ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    "เต้นท์นอนพักแรม"
    ของจำเป็นต้องใช้เมื่อมีเหตุต้องอพยพ

    [​IMG]

    เพิ่งซื้อเต๊นท์มาใหม่ๆ อยากทราบว่า เมื่อเราไปถึงสถานที่แล้ว เราควรจะเลือกทำเลการตั้งเต๊นท์อย่างไรจึงจะดีที่สุด ปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง ( มีคนไปประมาณ 20 เต๊นท์ได้)

    จาก : กัญช์ - 09/06/2001 17:51

    ตั้ง 20 เต้นท์ คงไม่ต้องกลัวโดนปล้นหรอกนะค่ะ หาทำเลที่ไม่มีลมกรรโชกแรง ถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็ให้จอดรถบังไว้ เวลากาง ถ้าใต้ต้นไม้ ก็ดูว่าไม่ไปวางเต๊นท์ไว้บนรังมด หรือ รากไม้ เดี๋ยวจะไม่ได้นอนค่ะ แล้วก็หันด้านหน้าเต้นท์ไปทางด้าน รับลม กลางคืนจะได้ไม่ร้อนเกินไป แล้วตามสเป็กของเต้นท์ว่า นอนได้กี่คน เวลาใช้จริงคงนอนได้น้อยกว่า เพราะจะอึดอัดเกินไป อย่าง 2 คน ก็ควรนอนคนเดียว หรือ 5 คน ก็ควรนอนแค่ 3 กำลังดีค่ะ อ้อช่วงหน้าฝนนี่ก็ให้ดูทำเลด้วยว่าเป็นทางน้ำผ่านรึเปล่า ยังไงก็ขุดร่องรอบ เต้นท์เพื่อดักน้ำไม่ให้ซึมเข้าเต้นท์เร็วเกินไปก็ดีค่ะ คงนึกออกเท่านแหละค่ะ

    จาก : lara13 - 09/06/2001 17:55

    อ้า ต้องห่างจากทางเดินของสัตว์ และรังต่างๆ เช่น รังผึ้ง ถ้ากางใต้ต้นไม้ก็ระวังฟ้าผ่า เพราะมี คนโดนมาแล้ว ควรตั้งใต้ต้นไม้ที่เตี้ยจะดีกว่า และไม่ค่อยมีกิ่งไม้หล่นด้วย ถ้าตั้ง 20 เต๊นท์ควรระวังเรื่องห้องน้ำด้วยครับ ไม่งั้นเหยียบกับระเบิดพวกเดียวกันเองแน่

    จาก : powerboil - 09/06/2001 17:56

    นานมาแล้วเคยไปกางเต๊นท์ที่เขาใหญ่ รุ่งเช้า เจ้าหน้าที่อุทยานมาบอกว่า เมื่อคืนคุณกางเต๊นท์ใกล้กอไผ่อย่างนั้นได้ยังไง ช้างชอบมากินยอดไผ่อ่อนๆเป็นประจำ โชคดีที่คืนนั้นเขาคงมี menu อื่นที่น่าสนใจกว่ายอดไผ่ เป็นข้อคิดว่าถ้าอยากเจอช้าง ให้ไปกางเต๊นท์นอนตรงกอไผ่

    จาก : violet - 09/06/2001 17:56

    กางเต๊นท์ดูน้ำขึ้นน้ำลงให้ดีๆ ถ้ากางบนหาดทรายตอนน้ำลง น้ำขึ้นคุณอาจจะได้นอนเต๊นท์ลอยน้ำ ดูรอยน้ำขึ้นสูงสุดให้ดีๆครับ ดูทิศทางลมด้วย ลมพัดทางไหน ก็หันปากเต๊นท์เข้าหาลม จะได้มีลมเข้าเต๊นท์ครับ ไม่งั้นร้อนแย่เลย

    ดูทิศทางของแดดด้วยและให้คิดว่า ตลอดเวลาทั้งวันแดดจะส่องโดนเต๊นท์คุณอย่างไร และร่มเงาช่วยบังเวลาไหนบ้าง หากคุณเป็นคนนอนตื่นสายๆ คงไม่อยากให้แดดในตอนเช้าส่องเต๊นท์คุณจังๆ จนกลายเป็นเตาอบจนคุณทนไม่ได้ต้องตื่นออกมาใช่ไหมครับ ฮิๆๆ

    จาก : NICK - 09/06/2001 17:57

    1.ถ้าจะกางเต็นท์ขนาด 20 เต็นท์ คงต้องหาที่ค่อนข้างกว้างหน่อยครับ อาจจะเป็นลานตั้งแคมป์ของอุทยานแห่งชาติก็ได้ หรือตามรีสอร์ทบางแห่งก็มีบริการ
    2.ผมไม่เคยไปเที่ยวกางเต็นท์ขนาด 20 เต็นท์ เพราะรู้สึกไม่ชอบคนเยอะหนวกหู ถ้าไปเยอะควรมีกฎระเบียบที่ค่อนข้างเคร่งครัด เพื่อไม่เป็นการรบกวนผู้อื่น
    3.เตรียมหากิจกรรมรวมกล่มกันไปทำเช่น จัดกลุ่มดูนกหรือดูดาว โดยให้เพื่อนฝูงที่พอมีความรู้หรือสนใจด้านนี้เป็นคนแนะนำ

    จาก : ผดุงศักดิ์ 09/06/2001 17:59

    20 เต้นท์นี่คงไม่ได้ไปนอนกลางป่าแบบมีเฉพาะกลุ่มคุณแน่ๆเลย ดังนั้นระวังแค่นี้คงพอมั๊ง

    1.อย่าอยู่ใกล้น้ำมากๆ
    2.อย่าอยู่ในที่ชื้นแฉะ(แมลงและสัตว์มีพิษเยอะ)
    3.อย่าอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ที่มีต้นเดียวโดดๆ และต้องไม่ใช่ต้นไม้แห้งตายแล้ว
    4.อย่าอยู่ใกล้ห้องน้ำ(ดึกๆจะรำคาญเหม็นอีกต่างหาก)

    ขอแนะนำอีกเล็กน้อย(สำหรับคนที่ยังไม่รู้)นิดหน่อย ถ้าไปเที่ยวป่าแบบที่มีเฉพาะกลุ่มเราหรือป่าลึกว่างั้นเหอะ มีข้อแนะนำอีกนิดหน่อย

    1.ถ้าเป็นเต้นท์ให้หันหน้าออกไปคนละทาง อย่าซีเรียสเรื่องอากาศ เพราะเกิดมีอะไรจะแย่กว่าอีก อย่าเรียงต่อกันแบบเอาสวยงามว่างั้นเหอะ เพราะป่าก็คือป่าเอาแน่ไม่ได้ เพื่อเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้หนีทันไม่ใช่แค่ออกตัวก็หัวทิ่มเพราะสะดุดสมอบก
    2.อย่าก่อกองไฟเหนือลม เพราะเต้นท์คุณอาจจะมีช่องระบายอากาศเพิ่ม(สะเก็ดไฟลอยมาโดน)
    3.ถ้านอนเปลก็ผูกใกล้ๆกันเข้าไว้ อย่าฉายเดี่ยวเดี๋ยวจะได้เดี่ยวจริงๆ เพราะเพื่อนเผ่นไปหมดเราไม่รู้เรื่อง
    4.อย่าทิ้งเศษอาหารไว้ใกล้ๆที่นอนหรือบนพื้น แขวนไว้ก็ยังดีเพราะดึกๆจะมีแขกไม่ได้รับเชิญมากินมื้อดึก เอาแค่นี้ก่อนล่ะกันขี้เกียจพิมพ์แล้วล่ะ

    จาก : จิ้งหรีด - 09/06/2001 18:02

    หลังจากเลือกพื้นที่ได้แล้ว ตามที่หลายท่านแนะนำมา การจะต้องมาดูเกี่ยวกับรูปแบบการวางแค้มป์ ซึ่งจะมีอยู่ 5 แบบ คือ

    1. แบบตัว O หรือกางเต็นท์ เป็นรูปวงกลม หันประตูเต็นท์ทุกหลังเข้าหากองไฟกลาง ข้อดีคือ เต็นท์แต่ละหลังมองเห็นกันได้ทั้งหมด หากเกิดเหตุฉุกเฉินสามารถเข้าไปช่วยกันได้ง่าย หรือมีกิจกรรมก็มาทำร่วมกันตรงกองกลางได้ ป้องกันอันตรายจากภายนอกเข้ามาถึงแค้มป์ได้ทุกทาง และทุกคนรวมกันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

    2. แบบตัว U หรือตัว C เป็นแบบที่นิยมกันมาก เพราะเปิดช่องทางออกไว้หนึ่งทาง อาจเป็นทางลงน้ำ หรือทางเข้าออกของแค้มป์ โดยเต็นท์แต่ละหลังหันประตูเต็นท์เข้าหากองกลางเช่นกัน แต่ต้องระวังทางเข้าออกนี่แหละ ซึ่งอาจจะมีสิ่งที่เป็นอันตรายเข้ามาได้

    3. แบบตัว L แบบนี้ มีข้อเสียมากกว่าแบบ ตัว U คือช่องทางเข้าออกเปิดกว้างมากกว่า

    4. แบบตัว I สองแถวคู่กัน แบบนี้จะคล้ายแบบตัว U แต่มีทางเข้าออกสองทาง จะกางเต็นท์เป็น 2 แถว โดยเต็นท์แถวแรกกับแถวที่สองจะหันประตูเต็นท์เข้าหากัน แบบนี้มีข้อดีน้อยกว่าแบบ ตัว L คืออาจมีเหตุร้ายเข้ามาได้ 2 ช่องทาง หรือโดนบุกเข้ามาผ่ากลางแค้มป์ได้

    5. แบบตัว I แถวเดียว หรือแบบหน้ากระดาน แบบนี้ดูสวย เป็นระเบียบดี แต่มีความปลอดภัยน้อยที่สุด เพราะแต่ละเต็นท์มองไม่เห็นกันทั้งหมด โดยเฉพาะเต็นท์แรกกับเต็นท์สุดท้าย เต็นท์ใดเต็นท์หนึ่งเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น อีกเต็นท์อาจจะไม่รู้เรื่องด้วยเลย หรือไปช่วยเหลือกันไม่ทัน ไม่มีจุดศูนย์กลางที่แน่นอน เกิดเหตุอะไรขึ้นอาจจะกระจัดกระจายไปกันคนละทิศละทาง

    ดูเอาละกันครับว่าพื้นที่ที่เราจะวางแค้มป์นั้นเหมาะสมกับการวางแค้มป์แบบไหนมากที่สุด จะเลือกแบบไหนก็แล้วแต่ ถ้าหันประตูเต็นท์ไปกันคนละทิศละทาง ก็เรียกได้ว่าเป็นการตั้งแค้มป์แบบที่ไม่มีความปลอดภัยเลย

    จาก : ต้น-ธรรมรัตน์ 10/06/2001 23:25

    อย่างอื่นเค้าก็บอกกันไปหมดแล้วอ่ะนะ เรื่องสัตว์ร้าย(กาจ) ก็ไม่ต้องห่วงเจอตั้ง 20 เต๊นท์ มันคงกลัวล่ะ หรือไม่ก็คงดีใจที่อิ่มไปหลายวัน เพราะมากันเยอะ งูเงี้ยวเขี้ยวขอก็ระวังๆไว้ อย่าไปทำบุญให้มันโดยการเสียสละเลือดเนื้อหล่ะ แล้วก็อย่าเลือกทำเลทำหลุมทิ้งบอมป์ไว้ทางเหนือลมนะ เดี๋ยวจะไม่ได้นอนกันพอดี อ้อมีอีกอย่างนึงสำคัญที่สุดเลย อย่ามาทำมั่วมุดผิดเต๊นท์ก็แล้วกัน

    จาก : พรานถึก ควายทุย - 16/06/2001 18:38

    การตั้งแค้มป์ที่มีผลกระทบน้อยที่สุด คือการเรียนรู้ที่จะป้องกันรักษาภาพและเสียงของป่า เพื่อที่บุคคลอื่นที่อาจอยู่ในบริเวณเดียวกันจะได้ประสบการณ์ที่ดีจากป่าด้วย พยายามตั้งแค้มป์ให้ห่างอย่างน้อย 200 หลา จากบริเวณที่สิ่งแวดล้อมที่ถูกกระทบได้ง่าย หรือจุดที่เห็นภาพทิวทัศน์ เช่น กลางท้องทุ่ง ชายทะเลสาบและลำธาร

    ความปลอดภัยเป็นเหตุผลที่สำคัญในการเลือกที่ตั้งแค้มป์ ให้จำคำว่า "เคลียร์ ต้นไม้ ลำธาร ด่านสัตว์ บนเนิน ที่กำหนดไว้ให้เคลียร์" การเคลียร์พื้นที่ก่อนการตั้งแค้มป์ ความหมายก็คือ หยิบก้อนหินหรือกิ่งไม้เล็กที่จะทำอันตรายต่อพื้นเต็นท์ออก ไม่ควรย้ายหินก้อนใหญ่หรือตอไม้ออก ต้นไม้ ให้ทั้งประโยชน์และโทษ คือให้ร่มเงาบังแดดลดความแรงของลม แต่ควรมองเรื่องกิ่งไม้หรือต้นไม้ที่ล้มหรือหล่นใส่ ลำธารไม่ควรเลือกพื้นที่ตั้งแค้มป์ที่ลำธารเก่าหรือใกล้แหล่งน้ำจนเกินไป ด่านสัตว์เส้นทางในป่าเป็นที่สัญจรทั้งคนและสัตว์ อาจจะทำให้นอนไม่หลับไปจนถึงอันตรายถึงชีวิต บนเนินหมายถึงบนที่ตั้งแค้มป์ควรเลือกที่เป็นเนินเล็กน้อย เพื่อการถ่ายเทน้ำได้ดี ที่กำหนดไว้ให้ ในพื้นที่ที่เจ้าของสถานที่ หรือ อุทยานจัดไว้ให้ จะมีความปลอดภัย การจัดการไปจนถึงการอนุรักษ์ธรรมชาติ(เพื่อให้ความเสียหายที่เกิดจากการใช้สถานที่อยู่ในบริเวณเดิม)

    ฟ้าผ่า สิ่งที่อันตรายที่มากที่สุดสิ่งหนึ่งสำหรับผู้ที่ใช้ชีวิตกลางแจ้งในสภาพพายุฝนฟ้าคะนอง ก็คือ ถูกฟ้าผ่าตาย หรือถูกกระแสไฟฟ้าบนดินที่เกิดจากฟ้าผ่าดูดตาย ฟ้าผ่าเกิดขึ้นในระหว่างความปั่นป่วนในการเกิดเมฆ ในสภาพอากาศที่ไม่แน่นอน อย่างไรก็ตาม เมื่อเมฆมาอยู่ใกล้พื้นโลกมากพอ ประจุลบที่อยู่ด้านล่างของเมฆจะขับไล่อิเลคตรอนที่อยู่บนโลก ทำให้เกิดประจุบวก ถ้ากำลังนี้มีแรงเพียงพอ มันจะเปลี่ยนเป็นสายฟ้าผ่าลงมายังพื้นโลก เพื่อที่จะทำให้เกิดความสมดุลของกำลัง เนื่องจากอากาศเป็นตัวนำไฟฟ้าที่เลว มันก็จะวิ่งไปหาสิ่งที่สูงกว่าพื้นดินก่อน เพื่อเป็นการย่นระยะทาง ถ้าวัตถุนั้นเป็นตัวนำไฟฟ้าที่ดีเช่นโลหะหรือต้นไม้(ซึ่งมีน้ำ) มันจะเป็นเป้าหมายที่ฟ้าจะผ่า ซึ่งบ่อยๆ น้ำเป็นตัวนำที่ดี บนพื้นดินกระแสไฟฟ้าอาจจะเชื่อมช่องว่างของอากาศเช่น ปากถ้ำ และเป็นสาเหตุใหญ่ที่สุดของความตายที่เกิดจากฟ้าผ่า

    ถ้าคุณเห็นแสงวาบและลองนับวินาทีจนกระทั่งคุณได้ยินเสียงฟ้าร้อง คุณก็จะสามารถบอกได้ว่ามันอยู่ไกลเท่าใด แต่ละวินาทีเท่ากับ 3 กิโลเมตร ถ้าคุณได้ยินเสียงฟ้าร้อง มันเกิดจากฟ้าแลบ ถึงแม้คุณจะมองไม่เห็น และเมื่อเป็นเช่นนั้น คุณควรรู้ว่าฝนฟ้าคะนองกำลังใกล้เข้ามา ในเหตุการณ์ที่คุณพบตัวเองในท่ามกลางพายุที่ฟ้าคะนองให้ออกห่าง
    - จากวัตถุใดๆที่ทำด้วยโลหะ
    - ยอดเขาหรือทิวเขา
    - อยู่ในที่โล่ง
    - อยู่ห่างจากลำธารหรือแหล่งน้ำ
    - หลีกเลี่ยงต้นไม้ต้นเดี่ยวโดดๆ
    - ให้ออกห่างจากถ้ำตื้นๆ หรือหน้าผา ถ้าเป็นถ้ำลึกก็ไม่เป็นไร ถ้าคุณไม่เตะผนังถ้ำ

    ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน ให้หมอบ เอาเท้าปิดเข้าหากันเพื่อลดอันตรายที่มาจากกระแสไฟฟ้าตามพื้นดิน คุณให้หมอบบนแผ่นรองนอนโฟมที่ไม่เปียก เพื่อลดการนำกระแสไฟฟ้าให้น้อยที่สุด

    การเลือกพื้นที่กางเต็นท์ สิ่งที่สำคัญคือ เมื่อซื้อเต็นท์แล้ว ให้อ่านวิธีประกอบเต๊นท์จากหนังสือวิธีใช้ที่มีผู้ผลิตให้มาหรือเรียนรู้จากผู้ขาย ลองกางและเก็บเต็นท์ก่อนการเดินทางเพื่อความเข้าใจ ครั้งแรกที่คุณออกไปเดินป่า คุณอาจจะต้องตั้งเต็นท์ในสภาพที่เลวร้ายภายใต้ความเหนื่อยยาก และควรตรวจสอบอุปกรณ์ต่าง ๆของเต้นท์ “ไม่ควรจะเดินจนพลบค่ำ แล้วตั้งแค้มป์ ณ จุดแรกที่เห็นว่าเหมาะสม” คุณสามารถเอาเครื่องหลังออก เติมพลังงานด้วยการรับประทานของว่าง เต็นท์ต้องใช้พื้นที่ราบที่ค่อนข้างใหญ่ โดยไม่มีก้อนหินหรือกิ่งไม้โผล่ออกมาแทงทะลุพื้นเต็นท์ ทรายและกรวดเป็นที่เหมาะสมในการตั้งแค้มป์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งชายหาดเป็นที่เหมาะในการตั้งแค้มป์ เมื่อตั้งแค้มป์ ณ ชายหาดที่น้ำเค็ม เป็นสิ่งที่สำคัญที่จะตั้งแค้มป์ให้อยู่เหนือระดับน้ำทะเลขึ้นสูงสุด

    เมื่อคุณหาที่ตั้งแค้มป์ที่มีพื้นผิวที่เหมาะสมได้แล้ว อย่าเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิประเทศ การเคลื่อนซุงต้นหนึ่งอาจทำโดยบริสุทธิ์ใจเพื่อความสะดวก จนกระทั่งคุณรู้ว่าภายในซุงนั้นเป็นชุมชนอิสระของสัตว์ แมลง และสิ่งมีชีวิตที่เน่าเปื่อย บางทีการปฏิบัติในการตั้งเต็นท์ที่ทำให้เสียหายมากที่สุดก็คือ การสร้างคันรอบ ที่ทำให้เกิดริ้วรอยถาวรแก่บริเวณที่ตั้งแค้มป์ และไม่ค่อยมีประสิทธิภาพเลยในการป้องกันน้ำท่วม เต๊นท์ที่ขึงอย่างหลวมๆหรือดึงไม่เสมอกันจะกระพือในสายฝนและลม

    โดย นายยักษ์ เมื่อ 18 พ.ค. 45, 19:43 น.

