เรื่องเล่า ก่อนนอนคืนนี้..ของเหล่าคนผู้มีตาทิพย์

ขออำนาจบารมีแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย อวยพรให้ทุกท่าน

เจริยญสุข , เจริญศรี , เจริญชนม์ , เจริญสมัย , ยิ่ง ๆ ขึ้นไป

ประสงค์สิ่งใด ที่ถูกที่ควร ที่ชอบ ขอให้สำเร็จทุกประการ​

 

ท่านอาจารย์ย้อนอดีตเรียกระเบิดปรมณู 5555555555 ผมก็โดนด้วยล่ะครับ

แรงซะเข้าไปกดหน้าอกให้แน่น ให้อึดอัด เจ๋งเลยครับแบบนี้ เลยเข้าใจถึงว่า

ทำไมวงแตก ก๊าก ๆๆๆๆๆๆๆๆ อยากหลบไม่ทันเองงิ ขนาดเปลี่ยนดูกระทู้อื่น

ยังไม่หายเลยครับ

 

HAPPY NEW YEAR ปีเปลี่ยนคนไม่เปลี่ยน แต่ขอให้ทุกคนมีการพัฒนาที่ดีขึ้นทุกท่าน และสุขภาพกายแข็งแรง จิตมีแต่สิ่งที่น่ายินดี โดยเฉพาะอาจารย์ครับ

 

ขอทุกท่านเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไป

สวัสดีปีใหม่ค่ะ

 

Happy New Year 2009​

Wishing you all the best of luck, health and prosperity.​

 

happy new year คิดสิ่งใดก็ขอให้สมดั่งปรารถนาด้วยนะครับทุกคนเลย

 

