สายใต้พระนางตรา ๑๐๐ ปี พระพุทธนิมิตร พ่อท่านพลับ ๒๕๐๔

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Jumbo A, 17 สิงหาคม 2022.

  1. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,762
    ค่าพลัง:
    +21,343
    fb_img_1725406783494-jpg.jpg

    เหรียญหลวงพ่อวราวัดโบสถ์โพธิ์ทองให้บูชา 170 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ
    (ปิดรายการ)
    IMG_20240907_004119.jpg IMG_20240907_004140.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กันยายน 2024
  2. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    7,962
    ค่าพลัง:
    +6,871
  3. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,762
    ค่าพลัง:
    +21,343
    FB_IMG_1725650682461.jpg

    พระผงหยกรูปเหมือนรุ่นแรกหลวงพ่อวิชัยถ้ำผาจมปี๒๕๓๗
    หลวงพ่อวิชัยท่านเป็นพระผู้ทรงสุปฏิปันโน ผู้ทรงละแล้วซึ่งทางโลก ในสายหลวงปู่มั่น ท่านสำเร็จวิชาเสกหยกกันมะเร็งจากครูบาอาจารย์ที่มาสอนท่านในสมาธิ ท่านยังกล่าวยืนยันและยอมรับว่า หยกของท่านที่ผ่านการปลุกเสกแล้วสามารถช่วยปรับธาตุในร่างกายให้แข็งแรง ดูดสารพิษ ดูดโรคภัยในร่างกายได้ โดยเฉพาะโรคมะเร็งที่ท่านได้กล่าวยืนยัน
    ท่านก็เล่าว่า...มีลูกศิษย์ท่านคนหนึ่งเป็นฝรั่งอยู่ต่างประเทศ เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย (จริงๆ ท่านบอกแต่จำไม่ได้ว่าเป็นมะเร็งที่ใด)
    หมอที่นั่นบอกว่าอยู่ได้ไม่เกิน 3 เดือน มาเจอท่านในสภาพตัวเหลือง ผอมจนเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก
    ท่านเห็นแล้วก็เวทนา ก็เลยนำกำไลหยกมาอธิษฐานตามวิชาให้เขาไปใส่ โดยกำชับว่าให้ใส่ติดตัวไว้ตลอดเวลา
    จากที่หมดหวังอาการก็ค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ จนแพทย์ที่ต่างประเทศยังแปลกใจ
    ทุกวันนี้เขาก็ยังมีชีวิตอยู่ แถมอ้วนท้วนผิวพรรณดีจนเหมือนคนไม่ได้เป็นมะเร็งมาก่อน
    ชาวต่างชาติคนนี้นับถือหลวงพ่อมากและมากราบท่านเป็นประจำ
    เรียกท่านเป็น...ปาป๋า....เพราะเหมือนเป็นผู้ที่ให้ชีวิตใหม่กับเขาเลยทีเดียว
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    ให้บูชา 270 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20240907_004015.jpg IMG_20240907_004036.jpg
     
  4. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,762
    ค่าพลัง:
    +21,343
    1725789978904.jpg

    พระสมเด็จไม่เสร็จทุกรายถ้าได้ของแท้พิธีใหญ่แบบนี้
    พระสมเด็จวัดเกศไชโยเนื้อกระเบื้องหลังคาโบสถ์ปี๒๕๒๑
    พิธีพุทธาภิเษกครั้งยิ่งใหญ่ของวัดไชโย ในงานสมโภช ๑๙๐ปีแห่งชาตะของสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี)
    รายนามพระคณาจารย์ เจริญพระพุทธมนต์ บริกรรมภาวนาและสวดพุทธาภิเษก ดังนี้
    ๑.หลวงปู่คำแสน วัดป่าดอนมูล เชียงใหม่
    ๒.หลวงปู่สุด วัดกาหลง สมุทรสงคราม
    ๓.หลวงปู่เปรื่อง วัดสุวรรณภูมิ สุพรรณบุรี
    ๔.พระราชมงคลมุนี วัดชัยมงคล อ่างทอง
    ๕.พระมหาพุทธพิมพาภิบาล วัดไชโย อ่างทอง
    ๖.หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กทม.
    ๗.หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม กาญจนบุรี
    ๘.หลวงพ่อน้อย วัดหนองโพธิ์ นครสวรรค์
    ๙.พระครูประสานนวกิจ วัดพระนอนจักร์สีห์ สิงห์บุรี
    ๑๐.หลวงพ่อเชื้อ วัดใหม่บำเพ็ญบุญ ชัยนาท
    ๑๑.หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลย์ สุพรรณบุรี
    ๑๒.หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม นครปฐม
    ๑๓.ครูบาพรหมจักร วัดพระพุทธบาทตากผ้า ลำพูน
    ๑๔.พระครูศรีรัตนาภิวัฒน์ วัดวิเศษชัยชาญ อ่างทอง
    ๑๕.พระครูอดุลสุดกิจ วัดโคกพุทธา อ่างทอง
    ๑๖.พระครูใบฎีกาเจริญ วัดอ่างทองวรวิหาร อ่างทอง
    ๑๗.หลวงพ่อสำเนียง วัดเวฬุวนาราม นครปฐม
    ๑๘.หลวงพ่อยงยุทธ วัดเขาไม้แดง ชลบุรี
    ๑๙.หลวงพ่อสด วัดหางน้ำสาคร ชัยนาท
    ๒๐.หลวงพ่อคูณ วัดสระแก้ว นครราชสีมา
    ๒๑.พระอธิการสน วัดไทร อ่างทอง
    ๒๒.หลวงพ่อทอง วัดก้อนแก้ว ฉะเชิงเทรา
    ๒๓.หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส จันทบุรี
    ๒๔.พระอาจารย์จำเนียร วัดละมุด อ่างทอง
    ๒๕.หลวงปู่วัน อุตตโม วัดถ้ำอภัยดำรงค์ธรรม สกลนคร
    ๒๖.หลวงปู่สิม พุทธจาโร วัดสันติสังฆารามพรรณานิคม สกลนคร
    ๒๗.หลวงปู่คำแหง จนฺทสาโร วัดป่าสุวรรณนิเทศทรงธรรม ร้อยเอ็ด
    ๒๘.หลวงปู่คำมี วัดถ้ำคูหาสวรรค์ ลพบุรี
    ๒๙.พระราชสุวรรณโมลี วัดต้นสน อ่างทอง
    ๓๐.พระราชสังวรญาณ(เจ้าคุณสนิท) วัดศีลขันธาราม อ่างทอง
    ๓๑.พระวิเศษชัยสิทธิ์ วัดอ่างทองวรวิหาร อ่างทอง
    ๓๒.หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี
    ๓๓.หลวงปู่เส่ง วัดกัลยาณมิตร กทม.
    ๓๔.หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม สิงห์บุรี
    ๓๕.หลวงพ่อจรัล วัดอัมพวัน สิงห์บุรี
    ๓๖.พระครูสิริปัญญาธร วัดตูม อยุธยา
    ๓๗.หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง สมุทรสาคร
    ๓๘.พระครูวิบูลคุณาวัตร วัดน้อย อ่างทอง
    ๓๙.พระครูวิรัตนธรรมวัตร วัดรางฉนวน อ่างทอง
    ๔๐.พระอาจารย์ผ่อง จินดา วัดจักรวรรดิ์ราชาวาส กทม.
    ๔๑.พระอาจารย์บัว วัดแสวงหา อ่างทอง
    ๔๒.หลวงพ่อชม วัดอินทราราม ชัยนาท
    ๔๓.หลวงพ่อบาง วัดหนองพลับ สระบุรี
    ๔๔.หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ นครปฐม
    ๔๕.หลวงปู่พล วัดหนองคณฑี สระบุรี
    ๔๖.หลวงพ่อพุทธิ วัดวงศ์พาสน์ อ่างทอง
    ๔๗.หลวงพ่อสวน วัดบางกระดาน ตราด
    ๔๙.พระอาจารย์สมภพ วัดสาลีโข นนทบุรี
    ๕๐.หลวงปู่แว่น วัดป่าสุทธาวาส สกลนคร
    ๕๑.หลวงปู่ธูป วัดสุนทรธรรมทาน กทม.
    .. มวลสารเนื้อกระเบื้องโบสถ์อายุนับร้อยปี โบสถ์เก่าตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๔ .. ได้รับพลังพุทธมนต์นับครั้งไม่ถ้วน รวมพิธีใหญ่ๆอย่างสร้างเขื่อน ปี๒๔๙๕ พิธีทุกวันพระที่ลงปาฏิโมกข์ สวดมนต์ทำวัตร แค่นี้พุทธคุณก็สะสมอยู่ในตัวมวลสารแล้วครับ รวมทั้งพุทธคุณจากพระเกจิระดับประเทศในยุคนั้นหลายสิบท่าน...พระดีมีประวัติ เก่าแก่เกือบห้าสิบปี
    ดูรายนามครูบาอาจารย์ที่มาปลุกเสกก่อนครับ
    ขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูง
    มีให้ เลือก ๓ องค์...๑-๒-๓ เลือกได้เลยครับ
    ให้บูชาองค์ละ 220 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ


    IMG_20240908_164520.jpg IMG_20240908_164717.jpg IMG_20240908_164854.jpg IMG_20240908_164942.jpg IMG_20240908_165026.jpg IMG_20240908_165125.jpg
     
  5. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,762
    ค่าพลัง:
    +21,343
    เหรียญสมเด็จสังฆราช สุก ไก่เถื่อน วัดราชสิทธิธาราม(วัดพลับ) ปี2516 พิธีใหญ่ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี และคณาจารย์ที่มีชื่อเสียงอีกหลายๆรูป ฯลฯ ร่วมปลุกเสกเมื่อวันที่15มีนาคม2516 ในพิธีนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชและสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินไปยังวัดราชสิทธาราม หรือวัดพลับ บางกอกใหญ่ กทม. เพื่อประกอบพิธีเททองหล่อพระประธาน ประดิษฐานไว้ในพระวิหาร วัดพลับ แห่งนี้ ในโอกาสนี้นั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่9 ได้พระราชทานพระประธานองค์นั้นว่า "พระพุทธสิทธิมงคล" นับเป็นมงคลยิ่งแก่ วัดราชสิทธาราม (วัดพลับ) อันเป็นวัดที่รัชกาลที่๑ ได้สร้างถวายสมเด็จพระสังฆราชญาณสังวร สุก ไก่เถื่อน พร้อมกันนั้ทางวัดได้จัดพิธีมหาพุทธาภิเษก อย่างยิ่งใหญ่ตามแบบฉบับโบราณกาล ที่วัดแห่งนี้ เพื่อเป็นอนุสรณ์ศิริมงคลแก่พุทธศานสนิกชน วัตถุมงคลที่จัดสร้างและนำเข้าพิธีมหาพุทธาภิเษก ประกอบด้ว เหรียญรูปเหมือนสมเด็จพระสังฆราช สุกไก่เถื่อน รูปเหมือนหล่อโบราณ พระสมเด็จเนื้อผง และพระบูชา เพื่อนำรายได้จากการนี้ไปเป็นค่าก่อสร้างและบูรณะถาวรวัตถุ รวมทั้งเสนาสนะต่างภายในวัดราชสิทธิ สืบต่อไปภายหน้า

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    ให้บูชา 220 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ(ปิดรายการ)

    IMG_20240908_175104.jpg IMG_20240908_175133.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กันยายน 2024
  6. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,762
    ค่าพลัง:
    +21,343
    FB_IMG_1725826771165.jpg