    ที่มา http://www.trekkingthai.com/cgi-bin/webboard/generate.pl?content=0096&board=travel
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 183314.jpg
      183314.jpg
      ขนาดไฟล์:
      49.6 KB
      เปิดดู:
      1,168
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤษภาคม 2011
  2. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,698
    ค่าพลัง:
    +51,933
    *** ผู้ทำได้ พูดจริง ทำจริง ****

    <TABLE id=post4686028 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>วันนี้, 11:10 AM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#3693 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->joyguang1<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4686028", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Apr 2011
    สถานที่: Suphanburi
    ข้อความ: 291
    พลังการให้คะแนน: 30 [​IMG]





    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_4686028 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->[​IMG]<!-- google_ad_section_end -->



    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE id=post4640560 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_4640560 class=alt1><TABLE id=post3576873 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>23-07-2010, 01:29 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#2685 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->หนุมาน ผู้นำสาร<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3576873", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Jul 2006
    ข้อความ: 11,622
    พลังการให้คะแนน: 5103 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]





    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_3576873 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->*** แม่น้ำโขง ****

    ทำไมน้ำพุ่งโค้งขึ้นก่อนค่อยลงมา ทำไมน้ำไม่ตกลงมาทีเดียว

    [​IMG]

    ตำแหน่งอันตราย...ท้องพญานาค

    [​IMG]

    แถวเชียงแสน...น้ำต้องไหล ขึ้นไปก่อน จะไหลลงไป เชียงของ

    [​IMG]

    ถ้า น้ำหิมาลัยมาก เขื่อนกั้นน้ำไม่อยู่
    น้ำจำนวนมหาศาล จะไหลเข้าประเทศไทย จุดนี้

    - " หนมาน ผู้นำสาร "<!-- google_ad_section_end -->



    </TD></TR></TBODY></TABLE><!-- google_ad_section_end -->


    </TD></TR><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2><SCRIPT type=text/javascript> vbrep_register("4640560")</SCRIPT></TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt1 align=right></TD></TR></TBODY></TABLE>

    *** กรรมเริ่มปรากฏชัดขึ้นเรื่อย ****

    ทำได้แค่เตือน และบอกหนทางรอดพ้นทุกข์
    เรื่องปลดนิสัยสันดาน ไม่มีใครทำแทนกันได้

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤษภาคม 2011
  3. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,698
    ค่าพลัง:
    +51,933
    *** คนเมืองขาดสัจจะ ****








    <TABLE id=post4646878 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>29-04-2011, 09:49 AM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#1 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ระยับแดด<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4646878", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Feb 2010
    ข้อความ: 109
    พลังการให้คะแนน: 29 [​IMG]









    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_4646878 class=alt1><CENTER><!-- google_ad_section_start -->ที่สุดของที่สุด<!-- google_ad_section_end -->

    </CENTER>
    <HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start --><SCRIPT type=text/javascript><!--google_ad_client = "ca-pub-2576485761337625";/* 336x280 */google_ad_slot = "0551074580";google_ad_width = 336;google_ad_height = 280;//--> </SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js"> </SCRIPT>
    สายฟ้าเหนือภูเขาไฟ Chaiten

    [​IMG]

    กลุ่มของสายฟ้าเหนือภูเขาไฟ Chaiten ส่วนสาเหตุที่เกิดปรากฏการณ์นี่นักวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ ภาพนี้ถ่ายเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2551




    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <INS style="BORDER-BOTTOM: medium none; POSITION: relative; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: inline-table; VISIBILITY: visible; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none; PADDING-TOP: 0px"></INS>
    <INS style="BORDER-BOTTOM: medium none; POSITION: relative; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: inline-table; VISIBILITY: visible; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none; PADDING-TOP: 0px"><INS style="BORDER-BOTTOM: medium none; POSITION: relative; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: block; VISIBILITY: visible; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none; PADDING-TOP: 0px" id=aswift_0_anchor></INS></INS>
    <SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20110427/r20110506/show_ads_impl.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT>
    <INS style="BORDER-BOTTOM: medium none; POSITION: relative; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: inline-table; VISIBILITY: visible; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none; PADDING-TOP: 0px"><INS style="BORDER-BOTTOM: medium none; POSITION: relative; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: block; VISIBILITY: visible; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none; PADDING-TOP: 0px" id=aswift_1_anchor></INS></INS>
    <SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20110427/r20110506/show_ads_impl.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT>
    <SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20110427/r20110506/show_ads_impl.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT>
    <INS style="BORDER-BOTTOM: medium none; POSITION: relative; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: inline-table; VISIBILITY: visible; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none; PADDING-TOP: 0px"><INS style="BORDER-BOTTOM: medium none; POSITION: relative; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: block; VISIBILITY: visible; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none; PADDING-TOP: 0px" id=aswift_0_anchor></INS></INS><SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤษภาคม 2011
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เครื่องบินของนาโตโจมตีเมืองหลวงของลิเบีย

    [​IMG]

    ตริโปลี 10 พ.ค.-เครื่องบินรบได้เข้าโจมตีกรุงตริโปลี นครหลวงของลิเบียในเช้าวันนี้ ซึ่งการโจมตีที่มีขึ้น 8 ระลอกใช้เวลารวมกันประมาณ 3 ชั่วโมงต่อเป้าหมายหลายแห่งในกรุงตริโปลี ซึ่งเป็นการโจมตีที่หนักหน่วงที่สุดจากที่ปกติมักถูกโจมตีเพียง 2-3 ระลอก

    รายงานแจ้งว่า เกิดระเบิดขึ้น 4 ครั้งในนครหลวงของลิเบียเมื่อหลังเวลา 07.00 น.วันนี้ตามเวลาประเทศไทย เสียงสัญญาณเตือนภัยและเสียงร้องตะโกนดังระงมหลังจากการโจมตีทางอากาศ อีกทั้งมีเสียงปืนดังเป็นระยะ ๆ โดยที่เครื่องบินยังคงบินอยู่เหนือกรุงตริโปลี

    การโจมตีอย่างน้อย 1 ครั้งได้ถูกเป้าหมายที่เป็นอาคารแห่งหนึ่งซึ่งเคยถูกทิ้งระเบิดมาแล้วเมื่อวันที่ 30 เมษายน อาคารแห่งนี้เป็นที่ตั้งขององค์กรของภาคประชาสังคมหลาย ๆ กลุ่ม สภาพอาคารได้รับความเสียหายอย่างหนัก หลังคาและกำแพงด้านหนึ่งพังเสียหายและเผยให้เห็นชั้นใต้ดิน

    อย่างไรก็ตาม ไม่มีรายงานประชาชนเสียชีวิตจากการโจมตีครั้งนี้ ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากนายแอนเดอร์ส ฟอกห์ ราสมุสเซน เลขาธิการนาโต กล่าวว่า เวลาของ พ.อ.มูอัมมาร์ กัดดาฟี และระบอบของเขาได้หมดลงแล้ว.-สำนักข่าวไทย

    วันอังคาร ที่ 10 พ.ค. 2554

    ที่มา http://www.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    "ทองคำ" อุปกรณ์ลี้ภัย

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    อ้างอิง:
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Kongp [​IMG]
    เหตุบ้านการเมือง ไม่รู้จะเป็นอย่างไรต่อไป วันหยุด ก็มีเพิ่มมากขึ้น ธนาคารตอนนี้ ก็มีหยุดบ้างเป็นสาขา รายได้ก็หดลง ใช้จ่ายให้พอเพียง ครับ เก็บเงินสดไว้กับตัวเยอะๆ ครับ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    อ้างอิง:
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Lazaza [​IMG]
    ลองคิดเล่นๆนะคะ เหตุการณ์ที่เป็นอยู่ ทำให้พื้นที่ใน กทม. บางส่วน แทบจะร้าง หรือนี่จะให้คุณๆได้เตรียมตัว แพคข้าวของ เตรียมเคลื่อนย้าย เพราะภัยคงจะมาในอีกไม่นาน
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    อุปกรณ์ลี้ภัย Posted by Kati

    จำได้ว่าเมื่อตอนเป็นเด็กเล็ก ผมยังอยู่ในยุคสมัยสำคัญ ที่บ้านเมืองยังหวั่นไหวใจกับทุกสิ่งอย่าง มีสงครามอยู่รอบข้างประเทศเรา แม้แต่ในประเทศของเรา สงครามของคนในชาติก็ยังคุกรุ่น ให้ได้หวั่นไหวใจกับทุกสิ่งอย่างของแต่ละวันคืน หรือแม้แต่เรื่องราวเรื่องเล่าของผู้ลี้ภัยสงครามมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเขมร ลาว ญวน หรือพม่า ที่ต่างอพยพหนีภัยแห่งความโหดร้าย สู่ดินแดนซึ่งเขาคิดว่าปลอดภัยกว่า แม้ว่าจะไม่จริงเสมอไปสำหรับทุกคน แต่แผ่นดินไทยก็ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางเหมือนเช่นที่รับรู้รับฟัง

    ตำนานการพกเงินพกทอง ทองเป็นเส้นเป็นก้อน เงินเป็นสร้อยเป็นแหวน หรือแม้แต่การรีดเงินรีดทอง ให้อยู่ในรูปร่างต่างๆ เพื่อเข้าพกเข้าห่อได้สะดวก ก็ยังเป็นหนึ่งเรื่องที่ผมจำฝังใจ จำได้กระทั่งว่า ตัวเองเคยเห็นทองและเงิน ที่เตรียมไว้สำหรับการหนี ทองมักเป็นเรื่องจริงมากกว่านิยายของเงินตราใดๆ เท่าที่อำนาจทองคำแท้จะก้าวล่วงถึง ทองจึงเป็นหนึ่งสิ่งของความจริง ยามเกิดภัยสงคราม หรือยามชีวิตผู้คนตัวเล็กตัวน้อยต้องลี้ภัยสงคราม ลี้ภัยการเมือง กระทั่งลี้ภัยจากทุกสิ่งอย่าง อันไม่ปลอดต่อชีวิตและทรัพย์สินของตน ไม่ว่าจะเป็นความจริงหรือไม่จริงก็ตาม ชีวิตผู้คนล้วนรับรู้ได้ดีว่าที่ใดที่ตนจะมีชีวิตรอด

    ชีวิตของประชาชนบนเรือน้อยกลางคลื่นลมแรง กลางทะเยังไม่น่ากลัวเท่าใจคน ยิ่งในยามที่เราได้เห็นศพของผู้คน ลอยมาติดชายฝั่ง ยังไม่ต้องนับที่พอมีลมหายใจ และชีวิตเล็ดรอดพอ เพียงเพื่อบอกเล่าความโหดร้ายของผู้คนกลางทะเล ยามคนที่มีอาวุธมีอำนาจมีความเข้มแข็ง แย่งชิงสมบัติชิ้นสุดท้ายของผู้อพยพภัยสงครามมากมาย แม้สิ่งสุดท้ายคือชีวิตอาจเหมารวมไม่ได้ว่าคนทำเป็นคนไทย หรือโจรสลัดหรือเป็นโจทย์ทั่วไปที่ฉกฉวยวิกฤติของผู้คนหากินบนความทุกข์ยาก ชะตากรรม หยาดน้ำตา และความเจ็บปวด จะปล้นฆ่าข่มขืน หรือเพียงฉกชิงทรัพย์สินเงินทองก็ตามแต่ แต่สุดท้ายความเลวร้ายเหล่านั้น ย่อมถูกรับรู้ รู้เห็น และตระหนักในความจริงอันเจ็บปวด อุปกรณ์มากมายเพื่อการหนีภัย จึงเพิ่มเติมความจริงมากขึ้น

    กระเป๋าเดินทางที่ดีที่สุดในการหลบหนี ต้องสามารถประกอบใหม่ได้ทุกคราจนสามารถหยิบสอยอย่างอื่นได้ จึงไม่แปลกที่เราจะได้เห็น กระเป๋าและพกห่อเหล่านั้น ที่ทำจากผ้าขาวม้า หยิบจับหยิบห่อจับปลายมัดปม พอที่จะเก็บเสื้อผ้า และเงินทองยัดใส่พกใส่ห่อมาได้สะดวก หรือกระทั่งการเย็บชายขายกางเกง ขอบเอว ชายกระโปรง เพื่อเก็บสร้อยแหวนเงินทอง หรือของมีค่าต่างๆ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นความจริง ในการเอาชีวิตรอดของผู้คน แทบจะไม่แตกต่างจากทุกวันนี้ เมื่อเราเห็นการจับกุมชาวพม่า ชาวเขมร หรือผู้ลักลอบเข้าประเทศไทย เมื่อเขาแต่ละคน ต่างคาดหวังถึงการเริ่มต้นชีวิตใหม่ เริ่มต้นชีวิตในดินแดนอันปลอดภัย พอที่เขาจะลืมตาอ้าปาก หรือมีชีวิตอยู่ด้วยความเป็นธรรม โดยไม่ถูกใครข่มเหงรังแก กระทั่งไม่ล้มหายตายจากไป เพราะการเข่นฆ่าของใครที่มีอำนาจในมือ

    ความจริงของอุปกรณ์ลี้ภัย จึงเป็นหนึ่งภาพสะท้อนของความจริงสำคัญความจริงอันเจ็บปวด ที่ทำให้เราตระหนักได้เสมอว่า โลกนี้ยังมีความไม่แน่นอนเกิดขึ้นได้อยู่เสมอ เหมือนเช่นยุคสมัยหนึ่งที่คนรุ่นพ่อรุ่นแม่ ทั้งที่เป็นจีนอพยพหรือจีนโพ้นทะเล ต่างรู้สึกดีถึงคำว่า บ้านแตกสาแหรกขาด การเริ่มต้นชีวิตด้วยเสื่อผืนหมอนใบ กับลมหายใจตัวเองสำหรับความจริงในการเอาตัวรอดเอาชีวิตรอด ล้วนเป็นความจริงที่ไม่มีใครอยากจดจำเหมือนเช่น สงครามเวียดนาม สงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ สงครามในอินโดจีน ได้ทำให้คนไทยเห็นถึงน้ำตา และรอยเลือดของพี่น้องรอบบ้านอุษาคเนย์ ขณะที่คนไทยบางท้องถิ่นก็เคยตระหนักถึงความเจ็บปวดเหล่านี้ได้ดี เท่ากับความจริงในความอยุติธรรมที่เราไม่ปรารถนาสำหรับการพลัดที่นาคาที่อยู่

    การพลัดพรากจากบ้านล้วนคือความเจ็บปวด จะปรารถนาหรือไม่ปรารถนาก็ตามแต่ แต่เมื่อถึงวันหนึ่งแห่งการหลบหนี หลบเร้นหนีหาย ลี้ภัย และมุ่งหน้าสู่ดินแดนใหม่ เพื่อให้ชีวิตและลมหายใจยังคงเดินทางต่อไป เพียงเพื่อคาดหวังจะกลับมานอนตายในแผ่นดินเกิด หรือคิดเพื่อว่า เมื่อชีวิตยังไม่ดับดิ้นไป เราก็ยังจะมีโอกาสสำหรับเรื่องราวในความจริงของสินทรัพย์ ซึ่งเปลี่ยนแปลงตามโลกอันเร่งรัด ความจริงของนวตกรรมแห่งสินทรัพย์ ได้ทำให้เราตระหนักถึงตำนานแบบเทพนิยาย ที่ตัวพระตัวเอกสามารถหลบหนีไปได้ หากเขาเหล่านั้นปรารถนาที่เหาะเหินเดินอากาศ ไปยังที่ใดก็ได้บนโลกใบนี้ หรือบางทีอาจจะมุดดินมุดน้ำก็ได้ หากมีคาถาอาคมอันวิเศษวิโสพอ

