ติดตามสถานะการณ์

สรุปไฮไลท์เหตุการณ์ใหญ่รอบโลกที่เจอเชื้อไวรัสโควิด-19 เล่นงานจนต้องกุมขมับ เมื่อหลายกิจการประกาศปลดพนักงานระลอกใหญ่ และตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วโลกยังพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ยังมีข่าวดีให้ได้ลุ้นในสิ้นเดือนกรกฎาคมว่าวัคซีนที่คิดค้นโดยทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ดนั้นจะสำเร็จหรือไม่ ทีมงานเป็นกำลังใจให้ทุกคนฝ่าฟันวิกฤตนี้ไปได้นะครับ สู้ๆ ครับ

#Covid19 #โควิด19 #เศรษฐกิจ #การระบาด #ทั่วโลก #ธุรกิจ #ปิดตัว #ตกงาน #ติดเชื้อ #วัคซีน #MisterBan

 

May 4 , 2020 โฆษก ศบค.เตือนประชาชนปรับพฤติกรรมการซื้อสินค้า – รับของบริจาค หากไปรุมแย่งกันจนยอดติดเชื้อโควิด 19 เพิ่มกลับมา จะถูกทบทวนมาตรการผ่อนคลายทั้งหมด
.
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. กล่าวว่า ศบค.มีความเป็นห่วงต่อสถานการณ์ที่ประชาชนแห่ไปแย่งซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมทั้งการไปรุมรับของบริจาค เพราะพบว่าไม่มีการรักษาระยะห่าง อาจส่งผลให้มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดเพิ่มมากขึ้น
.
จึงอยากให้ประชาชนปรับพฤติกรรมดังกล่าว เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง และมาตรการต่างๆที่ต้องปฏิบัติก็เป็นสิ่งที่เคยทำมาแล้วก่อนหน้านี้
.
โดยขอให้ประชาชนยังคงยึดหลักปฏิบัติ 5 ข้อของมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด ได้แก่
.
1.ทำความสะอาดโดยการเช็ดทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัส และกำจัดขยะมูลฝอยทุกวัน
2.สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า
3.ล้างมือด้วยสบู่ แอลกอฮอล์ เจล หรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรค
4.เว้นระยะนั่งหรือยืนห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร
5.ควบคุมจำนวผู้ร่วมกิจกรรมมิให้แออัด หรือลดเวลาในการทำกิจกรรมให้สั้นลงเท่าที่จำเป็น
.
ถ้าทำได้ ท่านเองก็จะปลอดภัย ที่ผ่านมาเราร่วมมือกันจนยอดผู้ป่วยเหลือเพียงตัวเลขหลักเดียวแล้ว ดังนั้นก็คงต้องขอให้ยึดหลักปฏิบัติ 5 ข้อกันต่อไป
.
แต่หากตัวเลข 14 วันถัดไป หลังจากใช้มาตรการผ่อนคลายระยะแรก ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น มาตรการทั้งหมดต้องถูกทบทวน และอาจมีข้อจำกัดมากมายเกิดขึ้น ดังนั้นสิ่งที่เราทำร่วมกันมา 1 เดือนที่ผ่านมามีความหมายอย่างมาก
.
#ศบค #ไวรัสโควิด19 #รุมแย่งซื้อ #เหล้า #เบียร์ #Misterban

 

May 4 , 2020 สศก. ส่งทะเบียนเกษตรกร 8.33 ล้านราย ถึงกระทรวงการคลังแล้วเพื่อตรวจสอบคุณสมบัติ มั่นใจไม่ซ้ำซ้อนโครงการเราไม่ทิ้งกัน
.
นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กล่าวว่า วันที่ 5 พ.ค.นี้ สศก.จะนำทะเบียนเกษตรกรจำนวน 8.33 ล้านราย ส่งกระทรวงการคลัง เพื่อตรวจสอบสิทธิไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน กับความช่วยเหลือผ่านโครงการเราไม่ทิ้งกัน ไม่เป็นข้าราชการ ไม่เป็นข้าราชการบำนาญ โดยทะเบียนทั้งหมดที่จะนำส่งไปให้กระทรวงการคลังพิจารณาความซ้ำซ้อน และ คุณสมบัติของเกษตรกรที่จะได้รับสิทธิ ขั้นตอนการตรวจสอบสิทธิ หากดำเนินการเสร็จเร็วเกษตรกรก็จะได้รับเงินเร็ว ซึ่งเป็นขั้นตอนของกระทรวงการคลัง
.
ดังนั้นการตรวจสอบความซ้ำซ้อน และคุณสมบัติ ของผู้ที่จะมีสิทธิรับเงินเยียวยาเกษตรกร 5,000 บาท ระยะเวลา 3 เดือน จะเป็นเรื่องของกระทรวงการคลัง แต่ขั้นตอนการตรวจสอบทะเบียนเกษตรกร ตามเกณฑ์ของกรมส่งเสริมการเกษตร นั้น จะยึดหัวหน้าครอบครัว สมมติว่าหัวหน้าครอบครัวไปลงทะเบียน ได้รับสิทธิจากโครงการเราไม่ทิ้งกันไปแล้ว ในส่วนของสมาชิกก็จะไม่ได้รับ เพราะคนที่จะได้รับสิทธิเงินเยียวยาเกษตรกรจะให้เฉพาะหัวหน้าครอบครัวเท่านั้น
.
สำหรับทะเบียนเกษตรกรในด้านพืชทั้ง ข้าว ยาสูบ อ้อย และปศุสัตว์ ประมง กรมส่งเสริมการเกษตร เลือกผู้ที่มีทะเบียนเกษตรกร (ทบก.) ที่เป็นหัวหน้าครอบครัว เท่านั้นจำนวน 6.19 ล้านราย ส่วนสมาชิก แม้จะทำนา ทำไร่อ้อย หรืออื่นๆ ก็จะไม่ได้รับสิทธิเงินเยียวยานี้ และอีกประมาณ 1.75 ล้านราย คือเกษตรกรชาวสวนยาง ที่ การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เลือกเกษตรกรที่มีคุณสมบัติและขึ้นทะเบียนไว้แล้วทั้งหมด ได้แก่ เจ้าของสวน คนกรีดยาง คนเช่าสวน คนที่ทำสวนยางในที่ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ ทั้งหมดของทะเบียนเกษตรกรให้หมด นอกจากนี้ยังมีกลุ่มเกษตรกรที่ทำการเกษตรแต่ไม่เคยลงทะเบียนเกษตรเลยสามารถลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิเงินเยียวยานี้ได้ไปจนถึง 15 พ.ค.นี้
.
#สศก #สอบสิทธิ #ไวรัสโควิด19 #แจกเงิน #Misterban

 

May 4 , 2020 รฟท.แนะวิธีซื้อตั๋วโดยสาร – การจำหน่ายอาหารบนรถไฟ ให้สอดคล้องกับพรก.ฉุกเฉิน
.
นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 5) ข้อ 5 กำหนดให้ประชาชนงดหรือชะลอการเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัด เว้นแต่มีความจำเป็น ซึ่งต้องแสดงเหตุผลและหลักฐานต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ และฉบับที่ 6 ข้อ 1 (1) ก. การจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มในสถานีรถไฟ และคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) ที่ 2/2563 ที่ได้ประกาศ ณ วันที่ 3 พฤษภาคม 2563
.
ดังนั้น เพื่อให้สอดคล้องตามข้อกำหนดและคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) ที่ 2/2563 การรถไฟฯ จึงได้กำหนดวิธีปฏิบัติประกอบการขอซื้อตั๋วโดยสาร และการจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มภายในสถานีรถไฟ เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน โดยเริ่มมีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที 3 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายหรือมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ตามรายละเอียดดังนี้
.
1. การจำหน่ายตั๋วโดยสาร กำหนดให้พนักงานจำหน่ายตั๋วขอตรวจสอบเอกสารหลักฐานแสดงเหตุผลความจำเป็นที่ต้องเดินทางข้ามจังหวัดที่รับรองหรือออกให้โดยผู้ว่าราชการจังหวัด หรือเจ้าหน้าที่ผู้ได้รับมอบหมายก่อนจำหน่ายตั๋วทุกครั้ง
.
2. การจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มในสถานีรถไฟ กำหนดให้นายสถานีถือปฏิบัติ และควบคุมผู้ประกอบการ พนักงานบริการ และผู้ใช้บริการ
.
2.1 ให้เจ้าหน้าที่และผู้ประกอบการทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสบ่อย ๆ ทั้งก่อนและหลังการให้บริการ และให้กำจัดขยะมูลฝอยทุกวัน
.
2.2 ให้เจ้าหน้าที่และผู้ประกอบการ พนักงานบริการ ผู้ใช้บริการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า และให้มีการคัดกรองอาการป่วย ไข้ จาม หรือเป็นหวัดสำหรับพนักงานบริการและผู้ใช้บริการตามขีดความสามารถ
.
2.3 ให้สถานีและผู้ประกอบการจัดให้มีจุดบริการล้างมือด้วยสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจล หรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรค
.
2.4 ให้นายสถานีและผู้ประกอบการลดเวลาในการทำกิจกรรมให้สั้นลงเท่าที่จำเป็น โดยถือหลักหลีกเลี่ยงการติดต่อสัมผัสระหว่างกัน
.
2.5 ให้นายสถานีและผู้ประกอบการจัดให้มีการเว้นระยะห่างระหว่างโต๊ะ ที่นั่ง ระยะห่างระหว่างการเดิน รวมถึงจัดให้มีพื้นที่รอคิว ที่มีที่นั่งหรือยืนห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร
.
2.6 ให้ควบคุมจำนวนผู้ใช้บริการมิให้แออัด สำหรับผู้โดยสารที่จะเดินทางข้ามเขตจังหวัด จะต้องได้รับการตรวจคัดกรองและต้องแสดงเหตุผลความจำเป็น พร้อมหลักฐานการอนุญาตของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรการป้องกันตามที่ทางราชการกำหนด ทั้งนี้ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง การรถไฟฯ ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้
.
#รฟท. #ขายอาหาร #พรกฉุกเฉิน #ไวรัสโควิด19 #Misterban

