คาถา บูชาเสด็จเตี่ย (กรมหลวงชุมพร) - เอื้ออังกูร

ที่มา : youtube Nitirat Styles Ch
เพลง ชุมพร ประตูเมืองใต้ ( ชุมพร )
www.youtube.com/watch?v=gT4EYfhG7Pg

 

ภาพยนตร์ในปี พ.ศ. 2501

ทหารเสือกรมหลวงชุมพร (2501)

• ประเภท : Drama / Romance
• ผู้กำกับ : พันคำ (พร้อมสิน สีบุญเรือง)
• บทประพันธ์ : สุวัฒน์ วรดิลก
• บทภาพยนตร์ : ประสิทธิ์ ศิริบรรเทิง
• ผู้ถ่ายภาพ : วิเชียร วีระโชติ-ธีระ แอคะรัตน์
• ผู้กำกับศิลป์ : อุไร ศิริสมบัติ
• อำนวยการสร้าง :
• บริษัทผู้สร้าง : ชุมพรศิลป์ภาพยนตร์
• วันที่เข้าฉาย : 17 มกราคม 2501 ฉายที่ศาลาเฉลิมไทย
• ระบบถ่ายทำ : ภาพยนตร์สี 16 มม. ให้เสียงพากย์สด

รายชื่อนักแสดง
อมรา อัศวนนท์
พันคำ
ส.อาสนจินดา
ล้อต๊อก
วิชิต ไวงาน
เยาวนารถ ปัญญะโชติ
สมจิตต์ ทรัพย์สำรวย
สาหัส บุญ-หลง
จหมื่นมานพนริศร์
ประมินทร์ จารุจารีต
ทานทัต วิภาตะโยธิน
ล้อต๊อก
สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม
ศักดิ์สิน ปิ่นสุภา
อดิศักดิ์ เศวตนันท์

ที่มา : https://thaibunterng.fandom.com/th/wiki/ทหารเสือกรมหลวงชุมพร_(2501)

 

ที่มา : youtube คน ฝั่งธน
ทหารเสือกรมหลวงชุมพร ขับร้องหมู่ ( แผ่นเสียง ทดลองใช้ชั่วคราว / แผ่นเสียงเพื่อการอนุรักษ์ )
www.youtube.com/watch?v=8ivMODzyNlw

 

ที่มา : youtube ยอดรัก สลักใจ
ทหารเรือมาแล้ว
www.youtube.com/watch?v=Ccx2uWMt83M

#เพลงนี้แถม ยอดผู้อ่านครบ 6666 เลขสวย จำนวนที่โพสต์ก็ 466 นะจ๊ะ 555 ไม่มีล็อคเลขน้าาา

 

หลวงพ่อเงินพุทะโชติ มีนามเดิมว่า “เงิน” เกิดวันศุกร์ เดือน 10 ปีฉลู พ.ศ. 2353 มีพี่น้องร่วม 6 คน เมื่อมีอายุครบบวช ได้อุปสมบทที่วัดตองปุ หรือวัดชนะสงคราม มีฉายาว่า “พุทธโชติ” และได้ศึกษาเล่าเรียนหนังสือไทย และหนังสือขอม เพราะสมัยก่อนแหล่งสรรพความรู้ต่าง ๆ อยู่ตามวัด ต้องไปขอศึกษาจากพระ โดยจะต้องขอฝากตัวเป็นศิษย์คอยรับใช้ พร้อมกับขอถ่ายทอดความรู้