    ใครหลายคนในตำนาน นิทาน และนิยายปรัมปรา ต่างเคยบอกเล่าให้ได้ยินเหมือนเช่นทุกวันนี้ที่ผู้ลี้ภัยการเมือง สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้ทั่วโลกหากเขาเพียงต้องการ เช้าวันแรกแห่งสัปดาห์นี้ ไม่รู้เป็นไร สำหรับการมองเห็นสินทรัพย์ที่เคลื่อนตัวไป พร้อมผู้ลี้ภัยมากมาย ที่อ้างอิงว่าตนถูกข่มเหงรังแก พร้อมกับความจริงบางอย่างที่ทำให้ผมนึกถึงชีวิตวัยเด็ก กับพรมวิเศษ และไม้กวาดเหาะได้ ผมกลับนึกถึงความวิเศษของผู้คน ยามได้บินหนีหลบหายไป วันนี้ผมเพียงเรียนรู้ ว่าในความจริงของการลี้ภัยในโลกปัจจุบัน ทำให้คนลี้ภัยในแต่ละชีวิตไม่ใช่เป็นเพียงคนยากไร้เท่านั้น แต่สามารถเป็นคนร่ำรวยได้อย่างมหาศาลตามแต่ที่สินทรัพย์ของเขา จะบินตามไปเหมือนไม้กวาดกายสิทธิ์ข้างตัวเขา

    Posted by Kati วันพุธ ที่ 13 สิงหาคม 2551

    ที่มา http://www.oknation.net/blog/Kati1789/2008/08/13/entry-1<!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤษภาคม 2011
  6. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    กัดดาฟี กับกองกำลังอารักขาสาวบริสุทธิ์ 40 นาย(นาง)

    [​IMG]

    ในช่วงเวลาที่สถานการณ์ความวุ่นวายยุ่งเหยิงในประเทศลิเบีย โดยเฉพาะตัวผู้นำประเทศอย่าง พลเอกมูอัมมาร์ กัดดาฟี ทั้งการถือครองทรัพยากรน้ำมัน การฉ้อฉลในวงรัฐบาล รวมถึงอะไรต่างๆ อีกมากมาย อีกหนึ่งเรื่องราวน่าสนใจของกัดดาฟีที่เพิ่งตีแผ่ออกมาทำเอาทุกคนถึงกับอึ้ง นั่นคือกองกำลังอารักขาส่วนตัวของเขา ซึ่งเราอาจจะคิดว่าต้องเป็นทหารหนุ่มกล้าหาญผู้เชี่ยวชาญในด้านการรบ แต่ขอโทษครับ! ผิดซะแล้ว


    [​IMG]
    ใครจะไปคิดว่าหน้าที่สำคัญเช่นนั้นกลับตกไปอยู่ในมือของอิสตรี ด้วยกองกำลังที่มีชื่อเท่ๆ ว่า 'Amazonian' อันประกอบด้วยทหารหญิง 40 นาย (นางต่างหาก) บางคนหน้าตาสะสวยระดับนางแบบทีเดียว แถมกัดดาฟียังเป็นคนลงไปคัดเลือกเองเสียด้วย โดยมีข้อแม้ว่าทหารหญิงเหล่านั้นต้องเป็นหญิงพรหมจรรย์ บริสุทธิ์ ไม่เคยผ่านการมีเพศสัมพันธ์รวมถึงการแต่งงานมาก่อน เมื่อคัดเลือกได้ตามสเปคแล้วก็จะนำทั้งหมดมาฝึกทักษะด้านการต่อสู้ที่เข้มข้น



    [​IMG]
    [​IMG]


    ส่วนสาเหตุของการตั้งกองกำลังนี้ก็มีการคาดเดาว่า กัดดาฟีคิดว่าหากเขาถูกคุ้มกันด้วยผู้หญิงแล้วกลุ่มต่อต้านจะไม่กล้าทำร้าย แต่อีกเหตุผลหนึ่งก็ลือกันว่านี่คือรสนิยมส่วนตัวของท่านผู้นำที่ชอบอยู่ใกล้ชิดอสตรีโดยเฉพาะผู้หญิงสวยๆ มากกว่า ซึ่งทั้งหมดก็ไม่รู้ว่ากัดดาฟีต้องการจะตั้งกองกำลัง หรือตั้งฮาเร็มส่วนตัวกันแน่

    [​IMG]
    รายงานข่าวแจ้งว่า ผู้ปกครองของเด็กหญิงรายหนึ่ง ใน จ.พิษณุโลก ออกมาเปิดเผยกับสื่อ และขอร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งหาแนวทางแก้ไข หลังเห็นข้อความที่ถูกส่งมาเข้าโทรศัพท์มือถือของลูกสาว ที่มีอายุเพียง 11 ปี และเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
    โดยผู้ปกครองรายนี้ เปิดเผยว่า ช่วงปิดเทอมนี้มีข้อความจาก ด.ช.แทงค์ ( นามสมมุติ) ที่เป็นหัวหน้าห้องของลูกสาว ได้ส่งข้อความมาหาลูกสาว โดยมีข้อความว่า
    “ แกคิดยังไงกับเค้า”
    “อยากรู้”
    “แกเคยมี…ป่ะ”
    “แกอยากลองป่ะ”
    “เค้าอยากลอง”
    “ให้แกส่งรูปมา ได้ป่ะ”
    “อยากดูของจริง”
    และมีอีกหลายข้อความ
    ซึ่งหลังจากเห็นข้อความดังกล่าว และลูกสาวมาปรึกษา บอกว่ากลัวไม่กล้าไปโรงเรียน กลัวว่าจะเจอเพื่อนคนนี้รังแก ตอนนี้ไม่กล้าใช้โทรศัพท์เลย และตนรู้สึกวิตกกังวลถึงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น จึงออกมาเปิดเผยกับสื่อ และขอร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งหาแนวทางแก้ไข อีกทั้งเพื่อเป็นการเตือนผู้ปกครอง ที่มีบุตรหลาน ว่าควรจะดูแลบุตรหลานของตนเองอย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น
    Mthai News
    <LI class=news_src_item>[​IMG]<LI class=news_src_item>[​IMG]
    นายริชาร์ด ไรออต เจม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศมาเลเซีย
    รายงานข่าวแจ้งว่า วันนี้(9 พ.ค.) ริชาร์ด ไรออต เจม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศมาเลเซีย ให้สัมภาษณ์ต่อผู้สื่อข่าวต่างประเทศ ถึงประเด็นการปะทะระหว่าง ไทยกับกัมพูชา
    โดยนายเจม กล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายยอมรับข้อตกลงไปแล้ว ไทยก็ควรจะปฏิบัติตาม แต่ไทยเป็นฝ่ายปฏิเสธไม่ทำตามข้อตกลง ดังนั้นจึงเกิดการปะทะขึ้นอีก
    นายเจม กล่าวต่ออีกว่า ผมขอย้ำว่า สมาชิกอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ รวมทั้งไทยและกัมพูชา ยอมรับข้อตกลงแล้ว แต่เสียใจที่จะพูดว่า ข้อตกลงถูกนำกลับไปยัง 2 ประเทศคู่กรณี กัมพูชายอมรับข้อตกลง แต่ประเทศไทยไม่ยอมรับ
    ก่อนหน้านี้ ทั้งไทยและกัมพูชาต่างกล่าวหาซึ่งกันและกัน ว่าเป็นฝ่ายเริ่มยิงก่อน ดังนั้นเพื่อตัดสินว่าฝ่ายใดเริ่มก่อนกันแน่ บรรดารัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนจึงตัดสินใจส่งคณะผู้สังเกตการณ์เข้าไปในพื้นที่ขัดแย้ง
    Mthai News
    <LI class=news_src_item>[​IMG]
     
  7. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>[​IMG] แผ่นดินไหวฟิลิปปินส์5.8ริกเตอร์-พิษพายุแอรีตายแล้ว17 </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>
    เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.8 ริกเตอร์นอกชายฝั่งของเกาะมินดาเนาทางภาคใต้ของฟิลิปปินส์เมื่อเวลา 3.13 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่นหรือ 2.13 น.เช้านี้ตามเวลาไทย

    โดยศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ลึกลงไปใต้ทะเล 35 กม.และห่างจากเมืองเจเนอรัล ซานโตส ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 160 กม. แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหาย

    <DD>
    ส่วนสถานการณ์พายุโซนร้อน "แอรี"พัดขึ้นฝั่งจังหวัดคาตันดัวเนสของฟิลิปปินส์เมื่อวันอาทิตย์ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 17 คนแล้ว โดย 10 คนจมน้ำเสียชีวิต, 3 คนเสียชีวิตเนื่องจากดินถล่มทับบ้าน, 1 คนถูกไฟดูด, 1 คนถูกรถชน และอีก 2 คนเสียชีวิตด้วยปัญหาสุขภาพ ประชาชนราว 33,000 ครอบครัวได้รับผลกระทบ พื้นที่เพาะปลูกข้าวและข้าวโพดได้รับความเสียหายเกือบ 45,300 ไร่

    และเมื่อวานนี้พายุได้พัดกระหน่ำหลายจังหวัดทางภาคเหนือของเกาะลูซอนและค่อยๆอ่อนกำลังลง โดยจนถึงค่ำพายุอยูห่างจากจังหวัดคากายันไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 85 กม. และพายุกำลังเคลื่อนตัวออกจากฟิลิปปินส์มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้คาดว่าพายุจะอยู่ห่างจากเกาะโอกินาวาของญี่ปุ่นไปทางตะวันตกเฉียงใต้ 130 กม.เช้าวันพฤหัสบดี





    </DD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>[​IMG] เหนือ-ตะวันออก-ใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมาก เตือนพื้นที่เสี่ยงภัยลาดเชิงเขา จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา ระนอง พังงา อันตรายจากน้ำท่วมฉับพลัน </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>
    กรมอุตุวิทยาพยากรณ์อากาศประจำวันที่ 10 พฤษภาคม 2554
    ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.

    หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณอ่าวมะตะบัน ประเทศพม่าได้เคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ด้านรับลมมรสุมในภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนหนาแน่นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก สุโขทัย ตาก พิจิตร เพชรบูรณ์ ระนอง และ พังงา ระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากที่อาจจะเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย

    สำหรับคลื่นลมในทะเลมีกำลังแรงขึ้น โดยเฉพาะทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตรและอ่าวไทยตอนบนคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือควรระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ เรือเล็กบริเวณดังกล่าวควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 10-11 พฤษภาคม 2554 อนึ่ง ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปประเทศฟิลิปปินส์ ตรวจสอบลักษณะอากาศก่อนเดินทางด้วย เนื่องจากมีพายุโซนร้อน “แอรี” (Aere) กำลังเคลื่อนที่ผ่านบริเวณดังกล่าว

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

    ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองทั่วไป ร้อยละ 90 ของพื้นที่และมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรง ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน แพร่ ลำพูน ลำปาง อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย หนองคาย ชัยภูมิ หนองบัวลำภู อุดรธานี
    ขอนแก่น ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และนครราชสีมา อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

    ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่กับมีฝนตกหนักบางแห่ง และลมแรง ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา กาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

    ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่กับมีฝนตกหนักบางแห่ง และลมแรง ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง และลมแรง บริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต
    อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>[​IMG] เตือน16จังหวัดระวังน้ำท่วมฉับพลัน </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>
    วันนี้ (10พ.ค.) สำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนภัย "ฝนตกหนักและคลื่นลมแรง" ฉบับที่ 11 ระบุว่า หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณอ่าวมะตะบัน ประเทศพม่าได้เคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือ

    ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ด้านรับลมมรสุมในภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนหนาแน่นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านบริเวณจังหวัด แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก สุโขทัย ตาก พิจิตร เพชรบูรณ์ ระนอง และ พังงา ระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากที่อาจจะเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย

    สำหรับคลื่นลมในทะเลมีกำลังแรงขึ้น โดยเฉพาะทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตรและอ่าวไทยตอนบนคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือควรระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ เรือเล็กบริเวณดังกล่าวควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 10-11 พฤษภาคม 2554

    อนึ่ง ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปประเทศฟิลิปปินส์ ตรวจสอบลักษณะอากาศก่อนเดินทางด้วย เนื่องจากมีพายุโซนร้อน “แอรี” กำลังเคลื่อนที่ผ่านบริเวณดังกล่าว




    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  8. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    เรือบรรทุกผู้ลี้ภัยจากลิเบีย ไปอิตาลี่ล่ม สูญหาย 600 คน

    <table width="100%" border="0" cellpadding="2" cellspacing="2"><tbody><tr><td colspan="2" valign="top" width="100%">2011-05-10 03:05:02 - Vehicle Accident - Libya

    </td> </tr> <tr> <td colspan="2" width="100%">
    </td> </tr> <tr> <td valign="top"> <table width="100%" align="left" border="0" cellpadding="1" cellspacing="1"> <tbody><tr> <td width="25%">EDIS Code:</td> <td>VI-20110510-30667-LBY</td> </tr> <tr> <td>Date&Time:</td> <td>2011-05-10 03:05:02 [UTC]</td> </tr> <tr> <td>Continent:</td> <td>Africa</td> </tr> <tr> <td>Country:</td> <td>Libya</td> </tr> <tr> <td>State/Prov.:</td> <td>Capital City, </td> </tr> <tr> <td>Location:</td> <td>Tripoli coastal area, </td> </tr> <tr> <td>City:</td> <td>
    </td> </tr> <tr> <td colspan="2"> Number of missing people: 600
    Damage level: Catastrophic (Level 5)

    Not confirmed information!
    </td> </tr> </tbody></table> </td> <td width="440" align="right"> [​IMG] </td> </tr> <tr> <td colspan="2" valign="top"> Description: </td> </tr><tr> <td colspan="2" valign="top"> The United Nations Refugee Agency reports that a ship carrying 600 migrants trying to flee the violence in Libya, sunk off the African nations coast on Friday. The vessel reportedly broke apart shortly after leaving port near Libya’s capital city of Tripoli. A spokesperosn for the U.N. agency says they do not know the fate of the hundreds of passengers onboard the vessel, but they are working to find out. So far 16 are confirmed dead after the bodies of 14 adults and 2 babies washed ashore. Witnesses to the tragic accident who were onboard a second vessel that left shortly after, say they saw the ship broken into pieces and bodies floating in the water. This most recent sinking is not the first migrant vessel to fail to reach safety – in March two boats, carrying 120 and 360 migrants headed for Italy never reached the Italian coast. Those passengers, along with those onboard this latest vessel are feared dead. Last month a small ship carrying 72 people, washed ashore in Libya. Most of those onboard were dead or dying of hunger and thirst after drifting on the open sea for 16 days after their boat ran out of fuel.
    </td></tr></tbody></table>
     
  9. ปธ6

    ปธ6 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    349
    ค่าพลัง:
    +292
    ภัยใกล้ตัวเข้ามาทุกขณะ....ต้องรู้ให้เท่าทันทุกสภาวะจิตและระวังอย่าร้อนรนเกินไป จะคิดอะไรไม่ออก
     
  10. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]คุณป้า เอลซี่ ไอเลอร์ กับป้ายบอกชื่อเมืองโมโนวี

    เมืองนี้มีประชากรแค่คนเดียว
    สำนักข่าวต่างประเทศได้รายงานว่า ที่บริเวณทางตะวันออกเฉียงเหนือของรัฐเนบราสก้า สหรัฐอเมริกา ได้มีเมืองเล็กๆ อยู่เมืองหนึ่ง ที่สภาพแวดล้อมเต็มไปด้วยบ้านเรือนที่ถูกทิ้งร้าง ถนนที่เต็มไปด้วยหญ้าและต้นไม้ มีชื่อว่า โมโนวี หรือ หมู่บ้านโมโนวี
    ซึ่งจากรายงานระบุว่า ตามข้อมูลสำมะโนประชากรที่มีการสำรวจเมื่อปี 2010 ที่ผ่านมา เมืองโมโนวี มีประชากรอาศัยอยู่เพียง 1คน เท่านั้น ซึ่งก็คือ เอลซี่ ไอเลอร์ หญิงชราวัย 77 ปี
    เอลซี่ เล่าว่าภายหลังที่สามีของเธอเสียชีวิตลงในปี 2004 เธอก็ได้อาศัยอยู่เมืองนี้เพียงคนเดียวนับตั้งแต่นั้น โดยเธอได้เป็นเจ้าของธุรกิจเพียงแห่งเดียวของเมือง
    ซึ่งก็คือร้านอาหาร “โมโนวี ทาเวิร์น” โดยมีคำโฆษณาที่ติดตลกว่า “เบียร์เย็นเจี๊ยบที่สุดในเมือง” และก็แน่นอน เพราะมันเป็นสถานที่เดียวในหมู่บ้านที่ขายเบียร์นั่นเอง
    “ฉันคงจะอาศัยอยู่ที่นี่ต่อไป แม้จะต้องอยู่คนเดียวก็ตาม เพราะที่นี่คือบ้านของฉัน” เธอกล่าว
    สำหรับหมู่บ้านโมโนวีนั้น ได้ก่อตั้งขึ้นโดยผู้อพยพชาวยุโรปในปี 1902 และเมื่อย้อนไปในปี 1930 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่หมู่บ้านมีความเจริญสูงสุด โมโนวี มีประชากรทั้งสิ้น 150 คน
    อย่างไรก็ดี ประชากรก็ได้ลดลงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่นั้น หลังจากรถไฟที่วิ่งระหว่างเมืองนอร์ฟอล์ก รัฐเนบราสก้า และเมืองวินเนอร์ รัฐเซาธ์ ดาโกต้า หยุดให้บริการลงเมื่อปี 1971
    Mthai News
    เกาะติดทุกข่าวเด่น ประเด็นร้อน ในรอบวันกับ Mthainews บน facebook คลิ๊กเลย
    [​IMG]
    [​IMG]โมโนวีหมู่บ้านประหลาด

