ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="98%"><tbody><tr valign="top"><td>แจกรถ เข็นฟรีสำหรับผู้พิการ <hr align="center" width="100%" color="#660099" noshade="noshade" size="1"> </td></tr> <tr valign="top"> <td>รถเข็นสำหรับคนพิการ

    ช่วยกันกระจายข่าวกันนะ สาธุ! ได้บุญกันทุกคนนะ
    รถวีลแชร์และรถสามล้อโยกมีเพียงพอสำหรับทุกท่านที่ ติดต่อเข้ามา
    สมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย(สพท.) ร่วมกับสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหว(ส.พ.ค.)
    ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้ง สิ้น เพียงส่งเอกสาร
    1. สำเนาทะเบียนบ้าน พร้อมเซ็นรับรองสำเนา
    2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน พร้อมเซ็นรับรองสำเนา
    3. สำเนาสมุดประจำตัวคนพิการ พร้อมเซ็นรับรองสำเนา
    4. รูปถ่ายเต็มตัวเห็นสภาพความพิการชัดเจน 1 รูป
    5. ให้ระบุที่อยู่ที่ติดต่อได้สะดวก พร้อมเบอร์โทรศัพท์(ถ้ามี)

    มาที่ สมาคม คนพิการแห่งประเทศไทย
    73/7-8 ซอยติวานนท์8 ถนนติวานนท์ ตำบลตลาดขวัญ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี 11000 โทรศัพท์ 0-2951-0445,0-2584-3993,0-2951-0447 โทรสาร 0-2951-0567


    หรือ สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหว
    802/410 หมู่ 12 หมู่บ้านวังทองริเวอร์ปาร์ค ซอย 10/4 ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี 12130 มือถือ 0-1735-2316, 0-1372-4201 โทรสาร 0-2990-0331
    ข่าว แจกรถเข็นฟรีสำหรับผู้พิการ </td></tr></tbody></table>
    <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="98%"> <tbody> <tr valign="top"> <td>แจกรถเข็นฟรีสำหรับผู้พิการ <hr align="center" width="100%" color="#660099" noshade="noshade" size="1"> </td></tr> <tr valign="top"> <td>รถเข็นสำหรับคนพิการ

    ช่วยกันกระจายข่าวกันนะ สาธุ! ได้บุญกันทุกคนนะ
    รถวีลแชร์และรถสามล้อโยกมีเพียงพอสำหรับทุกท่านที่ ติดต่อเข้ามา
    สมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย(สพท.) ร่วมกับสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหว(ส.พ.ค.)
    ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้ง สิ้น เพียงส่งเอกสาร
    1. สำเนาทะเบียนบ้าน พร้อมเซ็นรับรองสำเนา
    2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน พร้อมเซ็นรับรองสำเนา
    3. สำเนาสมุดประจำตัวคนพิการ พร้อมเซ็นรับรองสำเนา
    4. รูปถ่ายเต็มตัวเห็นสภาพความพิการชัดเจน 1 รูป
    5. ให้ระบุที่อยู่ที่ติดต่อได้สะดวก พร้อมเบอร์โทรศัพท์(ถ้ามี)

    มาที่ สมาคม คนพิการแห่งประเทศไทย
    73/7-8 ซอยติวานนท์8 ถนนติวานนท์ ตำบลตลาดขวัญ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี 11000 โทรศัพท์ 0-2951-0445,0-2584-3993,0-2951-0447 โทรสาร 0-2951-0567


    หรือ สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหว
    802/410 หมู่ 12 หมู่บ้านวังทองริเวอร์ปาร์ค ซอย 10/4 ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี 12130 มือถือ 0-1735-2316, 0-1372-4201 โทรสาร 0-2990-0331
    ข่าว แจกรถเข็นฟรีสำหรับผู้พิการ </td></tr></tbody></table>รถเข็นสำหรับคนพิการแจกรถเข็นฟรีสำหรับผู้พิการ

    ช่วย กันกระจายข่าวกันนะ สาธุ! ได้บุญกันทุกคนนะ
    รถวีลแชร์และรถสามล้อโยกมี เพียงพอสำหรับทุกท่านที่ติดต่อเข้ามา
    สมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย(สพท.) ร่วมกับสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหว(ส.พ.ค.)
    ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้ง สิ้น เพียงส่งเอกสาร
    1. สำเนาทะเบียนบ้าน พร้อมเซ็นรับรองสำเนา
    2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน พร้อมเซ็นรับรองสำเนา
    3. สำเนาสมุดประจำตัวคนพิการ พร้อมเซ็นรับรองสำเนา
    4. รูปถ่ายเต็มตัวเห็นสภาพความพิการชัดเจน 1 รูป
    5. ให้ระบุที่อยู่ที่ติดต่อได้สะดวก พร้อมเบอร์โทรศัพท์(ถ้ามี)

    มาที่ สมาคม คนพิการแห่งประเทศไทย
    73/7-8 ซอยติวานนท์8 ถนนติวานนท์ ตำบลตลาดขวัญ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี 11000 โทรศัพท์ 0-2951-0445,0-2584-3993,0-2951-0447 โทรสาร 0-2951-0567


    หรือ สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหว
    802/410 หมู่ 12 หมู่บ้านวังทองริเวอร์ปาร์ค ซอย 10/4 ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี 12130 มือถือ 0-1735-2316, 0-1372-4201 โทรสาร 0-2990-0331
    ข่าว แจกรถเข็นฟรีสำหรับผู้พิการ


    living in the world turn upside down
     
  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    Hotel Rwanda : อีกหนึ่งกระจกส่องวิกฤติไทย

    [​IMG]

    กระแสภาพยนตร์ที่มาแรงที่สุดในยามนี้ คงไม่พ้นเรื่องนี้ไปแล้ว ยอมรับว่าได้ภาพยนตร์เรื่องนี้มาเก็บไว้นานพอสมควรแล้ว แต่ไม่เคยได้หยิบมาดูเสียที พอเกิดกระแสเมื่อ 2-3 วันนี้ ก็ได้โอกาสปัดฝุ่นขึ้นมาดูเสียที

    ต้องบอกตรงนี้ไว้ก่อนว่า ผู้เขียนไม่เคยใส่ใจว่าจะเป็นสีไหน หรือสีใดที่จะขึ้นมามีบทบาทในบ้านเมืองนี้ในช่วงต่อไป เพราะไม่เคยให้ราคากับสีใดในบ้านเมืองนี้อีกแล้ว และพยายามทำใจอยู่ตลอดเวลาว่า “อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด”

    ดังนั้นจึงจะพูดถึงหนัง “Hotel Rwanda” ได้อย่างสะดวกใจ ต้องยอมรับว่าก่อนชมหนังเรื่องนี้ ไม่ค่อยให้ราคามากนักกับทั้งทีมงานสร้าง ดารา หรือโปรดักชั่นต่างๆ แต่พอชมจนจบแล้ว ต้องบอกได้คำเดียวว่า “คาดผิดอย่างมาก” กับหนังดีเยี่ยมเรื่องนี้

    Hotel Rwanda กล่าวถึงการทำสงครามล้างเผ่าพันธุ์ในประเทศรวันดา ในช่วงปี 2537 เนื่องด้วยประเทศมีการแบ่งเป็น 2 เผ่าสำคัญคือ ฮูตู และทุทซี่ โดยในระหว่างนั้น เกิดกรณีที่ประธานาธิบดีซึ่งเป็นชาวฮูตูถูกลอบสังหาร ดังนั้นชาวทุทซี่ ซึ่งมีการเปรียบเหมือน “แมงสาบ” ต้องถูกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ นับแต่เด็กเล็กไม่ว่าจะวัยใดก็ตาม ซึ่งอันที่จริงแล้ว ความบาดหมางระหว่าง 2กลุ่มนี้มีมาอย่างยาวนานแล้ว

    มาว่ากันถึงบทบาทการแสดงแล้ว ดอน ชีเดล กับบท พอล รูเซซ่าบากีน่า ที่เปิดโอกาสให้เขาเล่นได้อย่างเต็มที่ในฐานะผู้จัดการโรงแรมมิลล์คอลลินส์ ระดับ 4 ดาวแห่งเดียวของรวันดา ที่เปิดดำเนินการโดยนายทุนชาวเบลเยี่ยม ดังนั้นเมื่อเกิดสงครามล้างเผ่าพันธุ์ขึ้น พอลจึงพยายามปกป้องครอบครัวของเขา คนรอบข้าง และด้วยความมีมนุษยธรรมที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กับการปกป้องเด็ก และผู้ถูกกระทำที่เขาพบเห็น ด้วยการให้มาพักที่โรงแรมแห่งนี้ โดยหวังว่าฝ่าย UN ที่ส่งทหารสัมพันธมิตรเข้ามาแก้ไขสถานการณ์จะช่วยชีวิตคนรอบข้างของเขาได้ ...แต่กว่าจะถึงจุดนั้น ก็ลุ้นกันน่าดูทีเดียว

    ภาพยนตร์ Hotel Rwanda ไม่ได้มุ่งที่จะแสดงถึงความป่าเถื่อน การฆ่าฟันกันอย่างเอาเป็นเอาตาย ที่จะต้องมีเพื่อจะสื่อให้เห็นว่าเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อย่างจริงจัง แต่มันจำเป็นด้วยหรือ ...เพราะด้วยการสื่อด้วยภาษาแห่งภาพยนตร์ ได้บรรจุเอาอรรถรสทั้งหมดของความป่าเถื่อน กักขฬะ แห่งความเหี้ยมโหดสุดของมนุษยชาติที่จะทำกันเองไว้หมดแล้ว

    ไม่อยากให้คนดูภาพยนตร์เรื่องนี้แล้ว เอามาเปรียบเทียบกับเมืองไทย และไม่อยากบอกว่าเมืองไทยยังไกลอีกมากที่จะเกิดเรื่องทำนองนี้ขึ้น เพราะทุกสิ่งมันเกิดขึ้นได้เสียแล้วกับสยามประเทศแห่งนี้ แต่ต้องการให้ใครก็ตามที่ดูหนังเรื่องนี้แล้ว ช่วยเตือนสติตัวเองว่า ต้องมีสติ ...ต้องฉุกคิด...ให้เป็นคุณสมบัติของคนไทยก็ยิ่งดี และ และคนที่ฉลาดอยู่แล้ว ต้องเฉลียวคิดให้หนักแน่นยิ่งขึ้น ข้อสำคัญคือ แม้แต่ควายสัตว์ที่เราชอบดูถูกมันนั้น เวลาที่จะถูกจูงจมูก มันก็ต้องมองเหมือนกันนะว่า ..เจ้านายหรือคนที่มันไว้ใจหรือเปล่าที่จะมาทำหน้าที่นี้

    หากใครคิดจะชมภาพยนตร์เรื่องนี้ เคยเห็นเขาเอามาเซลล์หลายที่แล้ว ไม่ถึง 100 บาทเสียด้วยซ้ำ ลองหาดูแล้วกัน ไม่ต้องไปง้อหัวลำโพงว่าเขาจะฉายหรือไม่ และขอกล่าวอีกทีว่า “อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด อย่ายึดมั่นถือมั่น ไม่ว่าสีไหน ฝ่ายใด คนไหนที่เคยมีพระคุณกับเราแค่ไหน โปรดยึดมั่นในคุณงามความดี ความถูกต้องทำนองคลองธรรม ก็น่าจะพอเพียงแล้ว

    ------------------------------------------------
    Posted by โลกทรรศน์2010 , ผู้อ่าน : 745 , 15:30:13 น.

    ที่มา www.oknation.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มิถุนายน 2010
  3. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    ใครช่วยหาข่าวทีว่า oil spill ที่ gulf Mexico อาจเป็นการระเบิดของ volcano ใต้น้ำ?????

    New kind of volcano discovered in the Gulf of Mexico ชนิดใหม่ของภูเขาไฟที่พบในอ่าวเม็กซิโก

    -----------------------------------------------------------

    Asphalt volcanoes discovered


    13. May 2004





    Asphalt flows from deep-sea volcanoes

    New kind of volcano discovered in the Gulf of Mexico

    Underwater volcanoes that spew asphalt instead of lava: they were discovered in the Gulf of Mexico during an expedition of the research vessel SONNE, led by Prof. Gerhard Bohrmann of the DFG Research Center Ocean Margins. On these volcanoes the multinational team of scientists encountered a previously unknown highly diverse ecosystem at a water depth of 3,000 meters. The prominent scientific journal Science reports the spectacular discovery in its issue of 14 May 2004.

    Asphalt, commonly known to us as the material that covers our streets, has been found flowing out of mounds that rise 450 to 800 meters above the desert-like floor of the Gulf of Mexico. Researchers discovered the asphalt volcanoes during a cruise of the research vessel SONNE. First observed in video footage, the structures were confirmed by bottom samples taken during the expedition. "We were actually only searching for the presence of methane at the seafloor, instead we found a new kind of volcano associated with a complex ecosystem," relates Prof. Gerhard Bohrmann enthusiastically.

    The researchers surmise that such asphalt volcanoes only occur in the Gulf of Mexico, but that they are abundant there, because the conditions required for their formation - deep water, salt diapirs below the seafloor, and the presence of oil deposits - are found only here.

    When special microorganisms deep below the seafloor degrade petroleum, asphalt remains as a waste product. It is not unusual to find small amounts of this, but in some places in the Gulf of Mexico the asphalt covers more than a square kilometer of sea bottom. The researchers christened one of the mounds "Chapopote", after the Aztec word for asphalt. Video recordings of this mound clearly show how the asphalt flowed out of the crater and down the slope. The pictures are amazingly reminiscent of lava from volcanoes on land. In addition, they are home to numerous life forms: tube worms, clams, fish, crabs, and - typical for deep-sea oases - abundant bacteria.

    Asphalt is commonly presumed to be hostile to life. "Nevertheless, we have now found a complete ecosystem, not only living on the asphalt, but also apparently feeding on it," says Bohrmann. The amazing thing about this is: as a waste product asphalt no longer contains the usual basic deep-sea nutrients, methane and hydrogen sulfide. Almost all animals living in the deep sea feed on such chemical compounds because energy from the sun only penetrates the upper layer of the ocean. "Now we have to find out what compounds the organisms on the asphalt volcanoes use, and how the network of life in this system is interconnected."

    The geologist of the DFG Research Center Ocean Margins is fascinated. "As a scientist, one rarely has the opportunity to discover things that are still completely unknown. The chance for discoveries of this magnitude exists only in the deep sea."
     
