ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นผลมาจาก ปลายปีที่แล้วน้ำจืดลงไปในทะเลเยอะ ทำให้ระบบนิเวศน์ในน้ำแปรปรวน

คุณ falkman อยู่ใกล้ทะเล ถ้าว่าง ๆ ผ่านไป ลองแวะไปชิมน้ำทะเลหน่อยนะค่ะว่ายังเค็มอยู่หรือเปล่า อิอิ

 

น่าสงสารมากพวกสัตว์น้ำทะเลเหล่านั้นมากๆครับ พวกเขาอุตส่าห์หนีร้อนมาพึ่งเย็นกลับมาถูกมนุษย์จับเอาไปกินอีก

ความเห็นส่วนตัว น้ำทะเลที่ในระดับความลึกที่พวกเขาอาศัยอยู่ต้องมีปัญหาแน่ๆครับ อาจจะร้อนขึ้นหรืออุ่นขึ้นเลยทำให้อ๊อกซิเจนในน้ำทะเลในความลึกระดับนั้นมีน้อยลง พวกเขาถึงได้ต้องรีบมาลอยคอในน้ำทะเลระดับตื้นเพื่อหายใจ(แต่มิวาย...) เฮ้อดูรูปแล้วเศร้าและอนาถใจครับ ผมงดทานอาหารทะเลมาได้หลายปีแล้วครับ ทานได้อย่างเดียวคือปลาทะเลครับ นอกนั้นมีผลกระทบกับท้องไส้ทันทีครับ>_<

 

แม่เมืองปากน้ำ เร่งตรวจสอบโรงงาน ปล่อยน้ำเสียลงอ่าวไทย

วันเสาร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา 15:42 น.


<!-- /.images-list-items -->
<!-- /.images-list-items youtube_embed -->
<!-- /.images-list-items -->
<!-- /.images-list-container -->
<!-- /.images-list-wrapper -->
<!-- /.youtube_thumbnail --><!-- /.select-item -->
<!-- /.slide-container -->
<!-- /.slide-wrapper -->
<!-- /.more-img -->

<!-- /.featured-img -->
ผวจ.สมุทรปราการ ตรวจสอบน้ำโรงงานปล่อยน้ำเสียลงอ่าวไทย เบื้องต้นยังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน แต่ขอตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งก่อนสรุป คาด 4-5วันรู้ผล

<!-- /.content -->
<!-- /.content -->
<!-- /.content -->
<!-- /#featured-caption -->จากกรณีที่สถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง นำเสนอข่าวโรงงานแห่งหนึ่งลักลอบปล่อยน้ำเสียจากลงทะเลบริเวณปากอ่าวไทย จ.สมุทรปราการ เกรงจะส่งผลให้น้ำทะเลบริเวณดังกล่าวเกิดผลกระทบ

ต่อมาวันนี้ (18ก.พ.) นางวรรณิดา บุญประคอง ผวจ.สมุทรปราการ จึงได้สั่งการณ์ให้อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรปราการ,ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสมุทรปราการ และเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลบางปู เจ้าของพื้นที่เข้าตรวจสอบโดยด่วน พร้อมเก็บตัวอย่างน้ำมาตรวจสอบ เพื่อหาค่าน้ำด้วยว่าได้มาตรฐานหรือไม่

หลังการตรวจสอบพบว่า โรงงานที่ลักลอบปล่อยน้ำเสียนั้นคือ บริษัท ลัคกี้เท็คซ์ (ไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นโรงงานสาขาที่ 2 ตั้งอยู่ภายในซอยเทศบาลตำบลบางปู 106 เลขที่ 99 หมู่ 3 ต.บางปูใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นโรงงานฟอกย้อมผ้าขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนเนื้อที่ประมาณ 100 ไร่ มีชาวญี่ปุ่นเป็นเจ้าของโรงงาน และเป็นโรงงานที่เคยได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO14000 เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมมาแล้วเมื่อ 2 ปีก่อน

จากการสอบถามไปทางคณะผู้บริหารของบริษัท ได้ให้การยอมรับว่าต่อท่อระบายน้ำเสียลงสู่ทะเลจริง แต่น้ำที่ปล่อยออกมานั้น ค่าบีโอไอของน้ำอยู่ในระดับมาตรฐาน มีเพียงสีที่ปะปนอยู่ในน้ำเท่านั้นที่ไม่สามารถปรับเปลี่ยนให้เป็นสีขาวได้ จึงทำให้น้ำที่ถูกปล่อยออกไปเป็นสีดำ
<O p=""></O>
นางวรรณิดา กล่าวอีกว่า เมื่อช่วงเช้าของวันนี้เจ้าหน้าที่จากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรปราการ ได้สุ่มเก็บตัวอย่างสภาพน้ำทั้งภายในโรงงานและน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาไปตรวจสอบแล้ว ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่จากศูนย์ปฏิบัติการตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อม (ห้องแล็บ ) เทศบาลตำบลบางปู โดยการนำของนาย วสันต์ จุนเจือ ผู้อำนวยการกองช่างสุขาภิบาล เทศบาลตำบลบางปู ได้เข้าตรวจวัดคุณภาพ และค่าบีโอไอ น้ำภายในบ่อบำบัดน้ำเสียบ่อสุดท้ายก่อนปล่อยออกสู่ลำคลองสาธารณะภายในโรงงานดังกล่าว

โดยใช้เครื่อง พีเอช หรือเครื่องตรวจวัดปริมาณกรดหรือด่างของน้ำเสีย ซึ่งตามกฎหมายและ พ.ร.บ.สาธารณสุข ได้ระบุไว้ว่าน้ำเสียที่ผ่านการบำบัดแล้ว ก่อนปล่อยออกสู่ทางน้ำสาธารณจะต้องมีค่า พีเอช ตั้งแต่ 5.5 แต่ไม่เกิน 9 pH และผลการตรวจวัดสามารถวัดค่า พีเอชได้ 8.462 pH และวัดค่าออกซิเจนในน้ำได้ 2.40 Mg เป็นค่าที่เราเอาไปต่อยอดในการวิเคราะห์ เพื่ออ่านค่าบีโอดี อีกครั้ง ซึ่งอันนี้ไม่มีอยู่ในมาตรฐานน้ำทิ้งแต่ว่าเราต้องวิเคราะห์ที่หน้างาน เพื่อนำไปวิเคราะห์ในห้องแล็บโดยใช้เครื่องพาลามิเตอร์ ใช้เวลาประมาณ 4-5 วัน