    [​IMG]เอลซี่ ไอเลอร์ ประชาชนคนเดียวที่อาศัยอยู่ในเมือง

    [​IMG]นี่ไงชื่อห้องสมุดของเมืองโมโนวี

    [​IMG]สภาพถนนของเมืองที่เต็มไปด้วยหญ้า

    [​IMG]อีกมุมหนึ่งของถนน

    [​IMG]สภาพบ้านเมืองที่ถูกปล่อยทิ้งให้รกร้าง

    [​IMG]สนามเด็กเล่นในหมู่บ้านก็ร้างเหมือนกัน

    [​IMG]ไม่มีคนเลยจริงๆ

    [​IMG]สงสัยจะเป็นโบสถ์

    [​IMG]คุณป้า เอลซี่ ไอเลอร์ กับเพื่อนๆ ที่มักแวะมาเยี่ยมเยียน

    [​IMG]ภาพถ่ายครั้งอดีตของเมืองโมโนวี

    [​IMG]นี่ไงคำโฆษณาติดตลกของร้านป้าเอลซี่ ไอเลอร์



    <LI class=news_src_item>[​IMG]
     
  11. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>น้ำท่วมอำเภอลี้จมบาดาล </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>
    อ.ลี้ จมบาดาล น้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน ชาวบ้านกว่า 1 พันครอบครัวเดือดร้อน เทศบาลส่งเรือท้อนแบนเข้าช่วย


    เมื่อวันที่ 10 พ.ค. ผู้สื่อข่าวจังหวัดลำพูน รายงานว่า ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ได้เกิดฝนตกหนัก ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันใน 4 ตำบล ของ อ.ลี้ จ.ลำพูน ประกอบด้วย ต.ลี้ 7 หมู่บ้าน ต.ป่าไผ่ 10 หมู่บ้าน ต.ศรีวิชัย 8 หมู่บ้าน และ ต.แม่ตืน 9 หมู่บ้าน ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้น ที่ตำบลป่าไผ่พบว่า มีจำนวน 10 หมู่บ้าน ที่ได้รับความเสียหาย ผู้ประสบภัยประมาณ 1,200 ครัวเรือน ขณะนี้สถานการณ์รุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ

    ด้าน นายชุมพร อินต๊ะเทพ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลำพูน ได้นำทีมบรรเทาสาธารณภัยจากเทศบาล นำเรือท้องแบนไปช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว ส่วน อปท.ในเขตพื้นที่ อ.ลี้ ต่างก็ได้เข้าให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในด้านอาหาร น้ำดื่มบ้างแล้ว พร้อมทั้งเตรียมการช่วยเหลือผู้ที่ติดในพื้นที่ประสบภัย พร้อมทั้งผู้นำหมู่บ้านได้คอยประสานการช่วยเหลือราษฎรอย่างใกล้ชิด.





    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  12. doodee1

    doodee1 คนละพวก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,718
    วันที่ 09 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 เวลา 21:15 น. ข่าวสดออนไลน์


    ค่ายเกมมะกัน จำลองฉากสังหารบิน ลาเดน

    <STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>
    เมื่อ 9 พ.ค. สำนักข่าวซิดนีย์ มอร์นนิ่ง เฮอรัลด์ รายงานว่า บริษัทพัฒนาเกมสัญชาติสหรัฐ ชื่อ ‘คูมา เรียลลิตี้ เกมส์’ สร้างฉากในเกม ‘คูมา วอร์’ ซึ่งมีเนื้อหาจำลองเหตุการณ์การบุกจู่โจมบิน ลาเดน ของหน่วยซีล สหรัฐ อีกทั้งยังจำลองสภาพแวดล้อมในฉากมาจากสถานที่จริงทั้งหมด โดยเกมดังกล่าวมักจำลองฉากจากเหตุการณ์ทางทหารในโลกจริงมาสู่เกมเสมอ
    อย่างไรก็ตาม ในเกมจะแตกต่างจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ตรงที่บิน ลาเดนจับอาวุธยิงตอบโต้ผู้เล่นได้ ขณะที่ของจริงผู้นำอัลไคด้าถูกยิงตายแบบไร้อาวุธ<EMBED src=http://www.youtube.com/v/TriSrIBe1Dg?version=3 width=640 height=390 type=application/x-shockwave-flash allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always">


    [​IMG]


    ดาวเคราะห์น้อย'YU55' มหันตภัยใกล้(ชน)โลกมนุษย์



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>ลือกันกระหึ่มโลกไซเบอร์ หลังจากสื่อบางสื่อของไทยแปลข่าวต่างประเทศผิด หรือตั้งใจนำเสนอหัวข่าวแบบ "บิดประเด็น" เพื่อสร้างกระแสหวือหวาก็ไม่ทราบได้ ว่า "ดาวเคราะห์น้อย YU55 จะพุ่งชนโลกปลายปีนี้!"

    ส่วนข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์-ดาราศาสตร์จะเป็นเช่นไร "ข่าวสดหลาก&หลาย" มีคำตอบ




    จุดเริ่มต้นของกระแสข่าวผิดๆ ในเมืองไทยว่า ดาวเคราะห์น้อย "YU55" (วายยู 55) จะพุ่งชนโลกนั้นเกิดขึ้น หลังจากสื่อต่างประเทศหลายสำนักรายงานข่าวไปทั่วโลกในช่วงต้นเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ว่า

    นายดอน ยีโอแมนส์ โฆษกสำนักงานอวกาศแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา หรือ "นาซ่า" ในฐานะผู้จัดการโครงการติดตามวัตถุใกล้โลก ออกมาแถลงข่าว ว่า

    ในวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ.2554 นี้ ดาวเคราะห์น้อยชื่อ "YU55" จะโคจร เข้ามาใกล้โลกมากที่สุด ในระยะห่างกันประมาณ 325,000 กิโลเมตร

    ซึ่งแม้จะห่างกันเป็นแสนๆ กิโลฯ แต่ในทางดาราศาสตร์ถือว่า "YU55" เป็นวัตถุในอวกาศที่โคจรมาเฉียดใกล้โลกมนุษย์มากที่สุดในประวัติศาสตร์

    และนับจากปัจจุบันไปจนถึงปี พ.ศ.2571 หรืออีก 17 ปีข้างหน้าก็จะยังไม่มีดาวเคราะห์น้อยดวงใดพุ่งมาใกล้โลกเท่านี้

    ด้วยข้อมูลดังกล่าว จึงมีสื่อไทยบางสื่อเอาไปโหมกระพือว่า ดาว "YU55" จะพุ่งเข้าใกล้จนถึงขั้น "ชนโลก" ทั้งๆ ที่ในเนื้อแถลงการณ์ของนาซ่านั้น นายดอนย้ำชัดว่า "แรงดึงดูดของโลกเราที่จะกระทำต่อ YU55 นั้นน้อยเอามากๆ"

    หมายความว่าแรงดึงดูดโลกจะไม่ฉุดเอา YU55 เข้ามาชนโลกนั่นเอง

    "YU55 โคจรผ่านมาทางดวงอาทิตย์ทุกๆ 14 ปี โดยครั้งนี้จะไม่ส่งผลคุกคามใดๆ และจะไม่พุ่งชนโลกไปอีกอย่างน้อยภายในรอบ 100 ปีข้างหน้า" นายดอน แถลงที่สำนักงานห้องปฏิบัติการเจพีแอลของนาซ่า ในเมืองพาซาดีน่า สหรัฐ




    สําหรับข้อมูลทั่วไปของ "YU55" มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง ประมาณ 400 เมตร จัดเป็นกลุ่มหินในอวกาศขนาดใหญ่ที่สุดและโคจรมาใกล้โลก มากที่สุดเท่าที่เคยค้นพบ <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=right border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    โดยผู้ค้นพบ "YU55" เป็นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.2005 หรือ พ.ศ.2548 คือ "โรเบิร์ต แม็กมิแลน" หัวหน้าโครงการสำรวจอวกาศประจำมหาวิทยาลัยรัฐอริโซนา สหรัฐ ซึ่งได้รับทุนสนับ สนุนจากนาซ่า

    ต่อมาในเดือนเมษายน 2553 "ไมก์ โนแลน" และทีมผู้เชี่ยวชาญดาราศาสตร์ประจำหอสังเกตการณ์อวกาศ "เอเรซิโบ" ในเปอร์โตริโก สามารถบันทึกภาพแบบเบลอๆ ของ "YU55" เอาไว้ได้ขณะเดินทางล่องลอยอยู่ในห้วงอวกาศ ห่างจากโลกราว 2.3 ล้านกิโลเมตร

    เนื่องจากดาวเคราะห์น้อยดวงนี้มีขนาดใหญ่ นักดาราศาสตร์จึงจัดไว้ในกลุ่ม "เป็นอันตรายต่อโลกมนุษย์" โดยคำนวณกันออกมาว่า

    ถ้าอีกร้อยปีข้างหน้า "YU55" เกิดมีวงโคจรพุ่งเข้ามาชนโลกจริง

    อานุภาพทำลายล้างจะสูงพอๆ กับการที่โลกถูก "ระเบิดนิวเคลียร์" 65,000 ลูกถล่มใส่!

    อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการค้นพบ "YU55" รวมถึงรู้เส้นทางโคจรของมันแล้ว ก็ช่วยให้การ "วางแผนรับมือ" ทำได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

    โดยระหว่างที่ "YU55" โคจรมาใกล้โลกในเดือน พ.ย.2554

    ทางนาซ่า และนักดาราศาสตร์ทั่วโลกจะใช้หอสังเกตการณ์อวกาศ และหอดูดาวต่างๆ ติดตามความเคลื่อนไหวและเก็บข้อ มูลลักษณะของดาวเคราะห์น้อยอันตรายดวงนี้เอาไว้ให้ได้มากที่สุด

    "เมื่อ YU55 ผ่านโลกปลายปีนี้ เราวางแผนจะจับภาพที่ความละเอียด ระดับใกล้กับพื้นผิวราว 4 เมตร และด้วยประสิทธิภาพของเครือข่ายสำรวจอวกาศที่โกลด์สโตน รัฐ แคลิฟอร์เนีย ซึ่งเพิ่งได้รับการปรับปรุงอุปกรณ์หลายชิ้น ทำให้เราเชื่อมั่นว่าเรดาร์ที่โกลด์สโตนจะจับภาพรายละเอียดของดาวไว้ได้" แลนซ์ เบนเนอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเรดาร์สำรวจอวกาศของห้องปฏิบัติการเจพีแอล กล่าว

    ทั้งนี้ วิธีการทำงานของระบบ "เรดาร์สำรวจอวกาศ" ทำโดยการยิงสัญญาณคลื่นไมโครเวฟกำลังสูงออกไปจาก "เสาส่งสัญญาณ" ขนาดใหญ่ที่มีหน้าตาคล้ายจานรับส่งสัญญาณดาวเทียม

    และความแรงของคลื่นไมโครเวฟที่ยิงออกไปนั้น มีรัศมีไกลครอบคลุมไปถึงดวงจันทร์บริวารของ "ดาวเสาร์" กันเลยทีเดียว <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    จากนั้นเมื่อคลื่นไปกระทบกับวัตถุเป้าหมายก็จะสะท้อนสัญญาณกลับมายัง "สถานีภาคพื้นดิน" เพื่อแปลค่าออกมาเป็นภาพเรดาร์ 3 มิติของวัตถุเป้าหมาย



    ส่วนวิธีการ "ทำลาย" หรือ "สกัด" ดาวเคราะห์น้อยไม่ให้พุ่งเข้ามาชนโลกจนเกิดหายนะ เบื้องต้นในวงการวิทยาศาสตร์ตั้งสมมติฐาน-ทฤษฎีกันหลายรูปแบบ

    แต่ที่ได้รับการพูดถึงมากที่สุดมี 3 วิธีดังนี้ ประกอบด้วย

    1.ใช้อาวุธนิวเคลียร์ยิงใส่เพื่อเปลี่ยนวิถีโคจร แต่มีข้อกังวลว่าระเบิดนิวเคลียร์จะกลับกลายเป็นว่าทำให้ดาวเคราะห์น้อยแตกตัวกลายเป็นชิ้นเล็กลง แล้วพุ่งชนพื้นโลกตรงจุดอื่นๆ แทนหรือไม่

    2.ส่งฝูงยานอวกาศออกไปนอกโลก แต่ละลำติดตั้งกระจกสะท้อนแสงอาทิตย์ปรับมุมองศาให้สะท้อนความร้อนจากแสงอาทิตย์ไปยังพื้นผิวดาวเคราะห์น้อย เพื่อให้ก๊าซที่ผุดออกจากพื้นผิวเปลี่ยนวงโคจร

    3.ส่งยานอวกาศพุ่งชนเพื่อเปลี่ยนวิถีโคจร ซึ่งวิธีนี้สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายน้อย แต่ความสำเร็จยังไม่เป็นที่แน่ชัด


    ข้อมูล : นาซ่า, เดลี่มิเรอร์, เดลี่เมล์, ซินหัว, สเปซดอตคอม



    ไขข้อเท็จจริง

    ลือ'YU55'ชนโลก


    สมาคมดาราศาสตร์ไทย โดย วรเชษฐ์ บุญปลอด ตอบคำถาม-ข้อสงสัยเกี่ยวกับข่าวลือกระหึ่มโลก กรณีดาวเคราะห์น้อย 'YU55' จะพุ่งชนโลกในวันอังคารที่ 8 พ.ย. 2554 ดังนี้

    ถาม : 2005 YU55 คืออะไร

    ตอบ
    : 2005 YU55 (2005 วายยู 55) หรือบางคนอาจเรียกสั้นๆ ว่า YU55 (วายยู 55) เป็นชื่อวัตถุดวงหนึ่งที่ค้นพบเมื่อ พ.ศ. 2548 (ค.ศ.2005) จัดเป็นดาวเคราะห์น้อย ไม่ใช่ดาวเคราะห์ ปัจจุบันระบบสุริยะของเรามีดาวเคราะห์ 8 ดวงเท่านั้น

    ถาม : มีขนาดใหญ่แค่ไหน

    ตอบ
    : คาดว่ามีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 400 เมตร

    ถาม : 2005 YU55 จะพุ่งชนโลกในวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 จริงหรือไม่

    ตอบ
    : ไม่จริง เพราะแค่ผ่านใกล้โลกโดยใกล้ที่สุดที่ระยะห่างประมาณ 325,100 กิโลเมตร และผ่านใกล้ดวงจันทร์ที่ระยะห่างประมาณ 239,700 กิโลเมตร (ดวงจันทร์อยู่ห่างโลกเฉลี่ย 384,400 กิโลเมตร) ขณะใกล้โลกที่สุด ตรงกับวันพุธที่ 9 พฤศจิกายน 2554 เวลา 06.28 น. ตามเวลาประเทศไทย

    ถาม : การเข้าใกล้โลกของ YU55 จะทำให้โลกเกิดภัยพิบัติหรือไม่

    ตอบ
    : ไม่ มวลของวัตถุนี้ที่ระยะขนาดนี้มีแรงไม่มากพอที่จะส่งอิทธิพลต่อแผ่นดินไหว หรือแม้แต่น้ำขึ้น-ลง

    ถาม : ขณะผ่านใกล้โลก เราจะเห็นด้วยตาเปล่าหรือไม่

    ตอบ
    : ไม่ มันสว่างน้อยเกินกว่าที่ตาเปล่าของเราจะมองเห็น จำเป็นต้องใช้กล้องโทรทรรศน์ส่องดู โดยเห็นเป็นจุดคล้ายดาวทั่วไป แต่เคลื่อนที่ไปท่ามกลางดาวฤกษ์ฉากหลัง ขณะใกล้โลกที่สุดในเดือนพฤศจิกายน 2554 มันจะสว่างที่สุดด้วยโชติมาตร 11 หรือจางกว่าดาวจางที่สุดที่ตาเปล่าจะเห็นได้ประมาณ 60 เท่า

    ถาม : นอกจากโลกแล้ว YU55 ผ่านใกล้ดาวเคราะห์ดวงอื่นหรือไม่

    ตอบ
    : YU55 โคจรรอบดวงอาทิตย์โดยมีระนาบวงโคจรใกล้เคียงกับโลก ประ กอบกับวงโคจรที่รีมาก ทำให้มันมีโอกาสผ่านใกล้ดาวศุกร์และดาวอังคาร

    ถาม : แล้วมีโอกาสที่ YU55 จะชนโลกหรือไม่

    ตอบ
    : การคำนวณขององค์การนาซ่า ไม่มีโอกาสชนโลกในระยะ 100 ปีนับ จากนี้

    ส่วนดาวเคราะห์น้อย หรือ asteroid คือ วัตถุขนาดเล็กที่อยู่ในระบบสุริยะ มีขนาดตั้งแต่ไม่กี่สิบเมตรจนถึงหลายร้อยกิโลเมตร