 

คิดถึงลูกที่สุดเลย
.
1/ ในห้วงวิกฤตโควิด-19 บุคลากรการแพทย์ทั่วจีนราวๆ 40,000 คน เดินทางเข้าเมืองอู่ฮั่น เพื่อช่วยสนับสนุนการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อ
.
2/ หนึ่งในนั้นคือ พยาบาล หลี่ หลิน ผู้รับหน้าที่พยาบาลประจำห้องฉุกเฉิน พยาบาลแนวหน้า ดูแลผู้ป่วยติดเชื้อ ในโรงพยาบาลเมืองอู่ฮั่น
.
3/ เธอทำหน้าที่ของเธออย่างเต็มที่ เพื่อให้สมกับที่ชาวจีนยกย่องเธอและเพื่อนบุคลากรการแพทย์ทุกคน เป็น ‘ฮีโร่’
.
4/ แต่...การที่เธอห่างบ้านมานาน บวกกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสที่กระจายไปทั่วจีน เธอจึงห่วงครอบครัวของเธอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ‘ห่วงลูก’
.
5/ และเมื่อสถานการณ์ดีขึ้น จำนวนผู้ป่วยลดลง จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ลดลง เธอกำลังจะได้กลับบ้าน เธอถูกช่างภาพของสำนักข่าวพีเพิ้ลส์เดลี่ถามเธอว่า...วิกฤตโควิดสิ้นสุดลง เธออยากทำอะไรมากที่สุด?
.
6/ เธอตอบว่า “เธออย่าเจอลูกเร็วๆ เธอคิดถึงลูกมากๆ คิดถึงที่สุดเลย” คำตอบนี้ ทำให้ช่างภาพและผู้ได้ยินคำตอบถึงกับมีน้ำตา
.
7/ ช่างภาพบอกว่า คำตอบของเธอ รวมถึงคำตอบของบุคลากรการแพทย์หลายๆท่าน ทำให้ภารกิจถ่ายภาพไม่ง่ายอีกต่อไป เพราะจะทำอย่างไร ถึงจะสื่อความรู้สึกของบุคลากรการแพทย์เหล่านี้ ผ่านกล้อง สู่ภาพถ่าย ให้ได้ครบถ้วนที่สุด
.
8/ ติดตามชมวีดิโอเต็มๆ ได้ที่นี่ครับ

.

 

อีกหนึ่งกำลังสำคัญของภาคเอกชน ที่ตอบรับคำเชิญของนายกรัฐมนตรีที่จะมาร่วมช่วยเหลือประชาชนคนไทยทุกกลุ่มทุกภาคส่วนด้วยวิธีการใดก็ได้ เพื่อบรรเทาความทุกข์จากมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
.
ล่าสุดนายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ จำกัด ออกมาเปิดเผยทำข้อมูลที่เป็นเอกสารนำเสนอต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม โดยระบุว่า
.
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ได้จัดทำโครงการเพื่อสังคมต่อเนื่องตั้งแต่โครงการเพื่อเยาวชน เช่น แจกลูกฟุตบอล 1 ล้านลูกสร้างฝันแก่เด็กไทย สร้างสนามฟุตบอลเยาวชนไทยสนามที่ 61-100, ให้ทุนการศึกษาแก่มหาวิทยาลัยมอง ฟอร์ต จากมูลนิธิวิชัย ศรีวัฒนประภา ด้านการสาธารณสุข ได้มอบตู้อบเด็กให้โรงพยาบาล
.
สนับสนุนมูลนิธิก้าวเพื่อสนับสนุนกิจกรรมด้านสาธารณสุข ให้กระเป๋ายังชีพเพื่อบรรเทาทุกข์ และในด้านอาชีพ หนุนโครงการฟ็อกซ์ ฮันท์ และคิง เพาเวอร์ คัพ การประกวดวงดนตรีดุริยางค์เครื่องเป่านานาชาติชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวมเป็นเงิน 749 ล้านบาท
.
ส่วนโครงการเพื่อสังคมที่นำเสนอนายกรัฐมนตรีในงบประมาณปี 63-65 รวม 3 ปีเป็นเงิน 719.5 ล้านบาทนั้น คิง เพาเวอร์ ได้เสนอโครงการพัฒนาสังคมด้านชุมชน และเศรษฐกิจชุมชนเพื่อยกระดับศักยภาพของสินค้าไทยในชื่อ Thai Power World Market เพื่อยกระดับศักยภาพสินค้าไทยโดยเพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้าทางออนไลน์ และประชาสัมพันธ์ให้ชุมชน วิสาหกิจชุมชน พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สามารถสร้างยอดขายได้ในระดับนานาชาติ
.
คิง เพาเวอร์ ในฐานะเจ้าของสโมสรทีมฟุตบอลเลสเตอร์ในพรีเมียร์ลีกของอังกฤษ ซึ่งมีผู้ชมกว่า 4,000 ล้านคนในยุโรปได้ขอให้นักเตะของเลสเตอร์ช่วยโปรโมตประเทศไทยด้วยการใส่เสื้อ “amezing Thailand” ที่ปักบนหน้าอกชุดแข่งขันในฤดูกาลนี้ พร้อมติดป้ายโฆษณาดิจิทัลในสนามคิง เพาเวอร์ สเตเดียม ตลอดฤดูกาล ทั้งยังให้การสนับสนับสนุนทางการแพทย์ ด้วยการมอบรถพยาบาล และบริจาคชุด PPE ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ด้วย
.
“เราเสนอให้พัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวซึ่งคิดว่ากว่านักท่องเที่ยวจะกลับมาอาจใช้เวลา 1-2 ปี เราจึงจำเป็นต้องตั้งกองทุนเพื่อธุรกิจการท่องเที่ยวขึ้น, ทำประกันภัยโควิด-19 ให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไทย พัฒนาระบบ e-visa on arrival การตรวจคนเข้าเมือง และบริหารจัดการ slot การบิน พัฒนาองค์ความรู้แนวใหม่ให้สอดรับกับ New Normal พัฒนา Super Application เพื่อการท่องเที่ยวในไทยทั้งแก่นักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ แก้ไขความไม่เพียงพอของมัคคุเทศก์ให้นักท่องเที่ยวบางสัญชาติ และจัดคลัสเตอร์กลุ่มจังหวัดเพื่อการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง" นายอัยยวัฒน์ กล่าว

-------------------------------
แหล่งข่าว

https://www.thairath.co.th/news/business/market-business/1836349
-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision

 

ก่อนหน้านี้มีหลายอาชีพที่ต้องหยุดให้บริการไปชั่วคราวจากวิกฤตโควิด-19 และเมื่อรัฐบาลมีมาตรการผ่อนคลายให้บางธุรกิจ ห้างร้านกลับมาเปิดทำการได้อย่างปกติ แต่ก็ต้องแลกกับการควบคุม หรือเงื่อนไขรัฐที่กำหนด นั่นจึงทำให้หลายธุรกิจต้องมีการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ ไม่เว้นแม้แต่อาชีพอย่างนางรำแก้บนที่ ศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์
.
ล่าสุดมีรายงานว่า เมื่อมีมาตรการคลายล็อกให้สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้ นางรำ และนักดนตรีจึงกลับมาให้บริการรำแก้บนอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มาพร้อมกับการปรับตัวเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยนางรำทุกคนรวมถึงนักดนตรีต้องสวม Face Shield ระหว่างรำ และเล่นดนตรี เพื่อความปลอดภัยด้านสุขภาพ นับเป็นภาพที่แปลกตาเรียกรอยยิ้ม และเสียงชื่นชมจากผู้ใช้บริการเป็นอย่างมาก
.
ซึ่งทางศาลท้าวมหาพรหม ได้วางมาตรการป้องกันโดยจะต้องมีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายและใส่หน้ากากอนามัยก่อนเข้ากราบสักการะภายในศาล ส่วนนางรำรวมถึงนักดนตรีต้องสวมใส่ face shield และหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่มีการรำถวายศาลท้าวมหาพรหม ปรับเวลา เปิด-ปิดให้เข้ากราบไหว้สักการะ ได้ในเวลา 06.00-18.00 ส่วนนางรำจะเริ่มเวลา 08.00-17.00