    ประวัติ ความเป็นมาครับ
    วัดป่ากอสุวรรณาราม อ.นาหม่อม จ.สงขลา
    พระอริยะเจ้าโพธิสัตว์แดนใต้ผู้ทรงญาณวิเศษ
    โดย ศุภักษร ลอยสุวรรณ์
    ตอน3
    ประวัติของพ่อท่านทอง สุสังวโร...พ่อท่านทอง สุสังวโร เกิดเมื่อวันเสาร์ เดือน 4 ปีระกา พ.ศ. 2452 เป็นบุตรของนายนวน และนางเภาทอง ห่อเพชร บิดาและมารดาของพ่อท่านทอง มีบุตรด้วยกัน 3 คน คือ นายแดง นายทอง (พ่อท่านทอง สุสังวโร) ส่วนคนที่ 3 นั้นเสียชีวิตตั้งแต่เด็กๆ เมื่อพ่อท่านทอง สุสังวโร อายุได้ 3 ขวบ มารดา (นางเภาทอง ห่อเพชร) ได้ถึงแก่กรรม บิดา (นายนวน ห่อเพชร) พาไปฝากไว้กับลุงยอด กับป้าหนุ้ย เลี้ยงที่บ้านลุงและป้าของพ่อท่านทอง สุสังวโร ด้านการศึกษา พออายุได้ 6 ขวบ ลุงยอด ห่อเพชร ได้พาพ่อท่านทองไปเข้าโรงเรียนที่วัดแม่เปียะ พ่อท่านทองเรียนหนังสือยังมิได้จบชั้น ป.4 ป้าดำซึ่งเป็นญาติของอีกคนได้พาพ่อท่านทองไปเรียนอยู่ที่บ้านไร่ คลองปอม ให้หลวงปู่ทองช่วยทำไร่จนอายุครบ 20 ปี บรรพชาและอุปสมบท ป้าดำได้ชักนำพ่อท่านทอง กลับมาบวชที่วัดแม่เปียะ ตำบลนาหม่อม อำเภอนาหม่อมจังหวัดสงขลา ในสมัยนั้น มีท่านพระคุณใช้ เป็นพระอุปัชฌาย์ บวชเมื่อ พ.ศ. 2473 ได้ฉายาว่า พระทอง ธรรมเสโน
    พ่อท่านทอง จำพรรษาอยู่ที่วัดแม่เปียะไม่นาน หลวงพ่อสี ซึ่งเป็นคนแม่เปียะ บวชที่วัดแม่เปียะ แต่ได้ไปสร้างวัดอยู่ที่ประเทศมาเลเซียได้กลับมาเยี่ยมเยียนบ้าน พบพ่อท่านทอง และได้ชวนหลวงปู่ทองไปอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย ณ วัดสีตะวัน ปัจจุบัน เรียกว่า...วัดบุญญาราม หรือวัดธรรมนุ่ม คนจีนจะเรียกวัดธรรมบุญ อยู่ที่รัฐอีโป ประเทศมาเลเซีย พ่อท่านทอง อยู่ที่วัดบุญญารามได้ไม่นาน พ่อท่านเพชร สิ้นบุญ (มรณภาพ) ที่วัดแม่เปียะ เผาศพพ่อท่านเพชรที่ต้นโพธิ์ใกล้ ๆ กับวัด นั่นเอง พ่อท่านทอง ได้เดินทางกลับมาที่วัดแม่เปียะ เมื่อพ่อท่านทอง เดินทางมาแล้ว ก็ได้สร้างกุฎิอยู่ที่ต้นโพธิ์ใกล้ๆ เมรุเผาศพของหลวงพ่อเพชร ต่อมามีโยมมาตามหาพ่อท่านเส้ง ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของพ่อท่านพลอย ซึ่งท่านเก่งในทางปฏิบัติวิปัสสนา และท่านเป็นคนบ้านดอน จังหวัดสุราษฎร์ธานี มาอยู่ที่วัดพลีควาย (วัดพรหมประดิษย์ฐาราม) เมื่อได้พบกันแล้ว พ่อท่านทองได้ฟังคำสอนและนึกเลื่อมใสพ่อท่านเส้งสืบหาโยมคนหนึ่ง คือ แม่ชีเนียม พ่อท่านเส้งได้เดินทางมาจังหวัดสงขลา ที่บ้านนายปรีดาได้เจอกับแม่ชีเนียมตอนเช้าออกมาบิณฑบาต พ่อท่านเส้งได้นิมนต์แม่ชีเนียมมาเทศน์ที่วัดพลีควาย เพราะว่า..แม่ชีเนียมทานอาหารเจ ถือปฏิบัติเทศน์สอนประชาชนได้ลึกซึ้ง ชื่อของแม่ชีเนียมโด่งดังมาก แม่ชีเนียมได้รับนิมนต์พ่อท่านเส้งมาเทศน์ที่ วัดพลีควาย พ่อท่านทองไปที่วัดพลีควายที่พ่อท่านเส้งอยู่ได้พบแม่ชีเนียมเป็นครั้งแรก ได้ถามความเป็นจนมาเป็นที่เข้าใจ ต่อจากนั้นไม่นานพ่อท่านเส้งก็กลับ จังหวัดสุราษฏร์ธานี พ่อท่านทอง ก็ออกธุดงค์ไปจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้กราบขอศึกษาวิชาการเป่ากระหม่อมจากพ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ ท่านเดินเท้าไปอำเภอทุ่งสง และจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้พบกับพ่อท่านเส้งอีกครั้ง พ่อท่านเส้งลูบหลังพ่อท่านทอง 3 ครั้ง พร้อมกับให้พรแล้วกลับไปบ้านดอน
    พ่อท่านทองได้เดินทางกลับนาม่วง อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา ได้พบกับแม่ชีเนียม ซึ่งกลับจากกรุงเทพมหานคร มาพร้อมกับนายคง แม่ชีเนียมได้ถามพ่อท่านทองว่าปีนี้ท่านจะจำพรรษาที่ไหน พ่อท่านทองตอบว่าท่านจะจำพรรษาที่บ้านไร่ เพราะว่าเป็นบ้านเดิมของป้าดำผู้มีพระคุณ แม่ชีเนียมบอกว่า...อย่าไปคนเดียว จะไม่สบาย แต่พ่อท่านทองบอกว่า...รับปากโยมไว้แล้วก็ต้องไป พอใกล้วันเข้าพรรษาพ่อท่านทองก็ล้มป่วย พระอุปัชฌาย์ช่วยรักษาจนหายจากอาการป่วย ที่วัดแม่เปียะ อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา พ่อท่านทองจึงได้ลาสิกขาบท ออกไปอยู่ที่บ้านของป้าดำ ต่อมาได้ลาป้าดำตั้งใจจะตามหาพ่อท่านเส้ง พ่อท่านทองได้ไปหาแม่ชีเนียมในตัวเมืองสงขลา เมื่อไปถึงบอกความประสงค์กับแม่ชีเนียม แม่ชีบอกจะไปด้วยให้อยู่ที่นี่ก่อนแล้วค่อยไป ตั้งแต่นั้นมาก็อยู่กับแม่ชีเนียมตลอดมา พ่อท่านทอง อุปสมบทครั้งแรก 7 พรรษา พอสิ้นสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2484 ช่วงนั้นท่านได้ลาแม่ชีเนียมมาที่นาม่วง อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลาอีกครั้ง
    ต่อมาได้อุปสมบทเป็นครั้งที่ 2 ณ พัทสีมาวัดทุ่งฆ้อโฆษิตาราม มีพระครูวิจารย์ธรรมโฆษิต (แช่ม) เป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านสุกแก้ว วัดพลีควาย เป็นพระคู่สวด กำนันผ่อง เป็นเจ้าภาพฝ่ายรับรอง ได้รับฉายา สุสังวโร..ประมาณ พ.ศ. 2485 อยู่จำพรรษา 1 พรรษา แล้วไปอยู่ที่วัดพลีควายได้ออกธุดงค์ไปเกาะแก้วพิสดาร จังหวัดภูเก็ต จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดชุมพร จังหวัดสุโขทัย ในสมัยนั้น การเดินทางแสนลำบากสองข้างทางเต็มไปด้วยป่าเขาและสัตว์ดุร้าย แต่ท่านไม่เคยกลัว ท่านเดินทางกลับจากการธุดงค์ก็มาจำพรรษาอยู่ที่พรุเกษา อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา ต่อมาออกจากพรุเกษาก็ก็มาอยู่วัดกลางใจงาม (ปัจจุบันเป็นที่ตั้งอำเภอนาหม่อม) พอได้ 7 พรรษา ไปอยู่ที่ป่าบ้านนา 2 พรรษา และไปอยู่ที่ป่าช้าวัดโคกนาว อยู่ตรงข้ามมหาวิทยาลัย มอ. หาดใหญ่ ในสมัยก่อนเป็นเป็นป่าช้าใหญ่มาก วันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2501-2502 ออกพรรษาไปอยู่บ้านนาทองสุก ตำบลทุ่งขมิ้น อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา อยู่ได้ 9 พรรษา ก็ได้กลับมาอยู่ที่ป่าช้าวัดโคกนาวอีก ครั้งต่อมาได้ออกจากป่าช้าโคกนาว และได้ไปอยู่ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี 1 ปี พ่อท่านทองได้กลับมาที่เขารูปช้าง อยู่ได้ 6 พรรษา แล้วมาอยู่ที่ต้นแซะ (ปัจจุบันเป็นสำนักสงฆ์ต้นแซะ ใกล้วัดปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา) อยู่ได้ 2 พรรษา มีพระธุดงค์แนะนำให้ไปหมู่บ้านกระเหรี่ยงแถวจังหวัดเพชรบุรี พ่อท่านทองเกิดล้มป่วยเป็นไข้ป่าเกือบเอาชีวิตไม่รอด จึงได้ธุดงค์กลับจากหมู่บ้านกระเหรี่ยง เมื่อกลับมาทุกคนช่วยกันรักษาท่านจนหายจากอาการป่วย ด้วยโรคไข้ป่า พ่อท่านทอง สุสังวโร ได้พบญาติ คือ นายแคล้ว อยู่บ้านควนโตน ซึ่งเป็นญาติในฐานะน้องชาย อยู่ได้ไม่กี่วันจึงชวนสามเณร ที่มาพร้อมกับพ่อท่านทองเมื่อธุดงค์มาที่ป่ากอ ซี่งเป็นที่ของนายแดง พ่อท่านทองจึงได้จำวัดที่ป่ากอเนื่องจากเป็นสถานที่สัปปายะสงบสงัด...
    ที่บริเวณป่ากอนี้สมัยก่อน เคยเป็นวัด มีพ่อท่านองค์หนึ่งและสามเณรมาอยู่ในสมัยก่อน เสือได้กินสามเณร พ่อท่านเลยไปจากป่ากอ ต่อมาได้มีนายแดง เป็นคนหนุ่มโสด ยังไม่มีครอบครัว เพื่อนบ้านเรียกว่าท่านแดง ได้พาหลานชื่อ นายสี อินอุทัย มาอยู่ด้วย ตั้งรกราก ช่วยกันทำมาหากิน มีต้นไผ่อยู่หลายกอ พันธุ์ไม้อื่นๆ อีกจำนวนมาก หากใครเข้ามาส่วนใหญ่จะหลงทาง เดินทางกลับไม่ถูก พ่อท่านทอง สุสังวโร รู้ประวัติที่นี่ดี จึงเรียกนายแดง มาคุยเพื่อปลูกศาลา เมื่อพ่อท่านทอง กลับจากธุดงค์จะได้มาพักผ่อนและได้อยู่ใกล้ลูกหลาน เพราะว่าเป็นบ้านเกิด นายแดงได้ยกที่ดินให้ประมาณ 3 ไร่ ในปี พ.ศ. 2518 พ่อท่านทอง สุสังวโร ได้มาจำพรรษาที่วัดป่ากอ เป็นครั้งแรก จึงได้ถือกำเนิดสำนักสงฆ์ป่ากอขึ้นในปีนี้เอง
    ความศรัทธาของชาวต่างชาติที่มีต่อ...พ่อท่านทอง สุสังวโร เป็นพระปฏิบัติเช่นเดียวกับพระนักปฏิบัติโดยทั่วไป ความศรัทธาของประชาชน ชาวต่างชาติ ส่วนใหญ่เกิดจากการที่ได้ฟังธรรมะของพ่อท่านท่านจะแสดงธรรมง่ายๆ ให้นำไปปฏิบัติ เมื่อผู้ฟังนำไปปฏิบัติแล้วก็เกิดผล จึงทำให้ประชาชน
    ชาวต่างชาติได้ทราบกิตติศัพท์ ของพ่อท่านทอง สุสังวโร พากันเดินทางไปนมัสการและฟังธรรมกันจนวัดป่ากอสุวรรณารามเปลี่ยนแปลงจากสำนักสงฆ์ที่ไม่มีถาวรวัตถุจนเวลานี้มีกุฎิ ศาลา และอาคารก่อสร้างต่างๆ เพิ่มขึ้นอีกมากมายด้วยแรงศรัทธา จากประชาชนชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งชาวต่างชาติที่เข้ามากราบไหว้พ่อท่านทอง ได้แก่ ชาวมาเลเซีย ชาวสิงคโปร์ ชาวจีนและชาวอินโดนีเซีย นับเป็นความลึกล้ำทางจิตของพระรูปหนึ่งที่ท่านไม่ได้มีเจตนาอยากตั้งตัวเป็นอาจารย์ขลังอะไรหรอก แต่...ด้วยญาณวิเศษของท่านกลับมาบันดาลให้เป็นไปตามครรลองปาฏิหาริย์ เสกเป่าอธิษฐานจิต ก็ขลังขึ้นมาด้วยบารมีพระโพธิสัตว์และพลังกรรมฐาน และดังจนนักธรรมะ นักกรรมฐาน นักปราชญ์ต่างสงกาในพลังบารมี...
