หลวงปู่แหวนมาโปรดในนิมิตร(ฝัน)

ในห้อง 'หลวงปู่แหวน' ตั้งกระทู้โดย psombat, 18 มีนาคม 2010.

  1. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    ไม่น่าจะผิดหรือจะถูกนะครับ

    การที่ท่านเสด็จมาโมทนาบุญด้วย เราก็ได้บุญเพิ่มอัตโนมัติอยู่แล้วครับ

    พระท่านคงเปรียบบุญกุศลหรือทรัพย์ภายนอก(กรณีเป็นเทพ) เพราะบุญท่านมากกว่าเรา ท่านถึงไปเกิดในภพภูมิที่สูงกว่าเรา ท่านจึงไม่ปรารถนาบุญอันน้อยนิดจากเรา แต่แน่นอนว่าท่านย่อมโมทนาสาธุบุญที่เรากระทำครับ

    อนึ่ง...ท่านได้ชี้แนะเพิ่มเติมว่า เทวดา อินทร์พรหม ท่านเสด็จลงมาฟังธรรม กราบไหว้ ปกปรักรักษาคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ ยิ่งกว่าชีวิต
    ดังนั้น พวกเราโปรดไปสักการะ ปกปรักรักษาคุณพระศรีรัตนตรัยทั้งสามประการ หรือบำเพ็ญกุศลภาวนาให้ถึงขั้นเถิด ท่านจึงจะโปรด

    โลกทิพย์ท่านนับถือกันทางบุญกุศล คุณธรรม (ทาน ศีล ภาวนา) หากผู้ใดบุญมากก็จักอยู่สูงกว่า (เป็นที่รู้กันดี)
    พระอริยะเจ้าที่เทวดา อินทร์ พรหม เสด็จลงมาสักการะ (ซึ่งท่านก็กลัวหมดบุญเช่นกัน) ก็เกิดจากคนธรรมดาที่บำเพ็ญบุญบารมี โดยเฉพาะภานา,ปัญญาบารมี(เส้นทางแห่งความหลุดพ้น) ที่ทำให้เกิดบุญกุศลมากกว่าใดๆ ก็จักยกระดับจิตกับคุณธรรมท่านให้สูงขึ้น ควรค่าแก่เทพเทวาลงมาสักการะ เป็นต้นครับ
     
  2. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    เป็นไปตามนี้...เหมาะสมดีครับคุณอ๊อด

    - แต่ -
    1. หากไม่มีพระอริยะเมตตาสงเคราะห์
    2. หากไม่ญาณวิเศษในการสื่อสารทางโลกทิพย์
    ต้องอาศัยตัวช่วยคือ...
    - อัญเชิญพระแม่ธรณี
    - เทพเทวาที่ดูแลสถานที่นั้นๆ
    - ตลอดทั้งพญายมราช (กรณีหลงตาย&ทุกคนต้องเจอท่าน)
    - หรือเทวดาที่สถิตในองค์พระที่เราห้อยคอ
    มาเป็นประจักษ์พยานบุญที่เรากระทำในทุกๆวาระด้วย จักดียิ่งขึ้นครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤษภาคม 2011
  3. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    ผังความคิดเชิงระบบ "พระพุทธเจ้าทรงคิดอะไร?"
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
  5. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    มาจากไหน? เคยอ่านธรรมะหลวงพ่อฤาษีฯท่าน แต่ลืมเสียแล้ว
    คุ้นๆว่าประมาณพญายมราช ท่านพาหลวงพ่อฯไปเยี่ยมเมืองนรก
    ในพลังจิตนิแหละครับ หุหุ
     
  6. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    ขอบคุณแทนเพื่อนๆครับ ผม post ไฟล์เต็มไม่ได้
    เป็นว่า...อยากหาอะไรไปดูใน sky drive ผมละกัน หุหุ
     
  7. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    นี่ขนาดพี่ท่าน น่าจะยังรู้ไม่หมดหนา :) :cool:

    ผู้มีประสบการณ์กับพระพิมพ์วังหน้า วังหลวง
    หากมีกำลัง ยินดี ไม่กลัวภัย เลี่ยมพระ อาราธนาพระเป็น
    เพชร ทอง อัญมณี จึงจะคู่ควรครับ (ความเห็นส่วนตัว)
     
  8. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    [​IMG]

    ชินราชอินโดจีน ผมเคยคลั่งอยู่พักหนึ่ง (ช่วงที่ไม่รู้ทิศทางของตัวเอง) เช่ามา 3-4 องค์ ณ ตอนนี้ไม่เหลือแล้ว

    เป็นพระพิมพ์ที่พระเกจิในยุค 2485 อธิษฐานจิตมากมาย พิธี มวลสาร เจตนาดี ทว่าอิทธิคุณไม่อยากพูดออกอากาศครับ
     