-------------------------------
แหล่งข่าว

https://mgronline.com/onlinesection/detail/9630000046543
https://www.mcot.net/viewtna/5eafe1e9e3f8e40af943e7e6
-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision

 

มีรายงานล่าสุดจากคณะกรรมาธิการยุโรปออกมาว่า ทาง EU อนุมัติเงินช่วยเหลือแห่งรัฐของฝรั่งเศส 7 พันล้านยูโร ช่วยแอร์ฟรานซ์รับผลกระทบการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยนางมาร์เกรเธ เวสตาเกอร์ คณะกรรมาธิการการแข่งขัน สหภาพยุโรป แถลงว่า
.
คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นชอบให้ฝรั่งเศส ให้ความช่วยเหลือสายการบินแห่งชาติ Air France วงเงิน 7 พันล้านยูโร ตามมาตรการความช่วยเหลือแห่งรัฐ ซึ่งประกอบด้วยให้รัฐค้ำประกันสินเชื่อ และให้สินเชื่อเพื่อผู้ถือหุ้น เพื่อเสริมสภาพคล่องฉุกเฉินให้กับสายการบิน ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19

ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการการแข่งขันของอียูผ่อนคลายกฎระเบียบเรื่องการอุดหนุนของรัฐช่วงกลางเดือน มี.ค. เพื่อให้รัฐสมาชิกช่วยเหลือบริษัทที่ประสบปัญหาการเงินเพราะโควิด-19 ได้ง่ายขึ้น กรณีของ Air France ความช่วยเหลือประกอบด้วย สินเชื่อธนาคาร 4 พันล้านยูโร โดยรัฐค้ำประกันให้ 90% และอีก 3 พันล้านยูโรเป็นการให้สินเชื่อโดยตรงของรัฐ
.
โดยก่อนหน้านี้ สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปารีส ได้รายงานเกี่ยวกับแผนช่วยเหลือสายการบิน Air France โดยรมว.เศรษฐกิจและการคลังแจ้งว่ารัฐบาลฝรั่งเศสได้อนุมัติแผนช่วยเหลือสายการบิน Air France รวม 7 พันล้านยูโร ประกอบด้วยการกู้เงินผ่านธนาคารโดยรัฐเป็นผู้ค้ำประกันในเพดาน 90% เป็นเงิน 4 พันล้านยูโร และให้กู้เงินโดยตรงจากรัฐบาลอีก 3 พันล้านยูโร
.
โดยการช่วยเหลือครั้งนี้ ไม่ได้เป็นการช่วยเหลือแบบให้เปล่า ซึ่งสายการบิน Air France จะต้องมีแผนการดำเนินการเพื่อสามารถทำกำไรได้ พร้อมทั้งต้องตั้งเป้าหมายให้เป็นสายการบินที่เคารพสิ่งแวดล้อมมากที่สุดในโลกให้ได้ ซึ่งสายการบินมีเป้าหมายว่าจะสามารถลดการปล่อยก๊าซ CO2 ลงให้ได้ 50% ในปี ค.ศ. 2030 ผ่านการลดเที่ยวบินในประเทศ การใช้เครื่องบินรุ่นที่สร้างมลภาวะน้อยลง และจะใช้เชื้อเพลิงชีวภาพให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้สำหรับเที่ยวบินในประเทศ
.
ด้านรมว.เศรษฐกิจ และการคลัง ยังแจ้งด้วยว่า การให้ความช่วยเหลือแก่สายการบิน Air France ในครั้งนี้ นับเป็นการให้ความช่วยเหลือครั้งสำคัญที่สุดเป็นประวัติการณ์ ที่รัฐบาลเห็นว่าเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องรักษาสายการบินแห่งชาติ เพื่อไม่ให้เกิดภาวะพึ่งพาสายการบินต่างประเทศ และยังเป็นการช่วยรักษาการจ้างงานทั้งของสายการบินเอง ที่มีพนักงานประมาณ 50,000 คน รวมไปถึงพนักงานของ บ. อื่นๆ ที่มีธุรกิจกับสายการบิน Air France อาทิ Airbus รวมพนักงานกว่า 360,000 คนด้วย

-------------------------------
แหล่งข่าว
https://www.bloombergquint.com/busi...u-approval-for-eu7b-french-guarantee-and-loan

https://www.bangkokbiznews.com/news...medium=internal_referral&utm_campaign=foreign
https://www.thansettakij.com/content/431607

-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision

 

วันนี้ นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับ และส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) ได้มีการเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 30 เม.ย.63 ทางสำนักงาน คปภ.ได้หารือกับสมาคมประกันวินาศภัย
.
เพื่อพิจารณาออกมาตรการเยียวยาด้านการประกันภัยเพิ่มเติม ตามข้อเสนอของกระทรวงยุติธรรม และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ (สศช.) ซึ่งที่ประชุมได้กำหนด 4 มาตรการเพิ่มเติมด้านการประกันภัยรถยนต์ (Motor) และไม่ใช่รถยนต์ (Non-Motor) เพื่อเยียวยาประชาชน และภาคธุรกิจที่หยุดประกอบการ
.
ซึ่งมาตรการประกันภัยรถยนต์ กำหนดให้บริษัทประกันวินาศภัย พิจารณาชดเชยผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ ดังนี้ 1.ลดเบี้ยประกันภัยสำหรับกรมธรรม์ที่จะต่ออายุในปีถัดไปได้ไม่เกิน 40% และ หรือขยายระยะเวลาการคุ้มครอง
.
เพื่อชดเชยช่วงเวลาที่รัฐบาลประกาศเคอร์ฟิวทำให้ไม่มีการใช้รถบนท้องถนน และหรือผู้เอาประกันภัยเลือกลดความคุ้มครองจากการใช้รถทั้งหมด หรือบางส่วนตามการเปลี่ยนแปลงความเสี่ยงภัย โดยบริษัทจะคืนเบี้ยประกันภัยจากส่วนความคุ้มครองที่ลดลง และให้เป็นไปตามเงื่อนไขของแต่ละบริษัท
.
ในส่วนมาตรการประเภท Non-Motor ให้บริษัทประกันวินาศภัย สามารถกำหนดให้ผู้เอาประกันภัยเลือกลด หรือระงับความคุ้มครองจากการเสี่ยงภัยของกรมธรรม์ประกันภัยบางส่วน ตามการเปลี่ยนแปลงความเสี่ยงภัย ตามที่ธุรกิจหยุดประกอบกิจการ โดยบริษัทจะคืนเบี้ยประกันภัยจากส่วนความคุ้มครองที่ลดลง
.
ซึ่งรายละเอียดเป็นไปตามเงื่อนไขของแต่ละบริษัท “ขั้นตอนจากนี้ สำนักงาน คปภ. จะเร่งออกคำสั่งนายทะเบียน เพื่อให้บริษัทประกันภัยปฏิบัติตามมาตรการเยียวยาเพิ่มเติมได้โดยเร็ว และจะกำกับดูแล เพื่อให้การปฏิบัติตามมาตรการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เกิดประโยชน์ต่อประชาชน และธุรกิจที่ได้รับผลกระทบอย่างแท้จริง”

-------------------------------
แหล่งข่าว

https://www.thairath.co.th/news/business/market-business/1836263
-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Facebook :
https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision

 

