พระดี พิธีใหญ่ รับประกันแท้ทุกรายการ!!! เชิญชม บูชา ในกระทู้ได้เลยครับ"

3694.ล็อกเก็ตอุ้มบาตรมีกินมีใช้ตลอด หลวงปู่เพ็ง จันทรังษี วัดบ้านละทาย ปิดรายการครับ

​

ล้อมรอบด้วยพระคาถาบารมี30ทัศน์

ด้านหลังบรรจุผงพุทธคุณจันทร์เพ็ญ มหาเสน่ห์ มหาโชด มหาลาภ

เป็นมหามงคลและตะกรุดจารมือทุกดอก อีกทั้งยังมีเกศาหลวงปู่เพ็ง
พระปรกใบมะขามรุ่นแรก พร้อมด้วยจีวรหลวงปู่
ฉากฟ้าสร้างจำนวน 499 องค์

ท่านเป็นศิษย์เอกของหลวงปู่อ้วน โสภโณ แห่งวัดบ้านโนนค้อ อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ พระเกจิอาจารย์ดังแห่งยุคปี พ.ศ.2500 ของจังหวัดศรีสะเกษ
รุ่นเดียวกับหลวงปู่มุม แห่งวัดปราสาทเยอร์
เป็นศิษย์ร่วมอาจารย์กับหลวงปู่สังข์ สุริโย วัดนากันตรม และหลวงปู่ประสาร อรหปัจจโย วัดโนนผึ้ง

 

3695.ชุดวัตถุมงคล พระดีพระเก่า ให้บูชา ชุดละ 999 บาท (ได้รับพระ 3 รายการ)

1.พระสมเด็จพิมพ์ซุ้อกอ พิมพ์เล็ก ยุคต้น (พิมพ์หายาก) หลวงพ่อเมี้ยน วัดบ่อทองหลาง จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลวงพ่อพาน วัดโป่งกระสัง ร่วมปลุกเสก

​

หลวงพ่อเมี้ยน วัดบ่อทองหลาง ท่านเป็นศิษย์ของ หลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวง เป็นเกจิคณาจารย์ที่รักสันโดษมาก ไม่ค่อยสิงสิงกับใคร นาน ๆ ครั้งจึงจะออกงานปลุกเสกหรือรับกิจนิมนต์ซักครั้ง วัตถุมงคลของท่านจึงมีไม่มากนัก ส่วนใหญ่ลูกศิษย์ลูกหาจัดสร้างนำมาให้ท่านปลุกเสก และก็จะนำเข้าพิธีปลุกเสกหมู่ใหญ่ ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งชุดพระสมเด็จกระดาษสานี้ ตามประวัติท่านจะนำเข้าพิธีปลุกเสก โดยมี หลวงพ่อพาน วัดโป่งกระสัง ร่วมปลุกเสกในพิธีด้วย

​

2.สมเด็จพระพุทธมหาบดินทร์ (องค์บดินทร์) เนื้อผงผสมพระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์ใหญ่

​

มูลเหตุการสร้างพระเครื่อง ”องค์บดินทร์”
จอมพลประพาส จารุเสถียร ท่านมีความเคารพนับถือ เจ้าพระยาบดินทรเดชา ท่านมีความสามารถ เก่งกาจ กล้าหาญ ในการนำทัพสู้รบจนมีชัยชนะเหนืออริราชศัตรูของชาติไทยไว้หลายครั้งหลายครา จนเป็นที่เกรงขามของเหล่าข้าศึกศัตรู “องค์บดินทร์”
จึงเป็นที่มาของพระเครื่องที่ จอมพลประพาส จารุเสถียร
มวลสารหลักในองค์บดินทร์
๑. ชิ้นส่วนผง พระสมเด็จบางขุนพรหม ที่แตกหัก รวมรวมไว้เมื่อคราวเหิดกรุ พ.ศ.๒๕๐๐ โดยมีจอมพลประพาส จารุเสถียร เป็นประธานเปิดกรุ
๒. ผงพระกรุต่างๆที่ชำรุด ชิ้นส่วน พระคง กรุวัดพระคง ,ชิ้นส่วน พระวัดสามปลื้ม กรุวัดสามปลื้ม ฯลฯ
๓. ผงพระวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ กรุงเทพฯ
๔. ผงงาช้างโบราณ
๕. ผงธนบัตรพันล้าน ธนาคารแห่งประเทศไทย
๖. ผงตะไบอาวุธ หอก ดาบ ง้าวโบราณ
๗. ผงว่าน ๑๐๘ ,ผงจิตรลดา , ผงอัญมณี อันเป็นมงคลต่างๆ
๘. ทรายเสก คณาจารย์ ๑๐๘
๙. ผงพุทธคุณพระเกจิอาจารย์ทั่วประเทศ ที่จอมพลประพาส รวบรวมไว้
พิมพพระเครื่อง “องค์บดินทร์”
ออกแบบ ปั้นแบบ ดำเนินการจัดสร้างโดย อาจารย์อนันต์ สวัสดิสวนีย์ อดีตนายช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร พิมพ์แบ่งเป็น ๒ พิมพ์
(๑) พิมพ์ใหญ่
(๑.๑) พิมพ์ใหญ่พิเศษ แจกกรรมการ ขนาดกว้าง ๒ เซนติเมตร สูง ๒.๕ เซนติเมตร
(๑.๒) พิมพ์ใหญ่ ปกติ ขนาดกว้าง ๒ เซนติเมตร สุง ๒.๕ เซนติเมตร
(๒) พิมพ์เล็ก ขนาดกว้าง ๑.๕ เซนติเมตร สูง ๒ เซนติเมตร
พิธีพุทธาภิเษก
ทำพิธีพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถวัดจักรวรรดิราชาวาส(วัดสามปลื้ม) กรุงเทพฯ โดยมี หลวงผ่อง วัดจักรวรรดิราชาวาส และพระเกจิอาจารย์ชื่อดังหลายท่านร่วมปลุกเสก ภายในพระอุโบสถวัดจักรวรรดิราชาวาส ขณะทำพิธีได้เกิดลมพายุพัดเข้ามาในพระอุโบสถหมุนอยู่เหนือกล่องที่บรรจุพระเครื่อง “องค์บดินทร์” เป็นเวลานาน และสิ่งที่ทำให้ทุกคนที่อยู่ในพิธธีต่างตกตะลึง
อธิฐานจิตปลุกเสกโดยพระเกจิอาจารย์ที่เรืองวิทยาคมหลายรูป อาทิ
-หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง
-หลวงพ่อเส็ง วัดกัลยาฯ
-หลวงพ่อฑูรย์ วัดโพธินิมิตร
-หลวงพ่อสุด วัดกาหลง
-หลวงพ่อทองสุข วัดสะพานสูง
-หลวงพ่อบุญ วัดวังมะนาว
-หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลย์
-หลวงพ่อสมชายวัดเขาสุกิม
-ฯลฯ
-พิเศษหลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง
อธิษฐานจิต นาน 6 เดือนเต็ม

​

3.พระนางพญา หลวงพ่อแง วัดบางไผ่เตี้ย พิธีปลุกเสกใหญ่วัดสุทัศน์ ปี 2483 เนื้อผง

​

พระนางพญา หลวงพ่อแง วัดบางไผ่เตี้ย พิธีปลุกเสกใหญ่วัดสุทัศน์ ปี 2483 เนื้อผง หายาก ปกติพบเจอแต่เนื้อดิน
พระอธิการโกศล ปาสาธิโก หรือหลวงพ่อแง วัดบางไผ่เตี้ย (เจริญสุขาราม) ต.บางกระเจ้า อ.เมืองจ.สมุทรสาคร ท่านเป็นพระเก่งด้านทำน้ำมนต์ และผ้ายันต์ของท่านชาวเรือแถบนั้นต้องมีติดเรือไว้
หลวงพ่อแงได้สร้างพระเครื่องเนื้อดินไว้ ในช่วงปี 2482 พระรุ่นนี้หลวงปู่รอด วัดบางน้ำวน ซึ่งเป็นพระอาจารย์ของท่าน และคณาจารย์รุ่นเก่าสายสมุทรสาครได้ร่วมอธิษฐานจิตด้วย อาทิ หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ หลวงพ่อเฮง วัดบ้านขอม หลวงพ่อแขก วัดบางปลา หลังพิธีแล้ว พระชุดนี้ได้นำขึ้นถวายสังฆราช(แพ) วัดสุทัศนเทพวราราม กทม.
และเนื่องจากตรงกันกับพิธีฉลอง ขององค์สมเด็จพระสังฆราช(แพ) คณาจารย์จากทุกสารทิศต่างมาร่วมยินดี และได้มีพิธีสร้างและเสกวัตถุมงคลหมู่ ส่วนที่นำวัตถุมงคลต่างๆมาช่วยกันแจกประชาชนก็มี โดยนำเข้ารวมพิธีเดียวกันทั้งหมด เมื่อเสร็จพิธีจึงได้นำออกแจกประชาชน นอกจากคณาจารย์ข้างต้นแล้ว ยังมี หลวงพ่อภักดิ์ วัดบึงทองหลาง, เจ้าคุณศรี(สนธิ์) เจ้าคุณศรี(ประหยัด) ฯลฯ

