ติดตามสถานะการณ์

Watchers


#PolarVortex

06/02/19

ช่วงที่อเมริกาเผชิญกับโพลาร์วอร์เท็กซ์หรือลมวนขั้วโลก อุณหภูมิต่ำติดลบเลขสองหลัก คนทั่วไปคุดคู้คลุมโปงอยู่กับบ้าน แต่ชายสองสามคนในมิชิแกนออกไปเล่นน้ำและโต้คลื่นในทะเลสาบสุพีเรีย อควาแมน เจ้าสมุทรของแท้


ดูภาพแล้วพอเข้าใจว่าหนาวแค่ไหน..ไม่ต้องทดลอง


ภาพจาก: DHphotoMI

ภาพจาก: Devon Hains Photography


(link: https://www.instagram.com/devonhains/)

(link: https://www.facebook.com/pg/DHphotoMI/photos)

Via: Gratitude Attitude

#Watchers

 

ทั้งนี้พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ยืนยันเพิ่มเติมว่า วันนี้ เวลาประมาณ 12.00น.ตนเข้าพบเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย หารือกรณีนี้ ทางท่านเอกอัครราชทูตฯ ยอมรับกับตนตามแถลงการณ์ข้างต้น ว่าเป็นผู้แจ้งหมายจับอินเตอร์โพลแก่ตำรวจตม.ให้จับนายฮาคีมตามหมายจับ และมีการประสานทางการบาเรนห์ไว้แล้วเองด้วย เพื่อให้ไทยส่งนายฮาคีมไปยังบาเรนห์ แต่เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ เขารู้สึกผิด บอกกับตนว่าตอนนี้จึงต้องพยามเป็น 2 เท่าเพื่อกดดันไทยให้ดำเนินการกับนายฮาคีมโดยส่งกลับออสเตรเลีย ตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป นี่คือคำพูดของเอกอัครราขทูตที่บอกกับตนในวันนี้

 

ค่าPM2.5 ที่ขอนแก่น พุ่งวัดได้ที่ 87 ตอนนี้หนักที่สุดในประเทศ คนกทม.และปริมณฑล ขอให้กำลังใจพี่น้องชาวขอนแก่น ขอให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีเหมือนกันด้วยเถิด

 

Gossipสาสุข


สำรวจนโยบายสาธารณสุข 4 พรรคใหญ่

แห่เสนอขายฝัน "หลักประกันสุขภาพ"

•

•

สปอตไลท์ช่วงใกล้เลือกตั้งพุ่งเป้าไปยังหลากพรรคการเมือง ที่เสนอหลากนโยบายมาประชันกัน เพื่อเรียกคะแนนเสียงจากผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งรอบนี้ ซึ่งมีมากกว่า 51 ล้านคน

•

หนึ่งในนโยบายยอดนิยมที่ถูกหยิบยกขึ้นมาหาเสียง นอกเหนือจากปัญหาปากท้อง หรือการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจระยะสั้น หนีไม่พ้นการสร้าง "รัฐสวัสดิการ" ระยะยาว

•

ต่อยอดจากระบบ "หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า" ซึ่งขณะนี้เดินทางมาถึงปีที่ 17 และเริ่มเข้าสู่สภาวะ "ตีบตัน" หาทางเดินต่อไม่ได้ นอกเหนือจากการเพิ่มเงินเข้าสู่กองทุนหลักประกันสุขภาพมากขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละปี

•

แม้ประเทศใหญ่อย่าง "สหรัฐอเมริกา" จะมีข้อถกเถียงกันว่า รัฐควรเป็นผู้บริหารจัดการระบบหลักประกันสุขภาพ หรือประชาชนควรควักกระเป๋า จ่ายเงินเพื่อเข้าโรงพยาบาล-ซื้อยาด้วยตัวเอง

•

แต่ในประเทศไทย ณ ห้วงเวลาแห่งการหาเสียงเลือกตั้ง ทุกพรรคการเมืองหลัก ต่างว่าด้วยการ "ขยายสิทธิ์" หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ออกไป

•

ไม่มีใครหาเสียงว่าด้วยการยกเลิก "30บาทฯ,"บัตรทอง" ทำให้โรงพยาบาลเจ๊ง หรือสนับสนุนการ "ร่วมจ่าย" อีกต่อไป ทั้งที่เป็นหนึ่งในข้อถกเถียงมาโดยตลอด

•

Gossipสาสุข รวมนโยบาย 4 พรรคใหญ่ ที่พูดเรื่องหลักประกันสุขภาพแบบชัดๆ เพื่อให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ตัดสินใจได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

•

1.พรรคเพื่อไทย

•

พรรคนี้จุดขายหลัก หนีไม่พ้นการสร้างระบบ "30 บาทรักษาทุกโรค" เฟส 2 ที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของพรรคอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากแม่ทัพใหญ่ของการเลือกตั้ง และแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค คือ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ซึ่งต้องยอมรับว่า บทบาทของ "คุณหญิงหน่อย" ที่คนจดจำมากที่สุด คือขณะที่ดำรงตำแหน่ง รมว.สาธารณสุข รวมถึงเป็นผู้ที่ผลักดันให้เกิด "บัตรทอง" ขึ้น

•

คราวนี้ พรรคเพื่อไทย ชูจุดขาย ให้โรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข "ออกนอกระบบ" มีอำนาจจัดการตัวเอง เฉกเช่นเดียวกับโรงพยาบาลบ้านแพ้ว ด้วยคำขวัญ "คืนโรงพยาบาลให้ประชาชน"

•

ส่วนนโยบายอื่นๆ เช่น ใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และระบบ Big Data ลดคิวการให้บริการในโรงพยาบาลรัฐลง โดยมี "มันสมอง" อย่าง หมอเลี๊ยบ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีต รมช.สาธารณสุข สมัยคุณหญิงหน่อย รวมถึง หมอมิ้ง นพ.พรหมินทร์ เลิศสุรีย์เดช ช่วยเสนอนโยบาย

•

2.พรรคพลังประชารัฐ

•

แม้ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค จะบริภาษระบบ 30 บาทรักษาทุกโรคอยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็น 30 บาทฯ ทำให้คนเจ็บป่วยเล็กน้อยเข้าโรงพยาบาลมากขึ้น หรือ 30 บาทฯ ทำให้โรงพยาบาลเจ๊งทั่วประเทศ ก็ตาม ซ้ำเกือบ5 ปีที่ผ่านมา รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ เกี่ยวกับการทำให้ระบบ "บัตรทอง" ดีขึ้น

•

แต่สุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรค ยืนยันว่าพรรคจะเดินหน้าระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าต่อ ซ้ำยังมีแผนจะขยายสิทธิประโยชน์ออกไป