    “พ่อท่านทอง” เสกเป่าที่ไหนเป็นต้องเกิดความอัศจรรย์ใจ..เสกน้ำมนต์ด้วยคำอธิษฐานจิตไม่กี่จบ แล้วเป่าเพี้ยง!!! ก็ขลัง รักษาโรคภัย หายป่วยกันทั้งนั้น!!!ท่านให้พรให้มนต์คาถาลงนะหน้าทองด้วยสีผึ้งมหาเสน่ห์เจิมแป้งเสกให้วัตถุมงคลกลับไปก็ร่ำรวยเจริญรุ่งทันตาทันใจ...
    เมื่อครั้งยังทรงสังขารธรรมพ่อท่านมักจะ เดินทางไป วัดศรีมหาโพธิ์ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานีบ่อยๆ เพราะท่านสนิทสนมกับ พ่อท่านแดง วัดศรีมหาโพธิ์ และ เป็นเครือญาติกัน นอกจากนี้ท่านได้รับนิมนต์ไปยังสถานที่ ต่างๆตามแนวชายแดน ไทย-มาเลย์ ท่านจึงมีศิษย์ทางสายมาเลเซีย เป็นจำนวนมาก ท่านเป็นพระที่มี ความเก่งในหลายด้านเช่น ท่านเป็นพระที่ปฏิบัติดี ถือสัตย์ปฏิญาณ ท่านได้ถือสัตย์ปฏิญาณ ฉันท์เจ ตลอดชีวิต...และไม่พูดกล่าวสนทนากับสตรีเพศทั้งต่อหน้าและลับหลัง.ด้วยสัจจาธิษฐานและการถือปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัดนี่เองทำให้พ่อท่านมีคุณวิเศษเหนือภิกษุรูปอื่นๆ ทั้งยังเป็นเกจิอาจารย์ที่ปลุกเสก พระเครื่องได้โด่งดังในสายใต้ จะรู้จักพระเครื่องที่ท่านได้ปลุกเสก เช่น หลวงพ่อทวด ลิ้นดำ , เหรียญรุ่นปี2526จะเป็นเหรียญที่นิยมสูง เพราะมีประสบการณ์มาก คนในพื้นที่หากมีเหรียญรุ่นนี้จะหวงแหนเป็นพิเศษ
    วัดป่ากอสุวรรณาราม ตั้งอยู่หมู่ที่ 4 ตำบลนาหม่อมเดินทางจากหาดใหญ่มาทางถนนสายเอเชีย หาดใหญ่ – จะนะในวัดมีอุโบสถสวยงามมีพระแม่กวนอิมองค์ใหญ่ที่ศักดิ์สิทธิ์ มีศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนมีที่เคารพนับถือเป็นที่ศักดิ์สิทธิ์ที่จอดรถกว้างมากสะดวกสบาย.
    ผลงานและการกุศลในชีวิตสมณเพศของพ่อท่านทอง สุสังวโร ได้ใช้ชีวิตคุ้มค่าในการปฏิบัติธรรมและบำเพ็ญประโยชน์แก่พระพุทธศานา และประเทศชาติ เฉพาะที่ประมวลในปี พ.ศ. 2542 ได้ช่วยทางราชการเพื่อการกุศล ดังนี้
    - ซื้อที่ดินบ้านชายนา ให้ผู้ใหญ่บ้านทวี รับมอบและสร้างศาลาพักร้อน
    - ซื้อเครื่องเอ็กซเรย์ มอบให้โรงพยาบาลกองบิน 56 อำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา
    - ช่วยเหลือชาติ มอบเงินให้นายชวน หลีกภัย (ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น) เป็นผู้รับมอบ
    - สร้างที่พักสายตรวจให้ สภอ.นาหม่อม อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา
    - บริจาควัสดุอุปกรณ์ให้แก่โรงพยาบาลนาหม่อม อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา
    วัดป่ากอสุวรรณารามคงมนต์ขลังอมตะ!!!สานุศิษย์ทั้งชาวไทย มาเลเซีย และสิงค์โปร์ต่างศรัทธาเคารพเลื่อมใส..พ่อท่านทอง สุสังวโร ภิกษุผู้มีปฏิปทางดงามแห่งภาคใต้ ประชาชนเชื่อว่าท่านเป็นพระอริยสงฆ์ผู้บรรลุมรรคผลและทรงอภิญญา ท่านคือผู้มีญาณวิเศษติดต่อกับหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืดได้..ดังนั้นจึงมีสานุศิษย์เลื่อมใสศรัทธากล่าวขานกันมาก นับตั้งแต่ท่านยังไม่ละสังขาร และก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้พุทธบริษัทชาวมาเลเซีย ชาวสิงคโปร์ เดินทางมาแสวงบุญยังวัดป่ากอ...พ่อท่านทอง สุสังวโร อายุ 92 ปี พรรษา 54 อดีตเจ้าอาวาสองค์แรกวัดป่ากอสุวรรณาราม ตำบลนาหม่อม อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา ท่านมรณภาพด้วยอาการสงบเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2543 เวลา 12.08 น. ณ กุฎิของท่านเอง ปัจจุบันร่างสังขารของพ่อท่านบรรจุในโกศทองประดิษฐานบนมณฑปพ่อท่านทอง สภาพสังขารของพ่อท่านแห้งกลายเป็นหิน เส้นผม เล็บมือ เล็บเท้า งอกยาวขึ้น เห็นได้ชัดเจนมาก ทุกวันจะมีบรรดาศิษย์ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เช่น ชาวมาเลเซีย ชาวจีน ...ชาวสิงคโปร์ เดินทางมาเคารพร่างสังขารของพ่อท่านทอง สุสังวโร จำนวนมากมาย เปรียบเสมือนท่านยังมีชีวิตอยู่.....ท่านมรณภาพด้วยโรคชราภาพ.... เช้าวันที่ท่านละสังขาร ท่านได้กล่าววาจาครั้งสุดท้ายกับศิษยานุศิษย์ที่มาเฝ้าอาการอาพาธของท่าน...และเป็นการเตือนภัยแก่ชาวหาดใหญ่ สงขลา ว่า...ให้ระวังจะเกิดวาตภัย และอุทกภัยใหญ่ภายในหลังจากที่อาตมาภาพละสังขารไปแล้ว ภัยธรรมชาติจะสร้างความสูญสียอย่างใหญ่หลวงมีผู้คนล้มตายจำนวนมาก ประชาชนจะอดอยาก น้ำตานองหน้าไปทั่วทุกหนแห่ง...พ่อท่านทองกล่าวจบแล้ว ได้มีศิษย์ซักถามแต่ท่านไม่ได้พูดอะไร และอีกไม่กี่ชั่วยาม...ท่านก็ละสังขารอย่างสงบดับสิ้นเวทนาทั้งปวง...วันนั้นทางวัดได้จัดพิธีอาบน้ำศพพ่อท่านทอง...พอทำพิธีแล้วเสร็จเท่านั้นแหละ...ฝนฟ้าก็ตกลงมาอย่างหนัก และหนักขึ้นเรื่อย ๆ ติดต่อกันจนเกิดน้ำป่าไหลหลากจมเมืองหาดใหญ่เป็นอุทกภัยครั้งยิ่งใหญ่เป็นครั้งประวัติศาสตร์ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างมาก...เรื่องนี้ชาวหาดใหญ่และชาวสงขลาต่างร่ำลือกันยกใหญ่ว่า...พ่อท่านทองมีตาทิพย์สามารถรู้อนาคตกาลกลายเป็นเรื่องกล่าวขานสืบต่อกันมาจนทุกวันนี้...ท่านแผ่บารมีสร้างบุญมาตลอดชีวิตแม้จะลาโลกท่านก็ยังได้แสดงอภินิหารบอกกล่าวเตือนลูกหลานลูกศิษย์ให้ทราบก่อนที่ท่านจะสิ้นบุญ...ภายหลังที่ท่านมรณภาพทางวัดได้สวดพระอภิธรรมและเก็บศพไว้จนกาลเวลาดำเนินถึงร้อยวันการมรณภาพ...สังขารตอนนั้นที่อยู่ในโลงแก้วบนศาลาการเปรียญ เกิดสิ่งเหนือโลกสามัญเหนือธรรมชาติที่ทำให้บรรดาลูกศิษย์ต้องมุงดูและวิพากษ์วิจารณ์อย่างทึ่ง..ระทึกใจในสิ่งที่เห็นเบื้องหน้า...นั่นคือ..ท่านได้แสดงปาฏิหาริย์ให้สรีระธรรมของท่านไม่เน่าเปื่อย สังขารของท่านนิ่งสงบไม่ต่างกับตอนที่ท่านยังทรงสังขาร...เนื้อหนังมังสายังคงสภาพไม่แห้งติดกระดูกโดยเฉพาะใบหน้าของท่านยังแลดูอิ่มเอิบเหมือนท่านมีชีวิตลมหายใจแต่เพียงแค่นอนหลับ...ยิ่งกว่านั้นคือ เส้นผมของท่านยาวออกมาได้ทั้ง ๆ ที่ศิษย์ใกล้ชิดยืนยันว่า...พ่อท่านทองท่านได้ปลงเกศาก่อนมรณภาพเพียงวันเดียว..นอกจากนี้เล็บมือเล็บเท้าก็งอกยาวยื่นออกมาด้วย...จึงเป็นที่ร่ำลือไปทั่วภาคใต้ถึงความเป็นอริยสงฆ์ของพ่อท่านทอง การมรณภาพแล้งศพไม่เน่าเปื่อย เส้นผม และเล็บงอกยาวได้โด่งดังไปถึงมาเลเซียและสิงคโปร์ซึ่งคอยฟังดูข่าวคราวของท่านโดยตลอด...เพราะที่มาเลเซีย และสิงคโปร์มีศิษยานุศิษย์เลื่อมใสศรัทธาพ่อท่านทองเป็นจำนวนมากและเขาเหล่านั้นก็มักมานิมนต์ท่านไปประกอบพิธีทางศาสนาอยู่เสมอในยามที่ท่านยังไม่สิ้นบุญ
    คุณงามความดีและอัจฉริยคุณอันยอดยิ่งของ “พ่อท่านทอง” ก็ยังได้จุดประกายแก่ผู้ศรัทธาพระภิกษุสงฆ์ชาวมาเลเซีย ชาวสิงคโปร์ที่มีความเพียรในธรรมและมี “นัยน์ตาถึง” จนมองทะลุถึงอธิคุณพิเศษที่ได้บรรลุธรรมแต่เยาว์พรรษาแห่งพระคุณท่านได้อย่างแจ่มแจ้ง ก่อให้เกิดแรงบันดาลใจในทางธรรมอย่างสำคัญ จนเป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้ได้เจริญในบวรพระพุทธศาสนาเป็น “พระอริยะ” ชั้นสุดยอดและมีเกียรติคุณเลื่องลือไกลที่สุดก็หลายรูป
    วัดป่ากอสุวรรณาราม ในวันนี้มีพระอาจารย์มหาวิชิต ฐิตธัมโม เปรียญธรรม9ประโยค ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส วัดป่ากอสุวรรณาราม ยังเป็นวัดที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งของสงขลา นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียและสิงคโปร์ จำนวนมากยังศรัทธาเข้ามากราบไว้และทำบุญที่วัดแห่งนี้อย่างต่อเนื่องกันเป็นจำนวนมาก ทุกวันจะมีคนหลั่งไหลไปวัดป่ากอไม่เคยขาดเพื่อไปกราบสังขารธรรมพ่อท่านทองและกราบพระครูสุวรรณธรรมรักขิต พระอาจารย์นิพนธ์ รองเจ้าอาวาสวัดป่ากอสุวรรณาราม นาหม่อม สงขลา ซึ่งเป็นศิษย์พ่อท่านทอง สุสังวโร...มีผู้ทุกข์ร้อนมากมายมาพบท่านด้วยปัญหาร้อยแปดพันประการ ทั้งมาอาบน้ำมนต์ ทั้งมาให้พระอาจารย์สักเสกยันต์ปลุกเสกวัตถุมงคล ลงนะหน้าทองตำรับพ่อท่านทอง สุสังวโร คนรับราชการมาให้ท่านเจิมหวังเลื่อนยศเลื่อนตำแหน่ง.... สารพัดสารพันกิจธุระ ในวันหนึ่งๆกว่าจะเสร็จกิจสงเคราะห์ให้กับญาติโยมก็เกือบค่ำ...
    พ่อท่านทอง สุสังวโร ท่านสอนศิษย์ให้บำเพ็ญตนเหมือนพระโพธิสัตว์ ช่วยผู้คนให้พ้นบ่วงทุกข์ร้อน ใครนิมนต์ไปไหนก็ไป ไม่มีอะไรมาก เป็นกันเอง...
    ทำบุญอย่างเดียวก็เหมือนหลวงพ่อสมเด็จโตวัดระฆังว่า...
    “เราจะไปขออะไรจากเทพพรหม เทวดาล่ะ บางทีท่านก็ให้ไม่ได้ แต่ถ้าเราไม่ขอแต่มุ่งเน้นทำบุญแต่ประการเดียวเรื่อยๆ ทำจนถึงที่สุด ถึงวาระแล้ว กรรมดีก็ต้องส่งผลมาให้เรา”
    กัลยาณมิตรทานบดี...ท่านใดได้อ่านบัญชรนี้แล้วมีศรัทธาก็ขอเชิญขอพรสร้างบุญที่วัดป่ากอสุวรรณาราม อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา...สาธุขออนุโมทนาบุญ...
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    พระชุดหลวงปู่ทองวัดป่ากอ นาหม่อม สงขลา ฝากล่อง แตก..พระในกล่องสมบูรณ์ครับ
    ให้บูชา 1,000 บาทพร้อมจัดส่งครับ

