ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ก่อนที่พญาธรรมมิกราชจะปรากฏขึ้นนั้น ท้องฟ้าจะมืดมิดเป็นเวลา ๗ วัน (ตำนานละแวก)​

​

​

ต้นฉบับตำนานละแวกนี้เป็นของวัดศรีพิงค์เมือง (วัดศรีปิงเมือง) ต.หายยา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จำนวน ๑ ผูกความยาว ๖๒ หน้า คัดลอกโดยมหาวันภิกขุ เมื่อพ.ศ. ๒๔๒๓ ตรงกับ จ.ศ.๑๒๔๒ ปีกดสะง้า เดือน ๑๒ แรม ๙ ค่ำ วัน ๓ สรุปใจความได้ดังนี้

ในสมัยที่พระพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์อยู่นั้น ทรงทำนายเหตุการณ์ในอนาคตไว้ที่เมืองละแวก เมื่อเสด็จมาถึงเมืองแห่งนี้พญานาคได้มาอุปัฏฐาก จึงทำนายว่า สถานที่ดังกล่าวนี้จะเป็นที่ตั้งของพระพุทธศาสนา พระอานนท์จึงขอเอาพระเกศาธาตุบรรจุไว้ที่นี่ พระพุทธองค์ทรงมอบพระเกศาธาตุ ให้จำนวน ๕ เส้น จากนั้นพระอินทร์ พระพรหม ครุฑ นาค และพญาเจ้าเมืองละแวก จึงก่อเจดีย์ขึ้นเป็นจำนวน ๕ องค์ สำหรับเป็นเครื่องหมายของศาสนา ๕,๐๐๐ ปี

ครั้นเมื่อพระพุทธองค์นิพพานไปแล้ว ๒๒ ปี พญาอโสกธัมมิกราชได้มาบูรณปฏิสังขรณ์เจดีย์ดังกล่าวให้เจริญรุ่งเรือง โดยก่อกำแพงแก้วรอบบริเวณพร้อมทั้งติดแผ่นทองจังโกทุกองค์เจดีย์

ส่วนเมืองละแวกแห่งนั้นมีบริเวณกว้าง ๓ พันวา ยาว ๒ พันวา กำแพงเมืองก่อด้วยหินหนา ๖ วา สูง ๔ วาคูเมือง ลึก ๗ วา สำหรับบริเวณที่สร้างเจดีย์ ๕ องค์กว้าง ๓๐๐ วาฐานเจดีย์องค์หนึ่งกว้าง ๑๔ วา สูง ๒๐ วา แต่ละเจดีย์มีซุ้มพระพุทธรูปทั้ง ๔ ด้านเหมือนกันหมดทุกองค์

เจดีย์ทั้ง ๕ องค์ดังกล่าวนี้พระพุทธองค์ให้สร้างไว้ เพื่อเป็นเครื่องหมายทางศาสนา หากเจดีย์จมพื้นดินลงไป ๑ องค์เท่ากับศาสนาพ้นไปแล้ว ๑ พันปี จนกว่าจะครบ ๕ พันปีเจดีย์ทั้งหมดจึงจะหายไปในที่สุด เจดีย์ดังกล่าวนี้มีผู้อุปัฏฐากดูแลคือ ภิกษุ ๕๐๐ องค์ สามเณร ๕๐๐ รูป คฤหัสถ์ ๕๐๐ คน ในช่วงระยะเวลาระหว่างพุทธศาสนา ๕,๐๐๐ ปีนั้น จะมีพญาธัมมิกราชเกิดมาจำนวน ๕ องค์โดยมีช่วงเวลาครั้งละ ๑ พันปื

สำหรับพญาธัมมิกราชองค์ที่ ๓ ที่จะเกิดมาในระหว่างพุทธศาสนาได้ ๓,๐๐๐ ปีนั้น (ตั้งแต่ พ.ศ.2001-3000 ) จะเกิดมาในขณะที่บ้านเมืองเดือดร้อนวุ่นวาย ผู้คนไม่มีศีลธรรม เกิดมีการรบพุ่งฆ่าฟันกันไปทั่ว

ก่อนที่จะมีพญาธัมมิกราชเกิดขึ้นนั้น ท้องฟ้าจะมืดมิดเป็นเวลา ๗ วัน ครั้นถึงวันที่ ๘ ท้องฟ้าจึงจะสว่างสดใส เทวบุตรจะนำเอาเครื่องสูง ๕ ประการ มาทำพิธีราชาภิเษก โดยมีเทวดานางฟ้าและพระฤาษีมาร่วมพิธีด้วย รวมทั้งข้าทาสบาทบริจาริกาจำนวนหนึ่งหมื่นหกพันนางจากอุตรกุรุทวีป

เมื่อเสร็จพิธีราชาภิเษกแล้ว ปราสาท ๓ หลังจะผุดขึ้นมาจากพื้นดิน(โดยการเนรมิตของพระอินทร์) แต่ละหลังทำด้วยทองคำ แก้วและเงิน พญาธัมมิกราชองค์นั้นได้เสวยราชสมบัติในเมืองฝาง

ในราชสำนักจะมีบุรุษผู้ประเสริฐจำนวน ๖ คน พญาธัมมิกราชจะขุดเอาข้าวของเงินทองจากพื้นดิน(ขุมทรัพย์ของพระศรีอาริย์) มาบูรณะบ้านเมืองและแจกจ่ายเป็นทานแก่คนทั่วไป หลังจากนั้นจึงได้ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ให้มีความเจริญรุ่งเรืองสืบต่อไป

ที่มา
http://www.agalico.com/board/showthread.php?t=23511

 

เมืองใหม่ของพระเจ้าจักรพรรดิ์(พระศรีอาริย์) ในคัมภีร์ใบเบิ้ล​

​

​

เยรูซาเล็มแห่งสวรรค์ลอยลงมาจากพระเจ้า

21:1 ข้าพเจ้าได้เห็นท้องฟ้าใหม่และแผ่นดินโลกใหม่ เพราะท้องฟ้าเดิมและแผ่นดินโลกเดิมนั้นหายไปหมดสิ้นแล้ว และทะเลก็ไม่มีอีกแล้ว
21:2 ข้าพเจ้า คือยอห์น ได้เห็นเมืองบริสุทธิ์ คือกรุงเยรูซาเล็มใหม่ เลื่อนลอยลงมาจากพระเจ้าและจากสวรรค์ กรุงนี้ได้จัดเตรียมไว้พร้อมแล้ว เหมือนอย่างเจ้าสาวแต่งตัวไว้สำหรับสามี

พลับพลาของพระเจ้าอยู่กับมนุษย์และสิ่งสารพัดถูกสร้างขึ้นใหม่

21:3 ข้าพเจ้าได้ยินเสียงดังมาจากสวรรค์ว่า "ดูเถิด พลับพลาของพระเจ้าอยู่กับมนุษย์แล้ว พระองค์จะทรงสถิตกับเขา เขาจะเป็นชนชาติของพระองค์ และพระเจ้าเองจะประทับอยู่กับเขา และจะทรงเป็นพระเจ้าของเขา
21:4 พระเจ้าจะทรงเช็ดน้ำตาทุกๆหยดจากตาของเขา ความตายจะไม่มีอีกต่อไป ความคร่ำครวญ การร้องไห้ และการเจ็บปวดจะไม่มีอีกต่อไป เพราะยุคเดิมนั้นได้ผ่านพ้นไปแล้ว"
21:5 พระองค์ผู้ประทับบนพระที่นั่งตรัสว่า "ดูเถิด เราสร้างสิ่งสารพัดขึ้นใหม่" และพระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า "จงเขียนไว้เถิด เพราะว่าถ้อยคำเหล่านี้เป็นคำสัตย์จริงและสัตย์ซื่อ"
21:6 พระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า "สำเร็จแล้ว เราเป็นอัลฟาและโอเมกา เป็นปฐมและอวสาน ผู้ใดกระหาย เราจะให้ผู้นั้นดื่มจากบ่อน้ำพุแห่งชีวิตโดยไม่ต้องเสียอะไรเลย
21:7 ผู้ใดมีชัยชนะ ผู้นั้นจะได้รับสิ่งสารพัดเป็นมรดก และเราจะเป็นพระเจ้าของเขา และเขาจะเป็นบุตรของเรา
21:8 แต่คนขลาด คนไม่เชื่อ คนที่น่าสะอิดสะเอียน ฆาตกร คนล่วงประเวณี คนใช้เวทมนตร์ คนไหว้รูปเคารพ และคนทั้งปวงที่พูดมุสานั้น จะได้รับส่วนของตนในบึงที่เผาไหม้ด้วยไฟและกำมะถัน นั่นคือความตายครั้งที่สอง"