  4. kowmoo

    kowmoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    331
    ค่าพลัง:
    +1,896
    Mexico อยู่ตรงข้ามกับเอเชีย จะมีอะไรแถวทวีปเราป่าวไม่รู้โนะ
     
  5. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    คุณต้นอ้อ (Lucky Friday) บอกว่า ตอนนี้ปลาตายที่ระนองเพิ่มขึ้น ตอนนี้เป็นปลาใหญ่แล้วด้วย ทหารเรือบอกว่า แบบนี้ไม่ปกติแน่นอน

    ที่จับตาภูเขาไฟใต้ทะเล เพราะครูบาอาจารย์ท่านหนึ่งท่านเคยบอกตั้งแต่ซึนามิคราวก่อนว่าจะเกิดซึนามิแล้วยังบอกว่าเกิดจากแผ่นดินมันเหลื่อมกัน (บอกก่อนหน้าซึนามิเกิดอีก)

    แล้วท่านบอกอีกว่า ครั้งนี้จะเกิดซึนามิ เข้าไทยอย่างแรง คนตายมากกว่าเิดิม คราวนี้จะเกิดจากภูเขาไฟใต้ทะเลระเบิด

    ลองมาจับตาดูกันนะ

    จะพยายามรวบรวมข้อมูลพวกภูเขาไฟ ไว้ในกระทู้ ภูเขาไฟที่กำลังปะทุ นะ
    :cool:
     
  6. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    'สนั่น' ยันน้ำแม่กลองเพียงพอสำหรับคนกรุง

    <table class="A14" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="3" cellspacing="0"><tbody><tr><td valign="top" align="center"><table width="95%" border="0" cellpadding="2" cellspacing="2"><tbody><tr><td valign="top"><table align="center" bgcolor="#f5f5f5" border="0" cellpadding="2" cellspacing="2"><tbody><tr><td>[​IMG]</td></tr><tr><td align="center">
    </td></tr></tbody></table>
    </td></tr></tbody></table></td></tr><tr><td valign="top" align="center"><table width="95%" border="0" cellpadding="2" cellspacing="2"><tbody><tr><td valign="top"> เสธ.หนั่น ยืนยันน้ำแม่กลองเพียงพอสำหรับคนกรุง ขณะที่ภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ยังวิกฤติ วอนชาวนาเลื่อนทำนาปีออก 1 เดือน
    <!--<iframe scrolling="no" src="fullURLmain/include/adsense/indetail.php" frameborder="0" height="266" width="250"></iframe>-->

    พล.ต.สนั่น ขจรประศาสตร์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สถานการณ์น้ำในขณะถือว่าอยู่ในขั้นที่สามารถดูแลได้

    โดย ในส่วนของกรุงเทพมหานครยังมีปริมาณน้ำเพียงพอต่อการใช้งาน โดยได้ผันน้ำจากแม่กลองมา รวมทั้งพื้นที่ภาค เหนือ ปริมาณน้ำในเขื่อนป่าสักและเขื่อนแควน้อยยังไม่ถึงขั้นวิกฤติ ยกเว้นเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ที่ปริมาณน้ำค่อนข้างน้อย



    ในส่วนของการทำฝนหลวง ในขณะนี้ก็ได้มีการย้ายฐานการทำฝนหลวงจากสุราษฎร์ธานี จันทบุรี และระยอง ไปทำในพื้นที่ภาคเหนือที่ จ.ตาก และจ.แพร่

    ซึ่งจาก การสอบถามเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้รับคำยืนยันว่าปริมาณเมฆบริเวณพื้นที่ ภาคเหนือยังเพียงพอที่จะทำฝนหลวงได้ โดยจะ เน้นการทำฝนหลวงบริเวณเหนือเขื่อน
    นอก จากนี้รัฐบาลได้ขอความร่วมมือจากชาวนให้เลื่อนการทำนาปีออกไป 1 เดือน เพื่อให้มีปริมาณน้ำเพียงพอ

    </td></tr></tbody></table></td></tr><tr><td valign="top" align="center"><table width="95%" border="0" cellpadding="2" cellspacing="2"><tbody><tr><td valign="top"> <table align="center" bgcolor="#f5f5f5" border="0" cellpadding="2" cellspacing="2"><tbody><tr><td>[​IMG]</td></tr><tr><td align="center">
    </td></tr></tbody></table> </td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>
     
  7. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
    ข้อมูลจากกลุ่มตาสับปะรด จ.ระนอง รวบรวมไว้เรื่องทะเลบ้านหินช้างอยู่ๆ ก็ร้อน จนปลาตายเยอะแยะ


    [FONT=AngsanaNew,Bold][FONT=AngsanaNew,Bold]
    การตรวจสอบสภาพน้ำทะเลกรณีชาวประมงพบปลาตายและน้ำทะเลร้อนผิดปกติ
    [/FONT]
    [/FONT][FONT=AngsanaNew,Bold][FONT=AngsanaNew,Bold]
    โดยเครือข่ายภาคประชาชน โครงการตาสับปะรด
    จ​
    [/FONT]​
    [/FONT].ระนอง - [FONT=AngsanaNew,Bold][FONT=AngsanaNew,Bold]โซนแร่นอง[/FONT][/FONT]
    [FONT=AngsanaNew,Bold][FONT=AngsanaNew,Bold]

    [/FONT]
    [/FONT]
    ที่มา ​
    : - วันเสาร์ที่8 พ.ค. 53 ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีปลาตายลอยเกลื่อนในทะเลอยู่หลายจุด คือ บ้านท่าโพธิ์ และได้รับแจ้งจากสมาชิกอีกส่วนหนึ่งว่า มีปลาลอยตายเป็นจำนวนมากที่อ่าวเกาะสองประเทศพม่า รวมถึงตามเกาะต่าง ๆ ในพื้นที่จ.ระนองด้วย


    - ​
    วันจันทร์ที่ 10 พ.ค. 53 ได้รับแจ้งจากแร่นอง160 ว่าชาวประมงบ้านหินช้างได้ยินเสียงดัง ซ่าเหมือนน้ำโดนหินร้อนๆ เป็นทางยาว แล้วสักครู่ก็มีปลาชักดิ้นลอยขึ้นมาตายเป็นจำนวนมาก

    รวมถึงข้อมูลจากสมาชิกแจ้งว่าชาวทะเลที่ดำหอยนางรมบริเวณเขตรอยต่อไทย-พม่า พบน้ำทะเลร้อนผิดปกติจึงต้องรีบขึ้นจากน้ำทะเล

    [FONT=AngsanaNew,Bold][FONT=AngsanaNew,Bold]
    สถานที่เกิดเหตุที่สามารถกำหนดพิกัดได้​
    [/FONT]​
    [/FONT]: บริเวณกึ่งกลางแหลมเส็ดตะกวดประเทศไทยกับเกาะเหล็กประเทศ

    พม่า
    [FONT=AngsanaNew,Bold][FONT=AngsanaNew,Bold]
    การปฏิบัติหน้าที่​
    [/FONT]​
    [/FONT]:

    วันจันทร์ที่​
    10 พ.ค. 53 ฉลาม07 เก็บตัวอย่างปลาตาย และได้นำส่งสถานีประมงทะเลจังหวัดระนอง

    วันอังคารที่11 พ.ค. 53
    แร่นอง01 ประธานโซนแร่นอง ได้นำข้อมูลที่ได้รับไปปรึกษาคุณสมโภชน์ นิ้มสันติเจริญ นักวิชาการอิสระผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพยากรชายฝั่ง ได้รับคำแนะนำและช่วยประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อลงเก็บข้อมูลในพื้นที่เกิดเหตุ

    วัน​
    ศุกร์ที่14 พ.ค. 53 เวลา 14.00 น. นัดแนะเพื่อนสมาชิกตาสับปะรดโซนแร่นอง พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่สามารถติดต่อได้ ประกอบด้วย สถานีประมงทะเลจังหวัดระนอง และสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ

    ชายฝั่ง​
    จังหวัดระนอง และชาวประมงพื้นบ้าน

    คือ คุณลุงกาหริม วิชัย ลงพื้นที่เกิดเหตุ โดยการสนับสนุนเรือ

    การตรวจสอบสภาพน้ำทะเลกรณีชาวประมงพบปลาตายและน้ำทะเลร้อนผิดปกติ ​
    2

    จากหน่วยปราบปรามทางทะเลศุลกากรระนอง แต่เนื่องจากมีฝนตกและคลื่นลมแรงจึงต้องยกเลิกภารกิจไปก่อน

    วันเสาร์ที่​
    15 พ.ค. 53 เวลา 09.30 น. สมาชิกตาสับปะรดจ.ระนองโซนแร่นอง พร้อมด้วยหน่วยงานและสมาชิกชุดเดิมได้ออกเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุด้วยเรือศุลกากร703 ลำใหญ่ พร้อมทีมงานโลมา

    ซึ่งนำทีมโดยหัวหน้าโลมา01 ออกเดินทางจากท่าเทียบเรือเฉลิมพระเกียรติฯ แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพยากรทางทะเล คือคุณสมโภชน์ นิ้มเจริญ ไม่ได้ร่วมเดินทางไปด้วยเนื่องจากติดภารกิจ

    - ระหว่างการเดินทางพบน้ำทะเลที่มีความผิดปกติคือ มีวงสีส้มอ่อน ๆ คล้าย ๆ โคลนดินเป็นระยะ ๆ ถึงแม้จะเป็นช่วงน้ำลึกก็ตาม

    - พบปลาลอยตายอยู่เป็นระยะ ๆ ส่วนใหญ่เป็นปลาจวด และพบเล็กน้อยมีปลากระทิง ปลากะพง ปลากระบอก ปลาดุกทะเล ปลากดทะเล ปลาทราย

    - 10.00 น. ถึงจุดเกิดเหตุบริเวณร่องน้ำระหว่างแหลมเส็ดตะกวดประเทศไทยกับเกาะเหล็กประเทศพม่า พิกัด 10. 5'59.24"น 98.38'43.94"ตะวันออก ห่างจากท่าเรือประภาคารฯ ประมาณ 17 กม.

    ทีมงานสถานีประมงฯ และสถานีเพาะเลี้ยงฯ เริ่มปฏิบัติหน้าที่ตรวจวัดค่า PH วัดค่าออกซิเจน วัดอุณหภูมิ และเก็บ
    ตัวอย่าง
    น้ำทะเล รวมถึงเก็บตัวอย่างน้ำทะเลจุดที่มีสีส้มอ่อน ๆ ด้วย

    - 10.30 น. ​
    เรือวิ่งถอยกลับมาประมาณกึ่งกลางทาง ทีมงานทำการปฏิบัติหน้าที่เหมือนเดิม มีการเก็บตัวอย่างปลาที่ลอยตายขึ้นมาด้วย

    11.30 น. กลับสู่ท่าเทียบเรือประภาคารฯ เข้าห้องประชุมสรุปผลการปฏิบัติงาน

    สรุปผลการปฏิบัติงาน
    - ​
    เจ้าหน้าที่สถานีประมงทะเลจังหวัดระนอง แจ้งว่า ตัวอย่างปลาที่เก็บได้ในวันนี้คงจะพิสูจน์อะไรไม่ได้ เพราะสภาพมันเน่าเปื่อย ซึ่งน่าจะตายมาหลายวันแล้ว


    - ​
    ทางเจ้าหน้าที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งจังหวัดระนอง ได้แจ้งข้อมูลเบื้องต้นให้ทราบ ค่าความเค็ม ค่า PH ปกติ อุณหภูมิ32.7 องศาเซลเซียส ที่ระดับความลึก 5 เมตร

    -
    ตัวอย่างน้ำและแพลงตอนจะต้องนำกลับไปตรวจอย่างละเอียดในห้องทดลองอีกครั้ง

    - ​
    ถ้าให้ดีควรมีการเก็บตัวอย่างดินที่พื้นทะเลมาด้วยจะดีมา

    - ​
    ได้นำข้อมูลสรุปแจ้งให้คุณสมโภชน์ นิ้มสันติเจริญ นักวิชาการอิสระผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพยากรชายฝั่งผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพยากรทางทะเล

    ได้ทราบ ก็ได้ให้ข้อมูลว่า อุณหภูมิน้ำทะเล 32.7 องศา
    เซลเซียสที่ความลึก 5
    เมตร ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ปกติ เพราะปกติจะมีอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 28-30 องศาเซลเซียส

    ควรต้องมีการหาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้งว่าความร้อนที่เพิ่มขึ้น 2-4 องศานี้เกิดจากอะไร รวมถึงต้องรอผลตรวจแพลงตอนว่าเป็นแพลงตอนที่มีพิษหรือไม่

    และซึ่งทางคุณสมโภชน์แจ้งว่า คงจะต้องลงไปพิสูจน์ใต้น้ำอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุของความร้อนที่เกิดขึ้น

    [FONT=AngsanaNew,Bold][FONT=AngsanaNew,Bold]

    [FONT=AngsanaNew,Bold][FONT=AngsanaNew,Bold]การตรวจสอบสภาพน้ำทะเลกรณีชาวประมงพบปลาตายและน้ำทะเลร้อนผิดปกติครั้งที่2 [FONT=AngsanaNew,Bold][FONT=AngsanaNew,Bold]โดยเครือข่ายภาคประชาชน โครงการตาสับปะรดจ
    [/FONT].ระนอง - [FONT=AngsanaNew,Bold][FONT=AngsanaNew,Bold]โซนแร่นอง[/FONT][/FONT][/FONT][/FONT]
    [FONT=AngsanaNew,Bold][FONT=AngsanaNew,Bold]
    ที่มา ​
    : - จากการออกสำรวจน้ำทะเลครั้งที่1 ในวันเสาร์ที่ 15 พ.ค. 53 ที่ผ่านมา และได้ผลการตรวจวัดน้ำออกมาให้เป็นที่น่าสงสัยในเรื่องของอุณหภูมิน้ำ ว่าเป็นค่าที่ปกติจริงหรือไม่


    -
    มีการนำเสนอข่าวเรื่องการออกสำรวจทะเลทางโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ออนไลน์ แต่เนื้อหาข่าวไม่ได้นำเสนอข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมด รวมถึงผลการตรวจวัดคุณภาพน้ำก็ไม่ตรงกับความเป็นจริงที่ทำการออกสำรวจ


    -
    ได้ทำการส่งผลการตรวจคุณภาพน้ำให้กับนักวิชาการอิสระและผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพยากรทางทะเลได้วิเคราะห์แล้ว มีการตั้งข้อแย้งว่าไม่ควรจะเป็นเรื่องที่ปกติ รวมถึงการตรวจวัดน้ำทะเลในครั้งแรกนี้ยังไม่ละเอียดเท่าที่ควร จึงเห็นควรลงไปทำการสำรวจอีกครั้ง พร้อมทั้งเห็นควรลงไปสำรวจใต้ท้องทะเลด้วย

    - มีการแสดงความคิดเห็นกันในเรื่องนี้ในกระดานสนทนาของเวบไซต์พันทิปดอทคอม เป็นหัวข้อกระทู้ที่มีคนเข้ามาอ่านและออกความคิดเห็นกันมาก จนกระทั่งผู้สื่อข่าวของทีวีไทย (ThaiPBS) ได้ติดต่อมายังแร่นอง 01 เพื่อจะทำการลง

    พื้นที่ติดตามสถานการณ์ในเรื่องนี้พร้อม ๆ กับการออกสำรวจในรอบที่ ​
    2 ด้วย

    [FONT=AngsanaNew,Bold][FONT=AngsanaNew,Bold]


    การปฏิบัติหน้าที่ ​
    :
    แร่นอง 01 ได้ประสานไปยังคุณสมโภชน์ นิ้มสันติเจริญ นักวิชาการอิสระผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพยากรทางทะเล เพื่อนัดวันเวลาลงทำการสำรวจคุณภาพน้ำทะเล รวมถึงดำน้ำสำรวจสภาพพื้นทะเลในวันเสาร์ที่ 29 พ.ค. 53 และทางคุณสมโภชน์ได้ทำการประสานไปยังสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งทะเลจ.ระนอง

    รวมถึงสถานีวิจัยทางทะเลหาดประพาส เพื่อร่วมทำการสำรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง

    แร่นอง
    01 ได้ทำหนังสือขอความอนุเคราะห์เรือเพื่อการออกสำรวจจากหน่วยปราบปรามทางทะเล ศุลกากรระนอง ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี

    [FONT=AngsanaNew,Bold][FONT=AngsanaNew,Bold]
    วันเสาร์ที่ ​
    29 พ.ค. 53
    เวลา 09.00 น. ทีมงานเริ่มจะออกเดินแต่เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนัก มีคลื่นลมแรงจึงต้องรอจนถึงเวลา 09.55 น. จึงได้เริ่มออกเดินทางด้วยเรือศุลกากร 703 ซึ่งมีผู้ร่วมเดินทางคือ

    - ​
    สมาชิกโครงการตาสับปะรดจ.ระนอง

    -
    คุณสมโภชน์ นิ้มสันติเจริญ นักวิชาการอิสระผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพยากรทางทะเล

    - ​
    ทีมงานเจ้าหน้าที่จากสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งทะเลจ.ระนอง

    - ​
    ทีมงานเจ้าหน้าที่จากสถานีวิจัยเพื่อการพัฒนาชายฝั่งอันดามัน (หาดประพาส) ม.เกษตรศาสตร์

