ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

======================================


2 ม.ค. 54


ภาพที่สื่อได้บ้าง

ในภาพจะเห็นพ่อค้าขายกาแฟรถเข็นมาช่วยผมทำงานอย่างหนึ่งแต่ผมสื่อภาพ
งานที่เขาช่วยไม่ออก พอพ่อค้าไปยืนอยู่หลังภาพผมเห็นเขาและชายสองคนที่
ยืนขนาบเขาอยู่ยื้อแย่งทุบตีกันทั้งสามคน

จากนั้นภาพก็ตัดมาอีกภาพ เป็นภาพที่สื่อถึงที่ฐานผาแบ่นที่ทุกวันนี้ผมได้
อนุญาตให้เจ้าของที่และบ้านข้างเคียงใช้น้ำบาดาลที่แนวร่วมและผมช่วยกัน
ออกเงินเจาะกัน แต่ในภาพกับมีท่อประปาพร้อมประตูน้ำเดินท่อจ่ายไปยังที่
อื่นอีก ผมจึงปิดประตูน้ำเพราะผมไม่ได้อนุญาตให้ต่อท่อไปยังจุดอื่นๆ

ภาพนี้น่าจะสื่อถึง น้ำจะขาดแคลนถึงขั้นลงมือลงไม้กัน






องค์อินทร์ ๙๗
ทำการแทน


======================================
ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ
ภาพความคืบหน้าฐานผาแบ่น1
ภาพความคืบหน้าฐานผาแบ่น2
ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







---------------------------------------------------------------------
หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น<!-- google_ad_section_end -->

 

<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>บินโดยสารรัสเซียบึ้มไฟลุกท่วมคารันเวย์ </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

ไฟไหม้เครื่องยนต์ ตู-154 สายการบินโคกาลีมาเวีย ขณะผู้โดยสารเดินลงเครื่องก่อนระเบิดไฟลุกท่วมลำ ดับ 3

วันนี้ (2 ม.ค.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานอุบัติเหตุเครื่องบินโดยสาร ตู-154 สายการบินโคกาลีมาเวียของรัสเซีย ระเบิดไฟลุกท่วมจนวอด หลังเกิดไฟไหม้เครื่องยนต์ ขณะเคลื่อนตัวออกสู่รันเวย์ เตรียมบินขึ้นจากสนามบินเมืองซูร์กุต ในแคว้นไซบีเรียเมื่อวันเสาร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 ศพ และได้รับบาดเจ็บอีก 45 คน โดย 6 คนในจำนวนดังกล่าวอาการสาหัส เนื่องจากถูกไฟลวกทั่วทั้งตัว

นายยาดิม เกรเบนนิคอฟ โฆษกกระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินรัสเซีย แถลงว่า เครื่องบินลำดังกล่าวเป็นของสายการบินประจำภูมิภาค บรรทุกผู้โดยสารพร้อมนักบินและลูกเรือ 124 คน ออกเดินทางสู่จุดหมายกรุงมอสโก พยานที่รอดชีวิตเผยว่า ตอนแรกเห็นไฟไหม้ที่เครื่องยนต์เครื่องหนึ่งใต้ปีก นักบินจึงนำเครื่องเข้าสู่เลนฉุกเฉิน และลำเลียงผู้โดยสารลงจากเครื่อง แต่ยังไม่ทันหมด เครื่องบินเกิดระเบิดขึ้นดังสนั่นหวั่นไหว และไฟลุกท่วมลำ ซึ่งจากภาพข่าวทีวีจะเห็นเปลวฟุ้งกระจาย ในรัศมีวงกว้างราว 1,000 ตารางเมตร

ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า ผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ แยกเป็นลูกเรือและผู้โดยสารเท่าไหร่ แต่ในจำนวนผู้บาดเจ็บ 10 คน 6 คนถูกไฟลวกทั้งตัว ส่วนอีก 4 คนกระดูกหัก และฟกช้ำบวม เจ้าหน้าที่กำลังเร่งสอบสวนหาสาเหตุแท้จริง ของอุบัติเหตุรับปีใหม่ในครั้งนี้.

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
โดย :จิ้มจุ่ม (สมาชิก) โพสเมื่อ [ วันอาทิตย์ ที่ 2 มกราคม 2554 เวลา 14:04 น.] </TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>กระสุนปริศนาตกทะลุหลังคาใส่เด็ก 8 ขวบดับ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

วันที่ 2 ม.ค.นายณรงค์ พลละเอียด รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี นายมานิต นพอมรบดี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และพ.ต.อ.อานุภาพ ศรีนวล ผกก.สภ.เมืองราชบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ เดินทางเข้าไปตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 274/7 หมู่ 4 ต.อ่างทอง อ.เมือง จ.ราชบุรี หลังได้รับแจ้งว่าที่บ้านหลังดังกล่าวมีเด็กผู้หญิงอายุ 8 ขวบ ถูกกระสุนปริศนาตกจากหลังคาบ้านมาถูกบริเวณใต้รักแร้ด้านซ้ายขณะนอนหลับ กระสุนตัดขั้วหัวใจและไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลราชบุรี โดยเหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 23.30 น. ของคืนวันที่ 1 ม.ค.54 ที่ผ่านมา

เมื่อเจ้าหน้าที่รุดไปที่เกิดเหตุพร้อมสอบปากคำนางกัญญา ยิ่งยงค์ อายุ 27 ปี มารดาของด.ญ.กัญญารัตน์ หรือน้องมายด์ ว่านทอง อายุ 8 ปี ที่เสียชีวิตจากกระสุนปริศนา และนางล้อม หนูเทศ อายุ 54 ปี ยายของน้องมายด์ พาไปดูที่บริเวณหลังคาสังกะสี ข้างกำแพงด้านหน้าซึ่งมีรูที่เกิดจากคมกระสุน จากนั้นก็เผยว่าในช่วงคืนที่ผ่านมาก่อนเกิดเหตุน้องมายด์เข้านอนพร้อมกับยายและนายสายัญ หนูเทศ ตา น้องมายด์นั้นจะนอนตรงกลางพร้อมกับกอดผู้เป็นตาไว้ จากนั้นก็รู้สึกเหมือนกับหลานนั้นนอนละเมอ เพราะทำท่าคล้ายกับคนสะอึก เขย่าเพื่อให้หลานตื่นแต่ก็ยังมีอาการเหมือนเดิม เปิดไฟดูก็พบว่ามีเลือดไหลและมีบาดแผลที่บริเวณใต้รักแร้ด้านซ้าย ขณะนั้นมีเลือดไหลออกมาและมีรูขนาดนิ้วชี้ ตะโกนเรียกนางกัญญาที่นอนอยู่ในห้องออกมาช่วยกันดู ทุกคนตกใจและยังไม่มีใครรู้ว่าเป็นอะไรกันแน่จึงช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลราชบุรี พร้อมกับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้รับทราบ แต่สุดท้ายทนพิษบาดแผลไม่ไหวก็เสียชีวิตในเวลาต่อมา ต่อมาได้มาดูที่เกิดเหตุพบว่าบนหลังคามีรูคล้ายรูลูกปืน คาดว่าน่าจะถูกกระสุนปืนแน่

ด้านพ.ต.อ.อานุภาพ ศรีนวล ผกก.สภ.เมือง สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจตำบลอ่างทองร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสายสืบของ สภ.เมือง ลงพื้นที่หาข่าวทำการการสอบสวนหากลุ่มที่มีงานเลี้ยงฉลองปีใหม่ในช่วงเมื่อคืนที่ผ่านมาว่ามีบ้านไหนบ้างเพื่อจะได้ทำการตรวจสอบว่า ใครที่เป็นคนยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อฉลองปีใหม่ และทำให้กระสุนดังกล่าวนั้นไปตกใส่หลังคาบ้านและตกใส่น้องมายด์เสียชีวิต

ในเบื้องต้นจากการตรวจสอบจากรอยวิถีกระสุนพอจะทราบแล้วว่ามาทางไหนและมีผู้มาบอกว่าในช่วงเมื่อคืนมีการยิงปืนหลายนัด เชื่อว่าอยู่ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบและหาปลอกกระสุนมาเทียบกับหัวกระสุนปืนที่ฝังอยู่ในตัวของเด็กหญิงที่เคราะห์ร้ายรายนี้ และจะหาตัวคนยิงปืนรายนี้มาดำเนินคดีต่อไป

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

สั่งกวดขัน พระสงฆ์ แชทบีบี ในที่สาธารณะ ชี้ ไม่เหมาะสม
เมื่อวันที่ 1 มกราคมว่า ปี 2553 ที่ผ่านมานาย อำนาจ บัวศิริ ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม (มส.) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.)เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาได้รับร้องเรียนเกี่ยวกับพระสงฆ์หลายเรื่อง แต่น้อยกว่าปีก่อนๆ โดยปัญหาที่พบปัจจุบัน เช่น พระอาศัยผ้าเหลืองหากิน ออกมาบิณฑบาตไม่เหมาะสม หรือเรื่องการใช้เทคโนโลยีของพระสงฆ์และสามเณร พบว่า พระสงฆ์บวชใหม่ (บวชระยะสั้น) และสามเณร นิยมเล่นบีบี โทรศัพท์แบล็กเบอรรี่ ในสถานที่ที่ไม่เหมาะสม
นาย อำนาจกล่าวว่า พระสงฆ์สามเณรนิยมใช้บีบีในสถานที่สาธารณะนั้น ตนมองว่าไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง โดยที่ผ่านมาสำนักเลขาธิการ มส.ได้ส่งหนังสือแจ้งเตือนไปยังเจ้าคณะผู้ปกครองระดับต่างๆ รวมทั้งเจ้าอาวาสที่อยู่ใกล้ชิดกับพระสงฆ์และสามเณรมากที่สุด ให้เข้มงวด และกวดขันดูแลเรื่องการใช้เทคโนโลยีของสามเณร เพราะพบว่าปัจจุบันพระสงฆ์และสามเณรนิยมเล่นบีบีในสถานที่ที่ไม่เหมาะสมมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม นายอำนาจกล่าวว่า หากพระสงฆ์นำบีบีมาเป็นสื่อในการเผยแพร่ศาสนาก็ถือว่าเป็นเรื่องดี แต่หากใช้ในทางที่ผิด อาจเกิดความเสียหาย และถูกสังคมติติงว่าไม่เหมาะสมได้
เรียบเรียงข่าวโดย Mthai news
<LI class=news_src_item>

 

วอชิงตัน-ตะลึง! ซากนกดำกว่าพันตัวร่วงจากฟ้าในวันฉลองปีใหม่ เชื่ออาจถูกฟ้าผ่าหรือเครียดจากเสียงพลุที่ดังสนั่นหวั่นไหว
---------------------------------------------------------

มีข่าวรายละเอียดเรื่องนี้ไหมครับ เพราะเป็นอาเพสที่ร้ายแรง ไม่ธรรมดาเลย

Jan. 1: An Environmental Services worker picks up a dead bird in Beebe, Ark. as other dead birds line the street behind him.

BEEBE, Arkansas -- Wildlife officials are trying to determine what caused more than 1,000 black birds to die and fall from the sky over an Arkansas town.
The Arkansas Game and Fish Commission said Saturday that it began receiving reports about the dead birds about 11:30 p.m. the previous night. The birds fell over a 1-mile (2-kilometer) area, and an aerial survey indicated that no other dead birds were found outside of that area.
Commission ornithologist Karen Rowe said the he birds showed physical trauma, and she speculated that "the flock could have been hit by lightning or high-altitude hail."
The commission said that New Year's Eve revelers shooting off fireworks in the area could have startled the birds from their roost and caused them to die from stress.
Robby King, a wildlife officer for the agency, collected about 65 dead birds, which will be sent for testing to the state Livestock and Poultry Commission lab and the National Wildlife Health Center lab in Wisconsin.
Rowe said that similar events have occurred elsewhere and that test results "usually were inconclusive." She said she doubted the birds were poisoned.



Read more: http://www.foxnews.com/scitech/2011/01/02/dead-birds-fall-ark-sky/#ixzz19wEm7fDa​

 

<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>เกือบทั่วประเทศอากาศหนาวเย็น อ่าวไทยมีคลื่นสูง ชาวเรือระวัง</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศประจำวันที่ 3 มกราคม 2554 ดังนี้ เมื่อเวลา 04.00 น. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป และบริเวณเขาสูงในภาคเหนือมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นได้ในบางพื้นที่

สำหรับคลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่างสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งระยะนี้ (3-4 ม.ค. 54)

ภาคเหนือ ทางตอนบนของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศา
ทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-18 องศา
กับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่
สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวจัดและมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 4-8 องศา
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทางตอนบนของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศา
ทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-19 องศา กับมีหมอกบางในตอนเช้า
สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศา
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 18-20 องศา
สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศา
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 17-22 องศา
สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศา
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศา
โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากตั้งแต่บริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป
อ่าวไทยตอนบน: ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
อ่าวไทยตอนล่าง: ลมตะวันออก ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด ประมาณ 22-25 องศา
โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 19-21 องศา
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.



