เราไม่มีในกาย กายไม่มีในเรา

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ขันธ์, 26 ธันวาคม 2008.

  1. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    [​IMG][​IMG]
     
  2. ธรรมะสวนัง

    ธรรมะสวนัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,305
    ค่าพลัง:
    +1,255
  3. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    คุณตอบมานี้ เราร้องไห้ โฮ เลยนะ ไม่รู้เศร้า เรื่องอะไร

    ไปไหว้พระธาตุพนม มา สามีให้เสี่ยงเซียมซี สงสัยจะมาล้วงความลับของเรา

    ได้มาอ่านแล้ว เขายิ้มสมน้ำหน้าเราซะ เราจ๋อยเลยนะ

    ในเซียมซีบอกว่า เราเข้าข่ายเข็นครกขึ้นภูเขา ประมาณว่าให้ทำใจไว้

    เพราะมีคนอยากเข็นครก เราก็ต้องเหนื่อยด้วยดิ ไปไหนไปด้วย ไม่ช่วยซักบาท กรำ
     
  4. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    เจ๋ง จริงนะ ตัวแค่นี้ [​IMG][​IMG][​IMG]
     
  5. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    [​IMG][​IMG]

    เกทับคุณผู้ชายแถวๆนี้ ฮุฮุ
     
  6. ธรรมะสวนัง

    ธรรมะสวนัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,305
    ค่าพลัง:
    +1,255
  7. ธรรมะสวนัง

    ธรรมะสวนัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,305
    ค่าพลัง:
    +1,255
    จะรีบไปไหน จะรีบไปไหน
    ไม่รอพี่ภูติก่อนหรอ เดี๋ยวบ่ายๆพี่เค้าคงมา [​IMG]
     
  8. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ไม่รู้ว่า ของคุณหมายถึงอะไรนะ

    แต่ของเราหมายถึง อวิชชา พาจน เอ๊ยไม่ใช่แค่ น้องพญามารจิ๊บๆ เอง
     
  9. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    เมื่อวาน มีเพลงมาเกี้ยวพาผูกมิตรไมตรี ด้วยนะ
    ไม่รู้ เฮียแกเหวี่ยงแหไปให้ใครมั่ง
    คุณนิวรณ์ รับมาลัยไมตรี เขารึยังก็ไม่รู้ ฮุฮุ [​IMG]
    มาต้อนรับปีใหม่กันเลย ที่เดียวเชียว
    ทำยังกะ ขึ้นหน้าประวัติศาสตร์กึ่งพุทธกาล ซะงั้นแหละ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 ธันวาคม 2008
  10. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    หัดเต้นฟุตเวิร์ค อยู่ ดูคนเข็นครก

    ก็เล็งอยู่นิ ถ้ามีแววโดนครก กลิ้งทับ จะกระโดดหลบทันที ฮุฮุ

    แต่ถ้า ครกมันลอยขึ้นไปเองได้ ก็จะ รีบ กระโดด ขึ้นนั่งบนครก สบายแฮ ซิเรา

    นิสัยดีคบได้ไหมนิ คนแบบเรานี่ [​IMG] ฮุฮุ
     
  11. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    คนพูดไม่รู้เรื่อง มองไม่เห็นอะไรเลย นี่แหละเขาเรียกว่าทิฎฐิบังตา มองอะไรรวมไปหมดแยกไม่ได้

    ถ้าจะเอาคำว่าเข็นครกลงภูเขามาพูด แสดงว่า ยังไม่เข้าใจธรรมอย่างแท้จริง
    ลืมไปมั้งว่า ทางลงภูเขา มันเรียบเป็นทางถนนหรือ ถ้ามันเรียบเป็นทางถนนก็ไม่ต้องเข็นหรอกปล่อยมันไปเฉยๆ มันก็ต้องตกไปสู่พื้นอยู่แล้ว แต่ หากว่ามันไปเจอหลุมบ้าง ไปเจอต้นไม้ขวางบ้าง ไปเจอโขดหินขวางบ้าง นี่จะทำอย่างไรกัน พระที่ท่านสอน ท่านก็สอนโดยเป็นอุบายธรรม เฉพาะๆ ไป แต่คนไปเรียนรู้มานี่ ยึดอย่่างเดียว ไม่ฟังอะไร