นับว่าเป็นความก้าวหน้าครั้งยิ่งใหญ่ ในการต่อสู้กับโควิด-19 เมื่อ หุ่นยนต์ “มดบริรักษ์” ผลงานล่าสุดของ สถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม หรือฟีโบ้ (Institute of FIeld robotics หรือ FIBO) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) โดยใช้เวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์ในการพัฒนา ซึ่ง “มดบริรักษ์” หรือเดิมเรียกว่า (FIBO AGAINST COVID-19 : FACO) ได้เริ่มส่งมอบให้โรงพยาบาลแล้ว
.
โดย ดร.ชิต เหล่าวัฒนา ผู้ก่อตั้งสถาบันฟีโบ้ ได้เปิดเผยว่า หุ่นยนต์ “มดบริรักษ์” นี้ เป็นชุดแพลตฟอร์มที่ควบคุมการทำงานของหุ่นยนต์ โดยสั่งการจากศูนย์ควบคุม เชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi และในอนาคตสามารถนำเทคโนโลยี 5G 2600 MHz มาใช้ได้ ซึ่งความสามารถของหุ่นยนต์แต่ละตัวจะมีหน้าที่ต่างกัน เช่น วัดอุณหภูมิคนไข้ ส่งอาหาร อุปกรณ์ทางการแพทย์ สำรวจจุดต่างๆ ได้อย่างละเอียด
.
คุณหมอ และผู้ป่วยสื่อสารกันได้ผ่านวิดีโอคอลล์ สั่งการด้วยเสียง โต้ตอบแบบเรียลไทม์ มีหน้าจอ บันทึกการรักษา และการวินิจฉัยโรค ที่เชื่อมต่อกับระบบกลางของโรงพยาบาล ด้วยคุณสมบัติ กล้องมีความละเอียดสูง 20 เท่า ทำให้หมอสามารถตรวจคนไข้ได้โดยไม่ต้องใกล้ชิดกับคนไข้ เช่น การตรวจตา ลิ้น เป็นต้น
.
ด้วยอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีสูง “มดบริรักษ์” จึงมีต้นทุนการผลิตต่อชุดประมาณ 2.5-3 ล้านบาท ซึ่งงบประมาณนี้ได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชน และทุนส่วนหนึ่งของฟีโบ้ โดยสำหรับแผนการจัดส่งให้โรงพยาบาล มีการมอบให้โรงพยาบาลรามาธิบดีแล้ว
.
ซึ่งภายในสิ้นเดือนนี้ จะส่งมอบให้โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลตำรวจ และโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ต้นเดือนมิถุนายนจะจัดส่งไปยังโรงพยาบาลที่ จ.ปัตตานี กลางเดือนส่งไปยังโรงพยาบาลในภาคตะวันออก ที่ จ.ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา
.
ดร.ชิต เปิดเผยด้วยว่า ขณะนี้มีโรงพยาบาลทั่วประเทศแจ้งความต้องการมา 40 ชุด ซึ่งฟีโบ้จะมอบพิมพ์เขียว (Engineering Drawing) ให้บริษัทในสมาคมผู้ประกอบการระบบอัตโนมัติ และหุ่นยนต์ไทย (Thai Automation and Robotics Association หรือ TARA) ผลิตต่อไป
.
ซึ่งนอกจากโรงพยาบาลในไทยที่แจ้งความต้องการใช้หุ่นยนต์แล้ว ยังมีต่างชาติหลายแห่งให้ความสนใจหุ่นยนต์ “มดบริรักษ์” และมีการติดต่อเข้ามากันจำนวนมาก แต่ขอชี้แจงว่าทางสถาบันฯ ไม่มีวัตถุประสงค์ในการผลิตเพื่อขายเอง และไม่ได้ต้องการทำรายได้จากโครงการนี้ เพราะในสถานการณ์ขณะนี้ทุกคนต้องช่วยกัน
.
เมื่อทางสถาบันฯ มีประสบการณ์ในการพัฒนาเทคโนโลยีหุ่นยนต์ ก็พร้อมสนับสนุนส่งต่อความรู้เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติอย่างเต็มที่ สำหรับชื่อของ “มดบริรักษ์” นั้น รศ.ดร.สุวิทย์ แซ่เตีย อธิการบดี มจธ. เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานชื่อ “มดบริรักษ์” ให้กับหุ่นยนต์ “FIBO AGAINST COVID-19 : FACO”
.
ซึ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอย่างหาที่สุดมิได้ และเป็นสิริมงคลสูงสุดแก่คณะผู้บริหาร อาจารย์ บุคลากร นักศึกษา และนักศึกษาเก่า มจธ. และภาคเอกชนที่ร่วมกันพัฒนาอย่างเต็มที่

-------------------------------
แหล่งข่าว

https://www.thairath.co.th/news/tech/technology/1836736
-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision

 

ศบค.มท. สั่งการผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด กำชับผู้ประกอบการ ให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด หากไม่ดำเนินการมีความผิดตามกฎหมาย และถูกสั่งปิด
.
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ในส่วนที่เกี่ยวกับการสั่งการ และประสานกับผู้ว่าฯ จังหวัด และผู้ว่าฯ กทม. มีหนังสือด่วนที่สุดถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด เนื่องจากปรากฏตามข่าวทางสื่อมวลชนว่า ภายหลังการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้มีประชาชนเข้าใช้บริการในสถานประกอบการ สถานที่ ที่ได้รับการผ่อนคลายให้ดำเนินการหรือทำกิจกรรมพร้อมกันเป็นจำนวนมาก โดยไม่ได้มีการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด เช่น การรับประทานอาหารในร้านอาหาร การซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น จึงขอให้จังหวัดดำเนินการ ดังนี้
.
1. จัดระเบียบแนวทางการปฏิบัติของสถานประกอบการ/สถานที่ที่ได้รับการผ่อนคลายให้ดำเนินการ หรือทำกิจกรรมในพื้นที่ โดยกำชับผู้ประกอบการ ผู้จัดการสถานที่ว่าเป็นหน้าที่ของผู้ประกอบการ ผู้จัดการสถานที่ที่จะต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนดโดยเคร่งครัด หากพบว่าไม่ปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าวอาจมีความผิดตามกฎหมาย และถูกสั่งปิดสถานประกอบการ/สถานที่นั้น
.
2. ประชาสัมพันธ์และขอความร่วมมือจากประชาชนที่เข้าใช้บริการสถานประกอบการสถานที่ให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนดโดยเคร่งครัด
.
3.กำชับเจ้าหน้าที่ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องให้กำกับ ติดตาม และบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและการแพร่ระบาดของโรค #โควิด19 โดยจัดชุดเคลื่อนที่ไปสุ่มตรวจเป็นระยะอย่างต่อเนื่อง

 

ขณะนี้รัสเซียคือประเทศที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 สูงที่สุดเป็นลำดับที่ 7 ของโลก เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา รัสเซียพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 10,633 รายภายในวันเดียว ส่งผลให้สถานการณ์การโรคระบาดในรัสเซียยังคงทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ

จำนวนดังกล่าวสามารถยืนยันคำเตือนจากรัฐบาลรัสเซียที่ว่า ไวรัสโควิด-19 จะระบาดถึงช่วงกลางเดือนพฤษภาคม ขณะนี้รัสเซียมีผู้ติดเชื้อรวม 134,687 ราย และมีผู้เสียชีวิต 1,280 ราย โดยผู้ติดเชื้อครึ่งหนึ่งคือประชาชนที่อาศัยอยู่ในมอสโก
.
.
ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน มั่นใจในการควบคุมวิกฤตไวรัสโควิด-19 ของรัฐบาลรัสเซีย เนื่องจากในช่วงเดือนกุมภาพันธ์และเดือนมีนาคม รัสเซียมีผู้ติดเชื้อน้อยมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในยุโรป แต่จู่ๆ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาสถานการณ์กลับเลวร้ายลง จนปูตินต้องออกมาเตือนชาวรัสเซียให้รับมือกับโรคระบาดที่กำลังรุนแรงขึ้น

เกิดอะไรขึ้นที่นั่น? เหตุใดประเทศที่ไม่น่าเป็นกังวลในช่วงแรกกลับกลายเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลก ปัจจัยสำคัญมาจากปัญหาอุปกรณ์ป้องกันตัวที่ไม่เพียงพอของบรรดาเจ้าหน้าที่แพทย์
.
.
ระบบสาธารณสุขในรัสเซียคือหนึ่งในปัญหาที่ส่งผลให้สถานการณ์รุนแรงขึ้น เมื่อสิ้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ภาพที่ถูกเผยแพร่ทั่วโซเชียลมีเดียคือรถพยาบาลจำนวนมากที่ต่อแถวรอส่งผู้ติดเชื้อเพื่อเข้ารับการรักษา คนขับรถรายหนึ่งระบุว่าเขาต้องรอส่งผู้ป่วยนานถึง 15 ชั่วโมง เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อสูงขึ้นอย่างมากในระยะเวลาอันสั้น จำนวนเตียงผู้ป่วยจึงไม่เพียงพอที่จะรองรับผู้ติดเชื้อทุกราย
.
.
ยิ่งไปกว่านั้น ประธาน Alliance of Doctors Trade Union แห่งรัสเซีย กล่าวว่ารัฐบาลปกปิดข้อมูลที่แท้จริงเกี่ยวกับความรุนแรงของวิกฤตในประเทศ อีกทั้งรัฐบาลยังเคยกล่าวว่าโรคโควิด-19 คือโรคปอดอักเสบทั่วไป ซึ่งก่อให้เกิดความสับสนภายในประเทศ ซ้ำร้ายเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ยังขาดแคลนอุปกรณ์ป้องกันตัว ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่มากขึ้นกว่าเดิม

สถานการณ์ขณะนี้ไม่ปลอดภัยสำหรับเจ้าหน้าที่และผู้ป่วย ก่อนหน้านี้รัฐบาลสั่งปิดโรงพยาบาลหลายแห่งเพื่อให้เจ้าหน้าที่และผู้ติดเชื้อรักษากันเอง อีกทั้งรัฐบาลยังเคยกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์คือสาเหตุของการแพร่เชื้อด้วย