​

 

3696.ชุดพระสมเด็จ ให้บูชาชุดละ 700 บาท (ได้รับพระ 2 รายการ)

1. พระสมเด็จบางขุนพรหม ปี 2539 พิมพ์เส้นด้าย

​

พระสมเด็จบางขุนพรหม ปี 2539 ทางวัดจัดสร้างผสมผงเก่าตั้งแต่เมื่อครั้งเปิดกรุ ปี 2500
และผงสมเด็จบางขุนพรหมปี 09, 17, และ 31 โดยทางวัดได้นำผงเก่ามาบดละเอียดพิมพ์เป็นเนื้อเดียวกัน ซึ่งจะต่างกับในรุ่นถัดมาปี 43 ซึ่งเป็นการโรยผงเก่าลงไปที่เนื้อพระโดยตรงครับ พิธีพุทธาภิเษก ในวันอังคารที่ 19 ธันวาคม 2538 ณ.พระอุโบสถวัดใหม่อมตรส บางขุนพรหม โดยก่อนจัดพิธีพุทธาภิเษกได้นำถวายหลวงพ่อคูณ ปลุกเสกเดี่ยวให้เป็นปฐมฤกษ์ และในพิธีใหญ่มีพระเกจิอาจารย์ประมาณ 15 รูป นั่งปรกอธิษฐานจิตปลุกเสก ดังนี้
1 หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ นครราชสีมา
2 หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ นครปฐม
3 หลวงพ่อแดง วัดบูรพาราม ปัตตานี
4 หลวงพ่อลำใย วัดทุ่งลาดหญ้า กาญจนบุรี
5 หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม นครปฐม
6 หลวงพ่อดี วัดพระรูป สุพรรณบุรี
7 หลวงพ่อฮวด วัดดอนโพธิ์ทอง สุพรรณบุรี
8 หลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย นครนายก
9 หลวงพ่อเศียร วัดอินทาราม นครสวรรค์
10 หลวงพ่อเจือ วัดกลางบางแก้ว นครปฐม
11 หลวงพ่อเฮ็น วัดดอนทอง สระบุรี
12 หลวงพ่อนะ วัดหนองบัว ชัยนาท
13 หลวงพ่อนก วัดเขาบางเหย ชัยภูมิ
14 หลวงพ่อหอม วัดท่าอิฐ อ่างทอง
15 หลวงปู่แสง วัดหนองเขวา นครราชสีมา

​

2.พระสมเด็จอายุวัฒนมงคล ญสส 90 พรรษา พิมพ์ใหญ่แช่น้ำมนต์ โรงผงเก่าบางขุนพรหม สมเด็จญาญ วัดบวร ปี 46

​

 

3697.พระขุนแผน ลพ.ตี๋ ปี 2480 วัดปากน้ำโจ้โล้ ฉะเชิงเทรา เนื้อว่านผงยา ให้บูชา 800 บาท ผสมผงเก่าของ ลป.พริ้ง ลป.เหลือ

​

หลวงตาตี๋ วัดปากน้ำโจ้โล้ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา
ท่านผู้นี้คือลูกศิษย์ใกล้ชิดท่านหนึ่งของ หลวงพ่อพริ้ง วัดบางประกอก และหลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก
พระชุดนี้สร้างขึ้นประมาณพ.ศ. 2480 เป็นพระเนื้อว่านผงยา ซึ่งผสมมวลสารของหลากหลาย เช่น
ผงหลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก
ผงหลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก
ผงหลวงพ่อจี๊ด วัดลาดขวาง
พระเครื่องของท่านนับวันเริ่มหายากมากพระของท่านส่วนมากชาวบ้านพื้นที่จะบอกกันเป็นเสียงเดียวเลยว่า พระของท่านสุดยอดเมตตา

ประวัติวัดปากน้ำโจ้โล้
วัดปากน้ำโจ้โล้เป็นวัดที่สวยงามตั้งอยู่ที่อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา มีเอกลักษณ์ด้วยพระอุโบสถของเป็นสีทองทั้งหลัง สะดุดตาคนที่ผ่านไปมา ภายในพระอุโบสถวัดปากน้ำโจ้โล้มีองค์หลวงพ่อโตเป็นพระประธานของวัดปากน้ำโจ้โล้ จำลองจากพระพุทธชินราช ด้านหน้าพระประธานมีรูปพระเจ้าตากสิน ไหว้ด้วยพานเครื่องทองน้อยแทนการจุดธูปเทียน ด้านบนของพระอุโบสถวัดปากน้ำโจ้โล้มีการสร้างบุษบกไว้ที่ด้านบนพระอุโบสถเพื่อบรรจุพระบรมธาตุ
ตามประวัติวัดปากน้ำโจ้โล้เป็นวัดในสมัยอยุธยาตอนปลายสร้างประมาณ 200 กว่าปีมาแล้ว แต่ไม่ปรากฏแน่ชัดว่าสร้างขึ้นเมื่อใด ในสมัยพระเจ้าตากสินเมื่อเสด็จนำทัพผ่านเพื่อไปตีเมืองจันทบุรี เมื่อคราวชนะทหารพม่าที่ตั้งค่ายอยู่ริมน้ำจึงทรงสร้างพระสถูปเจดีย์ไว้เป็นอนุสรณ์ ว่ากันว่าชื่่อโจ้โล้นั้นมาจากการที่
พระเจ้าตากสินมหาราชทรงวางแผนยุทธการการสงครามเข้าตีทหารพม่าโดยการที่ทรงโล้เรือมาตามน้ำ ให้ทหารพม่าเห็นว่าทรงมาเพียงลำพังให้ทัพพม่าตายใจ แล้วให้ทหารซุ้มล้อมโจมตีจนได้ชัยชนะ และได้เรียกกันต่อมาว่าเจ้าโล้จนเพี้ยนมาเป็น โจ้โล้ และอีกประวัติหนึ่งคือ ลำน้ำนี้มีปลากระพงชุกชุม และชาวจีนเรียกว่า โจ้โล้

 

3698.พระผงรูปเหมือนรุ่นแรก หลวงปู่คำแปลง วัดถ้ำผาหมากฮ่อ จ.เลย ให้บูชา 650 บาท (ได้รับพระ 2 รายการ)

​

ทางวัดจัดสร้างเองโดยหลวงปู่คำแปลง เป็นผู้รวบรวมมวลสารด้วยตัวท่านเอง
อาทิเช่น
เกศาพ่อแม่ครูบาอาจารย์
สายกรรมฐานต่างๆ
ที่ท่านได้ไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์
ว่านมงคลต่างๆ
แร่มงคลต่างๆ
พระธาตุ
พระกรุสมเด็จบางขุนพรหม
อิฐพระธาตุพนม
และอื่นๆอีกมากมาย