ส่วนการตรวจวัดคุณภาพน้ำเสียในครั้งนี้ ยังถือว่าคุณภาพน้ำเสียในบ่อบำบัดของโรงงานดังกล่าวยังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานคือไม่เกิน 9 pH อย่างไรก็ตามคงจะต้องรอผลการตรวจสอบคุณภาพน้ำที่เอาตัวอย่างน้ำไปตรวจสอบภายในห้องแล็บของศูนย์ปฏิบัติการตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อม เทศบาลตำบลบางปู ออกมาเสียก่อน จึงจะระบุได้ว่าน้ำเสียของโรงงานที่ถูกปล่อยออกไป อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานหรือไม่อย่างไร และจะได้รายงานอุตสาหกรรมจังหวัด ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

 

สารพันปัญหาสายตาผิดปกติ



คำถาม : ใส่แว่นตา ทำให้สายตาสั้นมากขึ้นหรือไม่
คำตอบ : ไม่ทำให้สายตาสั้นขึ้น สายตาจะสั้นมากขึ้นเองตามธรรมชาติของคนสายตาสั้น แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าใส่แว่นสายตาสั้นที่เกินกว่าค่าสายตาที่แท้จริงเป็นเวลานาน ก็จะทำให้มีสายตาสั้นมากขึ้นชั่วคราวจากแว่นตาที่ไม่ตรงนี้ได้ มักพบในเด็กที่ไม่ได้หยอดยาลดการเพ่งของตาก่อนการวัดเบอร์แว่นตา

คำถาม เป็นคนสายตาสั้นหรือเอียง แล้วใส่แว่นตา ทำให้สายตาสั้นหรือเอียงมากขึ้นหรือไม่
คำตอบ : ไม่ เพราะสายตาสั้น เอียง หรือยาว เป็นธรรมชาติของบุคคลนั้น ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงไปตามอายุ ไม่เกี่ยวกับแว่นตา

คำถาม : นอนอ่านหนังสือ ทำให้สายตาเอียงหรือไม่
คำตอบ : ไม่ เพราะสายตาเอียงเป็นเรื่องธรรมชาติของแต่ละบุคคล ไม่เกี่ยวกับการนอนอ่านหนังสือ

คำถาม : อ่านหนังสือในที่แสงสว่างไม่เพียงพอ ทำให้ตาเสียหรือสายตาไม่ดีหรือไม่
คำตอบ : ไม่ เพียงแต่จะทำให้เห็นตัวหนังสือได้ไม่ชัดเจน และปวดเมื่อยล้าตาได้ง่าย

คำถาม : ดูโทรทัศน์ใกล้ไป ทำให้ตาเสียหรือไม่
คำตอบ : ไม่ เพียงแต่อาจจะไม่สบายตา คนที่ดูโทรทัศน์ใกล้ผิดปกติอาจจะเพราะว่าตามองเห็นไม่ชัดอยู่แล้วจึงต้องเข้าไปดูใกล้ๆ

คำถาม : ทำงานใช้คอมพิวเตอร์มาก ต้องใช้แว่นตากันแสงหรือแผ่นกรองแสงหรือเปล่า
คำตอบ : จอภาพคอมพิวเตอร์มีรังสีแผ่ออกมา แต่ปริมาณน้อยซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อตาและร่างกาย ปัจจุบันนี้จอคอมพิวเตอร์ก็ไม่ได้มีแสงสะท้อนจากจอมาก จึงไม่จำเป็นต้องใส่แว่นตากันแสงหรือแผ่นกรองแสง

คำถาม : แว่นตาดำที่มีขายตามท้องตลาด อันละ 200 บาท ใช้ได้หรือไม่ กันแสง UV ได้ 99 % จริงหรือไม่
คำตอบ : ใช้กันแดดกันลมได้ อย่างน้อยก็ลดปริมาณแสงเข้าตาได้ส่วนหนึ่ง แต่กันแสง UV ซึ่งเป็นอันตรายต่อดวงตาได้ตามป้ายบอกไว้หรือไม่นั้น ไม่สามารถรู้ได้ต้องใช้เครื่องมือพิเศษตรวจ

คำถาม : ทำ LASIK ดีหรือไม่
คำตอบ : ดีครับ เหมาะสำหรับคนสายตาผิดปกติเช่น สั้น ยาว เอียง ที่ไม่ต้องการใส่แว่นตาและคอนแทคเลนส์ หรือเพื่อลดกำลังของแว่นตาลงจะได้ลดความหนาและน้ำหนักของแว่นตา ปัจจุบันเทคโนโลยีของเครื่องทำ LASIK พัฒนาขึ้นมากทำให้ผลการผ่าตัดแม่นยำ ภาวะแทรกซ้อนน้อย แต่อาจมีข้อด้อยบ้างในบางคนเช่นความคมชัดลดลงตอนกลางคืนเมื่อเทียบกับแว่นตา อย่างไรก็ตามการผ่าตัดทุกชนิดย่อมเสี่ยงที่จะมีภาวะแทรกซ้อนที่แม้จะมีโอกาสเกิดน้อยก็ตาม คงต้องชั่งน้ำหนักระหว่างประโยชน์ที่ได้ เช่นสะดวกในการเล่นกีฬา กิจกรรมบางประเภท ส่งเสริมในอาชีพการงาน กับข้อด้อยที่อาจมีได้รวมทั้งค่าใช้จ่าย โดยปกติแล้วจะมีการปรึกษาพูดคุยระหว่างแพทย์กับผู้สนใจเป็นอย่างดีก่อน รวมทั้งตรวจตาว่าเหมาะสมที่จะทำ LASIK ได้หรือไม่

คำถาม : อายุ 50 ปี อ่านหนังสือไม่ชัด ต้องใช้แว่นตาเวลาอ่านหนังสือ ทำ LASIK ได้หรือเปล่า จะได้ไม่ต้องใส่แว่นตาเวลาอ่านหนังสือ
คำตอบ : ได้ แต่ผลยังไม่ถึงขั้นน่าพอใจมาก ส่วนใหญ่แล้วจะไม่ได้ทำ LASIK ในกรณีนี้ เพราะ LASIK เป็นการเปลี่ยนความโค้งของกระจกตาดำ แต่ผู้ที่อายุ 40 ปีขึ้นไปจะเริ่มมีปัญหาเวลามองใกล้ซึ่งมีสาเหตุมาจากเลนส์ตาในลูกตาที่แข็งมากขึ้นตามอายุ เวลาดูใกล้เลนส์ตาจะกลมขึ้นเพื่อเพิ่มกำลังสายตาสำหรับดูใกล้ แต่พอเลนส์แข็งขึ้นทำให้คุณสมบัตินี้ลดลงเรื่อยๆ จนอายุประมาณ 40 ปี กำลังสายตาที่จะดูใกล้จะไม่เพียงพอจึงต้องยื่นหนังสือห่างจากตามากขึ้นจนต้องใช้แว่นสายตามาช่วยเพิ่มกำลังสายตา ซึ่งจะต้องเพิ่มกำลังแว่นตาขึ้นเรื่อยๆ ตามกำลังสายตาที่ลดลงจากเลนส์ตาที่แข็งขึ้น ดังนั้น LASIK ซึ่งแก้ปัญหาเฉพาะที่กระจกตาดำ จึงยังไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้อย่างน่าพอใจ จำเป็นต้องใช้แว่นตาเวลามองใกล้ แต่ในคนอายุน้อยจะยังไม่มีปัญหานี้ ทำ LASIK แล้วสามารถเห็นชัดทั้งใกล้และไกล