แบบของเยรูซาเล็มแห่งสวรรค์

21:9 ทูตสวรรค์องค์หนึ่งในบรรดาทูตสวรรค์เจ็ดองค์ที่ถือขันเจ็ดใบ อันเต็มด้วยภัยพิบัติสุดท้ายทั้งเจ็ดประการนั้น ได้มาพูดกับข้าพเจ้าว่า "เชิญมานี่เถิด ข้าพเจ้าจะให้ท่านดูเจ้าสาวที่เป็นมเหสีของพระเมษโปดก"
21:10 ท่านได้นำข้าพเจ้าโดยพระวิญญาณขึ้นไปบนภูเขาสูงใหญ่ และได้สำแดงให้ข้าพเจ้าเห็นเมืองใหญ่นั้น คือกรุงเยรูซาเล็มอันบริสุทธิ์ ซึ่งกำลังลอยลงมาจากสวรรค์และจากพระเจ้า
21:11 เมืองนั้นประกอบด้วยสง่าราศีของพระเจ้า ใสสว่างดุจพลอยมณีอันหาค่ามิได้ เช่นเดียวกับพลอยหยกอันสุกใสเหมือนแก้วผลึก
21:12 เมืองนั้นมีกำแพงสูงใหญ่ มีประตูสิบสองประตู และที่ประตูมีทูตสวรรค์สิบสององค์ และที่ประตูนั้นจารึกเป็นชื่อตระกูลของชนชาติอิสราเอลสิบสองตระกูล
21:13 ทางด้านตะวันออกมีสามประตู ทางด้านเหนือมีสามประตู ทางด้านใต้มีสามประตู ทางด้านตะวันตกมีสามประตู
21:14 และกำแพงเมืองนั้นมีฐานสิบสองฐาน และที่ฐานนั้นจารึกชื่ออัครสาวกสิบสองคนของพระเมษโปดก
21:15 ทูตสวรรค์องค์ที่พูดกับข้าพเจ้านั้น ถือไม้วัดทองคำเพื่อจะวัดเมือง และวัดประตูและกำแพงของเมืองนั้น
21:16 เมืองนั้นเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้างยาวเท่ากันและท่านเอาไม้วัดเมืองนั้น ได้สองพันสี่ร้อยกิโลเมตร กว้างยาวและสูงเท่ากัน
21:17 ท่านวัดกำแพงเมืองนั้น ได้เจ็ดสิบสองเมตร ตามมาตรวัดของมนุษย์ ซึ่งคือมาตรวัดของทูตสวรรค์องค์นั้น
21:18 กำแพงเมืองนั้นก่อด้วยพลอยหยก และเมืองนั้นเป็นทองคำบริสุทธิ์ สุกใสดุจแก้ว
21:19 ฐานของกำแพงเมืองนั้นประดับด้วยเพชรพลอยทุกชนิด ฐานที่หนึ่งเป็นพลอยหยก ที่สองไพทูรย์ ที่สามหินคว๊อตซ์โปร่งแสง ที่สี่มรกต
21:20 ที่ห้าโกเมน ที่หกทับทิม ที่เจ็ดเพชรสีเขียว ที่แปดพลอยเขียว ที่เก้าบุษราคัม ที่สิบหยก ที่สิบเอ็ดพลอยสีแดง ที่สิบสองเป็นพลอยสีม่วง
21:21 ประตูทั้งสิบสองประตูนั้นเป็นไข่มุกสิบสองเม็ด ประตูละเม็ด และถนนในเมืองนั้นเป็นทองคำบริสุทธิ์ ใสราวกับแก้ว

พระเจ้าสถิตอยู่กับมนุษย์ ประตูเมืองสวรรค์จะไม่ปิดเลย

21:22 ข้าพเจ้าไม่เห็นมีพระวิหารในเมืองนั้นเลย เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้า ผู้ทรงฤทธานุภาพสูงสุด และพระเมษโปดกทรงเป็นพระวิหารในเมืองนั้น
21:23 เมืองนั้นไม่ต้องการแสงของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ เพราะว่าสง่าราศีของพระเจ้าเป็นแสงสว่างของเมืองนั้น และพระเมษโปดกทรงเป็นความสว่างของเมืองนั้น
21:24 บรรดาประชาชาติที่รอดแล้วจะเดินไปในท่ามกลางแสงสว่างของเมืองนั้น และบรรดากษัตริย์ในแผ่นดินโลกจะนำสง่าราศีและเกียรติของตนเข้ามาในเมืองนั้น
21:25 ประตูเมืองทุกประตูจะไม่ปิดเลยในเวลากลางวัน ด้วยว่าจะไม่มีเวลากลางคืนในเมืองนั้นเลย
21:26 และคนทั้งหลายจะนำสง่าราศีและเกียรติของบรรดาประชาชาติเข้ามาในเมืองนั้น
21:27 สิ่งใดที่เป็นมลทิน หรือผู้ใดก็ตามที่กระทำสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียน หรือพูดมุสาจะเข้าไปในเมืองไม่ได้เลย เว้นแต่เฉพาะคนที่มีชื่อจดไว้ในหนังสือแห่งชีวิตของพระเมษโปดกเท่านั้นจึงจะเข้าไปได้

แม่น้ำแห่งชีวิตและต้นไม้แห่งชีวิต

22:1 ท่านได้ชี้ให้ข้าพเจ้าดูแม่น้ำบริสุทธิ์ที่มีน้ำแห่งชีวิต ใสเหมือนแก้วผลึก ไหลออกมาจากพระที่นั่งของพระเจ้า และของพระเมษโปดก
22:2 ท่ามกลางถนนในเมืองนั้นและริมแม่น้ำทั้งสองฟากมีต้นไม้แห่งชีวิต ซึ่งออกผลสิบสองชนิด ออกผลทุกๆเดือน และใบของต้นไม้นั้นสำหรับรักษาบรรดาประชาชาติให้หาย
22:3 จะไม่มีการสาปแช่งใดๆอีกต่อไป พระที่นั่งของพระเจ้าและของพระเมษโปดกจะตั้งอยู่ในเมืองนั้น และบรรดาผู้รับใช้ของพระองค์จะปรนนิบัติพระองค์
22:4 เขาเหล่านั้นจะเห็นพระพักตร์พระองค์ และพระนามของพระองค์จะประทับอยู่ที่หน้าผากเขา
22:5 กลางคืนจะไม่มีที่นั่น เขาไม่ต้องการแสงเทียนหรือแสงอาทิตย์ เพราะว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าคือพระเจ้าทรงประทานแสงสว่างแก่เขา และเขาจะครอบครองอยู่ตลอดไปเป็นนิตย์
22:6 และทูตสวรรค์องค์นั้นบอกข้าพเจ้าว่า "ถ้อยคำเหล่านี้เป็นคำสัตย์ซื่อและสัตย์จริง และองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าแห่งพวกศาสดาพยากรณ์อันบริสุทธิ์ ได้ทรงใช้ทูตสวรรค์ของพระองค์สำแดงแก่บรรดาผู้รับใช้ของพระองค์ ถึงเหตุการณ์ทั้งปวงซึ่งจะอุบัติขึ้นในไม่ช้า"
22:7 "ดูเถิด เราจะมาโดยเร็ว ผู้ใดที่ถือรักษาคำพยากรณ์ในหนังสือนี้ก็เป็นสุข"

ที่มา http://www.holyzone.net

 

เมืองใหม่ของพระเจ้าจักรพรรดิ์ กว้างยาวครอบคลุมทั้ง ไทย ลาว พม่า และ จึน !!!​

​

อ้างอิงคำทำนายในคัมภีร์ไบเบิ้ล

"เมืองนั้นเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้างยาวเท่ากันและท่านเอาไม้วัดเมืองนั้น ได้ 2,400 กิโลเมตร กว้างยาวและสูงเท่ากัน"