    IMG_20240909_031138.jpg IMG_20240909_031301.jpg IMG_20240909_031150.jpg IMG_20240909_031203.jpg IMG_20240909_031223.jpg IMG_20240909_031331.jpg IMG_20240909_031347.jpg IMG_20240909_031405.jpg IMG_20240909_031035.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กันยายน 2024
  7. ktv

    ktv เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2015
    โพสต์:
    1,148
    ค่าพลัง:
    +1,191
    โอนแล้วครับ 09/09/67 เวลา 09.13 น.จำนวน 180 บ. จัดส่งที่เดิมครับ
     
  8. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,762
    ค่าพลัง:
    +21,343
    หลวงพ่อคูณ-5 (1).jpg
    นิ้วหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ พศ.๒๕๓๘
    (หลวงพ่อคูณปลุกเสกตลอดไตรมาส)
    นิ้วผงพุทธคุณ "เพิ่มทรัพย์ รับโชค" พระผงพุทธคุณเมตตามหานิยมถอดพิมพ์จากนิ้วมือหลวงพ่อคูณโดยตรงแล้วนำพิมพ์ยางมาขึ้นแท่นพิมพ์เป็นแม่แบบ ปลุกเสกให้ตลอดไตรมาส
    มวลสารต่างๆที่ทางวัดบ้านไร่สะสมเอาไว้ ดอกไม้ดอกบัวที่บรมวงศ์สานุวงศ์ พระประยูรญาติใหญ่น้อยทั้งหมดทุกราชสกุลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯหลายพระองค์ที่มากราบสักการะองค์หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ท่านเมตตาปลุกเสกตลอดไตรมาส พศ.๒๕๓๘
    ปัจจุบันนิ้วมือรุ่นนี้ได้หมดจากวัดไปนานหลายปีแล้วครับ
    อุปเทห์ การบูชาการนำติดตัวเพื่ออานิสงค์ แห่งการมีชัยชนะทุกด้าน ทั้งคดีความ ความสำเร็จในหน้าที่การงาน มีชัยชนะหมู่มารศัตรู ดีทุกด้าน หลวงพ่อคูณท่านเมตตาปลุกเสกตลอดไตรมาส.
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    ให้บูชา 220 บาทค่าจัดส่ง 30 บาทครับ

    IMG_20240909_024423.jpg IMG_20240909_024449.jpg
     
  9. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,762
    ค่าพลัง:
    +21,343
    1725218931607.jpg
    เครดิตข้อมูล และภาพจาก พี่ tongn005
    http://www.watkositaram.com/forum/index.php?topic=3638.0
    หลวงปู่เย็นเกิดปีเดียวกับหลวงพ่อปรง คือ พ.ศ.๒๔๔๗ ก่อนหลวงพ่อกวยหนึ่งปี รู้จักกับหลวงพ่อกวยพอประมาณ เเต่เรียกหลวงพ่อกวยว่า หลวงพี่กวย เพราะพรรษาบวชน้อยกว่า เคยเดินทางไปร่วมพิธีเสกพระกับหลวงพ่อกวยเป็นบางครั้ง นั่งรถโดยสารไปกันเอง
    ตามประวัติบวชเรียนเเล้วสึกมาใช้ชีวิตทางโลก จนตอนหลังกลับมาบวชอีกครั้ง อาจารย์เก่งๆที่ท่านเคยเรียนมา ล้วนเป็นสำนักเดียวกับหลวงพ่อกวย คือ หลวงพ่อศรี เเละหลวงพ่ออิ่ม
    วิชาที่ได้จากหลวงพ่ออิ่ม เช่นมนต์จินดามณี เเละวิชามือยาว เป็นต้น
    หลังจากจำพรรษาที่วัดกลางชูศรี ท่านได้นิมนต์หลวงปู่บุดดาซึ่งท่านนับถือมากมาเป็นเจ้าอาวาส ส่วนตัวท่านย้ายมาอยู่ที่วัดสระเปรียญ สมัยนั้นเป็นสำนักสงฆ์การเปรียญ มีพระจำพรรษาคือ หลวงตาชุ่มเเละลูกสาวซึ่งบวชเป็นเเม่ชี ชื่อเเม่ชีมณี หลวงปู่ได้บูรณะวัดเเละตั้งชื่อใหม่ว่าวัดสระเปรียญ
    วัตถุมงคลของหลวงปู่ ดีมากทางเเคล้วคลาดเเละเมตตาสูง หลวงปู่ใจดี ยิ้มเเย้มเเจ่มใส มีเมตตามากๆ เเต่ของทุกอย่าง หลวงปู่ไม่ค่อยเเจก เเต่จะเอาจำหน่ายเพื่อหาเงินเข้าวัด
    เหรียญรุ่นเเรก ออกที่วัดกลางชูศรี ราวๆปี ๒๕๒๐ มีพิมพ์ใหญ่เเละพิมพ์เล็ก
    เหรียญพิมพ์ใหญ่ จะเป็นเหรียญสองหน้า หลวงพ่อศรีเเละหลวงปู่เย็น เป็นเหรียญที่มีประสบการณ์มากเเละนิยมพอสมควร
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    เหรียญรุ่นแรกหลวงปู่เย็นวัดสระเปรียญพิมพ์ใหญ่
    ให้บูชา 600 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20240909_030656.jpg IMG_20240909_030720.jpg
     
  10. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,762
    ค่าพลัง:
    +21,343
    FB_IMG_1725901668075.jpg

    หลวงพ่อสีหมอก เป็นหนึ่งในพระเกจิสายตะวันออกที่มีชื่อเสียงมากๆนสมัยก่อนปี 2520 หลวงพ่อสีหมอก เป็นพระที่มีพลังจิตกล้าแข็ง เคยมีคนเห็นท่านปลุกเสกวัตถุมงคลจนตัวลอยมาแล้ว นอกจากนี้ท่านยังเก่งเรื่องทำนายทายทัก ดูเหตุการณ์ล่วงหน้า โดยการนั่งทางใน มีพวกข้าราชการระดับสูง พ่อค้า ดาราหนังชื่อดังในอดีตหลายคนเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อสีหมอก โดยเฉพาะ มิตร ชัยบัญชา พระเอกหนังยอดนิยมในอดีต ลวงพ่อสีหมอก เคยทำนายว่าจะมีเคราะห์หนักและเตือนให้ระวังตัว ก่อนที่จะตกเฮลิคอปเตอร์ในฉากสุดท้ายของหนังอินทรีทอง เมื่อปี 2513 หลวงพ่อสีหมอก ได้รับนิมนต์เข้าพิธีปลุกเสกพระในสมัยก่อนมากมายร่วมกับพระเกจิดังในอดีตเช่น หลวงปู่โต๊ะ หลวงปู่ทิม เป็นต้น เนื่องจากหลวงพ่อสีหมอก สร้างวัตถุมงคลน้อยมากๆ มีไม่กี่รุ่น
    ประวัติ หลวง พ่อสีหมอก สถานะเดิมชื่อ สีหมอก เที่ยงตรงเป็นบุตร นายสอน นางเอี่ยม เที่ยงตรง เกิดเมื่อ วันอังคารที่ ๖ มกราคม ๒๔๔๔ ณ บ้านตำบลคลอง ๑๙ จังหวัด ฉะเชิงเทรา อาชีพทำนา มีพี่น้องจำนวน ๓ คน เมื่ออายุครบบวช ๒๐ ปี ได้เข้าอุปสมบทตามประเพณี ๑ พรรษา แล้วลาสิกขามาประกอบอาชีพทำเนา จนกระทั่งอายุได้ ๕๐ ปี เริ่มเบื่อหน่ายในเพศฆราวาส จึงตัดสินใจอุปสมบทอีกครั้ง สาเหตุที่อุปสมบทเป็นครั้งที่ ๒ นี้เพราะท่านได้พบกับหลวงพ้อโอภาสี ได้สนทนาธรรมแล้วเกิดความเลื่อมใสศรัทธา จึงได้อุปสมบทแล้วเดินทางไปศึกษาธรรม และวิชาต่างๆจากหลวงพ่อโอภาสีอยู่เป็นประจำ ในปีพ.ศ.๒๔๙๗ ท่านได้เดินทางมาจำพรรษา ณ วัดเขาวังตะโก อ.เมือง จ.ชลบุรี ท่านได้ทำงานด้วยเผยแพร่และพัฒนาวัดเขาวังตะโกเจริญรุ่งเรืองในหลาย ๆ ด้าน ด้วยบุญบารมีของท่าน ท่านได้สร้างเรือสำเภาตั้งตระหง่านอยู่ ณ ยอดเขาวังตะโก เป็นสำเภาแก้ว สำเภาทอง นำสัตว์ลอยล่องข้ามพ้นถึงฝั่งข้ามด้วยอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ท่านได้เดินทางไปประเทศอินเดียถึง ๔ ครั้ง เพื่อศึกษาความเจริญ และความเสื่อมของพระพุทธศาสนาในอินเดีย เปรียบเทียบให้ชาวพุทธในเมืองไทยได้รู้ได้เห็นเป็นตัวอย่าง หลวงพ่อสีหมอก ท่านได้ปฏิบัติหน้าที่เผยแพร่พระพุทธศาสนา ยังให้ประชาชนชาวพุทธเกิดความศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาจำนวนมาก ตลอดจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิตท่านได้มรณภาพลงเมื่อ วันศุกร์ที่ ๑ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๓๒ รวม สิริอายุได้ ๙๙ ปี พรรษา ๔๙
    ขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    พระผงรูปเหมือนหลวงพ่อสีหมอก
    ผู้ชาย 120 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20240910_000519.jpg IMG_20240910_000538.jpg
     