เป็นพระที่หลวงปู่คำแปลง ท่านมีความตั้งใจอย่างมากในการจัดสร้างทั้งผสมมวลสารด้วยตัวท่านเอง จัดหามวลสารเอง กดแม่พิมพ์พระเอง
หลวงปู่เริ่มจัดสร้างพระชุดนี้ประมาณช่วงอออกพรรษาปี 2541 และแจกในงานวันเกิด ปี 2542
ระยะเวลาในการอธิษฐานจิตประมาณเกือบ 1 ปี ก่อนที่จะแจกให้บูชา และเป็นพระที่หลวงปู่ทันบอกว่า
" รุ่นนี้แหละมันดีที่สุด "
พระเถราจารย์ที่อธิษฐานจิตปลุกเสก
-- ลป.ท่อน ญาณธโร
-- ลป.ผ่าน ปัญญาปทีโป
-- ลป.บุญมี ฐิตปุญโญ
-- ลป.ศูนย์ จัณทสุวัณโณ
-- ลป.อินตอง สุภวโร
-- ลป.บุญมา คัมภีรธัมโม
-- ลป.บุญพิน กตปุญโญ
-- ลป.สวย อจโล
-- ลป.คำมี ปัญญาธโร
-- ลป.สรวง สิริปุญโญ
-- ลป.พวง สุวีโร
-- ลป.โกวิท ฐานยุตโต
-- พระราชสุเมธี ( ลป.เหลี่ยม สุจิณโณ )
-- ลป.พัน ฐิตธัมโม
( ปลุกเสกครั้งสุดท้ายในงานมุทิตาจิต 60 ปี พระประมาณ 200 รูป ร่วมอธิษฐานจิตเจริญพุทธมนต์ )

 

3699.เหรียญพระพุทธสิหิงค์หลังตราภปร. ที่ระลึก 700 ปี ลายสือไทย กรมธนารักษ์จัดสร้างหลวงพ่อเกษม และพระเกจิคณาจารย์ร่วมสมัย ปลุกเสกพิธีใหญ่ในปี 2526 ให้บูชา 600 บาท

​

เหรียญที่ระลึกฉลอง 700 ปี ลายสือไทย ออกโดยกองกษาปณ์ เมื่อปี พ.ศ 2526
เนื่องในงานฉลองที่ประเทศไทยมีตัวหนังสือใช้เป็นของตนเอง มาตั้งแต่สมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช วาระครบ 700 ปีพอดี
ด้านพิธีพุทธาภิเษกนับได้ว่าเป็นพิธีใหญ่ มีพระเกจิคณาจารย์ร่วมสมัย มาปลุกเสกหลายรูป
อาทิเช่น
หลวงพ่อจรัญ
หลวงพ่อแช่ม
หลวงพ่อจวน
หลวงพ่ออุตตมะ
หลวงพ่อไพฑูรย์
และอีกหนึ่งในพระเกจิที่ร่วมปลุกเสกนั้น ก็มีหลวงพ่อเกษม เขมโก แห่งสุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง

เหรียญที่ระลึกฉลอง 700 ปี ลายสือไทยหลังพระนามาภิไธยย่อ ภปร. พ.ศ. 2526
พิธีพุทธาภิเษกใหญ่ 3 วาระ
ครั้งที่ 1
เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2526 ณ บริเวณวิหารหลวงหน้าพระอจนะ วัดศรีชุม
ครั้งที่ 2
เมื่อวันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2527 ณ บริเวณวิหารหลวงหน้าพระอจนะ วัดศรีชุม อีกวาระ
ครั้งที่ 3
เมื่อวันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2527 ณ สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง ปลุกเสกโดยหลวงพ่อเกษม เขมโก ท่านยังได้พูดกับคนใกล้ชิด ก่อนมนต์เหรียญรุ่นนี้ไว้กับปากอีกด้วยว่า“พิธีนี้เราจะเบ่ง( พลังปลุกเสก )ให้เป็นพิเศษ"

 

3700.ครั่งเหลือร้ายแห่งสายวัดโตนดหลวง พระปิดตาเนื้อครั่ง หลวงพ่อแถม วัดช้างแทงกระจาด จ.เพชรบุรี ( ฉายาสุดขลัง หลวงพ่อยางตัน) ให้บูชา 600 บาท

​

พระปิดตารุ่นนี้หายากมาก เพราะจำนวนการสร้างที่น้อย และหลวงพ่อปลุกเสกไว้ขลังไม่แพ้พระเนื้อครั่งยุคเก่าๆ
หลวงพ่อแถมได้รวบรวมครั่งที่ตกค้างอยู่ในพระอุโบสถหลังเก่าสมัย หลวงพ่อทองศุข หลวงพ่อจันทร์ และได้รับมอบจากหลวงพ่อแผ่วและของวัดช้างแทงกระจาด นำมาแกะบล็อค และกดพิมพ์พระโดยใช้ไฟเป็นตัวประสาน ที่วัดช้างแทงกระจาด หลวงพ่อปลุกเสกเดี่ยว รุ่นนี้หลวงพ่อเอาออกมาแจกในงานอายุวัฒนมงคล 71 ปี เนื้อพระใช้เนื้อครั่งสูตรเดียวกับวัดโตนดหลวง ด้านหลังตอกโค๊ต " ว.ช.ท." หลวงพ่อเสกไว้ครบ " คงกระพันชาตรี มหาอุด เมตตา แคล้วคลาด "

 

3701.พระพิมพ์เล็บมือ เนื้อผงน้ำมัน หลวงพ่อชื่น วัดท่าพูด จ.นครปฐม ให้บูชา 900 บาท

​

พระผงน้ำมันหลวงพ่อชื่นวัดท่าพูด หลวงพ่อชื่นท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดท่าพูดประมาณสมัยรัชกาลที่ 5 จากหนังสือประวัติวัดท่าพูด "เขาเล่าลือกันว่าที่วัดท่าพูดต.ไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม เคยมีตำนานเล่าสืบต่อกันมาว่า ในสมัยรัชกาลที่ 5 ถึงรัชกาลที่ 6 ที่วัดนี้ มีสมภารถึง 2 องค์ คือหลวงพ่อแก้ว และหลวงพ่อชื่น และมีความผูกพันกับกรมหลวงชุมพร และหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า หลวงพ่อแก้ว เกิดที่ ต.ท่าพูด อ.สามพราน จ.นครปฐม ซึ่งประวัติท่าน ยังไม่เคยแน่ชัดมากนัก หลวงพ่อชื่น เกิดที่ ตำบลโผงเผง อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง แต่ได้ย้ายอพยพครอบครัวมาอยู่ที่จังหวัดนครปฐม แถบวัดท่าพูดนั่นเอง ประวัตินอกนั้นยังไม่แน่ชัดมากแต่ทราบในหนังสือประวัติของครูเอื้อน วาชนนท์ ได้กล่าวไว้ว่า สมัยที่หลวงพ่อแก้วและหลวงพ่อชื่นได้เรียนวิชากรรมฐานนั้นได้มีพระภิกษุซึ่งเป็นพระสหายทางธรรม ของหลวงพ่อแก้วอยู่รูปนึง ที่ไปมาหาสู่กันเป็นพระจำ พระรูปนั้นคือพระครูโสอุดร (หลวงพ่อศุข วัดปากคลองมาขามเฒ่า ) นั่นเอง ซึ่งตรงกับคำเขียน ของ คุณทัศนะ อัชวังกูร ในนิตยสาร นะโม ฉบับที่ 79 ไว้ว่า วัตถุมงคลของหลวงพ่อแก้วนั้น ได้จารยันต์ตัวเดียวกับของหลวงปู่ศุขไม่มีผิดเพี้ยน ทั้งยันต์พุทธรอบโลก ยันต์นะสะบัดหัว และมีหลักฐานยืนยันอีกๆอีกมากมาย ที่เชื่อมโยงกัน เคยมีผู้กล่าว ไว้ว่า ในสมัยนั้นหลวงพ่อชอบปั้นดินทำลูกสะกด เม็ดใหญ่ เท่าเม็ดพุทราตากไว้ทั่วบริเวณวัด ก็มีพวกที่ชอบยิงสัตว์ได้เข้าเข้าไปยิงสัตว์ในบริเวณวัด ปรากฏว่าปืนเหล่านั้น ยิงยังไงก็ไม่โดนตัวสัตว์เลย ชาวบ้านแถวนั้นจึงรีบเก็บ...เอาใว้ป้องกันตัวกันมากมายหลวงพ่อท่านมิใช่พระที่เก่งด้านวิปัสสนาเพียงอย่างเดียว ท่านยังเก่งวิชาช่างต่างๆด้วย และได้สอนให้ลูกศิษย์ในวิชาการช่างต่างๆ และท่านยังสามารถทำนายเหตุการณ์ล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำด้วย และในสมัยนั้น ท่านกรมหลวงชุมพรได้เสด็จไปหาหลวงปู่ศุขวัดปากคลองมะขามเฒ่า ซึ่งหลวงปู่ท่านก็ได้แนะนำให้ท่านไปหาพระที่เป็นสหายธรรม อยู่ที่วัดท่าพูด อ.สามพราน จ.นครปฐม ซึ่งด้วยความอยากรู้ ท่านกรมหลวงชุมพรก็ได้เสด็จไปวัดท่าพูด จากวัดปากคลองมะขามเฒ่า ไปถึงวัดท่าพูดสมัยนั้นก็รุ่งสางพอดี พอไปถึงที่วัด ในฐานะผู้เคยร่วมสำนักอาจารย์ เดียวกัน ท่านก็ได้กราบมนัสการและเพื่อไม่ให้เสียเที่ยว จึงถือโอกาส ขอ ตะกรุดหลวงพ่อ ท่านละ 1 ดอก เพื่อทดสอบวิชา โดยหลวงพ่อชื่นท่านได้ถอดอาคมออกจากตะกรุดของท่านเนื่องจากท่านให้เกียรติหลวงพ่อแก้วซึ่งอาวุโสกว่าท่าน เมื่อได้ตะกรุดทั้งสองดอกแล้ว เสด็จกรมหลวงฯท่านได้กลับขึ้นไปบนเรือกลไฟแล้วโยนตะกรุดทั้งสองดอกใส่ในเตาไฟแล้วสั่งให้ทหารมหาดเล็กเร่งไฟให้แรงที่สุดแล้วก็เสด็จเข้าบรรทม เมื่อตื่นขึ้นมาก็ให้มหาดเล็กไปดูในเตาไฟว่าเป็นอย่างไรบ้าง มหาดเล็กแจ้งว่ามีตะกรุดไม่ละลายอยู่ดอกหนึ่ง เสด็จกรมหลวงฯจึงนำตะกรุดดอกนั้นขึ้นไปหาหลวงพ่อแก้วและหลวงพ่อชื่นว่าเป็นตะกรุดของท่านใด ซึ่งหลวงพ่อแก้วท่านได้ทราบด้วยฌานว่าหลวงพ่อชื่นได้ถอนอาคมออกจากตะกรุด จึงพูดขึ้นว่าตะกรุดดอกนั้นเป็นของท่านชื่นไม่ใช่ของท่าน แต่สุดท้ายเสด็จกรมหลวงก็ได้ถวายตัวเป็นศิษย์ของทั้งสองอาจารย์"

