊อปปิ้ง ที่ศูนย์การค้าใหญ่ๆๆ
    ผู้ที่มีจิตสัมผัสที่ดี..จะใช้มือ หรือตา สัมผัส
    ของทุกอย่างที่ จะซื้อ ที่ จะใช้..
    เลือกของที่เหมาะกับตัวเองมากที่ สุด
    ....................................................
     

แชร์หน้านี้

Loading...