ข้อกล่าวหาดังกล่าวสร้างความกดดันให้เจ้าหน้าที่อย่างมาก นายแพทย์รายหนึ่งกล่าวว่าเขาถูกบังคับให้รักษาผู้ป่วยทั้งๆ ที่ตนเองติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ขณะนี้มีรายงานระบุว่ามีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเสียชีวิตราว 80 รายแล้ว ซึ่งหนึ่งในนั้นคือนายแพทย์แผนกฉุกเฉินที่ฆ่าตัวตายหลังจากโดนกล่าวหาว่าแพร่เชื้อไวรัส
.
.
รัสเซียประกาศปิดประเทศตั้งแต่สิ้นเดือนมีนาคมและมีแนวโน้มที่จะขยายช่วงเวลาไปถึงกลางเดือนพฤษภาคม ที่นี่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่หยุดชะงักเช่นเดียวกับหลายประเทศประกอบกับปัญหาใหญ่คือราคาน้ำมันที่ตกลง ซึ่งธนาคารกลางของรัสเซียคาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์รวมในประเทศ หรือ GDP ของปีนี้จะลดลงร้อยละ 6

ไม่เพียงแต่เมืองใหญ่ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสชนิดนี้ สถานการณ์ในชนบทของรัสเซียก็น่าเป็นกังวลเช่นเดียวกัน เนื่องจากประชากรส่วนมากคือผู้สูงอายุ ภาวะเศรษฐกิจที่ขาดความยืดหยุ่น อีกทั้งยังขาดแคลนอุปกณ์ทางการแพทย์ รัสเซียจึงเป็นประเทศที่น่าจับตามองว่าจะรับมือกับวิกฤตนี้อย่างไรเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ประเทศชอกช้ำไปมากกว่านี้
.
.
เครดิตภาพ: YURI KADOBNOV / AFP

แหล่งข้อมูล:

https://edition.cnn.com/2020/05/03/europe/russia-coronavirus-cases-intl/index.html

https://www.ft.com/content/2af536fd-200e-473b-be1b-ec90d4db2a3c



https://www.businessinsider.com/cor...-record-new-number-of-cases-10000-more-2020-5

https://www.themoscowtimes.com/2020...ents-are-on-the-coronavirus-frontlines-a69998

 

โควิด-19 ยังคงไม่มีวี่แววสิ้นสุดในเร็ววัน ดูเหมือนว่าผู้คนจะยังคงต้องปิดหน้าปิดตาออกจากบ้านกันแบบนี้ไปอีกหลายเดือน

ภาพถ่ายเหล่านี้คือส่วนหนึ่งของภาพชุดหน้ากากอนามัยแปลกจากทั่วโลก รวบรวมโดยสำนักข่าว AFP

หน้ากากอนามัยเพียงผืนเดียวบอกเล่าเรื่องราวได้มากมาย ในรายที่สวมหน้ากากแฟนซี สีสันและลวดลายบนนั้นกำลังช่วยเยียวยาให้เจ้าตัวผ่านพ้นความเบื่อหน่ายในช่วงกักตัว

ในรายที่สวมหน้ากาก DIY ภาพถ่ายนี้กำลังสะท้อนถึงชะตากรรมของผู้คนหลายล้านคนทั่วโลกที่เข้าไม่ถึงหน้ากากอนามัย พวกเขายอมสวมใส่วัสดุอะไรก็แล้วแต่เท่าที่หาได้ เพื่อเอาชีวิตรอด

วิกฤตไวรัสครั้งนี้นอกเหนือจากต้องพึ่งพาความร่วมมือกันทั่วโลกในการขจัดแล้ว มันยังฉายปัญหาความเหลื่อมล้ำให้เห็นเด่นชัดขึ้น และเป็นที่คาดหวังว่าปัญหานี้จะได้รับการใส่ใจมากกว่าที่เคย เมื่อแสงอรุณแห่งวันใหม่มาถึง

 

ก่อนหน้านี้เวียดนามคือประเทศในทวีปเอเชียที่ถูกคาดการณ์ว่าจะเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่เมื่อเวลาผ่านไปเวียดนามกลับเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จในการับมือกับวิกฤตด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศเพียง 270 ราย และผู้เสียชีวิตเท่ากับ 0

หากเทียบกับประเทศที่รับมือกับโควิดได้ดีอย่างเช่น เกาหลีใต้และไต้หวัน เวียดนามถือว่าเป็นประเทศที่มีต้นทุนและทรัพยากรน้อยกว่ามาก ประกอบกับพรมแดนที่ติดกับประเทศจีน อย่างไรก็ตามประเทศนี้กลับรับมือได้เร็วและดีกว่าหลายๆ ประเทศ โดยมีกุญแจสำคัญคือมาตรการเชิงรุก
.
.
หลังพบผู้ติดเชื้อรายแรกในช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา เวียดนามเริ่มออกมาตรการต่างๆ สั่งห้ามการเดินทางทั้งภายในประเทศและนอกประเทศ สั่งให้ร้านขายยารายงานหากใครมาซื้อยาแก้หวัด รวมไปถึงกักตัวประชาชนกว่า 100,000 รายในค่ายทหาร โรงแรมและบ้าน โดยทั้งหมดได้รับการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

เวียดนามเริ่มมีจุดคัดครองตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ผู้โดยสารที่เดินทางโดยเครื่องบินจะต้องผ่านจุดตรวจวัดอุณหภูมิ กรอกประวัติสุขภาพและประวัติการเดินทาง ขณะนี้มาตรการเหล่านี้ก็ยังคงถูกบังคับใช้สำหรับทุกคนที่เดินทางเข้าเมืองใหญ่ ศูนย์ราชการ และโรงพยาบาล ซึ่งหากใครมีอุณหภูมิร่างกายสูงกว่า 38 องศาเซลเซียสจะถูกส่งไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดเพื่อตรวจหาเชื้อไวรัสต่อไป และหากใครถูกจับได้ว่าให้ข้อมูลที่เป็นเท็จก็จะถูกดำเนินคดีทางกฏหมาย
.
.
มาตรการการกักตัวในเวียดนามเริ่มในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์เช่นเดียวกัน ชาวเวียดนามและชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศจะถูกกักตัวเป็นเวลา 14 วัน และได้รับการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งหากใครเคยใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อจะต้องแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อรับการกักตัวเช่นเดียวกัน ส่วนในด้านการปิดเมืองเวียดนามเริ่มปิดเมืองต่างๆ ตั้งแต่เดือนมีนาคม และจำกัดการเดินทางภายในประเทศอย่างเข้มงวด

ยิ่งไปกว่านั้น การสื่อสารระหว่างรัฐบาลกับประชาชนยังเป็นหัวใจสำคัญในการรับมือกับวิกฤตในครั้งนี้ ตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม รัฐบาลเวียดนามได้สื่อสารกับประชาชนให้เข้าใจถึงความรุนแรงของไวรัสชนิดนี้และแนะนำให้ประชาชนรับมือกับการระบาดอย่างจริงจังรวมไปถึงหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น หนึ่งในวิธีสื่อสารคือการส่งข้อความทางโทรศัพท์เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับโรค อาการของโรค และมาตรการป้องกัน ซึ่งทางรัฐบาลได้ร่วมมือกับแอปพลิเคชัน Zalo เพื่อส่งข้อมูลให้กับประชาชนทั่วประเทศ
.
.
ที่ผ่านมาเวียดนามตรวจหาเชื้อไวรัสในประชาชนกว่า 175,000 ราย นอกจากจะสามารถป้องกันการแพร่ระบาดได้ทันท่วงทีแล้ว เวียดนามยังสามารถพัฒนาชุดตรวจไวรัสได้ด้วย ซึ่งชุดตรวจเหล่านี้มีราคาไม่เกิน 800 บาท และสามารถรู้ผลตรวจได้ภายใน 90 นาที การผลิตชุดตรวจได้เองส่งผลให้เวียดนามลดต้นทุนการตรวจเชื้อและยังสามารถส่งออกชุดตรวจช่วยเหลือประเทศต่างๆ

การรับมือกับวิกฤตไวรัสโควิดของเวียดนามจึงกลายเป็นหนึ่งในโมเดลที่ประสบความสำเร็จที่สุด ขณะนี้เวียดนามเริ่มยกเลิกมาตรการการปิดเมืองเพื่อให้ภาคธุรกิจกลับมาดำเนินการได้ปกติ หลังจากมีผู้ติดเชื้อไม่ถึง 300 คน และไม่มีผู้เสียชีวิตเลย แม้กระนั้นประชาชนส่วนใหญ่ยังคงปฏิบัติตามมาตรการรักษาระยะห่างและสวมใส่หน้ากากอนามัย
.
.
เครดิตภาพ: NHAC NGUYEN / AFP

แหล่งข้อมูล:

https://www.latimes.com/world-nation/story/2020-04-23/vietnam-eases-coronavirus-lockdown

https://theaseanpost.com/article/vietnams-low-cost-covid-19-strategy

https://theconversation.com/vietnam-has-reported-no-coronavirus-deaths-how-136646

https://www.bloomberg.com/news/arti...s-for-economic-rebound-after-mass-quarantines

https://thediplomat.com/2020/04/the-secret-to-vietnams-covid-19-response-success/

 

Sell In May (And Go Away) คืออะไร ? จะมีจริงไหมในปีนี้ ?

