เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

เรื่องที่คุณอ่อมาโพสนี่เคยอ่านนะ แต่อ่านแบบละเอียดก็คราวนี้หล่ะ
เป็นเรื่องจริงที่ให้แง่คิดและมีสาระประโยชน์ด้วยครับ

เรื่องนี้เป็นตัวอย่างนะครับว่าในโลกของจิตวิญญาณที่ปราศจากเครื่องพรางเป็นอย่างไร ?
มีการหลงมิติของจิตวิญญาณให้เห็นอยู่บ้างนิโหน่ย อิอิ

จิตวิญญาณของน้องพิมพวดีฯ สามารถรู้เห็น อดีต-อนาคตได้จริงๆ เรื่องราวเหล่านี้็ล้วนเป็นเส้นทางแห่งกาลเวลาที่ปรากฎขึ้นพร้อมกันหมดเป็นปัจจุบัน และเราทุกคนก็กำลังเดินอยู่ในมิติแห่งกาลเวลาหนึ่ง-ในย่านความถี่หนึ่ง ซึ่งมีข้อจำกัดการรู้เห็นอยู่พอสมควร แต่ก็คือบทเรียนของการเป็นสิ่งมีชีวิตรูปแบบนึงที่เป็นไปเพื่อขยายประสบการณ์ให้กว้างไกลยิ่งขึ้นนะครับ

ส่วนเรื่อง"ผลกรรม"ที่ตามสนองหรือชดใช้นี่ หลายคนก็อาจรู้สึกหวาดกลัวและไปโทษว่า"กรรมบันดาล"ให้มันเป็นไปได้อีก ทั้งที่จริงๆแล้วหากเรามองให้ดีจะเห็นว่า"กรรม"ในมิติของจิตวิญญาณนั้นก็ย่อมเป็นปัจจุบันทันด่วนเช่นกัน พลังอำนาจแห่งปัจจุบัน ย่อมเป็นพลังอำนาจสูงสุดที่จะแก้ไขเปลื่ยนแปลงผลกรรมทั้งหลายได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความโกรธแค้น-เกลียดชังขนาดไหน ย่อมมลายหายไปด้วยความรักที่เรามีต่อทุกๆสรรพสิ่งไม่ช้าก็เร็วนะครับเพื่อนๆ :-

 

มีบางครั้งนะ ผมฝันถึงเพลงและฝันถึงวรรณกรรมที่ผมอยากจะทำ ในฝันรู้สึกว่าอลังการมาก แต่พอตื่นมาลืมหมดเลยว่าเนื้อหาในนั้นมันเป็นยังไง รู้สึกเพียงแค่อารมณ์สดๆที่เราได้รับมาน่ะครับช่างลึกซึ้งเหลือเกิน
หลังจากดูจิตมาสักพักนะครับ ผมรู้สึกว่าเวลาผมคิดเรื่องดีๆน่ะ มันจะรู้สึกถึงเรื่องดีอื่นๆผุดขึ้นมาตามๆกันเลย แต่เวลาเราคิดในด้านลบอย่างความหวาดกลัว การตัดสินผู้อื่น ความกลัว มันทำให้ผมดึงเอาความรู้สึกไม่ดีออกมาด้วย ดังนั้นผมจึงพยายามคิดเรื่องดีๆไว้นั่นแหละครับ พอคุณรู้สึกดีได้สักหนึ่ง คุณก็จะหาเรื่องรู้สึกดีได้เรื่อยๆเอง เราสร้างโลกแห่งความจริงจากความเชื่อจริงๆนะครับ
อีกอย่างนึงคือเรื่องทำสมาธิ นอกจากจะทำให้ฝันได้ชัดแล้ว ยังทำให้เราฝึกใช้อารมณ์จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดของเราให้พัฒนาขึ้นด้วย ดังนั้นการฝึกสมาธิจึงจำเป็นมากๆเลย ช่วงนี้ผมก็พยายามฝึกจับอารมณ์และเปลี่ยนอารมณ์ให้ไปในทางที่ดีตลอดเวลาถึงแม้ตอนนี้จะทำได้ยังไม่เต็มที่เท่าไหร่ แล้วก็ฝึกเรื่องความฝันด้วย แล้วก็ฝึกใช้เวลาจิตด้วยครับ เพราะผมกะว่าต่อไปนี้จะนอนเพียง3-4ชั่วโมงเท่านั้น ก็จะพยายามทำให้ได้น่ะครับ
แวะมาทักทายทุกคนนะครับ จะตามอ่านเรื่องของพวกคุณเรื่อยๆนะครับ