</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>7 วันอันตรายผ่านไป 4 ตายพุ่ง 234 คน </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
7 วันอันตรายผ่านไป 4 ตายพุ่ง 234 คน 1 ม.ค.วันเดียว 83 ศพ "ลพบุรี" นำจ่าฝูงเสียชีวิต 12 ราย


นายแพทย์ชาตรี เจริญชีวะกุล เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนน วันที่ 1 มกราคม ซึ่งเป็นวันที่ 4 ในช่วงรณรงค์ 7 วันอันตราย พบว่า เกิดอุบัติเหตุรวม 777 ครั้ง เสียชีวิต 83 คน บาดเจ็บ 845 คน

นอกจากนี้ ยังได้สรุปตัวเลขการเกิดอุบัติเหตุสะสมตลอด 4 วัน คือตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2553-1 มกราคม 2554 ว่ามีจำนวนการเกิดอุบัติเหตุรวม 2,473 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 234 คน ผู้บาดเจ็บ 2,656 คน โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด คือ จ.เชียงราย 86 ครั้ง รองลงมาคือ จ.เชียงใหม่ 79 ครั้ง

ขณะที่ จ.ลพบุรี มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด จำนวน 12 คน รองลงมาคือ จ.ประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 10 คน และจังหวัดที่มีผู้ประสบอุบัติเหตุสูงสุด คือ จ.เชียงราย 92 คน รองลงมาคือ จ.เชียงใหม่ และ จ.พิษณุโลก จังหวัดละ 82 คน

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ขอกระจายข่าวสำหรับท่านที่ยังไม่ทราบค่ะ

เจ็บป่วยูฉุกเฉิน , ภัยพิบัติฉุกเฉินนึกถึง1669ศูนย์นเรนทรฟรีตลอด24 ชั่วโมง
การขอความช่วยเหลือผ่านเบอร์ 1669 จะทำได้ในกรณีที่เกิดการเจ็บป่วยฉุกเฉิน เช่น ภาวะโรคประจำตัวหัวใจกำเริบ แน่นหน้าอก ชักที่อาจนำมาซึ่งการเสียชีวิต รวมทั้ง สิ่งของติดคอ ไม้ทิ่มแขน ขา หรืออวัยวะต่าง ๆต่อมา คือ ประสบอุบัติเหตุ และสุดท้าย กรณีเกิดภัยพิบัติต่าง... ๆ

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมที่<o></o>

http://www.zone-it.com/forum/index.php?topic=109567.0;wap2<o></o><o></o>

 

ภัยธรรมชาติปีที่แล้วคร่าชีวิตทั่วโลกเกือบ 3 แสนคน​

​

แฟรงค์เฟิร์ต 3 ม.ค.- มิวนิครี บริษัทรับประกันภัยต่อ รายใหญ่ของโลกเผยว่า แผ่นดินไหวเฮติ น้ำท่วมใหญ่ปากีสถานและจีนทำให้ปีที่แล้วเป็นปีภัยธรรมชาติร้ายแรง คร่าชีวิตผู้คนรวม 295,000 คน สร้างความสูญเสีย 130,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.9 ล้านล้านบาท)

ปีที่แล้วเกิดภัยธรรมชาติทั้งหมด 950 ครั้ง เลวร้ายเป็นอันดับสองนับตั้งแต่ปี 2523 เป็นต้นมา ขณะที่อัตราเฉลี่ยตลอด 10 ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 785 ครั้ง มิวนิครีระบุว่า แผ่นดินไหวเฮติเมื่อเดือนมกราคมปีก่อนถือเป็นภัยธรรมชาติร้ายแรงที่สุดในแง่ของความสูญเสียชีวิตเพราะมีผู้คนล้มตายมากถึง 22,570 คน แต่กระทบธุรกิจประกันน้อยมาก ขณะที่แผ่นดินไหวชิลีในอีกหนึ่งเดือนถัดมาถือเป็นภัยธรรมชาติที่สร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจมากที่สุด 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 900,000 ล้านบาท) และทำให้ธุรกิจประกันต้องจ่ายค่าสินไหม 8,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 240,000 ล้านบาท)

มิวนิครีระบุในรายงานด้วยว่า ภัยธรรมชาติเกี่ยวกับสภาพอากาศที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง และอุณหภูมิสูงเป็นประวัติการณ์ทั้งระดับโลกและพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วโลกยิ่งบ่งชี้ให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศมีความรุนแรงมากขึ้น.-สำนักข่าวไทย

วันจันทร์ ที่ 03 ม.ค. 2554

วิกิลีคส์เผยอิสราเอลมีเวลาเตือนภัย 10-12 นาที หากถูกอิหร่านยิงจรวดถล่ม​

​

ออสโล 3 ม.ค.- หนังสือพิมพ์อัฟเทนโปสเทนในนอร์เวย์ ลงพิมพ์ข้อมูลจากเว็บไซต์วิกิลีคส์ว่า อิสราเอลจะมีเวลาเตือนภัยเพียง 10-12 นาที หากถูกอิหร่านยิงขีปนาวุธถล่ม

วิกิลีคส์อ้างข้อมูลลงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2552 บันทึกการพบกันระหว่างคณะตัวแทนสหรัฐกับ พล.ท.กาบี แอชเคนาซี นายทหารอิสราเอล ซึ่งกล่าวว่า อิสราเอลกำลังเพิ่มการปกป้องตนเองจากการถูกโจมตีดังกล่าว ขณะนี้อิหร่านมีขีปนาวุธชีฮับ 300 ลูก ที่มีพิสัยยิงไกลถึงอิสราเอล ซึ่งจะทำให้ชาวอิสราเอล 1 ล้านคน ตกอยู่ในอันตราย

หนังสือพิมพ์นอร์เวย์ฉบับนี้อ้างเมื่อเดือนก่อนว่า มีข้อมูลลับทางการทูตของสหรัฐครบทั้งหมด 250,000 แฟ้ม ที่วิกิลีคส์กำลังทยอยเผยแพร่.-สำนักข่าวไทย

วันจันทร์ ที่ 3 ม.ค. 2554

เหตุรุนแรงในอัฟกานิสถานทำคนตายเกือบหมื่นในปีที่แล้ว​

​

คาบูล 3 ม.ค.- เหตุรุนแรงในอัฟกานิสถานทำให้ปีที่แล้วมีทหาร ตำรวจ พลเรือนและกลุ่มติดอาวุธเสียชีวิตรวมกันมากถึง 9,381 คน นับเป็นปีนองเลือดที่สุดตั้งแต่กลุ่มตอลีบานถูกกองกำลังนำโดยสหรัฐโค่นในปลายปี 2544

กระทรวงมหาดไทยอัฟกานิสถานแจ้งว่า ปีที่แล้วเกิดเหตุรุนแรงทั้งหมด 6,716 ครั้ง เช่น ซุ่มโจมตี ระเบิดข้างทาง ระเบิดฆ่าตัวตาย ยิงจรวด มีตำรวจเสียชีวิต 1,292 นาย บาดเจ็บ 2,447 นาย กลุ่มติดอาวุธเสียชีวิต 5,225 คน บาดเจ็บ 949 คน พลเรือนเสียชีวิต 2,043 คน บาดเจ็บ 3,570 คน ต่ำกว่าตัวเลขของสหประชาชาติที่ระบุว่า ช่วง 10 เดือนแรกของปีก่อนมีพลเรือนเสียชีวิต 2,412 คน บาดเจ็บ 3,803 คน ด้านกระทรวงกลาโหมเผยว่า มีทหารเสียชีวิต 821 นาย

ขณะนี้กลุ่มตอลีบานมีกำลังแข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่ถูกโค่น การก่อเหตุได้ลุกลามจากฐานที่มั่นเดิมทางตอนใต้และตะวันออกไปยังพื้นที่สงบทางตอนเหนือและตะวันตกในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะตอนเหนือได้กลายเป็นแนวรบนองเลือดแห่งใหม่ โฆษกกองกำลังเพื่อความช่วยเหลือความมั่นคงระหว่างประเทศที่นำโดยองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) เผยว่า การที่เจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคงอัฟกานิสถานเสียชีวิตมากขึ้นสะท้อนถึงความมุ่งมั่นที่จะปกป้องประเทศของพวกเขา และการที่ทหารต่างชาติเข้าไปรบในอัฟกานิสถานมากขึ้นส่งผลให้ความรุนแรงเพิ่มขึ้นตามที่คาดไว้ แต่ก็เป็นเรื่องจำเป็น ก่อนหน้านี้เว็บไซต์ iCasualties: Operation Iraqi Freedom and Operation Enduring Freedom Casualties เผยว่า ปีที่แล้วมีทหารต่างชาติเสียชีวิตในอัฟกานิสถาน 711 นาย สองในสามเป็นทหารอเมริกัน เพิ่มขึ้นจาก 521 นายเมื่อปี 2552 .-สำนักข่าวไทย

วันจันทร์ ที่ 3 ม.ค. 2554

ไฟดับรอบกรุงมอสโกครั้งล่าสุดกระทบท่าอากาศยานหลักของประเทศ​

​

มอสโก 3 ม.ค. – สำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ของรัสเซียรายงานว่า เกิดไฟดับเพราะสภาพอากาศเลวร้ายรอบกรุงมอสโกของรัสเซีย ส่งผลกระทบต่อการให้บริการในวันนี้ของท่าอากาศยานที่มีผู้โดยสารใช้บริการคับคั่งที่สุดของประเทศ ซึ่งประสบภาวะปั่นป่วนมานานถึงหนึ่งสัปดาห์

รายงานระบุว่า ท่าอากาศยานโดโมเดโดโวต้องเปลี่ยนมาใช้กระแสไฟฟ้าจากสถานีสำรองแล้ว ขณะที่หมู่บ้านราว 80 แห่งซึ่งตั้งอยู่รอบกรุงมอสโกไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ ด้านสำนักข่าวอิตาร์-ทาสส์รายงานว่า หน่วยพิเศษของกระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปยังท่าอากาศยานแห่งดังกล่าวเพื่อรับรองว่า จะมีไฟฟ้าใช้และสนามบินจะเปิดให้บริการตามปกติต่อไป ทั้งนี้ ท่าอากาศยานโดโมเดโดโวและท่าอากาศยานเชเรเมเตียโวต้องประกาศเลื่อนเที่ยวบินจำนวนหลายร้อยเที่ยวบินระหว่างวันที่ 26 -28 ธ.ค. 2553 ที่ผ่านมา เพราะสภาพอากาศอบอุ่นผิดปกติทำให้เกิดฝนน้ำแข็งตกลงมาเกาะตามสายไฟฟ้า .-สำนักข่าวไทย

วันจันทร์ ที่ 3 ม.ค. 2554

จีนเผชิญอากาศเย็นจัดรถติดหลายหมื่นคัน​

​

จีน 3 ม.ค.-สภาพอากาศเลวร้ายในจีนส่งผลให้การจราจรกลายเป็นอัมพาต รถติดยาวหลายหมื่นคัน

พื้นที่ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีนต้องเผชิญกับอากาศหนาวจัด โดยที่มณฑลกุ้ยโจว และกว่างสี อุณหภูมิลดต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง มีหิมะตกหนักและเกิดน้ำแข็งปกคลุมพื้นที่ ทางการต้องสั่งปิดทางหลวงหลายสาย ทำให้การจราจรกลายเป็นอัมพาตรถติดเป็นระยะทางราว 15 กิโลเมตร ประชาชนราว 8,000 คนต้องติดค้างอยู่บนท้องถนน ทางการต้องจัดส่งอาหารและน้ำ รวมทั้งเครื่องกันหนาวไปช่วยบรรเทาความเดือดร้อน ส่วนที่มณฑลเสฉวนมีรายงานอุบัติเหตุบนท้องถนนหลายครั้ง แต่ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ทางการคาดว่าในช่วงนี้จะยังคงมีหิมะตกหนักต่อเนื่องในหลายพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ.-สำนักข่าวไทย

วันจันทร์ ที่ 03 ม.ค. 2554

ที่มา http://www.mcot.net

ฝูงนกตายปริศนาหลายพันตัวที่สหรัฐฯ​

​

เจ้าหน้าที่ดูแลสัตว์ป่า ในรัฐอาร์คันซอ ลงพื้นที่เก็บซากนกดำ หรือ Blackbirds นับพันตัว ที่ล้มตายอย่างปริศนา เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุ

เจ้าหน้าที่ดูแลสัตว์ป่า ลงพื้นที่บ้านต่อบ้าน ในเมือง บีบี้ รัฐอาร์คันซอ เพื่อเก็บซากนกแบล็คเบิร์ด ที่นอนตายเกลื่อน ราว 4,000-5,000 ตัว รายงานระบุว่านกส่วนใหญ่ บินร่วงตกมาตาย ตั้งแต่ก่อนวันปีใหม่ และต่อเนื่องมาอีกหนึ่งวัน โดยไม่ทราบสาเหตุ

รายงานระบุว่า ซากนกนับพัน บินไปตายอยู่ตามหลังคาบ้าน , ต้นไม้และสนามหญ้า เป็นจำนวนมาก ซึ่งทั้งหมดจะถูกส่งไปตรวจ ที่ห้องทดลอง ที่เมืองลิตเติ้ล ร็อค รัฐอาร์คันซอ และ เมืองมาดิสัน รัฐวิสคอนซิน เพื่อหาสาเหตุการตายต่อไป

ข่าวทีวีช่อง 3 วันอังคาร ที่ 4 มกราคม พ.ศ.2554

ที่มา http://www.krobkruakao.com

 

ต่อไปเหตุการณ์ไฟดับครั้งใหญ่ หรือ Blackout จะเกิดขึ้นอีกในหลายเมือง ทั้งจากปรากฏการณ์โซลาร์ และจากที่อากาศเลวร้ายจนมีการใช้กระแสไฟฟ้าเพื่อเหตุการณ์นั้นจน การใช้ไฟฟ้า โอเวอร์ โหลด