    ดาวเคราะห์น้อยที่ใหญ่ที่สุดคือ 'เซเรส' มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1,000 กิโลเมตร เชื่อว่าดาวเคราะห์น้อยที่มีขนาดใหญ่กว่า 1.6 กิโลเมตรอาจมีมากถึงกว่า 500,000 ดวง แม้ว่าดาวเคราะห์น้อยจะมีอยู่เป็น จำนวนมาก แต่ถ้ารวมมวลดาวเคราะห์น้อยเข้าทั้งหมด อาจมีมวลเพียงประมาณหนึ่งในพันของมวลโลกเท่านั้น

    ดาวเคราะห์น้อยส่วนใหญ่โคจรอยู่ในแถบดาวเคราะห์น้อย ซึ่งอยู่ระหว่างวงโคจรของดาวอังคารกับดาวพฤหัสบดี

    หน่วยซีล

    คอลัมน์ที่ 13


    ปฏิบัติการสะท้านโลก จับตาย โอซามา บิน ลาเดน หัว หน้าใหญ่กลุ่มก่อการร้ายอัลไคด้า สิ้นชื่อคาเซฟเฮาส์ ในประเทศปากีสถาน เป็นผลงาน 'หน่วยซีล' ของนาวิกโยธิน กองทัพเรือสหรัฐอเมริกา

    ชื่อ 'หน่วยซีล' โด่งดังไปทั่วโลกอีกครั้ง

    สำหรับกองทัพเรือไทย มี 'หน่วยซีล' เป็นกองกำลังปฏิบัติการพิเศษ ที่ทรงประสิทธิภาพเช่นกัน

    หน่วยซีล (SEAL) ถือกำเนิดขึ้นช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

    เป็นหน่วยทหารที่ขึ้นชื่อว่า ฝึกหนักที่สุด ฝึกนานที่สุด ปฏิบัติภารกิจยากที่สุด และเป็นหน่วยรบพิเศษที่มีประสิทธิ ภาพมากที่สุด

    SEAL เป็นคำย่อมาจาก Sea-Air-Land แสดงถึงการปฏิบัติภารกิจได้ทั้งในทะเล ในอากาศ และบนบก

    วันที่ 13 พ.ค.2495 เป็นวันสถาปนาหน่วย SEAL ของไทย

    เมื่อกองทัพเรือส่งนายทหารสัญญาบัตรและประทวน 7 นาย ไปเรียนหลักสูตรนักทำลายใต้น้ำจู่โจมที่สหรัฐอเมริกา

    ก่อนจะจัดตั้งหน่วยทำลายใต้น้ำจู่โจม ขึ้นกับกองเรือยุทธการในปี 2499 ก่อนปรับปรุงให้เป็นหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ ขึ้นกับกองเรือยุทธการ ตั้งแต่ปี 2534

    การฝึกหนักที่สุดในบรรดาหน่วยรบพิเศษของทุกเหล่าทัพ เพื่อรองรับภารกิจอันตรายและกดดันทั้งร่างกายและจิตใจมากที่สุด มีดังนี้

    1.การลาดตระเวนทางเรือขนาดเล็ก

    2.การรบในป่า การรบแบบกองโจร

    3.การแทรกซึมทางน้ำ โดยเรือเร็วเข้าโจมตีที่หมาย

    4.การดำน้ำเข้าสู่ที่หมาย เพื่อยึดหรือก่อวินาศกรรม

    5.การหาข่าวทางลับ

    6.การโดดร่มเข้าที่หมายเพื่อปฏิบัติกิจ

    7.การรบในเมือง

    8.การต่อต้านก่อการร้ายสากล

    9.ปฏิบัติภารกิจที่กองเรือยุทธการ และกองทัพเรือมอบหมาย

    ใช้เวลา 8-11 เดือน แต่ที่หนักหน่วงที่สุดคือ 'สัปดาห์นรก' หรือ 'Hell Week' ที่จะมาถึงในสัปดาห์ที่ 13 ของการฝึก

    เมื่อผู้เข้ารับการฝึกจะต้องฝึกต่อเนื่องกัน 5 วัน 120 ช.ม. โดยไม่หยุดพัก ไม่เข้านอน ไม่พักผ่อน

    กฎการสอบตกของสัปดาห์นรกมี 2 ข้อ 1.เมื่อตีระฆังลาออก 2.เมื่อต้องพักฝึกเกิน 1 ช.ม.

    ตลอดการฝึกต้องแบกเรือยางหนักนับ 100 ก.ก. ถือไม้พาย ถือท่อนซุง ทำภารกิจต่างๆ ที่ได้รับตลอดเวลา

    ช่วงท้ายๆ ของการฝึกมักจะอยู่ในสภาพร่างกายอ่อนเปลี้ย สมองเบลอ

    หลังจากได้พักเมื่อพ้นสัปดาห์นรก จะเป็นการฝึกยุทธวิธีต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้

    เช่น วิชาวัตถุระเบิด วิชาดำน้ำทางยุทธวิธี การฝึกภาคทะเล (ว่ายน้ำกว่า 10 ไมล์) การฝึกภาคป่า การฝึกดำรงชีวิต (ปล่อยเกาะ 2 วัน หากินเอง)

    รวมถึงการฝึกสุดท้ายคือ ปัญหา 72 ช.ม. ซึ่งทุกคนจะถูกจับเป็นเชลย ผ่านกระบวนการรีดข้อมูลความลับสุดโหด

    อุปกรณ์และอาวุธของ SEAL ส่วนใหญ่ใช้สำหรับหน่วยปฏิบัติการขนาดเล็ก เช่น เรือเร็ว เรือยาง เฮลิคอปเตอร์ส่งทางอากาศ หรือเรือระบายพล

    ส่วนอาวุธปืนจะมีทั้งปืนพกสั้น ปืนไรเฟิล ปืนกลมือ ปืนลูกซอง ปืนซุ่มยิง แล้วแต่ภารกิจ

    ผู้เรียนจนจบหลักสูตร และมีความสามารถดีเด่น จะได้รับทุนไปฝึกกับ US Navy SEALS ทุกปี ร่วมกับ SEAL จากชาติพันธมิตรอื่นๆ ของสหรัฐ

    แต่ละปีมีผู้สำเร็จหลักสูตรเพียงร้อยละ 20-30 ของจำนวนผู้เข้ารับการฝึกเท่านั้น

    ปัจจุบันหน่วยซีลของไทยประกอบด้วยข้าราชการของ กองทัพเรือทั้งชั้นประทวนและสัญญาบัตรที่สมัครใจเข้ารับการฝึก หลังการฝึกจะประจำอยู่หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ

    ส่วนจากเหล่าทัพอื่นและตำรวจที่เข้ารับการฝึกก็จะกลับหน่วยต้นสังกัด

    ภารกิจหน่วย SEAL ของไทย เหมือนกับหน่วย SEAL ทั่วโลก

    ภารกิจสำคัญในปัจจุบันคือปฏิบัติหน้าที่ในจังหวัดชาย แดนภาคใต้

    และภารกิจลับพิเศษตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาเพื่อปกป้องรักษาอธิปไตยและความมั่นคงของประเทศ


    รัฐสวัสดิการ

    รู้ไปโม้ด
    nachart@yahoo.com


    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>อยากทราบข้อมูลของคำว่ารัฐสวัสดิการ มีที่มาอย่างไร

    manas

    ตอบ manas


    ดร.จตุรงค์ บุณยรัตนสุนทร มหา วิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ อธิบายไว้ว่า รัฐสวัสดิการ (Welfare State) ในความหมายรวบยอดหมายถึง รัฐหรือประเทศที่มีการจัดระบบสวัสดิการสังคมอย่างทั่วด้านให้แก่ทุกคนในสังคมอย่างถ้วนหน้า (Welfare for All) สวัสดิการต่างๆ ที่จัดขึ้นนั้นดำเนินงานโดยรัฐทั้งหมด โดยรัฐสวัสดิการมีลักษณะทั่วไป 3 ประการ คือ 1.รัฐประกันรายได้ขั้นต่ำของทุกคนในสังคม โดยไม่คำนึงว่าคนๆ นั้นจะเป็นใคร ทำงานอะไร มีทรัพย์สินมากน้อยแค่ไหน 2.สร้างความมั่นคงในชีวิตให้แก่ทุกคน ทุกครัวเรือน โดยให้มีหลักประกันทางรายได้และอยู่รอดปลอดภัยจากภาวะวิกฤตต่างๆ 3.ให้พลเมืองทุกคน โดยไม่เลือกกลุ่มคน ชนชั้นและสถานภาพ ได้รับบริการสังคม (social service) อย่างเสมอหน้ากัน ด้วยมาตรฐานที่ดีที่สุดเท่าเทียมกัน <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=right border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    รัฐสวัสดิการถูกสร้างสรรค์ขึ้นในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ในประเทศอังกฤษ สวีเดน นอร์เวย์ เดนมาร์ก เนเธอร์แลนด์ เยอรมนี ด้วยนโยบายสังคมของพรรคแรงงาน พรรคสังคมประชาธิปไตย และพรรคสังคมนิยมในยุโรป เนื่องจากว่าพรรคเหล่านี้เป็นตัว แทนของคนชั้นล่างที่เป็นมนุษย์ค่าจ้าง และคนชั้นกลาง ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของสังคมอุตสาหกรรม พรรคเหล่านี้จึงมีนโยบายเก็บภาษีก้าวหน้า เก็บภาษีทรัพย์สินและภาษีมรดก เพื่อให้รัฐบาลมีรายได้มากๆ แล้วนำรายได้นั้นมาจัดสรรเป็นสวัสดิการสังคมอย่างทั่วถึง แต่นโยบายภาษีดังกล่าวกระทบต่อความมั่นคงของคนชั้นสูงและชนชั้นนายทุน นโยบายสร้างรัฐสวัสดิการจึงไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในยุคที่อำนาจรัฐอยู่ภายใต้การยึดครองของพรรคนายทุนหรือพรรคของพวกขุนนาง

    รัฐสวัสดิการไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ ยกตัวอย่างสวีเดน มีสวัสดิการสังคมประเภทช่วยเหลือเฉพาะคนยากจน ตั้งแต่ ค.ศ.1847 กระแสสังคมนิยมกับการเกิดพรรคสังคมประชาธิปไตย ในปี 1889 ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระบบสวัสดิการสังคมให้ครอบคลุมประชาชนมากขึ้น กระทั่ง ค.ศ.1930 มีการปฏิรูประบบสวัสดิการสังคมครั้งใหญ่ โดยมีการถกเถียงกันใน 2 เรื่อง คือ 1.จะเป็นสวัสดิการแบบถ้วนหน้า (จนหรือรวยได้รับสวัสดิการเหมือนกัน) หรือแบบให้เฉพาะคนจน (ต้องพิสูจน์ว่าจนถึงจะได้) และ 2.รัฐจะหาเงินจากไหนมาใช้จ่ายสวัสดิการสังคม จากรายได้ภาษีอากร หรือจากการสมทบเงินของผู้ได้ประโยชน์ (เช่นระบบประกันสังคมของไทยในปัจจุบัน)

    ในที่สุดปี ค.ศ.1945 ได้มีการสำรวจประชามติ ซึ่งพบว่าคนส่วน ใหญ่ต้องการสวัสดิการสังคมแบบถ้วนหน้า และปีต่อมาก็เป็นจุดเปลี่ยนประเทศเข้าสู่รัฐสวัสดิการ แบบที่คนได้รับสวัสดิการสังคมถ้วนหน้า อย่างดีเท่าเทียมกัน โดยไม่ต้องสมทบเงิน เพราะรัฐใช้รายได้จากภาษีอากร (เก็บในอัตราที่สูง) พรรคสังคมประชาธิปไตยได้ครองความเป็นรัฐบาลตั้งแต่ปี ค.ศ.1936 ถึง 1976 โดยไม่มีพรรคอื่นมาคั่นกลาง

    ส่วนอังกฤษ หลังจากเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาระหว่างแบบถ้วนหน้าไม่สมทบเงิน กับแบบสมทบเงิน ช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ในที่สุดก็สรุปว่า รัฐและประชาชนต้องร่วมกันรับผิดชอบสวัสดิการสังคม โดยรัฐช่วยจัดการให้มีสวัสดิการขั้นต่ำอัตราเดียว ประชาชนร่วมกันลงขันแบบอัตราเดียว ถ้าใครต้องการมีกินมีใช้มากกว่าขั้นต่ำก็ต้องช่วยตัวเอง แต่ถ้าเป็นคนจนรัฐก็ช่วยเหลือเพิ่มเติมแบบให้เปล่า อย่างไรก็ตาม รัฐบาลซึ่งมาจากพรรคอนุรักษนิยมกลับประกาศว่าจะยังไม่ดำเนินการตามแนวทางนี้ จนกระทั่งการเลือกตั้ง ค.ศ.1945 พรรคแรงงานชนะการเลือกตั้ง จึงได้ออกกฎหมายเกี่ยวกับสวัสดิการสังคมทั้งหมด 8 ฉบับ ให้สวัสดิการประชาชนตั้งแต่เกิดจนตาย

    ทางเลือกการศึกษาใหม่ 'วิทยาลัยแม่ชี'เรียนรู้คู่คุณธรรม

    รายงานพิเศษ


    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>มหาปชาบดีเถรีวิทยาลัย ในพระสังฆราชูปถัมภ์ (มปถ.) หรือ "วิทยาลัยแม่ชี" ภายใต้การบริหารงานของมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย เกิดขึ้นเพื่อมุ่งยกระดับแม่ชีไทย สู่การสร้างหญิงผู้มีธรรมให้สามารถเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาสังคมไทย

    วิทยาลัยบัณฑิตสตรีวิถีพุทธแห่งแรกของไทย ก่อตั้งมากว่า 13 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ.2541 โดยสถาบันแม่ชีไทย สมาคมส่งเสริมสถาน ภาพสตรี และมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ซึ่งในช่วงเริ่มต้นได้ใช้บ้านพักฉุกเฉินเป็นที่เรียน หลังจากนั้นมีผู้บริจาคที่ดิน จึงเริ่มมีการสร้างเป็นวิทยาเขตปัจจุบัน ณ ต.ภูหลวง อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ขนาด 77 ไร่ ซึ่งมีความพร้อมทั้งสถานที่ในการเรียนการสอน หอพักนักศึกษา อาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิ

    การจัดการศึกษาที่เป็นระบบเพื่อเป็นการเรียนรู้คุณธรรมควบคู่วิชาการ โดยมี พระเมธีธรรมสาร เป็นผอ.วิทยาลัย และร่วมบริหารโดยคณะแม่ชี เปิดสอนในระดับปริญญาตรี ด้วยระบบการเรียนการสอนที่มีคุณภาพมาตรฐานเช่นเดียวกับสถาบันการศึกษาอื่น <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=right border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    การเปิดรับเฉพาะนักศึกษาที่เป็นแม่ชีและสตรีทั่วไปที่จบการศึกษา ป.ธ.5, จบชั้น ม.6 หรือเทียบเท่า ไม่จำกัดอายุ เข้าศึกษาแบบประจำและไปกลับ โดยผู้สำเร็จการศึกษาจะมีวุฒิเทียบเท่าปริญญาตรี คณะวิชาพุทธศาสนา

    ขณะนี้มีนักศึกษาประมาณ 80 คน เปิดสอน 2 คณะคือ คณะศึกษาและปรัชญา สาขาวิชาเอกพุทธศาสตร์ และคณะศึกษาศาสตร์ วิชาเอกการสอนภาษาอังกฤษ

    โดยในปี 2554 จะเริ่มเปิดรับนักศึกษาใหม่ในคณะศึกษาศาสตร์ วิชาเอกการสอนพระพุทธศาสนา

    นอกเหนือจากกิจวัตรการทำวัตรเช้า-เย็น และเรียนตามปกติแล้ว มีการแต่งตั้งประธานนักศึกษา และแบ่งนักศึกษาเป็น 5 กลุ่ม รับผิดชอบต่อชุมชนวิทยาลัยของตนเอง ได้แก่ กลุ่มบิณฑบาต กลุ่มดูแลรักษาน้ำ กลุ่มอาหาร กลุ่มสันทนาการ และ กลุ่มจัดการขยะ

    นักศึกษามาจากหลากหลายพื้นฐานและประสบการณ์ชีวิต บางคนตัดสินใจมาเรียนเอง บางคนผู้ปกครองเห็นด้วย และบางคนผู้ปกครองยังไม่เข้าใจในช่วงเริ่มต้น แต่ทุกคนล้วนเป็นผู้สนใจในธรรมะและพุทธศาสนาทั้งสิ้น

    แม่ชี ดร.ไพเราะ ทิพยทัศน์ อดีตอาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหา วิทยาลัย อาจารย์พิเศษของมหาปชาบดีเถรีวิทยาลัย กล่าวว่า สังคมปัจจุบันมีแต่เรื่องกระแสที่รุนแรง การมาเรียนที่นี่ทำให้เรามีธรรมวินัยที่คอยช่วยกั้นกระแส พ้นจากกระแสด้วยปัญญาธรรม

    แม่ชี จิดาภา ศรีสุข ศิษย์เก่ารุ่นที่ 3 เจ้าหน้าที่มหาปชาบดีเถรีวิทยาลัย เล่าให้ฟังว่า จากการออกหาตาน้ำบนเขาที่สูงขึ้นเพื่อสร้างระบบเก็บกัก กรองน้ำ จัดการดูแลเองทั้งระบบ วันนี้เราไม่ขาดแคลนน้ำแล้ว ซึ่งที่แห่งนี้จะปลูกฝังให้ทุกคนใช้วัตถุดิบธรรม ชาติโดยไม่ต้องซื้อ

