ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG] ก้องภพ อยู่เย็น,พายุสุริยะ

    แนะประชาชนติดตามการพยากรอากาศของแต่ละพื้นที่อย่างใกล้ชิด
    ดร.ก้องภพ อยู่เย็น วิศวกรไทยในองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือนาซ่า ได้โพสต์ข้อความลงในเฟสบุ๊คส่วนตัว โดยระบุว่า ใน 1-4 วันนี้ อาจเป็นไปได้ที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขึ้นอีกครั้ง เนื่องจากภัยธรรมชาติในครั้งนี้ ถูกกระตุ้นจากพลังงานนอกโลกซึ่งเข้ามามากกว่าปกติ และเกี่ยวกับพายุสุริยะที่กำลังเกิดขึ้นหนักอยู่ในขณะนี้
    โดยพายุสุริยะดังกล่าวจะเปลี่ยนมาในรูปของการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศ และทางธรณีวิทยา จึงคาดการณ์ได้ว่าจะทำให้เกิดแผ่นดินไหวขึ้นได้ ดังนั้นจึงอยากเตือนให้ผู้ที่อยู่อาศัยใกล้รอยแยกเปลือกโลกมีความตระหนักถึงภัยแผ่นดินไหวในครั้งนี้เป็นพิเศษด้วย พร้อมกันนี้ก็อยากให้คอยติดตามข่าวสารการพยากรณ์สภาพอากาศของแต่ละพื้นที่อย่างใกล้ชิดด้วย ในรายงานระบุ


    [​IMG] สมิทธ ธรรมสโรช

    ห่วงระนอง เผชิญแผ่นดินไหวต่อจากภูเก็ต แนะจับตา
    ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการมูลนิธิเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ได้ออกมาเปิดเผยว่า ในอนาคตอันใกล้นี้ประเทศไทยจะได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวเพิ่มอีก 2จุด คือ ระหว่างหมู่เกาะอันดามัน ไปจนถึงปากแม่น้ำอิรวดีในพม่า และบริเวณอ่าวไทย ซึ่งถ้าหากเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ขึ้นจริงก็จะทำให้หลายพื้นที่ในภาคใต้ได้รับผลกระทบจากสึนามิเป็นวงกว้างทั้ง 2ฝั่งทันที
    ส่วนเหตุแผ่นดินไหว 8.9 ริกเตอร์ ทางตอนเหนือของเกาะสุมาตรา อินโดนีเชียที่ผ่านมานั้น นอกจากจะส่งผลโดยตรงต่อจ.ภูเก็ต ทำให้มีแผ่นดินไหวตามมานับครั้งไม่ถ้วนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาแล้วนั้น อีกจุดหนึ่งที่น่าห่วงคือ จ.ระนอง ซึ่งหากรอยเลื่อน จ.ระนอง ได้รับแรงกดดัน หรือ พลังงานจากการเกิดแผ่นดินไหวในพื้นที่อื่นๆ อาจจะทำให้เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงได้ ดร.สมิทธกล่าว.
    Mthai News
     
  2. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>อุตุฯออกประกาศเตือนภัยพายุฤดูร้อน ฉบับที่7 "เหนือ-อีสาน" อาจมีลูกเห็บตกได้ </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE style="FILTER: progid:DXImageTransform.Microsoft.Gradient(startColorStr=#C0FFFFCC, endColorStr=#10FFFFFF, gradientType=0)" border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="98%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-LEFT: gray 1px solid; BORDER-RIGHT: gray 1px solid" width="100%" colSpan=3 align=middle>ประกาศเตือนภัย
    "พายุฤดูร้อน "

    ฉบับที่ 7 ลงวันที่ 22 เมษายน 2555
    </TD></TR><TR><TD style="BORDER-LEFT: gray 1px solid; PADDING-BOTTOM: 10px; PADDING-LEFT: 10px; PADDING-RIGHT: 10px; BORDER-RIGHT: gray 1px solid; PADDING-TOP: 10px" width="100%" colSpan=3 align=middle> บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนแล้ว ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไป ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกได้ ในบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย จึงขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้นในระยะนี้
    สำหรับ ภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีลมตะวันตกพัดปกคลุม ทำให้มีฝนหนาแน่นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักในระยะนี้ไว้ด้วย

    ประกาศ ณ วันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2555
    ออกประกาศ เวลา 05.30 น.

    สำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา
    กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>พายุร้อนพัดถล่มหลายพื้นที่ในอยุธยา-บ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลังคา </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    วันที่ 21 เม.ย. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า เมื่อวันที่ 20 เม.ย. ที่ผ่านมา เกิดลมพายุพัดผ่านในหลายพื้นที่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในพื้นที่ ต.สามบัณฑิต ตั้งแต่ม.1-10 อ.ทัย จ.พระนครศรีอยุธยา บ้านเรือนได้รับความเสียหาย เสาไฟฟ้าโค่นเอน ต้นไม้ใหญ่หักโค่น รวมกว่า 135 หลังคาเรือน หนักสุดในพื้นที่หมู่ที่ 10 เสียหายกว่า 35 หลังคาเรือน

    พบว่าต้นไม้ขนาดใหญ่หักโค่นความทางเจ้าหน้าที่ต้องเร่งตัดออก บ้านบางหลังเสื้อผ้าปลิวขึ้นหลังคาต้องปีนขึ้นไปเก็บ แต่พบว่าบางบ้านเสียหายหนักถึงขนาด ร้านค้าที่ปลูกเป็นเพลิง พังลงมาทั้งหลังเจ้าของร้านต้องลงไปเก็บของที่พอจะใช้ได้ ส่วนหลังคาสังกะสีของบ้านทั้งแผงลอยไปทับหลังคาบ้านของเพื่อนบ้านด้วยกันต้องเร่งช่วยกันนำลงมา ส่วนบ้านที่เป็นหลังคากระเบื้องแตกกระจาย ชาวบ้านต้องเก็บข้าวของกันวุ่นวาย



    นางจำลอง ควรสถิต บ้านเลขที่ 109 หมู่ที่ 10 ตำบลสามบัณฑิต อำเภออุทัย 1 ในบ้านที่เสียหาย ได้เตรียมงานจัดงานแต่งลูกสาว ระหว่าง นายชยุต ขาบศิริวัฒนกุล กับ นางสาวนิตยา หาวิถี ที่เตรียมจะแต่งงานใน วันพรุ่งนี้ทั้งเต๊นที่มากางรวมถึงข้าวของเตรียมทำกับข้าวเลี้ยงแขกใน วันพรุ่งนี้เช้า ต้องกระจัดกระจายเมื่อลมพายุพัดมาแรงทำให้เต๊นปลิวกระจาย ล้มทับศาลพระภูมิได้รับความเสียหาย นางจำลอง กล่าวอีกว่าลมพายุ ลูกใหญ่มามืด ม้วนไปมาและพุ่งเข้ามาที่บ้านอย่างจัง แบบไม่ทันตั้งตัวต้องหนีหลบกันวุ่นวายเข้าไปในบ้าน พอออกมาก็พบกับความเสียหายอย่างหนัก ซึ่งยังอยู่ด้วยอาการตกใจแต่ก็ต้องเตรียมการจัดงานพรุ่งนี้ให้ทัน เนื่องจากการ์ดงานก็แจก กำหนดวันเข้าไปหมดแล้วไม่อย่างให้เสียฤกษ์


    นางจำนง ลังทอง อายุ64 ปี เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ณะเกิดเหตุตนเองอาศัยอยู่ในบ้านเสียพายุหมุนมาพัดเอาสังกระสีบ้านของเพื่อนบ้านปลิวว่อนจึงรีบออกมาดูเห็นพายุงวงช้างหมุนมาที่บ้านพัดเอาหลังคาบ้านพังเสียหายต้องรีบหนีเอาชีวิตรอด


    นายธวัช หามนตรี อายุ38 ปี กล่าวว่ารถยนต์กระบะของตนเองจอดเอาไว้ใกล้กันต้นก้ามปูหน้าบ้านลมพายุจนต้นไม้ล้มโค่นลงแบบถอนรากถอนโคนงัดเอาท้ายรถยนต์กระบะลอย


    เบื้องต้น เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลสามบัณฑิตได้ออกตรวจสถานที่ พร้อมช่วยเหลือชาวบ้านเบื้องต้นแล้ว ส่วนความเสียหายทั้งหมดจะรีบสรุปเพื่อขอความช่วยเหลือกับทางจังหวัดพระนครศรีอยุธยาต่อไป