สามเณรเงิน (หลวงพ่อเงิน) เรียนหนังสือ และศึกษาพระธรรมวินัยอยู่รายปีจนครบอายุบวช จึงได้ลาสิกขาจากสามเณร ต่อมาพออุปสมบทเป็นพระจึงย้ายไปจำพรรษาที่วัดคงคาราม (วัดบางคลานใต้) ซึ้งอยู่ใกล้บ้าน อยู่ได้พรรษาเดียว ก็ได้ออกจากวัด เพื่อหาสถานที่สอบทำเพ็ญเพียร ก่อนออกเดินทางท่านได้เข้าไปในโบสถ์ กราบพระประธานแล้วตั้งจิตอธิฐานบอกกล่าวเป็นการอำลา พร้อมกับหักกิ่งโพธิ์ หน้าโบสถ์ติดมือลงเรื่อข้ามแม่น้ำไปไปยังฝั่งเหนือแถบหมู่บ้านวังตะโก ก็ได้พบกับสถานที่รกร้างว่างเปล่าแห่งหนึ่งติดอยู่ริมน้ำเงียบสงบเหมาะที่จะบำเพ็ญเพียรเจริญภาวนา จึงได้ตั้งจิตอธิฐานว่า “หากสถานที่นี้ต่อไปข้างหน้าจะเจริญรุ่งเรือง เป็นดินแดนศาสนาธรรม ก็ขอให้กิ่งโพธิ์ที่นำมาปักจงเจริญงอกงามสืบไป” และในที่สุดก็กลายมาเป็น วัดตะโก หรือวัดหิรัญยารามอยู่ที่ ตำบลบางคลาน จนกระทั้งปัจจุบันหลวงพ่อเงิน พุทธโชติ เป็นพระเกจิชื่อดังของเมืองพิจิตร เป็นพระเกจิที่พุทธศาสนิกชน เลื่อมใสศรัทธามากมาย โดยเฉพาะเสด็จในกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ หรือที่มักเรียกกันว่า “เสด็จเตี่ย” ได้ถวายพระองค์เป็นศิษย์ของหลวงพ่อเงิน เพื่อศึกษาวิชาต่าง ๆ จากหลวงพ่อเงิน

ข้อมูลที่มา : http://www.phichit.go.th/phichit/index.php/about/campaign/12-campaign/13-monk
ภาพ : wikipedia.org
********************************************************************************************************************************************

ภาพข่าวจาก สยามรัฐ online 12 ธันวาคม 2563 17:17 น.
ช่วงวันหยุดยาวเจ้าเมืองชาละวันพาเที่ยวงานสมโภช “วัดหลวงพ่อเงินบางคลานกำเนิด 193 ปี วัดหลวงพ่อเงินบางคลานบูชา 101 ปี หลวงพ่อเงิน” เทพเจ้าวาจาสิทธิ์แห่งลุ่มน้ำยมชมไลท์แอนด์ซาวด์ ย้อนตำนานตามรอยกรมหลวงชุมพร



ในช่วงระหว่างวันที่ 3-12 ธ.ค. 2563 วัดหิรัญญาราม หรือ วัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ซึ่งตั้งอยู่ที่ ต.บางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร ได้จัดงานสมโภชและงานนมัสการหลวงพ่อเงิน โดยใช้ชื่องานว่า “กำเนิด 193 ปี วัดหลวงพ่อเงินบางคลานบูชา 101 ปี หลวงพ่อเงิน เทิดไท้องค์ราชันย์ ” โดยเมื่อวันวานที่ผ่านมา นายรังสรรค์ ตันเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ได้เป็นประธานภายในงาน โดยกิจกรรมเริ่มจากการโดยสารเรือในแม่น้ำพิจิตร ซึ่งวัดบางคลานตั้งอยู่ริมแม่น้ำพิจิตรและแม่น้ำยม เพื่อย้อนรำลึกถึงอดีตในสมัยโบราณที่ครั้งหนึ่งกรมหลวงชุมพรได้เสด็จ โดยใช้เรือเป็นพาหนะมากราบถวายตัวขอเป็นศิษย์เพื่อร่ำเรียนวิชากับหลวงพ่อเงินที่วัดบางคลานแห่งนี้ สำหรับประวัติวัดหิรัญญราม “วังตะโก” หลวงพ่อเงินพุทธโชติเป็นผู้ก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ.2374



โดยภายในงานจัดให้เป็นงานวัดแบบย้อนยุคและมีการแสดงไลค์แอนด์ซาวด์ เล่าเรื่องชีวประวัติของหลวงพ่อเงินตั้งแต่เยาว์วัยจนกระทั่งอุปสมบทเป็นสามเณรศึกษาเล่าเรียนธรรมะและบวชเป็นพระสงฆ์บำเพ็ญเพียรจนมีวิชาคาถาอาคมที่แกร่งกล้าและมีวาจาสิทธิ์ถือเป็นพระเกจิอาจารย์ที่ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้ความเคารพนับถือพระเครื่องหรือพระบูชาของหลวงพ่อเงินจากอดีตจนถึงปัจจุบันกลายเป็นของล้ำค่าเชื่อกันว่าผู้ใดมีไว้ครอบครองจะเป็นสิริมงคลเป็นยิ่งนัก