  11. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,762
    ค่าพลัง:
    +21,343
    FB_IMG_1725860717581.jpg FB_IMG_1725860778968.jpg
    ผ้ายันต์ท้างเวสสุวรรณมหาราช พระครูประกาศสมาธิคุณ วัดมหาธาตุ คณะ๒๕
    ออกแบบยันต์โดย "อ.เทพ สาริกบุตร"
    สร้างถวายในช่วงปี ๒๕๐๙ ปลุกเสกโดยคณาจารย์รุ่นเก่า
    บูชา 350 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    FB_IMG_1725904875151.jpg FB_IMG_1725904878650.jpg
     
  12. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,762
    ค่าพลัง:
    +21,343
    เหรียญรัชกาลที่ ๕ วัดบรมวงศ์อิศรวรารามวรวิหารเนื้อทองแดงพิเศษ รุ่นรวย ไวทย์ มีพระอาจารย์ดังปลุกเสกนำโดยท่านเจ้าคุณไวทย์ หลวงปู่ทิม หลวงพ่อพูน หลวงพ่อรวยวัดตะโก หลวงพ่อเพิ่มวัดป้อมแก้วหลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อมและเกจิดังอีกมากมาย ออกปี ๒๕๔๘
    บูชา 150 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20240910_133332.jpg IMG_20240910_133405.jpg
     
  13. ktv

    ktv เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2015
    โพสต์:
    1,148
    ค่าพลัง:
    +1,191
    จองครับ
     
  14. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,762
    ค่าพลัง:
    +21,343
    จัดส่งวันนี้
    1725969373638.jpg
    ขอบคุณครับ
     
  15. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,762
    ค่าพลัง:
    +21,343
    FB_IMG_1725984674694.jpg FB_IMG_1725984570633.jpg FB_IMG_1725984567277.jpg FB_IMG_1725984584001.jpg
    "หลวงพ่อเมียน กัลยาโณ" แห่งวัดจะเนียงวนาราม จ.บุรีรัมย์ ได้รับการยกย่องว่า "เทพเจ้าแห่งบ้านจะเนียง" เป็นพระเกจิอาจารย์ ชื่อดังแห่งอีสานใต้
    ปัจจุบัน สิริอายุ 80 พรรษา 53 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดจะเนียงวนาราม ต.สูงเนิน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์
    เกิดเมื่อปี พ.ศ.2479 ตรงกับวันอาทิตย์ ปีขาล ที่บ้านกุมกัน แห่งเมืองสวายตรึง ประเทศกัมพูชา
    ในช่วงวัยหนุ่มมีความคึกคะนองตามประสา ชอบศึกษาวิทยาคมจากพระอาจารย์กัมพูชาถึง 12 ท่าน พระอาจารย์ที่หลวงพ่อให้ความสำคัญมาก คือ พระอาจารย์ลุน และศึกษาวิทยาคมกับอาจารย์สวาย ฆราวาสจอมขมังเวทชื่อดังแห่งเมืองสวายตรึง
    จนกระทั่งเกิดความเบื่อหน่ายทางโลก จึงหันหน้าเข้าหาวัดมาศึกษาพระธรรมและปฏิบัติธรรม
    อายุ 26 ปี อุปสมบทที่วัดยอดทอง อ.กำพงตราด จ.กำโปด ประเทศกัมพูชา เรียนทางสงฆ์จบที่กัมพูชา ฝึกฝนสมาธิและวิทยาคม จนเกิดความชำนาญกับพระอุปัชฌาย์ จนถึงปี พ.ศ.2518 จึงธุดงค์เข้ามาประเทศไทย จำพรรษาช่วยเหลือชาวบ้านบริเวณป่าช้าบ้านจะเนียง จนชาวบ้านเลื่อมใสศรัทธา
    ต่อมา ท่านสร้างวัดบ้านจะเนียง (จะเนียงวนาราม) จนทุกวันนี้ กลายมาเป็นศาสนสถานประจำหมู่บ้านตั้งอยู่ในเขตป่าช้าของหมู่บ้านจะเนียง
    หลวงพ่อเมียน ปฏิบัติศาสนกิจของสงฆ์มิได้ขาด เป็นพระเกจิอาจารย์ในระดับชั้นนำของจังหวัดบุรีรัมย์ ท่านยังเป็นสหธรรมิกกับหลวงปู่เจียม อติสโย พระเกจิดังแห่งวัดอินทราสุภาราม จ.สุรินทร์ ด้วยเป็นคนบ้านเดียวกันและบวชเรียนมาด้วยกัน
    รวมทั้งเป็นสหธรรมิกรุ่นน้องกับหลวงปู่ธรรมรังษี วัดพระพุทธบาทพนมดิน อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ อีกด้วย
    กล่าวถึง "บ้านจะเนียง" เป็นชุมชนขนาดเล็ก ในปีพ.ศ.2485 ตั้งเป็นหมู่บ้านจะเนียง หมู่ที่ 15 อยู่ในเขตปกครองของ ต.สองชั้น ต่อมาเมื่อมีการ แยกตำบล บ้านจะเนียงจึงอยู่ในเขตปกครองของ ต.บ้านปรือ หมู่ที่ 7 และปัจจุบันอยู่ในเขตปกครองของต.สูงเนิน หมู่ที่ 5
    ทั้งนี้ พื้นที่หมู่บ้าน สภาพเป็นที่ราบสูง พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นดินร่วนปนทราย เก็บน้ำไว้ไม่ดี มีหนองน้ำอยู่ 3 แห่ง คือหนองใหญ่ หนองเล็กและหนองหลวงเตี้ย แต่มีแหล่งน้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ หมู่บ้านจึงมีสภาพแห้งแล้งทำการเกษตรไม่ได้ผล ประชากรส่วนใหญ่มีฐานะยากจน ต้องอพยพไปทำงานรับจ้างต่างจังหวัดหลังฤดูเก็บเกี่ยวและฝากลูกหลานไว้ให้ตายายที่ชราภาพเลี้ยงดู
    เชื่อว่าหากพัฒนาวัดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่น่าสนใจ มีนักท่องเที่ยวเข้ามากราบไหว้ขอพร จะช่วยให้ชาวบ้านในหมู่บ้านมีรายได้จากการท่องเที่ยว
    หลวงพ่อเมียนมีอุบายอันแยบคายในการใช้วัตรปฏิบัติส่วนตัว เป็นเครื่องมือสำหรับการอบรม สั่งสอน ออกบิณฑบาตเป็นกิจวัตร
    ขณะเดียวกัน ยังให้ความเมตตาแก่ประชาชนทุกระดับ เมื่อได้รับนิมนต์ให้ไปแสดงธรรม ตามงานบุญทั่วไป หรืองานฌาปนกิจศพไร้ญาติ โดยเฉพาะวันธรรมสวนะ จึงทำให้พุทธศาสนิกชนเกิดความศรัทธาน้อมนำคำสอนไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน
    งานด้านสังคมและวัฒนธรรม หลวงพ่อเมียนส่งเสริมงานประเพณีที่สำคัญของชุมชน คือ ประเพณีวันสารทหรือประเพณีโดนตา จัดขึ้นในวันขึ้น 3 ค่ำ เดือน 3 และประเพณีแซนตา หรือการไหว้ผี
    ส่วนงานด้านเผยแผ่พระพุทธศาสนา ให้พระลูกวัดปฏิบัติตามหน้าที่ของพระสงฆ์ในการพัฒนาวัด บูรณะซ่อมแซมโบสถ์ วิหารพร้อมแล้ว
    ด้านเครื่องรางหรือวัตถุมงคลที่หลวงพ่อเมียน ท่านสร้าง ล้วนแล้วแต่เป็นที่เสาะแสวงหาของบรรดานักนิยมสะสมพระเครื่องเป็นอย่างมาก อย่าง อาทิ เหรียญหลวงพ่อเมียน รุ่นมหาลาภ มหาเศรษฐี, หนุมานมหาลาภปราบไพรี,พระกริ่งบรมครู กัลยาโณ และอื่นๆ อีกมากมาย
    นำวิชาความรู้ด้านวิทยาคม เป็นกุศโลบายสำคัญในการอบรมสั่งสอนศีลธรรมให้ประชาชนทั่วไป ให้ยึดหลักธรรมคำสอนตามแนวทางของพระพุทธศาสนา
    ปัจจุบันท่านมีความเป็นอยู่อย่างสงบเรียบง่าย
    บางตำราเขียนประวัติหลวงพ่อเมียนว่า
    หลวงพ่อเมียน วัดจะเนียงวนาราม เป็นพระเกจิเขมร สายเขากุเลนผู้เรืองเวทย์ เก่งจริง มีชื่อเสียงในจ.บุรีรัมย์และใกล้เคียงมานาน หนังสือนะโมเคยเอาประวัติของ ท่านมาลงอย่างละเอียดต่อกันถึงสามเล่ม พระอาจารย์ตั้ว วัดซับลำใยลูกศิษย์ของลพ.กวยและลป.หมุนยังไปฝากตัวเป็นศิษย์ ท่านเก่งเรื่องทำของขลังหลายอย่าง ที่ทำจากว่านยาซึ่งเลี้ยงเองที่วัด
    ท่านถือกำเนิดเมือ พ.ศ.๒๔๘๒ ที่บ้านปะนึม ต.บึงขนา จ.โพธิสัตว์ ประเทศกัมพูชา บรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุได้ ๑๐ ขวบ และได้อุปสมบทเมื่ออายุได้ ๒๐ ปี ได้ศึกษาวิชาอาคมจากพระอาจารย์ฝั่งกัมพูชาถึง ๑๒ ท่าน ท่านที่หลวงปู่ให้ความสำคัญมากคือพระอาจารย์ลุน ส่วนผู้ที่ถ่ายทอดวิชาทำหุ่นพยนต์ให้กับท่านเป็นฆราวาสคือโยมปู่ของท่านเอง ระหว่างที่บวชพระที่ประเทศกัมพูชา ท่านได้ธุดงค์ไปยังเมืองต่างๆโดยตลอด จนกระทั่งถึงพรรษาที่ ๖ ได้เกิดสงครามภายในประเทศกัมพูชา มีการเข่นฆ่าไม่เว้นแม่แต่พระเณร ท่านจึงลาสิกขาบทลี้ภัยสงครามอพยพมาอยู่ที่ อ.ตาพระยา เมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๙ หลังจากนั้นท่านเข้าอุปสมบทอีกครั้ง หลังจากนั้นท่านก็ออกจำพรรษาไปยังวัดต่างๆหลายจังหวัด จนมาอยู่ที่จังหวัดศรีสะเกษ อีก ๕ พรรษา ได้ฝากตัวเป็นศิษย์หลวงปู่ทรวง (เทวดาเล่นดิน) ศึกษาวิชาอาคมจนแตกฉาน หลวงพ่อเมียน กัลยาโณ ยังเป็นสหธรรมิกที่สนิทเป็นอย่างมากับหลวงปู่เจียม อติสโย ด้วยเป็นคนบ้านเดียวกันและบวชเรียนมาด้วยกัน รวมทั้งเป็นสหธรรมิกรุ่นน้องกับหลวงปู่ธรรมรังษี เกจิอาจารย์ชื่อดัง หลวงปู่ได้มารับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบ้านจะเนียง เมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๖ หลวงพ่อเมียนท่านเป็นเกจิที่มีเมตตาสูงจึงมีลูกศิษย์แวะเวียนไปขอพรจากท่านเสมอ
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    ขุนแผนตะกรุดทองแดงหลวงพ่อเมียนวัดบ้านเจนียง บุรีรัมย์ รุ่นเมียนชัย มงคล เสก ๓ วาระ ปี๒๕๕๙
    พระบูชา 160 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20240910_231837.jpg IMG_20240910_231918.jpg IMG_20240910_232204.jpg IMG_20240910_231940.jpg
     
