ติดตามสถานะการณ์

อันตรายจากไฟฟ้าเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ถ้าต้องเตือนให้ชาวต่างชาติระวังไฟฟ้าลัดวงจร ไฟฟ้าดูด ไฟฟ้าดับ ในภาษาอังกฤษจะเรียกว่าอะไร มาฝึกออกเสียงไปพร้อมกับพี่คริส คลิกเลย! https://bit.ly/2WYfZlJ
.
เรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษจากสิ่งรอบตัวกับ #ChrisJobs #ThaiPBS ติดตามความสนุกจากคำศัพท์ในหมวดอื่น ๆ ได้ทาง www.thaipbs.or.th/ChrisJobs

 

สธ.สำรวจพฤติกรรมคนไทยการ์ดตกลง 5% กำชับผู้ประกอบการ ทำความสะอาดจุดสัมผัสร่วมทุกชั่วโมง
.
อ่านต่อ : https://news.thaipbs.or.th/content/292546 #ThaiPBS #COVID19 #NewNormal

 

#ด่วนมากอิกอยากบอก! ปู่บัฟเฟตต์ขายหุ้นแบบรัวๆครับ ขายหุ้นเกือบทั้งหมดใน Goldman Sachs Group และ เริ่มขาย JPMorgan Chase!!

.

#ลงทุนนอกโลก โดยเพจ #ถามอีกกับอิก

.

สดๆร้อนๆครับ เมื่อเช้าที่ผ่านมา Berkshire Hathaway ประกาศว่าเทหุ้น สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่

.

เป็นอีกหนึ่งสัญญานที่ต้องเฝ้าติดตามแล้วครับ

.
ปล.ถ้าชื่นชอบเนื้อหา ของ "#ถามอีกกับอิก" รบกวนฝากกดแชร์ และ follow ด้วยนะครับ

============

.

1.ปู่ถือหุ้น Goldman Sachs Group มานานมากละครับ โดยเฉพาะช่วงที่เกิดวิกฤตการเงินรอบที่แล้ว 2008-2009 (ยักษ์ใหญ่ด้านสถาบันการเงิน ที่นิวยอร์ค สหรัฐ ก่อตั้ง ตั้งแต่ปี 1862)

.

2.ล่าสุดเพิ่งจะขายหุ้นสัดส่วนมากถึง 84% จาก 12 ล้านหุ้นเหลือแค่ 2 ล้านหุ้น เหลือมูลค่าน้อยกว่า 300 ล้านเหรียญ (ปู่ซื้อ ตอนวิกฤต แต่ไม่ได้ซื้อหุ้นนะครับ หุ้นบุริมสิทธิ์ของบริษัท ก่อนที่จะได้สิทธิในการซื้อหุ้น และทำกำไรอย่างถล่มทลายครับ)

.

3.ไม่ใช่แค่นี้ครับยังทยอยขายหุ้น JPMorgan Chase (ธนาคารที่มีสินทรัพย์มากที่สุดในสหรัฐ และใหญ่ที่สุดอันดับที่ 6 ของโลก) โดยปู่เข้าซื้อได้ไม่นานนี้เองครับ
.
และยังทยอยขาย Sirius XM (ผู้ให้บริการวิทยุทั้งทางดาวเทียมและออนไลน์) , Davita (ศูนย์โรคไต ศูนย์เฉพาะทางชื่อดัง) และ Synchrony Financial (สถาบันการเงินที่เน้นจับผู้บริโภครายย่อย เช่นการทำบัตรเครดิตร่วมกับห้างสรรพสินค้า)

.

และก็ขายหุ้น Travelers (บริษัทประกันในสหรัฐ) และ Philips 66 (หุ้นโรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่ในอเมริกา)

.

4.และที่แปลกใจคือ ปู่ขายหุ้น Amazon ยักษ์ใหญ่ค้าปลีกออนไลน์ที่ได้รับประโยชน์จากโควิด โดยขายประมาณ 0.7% (อาจจะเป็นเพราะว่า Amazon ลงทุนเพิ่มอย่างมากทั้งในมุมของการป้องกันโควิด และลงทุนในเรื่องการดำเนินงาน เพื่อให้การขนส่งมีประสิทธิภาพในช่วงมีการแพร่ระบาดของโรค)

.

5.แต่ปู่ไม่ได้ขายอย่างเดียวนะครับมีเก็บหุ้น PNC Financial Services (สถาบันการเงินในสหรัฐ อายุกว่า 160 ปี มีจำนวนสาขา 2,459 แห่ง) ประมาณ 6% หลังจากที่หุ้นร่วงประมาณ 40% นับตั้งแต่ต้นปี

.

============

.

รอบนี้น่าสนใจมากๆครับ
.
เริ่มต้นวันนี้ดีที่สุด ขอให้ทุกท่านโชคดีและมีอิสรภาพในการใช้ชีวิต
.
อิสรภาพชีวิต !! อยู่ไหนก็ไม่พลาด อย่าลืมกดติดตามนะครับ หรือเพิ่มช่องทางการสื่อสารได้เลย
.
ส่งข่าวสารถึงมือผ่าน Line@: http://bit.ly/TAM-EIG_LINE
คลิกเลย

 

NEWS: "เราออกจากบ้านมาโดยที่ไม่รู้ว่าจะได้กลับบ้านอีกเมื่อไร"
กลุ่มพยาบาลในบราซิลประท้วง ให้เพื่อนที่เสียชีวิตเพราะ COVID-19
.
กลุ่มพยาบาล 109 คน ในเมือง Sao Paulo และ Brasilia นอนราบกับพื้นพร้อมวางเทียนและรายชื่อของพยาบาลที่เสียชีวิตจากการเป็นแนวหน้าต่อสู้กับเชื้อไวรัส COVID-19 ในวันพยาบาลสากล (12 พฤษภาคม) เพื่อเป็นการประท้วงที่อัตราการเสียชีวิตของพยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ของบราซิลสูงที่สุดในโลก
.
“มันสะเทือนใจมาก มันยากมากที่จะมีชีวิตแบบนี้ต่อไป เราออกจากบ้านมาโดยที่ไม่รู้ว่าจะได้กลับบ้านอีกครั้งเมื่อไร เราต้องแยกตัวออกมาเพราะเราอาจจะนำเชื้อไวรัสกลับไปหาครอบครัวก็ได้ มีเพื่อนร่วมงานหลายคนที่จำเป็นต้องแยกตัวจากครอบครัว พวกเขากอดลูกตัวเองไม่ได้ด้วยซ้ำ” Leidijany Paz หนึ่งในกลุ่มพยาบาลที่มาประท้วงกล่าว
.
กลุ่มพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์กล่าวว่า ที่อัตราการเสียชีวิตของบุคลากรสูงที่สุดในโลก เป็นเพราะรัฐบาลไม่สนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์และอุปกรณ์ป้องกันเชื้อไวรัสที่เพียงพอในโรงพยาบาล
.
สถานการณ์การระบาดในบราซิลและเขตละตินอเมริกาอยู่ในภาวะที่รุนแรงมากขึ้นทุกที โดยเฉพาะในบราซิล ซึ่งก่อนหน้านี้ประธานาธิบดี Jair Bolsonaro เคยกล่าวว่าไวรัส COVID-19 เป็นเพียงแค่ “ไข้หวัดเล็กน้อย” เท่านั้น
.
ล่าสุด บราซิลมีรายงานผู้ป่วยมากกว่า 1.7 แสนราย และผู้เสียชีวิตภายในวันเดียวมากเกือบ 900 ราย เสียชีวิตสะสมมากกว่า 1.2 หมื่นราย ซึ่งเป็นจำนวนผู้เสียชีวิตที่มากเป็นอันดับ 6 ของโลก
.
ประธานาธิบดี Bolsonaro ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเรื่องมาตรการการรับมือ เมื่อวันจันทร์ที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา เขาได้เสนอให้มีการผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ในหลายกิจการ เช่น ร้านตัดผม และยิมออกกำลังกาย กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง
.
ในขณะที่ผู้ว่าการรัฐต่าง ๆ ทั้ง 27 รัฐในบราซิลไม่เห็นด้วยกับท่าทีของประธานาธิบดี Bolsonaro และไม่ยังคงไม่ผ่อนปรนหรือยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์และข้อจำกัดทางสังคม
.
ในทางกลับกัน ประธานาธิบดี Bolsonaro กลับมีความเห็นว่าการไม่ผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ของแต่ละรัฐนั้น “ไม่มีความรับผิดชอบ” เพราะเขามองว่า ปัญหาเศรษฐกิจนั้นอันตรายยิ่งกว่าเชื้อไวรัส
.
ในขณะที่ Alexandre Telles ประธานสหภาพแพทย์ออกมาต่อว่าประธานาธิบดี Bolsonaro ว่า “ไร้ความรับผิดชอบ” ต่อการจัดการโรคระบาด พร้อมกล่าวว่า เขาคิดว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ที่ตัวเลขผู้ป่วยจะลดลงโดยไม่ใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมเลย
.
ปัจจุบัน บราซิลกำลังรับศึกหนักจากสถานการณ์การแพร่ระบาดที่รุนแรงที่สุดในกลุ่มประเทศละตินอเมริกา
มีบุคลากรทางการแพทย์เสียชีวิตในอัตราสูงที่สุดในโลก ขณะเดียวกัน ก็ต้องเจอกับปัญหาเรื่องเศรษฐกิจและความขัดแย้งในสังคมเรื่องการคลายมาตรการไปพร้อม ๆ กัน
.
อ้างอิง:
The Guardian.Record death tolls in Mexico and Brazil add to fears of Covid-19 surge in Latin America. https://bit.ly/2Ls7VV0
FRANCE 24. ‘World’s highest death rate’: Brazil’s nurses protest as fatalities mount. https://bit.ly/2T3TWsS
BBC. Brazil's Bolsonaro joins anti-lockdown protests. https://bbc.in/2y5m4o6
.
#Covid19 #Brasil #BrandThink
#ส่งต่อความคิดสู้COVID19
#แชร์สิ่งเล็กๆให้ยิ่งใหญ่
#sharingIsEmpowering
อัปเดตและติดตามข่าวสารได้ที่
Line: @brandthink (มี @ ด้วยนะครับ)
Instagram: instagram.com/brandthink.me
Website: www.brandthink.me
Twitter: twitter.com/BrandThinkme

