ขอเชิญร่วมทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย พันวฤทธิ์, 29 พฤศจิกายน 2007.

  1. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,790
    ค่าพลัง:
    +16,105
    ต้องขอขอบคุณและอนุโมทนาบุญทั้ง 2 ท่านเป็นอย่างสูง อีกครั้ง สำหรับการบริจาคเพื่อรักษาสงฆ์อาพาธในเดือนนี้ บุญใด ทานใดที่ท่านทั้ง 2 ได้ปฏิบัติด้วยความประณีต ปีติ และยินดีด้วยแล้ว คณะกรรมการฯ ขอตั้งจิตนอบน้อมเอาบารมีขององค์พระรัตนตรัย และสิ่งศักดิแห่งบวรพุทธศาสนา ขอให้ผลบุญ และผลทานของท่านนั้น จงติดตามท่านทั้ง 2 และครอบครัวพร้อมบริวารทั้งหลายไปทุกๆ ภพ ทุกๆ ชาติ ด้วยเทอญ...สาธุ


    [​IMG]




    พระพิมพ์บรมครูพระธรรมฑูตเทพโลกอุดร พิมพ์อรหันต์ใหญ่ กรุเก่า
     
  2. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,790
    ค่าพลัง:
    +16,105
    ธรรมะของท่านเจ้าคุณสมเด็จพระวันรัต (ทับ พุทธสิริ) วัดโสมนัส

    (๑) บุญเป็นอย่างไร

    คนส่วนมากอยากได้บุญ แต่บุญเป็นอย่างไรอยู่ที่ไหนก็หารู้จักไม่เป็นแต่เขาว่าอย่างนี้ได้บุญก็เชื่อ หาตรึกตรองด้วยปัญญาของตนเองไม่
    เมื่อทำไปก็ผิดบ้างเป็นแต่เฉียดๆ บ้างอีกอย่างหนึ่งคืออยากได้บุญแต่ขี้เกียจมักง่าย เลือกทำแต่ที่ง่ายๆ สบายๆ ตามชอบใจของตนที่อยาก
    เป็นบุญเป็นกุศลแท้ก็หาทำไม่ท้อถอยเสียโดยที่สุดจะภาวนานั่งหลับตาบริกรรมครู่หนึ่งพอเมื่อยขาก็ว่าได้บุญมากแล้ว
    ละความเพียรนอนเสีย ถ้าทำโดยขี้เกียจมักง่ายดังว่ามานี้ ก็หาถูกต้องเป็นบุญ เป็นกุศลไม่ เป็นแต่เฉียดๆ ไป.



    <HR>
    (๒) บุญนั้นอยู่ที่ไหน

    บุญนั้นอยู่ที่ไหน บุญนั้นเป็นอย่างไร บุญนั้นอยู่ที่ใจ ใจอย่างไรจึงเป็นบุญ ใจที่มีสติ ถ้าระลึกตรึกอยู่ในอารมณ์ที่ควรระลึกควรตรึกแล้วก็เป็นบุญอยู่เสมอ ถ้าปล่อยสติเสีย วางสติเสีย บาปก็เข้าได้ ก็การที่ระลึกตรึกนั้นจำเพาะให้ระลึกให้ตรึกอยู่ ๔ อย่างคือ กายเวทนาจิตธรรม



    [​IMG]

    ภาพถ่าย ณ พระพุทธรัตนสถานมนทิราราม ในพระบรมมหาราชวัง เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๑๖
    จากซ้ายไปขวา

    ๑. พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ เมื่อครั้งทรงผนวช

    ๒. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค็เจ้าอรุณนิภาคุณากร วัดราชบพิธ

    ๓. พระสุคุณคณาภรณ์ (นิ่ม) วัดเครือวัลย์

    ๔. สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ พระราชอุปัธยาจารย์ (สมเด็จท่านนี้ สร้างพระกริ่งปวเรศฯ เป็นที่โด่งดัง หายากและมีราคาแพงมาก)