  9. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    ก็ดีคนละอย่างกันครับ หุหุ

    ผ่านสื่ออิเลคทรอนิคย์ไปได้เร็วและไกล
    เป็นการเชิดชูเกียรติท่านเจ้าคุณพระพรหมคุณาภรณ์(ประยุทธ์ ปยุตโต) ที่ได้ร่างขึ้นมาครั้งเมื่อดำรงฐานะพระศรีวิสุทธิโมลี ๒๕๑๔
    โดยอรรถาธิบายจากธรรมะท่านพุทธทาสอีกทีหนึ่งอ่ะครับ
     
  10. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    ไม่มีอะไรมาก (อันที่จริงก็มีมาก)

    เป็นว่า...ไม่แตกต่างจากพระพิมพ์หลวงพ่อพระพุทธชินราชที่สร้างและเสกในวัดใหญ่ยุคหลังๆ เฉกเช่นเดียวกันกับอิทธิคุณหลวงพ่อพระพุทธโสธร

    ดังนั้น ผู้ปราถนาจักอัญเชิญพระพิมพ์สำคัญทั้งสองพระองค์ข้างต้น โดยทำบุญบูชาน้อยบาท ก็หาได้ที่วัดหรือเสกสร้าง เจตนาดี ยุคหลังเถิด
    ไม่ต้องไปหากับเซียนที่ทำราคาขึ้นมาสูงหลายหมื่นถึงแสนเลย เผลอๆอาจได้ของเก๊เลียนแบบปาดคออีก โดยเฉพาะที่มีโค๊ด...หุหุ แต่อยากได้คุณค่าทางจิตใจว่า ของฉันเก่า ใส่แล้วเท่ห์ เกร็งกำไร ขายได้เวลาอับจน ก็อีกเรื่องนึงคร๊าบ

    ประทานโทษที่ตรงเกินไปเด๊อ...
     
  11. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    ด้วยความยินดีครับคุณอ๊อด ก็เป็นการขยายความด้านวิทยาทานให้กระจ่างขึ้นอีกขั้น ได้บุญหลายต่อ เผื่อผู้ที่กำลังหลงทาง เดินตามรอยผู้ที่คนทั่วไปเรียกว่าเซียนพระ

    ทั้งนี้ หากข้อความใดไม่ถูกต้อง เหมาะสม ไม่ถูกใจก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับผม

    พระพิมพ์ของคุณอ๊อดหรือเพื่อนธรรม โดยเฉพาะพระพิมพ์วังหน้าหรือพญาเหล็ก...สามารถห้อยเดี่ยวได้ทุกองค์เลยครับ

    วันนี้ผมอาจพูดมาก ชดเชยจากที่หายไปนาน ในช่วงปรับสภาพความ คิด ทิศทาง เป้าหมายในการดำเนินชีวิต ก็โปรดเอ็นดูด้วยนะครับผม
     
  12. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    ไม่ได้ฟลุคอย่างเดียว สงสัยมีพระดี เทวดาดูแลท่านดี 5555+

    วันนี้ห้อยอาไรครับเนี่ย????

    ไปทานข้าวก่อนนะครับ
     
  13. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    อืม...พระที่คุณอ๊อดห้อยหาได้ยาก มีครบไม่กี่คนใน 66 ล้านคนของประชากรไทยแล้วหล่ะ :) ก็ไม่ได้มากในสายตาผู้นิยมพระเครื่องหรอกนะครับ หุหุ

    แต่ถ้าหากมองผ่านสายตาผู้นิยมพระพิมพ์วังหน้าและผู้ศึกษาจากอาจารย์ปู่ประถมฯ ก็จักพูดกันว่า...
    โห..ขนาดออกไปรบทัพจับศึกได้กันเลยทีเดียว หุหุ

    ของผมอัญเชิญ TOP3ประกบTOP4 + เบี้ยแก้บุทอง(ตัวเมีย) ครับ

    พลังที่ได้รับรู้จากองค์ TOP1-4
    ท่านมักจะกระจายออกจากตัวผู้อาราธนาแต่เพียงฝ่ายเดียว
    จึงไม่ค่อยแปลกที่พวกเราคุยกันเอง ได้นานเป็นพิเศษ หุหุ
     
  14. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    เหตุแห่งความสุขที่แท้จริง