ที่มา ... ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์



<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>ครูพละขายยาบ้าให้ลูกศิษย์ อ้างเงินเดือนไม่พอใช้ </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 19 ก.พ. พล.ต.ต.พินิต มณีรัตน์ ผบก.ภ.จว.ชัยภูมิ

ได้รับร้องเรียนจากชาวบ้านผู้ปกครองนักเรียนผ่านทางศูนย์ปราบปรามและเอาชนะยาเสพติด ว่ามีข้าราชการครูรายหนึ่งใน ต.โคกกุง อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ มีพฤติการณ์เป็นเอเย่นต์ค้ายาบ้าให้กับลูกศิษย์ รวมทั้งวัยรุ่นในตำบลและหมู่บ้านใกล้เคียง ทำให้นักเรียนในพื้นที่ติดยาบ้ากันอย่างงอมแงม จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.พนัส บุญยานยาว ผกก.สภ.แก้งคร้อ นำกำลังออกสืบสวนกวาดล้างจับกุม

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้สืบทราบว่า ครูคนดังกล่าวคือ นายอุดมพันธุ์ หอมจันทร์ อายุ 47 อาจารย์ 3 ระดับ 8 ครูสอนวิชาพละ

โรงเรียนบ้านโคกรุง ต.โคกรุง อ.แก้งคร้อ จึงตามไปจับกุมตัวได้ที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง ในหมู่บ้านนาหนองทุม หมู่ 11 ต.นาหนองทุม อ.แก้งคร้อ ขณะกำลังขับรถกระบะอีซูซู ทะเบียน 7465 นครสวรรค์ ไปหาเพื่อนสาวคนสนิทที่บ้านหลังดังกล่าว เมื่อเจ้าหน้าที่แสดงตัวขอค้นตัว นายอุดมพันธุ์ถึงกับหน้าถอดสี ตรวจค้นภายในตัวพบยาบ้า จำนวน 90 เม็ด บรรจุในหลอดกาแฟ ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าที่นายอุดมพันธุ์ถืออยู่ นอกจากนี้ยังพบอุปกรณ์การเสพ อาวุธปืนสั้นไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก สมุดบัญชีธนาคาร 3 เล่ม โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง และเงินสดอีกจำนวนหนึ่ง

สอบสวนนายอุดมพันธุ์ ให้การรับสารภาพว่า สาเหตุที่ต้องหันมาค้ายาบ้า เนื่องจากอาชีพครูเงินเดือนน้อย ไม่เพียงพอสำหรับการใช้จ่าย

โดยยาบ้าดังกล่าวซื้อมาจากประเทศเพื่อนบ้าน ครั้งละ 200-300 เม็ด ในราคาเม็ดละ 100 บาท จากนั้นจึงนำมาจำหน่ายต่อให้กับลูกศิษย์ เด็กนักเรียน และวัยรุ่นหมู่บ้านใกล้เคียง ในราคาเม็ดละ 400-600 บาท นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังได้จับกุมตัว น.ส.ภัชราพร ผจญกล้า อายุ 25 ปี เพื่อนสาวคนสนิทของนายอุดมพันธุ์มาดำเนินคดีด้วย หลังพบมีสารเสพติดภายในปัสสาวะ ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสอง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.แก้งคร้อ ดำเนินคดี.

<!-- /.content --><!-- START: Facebook Share -->
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>​

 

ปรกติในสังคมจะต้องมีครูบาอาจารย์ หรือมีผู้ใหญ่คอยสั่งสอนตักเตือนไม่ให้เยาวชนหลงผิด ถ้าหากอาจารย์ผู้สอนกลายเป็นผู้ค้ายาให้กับลูกศิษย์เสียเอง แล้วสังคมจะอยู่รอดได้อย่างไร....เรื่องนี้อาจเป็นภาพสะท้อนให้เห็นว่า มนุษย์โดยทั่วไปก่อกรรมทำเข็ญกันโดยไม่เกรงกลัวหรือละอายต่อบาป กรรมจึงต้องตามมาชำระล้างโลกมนุษย์ในระยะเวลาอันใกล้นี้

 

เจ็บนั้นคืนสนอง!!!

​

Ghost Rider 2 ภาพยนต์ที่สื่อถึงทูตสวรรค์ ที่ถูกส่งมาเพื่อทำลายล้างคนบาป ให้หมดสิ้นไปจากโลกมนุษย์

อาวุธที่ร้ายกาจที่สุดของซุปเปอร์ฮีโร่ตัวนี้ คือ “สายตาสำนึกบาป” เพียงแค่มองไปที่วายร้าย “Ghost Rider” สามารถทำให้เหล่าร้ายนึกถึงบาปทุกอย่าง ไม่ว่าเหล่าร้ายจะทำให้เหยื่อเคยเจ็บปวดยังไง “Ghost Rider” ก็จะทำให้มันรู้สึกเจ็บมากกว่านั้นเป็น ร้อยๆ พันๆ เท่า

เราทุกคนต่างก็พยายามหันหน้าหนีจากความชั่วของตัวเองแต่ “Ghost Rider” จะเตือนให้เราระลึกได้ว่ากรรมที่เราทำ ....ว่ามันกำลังย้อนกลับมาหาเราเอง

ที่มา http://doonung.mthai.com/review/content/Ghost_Rider]

 

เว็บไซต์ของสำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 03.48 น. ที่ผ่านมา ตรวจพบ แผ่นดินไหวขนาด 2.7 ริกเตอร์ จุดศูนย์กลางอยู่ใน อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา
เบื้องต้น ยังไม่มีรายงานความเสียหาย
ทั้งนี้ นายศิริพัฒน์ พัฒกุล นายอำเภอตะกั่วป่า จ.พังงา เปิดเผยว่า หลังได้รับรายงานได้ตรวจสอบไปยังแห่งท่องเที่ยวสำคัญเช่นพื้นที่ เขาหลัก พื้นที่บางเนียง เกาะคอเขา แล้วทุกพื้นที่ ไม่รู้สึก และ ไม่เกิดความเสียหายแต่อย่างใด ซึ่งได้รายงาน ต่อ ผู้ว่าราการจังหวัดพังงา อธิบดีกรมการปกครอง และปลัดกระทรวงมาดไทยให้ทีราบเรื่องทั้งหมดแล้ว
Mthai News