เรื่องก่อนนอนเเต่ยังไม่มีตาทิพย์(กำลังฝึกฝนอยู่ครับ)
เมื่อไม่นานมานี้ผมได้มีความรู้สึกว่าสามารถติดต่อกับสิ่งศักดิ์สิทธ์เเละเพื่อนๆเเละญาติที่เสียชีวิตไปเเล้วได้
ความรู้สึกเเรกที่เกิดขึ้นก็คือ หน้าห้องผมจะมีหิ้งพระอยู่เวลาผมเดินผ่านตอนกลางคืน
ผมจะมีความรู้สึกว่าขนลุก เมื่อเดินผ่าน
ตอนเเรกก็ไม่ได้เอะใจอะไร พอคราวนี้ขึ้นไปอาบน้ำชั้น3 ในชั้น3 จะมีรูปบรรพบุรุษอยู่
พอเดินผ่านไปขนก็ลุกขึ้นมาอีก
ทำให้สงสัยมาก จนยกมือไหว้ที่รูปนั้น พอยกมือไหว้เสร็จขนก็ลุกขึ้นมาอีกครั้ง
ทำให้เข้าใจอะไรบางอย่างว่าเค้ากำลังติดต่อกับผมอยู่
ไม่รู้เพราะเหตุใด ที่เค้ามาติดต่อกับผม
จึงพูดกับบรรพบุรุษในใจว่า ดีใจมากที่ได้ติดต่อกับบรรพบุรุษเเล้วเค้าละรู้สึกอย่างไร
ผลที่ตอบก็คือว่า ขนลุกจากเเขนไปถึงศรีษะ ทำให้เหมือนได้รับคำตอบว่า เขาได้ยินเเล้ว
เเล้วก็ถามเค้าอีกว่าดีใจไหมที่ได้ติดต่อกับเหลนคนนี้ เเล้วขนก็ลุกขึ้นมาอีกครั้ง
เเล้วเวลาผมทำสิ่งใดที่ไม่ควรทำ ก็จะมีอาการขนลุกขึ้นมา เป็นการเตือนว่าอย่าทำนะ
ความรู้สึกอย่างนี้เป็นมาประมาณเกือบเดือนเเล้ว
จากนั้นผมก็ลองเรียกชื่อเพื่อนที่ผู้ที่ล่วงลับไปเเล้ว
ปรากฏว่า ขนผมก็ลุกเหมือนเรียกชื่อบรรพบุรุษ
เเละบางครั้งก็ได้ยินเสียงเเบบเบามากๆ เมื่อได้ยินเสียงเหมือนเพื่อนกำลังเตือนอะไรอยู่
ผมก็ขนลุกขึ้นมาอีก ผมจึงถามเค้าว่าอยากให้ผมนั่งสมาธิใช่ไหม
ขนก็ลุกขึ้นมาอีก เหมือนเค้าอยากติดต่อกับผมจะบอกอะไรผมซักอย่าง
จนป่านนี้ผมก็ยังจะไม่ค่อยนั่งสมาธิซักเท่าไหร บวกกับความกล้าๆกลัวๆด้วยว่านั่งเเล้วจะเจออะไร
มีครั้งนึงได้ยินเสียงคนบอกกับผมว่า "ตาย" ผมไม่รู้ว่าเป็นอสูรกายหรือป่าวเสียงชัดมากเลยครับ ? จึงเรียนถามอาจารย์สามตาด้วยว่าเกิดอะไรขึ้น
ก่อนหน้านี้เคยสามารถจับสิ่งของเเล้วกำหนดลมหายใจได้ว่าสิ่งของอันไหนใช้ได้ดีกับตัวเรา
เเต่ตอนนี้ก็ไม่ได้สัมผัสความสามารถนั้นมา3เดือนเเล้ว
ไปหาอาจารย์ อาจารย์บอกว่าผมชอบใส่เสื้อที่ซื้อจากเขมร
จึงโดนดูดพลังไปหมด อาจารย์บอกว่าให้ผมนั่งสมาธิใหม่
ตั้งเเต่ที่อาจารย์บอกผมก็ไม่เเตะเสื้อตัวนั้นอีกเลย
เหตุการ์ประหลาดเหล่านี้ เกิดขึ้นเมื่อได้พบกับอาจารย์ อาชวินเเล้วทั้งสิ้น
ช่วยคุรุทั้งหลายช่วยวิเคราะห์กันด้วยว่าเกิดอะไรขึ้น ผมยังใหม่ครับ ?
เรื่องที่ผมเล่าก็มีเท่านี้ครับมาเเชร์ประสบการณ์กันครับ
เเละสวัสดีปีใหม่ทุกๆท่านครับ

 

เพลงพรปีใหม่​

เพลงพระราชนิพนธ์ ​

โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙​

สวัสดีวันปีใหม่พา ให้บรรดาเราท่านรื่นรมย์
ฤกษ์ยามดีเปรมปรีดิ์ชื่นชม ต่างสุขสมนิยมยินดี

ข้าวิงวอนขอพรจากฟ้า ให้บรรดาปวงท่านสุขศรี
โปรดประทานพรโดยปรานี ให้ชาวไทยล้วนมีโชคชัย

ให้บรรดาปวงท่านสุขสันต์ ทุกวันทุกคืนชื่นชมให้สมฤทัย
ให้รุ่งเรืองในวันปีใหม่ ผองชาวไทยจงสวัสดี

ตลอดปีจงมีสุขใจ ตลอดไปนับแต่บัดนี้
ให้สิ้นทุกข์สุขเกษมเปรมปรีดิ์ สวัสดีวันปีใหม่เทอญ

 

ชอบภาพนี้มากเลย
ขอบใจผู้นำมาให้

น้อมขออาราธนาพรปีใหม่ จากองค์พระศาสดาผู้เป็นครูแห่งสามโลก
และน้อมขอพรจากองค์พระผู้ปกครองสามโลก
พร้อมบุญที่ข้าฯได้กระทำดีแล้ว
จงยังประโยชน์สุขแก่ญาติเพื่อนพ้องและพี่น้องพี่รวมทั้งตัวข้าฯเอง
ให้อยู่เย็นเป็นสุขทุกทิวาและราตรีกาล
มีกินมีใช้ไม่ขัดสน ทรัพย์สินเพิ่มพูลยังความคล่องตัวในการบุญ แลความเป็นอยู่ทุกประการที่ปรารถนา
สาธุ... สาธุ...