    คุณลักขณา เงางาม ศิษย์เก่ารุ่นที่ 7 ครูพี่เลี้ยง โรงเรียนทอสี บอกว่า "ตอนเข้ามาเรียนครั้งแรกไม่ได้บอกแม่ เพราะแม่ไม่เห็นด้วย เมื่อมาเรียนเหมือนได้ 2 เด้ง ได้ทั้งเรียนหนังสือและได้ธรรมะเข้ามาในชีวิต สามารถนำเรื่องอิทธิบาท 4 ไปปรับใช้และแก้ปัญหาในการทำงานได้ และแม่เข้าใจแล้ว"

    มหาปชาบดีเถรีวิทยาลัย กำลังเปิดรับสมัครนักศึกษารุ่นใหม่ ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 พ.ค. จำนวน 200 คน ค่าเรียนเดือนละ 360 บาท สอบถามข้อมูล โทร. 0-4424-9398-9

    "เค-ป๊อป"แรงบุกถิ่นกบฏอินเดีย



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>[​IMG]
    เกาหลีบุก - เจ้าของร้านคุยกับลูกค้าที่ทำผมทรงเกาหลี ในรัฐมณีปุระ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย พื้นที่ซึ่งกบฏแบ่งแยกดินแดนห้ามวัฒนธรรมของอินเดียเข้ามา ปรากฏว่าโดนกระแสเค-ป๊อปเข้าไปเต็มๆ สาวอินเดียในพื้นที่นี้ (ภาพเล็ก) คลั่งเทรนด์เกาหลีเช่นกัน (เอเอฟพี)

    </TD></TR></TBODY></TABLE>เอเอฟพีรายงานเมื่อ 9 พ.ค. ว่า คลื่นวัฒนธรรมบันเทิงเกาหลี หรือ "เค-ป๊อป" บุกเข้าอินเดียได้ ในพื้นที่ห่างไกลอย่างรัฐมณีปุระ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หลังจากกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนสั่งแบนภาพยนตร์บอลลีวู้ดของอินเดียและแบนรายการทีวีฮินดูเพื่อปกป้องวัฒนธรรมดั้งเดิม ตั้งแต่ปี 2543

    ในตลาดเมืองอิมผาล เมืองหลวงของรัฐมณีปุระ ซึ่งอยู่ห่างจากเกาหลีถึง 3,200 กิโลเมตร ร้านขายดีวีดีเต็มไปด้วยซีรีส์เกาหลีที่ใช้ซับไตเติ้ลภาษาอังกฤษหลุดเข้ามาจากพม่า วางขายไม่ถึงแผ่นละ 30 บาท ส่วนซีดีเพลงมีแต่นักร้องป๊อปเกาหลี โดยเฉพาะวงบอยแบนด์ ขณะที่ตามร้านตัดผมแปะโปสเตอร์ทรงผมดารานักร้องคนดังเกาหลีไว้เต็มผนัง พร้อมมีแบบผมสไตล์เกาหลี ให้ลูกค้าเลือกตัด ซึ่งนิยมมากในกลุ่มวัยรุ่นทั้งหญิงชาย <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=right border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>[​IMG]
    "เค-ป๊อป"แรง - เด็กนักเรียนชาวอินเดีย นอนดูละครเกาหลี ที่เมืองมณีปุระ ประเทศอินเดีย พื้นที่ซึ่งกบฏแบ่งแยกดินแดนห้ามวัฒนธรรมอินเดียเข้ามา แต่เปิดรับกระแสเกาหลีที่ฮิตอย่างแพร่หลายในพื้นที่ โดยเฉพาะกับทรงผมของนักเรียนชาย (ภาพเล็ก) เมื่อ 9 พ.ค. (เอเอฟพี)

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    สำหรับแฟชั่น วัยรุ่นมณีปุระนิยมไปเดินที่ตลาดคัมภีร์ ตลาดเสื้อผ้าในตึก 3 ชั้น มีร้านบูติกเล็กๆ รวมกันอยู่หลายร้าน เพื่อหาซื้อกางเกงยีนส์รัดติ้วกับเสื้อผ้าสไตล์เกาหลี แม้แต่ภาษาเกาหลีอย่าง "อันยองฮาเซโย" แปลว่า สวัสดี "คัมซาฮัมนีดา" ขอบคุณ และ "ซารางเฮโย" ฉันรักคุณ ก็กลายเป็นคำพูดติดปากของวัยรุ่น โดย อัคชายา ลองจัม นักเรียนสาววัย 14 ปี แฟนคลับวง "บิ๊กแบง" และนักร้องหนุ่ม "จี-ดราก้อน" กล่าวว่า "หลังเลิกเรียน พวกหนูจะฝึกพูดภาษาเกาหลีกัน แล้วก็คุยกันถึงเกาหลี ที่นั่นน่าจะสนุกมาก มีแต่คนหน้าตาดี ผู้หญิงก็สวย ผู้ชายก็หล่อ"

    ด้านโซมา ลิชราม นักศึกษาวัย 19 ปี ที่รับงานตัวประกอบละคร แฟนคลับของพระเอกหนุ่ม ลี มินโฮ กล่าวว่า "ดูละครเกาหลีทำให้หลุดพ้นไปจากชีวิตจริง ที่นี่เราไม่มีน้ำ ไฟฟ้า ถนน แต่ที่เกาหลีดูสมบูรณ์แบบไปหมด หนูฝันจะได้ไปเกาหลี ไปเป็นนักแสดงที่นั่น"

    ทั้งนี้ ปัจจุบันสถานีดาวเทียมซื้อสัญญาณช่องทีวีอารีรัง ส่งตรงจากกรุงโซล เป็นภาคภาษาอังกฤษฉายตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงช่องเคบีเอส เวิลด์ เข้ามาเสิร์ฟบันเทิงเกาหลีถึงทุกบ้าน

    โค้ชยูโดโชว์รูปเคยสอน"บินลาเดน"



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>เมื่อ 9 พ.ค. ไชน่าเดลี่รายงานว่า นายจิมมี หวู ผู้ฝึกสอนยูโดชาวไต้หวัน เผยว่า เคยสอนวิชายูโดให้กับโอซามา บิน ลาเดน ผู้นำกลุ่มก่อการร้ายอัล ไคด้า ที่เพิ่งถูกทางการสหรัฐปฏิบัติการปลิดชีพไปที่เมืองอับบอตตาบัด ปากีสถาน โดยนายหวู ยังเผยภาพบุคคลที่นายหวูระบุว่าเป็นบิน ลาเดน สมัยที่ตนสอนและเป็นโค้ชทีมชาติให้ซาอุดีอาระเบีย ช่วงปีพ.ศ.2524-2534 อยู่ในกรุงริยาด

    "ผมจำชื่อเขาไม่ได้ในตอนแรก แต่ศิษย์เก่าบางคนมาบอกให้ทราบเรื่องดังกล่าว ผมจึงเริ่มจำได้" นายหวู กล่าว และเล่าว่า บิน ลาเดน เป็นนักเรียนที่ดูมุ่งมั่นจริงจัง ตอนที่ตนบอกว่าเขาตัวสูงเกินไป ไม่เหมาะจะเล่นยูโด บิน ลาเดนยังยืนกรานขอให้รับสอน

    โค้ชหวูกล่าวด้วยว่า บิน ลาเดน มาเข้าเรียนประมาณ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ตอนนั้นเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยแล้ว มีครั้งหนึ่งที่ภรรยามาหาตนเพื่อเอาของมาให้ บิน ลาเดนรุดมาถามว่า ใครกัน พอตนบอกว่าเป็นภรรยา บิน ลาเดน กล่าวว่า ผู้หญิงไม่ควรเข้ามาในนี้ เขาไม่ยอม ตนจึงจำลูกศิษย์ตัวสูงคนนี้ได้ดี ซึ่งตั้งแต่ปี พ.ศ.2527 ตนไม่ได้เห็นหน้าบิน ลาเดน อีก

    กฟผ.ร่วมช่วยยุ่นให้เครื่องผลิตไฟ



    นายสมบูรณ์ โสภณรัตนโภคิน ผอ.ฝ่ายบำรุงรักษาเครื่องกล การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยความคืบหน้าการส่งมอบโรงไฟฟ้าหนองจอกไปช่วยแก้ปัญหาวิกฤตพลังงานไฟฟ้าในประเทศญี่ปุ่นว่า กฟผ.ได้ขนย้ายเครื่องกำเนิดไฟฟ้า (Generator) หน่วยที่ 3 กำลังผลิต 122 เมกะวัตต์ เป็นเครื่องแรกลงเรือไปแล้วตั้งแต่วันที่ 6 พ.ค. ก่อนส่งมอบภารกิจให้บริษัท มิตซูบิชิ เฮฟวี่ อินดัสตรี่ จำกัด และบริษัท มิตซูบิชิ (ประเทศ ไทย) จำกัด ไปติดตั้งที่ อ.คาวาซากิ จ.คานา กาวะ และขนย้ายอุปกรณ์อื่นให้แล้วเสร็จทันนำเรือออกจากท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ในวันที่ 10 พ.ค.

    ส่วนหน่วยที่ 2 กำลังผลิต 122 เมกะวัตต์ จะไปติดตั้งที่โรงไฟฟ้าโออิ กรุงโตเกียว เริ่มขนย้ายลงเรือวันที่ 13 พ.ค. คาดว่าโรงไฟฟ้าหนองจอกทั้ง 2 หน่วยของ กฟผ.จะติดตั้งแล้วเสร็จในเดือนส.ค.นี้


    กาญจน์เปิดถกโครงการท่อก๊าซ



    นายพิพัฒน์ สังขะฤกษ์ ปลัดจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า การเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นเพื่อกำหนดขอบเขตและแนวทางการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ โครงการวางท่อส่งก๊าซธรรมชาติบนบก จากชายแดนไทย-สหภาพ พม่า มายังสถานีควบคุมความดันก๊าซฯ ฝั่งตะวันตกที่ 1 ที่โรงแรมนาคาคีรี รีสอร์ท แอนด์ สปา ต.หินดาด อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เมื่อเร็วๆ นี้ เพื่อให้ทุกฝ่ายได้มาแสดงความเห็นในโครงการดังกล่าว โดยจังหวัดจะรับข้อมูลอย่างรอบด้านมากที่สุดเพื่อประโยชน์ของประชาชนต่อไป

    นายจินดา โพธิ์ทอง อดีตส.จ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า กรณี ปตท.จะทำเวทีรับฟังความคิดเห็นในโครงการนี้ ในฐานะที่เคยสนับ สนุน ปตท.ในการวางท่อก๊าซจากพม่า แต่เมื่อสถานการณ์ผ่านมาหลายปีแล้วกลับพบว่าประชาชน ที่อยู่อาศัยในพื้นที่บ้านอีต่อง หรือพื้นที่โดยรอบใกล้เคียงที่เคยคาดหวังว่าโครงการท่อส่งก๊าซของ ปตท.จะทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น แต่กลับไม่เป็นอย่างที่คาดหวังไว้ โดยก่อนที่จะทำโครงการท่อก๊าซในครั้งแรก ปตท.ได้อธิบายให้ชาวกาญจนบุรีเห็นว่าโครงการท่อก๊าซยานาดาจากพม่าชาวกาญจนบุรีจะได้ประโยชน์จากการเสียสละในหลายอย่าง ทั้งพื้นที่ป่า ทั้งการวางท่อผ่านชุมชนต่างๆ แต่เมื่อโครงการเสร็จลุล่วงแล้วประโยชน์จากการส่งก๊าซทางท่อจากพม่ากลับคืนมาสู่จังหวัดกาญจนบุรีน้อยมาก อยากให้ปตท.ตอบ แทนผลประโชน์ในกำไรที่ได้จากก๊าซประเทศพม่าคืนสู่สังคมและชาวกาญจนบุรีให้มากกว่านี้
     
  13. goldbell

    goldbell เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    183
    ค่าพลัง:
    +1,340
    ชาวเมืองที่นับถือพระพุทธเจ้า หื้อตานตุงทองคำยาว 20 วา ตุงเงินยาว20 วา และกองทรายเต่าอายุไผอายุมัน ไม้ก้ำสลียาว 1 เล่ม ยาววาไผวามัน ทำเร็วก็จักพ้นจากภัยยะกั๋งวน ถ้าไผมีเวลาใดก็หื้อตานวันนั้นด่วน คำทำนายนี้เมตตามาจากถ้ำผาจ้าง มีดังนี้ ถ้าไผไคร่ป้นภัยยะที่จะมาภายหน้าก็หื้อรีบตานเร็วๆเต้อะ
    [FONT=&quot]คำนวณพระยาอินทร์ว่า โลกจักดับมืดปี พ.ศ. 2554 พุทธศักราช 2.7 ถึงวันที่ 15 เดือน 8 ถึงเดือน 10 ขึ้น 3 ค่ำ โลกนี้จักเกิดมีเกณฑ์ภัยยะร้ายแรงต่างๆนาๆ คนจักได้ต๋ายมากหลาย ด้วยความลืมตั๋วกั๋น ถึงวันที่ 15 เดือน 10 ถึงเดือน 12 ออก5 ค่ำ หญิงจายหนุ่มเฒาจักได้เข้าถึงมรณะเป็นอันมาก เพราะลืมรักษาศีลปฏิบัติธรรม ถ้าถึงวันที่ 25 เดือน10 เวลาตี๋ 1 ตอนกลางคืนทุกคนต้องระวังตั๋ว เดือนเกี๋ยงดับจักมีการพายุใหญ่ ฝนหลวง บ้านเมืองจัดพังพินาศ เสียหายมากหลาย[/FONT]

    [FONT=&quot]วันที่3เดือน 11 จักเกิดเป็นศึกยิงฆ่ากัน ถึงกับเลือดยางออกนองเป้นแม่น้ำใหญ่ ในโลกนี้จักมืดไป 45 วัน ในปี้นี้คนในโลกจักมีภัยยะข้าศึกมา ถ้าไผใคร่ป้นจากเหตุการณ์เหล่านี้ จงจำศีล กิ๋นตานภาวนากั๋นไปเต๊อะ กั๋นโลกดับมืดจงเตรียมพร้อม เพื่อป้องกันภัยนั้นบ่าหื้อต๋ามกันไปได้แล[/FONT]
    [FONT=&quot]1. [/FONT][FONT=&quot]จุ้งเตรียมข้าวมาใส่บาตรทุกวัน[/FONT]
    [FONT=&quot]2. [/FONT][FONT=&quot]จุดธูปเทียนบูชาพระพุทธเจ้าทุกวัน[/FONT]
    [FONT=&quot]3. [/FONT][FONT=&quot]หาผ้าห่อไว้ใจ้กั๋นหนาว[/FONT]
    [FONT=&quot]4. [/FONT][FONT=&quot]หาลูกไม้หัวมันใส่บาตรทุกวัน[/FONT]
    [FONT=&quot]5. [/FONT][FONT=&quot]เวลาโลกดับมืด 45 วันนั้นหื้อกินอาหารเจ อย่าได้กินเนื้อ อย่าได้กินปลา[/FONT]
    [FONT=&quot]6. [/FONT][FONT=&quot]ถ้าผู้ใดอยู่ในศีลในธรรม เอาแก้วตั๋งสามประก๋านเป็นที่พึ่งแล้วแต้ ก็ควรรักษาศีลกิ๋นตาน มีเมตตา ภาวนา ทุกวันอย่าได้ขาด[/FONT]
    [FONT=&quot]ในเวลาโลกมืดดับ 45 วันนั้น หื้อบูชาไหว้พระรัตนตรัยก่อนนอนเป๋นประจำ ก็จักป้นจากเคราะห์หายนาม และอยู่ดีมีสุข เหล่าพระอินทร์ตกลงมาเมตตาบอกกล่าวคนในโลก หื้อจ่างอยู่จ่างกิ๋น เพื่อหื้อป้นจากภัยยะกั๋งวนอันตรายต่างๆนั้นแล อย่าลืมรักษาศีล หื้อบริสุทธิ์เจริญเมตตาภาวนา[/FONT]
    [FONT=&quot]1. [/FONT][FONT=&quot]ใครผู้ใดฮู้แล้วขอบอกสืบต่อกั๋นไปทั่วทุกทิศอย่าได้ปิดบังไว้[/FONT]
    [FONT=&quot]2. [/FONT][FONT=&quot]เวลามีศัตรูนั้น หื้อได้รักษาศีล หื้อตาน เมตตาภาวนาใส่ข้าวปู่จาทุกวัน เพื่อปี๋น้องจักอยู่กับตั๋วต๋น เมื่อยังมีชีวิตอยู่นั้นด้วย[/FONT]
    [FONT=&quot]3. [/FONT][FONT=&quot]เมื่อเฮาจักเข้านอน จุงต่อหมากนับ หรือต่อลูกประคำนั้นแหละ อย่างน้อยสัก 10-15นาทีเต๊อะ จักได้ป้นจากภัยยะอันตรายทั้งปวง[/FONT]
    [FONT=&quot]หนังสือฉบับนี้ จักกล่าวย่ำต๋ำนานยมราชก่อน ในปี๋สีปี๋ใส้ ไปปายหน้านี้คนตั๋งหลายจักเดือดเนื้อฮ้อนใจ๋ ฝั่กไฝ่ทำลายกั๋นต๋ายมากนัก ข้าราชก๋านอยู่บ่ดี กิ๋นบ่รำ ผิดเถียงกั๋น บ่ยอมกิ๋นข้าวบ่ยอมกิ๋นน้ำจะแล หนังสือยมมราชนี้ หื้อบอกสืบกันไปเต๊อะ ในปี๋มะโรง ปี๋มะเส็งเป๋นแน่ และต่อไปจักมีคนเฒ่าลงมาเลียบดูคนบ้านใดบ่มีหนังสือนี้ไว้ในบ้านเรือนต๋าน จักมาบีบคอต๋ายเสี้ยง และหื้อบอกสืบต่อกั๋นฮู้ทุกคน ถ้าคนใดบ่อเจื่อหื้อผ่อไปเต๊อะ ปี๋มะโรงเดือนเกี๋ยง ปี๋มะโรงเดือน 11 ออก 14 ค่ำไปปายหน้าจักได้ กั้นข้าวกั้นน้ำ ตุ๊กเข็ญใจ ตุ๊กนอนบ่หลับ ตุ๊กผัวเมียบ่ฟังกำกั๋น ตุ๊กมีลูกบ่มีไผเลี้ยง หนังสือยมราชกล่าวไว้ว่า เวลากล๋างคืนระวังผีร้ายจะอำ ถาได้ยินเสียงคนมาเอิ้นเรียก เวลากลางคืนอย่าได้ตอบกั๋น จักหลับลวด เดือนเกี๋ยงออก 7 ค่ำเดือนดับ เดืองเป็ง บ่หื้อต๋ำข้าวต๋ำน้ำ ผีจัดใส่ยาเบื่อยาเมา วันศีลวันเดือนดับเดือนเป็งหื้อจำศีลกิ๋นตานไป จักป้นเคราะห์กำเวร จักมีอายุมั่นยืนยาวแต้แล[/FONT]

    คำทำนายนี้เป็นคำทำนายของภาคเหนือใครรู้ความหมายช่วยแปลเป็นภาษากลางจะช่วยสงเคราะห์คนได้มากครับ อนุโมทนาบุญ
    <!-- google_ad_section_end --><!-- / message --><!-- edit note -->
     
  14. somsweet

    somsweet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    6,138
    ค่าพลัง:
    +9,874
    กรมทรัพย์จับตารอยเลื่อนแม่จัน

    10 พค. 2554 19:51 น.