•

ขณะเดียวกัน พลังประชารัฐ เป็นหนึ่งใน 2 พรรค ที่ยืนยันจะ "ไม่รวมกองทุน" แต่จะทำให้สิทธิประโยชน์ร่วมของกองทุนบัตรทอง สวัสดิการข้าราชการ และระบบประกันสังคม ให้ "เท่าเทียม" มากขึ้น

•

3.พรรคประชาธิปัตย์

•

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งจบการศึกษาด้าน "เศรษฐศาสตร์" จากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด เป็นอีกหนึ่งพรรคที่ยืนยันว่าต้องทำให้ทุกกองทุนสุขภาพเท่าเทียมกันมากขึ้น ด้วยการเพิ่มสิทธิประโยชน์กองทุนบัตรทองให้ครอบคลุมขึ้น และเปิดโอกาสให้ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม สามารถเลือกได้ว่าจะอยู่กับประกันสังคมต่อ หรือจะลาออกไปใช้ระบบ "บัตรทอง" แทน

•

อย่างไรก็ตาม อภิสิทธิ์ ยืนยันว่าทั้ง 3 กองทุน ต้องเดินหน้าทำให้สิทธิประโยชน์ และคุณภาพยา "เท่าเทียม" กันมากขึ้น และยังต้องหางบประมาณมาเติม เพื่อทำให้สวัสดิการเหล่านี้เข้มแข็งต่อไป

•

เช่นเดียวกับพรรคเพื่อไทย อภิสิทธิ์ในฐานะหนึ่งในผู้ที่ให้กำเนิดกฎหมายแยกโรงพยาบาลบ้านแพ้ว เป็นองค์การมหาชน ให้คำมั่นว่าจะแยกโรงพยาบาลรัฐอื่นๆ ให้เป็นอิสระด้วย

•

4.พรรคอนาคตใหม่

•

นับเป็นพรรคการเมืองที่มีนโยบายด้านหลักประกันสุขภาพที่ "แข็งกร้าว" ที่สุด

•

ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคฯ ประกาศชัดว่าจะ "รวมกองทุนฯ" ทุกกองทุนเข้าด้วยกัน เป็น "รัฐสวัสดิการ" ที่แท้จริง เพราะไม่อาจปล่อยให้ "สวัสดิการข้าราชการ" มีความเหลื่อมล้ำ ถึงขนาดสิทธิ์ข้าราชการลูก-เมีย-พ่อ-แม่ ได้รับสวัสดิการค่ารักษาถึง12,000 บาทต่อคนต่อปี แต่สิทธิ์บัตรทองและสิทธิ์ประกันสังคม ที่ปัจจุบันได้รับราว 3,400 บาท ต่อคนต่อปี อย่างในปัจจุบัน

•

เสียงประกาศกร้าวจากธนาธรเรียก "ก้อนหิน" จากบรรดาข้าราชการมาทันที เพราะเห็นว่าอาจยกเลิก "สวัสดิการข้าราชการ" และสิทธิพิเศษอื่นๆ ที่ข้าราชการเคยมีเสมอมาแม้ธนาธรจะยืนยันว่า ไม่ลดสิทธิ์ข้าราชการ แต่จะเพิ่มสิทธิ์อื่นให้ใกล้เคียง จนสามารถประกาศเป็น "กองทุนสุขภาพเดียว" ได้

•

นอกจากนี้ ธนาธรยังประกาศชัดว่าหนึ่งในนโยบายเร่งด่วน คือการเพิ่มงบประมาณบัตรทอง จากงบบัตรทองปี 2562 ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 3,426 บาท ต่อคนต่อปี ไปอยู่ที่ 4,000 บาทต่อคนต่อปีทันที


#30บาทรักษาทุกโรค #หลักประกันสุขภาพ

 

ข้าวของบริจาค มอแกนไฟไหม้ ล้นเกาะ-หัวหน้าอุทยานฯ แนะชะลอไว้พ้นฤดูท่องเที่ยว #ไฟไหม้บ้านมอแกน #มติชนออนไลน์

 

MOREMOVE


#มอร์มูฟเป็นข่าว เสียหายหลายแสน (ล้าน) จริงๆ สำหรับกรณีสุดฉาวโฉ่เกี่ยวกับ #แร่ใยหิน (Asbestos) ที่อยู่ในแป้ง 'จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน' ซึ่งเรื่องดังกล่าวได้สร้างความกังขาให้กับผู้ใช้ผลิตภัณฑ์เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากศาลสหรัฐฯตัดสินให้บริษัทฯจ่ายค่าชดเชยแก่ผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ฟ้องศาลว่าแร่ใยหินที่อยู่ในเนื้อแป้งเป็นสาเหตุแห่งโรค


ข่าวล่าสุดระบุว่า รัฐบาลศรีลังกาได้สั่งระงับการนำเข้าผลิตภัณฑ์แป้งเด็กของบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน จนกว่าบริษัทจะสามารถพิสูจน์ได้ว่าผลิตภัณฑ์ของบริษัทไม่มีการปนเปื้อนของแร่ใยหิน ซึ่งเป็นสารที่ก่อมะเร็ง


Source : smartsme - https://bit.ly/2t5Q1hL // https://mgronline.com/around/detail/9620000011017 // https://www.posttoday.com/world/574070


อย่างไรก็ดี บริษัทฯจะยังสามารถจำหน่ายสินค้าที่มีอยู่ในสต็อกที่ศรีลังกาในขณะนี้ได้ แต่ไม่สามารถนำเข้าสินค้าล็อตใหม่ จนกว่าบริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน อินเดีย ซึ่งเป็นบริษัทที่ส่งผลิตภัณฑ์เข้าสู่ศรีลังกาจะสามารถแสดงผลการทดสอบล่าสุดที่ยืนยันได้ว่า แป้งโรยตัวของบริษัทปราศจากการปนเปื้อนของแร่ใยหิน


ด้านโฆษกของบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน อินเดีย ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นเกี่ยวกับการถูกระงับส่งผลิตภัณฑ์ไปยังศรีลังกา แต่ยืนยันว่า บริษัทได้ปฏิบัติตามกฎระเบียบของอินเดียในการผลิตและตรวจสอบแป้งโรยตัวเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีการปนเปื้อนแร่ใยหิน


อนึ่ง ยอดขายของ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ในอินเดียลดลงในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2545 ท่ามกลางข่าวอื้อฉาวที่ว่า ผลิตภัณฑ์แป้งโรยตัวของบริษัทฯมีส่วนผสมของแร่ใยหิน