หากระบบกริด เป็นกระแสไฟฟ้าจากโรงงานหลักไม่กี่โรงไฟฟ้าจะเสถียรสู้ มีโรงไฟฟ้าทางเลือกขนาดเล็กขนาดย่อมจำนวนมากมาช่วยเสริมในระบบครับ

 

ระวัง โปรแกรมแสกนไวรัส "ปลอม"

ชื่อ Personal Internet Security 2011

วิธีการลบ มันออกได้ ต้องใช้โปรแกรมมัลแวร์

MalwareBytes Anti-malware – free spyware, malware, trojan remover. | My Anti Spyware

ผมโหลดมาดู นึกว่าโปรแกรมแสกนไวรัส จริงๆ ทำให้เครื่องกระตุก หาวิธี uninstall ไม่ได้

สุดท้ายรู้ว่า เป็น spyware ก็เลยจัดการลบด้วยโปรแกรม แอนตี้มัลแวร์ ไป

 

ชาวมะกันต้องตกตะลึงส่งท้านปี เมื่อจู่ๆ ช่วงก่อนเที่ยงคืนของวันที่ 31 ธ.ค. มีรายงานว่า พบนกแบล็คเบิร์ดปีกแดง จำนวนมากกว่า 2,330 ตัว ตกลงมาตายจากท้องฟ้า ในรัฐอาร์คันซอส์ สหรัฐอเมริกา โดยนักปักษีวิทยาจากเอเอฟจีซี ตั้งข้อสันนิษฐานว่า นกทั้งหมดอาจถูกฟ้าผ่า หรืออาจปะทะกับลูกเห็บที่เกิดขึ้นในระดับเหนือเมฆ และดอกไม้ไฟที่ถูกจุดขึ้นในการฉลองวันขึ้นปีใหม่ ก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้นกทั้งหมดเกิดอาการตื่นตกใจ จนตกลงมาตายได้

ซึ่งก่อนหน้านี้เพียง 1 วัน เจ้าหน้าที่สัตว์ป่าอาร์คันซอ สหรัฐฯ ได้รับแจ้งจากเจ้าของเรือโยง ว่าพบปลาตายกว่า 1 แสนตัว ลอยอยู่ตามฝั่งและทางน้ำไหลของแม่น้ำอาร์คันซอ ทีมสืบสวนจากหน่วยงานท้องถิ่น ได้เข้าเก็บตัวอย่างในพื้นที่ และเปิดเผยว่า การพบปลาตายบริเวณดังกล่าวเป็นเรื่องซึ่งเกิดขึ้นในทุกปี แต่ทว่าปีนี้นับว่ามีจำนวนมากผิดปกติ และคาดว่าสาเหตุน่าจะมาจากโรคระบาดสืบ เนื่องจากภาวะมลพิษ
ทั้งนี้เหตุการณ์ทั้งสองอย่าง เกิดขึ้นห่างกันเพียง 100 ไมล์เท่านั้น
เรียบเรียงข่าวโดย Mthai News

<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>หลวงตาบัวกลับวัดป่าบ้านตาดแล้ว</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>เมื่อวันที่ 3 มกราคม นพ.ธีรวัฒน์ กุลทนันทน์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล

กล่าวถึงความคืบหน้าอาการอาพาธของพระธรรมวิสุทธิมงคล หรือ "หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน" ที่เข้ารับการรักษาด้วยอาการปอดอักเสบทั้งสองข้าง ภาวะทางเดินอาหารอุดตัน และขาดสารอาหาร ที่โรงพยาบาลศิริราช ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคมที่ผ่านมา ว่า ล่าสุด หลวงตามหาบัวได้เดินทางออกจากโรงพยาบาลกลับไปพักฟื้นที่วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี โดยโรงพยาบาลศิริราชได้จัดทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านปอด สมอง ทางเดินอาหาร จำนวน 10 คน เข้าดูแลอาการอาพาธของหลวงตามหาบัว ซึ่งขณะนี้อาการโดยรวมดีขึ้นมาก ทั้งเรื่องปอดอักเสบ และการขาดสารอาหาร ขณะที่หัวใจมีการควบคุมดีแล้ว ส่วนอาการลำไส้อุดตันนั้นจะต้องมีการเฝ้ารักษาอาการอย่างต่อเนื่อง

"สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี มีรับสั่งให้ทางโรงพยาบาลศิริราช ช่วยดูแลอาการอาพาธของหลวงตามหาบัวอย่างใกล้ชิด แม้หลวงตามหาบัวจะกลับไปพักฟื้นที่วัดป่าบ้านตาดแล้วก็ตาม โดยทางโรงพยาบาลศิริราชจะส่งทีมแพทย์ไปคอยดูแลอาการอาพาธของหลวงตามหาบัวที่วัดครั้งละ 2 คน เบื้องต้นยังไม่มีการกำหนดเวลาว่าการส่งแพทย์ไปแต่ละครั้งจะอยู่นานเท่าใด แต่จะมีการหมุนเวียนแพทย์ไปคอยดูแลอาการตลอดเวลา"

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>อุตุฯเตือนแทบทุกภาคอากาศหนาวเย็นต่อไปอีก ใต้มีฝนเพิ่ม กทม.เย็นสุด 20 องศา</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสถาพอากาศประจำวันที่ 4 มกราคม 2554 ดังนี้

ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีอากาศหนาวเย็นต่อไปอีก โดยมีหมอกในตอนเช้าและหมอกหนาในบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาไว้ด้วย

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่างสูง 2-4 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 4-6 ม.ค. 54

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ ทางตอนบนของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-16 องศา
ทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-18 องศา กับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวจัด
อุณหภูมิต่ำสุด 6-8 องศา
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทางตอนบนของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-16 องศา
ทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-18 องศา
กับมีหมอกบางในตอนเช้า สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 18-20 องศา
สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศา
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 20-22 องศา
สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศา
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศา โดยมีฝนฟ้าคะนองกระจาย
ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป
อ่าวไทยตอนบน: ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
อ่าวไทยตอนล่าง: ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-45 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด ประมาณ 21-24 องศา
โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 20-22 องศา
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.



</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>โทรทัศน์เกาหลีเหนือฉายหนังตะวันตก</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>
โทรทัศน์เกาหลีเหนือ สร้างปรากฎการณ์ด้วยการฉายหนังตะวันตก " เบนซ์ อิท ไลท์ เบ็คแฮ่ม"

เว็บไซต์ BBC รายงานว่า สถานีโทรทัศน์ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลเกาหลีเหนือ ได้ฉายภาพยนตร์ของอังกฤษ เรื่อง เบนซ์ อิท ไลท์ เบ็คแฮ่ม โดยมาร์ติน อูเดน เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักร ประจำเกาหลีใต้ ได้ทวิตข้อความว่า นับเป็นครั้งแรกที่ภาพยนตร์ของชาติตะวันตก ได้ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ของเกาหลีเหนือ


เบนด์ อิท ไลค์ เบ้คแค่ม ฉายเป็นครั้งแรกในสหราชอาณาจักร เมื่อปี 2545 และเพิ่งจะถูกฉายในเกาหลีเหนือ เมื่อวันที่ 26 ธันวาคมที่ผ่านมา และแม้ต้นฉบับจะมีความยาว 112 นาทีแต่เวอร์ชั่นที่ฉายในเกาหลีเหนือ ได้ถูกตัดทอนลงเหลือ 104 นาที


นับเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยากสำหรับชาวเกาหลีเหนือ เนื่องจากปกติแล้ว รายการที่ฉายทางโทรทัศน์ จะมีแต่การ์ตูนหรือไม่ก็ภาพยนตร์เชิดชูผู้นำ และภาพการเฉลิมฉลองกองทัพฟาร์มและหมู่บ้านตัวอย่าง


นายอูเดน กล่าวว่า การได้ออกอากาศภาพยนตร์เรื่อง เบนด์ อิท ไลค์ เบ้คแค่ม เป็นผลงานของสถานทูตอังกฤษ ซึ่งมีข้อความกำกับในระหว่างการถายด้วยว่า เพื่อฉลองครบรอบ 10 ปี ของแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างเกาหลีเหนือกับสหราชอาณาจักร และนับเป็นครั้งแรกเช่นกัน ที่เกาหลีเหนือยินยอมเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศอื่น ด้วยการฉายภาพยนต์ที่มาจากประเทศนั้น ๆ


เบนด์ อิท ไลค์ เบ้คแค่ม เป็นภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับกีฬาฟุตบอล ที่คนเกาหลีเหนือชื่นชอบ แต่ก็ยังมีประเด็นต้องห้าม เช่น ความสัมพันธ์ต่างเชื้อชาติ , รักร่วมเพศและศาสนา

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>สภาพอากาศแปรปรวนรอบๆกรุงมอสโก ต้องใช้ระบบไฟสำรองในการปฏิบัติงานแทน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
สำนักข่าวอินเตอร์แฟ๊กซ์รายงานว่าเหตุไฟฟ้าขัดข้องอันเนื่องมาจากสภาพอากาศแปรปรวนรอบๆกรุงมอสโก เมืองหลวงของรัสเซียเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติงานของสนามบินหลักของประเทศวานนี้หลังจากที่สนามบินดังกล่าวไม่สามารถให้บริการได้

เนื่องจากขาดแคลนพลังงานมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยสนามบินโดโมเดโดโว ซึ่งมีผู้ใช้บริการมากที่สุดของรัสเซียและรองรับผู้โดยสารมากกว่า 55,000 คนต่อวัน ต้องหันไปใช้ระบบไฟสำรองในการปฏิบัติงานแทน เนื่องจากระบบไฟฟ้าหลักใช้การไม่ได้โดยเป็นผลมาจากสภาพอากาศแปรปรวน ส่วนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทั้งสนามบินโดโมเดโดโว และสนามบินเชเรเมตเยโว ต้องยกเลิกเที่ยวบินหลายร้อยเที่ยวระหว่างวันที่ 26-28 ธันวาคมที่ผ่านมา เนื่องจากสภาพอากาศอบอุ่นขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ ทำให้เกิดพายุลูกเห็บส่งผลให้ต้นไม้และสายส่งกระแสไฟฟ้าขาดทั่วเมือง.
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>แอฟริกาและยุโรปจะเห็นสุริยุปราคาบางส่วนในบ่ายวันนี้</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ลอนดอน 4 ม.ค.- บรรษัทกระจายเสียงของอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า ประชาชนในพื้นที่ส่วนใหญ่ของโลกจะเห็นสุริยุปราคาบางส่วนในวันนี้

ทั้งนี้ ประชาชนที่อาศัยอยู่ทางตอนเหนือของทวีปแอฟริกาและส่วนใหญ่ของทวีปยุโรปจะเห็นสุริยคราสในช่วงพระอาทิตย์ขึ้น ในขณะที่ประชาชนซึ่งอาศัยอยู่ทางตอนกลางของรัสเซียและตะวันตกเฉียงเหนือของจีนจะมองเห็นสุริยคราสในช่วงพระอาทิตย์ตก

ทิศตะวันออกเฉียงเหนือของสวีเดนจะเป็นสถานที่เห็นสุริยคราสชัดเจนที่สุด โดยประชาชนที่เมืองสเคลเลฟที จะเห็นเงาของดวงจันทร์บดบังดวงอาทิตย์เกือบเต็มดวงหรือประมาณ 90% ในเวลา 08.50 น.ตามเวลามาตรฐานกรีนิช (15.50 น.ตามเวลาประเทศไทย)

ทางเหนือของประเทศแอลจีเรียในทวีปแอฟริกาจะเป็นสถานที่แห่งแรกบนโลกที่เห็นสุริยุปราคาในเวลา 06.40 น.ตามเวลากรีนิช (13.40 น.ตามเวลาในไทย)

เมืองสำคัญในยุโรปเช่นกรุงลอนดอนจะเห็นเงาของดวงจันทร์บังดวงอาทิตย์เกือบ 70% ในเวลา 08.12 น.ตามเวลากรีนิช (15.12 น.ตามเวลาไทย) และที่กรุงปารีสจะเห็นเงาของดวงจันทร์บังดวงอาทิตย์ 65% ในเวลา 08.09 น.ตามเวลากรีนิช (15.09 น.ตามเวลาไทย) ส่วนประเทศที่ตั้งอยู่ในซีกโลกด้านตะวันออกไล่ตั้งแต่ตอนกลางของรัสเซีย คาซัคสถาน มองโกเลีย และตะวันตกเฉียงเหนือของจีนจะทยอยเห็นสุริยุปราคาในช่วงที่ดวงอาทิตย์กำลังตกดิน

ในปีนี้จะมีปรากฏการณ์สุริยุปราคาบางส่วนเกิดขึ้นอีก 3 ครั้ง

แต่สำหรับชาวยุโรป ครั้งนี้เป็นครั้งสำคัญที่สุด หากพลาดจะต้องรอชมลักษณะที่ใกล้เคียงกันนี้อีกครั้งในวันที่ 20 มีนาคม 2558 สำหรับสุริยุปราคาเต็มดวงครั้งต่อไปจะมีขึ้นเดือนพฤศจิกายน 2556 ในบริเวณแปซิฟิกใต้.-สำนักข่าวไทย

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:"ข่าวเข้ม ฉับไว เป็นกลาง"
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE id=Tcontent border=0 width="98%" align=center><TBODY><TR><TD>ถอดรหัส 2011 ยุโรปอันตราย