    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>แผ่นดินไหว4ครั้งซ้อนใกล้เกาะสุมาตรา </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle>ภาพประกอบจาก อินเตอร์เน็ต</TD></TR></TBODY></TABLE>ศภช.แจ้งเกิดแผ่นดินไหวในทะเลใกล้เกาะสุมาตราเวลาไล่เลี่ยกัน4ครั้งติดต่อกันแต่ไม่มีผลกระทบต่อไทย

    ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ(ศภช.) แจ้งว่า เวลา 02.34 น. เกิดแผ่นดินไหวในทะเล 5.0 ตามมาตราริกเตอร์ บริเวณ ตอนเหนือของเกาะสุมาตรา ความลึก 10 กิโลเมตร ไม่มีผลกระทบต่อไทย

    เวลา 05.19 น.
    แผ่นดินไหวในทะเล 5.5 ตามมาตราริกเตอร์ บริเวณตอนเหนือของเกาะสุมาตรา ความลึก 10 กิโลเมตร ไม่มีผลกระทบต่อไทย

    เวลา 05.28 น. แผ่นดินไหวในทะเล 5.5 ตามมาตราริกเตอร์ บริเวณตอนเหนือของเกาะสุมาตรา ความลึก 10 กิโลเมตร ไม่มีผลกระทบต่อไทย

    เวลา 06.14 น. แผ่นดินไหวในทะเล 6.3 ตามมาตราริกเตอร์ บริเวณตอนเหนือของเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ความลึก 10 กิโลเมตร ไม่มีผลกระทบต่อไทย

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>
    ขอบคุณ โพสต์ทูเดย์

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  3. ทารา

    ทารา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    169
    ค่าพลัง:
    +78
    2012-04-22 08:42:27 THA
    ศูนย์กลาง: อ.ถลาง จ.ภูเก็ต
    Lat: 8.020 , Long: 98.340
    ขนาด: 2.4
    สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว
    วันนี้แผ่นดินไหวที่ภูเก็ตเริ่มทำงานอีกแล้ว หลังจากหยุดพักไป 1 วัน
     
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    คำทำนายดวงเมืองประเทศไทย
    จากเว็บนวกาพรหม

    [​IMG]

    กาดำดื่มน้ำตะโก พึ่งพักฟังบนป่ายี่โถ กาดำรู้นาดี จะเปลี่ยนสีเป็นกาขาวชาวอริยะ ภายหลังประเทศสยามเปลี่ยนชื่อมาเป็นประเทศไทย เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2482 เวลา 09.00 น. ลัคนาราศีกรกฎ จะแบ่งยุคบ้านเมือง ออกเป็น 10 ยุค ยุคละ 10 ปี ดังนี้


    1.พ.ศ.2482 - 2492 ยุคกาลี 2.พ.ศ.2492 - 2502 ยุคมิตรมาเยือน 3.พ.ศ.2502 - 2512 ยุคเฉือนดินแดน 4.พ.ศ.2512 - 2522 ยุคแสนแค้นกลางเขาควาย 5.พ.ศ.2522 - 2532 ยุคลายเสือครองเมือง 6.พ.ศ.2532 - 2542 ยุคฟูเฟื่องชาวสังคม 7.พ.ศ.2542 - 2552 ยุคชมบุญทรราชย์ 8.พ.ศ.2552 - 2562 ยุคชาติวิปโยค 9.พ.ศ.2562 - 2572 ยุคโรคคลาย 10.พ.ศ.2572 - 2582 ยุคหายกังวล <CENTER>[​IMG]</CENTER>

    </PRE>
    ปลายปีจอ พ.ศ. 2549 ยามเดือนแรมไปแล้ว ฝูงชนทั้งหลายจะเกิดเดือดร้อนหลาย เช่น ทุกข์ยากฮ้อน ย้อนไฟและน้ำ ทุกข์ยากฮ้อน ย้อนบ่มีไผเบิ่งไผ ทุกข์ยากฮ้อน ย้อนอึดข้าวปลาอาหาร ทุกข์ยากฮ้อน ย้อนผัว - เมียบ่เห็นหน้ากัน ทุกข์ยากฮ้อน ย้อนมีคนตายตามทุ้งไร่ทุ่งนา ทุกข์ยากฮ้อน ย้อนไปต่างประเทศบ่สะดวก ทุกข์ยากฮ้อน ย้อนนอนบ่หลับ เมืองกรุง ทุกข์ยากฮ้อน ย้อนศึกขัดแย้งบ่แล้ว

    [​IMG]

    คำทำนายปลายรัชกาลที่ 9

    คำทำนายที่เคยมีช้านานนัก เริ่มประจักษ์ให้เห็นเร้นไม่ได้ ครูบาอาจารย์ท่านเคยทำนาย เมื่อถึงปลายรัชกาลผ่านเข้ามา ประเทศชาติจะรุ่งเรืองและเฟื่องฟุ้ง น้ำมันผุดขึ้นมาจนเห็นค่า พวกกาขาวจะบินรี้หนีเข้ามา เป็นประชาจนเต็มพระนคร ชนทั่วโลกจะยกพระองค์ท่าน ชื่อกระฉ่อนร่อนทั่วทุกสิงขร ออกพระนามลือชื่อดั่งทินกร องค์อมรเอกบุรุษแห่งแผ่นดิน

    ชาวประชาจะปิติยิ้มสดใส แต่อกไหม้หนอนกินข้างในสิ้น จะมีพวกกาฝากคอยกัดกิน เพื่อให้ได้สิ่งถวิลสมจินตนา จะมีการต่อตีกันกลางเมือง ขุนนางเขื่องกังฉินกินทั่วหล้า คอรัปชั่นจะกัดกร่อนทั้งพารา ประดุจปลวกกินฝานั้นปะไร ข้าราชการตงฉินถูกประนาม สามคนหามสี่คนแห่มาลากไส้ เกิดวิกฤติผิดเพี้ยนโดยทั่วไป โกลาหลหม่นไหม้ไร้ความดี

    ประชาชีจะสับสนเรื่องดีชั่ว ถ้วนทุกทั่วจะหมุดขุดรูหนี ไม่แน่ใจสิ่งที่ทำนำความดี เกรงเป็นผีตายตกไปตามกัน พุทธศาสน์จะถูกรุกและล้ำ มิตรเคยค้ำเป็นศัตรูมุ่งอาสัญ เกิดวิกฤติธรรมชาติอุบาทว์ครัน พายุลั่นน้ำถล่มดินทลาย แผ่นดินแยกแตกเป็นสองปกครองยาก เกิดวิบากทุกข์เข็ญระส่ำระสาย เกิดการปราบจลาจลชนล้มตาย เลือดเป็นสายน้ำตานองสองแผ่นดิน

    ข้าเป็นนายนายเป็นข้าน่าสมเพช ผู้มีบุญมีเดชจะสูญสิ้น ทั้งพฤฒาอาจารย์ลือระบิล จะร่วงรินดุจใบไม้ต้องสายลม ความระทมจะถมทับนับเทวศ ดั่งดวงเนตรมืดบอดสุดขื่นขม คนที่ดีจะก้มหน้าสุดระทม ส่วนคนชั่วหัวร่อร่าทำท่าดัง จะมีหนึ่งนารีขี่ม้าขาว ควงคฑามุ่งสู่ดาวสร้างความหวัง ผู้ปกครองจะเป็นหญิงพึงระวัง สายน้ำหลั่งกรากเชี่ยวหวาดเสียวใจ

    ศิวิไลซ์จะบังเกิดในสยาม หลังฝนคร้ามลั่นครืนจะยืนได้ จะเข้าสู่ยุคมหาชนพาไป เปลี่ยนเมืองใหม่ศักราชแห่งประชา คนชั่วจะถูกปราบราบคาบสิ้น แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา ประเทศชาติผ่านวิกฤติด้วยศรัทธา ยามเมื่อฟ้าสีทองผ่องอำไพ

    สำหรับประเทศไทย ในส่วนของบาปศักดิ์สิทธิ์ลงโทษเป็นกรรมที่กำลังให้ผลอยู่ ไม่อาจลบล้างได้ มันจะต้องให้ผลสืบไปจนสุดกำลังของมัน สามารถทอนจากหนักเป็นเบา คือ อ่อนกำลังลง ด้วยบุญขั้นสูงคือ ฌานสมาบัติ ดวงเมืองรัตนจักรียุค 9 ปลายยุค จะมีการพยายามทำลายล้มมิให้เข้าสู่ยุคศรีวิไล ความเจริญแห่งแผ่นดินก่อเกิดความอุดมสมบูรณ์พูนสุข ความสันติสุขร่มเย็น ภายใต้ร่มโพธิ์เงิน – ไทรทอง การวางแผนซ้อนหลักเมืองสับเปลี่ยนเสาสันติ ทำให้แผ่นดินเดือดร้อน และดับดาวเจ้าของยุคชาวศรีวิไลโดยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ดาวโพธิสัตว์สาย “สันติ” ที่จะเป็นผู้เชื่อมรัตนจักรยุคที่ 9 ต่อเนื่องยุคที่ 10 ชาวศรีวิไล