สำหรับการแสดงไลค์แอนด์ซาวด์ในครั้งนี้เป็นครั้งแรกของ วัดหลวงพ่อเงินบางคลานโดยมีชาวบ้าน นักเรียน นักศึกษา ในพื้นที่ร่วมกันแสดงในครั้งนี้ โดยมี พ.ต.อ.วิสุทธิ์ คล้ายแสง ผกก.สภ.โพทะเล เป็นนักแสดงกิตติมศักดิ์รับเชิญรับบทเป็น พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ หรือ “เสด็จเตี่ย” ซึ่งเป็นโอรสใน รัชกาลที่ 5 ที่เป็นฉากไฮไลท์ของงานโดยกรมหลวงชุมพรเสด็จมาทางเรือแล้วมากราบขอถวายตัวเป็นศิษย์ของหลวงพ่อเงินเพื่อร่ำเรียนวิชา ซึ่งถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าสำคัญของหลวงพ่อเงินวัดบางคลานแห่งนี้ สำหรับบรรยากาศการแสดงไลท์แอนด์ซาวด์ริมแม่น้ำพิจิตรหน้าวัดหลวงพ่อเงินบางคลานมีชาวบ้านและนักท่องเที่ยวมาร่วมชมกันอย่างคับคั่งและศรัทธาในอิทธิฤทธิ์ปาฏิหารย์ของหลวงพ่อเงินวัดบางคลานดังกล่าว


ที่มา : https://siamrath.co.th/n/203931

 

ที่มา : youtube โรส มีเดีย แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ Rose Media & Entertainment
สาวงามเมืองพิจิตร - สดใส รุ่งโพธิ์ทอง (Official Audio)
www.youtube.com/watch?v=pvGxOL24v0Y

 

วัดถ้ำพุทธาวาส ( ถ้ำขุนแผน )



จากคำบอกเล่าของท่านอุปัชฌาย์กลิ่น อดีตเจ้าอาวาสวัดหนองบัว ได้เล่าประวัติถ้ำขุนแผนให้ท่านพระยาขุนศรี (เถื่อน บัวศรี) ท่านหมื่นปรารถบุญไมย (เหลี่ยม บุญน้อย) ก๋งอู๋ บัวขม ก๋งพ้ง บัวขม และก๋งพ้ง บัวขม เล่าให้หลวงพ่ออินทร์ (เสนาะ) หลวงพ่อเสนาะ วัดลาดหญ้าเล่าให้ผม พล.ต.ละเอียดรัช บัวขม ว่าหลวงปู่กลิ่น อดีตเจ้าอาวาสวัดหนองบัว เกิด พ.ศ.2301 มรณะภาพ 2416 อายุท่าน 117 ปี ถือเป็นพระอริยะสงฆ์ที่อายุมากที่สุดในยุคนั้นได้เล่าเรื่องราวใน พ.ศ.2530 ว่าหลวงปู่กลิ่นท่านได้นั่งกรรมฐานสำเร็จวิชาต่างๆทางไสยเวทย์ ในราวปี พ.ศ.2400 มีหลวงพ่อหลายรูปได้มาที่วัดถ้ำขุนแผน มาเรียนวิชากับหลวงปู่กลิ่น มีดังต่อไปนี้

-หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน
-หลวงปู่เนียม วัดน้อย
-หลวงปู่ม่วง วัดบ้านทวน
-หลวงพ่อปาน วัดสว่างอารมย์
-หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก
-หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า
-หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว
-หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว

หลวงปู่ยิ้มเป็นศิษย์องค์สุดท้ายของท่าน และเมื่อหลวงปู่ยิ้มไมได้อยู่วัดหนองบัว ท่านก้จะไปนั่งวิปัสนาที่วัดถ้ำขุนแผน เมื่อท่านกรมหลวงชุมพรฯเสด็จมาที่วัดหนองบัวแล้วไม่พบก็ตามไปที่วัดขุนแผนเพื่อศึกษาไสยเวทย์กับหลวงปู่ยิ้ม หลวงพ่อเสนาะ วัดลาดหญ้า ท่านได้เล่าให้กระผมฟังอีกว่าวัดถ้ำขุนแผน ขุนแผนได้มาศึกษาวิชาต่างๆในถ้ำนี้และเป็นสถานที่ย่างกุมาร สร้างดาบฟ้าฟื้น มีพระอาจารย์บุญ วัดส้มใหญ่คอยชี้แนะ และท่านขุนไกรพลพ่าย ผู้เป็นบิดาขุนแผน ท่านขุนไกรเกิดที่วัดพระธาตุ บ้านท่าเสา เขาชนไก่ เมืองกาญจนบุรีเก่า