</TD></TR><TR><TD class=contBX>ปีเสือดุ 2010 นับเป็นปีที่เลวร้ายของยุโรป กับการที่ต้องงัดมาตรการเงินกู้ฉุกเฉินหลายหมื่นล้านยูโรเข้าช่วยกรีซและไอร์แลนด์ในที่สุด จากปัญหาหนี้สาธารณะ ขณะที่ประชาชนนับสิบๆ ล้านคนต่างแสดงความโกรธแค้นที่เห็นช่วงเวลาอันรุ่งโรจน์ของพวกเขาเป็นเพียงฟองสบู่ที่แตกตัว
สถานการณ์ในปี 2010 นี้อาจถือว่าสาหัสแล้วกับมหกรรมช่วยเหลือกรีซและไอร์แลนด์ รวม 2 ประเทศเกือบ 2 แสนล้านยูโร และการประท้วงดุเดือดตั้งแต่ต้นปียันปลายปี
แต่ในปีเถาะ 2011 ยุโรปจะย่ำแย่หนักยิ่งกว่านี้ ถึงขั้นที่เรียกได้ว่า “ยุโรปอันตราย” เลยทีเดียว
ปัญหาเศรษฐกิจจะยิ่งรุมเร้า ระเบิดเป็นความเสียหายที่รุนแรง ส่งผลกระทบวงกว้างในทางการเมือง ให้เหล่าพรรคขวาจัดเข้าคุมทั่วทั้งทวีป กระทบชิ่งต่อไปยังภาคสังคม ทั้งคนยุโรปหัวทองและผู้อพยพหัวดำที่จะเผชิญวิบากกรรมจากพิษเศรษฐกิจแรงขึ้นอีกจากปีเสือ
เรียกว่าแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นนั้นแทบไม่ต่างจากในปี 2010 เพียงแต่มีระดับขั้นที่รุนแรงกว่าในเกือบทุกด้าน
เมื่อลองย้อนกลับไปทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นในปีนี้ จะพบว่าแม้รัฐบาลยุโรปจะตระหนักถึงปัญหากันมาตั้งแต่ต้นปี แต่ก็ไม่มีใครสามารถหาทางออกที่สวยงามได้ เพราะทางออกเดียวที่เห็นจากการสุรุ่ยสุร่ายใช้จ่ายเกินตัวกันจนก่อหนี้มหาศาล ก็คือต้องใช้ให้น้อย กินให้น้อยลง ซึ่งถือเป็นตรรกะแก้ปัญหาพื้นฐานตรงตัวที่สุด
เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา เหตุประท้วงอย่างรุนแรงที่ธนาคารแห่งหนึ่งในกรุงเอเธนส์ ของกรีซ มีผู้เสียชีวิตไป 3 คน เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งที่ชาวกรีกต้องจ่ายด้วยชีวิตกับเงินกู้ 1.41 แสนล้านยูโร ที่รัฐบาลได้รับมาจากสหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ)
ทว่าเงินก้อนนี้ทำให้กรีซต้องปลดคนจำนวนมหาศาลในหน่วยงานต่างๆ ของรัฐ ลดเงินเดือนและสวัสดิการ ซึ่งแน่นอนว่าส่งผลกระทบต่อประชาชนทั่วไปโดยตรง
ประธานาธิบดีคาโรลอส ปาปูลิอัส เตือนว่าประเทศเดินมาถึงขอบของหุบเหว ก่อนที่อีก 3 วันถัดมา 27 ชาติสมาชิกอียูจะเห็นชอบตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือชาติเพื่อนบ้านจากปัญหาหนี้ และในเวลาต่อมาก็ตั้งเป็นกลไกการช่วยเหลือถาวรที่เป็นรูปเป็นร่างจริงจังมากขึ้น
สาเหตุสำคัญเป็นเพราะความช่วยเหลือที่ไม่จบเพียงแค่กรีซ เพราะหลังจากนั้นกลไกที่ว่านี้ก็ต้องยื่นมือช่วยเหลือไอร์แลนด์เป็นประเทศที่ 2 อีก 6.75 หมื่นล้านยูโร
ยิ่งไปกว่านั้น นักวิเคราะห์ต่างเชื่อมั่นว่าในปีหน้า “โปรตุเกส” จะเป็นรายต่อไปที่ต้องขอรับเงินกู้ฉุกเฉินอย่างแน่นอน ก่อนจะตามมาด้วยสเปนเป็นประเทศที่ 4
ทั้งสองประเทศต่างก็ถูกหั่นอันดับเครดิตส่งท้ายปี 2010 ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลพุ่งสูงขึ้น และหมายความว่า โอกาสที่รัฐบาลจะระดมทุนด้วยการออกพันธบัตรเหมือนประเทศอื่นๆ จะยิ่งเสี่ยงสูงขึ้นไปอีกในปีหน้า
ขณะเดียวกันสถานภาพของ 16 ประเทศกลุ่มยูโรโซน (กำลังจะกลายเป็น 17 ชาติ เมื่อเอสโตเนียเข้าร่วมในวันที่ 1 ม.ค. 2011) ก็จะเผชิญกับบททดสอบท้าทาย และการปฏิรูปครั้งสำคัญไปด้วย
อแลง ลามาสซูร์ ประธานคณะกรรมาธิการงบประมาณของรัฐสภายุโรป และสมาชิกพรรครัฐบาลฝรั่งเศส กล่าวกับเอเอพีว่า ราคาที่ต้องจ่ายเพื่อแก้ปัญหาวิกฤตหนี้ยุโรปนั้น อาจหมายถึงการแตกสลายของอียูที่สร้างมากว่า 10 ปี
“หากเราตัดสินใจเรื่องนโยบายที่เบอร์ลิน นโยบายงบประมาณที่ลอนดอน นโยบายการเกษตรในปารีส วางนโยบายท้องถิ่นกันที่วอร์ซอ ถกนโยบายการทหารในวอชิงตัน ตกลงเรื่องพลังงานที่มอสโก หากเป็นเช่นนี้ต่อไปก็ไม่รู้ว่าจะจบตรงไหน ไม่มียุโรปอีกต่อไปแล้ว” ลามาสซูร์ กล่าว
และสิ่งสำคัญที่สุดเรื่องหนึ่งก็คือ หากปัญหาเศรษฐกิจขยายวงลุกลามในปีหน้า แล้วมีหรือที่ปัญหาสังคมโดยเฉพาะการเดินขบวนประท้วงและการจลาจลเพื่อต่อต้านการรัดเข็มขัดจะยิ่งไม่บานปลายและรุนแรงจากในปีนี้
ที่ดับลินปรากฏหลักฐานแห่งความโกรธแค้นถึงขนาดใช้ซีเมนต์ผสมเทกันตรงประตูรั้วรัฐสภา พร้อมกับข้อความสลักว่าแบงก์แองโกลเหม็นเน่า ขณะที่ฝรั่งเศสก็มีพลังประท้วงกันนับล้านให้ได้เห็นกันไปแล้ว เช่นเดียวกับการประท้วงเดือดจากกลุ่มนักศึกษาในอังกฤษที่โกรธแค้นจากการถูกหั่นงบการศึกษา จนไม่สนแม้กระทั่งรถพระที่นั่งของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์
ส่วนที่กรุงบรัสเซลส์ ชาวเบลเยียมก็ออกมาแสดงพลังเดินขบวนประท้วงกันมากถึงแสนคน และไม่ใช่แค่ประชาชนทั่วไปเท่านั้น เพราะกลุ่มคนที่ประท้วงยังรวมถึงกลุ่มนายตำรวจชาวโรมาเนีย จำนวนหนึ่งที่ข้ามน้ำข้ามทะเลด้วยรถโดยสารมาร่วมประท้วงถึงสำนักงานใหญ่อียู หลังถูกลดเงินเดือนและสวัสดิการต่างๆ ลง
ขณะเดียวกันแรงโกรธแค้นจากภาคประชาชนกำลังส่งผลให้กลุ่มพรรคการเมืองขวาจัด ได้เข้ามาครองสภาแทนที่นักการเมืองหน้าเก่าทั้งฝ่ายซ้ายและสายกลางกันมากขึ้นอย่างน่าตกใจ
เมื่อพูดถึงคำว่านักการเมืองขวาจัด ก็ต้องไม่ลืมว่านโยบายสำคัญอย่างหนึ่งก็คือ การต่อต้านผู้อพยพต่างชาติ หรืออาจลามไปถึง “การเหยียดผิว” เช่น ที่นักการเมืองขวาจัดหลายคนในแถบสแกนดิเนเวีย ประกาศชัดว่าไม่ต้อนรับผู้อพยพทั้งหลาย โดยเฉพาะในยามที่คนในประเทศกำลังปากกัดตีนถีบเช่นนี้
ปัจจุบันพรรคการเมืองขวาจัดกำลังเข้าไปครองเสียงส่วนใหญ่ในสภาออสเตรีย บัลแกเรีย เดนมาร์ก ฮังการี ลัตเวีย สโลวาเกีย สวีเดน และเนเธอร์แลนด์
นอกจากปัจจัยเสี่ยงทางเศรษฐกิจแล้ว ประเด็นทางสังคมและการเมือง จึงเป็นอีกปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตาอย่างยิ่งสำหรับยุโรปในปีหน้าปีที่ไม่ควรละสายตาอย่างแท้จริง

</TD></TR><TR><TD class=contBX align=right>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

สอบถามนิดนึงค่ะ เหรียญทำน้ำมนต์ ทำน้ำเค็มให้กลายเป็นน้ำจืดได้ไหมคะ

พอดีนึกถึงหลวงปู่ทวดตอนที่ท่านเหยียบน้ำทะเลแล้วปรากฏว่าน้ำตรงนั้นกลายเป็นนำจืด ดื่มได้ เลยเอามาถามโยงกันแบบมั่วๆน่ะค่ะ

 

ชาวชิลีตื่นหนีขึ้นที่สูงหลังเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.1 ริคเตอร์ ​

​

ชาวชิลี ที่ยังหวาดกลัวคลื่นยักษ์สึนามิ จากเหตุแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว ทำให้ต่างคนต่างอพยพไปอยู่ในที่สูง หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.1 ริคเตอร์ ทางตอนกลางของประเทศ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

ทันทีเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.1 ริคเตอร์ และอาฟเตอร์ช็อค 5.1 ริคเตอร์ ทางตอนกลางของชิลี เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ประชาชนที่อาศัยอยู่พื้นที่ชายฝั่งในเมือง Puerto Saavedra พากันออกจากบ้าน บ้างก็เดินเท้า นั่งรถบรรทุก อพยพไปอยู่พื้นที่สูง เพราะหวาดกลัวว่าจะเกิดคลื่นยักษ์สึนามิตามมา เหมือนครั้งที่เกิดแผ่นดินไหวขนาด 8.8 ริคเตอร์ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 500 คน สร้างความเสียหายให้กับอาคารบ้านเรือนย่อยยับ

รายงานระบุว่า ประชาชนที่อพยพ มีท่าทีที่สงบ เพราะทางการเคยซักซ้อมและให้ความรู้กับประชาชนโดยเฉพาะพื้นที่ชายฝั่ง เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุแผ่นดินไหวในอนาคตอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต มีเพียงกระแสไฟฟ้าดับในบางพื้นที่เท่านั้น

ข่าวทีวีช่อง 3 วันอังคาร ที่ 4 มกราคม พ.ศ.2554

สหรัฐ,คิวบา,รัสเซีย เผชิญอากาศหนาวจัด ออสเตรเลียน้ำท่วม​

​

หลายประเทศยังคงเผชิญกับสภาพอากาศหนาวจัดผิดปกติ โดยคิวบานั้นอุณหภูมิลดต่ำที่สุดในรอบกว่า 50 ปี ส่วนออสเตรเลียก็ได้เร่งอพยพประชาชนหลังวิกฤตน้ำท่วมยังไม่คลี่คลาย

ที่รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐ หิมะได้ตกลงมาอย่างหนักจนเจ้าหน้าที่ต้องตัดสินใจสั่งปิดทางหลวงสาย 5 ซึ่งเป็นสายสำคัญที่สุดเชื่อมระหว่างแคลิฟอร์เนียเหนือและใต้ที่บริเวณเมืองเกรพไวน์ เนื่องจากหิมะละลายเป็นน้ำแข็งจนทำให้ถนนลื่น ทำให้รถยนต์เกิดลื่นไถล การปิดทางหลวงสาย 5 ส่งผลให้การจราจรกลายเป็นอัมพาตและทำให้ผู้ขับขี่จำนวนมากต้องติดค้างข้ามคืนอยู่บนทางหลวง เจ้าหน้าที่ยังประกาศเตือนภัยทางหลวงในช่วงแอนทิโลป แวลเล่ย์ ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของแอลเอ, เมืองเวนทูร่าและซานตา แคลริต้า แวลเล่ย์

ขณะที่ชาวคิวบาก็เผชิญกับอากาศที่หนาวจัดผิดปกติ โดยอุณหภูมิลดลงถึง 1.9 องศาเซลเซียสซึ่งต่ำที่สุดในรอบกว่า 50 ปี ซึ่งชาวคิวบาส่วนใหญ่ไม่เคยชินกับอากาศหนาวจัด เนื่องจากปกติอุณหภูมิจะลดต่ำสุดก็ประมาณ 14-16 องศาเซลเซียส ทำให้บ้านเรือนส่วนใหญ่ไม่มีเครื่องทำความร้อนที่เหมาะสม กรมอุตุนิยมวิทยาชี้ว่าสาเหตุเกิดจากคลื่นความหนาวที่พัดมาจากสหรัฐนั่นเอง เพราะสหรัฐเองก็เผชิญกับอากาศหนาวจัดผิดปกติเช่นกัน