 

3702. พระจันทร์ลอยเนื้อดิน หลวงพ่อเชย วัดท่าควาย จ.สิงห์บุรี หลังอูม มีจารด้านหลัง ให้บูชา 999 บาท

​

หลวงพ่อเชย วัดท่าควาย ท่านเกิดเมื่อ พ.ศ. 2412 เป็นลูกศิษย์ที่เรียนพุทธาคมกับหลวงพ่อแตง วัดเสฐียรวัฒนดิษฐ์ ภายหลังหลวงพ่อแตงมรณภาพ ท่านจึงออกรุกขมูลไปยังสถานที่ต่างๆ ทำให้รู้จักกับหลวงปู่ศุข (พระครูวิมลคุณากร) วัดปากคลองมะขามเฒ่า, หลวงพ่อช้าง วัดตึก, และหลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ โดยเฉพาะหลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือนั้น มีอายุไล่เลี่ยกับหลวงพ่อเชย ท่านทั้ง 2 มักจะไปมาหาสู่กันอยู่เสมอ ถึงกับหลวงพ่อเชยเคยให้พระปิดตาของท่านไปแจกจ่ายที่ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ทำให้มีคนเข้าใจว่าเป็นพระของหลวงพ่อรุ่งสร้างขึ้น แต่ที่จริงแล้วเป็นพระของหลวงพ่อเชยได้ให้หลวงพ่อรุ่งไปแจก
พระเครื่องที่หลวงพ่อเชยสร้างนั้น มีทั้งพระเนื้อผงผสมว่าน เนื้อผงใบลาน และเหรียญเสมาพระภควัมบดี ซึ่งนับได้ราวๆ 75 พิมพ์ทรง ในจำนวนนี้มีทั้งแบบพิมพ์ที่เสด็จในกรมฯ สร้างถวาย กับพิมพ์ที่หลวงพ่อเชย แกะพิมพ์เอง ในส่วนของการสร้างนั้น ท่านจะทำการสร้างอยู่เรื่อยๆ ครั้งละไม่มากนัก เมื่อสร้างเสร็จท่านจะทำการปลุกเสกเดี่ยว เพื่อแจกแก่ลูกศิษย์ลูกหา พระพิมพ์ต่างๆ ของท่าน ได้แก่ พระพิมพ์กำแพงทุ่งเศรษฐี, พระพิมพ์จันทร์ลอย, พระพิมพ์สิวลี, พระรอดทรงครุฑ, พระโคนสมอ, พระนาคปรก, พระสามพี่น้อง, พระหูยาน, พระสังกัจจายน์, พระพิมพ์ปิดตา 2 หน้าและหน้าเดียว, พระพิมพ์สมเด็จ, พระพิมพ์เมืองสรรค์, พระพิมพ์ฤาษี, พระพิมพ์อัครสาวก(พระโมคคัลลาน์และสารีบุตร) เป็นต้น

 

3703.ชุดวัตถุมงคล หลวงพ่อถาวร จิตถาวโร วัดปทุมวนาราม กทม.
ศิษย์บรมครูหลวงปุ่เทพโลกอุดร ทายาทธรรมพระในทำนายหลวงปู่ยี วัดดงตาก้อนทอง จ.พิษณุโลก

1.พระสิวลีมหาลาภ
2 พระสมเด็จ หลังยันต์ครู 2 องค์

***ให้บูชา ชุดละ 850 บาท (ได้รับพระ 3 รายการ)

​

การสร้างพระผงว่านยา หลวงพ่อถาวร จิตตถาวโร วัดประทุมวนาราม กทม.
พระผงว่านยา มีการจัดสร้างทั้งหมดจำนวน 3 พิมพ์