การเดินทางมายังวัดถ้ำพุทธาวาส ให้มาตามเส้นทางสายกาญจนบุรี-ไทรโยค-ทองผาภูมิ (ทางหลวงหมายเลข 323) ตรง กม. ที่ 7-8 แยกซ้ายเข้าไปอีก 1 กิโลเมตร ซึ่งจะมีรถประจำทางสายกาญจนบุรี-ไทรโยค วิ่งผ่านปากทางไปสู่ถ้ำนี้ด้วย แต่จะต้องเดินเท้าเข้าไปยังวัดอีกประมาณ 1 กิโลเมตร

ที่มา : http://www.nongbua-sao.com/otop/travel_detail.php?otop_id=00000000001
ภาพ : https://www.thailandtopvote.com/ที่เที่ยว/ที่เที่ยว-77-จังหวัด/11877/

 

ที่มา : youtube Nitirat Styles Ch
เพลงประจำจังหวัดกาญจนบุรี " เพลงกาญจนบุรีศรีสยาม "
www.youtube.com/watch?v=RcZGD12pI98

 

6 สถานที่ขึ้นชื่อ ที่คนนิยมไปบนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์



ถ้าจะพูดถึงเรื่องของการ “บนบานศาลกล่าว” คงเป็นที่รู้จักกันดีของคนไทย เพราะการบนบานศาลกล่าวนับเป็นตัวช่วยสุดท้าย ที่คอยยึดเหนี่ยวจิตใจของคนไทยมาตั้งแต่สมัยโบร่ำโบราณกันมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของด้านการเรียน ความรัก การงาน สุขภาพ สิ่งไหนที่ไม่ประสบความสำเร็จ ก็จะมาขอพรอธิฐานให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายดลบันดาลพรนั้นให้เกิดกับเรา คราวนี้เลยได้นำเสนอเกี่ยวกับสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีผู้คนไปสักการะบูชาตามความเชื่อด้านต่างๆมาฝากกัน ...

พระพรหมเอราวัณ

1.พระพรหมเอราวัณ
ตามความเชื่อของศาสนาพราหมณ์ พระพรหมเป็นผู้สร้างในทุกสิ่ง ไม่ว่าจะเป็น โลก สวรรค์ และมนุษย์ พระพรหมเป็น 1 ใน 3 ของพระผู้เป็นเจ้าเกี่ยวกับมนุษย์ โดยมีความเชื่อที่ว่าพระพรหมเป็นมหาเทพที่ยิ่งใหญ่จะคอยรับฟังคำอธิฐานของผู้ศรัทธาอยู่เบื้องบน
ถ้าผู้ไหนทำดีพระพรหมก็บันดาลพรให้สมความปรารถนา และวันที่ 9 พฤศจิกายน ของทุกปีเป็นวันเกิดพระพรหมเอราวัณ ได้มีการจัดพิธีบวงสรวงที่หน้าโรงแรมเอราวัณ และในวันนั้นจะมีผู้ศรัทธาทั้งไทยและเทศมาร่วมพิธีกันอย่างหนาตา

บนบานศาลกล่าว : เรื่องของการเรียน การงาน ค้าขาย พระพรหมเอราวัณยังเลื่องชื่อในด้านของธุรกิจขนาดชาวฮ่องกง จีน สิงคโปร์ ยังบินมาไหว้สักการะบูชากันเลยทีเดียว
สิ่งสักการะ : ธูป 12 ดอก, เทียน 1 เล่ม, พวงมาลัยดาวเรือง 4 พวง จะไหว้ทั้ง 4 ด้านเนื่องจากพระพรหมมี 4 หน้า
แก้บน : ละครรำ ใช้นางรำ 4 หรือ 8 คน หรือจะเป็นช้างไม้ เพราะมีความเชื่อว่าช้างเอราวัณเป็นช้างของท่านท้าวมหาพรหม
สถานที่ตั้ง : หน้า รร.แกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ สี่แยกราชประสงค์ ถ.ราชดำริ ปทุมวัน กทม. ตั้งแต่เวลา 06.00 - 22.30 น.