เรือรบอิหร่าน

สำนักข่าวต่างประเทศได้รายงานว่า ขณะนี้สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิหร่านกับอิสราเอล ได้มีความตึงเครียดมากขึ้น ภายหลังมีรายงานว่า อิหร่านส่งเรือรบ 2 ลำ มาสังเกตการณ์บริเวณทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งเป็นทะเลที่ติดกับอิสราเอล
โดยสื่อระบุว่าอิหร่าน ระบุว่า การส่งเรือรบดังกล่าวไปยังบริเวณดังกล่าว เพื่อเป็นการกดดันอิสราเอลนั่นเอง ซึ่งถือว่านับเป็นรอบที่ 2ในหลายสิบปี ที่อิหร่านส่งเรือรบผ่านมาทางช่องแคบสุเอซ
ขณะที่อิสราเอลได้สั่งการกองทัพ ให้พร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นแล้ว
นอกจากนี้ นายอาลี เรซานิซัด ราบาห์ โฆษกกระทรวงนํ้ามัน ของอิหร่าน เปิดเผยว่า อิหร่านได้หยุดขายนํ้ามันให้กับ บริษัทสัญชาติ อังกฤษ และฝรั่งเศส เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อตอบโต้ต่อการที่สหภาพยุโรป(EU)ใช้มาตรการควํ่าบาตรการซื้อขายนํ้ามัน ต่ออิหร่าน ซึ่งจะเริ่มมีผลใช้บังคับอย่างเต็มที่ในวันที่ 1 ก.ค.นี้
สำหรับมาตรการควํ่าบาตรของEU มีขึ้นเพื่อกดดันให้อิหร่านยุติ และล้มเลิกโครงการพัฒนานิวเคลียร์ของตน

 

เอามีดจ่อคอกันหนักขึ้นทุกวัน ++

 

พวกที่มีอาวุธร้ายแรงอยู่ในมือ คงใกล้จะถึงเวลา อยากจะเอาออกมาโชว์ศักยภาพกันเต็มที
เหมือนพวกชอบเล่นปืน มีไว้เก็บไว้เฉย ๆ ก็กระไร อดไม่ได้ต้องเอาออกมาล้าง มาชื่นชมบ้าง

 

ถ้าอย่างนั้นขอให้อย่ายิงขึ้นฟ้าเลยครับ เด๋วพวกเราโดนลูกหลง เอาว่าจะยิงใครตั้งพิกัดให้ชัวร์ๆ โดนหรือไม่โดนยังไงก็ แมนๆกันไปเลยครับ 555+

 

อังกฤษสั่งพลเมืองในกรีซพร้อมอพยพ

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
<!-- Begin Media Content --><!-- Media Picture content --><!-- Begin More Pics-->





เว็บไซท์แท็บลอยด์ เดลีเมล ของอังกฤษ รายงานว่า ชาวอังกฤษที่อยู่ในประเทศกรีซ ได้รับการเตือนเมื่อวันอาทิตย์ว่า พวกเขาอาจจำเป็นต้องอพยพ และคำเตือนนี้ มีขึ้นในช่วงที่รัฐมนตรีคลังในกลุ่มยูโรโซน กำลังเตรียมตัดสินใจว่าจะอนุมัติเงิน 130,000 ล้านยูโร ภายใต้แพ็คเกจช่วยกอบกู้เศรษฐกิจของกรีซหรือไม่
นายวิลเลียม เฮก รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ เปิดเผยว่า ได้เรียกร้องให้ชาวอังกฤษในกรีซ ไปขึ้นทะเบียนไว้ที่สถานกงศุล เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถแจ้งแผนการล่าสุด เกี่ยวกับการอพยพพลเมืองได้รายวัน ในกรณีที่เกิดสถานการณ์ที่ไม่อาจควบคุมได้ จากการที่มีเหตุจลาจลลุกลามไปทั่วประเทศ ท่ามกลางความวิตกที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ว่า กรีซอาจจะผิดนัดชำระหนี้ และกำลังถูกบีบออกจากกลุ่มยูโรโซน
นายเฮก กล่าวว่า การให้เงินช่วยเหลือมีความสำคัญต่อทั้งกรีซและยูโรโซน แต่อังกฤษเตือนว่า ได้มีการเตรียมแผนรับมือล่วงหน้าในกรณีที่จำเป็นต้องช่วยเหลือชาวอังกฤษ ด้านนายอลิสแตร์ เบิร์ท รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีฝ่ายกิจการต่างประเทศ ได้เรียกร้องให้ชาวอังกฤษที่อยู่ในกรีซ ไปขึ้นทะเบียนไว้ที่สถานกงสุล เพื่อจะได้ง่ายต่อการตามตัวในกรณีเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน
โอกาสที่จะเกิดความระส่ำระสายในกรีซ ทวีความเป็นไปได้ขึ้นมาอีก เมื่อเยอรมนี ถูกกล่าวหาว่า พยายามทำลายประชาธิปไตยในกรีซ โดยคณะรัฐมนตรีคลังในกลุ่มยูโร ที่กำลังอยู่ระหว่างการประชุมที่กรุงบรัสเซลส์ จะพิจารณาข้อเสนอของเยอรมนี ที่จะไม่ให้อนุมัติเงินช่วยเหลือแก่กรีซ เว้นแต่ว่า กรีซ จะเลื่อนการเลือกตั้ง ที่กำหนดจะมีขึ้นในเดือนเมษายนออกไปก่อน
นายวูลฟ์กัง ชอยเบิล รัฐมนตรีคลังของเยอรมนี ต้องการให้รัฐบาลกรีซชุดปัจจุบัน ทำหน้าที่ต่อไป เพื่อเป็นหลักประกันว่า มาตรการรัดเข็มขัดจะถูกนำมาใช้อย่างมีประสิทธิผล ซึ่งภายใต้แผนการนี้ เจ้าหน้าที่จากคณะกรรมาธิการยุโรป (อียู) ธนาคารกลางแห่งยุโรป (อีซีบี)และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ)จะตั้งสำนักงานถาวรในกรุงเอเธนส์ เพื่อตรวจสอบการควบคุมการใช้จ่ายแบบรายวัน
แต่ก็ถูกประนามจากฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย เช่น นายปีเตอร์ โบน ส.ส.พรรคอนุรักษ์นิยมของอังกฤษ ระบุว่า กรีซ เป็นถิ่นกำเนิดของประชาธิปไตย แต่ตอนนี้ กลับมีสภาพเหมือนถูกขอให้สละอำนาจอธิปไตย เพื่อไม่ให้ถดถอยลงไปมากกว่านี้ แต่นี่คือสูตรสำเร็จของความหายนะ