    ยังผลให้ศาสนจักร อาณาจักร และสถาบันกฎหมาย แตกความสามัคคี ความเดือดร้อนบังเกิดขึ้นทุกหมู่เหล่า ประวัติศาสตร์จักซ้ำรอยถอยสู่ยุค 8 ยุคทมิฬ เป็นกาดำ กาลีสูบเลือด ดวงเมืองเกิดกาสีดำถอยจักร บ้านเมืองเข้าสู่ความมืดมิดด้วยเภทภัยต่าง ๆ ดาวศาสดาแห่งสันติผูกระหัสทางโลก 8 จุด และทางธรรม 8 จุด กับแผ่นดินรัตนโกสินทร์ คำว่า “รัตนะ” คือนพรัตน์ทั้ง 9 ตรงในยุคจักรีที่ 9 บุรพชนต้นตระกูลวางดวงเมือง หลักศาสนา และฐานกษัตริย์ ไว้ทางโลก 8 จุด และทางธรรม 8 จุด

    เพื่อให้แผ่นดินเมื่อมาถึงยุครัตนจักรที่ 9 จักสามารถข้ามเข้าสู่ “ยุคชาวศรีวิไล” ได้ไว้ที่องค์พระแก้วมรกต วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ทางโลก ระหัสอาทิตย์ หลักเมือง ทางธรรม ระหัสจันทรา หลักศาสนาทั้งทางโลกและทางธรรมเพื่อหนุนส่งเสริมฐานกษัตริย์ ยุครัตนจักร์ที่ 9 ปลายยุคจึงแปรผันเป็นยุคทมิฬ – ถิ่นกาขาว ประชาชาติแตกเป็น 2 ฝ่าย อกตัญญูต่อแผ่นดิน เนรคุณต่อสัตยบันสัญญา จะโค่นล้างเผ่าพันธ์ชนชาติตนเอง นำพาชาติสู่ความวิบัติ ผู้คนไม่อยู่ในศีลธรรม เป็นกาเมา กาเม หักหลัง ทรยศ เนรคุณ

    ส่งผลกระทบเส้นเสาและเส้นฐานของโลก เพราะกำเนิดประเทศไทยและกำเนิดโลกซ้อนอยู่ในดวงเดียวกัน ก่อเกิดภัยธรรมชาติดังนี้แนวนอน 1.สภาวะน้ำแข็งขั้วโลกเหนือละลาย สื่อดวงจันทร์แนวตั้ง 2.สภาวะโลกร้อนเรือนกระจก สื่อดวงอาทิตย์ซึ่งจักนำมหันตภัยธรรมชาติมาทำลายล้างแผ่นดินและมนุษยชาติ

    โอ...น่าอนาถแท้ สยามเฮย ใครเล่าจะจัดพิภพ เพริศแพร้ว ยามสีเจ็ดเดชไกรกลบ กลาดเกลื่อน ฤา..ใครจะยิ่ง “แก้วมรกต” ล้ำค่าควรเมือง

    เพื่อให้เป็นไปตามโองการนวกาพรหม นามแม่กาเผือก สู่แผ่นดินรัตนโกสินทร์ ว่าแผ่นดินนี้เป็นแผ่นดินแห่งการสืบศาสนจักร อาณาจักร พุทธจักร มรรคผล นิพพาน ในฝ่ายสัมมาทิฐิแต่ส่วนเดียว ภายใต้ร่มโพธิ์เงิน – ไทรทอง เงาร่มโพธิ์ – ร่มไทร ปกแผ่ให้ความร่มเย็น ความอุดมสมบูรณ์พูนสุข เพื่อให้เป็นไปตามผังจริงแห่งโองการนวกาพรหม ให้เหตุและผลตรงตามความเป็นจริงเข้าสู่ยุคเที่ยงตรงและเที่ยงธรรม จึงให้เปิดปรมัตถ์แห่งผู้นำชาวศรีวิไล ดังนี้


    <CENTER>ผู้นำชาวศรีวิไล </CENTER><CENTER></CENTER>

    รับกาศิต"พระรัตนา" ลงสู่โลกยุคเบียฬบีฑ์ รักษ์ธรรมะรังษี ตามพระพุทธทรงประสงค์ มั่นหมายจะเสริมศาสน์ สถาปน์โลกให้อยู่ยง บำราศภัยพินาศ,คง ศรีวิไลสถาพร หากแล้งพระธรรมญาณ อันธพาลกลีบร จะครองโลกเป็นอากร เป็นทมิฬเดรัจฉาน โลกทุกข์ทนทั้งคืนวัน พิฆาตกันบ่มีประมาณ ด้วยเหตุอหังการ เข้าครองโลกวิโยคธรรม พระจึงจุติแทนพุทธองค์ เพื่อประสงค์ดำรงธรรม ตามแนวพระศาสดานำ

    ทั่วโลกผองผ่องพ้นภัย เผยแผ่เที่ยงธรรมแท้ ให้ไพศาลพิชิตชัย ยุคทมิฬแปรผันไป ชาวศรีวิไลทั้งปฐพีดอกบัวหลวงสีม่วง พระนางรัตนา คู่บารมีองค์ที่ 5 ทิศเบื้องหลังของพระศรีอาริยเมตไตรย์ เพื่อช่วยสืบสานสายงาน ศาสนจักร อาณาจักร พุทธจักร มรรคผล นิพพานในฝ่ายสัมมาทิฐิแต่ฝ่ายเดียว โดยเฉพาะในธรรมกาลยุคขาว ซึ่งมีพระศรีอาริยเมตไตรย์เป็นประธานรื้อขนสรรพสัตว์ข้ามสู่ฝั่งพระนิพพาน จึงขอจุติเพื่อสร้างบารมี โดยขอพร ดังนี้คือ

    1.ขอถือเพศพรหมจรรย์ ไม่ออกบวช ขอนามว่า "พระ"

    2.ขอยศถาบรรดาศักดิ์แห่งพ่อกา"มเหศักดิ์" คือเป็นใหญ่ในแผ่นดิน มีความเป็นอยู่ดุจดั่ง "เทพ" บนสวรรค์

    3.ขอสืบสานสายงานศาสนจักร อาณาจักร พุทธจักร มรรคผล นิพพาน เข้าสู่ยุคชาวศรีวิไล สืบสายสัมพันธ์ศรีอาริยะ

    4.ขอทรัพย์สิ่งสินสมบัติแห่งชาวศรีวิไลบังเกิดขึ้นในแผ่นดิน

    5.ขอเคลื่อนวิวัฒนาการวัฏจักรแห่งความเป็นมนุษย์ยุคใหม่ และเป็นยุคสุดท้ายแห่งวัฏจักรโลก คือ “ยุคพลังน้ำ” สู่ชาวโลก พระศรีอาริยเมตไตรย์ทรงประทานพรให้ตามที่ทูลขอโดยให้ปรมัตถ์แห่งนามว่า "พระเทพ" คือเป็นหญิงผู้เดียวที่เป็นทั้ง "พระ" และ "เทพ" ในเวลาเดียวกัน ลงจุติ ณ.แผ่นดินรัตนโกสินทร์ ตามปรมัตถ์แห่งนาม "รัตนา" เพื่อสืบสานสายงานชาวศรีวิไล สายมณี ต่อจากสายมุนี ในยุคกึ่งพุทธกาลหลัง ตามโองการนวกาพรหม นามแม่กาเผือก


    [FONT=Verdana, Tahoma, Helvetica, sans-serif]<CENTER>องค์พระรัตนา[/FONT]</CENTER>
    [FONT=Verdana, Tahoma, Helvetica, sans-serif]
    </PRE>องค์พระรัตนา ปกแผ่นฟ้าและผองไทย สีเขียวงามสดใส เกียรติเกริกไกรทั่วพารา ด้วยพระนาคเสน อุดมเดชปฏิสัมภิทา อธิษฐานรัตนา เป็นองค์พระแก้วมณี แทนองค์พระทรงศรี คู่ธานี แดนศรีวิไล เมืองทองแดนดินไทย ถวายไว้พระศาสดา ขอองค์แก้วมณี แผ่รังสีอภิบาล ชาติ ศาสน์ ตราบจวบกาล จรดพรรษาหมื่นหมื่นปี อีกช่วยปกคุ้มภัย คนไทยทั่วทั้งธานี ให้รักสามัคคี สร้างความดีทั่วพารา อีกขอองค์แก้วใส ปกคุ้มภัยกษัตรา พระจักรีวงศ์คู่ฟ้า อยู่คู่ไทยนิจนิรันดร์
    [/FONT]
    [FONT=Verdana, Tahoma, Helvetica, sans-serif]และเมื่อผู้นำศรีวิไลเข้าบำราศภัย ส่วนบาปที่จะผลิต่อไปในยุคต่อไป จะพลิกผันเป็น [/FONT]