    การดูจิต นั้นเป็นเพียง อุบายธรรมที่ทำให้ทัสนะเกิด เรื่องรูปนาม ปัญหานี้ผมก็พูดไปหลายครั้งแล้วว่า
    มันไม่ได้ผิด มันผิดตรงที่คนยึดติดว่า จะต้องทำแบบนี้ตลอดไป โดยหารู้ไม่ว่า ทำเช่นนั้นอย่างเดียวแล้วมันจะติด จะต้องให้พูดอีกกี่ครั้ง

    ก็ไม่ได้บอกว่ามาลบล้างอะไร แต่มาเติมให้มันเต็ม ให้มันไม่พร่อง พวกดูจิตจ๋า ก็ยังจะบอกว่าที่มาเติมให้มันสบบูรณ์นั้นไม่ควรบ้าง ส่วนอื่นไม่ใช่พระพุทธศาสนาบ้าง หาธรรมต่างๆ มาแย้งเรื่อยเปื่อย แล้วก็ขัดกันเองไม่รู้กี่ครั้ง

    อะไรมันจะบังหูบังตา แล้วโต้แย้งอะไรก็โต้แย้งไม่ได้ลืมหูลืมตาเลย
     
  12. เกสท์

    เกสท์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    765
    ค่าพลัง:
    +18
    อ.ขันธ์

    โลกนี้ล้วนอนิจจังหาความแน่นอนคงตัวไม่ได้
    นับประสาอะไรกับจิตใจคน

    มีลาภ เสื่อมลาภ
    มียศ เสื่อมยศ
    มีสรรเสริญ มีนินทา
    มีสุข มีทุกข์

    ทุกวันก็ไม่มีอะไร
    มีแต่มืดกับแจ้งเท่านั้น

    ดังท่านกล่าวว่า อนัตตา
    คือ ตีข้อมือไว้ แล้วดุว่า อย่ายึด......
     
  13. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    เกสท์ ดูเอาไว้ว่า อย่าประมาทในธรรม ดูเอาไว้ว่า คนที่รู้ธรรมมาก ถ้ามันไม่ได้อยู่กับใจแล้วมันจะขึ้นๆ ลงๆ แต่หากธรรมอยู่ที่ใจแล้ว เที่ยง ตรงนี้ระลึกเอาไว้นะครับ
    หากธรรมอยู่ที่ใจแล้วเที่ยง
     
  14. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    ขอร่วมวงด้วยคนครับ....
    การดูจิต นั้นเป็นเพียง อุบายธรรมที่ทำให้ทัสนะเกิด(เป็นอุบายที่ให้เห็นปรมัถธรรม เห็นถึงสัจจะ เห็นถึงธรรมที่มีอยู่อย่างแท้จริง) เรื่องรูปนาม ปัญหานี้ผมก็พูดไปหลายครั้งแล้วว่า
    มันไม่ได้ผิด มันผิดตรงที่คนยึดติดว่า จะต้องทำแบบนี้ตลอดไป โดยหารู้ไม่ว่า ทำเช่นนั้นอย่างเดียวแล้วมันจะติด จะต้องให้พูดอีกกี่ครั้ง (ที่ผิดเพราะว่าเข้าไปเพ่งในการดูไม่ได้เป็นผู้ดูอยู่ห่างๆเลยเห็นผิด และเข้าใจผิด )
    หากเข้าใจการดูจิต จะไม่ได้เป็นการเข้าไปเพ่ง ในการดู เพียงแค่ชำเรืองดู
    ...เรานั่งอ่านหนังสือด้วยความตั้งใจอยู่หน้าประตูโบถ พอมีคนเดินเข้าออกโบถ เราก็รู้โดยยังมีหางตาคอยชำเรืองดู รู้แค่ว่ามีคนเข้าไปแล้วออกมา ...นี่เป็นการดูจิตที่ถูกต้อง..
    ...เรานั่งอ่านหนังสือด้วยความตั้งใจอยู่หน้าโบถ พอมีคนเดินเข้าออกโบถ แต่กลับไปเพ่งคนเดินเข้าออก คอยตั้งท่า จะดู ...อย่างนี้เป็นการดูจิตที่ผิด...
    ...เรานั่งอ่านหนังสือด้วยความตั้งใจอยู่หน้าประตูโบถ พอมีคนเดินเข้าออกโบถ เราก็รู้โดยยังมีหางตาคอยชำเรืองดู รู้แค่ว่ามีคนเข้าไปแล้วออกมา ...นี่เป็นการดูจิตที่ถูกต้อง..พอรู้ว่ามีคนเข้าไปในโบถซึ่ง ทำท่าเป็น ขโมย เราจะเลิกอ่านหนังสือและไล่ขโมยทันที...แบบนี้เป็นสัมมาสติ
    ...เรานั่งอ่านหนังสือด้วยความตั้งใจอยู่หน้าประตูโบถ พอมีคนเดินเข้าออกโบถ เราก็รู้โดยยังมีหางตาคอยชำเรืองดู รู้แค่ว่ามีคนเข้าไปแล้วออกมา ...นี่เป็นการดูจิตที่ถูกต้อง..พอรู้ว่ามีคนเข้าไปในโบถซึ่ง ทำท่าเป็น ขโมย เราก็ยังอ่านหนังสือและไม่ไล่ขโมยปล่อยให้เข้าไปแล้วออกมา...แบบนี้ไม่เป็นสัมมาสติ
    .....ส่วนใหญ่ไม่เรียนรู้ให้เข้าในวิธีการ การฝึกดูจิตเลยคลาดเคลื่อนในธรรม...
     