#เท้าความ - สำนักข่าว รอยเตอร์ส เคยรายงานโดยอ้างเอกสารจำนวนมากจากการไต่สวนในศาลว่า บริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายจากสหรัฐฯ #จงใจปกปิด การพบแร่ใยหินในแป้งเด็กของบริษัทมาเป็นเวลาเกือบ 50 ปี ทั้งนี้ ในรายงานยังระบุด้วยว่า ระหว่างการทดสอบแป้งตั้งแต่ช่วงปี 1971-2000 บริษัทพบแร่ใยหินในแป้ง แต่ผู้บริหาร นักวิจัย แพทย์ และทนายความของบริษัท จงใจไม่เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวต่อสาธารณชน และไม่แจ้งต่อสำนักงานอาหารและยาของสหรัฐฯ


ด้านบริษัทจอห์นสันเคยออกโรงยืนยันว่า ส่วนประกอบในแป้งของจอห์นสันไม่มีส่วนก่อมะเร็งและไม่มีแร่ใยหินผสมอยู่ พร้อมระบุว่ารายงานของรอยเตอร์สเป็นการนำเสนอข้อมูลที่ผิดพลาดเพียงด้านเดียว


“แป้งทัลคัมของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ได้รับการทดสอบโดยทีมนักวิทยาศาสตร์จากหลายหน่วยงานนับตั้งแต่ช่วงปี 1950 จนถึงปัจจุบัน และไม่มีการทดสอบครั้งใดในช่วง 50 ปีที่ผ่านมานี้ที่พบว่ามีแร่ใยหินผสมอยู่” ปีเตอร์ บิกส์ ทนายความบริษัทฯ กล่าว


รายงานดังกล่าวนับเป็นปัญหาล่าสุดที่จอห์นสันต้องเผชิญ โดยในขณะนี้บริษัทเผชิญคดีความเกือบ 1.2 หมื่นคดีทั่วสหรัฐฯที่โจทก์อ้างว่าผลิตภัณฑ์แป้งทัลคัมของบริษัทมีส่วนก่อมะเร็ง


อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนกรกฏาคมปีที่ผ่านมา ศาลประจำเมืองเซนต์หลุยส์ได้ตัดสินให้บริษัทฯจ่ายค่าเสียหาย 4,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.54 แสนล้านบาท) ให้ผู้หญิง 22 ราย ซึ่งฟ้องร้องว่าแป้งของจอห์นสันปนเปื้อนแร่ใยหินและส่งผลให้เกิดโรคมะเร็งรังไข่ นับเป็นค่าเสียหายมูลค่ามากที่สุดที่บริษัทต้องจ่าย.

 

「GEN News」

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง พร้อมผู้แทนกระทรวงกลาโหม เดินทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมงานดูดเลน เพื่อทำความสะอาดและพัฒนาสภาพคลองหลอดวัดราชบพิธฯ และแก้ไขปัญหากลิ่นรบกวน โดยทางกทม. ได้มอบหมายให้สำนักการระบายน้ำ สำนักงานเขตพระนครเจ้าของพื้นที่ พร้อมด้วยกระทรวงกลาโหม นำรถดูดเลนและระดมเจ้าหน้าที่พร่องน้ำ กว่า 100 คน
.
เพื่อทำความสะอาดและแก้ปัญหาเรื่องกลิ่น คลองวัดราชบพิธฯทั้งเส้น ซึ่งมีความยาวกว่า 800 เมตร คาดว่าจะเสร็จวันพรุ่งนี้ (7ก.พ.) จากนั้นจะขยายผลต่อในคลองหลอดวัดราชนัดดาฯ เพราะคลองต่างๆ เชื่อมต่อกันได้หมด ซึ่งปัญหาโคลนและเลนทับถมนี่เอง ส่งผลทำให้คลองตื้นเขินลามไปถึงปัญหากลิ่นเน่าเหม็น จึงเริ่มทยอยทำความสะอาดต่อเนื่อง
.
นอกจากนี้จะเริ่มขยายผลไปสู่คลองอื่นๆ รอบกทม. อีกกว่า 1,600 คลอง แต่ต้องขออนุมัตจากกรมศิลปากรเสียก่อน เนื่องจากคลองที่อยู่โดยรอบคูเมืองชั้น นอก ชั้นกลาง ชั้นใน ทั้งหมดขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน ซึ่งที่ผ่านมากรมศิลปากรให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เพื่อคลอง สวย น้ำใสสะอาด ไร้กลิ่นรบกวน
.

ที่มา :

https://tna.mcot.net/view/5c5aa62ce3f8e40acc8e393d

ขอบคุณรูปภาพจาก : สำนักข่าวไทย
.....

*อย่าลืมกดติดตามเพจ
เพื่อไม่ให้พลาด บทความ ข่าวสารและสาระดีๆ

GEN #GENNews

ช่องทางอื่นๆ
Website : http://www.genonline.co
Twitter : https://twitter.com/GenonlineCo

 

ยกตัวอย่าง ปี 2563 เกษียณอายุที่ 61 ปี ต่อมาปี 2565 เกษียณอายุที่ 62 ปี และในปี 2567 ก็จะเกษียณอายุที่ 63 ปี


ฟันธงปลายปีนี้ ขยายอายุราชการ เกษียณตอนอายุ 63 ปี - ปรับกฎหมายบำเหน็จบำนาญ
6 ก.พ. 2562

ก.พ. เผยความคืบหน้าขยายอายุราชการ 2 ปี จากเกษียณ 60 เป็น 63 ปี คาดไม่เกินปลายปีนี้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน โดยวิธีการอาจเป็น เพิ่มอายุเกษียณ 1 ปี ในทุก ๆ 2 ปี

วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2562 ข่าวเวิร์คพอยท์ รายงานว่า นางเมธินี เทพมณีเลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน กล่าวว่า หลังการหารือจากหลายภาคส่วน ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการขยายอายุเกษียณราชการ ซึ่งทางสำนักงาน ก.พ. ต้องศึกษาประเด็นต่าง ๆ เพิ่มเติม ทั้งเรื่องงบประมาณ ค่าใช้จ่ายในการขยายอายุเกษียณ การจำแนกตำแหน่งตามลักษณะงาน และเตรียมความพร้อมรองรับหากมีการขยายอายุเกษียณ โดยคาดว่าภายในสิ้นปีนี้ จะมีข้อสรุปที่ชัดเจน

อย่างไรก็ตาม หากมีการขยายอายุเกษียณจริงจะต้องแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น กฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญของข้าราชการ กฎหมายเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการประเภทต่าง ๆ ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย

ก.พ. เผยความคืบหน้าขยายอายุราชการ 2 ปี จากเกษียณ 60 เป็น 63 ปี คาดไม่เกินปลายปีนี้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน โดยวิธีการอาจเป็น เพิ่มอายุเกษียณ 1 ปี ในทุก ๆ 2 ปี