หลวงพ่อโสธร
2.หลวงพ่อโสธร
ประดิษฐานอยู่ที่วัดโสธรวรารามวรวิหารเป็นพระพุทธรูปที่อยู่คู่กับเมืองแปดริ้วมาช้านาน มีชื่อเสียงในด้านการบนบานศาลกล่าวในเรื่องของการขอบุตร แต่ต้องระมัดระวังในการขอข้อนี้ให้ดีๆ ต้องขอให้บุตรอยู่ในโอวาท ตักเตือนและตีได้ ไม่เช่นนั้นเวลาเราไปตีลูกเรา ลูกจะเจ็บป่วยโดยไม่รู้สาเหตุตามความเชื่อของโบราณ
ส่วนเรื่องที่ใครๆมาขอแล้วกลับไม่ได้ตามที่ตั้งใจอธิฐานไว้ ก็คงจะเป็นเรื่อง ขออย่าให้ถูกเลือกเป็น ทหาร ด้วยเถิด! เป็นที่รู้กันดีของคนแปดริ้วถ้าใครมาขอพรนี้ทีไร มักจะเป็นตรงกันข้ามเสมอ ต้องจับได้ใบแดงทุกทีไป เพราะหลวงพ่อจะโกรธเอามากๆ หลวงพ่อชอบให้คนได้เป็นทหารได้ช่วยดูแลปกป้องบ้านเมือง

บนบานศาลกล่าว : การขอบุตร โชคลาภ โรคภัยไข้เจ็บ การเดินทาง
สิ่งสักการะ : ธูป 16 ดอก เทียน 1 เล่ม และพวงมาลัย
แก้บน : ส่วนมากเค้าจะบนด้วยไข่ต้ม ผลไม้ ละครชาตรีหรือลิเก
สถานที่ตั้ง : อยู่ริมแม่น้ำบางปะกง ถ.มรุพงษ์ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา จ.-ศ. 7.00-16.30น. / ส.-อา. 7.00-17.00น.

พระบรมรูปทรงม้า

3.พระบรมรูปทรงม้า
เป็นพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ตั้งขึ้นเมื่อสมัยที่ท่านยังทรงอยู่ คนไทยส่วนใหญ่จะเรียกท่านว่า "เสด็จพ่อ ร.5" และคนทั่วไปมีความเชื่อว่าการขอพรที่นี่ เราห้ามเรียกว่าการบนบาน เราต้องเรียกว่าการขอพรจากท่าน ไม่เช่นนั้นสิ่งที่เราอธิฐานขอพรจะไม่บังเกิดผล

บนบานศาลกล่าว : การเรียน ด้านทหาร ตำรวจ มีโชคลาภในการประกอบอาชีพ
สิ่งสักการะ : จุดธูป 16 ดอก (ครั้งแรกจุดธูป 16 ดอก ครั้งต่อไป 9 ดอก) ดอกกุหลาบสีชมพู น้ำมะพร้าวอ่อน กล้วยน้ำว้า ทองหยิบ ทองหยอด บรั่นดี ซิการ์ ข้าวคลุกกะปิ คนส่วนใหญ่มักจะไปสักการะบูชาท่านทุกวันอังคารเพราะเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระองค์ และทุกวันพฤหัสบดีถือว่าเป็นวันครู

แก้บน : ตามที่บนไว้ ส่วนใหญ่มักจะใช้กุหลาบสีชมพู
สถานที่ตั้ง : หน้าพระที่นั่งอนันตสมาคม ข.ดุสิต จ.กทม. ตลอด 24 ชม.

พระตรีมูรติ

4.พระตรีมูรติ
เทพเจ้าแห่งความรักที่ช่วยดลบรรดาลพรให้กับหนุ่มสาวที่มาวิงวอนขอพรความรักจากท่านให้สมหวังในความรัก ตรีมูรติ แปลว่า รูปสาม
พระตรีมูรตินั้นถือเป็นสัญลักษณ์ของมหาเทพสูงสุดที่รวมเทพทั้งสามองค์ไว้ในองค์เดียว คือ พระพรหม พระวิษณุ และพระอิศวร ซึ่งมีพลังทั้งสามคือ สร้าง รักษาและทำลายโลก เป็นผู้ปรารถนาความสำเร็จสมหวังในทุกสิ่งทุกอย่าง