ถ้าเราลองจับประเด็นสำคัญในคัมภีร์ไบเบิ้ลนี้ดู ก็จะเห็นว่าถ้าเราสมมุติให้ อ.เชียงดาว เป็นจุดศูนย์กลางของเมืองใหม่พระเจ้าจักรพรรดิ์ แล้วลากเส้นยาวไปโดยรอบ 1,200 กิโลเมตร ก็จะครอบคลุมทั้งประเทศ ไทย ลาว พม่า และ จีน เพราะระยะทางจาก กรุงเทพถึงเชียงราย ยาวเพียง 785 กิโลเมตรเท่านั้น จึงทำให้ครอบคลุมประเทศไทยทั้งหมด ถ้าอาณาเขตของเมืองใหม่นี้มีความกว้างและยาว 2,400 กิโลเมตร จริงตามคำทำนายในคัมภีร์ไบเบิ้ล

คัดลอกบางส่วนของตำนานพระเจ้าเลียบโลก ตอนพระพุทธเจ้าเสด็จดอยเชียงดาว

"ดูรา ยักขราชผู้เป็นใหญ่ ต่อไปในอนาคตเบื้องหน้าในระหว่างแห่งศาสนาที่ตถาคตตั้งไว้นั้น ท่านจะได้เกิดมาเป็นพระยาธรรมิกราชองค์หนึ่ง ในระหว่างอายุพระพุทธศาสนาพันที่สาม(2001-3000) ท่านจะได้ส่งเสริมยกย่องพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองเป็นอันมาก เหตุการณ์เช่นนี้จะมีต่อไปในกาลภายหน้าอย่างแน่นอน เมื่อท่านเกิดมาเป็นพระยาธรรมิกราชนั้น ท่านจะมีอายุยืน ๒๐๐ ปี ในกาลนั้นพระพุทธศาสนาล่วงไปแล้วสองพันปีกว่า จะย่างเข้าสู่สามพันปี ในระหว่างนี้แหละที่ท่านจะได้เป็นพระยาธรรมิกราชภายหลังแต่นั้น อายุแห่งพระพุทธศาสนาจะเหลือประมาณ ๒,๐๐๐ ปี...

ดูรา ยักขราช ท่านจะได้เกิดเป็นพระยาธรรมิกราชในศาสนาตถาคตในระหว่างอายุพระพุทธศาสนาพันที่สาม คือว่าหลังจากตถาคตนิพพานไปแล้ว ตถาคตจะตั้งพระพุทธศาสนาไว้ ๕,๐๐๐ พรรษา ในเมื่ออายุพระพุทธศาสนาล่วงไปแล้วได้ ๒,๐๐๐ ปีบริบูรณ์และย่างเข้าสู่พรรษาที่สามมาถึงเมื่อใด เมื่อนั้นท่านจะได้เกิดเป็นพระยาธรรมิกราชจะได้เกิดในเมืองที่นี้ จะเสวยราชสมบัติเป็นสุขในเมืองเชียงดาวที่นี้ ท่านจะได้ยกย่องส่งเสริมพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองเป็นอันมาก

ที่มา พระเจ้าเลียบโลก ตอนพระพุทธเจ้าเสด็จดอยเชียงดาว

 

พอดีผมไม่ได้อ่านพระคัมภีร์ อ่านแต่เพียงหนังสือคำทำนายภัยพิภัยโลก
เห็นบอกว่าในยุคหน้าแผ่นดินจะกว้างไกล ผมจึงสงสัยว่าในคำทำนายทั้งหลายที่ได้อ่านมาเห็นบอกว่าประเทศไทยจะสูญเสียผืนดินไปเกือบครึ่งประเทศ แล้วจะกำเนิดผู้มีอำนาจแบ่ง
เขตกันปกครองเป็น 3 เกาะไม่ใช่หรือครับ ส่วนประเทศจีนและประเทศอื่นๆก็จะเหลือผืนดิน
แตกต่างกันไปแล้วแต่กรรมที่ทำมาตั้งแต่สมัยโบราณ
อันนี้แค่สงสัยนะครับ เลยเขียนมาปรึกษาวิเคราะห์กัน

 

<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>แผ่นดินไหวจีนล่าสุดดับแล้ว67คน </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=center>แผ่นดินไหวจีนล่าสุดดับแล้ว67คน</TD></TR></TBODY></TABLE>สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานความคืบหน้า

เหตุแผ่นดินไหวรุนแรง 5.6 ริกเตอร์ 2 ระลอก บริเวณรอยต่อพรมแดน มณฑลยูนนานและมณฑลกุ้ยโจว ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ก่อน 12.00 น. วานนี้ และมี อาฟเตอร์ช็อค ตามมาหลายครั้ง ทำให้มีจำนวนผู้เสียชีวิตล่าสุด 67 คน บาดเจ็บอีก 731 คน ประชาชนไร้ที่พักอาศัยกว่า 1 แสนคน โดยพื้นที่ ที่ได้รับผลกระทบมากสุด คือ เขตยี่เหลียง มณฑลยูนนาน บ้านเรือนประชาชนเกือบ 30,000 หลัง พังเสียหายชาวเมืองนับร้อยหนีตายอย่างโกลาหล มารวมตัวกันตามท้องถนนสายต่าง ๆ


ขณะที่ ข้อความทางทวิตเตอร์ ระบุว่า อาคารหลายแห่งสั่นไหว ท่ามกลางความตื่นตระหนกของผู้คน ทางการต้องสั่งอพยพผู้คนนับแสน ๆคน ออกนอกพื้นที่เสี่ยง เกรงว่าอาจเกิดดินถล่มตามมาจากอาฟเตอร์ช็อค อย่างไรก็ดี ทางการจีนได้ทยอยจัดส่งเต๊นท์ ผ้าปู และเสื้อโค้ทไปยังพื้นที่ประสบภัยแล้ว ขณะที่นายกรัฐมนตรีเวิน เจีย เป่า ของจีน อยู่ระหว่างการลงพื้นที่ไปตรวจสอบ

ขอบคุณแหล่งข่าวจาก Tnews​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>ผู้ว่าฯเตือนระวังน้ำท่วมฉับพลันดินโคลนถล่ม </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=center>ผู้ว่าฯเตือนระวังน้ำท่วมฉับพลันดินโคลนถล่ม</TD></TR></TBODY></TABLE>นายวีระวัฒน์ ชื่นวาริน ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม

ได้แจ้งเตือนในอำเภอต่าง ๆ เตรียมความพร้อมด้านบุคลากร อุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และวางระบบสื่อสารเตรียมความพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมแจ้งเตือนไปยังประชาชน ในพื้นที่จุดเสี่ยงที่จะเกิดอุทกภัยดินโคลนถล่ม หรือน้ำล้นตลิ่ง โดยให้เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์หรือการอพยพ ระมัดระวังทรัพย์สิน ผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยงให้อยู่ในที่ปลอดภัย

พร้อมติดตามสถานการณ์และประกาศแจ้งเตือนภัยจากศูนย์เฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยวาตภัยและดินโคลนถล่มอย่างใกล้ชิด จากสภาวะสภาพอากาศร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ส่งผลให้ฝนตกชุกหนาแน่นในระยะนี้

ขอบคุณแหล่งข่าวจาก Tnews​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ช็อก แม่น้ำแยงซีกลายเป็นสีแดงเหลือง สื่อตปท.โยง"สัญญาณวันสิ้นโลก"แม่น้ำกลายเป็นสีเลือด(ชมภาพ)

​

"เดลี่ เมล์"รายงานเมื่อวันที่ 8 ก.ย.ว่า เกิดเหตุชวนอึ้ง หลังจากแม่น้ำแยงซี ที่ไหลผ่านเมืองฉงชิ่ง ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ได้กลายเป็นสีแดงเหลือง เมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยเป็นทางน้ำที่ไหลบรรจบพบกับแม่น้ำเจียลิน ขณะที่เจ้าหน้าที่ทางการกำลังสอบสวนสาเหตุของสถานการณ์ดังกล่าว โดยผู้คนต่างบอกว่ารู้สึกตะลึงเมื่อเก็บตัวอย่างของน้ำจากแม่น้ำดังกล่าวในขวด ซึ่งเป็นสีแดง รายงานระบุว่า เหตุการณ์นี้เลียนคล้ายแม่น้ำเจียน ในเมืองหลิวหยาง ในมณฑลเฮอหนาน ทางตอนเหนือของจีน ซึ่งกลายเป็นสีแดง หลังจากได้รับมลพิษจากสีย้อมผ้าที่่รุนแรง โดยถูกทิ้งจากจากโรงงานย้อมผ้าผิดกฎหมาย และทำให้ทางการต้องเข้าปิดโรงงานดังกล่าวและยึดเครื่องจักร อย่างไรก็ตาม เดลี่ เมล์ ยังรายงานว่า ปรากฎการณ์นี้ดูเหมือนจะคล้ายกับเนื้อหาในพระคัมภีร์ไบเบิลบท 16 ที่ระบุถึงสัญญาณของวันสิ้นโลก ว่า เทวดาจะโยนบาปลงสู่แม่น้ำต่าง ๆ และทำให้แม่น้ำกลายเป็นสีเลือด