 

ขอบคุณคุณ Falkman มากๆ เรยค่ะที่เอาเรื่องราวครอบครัวของคุณเสียง โหสกุลมาฝาก ขจรวรรณเคยรู้จักกะพี่หน่อง ( สุทธิศักดิ์ ) และไม่ได้ติดต่อกันมานานร่วม 10 ปีแล้วตั้งแต่ออกจากที่ทำงานเก่ามา เมื่อไม่นานนี้ก็รู้สึกคิดถึงพี่เค้าขึ้นมาแว๊ปนึงแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร ก็พึ่งมาทราบข่าวคราวจากคุณ Falkman ว่าคุณเสียงได้เสียชีวิตแล้วนี่ล่ะค่ะ คุณเสียงเองก็ถือว่าเป็นลูกค้ารายหญ่ายของบริษัทด้วยจิ อิอิ

ขณะที่อ่านเรื่องราวของคุณเสียงและน้องพิมพวดี ก็รู้สึกขนลุกซู่ไปทั้งซีกซ้ายตั้งแต่หัวจอเท้าเรยยแต่ไม่รู้ความหมายความว่ายังงัย ค่อยไปถามพี่ๆ เค้าอีกทีละกันค่ะ ขอบคุณที่คุณ Falkman ให้โอกาสพวกเราได้ช่วยเหลือจิตวิญญาณของน้องเค้านะคะ...^_^
;aa24

 

ภาพนี้กะลังฝึกเดี่ยวครับคุณเซลล์ อีก 3 ชั่วยามจะโดด
หวังว่าข้างล่างจะมีเบาะนิ่มๆนะครับผู้กำกับฯ



[music]http://palungjit.org/attachments/a.523625/[/music]

เพลงประกอบฉากโดย..ลูกเกด..*-*

 

ฝันเหมือนกันค่ะ แต่เหมือนเป็นผู้ดู พวกเรากำลังเดินทางมาถึง
พี่นักเขียนรออยู่ เห็นคุณเซลล์ลงมาคนแรก ใส่เสื้อเชิร์ตแขนยาวลายๆ
กางเกงขาเดฟ(ที่ตอนนี้กะลังอินเทรน อยู่หน่ะค่ะ) แต่ทำไมดูตัวเล็ก
เหมือนเด็กวัยรุ่น ท่าทางกวนๆ ไม่เหมือนที่เห็นในรูป และที่คิดไว้เลย
อ้อ....แต่ ใส่แว่น แฮ่ะ (ไปเอาบุคคลิกใครมาค่ะเนี่ย..?)


อืมม์....รูปนั้น หวาดเสียวจังค่ะ คุณ mead หูยยยย....ขยับตัวนิดเดียว มีหล่น

เพลง เพราะมากค่ะ เพลงบรรเลง version นี้ เสียงกีต้าร์ โหยหา เอิ้ย ม่ะช่าย
เสียงกีต้าร์ หวานซึ้ง ตรึงอุรา มาก เป็นอีกแนวที่น่าฟัง พอๆกับแนวเร้กเก้ ที่ทีโบนทำ

ขอบคุณมากค่ะ ทั้ง คุณmead และ ลูกเกด........................