ภาพจาก ข่าวเวิร์คพอยท์

วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2562 ข่าวเวิร์คพอยท์ รายงานว่า นางเมธินี เทพมณีเลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน กล่าวว่า หลังการหารือจากหลายภาคส่วน ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการขยายอายุเกษียณราชการ ซึ่งทางสำนักงาน ก.พ. ต้องศึกษาประเด็นต่าง ๆ เพิ่มเติม ทั้งเรื่องงบประมาณ ค่าใช้จ่ายในการขยายอายุเกษียณ การจำแนกตำแหน่งตามลักษณะงาน และเตรียมความพร้อมรองรับหากมีการขยายอายุเกษียณ โดยคาดว่าภายในสิ้นปีนี้ จะมีข้อสรุปที่ชัดเจน

อย่างไรก็ตาม หากมีการขยายอายุเกษียณจริงจะต้องแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น กฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญของข้าราชการ กฎหมายเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการประเภทต่าง ๆ ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย



ทั้งนี้ เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศสํานักนายกรัฐมนตรี เรื่องการประกาศแผนการปฏิรูปประเทศ โดยมีเรื่องที่น่าสนใจเกี่ยวกับแผนการปฏิรูปประเทศด้านสังคม เรื่องกลุ่มผู้เสียเปรียบในสังคม หัวข้อการเสริมสร้างศักยภาพผู้สูงอายุในการทำงาน ระบุว่า ขยายอายุเกษียณราชการจาก 60 ปี เป็น 63 ปี โดยในระยะเวลา 2 ปี จะขยายอายุราชการ 1 ปี เพื่อเป็นต้นแบบในการขยายเวลาทำงาน และไม่กระทบต่อการจ้างงานคนรุ่นใหม่ มาทดแทนคนที่เกษียณอายุ แต่จะไม่ครอบคลุมหน่วยงานที่ต้องใช้ศักยภาพทางร่างกาย

โดยมีเป้าหมายคือ ข้าราชการ พนักงาน รัฐวิสาหกิจ และเจ้าหน้าที่ของรัฐเกษียณอายุที่ 63 ปี ในปี 2567 ซึ่งหมายถึงเป็นข้าราชการ พนักงาน รัฐวิสาหกิจ และเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีศักยภาพ จะมีอายุเกษียณเพิ่มขึ้น 1 ปี ในทุก ๆ 2 ปี กระทั่งปี 2567 จะเกษียณอายุที่ 63 ปีพอดี ยกตัวอย่าง ปี 2563 เกษียณอายุที่ 61 ปี ต่อมาปี 2565 เกษียณอายุที่ 62 ปี และในปี 2567 ก็จะเกษียณอายุที่ 63 ปี

https://hilight.kapook.com/view/183551

 

6 ก.พ. วันแห่งการต่อต้านการขริบอวัยวะเพศหญิง ประเพณีแห่งความเจ็บปวดแสนสาหัสของเหยื่อ ที่บอกว่า น้ำปัสสาวะที่ออกมาแต่ละหยดเต็มไปด้วยความเจ็บปวด และต้องใช้เวลาในการปัสสาวะแต่ละครั้งนาน 4-5 นาที

 

บทความนี้ผมไม่แนะนำให้ทำตามน่ะครับ เพราะน้ำมันดีเซลตอนนี้ก็น่าจะมีไบโอดีเซลประมาณ 6% อยู่แล้ว ถ้าทำตามบทความนี้คือไปลองเติมน้ำมันพืช 2 ลิตร ต่อน้ำมันดีเซล 30 ลิตร จะมีไบโอดีเซลเท่าไหร่ -> น้ำมันดีเซล 30 ลิตร มีไบโอดีเซล = (30*6)/100 = 1.8 ลิตร, ดีเซล (100- 6) 94% = (30*94)/100 = 28.2 ลิตร ดังนั้นเมื่อเติม น้ำมันพืชลงไปอีก 2 ลิตร เท่ากับน้ำมัน ((2+1.8) /32)*100%= 11.8% หรือง่าย คือน้ำมันดีเซล บี 11.8 ถ้าเครื่องยนต์ที่รับไม่ได้ รถใหม่ๆ พังกันพอดี แต่รายละเอียดในบทความนี้ก็มีส่วนที่น่าสนใจคือสูตรน้ำมันไบโอดีเซล B100 เหมาะกับเครื่องยนต์ดีเซลรอบต่ำเท่านั้น และหากใช้กับเครื่องรถยนต์ควรผสมเพื่อเป็นหัวเชื้อจะดีกว่า เพราะการจุดระเบิดในห้องเครื่องจะแรงกว่าน้ำมันดีเซลจากปิโตรเลียม: ปล่อยให้ลุงทำต่อไป แต่เราก็ต้องใช้วิจารณญาณก่อนทำตามด้วยครับ

ลุงทำมาแล้ว 11 ปี เติม ”น้ำมันพืช” แทน “น้ำมันดีเซล” ช่วยให้รถประหยัดน้ำมันมากขึ้น
February 6, 2019 เรื่องจริงวันนี้

เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์สุดแปลกชาวโลกโซเชียลออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพจากปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง เมื่อมีรถยนต์คันหนึ่งได้ขับเข้าไปเพื่อที่จะเติมน้ำมัน แล้วอยู่ๆเจ้าของรถคันนั้นก็รีบลงจากรถและได้นำน้ำมันพืชขวดนึงมาเติมใส่ลงไปในถัง ก่อนที่จะบอกให้เด็กปั๊มคนนั้นเติมน้ำมันดีเซลตามเข้าไป เล่นเอางงกันทีเดียว



โดยเรื่องราวถูกเผยแพร่ผ่านทางเฟซบุ๊กของ Somchettana Chaiyalap เล่าว่า…
เกร็ดความรู้พลังงานจาก อ.นันท์

รถโตโยต้าวีโก้ อายุ 11 ปี บนเส้นทาง 6 แสนกว่ากิโลเมตร ในการเดินสายเผยแพร่พลังงานแสงแดด “โซลาร์เซลล์” วันนี้เครื่องหลวม เร่งไม่ออก ไม่มีแรงขึ้นเขา กินน้ำมันจุพอควรที่ 10 กม./ลิตร ช่างบอกว่า “อาจจะต้องเปลี่ยนเครื่องยนต์หรือยกเครื่องใหม่”



แต่ช้าก่อน ลองเติมน้ำมันพืช 2 ลิตร ต่อน้ำมันดีเซล 30 ลิตร (ประมาณน้ำมัน B6) ผลปรากฏว่าตอนนี้ กินน้ำมันน้อยลงเป็น 14 กม./ลิตร เร่งออก แม้บรรทุกของกว่า 700 กก. ขึ้นทางชัน โดย อ.นันท์ อธิบายว่าน้ำมันพืชส่งผลต่อเครื่องดังนี้

1. ฟิล์มหล่อลื่นระหว่างลูกสูบปั๊มคอมมอลเรล ทำให้แรงดันปั๊มสูงขึ้นกว่าเดิม

2. ฟิล์มหล่อลื่นระหว่างลูกสูบกับเสื้อสูบ ทำให้ลดช่องว่างที่เกิดจากการสึกหรอ อัตราส่วนกำลังอัดจะสูงเหมือนรถใหม่

3. สามารถผสมได้ดีกับน้ำมันดีเซล ทำให้จุดวาบไฟของดีเซลสูงขึ้น การเผาไหม้ดีขึ้น อุณหภูมิไอเสียต่ำลงกว่าการใช้น้ำมันดีเซลอย่างเดียว



ล่าสุดนักวิจัยมีการออกมาให้ข้อมูลเกี่ยวเรื่องดังกล่าวแล้วว่า น้ำมันพืชสามารถยกเครื่องยนต์ใหม่ได้ ลองเติมน้ำมันพืชจำนวน 2 ลิตร ต่อน้ำมันดีเซล 30 ลิตร (ประมาณน้ำมัน B6) จะทำให้รถกินน้ำมันได้น้อยลงเป็น 14 กม./ ลิตร และประโยชน์อื่นๆดังนี้

1. ฟิล์มหล่อลื่นระหว่างลูกสูบปั๊มคอมมอลเรล ทำให้แรงดันปั๊มสูงขึ้นกว่าเดิม

2. ฟิล์มหล่อลื่นระหว่างลูกสูบกับเสื้อสูบ ทำให้ลดช่องว่างที่เกิดจากการสึกหรอ อัตราส่วนกำลังอัดจะสูงเหมือนรถใหม่

3. สามารถผสมได้ดีกับน้ำมันดีเซล ทำให้จุดวาบไฟของดีเซลสูงขึ้น การเผาไหม้ดีขึ้น อุณหภูมิไอเสียต่ำลงกว่าการใช้น้ำมันดีเซลอย่างเดียว…ไม่ต้องผ่า/เปลี่ยน เครื่องยนต์ ประหยัดน้ำมัน ทำได้ทันที



โดยเหตุนี้เราจึงหาข้อมูลเพิ่มเติม กับข้อสงสัยในประเด็นดังกล่าวมาบอกต่อครับ
ว่ากันตรง ๆ น้ำมันพืชบรรจุขวดก็คือ น้ำมันไบโอดีเซล B100 ที่สะอาดจนสามารถนำมาใช้ประกอบอาหารได้ เหมาะกับเครื่องยนต์ดีเซลรอบต่ำเท่านั้น เมื่อใช้กับเครื่องยนต์แล้วก็สะอาดมากกว่าน้ำมันดีเซลจากปิโตรเลียม

แต่สูตรน้ำมันไบโอดีเซล B100 เหมาะกับเครื่องยนต์ดีเซลรอบต่ำเท่านั้น และหากใช้กับเครื่องรถยนต์ควรผสมเพื่อเป็นหัวเชื้อจะดีกว่า เพราะการจุดระเบิดในห้องเครื่องจะแรงกว่าน้ำมันดีเซลจากปิโตรเลียม

ยืนยันด้วยข้อมูลจากสำนักงานนโยบายและแผนพลังงานของ ของกระทรวงพลังงาน ที่ตีพิมพ์เป็น E-Book เรื่องไบโอดีเซล



ปัจจุบันน้ำมันดีเซลที่จำหน่ายในปั๊มก็ผสมไบโอดีเซลมาอยู่แล้ว 5% ทำให้ยืนยันได้เลยว่าการเติมน้ำมันพืชลงผสมกับน้ำมันดีเซลจากปิโตรเลียมทำได้แน่นอน “เพราะเครื่องยนต์ดีเซลทุกรุ่นสามารถเติมน้ำมัน B100 โดยไม่ต้องดัดแปลงอะไร” เพียงแต่ก็ไม่มีข้อมูลยืนยันว่าเครื่องกลับมาฟิตเหมือนเดิม ที่เป็นผลทดสอบทางวิชาการ

หากใครสนใจอยากลองวิธีนี้ ก็ควรเติมน้ำมันพืชแบบที่ไม่มีไข เพราะไขอาจไปอุดตันระบบจ่ายน้ำมัน-หัวฉีดได้

อีกเรื่องคือกระบะรุ่นใหม่ เครื่องยนต์หัวฉีดแบบละเอียด และระบบการตรวจจับสิ่งแปลกปลอมในน้ำมันอาจก่อปัญหาได้ เพราะฉะนั้นเราจึงแนะนำวิธีนี้กับกระบะรุ่นเก่าเท่านั้น แต่ถ้าใครอยากลองกับกระบะรุ่นใหม่ก็เริ่มต้นทดสอบในอัตราส่วนน้อย ๆ ก็พอได้อยู่



สุดท้ายขอย้ำอีกครั้งให้เข้าใจตรงกันว่า วิธีนี้สำหรับเครื่องยนต์ดีเซลเท่านั้น

ขอบคุณข้อมูลจาก : Kapook , ภาพจาก เฟซบุ๊ก Somchettana Chaiyalap

http://ruangjringwannee.net/archives/5447

 

The MATTER


BRIEF: โลกร้อน จะเปลี่ยนแม้กระทั่งสีของมหาสมุทร ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนว่าระบบนิเวศของโลกกำลังถูกเปลี่ยนแปลง

.

เป็นประเด็น และที่ถกเถียงในหลายประเทศ ถึงผลของ ‘สภาวะโลกร้อน’ ที่ได้เปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่างในโลกไป ไม่ว่าจะระบบนิเวศของสัตว์ สภาพอากาศ และความเป็นอยู่ของมนุษย์ แต่ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีงานศึกษาอันใหม่ที่พบว่า มหาสมุทรก็จะเปลี่ยนสีไปด้วยเพราะโลกร้อน

.

งานวิจัยล่าสุดที่ตีพิมพ์ลงในวารสาร Nature Communications พบว่า ภาวะโลกร้อน ทำให้สีของมหาสมุทรเปลี่ยนแปลงไป โดยการเปลี่ยนแปลงจะไม่ได้เห็นชัดเจนด้วยสายตามนุษย์ แต่จะเห็นผ่านเซ็นเซอร์ออปติกมากกว่า และสีของมันจะไม่ได้แตกต่างไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง แต่การศึกษาใหม่นี้ก็ชี้ว่า นี่เป็นสัญญาณเตือนล่วงหน้าว่าภาวะโลกร้อนกำลังเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศของโลกอย่างมีนัยสำคัญ

.

การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศจะทำให้สีฟ้า น้ำเงิน และเขียวของน้ำทะเล มีสีที่เข้มมากขึ้น ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ค้นพบจากการสร้างแบบจำลองของโลก ที่จำลองการเติบโตของสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่อาศัยอยู่ในมหาสมุทร และผลกระทบของสีในมหาสมุทรที่เราเห็น โดยการเปลี่ยนแปลงของสี เป็นผลมาจากแพลงก์ตอนพืชทะเล สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่อาศัยอยู่ในชั้นแสงแดดของมหาสมุทร ที่ใช้คลอโรฟิลล์เก็บเกี่ยวพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นพลังงานซึ่งสะท้อนสีกลับสู่สภาพแวดล้อม ซึ่งพวกมันจะสะท้อนสีเขียวในมหาสมุทร และสีฟ้าในท้องทะเล

.

ตั้งแต่ปี 1990 ดาวเทียมได้ตรวจวัดปริมาณคลอโรฟิลล์ในมหาสมุทร และพบว่าเกิดความเปลี่ยนแปลงจากสภาวะโลกร้อน และการเปลี่ยนแปลงของอากาศจะทำให้มหาสมุทรครึ่งหนึ่งของทั่วโลกเปลี่ยนสีไปภายในปลายศตวรรษที่ 21 และการเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลกระทบต่อแพลงก์ตอน ที่ทำหน้าที่ช่วยกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์ และยังเป็นกุญแจสำคัญในการอยู่รอดของสัตว์อื่นๆ

.

Stephanie Dutkiewicz นักวิทยาศาสตร์ ผู้เขียนร่วมการศึกษาวิจัยจาก MIT กล่าวว่า "การเปลี่ยนแปลงนั้นไม่ใช่สิ่งที่ดี เนื่องจากมันจะส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อาหารอย่างแน่นอน” เพราะการที่แพลงก์ตอนได้รับแสงที่แตกต่างกัน จะทำให้มันอาจะเปลี่ยนประเภทอาหารในห่วงโซ่ “แพลงก์ตอนพืชเป็นพืชทะเลที่เป็นพื้นฐานของอาหาร ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงกับมัน จะเป็นอัตรายต่อสายใยอาหารในขนาดที่อาจกระทบต่อหมีขั้วโลก หรือปลาทูน่า หรืออะไรก็ตามที่เราอยากกิน หรืออยากเห็นภาพพวกมันดำรงอยู่ได้” เขากล่าว

.

.

อ้างอิงจาก


https://edition.cnn.com/2019/02/04/...ource=twCNNi&utm_term=image&utm_medium=social


https://motherboard.vice.com/en_us/...r-color-half-earths-oceans-2100-phytoplankton


#Brief #TheMATTER

 

สำนักข่าวอาเซี่ยน


กัมพูชา คุย “คุณภาพอากาศดี” บอกประชาชนไม่ต้องกังวลฝุ่นพิษ PM2.5

.

กัมพูชา 6 ก.พ. - ทางการกัมพูชา ออกคำแถลง ระบุว่า คุณภาพอากาศในประเทศไม่ได้รับผลกระทบจากฝุ่นควันพิษในไทย เรียกร้องให้ประชาชนไม่ต้องวิตกกังวลในเรื่องนี้

.

“กระทรวงสิ่งแวดล้อมขอย้ำว่า คุณภาพอากาศในกัมพูชาไม่ได้รับผลกระทบจากมลพิษทางอากาศที่เกิดขึ้นในประเทศเพื่อนบ้าน” ส่วนหนึ่งของคำแถลงของกระทรวงสิ่งแวดล้อมกัมพูชาที่โพสต์บนหน้าเพจเฟซบุ๊ก ระบุ

.

“คุณภาพอากาศในกัมพูชาอยู่ในระดับดี และอนุภาคในอากาศอยู่ในระดับปกติ ดังนั้น ไม่มีสิ่งใดที่ต้องเป็นกังวล” เนธ เพียกตรา โฆษกกระทรวงสิ่งแวดล้อม กล่าวในคำแถลง

.

คำแถลงนี้ยังเรียกร้องให้ประชาชนไม่ต้องเป็นกังวลเกี่ยวกับคุณภาพอากาศในประเทศ โดยกล่าวว่า กระทรวงได้ตรวจสอบและประเมินคุณภาพอากาศอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง

.

คำแถลงนี้มีขึ้นหลังจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการโพสต์เฟซบุ๊กอ้างว่า กรุงพนมเปญ เมืองหลวงของกัมพูชา ได้รับผลกระทบจากหมอกควันพิษที่ลอยมาจากไทย และเตือนประชาชนใ้ห้สวมหน้ากากป้องกัน

.

เมื่อวันพฤหัสฯที่ผ่านมา สถานทูตกัมพูชาในประเทศไทยได้ออกคำแถลงแนะนำให้แรงงานชาวเขมรที่ทำงานอยู่ในไทย ป้องกันตนเองจากมลพิษทางอากาศ ที่หมอกควันพิษนั้นปกคลุมพื้นที่ทั้งในกรุงเทพฯ และอีกหลายจังหวัด เช่น สมุทรปราการ สมุทรสาคร นนทบุรี และนครปฐม

.

“สถานทูตกัมพูชาขอเรียกร้องให้ประชาชนชาวเขมรทุกคนที่อยู่ในประเทศไทยดูแลสุขภาพของตนเอง และสวมหน้ากากอนามัย N95” คำแถลงของสถานทูตกัมพูชา ระบุ.

 

สำนักข่าวอาเซี่ยน


“โจลี” เดินสายเยี่ยมค่ายโรฮิงญาก่อนสหประชาชาติระดมทุนช่วยเหลือรอบใหม่

.

เอเอฟพี 6 ก.พ.- แอนเจลินา โจลี นักแสดงชื่อดังจากฮอลลีวู้ด เดินทางเยี่ยมค่ายผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาในบังกลาเทศ ตั้งแต่วานนี้ ก่อนที่สหประชาชาติจะออกคำร้องขอทุนช่วยเหลือครั้งใหม่ เป็นจำนวนเกือบ 1,000 ล้านดอลลาร์ สำหรับดูแลผู้ลี้ภัยที่ไหลทะลักเข้ามาเป็นจำนวนมาก

.