    -
    นายสัญญา ติ้นชัยภูมิ หรือบังดำ ชาวบ้านบ้านหินช้าง

    -
    ทีมงานจากสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส หรือ ทีวีไทย

    -
    ผู้สื่อข่าวจากสนง.ประชาสัมพันธ์จ.ระนอง และสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 สี

    - ​
    ทีมงานโลมา (หน่วยปราบปรามทางทะเลศุลกากรระนอง) ซึ่งนำทีมโดยหัวหน้าโลมา01และกัปตันบัญชา เอื้อรอด พร้อมทีมงาน

    ทำการสำรวจคุณภาพน้ำจุดที่1 ​
    ห่างจากท่าเรือประมาณ 2 ไมล์ทะเล (ประมาณ 3.6 กม.) บริเวณตรงข้ามท่าเรือระนอง

    ทำการสำรวจคุณภาพน้ำจุดที่2
    ห่างจากท่าเรือประมาณ 5.782 ไมล์ทะเล (ประมาณ 10.4 กม.) บริเวณตรงข้ามบ้านหินช้าง พิกัด N 10o 03.262’ E 98o 37.121

    ทำการสำรวจคุณภาพน้ำจุดที่3 ​
    ห่างจากท่าเรือประมาณ 7.617 ไมล์ทะเล (ประมาณ 13.7 กม.) บริเวณใกล้หัวแหลมเสร็จตะกวด พิกัด N 10o 05.902’ E 98o 38.772ทำการตรวจวัดเสร็จแล้วมีฝนตกหนัก

    ทำการสำรวจคุณภาพน้ำจุดที่4 ห่างจากท่าเรือประมาณ 7.617 ไมล์ทะเล (ประมาณ 13.7 กม.) บริเวณใกล้หัวแหลมเสร็จตะกวด พิกัด N 10o 05.959’ E 98o 38.803

    ทำการสำรวจคุณภาพน้ำจุดที่ 5 ​
    ห่างจากท่าเรือประมาณ 10.17 ไมล์ทะเล (ประมาณ 20 กม.) บริเวณใกล้หัวแหลมเสร็จตะกวด พิกัด N 10o 08.113’ E 98o 40.140

    13.30 น. ​
    ทีมประดาน้ำพร้อมช่างบันทึกภาพใต้น้ำ จะทำการดำน้ำสำรวจพื้นผิวใต้ทะเลในจุดที่ 4 แต่เนื่องจากเป็นจังหวะที่น้ำกำลังลงทำให้มีกระแสน้ำเชี่ยว จึงไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ต้องรอให้น้ำลงสุดก่อน

    16.00 ​
    น. น้ำลงแล้วแต่ก็ยังปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้เพราะคลื่นลมแรง จึงต้องยกเลิกและจะเริ่มปฏิบัติการดำน้ำในวันรุ่งขึ้น

    [FONT=AngsanaNew,Bold][FONT=AngsanaNew,Bold]
    [/FONT]​
    [/FONT]​

    [FONT=AngsanaNew,Bold][FONT=AngsanaNew,Bold]
    วันอาทิตย์ที่​
    [/FONT]​
    [/FONT]30 พฤษภาคม 2553

    คุณสมโภชน์ พร้อมทีมงานจากทีวีไทยที่ตกลงใจว่าจะอยู่ต่ออีกหนึ่งวัน ​
    (ด้วยความขอบคุณ) นัดรวมตัว 10.30 น. เพื่อไปแวะสัมภาษณ์บังกาหริมและรอจังหวะน้ำขึ้นเต็มช่วง 12.00 น.

    ทีมงาน
    ไปถึงบ้านบังกาหริม พบว่าบังกาหริมนอนซมพิษไข้เพราะเมื่อวานบังขับเรือตากฝนตามพวกเราไปกลางทะเล ในขณะที่กำลังมีไข้วันนี้ก็เลยหนักไปกันใหญ่

    ทีมงาน​
    เจอปัญหา เพราะไม่มีเรือออกทะเลเนื่องจากบังไม่สบาย ก็ได้ประสานไปยังสมาชิกเครือข่ายตาสับปะรดจ.ระนอง

    ก็ได้รับการอนุเคราะห์จากท่านแร่นอง205 ประสานเรือหางยาวให้กับทีมงานเพื่อออกทำงาน

    ต้องขอบคุณ ท่านแร่นอง205 และเครือข่ายภาคประชาชน โครงการตาสับปะรดจ.ระนอง

    ทีมงานไปลงเรือที่ท่าเรือบ้านท่าโพธิ์ตอนเกือบเที่ยง ซึ่งห่างจากบ้านหินช้างไปไม่ไกลนัก ท้องฟ้าสดใส อากาศเป็นใจกับการออกปฏิบัติการดำน้ำมาก ๆ ทีมงานออกเรือไปยังจุดเกิดเหตุ โดยมีหลานของบังกาหริมลงเรือไปกับทีมงานด้วย

    มาถึงจุดดำน้ำ ทุกอย่างพร้อม ทิ้งสมอเรือ
    คุณสมโภชน์นัดแนะกับช่างภาพทีวีไทย กันว่า ให้ดำน้ำไปตามสายสมอเรือ ถ้ามีปัญหาด้านล่างหรือหลงทางกันก็ให้ลอยตัวขึ้นด้านบน

    [FONT=AngsanaNew,Bold][FONT=AngsanaNew,Bold]
    การตรวจสอบสภาพน้ำทะเลกรณีชาวประมงพบปลาตายและน้ำทะเลร้อนผิดปกติ​
    [/FONT]​
    [/FONT]ครั้งที่2
    6 ดำลงไปประมาณ 10 นาที ช่างภาพก็ขึ้นมาก่อน และคุณสมโภชน์ก็ตามขึ้นมาหลังจากนั้นอีกประมาณ 5 นาที

    สิ่งที่ทั้งสองท่า​
    นบอกเหมือนกันนั่นก็คือ

    - น้ำค่อนข้างแรง

    - ​
    ทบจะไม่เห็นอะไรเลย เพราะน้ำขุ่นมาก

    - ระยะการมองไม่ถึงหนึ่งช่วงแขน

    - ใต้ท้องทะเลเป็นโคนเลน คุณสมโภชน์ลงไปถึงพื้นแล้วใช้มือล้วงลงไปในเลน ลึกประมาณ 1
    ฟุต

    สรุปคือ ​
    ทีมงานไม่ได้ภาพใต้น้ำมาเลย ได้มาก็มองไม่เห็นอะไร แต่มีข้อมูลบางอย่างที่เหมือนกับการตรวจสอบซ้ำ(Re-check) และสามารถยืนยันข้อมูลเมื่อวานนี้ได้เป็นอย่างดีนั่นก็คือเรื่องของ "อุณหภูมิ"

    ทีมงานออกเดินทางกลับ ​
    โดยไปแวะดำน้ำอีกรอบที่ใกล้กับชายฝั่ง เป็นบริเวณกองหิน แต่น้ำกำลังลงและน้ำแรงมาก ก็เลยไม่ได้อะไรมามากเช่นกัน

    กลับเข้าสู่ท่าเรือท่าโพธิ์
    ทีมงานทีวีไทยทำการสัมภาษณ์สรุปข้อมูลจากคุณสมโภชน์และเดินทางย้อนกลับไปบ้านหินช้าง เพื่อไปถ่ายทำสัมภาษณ์บังกาหริม และเก็บข้อมูลเกี่ยวกับการเก็บกุ้งเคยในช่วงน้ำใหญ่ที่ผ่านมาจากแม่บ้านของบังกาหริม

    สรุปผลการปฏิบัติงาน

    - ข้อมูลผลการตรวจคุณภาพน้ำ ณ วันที่29 ​
    พ.ค. 53

    1.
    [FONT=Tahoma,Bold][FONT=Tahoma,Bold]บริเวณที่เก็บตัวอย่างน้ำ
    [/FONT][/FONT]คลองเสร็จตะกวด วันที่ 29 เดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2553

    2.
    [FONT=Tahoma,Bold][FONT=Tahoma,Bold]ผลการวิเคราะห์ มีรายละเอียด ดังนี้[/FONT][/FONT]
    [FONT=Tahoma,Bold][FONT=Tahoma,Bold] ​
    [/FONT][/FONT]
    อุณหภูมิ ความเค็ม ออกซิเจน พีเอช อุณหภูมิ ความเค็ม ออกซิเจน พีเอช อุณหภูมิ ความเค็ม ออกซิเจน พีเอช อุณหภูมิ ความเค็ม ออกซิเจน พีเอช อุณหภูมิ ความเค็ม ออกซิเจน พีเอช

    (
    C ) (ppt) (mg /L) ( C ) (ppt) (mg /L) ( C ) (ppt) (mg /L) ( C ) (ppt) (mg /L) ( C ) (ppt) (mg /L)

    0.5 30.70 27.9 6.10 7.77 30.96 29.0 6.56 7.74 30.94 28.0

    6.35 7.65 30.98 28.0 6.44 7.74 30.90 28.0 5.54 7.74

    1 30.70 27.9 6.10 31.05 29.0 6.36 31.01 28.0 6.31 31.02

    28.0 6.39 30.90 28.0 5.54

    2 30.70 27.9 6.10 31.10 29.0 6.29 31.04 28.0 6.34 31.07

    28.0 6.34 30.95 28.0 5.48

    3 30.70 27.9 6.10 31.13 29.0 6.25 31.05 28.0 6.35 31.09

    28.0 6.34 30.97 28.0 5.44

    4 30.70 27.9 6.10 31.15 29.0 6.24 31.05 28.0 6.35 31.09

    28.0 6.27 30.99 28.0 5.39

    5 30.80 27.9 6.07 31.16 29.0 6.22 31.06 28.0 6.33 31.10

    28.0 6.26 30.99 28.0 5.41

    6 30.80 27.9 6.07 31.16 29.0 6.22 31.07 28.0 6.34 31.10

    28.0 6.26 31.00 28.0 5.41

    7 30.80 27.9 6.07 31.18 29.0 6.19 31.08 28.0 6.32 31.11

    28.0 6.25 31.00 28.0 5.39

    8 31.18 29.0 6.18 31.11 28.0 6.25 31.01 28.0 5.39

    9 31.19 29.0 6.18 31.11 28.0 6.25 31.01 28.0 4.19

    10 31.12 28.0 6.25 31.00 28.0 4.19


    สรุปผลคุณภาพน้ำ​
    อยู่ในเกณฑ์ปกติ​
    [FONT=AngsanaUPC,Bold][FONT=AngsanaUPC,Bold]

    สรุปผลแพลงก์ตอน​
    [/FONT][/FONT]
    เป็นทั้งไดอะตอม และไดโนแฟลกเจลเลต โดยพบมากที่สุดเป็น​
    Coscinodiscus sp. ทั้ง 3 จุด มีNitzschia sp.,

    Ceratium ​
    sp. และ Dinophysis sp. บ้างประปราย ซึ่งจัดเป็นแพลงก์ตอนในกลุ่มก่อให้เกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า red tide หรือ ขี้ปลาวาฬได้ และกลุ่มแพลงก์ตอนสัตว์ ได้แก่Tintinnopsis sp. ซึ่งพบปริมาณน้อยทั้ง3 จุด

    - สรุปผลการวิเคราะห์คุณภาพน้ำ คุณภาพน้ำปกติ

    - ​
    แต่อุณหภูมิหรือความร้อนทุกจุดที่ทำการสำรวจ เปรียบเทียบกับความลึกซึ่งมีแนวโน้มว่า ยิ่งลึกก็จะมีอุณหภูมิสูงขึ้น หรือยิ่งลึกยิ่งร้อนนั่นเอง ในขณะที่ ค่าความเค็ม ค่าออกซิเจน ค่า Ph แทบจะไม่มีการ

    เปลี่ยนแปลงเลย
    - มีคำถามตามมาว่า

    1. ​
    อะไรคือต้นกำเนิด (source) ของความร้อนใต้ทะเล

    2. ​
    อะไรที่มีพลังมหาศาลที่สามารถละลายมวลของน้ำทะเลอันมหาศาลให้กลายเป็นหนึ่งเดียวได้ เพราะปกติน้ำทะเลมันจะมีชั้นของน้ำทะเล คือ ความเค็มและค่าออกซิเจนจะเปลี่ยนไปตามความลึกของทะเล(มากขึ้นหรือน้อยลงไม่แน่ใจ) แต่ค่าที่วัดออกมาได้มันแทบจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง

    ผลสรุปจากการปฏิบัติงาน ในวันที่ ​
    30 พ.ค. 53

    - ​
    มีข้อมูลบางอย่างที่เหมือนกับการตรวจสอบซ้ำ (ReCheck) ละสามารถยืนยันข้อมูลของวันที่ 29 พ.ค. 53 ได้เป็นอย่างดีนั่นก็คือเรื่องของ " อุณหภูมิ"

    o ​
    บนผิวน้ำมีอุณหภูมิ33 องศา เนื่องจากตั้งแต่เช้ามา มีแดดจัดมาก

    o ​
    ดำลงไปวัดความลึกของท้องทะเลได้21 เมตร อุณหภูมิตั้งแต่ระดับความลึก 2 เมตรลงไป ถึง 21 เมตร มีค่าเท่ากันคือ 30 องศา ซึ่งเป็นค่าที่วัดจากเครื่องมือในการช่วยดำน้ำ

    - ​
    ตรวจสอบข้อมูลจากประชาชนบ้านท่าโพธิ์ พบมีปลาตายอย่างต่อเนื่องแต่เป็นปลาขนาดใหญ่ เช่น ปลากะพง ขนาด 7-15 กก. ชาวบ้านจะเก็บไปขาย หรือบางทีก็นำไปแล่เนื้อทาเกลือ ทำเป็นปลาแดดเดียว

    - ​
    ตรวจสอบข้อมูลจากสมาชิกโซนอำเภอสุขสำราญ พบมีปลาฉลามขนาดกลางเข้ามาเกยตื้นและตาย ตรวจสอบข้อมูลจากชาวมอร์แกนบ้านเกาะเหลาที่รับจ้างออกเรือหาปลา

    พบว่าตั้งแต่วันเกิดเหตุปลาตายเป็นต้นมา ได้มีการออกเรือประมงไปแล้ว 3 ปรากฏว่าได้ปลาน้อยมาก ปัจจุบันนายจ้างได้ให้งดออกเรือชั่วคราวแล้ว เพราะทนแบกรับภาวะขาดทุนไม่ไหว และจากการดำน้ำหาหอยก็สามารถรับรู้ได้ว่าน้ำทะเลร้อนขึ้น และพบเห็นปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาว

    - ​
    ตรวจสอบข้อมูลจากประชาชนบ้านหินช้างที่มีอาชีพทำกะปิขาย จากเดิมเคยตักกุ้งเคยได้ครั้งละ 7 10 เข่ง ปรากฏว่าช่วงน้ำใหญ่ที่ผ่านมา มีการตักเก็บกุ้งเคยได้น้อยมาก ซึ่งได้เพียงครึ่งเข่งเท่านั้น

    [FONT=AngsanaNew,Bold][FONT=AngsanaNew,Bold]
    ข้อสังเกต​
    [/FONT]​
    [/FONT]และสิ่งที่คาดหวัง

    - ​
    การเกิดเหตุปลาตายจำนวนมาก เกิดขึ้นหลังจากมีแผ่นดินไหวที่สุมาตราไม่เกิน 28 ชั่วโมง

    - ​
    ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ได้มีผลเฉพาะเกิดปลาตายเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อจำนวนปลาที่ชาวประมงหาได้น้อยลง ชาวบ้านหากุ้งเคยเพื่อทำกะปิได้น้อยลงอย่างมากผิดปกติด้วย

    - ​
    สภาพภูมิประเทศของบ้านหินช้าง บ้านท่าโพธิ์ บ้านทรายแดงและบริเวณใกล้เคียงมีลักษณะด้านหลังเป็นภูเขา และด้านหน้าเป็นทะเล และในทะเลเป็นจุดพิกัด รอยเลื่อนระนองอีกด้วย ลักษณะภูมิ