    <DD>กรมทรัพยากรธรณีเล็งจับตารอยเลื่อนแม่จันผลพวงไหวพม่าใหญ่ 6.7 ริกเตอร์ ชี้อาฟเตอร์ช็อกใกล้ไทยไม่ปกติ
    <DD>นายเลิศสิน รักษาสกุลวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักธรณีวิทยาสิ่งแวดล้อมและธรณีพิบัติภัย กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวถึงกรณีเกิดแผ่นดินไหวในเขตฝั่งประเทศพม่า ติดต่อกัน 3 ครั้งในช่วงเช้ามืดของวันที่ 10 พ.ค. และสามารถรับรู้ถึง 5 อำเภอในเขตพื้นที่ จ.เชียงราย ว่า จากการตรวจสอบพบว่าเกิดแผ่นดินไหว ช่วงเวลา 04.16 น.ขนาด 3.9 ริกเตอร์ และเวลา 04.24 น.ขนาด 3.2 ริกเตอร์ และเวลา 08.25 น.ขนาด 4.6 ริกเตอร์ ยังถือว่าเป็นอาฟเตอร์ช็อกของเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่รอยเลื่อนน้ำมาของพม่า เมื่อวันที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.7 ริกเตอร์ จนส่งผลเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินในฝั่งพม่า ทั้งยังเกิดความเสียหายต่อโบราณสถานของไทยหลายแห่ง
    <DD>นายเลิศสิน กล่าวต่อว่า ยอมรับว่าการเกิดแผ่นดินไหวระดับ 3 - 4 ริกเตอร์ ติดต่อในช่วง 2 - 3 วันนี้ มีลักษณะของระดับขึ้นๆ ลงๆ แม้จะยังอยู่ในระดับที่ไม่ใหญ่มาก แต่ก็ถือเป็นสิ่งที่ไม่ปกติ ทำให้ต้องเตรียมวิเคราะห์สถานการณ์ใหม่ เนื่องจากเดิมคิดว่าหลังจากมีแผ่นดินไหวใหญ่มาแล้ว การกระตุ้นให้เกิดการสั่นไหวระดับเล็กลงน่าจะจบ แต่ขณะนี้ยังมีการสั่นไหวอยู่เรื่อยๆ และเริ่มเข้ามาใกล้ไทยมากขึ้น ดังนั้น ต้องมีการหารือร่วมกับนักธรณีวิทยา เพื่อประมินความเสี่ยงและผลกระทบทางธรณีวิทยาที่อาจจะส่งผลให้เกิดการขยับตัวในรอยเลื่อนใกล้เคียง โดยเฉพาะรอยเลื่อนแม่จัน ที่อยู่ในฝั่งไทยได้หรือไม่
    <DD>" จะต้องวิเคราะห์ดูจุดที่เกิดแผ่นดินไหวในพม่า และระดับความลึกที่เกิดขึ้นตลอด 1 เดือนที่ผ่านมาอย่างละเอียดอีกครั้ง เพราะหากรอยเลื่อนแม่จันมีการสั่นไหวแค่ระดับ 4 - 4.5 ริกเตอร์ที่ระดับความลึกจากผิวดิน 10 กิโลเมตรก็จะส่งผลเสียหายได้มาก" นายเลิศสิน กล่าว
    </DD>
     
  15. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,698
    ค่าพลัง:
    +51,933
    *** คนเมืองขาดสัจจะ ****

    ผู้มีสัจจะ เป็นผู้รอดพ้นภัย

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เมื่อใดที่เกิดสงครามกลางเมือง ต่อไปก็จะเกิด....

    [​IMG]

    tossapornk<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1796578", true); </SCRIPT> สมาชิก

    เพื่อนธรรมคนหนึ่งเล่าให้ผมฟังว่า พระเกจิอาจารย์ของเขาเล่าให้ฟัง เหตุการณ์ปี พ.ศ. 2552 ถึงปี พ.ศ. 2555 ยังไม่ต้องเชื่อนะครับจับตาดูกันต่อไป
    เรื่องราว จากนี้ไป ไม่ง่ายนัก
    การเมืองจัก วุ่นวาย ไม่หน่ายหนี
    เศรษฐกิจ การเงินซ้ำ กระหน่ำอีกที
    ประชาชี สิหนีพราก ลำบากลำบน

    ต่อๆไป ไทยอาจแตก เป็นเสี่ยงๆ
    เพราะคนเอียง เลี่ยงหลับ จนสับสน
    แผ่นดินเรา เขาเข้ายึด เป็นของตน
    ประชาชน ต้องหลบลี้ เพราะมีภัย

    เสือขาวเหลือง เข้ามาหา กระยาหาร
    เข้ารุกราน เราตายเป็นเบือ จะเชื่อไหม
    ส่วนที่เหลือ จะอยู่รอด กันอย่างไร
    คิดๆไป ใจก็เศร้า ไฟเผาทรวง

    วิบากกรรม นำชักพา ให้มาเกิด
    ในยุคนี้ ที่เปิดกรรม อันใหญ่หลวง
    กระแทกคน ที่ไร้ศีล ที่หลอกลวง
    ไม่พ้นบ่วง ต้องรับหมด ตามกฏแห่งกรรม

    ทางรอด ดั่งยอดดอย มีน้อยนิด
    ทุกคนคิด หยุดแตกแยก หยุดถลำ
    ถึงจะหยุด ฉุดกระชาก วิบากกรรม
    ชาวสยาม จะกลับยิ้ม อิ่มเอมใจ<!-- google_ad_section_end -->

    ที่มา http://palungjit.org/threads/ประเทศไทย-เป็น-ครัวโลก-แต่ทำไมยัง-จน.60871/

    กลุ่มคนไม่หวังดี...

    กลุ่มหนึ่ง มีคนไทยเชื้อสายหมีแพนด้า ที่เข้ามาตั้งรกรากมานาน สมัย นายควง เก็บหัวละ ๔๐๐ บาท ได้รับการสนับสนุนจากแพนด้า กำลังคิดจะครอบครองเมืองไทย.... ทุกวันนี้มีคนเหล่านี้ที่คิดไม่ซื่อทรยศประเทศชาติ แฝงตัวทำงานอยู่ทุกวงการ ... หากปล่อยตามแผน...เขาจะครอบครองไทยได้ต่อไป โดยเปลี่ยนตัวผู้นำ ผู้บริหารทั้งหมด...

    ส่วนอีกกลุ่มหนึ่ง คือ ผู้อยากเป็นแบบ ปธน.ผู้นำอันดับหนึ่งในประเทศ กับพวกพ้องที่กำลังตกที่นั่งลำบากเพราะการกระทำจากความโลภ เมื่อครั้งมีอำนาจ แต่เขาไปขอการสนับสนุนจาก ประธาน คาวบอย ที่เมืองอินเดียนแดง...พวกนี้จึงมีทั้งทุนมาก โดยเฉพาะชาวเขาเผ่าคนเหลี่ยม รู้จักพ่อของ คาวบอยคนนั้นดี จึงมีบริวารคอยให้การช่วยเหลือ เช่น สิงโต นินจา กีเหลาใต้ รวมถึงมีสื่อยักษ์ใหญ่ ZenEE ที่คอยเป็นกระบอกเสียงสนับสนุน และหนังสือชั้นนำของโลก ที่เริ่มทุบตี เศษสะกิดพอดี ของเรา...

    ปัญหาภาคใต้...มีผู้สนับสนุน คือ แพนด้ายักษ์ ที่แอบสนับสนุน บริวารภัยมือ พวกยักษ์หน้าแขก ที่ทำสิ่งผิดกฎหมายมากมาย ยักษ์กับยักษ์คุยกัน ยักษ์แรกบอก เธอตีด้ามขวาน เธอเอาด้ามขวาน ฉันจะสนับสนุนทุน และคอยช่วยเหลือ ส่วนฉันจะเอาตัวขวานเอง....

    เมื่อสงครามด้ามขวานเกิด ทหารจากสยามจะสูญเสียหนัก เพราะข้าศึกที่รบด้วยมีทุนมหาศาล...สุดท้ายด้ามขวานจะหักตามแผนของเหล่ายักษ์หลายฝ่าย...จากนั้นชนต่างๆ รอบขวานทอง ซึ่งได้รับการสนับสนุนทุนและอาวุธจากยักษ์เช่นกัน จะรุมกินโต๊ะดินแดนบ้านเรา....ขอม อยากบุกมาปักธงถึงบางประกง....แถวติดอ้ายน้องก็จะบุกเข้ามาอีสาน...ถิ่นชายแดนเหนือชนเขาเก่าแก่ ก็อยากได้...แถบตากตะวันตก ก็มีอีกพวกหนึ่ง...สยามจะมีแต่น้ำตากับคราบน้ำตา....

    - "หนุมาน ผู้นำสาร "
    06-02-2007, 03:08 AM

    ลิ้งค์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกัน

    นักวิชาการมาเลเซีย ประกาศเป็นทางการเอา 3 จังหวัด ให้มาเลเซีย แล้วนะ !!

    บทบาทของมาเลเซียในกรณีปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนใต้
     
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>กรมอุตุฯเตือนภัย "ฝนตกหนักและคลื่นลมแรง" ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>10 พฤษภาคม 2554 22:50 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือนภัย "ฝนตกหนักและคลื่นลมแรง" ฉบับที่ 14 ลงวันที่ 10 พฤษภาคม 2554

    ระบุว่า เมื่อ เวลา 22.00 น.วันนี้ (10 พ.ค. 54) หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณตอนบนของภาคเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ด้านรับลมมรสุมในภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนหนาแน่นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่

    จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านบริเวณจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก สุโขทัย ตาก พิจิตร เพชรบูรณ์ จันทบุรี ตราด ระนอง และ พังงา ระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากที่อาจจะเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย

    สำหรับคลื่นลมในทะเลยังคงมีกำลังแรง โดยเฉพาะทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตรและอ่าวไทยตอนบนคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือควรระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ เรือเล็กบริเวณดังกล่าวควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 10-12 พฤษภาคม 2554

    ที่มา http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9540000057538

    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>
    ไต้หวันระดมขีปนาวุธต่อต้านเรือรบ “ซูเปอร์โซนิค”
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>10 พฤษภาคม 2554 14:09 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>แฟ้มภาพเมื่อปี 2550 ไต้หวันเปิดตัว สงเฟิง 3 ขีปนาวุธต่อต้านเรือรบที่มีความเร็วเหนือเสียง ณ กรุงไถเป่ย (ภาพเอเอฟพี)

    เอเอฟพี - ไต้หวันเสริมเขี้ยวเล็บทัพเรือ ติดตั้งขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงให้กับฝูงเรือรบ โต้ตอบการขยายแสนยานุภาพทางยุทธนาวีของจีน

    หลิน อี้ฟัง สมาชิกสภานิติบัญญัติจากพรรคก๊กมินตั๋งอ้างคำกล่าวของ ลี เหา พลเรือโทแห่งกองทัพเรือไต้หวัน(8 พ.ค.) ว่า “กองทัพไต้หวันกำลังเตรียมระดมขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงผลิตในไต้หวัน “สงเฟิง 3” (Hsiung-feng 3) มาติดตั้งกับเรือรบฟริเกท ชั้นเพอร์รี่ จำนวน 8 ลำ และเรือลาดตระเวน 7ลำ”

    บรรดานักวิเคราะห์ ชี้ว่า สงเฟิง3 ถูกออกแบบให้โจมตีเป้าหมายด้วยความเร็วไม่ต่ำกว่า 2 มัค หรือมีความเร็วเหนือเสียง 2 เท่า ระยะทำการ 130 กิโลเมตร(80ไมล์) จึงยากมากที่เป้าหมายจะหลบพ้น

    สำหรับการติดตั้งขีปนาวุธดังกล่าว ถือเป็นสัญญาณเตือนจากกระทรวงกลาโหมไต้หวัน หลังจากที่ จีนเผยโฉม Varyag เรือบรรทุกเครื่องบินลำแรก ออกทดสอบในทะเล และเป็นข่าวฮือฮาในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เหล่าผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า กองทัพปลดแอกประชาชนจีน หรือ พีแอลเอ ยังอาจต้องใช้เวลาสักพักสำหรับปฏิบัติการทดสอบเรือบรรทุกเครื่องบินดังกล่าว

    ไช่ เต๋อเซิ่ง ผู้อำนวยการสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ ได้ยืนยันเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ว่า เรือบรรทุกเครื่องบินดังกล่าวของจีน ได้รับการคาดการณ์ว่า จะออกปฏิบัติการสู่ท้องทะเลเป็นครั้งแรกภายในสิ้นปีนี้

    ทั้งนี้ เรือบรรทุกเครื่องบิน "Varyag" ต่อขึ้นในยุคสหภาพโซเวียต แต่สร้างได้ 60 เปอร์เซ็นต์ การก่อสร้างก็หยุดชะงักกลางคัน เนื่องจากสหภาพโซเวียดล่มสลายเมื่อปี 2534 ต่อมาจีนได้ซื้อมาเพื่อปรับปรุงใหม่เมื่อปี 2541 โดยมีวัตถุประสงค์ใช้ในการฝึกและเป็นต้นแบบในการต่อเรือในประเทศ

    นายไช่ เผยว่า เรือรบบรรทุกเครื่องบินของจีน จะมีประสิทธิภาพทางการรบขั้นสูง และจะใช้เป็นฐานประจำการสำหรับเครื่องบินขับไล่ ที่พัฒนาโดยจีน ซึ่งดัดแปลงจากต้นแบบจากเครื่องบินไอพ่นขับไล่ของรัสเซียรุ่น Su-33s

    เจ้าหน้าที่การทหารไต้หวัน เผย ไต้หวันวางแผนที่จะสร้างเรือรบเทคโนโลยีสเตลท์ ติดขีปนาวุธนำวิถี ในปีหน้า(2555)

    อนึ่ง นับตั้งแต่เมื่อปี 2551ที่ หม่า อิงจิ่ว ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีไต้หวัน และได้ให้คำมั่นว่าจะใช้นโยบายเลี่ยงการเผชิญหน้ากับจีน ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างจีน-ไต้หวัน พัฒนาขึ้น อย่างไรก็ตาม จีนยังคงมองว่า ไต้หวันเป็นดินแดนส่วนหนึ่งที่รอการรวมกลับเข้ามา และหากมีความจำเป็นก็จะใช้กำลังเข้ายึด

    ที่มา http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9540000057068
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SEch2.jpg
      SEch2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      60.1 KB
      เปิดดู:
      1,620
    • 554000006076001.jpg
      554000006076001.jpg
      ขนาดไฟล์:
      52.2 KB
      เปิดดู:
      1,853
  18. ~:*พนมวัน*:~

    ~:*พนมวัน*:~ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +1,214

    ลองแปลดูนะคะ หลายคำข้างบน เป็นภาษาเหนือโบราณค่ะ คนเหนือยุคนี้ไม่ใช้คำพูดพวกนี้แล้ว

    [​IMG]

    ชาวพุทธให้ทำบุญด้วยธงทองคำยาว 20 วา ธงเงินยาว 20 วา และกองทรายจำนวนเท่าอายุ ไม้ค้ำกิ่งต้นโพธิ์ ทำบุญได้เร็วก็จะพ้นภัยเร็ว ทำยิ่งเร็วยิ่งดี

    พระอินทร์บอกว่า โลกจะมืดในปี พศ. 2554 วันที่ 15 เดือน กค. ถึง เดือน กย. โลกจะมีภัยร้ายแรงต่างๆ จะมีคนตายมาก ถึงวันที่ 15 เดือน กย. ถึงเดือน พย. คนทุกเพศทุกวัยจะตายมาก เพราะไม่ได้รักษาศีลปฏิบัติธรรม