1. พระสมเด็จ พิมพ์ใหญ่ หลังยันต์ลึก

2.พระสมเด็จ พิมพ์ใหญ่ หลังยันต์ตื้น

3.พระนางพญา หลังยันต์

สร้างในปี พ.ศ 2545 รวมทุกพิมพ์มีประมาณ 3000 องค์ มีพีธีสร้างและปลุกเสกที่วัดประทุมวนาราม กรุงเทพ โดยหลวงพ่อเป็นผู้ปลุกเสกเดียวด้วยตัวของท่านเองตลอดพรรษาทุกวันไม่เว้นแม่แต่วันเดียวและยังได้อาราธนาครูบาอาจารย์ในโลกทิพย์มารวมปลุกเสกพระรุ่นนี้รวมทั้งครูบาอาจารย์ของท่าน คือหลวงปู่ยี ปรมจารย์แห่ยุค ที่เรืองฤทธิ์ และ หลวงปู่เทพโลกอุดร พระอาจารย์ใหญ่ในสายของท่านมาปลุกเสกจนให้มีอานุภาพศักสิทธิ์ ที่สุดเท่าที่ท่านจะทำได้สิ่งของมงคลและทุกอย่างที่เป็นอาถรรพ์ศักสิทธิ์ที่นำมาใส่ไว้ในรุ่นนี้ มากมายเพื่อให้เป็นที่สุดในพระเครื่องในยุคปัจจุบัน
มวลสารและผงพุทธคุณที่ท่านนำมาใส่ หลักๆมีดั้งต่อไปนี้
1.ว่านกากยา อันเป็นของวิเศษมีพลังอัศจรรย์ ของหลวงปู่ยี ซึ่งมีคุณทางรักษาโรคภัยต่างได้ มีคุณทางป้องกันสิ่งไม่ดีทั้งหลาย คุณผี คุณคน ลมเพลมพัดมนต์ดำ น้ำมันผี น้ำมันพราย ซึ่งมวลสารนี้หลวงปู่ยี ได้ให้ไว้กับศิษย์ท่านสายพระเหนือโลก คือ หลวงพ่อถาวร
2.ผงพุธคุณอันขึ้นชื่อของภาคอีสานผงนี้
มีค่ามากกว่าทองคำก็ว่าได้ คือผงโสรฬหมหาพรหม ของหลวงปู่สน ท่าดอกแก้วหลวงพ่อได้รับมอบมาจากพระเถระในสายหลวงปู่มั่น ผงนี้มีอานุภาพประมาณไม่ได้ มีคุณวิเศษ ทางแก้ ดวงตก ชะตาขาด ทำให้ดวงชะตาวาสนาดีขึ้น ทั้งยังเป็นเมตตามหานิยมชั้นสูง
3.ผงลบยันต์มหาสะท้อน โองการมนต์พระกาฬ ของ อาจารย์ท่านคือ หลวงปู่ยี วัดดงตาก้อนทอง
4.ผงในสายวัดระฆัง หลวงพ่อได้รับมอบมาจาก จากพระเถระชั้นผู้ใหญ่ในสายวัดระฆัง
5.หลวงพ่อได้ลบผงด้วยตัวท่านเองอีกจำนวนหนึ่งได้ทำตามตาราหลวงปู่ยี
- ผงอิทธิเจ เมตตาสูง มหานิยม ลุ่มหลงทั้งหมู่บ้าน
- ผงปัถมัง ล่องหน หายตัว
- ผงตรีนิสิงเห ป้องกันคุณไสย กันทุกอย่าง
- ผงพุทธคุณ ครอบคลุมทั้งหมด มีอิทธิ มีอำนาจมาก
- ผงมหาราช คนนิยม คนหลง ยกให้เหนือเขา หรือที่เรียกว่า “ทูนหัว”
- ผงเสกสิระ ดีทุกแง่ทุกมุม ทำอะไรก็ดีไปหมด ที่เรียกว่า “ดวงขึ้น”
- ผงโองการนมัสการอุทัย พระจันทร์ครึ่งซีก เสน่ห์มัดใจคน เอาจิตผูกจิต
- ผงมหาลาภน้อย-ผงมหาลาภใหญ่ ลาภมากมายมหาศาล หอบไปไม่หมด
- ผงนารายณ์เข้ากลีบเมฆ หายตัวได้ คนตามเจอ ให้เห็นก็เห็น ไม่ให้เห็น ก็ไม่มีใครเห็น
ผงทั้ง 9 อย่างนี้หาผู้สำเร็จยากมาเพราะต้องได้สมาธิและกำลังสมาบัติถึงจะทำจึงจะมีอนุภาพตามตำรา ตำรานี้เป็นสายวิชาของหลวงปู่ยี นั้นเอง
6. พระรุ่นนี้มีมวลสารดีชั้นยอดอีกอย่างคือดิน รัตนบันลังก์ดินตรงที่พระพุทธเจ้าพระองค์ได้นั้ง ตรัสรู้เป็นพระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญานพุทธเจ้า ดินตรงนี้ทุกอณูดินมีอนุภาพหาประมาณมิได้ ทุกอณูดินมีพรหมเทพรักษา มีคุณทางเจริญรุ่งเรืองในทุกด้านของผู้ได้บูชา
7.รากพระศรีมหาโพธิ์ คือรากต้นโพธิ์ที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงนั้งตรัสรู้ ที่โบราณที่เรียกว่า ต้นพระศรีมหาโพธิ์คู่บารมี มีอานุภาพ ทางร่มเย็นใครมีพระรุ่นนี้จะมีแต่คนให้ความช่วยเหลือเราตลอดเวลาไม่ตกต่ำใน
ชิวิตมีคนค่ำชูให้ตลอดยังส่งผลให้ใช้ในการฝึกสมาธิได้ดีอีกด้วย ส่งเสริมปัญญาให้ยังเกิดกับผู้บูชา
พระรุ่นนี้ ไม่ว่าจะเป็น สมเด็จ หรือ นางพญา ท่านได้บรรจุพลังอย่างเต็มที่เต็มกำลังความสามารถของท่านที่จะทำได้ พระนี้จึงดีนอก คือพิมพ์ทรง ดีในมวลสารและผู้ปลุกเสกนั้นเอง
พระเครื่องที่เปลี่ยมพร้อมด้วยคุณวิเศษนานาประการ ที่หลวงพ่อถาวรท่านต้องการให้ลูกศิษย์ของท่านเอาไปบูชาเพื่อเป็นกำลังใจในการต่อสู้ปัญหาในชิวิต ไปส่งเสริมดวงชะตา และเป็นมงคลในชิวิต


พระสิวลีมหาลาภ จัดสร้างเมื่อปี 2529
พระสิวลีรุ่นนี้ หลวงพ่อเคยบอกกับลูกศิษย์ใกล้ชิดว่า
พระสิวลีรุ่นนี้ อีกหน่อยจะมีแต่คุณหญิง คุณนาย เลี่ยมกรอบทองคำ ฝังเพชร บูชากัน
ลูกศิษย์ทุกคน จะรู้ดี ว่าองค์หลวงพ่อถาวร ท่านเป็นผู้บำเพ็ญสัจจะบารมีมาตลอด เพราะฉะนั้น องค์หลวงพ่อถาวรท่านจึงเป็นพระผู้มีวาจาสิทธ์ มากครับ ท่านจะพูดอะไรหรือกล่าวอะไรออกไป ก็จะเป็นจริง ตามที่ท่านพูด และบอกกล่าว ทุกอย่างครับผม ท่านใดยังไม่มี พระสิวลีรุ่นนี้ ไว้บูชา ควรรีบ หามาไว้บูชาด่วนๆเลยครับ พุทธคุณของพระสิวลีท่าน จะเด่นเรื่องโชคลาภ เงินทอง ความร่ำรวย ความมั่งคั่งมั่งมี ศรีสุข ซึ่งจะเหมาะกับเศรษฐกิจที่ฝืดเคืองในยุคนี้ พวกเราจึงจำเป็นต้องพึ่ง องค์พระสิวลีขององค์ หลวงพ่อถาวร ให้ท่านช่วยเสริมเรื่องโชคลาภ เงินทอง

 

3704.สมเด็จนางพญาไพรดำ พิมพ์ จิตรลดา หลวงพ่อถาวร วัดปทุมวนาราม ให้บูชา 999 บาท

​

พระสมเด็จนางพญาไพลดำ พิมพ์สมเด็จจิตรลดา หลวงพ่อพระมหาถาวร จิตฺตถาวโร (พระเทพวิมลญาณ) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปทุมวนารามราชวรวิหาร กทม. เป็นพระราชาคณะฝ่ายธรรมยุติกนิกาย และรองเจ้าคณะภาค 9 (ธรรมยุต) เนื้อผงวิเศษผสมว่านปิดทองคำแท้ในพิมพ์ หลังไพลดำ ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2549 โดยรับพระราชทานให้จัดสร้างได้ ให้มีรูปแบบเหมือนของเดิม สมเด็จจิตรลดา ที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจัดสร้างด้วยฝีพระหัตถ์ของพระองค์เอง แต่ด้านหลังหลวงพ่อถาวร ท่านใช้ยันครูฯหลวงพ่อยี ประทับไว้แทน เพื่อจะได้ไม่ให้เหมือนของเดิม