    ๏ การแผ่เมตตาปรารถนาดีต่อกัน เมตตา มิตร ไมตรี สามคำนี้เป็นคำหนึ่งอันเดียวกัน เมตตา คือความรักใคร่ปรารถนาจะให้เป็นสุข มิตร คือผู้มีเมตตาปรารถนาสุขประโยชน์ต่อกัน ไมตรี คือความมีเมตตาปรารถนาดีต่อกัน ผู้ปรารถนาจะปลูกเมตตาให้งอกงามอยู่ในจิต พึงปลูกด้วยการคิดแผ่ ในเบื้องต้นแผ่ไปโดยเจาะจงก่อน ในบุคคลที่ชอบพอ มีมารดาบิดา ญาติมิตรเป็นต้น โดยนัยว่าผู้นั้นๆ จงเป็นผู้ไม่มีเวร ไม่มีความเบียดเบียน ไม่มีทุกข์ มีสุขสวัสดิ์รักษาตนเถิด เมื่อจิตได้รับการฝึกหัดคุ้นเคยกับเมตตาเข้าแล้วก็แผ่ขยายให้กว้างออกไปโดยลำดับดังนี้ ในคนที่เฉยๆ ไม่ชอบไม่ชัง ในคนที่ไม่ชอบน้อย ในคนที่ไม่ชอบมาก ในมนุษย์และดิรัจฉานไม่มีประมาณ เมตตาจิต ย่อมให้ความสุขแก่ชนส่วนรวมตั้งแต่สองขึ้นไปด้วย คือหมู่ชนที่มีไมตรีจิตต่อกัน ย่อมหมดความระแวง มีโอกาสประกอบการงานอันเป็นประโยชน์แก่ตนเองและหมู่เต็มที่ มีความเจริญรุ่งเรือง และความสงบสุขโดยส่วนเดียว

    ๏ ผู้สุจริตย่อมเป็นสุขทั้งโลกนี้และโลกหน้า เพราะเหตุนี้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้เป็นพระบรมศาสดาของเราทั้งหลาย ผู้ทรงมีพระเมตตาไมตรี มีมิตรภาพในสรรพสัตว์ ทอดพระเนตรเห็นการณ์ไกล จึงได้ทรงประทานศาสนธรรมไว้หนึ่งฉันทคาถา แปลความว่า บุคคลพึงประพฤติธรรมให้เป็นสุจริต ไม่พึงประพฤติธรรมให้เป็นทุจริต ผู้มีปกติประพฤติธรรมย่อมอยู่เป็นสุขในโลกนี้และในโลกอื่นดังนี้ เพราะฉะนั้น ผู้ปรารถนาสุข เมื่อจับตัวเหตุการณ์แห่งความสุขและความทุกข์ได้แล้ว ควรเว้นทุจริตอธรรมอันเป็นเหตุของความทุกข์ ควรประพฤติสุจริตธรรมอันเป็นเหตุของความสุข ถ้าประพฤติดังนี้ชื่อว่า ได้ก่อเหตุการณ์ของความสุขสมบัติไว้แล้ว

    ๏ ผู้ประพฤติธรรมสุจริตเป็นสุขทุกทิวาราตรีกาล ถ้ามีปัญญาในชีวิตปัจจุบันของผู้ประพฤติสุจริตธรรม หรือทุจริตอธรรมเกิดขึ้น พึงทราบว่า ในคราวที่สุจริตธรรมที่ได้ทำไว้แล้วกำลังให้ผลอยู่ ผู้ประพฤติทุจริตอธรรมย่อมพรั่งพร้อมด้วยสุขสมบัติและความสดชื่น ร่าเริง อาจสำคัญทุจริตธรรมดุจน้ำหวาน และอาจเย้ยหยันผู้ประพฤติสุจริตธรรมได้ แต่ในกาลที่ทุจริตอธรรมของตนให้ผล ก็จักต้องประจวบทุกข์พิบัติซบเซาเศร้าหมอง ดุจต้นไม้ในฤดูแล้ง อนึ่ง ในคราวทุจริตอธรรมที่ได้ทำไว้แล้วกำลังให้ผลอยู่ ผู้ประพฤติสุจริตธรรมก็ยังต้องประสบทุกข์พิบัติซบเซาอับเฉาอยู่ก่อน แต่ในกาลที่สุจริตธรรมของตนให้ผล ย่อมเกิดสุขสมบัติย่างน่าพิศวง ดุจต้นไม้ในฤดูฝน แม้สุจริตธรรมจักยังไม่ให้ผลโดยนัยที่กล่าวนี้ กาย วาจา และใจ ของตนก็ย่อมปลอดโปร่งเป็นสุขสงบ เป็นผลที่มีประจำทุกทิวาราตรีกาล

    จาก : พระประวัติและปฏิปทา สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช
     
  15. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    <TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 5 คน ( เป็นสมาชิก 3 คน และ บุคคลทั่วไป 2 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>IT Man, somlatri+, มูริญโญ่+ </TD></TR></TBODY></TABLE>

    กราบสวัสดีครับท่านพี่มูฯ
    สบายดีและรักษาสุขภาพด้วยนะครับ
     
  16. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    อ้าว...แล้วสีเขียวค่อนไปทางดำ(สีชา) กับสีเหลืองเล่าครับ หุหุ :)
     
