ติดตามสถานะการณ์

Bank of Thailand Scholarship Students


(Jun 6) IMF เตือนสงครามการค้าสหรัฐ VS จีนกระทบ GDP โลกกว่า 4 แสนล้านดอลล์ปีหน้า : นางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวว่า สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะกระทบตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของโลกราว 0.5% ภายในปี 2563 คิดเป็นมูลค่า 4.55 แสนล้านดอลลาร์


"มีความกังวลเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับผลกระทบจากความตึงเครียดทางการค้าในขณะนี้ โดยมาตรการเก็บภาษีจากสหรัฐและจีนจะลดการลงทุน, ประสิทธิภาพการผลิต และการขยายตัว โดยมาตรการเรียกเก็บภาษีต่อเม็กซิโกที่สหรัฐจะนำมาใช้ในสัปดาห์หน้าก็ถือเป็นปัจจัยที่สร้างความวิตก" นางลาการ์ดกล่าว


นางลาการ์ดยังระบุว่า มีหลักฐานบ่งชี้ว่า สหรัฐ จีน และเศรษฐกิจโลก เป็นผู้ที่เสียหายจากความตึงเครียดทางการค้าที่เกิดขึ้นในขณะนี้

อย่างไรก็ดี IMF เปิดเผยว่า เศรษฐกิจโลกจะขยายตัวมากขึ้นในปีหน้า จากการที่ธนาคารกลางของประเทศต่างๆได้หันมาใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน ซึ่งทำให้มีการฟื้นตัวของกระแสเงินทุน และทำให้เศรษฐกิจโลกขยายตัว 3.6% ในปีหน้า จาก 3.3% ในปีนี้


ขณะเดียวกัน IMF ก็ได้เตือนว่า การฟื้นตัวอาจตามมาด้วยความเสี่ยงในช่วงขาลง ขณะที่ความตึงเครียดทางการค้าอาจมีความรุนแรงขึ้น และอังกฤษอาจแยกตัวจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยไม่มีการทำข้อตกลง


Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ


- Trade war could wipe $455 billion off global GDP next year, IMF warns: https://www.cnbc.com/2019/06/05/imf-sees-tentative-signs-that-global-growth-is-stablizing.html

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Jun 5) 'เฟด'อาจจำเป็นต้องลดดอกเบี้ยเร็วนี้ เพิ่มเงินเฟ้อ-ต้านความเสี่ยงจากสงครามการค้า - เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐชี้ “เฟด” อาจจำเป็นต้องลดอัตราดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้เพื่อเพิ่มเงินเฟ้อและตอบโต้ต่อความเสี่ยงทางเศรษฐกิจในด้านลบจากสงครามการค้าที่กำลังทวีความรุนแรงมากขึ้น



เจมส์ บัลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐเซนต์ หลุยส์ ได้แสดงความเห็นในชิคาโกเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า อาจจะต้องปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงในเร็ว ๆ นี้เพื่อช่วยทำให้เกิดเงินเฟ้ออีกครั้งและช่วยให้การคาดการณ์เงินเฟ้อเป็นไปตามเป้า และยังเป็นการรับประกันในระดับหนึ่งในกรณีที่เศรษฐกิจชะลอตัวมากกว่าที่คาด



“ผลกระทบโดยตรงของการจำกัดทางการค้าที่มีต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ค่อนข้างน้อย แต่ผลกระทบต่อตลาดการเงินทั่วโลกอาจจะมากกว่า” บัลลาร์ด กล่าว



ความเห็นของบัลลาร์ดถือเป็นการแสดงความเห็นเป็นครั้งแรกของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐที่ได้ชี้ในที่สาธารณะว่าจำเป็นต้องลดอัตราดอกเบี้ยนับตั้งแต่เฟดได้คงอัตราดอกเบี้ยเมื่อเดือนมกราคม ซึ่งในตอนนั้นเฟดสัญญาว่าจะ “อดทน” เมื่อพิจารณาผลกระทบจากการเติบโตที่ลดลงทั่วโลกและวิกฤติจากสงครามการค้า



ในขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เรียกร้องให้ธนาคารกลางสหรัฐลดอัตราดอกเบี้ย 1% และนักลงทุนเดิมพันกันมากขึ้นว่าเฟดจะผ่อนคลายนโยบายหลังจากที่ทรัมป์ขู่เก็บภาษีเม็กซิโกเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐคนอื่น ๆ ย้ำว่านโยบายของพวกเขายังคงเหมาะสม



แมรี่ ดาลี่ ประธานธนาคารกลางซานฟรานซิสโก ได้กล่าวในสิงคโปร์เมื่อวันจันทร์ว่า ไม่อยากให้โฟกัสไปที่การค้าเท่านั้นมากเกินไปเนื่องจากยังมีความไม่แน่นอนอื่น ๆ ที่ต้องแก้เช่นกัน แต่ริชาร์ด คลาริดา รองประธานธนาคารกลางสหรัฐเปิดกว้างต่อการลดดอกเบี้ยเมื่อได้แสดงความเห็นวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่าเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐกำลังจับตาความเสี่ยงที่มีต่อแนวโน้ม



บัลลาร์ด เป็นหนึ่งในสมาชิกที่อยากให้เฟดดำเนินนโยบายเงินไม่รุนแรงและเป็นคณะกรรมการนโยบายเงินที่มีสิทธิ์ออกเสียง



นีล แคชคาริ ประธานธนาคารกลางนินเนอาโปลิส ซึ่งเป็นผู้ที่คัดค้านการขึ้นดอกเบี้ยเช่นเดียวกับบัลลาร์ดในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ได้ให้สัมภาษณ์กับบลูมเบิร์กทีวีเมื่อวันศุกร์ว่า ยังไม่เห็นว่ามีความจำเป็นที่ต้องผ่อนคลายนโยบาย และบัลลาร์ดก็ได้กล่าวเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะลดดอกเบี้ย



ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปรับตัวลงต่อในช่วงเช้าวันจันทร์ ทำให้ดัชนีต่ำกว่าสถิติสูงสุดที่ทำไว้เมื่อวันที่ 30 เมษายน 7% เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซบเซาลงและมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับการขู่ของทรัมป์ที่จะจำกัดการค้าทั่วโลกเพิ่มอีก



เจ้าหน้าที่เฟดยังเป็นกังวลที่ภาวะเงินเฟ้อต่ำ โดยได้ต่ำกว่าเป้าหมายที่เฟดวางไว้ 2% มาอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงที่เศรษฐกิจขยายตัว นอกจากนี้ยังกังวลผลกระทบเกี่ยวกับการคาดการณ์เงินเฟ้อด้วย



เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐจะประชุมร่วมกับนักวิชาการชั้นนำในวันอังคารและวันพุธนี้ในชิคาโกเพื่อถกเถียงเกี่ยวกับปัญหานี้



บัลลาร์ด กล่าวว่า ดูเหมือนว่าตลาดการเงินจะคาดการณ์ว่าการเติบโตและเงินเฟ้อจะน้อยกว่าที่คณะกรรมการนโยบายเงินคาด ซึ่งเป็นสัญญาณว่า การกำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอาจจะจำกัดมากเกินไปสำหรับภาวะแวดล้อมในขณะนี้ และถึงแม้ว่าการชะลอตัวไม่ได้รุนแรงเหมือนที่คาด การลดอัตราดอกเบี้ยจะเป็นวิธีเดียวที่เงินเฟ้อและการคาดการณ์เงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมายอย่างรวดเร็วมากขึ้น



ในการพูดกับผู้สื่อข่าวหลังการปราศรัย บัลลาร์ด อ้างว่า เงินเฟ้อที่ต่ำอยู่ การค้า และผลตอบแทนพันธบัตรที่เปลี่ยนทิศทางอย่างรุนแรงมากขึ้น เป็นเหตุผลที่เฟดอาจจะลดดอกเบี้ย อย่างไรก็ดี บัลลาร์ดไม่ยอมพูดถึงขนาดในการลดดอกเบี้ยที่เขามีอยู่ในใจหรือเขาจะผลักดันให้มีการลดดอกเบี้ยหรือไม่ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายเงินในวันที่ 18-19 มิถุนายนนี้