 

ในความคิดเห็นส่วนตัวของผมคิดว่า เมื่อเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่ผ่านพ้นไปแล้ว คนบนโลกนี้จะเหลือเพียงแค่ 10 เปอร์เซนต์ จากประชากรทั้งหมดของโลกในปัจจุบันนี้ จึงน่าจะมีการรวมกลุ่มของคนที่รอดชีวิต จัดตั้งประเทศขึ้นมาใหม่ โดยไมได้คำนึงถึงอาณาเขตดินแดนแบบที่ใช้กันในปัจจุบันนี้ เพราะพื้นที่หลายส่วนจมทะเลลงไปหมดแล้ว

และแน่นอนว่าคนในประเทศไทย จะมีคนเหลือรอดชีวิตมากกว่าประเทศอื่นๆ จึงย่อมจะได้รับเลือกให้เป็นผู้นำในการจัดตั้งประเทศขึ้นมาใหม่ ด้วยความสมัครใจ ในนามประเทศสยาม คือรวมคนเชื้อสายสยามแต่ดั้งเดิม ที่เคยกระจายไปอยู่ประเทศ จีน ลาว พม่า ให้กลับมาตั้งเป็นประเทศใหม่ที่มีชื่อว่า"สยาม" ที่จะมีอาณาเขตดินแดนกว้างไกลกว่าในปัจจุบันนี้มาก เพราะรวมเอาพื้นที่ของประเทศลาว พม่า และจีนในบางส่วน มาเป็นอาณาเขตของประเทศสยามใหม่ครับ

แต่ในช่วงแรกๆ ที่เพิ่งผ่านพ้นเหตุการณ์ของภัยพิบัติครั้งใหญ่ อาจยังมีคนชั่วหลงเหลืออยู่ จึงมีคนพยายามที่คิดจะตั้งตัวเป็นใหญ่ ไม่ขึ้นอยู่กับการปกครองของใคร มีการรบพุ่งแบ่งเขตการปกครองของตนเองอยู่ แต่ในไม่ช้าพวกนี้ก็จะพ่ายแพ้ต่อบุญญาธิการของพระเจ้าจักรพรรดิ์ เพราะท่านมีกองทัพเทวดาคอยช่วยเหลืออยู่ มีรายละเอียดดังนี้ครับ:-

พระศรีอริยเมตไตรย
นารายณ์ปราบสงครามล้างโลก

พระอิศวรเทวราช พร้อมด้วยจอมขุนศึกจตุโลกบาล ทั้ง ๔ อันมีนามว่า ทตรฐ , วิรุฬหก, วิรูปักข์, กุเวร นำเอาเวชยันตรถทิพย์ลงมารับเอากระทาชายนายหนึ่งอันมีนามว่า “ศรีอาริยโพธิ์สัตว์” ไปแต่งตั้งบนจอมดอยลูกหนึ่ง ซึ่งพระวิษณุเทพบุตรจะเนรมิตหอสรงน้ำอันประดับด้วยแก้ว ๗ ประการและเนรมิตท่อทองคำ (สินคำ)พาดลงมาจากดอยสูงอีกลูกหนึ่งมีพระอิศวรเทพเจ้าทรงเป็นประธานแห่งหมู่ทวยเทพทั่วสากลโลกธาตุ มาประชุมพร้อมกัน แล้วก็หลั่งน้ำทิพย์ลงในท่อทองคำไหลมาอาบสรง “กระทายชายศรีอาริย์” พร้อมด้วยการโปรยปรายข้าวตอกดอกไม้เป็นทิพย์เกลื่อนกลาดดาษดาไปทั่วบริเวณ

พระฤษีนามว่า “อินทสมภาร” จะเอาดอก “ริรัวคำ” มาสัการบูชา เมื่อได้สรงน้ำมูรธาภิเษกและประดับประดาด้วยเครื่องเบญจราชกกุภัณฑ์อันเป็นทิพย์ สมควรแก่ตำแหน่งบรมจักรพัตราธิราช (ประมุขโลก) อันประเสริฐแล้ว ก็เสด็จลงเวชยันตรถ เพื่อไปห้ามทัพซึ่งกำลังโรมรันพันตูกันที่ตีนดอยสุวรรณคีรี (ภูเขาทอง) โลหิตไหลสาดเป็นท่อธารอย่างน่าขนพองสยองเกล้า

พระอิศวรเทพเจ้าเสด็จประทับอยู่หน้ารถพระพิษณุเทพบุตรทรงเป็นสารถีช่วยมาตลีด้วยองค์หนึ่ง พร้อมด้วยหมู่ยักษ์และทวยเทพทั้งหลายแน่นขนัดเต็มไปทั้งอากาศ พร้อมด้วยการบรรเลงดนตรีทิพย์ สะเทือนสะท้านหวั่นไหวเป็นโกลาหล เบื้องขวานั้นเต็มไปด้วยกองทัพนาคราชซึ่งมีลมปากเป็นพิษขนาดไฟประลัยกัลป์ เบื้องซ้ายเต็มไปด้วยกองทัพยักษาอสูร ซึ่งมีหณุมาน เทวยักษ์เป็นขุนศึก (หณุมานเป็นขุนศึกถึง ๒ ปาง คือ ปางที่ ๗ และปางที่ ๑๐ ) มือถือตะบองใหญ่ลุกเป็นเปลวไฟกวัดแกว่งสำแดงเดชอย่างน่าสะพรึงกลัว

ดินฟ้าอากาศมืดมิดอยู่ถึง ๗ วัน ๗ คืน แผ่นดินก็ไหวสะท้านไม่ขาดสาย ปานประหนึ่งโลกพิภพจะถล่มทลายลงไปก็ว่าได้ฝูงมนุษย์ที่ตั้งเคหสถานอยู่บนพื้นพิภพนี้ ก็ตัวสั่นงันงกด้วยความตกใจกลัวทั้งไม่ทราบเหตุผลกลการณ์เสียด้วยว่ามันเกิดจากอะไรกันบ้างร้องไห้กันเซ็งแซ่ บ้างก็หลับตาภาวนา บนบานศาลกล่าวถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ให้มาช่วยปกปักรักษา บ้างก็เสพสุรายาเมากันงอมพระรามในทำนอง “เหล้าเข้าปากความยากก็หายไป” บ้างที่ยากไร้อนาถาก็ฉกชิงวิ่งราวทรัพย์สมบัติของผู้อื่นกันชุลมุนวุ่นวายเพราะนานทีปีละหน บ้างก็รำพึงกันว่า “โลกแตกแน่แล้ว ฉิบหายแน่แล้ว” พากันวิ่งวุ่นเป็นสิงคลี ทิ้งบ้านทิ้งเรือนและทรัพย์สมบัติ หนีเอาตัวรอดกันเป็นอลหม่าน

ลูกเล็กเด็กแดงร้องไห้กันกระจองงอแง และพลัดพ่อพลัดแม่กันทั่วไป คนที่คอยระวังอยู่แล้วก็พากันหลบลี้หนีไปซุกซ่อนอยู่ซอกห้วยราวดอย และสวดมนต์ภาวนาแขม่วท้องหายใจรวยๆ แทบว่าชีวิตจะปลิดปลงด้วยความกลัวตาย พวกวัดก็พลัดเข้าบ้าน พวกบ้านก็คลานเข้าวัด หลวงชีก็หนีหลวงเถร ไม่ว่าเณรเผ่นตามกันไป พวกเหนือก็เฝือลงใต้ พวกใต้ก็ไหลขึ้นเหนือ ตะวันตกก็หกไปตะวันออก ตะวันออกก็ลอกไปตะวันตก เสียงปืนใหญ่และลูกระเบิดดังอยู่ไม่ขาดสาย ฝูงมนุษย์ต้องจุดไต้ตามกันตลอด ๗ วัน ๗ คืน