    [FONT=Verdana, Tahoma, Helvetica, sans-serif]8.พ.ศ.2557 – 2562 ยุคชาติก้องฟ้า [/FONT]
    [FONT=Verdana, Tahoma, Helvetica, sans-serif]9.พ.ศ.2562 - 2572 รัฐเพริดแพร้ว [/FONT]
    [FONT=Verdana, Tahoma, Helvetica, sans-serif]10. พ.ศ.2572 - 2582 ศรีวิไลทั่วแดนดิน [/FONT]


    [FONT=Verdana, Tahoma, Helvetica, sans-serif]<CENTER>ปรมัตถ์งานทศพล</CENTER><CENTER></CENTER>
    ปฐโม พยัคฆ์ใหญ่ย่ำเมฆา ทุติโย มังกรทองพ่นไฟ ตติโย พญาอินทรีผงาดไกล จตุโถ ทะเลทรายยิ่งใหญ่.... ปัญจโม มหาสมุทรเจ้าผืนน้ำ ฉักโถ อากาศธาตุเยือกเย็น สัตโม พระอาทิตย์เคียงคู่เพ็ญ อัฒโม ดอกไม้ทิพย์แย้มบาน นวโม เก้ามงคลอวยพรชัย ทศโม ศรีวิไลทั่วแดนดิน
    [/FONT]


    </PRE>ทศพลรวมพลังเป็นหนึ่งเดียว โลกกลมเกลียวด้วยจิตตานุภาพ พุธโธ ธัมโม สังโฆ <CENTER style="WORD-SPACING: 0px; FONT: medium monospace; TEXT-TRANSFORM: none; COLOR: rgb(0,0,0); TEXT-INDENT: 0px; WHITE-SPACE: pre; LETTER-SPACING: normal; orphans: 2; widows: 2; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px">[​IMG]</CENTER>ที่มา http://www.navagaprom.com/oldsite/con1.php?con_id=247

    </PRE>
    คำทำนายนารีขี่ม้าขาว จากหมอนิด

    นารีขี่ม้าขาว...ที่ผ่านมาประเทศไทยมีนายกหญิงแล้วแต่ยังไม่ใช่ “นารีขี่ม้าขาว” ที่แท้จริง เป็นเพียงนารีขี่ม้าแดง หรือขี่ควายแดงเท่านั้น ... อีกไม่นานประเทศไทยจะมี “นารีขี่ม้าขาว” มาปกครองบ้านเมืองอย่างแท้จริง ถึงตอนนั้นประชาชนจะอยู่เย็นเป็นสุข บ้านเมืองจะศิวิไลซ์ รุ่งโรจน์โชติช่วงชัชวาล ประชาชนจะไม่แตกแยกเหมือนทุกวันนี้

    ชาวต่างชาติจะให้การต้อนรับและให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่เศรษฐกิจจะดีขึ้นมาก ประเทศไทยจะติดอันดับโลก ถึงแม้จะเป็นประเทศเล็กๆก็ตาม ชาวต่างชาติก็ให้ความสำคัญกับประเทศไทยมากขึ้น ประชาชนจะอยู่ดีกินดี มีความสุขกลับมาอีกครั้ง ... ผู้มีบารมีจะมากู้ชาติ และแผ่นดินไทย แต่ยังไม่ใช่เวลานี้ ...ถึงตอนนั้นทุกคนจะโห่ร้องดีใจ ที่ฟ้ามีตา เทวดามีจริง ...

    คนที่คิดร้ายต่อแผ่นดินไทย จะล้มตายไปทีละคนหรือมีอันเป็นไปตามกรรมที่ได้กระทำไว้กับแผ่นดินเกิด...บางคนต้องระหกระเหินเร่ร่อนไปตามที่ต่างๆเหมือนเปรตที่ไร้ที่อยู่อาศัย ขอให้ทุกคนอดใจรอ “นารีขี่ม้าขาวผู้มีบุญบารมี” อันยิ่งใหญ่จะมาแน่นอนไม่นานเกินรอ<O:p</O:p

    ที่มา http://www.mornid.com/popitems.php?id=1037
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 เมษายน 2012
  5. poon-pan

    poon-pan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,300
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,126
    อันนี้ฮาดีครับ แต่ถ้าเกิดจริงไม่รู้จะขำออกมั๊ย

    เข้ากับสุภาษิตไทยที่ว่า หนีเสือปะจระเข้
     
  6. FALCON1

    FALCON1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,521
    ค่าพลัง:
    +4,863
    M 4.4, Calama, Chile


    22 เมษายน 2555, 11:08:34[​IMG]
    [​IMG] Sunday, April 22, 2012 04:08:34 UTC
    Sunday, April 22, 2012 00:08:34 at epicenter
    Depth: 122.82 km (76.32 mi)




    M 4.9, North Indian Ocean


    22 เมษายน 2555, 10:17:30[​IMG]
    [​IMG] Sunday, April 22, 2012 03:17:30 UTC
    Sunday, April 22, 2012 09:17:30 at epicenter
    Depth: 11.64 km (7.23 mi)




    M 4.8, Iwo Jima, Japan


    22 เมษายน 2555, 7:35:06[​IMG]
    [​IMG] Sunday, April 22, 2012 00:35:06 UTC
    Sunday, April 22, 2012 10:35:06 at epicenter
    Depth: 48.89 km (30.38 mi)




    M 4.2, Dezful, Iran


    22 เมษายน 2555, 7:22:00[​IMG]
    [​IMG] Sunday, April 22, 2012 00:22:00 UTC
    Sunday, April 22, 2012 04:52:00 at epicenter
    Depth: 10.43 km (6.48 mi)




    M 4.5, Lambasa, Fiji


    22 เมษายน 2555, 6:27:35[​IMG]
    [​IMG] Saturday, April 21, 2012 23:27:35 UTC
    Saturday, April 21, 2012 11:27:35 at epicenter
    Depth: 523.02 km (324.99 mi)




    M 4.6, Canete, Chile


    22 เมษายน 2555, 5:18:14[​IMG]
    [​IMG] Saturday, April 21, 2012 22:18:14 UTC
    Saturday, April 21, 2012 17:18:14 at epicenter
    Depth: 12.09 km (7.51 mi)




    M 3.7, Podgora, Croatia


    22 เมษายน 2555, 4:48:47[​IMG]
    [​IMG] Saturday, April 21, 2012 21:48:47 UTC
    Saturday, April 21, 2012 23:48:47 at epicenter
    Depth: 12.66 km (7.87 mi)




    M 3.1, Chignik Lake, Alaska


    22 เมษายน 2555, 3:01:03[​IMG]
    [​IMG] Saturday, April 21, 2012 20:01:03 UTC
    Saturday, April 21, 2012 12:01:03 at epicenter
    Depth: 51.50 km (32.00 mi)




    M 4.1, Jarm, Afghanistan


    22 เมษายน 2555, 2:51:33[​IMG]
    [​IMG] Saturday, April 21, 2012 19:51:33 UTC
    Sunday, April 22, 2012 00:21:33 at epicenter
    Depth: 111.63 km (69.36 mi)




    M 4.7, Qamashi Shahri, Uzbekistan


    22 เมษายน 2555, 0:58:08[​IMG]
    [​IMG] Saturday, April 21, 2012 17:58:08 UTC
    Saturday, April 21, 2012 22:58:08 at epicenter
    Depth: 23.12 km (14.37 mi)






    __________________
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->C5-WarRoom Falkman<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
  7. ตาลเดี่ยว

    ตาลเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    195
    ค่าพลัง:
    +425
    การมีสติและไม่ประมาทเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในยามนี้ครับ การได้รับรู้ข่าวสารอย่างฉับไวและทันต่อเหตุการณ์และวิเคราะห์อย่างถูกต้องย่อมช่วยตัวเองและคนใกล้ชิดได้เสมอ
     
  8. kiatp123

    kiatp123 โมฆะแมน

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,493
    ค่าพลัง:
    +19,616
    ผมชอบคุณจริงๆเลย
    :cool:
     