    ๕. พระจันทรโคจรคุณ (ยิม จันทรังสี) วัดมกุฏกษัตริยาราม

    ๖. พระพิมลธรรม(สมเด็จพระวันรัต ทับ พุทธสิริ) วัดโสมนัสวิหาร

    ๗. พระอริยมุนี (พระพรหมมุนี เหมือน สุมิตฺโต) วัดบรมนิวาส

    ๘. พระพรหมมุนี (สมเด็จพระพุฒาจารย์ ศรี) วัดปทุมคงคา

    ๙. พระสาสนโสภณ (สมเด็จพระสังฆราชสา ปุสฺสเทโว) วัดราชประดิษฐ์ พระราชกรรมวาจาจารย์


    อ่านหัวข้อธรรมะของท่านเจ้าคุณฯ ทั้งหมดได้ที่
    http://www.watsomanas.com/thai/dhammastory/somdettap.php
     
  3. pon98

    pon98 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +3,886
    เมื่อเช้าวันที่20ได้ไปรับพี่ใหญ่ที่บ้านแต่เช้าไก่โห่ เพื่อเดินทางไปทำบุญบ้านศิษย์รุ่นใหญ่ของอาจารย์ประถม โดยงานนี้ได้นิมนต์หลวงปู่สอ วัดป่าบ้านหนองแสง ยโสธร มาเป็นประธานสงฆ์และยังมีพระป่ามาอีกหลายรูป จึงได้ทำบุญหลายอย่างเช่น ใส่บาตร ถวายปัจจัย ถวายสังฆทาน โดยหลวงปู่ได้แจกพระปรกเจ็ดกษัตริย์กับทุกๆท่านที่เข้าไปกราบท่าน งานนี้โชคดีพี่ใหญ่ชวนเข้าไปให้ท่านเป่ากระหม่อมให้ เลยเป็นโอกาสหลังจากเป่ากระหม่อมเสร็จขอท่านถ่ายรูปหมู่ก่อนท่านจะกลับ มาชมภาพกันครับ

    [​IMG]

    พระนาคปรกเจ็ดกษัตริย์ที่แจกในงาน

    [​IMG]

    หลวงปู่สอนั่งเป็นประธานสงฆ์ในงานทำบุญบ้าน

    [​IMG]

    ก่อนกลับหลวงปู่เมตตานั่งร่วมถ่ายภาพหมู่ โดยภาพมีลำแสงหลายสีพาดผ่าน ลองพิจารณาดูครับว่าเป็นความบังเอิญหรือปาฏิหารย์?
     
  4. kratium

    kratium เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2007
    โพสต์:
    484
    ค่าพลัง:
    +3,670
    วันที่ 20 ส.ค. 2552 เวลา 18:08:28 น. โอนเงินทำบุญกับทุนนิธิฯ จำนวน 500 บาท อนุโมทนาบุญกับทุกท่านค่ะ
     
  5. pon98

    pon98 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +3,886
    แจ้งยอดการโอนเงินทำบุญของเดือนกรกฏาคมครับ
    คุณสงวนชัย อัครวิทยาภูมิ 1000บาท
    คุณปิยะวัฒน์ วรัทเศรษฐ์ 1000บาท
    คุณวิศัลย์ ณ ระนอง 1000บาท
    คุณสุนารี ตั้งธาราวิวัฒน์ 1000บาท
    คุณพลภัทร ตั้งธาราวิวัฒน์ 1000บาท
    คุณพิชญ์ธนัน อนันธรสิริ และเพื่อน 1470บาท
    คุณชมพู ดิษฐ์ประเสริฐ 200บาท
    คุณนาลดา อมรพัชระ และบุตร 400บาท
    คุณภิญญดา ตั้งธาราวิวัฒน์ 400บาท
    รวมทั้งหมด7470บาท

    พรุ่งนี้จะโอนเงินทำบุญของเดือนสิงหาคมจะมาแจ้งยอดอีกครั้งครับ
     
  6. narongwate

    narongwate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    885
    ค่าพลัง:
    +3,840
    [​IMG] <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="98%" align=center border=0><TBODY><TR align=middle><TD><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="90%" align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top width=150>[​IMG]</TD><TD vAlign=top>ปัญญาอบรมสมาธิ