 

สิ่งที่จะเกิดขึ้นแน่นอน ในอนาคตอันใกล้ ความแก่ ความเจ็บ และความตาย และความเกิด วนเวียนไป

 

นักการเมืองเป็นคนทำ

ประชาชนรับไปเต็ม ๆ

ไม่มีอะไรได้มาฟรี ๆ

 

บทเรียนที่ไม่เคยจำ

จึงเกิดขึ้นซ้ำซาก

 

<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD> เกือบทั่วทุกภาคอุณหภูมิสูงขึ้น เว้นภาคเหนืออุณหภูมิลดลง 1-2 องศา ภาคใต้ฝนน้อย </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ลักษณะอากาศประจำวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2555 เมื่อเวลา 04:00 น.

บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ มีกำลังอ่อน ทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก กรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีอุณหภูมิสูงขึ้น กับมีหมอกในตอนเช้า เว้นแต่บริเวณภาคเหนือที่ยังคงมีอากาศหนาวเย็นและอุณหภูมิลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณภาคใต้จะมีฝนลดลงในระยะนี้

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียสกับมีหมอกในตอนเช้า และมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ตอนบนของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-16 องศาเซลเซียส ตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-11 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-3 องศาเซลเซียส อากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า และมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภู อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคกลาง อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส มีหมอกบางในตอนเช้า กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส มีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-36 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขา อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-19 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส มีหมอกบางในตอนเช้า กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.



</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>ลวง11หนูน้อยโกนหัวคลุมจีวรบิณฑบาตล้างหนี้แทนแม่ </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>เมื่อ เวลา 02.30 น.ของวันที่ 21 ก.พ. พ.ต.อ.สมชาย สุนทวนิค ผกก.สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

ได้รับร้องเรียนจากผู้ปกครองเด็กจาก จ.สุพรรณบุรี ว่าบุตร หลาน ได้ถูกแก๊งค้ามนุษย์ หลอกว่าจะพามาทำงาน และล่อลวงมาบังคับ กักขัง หน่วงเหนี่ยว โกนหัว แต่งกายเป็นสามเณร ออกตระเวนเรี่ยไรเงิน และบิณฑบาตข้าวสาร อาหารแห้งทุกชนิด ในหลายพื้นที่ในเขตกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และภาคตะวันออก กระทั่งได้รับการติดต่อทางโทรศัพท์จากบุตรหลานว่าถูกทำร้ายร่างกาย กักขังให้อยู่แต่ในห้อง ไม่ปล่อยให้ออกไปไหน นอกจากจะมีคนคุมนำออกไปเรี่ยไรในชุดสามเณรเท่านั้น


หลังทราบเรื่องร้องเรียนจึงได้ตรวจสอบความเคลื่อนไหวของกลุ่มค้ามนุษย์ในพื้นที่ อ.สัตหีบ ปรากฏว่าได้มี คนคุมกลุ่มสามเณร 11 รูป

มาบิณฑบาตข้าวสาร อาหารแห้ง และเรี่ยไรเงินสดในตลาดสัตหีบอยู่เป็นประจำ โดยใช้โทรโข่งประกาศว่าจะนำเงินบริจาคทั้งหมดนี้ไปสร้างโบสถ์ให้กับ สำนักสงฆ์ห้วยจิต ต.หนองฝ้าย อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี ซึ่งมีพ่อค้า แม่ค้า และประชาชนให้การบริจาคกันเป็นจำนวนมากด้วย จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ท.นิพนธ์ ป้อมสนาม รอง ผกก.สส. ร.ต.ท.ธนศักดิ์ ปราสาททอง พงส.(สป 1)หน.ชุดสืบสวน พร้อมทีมงาน ออกสืบสวนในพื้นที่ พบว่า แก๊งค้ามนุษย์ดังกล่าว ได้เช่าห้องพักอยู่ที่ โรงแรม พี.พี.เฮ้าส์ ริมถนนสาย 332 หมู่ 9 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ 8 ห้อง มีเด็กพัก 11 คน ผู้ใหญ่ 5 คน จึงได้นำบุกเข้าตรวจค้นและจับกุม ร่วมกับ น.ส.อุไรรัตน์ ขูดแก้ว น.ส.สุพัฒนา พาเจริญ นักสังคมสงเคราะห์บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ชลบุรี และ น.ส.ยุพิน อินทร์จอหอ นางวรรณี เกตุแก้ว เจ้าหน้าที่มูลนิธิศูนย์ธารชีวิตพัทยา


สามารถจับกุมตัว นางบุญนิภา หรือแอ๋ว ศรีเพียงจันทร์ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57/1 หมู่ 3 ต.กฤษณา อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี หัวหน้าแก๊ง

นายนพนันท์ หรือโจ้ ดีจิตร อายุ 29 ปี ชาว จ.ยโสธร นายธงชัย หรือเบิร์ด ศรีเพียงจันทร์ อายุ 20 ปี และ นายจรูญ หรือรุญ อ่อนแย้ม อายุ 54 ปี พร้อมของกลาง ตู้บริจาค 1 ตู้ บาตร 9 ชุด จีวร 11 ผืน สบง 8 ผืน รัดประคต 2 อัน ย่าม 1 ใบ ผ้ารัดอก 5 ผืน สายประคต 2 ผืน อังสะ 7 ตัว ผ้าคาดเอว 7 ผืน โทรโข่ง 2 เครื่อง เงินบริจาค 11,460 บาท รถยนต์กระบะยี่ห้อ ดีแม๊กซ์ สีเทา ทะเบียน บจ-7219 อ่างทอง 1 คัน ส่วนทางด้าน นายธวัช หรือวัช บุญคุ้ม อายุ 42 ปี ซึ่งเป็นคนในกลุ่มเดียวกันได้ขับรถหนีออกไปก่อนการจับกุมเพียงเฉียดฉิว


นอกจากนี้ ยังพบเด็กผู้ชายถูกโกนหัว 11 คน อยู่ภายในห้องพักต่าง ๆ ทั้งหมดอยู่ในอาการหวาดระแวง