 

ขอบคุณคำอวยพรทุกๆ คำอันเป็นมลคลยิ่ง ขอพรอันประเสริฐจงบังเกิดแก่ผู้อวยพรเช่นกันค่ะ สวัสดี ปีใหม่ค่ะ ^^

 

​

'' ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย โปรดเมตตาบันดาลให้
ท่าน มีความเจริญยิ่งๆขึ้นไป ได้พบความสุขอย่างแท้จริงฐาวร ด้วยเทอญ ''​

 

<!-- / message --><!-- attachments -->
<!-- / message --><!-- sig -->__________________

 

สวัสดีปีใหม่ 2552 ปีวัว ที่น่ารัก...
ขอให้ทุกๆท่าน มีแต่ความสุข ไร้ทุกข์ ไร้โศก ไร้โรคภัย
และเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปค่ะ

 

มาจองที่รออ่าน ...

 

ขอเชิญเพื่อนร่วมบอร์ดได้ร่วมกันไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ไฟไหม้ซานติก้าผับ รับปีใหม่ เฮ้อ จะมีอะไรเกิดขึ้นอีกไหมหนอ...เป็นห่วงประเทศไทยจัง

 

เรื่องเล่า ก่อนนอน คืนนี้ เรื่องที่12

หมอยาทางจิต

มีบุคคลคนหนึ่ง..มีลักษณะพิเศษ
เรียนอย่างหนึ่ง แต่มาทำอาชีพ อีก อย่างหนึ่ง
ที่ตรงกันข้ามและไม่เกี่ยวกันเลย
เป็นที่รู้จักกันดี ในวงการเวบและกระทู้
..............................................
บุคคลที่ ว่า คือ คุณ สุวินันท์ ..หรือ ในเวบ คือ SUWI
ที่เขามาตอบปัญหา การรักษาโรค..ทางเวบ จนเป็นที่ รู้จัก
พื้นฐาน คือ เรียน จบมาเป็น วิศวกร ไฟฟ้า
จบแล้ว ทำงาน ไม่มัน ก็เลย ไป สมัครเรียนเป็น แพทย์ ทางเลือก
ที่ จัดขึ้น โดยกรมการแพทย์...กระทรวงสาธารณะสุข
.....................................................................
วิชาที่ เชี่ยวชาญ จนถึงระดับ อาจารย์ คือ วิชา เส้นเอ็น และการกดจุด
มีผู้คนมาให้ ทำการรักษา โรค เอ็นกระดูก มากมาย
คนที่ไม่เคยเห็น อาจจะดู แล้ว ออกในทางน่า หวาดเสียว
เพราะ มีท่าทาง หัก แขน หัก ขา..หักคอ
แต่ก็ หายทุกราย
.................................................................
วิชาอีกอย่างที่เรียนคือ วิชาสมุนไพร ไทย
ประเทศไทย มีของดี ประเภท สมุนไพรแยะ
ต่างประเทศ พยายาม เอาสมุนไพรไทยออกไป
แล้ว ผลิดเป็นยากลับมา ขายคนไทย
เพิ่มมูลค่า ขึ้นจากเดิม เกือบ 10 เท่า
..................................................
สมุนไพรเป็นยาทางธรรมชาติ ที่ ได้ กำหนดมาให้
เมื่อใช้ จะไม่เสี่ยง อันตรายต่อ ชีวิต มาก เท่า
ยาประเภท สารเคมี หรือ ยาแผนปัจจุบัน..
ที่ ขายกันอยู่ในร้านขายยา ..ตามถนน.ซอย และ ตลาด
...........................................................