  16. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,762
    ค่าพลัง:
    +21,343
    FB_IMG_1725986879093.jpg
    พระขุนแผนหลวงพ่อนน รุ่นแรก” เศรษฐีมหาระรวยสำนักสงฆ์เขาพรานธูป สร้างเพื่อให้ผู้ร่วมบุญในงานพิธีวางศิลาฤกษ์พระพุทธรูปสีขาวองค์ใหญ่ วันที่ 19-23 ก.พ.2558 ที่สำนักสงฆ์เขาพรานธูป บ้านทุ่งเสือนอน ต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ “หลวงพ่อนน” ท่านพุทธาภิเษก-เทวาภิเษกที่อุโบสถสำนักสงฆ์เขาพรานธูปพร้อมกับเหรียญพุฒซ้อน เมื่อคืนที่ 4 กุมภาพันธ์ 2558 หลวงพ่อนน เป็นพระสายเมตตาที่ได้สร้างพระขุนแผนนี้ขึ้นมาเป็นครั้งแรก นับแต่ท่านสร้างวัตถุมงคลมา วัตถุประสงค์ของหลวงพ่อนนท่านต้องการให้ผู้ที่ทำการค้าขายได้มีไว้ใช้ พุทธคุณพระขุนแผนของหลวงพ่อนนจะเด่นด้านค้าขายดีมีความเจริญรุ่งเรืองต่อธุรกิจและหน้าที่การงานเจริญรุ่งเรืองดีมาก ได้มีการออกแบบแม่พิมพ์ให้เป็นขุนแผนปลุกเสกปลัดขิก หลวงพ่อนน ท่านเคยพูดไว้ว่าคนที่ทำประโยชน์ยังใส่ชื่อหรือรูปภาพได้ ปลัดขิกสร้างวัดนี้มาแท้ๆจะใส่ไม่ได้เชียวเหรอ จึงถือเป็นการกำเนิดขุนแผนพิมพ์ใหม่ขึ้นมาในวงการพระเครื่องขุนแผนของไทยและของโลกเลยก็ว่าได้ พระขุนแผนของหลวงพ่อนนรุ่นแรกนี้ท่านให้ช่างทำเป็นขุนแผนเนื้อว่าน เพราะหลวงพ่อเมื่อครั้งเป็นฆราวาสท่านจะเก่งทางด้านสมุนไพรคอยรักษาชาวบ้านด้วยว่านและสมุนไพรมาตลอดท่านจึงมีความชำนาญเรื่องเนื้อว่านเป็นอย่างมาก มาจนกระทั้งเป็นพระสงฆ์ท่านก็ยังใช้วิชาด้านว่านเมตตาต่างๆช่วยชาวบ้านเสมอมาสำหรับรายละเอียดการจัดสร้าง พระขุนแผนหลวงพ่อนน ลองกดพิมพ์(หลวงพ่อจารตัว นะ)เนื้อว่าน 9 องค์ เนื้อว่านหน้าปัดทองฝังเพชร 1,400 องค์ เนื้อว่านหน้าปัดทองฝังพลอยแดง 100 องค์ เนื้อว่านผสมใช้ในพิธีวางศิลาฤกษ์ 2,000 องค์ เนื้อว่านผสมปูนเปือกหอย 10,000 องค์ ผ่านพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 4-19 กุมภาพันธ์ 2558 รวม 16 วาระ

    ขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    ให้บูชา 250 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ
    IMG_20240910_232046.jpg IMG_20240910_232108.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กันยายน 2024
  17. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,762
    ค่าพลัง:
    +21,343
    FB_IMG_1726008724755.jpg FB_IMG_1726008259703.jpg
    หลวงพ่อได้เอ่ยปากกล่าวไว้ว่า ใช้คุ้มครองคนที่ดวงยังไม่ถึงฆาตได้
    (แจกทหารไปรบเวียดนาม)
    พระหลวงพ่อนาคเนื้อผง วัดจันเสน นครสวรรค์ ๒๕๑๓ หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค ,หลวงพ่อโอด วัดจันเสน ,หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ ฯลฯ ปลุกเสก
    ของดีราคาถูกของหลวงพ่อพรหม วัดช่องแค ที่ทุกคนสามารถจับจองได้
    พระเนื้อผง หลวงพ่อนาค พิมพ์กลับบัว พ.ศ.๒๕๑๓
    หลวงพ่อนาคเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ปางนาคปรก ประดิษฐ์ฐานอยู่ที่วัดจันเสนครับ
    เมื่อพูดถึงวัดจันเสนก็ต้องนึกถึงพระเกจิอาจารย์รูปหนึ่งที่ชื่อเสียงขจรทั่วเมืองไทยนามท่านคือ พระครูนิสัยจริยคุณ (หลวงพ่อโอด ปัญญาโร) อดีตเจ้าอาวาสวัดจันเสน
    พระเนื้อผงหลวงพ่อนาค ได้สร้างเมื่อปี ๒๕๑๓ เจตนาเพื่อแจกจ่ายแก่ญาติโยมที่เดินทาง
    มางานปิดทองฝังลูกนิมิต และบรรจุกรุที่หอระฆังและหลุมลูกนิมิต จำนวนการสร้าง ๘๔๐๐๐องค์
    โดยบรรจุกรุ ๔๒๐๐๐ องค์ เพื่อให้คนรุ่นหลังได้มีไว้บูชา หรือทางวัดต้องการปัจจัยในการ
    บำรุงเสนะสถาน ก็จะได้เปิดกรุนำออกมาให้บูชาได้
    พระเนื้อผงรุ่นนี้ผู้ที่ดำริในการแกะแม่พิมพ์ก็คือ ท่านพระครูนิวิฐธรรมขันธ์ (หลวงพ่อเจริญ)
    เจ้าอาวาสองค์ประจุบัน ได้ให้ช่างที่กรุงเทพฯแกะแม่พิมพ์ขึ้นมาด้วยหินมีดโกน และจึงนำไป
    ถวายหลวงพ่อโอด ท่านชอบใจในพระพุทธลักษณะที่งดงามมาก และอนุญาตให้กดพิมพ์ได้
    ท่านกล่าวว่า "คุ้มครองผู้ที่ดวงไม่ถึงคาดได้"
    เนื้อหามวรสาร ประกอบด้วย ผงพุทธคุณ ผงเกสรดอกไม้บูชาหลวงพ่อนาค เกสรบัวในบึงจันเสน
    เปลือยหอยโข่งโบราณ ถ้วยชามโบราณจากเมืองจันเสน กล้วยและข้าวเหนียวเป็นตัวผสาน
    พิธีพุทธาพิเศก จัดขึ้นในวันเสาร์๕ ขึ้น๕ค่ำ เดือน๕ ของปี พ.ศ.๒๕๑๓ โดยนิมนต์พระเกจิ
    มานั้งปรกปลุกเสกจำนวนมาก โดยมีเรื่องน่าแปลกก็คือ หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค ท่านไม่เคย
    ไปนั้งปรกปรุกเสกนอกวัดเลย ไม่ว่าใครจะมานิมนต์ แต่งานนี้ท่านกลับมานั้งปรกปลุกเสก ซึ่งน่า
    จะมาจากหลวงพ่อโอดท่านเป็นศิษย์ที่หลวงพ่อพรหมท่านเมตตานั้นเอง รายชื่อพระคณาจารย์มีดังนี้
    1.หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค จ.นครสวรรค์
    2.หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู จ.ลพบุรี
    3.หลวงพ่อบุญมี วัดเขาสมอคอน จ.ลพบุรี
    4.หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา
    5.หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี
    6.หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม จ.สิงห์บุรี
    7.หลวงพ่อแกล วัดส้มเสี้ยว จ.นครสวรรค์
    8.หลวงพ่อเจ็ก วัดระนาม จ.สิงห์บุรี
    9.หลวงพ่อสด วัดหางน้ำสาคร จ.นครสวรรค์
    10.หลวงปู่คำมี วัดถ้ำคูหาสวรรค์ จ.ลพบุรี
    11.หลวงพ่อเชน วัดสิงห์ จ.สิงห์บุรี
    12.หลวงพ่อโอด วัดจันเสน จ.นครสวรรค์
    เห็นรายนามของพระคณาจารย์ที่มาร่วมพิธีแล้ว บอกได้คำเดียวว่าสุดยอด
    แต่เดี๋ยวก่อนมันไม่เท่านั้น หลังจากเสร็จพิธีแล้ว “หลวงพ่อพรหม
    ได้ออกมานอกพระอุโบสถแล้วร้องประกาศว่า เฮ้ย ใครมีปืนบ้าง...
    ลองยิงข้ามหลังคาโบสถ์...ดูทีหรือ...ถ้ายิงออกอ้ายพรหมเอาหัวเป็นประกัน !!!!”
    มีนักเลงใจเด็ดชื่อพยับ ชักปืนลูกโม้ขึ้นมายิงไปทางพระอุโบสถ 3นัด
    ปรากฏเสียงดัง แชะๆๆ นายพยัพเห็นดังนั้นก็เลยหันปากกระบอกปืนไปทางหน้าวัด
    และยิงออกไป เสียงปืนดังลั่น เปรี้ยงๆๆ คนที่อยู่ในเหตุการณืจึงแห่ไปเช่าบูชากัน
    อย่างล้นหลามที่เดียว....
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    พระผงหลวงพ่อนาควัดจันเสนปี๒๕๑๓
    ให้บูชา
    850 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ(ปิดรายการ)