  9. gracezy'14

    gracezy'14 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +1
    "พระเทพ" คือเป็นหญิงผู้เดียวที่เป็นทั้ง "พระ" และ "เทพ" ชาวประชาจะแซ่ซร้อง สาธุการ "รัตน" แก้วรัตนตรัยแห่งรัชกาลที่ 9
     
  10. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>รมว.สธ.กำชับ สสจ.เฝ้าระวังสุขภาพประชาชนช่วงร้อนจัด 26-27 เม.ย.นี้ </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>จากอากาศประเทศไทยที่จะร้อนจัดขึ้นและจะร้อนที่สุดในช่วงวันที่ 26-27 เมษายน 2555 นี้

    นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ได้กำชับให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศเฝ้าระวังประชาชนกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง โรคไต ที่อาจจะเจ็บป่วย หรือเสียชีวิตจากภาวะภัยแล้งและอากาศร้อน โดยให้ความรู้ประชาชนควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้ง

    ที่ผ่านมาได้รับรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตจากอากาศร้อน 2 ราย ที่ จ.ลำปาง ผลการสอบสวนไม่ใช่เสียชีวิตจากอากาศร้อน แต่เสียชีวิตจากโรคประจำตัว รายแรกเป็นชายอายุ 54 ปี เสียชีวิตจากกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด รายที่ 2 เป็นหญิงอายุ 84 ปี เสียชีวิตจากหัวใจวาย

    นอกจากนี้ ยังกำชับเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ประชาชนในการดูแลสุขภาพที่ถูกต้อง

    โดยสวมเสื้อผ้าบาง ๆ เพื่อให้ซับเหงื่อและป้องกันความร้อนเข้าสู่ร่างกายโดยตรง รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ กินผักผลไม้ หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการเสียชีวิตได้ และหันมาดื่มน้ำเปล่าไม่ต่ำกว่าวันละ 10 แก้ว และดื่มน้ำสมุนไพรไทยที่อยู่ใกล้บ้านใกล้ตัวโดยทำเองที่บ้าน ซึ่งประเทศไทยมีสมุนไพรหลายชนิดมีสรรพคุณดับกระหาย ช่วยคลายร้อนได้ เบื้องต้นมี 6 ชนิด ได้แก่ มะตูม ใบเตย บัวบก ฝาง ดอกเก๊กฮวย และน้ำตรีผลา นอกจากนี้ ยังกำชับให้ป้องกันการเสียชีวิตจากการจมน้ำ โดยเฉพาะเด็กๆ ซึ่งมักจะชอบลงไปเล่นน้ำตามแหล่งน้ำธรรมชาติในสภาพที่อากาศร้อนอบอ้าว มีโอกาสเสี่ยงต่อการจมน้ำเสยชีวิตได้ ผลสำรวจในกลุ่มเด็กไทยอายุต่ำกว่า 15 ปีทั่วประเทศที่มีประมาณ 13 ล้านคน พบว่าว่ายน้ำเป็นเพียงร้อยละ 16 หรือเพียง 2 ล้านคนเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:"ข่าวเข้ม ฉับไว เป็นกลาง"
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD> ไทยตอนบนอากาศร้อนถึงร้อนจัด ฝนฟ้าคะนองกระโชกแรง - ภาคใต้ฝนหนาแน่น </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ลักษณะอากาศประจำวันที่ 23 เมษายน 2555 เมื่อเวลา 04:00 น.

    หย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับลมใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยเข้าปกคลุมบริเวณดังกล่าว ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด กับมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ จึงขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศร้อน และระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย สำหรับ ทะเลอันดามันและภาคใต้มีลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุม ทำให้ภาคใต้มีฝนหนาแน่นและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ในระยะนี้


    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.


    ภาคเหนือ อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบริเวณจังหวัดลำปาง สุโขทัย และตาก โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-40 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
    ภาคกลาง อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 38-39 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
    ภาคตะวันออก อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-39 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ทางตอนบนของภาคอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง และฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดกระบี่ ตรัง และ สตูล อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.




    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  11. โชตนา

    โชตนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +773
    แล้วเรื่องที่พระโพธิสัตว์(พระศรีอาริยเมตไตย) ที่จะมาพาศาสนาข้ามกึ่งพุทธกาลล่ะคะ จะมาตอนไหน เคยอ่านที่คุณเกษมโพสต์ นานแล้ว ท่านมีความสามารถวิทยาการด้านใด และจะมาช่วยตอนไหน จึงเดินทางร่วมศาสนาเป็นหนึ่งเดียวได้
     
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ในความคิดเห็นส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่าองค์รัตนา ท่านน่าจะมาทำหน้าที่เชื่อมต่อยุคถิ่นกาขาวกับยุคชาวศิวิไลซ์เข้าด้วยกันครับ เพราะพระองค์ท่านไม่ทรงแต่งงานจึงไม่มีองค์รัชทายาท ท่านจึงมาทำหน้าที่ปูพื้นฐานให้กษัตริย์พระองค์น้อยต่อไปครับ

    ส่วนเรื่องพระศรีอาริยเมตไตรย(โพธิสัตว์) ท่านน่าจะมาทำหน้าที่ฟื้นฟูอารยธรรมของโลกนี้ขึ้นมาใหม่ หลังจากงานกวาดล้างคนชั่วสิ้นสุดลงในปีกุน(พ.ศ.2562) ซึ่งในความเห็นส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่ากษัตริย์พระองค์น้อย น่าจะเป็นหนึ่งในสามของร่มโพธิ์ศรี มาทำหน้าที่เป็นนายกของโลกครับ

    ความคิดของผมนี้จะผิดหรือถูกอย่างไร ก็ฟังเอาไว้เป็นนิทานก่อนนอนก็แล้วกันนะครับ อย่าเพิ่งมาเชื่อถืออะไรให้มากนักนะครับ
     
  13. Spammer

    Spammer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    976
    ค่าพลัง:
    +3,498
  14. warrrior

    warrrior Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +64
    ถึงเวลาก้อรู้เองครับไม่ต้องกังวลหรอก รักษาตัวให้รอดจากกิเลสเภทภัยทั้งหลายเถอะ:boo:
     
  15. โชตนา

    โชตนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +773
    ค่ะ ขอบคุณค่ะ คือสงสัยว่า พระศรีอาริยเมตไตรย(โพธิสัตว์)จะสื่อสารภาษาทั่วโลก และเดินทางในยุคที่ไม่มียานพาหนะอย่างไร
    แต่ก็อย่างที่เข้าใจให้เตรียมแต่ทำความดี และคบบัณฑิตเป็นกัลยานมิตร เรื่องต่างๆก็คงง่ายลง
     
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    บทกวีทิพย์ :: สดุดีทีปังกรรัศมีโชติ...
    โดยคุณพุทธญาณ

    แสนเปรมปรีดิ์"ทีปังกรรัศมีโชติ" กำเนิดโรจน์นำทางสว่างไสว
    ขัตติยะราชวงศ์จักรีจักมีชัย นามเกริกไกรใหญ่ยิ่งนักคลุมจักรวาล

    มหาเทพลงมาจากฟ้าแล้ว พระปิ่นแก้วด้วยบุญญามหาศาล
    "ทีปังกร"พระนามนี้มีนานาน ครั้งโบราณผู้บริสุทธิ์พุทธองค์

    จากวันนั้นถึงวันนี้"ทีปังกร" ลงมาสอนคนไทยเลิกใหลหลง
    มวลมายาสารพัดควรตัดลง หันมาปลงธรรมสังเวชวิเศษจริง

    ด้วยเดชะอวตารผ่านมาช่วย เอื้ออำนวยสัญลักษณ์ถือศักดิ์"สิงห์"
    ส่งเสริมชาติศาสนาหาของจริง อย่าทอดทิ้งศาสน์พุทธเพราะสุดดี

    อันของดีมีในตนทุกคนอยู่ แต่ไม่รู้อยู่ข้างในวิไลศรี
    คือ "พุทธะ"-ดวงจิตมีฤทธี ผู้ตื่น-ที่เป็นผู้รู้-ผู้เบิกบาน

    จงดูตนค้นหาพุทธาพระ รู้จักละ-ปล่อย-วางได้ดังไขขาน
    สรรพสิ่งทิ้งไปให้เป็นทาน เหลือวิญญาณจิตเป็นแก้วอันแววไว

    "ทีปังกร"ลงมาช่วยอำนวยสุข "กลียุค"ปราบปรามให้งามใส
    โลกมนุษย์พุทธศาสน์คู่ชาติไทย เป็นหลักชัยคู่สยามคู่ความดี

    คิด-พูด-ทำกรรมใดวิไลเลิศ จงทำเถิดแจ่มจรัสรัศมี
    บุญประกาศวาสนาบารมี สนอง"ทีปังกรฯ"สุนทรธรรม ฯ

    ***********************************************

    ปุชฉา-วิสัชนา

    ปุชฉา-พระเจ้าหลานเธอ"ทีปังกรรัศมีโชติ" ท่านผู้รู้กล่าวกันว่า เป็นผู้มีบุญญาธิการสูง ลงมาเกิดเพื่อปราบปรามยุคเช็ญและสร้างศรีวิไล ความเจริญ สันติสุขถาวรให้แก่ประเทศไทย คนไทย จริงหรือไม่ ประการใด?