ทันทีที่เดินทางถึงบังกลาเทศ โจลี ที่ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งผู้แทนพิเศษของสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ได้มุ่งตรงไปยังค่ายพักผู้ลี้ภัยในเมืองเทคนาฟ ใกล้ชายแดนพม่า เพื่อพูดคุยกับชาวมุสลิมบางส่วนจากทั้งหมด 720,000 คน ที่หลบหนีการปราบปรามของทหารในรัฐยะไข่ ของพม่า เมื่อเดือนส.ค. 2560

.

การเดินทางเยือนบังกลาเทศครั้งนี้ของโจลี มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินความต้องการด้านมนุษยธรรมของชาวโรฮิงญาราว 1 ล้านคนที่อาศัยอยู่ตามค่ายพักต่างๆ ทั้งที่เมืองเทคนาฟ และเมืองคอกซ์บาซาร์

.

ก่อนหน้านี้ โจลีได้พบหารือกับชาวโรฮิงญาพลัดถิ่นขณะเยือนพม่าเมื่อเดือนก.ค. 2558 และที่อินเดียในปี 2549

.

บังกลาเทศต้องรับภาระดูแลชาวโรฮิงญามากกว่า 730,000 คน ที่อพยพมาจากพม่านับตั้งแต่เดือนส.ค. 2560 และเฉพาะที่ค่ายกุตุปะหล่อง มีชาวมุสลิมอาศัยอยู่มากกว่า 620,000 คน นับเป็นค่ายผู้ลี้ภัยที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งบังกลาเทศไม่มีทรัพยากรเพียงพอที่จะรองรับสถานการณ์ผู้ลี้ภัยนี้

.

โจลี จะปิดท้ายการเยือนครั้งนี้ด้วยการพบหารือกับนายกรัฐมนตรีชีค ฮาสินา รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ และเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่นๆ ในกรุงธากา ตามคำแถลงของสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR)

.

การหารือจะมุ่งเน้นถึงวิธีการที่ UNHCR จะสามารถช่วยเหลือบังกลาเทศเกี่ยวกับโรฮิงญาและความต้องการต่างๆ สำหรับการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนเพื่อจัดการกับชนกลุ่มน้อยกลุ่มนี้

.

สหประชาชาติจะออกคำร้องขอต่อนานาชาติครั้งใหม่ เพื่อระดมทุนจำนวน 920 ล้านดอลลาร์ ตอบสนองความต้องการของผู้ลี้ภัยโรฮิงญาและชุมชนที่เป็นที่พักของผู้ลี้ภัยเหล่านี้ UNHCR ระบุ

.

“เป็นเรื่องที่น่าเสียใจอย่างยิ่งที่ได้พบกับครอบครัวที่รู้จักแต่เพียงแค่การกดขี่ข่มเหงและไร้สัญชาติตลอดชีวิตของพวกเขา พูดถึงการถูกปฏิบัติเหมือนเป็นวัวควาย” โจลีกล่าวกับนักข่าว


“ครอบครัวชาวโรฮิงญาที่ฉันได้พบนั้นไม่ต่างอะไรไปจากผู้ลี้ภัยอื่นๆ ที่หนึ่งในสิ่งสำคัญคือ พวกเขาต้องการที่จะสามารถกลับไปบ้านของพวกเขาได้” โจลี กล่าว


นักแสดงหญิง ยืนยันว่าผู้ลี้ภัยควรกลับบ้าน “ต่อเมื่อพวกเขารู้สึกปลอดภัยพอที่จะทำด้วยความสมัครใจ และเมื่อพวกเขารู้ว่าสิทธิของพวกเขาได้รับความเคารพ”


“ความรับผิดชอบที่จะรับประกันสิทธิของพวกเขาและทำให้เป็นไปได้สำหรับชาวโรฮิงญาที่จะเดินทางกลับรัฐยะไข่ ตกอยู่กับรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ในพม่า” โจลี กล่าว


นอกจากนั้น โจลียังเรียกร้องการยุติความรุนแรงในรัฐยะไข่ ที่เจ้าหน้าที่สหประชาชาติเปรียบกับการล้างเผ่าพันธุ์ และเรียกร้องการดำเนินการกับผู้กระทำผิด


“ฉันขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่พม่าแสดงความมุ่งมั่นที่แท้จริงที่จะยุติวงจรความรุนแรงและการพลัดถิ่น และปรับปรุงเงื่อนไขสำหรับทุกชุมชนในรัฐยะไข่”


แอนเจลินา โจลี จะสิ้นสุดการเยือนในวันพุธ ที่มีกำหนดพบหารือกับนายกรัฐมนตรีชีค ฮาสินา รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ และเจ้าหน้าที่ระดับสูงอีกจำนวนหนึ่งในกรุงธากา คำแถลงของสหประชาชาติ ระบุ


การหารือจะมุ่งเน้นที่วิธีการที่หน่วยงานผู้ลี้ภัยของสหประชาชาติสามารถช่วยเหลือบังกลาเทศในเรื่องโรฮิงญาและแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนในการจัดการกับชนกลุ่มน้อยที่ถูกกดขี่กลุ่มนี้.

 

อินโดฯเร่งอพยพคนหนี ภูเขาไฟการาเงตังปะทุพ่นเถ้าถ่าน...

 

วันนี้ วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2562 Schumann Resonance


จุดสูงสุดของ Schumann Resonance วันนี้:

* กิจกรรมเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับความเวียบสงบของวันก่อนหน้า วันนี้มี คู่ของ (ความถี่) แหลม ที่อิสระจากกัน ที่ 20 Hz เวลา 20:10 และ 23:40 น. (ไทย) (13:10 และ 16:40 UTC)


* เราเพิ่มแผนภูมิใหม่ด้านล่างเราจะพยายามโพสต์ทุกวันเพื่อแสดงยอดจริงที่สูงกว่า 40 Hz

* ความถี่หมายถึงจำนวนรอบคลื่นที่เกิดขึ้นในหนึ่งวินาที

1 เฮิร์ตซ์ หมายถึง 1 รอบต่อวินาที

40 Hz หมายถึง 40 รอบต่อวินาที

แอมพลิจูดคือขนาดของการสั่นสะเทือนคลื่นใหญ่แค่ไหนแผนภูมิแสดงการเปลี่ยนแปลงความถี่ในเฮิร์ตซ์และแอมพลิจูดที่ใช้สีขาว

• Schumann Resonances หรือที่รู้จักกันในนามของ ชีพจรของโลก (Earth’s heartbeat) ซึ่งชีพจรโลกนี้ หรือจะเรียกว่าค่าความถี่ของสนามแม่เหล็กโลกก็ได้ โดยปรกติ มีความถี่อยู่ที่ 7.83 รอบต่อวินาที]

https://www.disclosurenews.it/en/schumann-resonance-today-update/

 