 

BrandThink ไม่ทิ้งย่าน: ย้อนบรรยากาศ ย่านที่เคยคึกคักกลับเงียบเหงา ในวันที่เราต้องเจอกับ covid
.
เชื้อไวรัส COVID-19 ในปีนี้ได้ทำให้เราได้เห็นภาพบรรยากาศแบบที่ไม่คาดคิดว่าจะได้เห็น ย่านที่เคยคึกคักชนิดที่เรียกเดินหัวชนไหล่เกยกันตลอด กลับเงียบเหงาไปถนัดตา
.
และวันนี้สถานการณ์ COVID-19 ในประเทศเราเริ่มคลายความตึงเครียดลงไปบ้างแล้ว BrandThink จึงจะขอพาคุณย้อนไปชมบรรยากาศในย่านที่เคยคึกคักตลอดตั้งแต่ เยาวราช ตลาดหลังการบินไทย อนุสาวรีย์ ไปจนถึงถนนสาทร ที่แม้ว่าคนจะหายไปบ้างในช่วงนี้แต่เราเชื่อว่าความคึกคักจะกลับมาอีกครั้งเมื่อไวรัสคลี่คลาย
.
ก่อนจะถึงวันนั้นมาร่วมแชร์กันดีกว่าว่าย่านไหนบ้างที่คุณมักไปเดินเป็นประจำ มีร้านโปรดร้านไหน หรือเคยมีความทรงจำอะไรบ้างในที่เหล่านี้ มาเล่าให้เราฟังกันหน่อย
.
#Society #BrandThink
#ส่งต่อความคิดสู้COVID19
#แชร์สิ่งเล็กๆให้ยิ่งใหญ่
#sharingIsEmpowering
อัปเดตและติดตามข่าวสารได้ที่
Line: @brandthink (มี @ ด้วยนะครับ)
Instagram: instagram.com/brandthink.me
Website: www.brandthink.me
Twitter: twitter.com/BrandThinkme

 

SOCIETY: #วันนี้ที่รอคอย
.
จากวันที่ 16 มีนาคมจนถึงวันนี้เป็นระยะ 2 เดือนเต็ม ๆ ที่ประเทศไทยร้างราจากหน้ากองสลาก ด้วยมาตรการงดออกหวย 2 งวดติด เพื่อป้องกันการติดต่อและแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 2 เดือนที่ผ่านมาเรียกว่าเป็นการรอคอยที่ยาวนานสำหรับใครหลายคน แต่วันนี้ความหวังและความเสี่ยงที่เราคุ้นเคยได้กลับมาอีกครั้ง
.
เมื่อเย็นวานนี้ทีมงาน BrandThink ได้ลงพื้นที่เก็บภาพบรรยากาศก่อนวันหวยออกที่หน้ากองสลาก แม้ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศที่มีแนวโน้มที่ดีและจะมีการผ่อนปรนมาตรการเพิ่มเติมในวันพรุ่งนี้ แต่เราก็ยังเห็นการระมัดระวังตัวของผู้คน ทั้งเจ้าของแผงทั้งผู้ซื้อ ที่สวมใส่หน้ากากพร้อมทั้งมีเจลล้างมือเพื่อป้องกันเชื้อไวรัส
.
บรรยากาศหน้าแผงในช่วง COVID-19 กับความหวังงวดแรกในรอบ 2 เดือนจะเป็นอย่างไรตามไปชมกันได้ในโพสต์นี้
.
#วันนี้ที่รอคอย #ตรวจหวย #BrandThink
#แชร์สิ่งเล็กๆให้ยิ่งใหญ่
#sharingIsEmpowering
อัปเดตและติดตามข่าวสารได้ที่
Line: @brandthink (มี @ ด้วยนะครับ)
Instagram: instagram.com/brandthink.me
Website: www.brandthink.me
Twitter: twitter.com/BrandThinkme

 

ยืนยันพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 1 รายในฮ่องกงวานนี้

เมื่อวานนี้ (15 พฤษภาคม 2020) มีผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 1 รายในฮ่องกง เป็นนักบินเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว ชาวฝรั่งเศส หลังจากที่เขาไปโรงพยาบาลเพื่อจะทำการผ่าตัด โดยมี 18 คนที่มีการเสี่ยงสัมผัส ยอดสะสมผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 1,052 ราย

สาธารณสุขได้เปิดเผยว่าความเสี่ยงการแพร่ระบาดมีไม่มาก เนื่องจากเขาใช้เวลาเพียง 30 นาทีที่ตึกผู้ป่วยทั่วไป ที่ซึ่งมีผู้ป่วยอีก 8 รายกำลังรักษาตัวอยู่

ทั้งนี้มีเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ 10 รายที่เกี่ยวข้องกับเคสผู้ป่วยรายนี้ แต่ก็ไม่ได้ถือว่าเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดเนื่องจากพวกเขาสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา

นักบินคนดังกล่าว เดินทางกลับมาฮ่องกงปลายเดือนมีนาคม และได้ทำการกักกันเชื้อด้วยตนเองเป็นเวลา 3 สัปดาห์ โดยไม่ได้กักกันเชื้อที่ศูนย์ฯ เนื่องจากอาชีพนักบินได้รับการยกเว้น

ในเดือนมีนาคม พบว่าแฟนสาวของเขาติดเชื้อโควิด-19 แต่ผลตรวจพบว่าตัวนักบินไม่ติดเชื้อในขณะนั้น ซึ่งการพบว่าเขาติดเชื้อเมื่อวานนี้นั้น มาจากการที่เขาต้องตรวจหาเชื้อโควิดก่อนทำการผ่าตัด

เคสนี้ จัดว่าเป็นการติดเชื้อจากต่างประเทศเนื่องจากเขาเริ่มมีอาการป่วยในเดือนมีนาคม ช่วงที่เขาอยู่ที่ฝรั่งเศส

***ติดตามอัพเดทสรุปประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับไวรัสโคโรน่าในฮ่องกงได้ที่กระทู้ปักหมุด***


Source : https://www.scmp.com/news/hong-kong...navirus-pilots-positive-test-sparks-outbreak?