  17. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    สาธุ...ต้องกราบขอบพระคุณท่านผู้เลือกให้

    ผมไม่กล้าอัญเชิญติดตัวครับ
    ได้อัญเชิญท่านขึ้นบูชาร่วมกับกลุ่มพระบรมโพธิสัตว์ เทพเทวา
    กับถวายน้ำทุกเช้าครับ
     
  18. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    หน้าที่ 100 นี้ ขออนุญาตเสริมธรรมะให้มากๆหน่อยนะครับ

    หลงใหลในความคิดของตัวเอง

    คนที่ไม่ได้ปฏิบัติธรรม ไม่เข้าใจธรรมะ ไม่เข้าใจตัวเอง
    ก็มักจะ หลง หลงในความรู้สึก หลงใหลในความคิดของตัวเอง
    มีแต่อารมณ์ยินดี ยินร้าย จิตไม่สงบ
    ฟุ้งซ่านไป ทุกข์ไป ปรุงไป อยู่อย่างนั้น เลยเป็นทุกข์มาก
    เรียกว่าคนนั้นนั่นแหละจะเป็นคนคิดมาก มีอารมณ์มาก
    ไม่เข้าใจตัวเอง ไม่เข้าใจธรรมะ ความสงบก็ไม่ค่อยมี
    เพราะพอเชื่อตามความรู้สึกของตนเอง มันก็ปรุงไปเรื่อยๆ


    ธรรมะ คือ อนิจจัง ไม่เที่ยง ไม่แน่นอน
    ความคิด ความรู้สึกของตัวเอง ก็ไม่แน่นอน อันนี้เราก็ไม่เห็น

    เรามีแต่ถือทิฏฐิมานะ เอาแต่ใจตัวเอง
    เราสังเกตดูก็ได้ ความรู้สึกเป็นอย่างไร


    ยกตัวอย่างอาหารก็ได้
    อาหารที่อร่อย บางทีก็มีโทษ ที่ไม่มีประโยชน์ก็มีมาก
    อาหารที่ไม่อร่อย แต่มีประโยชน์มากก็มีอยู่ แต่ถ้าเราติดอาหาร
    แล้วก็กินแต่ของอร่อยๆ ติดรสอร่อยก็เกิดโทษมาก

    ประเทศที่เจริญบางทีก็มีโรค เจ็บไข้ป่วยมากขึ้น เพราะเลือกแต่
    อาหารที่อร่อยๆ แล้วก็กินไปเรื่อยๆ กินไปเรื่อยๆ ก็ทำให้เกิดโทษ
    ทุกวันนี้มนุษย์ก็เห็นอันนี้ ก็พยายามเลือกอาหาร สิ่งที่ไม่อร่อยก็กิน
    สิ่งที่อร่อยชอบมาก บางทีก็งดเสีย พยายามรับประทานอาหารที่มีประโยชน์


    ความรู้สึกนี่ก็เหมือนกัน ปกติเราก็หลงอยู่อย่างนั้น
    หลงคิดว่า สิ่งที่ถูกใจมันดี สิ่งที่ไม่ถูกใจก็ไม่ดี
    ถูกใจก็ดี ไม่ถูกใจก็ไม่ดี
    นี่ก็เหมือนคนติดในอาหาร หลงอาหาร
    ชอบอะไรก็กินไปเรื่อยๆ จนเกิดโทษ สุขภาพไม่ดี

    อารมณ์ที่เรารับทางตา หู ลิ้น จมูก กาย ใจ
    จะถูกใจ หรือไม่ถูกใจ ก็ต้องตั้งสติ


    ถ้าเราปฏิบัติธรรม ก็ต้องใช้ปัญญา
    อะไรผิดเราก็สามารถพิจารณาได้.…. เหมือนอาหาร

    คำพูดต่างๆ สิ่งที่เห็นต่างๆ เรารีบระงับความรู้สึก
    ทำใจสงบแล้วจึงคิด ก็จะคิดดีๆ ได้


    การฝืนความรู้สึกของตัวเอง ต่อสู้กับความรู้สึกของตัวเอง

    นั่นแหละคือการปฏิบัติธรรม

    ข้อคิดนานาสาระธรรมโดย: พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก
    วัดป่าสุนันทวนาราม
     
  19. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    โมทนาสาธุ สาธุ สาธุครับ
     
  20. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    สงสัยวันนี้เราได้คุยกันสองคน ห้อย TOP4 ที่ไร โลก (งาน) สงบทุกที
    พระแก้วองค์นี้...สวย...สะดุดตาผมตั้งแต่แรกเจอแล้วหล่ะครับ
    (ครอบแก้วก็เหมาะสมดี)

    [​IMG] [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...