บนบานศาลกล่าว : ความรัก ความเมตา ชีวิต การงาน
สิ่งสักการะ : ธูปแดง 9 ดอก , เทียนแดง 1คู่ (ถ้าคนที่มีคู่ให้เทียบวางติดคู่กัน) ดอกกุหลาบแดง 9 ดอก ผลไม้สีแดง น้ำอ้อย และนมสด (ห้ามถวายอาหารคาวเด็ดขาด) เวลาที่ดีที่สุด คือ วันพฤหัสบดี เวลา 21.30-22.00น. เชื่อกันว่าพระตรีมูรติลงมายังโลกมนุษย์เพื่อรับคำวิงวอนขอพรจากเรา
แก้บน : น้ำเปล่า ผลไม้ กุหลาบแดง พวงมาลัยกุหลาบ ช้าง สุนัข และโค
สถานที่ตั้ง : หน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เวิลด์ ถนนราชประสงค์ จ.กทม. ตั้งแต่ 9.00-21.30 น.

พระแม่มหาอุมาเทวี
5.พระแม่มหาอุมาเทวี
เป็นเทพองค์หนึ่งของศาสนาฮินดู ชื่อเต็มๆเรียกว่า “องค์พระแม่ศรีมหามารีอัมมัน” ทรงเป็นมารดาของพระพิฆเนศและเป็นชายาของพระศิวะ พระแม่อุมาเป็นเทพแห่งความเมตตากรุณาและงามสง่า
และในทุกปีจะมีพิธีบวงสรวงพระแม่อุมาเทวีครั้งยิ่งใหญ่ ขึ้นช่วง 1-9 ค่ำเดือน 11 ประมาณช่วงเดือนตุลาคม รวม 10 วัน 10 คืน พร้อมกันทั่วโลก จะเรียกพิธีนี้ว่า "นวราตรี" ในวันสุดท้ายของการจัดงานจะมีพิธีแห่องค์เทวรูปพระแม่อุมาเทวีและเทพองค์อื่นๆทั่วทั้งสีลมอีกด้วย

บนบานศาลกล่าว : สุขภาพ โรคภัยไข้เจ็บ อำนาจ อาชีพการงาน
สิ่งสักการะ : พวงมาลัยดาวเรือง หรือดอกกล้วยไม้ ดอกกุหลาบ มะพร้าวอ่อน และกล้วยน้ำว้า เครื่องมังสวิรัติ
แก้บน : ตามที่บนไว้ และการทานมังสวิรัติ
สถานที่ : วัดพระศรีมหาอุมาเทวี (วัดแขก) ถนนปั้น บางรัก จ.กทม. เวลา 06.00 - 20.00 น.

พระรูปกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์

6.พระรูปกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
หรือที่รู้จักกันในนามของ “เสด็จเตี่ย” ในวันที่ 19 ธันวาคมของทุกปีจะมีการจัดงานบวงสรวงระลึกถึงกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ผู้คนที่เคารพนับถือจะไปสักการะบูชาตามอนุสาวรีย์และศาลของเสด็จเตี่ย

บนบานศาลกล่าว : ส่วนใหญ่คนจะไปขอเรื่องการเรียน การเดินทางความปลอดภัย และความสุขสมหวังต่างๆ
สิ่งสักการะ : ธูป 9 ดอก /19 ดอก, เทียน 1 คู่ , ดอกกุหลาบสีแดงเท่ากับจำนวนธูปที่เราไหว้ หรือพวงมาลัยที่มีกลิ่น
วิธีแก้บน : ตามสิ่งตนเองบนไว้ หรือประทัด หมากพลู บุหรี่ เหล้าโรง 28 ดีกรี ถ้าเป็นอาหารก็จำพวก ทองหยอด กาแฟดำ ปลาช่อนแป๊ะซะ แต่ห้ามถวายพะแนงเนื้อเด็ดขาด เพราะ “เสด็จเตี่ยไม่โปรด”
สถานที่ตั้ง : หน้าวิทยาเขตพณิชยการพระนคร ถ.พิษณุโลก ข.ดุสิต จ.กทม.