โดยพ.ต.อ.สมชาย ผกก.สภ.สัตหีบ เปิดเผยว่า ได้ทำการสอบสวนบรรดาเด็ก ๆ ทราบว่า ได้มี นางบุญนิภา หรือแอ๋ว ศรีเพียงจันทร์ เป็นผู้ที่ไปหาพ่อ แม่ ญาติ ๆ ที่เป็นลูกหนี้ ว่าจะพาเด็กมาหางานทำ และบางคนก็จะพาไปบวชเป็นสามเณรเพื่อสร้างบุญกุศล ล้างหนี้สินที่ติดค้าง แต่ได้พามาบังคับให้โกนหัว แต่งกายเป็นสามเณร บังคับให้เสพยาบ้า และให้ออกเดินสายเรี่ยไรเงิน ข้าวสาร อาหารแห้ง ในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะตลาดเช้าสัตหีบ ตลาดพัทยาใต้ ตลาดเครือสหพัฒน์ ศรีราชา ตลาดหนองมน ชลบุรี ตลาดสระบุรี ตลาดจันทบุรี กรุงเทพฯ ตลาดเมืองใหม่ชลบุรี ซอยอุดมสุข บางนา โดยจะมีรถตู้ หรือรถกระบะมารับ ด้วยการแบ่งเป็นชุด ๆ หากสามารถได้เงิน 10,000 บาท ก็จะได้กลับที่พักมาพักผ่อน ถ้าไม่ได้ก็จะบิณฑบาตจนดึกและเมื่อมาถึงที่พักก็จะถูกทำร้ายร่างกายด้วย นอกจากนี้ จากการสืบทราบว่าแก๊งนี้ยังมีเด็กที่ทำลักษณะเช่นนี้อีกนับ 100 ราย ที่ออกแยกสายกันเดินเรี่ยไรตามจังหวัดต่าง ๆ อีกด้วย


เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหา พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 มาตรา 6 ฐาน

สมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์โดยการบังคับใช้แรงงานหรือบริการ และการอื่นใดที่คล้ายคลึงกันอันเป็นการขูดรีดบุคคล ไม่ว่าบุคคลนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 310 ฐานร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย มาตรา 317 ฐาน ร่วมกันพรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปจากบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล โดยปราศจากเหตุอันควร มาตรา 295 ฐาน ร่วมกนทำร้ายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 มาตรา 26(6) ฐาน ร่วมกันใช้ จ้าง วาน ให้เด็กทำงานหรือกระทำการอันอาจเป็นอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจ มีผลต่อการเจริญเติบโตหรือขัดขวางต่อพัฒนาการเด็ก อีกด้วย แต่ผู้ที่ถูกจับกุมได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด ส่วนทางด้าน นายธวัช หรือวัช บุญคุ้ม อายุ 42 ปี ที่หลบหนีไปจะต้องดำเนินการ ออกหมายจับมาดำเนินคดีต่อไป.

<!-- /.content --><!-- START: Facebook Share -->
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD> สอบเค้น7ชม."โมฮัมเหม็ด"รูปซิปปาก </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>เมื่อเวลา 16.45 น. วันนี้ ( 21 ก.พ.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) เจ้าหน้าที่กก.สายตรวจ (191) บก.สปพ.

ได้นำตัวนายโมฮัมเหม็ด ฮาซาอิ ผู้ต้องหาชาวอิหร่าน เดินทางออกจากบช.น. เพื่อไปควบคุมตัวที่ห้องขังกองปราบปราม ภายหลังจากที่พนักงานสอบสวนสน.คลองตันได้ทำการสอบปากคำนานกว่า 7 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 09.00 น. โดยพล.ต.อ.ปานศิริ เดินทางออกจาก บช.น.ไปตั้งแต่ช่วงเวลา 13.00 น.ที่ผ่านมา และในวันพรุ่งนี้(22 ก.พ.) เจ้าหน้าที่จะคุมตัวนายโมฮัมเหม็ดไปฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพใต้

พล.ต.ต.อนุชัยกล่าวว่า สำหรับการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การภาคเสธ

ว่าอยู่ในบ้านเช่าหลังดังกล่าวจริงแต่ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุระเบิด และไม่ให้การอื่นใดอีก เมื่อถามว่ามีการสอบถามประเด็นเกี่ยวกับสติ๊กเกอร์ที่พบติดตามสถานที่ต่างๆหรือไม่ พล.ต.ต.อนุชัยกล่าวว่า ผู้ต้องหาไม่ตอบ โดยในส่วนของผู้ให้ข่าวนั้นไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจาก พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. อนุญาตให้ พล.ต.อ.ปานศิริ เป็นผู้ให้ข่าวเพียงผู้เดียวเท่านั้น

พล.ต.ต.อนุชัยกล่าวต่อว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา ยังเรียกพนักงานสอบสวนมาร่วมประชุมคดีของนายอาทริส ฮุสเซ็น

ผู้ต้องหาชาวเลบานอนที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยของสำนวนการสอบสวน โดย พล.ต.อ.ปานศิริ ได้สั่งให้ตนสรุปสำนวนการสอบสวนคดีดังกล่าวหลังสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว โดยสำนวนมี 8 แฟ้ม หนา 3,412 แผ่น เพื่อนำส่งอธิบดีอัยการกองคดีอาญา ที่ถนนรัชดาภิเษก โดยพนักงานสอบสวนจะนำสำนวนไปส่งเวลา 09.00 น. วันพรุ่งนี้ ถือว่าสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว ส่วนนายเปาโล ที่เคยออกหมายจับ ก็จะติดตามสืบจับตามอายุความต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่สถานทูตอิสราเอล แจ้งขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติม 3 จุด

ได้แก่ บ้านพักเจ้าหน้าทูตอิสราเอล สถานทูตอิสราเอล และบริเวณซอยสุขุมวิท 23 ใกล้สถานที่ตั้งสถานทูตอิสราเอล ตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ. ถึงวันที่ 5 มี.ค. พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ รองผบช.น. กล่าวว่า ไม่ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยว สถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาที่มีชาวต่างชาติ ได้มีการจัดเจ้าหน้าสายตรวจ ร่วมกับตำรวจท่องเที่ยว และสันติบาลคอยดูแล ในส่วนของสถานทูตอิสราที่มีการจัดกำลังสันติบาลดูแลประจำอยู่แล้วก็จะมีการจัดเจ้าหน้าที่สายตรวจ 191 ไปดูแลโดยจัดกำลังเพิ่มเติม และเพิ่มความเข้มในการตรวจสอบให้มีความถี่ยิ่งขึ้นกว่าเดิมอีกเท่าตัว