    [FONT=AngsanaNew,Bold][FONT=AngsanaNew,Bold]
    [/FONT]​
    [/FONT]​

    ประเทศแบบนี้ สิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นแบบนี้ ประชาชนในพื้นที่ควรจะต้องรับรู้เรื่องอะไรบ้างเกี่​
    ยวกับภัยพิบัติที่อาจจะเกิดขึ้น ควรเฝ้าสังเกต ควรเฝ้าระวังอย่างไร และเตรียมตัวกันอย่างไร หรือต้องรอให้ภัยพิบัติครั้งใหญ่เกิดขึ้นก่อนเหมือนสึนามิ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงจะตื่นตัวลงมาทำงาน

    - ​
    ข้อมูลที่ได้จากการทำงานในครั้งนี้ เป็นเพียงข้อมูลและการตั้งข้อสังเกตเบื้องต้น หน่วยงานที่มีศักยภาพพร้อมทั้งทางด้านเครื่องไม้เครื่องมือ เทคโนโลยีและความรู้ที่เกี่ยวข้อง ควรลงมาสำรวจในแนวลึกและแนวยาวให้มากกว่านี้ เพื่อการเฝ้าระวังแจ้งเตือนเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นให้กับประชาชนได้รับทราบ
    ขอขอบคุณ
    - ​
    หน่วยปราบปรามทางทะเลศุลกากรระนอง นำทีมโดย ท่านหัวหน้าโลมา01, กัปตันบัญชา เอื้อรอด พร้อมทีมงาน ที่เอื้อเฟื้อเรือลำใหญ่ในการออกปฏิบัติหน้าที่ รวมทั้งอาหาร และเครื่องดื่มครบครัน

    - ​
    คุณสมโภชน์ นิ้มสันติเจริญ นักวิชาการอิสระผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพยากรทางทะเล

    - ​
    ทีมงานเจ้าหน้าที่จากสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งทะเลจ.ระนอง

    - ​
    ทีมงานเจ้าหน้าที่จากสถานีวิจัยเพื่อการพัฒนาชายฝั่งอันดามัน (หาดประพาส) ม.เกษตรศาสตร์

    - ​
    นายกาหริ่ม วิชัย ชาวบ้านบ้านหินช้าง

    - ​
    นายสัญญา ติ้นชัยภูมิ หรือบังดำ ชาวบ้านบ้านหินช้าง

    - ​
    ทีมงานจากสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส หรือ ทีวีไทย

    - ​
    ผู้สื่อข่าวจากสนง.ประชาสัมพันธ์จ.ระนอง และสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 สี

    - สมาชิกเครือข่ายภาคประชาชน โครงการตาสับปะรดจ.ระนอง
    [/FONT]
    [/FONT]
    [/FONT]
    [/FONT]
    [/FONT]
    [/FONT][/FONT]
    [/FONT]
    [/FONT]
     
  8. ปกรณ์

    ปกรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    404
    ค่าพลัง:
    +3,761
    จากความรู้สึกล้วน ๆ ส่วนตัว (ไม่เกี่ยวกับหลักตรรกะหรือวิทยาศาสตร์ใด ๆ) บอกว่ามหันตภัยกำลังคืบคลานเข้ามา ยิ่งมารับรู้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องทะเลที่ระนองและสิ่งบอกเหตุอื่น ยิ่งทำให้ตอกย้ำความรู้สึกนั้นมากขึ้น
     
  9. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    <CENTER>[​IMG]</CENTER>
    <CENTER><TABLE cols=1 width="95%"><TBODY><TR><TD>[​IMG] <DD>พระ<WBR>บาท<WBR>สมเด็จ<WBR>พระ<WBR>เจ้า<WBR>อยู่<WBR>หัว<WBR>ภูมิ<WBR>พล<WBR>อดุลยเดช<WBR>ได้<WBR>พระ<WBR>ราช<WBR>ทาน<WBR>ทรัพย์<WBR>ส่วน<WBR>พระ<WBR>องค์<WBR>สร้าง<WBR>โครง<WBR>กา<WBR><WBR>รอัน<WBR>หลาก<WBR>หลาย<WBR>ใน<WBR>โครง<WBR>การ<WBR>ส่วน<WBR>พระ<WBR>องค์<WBR>สวน<WBR>จิตรลดา เพื่อ<WBR>เป็น<WBR>โรง<WBR>งาน<WBR>ตัว<WBR>อย่าง<WBR>และ<WBR>พระ<WBR>ราช<WBR>ทาน<WBR>โอกาส<WBR>ให้<WBR>บุคคล<WBR>กลุ่ม<WBR>ต่าง ๆ ที่<WBR>สน<WBR>ใจ "ดู<WBR>กิจ<WBR>การ<WBR>ได้<WBR>ทุก<WBR>เมื่อ<WBR><WBR>" ใน<WBR>แต่<WBR>ละ<WBR>ปี<WBR>จึง<WBR>มี<WBR>ผู้<WBR>เข้า<WBR>มา<WBR>ศึกษา<WBR>ดู<WBR>งาน<WBR>โครง<WBR>การ<WBR>ต่าง ๆ เกือบ ๒๐,๐๐๐ คน<WBR>ต่อ<WBR>ปี<WBR><WBR> <DD>ลักษณะ<WBR>ของ<WBR>โครง<WBR>การ<WBR>ส่วน<WBR>พระ<WBR>องค์<WBR>สวน<WBR>จิตรลดา แบ่ง<WBR>ออก<WBR>เป็น ๒ ประเภท<WBR>คือ<WBR><WBR> <DD>๑. โครง<WBR>การ<WBR>แบบ<WBR>ไม่<WBR>ใช่<WBR>ธุรกิจ<WBR><WBR> เป็น<WBR>โครง<WBR>การ<WBR>สนอง<WBR>แนว<WBR>พระ<WBR>ราช<WBR>ดำริ<WBR>ของ<WBR>พระ<WBR>บาท<WBR>สมเด็จ<WBR>พระ<WBR>เจ้า<WBR>อยู่<WBR>หัว เกี่ยวกับการ<WBR>พัฒนา<WBR>ประสิทธิภาพ<WBR>การ<WBR>ผลิต<WBR>ทางการ<WBR>เกษตร ทรง<WBR>ให้<WBR>ความ<WBR>สำคัญกับการ<WBR>เพิ่ม<WBR>พูน<WBR>คุณภาพ<WBR>ชีวิต<WBR>ของ<WBR>เกษตร<WBR>กร โดย<WBR>มี<WBR>แนว<WBR>ทางที่<WBR>สำคัญ<WBR>คือ ทำ<WBR>ให้<WBR>เกษตร<WBR>กร<WBR>สามารถ<WBR>พึ่ง<WBR>ตน<WBR>เอง<WBR>ได้<WBR>ทางด้าน<WBR>อาหาร และ<WBR>สนับสนุน<WBR>ให้<WBR>มี<WBR>ราย<WBR>ได้<WBR>เพิ่ม<WBR>ขึ้น<WBR>นอก<WBR>เหนือ<WBR>ไป<WBR>จาก<WBR>ภาค<WBR>เกษตร อีก<WBR>ทั้ง<WBR>เน้น<WBR>การ<WBR>พัฒนา<WBR>และ<WBR>อนุรักษ์<WBR>ทรัพยากร<WBR>ธรรม<WBR>ชาติ โครง<WBR>การ<WBR>เหล่า<WBR>นี้<WBR>ได้<WBR>แก่ โครง<WBR>การ<WBR>เกี่ยวกับปลา<WBR>นิล ป่า<WBR>ไม้<WBR>สาธิต นา<WBR>ข้าว<WBR>ทด<WBR>ลอง<WBR>ข้าว<WBR>ไร่ การ<WBR>ผลิต<WBR>แก๊ส<WBR>ชีวภาพ ปุ๋ย<WBR>อินทรีย์ เพาะ<WBR>เลี้ยง<WBR>เนื้อ<WBR>เยื่อ<WBR>พืช สวน<WBR>พืช<WBR>สมุน<WBR>ไพร สาหร่าย<WBR>เกลียว<WBR>ทอง<WBR>โครง<WBR>การ<WBR>ทด<WBR>ลอง<WBR>ปลูก<WBR>พืช<WBR>โดย<WBR>ปราศ<WBR>จาก<WBR>ดิน<WBR><WBR> <DD>๒. โครง<WBR>การ<WBR>กึ่ง<WBR>ธุรกิจ<WBR><WBR> เป็น<WBR>โครง<WBR>การ<WBR>ทด<WBR>ลอง<WBR>แปรรูป<WBR>ผลิต<WBR>ภัณฑ์<WBR>จาก<WBR>การ<WBR>เกษตร มี<WBR>การ<WBR>จัด<WBR>ผลิต<WBR>ภัณฑ์<WBR>ออก<WBR>จำหน่าย<WBR>ใน<WBR>ราคา<WBR>ย่อม<WBR>เยา<WBR>ใน<WBR>รูป<WBR>แบบ<WBR>ที่<WBR>ไม่<WBR>หวัง<WBR>ผล<WBR>กำไร แต่<WBR>มุ่ง<WBR>ส่ง<WBR>เสริม<WBR>ให้<WBR>ประชา<WBR>ชน<WBR>บริโภค<WBR>สิน<WBR>ค้า<WBR>ที่<WBR>ผลิต<WBR>ได้<WBR>ใน<WBR>ประเทศ<WBR>ไทย ซึ่ง<WBR>มี<WBR>คุณภาพ<WBR>และ<WBR>ราคา<WBR>ไม่<WBR>แพง โครง<WBR>การ<WBR>ต่าง ๆ เหล่า<WBR>นี้<WBR>ได้<WBR>แก่ โรง<WBR>โค<WBR>นม<WBR>สวน<WBR>จิตรลดา โรง<WBR>บด<WBR>และ<WBR>อัด<WBR>แกลบ ห้อง<WBR>ปฏิบัติ<WBR>การ<WBR>ทด<WBR>ลอง โรง<WBR>ผลิต<WBR>น้ำ<WBR>ผล<WBR>ไม้ โรง<WBR>นม<WBR>เม็ด<WBR>สวน<WBR>ดุสิต โรง<WBR>อบ<WBR>ผล<WBR>ไม้ โรง<WBR>กลั่น<WBR>แอลกอฮอล์ โรง<WBR>เนย<WBR>แข็ง โรง<WBR>สี<WBR>ข้าว โรง<WBR>เห็ด โรง<WBR>อาหาร<WBR>ปลา โรง<WBR>ผลิต<WBR>กระดาษ<WBR>สา และ<WBR>โรง<WBR>หล่อ<WBR>เทียน<WBR>หลวง<WBR><WBR> <CENTER>[​IMG]</CENTER><DD>โครง<WBR>การ<WBR>ส่วน<WBR>พระ<WBR>องค์<WBR>สวน<WBR>จิตรลดา<WBR>ที่<WBR>จัด<WBR>อยู่<WBR>ใน<WBR>กลุ่ม<WBR>ของ<WBR>อุตสาหกรรม<WBR>เกษตร<WBR>มี<WBR>มาก<WBR>มาย ซึ่ง<WBR>ล้วน<WBR>แต่<WBR>เป็น<WBR>โครง<WBR>การ<WBR>ที่<WBR>ก่อ<WBR>เกิด<WBR>ประ<WBR>โยชน์<WBR>ต่อ<WBR>พสก<WBR>นิกร<WBR>ของ<WBR>พระ<WBR>บาท<WBR>สมเด็จ<WBR>พระ<WBR>เจ้า<WBR>อยู่<WBR>หัว ทั้ง<WBR>ใน<WBR>ด้าน<WBR>อยู่<WBR>ดี<WBR>กิน<WBR>ดี<WBR>และ<WBR>เสริม<WBR>สร้าง<WBR>ราย<WBR>ได้ โครง<WBR>การ<WBR>ต่าง ๆ เหล่า<WBR>นี้<WBR>ได้<WBR>แก่<WBR><WBR> <DD>โรง<WBR>โค<WBR>นม<WBR>สวน<WBR>จิตรลดา<WBR><WBR> <DD>เริ่ม<WBR>จาก<WBR>ใน<WBR>ปี พ.ศ<WBR>. ๒๕๐๕ ได้<WBR>มี<WBR>บริษัท<WBR>และ<WBR>หน่วย<WBR>ราช<WBR>การ<WBR>น้อม<WBR>เกล้า<WBR>ฯ ถวาย<WBR>โค ๖ ตัว ซึ่ง<WBR>เป็น<WBR>โค<WBR>ตั้ง<WBR>ท้อง<WBR>แล้ว ๔ ตัว พระ<WBR>บาท<WBR>สมเด็จ<WBR>พระ<WBR>เจ้า<WBR>อยู่<WBR>หัว<WBR>ได้<WBR>ทรง<WBR>พระ<WBR>กรุณา<WBR>โปรด<WBR>เกล้า<WBR>ฯ พระ<WBR>ราช<WBR>ทาน<WBR>ทรัพย์<WBR>ส่วน<WBR>พระ<WBR>องค์<WBR>สำหรับ<WBR>สร้าง<WBR>โรง<WBR>งาน<WBR>โค<WBR>นม ราคา ๓๒,๘๘๖.๗๓ บาท ขึ้น<WBR>ใน<WBR>บริเวณ<WBR>สวน<WBR>จิตรลดา ต่อ<WBR>มา<WBR>เมื่อ<WBR>แม่<WBR>โค<WBR>ตก<WBR>ลูก<WBR>และ<WBR>เริ่ม<WBR>ทำ<WBR>การ<WBR>รีด<WBR>นม น้ำ<WBR>นม<WBR>ที่<WBR>เหลือ<WBR>จาก<WBR>การ<WBR>แบ่ง<WBR>ให้<WBR>ลูก<WBR>โค<WBR>กิน<WBR>แล้ว ได้<WBR>นำ<WBR>ไป<WBR>จำหน่าย เมื่อ<WBR>มี<WBR>จำนวน<WBR>โค<WBR>นม<WBR>เพิ่ม<WBR>ขึ้น ทั้ง<WBR>จาก<WBR>แม่<WBR>โค<WBR>ที่<WBR>ให้<WBR>ลูก<WBR>ทุก<WBR>ปี และ<WBR>มี<WBR>ผู้<WBR>น้อม<WBR>เกล้า<WBR>ฯ ถวาย<WBR>สม<WBR>ทบ ทำ<WBR>ให้<WBR>สามารถ<WBR>ผลิต<WBR>น้ำ<WBR>นม<WBR>ออก<WBR>จำหน่าย<WBR>แก่<WBR>บุคคล<WBR>ภาย<WBR>นอก<WBR>และ<WBR>โรง<WBR>เรียน<WBR>ต่าง ๆ[​IMG] ใน<WBR>ละแวก<WBR>ใกล้<WBR>เคียง เมื่อ<WBR>มี<WBR>กำไร<WBR>สะ<WBR>สม<WBR>มาก<WBR>ยิ่ง<WBR>ขึ้น ก็<WBR>ได้<WBR>ขยาย<WBR>งาน<WBR>ออก<WBR>ไป<WBR>ตาม<WBR>ลำ<WBR>ดับ<WBR>ทั้ง<WBR>ใน<WBR>ด้าน<WBR>การ<WBR>ผลิต<WBR>น้ำ<WBR>นม คุณภาพ<WBR>นม<WBR>ดิบ และ<WBR>การ<WBR>ส่ง<WBR>เสริม<WBR>อาชีพ<WBR>แก่<WBR>เกษตร<WBR>กร<WBR><WBR> <DD>ผล<WBR>พลอย<WBR>ได้<WBR>จาก<WBR>โรง<WBR>โค<WBR>นม<WBR>คือ มูล<WBR>โค<WBR>ซึ่ง<WBR>เมื่อ<WBR>นำ<WBR>มา<WBR>หมัก<WBR>จะ<WBR>ได้ "ไบโอ<WBR>แก๊ส<WBR><WBR>" หรือ "แก๊ส<WBR>ชีวภาพ<WBR><WBR>" สำหรับ<WBR>เป็น<WBR>เชื้อ<WBR>เพลิง กาก<WBR>จาก<WBR>บ่อ<WBR>หมัก<WBR>แก๊ส<WBR>ชีวภาพ<WBR>ยัง<WBR>สามารถ<WBR>ใช้<WBR>ทำ<WBR>เป็น<WBR>ปุ๋ย มูล<WBR>โค<WBR>ที่<WBR>เป็น<WBR>สาร<WBR>ละ<WBR>ลาย<WBR>ที่<WBR>อยู่<WBR>ใน<WBR>ถัง<WBR>หมัก ส่วน<WBR>หนึ่ง<WBR>นำ<WBR>ไป<WBR>ใช้<WBR>สำหรับ<WBR>เพาะ<WBR>เลี้ยง<WBR>สาหร่าย<WBR>เกลียว<WBR>ทอง ซึ่ง<WBR>สามารถ<WBR>นำ<WBR>ไป<WBR>ทำ<WBR>อาหาร<WBR>สำเร็จ<WBR>รูป<WBR>สำหรับ<WBR>เลี้ยง<WBR>ปลา<WBR>อีก<WBR>ส่วน<WBR>หนึ่ง<WBR>ทำ<WBR>เป็น<WBR>ปุ๋ย<WBR>ใส่<WBR>แปลง<WBR>พืช<WBR>อา<WBR>หาร<WBR>สัตว์ และ<WBR>บาง<WBR>ส่วน<WBR>นำ<WBR>ไป<WBR>ใช้<WBR>สำหรับ<WBR>บำรุง<WBR>บ่อ<WBR>เพาะ<WBR>พันธุ์<WBR>ปลา<WBR>นิล<WBR><WBR>
    [​IMG]
    <DD>