ที่มาคอยเติม ความสุนทรีย์ ให้กับห้องวิทย์ฯ แห่งนี้ ;39
อย่างสม่ำเสมอ เพื่อความเพลิดเพลิน...ทางอารมณ์

 

เห็นด้วยนะครับ ว่าเราสร้างโลก จากความเชื่อของเราเอง
ไปอ่านเรื่อง Mind over Matter ที่พี่นักเขียนเล่าให้ฟัง เป็นการทดลองที่ยืนยันหลายๆอย่างได้อย่างดีเลยครับ
ผมก็ตามอ่านเรื่องคุณกุญแจไขปริศนาเรื่อยๆเช่นกันครับ

ก่อนโดด เดี๋ยวขอเช็คเชือกที่ผูกกับขาก่อนนะครับ ว่าแน่นหนาพอรึยัง เดี๋ยวสั่ง cut ไม่ทันจะยุ่งครับคุณ mead
แต่ด้านล่างเป็นพื้นน้ำนิ่มๆ ไม่มีปัญหาครับ เซ๊ทฉากเรียบร้อยแล้ว เผื่อพลาด
อิอิ
เพลงนุ่มๆเข้ากับบรรยากาศสบายๆเลยนะครับ
นึกถึงฝัน ที่หนุ่มเรกเก้ กระโดดลงไปเลย อารมณ์ความรู้สึก คือ สนุกมากๆที่ได้ทำ และปล่อยตัวเองเป็นอิสระเลยครับ
ได้ข่าวว่า มีเพื่อนในบอร์ดไปโดดบันจี้จัมฟ์มาด้วยเหรอครับ คุณ mead ;aa13

บุคลิกที่เห็นในฝัน ดูแนวดีจริงๆครับคุณเดรด เดี๋ยวได้เจอกันในงาน meeting ลองดูนะครับว่าบุคลิกเหมือนที่เจอรึเปล่า
;aa8

 

มีคำนึงของ อ.อนาลัยที่กล่าวว่า​

ดอกไม้ไม่อาจเขียนบทกวีเกี่ยวกับตัวตนของมันได้
แต่เธอทั้งหลายสามารถทำได้​

และการทำเช่นนั้นจะทำให้สติสัมปชัญญะของเธอย้อนกลับเข้าไปพิจารณาตนเอง เมื่อสติสัมปชัญญะพิจรณาตนเอง มันจะขยายตัวและแปลงสภาวะไป ความรู้สึกนึกคิดของมนุษย์ซึ่งมีอยู่-เป็นอยู่-ดำเนินไปอย่างหลากหลายและเต็มไปด้วยความเป็นไปได้อันมั่งคั่ง เป็นส่วนหนึ่งของจิตวิญญาณซึ่งจำเป็นจะต้องพัฒนาสติสัมปชัญญะให้สามารถวินิจฉัยและประเมินค่าสิ่งต่างได้อย่างแม่นยำทีละเล็กทีละน้อย​

ในความฝันหลายครั้งรู้สึกว่าเราได้สร้างผลงานที่สุดอลังการออกมาได้มากมายครับคุณกุณแจฯ ทั้งศิลปะ บทกวีหรือวรรณกรรม ฯลฯ ยามตื่นก็ยังตรึงตาตรึงใจกับภาพในฝันนั้นอยู่เลยนะครับ แต่ก็มักจดจำได้ไม่ทั้งหมดทุกตัวอักษรทุกรายละเอียด รู้แต่ว่าประทับใจอยู่ลึกๆ..ถ้าเราจับเอาความรู้สึกนั้นขึ้นมาสร้างสรรค์ได้ในโลกยามตื่นด้วยการฝึกสติสัมปชัญญะเพื่อพิจารณายิ่งขึ้นไป จะทำให้เราเข้าถึงตัวตนภายในง่ายขึ้นครับ ยังไงก็ไม่นอนดึกหรือนอนน้อยจนอ่อนเพลียล่ะครับ เข้ามาคุยกันได้ตลอดนะครับคุณกุณแจฯ :-​

...มัดขาให้แน่นๆนะครับผู้กำกับฯ
ระหว่างทีโดดลงไป หนุ่มเร็กเก้คนนั้นคงดิ่งลงแม่น้ำด้วยใจตุ้มๆต่อมๆ
แม่น้ำที่เซ็ทฉากไว้จะแห้งขอดรึเปล่าไม่รู้..สูงจนมองไม่เห็นเลย
ตอนขึ้นมาปีนกันหลายชั่วโมง แต่ขาลงคงไม่กี่วิ..
(ขอเก็บเอกสารนี้เพื่อเป็นหลักฐานในชั้นศาลต่อไปนะครับ อิอิ)