  15. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    เมื่อถึงธรรมจริง จิตอะไรที่เคยดูแล้ว เราก็ไม่ต้องไปสังเกตุ มันก็จะเป็นอัตโนมัติไป ก็วางเฉยการดูในส่วนนั้น ได้โดยอัตโนมัติ แยกออกอะไรกิเลส อะไรธรรม อะไรเป็นสังขารขันธ์ ที่ทำงานไปตาม ธรรมชาติ

    เราก็ไม่ต้องไปดูทั้งหมด ดูเฉพาะ ทุกข์ นี่จำไว้ อะไรเป็นทุกข์ดูตรงนั้นก่อน เรียกว่า เป็น ทุกขสัจจ ที่ต้องเรียนรู้ แต่ก่อนจะเห็นทุกข์นี้ ก็ต้องฝึกมหาสติปัฎฐานให้ดี เพื่อที่จะได้เห็นทุกข์ ที่ละเอียด เห็นทุกข์แล้ว เอาให้เห็นละเอียดให้มาก การเห็นละเอียดยิ่งๆ ขึ้นไปนี้จะต้อง ฝึก มหาสติปัฎฐานให้ชำนาญ คือ เห็นเวทนาในเวทนา เห็นจิตในจิต แล้วเลือกว่า ในส่วนใดที่เป็นทุกข์ แยกกองทุกข์ กับกองธรรม ให้ออก แล้วละทุกข์ พิจารณาธรรม ให้เห็น สมุทัย ยิ่งๆ ขึ้นไป ดับที่สมุทัย

    ยกตัวอย่างเช่น วันนี้เราเห็นตัวโกรธ คนไม่รู้ก็จะมองดูโกรธ รอจนกว่าจะดับ แล้วถ้าเราไม่ทันต่อ การคิดของเราหละ เราก็คิดไปถึงหน้าไอ้คนที่เราโกรธ คือเผลอคิด มันก็โกรธอยู่อย่างนั้น แต่ถ้าเราใช้กำลังสติ กำลังสมาธิ ตัดว่าเอาหละเราจะไม่คิดไปถึงหน้า ไอ้คนที่เราเกลียด เราจะไม่ปรุงไป นี่ เราจะเห็นเหตุ อีกระดับหนึ่งของความโกรธ ว่ามาจาก การคิดไป แล้วเกิดเวทนาในสิ่งที่เขากระทำ จึงทำให้เราโกรธ

    นี่ เราดับที่เหตุคือ ไม่คิดไป ไม่ก่อเรื่อง มันก็ดับได้ เรียกว่า ทวนกระแส

    นี่เอาไปพิจารณาแบบนี้ ไม่ใช่เห็นโกรธแล้วดูเฉย กิเลสเอาไปกินหมด เพราะเหตุมันอยู่ที่ เวทนา และ เหตุของเวทนาคือ การเอาใจไปสัมผัส เหตุต้นคือ ไม่เท่าทัน เผลอตัวคิดไปตามเรื่องตามราวอันเป็นอวิชชา

    นี่ดูกันหน่อย ผมอธิบายให้ฟัง เป็นธรรมแท้แน่นอน ปรากฎกับใจนี้แล้วจึงเอามาสอน
    และ ไม่มีผิดเพี้ยนแน่นอน ตรงทางกับองค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า
     
  16. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    ความเศร้าสร้อยหงอยเหงา นี่มันเกิดจากอะไร ไม่ใช่แค่ดูรู้ ให้สาวไปถึงต้นตอ ให้เจอเช่น