Watchers



#ข่าวภัยพิบัติ #Hailstorm

06/02/19

ลูกเห็บตกรุนแรงวันนี้ (6 กุมภาพันธ์) ใน #Poros, กรีซ

รายงาน: Savas Marotos

#Watchers

 

Watchers


#ข่าวภัยพิบัติ #ซาฮาร่า #Dust

// ฝุ่น PM 2.5,PM 10 จากแอฟริกาจำนวนมากถูกผลักเข้าไปในกรีซและหมู่เกาะคาเนรี //


06/02/19

ลมแรงที่มีผลกระทบต่อแอฟริกาเหนือได้ผลักฝุ่นหนาของทะเลทรายซาฮาราไปยังหมู่เกาะคาเนรีและกรีซในวันที่ 5 และ 6 กุมภาพันธ์ 2562 ทำให้คุณภาพอากาศในทั้งสองภูมิภาคลดลงอย่างมีนัยสำคัญ


ฝุ่นจำนวนมากถูกผลักจากโมร็อกโกและมอริเตอเนียไปยังหมู่เกาะคาเนรีเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2019 ตามรายงานของศูนย์พยากรณ์ฝุ่นบาร์เซโลนา มีปริมาณฝุ่น PM10 ในท้องถิ่นสูงกว่า 600 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร นี่คือวิธีที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยรายวันที่แนะนำของ WHO ที่ <50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร


แต่จากโมเดลฝุ่นเริ่มตั้งแต่ 4 กุมภาพันธ์ 2019


เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2562 มีการพัดกวาดกลุ่มฝุ่นขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตอนกลางยกทรายขึ้นเหนือลิเบียและส่งไปยังกรีซโดยเฉพาะเหนือเกาะครีตซึ่งทำให้ดัชนีคุณภาพอากาศไม่ดีต่อสุขภาพ (PM2.5 ถึง 183.1 µg / m³เวลา 12:00 UTC)


ภาพลำดับเหตุการณ์ เมื่อคืนวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2019 ลำดับของภาพเริ่มจากด้านบน (ในช่วงบ่าย) ลงล่าง (ในตอนกลางคืน)

ฝุ่นลอยต่ำเหนือทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2019


ภาพสุดท้ายนี่คือสิ่งที่เห็นปชช.เกาะครีตตื่นขึ้นมาจนถึงทุกวันนี้:

Image credit: NASA Terra/MODIS. Acquired February 5, 2019


Image credit: NASA Terra/MODIS. Acquired February 6, 2019

ภาพสุดท้าย จากเกาะครีต

เครดิต: EUMETSAT,AEMET_Izaña

#microdust #PM25 #PM10

#Watchers

 

กัมพูชาไม่น่าจะรอดน่ะครับ

CCDC: Climate Change Data Center - หน้าหลัก


“น่าเป็นห่วงพี่น้องที่อีสาน”

.

ภาพถ่ายดาวเทียม NOAA วันที่ 5 กพ. 62

แสดงจุดความร้อน (Hotspot) หนาแน่นในประเทศกัมพูชา และจุดความร้อนกระจายในประเทศไทย ประเทศลาว และประเทศเวียดนาน ทำให้เกิดกลุ่มหมอกควันจากการเผาในที่โล่งในปริมาณที่หนาแน่น

.

ด้วยทิศทางของกระแสลมอาจทำให้เกิดผลกระทบจากปัญหาวิกฤตหมอกควันในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย

.

แผนที่แสดงคุณภาพอากาศ AirVisual จะแสดงคุณภาพอากาศจากโมเดลอากาสซึ่ง อยู่ในเกณฑ์สีแดง (มีผลกระทบต่อสุขภาพ) และข้อมูลจากแอพพลิเคชัน Air4Thai แสดงข้อมูลจากสถานีตรวจวัดกรมควบคุมมลพิษซึ่งมี 3 สถานี จะแสดงคุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์สีส้ม (เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ) และสีเหลือง (คุณภาพอากาศปานปลาง)

.

ประชาชนควรสวมหน้ากากเพื่อป้องกันตัวเองจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เมื่อมีกิจกรรมภายนอกอาคาร โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงให้ดูแลสุขภาพอย่างใกล้ชิด

.

อ้างอิง: (www.asmc.asean.org, Air4Thai และ AirVisual)

.

หมายเหตุ: การเผาในที่โล่ง ทั้งในประเทศ และหมอกควันข้ามแดน เป็นสาเหตหนึ่งของปัญหาหมอกควัน นอกจากนั้นยังมีแหล่งกำเนิดอื่นได้อีก เช่น จากไอเสียดีเซล และการก่อสร้าง เป็นต้น ประชาชนจึงควรช่วยกันลดผลกระทบจากแหล่งกำเนิดทุกทางที่สามารถทำได้ในสถาวะวิกฤตเช่นนี้

 

Wudhichai Maitreesophone


เพื่อนๆ ที่ถือหุ้นที่เกี่ยวกับน้ำมัน ทั้งขุดเจาะ-โรงกลั่น และขายปลีก ต้องเตรียมตัวแล้วหละครับ ขายออกเสียในขณะที่ยังมีผู้ต้องการซื้อ


Bank of America Merrill Lynch เขาได้คาดการณ์ว่า ความต้องการการใช้น้ำมันในปี 2024 ความต้องการน้ำมันจะลดลงเหมือ 0.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากความต้องการน้ำมันในปัจจุบันที่ 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพราะรถยนต์ใช้ไฟฟ้าจะได้รับความนิยมมากขึ้น


ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ยังเป็นห่วงการทำเหมือง Cobalt กลัวจะมีปริมาณไม่เพียงพอ ซึ่งผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอาจต้องเข้าไปร่วมทุนในการทำเหมือง Cobalt โดยตรงด้วย


ข่าวนี้ข่าวเดียว เป็นข่าวร้ายของธุรกิจน้ำมัน แต่เป็นข่าวดีของผู้ทำเหมืองแร่ ที่มีธาตุ Cobalt อยู่ในเหมือง เตรียมรับลูกค้าระดับ"บิ๊กๆ" ได้เลย


https://www.rt.com/business/450796-..._medium=aplication_chrome&utm_campaign=chrome

 

อุตรดิตถ์ 24 ชั่วโมง


ไฟป่ามาแล้ว ที่เขื่อนสิริกิติ์ตอนนี้วิกฤต ชาวบ้านแสบจมูกแสบตาหนักยิ่งกว่า PM2.5 เสียอีก เผากันทั้งกลางวันกลางคืนมาเป็นอาทิตย์แล้ว วันนี้หนักสุดๆ หมอกควันไปถึงเขตอำเภอท่าปลายังไม่มีหน่วยงานไหนเข้าไปแก้ไขในการเผาป่า