 

พอถึงวันคำรบ ๘ ซึ่งเป็นวันรุ่งสางสว่างแจ้งฝูงมนุษย์ที่เหลือจากความตายด้วยภัยสงคราม ก็พากันร้องไห้ระงมถมทึกแทบว่าจะไม่เป็นเสียงมนุษย์ เพราะจะมองไปทางใดก็พบแต่ซากศพของคนตาย เช่น ลูกตายพลัดพ่อแม่ พ่อแม่พลัดลูก ผัวตายพลัดเมีย เมียตายพลัดผัว ญาติมิตรที่ต้องตายพลัดตายพรากจากกัน เหลือที่จะนับคณนา เพราะวันตัดสินโลก ได้ผ่านไปแล้วพร้อมกับมนุษย์ที่ชั่วร้าย คงเหลือแต่มวลมนุษย์ที่เชื่อในคำสั่งสอนของพระศาสนา ซึ่งมีภาวนาเพื่ออยู่สืบโลกและศาสนาต่อไป

ในวันที่รุ่งแจ้งซึ่งความมืดได้ฉุดกระชากกลากพาเอาวิญญาณร้ายผ่านไปแล้วนั้น กองทัพอากาศของพระศรีอาริย์บรมจักรพร้อมด้วยเทพเจ้าบนสวรรค์ ก็เคลื่อนขบวนเวชยัตตรถทิพย์เลื่อนลอยไปโดยทางนภากาศเวหา เพลงสวรรค์ซึ่งคนธรรพ์ทั้งหลายอันมีปัญจสิกขคนธรรพ์เทพบุตรเป็นหัวหน้า ก็ดีดสีตีเป่าสะท้านหวั่นไหวพร้อมกับกองทัพนั้นด้วย ฝูงเทพเจ้าทั้งหลายก็โปรยข้าวตอกอกไม้ทิพย์เกลื่อนกลาดไปทั่วแผ่นดินที่ผ่านไปทั่วแผ่นดินที่ผ่านไป ครั้นแล้วกองทัพพระศรีอาริย์ก็หยุดลอยอยู่เหนือดอยสุวรรณคีรี ซึ่งกองทัพมนุษย์กำลังพิฆาตฆ่าฟันกันตายเหมือนใบไม้ร่วง

เมื่อกองทัพเหล่านั้นได้ยินเสียงอึกทึกโกลาหลอยู่เบื้องนภากาศ และร้อนรุ่มกลุ้มใจไปด้วยไฟพิษ ซึ่งหมู่มวลนาคราชได้พ่นออกจากปาก เป็นประกายอยู่ทั่วไป ทางเบื้องซ้ายก็กัมปนาทหวาดหวั่นไหวด้วยแสงอาวุธของมวลยักษ์ ตะบองใหญ่เท่าลำต้นตาลก็กวัดแกว่งเป็นเปลวไฟ ทหารที่ทนได้ก็ทนไป ที่ทนไม่ได้ก็ล้มสลบลงไปด้วยความร้อนสุดที่จะทนทานอิทธิฤทธิ์ของทหารผีกระทำปาฏิหาริย์อยู่ครู่เดียว ทหารมนุษย์ก็กลิ้งทูตระเนระนาดตามกันลงไป ร่างกายสั่นเทาเหมือนผีสิงสิ้นหมดทั้งกองทัพ พลันก็มีเสียงคำรามลั่นลงมาจากฟากฟ้า แทบว่าแก้วจะแตกตาย

“อะโห! มาริสสา – มาริสสา ดูก่อนทะแกล้วทหารผู้ใจปาบหยาบช้าทั้งหลาย! พวกสูจะมารบราฆ่าฟันกันตาย ด้วยเหตุผลกลใด? ขุมทรัพย์อันใหญ่หลวงที่เกิดขึ้นนี้ หาใช่เป็นสมบัติของพวกสูทั้งหลายหรือของผู้ใดไม่ดอก! หากเป็นสมบัติของพระศรีอาริยเมตไตรยโพธิสัตว์ในรถนี้ ซึ่งจะมาดำรงตำแหน่งบรมจักรอันประเสริฐ เพื่อจรรโลงโลกไปสู่สันติสุขและสันติภาพอันเที่ยงแท้! เลิกรบ-เลิกรบกัน เลิกรบกัน....” พระอิศวรผู้เป็นเจ้า ได้สำแดงเสียงอยู่บนศรีษะทหารมนุษย์อย่างเอาเป็นเอาตาย แล้วเปล่งสิงหนาทสืบต่อไปว่า:-

“วันตัดสินโลกได้เริ่มมาถึง ๗ วัน แล้ว วันนี้เป็นวันคำรบ ๘ โลกสว่างแล้ว! สงครามครั้งสุดท้ายได้เสร็จสิ้นไปแล้ว คนบาปทั้งหลายได้ถูกความมืดกลืนกินไปหมดแล้ว นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปดูข้าจะสร้างอาณาจักรสัมมาทิฏฐิให้พวกสูทั้งหลายอยู่ดีกินดีกันทั่วไป”

พระอิศวรเจ้าฟ้าตะคอกขู่จู่โจม เสียงนั้นสะท้านเหมือนฟ้าผ่าได้ยินตลอดไปทั่วทั้งกองทัพ แม้พวกจอมทัพ จอมขุนศึกทั้งหลายก็พากันตกใจเหมือนหัวจะแตกลงในยามนั้นพญาลายตีนเป็นกงจักรพญาแขนสั้นยาว พญาลิ้นกาฬ ฯลฯ ต่างก็พากันส่งสัญญาณให้กองทัพของตนเองถอนกลับสู่บ้านเมืองสิ้นด้วยกัน ครั้นแล้วพระอิศวรเป็นเจ้า ก็บันดาลฝนห่าใหญ่ ตกลงมาถึง ๗ วัน ๗ คืนท่วมทันซากศพเหล่านั้น ลอยไปลงทะเลจนหมดสิ้น คงเหลือแต่พื้นดินเป็นปกติ

อนึ่ง ก็เป็นธรรมดาสงครามที่ล้างโลกจะต้องบังเกิดมรสุมทำลายเความชั่วช้าเลวทรามของมนุษย์ที่กระทำขึ้นแล้วฝูงมนุษย์ก็จะต้องเป็นทายาทรับกรรมนั้นๆ หาใช่ผู้ใดหรือพระเจ้าองค์ใดมากระทำให้ไม่ ก็เมื่อมนุษย์พากันฝ่าฝืนคำสอนของพระเจ้าและกระทำกรรมอันชั่วช้าเลวทรามถึงเพียงนี้ผลกรรมก็ย่อมตามสนอง กล่าวคือ บังเกิดการรบราฆ่าฟันกันตายวายวอด ซึ่งพากันเรียกร้องให้พระเจ้ามาช่วยรับบาปนั้น ย่อมเป็นไปไม่ได้ เพราะพระเจ้าหาใช่ทาสของมนุษย์ดังที่บางคนเข้าใจกัน

พระศรีอาริย์ห้ามทัพตะวันออกเฉียงใต้ ตำนานพุกามทำนายว่าเมื่อปรากฏแล้ว พระศรีอาริย์ธรรมมิกราช พร้อมด้วยพระอิศวรเป็นเจ้าจะเสด็จไปห้ามทัพตะวันออกถึง ๒ ครั้ง ไปโดยทางฟ้าและกองทัพฟ้าของเทวดาเป็นหมู่รี้พล

นักจิตศาสตร์ไม่เคยเป็นชาวตะวันตก เป็นความจริง ๑๐๐% ที่ไม่เคยมีนักจิตขนาดจอมศาสนาจะเกิดเป็นชาวตะวันตก พระพุทธเจ้า,พระเยซู,พระมะหะหมัด, และอื่นๆ ก็เป็นชาวตะวันออกด้วยกันทั้งสิ้น ชาวตะวันตกต้องหันมาเคารพศาสนาธรรมของชาวตะวันออก ตลอดพงศาวดารโลก ฉะนั้น เจ้าโลกในอนาคตก็ต้องเป็นชาวตะวันออกตามเคยอีก.....