    วิสัชนา-พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็นพระโพธิสัตว์ ที่มีมหาเมตตา ตั้งแต่พระองค์ขึ้นครองราชย์ ไม่เคยทรงใช้อำนาจ ซึ่งเป็นคุณธรรมของพระโพธิสัตว์ที่ทีมหาเมตตา พระองค์ทรงใช้บุญฤทธิ์แทนอิทธิฤทธิ์ ใช้ปาฏิหาริย์ในความดี คุณความดีปกครองไพร่ฟ้าประชาชน อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข ถึงจะมีปฏิวัติรัฐประหารกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง บ้านเมืองก็ยังปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง......

    เมื่อพระอาทิตย์ใกล้อัสดงเต็มที พระจันทร์ย่อมจะทอแสงอยู่ฝั่งตรงข้ามกับพระอาทิตย์ และรับแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ เพื่อส่องสว่างในท่ามกลางความมืดมิดของราตรีกาล แทนพระอาทิตย์ พระองค์ท่าน จึงได้ทรงตั้งพระนามพระเจ้าหลานเธอว่า "ทีปังกรรัศมีโชติ"- ผู้ถือดวงประทีปส่องสว่างแก่โลก......

    พระเจ้าหลานเธอ ที่มีศักดิ์ เป็นพระโพธิสัตว์อีกองค์หนึ่ง ที่จะนำศาสนาพุทธ ส่องเป็นดวงประทีปสู่โลก อีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ เพื่อการเก็บกวาดธรรมชาติ ได้ชำระโลกเรียบร้อยแล้ว จะเข้าสู่ยุคศรีวิไลของคนไทย ประเทศไทย ธรรมะจะขจรขจายสู่โลกกว้างอีกครั้งหนึ่ง......

    ประเทศไทย ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางของพระพุทธศาสนา จะประกาศธรรมะ ที่สามารถปราบยุคเข็ญ ความทุกข์ลงได้อย่างสิ้นเชิง.....ยุคนั้น ธรรมะที่แท้จริง ซึ่งเป็นธรรมะแท้ หรือ "วิมุติญาณทัศนะ"-ทัศนะแห่งความรู้จริง จะปรากฏแก่โลก มนุษย์จะสำเร็จโดยอริยศาสตร์รัตนบัลลังก์สีหนาท การประกาศธรรมที่ยิ่งใหญ่ ไร้รูปไร้นาม จะปรากฏเหนือพื้นพิภพของโลกมนุษย์ พระเจ้าหลานเธอ จะจุดประกายแห่งธรรมที่โชติช่วงสว่าง กว่าดวงประทีปต่างๆที่เกิดในจิตของมนุษย์ ให้พ้นจากอวิชชา ไม่ใช่ปราบยุคเข็ญในประเทศไทย แต่จะส่องสว่างแก่มนุษย์ทั้งโลก!!

    ผู้แสดงความคิดเห็น ลูกพระ วันที่ 2010-09-02

    ทีี่มา http://www.buddhapoem.com
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 เมษายน 2012
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เรื่องของพระมหาโพธิสัตว์ เป็นเรื่องอจินไตย คือเกินกว่าที่คนธรรมดาสามัญอย่างเราๆ ท่านๆ จะคาดคิดไปถึงได้ครับ เมื่อถึงเวลาก็จะทราบได้เองว่า ท่านทำอย่างไร จึงสามารถรวมทุกศาสนาให้เป็นหนึ่งเดียวกันได้ครับ
     
  18. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]
    เบื้องต้น
    เว็บไซต์สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่า วันนี้(23 เมษายน 2555) เมื่อเวลา 13.11 น.(ตามเวลาประเทศไทย) เกิดแผ่นดินไหวขนาด 1.8 ริกเตอร์ ศูนย์กลางอยู่ที่ ต.ป่าไผ่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหาย
    Mthai News


    [​IMG]
    โรคประหลาดระบาดหนัก ชาวเวียดนามตายแล้ว 19 ราย
    MThai News : สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ชาวจังหวัดฝานงาย ประเทศเวียดนามกว่า 170 คน ป่วยเป็นโรคผิวหนัง ที่ไม่สามารถระบุแน่ชัดถึงสาเหตุ โดยอาการดังกล่าวจะมีลักษณะผื่นแดงตามมือและเท้า ก่อนที่ตับมีความผิดปกติ และอวัยวะภายในล้มเหลว
    [​IMG]
    ซึ่งขณะนี้มีคนเสียชีวิตไปแล้ว 19 ราย แม้ว่ารกระทรวงสาธารณสุขเวียดนาม พยายามหาสาเหตุเชื้อโรคดังกล่าว แต่แพทย์ก็ยังไม่สามารถบอกได้ว่าสาเหตุที่แท้จริงเกิดจากอะไรกันแน่
    [​IMG]
    อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะมีผู้ป่วย ระบาดไปมากกว่านี้ รัฐบาลเวียดนามได้ร้องไปยังองค์การอนามัยโลก และศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคของสหรัฐฯ ให้เข้าร่วมการสืบหาสาเหตุของโรคดังกล่าว พร้อมกันนี้ ผู้ป่วยที่ติดเชื้อ ทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้กักกันตัวผู้ป่วยไว้ในเขตควบคุม และรักษาผู้ติดเชื้อตามอาการ จนกว่าการวินิจฉัยสาเหตุของโรคได้ว่าเกิดจากอะไร
    Mthai News
     
  19. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>ภูเขาไฟในเม็กซิโกปะทุต่อเนื่อง </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle>ภาพจาก ThaiPBS</TD></TR></TBODY></TABLE>ภูเขาไฟโปโปคาเตเพลท์ ในประเทศเม็กซิโก ปะทุต่อเนื่อง ขณะที่ทางการเม็กซิโกได้เตรียมแผนอพยพและแผนให้ความช่วยเหลือชาวบ้าน หากภูเขาไฟเกิดระเบิดอย่างรุนแรง


    ภูเขาไฟโปโปคาเตเพลท์ ในประเทศเม็กซิโก อยู่ห่างจากกรุงเม็กซิโก ซิตี้ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ 80 กิโลเมตร ปะทุพ่นเถ้าถ่าน และไอน้ำขึ้นจากปากปล่องอย่างต่อเนื่อง สร้างความวิตกให้กับคนในหมู่บ้านซาลิทชินลา ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ภูเขาไฟ โดยประชาชนพากันไปสวดมนต์ที่โบสถ์ เพื่อขอให้ภูเขาไฟหยุดปะทุ ขณะที่ทางการเม็กซิโก เตรียมแผนอพยพและแผนให้ความช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่ หากภูเขาไฟเกิดระเบิดอย่างรุนแรง


    ด้าน ศูนย์ป้องกันภัยพิบัติของเม็กซิโก ยกระดับการเตือนภัยภูเขาไฟเป็นสีเหลือง ซึ่งเป็นระดับเตือนภัยสูงสุดเป็นอันดับสาม หลังภูเขาไฟโปโปคาเตเพลท์พ่นควันและเถ้าถ่านจากปากปล่องขึ้นสู่อากาศติดต่อกันมาเป็นเวลาหลายวัน


    ทั้งนี้ เถ้าถ่านจากภูเขาไฟจะสร้างความเสียหายให้กับเครื่องยนต์ของรถ ทำให้ท่อระบายน้ำอุดตันและสร้างความเสียหายกับพืชผลการเกษตร และส่งผลกระทบต่อการสัญจรทางอากาศ
    <!-- Begin Tags -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>
    ขอบคุณ ThaiPBS
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>ร้อนพุ่ง41องศา ภูเก็ตไหวทุกวัน </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>ร้อนตายแล้ว1ศพที่พิษณุโลก คนเก็บขยะเป็นลมแดดขณะเดินหาของเกล่ากลางแดดจ้า

    ภาคเหนืออีสานอุณหภูมิพุ่งร้อนตับแลบ สุโขทัยทะลุ41องศา บุรีรัมย์เจอพายุถล่มพัดบ้านเรือนพังยับกว่า 50 หลัง โคราชแห่เที่ยวสวนสัตว์เข้าสวนน้ำคลายร้อน แพทย์เตือนเล่นน้ำทะเลระวังผิวหนังไหม้ ภูเก็ตเขย่าไม่หยุดอาฟเตอร์ช็อกอีก2ครั้ง