    วันที่ 25 กย. ตีหนึ่ง (เดือนเกี๋ยงดับ = เดือน พย. ?) จะมีพายุใหญ่ ฝนตกหนัก บ้านเมืองพังเสียหายอย่างหนัก

    วันที่ 3 ตค. จะมีการรบราฆ่าฟันกัน ผู้คนล้มตายมากมาย โลกจะมืดไป 45 วัน เป็นปีของศึกสงคราม

    ถ้าใครอยากพ้นภัย ให้ถือศีล สวดมนต์ภาวนาเป็นประจำ

    1. หุงข้าวใส่บาตรทุกวัน

    2. จุดธูปเทียนบูชาพระ

    3. เตรียมเสื้อผ้ากันหนาว

    4. ใส่บาตรด้วยเผือกมันทุกวัน

    5. เวลาที่โลกมืดไป 45 วัน ให้กินแต่อาหารเจเท่านั้น

    6. ถ้าใครอยู่ในศีลในธรรม มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง ให้รักษาศีล มีเมตตา สวดมนต์อย่าได้ขาด

    พระอินทร์ท่านเมตตาบอกว่า ในเวลา 45 วันที่โลกมืด ให้บูชาพระรัตนตรัยก่อนนอนเป็นประจำ ให้กินอยู่อย่างจะพ้นเคราะห์ อยู่ดีมีสุข

    1. ใครรู้แล้วขอให้บอกต่อๆ กันไป อย่าปิดบัง

    2. เวลามีภัยสงคราม ให้ทำบุญทำทาน รักษาศีล ภาวนา แล้วครอบครัวญาติพี่น้องจะปลอดภัย ไม่มีใครสูญหายล้มตาย

    3. ก่อนจะเข้านอนให้สวดมนต์กับลูกประคำ 10 - 15 นาที จะพ้นจากอันตรายทั้งปวง

    ในอีกไม่นาน ผู้คนทุกหัวระแหงจะเดือดร้อน ผู้คนจะฆ่าฟันกันเอง หนังสือยมราชนี้ ให้บอกต่อๆ กันไป ในปีมะโรงปีมะเส็งแน่นอน และต่อไป จะมีคนสูงอายุมาสังเกตุการณ์ บ้านหนไม่มีหนังสือเล่มนี้ คนในบ้านจะมีเคราะห์ร้าย ให้บอกต่อๆ กันไป

    ถ้าใครไม่เชื่อให้คอยดู ปีมะโรง เดือน ตค. ต่อไปภายหน้าจะขาดแคลนทั้งอาหารและน้ำดื่ม ครอบครัว ชุมชนมีแต่ความวุ่นวาย

    หนังสือยมราชบอกว่า เวลากลางคืนให้ระวังภูติผ๊ อย่าตอบรับเสียงเรียกอะไรทั้งสิ้น

    ในคืนพระจันทร์เต็มดวงอย่าตำข้าว ผีจะวางยาพิษ วันพระให้ถือศีลทำบุญทำทาน จะผ่อนเคราะห์หนักให้เป็นเบา อายุมั่นขวัญยืน


    [​IMG]
     
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ซาตาน ตัวที่ 11

    [​IMG]


    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ แม่นายมล [​IMG]

    ข่าวสารจากจิตจักวาล ครั้งที่ 130

    ซาตานตัวที่ 11 ได้ปรากฎแล้ว และมาโผล่ที่ประเทศไทย
    กำลังออกอาละวาดในขณะนี้ เผยโฉมเร่งวันชำระโลกให้เร็วขึ้น
    ฮิตเลอร์ก็เป็น 1 ในซาตาน คิดเอาดูก็แล้วกัน ฮิตเลอร์ทำอะไรกับโลกไว้

    เมืองไทยต้องอาศัยคนมากู้แผ่นดิน แต่ก็เอาชนะซาตานได้ยาก
    อาจารย์บอกลักษณะของคน ที่จะสู้กับซาตาน คือ
    คนท้ายทอยแหลม หน้าผากโหนก ชื่อ " ส " ก็ไม่รู้ว่าใครนะเดากันเอาเอง

    ในหลวงทรงกลุ้มพระทัยมาก อาจารย์บอกอย่างนั้น

    (สงสารท่านจัง วันนั้นอาจารย์ให้ทำสมาธิหลับตา รวมจิตของทุกคนในห้องเป็นดวงเดียวกัน ขนาดใหญ่ ส่งไปคลุมพระวรกายของในหลวงให้พระองค์ท่านแข็งแรง อยู่เป็นมิ่งขัวญชาวไทยเราตราบนานเท่านาน สาธุ)
    </TD></TR></TBODY></TABLE>​

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->เอกอิสโร<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4694014", true); </SCRIPT> สมาชิก

    "รหัสราบ 11" นี้ ตะหงิดๆ ในใจ มาหลายวัน ตั้งแต่ขับรถ ผ่านป้ายชวนไปงานเทศกาลวิสาขบูช<WBR>า ที่ "ราบ 11" ระหว่าง 11-17 พ.ค. 54 แล้วก็เริ่มตุ้มๆ ต่อมๆ เมื่อ วันวานที่แผ่นดินไหวชุกมาก ตอนเย็น จึงได้อ่านข่าวเรื่องหมอดูไต้หว<WBR>ัน และที่เป็นวิทยาศาสตร์ ก็คือ คำเตือนจาก ดร.ก้องภพ อยู่เย็น จากนาซ่า ใน...

    http://www.truth4thai.org/plan<WBR>etaryalignment/May9_2011#comme<WBR>nts

    คงต้องเฝ้าระวังด้วยความไม่ประมาทครับ ที่สำคัญคือ มีสติอยู่ทุกลมหายใจ แม้เราจะต้องตายในขณะใดขณะหนึ่ง อบายภูมิ จะไม่ใช่ที่เราจะไปครับ<!-- google_ad_section_end -->

    10-05-2011, 11:43 PM

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->diRna<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4694038", true); </SCRIPT> สมาชิก

    อยากจะถามคุณเอกอิสโรตั้งแต่เมื่อวานแล้วเรื่องรหัส ราบ 11 ว่ามันเกี่ยวอะไรกับการเกิดเหตุการณ์ในครั้งนี้

    11-05-2011, 12:07 AM

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Lauthira<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4694245", true); </SCRIPT> สมาชิก

    ขออนุญาต คุณเอกอิสโร ตอบแทน และขอโทษคุณเอกอิสโรและ คุณ diRna หากมีข้อผิดพลาดประการใด หากผู้ดูแลเห็นว่ามีข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถลบคำตอบนี้ทิ้งได้เลยนะคะ

    กองทหาร “ราบ 11” เป็นกองกำลังหลักที่ถูกส่งเข้ามาดูแลการชุมนุมใหญ่ที่ราชประสงค์ มีความเป็นไปได้ว่าได้มีการประกอบ “อุปฆาตกรรม” ไว้ร่วมกัน เป็นกรรมหมู่ เมื่อผู้ประกอบกรรมหมู่มาอยู่ร่วมกันมากๆ โอกาสที่เจ้าเวรนายกรรมจะตามมาเอาคืนก็มีสูง ด้วยกำลังแห่งจิตที่มีร่วมกันนั้น อาจจะทำให้เกิดเหตุร้ายขึ้นบริเวณนั้นได้

    (อุปฆาตกรรม หมายถึงว่า กรรมที่มาตัดรอนระหว่างชีวิต คือ ยังไม่หมดอายุขัยก็ตายเสียก่อน แทนที่จะมีอายุครบ ๖๐ ปีตามอายุขัย แต่อายุ ๓๐ - ๔๐ ปี กรรมที่เป็นอกุศลกรรม คือ ที่เราทำบาปไว้ด้วยจากปาณาติบาตมาตัดชีวิตเสียก่อน การปล่อยปลา หรือปล่อยชีวิตให้รอด ถือว่าตัดอุปฆาตกรรมได้ แต่ไม่สามารถทำแทนกันได้ ถ้าเราต้องการช่วย สามารถปล่อยชีวิตแทน แล้วให้ผู้กระทำอุปฆาตกรรมร่วมอนุโมทนาได้ ถ้าเขาอนุโมทนา คือยินดีด้วยความเต็มใจ ย่อมได้รับอานิสงฆ์)

    อีกประการหนึ่ง เลข 11 นี้ ถือเป็นเลขรหัสแทนลูซิเฟอร์ หรือซาตาน กล่าวกันว่า เลข 12 คือตัวแทนของพระเจ้า ซาตานต้องการที่จะเอาชนะพระเจ้า จึงใช้เลข 11

    เลข 11 ยังเชื่อกันว่า เป็นเลขรหัสที่กลุ่มอิลลูมินาติ ซึ่งบูชาซาตาน ใช้ในการประกอบการ ตามแผน New World Order ถ้าสนใจเรื่องนี้ สามารถตามไปค้นข้อมูลอ่านได้จากเวบของคุณจิมมี่ ที่ได้รวบรวมข้อมูลไว้มาก ....."The Gold War phase II" by Jimmy Siri

    เมื่อประกอบกับข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ สถิติการเกิดภัยพิบัติจากผลของปฏิกิริยาจากดวงอาทิตย์ การเรียงตัวของดาวเคราะห์หลายดวงในช่วงนี้ ข้อมูลจากเวบของ ดร.ก้องภพ สถิติการเกิดแผ่นดินไหวถี่ และค่อนข้างแรง การก่อตัวของกลุ่มเมฆและพายุ ปริมาณน้ำสะสม หลายๆ อย่างประกอบกัน ก็คงจะเป็นอีกคนหนึ่งที่เฝ้าจับตาดูข้อมูล และเหตุการณ์รอบๆ ตัว รอบประเทศ และรอบโลก ในช่วงนี้ด้วยความไม่ประมาทค่ะ

    ขออนุโมทนาในกุศลจิตของท่านที่มาแจ้งเตือนทุกท่าน อย่างน้อยที่สุด ทุกท่านก็มีส่วนในการกระตุ้นให้คนหันมาเร่งสร้างกุศลมากขึ้น จากที่ปฎิบัติบ้างไม่ปฎิบัติบ้างตามความขี้เกียจ ก็หันมาพยายามสวดมนต์ ปฎิบัติให้ได้ทุกวัน พร้อมติดตามข้อมูลทางโลก ทางวิทยาศาสตร์ไปด้วย เมื่อได้พยายามเต็มที่ของความเป็นมนุษย์แล้ว เกิดเหตุอะไรขึ้น ก็จะได้ปล่อยวางได้อย่างสงบ ไม่มีอะไรติดค้างในจิตอีก เพราะได้พยายามเต็มที่แล้ว

    ขอให้เจริญในธรรมค่ะ<!-- google_ad_section_end -->

    11-05-2011, 01:51 AM

    ที่มา http://palungjit.org/threads/อนาคตังสญาณ-เพื่อการแจ้งเตือนภัยพิบัติในประเทศไทย.288061/page-116
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Lucifer.jpg
      Lucifer.jpg
      ขนาดไฟล์:
      75.2 KB
      เปิดดู:
      1,382
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤษภาคม 2011
  20. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]ชาวบ้านแย่งนํ้ามัน โคราช

    หลังดีเซล 4 หมื่นลิตรทะลัก เจ้าของรถได้แต่ยืนมอง คนกว่า 300 แย่งกันเอานํ้ามันไป
    10 พ.ค. ที่จังหวัดนครราชสีมา เมื่อเวลา 08.00 น. เกิดเหตุ รถเก๋งโตโยต้าวีออสเสียหลักพุ่งชนกับรถบรรทุกน้ำมันพลิกคว่ำ ที่บริเวณถนนมิตรภาพ บ.ดอนชมพู อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา มีผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นผู้โดยสารและคนขับรถเก๋งโตโยต้าวีออส
    ทั้งนี้ รถคู่กรณีที่เป็นรถบรรทุกน้ำมัน ยี่ห้อ อีซูซุ สีขาว ของ บริษัท ขัตชะพลทรานสปอทร์ จำกัด พลิกคว่ำอยู่ มี นายบุญเส็ง พัฒนา อายุ 53ปี อชาวจังหวัดอุดรธานี เป็นคนขับรถ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
    ขณะเดียวกัน มีน้ำมันดีเซลกว่า 4 หมื่นลิตรไหลทะลักออกมาจากรถบรรทุกน้ำมันเป็นจำนวนมาก โดยไหลทะลักไปตามคลองน้ำข้างทางที่แห้งขอด ทำให้ชาวบ้านที่อยู่บริเวณใกล้เคียง และคนขับรถผ่านไปมาบนถนนมิตรภาพ จำนวนกว่า 300 คนต่างพากันนำขวดน้ำ แกลลอนน้ำมัน และถังใส่น้ำ มาแย่งกันตักน้ำมันกันอย่างอลหม่าน
    อย่างไรก็ตาม นายบุญเส็ง เจ้าของรถบรรทุกน้ำมัน กล่าวว่า ไม่สามารถห้ามปรามชาวบ้านที่มาตักเอาน้ำมันที่รั่วไหลออกมาได้ โดยหากห้ามชาวบ้าน น้ำมันก็ไหลทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์ ส่วนน้ำมันที่รั่วเสียหายไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท ซึ่งน้ำมันที่เหลือบางส่วนจะใช้เครื่องสูบออกพื้นที่ต่อไป

    Mthai News

    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>หมอดูทำนายแผ่นดินไหว 14 ริกเตอร์ </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>สื่อต่างชาติประโคมข่าวหมอดูไต้หวันทำนายพรุ่งนี้ 9 โมงเช้า แผ่นดินไหว 14 ริกเตอร์ ถล่มเกาะไต้หวัน ส่งผลคนเสียชีวิต 1 ล้านคน


    เมื่อวันที่ 10 พ.ค. สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงไทเป ไต้หวัน รายงานว่า นายหวัง เฉา-ฮุง วัย 54 ปีชาวเมืองปู่ลี่ ทางภาคกลางของไต้หวัน ที่ประกาศตนเป็น “ศาสดาพยากรณ์” รู้เห็นเหตุการณ์ล่วงหน้าแม่นยำ ได้เริ่มนับถอยหลัง ก่อนถึงเหตุการณ์ความหายนะของไต้หวัน ซึ่งเขาระบุว่า จะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ วัดแรงสั่นสะเทือนได้ถึง 14 ริคเตอร์ เขย่าเกาะไต้หวัน ในเวลา 10.42.37 น. เช้าวันพุธ (11 พ.ค.) หรือตรงกับ 09.42 น. ตามเวลาในไทย และ 5 วันต่อมาจะเกิดคลื่นยักษ์สึนามิ ความสูงถึง 170 เมตร ถล่มไต้หวันและหลายประเทศในมหาสมุทรแปซิฟิก ภัยพิบัติครั้งนี้จะทำให้มีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน


    ระหว่างการแถลงข่าวที่เมืองปู่ลี่ เมื่อบ่ายวันอังคาร นายหวังหรือที่ประชาชนทั่วไปเรียกขานว่า “อาจารย์หวัง”

    พร้อมด้วยบรรดาลูกศิษย์ ได้ช่วยกันขนขวดน้ำดื่ม และเสบียงอาหารอื่นๆ น้ำหนักรวมหลายตัน เข้าไปเก็บในตู้คอนเทนเนอร์หลายสิบตู้ ที่จะใช้เป็นที่หลบภัยชั่วคราว คำทำนายของนายหวังได้รับความสนใจ และแพร่กระจายข่าวจากสื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าหน้าที่ก็กำลังจับตามอง หากเข้าข่ายหลอกหลวงประชาชน กฎหมายกำหนดโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี และปรับไม่เกิน 30,000 ดอลลาร์ไต้หวัน ส่วนเจ้าหน้าที่สำนักงานอุตินิยมวิทยาไต้หวัน กล่าวว่า การทำนายแผ่นดินไหวโดยไม่ได้รับอนุญาต จะถูกปรับไม่เกิน 1 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>[​IMG] อุตุฯเตือนภาคเหนือ-ใต้มีฝนตกหนักถึงร้อยละ80ของพื้นที่ เตือน15จว.ระวังน้ำท่วมฉับพลัน </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>
    กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศประจำวันที่ 11 พฤษภาคม 2554 ดังนี้

    ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. เมื่อ เวลา 04.00 น.วันนี้ (11 พ.ค. 54) หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณภาคเหนือ ตอนบนได้เคลื่อนออกไปปกคลุมประเทศลาวแล้ว ส่วนมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ด้านรับลมมรสุมในภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนหนาแน่นและมีฝนตกหนักบางแห่ง จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านบริเวณจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก สุโขทัย ตาก พิจิตร เพชรบูรณ์ ระนอง และ พังงา ระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากที่อาจจะเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย

    สำหรับคลื่นลมในทะเลยังคงมีกำลังแรง โดยเฉพาะทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตรและอ่าวไทยตอนบนคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือควรระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ เรือเล็กบริเวณดังกล่าวควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 11-12 พฤษภาคม 2554

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

    ภาคเหนือ
    มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่และมีฝนตกหนักหลายพื้นที่
    ส่วนมากบริเวณจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน แพร่ ลำพูน ลำปาง อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์
    อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศา
    ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่
    ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย หนองคาย ชัยภูมิ หนองบัวลำภู อุดรธานี ขอนแก่น ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และนครราชสีมา
    อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

    ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่กับมีฝนตกหนักบางแห่งและลมแรง
    ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรี
    อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

    ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่กับมีฝนตกหนักบางแห่งและลมแรง
    บริเวณจังหวัดจันทบุรี และตราด
    อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร
    ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่
    ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช
    อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่งและลมแรง
    บริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต
    อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 29-35 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และลมแรง
    อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...