ที่มา http://www.phrasiarn.com/?topic=5734.0;wap2

 

ขอบคุณที่ให้ความกระจ่างครับ

 

ภัยพิบัติเขื่อนมีเงื่อนไข เหตุเพราะไทยแบ่งฝ่าย หน่ายสิ้นธรรม หาจรยุทธ มุ่งร้ายต่อแผ่นดิน เวรกรรมจะล้างสิ้น จากแผ่นดินไทย

 

โอ้ชีวิตมีอะไรตั้งเยอะแยะ มีเกิดแก่เจ็บตายคล้ายๆกัน แต่ที่คือความฝันอยู่ที่ใครจะก้าวถึงมัน หนูว่าทุกอย่างมันเป็นกฎของธรรมชาติ เราทำลายเขา ก็ถึงเวลาที่เขาจะมาทำคืน ส่วนจะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆเช่น ภูมิศาด วาระของกรรม ที่สำคัญคือสติของคน (โดยความเชื่อและสิ่งที่เห็น) ที่ทำได้คือใจกับสติให้มันอยู่คู่กัน หนูขอ อนุโมทนากับความข้างต้นด้วยนะคะ

 

โปรดระวัง จะเหมือนในหนัง 2012 ทุกอย่าง !!!​

​

--ได้ข่าวมาหลายกระแส สำหรับปี 2555 โปรดระวัง เหมือนในหนังทุกอย่าง ทำไมมีแต่ภาพยนต์ที่มีเนื้อหาล้างโลก เพราะจิตใต้สำนึก หรือจิตจักรวาล กระตุ้นให้มีคนทำออกมา เป็นการเตือนทางอ้อม จะเป็นที่ดาวนิบิรูหรือเปล่า อันนี้ไม่ยืนยันนะครับ

--ต้องขอโทษด้วยครับ ที่หายไปพักนึง วันก่อนมีแฟนคลับญาณทิพย์ ได้โทรมาถามเรื่องชีวิตการงาน และยังถามเรื่องปี 2012 หรือ 2555 ว่าจะมีภัยพิบัติหรือไม่ ภรรยาตอบว่า" ไม่มี เทพยังคุ้มครองโลกอยู่ " แต่อะไรก็ตามขึ้นกับองค์ท่านพ่อพระศิวะ ถ้าท่านโกรธ เปิดตาที่สามเมื่อใด ก็จะเป็นลำแสงที่มีความร้อนแรงหลอมละลายเหล็กได้ เป็นไฟประลัยกัลป์ล้างโลกในทันที

แต่เมื่อคืนนี้ ภรรยาผมได้ฝันว่า ประเทศและทวีปต่างๆจมลงสู่ใต้น้ำ นับเป็นการทำลายล้างมวลมนุษย์อย่างน่ากลัว และพระศิวะจะเปิดเนตรที่สามจนได้ ท่านอาจจะโกรธมวลมนุษย์

--จากเหตุการณ์ต่างๆ ที่ผมได้ผมประมวลมา น้ำแข็งขั้วโลกละลาย ทำให้มีฝนฟ้า พายุ และน้ำท่วมทั่วโลก ดาวนิบิรูมีจริงหรือ วิ่งมาเฉียดโลก โลกถึงกาลหายนะ ผมได้ทำนายกลับไปมา ประมาณ 5 ครั้งแล้วครับ "เกิด-ไม่เกิด" สิ่งที่ภรรยาผมบอก ช่างเหมือนกับนิมิตของ แนนซี่ ซึ่งเป็นผู้ประสานงานกับชาวซีต้า (ฝ่ายธรรมมะของพวกต่าวดาวเผ่าพันธ์เกรย์) อินเดียบางส่วน ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น (จมลงสู่ท้องทะเล)

--น้ำท่วมครั้งนี้ของไทย(2554) เหมือนกำลังเตือนให้ "เตรียมตัว--เตรียมใจ" เพราะท่วมหนักติดๆกันมา 2-3 ปีแล้ว สิ่งที่ผมหวาดหวั่นมาก คือความอดอยาก ป่วยไข้ โรคระบาด และการล้มลงของระบบเงินตรา ต่อไปเราคงใช้ทองแท่งเล็กๆแทนเงินหรือเงินเหรียญโลหะ ทองคำก็เป็นส่งที่มีค่าในตัวของมันเอง

โพสต์โดยคุณ jesdath 11 กันยายน พ.ศ.2554

ที่มา http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=secret-world&month=09-2011&date=10&group=1&gblog=230

 

แม้แต่องค์มหาเทพยังบอกว่าจนปัญญา
ที่จะช่วยป้องกันภัยพิบัติแล้วครับ!!!​

อย่าติดสิน โทษฟ้า ให้โทษคน​

[FONT=Browallia New,Browallia New][FONT=Browallia New,Browallia New]๐ ถึงคราวที่ ธรรมชาติ เอาคืนบ้าง [/FONT][/FONT][FONT=Browallia New,Browallia New]
[FONT=Browallia New,Browallia New]ไม่เข้าข้าง เอาใจใคร ไม่เคยสน [/FONT]
[FONT=Browallia New,Browallia New]คนบุกรุก ธรรมชาติ เกินจะทน [/FONT]
[FONT=Browallia New,Browallia New]นี่แหละผล คืนสนอง ย้อนกลับมา [/FONT]
[FONT=Browallia New,Browallia New]๐ ให้เทพช่วย คนไม่ช่วย โลกเองก่อน [/FONT]
[FONT=Browallia New,Browallia New]มัวแต่อ้อน เทพปกปักษ์ อารักขา [/FONT]
[FONT=Browallia New,Browallia New]มัวแต่เอา เอาแต่ได้ จนปัญญา [/FONT]
[FONT=Browallia New,Browallia New]เมื่อถึงครา ต้องมาซวย ด้วยเภทภัย [/FONT]
[FONT=Browallia New,Browallia New]๐ เดี๋ยวไม่นาน ก็เกิดอีก ระลอกใหญ่ [/FONT]
[FONT=Browallia New,Browallia New]พ่อเตือนไว้ ด้วยจิต อันหวั่นไหว [/FONT]
[FONT=Browallia New,Browallia New]ถึงให้มี คนจารสาส์น ของพ่อไป [/FONT]
[FONT=Browallia New,Browallia New]ส่งเร็วไว้ เตือนสติ ทุกครัวเรือน [/FONT]
[FONT=Browallia New,Browallia New]๐ จะเกิดซ้ำ พาให้ ชีวิตร่วง [/FONT]
[FONT=Browallia New,Browallia New]ดับสิ้นดวง วิญญาณ ไม่มีเลื่อน [/FONT]
[FONT=Browallia New,Browallia New]พ่อมองเห็น ซากศพ คนตายเกลื่อน [/FONT]
[FONT=Browallia New,Browallia New]ทั้งเพื่อนบ้าน ประเทศ ในแดนไกล [/FONT]
[FONT=Browallia New,Browallia New]๐ ความนัยแฝง ปริศนา ให้ขบคิด [/FONT]
[FONT=Browallia New,Browallia New]ตรึกตรองจิต พินิจเพ่ง เร่งอ่านไว้ [/FONT]
[FONT=Browallia New,Browallia New]สาส์นนี้พ่อ สั่งจาร สุดหัวใจ [/FONT]
[FONT=Browallia New,Browallia New]เตือนลูกไซร้ อยากให้รอด ปลอดภัยกัน [/FONT]
[FONT=Browallia New,Browallia New]๐ คนมีศีล มีธรรม นั้นย่อมรอด [/FONT]
[FONT=Browallia New,Browallia New]อยู่ตลอด ค้ำฟ้า ไม่ใช่ฝัน [/FONT]
[FONT=Browallia New,Browallia New]คนที่ตาย หากคนชั่ว ก็ร่วงพลัน [/FONT]
[FONT=Browallia New,Browallia New]ตกสวรรค์ สู่นรก อเวจี [/FONT][/FONT]
[FONT=Browallia New,Browallia New][FONT=Browallia New,Browallia New]๐ เภทภัยมา เมื่อไหร่ พ่องดตอบ [/FONT][/FONT][FONT=Browallia New,Browallia New]
[FONT=Browallia New,Browallia New]พ่อไม่ชอบ กำหนดหมาย กฎเกณฑ์ชี้ [/FONT]
[FONT=Browallia New,Browallia New]เพราะธรรมชาติ ไม่ใช่ คนมีชีวี [/FONT]
[FONT=Browallia New,Browallia New]ที่จะมี ปากบอกได้ เมื่อไหร่มา [/FONT]
[FONT=Browallia New,Browallia New]๐ คาดการณ์ยาก เพราะคือ เหตุอาเพศ [/FONT]
[FONT=Browallia New,Browallia New]อีกมีเหตุ ให้เกิดโรค ระบาดหนา [/FONT]
[FONT=Browallia New,Browallia New]หลายประเทศ งุนงง พิบัติมา [/FONT]
[FONT=Browallia New,Browallia New]ชนโศกา เทพร้องไห้ พาอาลัย [/FONT]
[FONT=Browallia New,Browallia New]๐ พิบัติฟ้า พิบัติดิน ก็มีหมด [/FONT]
[FONT=Browallia New,Browallia New]อย่างที่บท สาส์นที่สี่ นั้นบอกไว้ [/FONT]
[FONT=Browallia New,Browallia New]วิธีช่วย โลกนั้น ทำเช่นไร [/FONT]
[FONT=Browallia New,Browallia New]พ่อบอกใบ้ ไว้หมดแล้ว ทุกวรรคตอน [/FONT]
[FONT=Browallia New,Browallia New]๐ สาส์นนี้แปลก พ่อสั่ง ร้อยสลับ [/FONT]
[FONT=Browallia New,Browallia New]ประพันธ์รับ รองส่ง สดับกลอน [/FONT]
[FONT=Browallia New,Browallia New]ให้เราพา แปลกใจ ในอักษร [/FONT]
[FONT=Browallia New,Browallia New]ดั่งอาภรณ์ แต่งสีสัน ดูแปลกตา [/FONT]
[FONT=Browallia New,Browallia New]๐ เดี๋ยวแต่งโคลง นำหน้า ขึ้นมาก่อน [/FONT]
[FONT=Browallia New,Browallia New]ทั้งกลอนสี่ กลอนแปดมี พาหรรษา [/FONT]
[FONT=Browallia New,Browallia New]ปะปนอยู่ ในสาส์น จำนรรจา [/FONT]
[FONT=Browallia New,Browallia New]ดุจภาษา พ่อแต่งไว้ ล้วนแฝงกล [/FONT]
[FONT=Browallia New,Browallia New]๐ ทูลถามพ่อ เหมือนกัน ในเรื่องเหตุ [/FONT]
[FONT=Browallia New,Browallia New]จะเกิดเภท พิบัติภัย ทาลายคน [/FONT]
[FONT=Browallia New,Browallia New]เมื่อไหร่ มาจะได้ ระวังตน [/FONT]
[FONT=Browallia New,Browallia New]พ่อบอกบ่น รำคาญใจ ไม่นาพา [/FONT]
[FONT=Browallia New,Browallia New]๐ ก็พ่อบอก ลูกแล้วไง เจ้าลูกเอ๋ย [/FONT]
[FONT=Browallia New,Browallia New]หากเจ้าเคย มีบทเรียน ที่มีค่า [/FONT][/FONT]​