#ข่าวฮ่องกง #khaohongkong

 

กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของซาอุดิอาระเบีย (Sovereign Wealth Fund) อาศัยจังหวะที่ราคาหุ้นทั่วโลกกำลังตกต่ำจากวิกฤตไวรัสโควิด-19 ไล่เข้าซื้อหุ้นบริษัทชื่อดังต่างๆของโลก (Blue Chips Companies) ที่กำลังโดนกระทบหนักกว่าเพื่อนในช่วงนี้ เพื่อหวังที่จะกระจายความเสี่ยงที่รายได้หลักของประเทศอาจมาจากแค่การขายน้ำมัน

กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติซาอุ Public Investment Fund (PIF) นำโดย มกุฎราชกุมาร โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน (MBS) เป็น Chairman ได้ถูกจัดตั้งขึ้นมาได้เกือบ 50 ปีแล้ว เพื่อนำสภาพคล่องส่วนเกินของประเทศไปลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศ ในธุรกิจที่คาดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต ซึ่งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้ได้ใช้เงินกวาดซื้อหุ้นทั่วโลกไปมูลค่ากว่า 3 แสนล้านเหรียญหรือ 10 ล้านล้านบาทแล้ว !

โดยหุ้นหลักๆที่ได้ซื้อไปมีดังนี้

1️⃣ ซื้อหุ้นบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่อย่าง BP ไปรวมกว่า 827.8 ล้านเหรียญ (2.6 หมื่นล้านบาท) โดยเหตุผลหลักที่ยังซื้อหุ้นบริษัทน้ำมันเพิ่มอยู่นั้น เป็นเพราะทางซาอุคาดว่าธุรกิจน้ำมันโดนกระทบหนักที่สุดธุรกิจนึงจากไวรัสโควิด ทำให้มูลค่าตลาดนั้นถือว่ายังต่ำกว่าราคาในอนาคตที่ทางซาอุมองไว้

ทั้งนี้ทางซาอุยังได้เลือกเข้าซื้อหุ้นบริษัทน้ำมันยุโรปใหญ่ๆอย่าง Total, Shell, Equinor ไปมูลค่ากว่า พันล้านเหรียญ (3 หมื่นล้านบาท) เช่นเดียวกันไปในช่วงที่ราคาน้ำมันกำลังตกต่ำสุดๆในช่วงเกิดสงครามราคาน้ำมันท่านกลางไวรัสโควิดระบาด ทำให้หลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยว่าทางซาอุมีความตั้งใจที่จะเริ่มสงครามราคาเพื่อช้อนหุ้นน้ำมันหรือไม่...

ท่านใดสนใจรายละเอียดในเรื่องนี้ก็สามารถอ่านบทความก่อนของเราที่แนบไว้ในคอมเม้นท์ได้นะครับ

2️⃣ ซื้อหุ้นบริษัท Boing ไปกว่า 713.7 ล้านเหรียญ (2.3 หมื่นล้านบาท) โดยบริษัท Boing นั้นก็เป็นบริษัทผลิตเครื่องบิน ที่เราก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่สายการบินจะกลับมาสั่งเครื่องบินอีกครั้ง เพราะจะมีการกลับมาบินเต็มอีกครั้งเมื่อไหร่ก็ยังไม่มีใครรุ้แถมทุกสายการบินยังมีเครื่องบินล้นกันอยู่บาน ทาง Boing เพิ่งต้อง Lay off พนักงานไปมากมายและราคาหุ้นก็กำลังตกต่ำ

3️⃣ ซื้อหุ้น Citigroup ไปกว่า 522 ล้านเหรียญ (1.6 หมื่นล้านบาท)

4️⃣ ซื้อหุ้น Facebook ไปกว่า 522 ล้านเหรียญ (1.6 หมื่นล้านบาท) เช่นเดียวกัน

5️⃣ ซื้อหุ้น Walt Disney ไปกว่า 495.8 ล้านเหรียญ (1.5 หมื่นล้านบาท)

6️⃣ ซื้อหุ้น Bank of America ไปกว่า 487.6 ล้านเหรียญ (1.5 หมื่นล้านบาท)

7️⃣ ซื้อหุ้น Marriott International ไปกว่า 513.9 ล้านเหรียญ (1.6 หมื่นล้านบาท)

8️⃣ และที่น่าสนใจที่สุดคือการที่ซาอุเข้าซื้อหุ้น Berkshire Hathaway Inc. ของ Warren Buffet ด้วยครับ โดยเข้าซื้อไปกว่า 78.4 ล้านเหรียญ (2.5 พันล้านบาท)

เหตุผลที่น่าสนใจก็เพราะว่าทางกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติซาอุกำลังมีมุมมองทางธุรกิจที่ตรงกันข้ามกับ Buffet อย่างสิ้นเชิง แต่กลับกำลังเข้าซื้อหุ้นของ Buffet

1) ช่วงนี้ทาง Buffet กำลังมองว่าเป็นจังหวะขายหุ้นมากกว่าซื้อ โดยเมื่อเช้านี้เราเพิ่งรายงานไปว่า Buffet กำลังขายหุ้นธนาคารทิ้งหมดแต่ทางซาอุกลับกำลังซื้อเพิ่ม (แนบบทความในคอมเม้นท์)

2) ทาง Buffet ได้ขายหุ้นสายการบินทิ้งหมดแล้ว แต่ทางซาอุกลับกำลังเข้าซื้อหุ้น Boing ครั้งใหญ่ ! ซึ่งแน่นอนว่าผลประกอบการของ Boing นั้นขึ้นอยู่กับว่าธุรกิจสายการบินจะกลับมาโตได้ไหม

นี่เป็นเวลาที่ควร #ซื้อ หรือ #ขาย หุ้น ?

ตลาดในช่วงนี้นั้นถือว่ามองได้สองด้านจริงๆ เพราะถ้าหากเรามีเงินสดเยอะและต้องการลงทุนในระยะยาว การเข้าซื้อหุ้นที่กำลังวิกฤตอยู่ก็ถือว่าเป็นจังหวะที่ดี แต่ในระยะสั้นนี้นักวิเคราะห์หลายคนกำลังกลัวว่าวิกฤตไวรัสครั้งนี้จะยังไม่จบและอาจจะก่อให้เกิดวิกฤตหนี้สินได้อีกด้วย ทำให้หลายฝ่ายเชื่อว่าราคาหุ้นอาจจะยังลงไปได้ถูกกว่านี้ในระยะสั้น

ถึงแม้จะมีมุมที่มองได้ทั้งระยะยาวและระยะสั้น แต่สิ่งที่ทำให้ผมหวั่นใจก็คือ... Warren Buffet ไม่ใช่นักเก็งกำไรระยะสั้นแน่ๆ... #แต่ทำไมเขาถึงเทขายเนี่ยสิ... เขาอาจจะมั่นใจว่าตลาดจะซืมยาวๆหรือ ??