เมื่อใดที่เราผ่านความกลัวไปได้..ความรู้สึกอิสระและปลอดภัย free fall จะเข้ามาแทนที่
น้องลีฯ ไปโดดหอสูง 56 ชั้นมาแล้วบอกว่าแรกๆขาสั่นแต่พอโดดลงไปจริงๆความรู้สึกก็เปลื่ยนไปเลย
มีโอกาสผ่านมาก็มาเล่าประสบการณ์บ้างนะ (น่าไปโดดจริงๆเหมือนกัน..)

 

ความฝัน
fficeffice" /><O></O>
เมื่อไม่นานมานี้ประมาณ 2 เดือน ได้มั้ง เคยฝันถึงเรื่องเกี่ยวกับการเดินทาง ในฝัน ได้เดินทางไปกับพี่สาวของเราเอง โดยมีจุดหมายเป็นที่แห่งหนึ่ง
พี่สาวเราใช้วิธีการเดินเท้าอย่างอดทน ในขณะที่เรานั่งพรมเหาะไป พร้อมกับคนอื่น ๆ เราจ้องมองพี่สาวเราที่กำลังเดินเท้าอยู่พร้อมเรียกพี่สาวให้มานั่งไปกับเราโดยบอกว่า

 

กลิ่นหอมของชีวิต

ข้อความเดิมจากพี่จิน

 

คิดถึงโปรแกรมเซพเดอะเวิลด์ มีความเป็นไปได้ที่พี่นักเขียนจะกลับมาสอนเรื่องนี้ เพราะจินตดวีเองเพิ่งจะฝันเมื่อคืนก่อนเอง ในฝันว่ามีคนมาบอกว่าให้รอดูจะเกิดภัยพิบัติ เราก็เฝ้ารอดู แต่ก็ไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้น มีเพื่อนมาบอกว่า

 

ช่วงนี้พูดถึงเรื่องชีวิตหลังความตามกันเยอะเลย
เกดเคยดูรายการที่คุณ ต๋อย ไตรภพ เป็นพิธีกรทางช่อง 7 แต่จำชื่อรายการไม่ได้ค่ะ วันนั้นเขาเชิญคนที่บอกว่าเห็นวิญญาณมาตั้งแต่เด็กๆเขาบอกถึงชีวิตหลังความตายว่าเป็นอย่างไร ลึกๆเกดคิดว่าทำไมมันช่างน่าหหดหู่อย่างนั้นหล่ะ เช่นที่บอกว่าวิญญาณประเภทหนึ่งจะถูกักให้อยู่ได้แค่ในบริเวณจำกัดกว้างไม่กี่กิโลเท่านั้น อีกทั้งจิตวิญญาณที่พึ่งพาตัวเองไม่ได้ต้องคอยขอส่วนบุญอยู่ร่ำไป จิตวิญญาณหลังความตายของเราจะเป็นเช่นนั้นเลยหรือ?

หลายคนมองชีวิตยามมีลมหายใจด้วยความทุกข์ แต่เมื่อตายไปแล้วยังต้องวนเวียนอยู่กับทุกข์ที่มากขึ้นไปอีก แล้วชีวิตนี้คืออะไรกัน?