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>"แอปเปิล" สุดเซ็ง ศาลจีนสั่งถอนไอแพดออกจากตลาด </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
การฟ้องร้องเพื่อแย่งชิงความเป็นเจ้าของเหนือเครื่องหมายการค้า "ไอแพด" ในประเทศจีนดูจะยิ่งเลวร้ายลงสำหรับแอปเปิล เมื่อบริษัทจีนที่อ้างสิทธิ์เหนือชื่อดังกล่าวประกาศว่า ศาลมีคำสั่งห้ามขายแท็บเล็ตยอดฮิตในแดนมังกร


เอพีรายงานว่า ฉี เฉียงเห่ย ทนายความของเซินเจิ้น โพรวิว เทคโนโลยีกล่าวว่า ศาลในเมืองฮุ้ยโจวของมณฑลกวางเจามีคำสั่งเมืองวันศุกร์ที่แล้ว (17 ก.พ.) ให้บริษัทผู้จัดจำหน่ายหยุดขายไอแพดในแดนมังกร


แถลงการณ์ของแอปเปิลระบุว่า คดีดังกล่าวยังไม่ถือว่าถึงที่สุดในจีนแผ่นดินใหญ่ และบริษัทได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลสูงในกวางเจาเพื่อขอให้กลับคำตัดสินที่เข้าข้างบริษัทโพรวิว

คาโรลิน หวู่ โฆษกของแอปเปิลกล่าวว่า "เราซื้อสิทธิเหนือเครื่องหมายการค้าไอแพดใน 10 ประเทศจากโพรวิวแล้วเมื่อหลายปีก่อน แต่โพรวิวปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามข้อตกลงนั้นในประเทศจีน และศาลในฮ่องกงได้ยืนข้างเราในคดีนี้"


ทั้งนี้ เซินเจิ้น โพรวิว เทคโนโลยีซึ่งเป็นบริษัทลูกของโพรวิว อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้งในฮ่องกงจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าไอแพดในจีนเมื่อปี 2544 ต่อมาในปี 2552 แอปเปิลซื้อสิทธิเหนือชื่อดังกล่าวในหลายประเทศจากบริษัทลูกของโพรวิวในไต้หวันด้วยราคา 35,000 ปอนด์ แต่โพรวิวอ้างว่าสัญญาดังกล่าวไม่ครอบคลุมถึงจีนแผ่นดินใหญ่


จนถึงขณะนี้ไอแพดถูกยกออกจากชั้นวางในหลายเมืองของจีนแล้ว แต่ยังไม่มีสัญญาณว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะครอบคลุมไปทั่วประเทศ




</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>แผ่นน้ำแข็งแม่น้ำดานูบละลาย ซัดเรือเซอร์เบียคว่ำ-ชนโกลาหล </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>เหตุน้ำแข็งละลายอย่างฉับพลันสร้างความโกลาหลในแม่น้ำดานูบที่กรุงเบลเกรด เมืองหลวงของเซอร์เบีย หลังน้ำแข็งที่แตกออกมาก่อความเสียหายแก่เรือ โป๊ะและร้านอาหารลอยน้ำจำนวนมาก

แผ่นน้ำแข็งปกคลุมทั่วแม่น้ำดานูบ หนึ่งในเส้นทางเดินเรือสายสำคัญของยุโรป หลังเกิดอากาศหนาวเย็นเฉียบพลันเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน อย่างไรก็ดี แผ่นน้ำแข็งเริ่มแตกออกจากกันแล้วเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลังอุณหภูมิปรับตัวสูงขึ้น

ที่กรุงเบลเกรด เรือหลายลำเคลื่อนกระแทกกัน แต่ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

เจ้าของเรือลำหนึ่งกล่าวว่า น้ำแข็งเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็ว และไม่ปลอดภัยที่จะอยู่บนเรือ และเชื่อว่าอาจสร้างความเสียหายมูลค่าหลายแสนยูโร อย่างไรก็ตาม เจ้าของเรืออีกลำกล่าวว่ายังมีเรืออีกจำนวนหนึ่ง จากทั้งหมดราว 100 ลำที่จอดอยู่บริเวณท่าเรือคาปาตานิจาในเมืองหลวง ที่ไม่ได้รับความเสียหายใดๆ

เศษซากปรักหักพังของเรือลอยกระจัดกระจายรวมกับแผ่นน้ำแข็งที่แตกออกจากกันเป็นระยะทางหลายร้อยเมตร ขณะที่ร้านอาหารลอยน้ำ เรือบรรทุกสินค้าและเรือต่างๆหลายลำ ถูกสายน้ำที่เกิดจากภาวะน้ำแข็งละลายซัดไปเกยตื้นตามตลิ่งแม่น้ำ

สื่อมวลชนท้องถิ่นรายงานว่า หน่วยสถานการณ์ฉุกเฉินกรุงเบลเกรดระบุว่า น้ำแข็งที่ละลายไม่ก่อความเสี่ยงต่อสะพานและสิ่งปลูกสร้างอื่นๆในเมือง และไม่น่าจะก่อให้เกิดน้ำไหลบ่าเข้าท่วมหมู่บ้านต่างๆด้วย

แม่น้ำดานูบ มีความยาวทั้งสิ้น 2,860 กิโลเมตร และไหลผ่าน 9 ประเทศในยุโรป มีความสำคัญอย่างมากทั้งด้านการคมนาคม การผลิตไฟฟ้า ชลประทาน อุตสาหกรรม และประมง ทั้งนี้ น้ำในแม่น้ำเกือบตลอดทั้งสาย ตั้งแต่ออสเตรีย จนถึงสามเหลี่ยมปากแม่น้ำที่ทะเลดำ กลายสภาพเป็นน้ำแข็งนับตั้งแต่สภาพอากาศหนาวเย็นผิดปกติจู่โจมเข้าสู่ยุโรป อย่างไรก็ตามน้ำแข็งได้เริ่มแตกออกเป็นก้อนๆหนาราว 30 เซนติเมตรเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากอุณหภูมิสูงขึ้น

กระนั้นก็ดีเจ้าหน้าที่ทางการกรุงเบลเกรด ได้แนะนำให้เจ้าของเรือคอยตรวจตราเรืออย่างต่อเนื่อง แต่ให้ระงับการกู้เรือขึ้นมาก่อน

ทั้งนี้ มีผู้เสียชีวิตจากอากาศหนาวจัดในเซอร์เบียอย่างน้อย 20 คนในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนประชาชนอีกราว 3,300 คนยังติดค้างจากภัยหิมะและน้ำแข็งตามพื้นที่ห่างไกลต่างๆ จุดที่ถนนหนทางถูกตัดขาดและเข้าถึงได้เฉพาะเฮลิคอปเตอร์เท่านั้น ขณะที่ทางนักเศรษฐศาสตร์บอกว่าสภาพอากาศอันเลวร้ายก่อความเสียหายทางเศรษฐกิจของประเทศถึง 500 ล้านยูโร