จัดสร้างด้วยมวลสารผงวิเศษ อาทิ
- มวลสารผงจิตรดาที่ได้รับพระราชทาน และได้รับอนุญาตจากทางวังในการจัดสร้างเป็นกรณีพิเศษ
- กิ่งใบโพธิ์ แก่นจันทร์ จากประเทศอินเดีย
- กากยาน้ำมันมนต์ของ หลวงพ่อยี วัดดงตาก้อนทอง
- ข้าวสารดำอันเกิดจากการหุงข้าวสารด้วยไพลดำ เป็นต้น
“ไพลดำ” เป็นว่านที่กล่าวถึงในตำนานว่านไทย ว่ามีความวิเศษ ยิ่งกว่าว่านทั้งหลาย เป็นว่านกายสิทธิ์ไพลดำ อานุภาพสูงมีสรรพคุณ เลื่องชื่อในคำว่า คงกระพันชาตรีมหาอุด และแคล้วคลาดปลอดภัย มีกระแสอิทธิฤทธิ์ที่แรงมากเป็นว่านมหามงคลมีฤทธิ์อำนาจในตัว ป้องกันอาถรรพ์และทำลายสิ่งชั่วร้าย ปกป้องภัย ดังนั้นถ้านำมาเป็นมวลสารในองค์พระจะยิ่งมีความเข้มขลังเป็นพิเศษกว่าพระโดยทั่วไป อานุภาพเทียบเท่าเหล็กไหล

พิธีพุทธาภิเษก
- ณ. ศาลาพระราชศรัทธา วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร กทม. โดยพระคณาจารย์ 9รูป อาทิ หลวงปู่แย้ม วัดตะเคียน, หลวงพ่อรวย วัดตะโก และ หลวงพ่อพระมหาถาวร วัดปทุมวนาราม เป็นต้นและหลวงพ่อถาวรเชิญครูบาอาจารย์ท่านมาช่วยเสกด้วยครับ พระเครื่องหลวงพ่อถาวร จัดสร้างและเสกอธิษฐานจิต มีฆราวาสผู้ปฎิบัติธรรมสายหลวงปู่ดู่ ได้จับพลังดู ถึงกับเอ่ยปากว่าพลังพุทธคุณสูงมาก มีญานของพระผู้สำเร็จมาเสกอธิษฐานจิต ให้หลายรูป พลังและรัศมีรุนแรงมากและมีกระแสเย็นสบาย พุทธคุณครอบจักรวาล ด้านหลังเป็นยันต์เอกลักษณ์ของหลวงพ่อถาวร และฝังว่านไพลดำที่มีคุณสมบัติ ด้านคงกะพัน ป้องกันคุณไสย ป้องกันอุบัติเหตุต่างๆ
หลวงพ่อถาวร เป็นเจ้าอาวาสวัดปทุมวนาราม ท่านเป็นศิษย์ของหลวงปู่ยี ปญญภาโรและหลวงปู่ใหญ่ฯทางนิมิตร ซึ่งหลวงปู่ยีก็เป็นศิษย์ในดงของหลวงปู่เทพโลกอุดร ซึ่งหลวงปู่ยีเป็นพระอภิญญา สามารถแสดงฤทธิ์ได้ สมัยก่อนเคยมีการทดสอบท่าน ท่านก็แสดงฤทธิ์ให้เห็นกันชัดๆ จนเป็นข่าวใหญ่ในสมัยนั้นกันเลยครับหลวงพ่อถาวรเป็นพระดีที่หาได้ยากในปัจจุบันนะครับ ท่านมีพลังจิตสูงมากองค์หนึ่งเลยทีเดียว ท่านใดที่ไม่สามารถจะเสาะ
แสวงหา พระสมเด็จจิตรลดา "ยุคแรก" มาขึ้นคอ เพื่อเป็นสิริมงคลได้ หลวงพ่อถาวร ท่านก็จะแนะนำ ศิษยานุศิษย์ของท่าน ให้อาราธนา "พระพิมพ์สมเด็จิตรลดา หลังว่านไพลตำ" ทดแทนได้...เพราะมีมวลสาร ยุคแรกๆ ของ สมเด็จจิตรลดา ผสมอยู่ เป็นจำนวนมาก ท่านบอกว่า รุ่นนี้ คือ สุดยอดแห่งมวลสาร,สุดยอดแห่งพุทธคุณ และต่อไปในภายภาคหน้า จะ ล้ำค่า หายากสุดพรรณนา..! ขอให้คณะศิษยานุศิษย์ ทุกๆคน จงเชื่อ...

 

3705.สมเด็จคะแนน โภคทรัพย์ หลวงพ่อน้อย วัดเนินเวียง นครสวรรค์ ปี 2538 ให้บูชา 650 บาท