Source: ข่าวหุ้น


- Fed’s Bullard Says a Rate Cut May Be Needed ‘Soon’

https://www.bloomberg.com/news/arti...ays-may-need-rate-cut-soon-amid-trade-tension

 

เครื่องบินสอดแนมกองทัพเรือสหรัฐ ถูกเครื่องบินรบรัสเซียบินโฉบเฉี่ยวก่อกวน 3 รอบในระยะเวลาเกือบ 3 ชั่วโมง เมื่อวันอังคาร ในเขตน่านฟ้าสากลเหนือทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทางฝ่ายรัสเซียโต้ เครื่องบินของตนบินขึ้นสกัดเครื่องบินสหรัฐ ที่กำลังบินเข้าหาฐานทัพเรือรัสเซียในซีเรีย....

 

อุณหภูมิ°c ในอินเดีย, ปากีสถาน, คูเวต, อิรักและตะวันออกของอ่าวอาราเบีย

 

... "ไทย : หวังเริ่มใช้ระบบ 5G หัวเหว่ยในปี 2020 ก่อนใครในอาเซี่ยน , ถ้าไม่โดนอเมริกาดับฝัน"


... "อเมริกา" ไม่เชื่อในการค้าเสรีอีกต่อไป ได้อ้างเรื่องว่า "5Gของหัวเหว่ย ของจีนเป็นภัยคุกคามของโลก" เพราะอาจจะเชื่อมโยงกับทางการจีนที่อาจจะมีการจารกรรมข้อมูลที่ทำให้ไม่เกิดความปลอดภัยได้ แต่ก็ไม่มีข้อมูลหลักฐานใดๆ และเอาเรื่องนี้มาขู่คุกคามประเทศอื่นๆ ไม่ได้ปล่อยไปตามความสมัครใจของประเทศนั้นๆ


... ข่าวที่ออกมานั้น หลายชาติคิดว่าเป็นแค่ความสมัครใจ แต่ไม่ใช่ เพราะว่าเนื้อหาข่าวนั้น "อเมริกาจะทนทวนประเมินความสัมพันธ์กับประเทศใดๆที่ยังเชื่อมใช้ระบบส่งสัญญาน 5Gของหัวเหว่ย" แปลว่าถ้าประเทศต่างๆยังขืนใช้หัวเหว่ยนั้นในอนาคตอาจจะโดนตัดสัมพันธ์ ซึ่งความจริงก็คือโดนเล่นงานทางการเมือง หรือทางการค้า ตัดสิทธิพิเศษต่างๆ ตามรูปแบบเกมของอเมริกา


... ดังนั้น ทำให้ประเทศทั่วโลกมีปฏิกิริยาต่างกัน เช่น ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น ไต้หวันนั้นออกตัวแรงแทบจะจะทันทีเลยว่าแบนหัวเหว่ยตามลูกพี่ ขณะที่นิวซีแลนด์แบนชั่วคราว แคนาดากำลังพิจารณาความปลอดภัยอีกครั้ง ขณะที่ซีอีโอลูกสาวหัวเหว่ยยังอยู่ในช่วงประกันตัว


... ขณะที่หลายประเทศในยุโรปเล่นเป็น บอกว่าจะพยายามเข้มงวดเรื่อง "ความปลอดภัยทางไซเบอร์" ให้มากกว่านี้ แต่ยังไม่แบนตามลูกพี่ทันที ซื้อเวลาไปก่อน ส่วนอังกฤษพ่อเก่าของอเมริกานั้นยังขอพิจารณาก่อน ( อาจจะต้องตามอเมริกาทีหลัง เหมือน บีพี บริษัทข้ามชาติน้ำมันยักษ์ใหญ่อังกฤษ ที่สุดท้ายต้องยกเลิกสัญญาลงทุนพลังงานกับรัสเซีย หลังปี 2014 หลังโดนอเมริกาบีบหน้าเขียว )