 

ความที่ เชี่ยวชาญ เรื่อง สมุนไพร
รู้ว่า อะไร กินแล้ว แก้ โรคอะไร
คิดอยู่คนเดียว..ไม่สนุก..กลัวผิดๆๆ ถูกๆๆ
ก็เลยมาที่บู๊ธ 042 เป็น ประจำ..เพื่อ วิเคราะห็ ตัวยา และ วิธีกิน
..................................................................
ใหม่ๆๆ ก็ เอา ตัวยาสมุนไพร มา มากมายหลายๆๆตัว เพื่อ คิดสูตรยา
หมอสุวิ..ก็เริ่ม ต้น ด้วย ตัวยา ที่ตั้งใจ จะแก้ โรค ตามที่จะคิดไว้ในใจ
ก็ตั้ง ยาไว้..ผมกับ หมอสุวิ ก็ เอาจิตไป จับ
พอจับแป๊บ ก็ รู้ว่า..แก้โรคนั้นๆๆได้..แต่มีอาการข้างเคียง
เช่น ใจ สั่น..ปัสสาวะ ไม่ออก เวียนหัว ฯลฯ
ก็ต้อง เอาสมุนไพร ตัวอื่นๆๆ ที่แก้ ผลข้างเคียง..มาผสม
ต้องผสม แบบไล่ส่วน ที่ ต้องลงตัว..ทำให้ ไม่มีผลข้างเคียง
...................................................................
นี่คือ คำตอบ การผลมสูตรยา โบราณ นั้น เขาใช้จิต จับเอานั่นเอง
ทำกับบ่อยๆๆ ก็ได้ ยาแก้โรคมาหลายตัว...ในสัดส่วนที่ แปลกๆๆ
.เห็น ไป สั่งผลิต ออกมา ขาย..อย่างจริง จัง
.........................................................................
ทีแรก การผสม เอา ตัว สมุนไพร ตัวจริง มา ผสม กัน ตามส่วน
นานๆๆเข้า พลัง ยาสมุนไพร แต่ละตัว มันเข้าไปในแกนสมอง
และมันจำได้ ว่า แต่ละตัว มัน แก้ อะไร
....................................................................
ทีหลังก็เลย เอาใหม่.
เอากระดาษ กลมๆๆ มาเขียน ชื่อสมุนไพร
แต่ละตัวแยกไว้ บนละแผ่น
การผสมก็ ใช้วิธี..เอาแผ่น กลมมีชื่อ ยา มาไล่ผสมกัน
จนกว่าจะลงตัว..ก็ได้ ผล เท่ากับ เอาตัวจริง มา ผสม กัน
.................................................................
ปรากฏการณ์ เช่นนี้ นับว่า เป็น ความมหัศจจรย์ ของ สมอง
ที่ สามารถ ใช้พลังจิต ดึงออกมา..แล้ว ผสมกันในจิตได้
ต่างไป จาก ยาฝรั่ง ที่ทำจาก แล็ป..วิเคราะห์ ข้อมูล ทาง เคมี
ทาง เคมี- ชีวะ..ดูผล ที่เกิด ขึ้น จากการใช้ยานั้น
โดยทดลองกับ ลิง / หนุ ตะเภา/ม้า..ฯลฯ
แล้วจึงค่อยมาทดลอง กับผู้คนในประเทศ ที่ ด้อยพัฒนา
ไม่โวยวายเรื่อง สิทธิ มนุษย์ชน..เช่น ลาว อินเดีย กัมพูชา และ ไทย
...........................................................................
ดังนั้นการมีพลัง จิต / การฝึกพลัง จิต..
เป็นความสามารถพิเศษ ที่ ทุกคนสามารถที่จะเรียนรู้ได้
เมื่อ สามารถ อ่านสูตร ยาได้.
.ต่อไป ก็จะอ่านตรวจโรค คนทางจิตได้
และต่อไป ก็จะอ่านจิต คนได้ อย่างสะบายๆๆ
ว่า เขาเป็น คนเช่นไร..กำลังคิดอะไร
เป็นอันตรายต่อสังคมหรือ ไม่
........................................................................
ผมชอบดู นัก เวลา มีการตัดสิน คดี ใหญ่ๆๆ
ที่เกี่ยวกับ นักการเมือง.
หลังการตัดสิน..ทุกคดี..รุ่งขึ้น จะมีนสพ.
เอารูป ห้อง พิจารณา คดี ขึ้นมา พาด หัว
เราจะเห็นผู้พิพากษา นั่งเรียง กันบนบัลลังค์
.....................................................................
เราก็อ่านจิต ของ ผู้พิพากษาแต่ละท่าน
ก็จะรู้ว่า แต่ละท่าน ตัดสิน อย่างเป็นธรรมหรือ ไม่
เอียง หรือ ไม่...ส่วนใหญ่ ดู แล้ว.
.น่าจะสะท้อนใจแทนประเทศไทย
.....................................................................
ที่ 3 สถาบัน นิติบัญญัติ / บริหาร /ตุลาการ
อยู่ในจุด ที่ เรียกว่า ขาลง..ทั้งสามสถาบัน
กว่าจะอยู่ในขาขึ้น คงอีก นาน