    เมื่อวันที่ 22 เม.ย. น.ส.พรนภา ทองเทพ นักพยากรณ์อากาศ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ เผยว่า

    บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีน แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ทำให้ภาคเหนือมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น มีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกได้ ทั้งนี้ จะมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยอากาศร้อนจัดใน จ.ลำพูน ลำปาง แพร่ สำหรับอุณหภูมิสูงสุดจะอยู่ที่ 40 องศาเซลเซียสเรื่อยไปจนถึงสิ้นเดือนเม.ย. ในพื้นที่จ.ลำปาง ลำพูน และสุโขทัย อย่างไรก็ตาม อุณหภูมิสูงสุดเมื่อวันที่ 21 เม.ย. วัดได้ 41.1 องศาเซลเซียส ที่ต.ทับผึ้ง อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย

    ที่จ.ลำปาง สถานีอุตุนิยมวิทยาลำปาง รายงานว่า สภาพอากาศยังร้อนจัด อุณหภูมิสูงสุดที่ อ.เมือง จ.ลำปาง วัดได้ 40 องศาเซลเซียส

    อยู่ในเกณฑ์ร้อนจัด พื้นที่ลำปางมีสภาพอากาศร้อนตั้งแต่วันที่ 14 เม.ย. ส่วนพยากรณ์อากาศลำปางช่วงวันที่ 22-24 เม.ย. มีฝนตกและลมกระโชกแรงตอนเย็นและค่ำ อาจมีลูกเห็บตกลงมาบางพื้นที่ ทำให้คลายความร้อนอบอ้าวลงไปบ้าง เพราะอากาศร้อนจัดติดต่อกันเข้าสู่วันที่ 8 แล้ว

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>เมื่อเวลา 10.00 น. พ.ต.ท.วิชาญ บัวศักดิ์ สารวัตรเวร สภ.ย่อยชุมชนมหาวิทยาลัยนเรศวร อ.เมืองพิษณุโลก

    รับแจ้งพบศพชายนอนเสียชีวิตที่ริมถนนสายบายพาสฝั่งทิศใต้ ใกล้วิทยาลัยเทคนิคสองแคว ม.2 ต.ท่าโพธิ์ รุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย น.พ.จตุวิทย์ หอวรรภากร แพทย์เวรโรงพยาบาลมหา วิทยาลัยนเรศวร พบศพนายสมนึก ทองโต อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11/2 หมู่ 5 ต.วัดพริก อ.เมือง จ.พิษณุโลก นอนหงายอยู่ในพงหญ้าข้างทาง

    นายสมาน คนรักษา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.วัดพริก ให้การว่า ผู้ตายเป็นญาติกับตน อาศัยอยู่เพียงลำพัง

    ทุกวันจะถีบจักรยานเก็บขยะตามที่ต่างๆ มาขาย เห็นครั้งสุดท้ายช่วงเที่ยงวันที่ 21 เม.ย. ทราบว่าผู้ตายมาเก็บขยะแถวตลาดค้าส่งอินโดจีนก่อนหายตัวไป ต่อมาญาติออกตามหากระทั่งพบนอนเสียชีวิตอยู่ในพงหญ้า คาดว่าเกิดจากอากาศร้อนจัดและผู้ตายมีโรคประจำตัว ทำให้เป็นลมเสียชีวิตดังกล่าว

    ที่จ.นครราชสีมา สภาพอากาศที่ร้อนในช่วงนี้ อุณหภูมิเกือบ 38 องศาเซลเซียสทุกวัน ทำให้ประชาชนหาวิธีคลายร้อนต่างๆ นานา

    เช่น ไปเที่ยวสวนสัตว์นครราชสีมา เนื่องจากมีต้นไม้ใหญ่จำนวนมาก บรรยากาศร่มรื่นเหมาะแก่การพักผ่อนและมีสวนน้ำที่ใหญ่ที่สุดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระยะทางไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก จึงได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่อาศัยวันหยุดสุดสัปดาห์พาบุตรหลานไปเล่นน้ำคลายร้อน ยิ่งปีนี้อากาศร้อนกว่าทุกๆ ปี ทำให้ยอดนักท่องเที่ยวที่ใช้บริการสวนน้ำพุ่งสูงขึ้นกว่าช่วงเดียว กันของปี 2554 กว่าเท่าตัว คืออยู่ที่วันละ 3,000 คน ขณะที่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมามีมากกว่า 5,000 คน

    ที่จ.บุรีรัมย์ เกิดเหตุพายุฤดูร้อนพัดถล่มบ้านเรือนราษฎร 5 หมู่บ้าน ประกอบด้วยหมู่ 3, 8, 10, 11 และหมู่ 14 ต.โคกขมิ้น อ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ อย่างรุนแรง

    ทำให้เสาไฟฟ้าส่องสว่างริมถนนล้ม และต้นไม้ใหญ่หักโค่นทับบ้านเรือนราษฎรเสียหาย จากนั้นนายมานพ จูประโคน นายกอบต.โคกขมิ้น พร้อมด้วยกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายทั้ง 5 หมู่บ้าน เบื้องต้นพบว่าบ้านเรือนราษฎร ศูนย์เด็กเล็ก ยุ้งฉางข้าว เสียหายจากพายุพัดถล่มรวมกว่า 50 หลัง แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ในจำนวนนี้มีบ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 12 หลัง ส่งผลให้ประชาชนไม่มีที่อยู่อาศัย ต้องไปอาศัยหลับนอนตามบ้านญาติและบ้านเพื่อนบ้านข้างเคียงชั่วคราว ทั้งนี้จะนำผลสำรวจรายงานต่ออำเภอและจังหวัดเพื่อของบช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

    น.พ.ปรีดา โมทนาพระคุณ ผู้เชี่ยวชาญโรคผิวหนัง กล่าวถึงการคาดการณ์ว่าช่วงวันที่ 25-26 เม.ย. จะเป็นวันที่ร้อนที่สุด อุณห ภูมิ 40-42 องศาเซลเซียสว่า

    อากาศและแสงแดดที่ร้อนในวันดังกล่าวอาจส่งผลกระ ทบต่อร่างกาย จะเสียเหงื่อจำนวนมากโดยไม่รู้สึกตัว จึงต้องดื่มให้เพียงพอ ทั้งนี้ ร่าง กายขาดน้ำให้สังเกตน้ำปัสสาวะ ถ้าใสขาวแสดงว่าไม่ขาดน้ำ แต่ถ้าสีเข้ม เราต้องดื่มน้ำเข้าไป ส่วนการเล่นน้ำทะเลช่วงหน้าร้อนนั้น ไม่แนะนำ แดดจัดจะทำให้ผิวหนังไหม้ แม้ทาครีมกันแดด ยาก็ถูกน้ำชะไปไม่สามารถช่วยได้ เป็นไปได้หน้าร้อนอย่าเล่นน้ำ แนะนำให้อาบน้ำที่บ้าน หรือหากจะเล่นควรเป็นช่วงเช้าหรือเย็น หากผิวหนังถูกแดดเผาจนไหม้ อย่าทำให้เกิดการระคายเคืองด้วยการฟอกสบู่หรือทาแป้ง เพียงรักษาความสะอาดทั่วๆ ไป ผิวหนังจะกลับมาเหมือนเดิมภายใน 1 สัปดาห์

    ความคืบหน้าแผ่นดินไหว จ.ภูเก็ต นั้น วันเดียวกันนี้ สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว

    กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานการเกิดแผ่นดินไหวเมื่อเวลา 04.07 น. ขนาด 2.2 ริกเตอร์ จุดศูนย์กลางอยู่ใน อ.ถลาง จากนั้นเวลา 08.42 น. ก็ไหวอีกครั้งขนาด 2.4 ริกเตอร์ จุดศูนย์กลาง อ.ถลาง เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหายจากแผ่นดินไหวทั้ง 2 ครั้ง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตระเวนตามชายหาดแหล่งท่องเที่ยวของภูเก็ต อาทิ หาดป่าตอง หาดกะตะ หาดกะรน พบว่า นักท่องเที่ยวซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติยังคงใช้ชีวิตตามปกติ ไม่ตื่นตระหนกกับข่าวแผ่นดินไหว ทำกิจกรรมริมชายหาด นอนอาบแดด นอนอ่านหนังสือ เล่นน้ำ และเล่นกีฬาทางน้ำเป็นที่สนุกสนาน