... ขณะที่ "เกาหลีใต้" กำลังเดินหน้าพัฒนา5Gของตัวเองต่อไป ไม่รอเพื่อนแล้วนะ ไม่มีการเชื่อมโยงกับของหัวเหว่ย รอดตัวจากการข่มขู่จากอเมริกาไป เพราะพวกเขามีสิทธิบัตรของระบบโครงข่าย 5G ของตัวเองกว่า 2,000 รายการ แถมยังช่วยจีนอบรมอีกกว่า 3,400 คน


... แต่แม้อเมริกาจะสร้างเรื่อง "ความปลอดภัยทางไซเบอร์" มาเป็นข้ออ้างในการสกัดหัวเหว่ย แต่ประเทศเล็กๆจนๆทั่วโลกมองว่า "ราคาต่ำกว่าที่มาพร้อมกับคุณภาพที่ดี" ที่มีเหตุผลของหัวเหว่ย นั้นสำคัญกว่าเรื่องความปลอดภัย เพราะประเทศเขาไม่ใช่มหาอำนาจจะได้เกรงกลัวการจารกรรมมากมาย เช่นประเทศในอาเซี่ยน กลับนิยมคบค้าพัฒนา5G ของหัวเหว่ยมาก


... "ไทย" นั้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2019 เป็นรายแรกในประเทศอาเซี่ยนที่ทดสอบระบบโครงสร้างพัฒนา5G ก่อนใคร และคาดว่าจะเร่งเริ่มใช้ระบบนี้ในปี 2020 หรือ 2563 ก่อนทุกชาติ ( ถ้าไม่โดนเมกาบีบเสียก่อน เราจะเข้าสู่ "สังคมออนไลน์แบบสมบูรณ์" ก่อนใคร )


... ขณะที่ประเทศอื่น เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ล้วนลงนามตกลงกับหัวเหว่ยแล้วว่าจะลองทดสอบพัฒนาระบบ 5G ของหัวเหว่ย


... ส่วน "อินเดีย" ก็อยู่เป็น โดยกำลังพิจารณาว่าจะใช้ของหัวเหว่ยหรือไม่ แต่ก็ฉลาดในการถ่วงดุลอำนาจ ไม่ทำให้เสียน้ำใจ เพราะได้เชิญทั้ง หัวเหว่ย และคู่แข่ง เช่น โนเกีย อีริกสัน ซัมซุงมาทดสอบระบบ 5Gในประเทศตัวเองแล้ว


... ปลายเดือนมีนาคม 2019 ที่ผ่านมา "หัวเหว่ย" ได้ลงนามการรับสัญญาเดินหน้าระบบส่งสัญญาณของ5G ไปแล้ว 40 ประเทศทั่วโลก แสดงถึงความสามารถในการพัฒนาและการแข่งขันที่สูงของพวกเขา ที่ในตอน 4G ยังเป็นแค่ผู้บริโภคนวัตกรรมจากตะวันตก และแสดงให้เห็นว่า อิทธิพลการบีบของอเมริกานั้นไม่ได้ผลมากนัก


... เรื่อง 5G นี้นำมาให้อเมริกาต้องออกแรงบีบอีกเรื่องของหัวเหว่ยที่ก็กำลังมาแรงคือ "โทรศัพท์ฉลาด" ในวันที่ 17 พฤษภาคม 2019 ที่ผ่านมา โดยการสั่งให้กูเกิ้ลและซัพไพลเออร์ของอเมริกาและอังกฤษ แบนการร่วมมือหรือให้เทคโนโลยีแก่ "โทรศัพท์ของหัวเหว่ย" จนสะเทือนไปทั่วโลก


... รวมทั้งซัพไพลเอ่อร์จากเอเชียทางด้านนี้กว่า 70 บริษัทก็โดนหางเลขทางอ้อมไปด้วย และจะทำให้กระทบกับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอีกในเวลาต่อมา เพราะว่านอกจากซัพไพลเอ่อร์จากอังกฤษอเมริกาที่ผลิตชิปให้โทรศัพท์์หัวเหว่ยแล้ว หัวเหว่ยยังจ้างโดยตรงกับซัพไพลเอ่อร์จากเอเชีย ผลิตชิ้นส่วนอื่นๆขององค์ประกอบย่อยในมือถืออีกว่า 24 บริษัทด้วย