    IMG_20240911_055045.jpg IMG_20240911_055120.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กันยายน 2024
  18. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,762
    ค่าพลัง:
    +21,343
    mc (1).jpg
    หลวงปู่หลิวมองด้วยสายตาก็รู้ว่า ชายผู้นี้มีวิชาอาคมต้องการจะมาลองดี จึงบอกไปว่า"ของๆโยมดีอยู่แล้ว" แต่อาจารย์อุ่มกลับไม่ยอม ดักหน้าดักหลัง หลวงปู่ทนรำคาญไม่ไหวจึงเป่ามนต์ไปที่ศีรษะ ทันทีที่ต้องมนต์ใบหน้าของอาจารย์อุ่มเปลียนไปทันที ดวงตาเบิกกว้าง อ้าปากคำราม คล้ายเสียงเสือ ชู 2 แขนกางมือจะตะปบใส่ หลวงปู่หลิวใช้มือขว้าคว้าศีรษะกดหัวลงกับพื้น ปากก็ตะโกนว่า "เสือ..เสือ...ใครไม่เคยเห็นเสือมาดูทางนี้" ชาวบ้านร้านตลาดแตกตื่น พากันวิ่งมาดูพระธุดงค์มือซ้ายแบกกลด และเครื่องอัฏฐบริขารพะรุงพะรัง มือขวากดศีรษะชายร่างใหญ่ หมอบดิ้นไปมาคล้ายเสือ หลวงปู่จึงถามว่า "ยอมไหม" เสืออาจารย์อุ่มจึงพูดขึ้นว่า" ยอม ยอมแล้ว ยอมแล้วขอรับ ปล่อยมือเถิดครับ หัวผมจะแตกอยู่แล้ว" พอหลวงปู่หลิวเอามือออก อาจารย์อุ่มก็คลานไปกราบแทบเท้าขอขมาลาโทษ ไม่นึกว่าพระธุดงค์หนุ่มรูปนี้จะมีวิชาเกินตัว ปากก็พร่ำว่า "ผมยอมแล้ว" และยังพูดต่อไปอีกว่า "ขนาดพ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน ยังไม่กล้าจับหัวผมเลย" พร้อมทั้งยกมือไหว้นิมนต์ให้ไปเยี่ยมสำนัก หลวงปู่หลิวทำใจดีสู้เสือ ที่สำนักของอาจารย์อุ่ม เลี้ยงผี เลี้ยงกุมารทอง เดินเพ่นพ่านไปหมด หลวงปู่หลิวจึงสะกดไว้ด้วยเวทย์มนต์ของอาจารย์ชาวกระหรี่ยง อาจารย์อุ่มได้นำคัมภีร์โบราณต่างๆ มาอวด พร้อมทั้งถวายเหล็กสักยันต์ เครื่องรางของขลังต่างๆ พร้อมทั้งแม่พิมพ์พระเครื่อง แต่หลวงปู่หลิวไม่ยอมรับ คงรับไว้แต่แม่พิมพ์พระขนาดเขื่อง เป็นรูปพระพุทธปางมารวิชัยนั่งบัว มีประภามณฑล ข้างๆ มีฉัตร คิดว่าจะนำแม่พิมพ์นี้ไปกดพระแจกแก่ศิษย์และผู้มีจิตศรัทธา หลวงปู่ให้ชื่อพระพิมพ์นี้ว่า "พระประตูชัย" หลวงปุ่สร้างเป็นพระเนื้อดินเผา ใต้บานมีตะกรุด 1 ดอก
    พ.ศ.2520 ท่านสร้างวัดไทรทอง ที่ ต.จรเข้เผือก อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี ให้เวลาก่อสร้าง 5 ปีจึงแล้วเสร็จ พ.ศ.2525 สร้างวัดไร่แตงทอง ที่ ต.ทุ่งลูกนก อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม และได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดไร่แตงทอง เมื่อวันที่ 7 มิถนายน พ.ศ.2535 เมื่อหลวงปู่หลิวได้พัฒนาวัดไร่แตงทอง จนเป็นที่เจริยรุ่งเรืองแล้ว ท่านได้ลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดไร่แตงทอง แล้วได้ย้ายกลับมาจำพรรษยังวัดหนองอ้อ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี อันเป็นวัดบ้านเกิด อีกครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ.2540 ท่านกลับมาจำพรรษาในฐานะพระลูกวัดองค์หนึ่งเท่านั้น ท่านใช้เวลาสร้างกุฏิหลังใหม่ด้วยเวลาเพียง 5 เดือนเศษ เริ่มเข้ากลางปี พ.ศ.2543 หลังจากพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลรุ่นเสาร์5 เป็นต้นมา หลวงปู่หลิวเริ่มอาพาธด้วยโรคชรา ขณะที่ท่านอาพาธ ก็คือไม่ยินดียินร้ายกับการจะอยู่หรือการจะไป ท่านกล่าวว่า ร่างกายของคนเราเป็นของผสม เมื่อถึงคราวแตกดับก็ต้องแตกดับ หลวงปู่หลิวเคยปรารภกับลูกหลานว่าเกิดที่หนองอ้อก็อยากตายที่หนองอ้อ และหากว่าถึงเวลาที่ท่านต้องจากไปก็อย่าได้หน่วงเหนี่ยวท่านไว้ เพราะเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ ในคืนวันจันทร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ.2543 เวลา 20.35 น. หลวงปู่หลิวได้ละสังขารอย่างสงบท่ามกลางลูกหลานที่คอยมาดูใจเป็นครั้งสุด ท้าย ที่กุฏิของท่าน ณ.วัดหนองอ้อ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี รวมอายุ 95 ปี 74 พรรษา
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    พระสามหลวงปู่หลิวหลังยันต์พญาเต่าเรือน วิชาเอกของหลวงปู่
    บูชา 150 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ(ปิดรายการ)

    IMG_20240911_080343.jpg IMG_20240911_080451.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กันยายน 2024
  19. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,762
    ค่าพลัง:
    +21,343
    FB_IMG_1726147065278.jpg
    เหรียญครูบาอินวัดฟ้าหลั่งสร้างโบสถ์วัดใหม่หนองหอย ๙๒ รุ่นประสบการณ์
    พระครูวรวุฒิคุณ” หรือ “หลวงปู่ครูบาอิน อินโท” หรือ “ครูบาฟ้าหลั่ง-ฟ้าลั่น” อมตะมหาเถราจารย์แห่งนพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่ ผู้สูงยิ่งด้วยศีล จริยาวัตร และพุทธาคม เชี่ยวชาญสรรพวิชาตามตำราโบราณล้านนา จนเป็นที่ประจักษ์ทั่วไป ดังคำกล่าวของบรรดาพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบที่ว่า
    “ขอเธอจงไปกราบครูบาอินที่เชียงใหม่และขอศึกษาวิชาจากท่านให้ดีๆ เถิด ท่านเป็นพระผู้เก่งกล้าสามารถมากจริงๆ” เป็นคำกล่าวของหลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร วัดโฆสิตาราม บ้านบ้านเเค ตำบลบางขุด อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท
    “ดีอยู่แล้ว ดีอยู่แล้ว พระของครูบาอิน ไม่ต้องเสกอะไรอีกแล้ว” เป็นคำกล่าวของหลวงพ่อเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ ตำบลเวียงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง
    “จิตของครูบาอิน ประภัสสรยิ่งแล้ว” เป็นคำกล่าวของหลวงพ่อชม วัดโป่ง จังหวัดชลบุรี
    “ครูบาอิน ท่านมีจิตมีจิตบริสุทธิ์ผุดผ่องยิ่งเลยทีเดียว” เป็นคำกล่าวของครูบาเจ้าชัยยะวงศาพัฒนา (ครูบาวงศ์) วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ตำบลนาทราย อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน
    “หลวงปู่ครูบาอิน วัดฟ้าหลั่งนั้น ดีที่หนึ่งเลย” เป็นคำกล่าวของหลวงปู่สิม พุทธาจาโร สำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่อง ตำบลบ้านถ้ำ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
    “ครูบาอินท่านเป็นพระสุปฏิปันโน ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบนะ” เป็นคำกล่าวของหลวงพ่อดาบส สุมโน อาศรมไผ่มรกต บ้านลูกกลอน ตำบลป่าอ้อดอนชัย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย
    ครูบาอิน อินโท
    อภิญญาอภินิหารพลังจิตตานุภาพ
    ของอมตะพระเถราจารย์เจ้าแห่งแผ่นดินล้านนา
    ในแวดวงผู้นิยมของขลังและวัตถุมงคล เรื่องที่เล่าสู่กันฟังก็คงหนีไม่พ้น อภินิหารหรือประสบการณ์วัตถุมงคลของครูบาอาจารย์ที่ตนเองเคารพนับถือ สำหรับพระครูวรวุฒิคุณ หรือ หลวงปู่ครูบาอิน อินฺโทเองก็เช่นกัน มีเรื่องราวประสบการณ์เกี่ยวกับองค์หลวงปู่และวัตถุมงคลของท่านที่เล่าสู่กันฟังอยู่อย่างสม่ำเสมอ ทั้งนี้ก็เป็นความเชื่อ ความเคารพศรัทธาส่วนบุคคล นำมาเผยแพร่เพื่อเป็นการลำลึกถึงเมตตาบารมีขององค์หลวงปู่ครูบาอิน โดยมิได้มุ่งหวังให้เกิดความเชื่อ ความเข้าใจที่ผิดๆ เกี่ยวกับอภิญญาอภินิหารในวัตถุมงคลของหลวงปู่ครูบาอินแต่อย่างใด
    ผู้ที่อยู่ในวงการพระ ต้องเคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับพระเครื่องไม่ด้วยตนเอง ก็ฟังคนอื่นเขาเล่ามาอีกที ความเชื่อในเรื่องพระเครื่องบางครั้งอาจเป็นจุดกำเนิดให้ คนๆ หนึ่ง หันมาเก็บพระเครื่อง พระบูชา จนบางคนผันตัวเองไปเป็นนักนิยมพระ นักพระเครื่องตัวยงเลยก็มี ส่วนใหญ่ก็ด้วยความเชื่อแทบทั้งนั้น เรื่อราวอภินิหารมีอยู่คู่แผงพระด้วยเหตุนี้ทุกครั้งที่ฟังก็ต้องตั้งใจฟัง เอาสติเป็นตัวตัดสิน ว่ามีความเป็นจริงมากน้อยเพียงไร แล้วสิ่งที่เราได้รับรู้เหล่านั้น มีผลต่อการปฏิบัติดีปฏิบัติถูกของเราหรือไม่อย่างไร อย่าลืมว่า พระเครื่องวัตถุมงคลจะคุ้มกันหรือเอื้อผลในทางที่ดีต่อผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเท่านั้น
    สังเขปประวัติหลวงปู่
    พระครูวรวุฒิคุณ หรือ หลวงปู่ครูบาอิน อินโท (ครูบาฟ้าหลั่ง) มีชื่อเดิมว่า อิน เป็นบุตรของพ่อหนุ่ม แม่คำป้อ เขียวคำสุข ท่านเกิดเมื่อวันที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๔๔๖ (ตรงกับวันเสาร์ แรม ๕ ค่ำ เดือน ๓ เหนือ ปีเถาะ) ณ บ้านทุ่งปุย ตำบลยางคาม อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ หลวงปู่ครูบาอิน สืบเชื้อสายชาวลั๊วะจากผู้เป็นพ่อ ซึ่งเป็นกลุ่มชนส่วนใหญ่ของบ้านทุ่งปุยในขณะนั้น (ปัจจุบันอยู่ในเขต ตำบลสันติสุข อำเภอดอยหล่อ) ตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ (ปีที่ครองราชย์ พ.ศ. ๒๔๑๑-๒๔๕๓) โดยเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ในขณะนั้นคือ เจ้าอินทรวโรรสสุริยวงษ์ (ครองเมืองเชียงใหม่ พ.ศ.๒๔๔๔-๒๔๕๒ท่านมีพี่น้องร่วมบิดามารดา ๕ คนด้วยกัน ครอบครัวของท่านมีอาชีพทำนา ทำไร่
    เมื่อสิ้นบุญพ่อหนุ่ม ครูบาอินท่านได้มาเป็นเด็กวัดทุ่งปุย และได้ บรรพชาเป็นสามเณร เมื่อวันที่ ๑ มกราคม ๒๔๖๐ อายุได้ ๑๔ ปี โดยมีเจ้าอธิการยศ (ครูบามหายศ) เป็นพระอุปัชฌาย์ ที่วัดทุ่งปุยและ เมื่ออายุ ๒๐ ปี ท่านก็ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พันธสีมาวัดป่าลาน ตำบลยางคราม เมื่อวันที่ ๑๕ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๖๖ เวลา ๑๐.๐๐ น. อายุได้ ๒๐ ปี บริบูรณ์ ฉายาในตอนนั้นคือ พระอิน อินโท โดยมีครูบามหายศ วัดท่าวังพร้าว เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการกว้าง วัดสองแคว เป็นพระกรรมวาจารย์ และมีพระอธิการอ้าย วัดทุ่งปุย เป็นพระอนุสาวนาจารย์ เมื่ออุปสมบทแล้วก็ได้เล่าเรียนศึกษาปฏิบัติกรรมฐานกับครูบามหายศ จนต่อมาเมื่อตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดทุ่งปุยว่างลง ท่านก็ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดทุ่งปุย พ.ศ. ๒๔๘๕ และดำรงตำแหน่งเจ้าคณะตำบลยางคราม พ.ศ. ๒๔๙๔ ต่อมาได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌายะ พ.ศ. ๒๔๙๖
    ปีพ.ศ. ๒๕๐๕ ท่านได้รับนิมนต์มาเป็นประธานสร้างโรงเรียนวัดฟ้าหลั่ง และได้เป็นประธานบูรณะวัดร้างฟ้าหลั่งให้เจริญรุ่งเรือง มีเสนาสนะเป็นทีปฏิบัติศีลปฏิบัติธรรมของบรรดาศรัทธาญาติโยม จนได้รับพระราชทานแต่งตั้งเป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูวรวุฒิคุณ”
    หลวงปู่ครูบาอิน เป็นพระสุปฎิปันโนโดยแท้ ปฎิบัติดี ปฎิบัติชอบ มีสีลา จาระวัตร เป็นที่หน้าเลื้อมใสเป็นอย่างยิ่งแก่ศรัทธาประชาชนที่ได้เข้าสักการะกราบไหว้ แล้วจะอบอุ่นสบายใจ เป็นที่สุดจากคำบอกเล่าของบุคคลที่เข้านมัสการท่าน อีกทั้งท่านยังเชี่ยวชาญในสรรพวิชาพุทธาคม ซึ่งท่านก็ได้เมตตาปัดเป่าทุกข์ ให้แก่บรรดาลูกศิษย์ลูกหาและผู้เคารพสักการะที่เดินทางมากราบนมัสการท่านอยู่เสมอ