⛔️ ท่านใดไม่อยากพลาดข่าวสารในตลาดจากทีมงาน แนะนำให้กด Like ที่โพสต์เรื่อยๆ หรือกดตั้งค่า “เห็นโพสต์ก่อน” หรือ See First ไว้ที่เมนูมุมขวาบนของเพจได้เลยครับ ไม่งั้นทาง Facebook จะไม่ค่อยแสดงโพสต์ของทีมเราที่อัพเดทใหม่ๆครับ

#OilTradingKP

 

COVID-19: ผู้ว่าฯ กทม. ห่วงคนแห่ไปห้างแน่น สั่ง จนท.จับตาผ่อนปรนเฟส2 ย้ำร้านอาหารหากฝ่าฝืนขายแอลกอฮอล์ สั่งปิดทันที

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยผลการประชุมร่วมกับคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ว่ากรุงเทพมหานครได้ดำเนินการตามนโยบายผ่อนปรนให้ดำเนินกิจการในระยะที่ 2 ได้ตามที่รัฐบาลกำหนด ซึ่งจะยังคงเน้นย้ำการเว้นระยะห่าง การตรวจคัดกรองโรค การใช้เจลแอลกอฮอล์ สวมใส่หน้ากากอนามัย เช่นเดิม โดยกรุงเทพมหานครได้มีคณะกรรมการในการตรวจตราสถานที่ที่ได้รับการผ่อนปรนทุกวัน

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครยังกล่าวด้วยว่ายังมีความเป็นห่วงหลังจากที่ห้างเปิดจะมีคนเข้าไปเป็นจำนวนมาก จึงขอความร่วมมือประชาชนวันแรกไม่ต้องเดินทางไปกันมากจนแออัด เพราะห้างไม่ได้หนีไปไหน ยังคงเปิดตลอด ตั้งแต่ เวลา 10.00-20.00 น. และทางห้างก็จะต้องจำกัดจำนวนคนเข้า เช่น 10,000 ตารางเมตร ต่อ 2,000 คน ส่วนร้านอาหารก็จะต้องมีการเว้นระยะห่าง 1.5-2 เมตร หากเว้นระยะไม่ถึงจะต้องมีฉากกั้น และเน้นย้ำห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้าน ซึ่งหากผู้ประกอบการไม่ดำเนินการตามมาตรการจะสั่งปิดร้านทันที โดยไม่มีการตักเตือนก่อน

ขณะที่ ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานครบอกกล่าวด้วยว่าทางกรุงเทพมหานครจะดำเนินนโยบายเชิงรุกในการสุ่มตรวจโรคเพื่อเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงให้เพิ่มมากขึ้น ภายหลังจากตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลง โดยจะตรวจทั้งหมดกว่า 15,000 ราย โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่ไม่แสดงอาการ ส่วนจะเริ่มเมื่อไรนั้นจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

ส่วนการเปิดสถานประกอบการในระยะที่สอง ยังได้นำกลุ่มกิจการหรือกิจการที่ทาง ศบค.ได้ผ่อนปรน มาพิจารณาในรายละเอียดเพิ่มเติม โดยแบ่งออกเป็น 10 สถานที่ คือ
ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารในห้างสรรพสินค้า สถานที่รับเลี้ยงคนชรายกเว้นแบบเช้าเย็นกลับ กองถ่ายทำภาพยนตร์ ขนาด 50 คนซึ่งหากจะถ่ายทำนอกสถานที่ใน กทม.จะต้องขออนุญาตเขตก่อนอย่างน้อย 1 วัน สถานที่ประชุม สถานเสริมความงามยกเว้นบนใบหน้า ฟิตเนส นอกห้างสรรพสินค้า สระว่ายน้ำ สวนพฤกษศาสตร์ ห้องสมุด และ พิพิธภัณฑ์ ซึ่งทั้งหมดนี้จะต้องมีมาตรการที่เคร่งครัด ตามที่ศบค. และ กทม.ได้ประกาศออกมา

#TheReporters #เดอะรีพอร์ตเตอร์ #กทม #เปิดห้างสรรพสินค้า #ห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ #มาตรการผ่อนปรนระยะ2 #โควิด19 #COVID19

 

UPDATE: การบินไทยชี้แจงกรณีคณะกรรมการบริษัทฯ ไม่มีมติยื่นศาลล้มละลาย

ตามที่ ปรากฏเป็นข่าวในสื่อบางฉบับ และในสื่อสังคมออนไลน์ว่า การประชุมคณะกรรมการบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2563 มีมติ “ยื่นศาลล้มละลาย” นั้น บริษัทฯ ขอชี้แจงว่าไม่เป็นความจริง

บริษัทฯ ได้ดำเนินการจัดทำแผนฟื้นฟูแล้วเสร็จ และผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2563 ซึ่งคณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ได้พิจารณาแผนฟื้นฟูดังกล่าว เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2563 โดยขณะนี้แผนฟื้นฟูของบริษัทฯ อยู่ระหว่างนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณากำหนดแนวทางการฟื้นฟูต่อไป

ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอยืนยันว่ามติคณะกรรมการบริษัทฯ ไม่เป็นไปตามข่าวที่นำเสนอแต่อย่างใด

#TheReporters #เดอะรีพอร์ตเตอร์ #การบินไทย #ไม่ยื่นศาลล้มละลาย

 

เจ้าหน้าที่ดับเพลิงของญี่ปุ่นเตือนให้ระวังการใช้แอลกอฮอล์ล้างมือใกล้กับเตาไฟ หรือสูบบุหรี่หลังล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ทันที อาจเกิดไฟลุกไหม้จนบาดเจ็บได้
https://mgronline.com/japan/detail/9630000049111

 

อดีตผู้อำนวยการของหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งทำหน้าที่ต่อสู้โรคระบาดและพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19 ออกมาแฉโพยว่า คณะบริหารทรัมป์ล้มเหลวในการเตรียมรับมือกับการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ และเมื่อเชื้อไวรัสแพร่กระจายไปในอเมริกาแล้ว ก็พยายามเร่งรัดให้ใช้ยาที่ยังไม่ได้ผ่านการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์มารักษาคนไข้

https://mgronline.com/around/detail/9630000047904

 

(May 17) ทรัมป์ตั้งเป้าพัฒนาได้วัคซีนสำหรับโคโรนาไวรัสภายในสิ้นปีนี้และ ตั้งอดีตผู้บริหารบริษัท GlaxoSmithKline เป็นหัวหน้าทีม : ประธานาธิบดี Trump ได้ประกาศแต่งตั้งอดีตผู้บริหารบริษัท GlaxoSmithKline ขึ้นมาเป็นหัวหน้าทีมคิดค้นวัคซีนสำหรับโคโรนาไวรัส โดยตั้งเป้าให้พัฒนาได้วัคซีนภายในสิ้นปีนี้

ประธานาธิบดี Trump ได้ประกาศแต่งตั้งนาย Moncef Slaoui อดีตประธานบริษัท GlaxoSmithKline ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการคิดค้นและผลิตวัคซีน ขึ้นเป็นหัวหน้าที่ปรึกษาโครงการ “Operation Warp Speed” ซึ่งเป็นทีมที่จะเร่งคิดค้นวัคซีนสำหรับโคโรนาไวรัสให้ได้เพียงพอต่อความต้องการ โดยเบื้องต้นตั้งเป้าไว้ที่ 300 ล้านโดสภายใน ม.ค. 2021

นาย Slaoui กล่าวว่า หลังจากได้เห็นข้อมูลการใช้วัคซีนในขั้นการทดลองทางคลินิกเบื้องต้นแล้ว คิดว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะคิดค้นวัคซีนได้ภายในสิ้นปีนี้ และสามารถผลิตเพื่อรองรับคนจำนวนมากได้ภายใน ม.ค. 2021 ตามเป้า พร้อมกับให้ความเห็นสอดคล้องกับนักวิทยาศาสตร์ท่านอื่น ๆ ว่าการคิดค้นวัคซีนให้สำเร็จภายในระยะเวลา 12-18 เดือนถือว่าเป็นกรอบเวลาที่ aggressive มาก แต่ยังมีความเป็นไปได้

ทั้งนี้ โครงการ “Operation Warp Speed” เป็นโครงการความร่วมมือกันระหว่างองค์กรภาครัฐ บริษัทยาขนาดใหญ่ และบริษัททางด้านเทคโนโลยีชีวิภาพต่าง ๆ โดยมีนาย Slaoui เป็นหัวหน้าที่ปรึกษาโครงการ และมีนายพล Gustave Perna เป็น Chief Operating Officer

Source: BoTSS

- Trump unveils 'Operation Warp Speed'

 