... แผนการลอบสังหารกิจการของ "หัวเหว่ย" ไปทั่วโลก ที่เป็นเหมือนขุนศึกแม่ทัพหน้าของจีน ยังไม่จบง่ายๆ และต้องจับตาอย่างใกล้ชิดเพราะว่าจะกระทบกับบ้านเราและทั่วโลกอย่างแน่นอน


.


https://www.scmp.com/news/china/art...ness-huawei-wake-trump-trade-blacklist-source

https://www.scmp.com/week-asia/econ...ban-gives-asian-tech-firms-70-billion-reasons

 

สำนักข่าวไทย


นาทีระทึก! ขณะเกิดลมพายุพัดกระหน่ำ ในอำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ ความแรงของลมพัดเอาหลังคาปลิวตกลงมาข้างล่าง ขณะที่ตลาดเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ พังเสียงหายยับ ข้าวของล้มละเนระนาด

 

Thairath

ลมพายุ #เมืองทอง เมื่อวาน แรงน่ากลัวมาก

 

พบดาวเคราะห์นอกระบบในโซนเนปทูเนียน

ดาวเคราะห์นอกระบบ NGTS-4b
Credit : University of Warwick/Mark Garlick

เนปทูเนียน เดสเสิร์ต (Neptunian Desert) เป็นพื้นที่ใกล้กับดาวฤกษ์ที่ได้รับการแผ่รังสีจากดาวฤกษ์อย่างรุนแรง ดังนั้น ดาวเคราะห์ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นี้จะไม่อาจคงสภาพบรรยากาศของก๊าซไว้ได้ โดยจะระเหยออกแกนกลางหิน แต่เมื่อเร็วๆ นี้ทีมนักดาราศาสตร์นานาชาตินำโดยกลุ่มดาราศาสตร์และฟิสิกส์ดาราศาสตร์จากมหาวิทยาลัยวอร์วิค ในอังกฤษ เผยพบความแปลกประหลาดของดาวเคราะห์นอกระบบที่เล็กกว่าดาวเนปจูนในเนปทูเนียน เดสเสิร์ต

ดาวเคราะห์นอกระบบดวงนี้มีชื่อว่า NGTS-4b ถูกค้นพบโดยหอดูดาวท้องฟ้าซีกใต้แห่งยุโรป ตั้งอยู่ใจกลางทะเลทรายอาตาคามา ประเทศชิลี นักดาราศาสตร์ระบุว่าดาวเคราะห์นอกระบบดวงนี้มีขนาดเล็กกว่าดาวเนปจูน แต่มีขนาดใหญ่กว่าโลกถึง 3 เท่า มีมวลมากกว่าโลก 20 เท่า รัศมีน้อยกว่าดาวเนปจูน 20% และมีอุณหภูมิ 1,000 องศาเซลเซียส โคจรรอบดาวฤกษ์ของตนในเวลาเพียง 1.3 วัน ถือว่าเป็นดาวเคราะห์นอกระบบดวงแรก ที่พบในเขตเนปทูเนียน เดสเสิร์ต

นักดาราศาสตร์เชื่อว่าดาวเคราะห์ NGTS-4b อาจจะเคลื่อนตัวเข้าสู่ทะเลทรายเนปจูนเมื่อราวๆ 1,000,000 ปีที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านั้นมันน่าจะมีขนาดใหญ่มากกว่านี้ แต่บรรยากาศค่อยๆระเหยไปเรื่อยๆ แต่ก็มองว่าดาวเคราะห์ดวงนี้ต้องแข็งแรงมากเพราะสามารถอยู่ในโซนที่คาดการณ์ว่าดาวเคราะห์ขนาดเท่าดาวเนปจูนไม่น่าจะอยู่รอดได้ ซึ่งเป็นเรื่องน่าทึ่ง.


https://www.thairath.co.th/news/foreign/1584853

 

“สภาพัฒน์” เผยหนี้ครัวเรือนไทยพุ่งติดอันดับ 10 ของโลก-ห่วงเศรษฐกิจทรุดกระทบจ่ายหนี้
วันพฤหัส 06 มิถุนายน 2562 / 16:15 น.