    นอกจากนี้เมื่อช่วงค่ำวันที่ 21 เม.ย. นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าฯภูเก็ต ยังร่วมกับพล.ร.ท. ธราธร ขจิตสุวรรณ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3

    เปิดงานภูเก็ตไบค์วีค ริมชายหาดป่าตอง โดยนำแสนยานุภาพทางเรือมาแสดงร่วมกับการแสดงของชุดปฏิบัติการพิเศษ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าไม่มีการเกิดสึนามิ ท่ามกลางความสนใจของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเนืองแน่นชายหาดโดยไม่หวั่นเหตุการณ์ร้ายใดๆทั้งสิ้น

    นายสมบูรณ์ จิรายุส นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว จ.ภูเก็ต กล่าวว่า

    ช่วงแรกๆ การเกิดแผ่นดินไหวกระทบการท่องเที่ยวบ้างแต่ไม่มาก หลังจากติดตามข่าวสารข้อเท็จจริง ทำให้นักท่องเที่ยวต่างเข้าใจ ขณะนี้ถือว่าภูเก็ตกลับสู่ภาวะปกติ นักท่องเที่ยวจำนวนมากลงไปเล่นน้ำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ขอให้ทุกคนมั่นใจและเชื่อมั่นระบบเตือนภัยของทางภาครัฐ

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>พบเจ้าของลูกบอลสึนามิในญี่ปุ่น </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>วันนี้ (23 เม.ย.) สำนักข่าวเกียวโดของญี่ปุ่นรายงานว่า เป็นสิ่งที่ดีที่มีการเขียนชื่อของเด็กชายมิซากิ มูรากามิ ลงบนลูกฟุตบอล ซึ่งได้สูญหายไปนับตั้งแต่คลื่นยักษ์สึนามิเข้าถล่มญี่ปุ่นเมื่อปีที่แล้ว แต่ลูกบอลดังกล่าวกลับลอยไปไกลข้ามทวีปข้ามมหาสมุทรแปซิฟิก ไปโผล่ในบริเวณชายฝั่งของเกาะแห่งหนึ่งในรัฐอลาสก้า ประเทศสหรัฐ

    ข่าวแจ้งว่า เด็กชายมูรากามิ วัย 16 ปี จากเมืองริกูเซนทากาตะ ซึ่งได้รับความเสียหายจากคลื่นยักษ์สึนามิ ดีใจระคนประหลาดใจ พร้อมกล่าวขอบคุณที่มีคนพบลูกบอลของเขา เจ้าหน้าที่จากสำนักงานสมุทรศาสตร์และชั้นบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐกล่าวว่า ลูกบอลลูกนี้เป็นหนึ่งในซากสึนามิชุดแรกๆ ที่ลอยมาถึงรัฐอลาสก้า หลังเกิดแผ่นดินไหวและสึนามิกระหน่ำญี่ปุ่นเมื่อ 11 มี.ค. ปีที่แล้ว


    นายเดวิด แบ็กซ์เตอร์ ซึ่งเป็นคนพบลูกบอลที่เกาะมิดเดิลตัน เปิดเผยว่า ยูมิ ภรรยาชาวญี่ปุ่นของเขา ได้โทรศัพท์พูดคุยกับเด็กชายมูรากามิแล้ว และเตรียมส่งคืนลูกบอลกลับไปให้ในเร็ว ๆ นี้


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  20. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>สธ.จับตา โรคผิวหนังในเวียดนาม เฝ้าระวัง ผู้ป่วยไทย </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=middle align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=middle align=left>23 เมษายน 2555 </TD><TD vAlign=middle align=left>



    <TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=430><TBODY><TR><TD vAlign=top width=430 align=center>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=center>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>“วิทยา” สั่งจับตาโรคผิวหนังที่ระบาดในเวียดนาม หลังคร่าชีวิตชาวเวียดนามแล้ว 19 ราย ระบุ ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด เร่งประสานงานขอข้อมูล จาก WHO ขณะเดียวกัน ได้สั่งโรงพยาบาลเฝ้าระวังผู้ป่วย หากพบส่งทีมเฝ้าระวังสอบสวนโรคและเคลื่อนที่เร็ว ควบคุมไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดในไทย

    จากกรณีที่มีรายงานข่าวพบการป่วยด้วยโรคผิวหนังอย่างผิดปกติมานานกว่า 1 ปี ที่จังหวัดกวางงาย ในประเทศเวียดนาม ยังไม่ทราบสาเหตุชัดเจน มีผู้ติดเชื้อประมาณ 170 ราย เสียชีวิต 19 ราย ส่วนใหญ่เป็นเด็ก

    และในช่วง 27 มีนาคม - 5 เมษายน 2555 มีผู้เสียชีวิตแล้ว 8 ราย อาการผู้ป่วยจะมีผื่นตามผิวหนังที่แขนและขา บางรายอาการรุนแรง โดยมีการอักเสบของตับและอวัยวะอื่นๆ ซึ่งขณะนี้ทางการของเวียดนามยังไม่สามารถสรุปสาเหตุของโรคได้ชัดเจน

    จึงได้ติดต่อขอการสนับสนุนทางวิชาการจากองค์การอนามัยโลก และศูนย์ควบคุมป้องกันโรค ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อค้นหาสาเหตุและกำหนดวิธีการควบคุมโรค

    วันนี้ (23 เม.ย.) นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ได้สั่งการให้กรมควบคุมโรคติดตามสถานการณ์ในประเทศเวียดนามอย่างใกล้ชิด

    โดยประสานกับองค์การอนามัยโลก ศูนย์ป้องกันควบคุมโรค ประเทศสหรัฐอเมริกา และผู้รับผิดชอบของทางการเวียดนาม เพื่อการป้องกันโรคได้อย่างทันท่วงที และเพื่อความไม่ประมาท ได้ให้สถานพยาบาลทั่วประเทศ เฝ้าระวังสถานการณ์การป่วย

    หากพบผู้ป่วยที่มีอาการเช่นเดียวกับผู้ป่วยในประเทศเวียดนาม ให้ส่งทีมเฝ้าระวังสอบสวนโรคและเคลื่อนที่เร็ว เพื่อควบคุมไม่ให้เกิดการแพร่ระบาด

    ด้านนพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์การป่วยของเวียดนาม ในปี 2554 ตลอดทั้งปีมีผู้ป่วย 150 ราย พบผู้ป่วยมากในช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม เสียชีวิต 12 ราย

    ในปีนี้มีผู้ป่วย 63 ราย เสียชีวิต 7 ราย รวม 2 ปีมีผู้ป่วย 213 ราย เสียชีวิต 19 ราย ซึ่งโรคนี้ยังมีการเจ็บป่วยเฉพาะพื้นที่ ฉะนั้น ประชาชนจึงไม่ต้องวิตกกังวล โดยกรมควบคุมโรคได้เรียกประชุมผู้ทรงคุณวุฒิของกรม

    เพื่อประเมินสถานการณ์และการเฝ้าระวังในประเทศไทย ร่วมกับเครือข่ายทางระบาดวิทยา ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งขณะนี้ไทยยังไม่พบรายงานผู้ป่วยที่มีลักษณะเช่นที่เวียดนามแต่อย่างใด

    นพ.พรเทพ กล่าวต่อว่า จากการประเมินความเสี่ยงโอกาสการแพร่กระจายของโรค พบว่า เมืองกวางงาย (Quang Ngai) อยู่ทางภาคกลางของประเทศเวียดนาม เป็นพื้นที่เกษตรกรรม ไม่ได้เป็นแหล่งและเส้นทางการท่องเที่ยว

    โดยโรคผิวหนังดังกล่าว ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค ซึ่งยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด อาจจะเกิดจากโรคติดเชื้อ หรือไม่ใช่โรคติดเชื้อก็ได้ ต้องรอผลการสอบสวนโรคของทางเวียดนาม ซึ่งจำนวนผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตอาจน้อยกว่านี้

    “อย่างไรก็ตาม กรมควบคุมโรค ได้ตั้งคณะทำงานเพื่อติดตามข้อมูลและสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และจะออกคำแนะนำเพิ่มเติม

    รวมถึงรายงานข้อมูลที่ชัดเจนขึ้นเป็นระยะๆ ต่อไป ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขและสื่อมวลชนเป็นระยะ

    หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกระทรวงสาธารณสุข โทร.1422 กรณีประชาชนที่ต้องการเดินทางไปประเทศเวียดนามในขณะนี้ สามารถเดินทางไปได้ตามปกติ

    โดยหากเดินทางไปจังหวัดกวางงาย ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของทางการเวียดนาม” นพ.พรเทพ กล่าว

    www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9550000050336
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...