    นกระทั่งในปี พ.ศ.๒๕๔๓ ในวัยร่วมร้อยปี ท่านจึงเดินทางกลับมาพำนักที่วัดคันธาวาส (ทุ่งปุย) และเป็นกำลังสำคัญในการบูรณะ สร้างเสนาสนะให้แก่วัดทุ่งปุยโดยมีพระครูสุคนธ์บุญญากร เจ้าอาวาสวัดทุ่งปุยเป็นผู้คอยอุปัฏฐากดูแล แต่ด้วยวัยที่ชราภาพมาก สุขภาพร่างกายของท่านจึงร่วงโรยไปตามวัฏสังสาร
    วันที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๔๖ หลวงปู่ครูบาอินเข้าโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่เป็นครั้งสุดท้าย จนกระทั่งถึงวันที่ ๑๒ เมษายน ๒๕๔๖ เวลา ๑๓.๑๕ น. อาการเริ่มทรุดลงเรื่อยๆ จนถึงเวลา ๑๙.๔๐ น. ท่านก็จากไปอย่างสงบ สิริรวมอายุ ๑๐๑ ปี พรรษา ๘๑
    หลังจากมรณภาพ คณะศรัทธาลูกศิษย์ลูกหา ได้จัดพิธีบำเพ็ญกุศล สวดพระอภิธรรม และบรรจุสรีระสังขารหลวงปู่ที่ไม่เน่าเปื่อย แห้งแข็งและปิดทองไว้จนเหลืองอร่ามในโลงแก้ว และจัดสถานที่ให้ศรัทธาสาธุชนได้กราบนมัสการบนกุฏิวรวุฒิคุณ วัดคันธาวาส (ทุ่งปุย) และได้จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ หลวงปู่ครูบาอิน อินฺโท ได้อย่างสมเกียรติ สมสมณะฐานะของท่าน ระหว่างวันที่ ๓๐ มกราคม-๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๐ ณ เมรุชั่วคราว วัดคันธาวาส (ทุ่งปุย)
    วัตถุมงคลของหลวงปู่
    หลวงปู่ครูบาอิน ท่านไม่นิยมชมชอบให้ใครกล่าวอ้างถึงอิทธิฤทธิ์ของวัตถุมงคลที่ท่านได้อธิษฐานจิตปลุกเสก ถึงแม้จะมีข่าวประสบการณ์วัตถุมงคลของท่านอยู่เรื่อยๆ ไม่ว่าจะด้านแคล้วคลาดจากอุบัติเหตุ มหาอุดกันปืน แคล้วคลาดปลอดภัย และผลด้านเมตตามหานิยม จนเป็นที่เคารพศรัทธาและแสวงหาของผู้นิยมวัตถุมงคล แต่หากมีใครมาเล่าให้ท่านฟังถึงประสบการณ์ต่างๆ เหล่านั้น ท่านก็จะกล่าวเพียงว่า เขาเหล่านั้นยังไม่หมดกรรม ยังไม่ถึงฆาต เป็นผลของการรักษาศีลปฏิบัติดีของคนๆ นั้น วัตถุมงคลของท่านเพียงแต่เตือนสติให้ไม่ประมาท และให้ปฏิบัติตนอยู่ในศีลในธรรมเท่านั้น แต่กระนั้นก็ตาม หลวงปู่ครูบาอินก็ได้รับการยอมรับนับถือในฐานะพระเกจิอาจารย์ที่สูงยิ่งด้วยศีล จริยาวัตร และเชี่ยวชาญสรรพวิชาพุทธาคมตามตำราโบราณล้านนา ได้รับนิมนต์เข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลอยู่เสมอ และเมื่อท่านเข้าสู่วัยสูงอายุ ลูกศิษย์ลูกหาได้ขอให้ท่านงดรับกิจนิมนต์เดินทางไปร่วมพิธีพุทธาภิเษก แต่ก็ยังมีผู้นำเอาวัตถุมงคลมาขอให้ท่านเมตตาอธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยววัตถุมงคลถึงที่วัดอยู่เนืองๆ ซึ่งท่านก็สนองจิตศรัทธาทำให้ด้วยความเมตตาเสมอมา
    นับตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง หลวงปู่ครูบาอินได้สร้างวัตถุมงคลเพื่อแจกจ่ายแก่ศรัทธาชาวบ้านที่หวังที่พึ่งทางใจ ตามตำหรับตำราที่ท่านได้ศึกษาเล่าเรียนมา ควบคู่ไปกับการทำเทียนบูชาซึ่งเป็นธรรมเนียมของชาวล้านนา ไม่ว่าจะเป็นเทียนสะเดาะเคราะห์ รับโชค สืบชะตา หรือเทียนบูชาเพื่อปัดเป่าโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ วัตถุมงคลของท่านในยุคแรกก็เป็นตะกรุดและยันต์ สร้างจากวัสดุที่หาได้ง่ายในท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นยันต์โตน (ตะกรุดโทน) ยันต์ก๋าสะท้อน ยันต์กลุ่ม ยันต์คาดเอว เป็นต้น จวบจนกระทั่งในปี ๒๕๑๘ จึงได้มีลูกศิษย์ลูกหาจากกรุงเทพฯ ได้มาจัดสร้างวัตถุมงคลรุ่นแรกเป็นล็อคเก็ตพลาสติก และในปีถัดมาก็ได้จัดสร้างเหรียญรุ่นแรกถวายท่าน และมีการสร้างวัตถุมงคลเรื่อยมา
    วัตถุมงคลของหลวงปู่ครูบาอินส่วนใหญ่จะเป็นวัตถุมงคลที่บรรดาลูกศิษย์ลูกหาทั้งฆาราวาส และบรรพชิตจัดสร้างมาถวายท่าน ทางวัดฟ้าหลั่งและวัดทุ่งปุย จึงไม่ได้มีการจดบันทึกรุ่นและจำนวนการสร้างไว้ให้ชัดเจน ข้อมูลที่ทราบเกี่ยวกับวัตถุมงคลของหลวงปู่ จึงอาศัยจากคำบอกเล่าของลูกศิษย์ผู้สร้างถวาย และจากการจดจำของพระเณรในวัด อีกทั้งวัตถุมงคลแม้จะมีมากมายหลายรุ่น แต่ละรุ่นก็มีจำนวนเพียงเล็กน้อย ตามกำลังศรัทธาของผู้ที่สร้างถวายเท่านั้น เมื่อสร้างเสร็จหลวงปู่ก็ได้เมตตาอธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยวแล้วก็แจกจ่ายแก่ผู้ที่มากราบนมัสการ ส่วนหนึ่งแบ่งให้เช่าบูชาเพื่อร่วมทำบุญสร้างเสนาสนะของทางวัด และร่วมทำบุญกับหลวงปู่ครูบาอินตามที่จะมีผู้มาขอเมตตาให้ท่านอุปถัมภ์งานบุญต่างๆ อยู่เนืองๆ
    กล่าวถึงการแจกพระของหลวงปู่ ผู้ที่เข้าไปกราบนมัสการท่านจะได้รับแจกวัตถุมงคลจากท่านไม่ใช่เพียงแค่ ๑ หรือ ๒ องค์ แต่ท่านมักจะให้ “เป็นกำ” ด้วยเหตุนี้ วัตถุมงคลแต่ละรุ่นที่ท่านแจกจึงใช้เวลาไม่นานก็หมดไปจากวัด
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    เหรียญครูบาอินวัดฟ้าหลั่งสร้างโบสถ์วัดใหม่หนองหอย ๙๒ รุ่นประสบการณ์เหรียญสวยเดิม
    ให้บูชา 350 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20240912_202155.jpg IMG_20240912_202228.jpg
     
  20. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,762
    ค่าพลัง:
    +21,343
    เหรียญท้าวเวสสุวรรณหลวงพ่อเจิมเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งลุ่มน้ำแม่กลอง ที่ศึกษาร่ำเรียนอักขระเวทมนตร์ คาถา จากครูบาอาจารย์ หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี ครูบาธรรมจักร วัดพระพุทธบาทตากผ้า จ.ลำพูน และพระเกจิอาจารย์อื่นๆ อีกหลายรูป
    เหรียญสองหน้าท้าวเวสสุวรรณ-พระสยามเทวาธิราช ของหลวงพ่อเจิม วัดปรกสุธรรมาราม (วัดปรกรวยไม่เลิก) สมุทรสงคราม รุ่นสร้าง พ .ศ.2537 ด้านหน้า (รูปท้าวเวสสุวรรณ) มีคาถาหัวใจพระไตรสรณาคม (พุทธะสังมิ) และหัวใจพระรัตนตรัย (อิสวาสุ) ซึ่งมีอานุภาพครอบจักวาล ด้านหลัง(รูปพระสยามเทวาธิราช) รอบองค์ด้านในมีคาถาหัวใจพระพรหม(เมกะมุอุ) และหัวใจเศรษฐี (อุอากะสะ) อักขระคาถารอบนอกเป็นคาถามหาเมตตา (ปิโยเทวะมะนุสสานังฯลฯ)
    เหรียญรุ่นนี้ทำพิธีพุทธาภิเษกครั้งแรกในอุโบสถของวัดปรกสุธรรมาราม เมื่อเดือนมีนาคม ๒๕๓๗ พระมหานาควัดอนงคารามและวัดประยุรวงศ์ฯ กทม.เป็นพระพิธีธรรมสวดคาถาพุทธาภิเษก หลวงพ่อเกตุวัดเกาะหลัก ประจวบฯ เป็นประธานจุดเทียนชัย และนั่งปรก มีพระคณาจารย์ชื่อดังเข้าร่วมพิธีเจริญจิตภาวนาปลุกเศกประจุพุทธาคมตามแบบพิธีโบราณอีกหลายองค์ เช่น หลวงพ่อลำไย วัดทุ่งลาดหญ้า หลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา หลวงปู่ม่วง วัดยางงาม หลวงพ่อวิไล วัดโพธิ์งาม หลวงพ่อเก๋ วัดแม่น้ำ หลวงปู่สุข วัดเขาตะเครา เป็นต้น ระหว่างการปลุกเสกมีพิธีสวดถอนภาณยักษ์เต็มสูตร และฯลฯ และปลุกเศกเดี่ยวโดยหลวงพ่ออเจิม ตลอดไตรมาสเข้าพรรษาปี ๒๕๓๗ แล้วจึงนำออกแจกเป็นที่ระลึกในงานทอดกฐินประจำปีของวัดในปีเดียวกัน
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    ให้บูชา
    250 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาท

    IMG_20240912_221015.jpg IMG_20240912_221040.jpg IMG_20240912_220936.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...