“สภาพัฒน์” เผยหนี้ครัวเรือนไทยพุ่งแตะ 12.8 ล้านล้านบาท สัดส่วนหนี้ต่อจีดีพีสูงติดอันดับ 10 ของโลก ห่วงไตรมาส 2 หนี้ทะยานต่อเนื่อง เหตุกู้ซื้อบ้าน-รถยนต์ ขณะที่หนี้เสียไตรมาสแรกเพิ่มขึ้น 9% สูงสุดในรอบ 13 ไตรมาส

เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ แถลงรายงานภาวะสังคมไทยไตรมาส 1/2562 ว่า ไตรมาส 4 ปี 2561 หนี้สินครัวเรือนไทยเท่ากับ 12.8 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และคิดเป็นสัดส่วน 78.6% ต่อ GDP ขณะที่หนี้สินครัวเรือนดังกล่าวเป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 2 ติดต่อกัน

นอกจากนี้ เมื่อเทียบกับต่างประเทศ พบว่าประเทศไทยมีสัดส่วนหนี้สินครัวเรือนต่อ GDP อยู่ในอันดับที่ 10 จาก 89 ประเทศทั่วโลก และเป็นอันดับที่ 3 จาก 29 ประเทศในเอเชีย

สำหรับไตรมาส 1 ปี 2562 หนี้สินครัวเรือนยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยพิจารณาจากยอดคงค้างสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคลของธนาคารพาณิชย์ขยายตัว 10.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเป็นการขยายตัวสูงสุดในรอบ 5 ปี นับตั้งแต่ไตรมาสสองปี 2557 เป็นต้นมา ซึ่งเป็นผลจาก

1.การเร่งก่อหนี้ก่อนการบังคับใช้มาตรการกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยใหม่ (LTV) ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.2562 เป็นต้นไป ทำให้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น 9.1% สอดคล้องกับการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทั่วประเทศในไตรมาสแรกของปี 2562 ที่ขยายตัว 13.5%

2.ความต้องการรถยนต์โดยมีแรงจูงใจจากคุณสมบัติของรถรุ่นใหม่ และมาตรการส่งเสริมการขายรถยนต์ในงาน Motor Show 2019 (25 มี.ค.-7 เม.ย.2562) ซึ่งทำให้สินเชื่อเพื่อการเช่าซื้อรถยนต์

3.การส่งเสริมการขายการโฆษณาประชาสัมพันธ์ และเงื่อนไขการผ่อนชำระที่จูงใจ



นายทศพร กล่าวว่า ในส่วนของคุณภาพสินเชื่อโดยรวมยังคงทรงตัว แต่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด โดยในไตรมาส 1 ปี 2562 หนี้เพื่อการอุปโภคบริโภคที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ขยายตัว 9.0% เทียบกับ 9.1% ในไตรมาสก่อน คิดเป็นสัดส่วน 2.75% ต่อสินเชื่อรวม และสัดส่วน 27.8% ต่อ NPLs รวม ซึ่งสูงสุดในรอบ 13 ไตรมาสนับตั้งแต่ไตรมาส 1 ปี 2559 เป็นต้นมา และส่งผลให้มีสัดส่วนสูงสุดเมื่อเทียบกับสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ในประเภทธุรกิจอื่นๆ

ส่วนสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้กำกับยังคงมีมูลค่ารวมอยู่ในระดับสูง ในขณะที่ยอดสินเชื่อผิดนัดชำระหนี้เกิน 3 เดือนขึ้นไปของสินเชื่อบัตรเครดิตปรับตัวลดลง 3.6% เทียบกับการขยายตัว 0.3% ในไตรมาสที่ผ่านมา

“หนี้สินครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่กลางปี 2561 และภาวะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงจากปีที่แล้ว อาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการจับจ่ายใช้สอย และความสามารถในการชำระหนี้ของครัวเรือน”นายทศพรกล่าว