⚠️ เมื่อ SET กำลังเข้าสู่จุดตัดเทคนิคที่สำคัญ หลังจากแนวรับระยะสั้นกับแนวต้านระยะกลางกำลังจะมาบรรจบกัน ⚠️

Sell In May คือสถิติการซื้อขายราคาหุ้นตามฤดู (Season) หรือเดือนที่สำคัญอีกหลักนึงที่ไม่แพ้ January Effect ครับ

โดยหากย้อนสถิติกลับไปในตลาดหุ้นสหรัฐนั้นในเดือน พ.ค. (May) นั้นจะโดนเทขายอยู่ค่อนข้างบ่อยทีเดียว (Sell in May = ขายในพ.ค.) ทำให้มีมูลความจริงในเชิงสถิติอยู่ประมาณนึง

เพราะว่าส่วนมากช่วง 4 เดือนแรกของปีนั้นเป็นช่วงที่นักลงทุนรอผลประกอบการไตรมาส 1 กับการรับเงินปันผล ทำให้ข่าวดีต่างๆที่ตลาดรออยู่อาจจะถูกปลดปล่อยออกมาหมดแล้ว จึงเกิดเหตุการณ์ “Sell on Fact” ขึ้นได้เป็นการเก็บทำกำไรของหุ้นที่วิ่งขึ้นใน 4 เดือนแรกของปี และกว่าจะมีการเล่นข่าวรอบใหม่ๆก็จะเป็นช่วงเดือนกันยายนอีกครั้ง

ทางตลาดหุ้นสหรัฐในปีนี้นั้นอาจจะเกิด Sell in May ได้จริงๆ

หลังจากดัชนี Dow Jones และ S&P500 นั้นได้โดนเทขายไปกว่า -4% แล้วตั้งแต่เปิดเดือนมา โดยทางเทคนิคนั้นดัชนีหุ้นสหรัฐทั้งคู่นั้นได้เด้งจากจุดต่ำสุดของปีขึ้นมา 61.8% พอดีหรือเข้าหลักการ Retracement ของ Fibonanci เป๊ะๆ (รูปแนบในคอมเม้นท์) ทำให้อาจเกิดแรงเทขายทางเทคนิคเดือนนี้ ประกอบกับเรื่องความตึงเครียดที่รัฐบาลสหรัฐจะขึ้นภาษีการค้ากับจีนอีกรอบนั้นอาจจะกดดันตลาดได้ทั้งเดือนเช่นกัน

ทางด้านตลาดหุ้นไทยนั้น จะเป็นอย่างไร ?

ส่วนตัวไม่ได้ติดตามตลาดนี้อย่างใกล้ชิดนะครับ แต่เห็นว่ากำลังเข้าจุดตัดสำคัญจึงเขียนมาแชร์มุมมองที่อาจพอเป็นประโยชน์ โดยหากดูสถิติย้อนหลังไป 10 ปีล่าสุด ดัชนีตลาดหุ้นไทย SET ในเดือนพฤษภาคมนั้นจะปรับลดลงถึง 7 ปี จาก 10 ปี ทำให้ปีนี้ก็อาจมีโอกาสปรับตัวลดลงได้เช่นกัน

โดยหากดูจากจุดเส้นตัดระหว่างแนวรับระยะสั้นกับแนวต้านระยะกลางที่กำลังจะมาบรรจบกันในเดือนนี้ (เส้นสีแดง) ทำให้เชื่อว่าตลาดกำลังจะเปลี่ยนทิศทางในระยะสั้นอีกครั้ง (ต้องมีเส้นใดเส้นหนึ่งที่หลุด)

อีกสิ่งที่ควรคำนึงไว้ในใจคือตลาดหุ้นของไทยนั้นก็มี Gap อยู่หลายจุดทั้งบนและล่าง ทำให้หากตลาดเปลี่ยนทิศนั้นราคาอาจจะวิ่งได้แรงจนกว่า Gap เหล่านั้นจะถึงเป้า หากตลาดโดนเทขายในช่วงเปิดอาทิตย์นี้ตามดัชนีหลักๆทั่วโลก มีความเป็นไปได้ที่ Sell in May จะทำให้ดัชนี SET ลงไปปิด Gap ที่ 1,160 จุด

แต่ถ้าตลาดยังคงยืนอยู่เหนือแนวรับระยะสั้นที่ลากเป็นเส้นสีแดงให้ดูได้นั้น เชื่อว่าตลาดอาจจะเทรนด์ต่อเนื่องขึ้นไปปิด Gap บนที่ 1,350-1,400 จุดได้เช่นเดียวกัน และหากเป็นจริงและดัชนี SET สามารถยืนเหนือแนวต้านระยะกลางได้นั้น เราอาจจะไม่เห็น Gap ที่ 1,160 จุดโดนปิดอีกแล้วในปีนี้ และตลาดหุ้นไทยน่าจะผ่านจุดที่ต่ำที่สุดของปีไปแล้วทางเทคนิค

ที่กล่าวมานั้นเป็นมุมมองทางเทคนิค แต่ถ้าตาม #ปัจจัยพื้นฐาน นั้น

เราคงต้องจับตาดูว่ามาตรการผ่อนคลายในการเปิดพื้นที่ต่างๆเป็นอย่างไรบ้าง ? ตัวเลขผู้ติดเชื้อในไทยจะมีการดีดขึ้นไหม ? การกลับมาเปิดธุรกิจต่างๆมากขึ้นจะยังมีความต้องการใช้จากประชาชนที่สูงไหม ? หรือทุกฝ่ายจะกลัวเรื่องการติดไวรัสจนการจับจ่ายยังไม่กระเตื้อง ? และแน่ๆนอนคือผลประกอบการของบริษัทต่างๆที่กำลังจะประกาศออกมา

#ขอย้ำอีกครั้งว่านี่คือความเห็นส่วนตัว ของผู้ที่ไม่ได้ดูตลาดนี้เป็นหลักนะครับ #ไม่ได้มีเจตนาชี้นำในการลงทุนแต่อย่างใด แต่อย่างจะแชร์ข้อมูลสำคัญบางอย่างที่อาจเป็นประโยชน์

⛔️ ท่านใดไม่อยากพลาดข่าวสารในตลาดจากทีมงาน แนะนำให้กด Like ที่โพสต์เรื่อยๆ หรือกดตั้งค่า “เห็นโพสต์ก่อน” หรือ See First ไว้ที่เมนูมุมขวาบนของเพจได้เลยครับ ไม่งั้นทาง Facebook จะไม่ค่อยแสดงโพสต์ของทีมเราที่อัพเดทใหม่ๆครับ

#OilTradingKP

 

#ทรัมพ์VSบุช
#กระดูกที่ต่างเบอร์

เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา อยู่ดีๆ ท่านอดีตประธานาธิบดี จอร์ช ดับเบิ้ลยู. บุช ได้ปล่อยคลิปวิดีโอความยาวเกือบ 3 นาที เนื้อหาเป็นสาส์นให้กำลังใจชาวอเมริกันสู้ภัย Covid-19

คำบรรยายนั้น เป็นเสียงของบุชแน่นอน ส่วนภาพในคลิปล้วนเป็นภาพของประชาชนชาวอเมริกันที่มีหลากหลายกลุ่มตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน โดยท่านบุช (คนลูก) ได้โยงให้เห็นว่า ชาวอเมริกันเคยผ่านประสบการณ์เลวร้ายอย่างเหตุการณ์ 9/11 มาแล้ว ภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ก็เคยมาแล้ว แต่พวกเราผ่านมาได้ เพราะความรัก และเป็นหนึ่งเดียวกัน และวิกฤติครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน

และช่วงท้ายๆคลิป อดีตประธานาธิบดีบุชได้กว่าว่า

"We are not partisan combatants. We are human beings, equally vulnerable and equally wonderful in the sight of God. We rise or fall together, and we are determined to rise."