ราคาแพง แทงให้ทุกข์ จุกอุรา
พิบัติมา คราวก่อนนั้น ยังไม่จำ​

[FONT=Browallia New,Browallia New][FONT=Browallia New,Browallia New][FONT=Browallia New,Browallia New][FONT=Browallia New,Browallia New]๐ มันจะเกิด คล้ายกันอีก ไม่นับครั้ง [/FONT][/FONT][/FONT][/FONT][FONT=Browallia New,Browallia New][FONT=Browallia New,Browallia New][FONT=Browallia New,Browallia New]
[FONT=Browallia New,Browallia New]อยากให้ฟัง คำพ่อบอก อย่าถามย้ำ [/FONT]
[FONT=Browallia New,Browallia New]จงเตือนตัว มีสติ มีศีลนา [/FONT]
[FONT=Browallia New,Browallia New]จะช่วยค้ำ จุนเจือเหตุ ให้หมดภัย[/FONT]
[FONT=Browallia New,Browallia New]๐ มันจะเกิด เมื่อใด อย่าใคร่รู้ [/FONT]
[FONT=Browallia New,Browallia New]พ่อไม่ขู่ เป็นเล่นไป ไม่ปราศรัย [/FONT]
[FONT=Browallia New,Browallia New]จะเกิดเหตุ ขึ้นเมื่อใด ไม่ใช่ใคร [/FONT]
[FONT=Browallia New,Browallia New]ที่คนไซร้ ยังไม่หยุด คิดรุกราน [/FONT]
[FONT=Browallia New,Browallia New]๐ ธรรมชาติ ก็ล้วน มีดวงจิต [/FONT]
[FONT=Browallia New,Browallia New]มันก็คิด จะกลับ มาล้างผลาญ [/FONT]
[FONT=Browallia New,Browallia New]พระนารายณ์ อีกปวงเทพ ป้องกันมาร [/FONT]
[FONT=Browallia New,Browallia New]ก็ไม่อาจ ทำการช่วย จนปัญญา .....[/FONT]​

[/FONT][/FONT][/FONT]

[FONT=Browallia New,Browallia New][FONT=Browallia New,Browallia New][FONT=Browallia New,Browallia New]สาส์นจากพระพิฆเณศ โดยคุณแบงค์สเกตกรรม[/FONT][/FONT][/FONT]​

[FONT=Browallia New,Browallia New][FONT=Browallia New,Browallia New][FONT=Browallia New,Browallia New]ที่มา http://palungjit.org/threads/สาส์นจากพ่อคเณศ-กับภัยพิบัติ.356436/[/FONT][/FONT][/FONT][FONT=Browallia New,Browallia New][FONT=Browallia New,Browallia New]​

[/FONT][/FONT]<!-- google_ad_section_end -->

 

ไม่ได้เข้ามาขัดจังหวะนะครับ
ผมพึ่งมาใหม่ มาศึกษา จึงต้องเข้ามาดูเรื่องราวที่เป็นตำนานของเวป
ผมเปิดผ่านๆดู เป็นกระทูตั้งแต่ 25/01/2005
หลายๆสิ่งท่านคัดลอกมา
หลายๆเรื่องท่านคิดเอง
สรุปเรื่องราวให้ดูเป็น timeline ได้ไหมครับว่า
มันมีความเป็นจริงสอดคล้องกับสิ่งที่พูดๆกันไหม เช่น
- ข่าวดี ชาวโลกจะได้พบพระศรีอารย์ในปี 2549
http://palungjit.org/newreply.php?do=newreply&p=6667839
พบหรือไม่พบ อย่่างไร
- 11-11-11 โลกแตกหรือไม่ ๆลๆ
เอาง่ายๆว่าเริ่มตั้งแต่ ปี2005
ว่าทำนายอะไรเอาไว้ มีเหตุการอะไรเกิดขึ้นจริง/ไม่จริง จนถึงปัจจุบัน
คงใช้เวลาไม่มากมายหรอกครับ กับการรวบรวมข้อมูล
ขอเรื่องที่เป็นความจริง (FACT) ไม่ใช่เรื่องลวง (FAKE)
ส่วนตัวผมเอง อ่านดูนิดหน่อย
ก็เห็นพูดเป็นตุเป็นตะ ไม่รู้ว่าอะไรจริงไม่จริง
คนไทยเชื่อง่ายนะครับ ลืมง่ายด้วย
พูดอะไรไปสุ่มสี่สุ่มห้า เดี๋ยวแตกตื่นกัน
ไม่สนุกนักหรอกที่ทำให้ชาวบ้านแตกตื่นกัน
รบกวนท่านด้วย เรื่องข้อมูล..........จะได้รู้ว่า FACT or FAKE

 

สรุปให้ก็ได้ ผ่านมาหลายปีแล้ว

ความแม่นยำในการทำนายที่ผ่านมา

ไกล้เคียง 0 ครับ

ดังนั้น.... จะได้ยินว่า เลื่อนๆๆๆๆ บ่อยมากๆ

 

ผมก็เห็นใจสำหรับท่านที่เพิ่งจะเข้ามาเจอ ข้อมูลเหล่านี้เป็นครั้งแรก ย่อมต้องช๊อคตกใจจนรับไม่ได้ เพราะถ้าเป็นตัวผมเอง ถ้าอยู่ดีๆก็บังเอิญเข้ามาอ่านพบข้อมูลเหล่านี้เป็นครั้งแรก โดยที่ยังไม่มีความรู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้มาบ้างเลย ก็ย่อมต้องตกใจจนรับไม่ได้เป็นธรรมดาครับ

สำหรับข้อมูลเรื่องภัยพิบัติ ที่ผมได้แจ้งเอาไว้ตั้งแต่ปี 2548 นั้น เช่นเรื่องจะได้พบพระศรีอารย์ในปี 2549 และเรื่องวันเวลาแห่งการชำระโลก 11-11-11 ที่เคยบอกว่าจะเกิดในปี 2550 นั้น เหตุการณ์เหล่านั้นได้ถูกเลื่อนเวลาออกไปจากเดิม ด้วยมีพระอริยสงฆ์และพระโพธิสัตว์หลายๆท่าน ได้ช่วยกันอธิษฐานจิตขอเลื่อนเวลาของภัยพิบัติออกไปอีก โดยยอมแลกด้วยอายุขัยและบุญบารมีของตัวเองที่ได้สั่งสมบำเพ็ญมา เพื่อช่วยให้ชาวโลกได้มีโอกาสได้มีเวลาแก้ไขปรับปรุงตนเองให้เป็นคนดีมีศีลธรรม เพื่อให้ทันกับเวลาที่จะเกิดภัยพิบัติขึ้นเมื่อหมดเวลาที่ได้ขอเลื่อนเอาไว้ครับ

ท่านจะเชื่อหรือไม่ก็เป็นสิทธิเสรีภาพของท่าน แต่ทุกคำพูดของผมนี้ผมได้บอกความจริงทั้งหมดแก่ท่านแล้ว ไม่ได้ปิดบังอำพรางหรือโกหกหลอกลวงแต่อย่างใดทั้งสิ้น ตลอด 8 ปีที่ผมได้แจ้งเตือนภัยกับทุกๆท่านมานี้ ผมไม่เคยเรียกร้องเงินทองหรือทรัพย์สินใดๆเลย ท่านที่เป็นสมาชิกติดตามกระทู้นี้มาตั้งแต่ต้นย่อมจะเป็นพยานยืนยันความจริงในเรื่องนี้ได้ เมื่อภัยพิบัติได้ถูกเลื่อนผมก็บอกว่าถูกเลื่อน เมื่อภัยพิบัติหมดเวลาที่ขอเลื่อนแล้ว ผมก็บอกว่าหมดเวลาที่ขอเลื่อนแล้ว

การที่ท่านกล่าวหาผมนี้ ว่าเป็นคนโกหกหลอกลวง แล้วตัวท่านเคยไปศึกษาข้อมูลเรื่องภัยพิบัติจากที่อื่นๆบ้างหรือไม่ ว่าเขาก็มีข้อมูลแบบที่ผมแจ้งมานี้เหมือนกัน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ท่านเคยเปิดดูข่าวทางทีวี ทางหนังสือพิมพ์ ทางวิทยุ ทางอินเตอร์เน็ตหรือไม่ ว่าพวกเขาก็ได้เตรียมตัวรับมือกับภัยพิบัติที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกับที่ห้องภัยพิบัิติและการเตรียมการแห่งนี้กำลังทำอยู่ ท่านไม่สงสัยบ้างหรือว่าทำไมโลกเราทุกวันนี้มันไม่เหมือนเดิมแล้ว เดี๋ยวมีแผ่นดินไหว เดี๋ยวมีภูเขาไฟระเบิด เดี๋ยวมีโรคระบาด เดี๋ยวมีพายุ เดี๋ยวมีน้ำท่วมที่โน่นที่นี่ ทั้งๆที่เมื่อหลายปีก่อนมันจะเกิดภัยพิบัติเหล่านี้ นานๆถึงจะเกิดขึ้นสักครั้ง แต่เดี๋ยวนี้ทำไมมันจึงเกิดได้ทุกวัน และเกิดวันละหลายๆครั้งด้วย มันเป็นเพราะอะไร...

 

แม้กระทั่งต่างประเทศก็กล่าวตรงกัน !!!​

<TABLE class=tborder id=post6621455 style="BORDER-RIGHT: rgb(239,239,239) 1px solid; BORDER-TOP: rgb(239,239,239) 1px solid; WORD-SPACING: 0px; FONT: 16px arial, verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; BORDER-LEFT: rgb(239,239,239) 1px solid; COLOR: rgb(0,0,0); TEXT-INDENT: 0px; BORDER-BOTTOM: rgb(239,239,239) 1px solid; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; BACKGROUND-COLOR: rgb(255,255,255); orphans: 2; widows: 2; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px" cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px; BORDER-RIGHT: rgb(255,255,255) 1px solid; BORDER-BOTTOM-WIDTH: 0px; FONT: 12pt verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif; BORDER-LEFT: rgb(255,255,255) 1px solid; COLOR: rgb(0,0,0); BACKGROUND-COLOR: rgb(247,243,247)" width=175>Nirvana
สมาชิก



วันที่สมัคร: Feb 2005
สถานที่: Nirvana
ข้อความ: 5,906
Groans: 37
Groaned at 51 Times in 37 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 2,399
ได้รับอนุโมทนา 16,368 ครั้ง ใน 2,955 โพส
พลังการให้คะแนน: 1653
</TD><TD class=alt1 id=td_post_6621455 style="BORDER-RIGHT: rgb(255,255,255) 1px solid; FONT: 12pt verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif; COLOR: rgb(0,0,0); BACKGROUND-COLOR: rgb(239,235,239)">ส่วนตัวไม่มีข้อสงสัยใดๆเกี่ยวกับคำพยากรณ์ของหลวงปู่สังวาลย์

เพราะมีผู้ได้ยินการสนทนาและออกข่าวทางสื่อของวัดสังฆทาน มีญาติธรรมและผู้รับทราบมากมาย

ปัญหาคือ ทุกท่านที่ทราบแล้วจะเตรีบมตัวรับสถานการณ์อย่างไร ทุกภาคส่วน ทุกสายบุญ ต่างทราบกันแล้วว่าเหตุการณ์คงเกิดในช่วงปลายปีนี้ ต่อเนื่องออกไปถึงต้นปีหน้า แม้กระทั่งต่างประเทศก็กล่าวตรงกัน

ที่เหลือก็สุดแต่บุญกรรมจะนำไปแล้วกัน นะครับ

30-08-2012, 10:33 AM
</TD></TR></TBODY></TABLE>
ที่มา http://palungjit.org/threads/คำทำนา...งพ่อสนอง-กตปุญโญผู้เป็นศิษย์ไว้.335159/page-2

 

หรือจะเป็นสงครามนิวเครีย

 

เป็นกำลังใจให้พี่เกษมต่อไปค่ะ แม้จะไม่รู้จักกันมาก่อน
แต่ข้อมูลรายละเอียดต่าง ๆ ที่พี่ตั้งใจเอามาเล่าสู่กันฟังนั้น เป็นข้อมูลหลากหลายด้าน อ่านแล้วก็เพิ่มพูลความรู้ จะจริงเท็จแค่ไหน ก็ใช้วิจารณญานพิจารณากันไป

ในส่วนเรื่องของภัยพิบัตินั้น ดิฉันคิดว่า มันไม่ได้เลื่อนไปไหน มันเกิดขึ้นทุกวันทั่วโลก รุนแรงมากน้อยแตกต่างกันไป แล้วนับวันก็จะยิ่งทวีความรุนแรง แล้วกระจายทั่วทุกที่
เพียงแต่ประเทศไทยนั้นตั้งอยู่ในจุดภูมิศาสตร์ที่ดี และมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง เมื่อถึงเวลาก็ต้องเจอเหมือนกัน เพราะว่าเราอยู่ในพื้นโลกเดียวกัน

ทำหน้าที่ในการเตือนของพี่ต่อไป อย่าไปคิดมากว่าใครจะว่าอะไร
ท่านครูบา ที่เชียงใหม่ท่านหนึ่งเคยกล่าวเตือน ว่า ภัยใกล้เข้ามาแล้วนะ ให้รีบหมั่นภาวนา และเตรียมตัวเตรียมใจ เตรียมปัจจัย 4 ให้พร้อม มีใครที่เรารักก็ให้บอกกล่าวเค้า เค้าจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่ อย่างน้อยก็ถือว่าเรามีเมตตา ทุกคนมีกรรมเป็นของตัวเอง

 

วิวรณ์ บทที่ 16 | พระคริสตธรรมคัมภีร์ออนไลน์ พระคัมภีร์ไบเบิลออนไลน์ แบ่งปันข้อพระคำภีร์ อ่านพระคัมภีร์แบบออนไลน์