สำหรับประเด็นสำคัญที่ต้องติดตำมอย่างใกล้ชิด ได้แก่ 1.การก่อหนี้เพื่อที่อยู่อาศัยของครัวเรือนภายหลังการบังคับใช้มาตรการกำกับดูแลสินเชื่อใหม่ โดยคาดว่าจะมีแนวโน้มชะลอตัวลง และทำให้หนี้สินครัวเรือนเพิ่มขึ้นในอัตราชะลอตัว เนื่องจากสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยเป็นสัดส่วนประมาณ 49.9% ของสินเชื่อเพื่ออุปโภคบริโภคส่วนบุคคล และ2.การขยายตัวของสินเชื่อเพื่อกำรบริโภคส่วนบุคคลอื่นๆ รวมถึงบัตรเครดิตอาจมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น

นอกจากนี้ ภาครัฐยังควรให้ความสำคัญกับการกำหนดมาตรการต่างๆ เพื่อกำกับดูแลและควบคุมการปล่อยสินเชื่อให้รัดกุมและมีความเหมาะสมยิ่งขึ้น อาทิ 1.การออกแบบมาตรการกกำกับดูแลการปล่อยสินเชื่อ เพื่อลดความเสี่ยงจากการปล่อยกู้ให้กับกลุ่มที่มีภาระหนี้สูง โดยเฉพาะมาตรการเกี่ยวกับสัดส่วนภาระหนี้ต่อรายได้(DSR) 2.การออกมาตรการกำกับดูแลการปล่อยสินเชื่อรถยนต์ เนื่องจากคุณภาพของสินเชื่อรถยนต์ที่มีแนวโน้มลดลง

3.การติดตามมาตรการกำกับดูแลธุรกิจสินเชื่อที่มีรถยนต์เป็นหลักประกันให้ประชาชนสามารถเข้าถึงได้อย่างเป็นธรรมและมีอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสม 4.การเร่งประชำสัมพันธ์โครงการคลินิกแก้หนี้ ระยะที่ 2 และ5.การกำกับดูแลการปล่อยสินเชื่อให้แก่ลูกหนี้รายเดิมและรายใหม่ให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงของรูปแบบการก่อหนี้ครัวเรือนมากยิ่งขึ้น


https://www.brighttv.co.th/latest-news/388325

 

เสียงปริ่มน้ำ ถ้าหักหลัง ก็น่าจะพบจุดจบ


"ปชป"ดักคอ"พปชร."อย่าคิดบิดพลิ้วข้อตกลงเดิม ดึงกระทรวงสำคัญคืนอย่าคิดว่าอ้อยเข้าปากช้างแล้ว ผีถึงป่าช้าแล้วยังไงไม่ฝังก็เผา ไม่เช่นนั้นรัฐบาลลำบากแน่

https://www.posttoday.com/politic/news/591371

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

สิ่งนี้เกิดขึ้นใน # เยอรมนี - ว้าวที่กลางถนน # 6 มิถุนายน

Esto sucede en #Alemania - Wow en medio de la carretera #6jun

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

เมฆที่น่ากลัว ใน #Oman # 6 มิถุนายน

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

วัตถุหรืออุกกาบาตในพื้นที่ส่วนใหญ่ของ Rio Grande do Sul ข้อมูลเกี่ยวกับการพบเห็นที่ชายแดนอุรุกวัย, Planalto Médioแ ละ Litoral Norte # 6 มิถุนายน

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

วิดีโอถูกบันทึกในช่วงเวลาของการพังทลายบนท้องถนนสู่ Llano ในช่วงบ่ายของวันพุธนี้ เหตุการณ์เกิดขึ้นในภาคของ Guayabetal แต่ไม่ส่งผลต่อความคล่องตัวของยานพาหนะ #Colombia และไม่มีฝนตกลงมา

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

El salvador ถูกกระแสน้ำกระอย่างแรงที่ Libertad port # 6 มิถุนายน

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra
#ประเทศ El Salvador จับภาพวิดีโอเมื่อวันที่ 5 มิถุนายนเวลา 16.00 น. โดยนักสังเกตการณ์ท้องถิ่นในท่าเรือ La Libertad ที่มีการพบ คลื่น หินกระทบกับท่าเรือ