"พวกเราไม่ใช่คนที่ชอบต่อสู้เลือกข้าง แบ่งฝ่าย เรามีความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกัน ในสายตาของพระเจ้า เราทุกคนล้วนมีทั้งความอ่อนแอ และ ความมหัศจรรย์ในตัวเอง พวกเราต่างล้มลุกคลุกคลานมาด้วยกัน แต่วันนี้พวกเราต้องลุกขึ้นมาให้ได้"

คลิปสาส์นจากบุช

โดยรวมแล้ว เนื้อหาในคลิปของบุช ทำได้ดีมาก ดึงชาวอเมริกันให้กลับมายืนในจุดร่วมเดียวกัน และเรียกร้องความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เพื่อจะฝ่าวิกฤติไปให้ได้ เหมือนอย่างที่แล้วมา

ในคลิปบุช ได้บอกทุกอย่างที่อยากจะบอกกับชาวอเมริกันแล้ว ขาดอยู่อย่างเดียวเลยคือ บุชไม่ได้กล่าวถึงทรัมพ์

หลังจากที่ปล่อยคลิปออกมา ก็ได้รับเสียงชื่นชมจากชาวอเมริกันเป็นจำนวนมาก ช่างเป็นคลิปที่สมศักดิ์ศรีอดีตประธานาธิบดี 2 สมัยจริงๆ

บางคนถึงกลับเอาคลิปของ บุช ไปเปรียบเทียบกับคลิปหาเสียงของทรัมพ์ ที่ก็ปล่อยออกมาในช่วงใกล้เคียงกัน ที่เน้นแต่เนื้อหาเสียดสีฝ่ายตรงข้าม เหมือนเอาเสี่ยอ่างมาตบหน้ากลางสี่แยก

ซึ่งเรื่องแบบนี้ เสี่ยแกเคยยอมใครที่ไหน

แล้วก็ไม่พ้นสื่อมวลชนสาย Pro-ทรัมพ์ อย่าง Fox News ได้ออกมาโจมตีคลิปของบุช ในข้อความที่บอกว่าให้เลิกเลือกข้าง แบ่งฝ่าย แล้วมาร่วมมือกันว่า ทีตอนที่ท่านทรัมพ์ต้องต่อสู้คดีถอดถอนตามลำพัง ทำไมท่านบุชไม่ออกมาพูดอะไรบ้าง ไหนว่าไม่เลือกข้าง ต้องช่วยเหลือพวกพ้องกันไง

แล้วก็ไม่พ้นสายตายอดนักทวิตในตำนานอย่างเสี่ยอ่าง จัดการโคทข้อความของนักข่าวมาใส่ใน Twitter ว่า

@PeteHegseth “Oh bye the way, I appreciate the message from former President Bush, but where was he during Impeachment calling for putting partisanship aside.”

@foxandfriends He was nowhere to be found in speaking up against the greatest Hoax in American history!

@PeteHegseth "โอ้ ถึงหยังไงก็ดี ผมซาบซึ้งสาส์นจากอดีตประธานาธิบดีบุชนะ แต่ว่าเขาหายไปไหนตอนผมโดนคดีถอดถอนแล้วบอกว่าอย่าเลือกข้าง

@foxandfriends เขาไม่รู้ไปอยู่ที่ไหนตอนที่ผมต้องไปแก้ต่างเถียงสู้กับไอ้พวกขี้หก หลอกลวงที่สุดในประวัติศาสตร์ของอเมริกา!

ฟังถึงตรงนี้ หลายคนอาจสงสัย เสี่ยอ่างไม่ถูกกับบุชมาก่อนอย่างนั้นหรือ

จะเรียกว่าไม่ถูกกันก็ไม่เชิงเสียทีเดียว แต่ก็คงไม่ค่อยชอบหน้ากันเท่าไหร่นัก

เพราะช่วงหาเสียงเลือกตั้งสมัยที่แล้ว ปี 2016 เสี่ยอ่างแกชอบแขวะ ชอบโจมตีนโยบายส่งทหารไปอิรักของบ้านบุช ทั้งพ่อ ทั้งลูก และยังหละหลวมปล่อยให้ผู้ก่อการร้ายเข้าประเทศ จนเกิดเหตุการณ์ 9/11 แล้วก็ยังสร้างปัญหาต่อด้วยการเปิดสงครามอาฟกานิสถานจนยืดเยื้อนานถึง 18 ปี ที่เสี่ยอ่างเพิ่งส่งคนไปเจรจาหย่าศึกกับตาลีบันแล้วถอนทหารออกมานั่นไง

ถามว่า ก็อยู่รีพับลิกันพรรคเดียวกันไม่ใช่หรือ? โจมตีกันเองทำไม?

นั่นก็เพราะว่าตอนเลือกตั้งสมัยที่แล้ว บ้านบุช ส่งน้องชายคนเล็ก เจ๊บ บุช มาลงแข่งด้วย แล้วต้องมาชนกับเสี่ยตอนศึกหยั่งเสียงเลือกตัวแทนพรรค ซึ่งก็โดน ทรัมพ์ ซัดเละในประเด็นสงครามอิรัก จนต้องแพ้ขอจอดป้ายถอนตัวก่อนใครอย่างไปเจ็บๆ

หลังจากนั้น ทรัมพ์ และ บุช ก็เย็นชากันมาตลอด ถึงขนาดที่อดีตประธานาธิบดีบุช (คนพ่อ) บอกเลยว่าจะไปโหวตให้ ฮิลลารี คลินตัน ดีกว่า ส่วนบุช (คนลูก) ถึงกลับประชดว่า "สงสัยผมจะได้เป็นประธานาธิบดีคนสุดท้ายของรีพับลิกันเสียหล่ะมั้ง"

แต่สุดท้าย รีพับลิกัน ก็ได้ประธานาธิบดีประดับ Hall of Fame ของพรรคเพิ่มอีก 1 คนที่ชื่อ โดนัลด์ เจ. ทรัมพ์

เคยมีหลายคน แนะนำว่า เสี่ยอ่างน่าจะไปขอคำปรึกษารุ่นพี่อย่างบุช ที่มีประสบการณ์ในตำแหน่งถึง 2 สมัยว่าควรทำงานในทำเนียบอย่างไร ซึ่งเสี่ยอ่างก็ตอบปฏิเสธอย่างไม่แยแสว่า ไม่มีความจำเป็นแต่อย่างใด

แต่วิกฤติคราวนี้ มันคงถึงคราวจำเป็นแล้วค่ะเสี่ย เพราะอย่าลืมว่า จอร์จ บุช (คนลูก) นั้นเป็นประธานาธิบดีที่เคยผ่านทั้งเหตุการณ์ 9/11 และ เฮอริเคนแคทรีนา ที่เป็นพายุไซโคลนระดับ 5 ลูกใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐมาแล้ว เคยรับมือกับชาวอเมริกันเกือบทั้งประเทศที่ใจแหลกสลายด้วยความหวาดกลัว สิ้นหวังมามากมาย

และยังเคยเขียนถ่ายทอดเรื่องราวประสบการณ์ส่วนตัวใน หนังสือชื่อว่า Decision Points ที่เคยติดอันดับ 1 หนังสือขายดี ยอดขายทะลุ 2 ล้านก๊อปปี้ภายในเวลาไม่ถึง 2 เดือน

จากคลิปของบุช ก็พอจะบอกได้ถึงความเหนือชั้นในการเข้าถึงใจชาวอเมริกันส่วนใหญ่ ในยามวิกฤติ หากสื่อสารได้ถูกจุด ก็แปลงเป็นคะแนนเสียงได้ไม่ยาก

แต่คิดว่าเสี่ยทรัมพ์ ก็คงไม่สนใจ เพราะเสี่ยเขาก็มี way เป็นของตัวเองหล่ะค่า

แหล่งข้อมูล

https://www.usatoday.com/story/news...ge-w-bush-after-coronavirus-video/3074822001/
https://www.vox.com/2020/5/3/21245726/trump-tweets-bush-coronavirus-bipartisan-unity-plague

https://en.m.wikipedia.org/wiki/Decision_Points

 

#หนังใหญ่เลื่อนไปเราจะได้ดูเมื่อไหร่

สถานการณ์ Covid ชีวิตมันเศร้า เพราะเราต้องช่วยกันอยู่บ้าน ห้างร้านก็ปิด จะดู Netflix มันก็ไม่ได้อารมณ์ตูมตาม เหมือนเราไปดูหนังในโรง แต่พอเกิดวิกฤติโรคระบาด ที่ติดต่อกันง่ายดาย เพียงแค่นั่งใกล้ชิดติดกัน เลยทำให้หลายประเทศทั่วโลกจำเป็นต้องปิดโรงภาพยนตร์ไปก่อนชั่วคราว เพื่อความปลอดภัย

เลยทำให้หนังฮอลลิวู้ดดังๆ ที่เราคาดหวังว่าจะได้ชมกันในปีนี้ บางเรื่องต้องเลื่อนโปรแกรมออกไปอย่างไม่มีกำหนด หรือบางเรื่องมีกำหนดฉายใหม่แล้ว ก็มีสิทธิ์จะเลื่อนอีกถ้าสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น

วันนี้เราลองมาดูกันว่า มีหนังใหญ่ หนังดังเรื่องใดบ้าง ที่หลายคนรอคอย แต่ต้องเลื่อนไปเพราะติด Covid-19 ที่ยังพอมีหวังว่าเราอาจจะได้ชมในครึ่งปีหลังนี้ก็ได้

- Black Widow แม่หม้ายดำของค่ายมาร์เวล ที่เชื่อว่าหลายคนกำลังรอคอย นำแสดงโดย สการ์เลต โจแฮนสัน จากโปรแกรมเดิม ควรจะได้เข้าโรงฉายตัั้งแต่วันแรงงานที่ผ่านมาแล้ว แต่ต้องเลื่อนไปก่อน ล่าสุดกำหนดรอบฉายใหม่ ที่ 6 พฤศจิกายนปีนี้ค่ะ

- Wonder Woman 1984 หนังซุปเปอร์ฮีโร่สาวอีกเรื่องของค่าย DC ที่จำเป็นต้องย้ายหนี Covid เช่นเดียวกัน จากเดิมที่จะต้องเข้าฉายในเดือนมิถุนายน แต่ของถอยโปรแกรมไปตั้งหลักใหม่ในวันที่ 14 สิงหาคม 2020