(จพไปจ่ายมากกว่าจีนทำไม สุดท้ายจ่ายเท่าจีน ก็ได้รับการสนับสนุนเต็มที่แล้ว)

ทรัมป์กลับลำ อาจให้เงินอุดหนุน WHO อีกครั้ง หลังตัดงบฐานเข้าข้างจีน
โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เผยว่ากำลังพิจารณาเรื่องการกลับมามอบเงินอุดหนุนแก่องค์การอนามัยโลกอีกครั้ง แต่จะจ่ายเพียง 10% จากเดิม
Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

นายทรัมป์ประกาศระงับการจ่ายเงินอุดหนุนแก่องค์การอนามัยโลกเมื่อ 14 เม.ย. โดยเขากล่าวหาว่า WHO สนับสนุนการปกปิดข้อมูลเรื่องการระบาดของไวรัสโควิด-19 ของประเทศจีน แต่ WHO ปฏิเสธขอกล่าวหานี้ ขณะที่จีนยืนยันว่าพวกเขาเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดอย่างโปร่งใส

ก่อนหน้านี้ สำนักข่าว ฟ็อกซ์ นิวส์ รายงานโดยอ้างข้อมูลจากร่างจดหมายฉบับหนึ่ง ว่า นายทรัมป์คิดที่จะกลับมามอบเงินอุดหนุนบางส่วนให้องค์การอนามัยโลก โดยจะจ่ายในระดับเดียวกับจีน ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ซึ่งนายทรัมป์ตอบสนองต่อเรื่องนี้ว่า

“นี่เป็นเพียงหนึ่งในแนวคิดมากมายที่กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา รวมถึงเรื่องที่เราจะมอบเงินอุดหนุน 10% จากที่เราเคยจ่ายมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา เพื่อให้เท่ากับจีนที่จ่ายน้อยกว่ามาก แต่ยังไม่มีการยืนยันขั้นสุดท้าย เงินอุดหนุนทั้งหมดยังถูกระงับ”

ทั้งนี้ สหรัฐฯ เคยเป็นประเทศที่มอบเงินอุดหนุนแก่องค์การอนามัยโลกมากที่สุด โดยจ่ายประมาณ 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี

 

(เห็นด้วยกับนายทรัมป์ จีนคิดจะผงาดเหนือสหรัฐอเมริกา จีนก็ควรจ่ายเท่าเทียมสหรัฐอเมริกา)

ทำไมจีนมานานหลายทศวรรษและมีประชากรที่ใหญ่กว่าของพวกเราจ่ายเงินเพียงเล็กน้อยให้กับองค์การอนามัยโลกสหประชาชาติและที่เลวร้ายที่สุดคือองค์การการค้าโลก ถือว่าเป็นสิ่งที่เรียกว่า "ประเทศกำลังพัฒนา" และได้รับประโยชน์อย่างมากจากสหรัฐอเมริกาและทุกคน? ก่อนที่จะเกิดภัยพิบัติที่ลอยมาจากประเทศจีนเศรษฐกิจของเรากำลังพัดทุกคนออกไปสิ่งที่ดีที่สุดของประเทศใด ๆ ก็คือ เราจะไปที่นั่นอีกครั้งและเร็ว ๆ นี้!

Cr : Goggles Translate

 

องค์การอนามัยโลกได้รับการขนานนามว่า“ โปรจีน” เนื่องจากการตอบสนองต่อการระบาดใหญ่ของ #coronavirus Backstories ดูที่ความสัมพันธ์ระหว่าง #WHO และ #จีน #โควิด -19

เหตุใดองค์การอนามัยโลกจึงถูกกล่าวหาว่าเป็นคนจีน โดย Ikehata Shuhei ผู้สื่อข่าวอาวุโสของ NHK

ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพทั่วโลกได้รับความเดือดร้อน เมื่อเดือนที่แล้วเมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประธานาธิบดีสหรัฐประกาศว่าเขากำลังระงับการระดมทุนขององค์การอนามัยโลกในท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคคอโรนาไวรัส ทรัมป์ยืนยันว่าการตอบสนองขององค์กรต่อการแพร่ระบาดช้าและตำหนิว่าเป็นเรื่องอคติจีน นักวิจารณ์ของเขากล่าวว่านี่เป็นเพียงความพยายามที่อ่อนแอที่จะเปลี่ยนโทษตัวเอง แต่ประวัติศาสตร์ภูมิศาสตร์การเมืองของไวรัสซึ่งครอบคลุมเกือบสองทศวรรษแสดงให้เห็นว่านี่อาจเป็นเรื่องง่ายกว่าแพะรับบาป

ในเดือนพฤศจิกายน 2002 แพทย์ในมณฑลกวางตุ้งของจีนเริ่มเห็นกรณีของโรคปอดบวมที่ลึกลับ สิ่งที่เป็นที่รู้จักกันในชื่อ Severe Acute Respiratory Syndrome หรือโรคซาร์สจะแพร่กระจายไปยัง 32 ประเทศและภูมิภาคทำให้มีผู้ป่วยมากกว่า 8,000 คน

พรรคคอมมิวนิสต์จีนต้องเผชิญกับการวิพากษ์วิจารณ์จากคำตอบแรก เจ้าหน้าที่ใช้เวลาสามเดือนในการรายงานและแม้แต่ปักกิ่งก็ปฏิเสธองค์การอนามัยโลกร้องขอข้อมูลเพิ่มเติมหรือการเข้าถึงพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ในเดือนเมษายน 2003 มีเพียงจีนเท่านั้นที่เปิดเผยการระบาดของโรค เมื่อถึงจุดนี้จำนวนผู้ป่วยในประเทศก็เพิ่มสูงขึ้นและไวรัสมาถึงสหรัฐอเมริกาและแคนาดา

เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่องค์การอนามัยโลกได้ออกคำแนะนำการเดินทางฉุกเฉิน ชุดเตือนประชาชนเกี่ยวกับการเยี่ยมชมมณฑลกวางตุ้ง เช่นเดียวกับปักกิ่ง, มณฑลซานซี, ฮ่องกงและโตรอนโต มันถูกมองว่าเป็นความอัปยศอดสูต่อประเทศจีนและพรรคคอมมิวนิสต์

ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกในเวลานั้น Gro Harlem Brundtland ได้วิพากษ์วิจารณ์ประเทศจีนว่าไม่สามารถตอบสนองได้เร็วขึ้น

"มันจะเป็นประโยชน์อย่างแน่นอนหากมีผู้เชี่ยวชาญระดับนานาชาติและ WHO สามารถช่วยเหลือได้ในระยะแรก" เธอกล่าวในเดือนเมษายน 2546 "ครั้งต่อไปมีสิ่งแปลกใหม่เกิดขึ้นที่ใดก็ได้ในโลกนี้ ให้เราเข้ามาเร็วที่สุด ."

เป็นเรื่องผิดปกติที่หัวหน้าองค์การสหประชาชาติจะวิพากษ์วิจารณ์รัฐสมาชิกอย่างเปิดเผย องค์กรระหว่างประเทศพึ่งพาการมีส่วนร่วมจากประเทศสมาชิกและมักจะมีเพียงเล็กน้อยที่จะได้รับจากการละเมิดผู้สนับสนุน แต่บรันด์แลนด์ตัดสินใจว่ามันสำคัญกว่าที่จะกดดันจีนไม่ให้ปกปิดข้อมูลสำคัญ

Dr Gro Harlem Brundtland อดีตนายกรัฐมนตรีแห่งนอร์เวย์ทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกตั้งแต่ปี 1998 ถึง 2003

ปัจจัยไต้หวัน

ผลพวงจากการระบาดของโรคซาร์ส องค์การอนามัยโลกและประเทศสมาชิกได้ตัดสินใจแก้ไขกฎอนามัยระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นแนวทางปฏิบัติที่มีผลผูกพันทางกฎหมายที่ออกแบบมาเพื่อลดความเสี่ยงด้านสุขภาพข้ามพรมแดน ขณะนี้ฝ่ายสมาชิกจะต้องรายงานหลักฐานใด ๆ ของเหตุการณ์สุขภาพที่ไม่คาดคิดหรือผิดปกติภายในอาณาเขตของตนต่อ WHO ภายใน 24 ชั่วโมง