 

... "รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมหญิงแกร่งมาเลเซียหยุดรับขยะจากประเทศรวย"
... ในปี 2018, "จีน" เป็นประเทศแรกในย่านเอเชียที่ประกาศหยุดรับขยะจากประเทศรวย ทั้งรีไซเคิลได้ ไม่ได้ พลาสติค จบเสียทีกับบทบาท "บ่อขยะของโลก" และตามมาด้วยหลายประเทศที่เคลื่อนไหวในทางเดียวกัน
... ขยะแค่บางส่วนเท่านั้นที่รีไซเคิ้ลได้ แถมระบบรีไซเคิ้ลที่มีประสิทธิภาพจริงๆยังน้อย, ที่เหลือต้องฝังกลบ และเผาทำลาย ที่ทำให้เกิดควันไฟพิษทำลายสุขภาพของประเทศ , (ไทยก็โดนเรื่องนี้ ไม่ใช่ไฟไหม้จากการเผาการเกษตร )
... ปลายเดือนพฤษภาคม 2019, รัฐมนตรีหญิงแกร่งของกระทรวงสิ่งแวดล้อมมาเลเซีย ประกาศออกสื่อให้นานาชาติเห็นอย่างกล้าหาญ ( ดูในคลิป องอาจสง่างามมาก )ว่าจะไม่รับขยะเหล่านั้นอีกต่อไป เดือดร้อนทั้ง อเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น ต้องดิ้นรนหาที่ใหม่ (ต้องตรวจสอบว่าเป็นบ้านเราหรือเปล่า )
... ก่อนหน้านั้น 23 เมษายน 2019, เธอก็ประกาศเสียงดังไม่ไว้หน้าประเทศใหญ่อย่าง "อเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย และเยอรมัน" ว่าประเทศเหล่านั้นส่งขยะมาทิ้งที่มาเลเซียอย่างผิดกฏหมาย ( หญิงแกร่ง เก่งจริง ต้องดูตอนนี้ )
... "ไทย" ของเราก็ประกาศตามจีนมาติดๆ บอกว่าจะประกาศหยุดรับในปี 2020 หรือ 2563 ( รัฐบาลระบบเลือกตั้งที่ผ่านมาไม่เคยสนใจปัญหาสิ่งแวดล้อม ลุงเขียวกล้าประกาศไม่รับ แม้ต้องรออีกสองปี ในตอนประกาศ , แถมสมัยลุงเขียว คูคลองสะอาด ไม่มีแผงลอยหาบเร่ , เช่น วัดบางเพ็งใต้ ถนนรามคำแหง สวยงามมาก , เพราะหยุดการรับส่วยเทศกิจ กากี )
... ขณะที่ฟิลิปปินส์ก็ตอบโต้แคนาดาอย่างกล้าหาญไม่แพ้กันให้รับขยะคืนไป, เวียตนามก็กำหนดแล้วว่่าจะไม่รับขยะจากทั่วโลก
... "ขยะล้นโลก" กำลังเป็นปัญหาใหญ่ที่แก้ไม่จบของ "ลัทธิบริโภคนิยมแบบสุดโต่ง" ( คิดว่า "มีเงินอยากได้อะไรก็ซื้อเอา ไม่ต้องควบคุมความอยาก" = เป็นแนวคิดที่ล้าสมัยโบราณแล้ว เพราะโลกมีใบเดียว )
.

http://wastemanagementreview.com.au/battling-sovereign-risk/
https://www.recordedfuture.com/china-cybersecurity-measures/

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

พระอาทิตย์ตกที่น่าตื่นตาตื่นใจ ในปานามาซิตี้ # 6 มิถุนายน

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

เม็กซิโก: แม่น้ำ เอลจารัล (El Jaral)/ล้น # 6 มิถุนายน

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

กิจกรรมที่ภูเขาไฟ Sangay คืนนี้ในเอกวาดอร์ # 6 มิถุนายน