- Top Gun: Maverick หนังภาคต่อของทอม ครูซ ที่กลับมารับบทพระเอกคนดี คนเดิม ของเรา หลังจากจบภาคแรกไปแล้วถึง 34 ปี ได้ข่าวว่าสร้างภาคต่อ ดาวก็ตื่นเต้นมาก ไปซ้อมร้องเพลง "Take my breath away" ตั้งแต่ปีที่แล้ว ปรากฏว่าเลื่อนจาก วันที่ 25 มิถุนายน กลายเป็น 23 ธันวาคม เกือบปิดท้ายปีเลยนะคะ

- 007: No Time to Die หนังสายลับ เจมส์ บอนด์ ภาคที่ 25 ที่ก็โดนเลื่อนฉายมาตัั้งแต่ตุลาคมปีที่แล้ว มาปีนี้กำหนดจะเข้าฉายในเดือนเมษายนก็ไม่รอด ถึงเฮียบอนด์จะบอกว่าเฮียรีบ ไม่มีเวลาจะตาย แต่ถ้าเข้าฉายกำหนดเดิมหล่ะก็ตายแน่นอน ก็เลยต้องเลื่อนมาฉายในวันที่ 25 พฤศจิกายนแทน

- F9 หรือ Fast & Furious 9 ของพี่วิน ก็ไม่เหลือ จากกำหนดจะลงโรงฉายภายในปีนี้ แต่ผู้สร้างคิดว่าหนังควรได้ฉายในบรรยากาศที่ชวนให้โกยเงินดีกว่ามาลุ้นกันหน้าโรงปีนี้ เลยซิ่งไปจองคิวเดือนเมษายน 2021 ปีหน้าโน้นเลยค่ะ

- Mulan หนังเจ้าปัญหาอีกเรื่องของดีสนีย์ ที่โดนเลื่อนมาไม่รู้กี่ครั้งแล้ว ตั้งแต่ม๊อบฮ่องกง ยัน Covid กับโปรแกรมฉายใหม่ในปีนี้ 24 กรกฏาคม นั้นก็ช่างน่าหวาดเสียว ว่าจะได้ฉายจริงหรือไม่ มาลุ้นให้น้องมู่กันนะคะ

- Greyhound ก็เป็นหนังฟอร์มยักษ์ ที่นำแสดงโดย ทอม แฮงค์ ก็เป็นหนังอีกเรื่องที่มีโปรแกรมฉายน่าหมิ่นเหม่ ในวันที่ 12 มิถุนายนปีนี้ ที่คิดว่าน่าจะเลื่อนดีกว่า เพราะคงมีแฟนหนังทั่วโลกหลายคนรอหนังของทอม แฮงค์อยู่ ไม่ว่าเขาจะนำแสดงเรื่องอะไรนะคะ

ก็ต้องมาลุ้นกันดูอีกที ว่าหลังฟอร์มใหญ่ ที่หลายคนกำลังรอชม จะยังคงได้ฉายตามกำหนดใหม่หรือเปล่า ก็หวังว่าเราจะไม่เจอ Covid ลูกสอง ลูกสาม กันแล้วนะคะ เราจะได้เข้าไปชมภาพยนตร์ ในโรงได้อย่างบันเทิงใจกันได้ตามปกติเสียทีนะคะ ใครรอชมหนังเรื่องอะไรอยู่ในปีนี้ ก็คอมเมนท์มาคุยกันได้นะคะ

 

อารยเอกาทศมุขอวโลกิเตศวรโพธิสัตตว์หฤทัยธารณี

ธารณีนี้เป็นเป็นธารณีหัวใจ (หฤทัยธารณี) ของพระอวโลกิเตศวรมหาโพธิสัตตว์ปาง ๑๑ พักตร์ นามว่า "อารยเอกาทศมุข อวโลกิเตศวรโพธิสัตตว์มูลธารณี" "เอกาทศมุข อวโลกิเตศวรโพธิสัตตว์หฤทัยธารณี"
聖十一面, 觀自在菩薩根本咒/十一面觀音心咒.

ธารณีนี้มีคุณานิสงส์มากมาย สวดแล้วสุขภาพจะแข็งแรง อุปสรรค์ไม่มี ฝันร้ายไม่ปรากฎ ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ เผชิญหน้าศัตรูโดยไร้ความพรั่นพรึง
มีเสื้อผ้าอาหารเหลือประมาณ และอีกมากมาย

พระธารณีมีดังนี้ ....

นโม รัตนะ ตระยายะ ǀ นะมะห์ อารยัชญานะ สาคะระ
ไวโรจนะ วยูหะ ราชายะ ตถาคตายะ อรหเต
สัมยักสัมพุทธายะ ǀ

นะมะห์ สรวะ ตถาคเตภยะห์ อรหเตภยะห์
สัมยักสัมพุทเธภยะห์ ǀ
นะมะห์ อารยาวะโลกิเตศวรายะ โพธิสัตตวายะ
มหาสัตตวายะ มหาการุณิกายะ ตัทยะถา ǀ

โอม ธะระ ธะระ ธิริ ธิริ ธุรุ ธุรุ อิตเต วัตเต จะเล จะเล ประจะเล ประจะเล กุสุเม กุสุเม วเร อิลิ มิลิ จิติชวาลัม อาปะนาเย สวาหา ǁ

*********************************************

ภาพ - พระเอาทศมุข อวโลกิเตศวรมหาโพธิสัตตว์.
ที่มาข้อมูล : คลังพุทธศาสนา.
อาราม มหากรุณาพุทธาลัย โรงเจวัดสว่างอารมณ์

 

ฟ้าผ่าควายแม่พันธุ์ตาย 3 ตัวที่อำนาจเจริญ เจ้าของน้ำตาไหลสูญเสียนับแสน
ฟ้าผ่าควายแม่พันธ์ุท้องแก่น้ำหนักกว่าครึ่งตัน 3 ตัวดับอนาถคาคอกที่อำนาจเจริญ จากราคาขายตัวละ 4-5 หมื่น เจ้าของถึงกับทรุดต้องจำใจขายแค่หลักพัน สูญเสียนับแสน บอกเหมือนสูญเสียญาติผู้ใหญ่
Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

 

มาเลเซียเริ่มคลายล็อกดาวน์ สวนทางกับจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น

มาเลเซียเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในวันนี้ หลังจากควบคุมการเดินทางและกิจกรรมประชาชนมานาน 47 วัน โดยธุรกิจส่วนใหญ่สามารถกลับมาเปิดให้บริการภายใต้เงื่อนไขด้านการควบคุมโรคเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นของโรคโควิด-19

ธุรกิจหลายประเภทเริ่มให้บริการได้แล้วในวันนี้มีทั้ง โรงภาพยนตร์ สถานบันเทิงสวนสนุก ตลาดนัด ร้านค้า และร้านอาหาร นอกจากนี้กีฬากลางแจ้งที่ไม่มีการสัมผัสทางกาย ไม่มีคนจำนวนมากสามารถทำได้ และประชาชนสามารถโดยสารในรถยนต์ส่วนบุคคลด้วยกัน 4 คนได้

อย่างไรก็ตามมีอย่างน้อย 6 รัฐจาก 13 รัฐ ได้แก่ เคดาห์ ซาบาห์ ปะหัง ปีนัง กลันตัน และซาราวักที่จะยังไม่ผ่อนคลายล็อกดาวน์ และอีก 3 รัฐ ได้แก่ สลังงอร์ เปรัก และเนกรีเซมบิลันยังจำกัดธุรกิจบางอย่างไม่ให้เปิด และยังห้ามรับประทานในร้านอาหาร รวมทั้งห้ามกิจกรรมทางกีฬาและนันทนาการ

ทั้งนี้รัฐบาลมาเลเซียย้ำเตือนว่า มาตรการควบคุมการเดินทางและกิจกรรมเพื่อควบคุมโรคจะยังมีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 12 พ.ค. และการผ่อนคลายมาตรการครั้งนี้ยังมีเงื่อนไขเรื่องการรักษาสุขอนามัยและการเว้นระยะห่างทางสังคม พร้อมย้ำให้ประชาชนมีวินัยและปฏบัติตามมาตรฐานการดำเนินงานเพื่อลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จนสามารถบรรลุเป้าหมายที่ไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่

ขณะที่สถานการณ์ระบาดยังไม่น่าไว้วางใจ โดยเมื่อวานนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 122 คนซึ่งเป็นตัวเลข 3 หลักวันที่สอง หลังจากช่วง 16 วันที่ผ่านมามีผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นเลข 2 หลัก นอกจากนี้เมื่อวานยังพบผู้ติดเชื้อแบบกลุ่มก้อนจุดใหม่ที่ไซต์งานก่อสร้างแห่งหนึ่งในกรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยมีผู้ติดเชื้อ 28 คน

The post มาเลเซียเริ่มคลายล็อกดาวน์ สวนทางกับจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น appeared first on SpringNews.

Source : #Springnews #สปริงนิวส์