ส่วนอากาศหนาวจัดที่รัสเซียก็ทำให้น้ำกลายเป็นน้ำแข็งถ่วงสายไฟจนขาด ทำให้กระแสไฟฟ้าถูกตัดขาดในพื้นที่กรุงมอสโกว ส่งผลกระทบต่อหมู่บ้านราว 789 แห่งและประชาชนกว่า 3 หมื่นคนที่ต้องอยู่โดยไม่มีไฟฟ้าใช้ท่ามกลางอากาศที่หนาวจัด ทำให้รัฐมนตรีพลังงานและผู้ว่าการกรุงมอสโกวถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ล่าสุดเจ้าหน้าที่กำลังเร่งซ่อมสายไฟท่ามกลางหิมะที่ตกหนัก

ขณะที่ออสเตรเลีย เจ้าหน้าที่ต้องเร่งอพยพประชาชนออกจากเมืองร็อคแฮมตัน หลังจากระดับน้ำได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจนล่าสุดทำให้บ้านจมมิดน้ำไปกว่า 500 หลังแล้ว กองทัพออสเตรเลียต้องเร่งนำสิ่งของบรรเทาทุกข์เข้าไปช่วยผู้ประสบภัยอีกระลอก เพราะเกรงว่าเส้นทางที่เข้าสู่เมืองร็อคแฮมตันจะถูกตัดขาด หลังจากน้ำท่วมสนามบินจนต้องปิดทำการแล้ว โดยขณะนี้ระดับน้ำสูงถึง 9.15 เมตรและคาดว่าจะสูงถึง 9.4 เมตรในวันพรุ่งนี้

ข่าวทีวีช่อง 3 วันอังคาร ที่ 4 มกราคม พ.ศ.2554

อากาศหนาวจัดทั่วภาคเหนือของอินเดีย​

​

ประชาชนทั่วเขตภาคเหนือของอินเดียเผชิญกับอากาศที่หนาวเหน็บจากอิทธิพลของคลื่นความเย็น

รัฐอุตตรคานด์ ผู้คนที่ต้องออกไปทำงานนอกบ้านต้องทนกับลมเย็นที่พัดกระหน่ำ ในนครเทหราดุน เมืองเอกของรัฐอุตตรคานด์ ประชาชนพากันมารุมล้อมรอบกองไฟและห่มคลุมร่างกายด้วยผ้าห่มหนา เพื่อต่อสู้กับอากาศหนาวจัดจากอิทธิพลของลมหนาวจากภาคเหนือ

อุณหภูมิในนครเทหราดุน ลดต่ำลงถึง 4 องศาเซลเซียส ต่ำกว่าระดับปกติ 2 องศา

ข่าวทีวีช่อง 3 วันอังคาร ที่ 4 มกราคม พ.ศ.2554

ที่มา http://www.krobkruakao.com

 

ยุคอภิญญาสาธารณะ​

​

ยุคนี้เป็นยุคอภิญญาสาธารณะ การใช้ฤทธิ์ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นบุญญาฤทธิ์ อธิษฐานฤทธิ์ หรืออิทธิฤทธิ์ต่างๆ สามารถนำมาใช้ได้กับทุกๆคนแล้วครับ ขอเพียงคุณต้องมีความเชื่อมั่นว่ามันเป็นไปได้ ฤทธิ์ทุกอย่างก็จะเปิดให้คุณใช้มันได้ครับ แต่ถ้าคุณมัวแต่คิดเพียงว่ามันเป็นไปไม่ได้ก็จะเป็นการปิดกั้นพลังจิตของคุณเอง ต้องมีความเขื่อมั่นเพราะใจเป็นใหญ่เหนือสิ่งทั้งปวงครับ

แต่ทั้งนี้ต้องไม่ลืมว่าอิทธิฤทธิ์ทั้งหลาย ก็ยังต้องอยู่ภายใต้กฏแห่งกรรมนะครับ ถ้าคุณใช้ฤทธิ์นั้นเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นก็จะได้บุญได้กุศล แต่ถ้าคุณใช้ฤทธิ์นั้นไปในทางเบียดเบียนทำร้ายคนอื่น ก็ต้องไปอยู่เป็นเพื่อนกับพระเทวทัตในนรกอเวจีนั่นแหละครับ

 

<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ใต้ฝนตก เหนือ-อีสานอุณหภูมิลด1-3องศา </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>วันนี้ (5ม.ค.) สำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือนภัย "คลื่นลมแรงในทะเลจีนใต้และอ่าวไทยตอนล่าง " ฉบับที่ 2

ระบุว่า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนได้แผ่เสริมลงมาปกคลุมถึงประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้แล้ว ส่งผลให้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุม ทะเลจีนใต้ และอ่าวไทยตอนล่างเริ่มมีกำลังแรงขึ้น ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กบริเวณดังกล่าวควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 5-7 ม.ค. 2554

อนึ่ง ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นลง โดยมีอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06.00น. วันนี้ถึง 06.00น. วันพรุ่งนี้

ภาคเหนือ มีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ ทางตอนบนของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด ประมาณ 15 องศา ทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศา สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา ทางตอนบนของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศา ทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศา สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-14 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศา สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศา สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ฝั่งตะวันออก อากาศเย็นทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศา โดยมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อ่าวไทยตอนบนตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา: ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร อ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป: ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

กรุงเทพฯและปริมณฑล อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด ประมาณ 23 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=5 borderColor=#fac963 cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>หายใจให้ถูกแก้โรคความดัน </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#fac963 cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#ffffcc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
ทุกวันนี้หลาย ๆ คน หายใจเข้าและออกไม่ถูกต้อง เพราะแทนที่ท้องจะป่องเมื่อหายใจเข้า และท้องแฟบตอนหายใจออก ก็ดันเป็นในทางตรงกันข้าม ร้ายกว่านั้นคือ หายใจตื้น ๆ หน้าท้องไม่ขยับสักนิด

การหายใจที่ไม่ถูกหรือหายใจตื้นเกินไปทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนน้อยลง และขับคาร์บอนไดอ๊อกไซค์ออกไปได้ไม่มาก ส่งผลให้การหมุนเวียนของโลหิตเร็วเกินไป เมื่อเป็นเช่นนั้นก็จะทำให้มีอาการความดันโลหิตสูง ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ที่สำคัญเมื่อความดันโลหิตสูงแล้ว โรคภัยร้าย ๆ ก็จะตามมา อาทิ หัวใจ เบาหวาน เส้นเลือดเสื่อมสภาพ

เมื่อรู้ว่าโรคร้าย ๆ เกิดได้เพราะพฤติกรรมหายใจที่ผิด ๆ ทางแก้มีไม่ยาก แค่หายใจอย่างถูกวิธี หรือหายใจแบบทารก คือ การหายใจทางจมูก ปากปิดสนิท ลิ้นแตะเพดาน ไม่กัดฟัน ขณะสูดหายใจเข้าท้องป่อง ส่งให้หน้าอกขยายออกเล็กน้อย เมื่อหายใจออกท้องแฟบลง บริเวณหน้าอกขยับลงดังเดิม

สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง คือ การหายใจทางปาก จะทำให้มีปัญหาฟันตามมาและทำให้นอนกรน รวมถึงการหายใจให้หน้าอกขยับแรง ๆ หรือเป็นการหายใจขณะตื่นเต้น ตกใจ ก็ควรเลี่ยง เพราะเสี่ยงเป็นโรคหัวใจ.

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

พ.อ.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารราบที่ 25 กองกำลังเทพสตรี เปิดเผยว่า หลังจาก จนท.หน่วยงานด้านความมั่นคง ได้ลงไปสำรวจข้อมูลกลุ่มแรงงานต่างด้าวชาวพม่า ในจังหวัดระนอง
ซึ่งได้รายงานว่า พบกลุ่มแรงงานต่างด้าวชาวพม่า ได้มีการก่อตั้งชุมชนของตนเองขึ้นอย่างเงียบๆ กว่า 38 ชุมชน ซึ่งฝ่ายความมั่นคงกำลังวิตกว่า กลุ่มผู้ใช้แรงงานชาวพม่า ได้เปลี่ยนเป้าหมายจากที่เข้ามาหางานทำ เป็นการเข้ามาตั้งถิ่นฐานในไทย
นอกจากนี้ กลุ่มแรงงานดังกล่าว ยังมีกิจกรรมทางสังคมในรูปแบบเดียวกับย่านไชน่าทาวน์ของคนจีน และยังมีการดำเนินการทางวัฒนธรรม อย่างเช่นการสร้างพระพุทธรูปในวัดต่างๆ เพื่อเป็นจุดศูนย์รวมทางจิตใจ
เรียบเรียงข่าวโดย Mthai News
<LI class=news_src_item>

 

======================================


5 ม.ค. 54


กราบ นมัสการหลวงปู่โกศล นิปุณโน ผ่านสื่อเว็บ พลังจิต

ตามที่หลวงปู่ได้กรุณาแจ้งให้กระผมทราบถึงเรื่อง ค่ายผาแบ่น ว่าจะมีปัญหา
เรื่องน้ำ ซึ่งหลวงปู่ได้ทราบจากเบื้องบน ตัวกระผมเองได้เคยเรียนถามหน่วย
เหนือไปแล้วและได้คำตอบเช่นเดียวกันแต่ความสูงของระดับน้ำตามที่หน่วย
เหนือได้กรุณาให้เห็นสูงไม่มาก เมื่อช่วงนั้นมาถึงหน่วยเหนือคงจะแจ้งให้ทราบ
ล่วงหน้า ตัวกระผมก็จะนำผู้ร่วมทางขึ้นอาศัยอยู่บนวัดเขาลูกที่ใกล้กับค่ายเป็น
การชั่วคราวครับ

ขอกราบขอบพระคุณหลวงปู่ที่เคยคิดจะเข้ามาร่วมเป็นแนวร่วมช่วยเหลือมนุษย์
ด้วยกันแต่ติดธุระบางประการจึงไม่สามารถเข้าร่วมได้และภพหนึ่งเคยเป็นเพื่อน
กันมาก่อนก็ขอแสดงความยินดีและดีใจที่กระผมได้มาพบกับเพื่อนในภพนี้

ถ้าหลวงปู่สะดวกในการติดต่อ กระผมขอความกรุณาหลวงปู่แจ้งเมลล์ที่สามารถ
ติดต่อกับหลวงปู่ได้แล้วกระผมจะเข้าไปคุยติดต่อกับหลวงปู่เอง ถ้ามีโอกาส
ก็จะได้ไปกราบหลวงปู่ถึงวัด





องค์อินทร์ ๙๗
ทำการแทน


======================================
ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ
ภาพความคืบหน้าฐานผาแบ่น1
ภาพความคืบหน้าฐานผาแบ่น2
ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







---------------------------------------------------------------------
หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น<!-- google_ad_section_end -->

 

รบกวนถามคุณ lazaza ว่าหน่วยเหนือคือใครคะ ได้เห็นภาพบ้านที่ผาแบ่นแสดงว่าคุณมั่นใจว่าเหตุการณ์ต้องเกิดแน่นอนหรือคะ ไปอยู่แบบถาวรหรือว่าแบบไปกลับคะ

 

เรื่องเล่าแปลกแต่จริงของมิติช่วงปีเก่าต่อปีใหม่

​

สวัสดีค่ะ สมาชิกทุกท่าน

มีเรื่องเล่าช่วงปีเก่าต่อปีใหม่ที่ผ่านมาให้ฟังค่ะ คืนวันที่ 31 ธันวาคม 2553 ณ จุดที่พวกเราอยู่กันทั้งหมด 14 คน

ผู้นำกลุ่มได้เปิดให้เราเห็นมิติแห่งโลกอนาคตภายหลังการพลิกโลกปัจจุบัน

สมาชิก 6 คนในกลุ่มที่มีพลังงานลบมากถูกรมควัน (ในความเป็นทิพย์) ให้หลับตั้งแต่ก่อนสองทุ่ม

ส่วนผู้ที่ตื่นอยู่คือ ผู้ใหญ่ 7 คนและเด็กอีก 1 คน (ซึ่งผู้นำกลุ่มเคยบอกว่าเด็กคนนี้เป็นเมล็ดพันธุ์จากเบื้องบนที่บริสุทธิ์ มาก ไม่เกาะกับสิ่งใดในโลกเลย)

พวกเรานั่งปิ้งหัวมันกินพร้อมคุยกันอย่างสนุกสนาน คุยกันหลายเรื่องมากเพื่อรอเวลาสวดมนต์ตอนเที่ยงคืน

ความรู้สึกที่เกิดขึ้นคือคุยกันจนจะหมดเรื่องคุยแล้ว และบริเวณรอบๆ ก็มีการจุดพลุเฉลิมฉลองกันเราก็เลยคิดว่าคงจะใกล้เที่ยงคืนแล้ว

เตรียมจะลุกไปสวดมนต์ น้องที่นั่งในกลุ่มก็ดูนาฬิกาแล้วพูดอย่างตกใจว่า “พี่ทำไมเพิ่งจะสองทุ่มครึ่งเอง???”

ตอนนั้นเองที่เราเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติ และเริ่มสังเกตบรรยากาศรอบข้างพบว่าท้องฟ้าที่มีดาวนั้น เป็นฟ้าที่มืดมิดมากๆ ดำสนิทผิดปกติ ไม่มีลมแต่มีความหนาวเย็น...