​

สมเด็จคะแนนโภคทรัพย์ หรือที่เรียกติดปากกันว่า “คะแนนจิ๋ว” ของหลวงพ่อน้อย วัดเนินเวียง เป็นสมเด็จรุ่นเดียวและรุ่นสุดท้ายที่หลวงพ่อเมตตา และตั้งใจทำอย่างยิ่ง มีส่วนผสมมวลสาร ว่านศักดิ์สิทธิ์ ว่านมหาเสน่ห์ ว่านมหามงคล 108 ซึ่งหลวงพ่อน้อยใช้เวลารวบรวมอยู่หลายปีกว่าจะครบตามที่ต้องการ นอกจากนี้สมเด็จรุ่นนี้ยังมีส่วนผสมของผงวิเศษหลายประการ เช่น ผงอิทธิเจ ผงตรีนิสิงเห และผงโสฬสมหาพรหม ของหลวงปู่สีทัตต์ศิษย์สมเด็จลุน ที่ท่านได้รับมาจากหลวงปู่จันทร์ วัดศรีเทพ เมื่อปี 2500 ท่านได้มาพร้อมกับนางพญาหลวงปู่จันทร์ ซึ่งเป็นผงเดียวกับผงที่ผสมใน พระผงโสฬสมหาพรหมหลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ จ.ระยอง
หลวงพ่อน้อยท่านได้นำผงโสฬสมหาพรหม ของหลวงปู่สีทัตต์มาเป็นเชื้อหลัก ผสมกับผงโสฬสมหาพรหมของท่าน ที่ท่านเขียนและลบเอง ท่านได้เรียนการสร้างผงโสฬสมหาพรหม จากหลวงปู่อิลทนิล ท่านเรียนและฝึกทำอยู่นานหลายปี ทำอยู่หลายครั้งหลวงปู่อินทนิลท่านก็บอกว่ายังไม่ผ่าน กว่าจะทำผงนี้ผ่านได้เกือบ 30 ปี ด้วยวิชาการสร้างที่ยากนัก ท่านบอกว่าผงโสฬสมหาพรหมทำยากกว่าผงอิทธิเจของท่านเสียอีก
หลวงพ่อน้อยได้ใช้เวลาในการทำและรวบรวมผงนี้นานถึง 30 ปี โดยท่านจะทำได้เพียงปีละ 1 ครั้ง ในวัน เวลาที่ได้ตามฤกษ์ยามของท่าน ท่านเล่าให้ศิษย์ใกล้ชิดฟังว่า การลงผงโสฬสนั้นต้องลงด้วยอักขระตัวขอม เป็นกลยันต์ เริ่มภาวนาจากจากตัวต้นจนถึงตัวสุดท้าย ผูกสลับเป็นกลยันต์ 16 มุม ในแต่ละมุมแบ่งเป็น 16 ชั้น แต่ละชั้นลงอักขระ 16 ช่อง อักษรในแต่ละตัว แต่ละช่อง ต้องลบถม เรียกสูตร 16 คาบ ผูกอธิษฐานเสกครบถือเป็น 1 ครั้ง และต้องทำแบบเดียวกันครบ 16 ครั้ง แล้วรวบรวมผงที่เสกทั้ง 16 ครั้ง มาอธิษฐานจิตตามตำราจนครบถ้วนตามฤกษ์ จากนั้นจึงนำผงที่รวบรวมได้มาลูบในกระดานบังเกิดเป็นอักขระยันต์โสฬสมหาพรหมโดยไม่ได้เขียน จึงจะถือว่าสำเร็จสมบูรณ์ใช้ได้
ผงที่ได้นี้ถือว่าครบตามสูตร เชื่อกันว่าเทพเทวะทั้ง 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน 14 ชั้นบาดาล 21 ชั้นพรหม ซึ่งพระพรหมต่างๆ ทุกพระองค์ จะลงมาอนุโมทนาอำนวยพรให้ ผงวิเศษนี้จึงมีอานุภาพแรง ทรงความขลังศักดิ์สิทธิ์ ผู้บูชาผงนี้จะอุดมด้วยลาภสักการะ วาสนา บารมี ปรารถนาสิ่งใดจะสำเร็จดังใจปรารถนาทุกประการ เพียบพร้อมด้วยเมตตามหานิยม ผู้ใดที่มีพระผงนี้ไว้ในครอบครอง ความศักดิ์สิทธิ์ของผงวิเศษนี้จะดลบันดาลให้หายจากสรรพทุกข์ สรรพโศก สรรพโรค สรรพภัย และอันตรายทั้งปวงจากคุณไสย มนต์ดำและสิ่งซึ่งชั่วร้ายทั้งหลายทั้งปวงจะหายหมดสิ้นไป ไม่สามารถการเบียดเบียนได้
สมเด็จโภคทรัพย์นี้นอกจากมีผงโสฬสมหาพรหมแล้ว ยังผสมผงวิเศษของท่านอีก คือ ผงอิทธิเจ และ ผงตรีนิสิงเห ซึ่งท่าน เขียนและลบเอง การลบผงอิทธิเจของท่าน ท่านทำได้วิเศษยิ่งนัก ท่านตั้งใจทำอย่างพิถีพิถันมาก หลวงพ่อท่านว่า ท่านต้องกางมุ้งลบ เพราะผงอิทธิเจของท่านแรงมาก ท่านกลัวว่าระหว่างที่ท่านลบผง ลมจะพัดเอาละอองผงออกไปสู่ชาวบ้าน จะทำให้บ้านเรือนแตก ท่านลบผงในวันตามฤกษ์ยามของท่าน ส่วนใหญ่ท่านจะลบช่วงหลังเที่ยงคืนไปยันถึงเวลานกออกหากิน มีเรื่องเล่ากันว่าด้วยอิทธิคุณของผงนี้ ระหว่างที่ท่านลบผง มีพญานกการะเวกบินมารายล้อมที่กุฏิของท่าน บางครั้งนกการะเวกนี้ถึงกลับไม่ยอมบินกลับรัง บินวนหลงอยู่ในเขตวัดก็มี
ผงตรีนิสิงเห ผงนี้ท่านว่ามีอิทธิคุณ เป็นเมตามหานิยม ปกป้องคุ้มครอง กันภัย ขับไล่คุณไสย ภูติผีปีศาจ จะว่าถึงการขับไล่คุณไสย ถอดของ หลวงพ่อท่านเก่งยิ่งนัก จะสังเกตเห็นคนที่โดนของ โดนผีเข้า ไปหาไปรักษาที่ไหนไม่หาย มาพึ่งบารมีหลวงพ่อหายทุกรายไป จนเป็นที่กล่าวขานของชาวบ้านว่า บ้านไหนมีรูปหลวงพ่อน้อย บ้านนั้นผีไม่เข้า นอกจากได้ผงดีแล้ว สมเด็จรุ่นนี้ ยังผสมว่านมงคลอีก 108 ว่าน โดยท่านให้ศิษย์ใกล้ชิดของท่านและศิษย์แถวอยุธยาหารวบรวมอยู่หลายปี เช่น ว่านมหาเสน่ห์ ว่านดอกทอง ว่านเสน่ห์จันทร์ ว่านพญาไก่กุก ฯลฯ ซึ่งล้วนแล้วเป็นว่านมงคลทั้งสิ้น
สมเด็จรุ่นนี้ มีประสบการณ์ด้านมหาอุด เมตตา ค้าขาย เช่น ตำรวจที่ สภ.นากลาง อำเภอโกรพระ โดนผู้ร้ายยิงด้วยอาวุธปืน แต่กระสุนปืนไม่ลั่น ยิงไม่ออก ด้วยก่อนเกิดเหตุ ตำรวจนายนี้ได้เข้าไปกราบหลวงพ่อและหลวงพ่อได้มอบสมเด็จให้มา วันเกิดเหตุการณ์ยิงกันนั้น ตำรวจนายนี้มีสมเด็จหลวงพ่อพกอยู่ในกระเป๋าเสื้อ ประสบการณ์จากแม่ค้า ที่ว่า ถ้าเรื่องเสน่ห์เมตตา ค้าขาย ต้องยกให้สมเด็จและปลัดขิกของหลวงพ่อน้อย
การพกใช้บูชา หลวงพ่อน้อยท่านบอกเสมอว่า ให้เลี่ยมพระของท่านเปิดหน้าเปิดหลัง แล้วภาวนาคาถา ท้อรัน ของท่าน แล้วให้เอาน้ำอบน้ำหอมแต้มไปที่วัตถุมงคลของท่านจะบังเกิดผลทุกประการ หลวงพ่อท่านสำเร็จ วิชาเรียกยันต์ท้อ(ยันเฑาะ) เป็นมหายันต์ ยันต์ครูโบราณ มีอิทธิคุณสูงนัก ด้วยเป็นยันต์ที่ชักขึ้น โดยฤษีผู้ทรงอภิญญาทั้ง 108 ตน คาถาเรียกยันต์ท้อ สำนักเนินเวียงถือว่าไม่เป็นสองรองใคร
คาถา ท้อรัน ของหลวงพ่อน้อย ตั้งนะโม 3 จบ “ท้อรันตันโต กัมมะทานัง ท้อรันตันติจิอาสัง ท้อรันตันตัง สะระนังคัจฉามิ” ขอบารมีหลวงพ่อน้อยคุ้มครอง