 

เรื่องข้างบนนี่ ผมเห็นมากับตาครับ นั่งตั้งยากันสองคน อ.สุวิ กับ อ.อาชวิน ดูแล้ว ประหลาดใจดีครับ
เรื่องการรักษาโรคนี่.. เป็นสาเหตุหลักๆที่ทำให้ผมสนใจฝึกสมาธิเลย
คือประสบมากับตัวครับ
คือแฟนผม เค้าเป็นคนพิเศษครับ..จะเล่าแบบยาวๆให้อ่้านกัน

เมื่อ 2 ปีก่อน(ช่วงประมาณ ธันวา 50)
เค้าเคลื่อนไหวเข่าขวาผิดท่านิดหน่อย แต่กลายเป็นเรื่องใหญ่ คือกลายเป็นบวมเป่งเลย
กระเตงกันไปหาหมอคลีนิกดู หมอก็ว่าเส้นเอ็น ก็ให้พับขา บีบขา ก็ ปวดไปกันใหญ่ แล้วก็ให้ยากินยาทามา.. รักษาไปสักพัก ผมดูว่าไม่เวิร์ค มันยังบวมเป่งอยู่ ก็แบกไปโรงบาลเอกชน กะว่าเอาให้หาย
... ไปถึงปั๊บ หมอก็ดู แล้วก็กดๆ บีบๆ.. ให้ฝืนงอ.. แน่นอน ปวดชิ-หาย ก็วินิจฉัยว่า เป็นเส้นเอ็นอักเสบหรืออะไรสักอย่างนี่แหละครับ
เสร็จแล้ววิธีการรักษาคือ.. เจาะ.. เอาเครื่องเจาะดูดเอาของเหลว(เลือด-น้ำ)ที่ัคั่งอยู่ตรงนั้นออกมา
คิดดูนะครับ.. เนื้อมันบวมเป่งอยู่แล้ว.. แค่เดินก็ปวดจะตายอยู่แล้ว แล้วเอาเหล็กแหลมๆ ขนาดน้องๆปากกา จิ้มลงไปตรงนั้น 2-4 รู เพื่อดูดเลือด-น้ำออกมา มันจะเจ็บแค่ไหน
ผลคือ มันก็ดูดีขึ้นมา.. แต่คราวนี้ไม่ต้องเดินกันเลย.. แฟนผมเดินไม่ไหว ระบมเป็นบ้า ช่วงนั้นเวลาเค้าขึ้นลงบันไดบ้านเค้า เห็นเค้าบอกว่าต้องเอาก้นค่อยๆไถ ขึ้นลง.. (ฟังดูน่าหนุกเนอะ ไถลงมาีทีละขั้น ตุ้บ ตุ้บ ตุ้บ)
ก็ ผ่านไปเป็นอาิทิต ถึงเวลาหมอนัดไปดูอีกที.. มันก็ยังบวม.. ก็จนปัญญาครับทำไงก็ไม่หาย ก็ได้แต่พยายามให้เค้าใช้เข่าให้น้อย ก็ลำบากเราหน่อย ไปรับ ไปส่ง.. แถมยานพาหนะผมก็มีแต่มอไซ.. ต้องพยายามขับให้นิ่มสุดๆ ไม่งั้นแค่เจออะไรกระแทกนิดหน่อยก็ระบมแล้วครับ