มีช่วงหนึ่งที่เขาเอาภาพที่บอกว่าถ่ายติดวิญญาณในลิฟมาให้ท่านผู้นี้ดู เขาบอกว่าจิตวิญญาณคอตกเพราะเขาพยายามมาขอส่วนบุญแล้วไม่ได้รับ นอกจากนั้นเขาบอกว่ายังมีดวงวิญญาณอีกสองซึ่งกล้องมองไม่เห็น
ต่อมาหนังสือพิมพ์ลงว่าแท้จริงแล้วภาพนี้เป็นภาพตัดต่อที่เคยแพร่ในอินเตอร์เนตมาก่อนหน้านี้

หลังๆนี้เกดอ่านหนังสือ "อมตะแห่งจิตวิญญาณ" บ่อยค่ะ มีคำถามอยากถามคุณแม่นักเขียนแต่ก็ยังไม่ได้จังหวะ กลัวจะพาออกนอกประเด็นที่คุยกันอยู่

แต่เกดก็นึกคำถามที่เคยสงสัยระหว่างอ่านหนังสือไม่ออกในตอนนี้ ก็เลยมาจองพื้นที่เรื่อง อมตะแห่งจิตวิญญาณ เอาไว้ก่อนนะคะ เมื่ออ่านใหม่อีกตอนนั้นหล่ะก็จะมีให้สงสัยแน่นอน

เผื่อว่าระหว่างนี้จะมีพี่ๆคุยเรื่องนี้แล้วก็ได้แง่คิดไปด้วยค่ะ

อมตะแห่งจิตวิญญาณ-ภาคต้น ในบทที่8 หน้า 162

เธอทั้งหลายจะต้องเข้าใจว่าประสบการณ์ในการตายที่จิตวิญญาณพร้อมด้วยสติสัมปชัญญะของเธอจะเผชิญ-ขึ้นอยู่กับการตายแต่ละประเภท ปัจจัยหลักที่เหนี่ยวนำไปสู่ประสบการณ์ในการตายก็คือการพัฒนาของจิตวิญญาณและคุณลักษณะของวิธีการที่จิตวิญญาณจะรับมือกับประสบการณ์

ความคิดของเธอเกี่ยวกับธรรมชาติแห่งความเป็นจริง
เป็นปัจจัยหลัก
ที่จะย้อมสีหรือบิดเบือนประสบการณ์ในการตาย​

เธอจะตีความหมายประสบการณ์ในการตายไปในทิศทางที่สอดคล้องกับความเชื่อของเธอ แม้แต่ในปัจจุบันนี้ เธอก็ตีความหมายประสบการณ์ในชีวิตประจำวันของเธอไปตามความคิดและความเชื่อของเธอว่า อะไรคือสิ่งที่เป็นไปได้ และอะไรคือสิ่งที่เป็นไปไม่ได้

เมื่อถึงแก่ความตาย-จิตวิญญาณจะเปลี่ยนวิถีการจดจ่อด้วยสติสัมปชัญญะไปจากร่างกายเนื้อหนังของเธออย่างรวดเร็วหรือเชื่องช้าขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยด้วยกัน หากเธอเสียชีวิตด้วยความชรา ส่วนใหญ่ของบุคลิกภาพของเธอได้จากร่างกายไปแล้วก่อนหน้านั้นและได้เผชิญกับสภาวะใหม่ๆ

หากเธอกลัวความตาย ความกลัวจะทำให้เธอเผชิญกับความตายด้วยความตื่นตระหนก และปราถนาที่จะรักษาความเป็นบุคคลตัวตนของเธอไว้ ความกลัวและการปกป้องการเป็นบุคคลตัวตนจะทำให้สติสัมปชัญญะขาดความคมชัด มันจะทำให้เธอตกอยู่ในภาวะหมดสติหรือที่เรียกกันว่า"โคม่า"ซึ่งอาจต้องใช้เวลาที่จะฟื้นคืนสติกลับมา

ความเชื่อเรื่องนรกและไฟนรกจะสร้างภาพหลอนให้เธอเห็นขุมนรก ความเชื่อในสวรรค์จะสร้างภาพหลอนให้เธอเห็นภาวะของสวรรค์

ไม่ว่าเธอจะมีชีวิตอยู่เป็นร่างกายเนื้อหนังใกล้ตายหรือตายแล้ว เธอก็ยังคงสร้างโลกแห่งความเป็นจริงด้วยความคิดความเชื่อและความคาดหวังของเธอเสมอ เพราะมันคือธรรมชาติความเป็นจริงของจิตวิญญาณในโลกแห่งความเป็นจริงทุกโลกที่เธอดำเนินไป