    เครื่องอบ<WBR>แห้ง<WBR>พลัง<WBR>แสง<WBR>อาทิตย์<WBR><WBR> <DD>ใน<WBR>ปี พ.ศ<WBR>. ๒๕๓๘ สถาบัน<WBR>การ<WBR>ศึกษา<WBR>และ<WBR>บริษัท<WBR>เอกชน<WBR>เยอรมัน ได้<WBR>ร่วม<WBR>น้อม<WBR>เกล้า<WBR>ถวายเครื่องอบ<WBR>แห้ง<WBR>พลัง<WBR>แสง<WBR>อาทิตย์ เพื่อ<WBR>ใช้<WBR>อบ<WBR>ผลิต<WBR>ผล<WBR>ทางเกษตร<WBR>ต่าง ๆ เช่น เมล็ด<WBR>ธัญญพืช เมล็ด<WBR>ถั่ว ผัก ผล<WBR>ไม้ พืช<WBR>สมุน<WBR>ไพร ผลิต<WBR>ภัณฑ์<WBR>เนื้อ<WBR>และ<WBR>ผลิต<WBR>ภัณฑ์<WBR>ประมง<WBR>และ<WBR>เป็นเครื่องต้น<WBR>แบบ<WBR>ให้<WBR>เกษตร<WBR>กร<WBR>ที่<WBR>ทำ<WBR>อุตสาหกรรมกล้<WBR>วยตาก<WBR>อบ<WBR>แห้ง<WBR>นำ<WBR>ไป<WBR>เป็น<WBR>ต้น<WBR>แบบ<WBR>ใน<WBR>การ<WBR>ผลิต<WBR><WBR>
    [​IMG]
    <DD><DD>เพาะ<WBR>เลี้ยง<WBR>เนื้อ<WBR>เยื่อ<WBR>พืช<WBR><WBR> <DD>โครง<WBR>การ<WBR>นี้<WBR>เริ่ม<WBR>เมื่อ<WBR>ปี พ.ศ<WBR>. ๒๕๒๗ เพื่อ<WBR>เก็บ<WBR>รักษา<WBR>พันธุ์<WBR>พืช<WBR>ที<WBR>หา<WBR>ยาก<WBR>และ<WBR>เป็น<WBR>การ<WBR>ขยาย<WBR>พันธุ์<WBR>พืช<WBR>ไม่<WBR>ให้<WBR>กลาย<WBR>พันธุ์ ใน<WBR>ห้อง<WBR>ปฏิบัติ<WBR>การ<WBR>เพาะ<WBR>เลี้ยง<WBR>เนื้อ<WBR>เยื่อ<WBR>พืช<WBR>ประกอบ<WBR>ด้วย<WBR>ส่วน<WBR>สำคัญ<WBR>คือ<WBR>ห้อง<WBR>เตรียม<WBR>อาหาร ห้อง<WBR>ถ่าย<WBR>เนื้อ<WBR>เยื่อ และ<WBR>ห้อง<WBR>เลี้ยง<WBR>เนื้อ<WBR>เยื่อ พืช<WBR>เป้า<WBR>หมาย<WBR>ของ<WBR>โครง<WBR>การ<WBR>คือ สมอ<WBR>ไทย ขนุน พุด<WBR>สวน มณฑา และ<WBR>ยี่<WBR>หุบ<WBR><WBR> <DD><DD>ศูนย์<WBR>รวม<WBR>นม<WBR><WBR> <DD>ศูนย์<WBR>รวม<WBR>นม<WBR>สวน<WBR>จิตรลดา รับ<WBR>นม<WBR>ดิบ<WBR>จาก<WBR>สหกรณ์<WBR>โค<WBR>นม<WBR>หนอง<WBR>โพ<WBR>และ<WBR>โรง<WBR>โค<WBR>นม<WBR>สวน<WBR>จิตรลดา<WBR>เพื่อ<WBR>ผลิต<WBR>นม<WBR>พาส<WBR>เจอร์ไรซ์จำหน่าย<WBR>ให้<WBR><WBR>กับสมาชิก<WBR>และ<WBR>โรง<WBR>เรียน เพื่อ<WBR>เป็น<WBR>การ<WBR>ส่ง<WBR>เสริม<WBR>สุข<WBR>ภาพ<WBR>และ<WBR>ยัง<WBR>นำ<WBR>ราย<WBR>ได้<WBR>ไป<WBR>ช่วย<WBR>สนับสนุน<WBR>การ<WBR>ดำ<WBR>เนิน<WBR>กิจ<WBR>การ<WBR>ของ<WBR>โรง<WBR>นม<WBR>ผง<WBR>สวน<WBR>ดุสิต<WBR>นม<WBR>พาส<WBR>เจอร์ไรซ์ที่<WBR>ผลิต<WBR>ใน<WBR>โครง<WBR>การ<WBR>มี<WBR>การ<WBR>บรรจุ ๒ แบบ<WBR>คือ<WBR><WBR> <DD>[​IMG] <DD>๑. แบบ<WBR>บรรจุ<WBR>ถุง บรรจุ<WBR>นม ๒๒๕ มิลลิลิตร บรรจุ<WBR>นม<WBR>รส<WBR>จืด รส<WBR>หวาน<WBR>กลิ่น<WBR>วา<WBR>นิล<WBR>ลา รส<WBR>หวาน<WBR>กลิ่น<WBR>สละ และ<WBR>รส<WBR>โกโก้<WBR><WBR> <DD>๒. แบบ<WBR>บรรจุ<WBR>ขวด บรรจุ<WBR>นม ๑๐๐๐ มิลลิลิตร และ ๕๐๐ มิลลิลิตร บรรจุ<WBR>รส<WBR>จืด รส<WBR>หวานหลิ่นวา<WBR>นิล<WBR>ลา รส<WBR>หวาน<WBR>กลิ่น<WBR>สละ รส<WBR>โกโก้ และ<WBR>รส<WBR>กาแฟ<WBR><WBR> <DD><DD>โรง<WBR>นม<WBR>ผง<WBR>สวน<WBR>ดุสิต<WBR><WBR> <DD>[​IMG]โรง<WBR>นม<WBR>ผง<WBR>สวน<WBR>ดุสิต<WBR>ตั้ง<WBR>ขึ้น<WBR>ใน<WBR>ปี พ.ศ<WBR>. ๒๕๑๒ เนื่อง<WBR>จาก<WBR>เกิด<WBR>ภาวะ<WBR>นม<WBR>สด<WBR>ล้น<WBR>ตลาด สมาชิก<WBR>ผู้<WBR>เลี้ยง<WBR>โค<WBR>นม<WBR>จึง<WBR>ได้<WBR>ทูลเกล้า<WBR>ถวายฎีกา<WBR>ให้<WBR>พระ<WBR>บาท<WBR>สมเด็จ<WBR>พระ<WBR>เจ้า<WBR>อยู่<WBR>หัว<WBR>ทรง<WBR>ช่วย<WBR>เห<WBR>ลือ จึง<WBR>ทรง<WBR>พระ<WBR>กรุณา<WBR>โปรด<WBR>เกล้าฯ ให้<WBR>สร้าง<WBR>โรง<WBR>นม<WBR>ผง<WBR>ขนาด<WBR>ย่อม<WBR>ขึ้น เพื่อ<WBR>ผลิต<WBR>นม<WBR>ผง<WBR>เป็น<WBR>การ<WBR>แก้<WBR>ปัญหา<WBR>นม<WBR>สด<WBR>ล้น<WBR>ตลาด<WBR><WBR> <DD><DD>น้ำ<WBR>กลั่น<WBR><WBR> <DD>น้ำ<WBR>กลั่น<WBR>เป็น<WBR>ผล<WBR>ผลิต<WBR>พลอย<WBR>ได้<WBR>จากเครื่องระเหย<WBR>นม<WBR>ซึ่ง<WBR>มี<WBR>ความ<WBR>บริสุทธิ์<WBR>ค่อน<WBR>ข้าง<WBR>สูง<WBR>และ<WBR>มี<WBR>มาก<WBR><WBR>พอ<WBR>ที่<WBR>จะ<WBR>นำ<WBR>ไป<WBR>ผลิต<WBR>เป็น<WBR>น้ำ<WBR>กลั่น<WBR>เพื่อ<WBR>ใช้<WBR>เติม<WBR>แบตเตอรี่<WBR>รถ<WBR>ยนต์<WBR>และ<WBR>ใช้<WBR>ดื่ม<WBR>ได้<WBR><WBR>
    [​IMG]
    <DD><DD>โรง<WBR>เนย<WBR>แข็ง<WBR><WBR> <DD>โครง<WBR>การ<WBR>ส่วน<WBR>พระ<WBR>องค์<WBR>สวน<WBR>จิตรลดา<WBR>ได้<WBR>สร้าง<WBR>โรง<WBR>เนย<WBR>แข็ง<WBR>น้อม<WBR>เกล้า<WBR>ถวาย<WBR>ในวโร<WBR>กาสเฉลิม<WBR>พระ<WBR>ชนมพร<WBR><WBR>รษ<WBR>า ๕ รอบ พุทธ<WBR>ศักราช ๒๕๓๐ และ<WBR>คณะ<WBR>กรรมการ<WBR>บริหาร<WBR>ของ<WBR>บริษัท ซี.ซี. ฟรีส<WBR>แลนด์ ประเทศเนเธอร์แลนด์ได้<WBR>ร่วม<WBR>น้อม<WBR>เกล้า<WBR>ถวาย<WBR>อุปกรณ์<WBR>สำหรับ<WBR>การ<WBR>ผลิต<WBR>เนย<WBR>แข็ง ปัจจุบัน<WBR>โรง<WBR>เนย<WBR>แข็ง<WBR>สามารถ<WBR>ผลิต<WBR>ผลิต<WBR>ภัณฑ์<WBR>ต่าง ๆ ออก<WBR>สู่<WBR>ตลาด เช่น นม<WBR>ข้น<WBR>หวาน<WBR>บรรจุ<WBR>หลอด นม<WBR>เปรี้ยว<WBR>พร้อม<WBR>ดื่ม<WBR>รส<WBR>ต่าง ๆ ไอศครีม นม<WBR>สด<WBR>พาส<WBR>เจอร์ไรซ์ปราศ<WBR>จาก<WBR>ไข<WBR>มัน เนย<WBR>แข็ง<WBR>เกาด้<WBR>า เนย<WBR>แข็ง<WBR>เช็ดด้า และ<WBR>เนย<WBR>สด<WBR><WBR> <DD><DD>โรง<WBR>นม<WBR>เม็ด<WBR><WBR> <DD>โครง<WBR>การ<WBR>ส่วน<WBR>พระ<WBR>องค์<WBR>สวน<WBR>จิตรลดา เคย<WBR>ผลิต<WBR>นม<WBR>เม็ด<WBR>เมื่อ<WBR>ปี พ.ศ<WBR>. ๒๕๑๒ แต่<WBR>ประสบ<WBR>ปัญหา<WBR>ทางเทคนิค<WBR>ทำ<WBR>ให้<WBR>ไม่<WBR>สามารถ<WBR>ดำ<WBR>เนิน<WBR>การ<WBR>ต่อ<WBR>ไป<WBR>ได้ ต่อ<WBR>มา<WBR>เมื่อ พ.ศ<WBR>. ๒๕๒๗ โครง<WBR>การ<WBR>ส่วน<WBR>พระ<WBR>องค์<WBR>สวน<WBR>จิตรลดา<WBR>ได้<WBR>จัด<WBR>ทำ<WBR>โรง<WBR>นม<WBR>เม็ด<WBR>ขึ้น<WBR>ใหม่<WBR>เพื่อ<WBR>เป็น<WBR>การ<WBR>ส่ง<WBR>เสริม<WBR>โภชนา<WBR>กา<WBR><WBR>รแก่<WBR>ผู้<WBR>บริโภค และ<WBR>เพื่อ<WBR>เป็น<WBR>การ<WBR>แนะ<WBR>นำ<WBR>การ<WBR>ผลิต<WBR>นม<WBR>เม็ด<WBR>ขึ้น<WBR>ใน<WBR>ประเทศ ปัจจุบัน<WBR>สามารถ<WBR>ผลิต<WBR>นม<WBR>เม็ด<WBR>ได้<WBR>วัน<WBR>ละ ๗,๐๐๐-๑๒,๐๐๐ ซอง<WBR>ต่อ<WBR>วัน มี<WBR>ทั้ง<WBR>สิ้น ๓ รส คือ<WBR>รส<WBR>หวาน รส<WBR>กาแฟ และ<WBR>รส<WBR>ช็อกโกแลต ซึ่ง<WBR>ได้<WBR>รับ<WBR>ความ<WBR>นิยม<WBR>อย่าง<WBR>กว้าง<WBR>ขวาง<WBR><WBR> <DD>[​IMG] <DD><DD>ห้อง<WBR>ควบ<WBR>คุม<WBR>คุณภาพ<WBR>ผล<WBR>ผลิต<WBR><WBR> <DD>ห้อง<WBR>ควบ<WBR>คุม<WBR>คุณภาพ<WBR>ผล<WBR>ผลิต มี<WBR>หน้า<WBR>ที่<WBR>ใน<WBR>การ<WBR>ตรวจ<WBR>สอบ<WBR>และ<WBR>ควบ<WBR>คุม<WBR>คุณภาพ<WBR>วัตถุ<WBR>ดิบ<WBR>และ<WBR>ผลิต<WBR>ภัณฑ์<WBR>ต่าง ๆ ของ<WBR>โครง<WBR>การ<WBR>ส่วน<WBR>พระ<WBR>องค์<WBR>สวน<WBR>จิตรลดา<WBR>เพื่อ<WBR>ให้<WBR>ได้<WBR>ผลิต<WBR>ภัณฑ์<WBR>ที่<WBR>มี<WBR>คุณภาพ<WBR>สม่ำเสมอ<WBR>และ<WBR>เป็น<WBR>ไป<WBR>ตาม<WBR>มาตร<WBR>ฐาน<WBR>กำหนด<WBR>ไว้<WBR><WBR> <DD><DD>โรง<WBR>สี<WBR>ข้าว<WBR>ตัว<WBR>อย่าง<WBR><WBR> <DD>พระ<WBR>บาท<WBR>สมเด็จ<WBR>พระ<WBR>เจ้า<WBR>อยู่<WBR>หัว<WBR>ได้<WBR>ทรง<WBR>พระ<WBR>กรุณา<WBR>โปรด<WBR>เกล้าฯให้<WBR>ตั้ง<WBR>โรง<WBR>สี<WBR>ข้าว<WBR>ตัว<WBR>อย่าง<WBR>ขึ้น ใน<WBR>ปีพ<WBR>.ศ. <WBR>๒๕๑๔ เพื่อ<WBR>ทำ<WBR>การ<WBR>ทด<WBR>ลอง<WBR>สี<WBR>ข้าว<WBR>และ<WBR>สร้าง<WBR>ยุ้ง<WBR>ฉาง<WBR>เก็บ<WBR>ข้าว<WBR>เปลือก<WBR>แบบ<WBR>ต่าง ๆ และ<WBR>ใน<WBR>ปัจจุบัน<WBR>ได้<WBR>ดัด<WBR>แปลง<WBR>ยุ้ง<WBR>ฉาง<WBR>แบบ<WBR>สหกรณ์<WBR>ให้<WBR>สามารถ<WBR>นำ<WBR>ข้าว<WBR>เปลือก<WBR>เข้า<WBR>และ<WBR>ออก<WBR>จาก<WBR>ยุ้ง<WBR>ไป<WBR>สี<WBR>โดย<WBR>ไม่<WBR>ต้อง<WBR>ใช้<WBR>คน<WBR>แบก<WBR>ขน<WBR><WBR> <DD><DD>งาน<WBR>ทด<WBR>ลอง<WBR>ผลิต<WBR>ภัณฑ์<WBR>เชื้อ<WBR>เพลิง<WBR><WBR> <DD>งาน<WBR>ทด<WBR>ลอง<WBR>ผลิต<WBR>ภัณฑ์<WBR>เชื้อ<WBR>เพลิง<WBR>เริ่ม<WBR>ขึ้น<WBR>เมื่อ<WBR>ปีพ<WBR>.ศ<WBR>. ๒๕๒๘ โดย<WBR>พระ<WBR>บาท<WBR>สมเด็จ<WBR>พระ<WBR>เจ้า<WBR>อยู่<WBR>หัว มี<WBR>พระ<WBR>ราช<WBR>กระแส<WBR>ให้<WBR>ศึกษา<WBR>ต้น<WBR>ทุน<WBR>การ<WBR>ผลิต<WBR>แอลกอฮอล์<WBR>จาก<WBR>อ้อย เพราะ<WBR>ว่า<WBR>ใน<WBR>อนาคต<WBR>อาจ<WBR>เกิด<WBR>เหตุ<WBR>การณ์<WBR>น้ำ<WBR>มัน<WBR>ขาด<WBR>แคลน<WBR>หรือ<WBR>อ้อย<WBR>ราคา<WBR>ต่ำ พระ<WBR>บาท<WBR>สมเด็จ<WBR>พระ<WBR>เจ้า<WBR>อยู่<WBR>หัว ได้<WBR>พระ<WBR>ราช<WBR>ทาน<WBR>เงิน<WBR>เป็น<WBR>ทุน<WBR>วิจัย<WBR>ใช้<WBR>ใน<WBR>การ<WBR>ดำ<WBR>เนิน<WBR>งาน ๙๒๕,๕๐๐ บาท<WBR><WBR>
    [​IMG]
    <DD>เดือน<WBR>ตุลาคม พ.ศ<WBR>. ๒๕๓๗ โครง<WBR>การ<WBR>ส่วน<WBR>พระ<WBR>องค์<WBR>สวน<WBR>จิตร ร่วมกับบริษัท<WBR>สุรา<WBR>ทิพย์<WBR>ได้<WBR>ขยาย<WBR>กำลัง<WBR>ผลิต<WBR>แอลกอฮอล์<WBR>เพื่อ<WBR>ให้<WBR>มี<WBR>พอ<WBR>ใช้<WBR>ผล<WBR>สมกับน้ำ<WBR>มัน<WBR>เบน<WBR>ซิ<WBR><WBR>นเป็น<WBR>แก๊ส<WBR>โซฮอล์สำหรับ<WBR>รถ<WBR>ยนต์<WBR>ทุก<WBR>คัน<WBR>ของ<WBR>โครง<WBR>การ<WBR>ที่<WBR>ใช้<WBR>เบนซิน และ<WBR>ใน<WBR>วัน<WBR>ที่ ๑๖ พฤษภาคม พ.ศ<WBR>. ๒๕๓๙ สมเด็จ<WBR>พระ<WBR>เทพ<WBR>รัตนราช<WBR>สุดาฯ เสด็จ<WBR>พระ<WBR>ราช<WBR>ดำ<WBR>เนิน<WBR>เปิด<WBR>สถานี<WBR>บริการ<WBR>แก๊ส<WBR>โซฮอล์ใน<WBR>โครง<WBR>การ<WBR>ส่วน<WBR>พระ<WBR>องค์<WBR>สวน<WBR>จิตรลดา<WBR><WBR> <DD>งาน<WBR>ทด<WBR>ลอง<WBR>ผลิต<WBR>ภัณฑ์<WBR>เชื้อ<WBR>เพลิง<WBR>แบ่ง<WBR>เป็น<WBR>หน่วย<WBR>ย่อย คือ<WBR><WBR> <DD>๑. โรง<WBR>แอลกอฮอล์<WBR>ทำ<WBR>หน้า<WBR>ที่ ผลิต<WBR>เอทธิลแอลกอฮอล์<WBR>ความ<WBR>เข้ม<WBR>ข้น<WBR>ร้อย<WBR>ละ ๙๕ และ<WBR>ผลิต<WBR>น้ำ<WBR>ส้ม<WBR>สาย<WBR>ชู<WBR>จาก<WBR>สับ<WBR>ปะ<WBR>รด<WBR>และ<WBR>เศษ<WBR>ผล<WBR>ไม้<WBR>อื่น ๆ<WBR> <DD>๒. โรง<WBR>อัด<WBR>แกลบ ทำ<WBR>หน้า<WBR>ที่<WBR>ผลิต<WBR>แกลบ<WBR>อัด<WBR>แท่ง<WBR>และ<WBR>เผา<WBR>ถ่าน<WBR>จาก<WBR>แกลบ<WBR>อัด<WBR>เพื่อ<WBR>จำหน่าย<WBR>และ<WBR>ใช้<WBR>เป็น<WBR>เชื้อ<WBR>เพลิง<WBR>สำห<WBR>รับเครื่องกำเนิด<WBR>ไอ<WBR>น้ำ<WBR>ของ<WBR>โรง<WBR>กลั่น<WBR>แอลกอฮอล์<WBR><WBR> <DD>๓. งาน<WBR>พิเศษ<WBR>ตาม<WBR>ที่<WBR>ได้<WBR>รับ<WBR>มอบ<WBR>หมาย<WBR>ให้<WBR>ดู<WBR>แล ได้<WBR>แก่ บ้าน<WBR>พลัง<WBR>แสง<WBR>อาทิตย์ เพื่อ<WBR>ใช้<WBR>ใน<WBR>การ<WBR>ศึกษา<WBR>ทอ<WBR>ลอง<WBR>เกี่ยวกับการ<WBR>ใช้<WBR>ประ<WBR>โยชน์<WBR>จาก<WBR>พลัง<WBR>แสง<WBR>อาทิตย์ และ<WBR>ระบบ<WBR>นำ<WBR>น้ำ<WBR>เสีย<WBR>กลับ<WBR>มา<WBR>ใช้<WBR>รด<WBR>น้ำ<WBR>ต้น<WBR>ไม้ และ<WBR>เป็น<WBR>น้ำ<WBR>หล่อ<WBR>เย็น<WBR>ใน<WBR>การ<WBR>ผลิต<WBR>เทียน<WBR>ของ<WBR>โรง<WBR>หล่อ<WBR>เทียน<WBR>หลวง<WBR>ของ<WBR>สวน<WBR>จิตรลดา<WBR><WBR> <DD><DD>น้ำ<WBR>ผล<WBR>ไม้<WBR>พาส<WBR>เจอร์ไรซ์<WBR> <DD>การ<WBR>ผลิต<WBR>น้ำ<WBR>ผล<WBR>ไม้<WBR>พาส<WBR>เจอร์ไรซ์ได้<WBR>เริ่ม<WBR>ผลิต<WBR>ตั้ง แต่<WBR>ปี พ.ศ<WBR>. ๒๕๒๗ โดย<WBR>ผลิต<WBR>น้ำ<WBR>ส้ม น้ำ<WBR>อ้อย น้ำ<WBR>กระเจี๊ยบ และ<WBR>น้ำ<WBR>ขิง<WBR>ออก<WBR>จำหน่าย และ<WBR>ส่ง<WBR>เสริม<WBR>ให้<WBR>เกษตร<WBR>จัด<WBR>ตั้ง<WBR>กลุ่ม<WBR>ดำ<WBR>เนิน<WBR>งาน<WBR>ใน<WBR>รูป<WBR>ของ<WBR>สหกรณ์<WBR>เกษตร<WBR><WBR> <DD><DD>โรง<WBR>น้ำ<WBR>ผล<WBR>ไม้<WBR>บรรจุ<WBR>กระป๋อง<WBR><WBR> <DD>เริ่ม<WBR>โครง<WBR>การ<WBR>เมื่อ<WBR>ปลาย<WBR>เดือน<WBR>มกราคม พ.ศ<WBR>. ๒๕๓๕ มี<WBR>วัตถุ<WBR>ประสงค์<WBR>เพื่อ<WBR>ศึกษา<WBR>ความ<WBR>เป็น<WBR>ไป<WBR>ได้<WBR>ใน<WBR>การ<WBR>ตั้ง<WBR>โรง<WBR>งาน<WBR>ขนาด<WBR>เล็ก ต้น<WBR>ทุน<WBR>การ<WBR>ผลิต การ<WBR>ตลาด<WBR>ที่<WBR>จะ<WBR>ผลิต<WBR>ผล<WBR>ไม้<WBR>บรรจุ<WBR>กระป๋อง<WBR>เพื่อ<WBR>ส่ง<WBR>เสริม<WBR>ให้<WBR>ประชา<WBR>ชน<WBR>ดื่ม<WBR>น้ำ<WBR>ผล<WBR>ไม้<WBR>มาก<WBR>ขึ้น น้ำ<WBR>ผล<WBR>ไม้<WBR>บรรจุ<WBR>กระป๋อง<WBR>ของ<WBR>โครง<WBR>การ<WBR>มี<WBR>หลาย<WBR>ชนิด เช่น น้ำ<WBR>มะม่วง น้ำ<WBR>ตะไคร้ น้ำ<WBR>เห็ดหลินจือผสม<WBR>น้ำ<WBR>ผึ้ง น้ำ<WBR>สับ<WBR>ปะ<WBR>รด น้ำ<WBR>กาแฟ น้ำ<WBR>มะนาว<WBR>ผสม<WBR>น้ำ<WBR>ผึ้ง เป็น<WBR>ต้น<WBR><WBR> <DD><DD>สาหร่าย<WBR>เกลียว<WBR>ทอง<WBR><WBR> <DD>ใน<WBR>ปี พ.ศ<WBR>. ๒๕๒๙ งาน<WBR>วิจัย<WBR>และ<WBR>พัฒนา<WBR>โครง<WBR>การ<WBR>ส่วน<WBR>พระ<WBR>องค์<WBR>สวน<WBR>จิตรลดา ได้<WBR>นำ<WBR>น้ำ<WBR>กาก<WBR>มูล<WBR>หมัก<WBR>ซึ่ง<WBR>เป็น<WBR>ผล<WBR>พลอย<WBR>ได้<WBR>จาก<WBR>การ<WBR>ผลิต<WBR>แก๊ส<WBR>ชีวภาพ<WBR>มา<WBR>ใช้<WBR>เลี้ยง<WBR>สาหร่าย<WBR>เกลียว<WBR>ทอง และ<WBR>นำ<WBR>ไป<WBR>ใช้<WBR>เป็น<WBR>ส่วน<WBR>ผสม<WBR>ใน<WBR>การ<WBR>ผลิต<WBR>อาหาร<WBR>ปลา<WBR><WBR>
    [​IMG]
    <DD>โรง<WBR>กระดาษ<WBR>สา<WBR><WBR> <DD>งาน<WBR>วิจัย<WBR>และ<WBR>พัฒนา<WBR>การ<WBR>ปลูก<WBR>และ<WBR>การ<WBR>ผลิต<WBR>กระดาษ<WBR>สา<WBR>เพื่อ<WBR>สร้าง<WBR>อาชีพ<WBR>และ<WBR>ราย<WBR>ได้<WBR>แก่<WBR>กลุ่ม<WBR>ราษฎร<WBR>ใน<WBR><WBR>ชน<WBR>บท<WBR>และ<WBR>เป็น<WBR>การ<WBR>อนุรักษ์<WBR><WBR>กระดาษ<WBR>สา<WBR>ไว้<WBR><WBR> <DD><DD>น้ำ<WBR>ผึ้ง<WBR>สวน<WBR>จิตรลดา<WBR><WBR> <DD>โครง<WBR>การ<WBR>ส่วน<WBR>พระ<WBR>องค์<WBR>สวน<WBR>จิตรลดา ได้<WBR>ส่ง<WBR>เสริม<WBR>อาชีพ<WBR>เลี้ยง<WBR>ผึ้ง<WBR>โดย<WBR>การ<WBR>รับ<WBR>ซื้อ<WBR>น้ำ<WBR>ผึ้ง ทำ<WBR>การ<WBR>บรรจุ<WBR>ขวด<WBR>และ<WBR>จัด<WBR>หา<WBR>ตลาด<WBR>จำหน่าย<WBR>ให้ ส่วน<WBR>ขี้<WBR>ผึ้ง<WBR>นำ<WBR>มา<WBR>ผลิต<WBR>เทียน<WBR>สี<WBR>ผึ้ง<WBR><WBR> <DD><DD>
    <CENTER>โครง<WBR>การ<WBR>ส่วน<WBR>พระ<WBR>องค์<WBR>สวน<WBR>จิตรลดา<WBR><WBR>|โรง<WBR>งาน<WBR>อาหาร<WBR>สำเร็จ<WBR>รูป<WBR><WBR>|โครง<WBR>การ<WBR>อัน<WBR>เนื่อง<WBR>มา<WBR>จาก<WBR>พระ<WBR>ราช<WBR>ดำริ<WBR><WBR>
    อุตสาหกรรม<WBR>เกษตร<WBR>อัน<WBR>เนื่อง<WBR>มา<WBR>จาก พระ<WBR>ปรีชา<WBR>ญาณ<WBR>ใน<WBR>พระ<WBR>บาท<WBR>สมเด็จ<WBR>พระ<WBR>เจ้า<WBR>อยู่<WBR>หัว<WBR><WBR></CENTER></DD></TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>
    ที่มา http://web.ku.ac.th/king72/2541-2/proj1.html
     
  10. ragpon

    ragpon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    456
    ค่าพลัง:
    +954
    ทุกๆความรู้สึก ถูกต้องแล้ว ภาพยนต์ เรื่องเล่าบอกต่อกัน นิทาน ทุกๆอย่างล้วนเล่าบอกเรื่องความตาย ความไม่แน่นอน ไม่มีอะไรอนิจจังหรือเที่ยง เหล่าผู้ที่ล้มตายพร้อมกันหลายๆคนพร้อมกัน ก็ล้วนแล้วได้รับข้อมูลเช่นนี้มาตลอดเข้ามาตลอดเสมอกันบ้างไม่เสมอกันบ้างแต่ว่า บารมีต่างๆที่จะพึงสังวรเรื่องความไม่เที่ยงไม่เท่ากัน ก็พากันอยู่ในความประมาทบ้างระวังภัยบ้างแต่บุพกรรมนั้นมีอำนาจมาก มันเหวี่ยงไปไม่แน่นอน เขาบอกมาเขาเตือนมาเพราะว่าอันกรรมใดๆที่เขาทำดีมาก่อนนั้นเหวี่ยงให้เขามาทำกรรมดีเพิ่มเติม จากการบอกเล่าเรื่องความตายที่สยดสยองพร้อมๆกันนั้น เพราะเขาเหล่านั้นเห็นแล้วว่าคำว่าภัยนั้นย่อมเกิดขึ้นรอบตัวเราและรอบตัวญาตมิตรเรา ทำไมเลยสำหรับท่านที่ยังไม่ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาทเลยเพียงน้อยนิดจะเริ่มจุดความประมาทนั้นทิ้งเสีย เพราะข่าวและสิ่งที่หลายคนบอกเล่านั้น เกิดขึ้นแล้วทั่วไปในปัจจุบัน เลือกเทอญ
     
  11. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    งานแสนหนัก ……..
    [​IMG]
    ทางแสนไกล ......ใครต่อใคร........ทะยอยกันแซงหน้าเราไป………….


    [​IMG]

    เหนื่อยเหลือเกิน .... กับภาระบนบ่า มีทางจะลดภาระลงบ้างหรือไม่

    [​IMG]

    ตัดสินใจ.... ลดภาระที่แบกอยู่

    [​IMG]

    เบา... สบายกว่าเดิมมากเลย


    [​IMG]

    เพื่อให้เดินทางสะดวกขึ้น ลดลงอีกสักนิดดีกว่า .....

    [​IMG]
    ขึ้นมาอยู่แถวหน้า ...... แซงคนอื่นได้สบาย
    ((อิอิอิ.....คนอื่นขาดไหวพริบ ไม่รู้จักลดภาระเหมือนคนฉลาดอย่างเรา))
    [​IMG]
    อะไรกันนี่
    ข้างหน้าเป็นทางขาด จะข้ามไปได้อย่างไร

    [​IMG]

    เมื่อคนข้างหลัง ..... ที่แบกภาระเต็มที่ .... เดินมาถึง

    จึงได้รู้ว่า....

    ภาระที่เขาแบกไว้มาตลอดหนทางอันยาวไกล.... ที่แท้ ....คือสะพานที่ใช้ทอดไป ... เพื่อข้ามทางขาด


    [​IMG]

    รีบใช้ของเราเอง .... จะได้ข้ามตามไปบ้าง ...
    แต่ ... ทำไมเป็นแบบนี้

    [​IMG]

    ข้ามไปไม่ได้ เพราะใคร
    เพราะตัวเอง .... ขาดความเพียร
    ขาดความมานะ ... ความพยายาม ขาดความมุ่งมั่น
    ขาดความตั้งใจจริง

    ++++++++++++++++++++++++

    ดังนั้น เราควรทำงานที่รับผิดชอบในปัจจุบันให้ดีที่สุด
    อย่าคิดลดงานลง เพราะเห็นแก่ความสบาย
    เพราะ ... งานคือสะพานสู่ความสำเร็จในภายหน้าของเราเอง

    [​IMG]
     
  12. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ท่อก๊าซเท็กซัสบึม คนงานดับ3 สูญหายอีกนับสิบ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle>ภาพประกอบจาก อินเทอร์เน็ต</TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>
    เกิดเหตุท่อส่งก๊าซธรรมชาติของ บ.เอนเตอร์ไพรส์ โพรดักส์ พาร์ทเนอร์ส

    ในรัฐเท็กซัส สหรัฐฯ ระเบิดขณะคนงานกำลังขุดเจาะวางสายไฟ ทำให้เกิดเพลิงไหม้รุนแรง ส่งผลให้คนงานเสียชีวิต 3 ศพ สูญหายอีกนับ 10 คน...

    สำนักข่าวเอพีรายงานเมื่อวันที่ 8 มิ.ย. ว่า เกิดอุบัติเหตุท่อส่งก๊าซธรรมชาติระเบิด ขณะคนงานของบริษัท "เบรซอส อิเล็กทริค" กำลังขุดเจาะเพื่อวางสายไฟ จากเหตุระเบิดดังกล่าว ทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้รุนแรง ส่งผลให้คนงานเสียชีวิตล่าสุด 3 ศพ สูญหายอีก 10 คน และอีกหลายคนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว

    ทั้งนี้ บริษัท เอนเตอร์ไพรส์ โพรดักส์ พาร์ทเนอร์ส ผู้ประกอบการด้านการผลิต และขนส่งก๊าซธรรมชาติในรัฐเท็กซัส เป็นเจ้าของท่อส่งก๊าซธรรมชาติขนาด 36 นิ้วข้างต้น ขณะที่นักวิเคราะห์เชื่อว่า เหตุระเบิดครั้งนี้ อาจทวีความยุ่งยากในการขนส่งด้านพลังงานทั่วชายฝั่งสหรัฐฯ สืบเนื่องจากเหตุแท่นขุดเจาะน้ำมันของบีพีระเบิดกลางอ่าวเม็กซิโก เพราะรัฐบาลสหรัฐฯ ต้องจำกัดปริมาณในการขุดเจาะน้ำมันในขณะนี้.


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>สธ.ตั้งทีมรับมือไข้เลือดออกระบาดพบรอบ 5 เดือนป่วยแล้วกว่าหมื่น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>สำนักข่าวไทย 7 มิ.ย.- สธ.ตั้งทีมรับมือฤดูกาลระบาดหนักไข้เลือดออก มิ.ย.- ส.ค. 2553

    รอบ 5 เดือนมานี้ป่วยกว่า 17,000 คน เสียชีวิต 20 คน พบสูงสุดที่ภาคกลาง ระบุปีนี้จะระบาดหนักช่วงฝนชุกในเดือน มิ.ย.-ส.ค. สั่งทุกหน่วยงานเฝ้าระวังควบคุมโรคไม่ให้แพร่กระจาย โดยให้สังเกตผู้ป่วยมีไข้ที่อายุเกิน 14 ปีด้วย เผยพบในเด็กโตและวัยรุ่นมากขึ้น

    นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ว่า สธ.ได้ตั้งคณะกรรมการป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออก

    ชุดใหญ่ 1 ชุด จำนวน 23 คน ประกอบด้วยผู้บริหาร ศธ. กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมหาดไทย และกรุงเทพมหานคร โดยมี นพ.ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน เพื่อวางนโยบายการป้องกันและแก้ไขโรคไข้เลือดออกในระดับชาติ โดยให้หน่วยงานต่าง ๆ มีส่วนร่วมในการควบคุมป้องกันโรคอย่างมีประสิทธิภาพและทันท่วงที เนื่องจากจากการวิเคราะห์สถานการณ์โรคพบว่า ปีนี้มีแนวโน้มโรคจะระบาดหนักกว่าปีที่ผ่านมา

    ตั้งแต่เดือน มกราคม - พฤษภาคม 2553 พบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกทั่วประเทศ 17,587 คน

    ส่วนใหญ่พบในเด็กโตและวัยรุ่น อายุระหว่าง 10-24 ปี ภาคกลางมีผู้ป่วยสูงสุดจำนวน 7,945 คน รองลงมาคือภาคใต้ 4,264 คน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3,753 คน และภาคเหนือ 1,625 คน เสียชีวิตรวม 20 คน เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2552 จำนวนผู้ป่วยปีนี้มากกว่าถึงร้อยละ 58 ชี้ให้เห็นว่าไข้เลือดออกในปีนี้จะระบาดหนัก โดยเฉพาะช่วงที่มีการระบาดสูงสุดคือ เดือน มิ.ย.- ส.ค. ซึ่งมีฝนตกชุกขึ้น หากไม่มีการควบคุมป้องกันอย่างจริงจังของทุกหน่วยงาน


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวด้วยว่า ปีนี้ สธ.จะมีมาตรการเข้มในเรื่องการรายงานโรค

    โดยให้ทุกพื้นที่ที่พบผู้ป่วยรีบรายงานสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภายใน 24 ชั่วโมง และส่งทีมควบคุมโรคลงพื้นที่ทันทีเพื่อควบคุมไม่ให้โรคแพร่กระจาย โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีผู้ป่วยสูงกว่าค่าเฉลี่ยกลางปีเมื่อเทียบกับข้อมูลย้อนหลังในช่วงเวลาเดียวกัน 5 ปีที่ผ่านมา จะต้องรณรงค์กำจัดลูกน้ำยุงลายถี่ขึ้นอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ส่วนในเรื่องการรักษาพยาบาลได้กำชับให้แพทย์ ทั้งแพทย์ทั่วไป กุมารแพทย์ อายุรแพทย์ ให้ดูแลผู้ป่วยที่อายุเกิน 14 ปีที่มีไข้ ให้นึกถึงโรคไข้เลือดออกด้วย เพราะมีการเปลี่ยนแปลงของโรคพบในเด็กโตและวัยรุ่นมากขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้พบในเด็กเล็กเป็นส่วนใหญ่ และให้สถานพยาบาลทุกระดับดูแลสถานที่ไม่ให้เป็นแหล่งแพร่โรค โดยต้องไม่มีลูกน้ำยุงลายในและรอบ ๆ สถานพยาบาล

    นพ.มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า เชื้อเด็งกี่ซึ่งเป็นสาเหตุโรคไข้เลือดออก

    อาศัยอยู่ในยุงลายที่พบในบ้านเรือนและในสวน มี 4 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์เด็งกี่ที่ 1, 2, 3 และ 4 ในปีที่ผ่านมาพบผู้ป่วยติดเชื้อสายพันธุ์เด็งกี่ที่ 1 มาก ในปีนี้ยังคงพบสายพันธุ์เด็งกี่ที่ 1 มากเช่นเดิม แต่สายพันธุ์เด็งกี่ที่ 2 และ 3 มีสัดส่วนที่สูงขึ้น ประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่มีภูมิต้านทานต่อสายพันธุ์เด็งกี่ที่ 2 และ 3 จึงมีโอกาสที่ป่วยเป็นโรคไข้เลือดออกสูงมาก

    อาการของโรคไข้เลือดออกที่เป็นลักษณะเฉพาะคือมีไข้สูง 38.5 องศาเซลเซียสขึ้นไปติดต่อกันหลายวัน

    เบื่ออาหาร ส่วนใหญ่ไม่มีอาการไอ ไม่มีน้ำมูก อาจมีจุดสีแดง ๆ เล็ก ๆ ขึ้นตามผิวหนัง บางคนอาจมองไม่เห็นชัดเจน ต้องใช้วิธีรีดผิวหนังให้ตึงจึงจะเห็นจุดแดงชัดเจน แต่อย่างไรก็ตามในระยะแรกที่มีไข้สูง ไม่สามารถวินิจฉัยได้โดยง่าย เพราะอาการคล้ายไข้อื่นด้วย เช่นไข้หวัดใหญ่ ดังนั้น วิธีการดูแลผู้ป่วยที่ดีที่สุดคือ ให้กินยาลดไข้ชนิดพาราเซตามอล

    “อย่ากินประเภทที่มีแอสไพรินหรือไอบูโพรเฟนผสมอย่างเด็ดขาด เพราะยาชนิดนี้จะให้เลือดไม่แข็งตัว มีเลือดไหลในอวัยวะภายในมากขึ้นและมองไม่เห็น ผู้ป่วยอาจช็อคเมื่อใดก็ได้ สำหรับการป้องกันไม่ให้ป่วยเป็นไข้เลือดออกต้องไม่ให้ยุงลายกัด โดยนอนในมุ้ง ทายากันยุงและที่สำคัญต้องทำความสะอาดบริเวณบ้านและสวนให้โล่งเตียน ไม่ให้น้ำขังในภาชนะ หลุมบ่อต่าง ๆ ตามรอยเว้าก้นโอ่งที่คว่ำ ภาชนะใส่น้ำในบ้านที่ไม่มีฝาปิด ทั้งแจกันไม้ประดับ ขาหล่อตู้กับข้าว โอ่งน้ำ แท็งก์น้ำ ต้องเปลี่ยนเทน้ำทิ้งทุก 7 วัน สำหรับโอ่งน้ำที่ทิ้งแห้งไว้ถ้าจะใช้ใส่น้ำให้ขัดภายในโอ่ง เพื่อให้ไข่ยุงที่เกาะแห้งอยู่ออกไป แล้วล้างให้สะอาดก่อนบรรจุน้ำ พร้อมปิดฝาโอ่งให้มิดชิดป้องกันยุงวางไข่ ห้ามเติมน้ำก่อนกำจัดไข่ยุงที่แห้งติดภายในโอ่งอย่างเด็ดขาด เพราะจะทำให้ไข่ยุงลายที่มีอยู่กลายเป็นตัวยุง ซึ่งไข่ยุงแห้งจะมีอายุนานนับปี” อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าว.- สำนักข่าวไทย

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:"ข่าวเข้ม ฉับไว เป็นกลาง"
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>วิกฤติหนี้ยุโรปทำพิษ ทองพุ่ง 300 เชื่อทำนิวไฮใหม่ 19,200</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>นายกสมาคมค้าทองคำ ระบุ ทองไทยพุ่ง 300 บาท หลังนักลงทุนกังวลวิกฤหนี้ยุโรปรุนแรงขึ้น จึงเข้าซื้อทองลดความเสี่ยง คาดทองไทยอาจทำนิวไฮใหม่ที่ 19,200 บาท...

    8 มิ.ย. นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า ราคาซื้อขายทองคำในประเทศวันนี้

    ปรับเพิ่มขึ้นจากวานนี้ 300 บาท โดยราคาทองคำแท่ง รับซื้อ 18,950 บาท ขายออก 19,050 บาท ราคาทองรูปพรรณรับซื้อ 18,677.12 บาท และขายออก 19,450 บาท โดยมีสาเหตุมาจากราคาทองคำในตลาดโลกปรับขึ้น ซึ่งสัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นกว่า 23 ดอลลาร์ เมื่อคืนนี้ (7 มิ.ย.) จากความวิตกกังวลที่ว่า ปัญหาการเงินในฮังการีจะส่งผลให้วิกฤติหนี้สินในยุโรปทวีความรุนแรงขึ้น ได้กระตุ้นให้นักลงทุนแห่เข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง

    โดยสัญญาทองคำ COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. พุ่งขึ้น 23.10 ดอลลาร์สหรัฐ ปิดที่ 1,240.80 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,212.10 -1,246.70 ดอลลาร์สหรัฐ

    นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวต่อว่า ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หากปัญหาหนี้ยุโรปยังแก้ไขไม่สำเร็จ

    เพราะนักลงทุนจะเพิ่มความวิตกกังวล เกรงปัญหาจะลุกลามไปยังประเทศต่างๆ โดยคาดว่าราคาทองคำจะทำนิวไฮใหม่ ทดสอบแนวต้านที่ 1,260 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หลังจากผ่านนิวไฮเดิมที่ 1,240 ดอลลาร์สหรัฐต่ออนซ์มาแล้ว ส่วนราคาทองคำแท่งในประเทศ คาดว่าจะสร้างนิวไฮใหม่เช่นกัน เหนือ 19,200 บาท


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  13. หนองสะลาบ

    หนองสะลาบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    334
    ค่าพลัง:
    +564
    สงสัยจะเอาจริงแล้วทีนี้
     
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    พม่ามีอาวุธนิวเคลียร์ไปเพื่ออะไร?

    [​IMG]

    [​IMG]

    ถ้าอยู่ๆ พม่ามีอาวุธนิวเคลียร์สักหนึ่งหัวรบ เราจะมีวิธีรับมือไหมครับ เห็นพม่ากับเกาหลีเหนือสนิทชิดเชื้อกันดี จนไปช่วยกันขุดอุโมงค์รอบแนวชายแดนเราไว้ตั้งเยอะ สงสัยเอาไว้ซ่อนแท่นยิงสกั๊ด?

    by Kross » 15 Jul 2009 20:26

    ขึ้นอยู่กับว่าอาวุธ Nuclear ที่ว่าจะใช้ระบบใดเป็นตัวส่งครับ ซึ่งระบบส่งที่เป็นไปได้ที่สุดน่าจะเป็นขีปนาวุธ (Ballistic Missile) ซึ่งถ้าเป็นขีปนาวุธพิสัยสั้น(SRBM) อย่าง Hwasong ซึ่งลอกแบบจาก SCUD นั้น สามารถใช้ระบบ SAM พิสัยไกลอย่าง Patriot หรือ SM-2 จากเรือรบยิงสกัดได้ครับ แต่ถ้าเป็นระบบที่ใหญ่กว่าอย่าง ขีปนาวุธพิสัยกลาง(MRBM) หรือ ขีปนาวุธพิสัpปานกลาง(IRBM) ก็จำเป็นต้องใช้ระบบ Anti-Ballistic Missile ทีึ่สมรรถนะสูงกว่า เช่น SM-3 หรือ Arrow ของอิสราเอล

    อย่างไรก็ตามในสถานการณ์ภัยคุกคามจริงๆ ในภูมิภาคนี้นั้นถ้าจะใช้ขีปนาวุธก็คงไม่เกินระดับ SRBM ครับ อย่างระบบที่เวียตนามที่ใช้ในปัจจุบันนั้นเช่น SCUD นั้นกองทัพไทยยังไม่ขีดความสามารถในการสกัดกั้นครับ ถ้าพม่ามีการจัดหาขีปนาวุธลักษณะนี้จริง กองทัพไทยก็คงจำเป็นต้องมีการจัดหาระบบป้องกันอย่างเร่งด่วนครับ ทั้งระบบภาคพื้นดินอย่าง Patriot และระบบในทะัเลคือ เรือป้องกันภัยทางอากาศอาจจะระบบ AEGIS หรือ APAR ของยุโรป และ SM-2 ซึ่งหมายถึงงบประมาณจำนวนมหาศาลครับ

    แต่ปัญหาจริงๆคือถ้าจะยิงหัวรบ Nuclear จริง ที่ไหนคือเป้าหมายมากกว่า แน่นอนว่าระบบป้องกันดังกล่าวนั้นย่ิอมมีจำนวนจำกัด ซึ่งถ้าเราวางระบบในพื้นที่สำคัญเช่น กรุงเทพฯ หรือฐานทัพสำคัญๆ พม่าอาจจะเล็งไปที่เมืองใหญ่ๆเมืองอื่นที่ไม่ได้มีการวางระบบป้องกันภัยทางอากาศก็ได้ครับ ซึ่งถึงจะเป็น SRBM ที่ติดหัวรบตามแบบก็จริง ก็มีผลกระทบทางยุทธศาสตร์และขวัญกำลังใจประชาชนอย่างมากแล้วครับ

    ที่ผ่านมาพม่าจะกล่าวต่อเวทีประชาคมโลกเสมอครับว่า พม่าเป็นประเทศเล็กๆที่รักสงบ จึงไม่จำเป็นต้องครอบครองอาวุธทำลายล้างสูง พม่าจะจัดหาอาวุธไว้เพื่อการรักษาความสงบภายในและป้องกันตนเองเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงข่าวที่พม่ามีการจัดหาขีปนาวุธอย่าง Hwasong จากเกาหลีเหนือ จนถึงการพัฒนาขีปนาวุธเองและหัวรบนิวเคลียร์ มันแสดงให้เห็นถึงการปฏิบัติตามทฤษฎีบางอย่างของพม่าครับ

    ส่วนตัวขอเรียกมันว่า "ทฤษฎีนิวเคลียร์สำหรับทุกคน" (Nuclear for Everyone) แล้วกันครับ ซึ่งมันหมายความว่าการที่ประเทศใดๆซึ่งถูกกดดันคว่ำบาตจากชาติตะวันตกนั้น จะป้องกันตนเองและมีอำนาจต่อรองกับนานาชาติได้ ชาตินั้นจะต้องครอบครองนิวเคลียร์ และเมื่อมีนิวเคลียร์แล้วชาตินั้นก็จะยากที่จะถูกตะวันตกเข้าแทรกแซกหรือใช้กำลังทหาร

    แต่ในกรณีพม่านั้นมองว่าพม่าจะพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ขึ้น เพื่อครอบครองในทางลับไม่เปิดเผยแบบเกาหลีเหนือครับ เพื่อใช้สร้างอำนาจในการต่อรองกับตะวันตก โดยระบบส่งที่คาดว่าพม่าอาจจะพัฒนาขึ้นนั้น ก็ไม่ได้มีพิสัยการยิงไกลถึงชาติพันธมิตรตะวันตกเช่น ยุโรป หรือสหรัฐฯ แต่มันน่าจะเป็นระบบที่ใช้แสดงให้ประเทศรอบข้างพม่าทั้ง จีน อินเดีย บังคลาเทศ และชาติ ASEAN ทั้งหมดเห็นว่า อย่ามีท่าทีคุกคามหรือสนับสนุนให้ชาติตะวันตกเข้ามาโจมตีพม่า มิฉนั้นท่านจะโดนนิวเคลียร์

    กล่าวง่ายๆคือพม่าใช้ประเทศรอบข้าง ที่อยู่ในพิสัยการยิงเป็นตัวประกันครับ ซึ่งตะวันตกก็จะค่อนข้างลำบากใจเพราะพิสัยการยิงไม่ถึงประเทศตนเองหรือฐานทัพในต่างประเทศของตนก็จริง แต่การทิ้งให้ประเทศในกลุ่ม ASEAN เป็นตัวประกันของพม่า ก็ไม่ใช้ภาพลักษณ์ที่ดีนักครับ

    จีนเองคงไม่พอใจนักที่พม่าจะครอบครองนิวเคลียร์ครับ เพราะลำพังเกาหลีเหนือเองก็ทำให้จีนลำบากใจพอสมควรแล้ว ท่าทีของอินเดียเองก็คงจะไม่พอใจนักด้วยเพราะถูกขนาบจากรัฐที่มีนิวเคลียร์ในครอบครอง คือปากีสถานและจีนอยู่แล้วยังจะมีพม่าเพิ่มมาให้ต้องวางยุทธศาสตร์ใหม่อีก

    ส่วนตัวมองว่าไทยควรจะทำอะไรสักอย่างครับต่อกรณีนี้ทั้งทางตรงและทางลับ เพราะการมีเพื่อนบ้านที่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ไม่ใช่เรื่องดีแน่ครับ ผมได้ดู Clip รายงานข่าวของ Aljazeera เรื่องการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของพม่ามาครับ ซึ่งมีภาพแสดงรัศมีพิืสัยการยิงขีปนาวุธ ที่คาดว่าพม่าจะมีหรือกำลังพัฒนาด้วย

    ประเทศอยู่ในรัศมีการยิงก็ประกอบด้วย อินเดียในรัฐทางซีกตะวันออกของประเทศทั้งหมด มณฑลทางใต้ของจีนเช่นยูนาน บังคลาเทศ ไทย เวียตนาม กัมพูชา และมาเลเซียในส่วนภูมิบุตร(รัฐในคาบสมุทรมาลายูส่วนใหญ่) แต่ดูเหมือนจะยิงไม่ถึงสิงคโปร์ และอินโดนีเซียครับ

    คิดว่าไทยควรจะชวนชาติใน ASEAN โดยเฉพาะปะเทศที่อยู่ในพิสัยการยิงของขีปนาวุธคุยเรื่องนี้ในทางลับนะครับ ว่าควรจะทำอย่างไร

    by AAG_th1 » 06 Jun 2010 17:31

    [​IMG]

    ในส่วนตัวมองว่า การพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของพม่า เป็นภัยคุกคามโดยตรงของประเทศไทยเลยครับ เพราะปัจจุบันนั้นพม่ายังคงมีความระแวงไทยอยู่ และพม่ามองว่าหากอเมริกาหรือตะวันตกจะเล่นงานพม่า จุดวางกำลังนั้นก็คงเป็นที่ประเทศไทยอันดับแรกเนื่องจากเป็นพันธมิตรแนบแน่นกับอเมริกา ส่วนสิงคโปร์นั้นดูจะวางกำลังได้ยากเพราะเนื้อที่ประเทศเล็ก แต่อนาคตไม่แน่นอนเพราะพม่าเองก็กำลังพยายามพัฒนาจรวดให้มีวิถีไกลกว่าเดิม นั่นอาจจะยิงถึงสิงคโปร์เลยก็ได้

    และปัจจุบันนั้น อุโมงค์กระดองเต่าส่วนหนึ่ง(และเป็นส่วนใหญ่)อยู่ใกล้บริเวณชายแดนไทย ดังนั้นจึงต้องหาวิธีรับมือกับนิวเคลียร์ของพม่าแต่เนิ่นๆครับ และพึงกระทำได้หากจำเป็นต้องทำอย่างใดอย่างหนึ่งเพราะปัจจุบัน อาเซียน มีการทำข้อตกลงห้ามครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ในแถบนี้อยู่ หากพม่ามีการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์จริงก็ถือว่าทำผิดข้อตกลงในกล่มอย่างร้ายแรงครับ

    by เด็กทะเล » 07 Jun 2010 10:47

    ที่มา http://www.thaiarmedforce.com/distribution/viewtopic.php?f=5&t=617&start=105
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มิถุนายน 2010
  15. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792


    ลองเข้าไปอ่าน ในกระทู้นี้ (ค่อยๆ อ่านดูนะจะรู้อะไรดีขึ้น):cool:
     
  16. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    ความจริงเเล้ว เรื่อง ความฝันเกี่ยวกับภัยพิบัติสำหรับสันโดษเกิดขึ้นบ่อยมากๆ

    เคยขนาดที่ว่าไม่อยากจะเข้านอนเลย เพราะชอบฝันร้ายเรื่องภัยพิบัติตลอด

    จนคิดว่า บางทีเราตื่นนอนจะปลอดภัยกว่าการนอนหลับเสียอีก

    จริงๆก็ไม่อยากเล่าเพราะกลัวบางคนอาจจะเก็บไปคิดมาก

    เเต่บางทีอาจจะดีสำหรับใครบางคนที่กำลังหวาดกลัวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้

    สันโดษเคยฝันว่าโดนระเบิดนิวเคลียร์ หรือ ระเบิดอะไรสักอย่างระเบิดมาที่ตัวเองเเล้วก็สะดุ้งตื่นทันที

    เคยฝันว่าน้ำท่วมเเล้วกำลังจะจมน้ำขณะที่จมอยู่ก็สะดุ้งตื่นขึ้นมา

    เคยฝันว่าโดนดูดเข้าไปในพายุทอนาร์โดเเล้วก็บอกลาพ่อขณะกำลังจะตายก็สะดุ้งตื่น

    เคยฝันเห็นพระอาทิตย์เที่ยงคืนเเล้วก็มีคนพาหนีไปที่ที่ปลอดภัยจากน้ำท่วม

    ไม่ว่าจะโดนยิง โดนเเทง หรือ บาดเจ็บต่างๆนานา

    สันโดษเคยฝันเเบบนี้บ่อยมากๆ เเต่ทุกครั้ง มีสติเสมอ

    ตอนเกิดเหตุการณ์ืภัยพิบัติในฝันจิตนิ่งมากไม่เคยกลัวเเละเตรียมใจดีมาก

    เวลากำลังจะตายมันไม่ได้น่ากลัวเลยค่ะถ้าเรามีสติจริงๆนะ

    ตอนที่กำลังขาดใจตาย เฮือกสุดท้าย

    เวลาจิตออกจากร่างก็คงเหมือนขณะที่กำลังจะตายในฝันเเล้วสะดุ้งตื่นประมาณนั้น

    เพราะทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์ ตอนตื่นรู้สึกโล่งมาก

    ถ้าเกิดภาวะเเบบในฝันคิดว่าตอนตายคงไม่มีอะไรมาก

    เพราะได้ฝึกมาจากในฝันหลายรอบเลยทีเดียว เวลาฝันก็คิดว่าเรื่องจริงตลอด

    จนบางครั้ง คิดว่า ภัยพิบัติในฝันเกิดถี่ซะจนเข้าใจความรู้สึกคนที่กำลังเจอภัยพิบัติตอนนี้เเละในอนาคต

    รู้สึกเหมือนตัวเองอยู่คนละมิติระหว่างโลกในฝันกับโลกที่อยู่ ณ ปัจจุบันจริงๆ

    ภัยพิบัติไม่ได้น่ากลัวเลยถ้าเรามี สติ เราจะหาทางออกได้เสมอเเน่นอน

    อย่างมากก็เเค่ตาย เเต่ตายเเล้วไปไหน ขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณกำลังสร้างตอนนี้เท่านั้น

    ถ้าคุณหวังว่าจะให้โลกสงบสุขคงเป็นไปไม่ได้ เพราะ ภัยพิบัติต่างๆเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนเเปลงของธรรมชาติ

    ตั้งเเต่ก่อกำเนิดจักรวาล เพราะฉะนั้น วิธีที่จะอยู่กับภัยพิบัติที่ดีที่สุด คือ การเรียนรู้ว่าเราจะอยู่กับธรรมชาติเเบบนี้ได้อย่างไร

    ภัยพิบัติ คือ การที่มนุษย์อยู่ในสถานที่ที่ไม่เหมาะกับตัวเอง เเละ ผลกรรมจากการเบียดเบียนธรรมชาติที่มากเกินไป

    ดังนั้นสิ่งที่ตัวเองเลือกทำในวันนี้ คือ การทำให้คนอื่นมีความสุขกายสบายใจ

    เพราะ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม นั้นคือ ข้อเท็จจริงข้อเดียวที่จริงเเท้เเน่นอนค่ะ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มิถุนายน 2010
  17. ฟู่เหยิน

    ฟู่เหยิน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +86
    ถ้าเป็นผม

    ถ้าเป็นผม ผมจะไม่กินปลาตัวนี้ มันใหญ่เกิน มันคงจะมีอะไรพิเศษ



     
  18. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    จากตำนานที่ปรากฏในตำนานเมืองและ อารยธรรมที่ล่มสลายก็เกิดจากชาวเมือง จับปลาไหลเผือก ปลาเผือก ปลาใหญ่ ปลายักษ์ต่างๆมากิน

    จากนั้นก็เกิดธรณีพิบัติ และน้ำทะลักท่วมจมทั้งเมืองในคืนเดียว

    ปลาในภาพเป็นปลาดุกเผือก ขนาดยักษ์ แบบนี้ก็เข้าข่ายไม่ธรรมดาครับ

    อิตาลีเองก็มีความเสี่ยงของภูเขาไฟที่ยังประทุอยู่ตอนนี้หลายลูกครับ น่าเป็นห่วง


    ขอให้ปลอดภัยกันทุกชีวิต ไม่ฆ่าไม่แกงกันทั้ง มนุษย์ด้วยกันและ สัตว์ร่วมโลกครับ
     
  19. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ตัวอย่างภาพภูเขาไฟที่ระเบิดใต้ทะเลครับ

    ปะการังฟอกขาวนั้นมีน้องที่ชุมพรก็แจ้งว่านำทะเลร้อนแล้วเช่นกันครับ

    --------------------------------------------
    Eruption of the underwater "Brimstone Pit"
    "At any moment you felt it could go Mount St. Helens," says the narrator,
    from the Woods Hole Oceanographic Institute. "You could see the glow
    of the lava inside the pit."
    Great video:
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=V36LnXI37Vw"]YouTube - WHOI: Erupting Underwater Volcano[/ame]
    <table class="tborder" 425="" style="margin: 10px 0pt;" cellpadding="6" cellspacing="1"> <thead> <tr> <td class="tcat" colspan="2" style="text-align: center;">
    </td> </tr> </thead> <tbody> <tr> <td class="panelsurround" align="center"> <object width="425" height="350">

    <embed src="http://www.youtube.com/v/V36LnXI37Vw" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" wmode="transparent" width="425" height="350"></object> </td> </tr> </tbody> </table>​


     
  20. pmntr

    pmntr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    631
    ค่าพลัง:
    +2,244
    สงสัยอิตาลีจะแย่
     

แชร์หน้านี้

Loading...