แล้วก็ อาการก็ค่อยๆีดีขึ้น(ใช้เวลา่ร่วม2 เดือนมั้ง ถึงเดินได้ปกติหน่อย แต่ก็ไม่หายขาด คือเดินมากๆ ก็จะกลับมาเิ่ริ่มบวมอีก วิ่งก็ไม่ได้) จนมาเมื่อปีที่พึ่งผ่านไปหยกๆนี้ สัก2-3 เดือนก่อน หลังจากผมได้รู้จักกับบู๊ท 042, อ.อาชวิน อ.สุวิ อาอัครวัฒน์ พี่บาส จู่ๆไม่รู้อีท่าไหน ไอ้อาการนี้ มันกลับมาหาแฟนผมอีก..หลังจากหายไปร่วม 7-8 เดือน ครับ..มันกลับมาบวมอีกแล้ว เค้าก็เดินไม่ค่อยจะได้เหมือนเดิม ที่เดิม ตำแหน่งเดิม เลย แต่คราวนี้มีของแถม

(เรื่องขั้น)คือก่อนหน้าที่จะปวดเข่า เค้าปวดท้องก่อน.. ปวดแบบ คือเค้าปวดมากอ่ะครับ ตื่นมา 2 ตี 3 โทรมาถามผมว่าปวดตรงนี้ เป็นอะไรยังไง น่ากลัวมั๊ย ผมก็ถามๆดู ก็ว่าน่าจะเป็นกระเพาะ แต่มันแปลก.. แปลกตรงที่เรื่องของตำแหน่งนิดหน่อย แต่ก็บอกเ้ค้าว่าไม่เป็นไรหรอก(เค้ากลัวเป็นมะเร็งลำไส้) ก็ให้ฝืนๆหลับไป
บ่ายของอีกวัน ผมก็รับไปหาหมอ(อาการปวดไม่ดีขึ้นเลย) ก็แบกไปคลีนิกสามสิบบาท(ตาย-่า)ทุกโรค ก็ไปถึง หมอก็วินิจฉัยว่าเป็นโรคกระเพาะ ก็ให้ฉีดยา ดูอาการ ก็.ฉีดยา แล้วก็ให้ยามาทาน อาการก็ดีขึ้นครับ แต่นิดหน่อย..นิดเดียวจริงๆ ช่วงนั้นผมเริ่มฝึกสมาธิหนักขึ้น มีอยู่วันหนึ่งผมว่าง ก็ลองอัดพลังให้เค้าดู แต่ไม่ได้อัดเดี่ยวนะครับ ผมเอาพระเครื่องมาช่วย วางไว้ตรงตำแหน่งที่เค้าปวด แล้วผมก็อัดพลังลงไป.. ผลก็คือ ตอนที่ผมอัด เค้าบอกว่า ปวดจี๊ดๆๆๆ เลย แต่พอเสร็จแล้ว อาการปวดก็หายไปครับ ไม่ปวดท้องแบบนั้นอีกเลย