แต่ฉันขอรับรองกับเธอว่าภาพหลอนเหล่านั้นจะเป็นไปเพียงชั่วคราว

นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่ว่า เราควรต้องตรวจสอบเนื้อหาสาระของการมีชีวิตอยู่เป็นอยู่ดำเนินไปในชาติภพที่พึ่งจากมา ต้องเรียนรู้เพื่อที่จะเข้าใจว่าประสบการณ์ชีวิตเหล่านั้นมีผลลัพธ์อย่างไรต่ออารมณ์ความรู้สึกนึกคิดของเธอและผู้อื่น

อีกทั้งเรื่อง จิตวิญญาณที่เป็นมัคคุเทศก์,โรงพยาบาลและบ้านพักหลังความตาย และอื่นๆอีมากมายค่ะ

หนังสืออมตะแห่งจิตวิญญาณเป็นเล่มที่อ่านแล้วขนลุกเกรียวกราวตลอด มีบางครั้งที่รู้สึกขนลุกซู่มากอย่างที่ในชีวิตไม่เคยเป็นมาก่อนคือรู้สึกเหมือนตัวเบาจนจะลอยได้เลย บางครั้งเวลาอ่านจดจ่อมากๆก็เหมือนต้องหลับตาลงเดี๋ยวนั้นและทำสมาธิในทันทีครั้งนั้นเป็นสมาธิง่ายจนแปลกใจและเกดเห็นเป็นพระชราในมโนภาพข้างหลังมีธรรมจักรภาพชัดเจนเลย พระท่านลุกขึ้นเอามือมาวางบนหัวแต่ในร่างกายจริงๆเมื่อลืมตาแล้วรู้สึกชาไล่ลงมาจากหัวเลยค่ะ วันนั้นมีการสนทนาระหว่างเกดกับท่านชัดเจน

หลังจากนั้นสิ่งที่เกดคิดและตั้งใจอยากทำก็ปรากฏเป็นรูปเป็นร่าง

อมตะแห่งจิตวิญญาณ-ภาคต้น หน้า 3-4

เธอทั้งหลายผู้หยิบหนังสือ โนวา อนาลัย ขึ้นมาอ่านจึงไม่ได้เป็นไปด้วยความบังเอิญ หากแต่เกิดจากความรักความผูกพันธ์และการเกื้อกูลกันในเบื้องลึกของจิตวิญญาณอย่างแท้จริง

แม้เธอทั้งหลายจะรู้สึกว่าหนังสือเล่มนี้อ่านเข้าใจยากแต่ฉันก็หวังอย่างยิ่งว่าเธอจะตระหนักได้ว่าการแสวงหาความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติแห่งความเป็นจริงของจิตวิญญาณ-อันเป็นต้นกำเนิดและแก่นแท้ของเธอ คือเป้าหมายของการมาถือกำเนิดเป็นร่างกายเนื้อหนัง หากเธอใช้สติสัมปชัญญะของเธอจดจ่อเอาใจใส่ที่จะเรียนรู้ จิตวิญญาณของเธอก็จะเข้าใจและเรียนรู้ได้อย่างน่าอัศจรรย์ เพราะข้อมูลความรู้ที่ฉันถ่ายทอดให้เธอทั้งหมดนี้ไม่ใช่ของใหม่ ฉันไม่ได้ถ่ายทอดในสิ่งที่เธอไม่รู้ ฉันเพียงแต่กลับมาเตือนความทรงจำให้กับจิตวิญญาณของเธอ


คำอมตะที่ว่า "คบคนพาลพาลพาไปหาผิด คบบัณฑิตบัณฑิตพาไปหาผล"
เกดเลยรู้สึกว่าการมีเพื่อนเป็น อ.อนาลัย นี่อุ่นใจจังแถมได้ความรู้ไม่อั้น อีกทั้งอยู่ใกล้เราแค่เพียงใจเต้นเหมือนที่ท่านได้กล่าวไว้จริงๆค่ะ :-D (ยิ้มแฉ่งๆ)

 

อารมณ์ของลูกเกดที่เขียนในตอนนี้คงจะเบิกบานเลยทีเดียว คงมีหลายอย่างที่อยากจะแชร์

เรื่องรายการของคุณไตรภพตอนที่เขียนถึงไม่ได้ดูครับ แต่ก็ได้ตามย้อนดูในอินเตอร์เนต เป็นรายการ CLUB 7 ตอนที่เชิญหมอตุ๊ยเอกซเรย์มาออกรายการครับ

 

ยิ้มด้วย....โคน



เมื่อเข้าใจ จึงจะรู้ และรัก ได้.....ใช่มะ น้องสาว...