รัฐบาลจีนสนับสนุนการแก้ไข IHR ด้วยเงื่อนไขหนึ่งประการ: ไต้หวันต้องถูกแยกออก

ไต้หวันได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาดของโรคซาร์สและหลายคนบนเกาะมีความสำคัญต่อการตอบสนองของ WHO ในตอนแรกองค์กรไม่ได้ให้ข้อมูลที่สำคัญแก่ทางการไต้หวัน เช่น ตัวอย่างของไวรัสซึ่งอาจช่วยให้มีการแพร่กระจายได้ หลายคนเห็นว่านี่เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะเอาใจจีน ซึ่งต่อต้านการมีส่วนร่วมใด ๆ ระหว่างไต้หวันและสหประชาชาติ

แต่เมื่อการติดเชื้อแพร่กระจายและไต้หวันเริ่มรายงานกลุ่มและผู้เสียชีวิตในโรงพยาบาล Brundtland ส่งเจ้าหน้าที่ขององค์การอนามัยโลกไปที่เกาะ ตามข้อมูลอย่างเป็นทางการอย่างน้อย 37 คนเสียชีวิตจากโรคซาร์สที่นั่น

ตั้งแต่ปี 1997 ไต้หวันได้รับการล็อบบี้ให้เป็นสมาชิกผู้สังเกตการณ์ขององค์การอนามัยโลก แต่เกาะนั้นเผชิญกับอุปสรรคสำคัญในเรื่องนี้ ในเดือนพฤศจิกายน 2004 เอกอัครราชทูตของจีนประจำสำนักงานสหประชาชาติที่เจนีวา Sha Zukang ได้แสดงจุดยืนของประเทศของตนในเรื่องนี้อย่างชัดเจน:

"สุขภาพเป็นปัญหาที่สำคัญมาก แต่อำนาจอธิปไตยและบูรณภาพเหนือดินแดนมีความสำคัญต่อรัฐอธิปไตยมากขึ้น จีนจะปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของตนอย่างมั่นคง"

จีนกล่าวว่าจะส่งผ่านข้อมูลด้านสาธารณสุขทั้งหมดไปยังไต้หวัน แต่มีวัตถุไปที่เกาะที่มีบทบาทในการปรับรูปแบบ IHR Sha ระบุว่าปัญหานี้เป็นประเด็นชี้ขาดสำหรับประเทศของเขา:

"อนาคต IHR ไม่มีความเป็นสากลหากปราศจากการมีส่วนร่วมของจีน"

ถ้าไต้หวันเข้ามาจีนก็ไม่อยู่ แรงกดดันดังกล่าวทำให้การมีส่วนร่วมของชาวไต้หวันใน IHR จนถึงปี 2009 เมื่อเกาะเลือกประธานาธิบดีหม่าหยิงจิ่ว

haSha Zukang ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตจีนประจำสำนักงานสหประชาชาติในกรุงเจนีวา

เป้าหมายของจีน

ประวัติศาสตร์นี้ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างปักกิ่งและองค์การอนามัยโลกในวันนี้และหลักการสามประการที่ดูเหมือนจะเป็นแนวทางนโยบายจีนเกี่ยวกับการสาธารณสุขระหว่างประเทศ:

(1) ตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ไม่เคยแพ้
(2) ป้องกันการเตือนการเดินทางที่ขัดขวางการไหลของผู้คนและสินค้า
(3) ลดความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวันกับ WHO

เมื่อประเมินตามหลักคำสอนเหล่านี้เป็นเรื่องง่ายที่จะเห็นว่าการตอบสนองของ coronavirus ของ WHO นั้นกระตุ้นให้เกิดการกล่าวหาว่ามีอคติแบบมืออาชีพหรือไม่

ในเดือนมกราคม 2020 นาย Tedros Adhanom Ghebreyesus ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกเดินทางเยือนปักกิ่งเพื่อพบกับประธานาธิบดี Xi Jinping และยกย่องการตอบสนองของจีนต่อการระบาดของโรค

เสียงบางอย่างภายในองค์การอนามัยโลกกล่าวว่าองค์กรควรได้รับการยกย่องในความพยายามอย่างหนักเพื่อสร้างความสัมพันธ์ความร่วมมือกับจีน แต่นักวิจารณ์กล่าวว่าองค์กรได้ทำสัมปทานมากเกินไปในครั้งนี้

ในช่วงการระบาดของโรคซาร์ส WHO ออกการแจ้งเตือนการเดินทางในระยะแรก แต่มันใช้วิธีที่แตกต่างอย่างชัดเจนกับ coronavirus เวลาประมาณนี้องค์กรกล่าวว่าข้อ จำกัด การเดินทางจะมีเพียงผลกระทบ จำกัด ในการยับยั้งการแพร่กระจายของการติดเชื้อ - แม้ว่าความจริงที่ว่าการจราจรระหว่างประเทศไปและกลับจากประเทศจีนมีมากขึ้นในต้นปี 2020 กว่าในปี 2003

และการประเมินก็ไม่ได้เกิดขึ้นในความเป็นจริง รัฐบาลที่ระงับเที่ยวบินไปและกลับจากประเทศจีนในระยะแรกรวมถึงไต้หวันและนิวซีแลนด์ได้ประสบความสำเร็จมากที่สุดในการบรรจุ coronavirus

ผู้อำนวยการ Tedros ก็พบว่าตัวเองมีส่วนร่วมในการถ่มน้ำลายกับผู้นำของไต้หวัน เมื่อวันที่ 8 เมษายนเขากล่าวว่าเขาได้รับการเหยียดเชื้อชาติมาหลายเดือนและกล่าวหาว่ากระทรวงต่างประเทศของไต้หวันรู้เรื่องนี้และเข้าร่วมด้วยประธานาธิบดีไช่อิงอิงเหวินเรียกร้องกล่าวหาว่าไม่มีมูลความจริง เธอกล่าวเสริมว่าองค์การอนามัยโลกได้ปฏิเสธการเข้าถึงข้อมูลที่สำคัญต่อการเก็บไวรัสของไต้หวัน

สองวันต่อมา Tedros โต้เถียงกับไต้หวันเกี่ยวกับการตอบโต้การระบาดครั้งแรก เขากล่าวว่าในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของโปรโตคอล IHR เจ้าหน้าที่ชาวไต้หวันได้ส่งอีเมลเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2019 เตือนเกี่ยวกับรูปแบบลึกลับของโรคปอดอักเสบจากไวรัสที่ออกมาจากหวู่ฮั่น แต่ไม่ได้พูดถึงความเป็นไปได้ของการแพร่เชื้อจากมนุษย์สู่มนุษย์ เจ้าหน้าที่ของไต้หวันตีกลับโดยกล่าวว่าผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขจะสามารถมองเห็นความเป็นไปได้ดังกล่าวจากถ้อยคำของคำเตือนซึ่งกล่าวถึง "โรคปอดบวมผิดปกติ" และ "ผู้ป่วยที่แยกตัวเพื่อรับการรักษา"

คอรัสของสื่อต่างประเทศที่เติบโตขึ้นกล่าวว่าการตอบสนองของจีนช้าเกินไป แอสโซซิเอตเต็ทเพรสรายงานเมื่อกลางเดือนเมษายนว่าผู้นำในกรุงปักกิ่งใช้เวลาหกวันในการบอกให้โลกรู้ว่าพวกเขากำลังเผชิญกับการระบาดใหญ่ถึงแม้ผู้คนหลายล้านคนเดินทางไปพักผ่อนวันหยุดทางจันทรคติ (ตรุษจีน) แต่องค์การอนามัยโลกที่เปิดเผยอย่างตรงไปตรงมาพร้อมกับคำวิจารณ์ในช่วงที่เกิดโรคซาร์สระบาดอย่างเงียบ ๆ ในเวลานี้

Brundtland ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกที่จัดการกับโรคซาร์สได้อธิบายว่าเธอจัดการกับปัญหาของไต้หวันได้อย่างไร: "ฉันมีความรับผิดชอบในการทำงานกับหน่วยงานด้านสุขภาพของไต้หวันเพื่อช่วยป้องกันการแพร่กระจายในไต้หวันหรือไต้หวันหรือไต้หวัน ด้วยวิธีนี้รัฐบาลที่ต่อต้านไต้หวันมากที่สุด จึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบสหประชาชาติต้องปิดตัวลง "

ไม่ยากเลยที่จะเดาได้ว่าใครคือ "ต่อต้านไต้หวันมากที่สุด"

The World Health Organization has been called “pro-China” because of its response to the #coronavirus pandemic. Backstories looks into the relationship between the #WHO and #China. #COVID19

 

ระวัง! แรงงานไทยที่กลับประเทศ เงินคืนภาษีโอนเข้าบัญชีธนาคารในไต้หวัน อาจถูกอายัดบัญชี บุคคลอื่นช่วยถอนไม่ได้ แนะขอคืนเป็นเช็ค...#RtiFanpage

 

“รัฐประหารเวเนซุเอลาล่ม”
พร้อมจับกุมตัวอดีตทหาร Green Beret จากสหรัฐฯ
รับสารภาพถูกส่งตัวมาลักพาตัวผู้นำเวเนฯ ไปสหรัฐฯ

เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมา ชาวประมงและทหารเวเนซุเอลาได้ตรวจพบเรือสปีดโบ๊ตสองลำที่ลำเลียงทหารรับจ้างพร้อมอาวุธสงครามครบมือ กำลังมุ่งหน้าไปยังเมืองคาราราส ก่อนเข้าปะทะเพื่อหยุดแผนการดังกล่าว โดยทหารเวเนซุเอลาสังหารทหารรับจ้างดังกล่าวไป 8 ราย ก่อนจับกุมตัวได้ 13 ราย

สองวันต่อมา ทหารเวเนซุเอลาสืบค้นและทำการจับกุมเพิ่ม โดยได้พบทหารรับจ้างในขบวนการดังกล่าวเพิ่มบนเรือพายนอกฝั่ง ที่ถูกจับนั้นมีทหารหน่วย สหรัฐฯ 2 รายคือนายไอแลน แบร์รี่ (Airan Berry) และ ลุค เดนแมน (Luke Denman) ที่ถูกพบในสภาพเมาเรือ ห่างไปจากจุดปะทะ 20 กิโลเมตร ทั้งสองเป็นอดีตทหารสหรัฐฯ Green Beret หรือหน่วยปฏิบัติการพิเศษสหรัฐฯ (United States Army Special Forces) ซึ่งทำงานให้กับบริษัท Silvercorp ซึ่งเป็นบริษัทรักษาความปลอดภัยส่วนตัว ซึ่งเคยทำงานให้กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

โดยทั้งหมดให้การสารภาพว่าปฏิบัติการที่ได้รับว่าจ้างมาคือ การรัฐประหาร ยึดสนามบิน และลักพาตัวประธานาธิบดีเวเนซุเอลาไปยังสหรัฐอเมริกา
ทั้งนี้ บริษัท Silvercorp เป็นบริษัทรักษาความปลอดภัยส่วนตัวจากรัฐฟลอริด้า ที่ก่อตั้งขึ้นโดยอดีตทหารหน่วย Green Beret อย่างจอร์แดน กูโดร์ (Jordan Goudreau) และนาย ดรูว์ ไวท์ (Drew White) โดยบริษัทดังกล่าวเคยรับงานรักษาความปลอดภัยให้ทรัมป์ในช่วงเดือนตุลาคมปี 2018 ในช่วงแคมเปญทางการเมืองในรัฐนอร์ทแคโรไลนา

#roundtablethailand
Roundtablethailand.com

ที่มา:
- https://nypost.com/2020/05/09/ex-green-beret-behind-failed-coup-was-desperate-for-money/
- https://www.economist.com/the-ameri...s-a-farcical-attempt-to-remove-him-from-power
- https://www.vice.com/en_us/article/...naries-silvercorp-gordon-goudreau-trump-rally

 

จากที่มีข่าวเรื่องการล้มตายของม้าเป็นจำนวนมากในพื้นที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เมื่อราวเดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งผลการตรวจเลือดในห้องปฏิบัติการยืนยันว่า สถานการณ์ดังกล่าวคือการแพร่ระบาดของโรคกาฬโรคแอฟริกาในม้า (African Horse Sickness ; AHS) ซึ่งเป็นโรคอุบัติใหม่ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประเทศไทย โดยคาดว่าน่าจะมีการแพร่ระบาดจาการนำเข้าม้าลายในประเทศแถบแอฟริกาใต้เข้ามาในประเทศไทย และมีแมลงดูดเลือดเป็นพาหะในการแพร่ระบาดอย่างหนัก หรือที่เรียกว่า “ห่าลงในม้า” โดยขณะนี้มีม้าที่ได้รับเชื้อและตายไปแล้วไม่น้อยกว่า 500 ตัว ซึ่งพื้นที่ระบาดอย่างหนักใน 6 จังหวัดกำลังมีการแพร่กระจายอย่างรวดเร็วไปในพื้นที่ต่าง ๆ ในประเทศ

ผศ.สพ.ญ.อารีย์ ไหลกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสน เปิดเผยว่า สถานการณ์ดังกล่าวเริ่มมีความผิดปกติราวเดือนมีนาคม เมื่อมีม้าในคอกที่อำเภอปากช่อง จังหวัดราชสีมา มีการล้มตาย 1 ตัว แต่ไม่นานตัวที่ 2 ก็ล้มตายโดยมีอาการลักษณะเหมือนกัน คือมีอาการหอบ ตาแดง ขมับบวม และมีม้าอีกหลายตัวได้ล้มตายในเวลาอันรวดเร็วตามมา ซึ่งเกิดเป็นโรคระบาดแบบที่ไม่เคยเกิดมาก่อน ต่อมาได้มีการนำเลือดไปตรวจในห้องปฏิบัติการจนยืนยันได้ว่า โรคระบาดที่เกิดขึ้นคือ “โรคกาฬโรคแอฟริกาในม้า” (African Horse Sickness) หรือ AHS ซึ่งเป็นโรคร้ายแรงที่เป็นโรคประจำถิ่นในประเทศแถบทวีปแอฟริกา โดยเฉพาะในประเทศแอฟริกาใต้ ซึ่งสัตว์ที่ไวต่อการรับเชื้อ คือ ม้า ลา ล่อ ม้าลาย และอูฐ โดยมีแมลงดูดเลือดประเภท ลิ้น เป็นพาหะในการนำไปแพร่ชื้อ

เมื่อมีการตรวจสอบไทม์ไลน์ พบว่า สัตว์ที่เข้าข่ายเป็นต้นเหตุในการแพร่ระบาดในประเทศไทย คือการนำเข้าม้าลายมาจากประเทศแอฟริกาใต้และประเทศนามิเบียหลายครั้ง โดยครั้งแรกที่พบมีการแพร่ระบาดคือเดือนกุมภาพันธ์ จนมาถึงเดือนพฤษภาคม ขณะนี้มีม้าที่ได้รับเชื้อและตายไปแล้ว 500 กว่าตัว และยังมีตายต่อเนื่อง ซึ่งไวรัสชนิดนี้มีความรุนแรงมาก เพราะเมื่อม้าได้รับเชื้อเข้าไป ภายใน 24-48 ชั่วโมง ส่วนมากจะตายทันที และจะตายอย่างทรมานคือ การไปทำให้ระบบหายใจและระบบหัวใจล้มเหลว โดยมีอัตราการตาย 95%

ผศ.สพ.ญ.อารีย์ กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคในม้านั้นคล้ายกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่กำลังเกิดขึ้นในคน ซึ่งม้าในประเทศไทยนั้นถือว่าเกิดวิกฤตหนัก เพราะรับแรงจากทั้ง 2 โรคระบาดไปพร้อมกัน ซึ่งในไวรัสโควิด-19 นั้นจะแพร่กระจายโดยสารคัดหลั่ง แต่ใน AHS นั้น แพร่โดยแมลงดูดเลือดและมีสภาวะ Super spreader เกิดขึ้นแล้วเช่นกัน ซึ่งแมลงดูดเลือดเพียงตัวเดียวก็สามารถแพร่เชื้อให้ม้าตายได้ ช่วงนี้ถือว่าเป็นช่วงที่พีกที่สุดช่วงหนึ่งของการแพร่ระบาดและยังสามารถพีกได้มากกว่านี้อีก เป็นวิกฤตครั้งใหญ่ที่ประเทศไทยไม่เคยพบมาก่อน

ตอนนี้สิ่งที่ทีมสัตวแพทย์ทำคือ การลงไปในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาด เพื่อรักษาชีวิตม้าให้ได้มากที่สุด โดยแบ่งรัศมีในพื้นที่แพร่ระบาด 20 กิโลเมตร พื้นที่ป้องกัน 50 กิโลเมตร และพื้นที่เสี่ยง 100 กิโลเมตร พร้อมทั้งนำวัคซีนลงไปฉีดให้แก่ม้าในพื้นที่ระบาดและพื้นที่ป้องกัน ซึ่งวัคซีนยังไม่เพียงพอ เพราะม้าที่มีการลงทะเบียนและขึ้นทะเบียนไว้มีอยู่ 1.2 หมื่นตัว แต่มีวัคซีนชุดแรก 4 พันโด้ส โดยเมื่อฉีดไปแล้ว ต้องรอ 28 วันเพื่อการสร้างภูมิคุ้มกัน เบื้องต้นวิธีการป้องกันที่ดีที่สุดในขณะนี้ คือ กางมุ้งให้ม้าเพื่อป้องกันแมลงดูดเลือด

แต่สิ่งที่ยากคือ กลุ่มชาวบ้านที่เลี้ยงม้า ลา ล่อ ม้าลาย ที่ยังไม่ทราบข่าวก็ยังไม่เข้าใจ บางรายก็ไม่เชื่อ ซึ่งตรงนี้หากได้รับเชื้อก็ยังจะเป็นพาหะให้แก่แมลงดูดเลือดได้อีก ในตอนนี้ประเทศออสเตรเลียและจีน ได้ทำการป้องกันในประเทศของตัวเองแล้วโดยการตรวจเลือดและเตรียมการแล้ว เนื่องจากข้อมูลแมลงดูดเลือดในทวีปแอฟริกา สามารถบินโดยผ่านลมไปได้ถึง 700 กิโลเมตร ซึ่งหากประเทศไทยมีการปลดล็อกโควิด-19 และมีการเคลื่อนย้ายสัตว์ไปในพื้นที่อื่น หรือแมลงดูดเลือดเกาะสัตว์ เช่น วัว ควาย และติดรถออกไปจะทำให้ควบคุมได้ยากมาก ซึ่งถ้าคุมไม่อยู่ถือว่าจะวิกฤตหนัก ซึ่งผู้เลี้ยงที่ยังอยู่ห่างพื้นที่ระบาดต้องตื่นตัว เบื้องต้นต้องกางมุ้งและกำจัดแมลงให้ได้มากที่สุดก่อน

ด้าน นายเพิ่มพูน เพียรประสพ เจ้าของฟาร์มและทีม Siam Western Performance Horses กล่าวว่า สำหรับโรคระบาดที่กำลังเกิดตอนนี้สิ่งที่หวาดกลัวที่สุด คือกลัวโรคจะมาถึงพื้นที่คอกที่เลี้ยง เพราะโรคนี้ติดเชื้อง่ายและเป็นแล้วตายเร็ว มีอัตราการรอดน้อยมาก จากม้า 500 กว่าตัวที่ติดเชื้อ มีรอดเพียง 2 ตัว ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มากในวงการม้าไทย ตนเองได้ติดตามข้อมูลจากประเทศกลุ่มแอฟริกาที่เป็นแหล่งของไวรัสชนิดนี้ และได้นำมาปรับใช้ในการเลี้ยงม้า โดยเฉพาะการกางมุ้งให้ม้าโดยกางทั้งโรงเลี้ยงและลานซ้อม และมีการจัดการทำลายแมลงโดยรอบ การทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ของแมลง ซึ่งประเทศของเราเป็นประเทศร้อนชื้น มีฝนตกบ่อย อัตราการเกิดของแมลงก็มีมาก และไม่ใช่แค่ลิ้นชนิดต่าง ๆ แต่ยังมีเหลือบ ไร และยุงที่ยังดูดเลือดม้า ยิ่งช่วงที่มีพายุฤดูร้อนยิ่งเครียด เพราะทุกครั้งที่เกิดพายุลมแรง จะพบว่ามีจุดของการแพร่ระบาดใหม่ขึ้นในอีก 3-5 วันเท่านั้น

สำหรับคอกของตนเองนั้น เป็นคอกที่เลี้ยงม้าและมีการผลิตนักขี่ม้าที่มีการแข่งขันม้าประเภท Reining โดยมีม้าและนักแข่งที่เป็นแชมป์ประเทศไทย 4 สมัย และยังมีการรวมตัวไปสร้างชื่อในการแข่งขันระดับโลก ที่ประเทศอิตาลี ในอันดับที่ 14 และไปคว้าแชมป์เยาวชน 2 ประเภทและประเภทโอเพ่น ที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 53 ที่ผ่านมา โดยกำลังมีนักกีฬาที่ได้รับการจับตาระดับโลก แต่ก็มาเจอวิกฤตไวรัสโควิด-19 และมาซ้ำที่ไวรัส AHS ในม้าอีก ในวงการขี่ม้าแข่งนั้นเรายังมองไม่เห็นอนาคตเลยว่าจะเป็นยังไงต่อไปทั้งนักกีฬาและม้า เพราะม้ากว่าจะฟื้นตัวต้องใช้เวลาสร้างกล้ามเนื้อ 1 ปี นักกีฬาก็ไม่ได้ซ้อม ตอนนี้ทำได้เพียงรักษาชีวิตม้าไว้ให้ได้ก่อน ถ้าเรารักษาชีวิตม้าตัวเองได้ก็หมายถึงรักษาชีวิตม้าของเพื่อนได้ เมื่อรักษาม้าของเพื่อนได้ก็รักษาม้าในประเทศเราได้ด้วย

ที่มา https://mgronline.com/local/detail/9630000050318

#roundtablethailand
Roundtablethailand.com

 

(จีนทุกวันนี้แสดงบทบาทไปทั่วโลก ไม่แพ้สหรัฐอเมริกา ก็สมควรแล้วที่จีนจะต้องจ่ายค่าใช้จ่ายทัดเทียมสหรัฐอเมริกา)

ด่วน! จีนตอบโต้ สหรัฐ แล้ว! หลังจากที่ทรัมป์ประกาศปิดกั้น supply ชิปทั่วโลกไปยัง บริษัทโทรคมนาคม ที่ขึ้นบัญชีดำของหัวเว่ย (HWT.UL) ในวันศุกร์ที่ผ่านมา

จีนจึงประกาศจะปกป้องสิทธิทางกฎหมายของบริษัท โดยกระทรวงมั่นคงต่างประเทศ ที่จีน และได้กล่าวว่า จะดำเนินการต่อต้านสหรัฐ เช่น ทำให้บริษัท Apple, Cisco, Qualcomm จัดในกลุ่มอยู่ “นิติบุคคลที่ไม่น่าเชื่อถือ”

และจีนจะหยุดสั่งซื้อเครื่องบินโบอิ้ง Boeing อีกด้วย !

อีกทั้ง คณะกรรมการของหัวเว่ย บอกว่า จะชะลอแผนการลงทุนในบริษัทจีนบางแห่ง ที่อยู่ภายใต้การพิจารณาของ สหรัฐ อย่างไม่มีกำหนด