(ต่อ)แล้วหลังจากนั้นสัก 1-2 อาทิต ไอ้อาการเข่าบวม ก็กลับมา ผมก็ว่าจะแบกไปโรงบาล แต่ืคือตอนนั้นเซ็งแล้ว. ตัวแฟนผม เค้าก็กลัวโดนเจาะ ผมก็เลยหาวันว่างๆตรงกัน โทรนัดอ.สุวิที่บู๊ท 042 ครับ ก็ลองวัดใจ พาไปดู คือแบบ ผมศรัทธาในตัวอ.สุวิมาก แต่ก็ยังแบบ.. คือไม่ได้หวังว่าจะหายเลย แค่ว่าดีขึ้นผมก็ดีใจแล้ว วันนั้นผมก็พาขึ้นมอไซผมไปลงที่รถไฟฟ้าอโศกเพื่อต่อรถใต้ดิน
แล้วคือระหว่างทาง ขับรถยากมาก จนขาขวาที่เค้าเจ็บ ไปกระแทกนู่น-นี่จนแบบ.. ปวดกว่าเดิม.. จากตอนแรกพอเดินได้ แต่มาตอนที่กำลังเดินทางไปหาอ.สุวิ กลายเป็นเค้าเดินจะไม่ไหวอยู่แล้ว คือผมเห็นแบบนั้นแล้วแบบ "โถ่ ไอ้เวรจุ๊ย..นี่พาเค้าไปรักษา หรือพาเค้ามาซ้ำวะ" คือตอนนั้นสภาพจิตผมค่อนข้างแบบ.. คิดว่าพามา คงดีขึ้นแหละ แต่พอขากลับต้องซ้อนรถผมอีก ก็คงจะเจ็บอีก..สรุป พามาทำไมวะ?

อ่ะ พอลากเค้ามายังบู๊ทอ.ได้ ก็วันนั้นถือว่าโชคดีครับ.. อ.อาชวิน อ.สุวิ พี่บาส อาวัฒน์ อยู่กันครบหน้า อ.สุวิ ก็ให้อ.อาชวินดูว่ามีตัวอะไรอยู่มั๊ยที่ขา อ.อาชวินก็บอกว่า "มีงูกัปปะรัดขาอยู่ คือหัวอยู่ตรงแถวๆเข่า แล้วก็พันขึ้นมาถึงท้อง ช่วง" คือเกี่ยวพันกับตรงที่เค้าปวดหมดเลย พออ.สุวิได้ยินดังนั้น.. หน้าอ.สุวิออกแนว "เซ็งเป็ด" ทันทีครับ 555+ เสร็จแล้วอ.สุวิก็เริ่มรักษา

ตรงนี้อ่านดีๆนะครับ
แฟนผมปวดเข่าขวา แต่อ.สุวิเริ่มจาก นวดที่บริเวณ ข้อศอกขวา บีบๆนวดๆแป๊บนึง อ.ก็ให้ลุกขึ้นเดิน.. "เอ้า ลองเดินดู" แฟนผมก็ลุกขึ้นเดิน.. ในใจผมตอนแรกนั้นคิด "เดินไม่ได้แน่ๆ พึ่งนวดแค่นี้จะเดินไหวได้ไงน้า" แต่ภาพที่เห็นคือ..
ปรากฎว่า เค้าเดินได้เฉยเลยครับ คือผมพูดตามตรง ผมตะลึงมาก.. เสร็จแล้วอ.ก็เริ่มนวดนู่น นั่น นี่ อีกทีละนิดตามขั้นตอน อาการก็ดีขึ้นเรื่อยๆครับ แต่ไปสักพักนึง ก็ ถึงเวลาพิเศษ คือการทะเลาะกับตัวประหลาดที่มองไม่เห็น
งานนี้ พี่บาสเป็นคนจัดการครับ (ใครไม่้เชื่อไม่ว่าครับ แต่ผมเชื่อ เพราะผมกับแฟนประสบเหตุการณ์เองกับตัวครับ)
พี่บาสก็ ใช้พลังดึงเอาคุณงูออกมา แล้วก็โยนใส่ แก้วกาแฟจากร้านกาแฟแถวนั้น(ผมคิดอยู่เลย ถ้าใครกินแก้วนั้น คงแจ๊คพ็อต) เสร็จแล้ว อ.อาชวินก็เอาแปรงขนม้า มาไล่กวาดให้ คุณอาวัฒน์ ก็ช่วยเิติมพลังให้อีก..
คือตอนแรก ที่อ.สุวินวดศอกให้ แขนขวาเค้าหมดแรงไปเลยครับ.. พออาวัฒน์อัดพลังเข้าให้ เค้าก็กลับมีแรงขึ้นมาเลย.. อันนี้แฟนผมพูดเองเลยครับว่า รู้สึกได้ ชัดเจนมาก แล้วอ.สุวิ ก็ยังช่วยนวดเรื่อยๆๆ ทีละนิด แบบว่า.. นวดทีนึงก็ให้ลองลุกขึ้นเดินทีนึง ก็เดินได้คล่องขึ้นเรื่อยๆ อาการดีขึ้นเรื่อยๆ.. ผมหยุดยิ้มไม่ได้เลยครับ

คือลองนึกภาพสิครับ จากตอนแรก คนเดินไปเนี่ย กะเผลกสุดๆ.. แค่มีแรงกระเทือนนิดหน่อยก็ปวดจะเป็นจะตาย แต่ว่าตอนขากลับเดินปร๋อ เหมือนคนไม่เคยเป็นอะไรมาก่อน.. ย้ำว่าเดินปร๋อครับ แล้วหลังจากนั้นอีก1-2อาทิตได้ แฟนผมวิ่งได้ครับ.. วิ่งเล่น เต้นลีลาศได้... ซึ่งเธอไม่เคยทำได้มาก่อนในช่วงเวลาเกือบ 1 ปี..ครับ โดยที่เธอไม่ต้องไปทนให้หมอเจาะดูดเลือด แล้วก็ระบมไปอีกเป็นอาทิต.. มันเป็นอะไรที่มหัศจรรย์มากครับ
คือถ้าผมไม่รู้จักกับบู๊ท 042 แฟนผมคงทรมานป่านนี้ยังไม่หายอ่ะครับ
การแพทย์แผนปัจจุบัน บางทีมันไม่ใช่คำตอบของทุกโรค
แพทย์ทางเลือก ก็อาจไม่ใช่คำตอบของทุกโรค
แพทย์พลังจิต-ลี้ลับ ก็อาจไม่ใช่คำตอบของทุกโรค
ทุกอย่าง มีข้อดี และข้อจำกัด.. หากเราเอาทั้งสามศาสตร์นี้มารวมกันได้
มนุษย์จะมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอีกมากครับ.. เพียงแต่ขอให้อยู่แล้วทำตัวดี มีค่า รู้จักทำบุญ ช่วยเหลือผู้อื่น แต่ถ้าอยู่แล้วรกโลก ดีแต่เบียดเีบียนผู้อื่นไป
อย่าอยู่ให้เปลืองข้าวเลย..

สุดท้ายนี้ เรื่องนี้เป็นกำลังใจอย่างยิ่ง ให้ผมฝึกสมาธิ เพราะผมอยากเก่งแบบอ.ทั้ง 2 ท่าน และพี่บาส เพื่อจะยังผลประโยชน์แก่เพื่อนมนุษย์ ถึงแม้ตอนนี้ จะยังมองไม่เห็นแม้ปลายทาง.. แ่ต่แค่ได้ฝึก ได้ทำบุญ แึค่นี้ก็รู้สึกดีแล้วครับ..ส่วนเรื่องอื่นๆ ถ้ามีโอกาส คงได้ทำ.. แล้วแต่วาสนาละกัน
ขอบคุณ อ.อาชวิน อ.สุวิ พี่บาส อาวัฒน์มากๆครับ

 

ดีจังค่ะ ดีใจด้วย ^^

 

ขอให้น้องเค้าหายเร็วๆนะ