เริ่มรู้สึกได้ว่าเราไม่ได้อยู่ในมิติที่ 3 แล้ว แต่เป็นมิติอื่นที่ระบบกำลังเปิดให้เราได้เรียนรู้โดยการร้องขอของผู้นำกลุ่ม

เพราะท่านได้เรียนรู้ไปแล้วในช่วงที่ท่านเก็บตัวบำเพ็ญ แต่ท่านต้องการให้พวกเราได้เรียนรู้ด้วยกายสังขารมากกว่าการเล่าให้ฟัง

เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ...นี่ขนาดว่าเราปฏิบัติธรรมกันยังรับรู้ถึงความทรมานใน การรอคอยเวลาเที่ยงคืนขนาดนี้

ถ้าไม่ได้รับการฝึกจะทรมานขนาดไหน ในช่วงเวลาแห่งการรอคอยเด็กน้อยก็ชวนจ๋าไปดูดาว

คืนนั้นดาวบนฟากฟ้ามีดาวเข็มขัดนายพรานอยู่สามดวง และรอบนั้นมีดาวสว่างไสวไม่เหมือนปกติอยู่ 4 ดวง

เด็กน้อยพูดว่า “ดาว 3 ดวงที่เรียงกันตรงๆ นั้น เหมือนมีเทพอยู่ 3 องค์ปรากฎ” ตอนนั้นจ๋าก็ยังไม่เข้าใจอะไร

ก็เออ..ออไปตามเรื่อง แต่ละช่วงเวลาที่ผ่านไปนานมาก กว่าเข็มนาฬิกาจะเปลี่ยนไปทีละครึ่งชั่วโมง

จนกระทั่งประมาณ 22.00 น. เราเริ่มสังเกตเห็นว่าทำไมคนในกลุ่มแต่งตัวคล้ายกันโดยไม่ได้นัดหมาย

กลุ่มแรกมี 4 คนใส่เสื้อกันหนาวที่มีหมวกสวมหัว (ฮู๊ด) และอีกกลุ่มมี 3 คน รวมตัวจ๋าและผู้นำกลุ่มใช้ผ้าห่มคลุมร่าง

ในตอนนั้นเองที่เราถึงบางอ้อ..กุญแจไขปริศนาก็คือเด็กน้อย นึกถึงคำพูดของเด็กที่ชี้ให้ดูดาว

เฉลยว่า..แม่กุญแจของประตูทั้งสี่ทิศ (4 คนที่ใส่หมวกคลุม) จะถูกเปิดด้วยเทพทั้งสามองค์ (3 คนที่ห่มคลุมด้วยผ้า)

จากนั้นประมาณ 5 ทุ่มผู้นำของกลุ่มก็เดินไปรอบๆ พื้นที่แล้วเรียกเราอีก 2 คนและเด็กให้ไปดูอะไรบางอย่าง...คนกลุ่มแรกทั้ง 4 คน (สวมฮู๊ด)

ที่นั่งรอบเตาปิ้งมันใส่เสื้อขาวบ้างสีบ้าง แต่สิ่งที่เราทั้งสี่คนมองเห็นก็คือ ร่างที่แต่งกายด้วยชุดสีขาววาวสว่างมาก..เหมือนเทพพรหมจากต่างมิติ

และที่สำคัญเรามองไม่เห็นใบหน้า และรูปร่างของพวกเขาบางคนร่างเล็ก บางคนร่างสูงยาว บางคนท้วมใหญ่ ไม่ใช่รูปร่างคนในกลุ่มทั้งสี่คนอย่างแน่นอน

และที่แปลกคือพวกเขาไม่มีใครหันมามองพวกเราเลย แต่ทำท่าทำไม้ทำมือเหมือนกำลังวางแผนการทำงานอะไรบางอย่าง

พวกเราพูดกันอย่างสงสัยว่าผิดปกติเพราะโดยนิสัยคนในกลุ่มนั้นจะต้องหันมามอง ว่าเราทำอะไรกัน

และเมื่อเราเดินกลับเข้าไปที่นั่งทั้งสี่คนก็ว่าเราเหมือนพวกเทพกรีกโบราณ

พวกเค้าบอกว่าหันไปมองพวกเราและนินทากันว่าเราทั้งสามเหมือนเทพกรีกโรมัน ..น่าแปลกและมหัศจรรย์มาก

หลังจากนั้นหัวหน้ากลุ่มก็ให้พาแต่ละคนใน กลุ่มที่ใส่ฮู๊ดไปดูอีก 3 คนที่เหลือ 3 คนแรกเห็นแบบที่เราเห็นหมด

จากนั้น 1 ใน 6 คนที่นอนหลับไปก็ตื่นขึ้นมาเราจึงพาเขาไปดูเขาก็เห็นอย่างที่เราเห็นเช่นกัน

ยกเว้นมีคนหนึ่งในกลุ่มใส่ฮู๊ดเป็นคนที่กิเลสบางแต่ยังไม่ได้เริ่มปฏิบัติ ตามแนวกลุ่มศีล ๕ ธรรมะในครัวเรือนเลยมองเห็นเหมือนคนปกติ

(ซึ่งหัวหน้ากลุ่มบอกว่าต้องให้เขาเป็นคนสุดท้ายที่ไปดูเพราะเป็นเงื่อนที่ จะเปลี่ยนกลับสู่มิติที่ 3)

และมีเรื่องที่แปลกอีกเช่นกันคือ เด็กน้อยที่ตื่นอยู่เอากล้องมาถ่ายรูปพบว่าทั้ง 4 คนไม่ได้ใส่ชุดขาวแต่เป็นสีเขียวเรืองแสง..น่าแปลกดีน่ะ

หลังจากนั้น เวลาก็กลับมาเร็วปกติเหมือนเดิม..แว่บเดียว..เที่ยงคืนก็สวดมนต์กัน หลังจากสวดมนต์เสร็จผู้นำของกลุ่มก็เริ่มต้นการถ่ายเทพลังงานพิเศษให้สมาชิก

รวมผู้นำ 8 คน นั่งจับมือกันเป็นวงเชื่อมจักรวาลทางช้างเผือก พลังจากแม่ถ่ายเทสู่ลูกแล้ว การทำงานครั้งนี้จะมีคนในขัดขวางจริงๆ

แต่ ระบบจะไม่ยอมให้ผิดพลาดได้อีก ดังนั้น ผู้มีพลังงานลบรุนแรงจึงถูกสะกดให้หลับและผู้ที่เหลือทั้ง 8 ถูกสวมทับด้วยกายทิพย์ของเทพพรหมจากต่างมิติ

เพื่อให้งานถ่ายเทครั้งนี้สำเร็จลุล่วงได้ด้วยดี


เช้าวันที่ 1 มกราคมได้รับคำสั่งว่าต้องเดินทางไปเพชรบูรณ์ ในการนี้คนในก็จะขัดขวางอีกแต่โชคดีที่ผู้นำได้เปิดให้คนในกลุ่มที่ต้องทำ งานครั้งนี้

ได้เห็นมิติอนาคตด้วยตาเนื้อทำให้ศรัทธาเกิดขึ้น จึงเริ่มเดินทางจากปากช่องไปเพชรบูรณ์ตั้งแต่ 08.00 น.

คนที่ไปในรถก็คือคนที่ตื่นอยู่ในตอนกลางคืน..แม้แต่เด็กน้อยก็เลือกไปกับเรา ไม่ไปเที่ยววังน้ำเขียวกับแม่เค้า..ขอบอกอีกครั้งว่านี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

การ เดินทางในช่วงแรกไปจนถึง อ.ชัยบาดาลรวดเร็วกว่าปกติเล็กน้อยทั้งที่เป็นการขับแบบไม่มีใครรู้เส้นทาง แต่อาศัยถามคนริมทางที่ระบบจัดไว้ให้



ระหว่างทางสังเกตเห็นมีภูเขารูปทรงปิระมิดเกิดขึ้นใหม่เยอะมาก..ธรรมชาติได้ จัดสร้างไว้เมื่อครั้งที่ฝนตกน้ำท่วมเมื่อปลายปีที่แล้ว

เพื่อจะช่วยสะท้อนพลังงานลบและพลังงานความร้อนจากสุริยะ ที่อำเภอนี้มีวัดแห่งหนึ่งสร้างอยู่ข้างภูเขาปิระมิดลูกใหญ่มาก

ผู้นำกลุ่มบอกให้เลี้ยวรถเข้าไป..อภิญญาเกิดแล้ว..ไม่เคยเห็นภูเขาวิ่งหนีรถ เราได้ ปกติเราขับรถไปภูเขาต้องใหญ่ขึ้นแต่นี่ภูเขากลับถอยห่างๆๆ

ทำให้นึกถึงพระพุทธเจ้ากับองคุลีมาล “..เราหยุดแล้ว..แต่ท่านยังไม่หยุด” (ประโยคนี้ผู้นำกลุ่มพูดขึ้นพร้อมกับเด็กน้อยเลย)

จากนั้นเมื่อขึ้นไปถึงข้างบนก็น่าแปลก ได้พบกับน้องคนหนึ่งที่ผู้นำกลุ่มเราเคยรู้จักแต่ไม่เจอหน้ากันมากว่า 10 ปี

เด็กคนนั้นบอกว่ามีอะไรให้เดินขึ้นมาบนนี้..แล้วได้ยินเสียงคุ้นๆ ก็เลยชะโงกหน้ามาเห็นกลุ่มเราพอดี

เดิมเด็กคนนี้ทำอาชีพขายเสื้อผ้าที่ประตูน้ำ..แต่น่าแปลก..คำถามแรกที่ผู้นำ กลุ่มถามเด็กคนนั้นคือ “ทำบ้านดินเป็นมั๊ย?”

น้องเค้าตอบว่าเป็นครับ..ผมมีทีมพร้อมทำสวนด้วย เป็นบ้านดินแบบศิลป์..อยากให้ทำแบบไหนทำได้หมด

จ๋ากับผู้นำกลุ่มมองหน้ากันแล้วพูดว่า..แสดงว่าเวลาเร่งมากแล้ว..เพราะ เรื่องนี้เราเพิ่งคุยกันสองคนเมื่อ 4 วันที่แล้ว

และระบบบอกว่าไม่ต้องกังวลเรื่องคนสร้างบ้าน เดี๋ยวจะจัดคนมาให้...เร็วมาก

และที่สำคัญน้องคนที่จะทำบ้านมองไปมองมา..หน้าตาเหมือนฟริ้นสโตนด์มาก..ออก มาจากการ์ตูนยังไงยังงั้นเลย สงสัยยุคหินจะกลับมาอีกครั้งจริงๆ นะ

นอก จากนี้ ที่ภูเขาปิระมิดนี้ผู้นำกลุ่มเปิดให้เห็นฐานทัพใหญ่ที่จะมาช่วยโลกครั้งนี้ด้วย

และเด็กน้อยของกลุ่มก็พูดขึ้นมาว่า “โอ้โฮ้..เขาตั้งขีปนาวุธไว้ยิงกันเลยเหรอ” ...แปลกดีนะ



ออกจากจุดนั้น ขึ้นถนนใหญ่มุ่งหน้าสู่เพชรบูรณ์ ระหว่างทางเด็กน้อยเห็นบ้าน/ตึกที่กำลังสร้างริมทาง

ก็พูดขึ้นมาว่า “เขาจะสร้างไปทำไม ไม่รู้หรือว่าต่อไปจะไม่เหลืออะไรแล้ว”

พวกเราฟังแล้วก็เห็นด้วยและมั่นใจมากขึ้นว่า..นี่คือเมล็ดพันธุ์จากเบื้องบนที่สูงและบริสุทธิ์มากจริงๆ

ขับมาจนเห็นป้ายกิโลเมตรบอกว่า 151 กม.ถึงเพชรบูรณ์ ขณะนั้นเวลาประมาณ 10.00 น.

เราก็กะว่าไม่เกินเที่ยงก็น่าจะถึงในระหว่างทางที่ไปสังเกตเห็นว่าอากาศและแสงแดดร้อนมาก ต้นไม้ข้างทางดูไร้พลังชีวิตและบนฟ้า

สังเกตเห็นชั้นบรรยากาศของมลพิษเต็มไปหมดและเริ่มกดต่ำลงมา และที่น่าแปลกคือ ขับรถด้วยความเร็ว 100 กม./ชม. แต่รถอืดมาก

รถที่อยู่ข้างหน้าวิ่งหายไปหมด..รถที่อยู่ข้างหลังก็แซงเราไปเรื่อยๆ และเมื่อเห็นป้ายกม.บอก 121 กม.ถึงเพชรบูรณ์

จ๋ารีบดูนาฬิกา..เฮ้ย..จะ 11.00 น. แล้วเกิดอะไรขึ้น?? เกิดมาไม่เคยใช้เวลาในการขับรถนานขนาดนี้เลย

ทุกคนในรถก็รู้สึกเหมือนกันว่านานมาก...มาแล้วครับสถานการณ์คล้ายเมื่อคืน กำลังวนกลับมาอีกแล้ว และคนในรถส่วนใหญ่รู้สึกเฉื่อยชา..