ที่นำเรื่องนี้มาเล่า ไม่ได้อยากให้งมงายอยู่กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพียงอย่างเดียว ไม่ใช่จะสอบ ไม่ยอมอ่านหนังสือ วันๆเอาแต่วิ่งไปบนบานศาลกล่าว อย่างนี้เทพเจ้าองค์ไหนก็ช่วยไม่ได้หรอก สุดท้ายนี้คนเราต้องรู้จักพึ่งตัวเองก่อน น่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด

หมั่นทำความดี ไม่ทำชั่วให้คนอื่นเดือดร้อน แค่นี้ก็น่าจะเพียงพอที่เราจะได้สิ่งที่เราปรารถนาไว้แล้ว อย่างที่เค้าว่ากันว่า “ทำดีได้ดี ทำชั่วย่อมได้ชั่ว” สิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นเพียงเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจทำให้เรามีกำลังใจและความเชื่อมั่นที่จะก้าวต่อ แต่ถ้าเราได้รับพรนั้นจริงๆก็ถือว่าเป็น โบนัสก้อนโต ของชีวิตแล้วกัน


บทความโดย ปุ๋มปิ๋ม-ณัฐวลัยพรรณ ไชยโชติ
ขอบคุณภาพจาก http://th.wikipedia.org/wiki/ และ http://www.siamganesh.com/parvati.html
ที่มา : https://www.sanook.com/horoscope/77209/

 

ที่มา : youtube Workpoint Music and Artists
Wai (เพลงไหว้) - Sathida Prompiriya
www.youtube.com/watch?v=J8PfL___WVg

 

ที่มา : youtube O MUSIC
ของปลอม + ไอ้หนุ่มผมยาว | ลูกทุ่งทริโอ้ ไลฟ์ ft. สุรชัย สมบัติเจริญ และ เล็กบางไผ่ #ลูกทุ่งทริโอ้
www.youtube.com/watch?v=B7yDCb99cy8

# ไม่เกี่ยวแต่ขอแถมเพลงแนวสายเก๋า

 

พิพิธภัณฑ์เหรียญกษาปณานุรักษ์
#เหรียญวันนี้มีเรื่องเล่า

19 พฤษภาคม วันคล้ายวันสิ้นพระชนม์นายพลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ (พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์) ผู้วางรากฐานการบริหารจัดการกองทัพเรือไทย จนได้รับพระสมัญญานามว่า “องค์บิดาของทหารเรือไทย" ในบั้นปลายพระชนม์ชีพ พระองค์เสด็จไปประทับที่ตำบลหาดทรายรี จังหวัดชุมพร จนกระทั่งสิ้นพระชนม์ และในบริเวณสถานที่เดียวกันนั้นเอง กองทัพเรือได้นำเรือหลวงชุมพร เรือตอร์ปิโดประจัญบาญสมัยสงครามอินโดจีนหลังปลดประจำการแล้วมาจอดเทียบไว้จนกระทั่งถึงปัจจุบัน

ในโอกาสที่กรมธนารักษ์ได้มีการทำจัดทำเหรียญที่ระลึกประจำจังหวัดชุมพรขึ้น จึงได้นำภาพเรือหลวงชุมพร ซึ่งถือได้ว่าเป็น Landmark ของเมืองที่มีประวัติศาสตร์เชิงพื้นที่สำคัญหลายช่วงหลายสมัยมาประทับไว้ที่ด้านหนึ่งของเหรียญ

#พิพิธภัณฑ์เหรียญกษาปณานุรักษ์
#TheCoinMuseumThailand #วันอาภากร #เสด็จเตี่ย #กรมหลวงชุมพร
ที่มา :

 

มหัศจรรย์แมวนัยน์ตาสองสี ที่อุทยานแมวไทยโบราณ





อุทยานแมวไทยโบราณ เป็นสถานที่เก็บรวมรวมและรักษาแมวไทยโบราณ พันธุ์ขาวมณี ที่สืบเชื้อสายมาจากแมวที่รัชกาลที่ 5 ทรงโปรดและทรงเลี้ยงไว้ในพระบรมมหาราชวัง โดยพระราชทานให้พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
พระโอรสเป็นผู้ดูแล ต่อมากรมหลวงฯ ทรงประทานให้กับหม่อมเจ้าหญิงจิตรแจรง อาภากร พระธิดาดูแล ต่อมาท่านหญิงได้ประทานแมวขาวมณีจำนวน 18 ตัว ให้กับคุณนำดี วิตตะ เป็นผู้เลี้ยงดู เมื่อปี 2501 เป็นผู้ขยายพันธุ์สืบทอดต่อมา ปัจจุบันแมวของอุทยานแมวไทยโบราณมีอยู่ด้วยกันประมาณ 44 ตัว แต่นำมาให้คนชมจริงได้เพียง 14 ตัว

103 หมู่ที่ 10 ถ.ปิ่นเกล้า-นครชัยศรี แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ 10170

ที่มา : https://thaiza.com/travel/city/180745/
ข้อมูล พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร