ติดตามสถานะการณ์

กองทัพอิสราเอลยอมรับอากาศยานไร้คนขับตกในเลบานอน!!!

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมากองทัพอิสราเอลเผยว่าหนึ่งในอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนตกในเขตประเทศเลบานอนระหว่างการปฏิบัติงานตามแนวชายแดน

ซึ่งสื่ออิสราเอลออกมาเปิดเผยว่า สาเหตุการตกของโดรนดังกล่าว เนื่องจากปัญหาทางเทคนิค

ก่อนหน้านี้ เลบานอนเปิดเผยว่า โดรนลาดตระเวนรัฐเถื่อนอิสราเอลบินเข้าดินแดนเลบานอนทางตอนใต้มากกว่า20ครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดมติคณะรัฐมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ

ข่าวโลกที่3

 

แม้ไม่ใช่เรื่องผิดมารยาททางการทูต แต่ใครๆก็มองออกว่า เป็นเจตนาของสหรัฐฯ
.
1/ ความสัมพันธ์ของ 2 ประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในโลกคือ สหรัฐฯและจีน กำลังทวีความตึงเครียดขึ้น เมื่อต่างฝ่ายต่างสั่งปิดสถานกงสุลของกันและกัน คือสถานกงสุลใหญ่จีน ณ เมืองฮูสตัน และสถานกงสุลใหญ่สหรัฐฯ ณ เมืองเฉิงตู
.
2/ เซ้าท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ สื่อชื่อดัง รายงานว่า ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ กล่าวให้ความเห็นหลายๆครั้ง เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯและจีน
.
3/ แต่การกล่าวถึงทุกครั้ง มีจุดที่ผิดสังเกตคือ นายไมค์ไม่ได้เรียกว่าผู้นำจีนว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง / ประธานาธิบดีสี / ประธานาธิบดีจีน แบบที่เคยเรียก แต่กลับใช้คำว่า ‘เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน’ ใช้คำว่า ‘เลขาธิการสี จิ้นผิง’ แทน
.
4/ นอกจากนี้ ยังเรียกรัฐบาลจีนว่า ‘พรรคคอมมิวนิสต์จีน’ ซึ่งสมควรใช้คำว่า รัฐบาลปักกิ่ง / รัฐบาลจีน อย่างที่ควรจะเป็น
.
5/ เจ้าหน้าที่ระดับสูงอีกหลายคนในรัฐบาลสหรัฐฯก็ใช้คำเรียกผู้นำจีนแบบเดียวกับที่นายไมค์ใช้ ยกเว้นแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ยังคงเรียกผู้นำจีนว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง / ประธานาธิบดีสี
.
6/ ปัจจุบัน สี จิ้นผิง ดำรงตำแหน่งอย่างเป็นทางการ 3 ตำแหน่งด้วยกันคือ (1) ประมุขแห่งรัฐ (2) ประธานคณะกรรมาธิการทหารกลาง และ (3) เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ แม้จะไม่มีคำว่า ‘ประธานาธิบดี’ แต่ในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เป็นที่รับรู้และให้เกียรติกันว่า สี จิ้นผิง คือ ประธานาธิบดีของจีน
.
7/ ดังนั้น แม้ไม่ใช่เรื่องผิดมารยาททางการทูตที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯจะใช้คำอื่นแทนคำว่าประธานาธิบดี แต่ใครๆก็มองออกว่า เป็นเจตนาของสหรัฐฯ
.
8/ เป็นการบอกโดยนัยว่า รัฐบาลสหรัฐฯไม่ยอมรับคำว่า ประธานาธิบดีของสี จิ้นผิง เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์เล็กๆน้อยๆของสหรัฐฯในการเริ่มสงครามเย็น
.
9/ แม้จีนจะรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงและการไม่ให้เกียรติ แต่รัฐบาลจีนยังคงหวังที่จะให้ทั้งจีนและสหรัฐฯแก้ไขปัญหาร่วมกัน
.
10/ ดั่งที่นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวล่าสุดว่า “ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ เห็นได้ชัดเจนว่า สหรัฐฯเป็นต้นเหตุทั้งสิ้น แต่จีนก็ยังคงหวังว่า จะมีการร่วมมือกันอย่างจริงจัง เพื่อแก้ไขปัญหาและอุปสรรคต่างๆให้ผ่านพ้นไปด้วยดี”
.
ที่มา: www.scmp.com/news/world/united-states-canada/article/3094669/us-officials-switch-calling-chinas-xi-jinping
.

 

จีนประกาศยึดพื้นที่สถานกงสุลสหรัฐในเมืองเฉิงตู หลังสั่งให้ปิดเมื่อวันศุกร์

กระทรวงต่างประเทศของจีนประกาศว่า ทางการจีนได้ยึดพื้นที่สถานกงสุลสหรัฐในเมืองเฉิงตูแล้ว หลังจากที่จีนได้สั่งให้สหรัฐปิดสถานกงสุลดังกล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เพื่อตอบโต้ที่สหรัฐสั่งปิดสถานกงสุลจีนในเมืองฮิวสตัน

เจ้าหน้าที่ตำรวจจีนได้จำกัดการเข้าถึงพื้นที่รอบสถานกงสุลแห่งนี้เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ โดยทางกระทรวงระบุว่า สถานกงสุลดังกล่าวถูกปิดแล้ว ณ เวลา 10.00 น. ตามเวลาจีน จากนั้นเจ้าหน้าที่จีนได้เข้าพื้นที่และยึดพื้นที่เอาไว้

ด้านสหรัฐได้ยืนยันการปิดสถานกงสุลดังกล่าวแล้วผ่านคลิปวิดีโอบอกลาซึ่งโพสต์ลงบัญชีทวิตเตอร์ @USA_China_Talk ซึ่งเป็นของสถานทูตสหรัฐ

ส่วนสถานีข่าวซีซีทีวีของจีน ได้เปิดเผยคลิปวิดีโอจากนักข่าวรายหนึ่ง ซึ่งเผยให้เห็นธงชาติสหรัฐถูกลดลงเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ หลังจากที่เมื่อวานนี้มีรถเครนเข้าพื้นที่เพื่อยกตู้คอนเทนเตอร์เข้ารถบรรทุก และมีการใช้เครื่องมือถอดอุปกรณ์เชื่อมต่อรอบ ๆ ป้ายบอกสถานที่นอกประตูหลักเมื่อวันเสาร์

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐเปิดเผยในวันศุกร์ว่า จีนได้ทำการปิดสถานกงสุลในเมืองฮิวสตันในรัฐเท็กซัสแล้วตามคำสั่งของรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่า ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีนได้ขยายตัวสู่ระดับสูงสุดในรอบหลายทศวรรษ

ด้านรัฐบาลจีนได้ทำการตอบโต้ด้วยการสั่งให้สหรัฐปิดสถานกงสุลในเมืองเฉิงตูในมณฑลเสฉวน หลังสหรัฐสั่งปิดสถานกงสุลจีนในฮิวสตันด้วยข้อหาที่ว่า จีนทำการจารกรรมข้อมูลลับของสหรัฐ

ทั้งนี้ จีนและสหรัฐมีความขัดแย้งกันในหลาย ๆ ประเด็น รวมถึงการค้า การปฏิบัติทางธุรกิจ สถานการณ์ในฮ่องกงและทะเลจีนใต้ รวมถึงต้นกำเนิดของไวรัสโควิด-19

Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย กนิษฐ์นุช สิริสุทธิ์

เพิ่มเติม
U.S. shuts its consulate in Chengdu after China orders its closure: https://www.cnbc.com/2020/07/27/us-departs-chengdu-consulate-in-china.html

 

สหรัฐฯผิดหวังและเสียใจเป็นอย่างมาก ต่อการตัดสินใจของรัฐบาลจีน
.
1/ กระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯออกแถลงการณ์ล่าสุด ยุติภารกิจทางการทูตอย่างเป็นทางการ ที่สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเฉิงตู เมืองเอกของมณฑลเสฉวน ตะวันตกเฉียงใต้ของจีน
.
2/ การปิดสถานกงสุลเป็นไปตามกำหนดภายใน 72 ชั่วโมงตามคำสั่งของรัฐบาลจีน คือก่อน 10.00 น. วันจันทร์ ตามเวลาในจีน (09.00 น. เวลาในไทย)
.
3/ แถลงการณ์ของสหรัฐฯยุติภารกิจสถานกงสุลใหญ่ เมืองเฉิงตู มีใจความสำคัญว่า สหรัฐฯผิดหวังและเสียใจเป็นอย่างมากต่อการตัดสินใจของ ‘พรรคคอมมิวนิสต์จีน’ // อ่านเพิ่มเติม: สหรัฐฯเรียกรัฐบาลจีนว่า ‘พรรคคอมมิวนิสต์จีน’ ซึ่งสมควรใช้คำว่า 'รัฐบาลปักกิ่ง หรือ รัฐบาลจีน' อย่างที่ควรจะเป็น www.facebook.com/ChinaReportAseanThailand/posts/635679970485683
.
4/ สำหรับภารกิจสุดท้าย ก่อนที่เจ้าหน้าที่การทูตในสถานกงสุลใหญ่สหรัฐฯเมืองเฉิงตู จะออกจากพื้นที่ คือการเชิญธงชาติสหรัฐฯลงจากยอดเสา อันเป็นสัญลักษณ์ของการยุติภารกิจทางการทูตอย่างเป็นทางการ
.
5/ ตลอดระยะเวลา 35 ปีที่ผ่านมา กงสุลใหญ่สหรัฐฯ เมืองเฉิงตู เป็นศูนย์กลางของการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างชาวอเมริกันกับชาวจีน ในภูมิภาคตะวันตกของจีน รวมถึงเขตปกครองตนเองทิเบต
.
6/ แม้สถานกงสุลต้องปิดดำเนินการ แต่ภารกิจทางการทูตของสหรัฐฯในการสร้างความสัมพันธ์ฉันมิตรระดับประชาชนจะเดินหน้าต่อไปด้วยการทำงานของสถานทูตและสถานกงสุลสหรัฐฯแห่งอื่นๆในจีน
.
7/ ด้านกระทรวงการต่างประเทศของจีนแถลงยืนยัน สถานกงสุลใหญ่สหรัฐฯในเมืองเฉิงตู ปิดตามกำหนดเวลาแล้วและเจ้าหน้าที่จีนได้เข้าสู่พื้นที่ภายในสถานกงสุล
.
8/ รัฐบาลจีนยืนยันว่า การตัดสินใจของรัฐบาลอยู่บนพื้นฐานความเท่าเทียม เพื่อตอบสนองต่อการที่รัฐบาลสหรัฐฯเป็นผู้เริ่มต้น สั่งให้จีนยุติภารกิจการทูตที่สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฮูสตัน รัฐเท็กซัส ซึ่งเปิดดำเนินการมายาวนานกว่าสถานกงสุลใหญ่สหรัฐฯ เมืองเฉิงตู เสียอีก
.
9/ สถานกงสุลใหญ่จีน เมืองฮูสตัน รัฐเท็กซัส เปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2522 ส่วนสถานกงสุลใหญ่สหรัฐฯ เมืองเฉิงตู เปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2528
.
อ่านเพิ่มเติม:
.
-สหรัฐฯสั่งปิดสถานกงสุลจีน www.facebook.com/ChinaReportAseanThailand/posts/635679970485683
.
-จีนสั่งปิดสถานกงสุลสหรัฐฯ www.facebook.com/ChinaReportAseanThailand/posts/633520750701605
.

 

บัญชีดำ ‘ปั่นค่าเงิน’ ไทยต้องกังวลหรือไม่! จากที่มีข่าวว่าไทยอาจถูกทางการสหรัฐขึ้นบัญชีดำ ในฐานะประเทศที่ปั่นค่าเงินเพื่อหวังผลทางการค้า แต่ยังถือว่ายังไม่ได้เป็นเรื่องที่น่ากังวล เนื่องจากย้อนดูข้อมูล 12 เดือน จนถึงสิ้นเดือน มิ.ย.63 พบว่าไทยยังไม่เข้าเกณฑ์ 2 ข้อ จากทั้งหมด 3 ข้อที่สหรัฐกำหนด

หนึ่งข่าวใหญ่ซึ่งมีผลต่อการเคลื่อนไหวใน “ตลาดหุ้น” และ “ค่าเงินบาท” ของไทยในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา คือ ข่าวที่ “ไทย” อาจถูกทางการสหรัฐ “ขึ้นบัญชีดำ” ในฐานะประเทศที่ “ปั่นค่าเงิน” เพื่อหวังผลทางการค้า

ซึ่งข่าวนี้รายงานโดย “บลูมเบิร์ก” ที่อ้างอิงบทความของ UBS และ Goldman Sachs ซึ่งวิเคราะห์ว่าในเร็วๆ นี้ กระทรวงการคลังสหรัฐ จะประกาศรายชื่อประเทศที่ “ปั่นค่าเงิน” หรือ “Currency manipulator” เพื่อสร้างความได้เปรียบทางการค้ากับสหรัฐ โดยรายงานฉบับนี้อาจมีชื่อประเทศ “ไทย” และ “ไต้หวัน” รวมอยู่ด้วย

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่าการจัดทำรายงานดังกล่าวของทางการสหรัฐ มีขึ้นเพื่อต้องการ “ลด” การขาดดุลการค้าของสหรัฐที่มีต่อประเทศต่างๆ เพราะในแต่ละปี “สหรัฐ” ขาดดุลการค้ากับประเทศต่างๆ ทั่วโลกราว 8 แสนล้านดอลลาร์ ...

สหรัฐมองว่าหลายๆ ประเทศพยายามทำ “ค่าเงิน” ของตัวเองให้ “อ่อนลง” เพื่อสร้างความได้เปรียบทางการค้า จึงทำให้สหรัฐขาดดุลการค้ากับหลายๆ ประเทศอย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุนี้สหรัฐจึงกำหนดเกณฑ์ Currency manipulator ขึ้นมา โดยมี 3 ข้อหลักๆ ด้วยกัน เพื่อดูว่าประเทศใดบ้างที่ “ปั่นค่าเงิน” เพื่อหวังผลทางการค้ากับสหรัฐ

ข้อแรกคือดูว่าประเทศใดบ้างที่เกินดุลการค้ากับสหรัฐในช่วง 12 เดือนย้อนหลังสูงกว่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์ ข้อสอง ดูว่าประเทศใดบ้างที่มียอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดสูงกว่า 3% ของจีดีพี และข้อสาม ดูว่าประเทศใดบ้างที่สะสมเงินสำรองระหว่างประเทศในช่วง 12 เดือนย้อนหลังเกินกว่า 2% ของจีดีพี ...หลายคนเชื่อว่าเกณฑ์ที่สหรัฐกำหนดขึ้นมานี้มุ่งเป้าไปที่ “จีน” เพราะในแต่ละปีสหรัฐเสียดุลการค้าให้กับจีนเฉลี่ยปีละไม่น้อยกว่า 5 แสนล้านดอลลาร์

แม้เป้าใหญ่ของ “สหรัฐ” คือ “จีน” แต่ก็มีหลายๆ ประเทศโดนลูกหลงจากเกณฑ์ดังกล่าวด้วย โดยในรายงานฉบับที่ผ่านมา ซึ่งเปิดเผยเมื่อเดือน ม.ค.2563 ยังไม่มีประเทศที่ถูกสหรัฐกล่าวหาว่าปั่นค่าเงิน จะมีก็แต่ประเทศที่ที่สหรัฐเฝ้า “จับตาดู” เนื่องจากเข้าตามเกณฑ์ 2 ข้อ

จากทั้งหมด 3 ข้อ ซึ่งมีด้วยกัน 10 ประเทศ คือ จีน เยอรมนี ไอซ์แลนด์ อิตาลี ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย สิงคโปร์ สวิตเซอร์แลนด์ และเวียดนาม ...ส่วนของ “ไทย” ที่ผ่านมายังไม่เคยถูกขึ้นบัญชีดังกล่าวเลย จึงต้องติดตามดูว่ารายงานฉบับล่าสุดที่กระทรวงการคลังสหรัฐเตรียมประกาศเร็วๆ นี้ จะมีชื่อของไทยรวมอยู่ด้วยหรือไม่

รายงานฉบับที่ “สหรัฐ” เตรียมประกาศนี้จะใช้ข้อมูลปี 2562 ซึ่งเท่าที่ตามดูตัวเลข ต้องยอมรับว่า “มีความเสี่ยงสูง” ที่เราจะติดอยู่ในบัญชีดำของสหรัฐ เพราะถ้าดูเกณฑ์เรื่องดุลการค้าในปี 2562 ไทยเกินดุลการค้าสหรัฐคาบเส้นพอดีที่ 2.01 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่วนดุลบัญชีเดินสะพัดก็เกินดุลถึง 7% ของจีดีพี

ขณะที่เงินสำรองระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นถึง 1.86 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือราว 3.5% ของจีดีพี จะเห็นว่า “ไทย” เข้าตามเกณฑ์ทั้ง 3 ข้อพอดี ...แต่ไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวล เพราะถ้าดูข้อมูลล่าสุด ณ สิ้น มิ.ย.2563 ย้อนหลังไป 12 เดือน อย่างน้อยเรา “ไม่เข้า” เกณฑ์สหรัฐถึง 2 ข้อ คือดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัด

จึงเชื่อว่าแม้รอบนี้จะมีชื่อไทยอยู่ในบัญชีดังกล่าว แต่รอบหน้าเราพ้นจากบัญชีดำของสหรัฐอย่างแน่นอน

บทบรรณาธิการ

Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
https://www.bangkokbiznews.com/news...homepage_hilight&utm_medium=internal_referral

 

July 27, 2020 ด่วน! สั่งอพยพกว่า 80,000 คนออกจากเมืองดานัง หลังติดโควิด-19 ทีเดียว 4 รายในประเทศ

รัฐบาลเวียดนามประกาศให้เจ้าหน้าทีทัองถิ่นในเมืองดานัง ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวชื่อดังของเวียดนาม เร่งอพยพประชาชนไม่น้อยกว่า 80,000 คนออกจากเมืองดานัง โดยมีผลทันทีในวันนี้ เป็นที่คาดว่าต้องใช้เวลาถึง 4 วันติดต่อกันในการอพยพผู้คนทั้งหมดผ่านสายการบินในประเทศจำนวนวันละ 100 เที่ยวบินออกจากเมืองดานังไปยัง 11 เมืองต่างๆในเวียดนาม

นายกรัฐมนตรีเวียดนาม เหวียน ซวน ฟุก เปิดเผยว่าในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น เวียดนามพบผู้ติดโรคโควิด-19 ในประเทศจำนวน 4 ราย เป็นชายสูงอายุ 2 ราย มีอายุ 57 ปี และ 61 ปี วัยรุ่นอายุ 17 ปี และผู้สูงอายุวัย 71 ที่บริเวณเมืองดานังทางภาคกลางของเวียดนาม ทำให้เป็นการติดเชื้อภายในประเทศครั้งแรกในรอบกว่า 3 เดือนผ่านมา หรือนับตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นมา สถานการณ์ดังกล่าวทำให้นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ประกาศใช้มาตรการเพิ่มความเข้มงวดกับการตรวจคนเข้าเมือง และตรวจตราแนวชายแดนทั่วประเทศเวียดนาม

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เวียดนาม เปิดเผยว่าสาเหตุของการพบการติดโควิด-19 ในประเทศเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีความเป็นไปได้สูงที่มาจากการลักลอบเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมายของแรงงานต่างประเทศ ตำรวจเวียดนามจับกุมกลุ่มก่อการนำเข้าแรงงานต่างชาติที่เมืองดานัง จำนวน 4 คน เป็นชาวจีน 2 คน และชาวเวียดนาม 2 คน

ขณะที่สาธารณสุขเมืองดานัง สั่งปิดโรงพยาบาล 2 แห่งที่ผู้ติดโรคโควิด-19 จำนวน 2 ราย ไปรักษาตัวในข่วงที่ยังไม่ทราบผลตรวจเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 นอกจากนี้ สั่งกักตัวบุคลากรในโรงพยาบาลที่เกี่ยวข้อง และใกล้ชิด สมาชิกในครอบครัวของผู้ป่วยทั้ง 2 ราย เจ้าหน้าที่ทุกส่วนที่ทำงานในโรงพยาบาลทั้ง 2 แห่ง รวมทั้งหมด 7,000 คน เป็นเวลา 14 วัน

ทั้งนี้ ทางการดานังประกาศปิดแหล่งท่องเที่ยวทั้งหมดเป็นเวลานาน 14 วัน มีผลตั้งแต่เมื่อวานนี้เป็นต้นไป รวมถึงสั่งใช้มาตรการรักษาระยะห่างในที่สาธารณะอย่างเข้มงวด ห้ามมีการรวมตัวกันเกินกว่า 30 คนขึ้นไป ไม่เพียงเท่านั้น สั่งปิดบริการชั่วคราวกับสถานที่บันเทิง ร้านอาหาร บาร์ ร้านนวดสปา ร้านเสริมสวยทุกแห่งในเมืองดานัง

#เวียดนาม #ดานัง #โควิด19 #misterban

 

July 27, 2020 จัดอีกกว่า 32 ล้านล้านบาท แพคเกจเยียวยาเศรษฐกิจสหรัฐ แจกเงินคนละกว่า 38,000 บาท

นายสตีเฟ่น มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ เปิดเผยว่า รายละเอียดด้านกฎหมายเกี่ยวกับมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจสหรัฐมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 32 ล้านล้านบาท ได้ผ่านการสรุปขั้นสุดท้ายจากพรรครีพลับลิกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งพร้อมจะนำเสนอในวันจันทร์ที่ 27 กรกฎาคมนี้(ตามเวลาสหรัฐ)

รัฐมนตรีคลังสหรัฐ คาดหวังว่ารัฐสภาสหรัฐจะสนับสนุน และลงมติให้ผ่านกฎหมายฉบับดังกล่าว โดยหัวใจสำคัญ คือการแจกเงินช่วยเหลือชาวอเมริกันอีกรอบ คิดเป็นมูลค่าคนละ 1,200 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 38,400 บาท รวมถึงคุ้มครองภาระรับผิดชอบของธุรกิจเอกชน และสถาบันการศึกษาในสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ มาตรการเยียวยารอบใหม่ยังแก้ไขหลักประกันการว่างงานแห่งชาติ ซึ่งจะครอบคลุมถึงการชดเชยค่าจ้างที่มีสัดส่วนมากถึง 70% ของทั้งหมด

ทั้งนี้ ตลาดทุนทั่วโลกโดยเฉพาะในสหรัฐ กำลังติดตามปัจจัยการเมืองในสหรัฐเกี่ยวกับการผ่านร่างกฎหมายเยียวยาดังกล่าวที่มีมูลค่าสูงถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งจะมีผลต่อการลงทุนในตลาดหุ้น โดยเฉพาะตลาดทองคำโลกที่รอปัจจัยบวกจากมาตรการดังกล่าว
#สหรัฐ #โควิด19 #misterban

 

July 27, 2020 ด่วน! ทองคำโลกทะลุ 1,946.90 สร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ ทองคำไทยพุ่งแตะ 29,200 บาท!

ตลาดซื้อขายทองคำโลกในเอเชียที่สิงคโปร์ รายงานว่า วันนี้ 27 กรกฎาคม เมื่อเวลา 10.25 น.(ตามเวลาสิงคโปร์) ราคาทองคำล่วงหน้าเคลื่อนไหวสูงขึ้นแตะที่ระดับ 1,946.90 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทะยานขึ้นถึง 49.40 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์จากราคาปิดที่ตลาดนิวยอร์ก สหรัฐ เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา สอดรับกับราคาทองคำโลกส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ที่ตลาดสิงคโปร์ ทะยานขึ้นแตะที่ระดับ 1,923.20 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ส่งผลราคาทองคำตลาดโลก ทำลายสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ จากเดิมที่เคยทำไว้ที่ 1,921.17 ในเดือนกันยายน ปี 2011

ด้านราคาทองคำในไทยเปิดตลาดคึกคักทันที่ สมาคมค้าทองคำ ประกาศเมื่อเวลา 9.22 น. เปิดตลาดครั้งที่ 1 ปรับราคาขึ้นบาทละ 200 บาท จากนั้นปรับราคาขึ้นอีก 2 ครั้งๆละ 50 บาท รวมสุทธิราคาปรับขึ้น 300 บาท ส่งผลเมื่อเวลา 9.28 น. ราคาทองคำแท่งซื้อที่ 28,600 บาท ราคาขายที่ 28,700 บาท ขณะที่ราคาทองรูปพรรณซื้ออยู่ที่ 28,091.48 บาท ราคาขายอยู่ที่ 29,200 บาท ทำสถิติราคาทองคำในไทยสูงสุดเป็นประวัติการณ์เป็นวันที่ 5 ทำการติดต่อกัน

#ทองคำ #ราคาทอง #misterban

 

July 27, 2020 สหรัฐติดโควิดไปไกลกว่า 4.36 ล้านคน ส่งโควิด-19 ติดทั่วโลกทะลุเฉียด 16.4 ล้านคน ยอดตายทั่วโลกทะลุกว่า 650,000 คน The Covid-19 infected globally toll surpassed 16.3 million

เวลา 6.55 น. รายงานสถานการณ์จำนวนผู้ติดโรคปอดอักเสบไวรัสโคโรนา 2019 ทั่วโลก เพิ่มเป็น 16,396,728 ราย ซึ่ง 10 อันดับแรกของโลก คือ สหรัฐอเมริกา 4,366,304 ราย บราซิล 2,419,901 ราย อินเดีย 1,436,019 ราย รัสเซีย 812,485 ราย แอฟริกาใต้ 455,433 ราย เม็กซิโก 385,036 ราย เปรู 379,884 ราย ชิลี 343,790 ราย สเปน 319,501 และสหราชอาณาจักร 299,426 ราย

สำหรับจำนวนผู้เสียชีวิตทั่วโลกเพิ่มเป็น 651,567 ราย ซึ่ง 10 อันดับแรก คือ สหรัฐอเมริกา 149,775 ราย บราซิล 87,052 ราย สหราชอาณาจักร 45,752 ราย เม็กซิโก 43,374 ราย อิตาลี 35,107 ราย อินเดีย 32,810 ราย ฝรั่งเศส 30,192 ราย สเปน 28,432 ราย เปรู 18,030 ราย และอิหร่าน 15,700 ราย

ในส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อในอาเซียน และเสียชีวิต(ตัวเลขในวงเล็บ) พบว่า อินโดนีเซีย 98,778 ราย(4,781) ฟิลิปปินส์ 80,448 ราย(1,932) สิงคโปร์ 50,369 ราย(27) มาเลเซีย 8,897 ราย(124) ไทย 3,291 ราย(58) เวียดนาม 420 ราย เมียนมา 350 ราย(6) กัมพูชา 225 ราย บรูไน 141 ราย(3) และลาว 20 ราย

#ไวรัสโคโรนา #ไวรัสอู่ฮั่น #ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ #ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019 #โรคปอดอักเสบ #ไวรัสโควิด19 #covid19 #Misterban #coronavirus #pneumonia #btimes #money360

 

July 26, 2020 ถ้าคิดว่า 85 ปียังไหว ที่นี่เซ็นสัญญารับทำงาน

โนจิมะ คอร์ปอเรชั่น เครือข่ายร้านขายปลีกสินค้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในย่านโยโกฮาม่า กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ประกาศยืดอายุพนักงานที่จะเกษียณจากเดิม 65 ปี ไปเป็น 80 ปี ซึ่งมีเงื่อนไขว่า พนักงานคนดังกล่าวยินดีจะทำงานกับร้านโนจิมะต่อไป กฎระเบียบใหม่นี้มีผลกับพนักงานทุกคนจำนวน 3,000 คนในปัจจุบัน

สถานการณ์ผู้สูงอายุในญี่ปุ่นที่มีจำนวนพุ่งสูงขึ้น และมีจำนวนสะสมมากขึ้นต่อเนื่อง ทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศมาตรการช่วยเหลือผู้สูงอายุชาวญี่ปุ่นให้มีรายได้พอเลี้ยงตัวเองได้ นอกจากนี้ ภาวะวิกฤตขาดแคลนแรงงานในญี่ปุ่นยังไม่สามารถแก้ไขให้บรรเทาเบางบางลงได้

ทั้งนี้ เมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา รัฐบาลญี่ปุ่นแก้ไขกฎหมายการจ้างงาน และประกาศขยายอายุเกษียณทำงานไปเป็น 70 ปี จากเดิมที่ 65 ปี ซึ่งมีผลบังคับใช้ในช่วงเดือนมีนาคมปี 2564 เป็นต้นไป ส่งผลให้ธุรกิจเอกชนหลายแห่งแก้ไขอายุเกษียณ เช่น ซัมมิท เครือข่ายผู้ให้บริการซุปเปอร์มาร์เก็ตในกรุงโตเกียว ขยายเวลาเกษียณเป็น 75 ปี
#ญี่ปุ่น #เกษียณ #สูงวัย #misteran

 

เวียดนาม : อัพเดทโควิดระรอกใหม่ ดานัง
27 กรกฎาคม 2563
# เมืองดานัง
*พบผู้ต้องสงสัยใหม่ 12 รายในดานัง
* ผู้ป่วยทั่วไป รวม ถึงผู้ต้องสงสัย 30 คนหนีออกจากโรงพยาบาลดานังในคืนวันที่ 26 ก.ค. อยู่ระหว่างค้นหาตัว
# ฮานอย จับชาวจีน 5 คนลักลอบเข้าเมือง
ทางด่านหล่าวก๋าย (ซาปา) เช่ารถขับรถมาฮานอย เตรียมบินไปโฮจีมินส์ ตำรวจสกัดจับ

 

อิรัก :แบกแดด ลุกเป็นไฟ
บันทึกสถิติความร้อนสูง51- 54 องศาเซลเซียส จนทำให้ความร้อนผุดเดือดขึ้นจากพื้นทะเลทราย คลังอาวุธ ทหาร อยางน้อย 2แห่งระเบิด ไม่ใช่การโจมตี คาดว่ามาจากอุณหภูมิที่ร้อนจัด การระเบิดมีผู้เสียชีวิต 1 บาดเจ็บ 29 คน
# คลิปรวม ความร้อนผุด / คลังอาวุธระเบิด

# ในอิรักมี 2 เคสบอม./ระเบิดจริง กับ ระเบิดเพราะร้อนจัด

 

เวียดนาม : ดานัง ติดเชื้อโควิดปริศนา + 2 คน (รวม3+1จว.ติดกัน) ดานังสั่งล็อคดาวน์ทันที 14 วัน ผู้คนรีบออกจากดานัง ตามพภาพ 26 ก.ค. 19.00 น. สนามบินแน่น เพราะอยู่ในช่วงเปิดเมือง โรงแรม ตั๋วเครื่องบินในดานังลด 80% ทำให้มีนักท่องเที่ยวมาก อาจสูงถึง 8 หมื่นคน ทุกคนต่างรีบออกในวันสุดท้ายก่อนประกาศปิดเมืองด่วน และคาดว่ามีคนตกค้างนับหมื่น
# กรณีใหม่ + 2 ราย
*รายที่ 419 ชายอายุ 17 ปี อยู่จังหวัด Quang ngai (ใต้ดานัง 160 กม.) เดินทางมาดานัง 14-17 ก.ค. หลังจากนั้นป่วย ตัังแต่ 20 ก.ค. และซื้อยากินรักษาเอง ไปพบหมอบอกเป็นโรคหลอดลม ป่วย ก่อนจะตรวจซ้ำยืนยันผล 26 ก.ค. เคยไป ร.พ.ในดานัง ที่คาดว่าติดเชื้อจากที่นั้น
* รายที่ 420 หญิงวัย 71 เธอมาเยี่ยมลูกในโฮจีมินส์
และมีอาการป่วยช่วง 8 ก.ค. กลับดานัง 12 ก.ค. รักษาเองไปโรงพยาบาลพบหมอ 22 ก.ค. และมีผลอาการเกี่ยวกับปอด จนหมอตรวจซ้ำ 26 ก.ค ยืนยันติดโควิด
** เคส 419 /420 ไปสถานที่เดียวกันคือ ร.พ. ดานัง
** ทั้ง 2 เคสใช้ชีวิตในช่วงกำลังแสดงอาการ ไปหลายๆสถานที่ตลาด ร้านอาหาร ส่วนเชื้อยังไม่ทราบติดมาจากไหน
** อพาร์ทเม้นท์ ลูกสาวคุณป้าในโฮจีมินส์ แยกกักตัวคนที่ใกล้ชิด
** ตำรวจ ค้นตัวจับคนจีน ลักลอบเข้าเมืองผิด กม. พักในดานังมากกว่า 30 คน ที่คาดว่านำเชื้อ มาแพร่ระบาด
**หน้ากากอนามัยปรับราคาสูงอีกครั้ง
# 2 เคสแรกของดานัง >> อ่านโพสนี้

Cr : ภาพ VTC / XXTVN

 

สหรัฐ : พายุเฮอริเคน Hurricane Hanna พัดถล่มชายฝั่งรัฐเทกซัส สร้างความเสียหายให้กับท่าเรือ บ้านเรือนจำนวนมาก Hanna เพิ่มระดับอัพเกรดตัวเองมาจากพายุโซนร้อน ความรุนแรงไม่มากแรงลม 90 กม+/ชม ทำให้ฝนตกหนักน้ำท่วมในหลายพื้นที่
# สหรัฐยังมีพายุเฮอริเคนอีกลูกในชายฝั่งฮาวาย รวมถึงพายุโซนร้อนเตรียมพัดถล่ม
# แอดมินแนบคลิปบางส่วนในความคิดเห็น

 

สเปน / อังกฤษ
#อังกฤษ : สั่งกักตัวนักท่องเที่ยวทุกคนที่กลับจากสเปน 14 วัน หลังจากตัวเลขผู้ติดเชื้อพุ่งสูงมาก
#สเปน : ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งสูงอีกระรอกหลังจากเปิดเมือง เฉลี่ยวันละ 900 + จาก 300 ในช่วงสัปดาห์ก่อนต้นเดือน
ล่าสุด 23 ก.ค. + 1357 คน
24 ก.ค. + 2617 คน
25 ก.ค. + 2255 คน

 

ยอดติดเชื้อโควิดทั่วโลก 27 กรกฎาคม 2563
ติดเชื้อสะสม16,413,954รายเสียชีวิต 652,057 ราย
# ติดเชื้อรายใหม่ใน 24 ชั่วโมง +216,347 ราย
# เสียชีวิตใน 24 ชั่วโมง - 4,104 ราย

 

"เชาว์" บี้ "บิ๊กป้อม" แจงสังคม หลังพบ น้องชายนั่งกมธ.กฎหมาย ยุคสนช. มีเอี่ยวพลิกคดี "ทายาทกระทิงแดง" เตือนไม่รีบกระชากหน้ากากไอ้โม่ง รัฐบาลมีสิทธิพังด้วย แนะทายาทดาบวิเชียร ฟ้องคดีเอง พร้อมอาสารับเป็นทนายให้ จ่อเดินหน้ารื้อคดีโอ๊กฟอกเงินทุจริตแบ๊งก์กรุงไทยใหม่ เตรียม ยื่นเรื่องถึงอธิบดีดีเอสไอส่งศาลปกครอง-ศาลอาญา เพิกถอนคำสั่งไม่ฟ้องคดี เหตุเป็นโมฆะแต่ต้น เพราะ "เนตร" ไร้อำนาจ ย้ำอำนาจเฉพาะตัวอสส. ทำแทนไม่ได้

อ่านต่อ > https://news1live.com/detail/9630000076802
............................................

 

กางผลศึกษา “ไฮสปีดเทรน 3 สนามบิน” ระยะ 2 เชื่อมระยอง-จันทบุรี-ตราด ลงทุนสูงกว่า 1 แสนล้าน ผลตอบแทนสุดต่ำ เอกชนชี้ปัญหาเพียบเหตุแนวใหม่ค่าเวนคืน 1.3 หมื่นล้านแต่พัฒนาเชิงพาณิชย์ไม่ได้ ด้านรถไฟวางสัญญา 50 ปี เปิดทางเลือกทยอยสร้างทีละสถานี

อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9630000076729
………………………………

 

ยุคเสื่อม

รองหัวหน้า ปชป. 4 ข้อ โต้แย้งข้อพิรุธของอัยการ ปมสั่งไม่ฟ้อง"วรยุทธ อยู่วิทยา"ฐานขับรถประมาทชนคนตาย ไม่เชื่อ พยานให้การความเร็วรถก่อนชน จากเดิม 177 กม./ชม. ลดเหลือ 76 กม./ชม.เพื่อให้หลุดคดี 2 พยานที่เพิ่งโผล่ หลังเกิดเหตุ 7 ปีไม่มีน้ำหนัก

อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9630000076727
………………………………

วันนี้ (27 ก.ค.) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว เรื่องอัยการสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ อยู่วิทยา ดังนี้

“เรื่องอัยการไม่ฟ้องลูกกระทิงแดงนี่ อัยการสรุปว่า เป็นความประมาทของตำรวจ (ผู้ตาย) เพียงฝ่ายเดียว เพราะตำรวจ (ผู้ตาย) ขับรถจักรยานยนต์ ตัดหน้ารถยนต์ลูกกระทิงแดงอย่างกะทันหัน ตอนแรกอัยการสั่งฟ้อง แต่หลังจากพิจารณามานานถึง 8 ปี ก็กลับคำสั่งเดิมเป็น “สั่งไม่ฟ้อง” ด้วยเหตุผลหลักๆ คือ เหตุที่สั่งฟ้องในตอนแรกเพราะ พ.ต.ต.ธนสิทธิ แตงจั่น ผู้ตรวจสอบความเร็วให้การว่า ลูกกระทิงแดงขับรถด้วยความเร็ว 177 กม./ชม. แต่หลังจากนั้น เมื่อมีการร้องขอความเป็นธรรม พ.ต.ต.ธนสิทธิ แตงจั่น ได้ให้การใหม่เมื่อ 2 มี.ค. 2557 ว่าได้คำนวณใหม่แล้ว ความเร็วรถลดลงเหลือเพียง 79 กม./ชม. และได้มี พ.ต.ท.สมยศ แอบเนียน, พ.ต.ท.สุรพล เดชรัตนวิไชย และ รศ.ดร.ลายประสิทธิ เกิดนิยม (ให้การเมื่อ 23 ม.ค. 60 หลังเกิดเหตุถึง 5 ปี) ว่ารถยนต์ของนายวรยุทธ อยู่วิทยา ไม่น่าจะขับ 177กม./ชม. แต่น่าจะขับเพียง 76 กม./ชม. จะเห็นว่า เมื่อมีการร้องขอความเป็นธรรม ความเร็วของรถลดลงประมาณ 100 กม./ชม. เหลือเพียง 76 กม./ชม. และอัยการก็เชื่อตามนั้น

- ผมมีข้อโต้แย้ง (ทางวิชาการ) ต่อคำสั่งของอัยการ ดังต่อไปนี้

* ข้อโต้แย้ง ประการที่ 1 ผมไม่เชื่อความเห็นของพยานที่ให้การกลับคำในภายหลัง และไม่เชื่อคำให้การของพยานที่ให้การหลังเกิดเหตุหลายปี ที่ให้การแตกต่างกันในเรื่องความเร็วรถถึง 100 กม./ชม. ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญที่เป็นกลาง มาพิสูจน์ความเร็วรถ ว่าน่าจะ 177 กม./ชม หรือ 76 กม./ชม. หากเป็น 177กม./ชม. พยานที่ให้การในตอนหลังว่า 76 กม./ชม.ก็น่าจะมีปัญหาแล้วล่ะครับ ตอนนี้น่าจะครั่นเนื้อครั่นตัว ไม่ไอก็จามอยู่ล่ะครับ ประการสำคัญคือ ใน กทม.เขาจำกัดความเร็วรถยนต์ไม่เกิน 80 กม/ชม. ที่พยานให้การตอนหลังว่า 76 กม./ชม. จะเป็นการให้การเพื่อให้สอดคล้องกับการจำกัดความเร็วไม่เกิน 80กม./ชม.หรือเปล่า

* ข้อโต้แย้งประเด็นที่ 2 ผมเห็นว่า สภาพรถยนต์หลังเกิดเหตุ ยับเยิน กระโปรงหน้ายุบ กระจกหน้าแตก น้ำมันเครื่องไหลเป็นทาง รถยนต์คันนี้ราคาจำหน่ายในประเทศไทย คันละ 32 ล้านบาท ถ้ารถราคา 32 ล้านชนด้วยความเร็ว 80 กม./ชม. สภาพรถยับเยินขนาดนี้ เสียชื่อผู้ผลิตหมดครับ

* ข้อโต้แย้งประการที่ 3 จากจุดชนจุดแรก ถึงจุดที่จักรยานยนต์ผู้ตายไปตกอยู่ห่างกัน 163.6 เมตร หากความเร็วรถยนต์ 76 กม./ชม. น่าจะหยุดรถได้เร็วกว่านั้น ไม่น่าจะลากยาวไปถึง 163.6 เมตร

* ข้อโต้แย้งประการที่ 4 ผมไม่ให้น้ำหนักพยานบุคคลอีก 2 คน ที่มาให้การเมื่อ 4 ธ.ค. 2562 หลังเกิดเหตุถึง 7 ปี ว่าพยานขับรถตามหลังรถลูกกระทิงแดง และเห็นว่าลูกกระทิงแดงขับไม่เกิน 80 กม./ชม. น่าสงสัยว่า พยาน 2 ปากนี้ รออะไรอยู่ถึง 7 ปี จีงเข้าให้การ และเป็นการให้การก่อนที่อัยการจะสั่งไม่ฟ้องไม่กี่เดือน เป็นพิรุธอย่างยิ่งครับ

- กล่าวโดยสรุป เรื่องนี้ต้องทำให้ชัดปราศจากข้อสงสัย ไม่งั้นกระบวนการยุติธรรมของประเทศพังครับ แล้วประเทศจะพังไปด้วยครับ เอาแค่นี้ก่อนนะครับ ค่อยๆ อ่าน พักกินกาแฟกันก่อน”

 

ผบ.ตร.มีคำสั่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง การทำคดี “บอส กระทิงแดง” รายงานผลภายใน 15 วัน นับแต่วันที่รับทราบคำสั่ง

อ่านต่อ > https://news1live.com/detail/9630000076786
............................................