พระอาจารย์ ลำดับที่ 1 ที่หลวงพ่อน้อย ท่านให้ความเคารพ และอัญเชิญมาร่วมพิธีกรรมด้วยทุกครั้งหลวงพ่อท่านบอกว่า แม้แต่เกจิอาจารย์ที่เก่งๆ ในอดีตและปัจจุบันก็เป็นลูกศิษย์ของพระอาจารย์ท่านนี้เหมือนกัน ท่านเรียกพระอาจารย์ของท่านจากลักษณะการห่มจีวรและสีผิว บางครั้งก็มาให้เห็นเป็นสีดำเหมือนนิล บางครั้งก็ดำคล้ำอมม่วง ท่านเรียกพระอาจารย์ที่พบกันในป่า
ท่านนี้ว่าหลวงปู่อิลทนิล เชี่ยวชาญ
ศิษย์สายปู่ดำ เป็นบรมครูใหญ่ ท่านได้ไปศึกษาร่ำเรียนและปฎิบัติอยู่ในป่า หรือในช่วงที่ท่านธุดงค์ท่านได้เรียนวิชาจาก อาจารย์ใหญ่ในป่า ท่านเมตตาเล่าให้ฟังว่า อาจารย์ของท่าน เป็น 1ในคณะ ของหลวงปู่ใหญ่ ที่เผยแผ่หลักธรรม สอนการปฎิบัติ ตามหลักของพระพุทธศาสนา ท่านกล่าวว่า หลวงพ่อทอง สุวัณโณ วัดเขากบ เคยพาไปพบ พระอาจารย์ใหญ่สมัยเป็นเณร หลวงพ่อทอง และเกจิเก่งๆ ในเมืองไทยก็เป็นศิษย์สายนี้เหมือนกัน ท่านบอกว่า ท่านเรียกอาจารย์ใหญ่ในป่า ของท่านจากลักษณะที่เห็น ว่าหลวงปู่อิลทนิลเชี่ยวชาญ
อิลทนิล คือ มีสีดำเหมือนนิล
เชี่ยวชาญ คือ มีความชำนาญ ในสรรพวิชาต่างๆ อย่างยวดยิ่ง
ท่านมีพลังจิตและอภิญญา ที่สูงมาก จึงสามารถสื่อถึงพระอาจารย์ลี้ลับในสายดงได้ถึงขนาดกับถ่ายภาพ ครูอาจารย์ในสายดง ออกมาได้ชัดเจน
หลวงพ่อท่านพบกับหลวงปู่อินทนิล สมัยที่ท่านเริ่มเดินธุดงค์ หลวงพ่อน้อย ท่านเดินธุดงค์ไปตามป่าเขาลำเนาไพรอยู่หลายปี และหลังจากที่ท่านพบกับหลวงปู่อินทนิล ท่านก็ได้เมตตาสั่งสอน หลักธรรมตลอดจนฝึกกรรมมฐาน และพาหลวงพ่อน้อย เดินธุดงไปยังสถานที่ต่างๆ เช่นแถบ จ.ตาก ติดชายแดนพม่า พาหลวงพ่อไปแถบ อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ภูเขาควาย ณ สปป ลาว และในโอกาศนี้ หลวงพ่อน้อย ท่านได้มีโอกาศ พบกับ พระเกจิอาจารย์สายกัมมัฏฐาน คือ พระอาจารย์วัน วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม และหลวงปู่จันทร์ วัดศรีเทพ มีโอกาศได้ร่วมสร้างพระผงยอดนิยมของหลวงปู่จันทร์ วัดศรีเทพอีกด้วย แม้นตลอดระยะเวลาที่หลวงพ่อน้อยท่านเลิกเดินธุดง กลับมาจำพรรษาอยู่ที่วัดเนินเวียง หลวงปู่อิลทนิลท่านก็ได้ เมตตามาสอนหลวงพ่อทางนิมิต ทางสมาธิอยู่ตลอดเวลาครั้งหนึ่งหลวงพ่อท่านอยากได้ภาพของหลวงปู่อินทนิลท่านเลยนั่งสมาธิจิตถึงกันขออนุญาต ให้หลวงปู่อินทนินปรากฏเป็นกายเนื้อ หลวงพ่อน้อยท่านได้ให้ลูกศิษย์ของท่านเดินทางไปถ่ายรูป ณ สถานที่แห่งหนึ่ง อยู่ทางภาคเหนือของประเทศไทย คือ เขต อ.ท่าสองยาง จ.ตาก การเดินทางเข้าไปนั้นยากลำบากมาก โดยขอบารมีหลวงปู่อินทนิล ให้ถ่ายรูปติดออกมาเป็นรูปของท่านและแล้วเหตุการณ์อัศจรรย์ก็เกิดขึ้น เมื่อนำฟีล์มไปล้างกลับมีรูปหลวงปู่ โดยถ่ายติดตั้งแต่ศรีษะจรด โดยฉากหลังเป็นเจดีย์สีขาว ทั้งที่ ตอนถ่ายไม่มีพระแก่คล้องประคำ ยืนก้มหน้าอย่าง สงบ สำรวม ห่มจีวร ยืนอยู่บริเวณนั้น เมื่อลูกศิษย์นำฟีล์มกลับมาล้างและให้หลวงพ่อดู หลวงพ่อท่านบอกว่า นี่แหละหลวงปู่อินทนิล ในสายดงส่วนใหญ่จะไม่เรียกชื่อจริงแต่จะเรียกตามลักษณะ และ อาการหรืออากัปกริยา เช่น หลวงปู่โพรงโพธิ์ อาจารย์ของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า อายุหลายร้อยปี เหตุที่เรียกเช่นนี้เพราะท่านชอบปลูกต้นโพธิ์ เป็นวงกลม เมื่อต้นโพธิ์โตขึ้นก็จะมีรูกลวงอยู่ตรงกลางท่านก็จะเข้าไปอาศัยปฏิบัติธรรมในนั้น หลวงปู่ขรัวขี้เถ้าอายุกว่า 900 ปี ศิษย์ที่มีชื่อเสียงคือ หลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา และหลวงพ่อโอภาสี อาศรมบางมด เหตุที่เรียกขรัวขี้เถ้าเพราะท่านชอบเผาไฟเล่นขี่เถ้า หลวงปู่สุข แจ้งณาญ อายุกว่า 800 ปี อาจารย์ของสายอีสานหลายท่าน หลวงปู่เศียรโตหรือหลวงปู่ตีนโต อายุกว่าพันปี อาจารย์ของหลวงพ่อจรัญ สิงห์บุรี ที่เรียกเช่นนี้ก็เพราะศรีษะ และเท้าของท่านโต นี่คือ ปริศนาธรรมที่หลวงพ่อน้อยท่านได้ทิ้งไว้ให้ศิษย์ได้ศึกษา ปู่อินทนิล อาจด้วยท่านมักปรากฎให้เห็นกายท่านและจีวรสีดำคล้ำอมม่วง หลวงพ่อน้อยท่านจึงเรียกว่า อินทนิล แต่ท้ายสุดแล้ว ปริศนาธรรมที่น่าติดตามคือ หลวงปู่อินทนิล หลวงปู่ตีนโต หลวงปู่โพงโพธิ์ หลวงปู่สุข แจ้งฌาณ ล้วนแล้ว มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกัน ร่วมสั่งสอนศิษย์เพื่อสืบทอดพุทธศาสนา ในสายนี้เรียกสืบทอดกันมาว่า สายดง
ถ้าเป็นภาคอีสานจะเรียกว่า สายพระป่า สุดแท้แต่ผู้อ่านจะศึกษาและวิเคราะห์เชื่อไปในทางหลักธรรม

 

3706.เมตตา ค้าขายดียิ่งนัก ตะกรุดดอกไม้ทองจารมือ หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพนอยุธยาพันไหมเจ็ดสีขนาด 2.5 นิ้ว ปี 47 ปิดรายการครับ

​

ตะกรุดดอกไม้ทอง หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน วิชาเอกการทำตะกรุดดอกไม้ทองนั้นหลวงพ่อพูนท่านได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อสนั่น วัดเสาธงทองจังหวัดอ่างทอง โดยหลวงพ่อสนั่นเองท่านสืบทอดวิชานี้มาจากหลวงพ่อเขียว วัดเสาธงทองอีกต่อหนึ่งโดยอุปเท่ห์ของตะกรุดดอกไม้ทองนั้นจะโดดเด่นเรื่องเมตตามหานิยมเป็นที่สุดแต่ในขณะเดียวกันเรื่องมหาอุด คงกระพัน โชคลาภก็มีอยู่ด้วยอย่างครบครัน
ตะกรุดดอกไม้ทองที่หลวงพ่อพูนท่านสร้างยุคแรกนั้นจะมีขนาดยาวประมาณ 3 นิ้วประกอบด้วยแผ่นโลหะจำนวน 3 แผ่นคือแผ่นเงิน แผ่นทองเหลือง และแผ่นทองแดงโดยในแต่ละแผ่นจะจารอักขระเรียกสูตรตามที่ร่ำเรียนมาจากนั้นนำตะกรุดทั้ง 3 ดอกมาร้อยอยู่ในเชือกเส้นเดียวกันและเสกกำกับอีกครั้งจึงเป็นอันเสร็จสิ้นพิธี
โดยตะกรุดทุกดอกนั้นอักขระทั้งหมดจะเป็นการจารมือทั้งสิ้นไม่มีการปั๊มอักขระยันต์และปลุกเสกแต่อย่างใดซึ่งเคยมีลูกศิษย์ถามหลวงพ่อว่าทำไมถึงไม่ทำเป็นตะกรุดปั๊มเพราะจะทำให้ปริมาณมากกว่าหลวงพ่อท่านตอบว่า
“ถ้าทำไม่ไหวก็เลิกทำ เพราะตะกรุดนั้นถ้าจะให้ขลังต้องจาร ถ้าปั๊มแล้วมาเสกก็ได้ไม่ดีเท่าที่ควร ทำของให้เขาใช้ ให้เขาบูชาต้องทำให้ดี ถ้าทำแล้วไม่ดีก็อย่าทำ”
วิธีการใช้ตะกรุดดอกไม้ทองหลวงพ่อท่านกล่าวว่า “ตื่นมาล้างหน้าล้างตาแล้วให้ท่องนะโม 3 จบแล้วว่า “เมตตาคุณนังอะระหังเมตตา” 9 จบแล้วอธิษฐานเอาจากนั้นพกตะกรุดติดตัวไปจะเป็นเมตตาโชคลาภสมความปรารถนาที่ตั้งใจส่วนข้อห้ามของตะกรุดดอกไม้ทองนั้นคือห้ามด่าและห้ามคลี่ตะกรุดเด็ดขาด

 

3707.ล็อกเก็ตฟ้าสะเทือน หลวงปู่เปลี่ยน มวลสารดีมาก ให้บูชาชุดละ 800 บาท (ได้รับพระ 2 รายการ)

​