    เราอยู่คนเดียว เราเหงา นี่หมามันอยู่ตัวเดียวมันไม่เห็นเหงา

    เราหาสาเหตุให้เจอว่า แสดงว่า เราอยู่คนเดียวแล้วเราไม่ชอบ นี่เป็นเวทนาของเราเอง หาใช่มีตัวตน เราสังเกตุให้ดีว่า แคบเข้ามาคือ คิดไปเอง นึกไปเองว่า แบบนั้นแบบนี้คือ การอยู่คนเดียว แล้วก็สร้างเรื่องสร้างราวให้เหงาเอง

    นี่อบรมให้เป็นนิสัยในการพิจารณาธรรม แล้วจะเห็นเหตุเห็นปัจจัยมากขึ้น ดับที่เหตุนั้น

    สุดท้ายแล้ว เราจะไม่ต้องออกแรง แต่จะดับไปได้เอง เพราะปัญญาถึง

    เอาไปพิจารณา
     
  17. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    และทีนี้ เมื่อสังเกตุ เห็นสมุทัยแบบนี้บ่อยๆ มันจะแจ้ง มันจะละเอียด มันจะเห็นเหตุปัจจัยจากการปรุงแต่งชัดเจน เห็นทุกอย่าง รู้และเข้าใจ เหตุปัจจัยทุกอย่างว่า ปรุงไปอย่างไร

    สุดท้าย เอาให้ถึงใจ เอาให้ใจยอมรับตามความเป็นจริงได้ เราจะทวนกระแสดับทุกข์ได้เอง

    จำเอาไว้นะครับ ทวนกระแสอย่างที่ผมบอกให้มาก จนใจยอมรับตามความเป็นจริงได้ ซึ่งตรงนี้แหละที่มันต้องต่อสู้กัน เพราะกิเลสมันไม่ยอมรับ แต่ปัญญามันยอมรับ

    นี่แหละ ใครทำแบบนี้ให้มากให้บ่อย มรรคญาณจะต้องเกิดขึ้น
     
  18. to2504

    to2504 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,449
    ค่าพลัง:
    +1,230
    ดับที่ต้นเหตุ แต่คนส่วนมาก มักรู้สึกแค่ที่ปลายเหตุ ไม่รู้สึกที่ต้นเหตุ ไม่รู้สึกถึงความเคลื่อนไหว ความกระเพื่อมของจิต ที่รู้สึกโกรธ ปล่อยมันไป กิเลศก็เอาไปกินนะ อย่างว่า การทวนกระแสแบบของ อ.ขันธ์ ไม่ใช่การหลบเข้าฌานนะ แต่เป็นการรู้ที่ต้นเหตุของการโกรธนั้น
    ;aa13
     
  19. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    ก็เห็นจะมีแต่ท่านที่ เห็นธรรมเป็น ธรรมลามก อันนี้ก็ท่านก็ควรดูใจตัวเองได้แล้วแหละท่านนิวรณ์
     
  20. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    ท่านนิวรณ์ ท่านมีแรงตำหนิแค่นี้หรือ ท่านมีเหตุผลเท่านี้หรือ เสียดายนะที่ท่านไม่เห็นอย่างที่ผมเห็น ไม่เช่นนั้นแล้ว ท่านคงมีจุดยืน และ เสถียรมากกว่านี้

    ท่านจะกร่อนลงไป ก็ไม่เป็นไร อันนี้เรื่องของกิเลสท่าน ผมเข้าใจได้ไม่ยาก เพราะว่า
    มันขัดใจ กิเลส มันก็ธรรมดา ที่มันจะต้องแสดงอาการ สำแดงเดช

    ถ้าคนมีธรรม ก็จะต้องมองเห็นสิว่า สิ่งที่พูดไปมีเหตุมีผลอย่างไร ไม่ใช่ว่า ขัดกับตนแล้วเกิดเกลียด เกิดชังขึ้น ท่านนิวรณ์ ท่านจะมีเพลิงเผาใจมากกว่านี้ ผมแนะนำให้ท่าน ตั้งสติให้ดีแล้ว ค่อยๆ อ่าน แล้วเทียบเคียงธรรมให้ถูก ว่าอะไรคืออะไร

    คำถาม คือ ให้ท่านพูดมาว่า ที่ท่านว่า ห่างออกธรรมนั้น ตรงไหน ยกมาให้ได้
     

แชร์หน้านี้

Loading...