 

มาพี่จิน เราจะเป็นนักรบกั้น<O</O
<O</O
<O</O

โดยอาศัยความเชื่อมั่นแห่งดวงตะวันสีทองแห่งบูรพทิศอันยิ่งใหญ่<O</O
จงดลบันดาลให้ดอกบัวแห่งปรีชาญาณในสระของกษัตริย์ริกเดนเบ่งบานขึ้น<O</O
ขอให้อวิชชาอันมืดมนแห่งสัตว์โลกจงภูกกำจัดไป<O</O
ขอให้สรรพสัตว์ทั้งมวลจงพบซึ่งปิติสุขในหลักธรรมอันสว่างไสวลึกซึ้ง ​

ตึ้ง ตึง ตึ่ง
ชัมบาลา ชัมบาลา<O</O
แด่เหล่านักรบแห่งชัมบาลา<O</O​

หน้าสุดท้ายของหนังสือชัมบาลา
(โปรดร้องเป็นเพลง)<O</O​

------------<O</O​

พูดถึงหนังสือชอบวรรณกรรมมั้ยคะ เกดชอบเรื่องนี้มากน่าร้ากก<O</O
อยากแนะนำให้อ่านเกดชอบอ่านให้น้องชายฟังค่ะ ชื่อ "นางนวลกับมวลแมวผู้สอนให้นกบิน" ค่ะ
พูดถึงไข่นกที่พลัดหลงมาสู่แมวดำตัวหนึ่งและเมื่อไข่ฟักเป็นลูกนกออกมา ทีนี้ใครกันจะสอนให้เจ้านกน้อยบิน เป็นเรื่องเรียบง่ายน่ารักที่ให้ข้อคิดและแง่มุมงดงามของชีวิตค่ะ<O</O
<O</O
ถัดมาเป็นหนังสือ "The Power of Now" ของคุณ Eckhart Tolle ค่ะ<O</O
<O</O
เอามายกตัวอย่างนะคะ <O</O
<O</O

The beginning of freedom is the realization<O</O
that you are not "the thinker."<O</O
The moment you start watching the think,<O</O
a higher level of consciousness becomes activated.<O</O
You then begin to realize that there is a vast realm<O</O
of intelligence beyond thought, that thought is only a<O</O
tiny aspect of that intelligence .<O</O
You also realize that all the things that truly matter-beauty,love,creativity,joy.inner peace-<O</O
arise from beyond the mind.<O</O​

you begin to awaken.<O</O​

<O</O​

แล้วคุณจะตื่นขึ้น!<O</O
แนะนำเผื่อจะอ่านแล้วแปลมาเล่าให้เกดฟังค่ะ 55<O</O
เกดชอบที่ว่าทุกสิ่งล้วนสำคัญในตัวมัน ความงาม,ความรัก,ความสร้างสรรค์,ความสนุกหรรษา,ความสงบข้างใน ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเรารู้ว่าเราไม่ใช่ผู้คิดและเริ่มต้นดูความคิดซึ่งมันจะยกระดับขั้นของความรู้ยกระดับปัญญาของเรา<O</O
<O</O

หนังสือเล่มนี้เกดว่าก็เป็นการฝึกสมาธิ เพียงแต่ไม่มีคำจำกัดความของศาสนาใดมาเกี่ยวข้องเลย ไม่เลยจริงๆ ให้เราสงบกับขณะปัจจุบัน และจะพบพลังมากมาย<O</O
<O</O
และอื่นๆค่ะ<O</O