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>ผงะสวีดิชติดคารถใต้หิมะ2เดือน </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>วันที่ 20 ก.พ. เดลี่เมล์รายงานว่า ชายสวีเดนอายุ 44 ปี

รอดชีวิตหลังติดอยู่ในรถตนเองที่ถูกหิมะถล่มทับนานกว่า 2 เดือน เจ้าตัวอ้างว่าแทบไม่ได้กินอะไรเลยในช่วงเวลานั้น ขณะที่อุณหภูมิภายนอกหนาวจัดถึงขั้นติดลบ 30 องศาเซลเซียส

เหตุประหลาดนี้เริ่มจากมีผู้ใช้ถนนอันปกคลุมด้วยหิมะแถบเมืองอูเมีย ทางตอนเหนือของสวีเดน

พบรถคันหนึ่งจอดอยู่ใต้หิมะหนากว่า 60 เซนติเมตร เมื่อปัดหิมะจากกระจกหน้าต่างดูพบว่ามีคนขยับตัวอยู่ข้างในจึงแจ้งตำรวจเข้าช่วยเหลือ ชายคนดังกล่าวอยู่ในสภาพอิดโรย ผอมแห้ง และแทบพูดคุยสื่อสารไม่ได้ โดยบอกว่าตนเองชื่อ ปีเตอร์ สกิลล์เบิร์ก และกล่าวเพียงว่าติดอยู่ในรถมาตั้งแต่ธ.ค.ปีที่แล้ว หลังประสบอุบัติเหตุรถยนต์แหกโค้งตกถนนและถูกหิมะที่ตกหนักทับถมรถเอาไว้

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยพบกล่องเครื่องดื่มและห่ออาหารจำนวนหนึ่งที่คาดว่าเป็นเสบียงในวันแรกๆ ของนายสกิลล์เบิร์กในรถคันดังกล่าว

จากการสอบประวัติ ตำรวจพบว่านายสกิลล์เบิร์กมีหนี้สินติดตัวอยู่ 150,000 ปอนด์ หรือราว 7 ล้านบาทและขาดการติดต่อกับครอบครัวมานานกว่า 20 ปีแล้ว โดยในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาไม่มีใครแจ้งความคนหายให้นายสกิลล์เบิร์กเลย

ด้านผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์มีความเห็นแตกต่างกันในกรณีนี้

บางคนชี้ว่าสภาวะหนาวจัดอาจทำให้ร่างกายของชายคนดังกล่าวหยุดการทำงานชั่วคราวโดยไม่อาศัยอาหารเป็นเวลานาน คล้ายกับการจำศีลของหมี แต่บางกระแสค้านว่าเป็นไปไม่ได้ และนายสกิลล์เบิร์กคงรอดชีวิตเพราะอาศัยความอุ่นในรถมากกว่า

อย่างไรก็ตาม เคยมีเหตุการณ์ชาวญี่ปุ่นรอดชีวิตหลังติดอยู่ใต้หิมะนาน 24 วันเมื่อปี 2549 ทำให้นักวิทยาศาสตร์จำนวนหนึ่งเชื่อว่ามนุษย์อาจมีความสามารถจำศีลได้เหมือนสัตว์

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

น่าสงสาร จัง อากาศแบบนี้

 

<!-- html5 <section> --><!-- <object id="_player" name="_player" width="640" height="336" bgcolor="#000000" data="http://video.nationchannel.com/player/flowplayer.commercial-3.2.5.swf" type="application/x-shockwave-flash" >




&"/><embed src="http://video.nationchannel.com/player/flowplayer.commercial-3.2.5.swf" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" bgcolor="#000000" flashvars="config=http://video.nationchannel.com/player/play.php?id=<=$idresponse?>&" allowfullscreen="true" width="427" height="321"></embed></object>
--><!-- js --> </P>

<VIDEO style="POSITION: relative; TOP: -336px" id=video1 class=videoPlayer tabIndex=0 width="640" height="336" controls="controls"><SOURCE src="http://videolink.nationchannel.com/data/6/2012/02/22/agij8c7be7hccghbdickb.mp4"></SOURCE><SOURCE src="http://videolink.nationchannel.com/data/6/2012/02/22/agij8c7be7hccghbdickb_low.3gp"></SOURCE> </VIDEO>​

<!-- <script type="text/javascript">flowplayer("a.myPlayer", "http://releases.flowplayer.org/swf/flowplayer-3.2.7.swf", { // this is the player configuration. You'll learn on upcoming demos. plugins: { controls: { volume: false } }});</script>--><!-- Begin Script Video Plaza : Foreign Section --><!-- End Script Video Plaza : Foreign Section -->ทำเนียบขาวขอโทษไม่ตั้งใจเผา "คัมภีร์อัลกุรอาน"

by Nation Channel | 22.02.2012 เวลา 10:10 น.
<!-- end div id credit_date -->โฆษกทำเนียบขาวต้องออกมาขอโทษชาวอัฟกานิสถาน หลังทหารสหรัฐได้เผาคัมภีร์อัลกุรอาน จนนำไปสู่การชุมนุมประท้วงของชาวอัฟกานิสถานนับพัน ระบุไม่มีเจตนา เป็นการเข้าใจผิด

 

22 ก.พ. 55

เมษา ฮาวาย จะไป
ไว้ใจ ปลาบู่ ไม่มา
ครูบา อาจารย์ บอกว่า
ควรจะ ออกนอก ปลอดภัย

คิดว่า ออกเที่ยว เทียวไป
ปีใหม่ ของไทย ย้ายมา
ได้เที่ยว บ้านนอก เข้าท่า
อย่ามา เมืองกรุง เลยคุณ

องค์อินทร์ ๙๗
ทำการแทน

 

พันธมิตรฯ แถลงค้านแก้ รธน.ชี้ นิติกรรมอำพรางทุนสามานย์ยึดอำนาจ-นัดประชุม 10 มี.ค.เตรียมพร้อมชุมนุมต้าน

มาแล้วครับท่าน

อจ. เทพพนม บอกว่า คนตายมาก
และสุดท้าย ฝ่ายธรรมะ ชนะ

คิดเองแล้วกันนะ ฝ่ายใหนเทพ ฝ่ายใหนมาร

เมษา นี่ต้องลุ้น
ข่าวเล่ามาว่า ในที่สุดสีเขียว คือผู้ชี้ชตาแผ่นดิน

 

ปัญญาอ่อนแร่ะ อย่าพยายามเอาประเด็นพวกนี้มาเบี่ยงเบน เป็นเรื่องการเมืองเลยท่าน