แม้แต่การกินมันปิ้งหรือขนมในรถก็ดูช้า ผิดปกติ กินเป็นชั่วโมงมันก็ยังไม่หมดหัว

ตอนนี้ผู้นำกลุ่มบอกว่า อากาศเป็นพิษนี้กำลังจะถูกปล่อยจากข้างบนลงมาแล้วและกำลังกดต่ำลง จะทำให้สัตว์และมนุษย์มีความเฉื่อยชามากขึ้น

​

คนจะหลับในโดยไม่รู้ตัวมากขึ้น ต่อไปอุบัติเหตุในท้องถนนจะมากขึ้นและชนกันทีละหลายๆ คัน หลังจากนั้นสัตว์ที่อยู่บนอากาศจะตายก่อนเพราะอากาศพิษเหล่านี้

สำหรับการแก้ไขในจุดนี้เราใช้การกินอาหารจำพวกแป้ง..กินมันและเผือก (ผู้นำกลุ่มบอกให้เอาติดมาด้วยจากบ้าน) จะทำให้ร่างกายชุ่มฉ่ำ ชุ่มชื้น และตื่น..ไม่หลับ

การขับรถครั้งนี้จ๋าได้ทดลองไม่เหยียบคันเร่งดูด้วย เพราะต้องการพิสูจน์อะไรบางอย่าง พบว่าไม่ว่าจะเหยียบหรือไม่เหยียบรถก็วิ่ง 45 กม./ชม.

เฮ้อ..ไม่มีใครสามารถขัดขวางการทำงานของระบบได้จริงๆ รู้งี้ไม่เหยียบให้เปลืองน้ำมันหรอก.. สุดท้ายพวกเราไปถึง จ.เพชรบูรณ์..

ทางขึ้นเขาค้อเวลาประมาณเกือบ 14.00 น. จุดหมายที่ระบบให้ไปหาคือสถานที่เที่ยวที่เรียกว่า “ป่าหิมพานต์”

(ลูกสาวผู้นำกลุ่มเคยไปมาแล้วและถ่ายรูปทางเข้ามาให้ดูเรียบร้อย) แต่ในแผนที่ไม่มี..ใช้การสุ่มถามตามเคย

จุดแรก..เจอผู้หญิงจูงจักรยาน (คนของระบบ) บอกว่ามีอยู่ให้วิ่งขึ้นไปทางเขาค้อเรื่อยๆ จะเห็นอยู่ทางขวามือ เราขับไปเรื่อยๆ

ในระหว่างค้นหาป่าหิมพานต์ช่วงขึ้นเขา (เปิดกระจกรถ 3 บาน) ระบบให้เราได้เรียนรู้ลมกรด..มีกลิ่นคล้ายก๊าซแอมโนเนีย (กลิ่นฉี่) ที่ฉุนแรงมาก

พัดวูบเข้ามา ทันใดนั้นทุกคนรู้สึกแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก..คนขับเองรู้สึกหนักที่จิตมาก..ตัวผู้นำกลุ่มก็รู้สึกมึนศีรษะ อย่างแรง ...ขับเลยจากจุดนั้น

หาที่จอดริมทางร่มๆ ได้ ผู้นำบอกให้จอดและใช้น้ำเปล่าที่เตรียมมาหลายขวดมาก

(ผู้นำให้เตรียมมาเยอะมาก..ตอนแรกก็ยังงงว่าจะกินยังไหงให้หมดได้)



นำน้ำมาราดรดหัวและหน้า..เกือบทั้งตัว พร้อมดื่มกินเข้าไปด้วย..เพราะน้ำเปล่าที่บริสุทธิ์จะเข้าไปชำระล้างพิษที่ เกาะนอกกายและในกาย

แล้วให้เราขับออกมาทางรูขุมขนหรือผายลม ..น่ามหัศจรรย์อาการที่เกิดขึ้นนั้นหายเป็นปลิดทิ้ง..โล่ง..

ทันใดนั้นกุญแจ ดอกสำคัญ (เด็ก) ก็ลงจากรถมาถามว่าเขาต้องราดน้ำด้วยมั๊ย เราเลยถามว่าได้กลิ่นอะไรประหลาดๆ หรือเปล่า

เค้าตอบว่าไม่ได้กลิ่นเพราะเมื่อกี้เขานอนหลับ..และเวลานอนหลับเขาจะไม่ หายใจทางจมูก แต่หายใจทางผิวหนังแทน...

เราถึงบางอ้อ..ที่หลวงปู่พุทธะอิสระสอนให้ฝึกหายใจ ทางผิวหนัง..และสอดคล้องกับข้อมูลที่ได้จากเว๊บเขากะลาว่าในช่วงที่แกนโลกพลิก

3 วันแรกหลับแบบกบจำศีลก่อนตื่น (หายใจทางผิวหนัง) สรุปว่าท่านทั้งหลายควรฝึกการหายใจให้ถูกต้องเพื่อรับกับสภาพมิติใหม่ที่จะเกิด

เมื่อคลายจากอาการดังกล่าวแล้วจิตก็รับรู้ได้...เศร้ามาก..ร้องไห้..มนุษย์ สัตว์และสิ่งมีชีวิตที่ต้องตายอีกมากมายเหลือเกิน..

พวกเราทุกคนสัมผัสได้แม้ แต่..กุญแจไขปริศนา (เด็ก) ก็บอกพวกเราว่าเค้าเคยนอนหลับแล้วฝันเห็นวันสิ้นโลก



พอตื่นขึ้นมาน้ำตาก็ไหลเองเหมือนกัน และมีปริศนาธรรมด้วยว่า “เลข 5 ไม่ดีนะ เป็นเลขอัปมงคล ยิ่ง 5 สามตัวยิ่งไม่ดี..จะเจอ 3 เท่า

เริ่มจากน้ำท่วมโลก แล้วตามด้วยลาวาปะทุ จึงจะถึงวันสิ้นโลกปัจจุบัน” จ๋าเลยต้องถามกลับว่า.เฮ้ย..พวกเราน่ะกลุ่มศีล ๕ นะ

ถ้างั้นก็เลขอัปมงคลด้วยเหรอ..เด็กน้อยตอบว่า “อันนั้น ๕ ตัวเดียวไม่เป็นไร แต่ถ้า 5 สามตัวน่ะอัปมงคล..” งานนี้ขำกันทั้งรถ

แล้วผู้นำกลุ่มเราบอกว่าใช่เพราะน้ำต้องลงมาล้างบรรยากาศพิษที่ห่อหุ้มไว้ ให้ไหลลงแม่น้ำและทะเลไปก่อน

แล้วจึงจะเกิดเกี่ยวกับแผ่นดิน..ใต้โลกปะทุ จากนั้นจะเป็นการพลิกโลกกลบสิ่งที่ไม่ดีลงล่าง พลิกสิ่งที่ดีขึ้นมา

จาก นั้นขับมาเรื่อยก็ยังไม่เห็นป่าหิมพานต์ เลยแวะถามจุดที่สองตรงจุดพักซื้อของฝากเขาค้อ..เขาบอกว่าให้วิ่งตรงไปทาง ทุ่งแสลงหลวง

จะเห็น..วิ่งไปเรื่อยๆ ก็ยังไม่เห็นจึงแวะถามอีกจุดที่สามเต็นท์เจ้าหน้าที่ป่าไม้..บอกว่ามีให้ วิ่งไปทางทุ่งแสลงหลวงอีกประมาณ 30 กม.ก็จะเจอ

ขับไปเรื่อยจนถึงทางแยกเข้าทุ่งแสลงหลวงจึงแวะถามจุดที่สี่ที่เต็นท์ไกด์นำ เที่ยว 2 คนบอกไม่เคยได้ยินมีอีกคนหนึ่งบอกว่าเข้าไปด้านในประมาณ 6 กม.

ก็จะเจอสำนักสงฆ์ก่อนเลยโค้งไปก็จะเห็น ขับไปจนถึงแล้วก็ไม่เห็น ก็สุ่มขับเลยเข้าไปด้านในอีกก็ไม่เจอจึงถามจุดที่ห้าแม่ค้าข้างทางแถวนั้น บอก..ไม่รู้จัก

เลยตัดสินใจสุ่มลึกเข้าไปอีกจุดที่หกเจอร้านค้าน้ำมันปั๊มหลอดเลยถามดูบอก ไม่รู้จัก..ไม่เคยได้ยินชื่อนี้..แปลกดี

สุดท้ายก็หาไม่เจอ..นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าในช่วงที่โลกสะอึก มิติจะมีการแกว่งตลอด..จะต้องเผชิญทั้งพลังงานลบและบวก

(ครั้งนี้เราเจอบวก 3 ลบ 3 ในการถามทาง) เพราะฉะนั้นต่อไปการเดินทางต้องระวังให้มาก ..เช็คจุดให้ดี

นอกจากนี้ ไม่เพียงเท่านั้น..ทุกคนหายจากอาการทั้งหมด แต่จ๋าและผู้นำกลุ่มของเรายังมีอาการค้างอยู่ ผู้นำปวดหัวแทบระเบิด

ในขณะที่จ๋าขับรถรู้สึกเหมือนจะวูบหน้ามืดหมดลม..ต้องหาที่จอดรถให้ผู้นำ กลุ่มเอาน้ำราดรดและอาเจียนส้ม 1 ผลที่กินระหว่างเดินทางออกทิ้งก่อน

ตัวแม่คลาย..ลูกคลายด้วย จ๋าไม่ต้องอาเจียนแต่ก็หายจากอาการวูบจะหมดลมได้ ...

ได้คำตอบเพื่อความอยู่รอดในวันข้างหน้าอีกอย่างหนึ่งคือ..ถึงเวลานั้นผล ไม้จะเป็นพิษ กินไม่ได้..ต้องอาศัยผักผลไม้ที่มีหัวอยู่ใต้ดินเท่านั้น

ขากลับ ลงจากเขาค้อ ผู้นำให้เราสวดมนต์ผ่านจิต..พบว่ายิ่งสวดยิ่งแน่น สุดท้ายต้องสวดออกเสียงอารมณ์ค่อยคลายบ้างแต่ก็ยังเครียดอยู่..

สุดท้ายผู้นำ ชวนให้ร้องเพลงที่เป็นบทเพลงธรรมะสนุก..บิงโก..คลายเครียด..ขับรถได้ฉลุย

จึงได้คำตอบว่าการเดินทางของเราต่อไปจะต้องเต็มไปด้วยจิตที่เบิกบานสนุกสนาน อยู่ตลอดเวลา..จิตที่รวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในการทำงาน..

ซึ่งเราสัมผัสได้ครั้งนี้ในกลุ่มแม้ไม่ได้พักกินข้าวก็ไม่มีใครบ่น..แม้แต่ เด็กน้อย..บริสุทธิ์ไม่บ่นหิว..อดทนสุดยอด..อารมณ์ดีได้ตลอดการเดินทาง..

ทุกคนมีเป้าหมายเดียวกันเพื่องานของระบบ

สรุปการเดินทางครั้งนี้ไปไม่ถึง จุดหมายที่ตั้งใจ แต่ขากลับก็ไม่วายมีเรื่องแปลกประหลาดอีกรถวิ่งด้วยความเร็วเหมือนปกติแล้ว

แต่พอเวลาเริ่มจะโพล้เพล้..สิ่งที่แปลกก็เกิดขึ้นคือ ขับรถอย่างไรก็ไปไม่ถึงสักที จ๋าและท่านผู้นำก็เห็นว่าป้ายกม. บอกว่าอีก 54 กม. ถึงชัยบาดาล

แต่ขับไปขับมาเอ้า..กลายเป็น 60 กม. ถึงชัยบาดาล เลยลองสังเกตอีกก็เห็น 51 กม. เดี๋ยวก็ 56 กม.บ้าง ..ไปๆ มาๆ เลยเลิกสนใจขับอย่างเดียว

และน่าแปลกพอเริ่มตั้งใจขับไม่สนใจรอบข้าง มีความรู้สึกเหมือนกับว่าล้อหน้าของรถยกลอยได้

ผู้นำกลุ่มบอกว่าข้างหลังยังบริสุทธิ์ไม่พอทำให้จ๋าซึ่งมีพลังจิตน้อยอยู่ยกไม่ขึ้น ต้องหมั่นฝึก

เพราะตอนนี้ระบบกำลังสอนให้เราขับรถแบบขับยานแต่เราต้องล้างกิเลสให้มากกว่านี้..รับทราบค่ะ

สรุปขาไปใช้เวลาเกือบ 6 ชั่วโมง ขากลับใช้เวลา 4 ชั่วโมง ทั้งนี้ไม่เกี่ยวกับรถติดหรือไม่ติด..ระบบให้เรียนรู้ล้วนๆ

เช้าวัน ที่ 2 มกราคม 2554 ประมาณ 07.00 น. ได้เห็นเครื่องบินสีขาวนวลด้านหัวกลมมน ไม่มีปีกข้าง

มีเฉพาะส่วนหาง (เป็นลักษณะเดียวกับที่ลูกสาวผู้นำกลุ่มและเพื่อนได้เห็นตอนเช้ามืดของวัน ที่ 12 ธันวาคม 2553 แต่ครั้งนั้นเห็น 2 ลำ:

บินโฉบไปมา 1 ลำและอยู่นิ่ง 1 ลำ) ผู้นำกลุ่มบอกว่ามารับท่านทั้งหลายจากมิติอื่น

ที่มาสอนให้เราเรียนรู้ประสบการณ์ทางจิตวิญญาณต่างมิติตั้งแต่คืนวันที่ 31 ธันวาคม 2553 นั่นเอง...ภารกิจเสร็จสิ้นด้วยดี

หลังจากนั้นพวกเราก็แยกย้ายกันกลับบ้าน และปล่อยให้ผู้นำกลุ่มอยู่คนเดียวเพื่อบำเพ็ญต่อ

น่าแปลก..พอเช้าวันที่ 3 ธันวาคม 2554 สรยุทธรายงานข่าวนกในรัฐอาคันซอร์ สหรัฐอเมริกา ตกลงมาตาย 5,000 กว่าตัวโดยไม่รู้สาเหตุ



พอเห็นข่าวนึกถึงสิ่งที่ไปเรียนรู้มาเรื่องอากาศเป็นพิษทันที เพราะเมื่อมิติเปิดในบางจุดเพื่อถ่ายเทก๊าซพิษ ความเข้มข้นยังสูงมาก

เพราะไม่มีลมและน้ำฝนลงมาช่วยชำระล้าง ดังนั้น นกกลุ่มนี้จึงสัมผัสเจอก่อนและตาย

ส่วนตอนค่ำมีข่าวว่าปลาลอยตายหลายแสนตัวเป็นแพห่างจากจุดที่นกตาย 200 กว่ากิโลเมตร ...



กรณีนี้ก็เช่นเดียวกันผู้นำกลุ่มอธิบายว่าก๊าซพิษของข้างบนชุดเดียวกับ ที่นกตายเมื่อลงมาสู่น้ำและในจุดดังกล่าว

ปริมาณน้ำไม่มากพอทำให้ก๊าซพิษลงสู่น้ำมี ความเข้มข้นมาก..น้ำเสียปลาเลยตาย)

ท้ายที่สุดบ่ายวันที่ 3 มกราคมผู้นำกลุ่มได้เฉลยให้รู้ว่าสิ่งที่เราได้เรียนรู้กันนั้นเป็นเพียงการ ซ้อมรบ และการให้เรียนรู้มิติของโลกอนาคต..

ถึงบางอ้อว่า..คืนนั้นและรถที่เราขับ ..สิ่งที่เราเห็นบนถนน..รถคันอื่นอยู่มิติที่ 3 แต่เราอยู่ในมิติอนาคตจ๊ะ

ผู้นำกลุ่มของเรายังบอกต่อว่าหลังจากนี้มนุษย์โลกจะต้องเผชิญกับสิ่งเหล่านี้แน่นอน

เริ่มจากอเมริกาและยุโรปดินแดนแห่งอุตสาหกรรมก่อน ต่อมาคือรัสเซียและจีน

จากนั้นก็จะเข้าถึงบ้านเรา..ขอทุกท่านเตรียมตัวเตรียมใจสำหรับภารกิจในอนาคต ..หนักแน่นอน

ขอบคุณข้อมูลจาก คุณวิภานันท์

 

มีผู้บาดเจ็บ 16 คนจากแผ่นดินไหวทางใต้ของอิหร่าน​

​

เตหะราน 5 ม.ค.- เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและสำนักข่าวเมห์ในอิหร่าน รายงานว่า มีผู้บาดเจ็บ 16 คน และหมู่บ้านได้รับความเสียหาย 17 แห่งจากแผ่นดินไหวขนาด 5.3 ริกเตอร์ทางใต้ของอิหร่านในวันนี้

เว็บไซต์ศูนย์ศึกษาด้านแผ่นดินไหว มหาวิทยาลัยเตหะราน รายงานว่า แผ่นดินไหวเกิดขึ้นใกล้กับเมืองอาร์ดาคันในจังหวัดฟาร์ส ทางใต้ของประเทศเมื่อเวลาประมาณ 09.25 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือเวลา 12.55 น.วันนี้ในไทย แผ่นดินไหวเกิดขึ้นบ่อยครั้งในอิหร่าน เมื่อปี 2546 มีผู้เสียชีวิตราว 30,000 คนจากเหตุแผ่นดินไหวที่เมืองบามทางตะวันออกเฉียงใต้ของอิหร่าน.-สำนักข่าวไทย

วันพุธ ที่ 5 ม.ค. 2554

ยอดเสียชีวิตจากฝนตกหนักในฟิลิปปินส์เพิ่มเป็น 25 คน


ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ต

​

มะนิลา 5 ม.ค.- ยอดผู้เสียชีวิตจากดินถล่มและน้ำท่วมในฟิลิปปินส์เพิ่มขึ้นเป็น 25 คนในวันนี้ ซึ่งคนที่พยายามจะเก็บสิ่งของที่ลอยน้ำมาในช่วงภัยพิบัติ กลับต้องเสียชีวิตลงด้วย

แม้ว่าทางหลวงสายหลักจะเปิดให้บริการได้แล้วภายหลังเก็บกวาดซากปรักหักพังจากดินถล่มออกจากเส้นทาง แต่พื้นที่ส่วนใหญ่ทางภาคใต้ยังคงประสบภัยน้ำท่วม เจ้าหน้าที่เมืองบูตวน กล่าวว่า พื้นที่ร้อยละ 70 ยังจมอยู่ใต้น้ำ ยอดผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมเพิ่มขึ้น 2 เท่าเมื่อคืนที่ผ่านมาขณะที่ฝนตกหนักลงมาอีก ผู้เสียชีวิตบางส่วนทั้งในและรอบเมืองบูตวนพยายามเก็บท่อนไม้ที่ลอยน้ำมาเพื่อจำหน่ายให้กับบริษัทค้าไม้ เจ้าหน้าที่กล่าวว่า น้ำท่วมเป็นโอกาสที่ทำให้พวกเขาเก็บท่อนไม้ที่ลอยตามน้ำมาโดยไม่ได้ระวังอันตราย หลังจากพบว่าผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นเพราะจมน้ำและบางส่วนมาจากดินถล่ม โดยมีผู้ไร้ที่อยู่กว่า 8,000 คนอยู่ในศูนย์ผู้อพยพทั่วประเทศ. -สำนักข่าวไทย

วันพุธ ที่ 5 ม.ค. 2554

แรงสั่นสะเทือนในจีนทำให้บ้านเรือนเสียหายหลายพันหลัง​

​

จีน 5 ม.ค. - บ้านเรือนประชาชนในมณฑลยูนนาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เสียหายหลายพันหลัง หลังเกิดแรงสั่นสะเทือนถึง 92 ครั้ง ในช่วง 3 วันแรกของปีใหม่

เมืองอิงเจียง ในมณฑลยูนนาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ใกล้กับชายแดนพม่า เกิดแรงสั่นสะเทือนถึง 92 ครั้ง ในช่วง 3 วันแรกของปี 2554 โดยการสั่นสะเทือนครั้งรุนแรงที่สุด วัดความรุนแรงได้ 4.9 ริกเตอร์ ทำให้บ้านเรือนประชาชนถึง 8,017 หลัง ได้รับความเสียหาย และส่งผลกระทบต่อประชาชนอีกราว 142,000 คน แต่ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ทางการต้องจัดตั้งศูนย์ลี้ภัยชั่วคราวขึ้น เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยกว่า 80,000 คน นอกจากนี้ ยังเกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมาอย่างต่อเนื่องด้วย. - สำนักข่าวไทย

วันพุธ ที่ 5 ม.ค. 2554

อากาศหนาวจัดในจีนทำให้ประชาชนทางตอนใต้ต้องเร่งอพยพ​

​

ปักกิ่ง 5 ม.ค.- สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานวานนี้ว่า อุณหภูมิติดลบในจีน ทำให้ประชาชนซึ่งอาศัยอยู่ทางตอนใต้ของประเทศกว่า 20,000 คนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน และคาดว่า อุณหภูมิในพื้นที่ดังกล่าวจะลดลงอีกในสัปดาห์นี้

รายงานระบุว่า น้ำแข็งและลูกเห็บที่ตกลงมาทำให้หลังคาของบ้านเรือนกว่า 200 หลังพังถล่ม และทำให้ประชาชน 22,800 คนในมณฑลกุ้ยโจว ทางตอนใต้ของประเทศ ต้องอพยพออกจากบ้านเรือน และมีรถยนต์หลายพันคันติดค้างอยู่กลางทาง ถนนบางสายถูกปิดหลังมีหิมะปกคลุม เจ้าหน้าที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยามณฑลกุ้ยโจวเปิดเผยว่า ประชาชนควรจะอพยพออกจากบ้านเรือน โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่บนภูเขาและผู้สูงอายุ เพราะถนนและบ้านเรือนที่ก่อสร้างไม่ได้มาตรฐานอาจได้รับความเสียหายจากสภาพอากาศหนาวจัดในขณะนี้

ทั้งนี้ สภาพอากาศอันหนาวจัดสร้างความเสียหายให้แก่พื้นที่ทางการเกษตรไปแล้วกว่า 400,000 ไร่ และทำให้เศรษฐกิจของมณฑลกุ้ยโจวเสียหายราว 45 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,350 ล้านบาท) มีรายงานว่า อุณหภูมิทางตอนเหนือและตอนกลางของมณฑลกุ้ยโจวอาจลดลงอีกจนถึงวันศุกร์นี้.-สำนักข่าวไทย

วันพุธ ที่ 5 ม.ค. 2554

เผยจีนอาจต้องใช้เวลาถึง 300 ปีเพื่อเปลี่ยนทะเลทรายให้กลายเป็นพื้นที่สีเขียว​

​

ปักกิ่ง 5 ม.ค.- หนังสือพิมพ์ไชน่าเดลี่ของทางการจีนรายงานวันนี้ว่า ความกดดันทางประชากร ฝนแล้งและการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ทำให้จีนกลายเป็นประเทศที่มีดินแดนซึ่งกลายเป็นทะเลทรายขนาดใหญ่ที่สุดของโลก โดยอาจต้องใช้เวลานานถึง 300 ปีเพื่อเปลี่ยนทะเลทรายให้กลายเป็นพื้นที่สีเขียว

รายงานระบุว่า การทำลายทุ่งหญ้าธรรมชาติโดยการเลี้ยงสัตว์ การแปรสภาพที่ดิน และการใช้น้ำมากจนเกินไปก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ยากต่อการยับยั้งไม่ให้พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศกลายสภาพเป็นทะเลทราย นายจู เล่ยกี่ รองผู้อำนวยการคณะบริหารการป่าไม้แห่งชาติเปิดเผยว่า จีนยังคงเป็นประเทศที่มีดินแดนซึ่งกลายเป็นทะเลทรายขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยร้อยละ 27 ของพื้นที่ทั้งหมด หรือประมาณ 2.6 ล้านตารางกิโลเมตรเป็นพื้นที่ซึ่งกลายเป็นทะเลทราย ขณะที่อีกร้อยละ 18 ของดินแดนทั้งประเทศถูกดินทรายกัดกร่อน

อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าพื้นที่ทะเลทรายขนาด 530,000 ตารางกิโลเมตรของประเทศสามารถเปลี่ยนเป็นพื้นที่สีเขียวได้ แต่กระบวนการดังกล่าวอาจต้องใช้เวลาราว 300 ปี เพราะในขณะนี้ อัตราการเปลี่ยนแปลงทะเลทรายให้กลายเป็นพื้นที่สีเขียวอยู่ที่ปีละ 1,700 ตารางกิโลเมตร. -สำนักข่าวไทย

วันพุธ ที่ 5 ม.ค. 2554

จีนสร้างเครื่องบินรบล่องหนเจ 20 รุ่นต้นแบบสำเร็จแล้ว​

​

ปักกิ่ง 5 ม.ค.-หนังสือพิมพ์อาซาฮี ของญี่ปุ่นรายงานอ้างแหล่งข่าวทางทหารของจีน กล่าวว่าดูเหมือนจีนสร้างเครื่องบินรบล่องหนรุ่นต้นแบบลำแรกสำเร็จแล้ว แสดงถึงความทันสมัยทางการทหารของจีนก่อนที่รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐ จะเดินทางเยือนกรุงปักกิ่งในเร็ว ๆ นี้

ภาพถ่ายที่เผยแพร่บนโลกออนไลน์และแหล่งข่าวทางการทหารของจีน ระบุว่าเครื่องบินขับไล่เจ-20 รุ่นต้นแบบได้เสร็จสมบูรณ์ โดยนำมาทดสอบการวิ่งไปบนรันเวย์ในสัปดาห์ที่แล้วที่สนามบินทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน

จีนมีแผนเริ่มทดสอบการบินเครื่องบินเจ-20 ในเดือนนี้ และมีแผนจะนำเครื่องบินรุ่นนี้เข้าประจำการในปี 2560 เครื่องบินดังกล่าวจะติดตั้งขีปนาวุธขนาดใหญ่ สามารถบินถึงเกาะกวมด้วยการเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ อย่างไรก็ตาม คงต้องใช้เวลาประมาณ 10-15 ปีจึงจะพัฒนาเทคโนโลยีของเครื่องบินรุ่นนี้ให้เทียบเท่าเครื่องบินล่องหนรุ่นเอฟ-22 ของสหรัฐ

หนังสือพิมพ์อาซาฮีรายงานว่า กองทัพจีนดำเนินการอย่างรวดเร็วเพื่อสร้างความทันสมัยให้แก่กองทัพอากาศ และครั้งนี้อาจกระทบต่อดุลอำนาจทางทหารในเอเชียตะวันออก แต่เจ้าหน้าที่ของกระทรวงกลาโหมจีนปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นต่อรายงานข่าวดังกล่าว

ปัจจุบันสหรัฐเป็นประเทศเดียวที่มีประจำการเครื่องบินรบล่องหน เอฟ-22 แต่ในเดือนมกราคมปีที่แล้ว รัสเซียได้เผยโฉมเครื่องบินรุ่นใหม่ที่พัฒนาโดยบริษัทซูคอยซึ่งจะเป็นคู่แข่งของเครื่องบินรบสหรัฐ

นิตยสารอุตสาหกรรมกลาโหม อวิเอชัน วีคลี รายงานว่าเครื่องบินเจ-20 มีขนาดใหญ่กว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ บ่งบอกถึงความสามารถปฏิบัติการพิสัยไกลและบรรทุกอาวุธขนาดหนัก.-สำนักข่าวไทย

วันพุธ ที่ 5 ม.ค. 2554

ที่มา http://www.mcot.net