    ผู้แต่ง : ท่านอาจารย์พระมหาบัว ญาณสัมปันโน

    Publisher : ; ISBN : ; Pages : ; Year/Edition : /


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD bgColor=#339900>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=3 width="90%" align=center border=0><TBODY><TR><TD>1.</TD><TD>ปัญญาอบรมสมาธิ</TD><TD align=right>[ PDF ] [ doc ]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    Luangta.Com -
     
  7. benyapa

    benyapa ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,088
    ค่าพลัง:
    +5,431
    ปูร่วมบุญเดือนนี้ 300 บาทนะคะพี่เสือ
     
  8. chaipat

    chaipat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +11,099
    มุจจลินทสูตร
    "...วิเวกเป็นสุขของผู้ยินดี มีธรรมอันสดับแล้ว พิจารณาเห็นอยู่
    ความไม่เบียดเบียน คือ ความสำรวมในสัตว์ทั้งหลาย เป็นสุขในโลก
    ความเป็นผู้ปราศจากราคะแล้ว คือความก้าวล่วงซึ่ง
    กามทั้งหลายเสียได้ เป็นสุขในโลก
    ความนำออกซึ่งอัสมิมานะ (การถือตัว) เสียได้ นี้แล เป็นสุขอย่างยิ่ง..."

    จากหนังสือสุดยอดธรรมะ ฉบับทองของพระพุทธเจ้า
    ผู้แต่ง "วรยุทธ พิชัยสงคราม"
     
  9. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,790
    ค่าพลัง:
    +16,105
    พรุ่งนี้จะเป็นวันที่ทำกิจกรรมของทุนนิธิฯ ประจำเดือนสิงหาคม 2552 ที่ รพ.สงฆ์แล้ว สำหรับรายการบริจาคให้สงฆ์อาพาธในเดือนนี้ทั้งที่ รพ.สงฆ์ และที่ รพ.ภูมิภาคทั้ง 6 แห่ง มีดังนี้

    1. รพ สงฆ์

    บริจาคเป็นค่าสังฆทานภัตตาหารเช้า 5,000.-
    บริจาคซื้อเวชภัณฑ์ส่วนกลาง 7,500.-
    บริจาคซื้อโลหิต 7,500.-

    รวม
    20,000.-

    2. รพ.ภูมิภาค

    รพ.สมเด็จพระยุพราช(ปัว) จ.น่าน 6,000.-
    รพ.มหาราช จ.เชียงใหม่ 5,000.-
    รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น 5,000.-
    รพ.แม่สอด จ.ตาก 6,000.-
    รพ.50 พรรษา มหาวชิราลงกรณ จ.อุบลฯ 5,000.-
    รพ.สงขลา จ.สงขลา 8,000.-

    รวม
    35,000.-

    โดยยอดรวมการบริจาคตามข้อ 1 และ 2 รวมกันราว 55,000.- และยอดที่แท้จริงจะได้สรุปให้ทราบอีกครั้งหนึ่งต่อไป

    สำหรับในเดือนนี้มียอดพระสงฆ์อาพาธที่จะถวายภัตตาหารที่ รพ.สงฆ์เท่าที่เช็คเมื่อวานนี้ตอนเย็น มี จำนวนทั้งสิ้น 147 รูป ซึ่งหลังจากได้ถวายสังฆทานอาหารที่ตึกกัลยาณิวัฒนาแล้ว จะได้มีกิจกรรมเพิ่มเติมที่ตึกพิธีการสงฆ์ต่อดังนี้

    1. กิจกรรมพบปะสนทนาประจำเดือน
    2. แจกของที่ระลึกให้แก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรม
    2.1 พระเครื่องที่อธิษฐานจิตเป็นกรณีพิเศษเมื่อวันที่คณะทุนนิธิฯ เดินทางไปกราบท่านที่วัดโดยท่าน อ.อุทัย สิรินธโร ลูกศิษย์ ท่านหลวงตามหาบัว แห่งวัดเขาใหญ่เจริญธรรมญาณสัมปันโน คนละ 1 องค์
    2.2 รูปโปสการ์ดขนาด A4 ที่ผ่านการอธิษฐานจิตจากท่านเรียบร้อยแล้ว คนละ 1 รูป
    2.3 พระเครื่องที่ผ่านการปลุกเสกจากพ่อแม่ครูอาจารย์สายกัมมัฏฐานที่เตรียมลงบรรจุกรุที่วัดมกุฏคีรีวัน คนละ 1 องค์

    ทั้งนี้ หากท่านใดต้องการไปร่วมถวายสังฆทานภัตตาหารเช้าด้วยกัน คณะทุนนิธิฯ นัดพบที่โรงอาหารของ รพ.สงฆ์ด้านซ้ายมือทางเข้าสุดทางในเวลา 7.30-8.00 น. ครับ

    โดยรูปถ่ายกิจกรรมและเอกสารการบริจาคจะได้ทยอยนำมาลงให้ชมกันต่อไปครับ

    พันวฤทธิ์
    22/8/52

    [​IMG]



    [​IMG]


    [​IMG]


    ยังขาดหลักฐานการโอนเงินไปยัง รพ.แม่สอด จ.ตาก อีก 1 แห่ง ซึ่งผมจะได้รีบดำเนินการให้แล้วเสร็จในวันนี้ครับ




     
  10. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,790
    ค่าพลัง:
    +16,105
    ลูกกรอก : ธรรมสากัจฉาระหว่างหลวงพ่อฤาษีลิงดำกับศิษย์



    [​IMG]
    <!-- .jpg [ 18.11 KiB | เปิดดู 411 ครั้ง ] -->



    <!--แนบไฟล์:
    <div class="attachcontent">--> [​IMG]
    <!-- .jpg [ 214.34 KiB | เปิดดู 411 ครั้ง ] -->



    ผู้ถาม : หลวงพ่อคะ ลูกกรอกกับผีเหมือนกันไหมคะ ?

    หลวง พ่อ : ลูกกรอกกับผีธรรมดานี่ไม่เหมือนกัน ลูกกรอกมันมีสภาพกึ่งผีกึ่งเทวดา จะเป็นเทวดาก็เป็นไม่ได้เต็มที่ จะถือเหมือนผีธรรมดาก็ไม่ได้เพราะพวกนี้มีศักดิ์ศรีสูงกว่า มีอำนาจมาก


    ผู้ถาม : แล้วที่เห็นว่าเป็นเด็กล่ะคะ ?

    หลวง พ่อ : ตามธรรมดาผีไม่มีเด็ก แต่ที่เห็นว่าเป็นเด็กน่ะเขาทำให้ดู ถ้าผีจริง ๆ ไม่มีเด็ก มันจะเป็นหนุ่มเป็นสาวกันหมด แก่ก็ไม่มี ถ้าเราเห็นภาพคนแก่แสดงว่าเขาตายเมื่อตอนแก่ นั่นเขาแสดงภาพให้ดู


    ผู้ถาม : ลูกกรอกจะมีชีวิตอยู่นานไหมคะ ?

    หลวงพ่อ : มันเป็นไปตามกำลัง แต่ว่าเวลาเขามี บางทีก็ถึง 20 ปี ก็ไม่นานนัก


    ผู้ถาม : ถ้าหากว่าบ้านมีลูกกรอกแล้วจะทำอย่างไรดีคะ ?

    หลวง พ่อ : ถ้ามีลูกกรอกจริง ๆ ก็ควรจะรีบถวายสังฆทานให้เสียเลย มีพระพุทธรูปองค์หนึ่งผ้าไตรชุดหนึ่ง ถ้าหากว่าทำอย่างนี้แล้ว พวกหมอเรียกไปไม่ได้ ถ้าไม่งั้นเผลอไม่ได้มันเรียกไป ถึงแม้ว่าเราจะไม่บอกให้รู้แต่ว่าพวกนี้มันมีผีเป็นสื่อ มันเที่ยวควานหา



    หลวงพ่อฤาษีลิงดำเคยช่วยลูกกรอก

    <!--แนบไฟล์:
    <div class="attachcontent">--> [​IMG]
    <!-- .jpg [ 33.94 KiB | เปิดดู 410 ครั้ง ] -->


    "...ลูกกรอกมีที่ไหนที่นั่นรวย ถ้าเลี้ยงถูกต้องนะ ถ้าทำดีเฮง !


    แต่ ก็ต้องระมัดระวัง ถึงจะเป็นสัตว์แต่จิตวิญญาณเป็นคนก็ต้องรีบถวายสังฆทานเหมือนกัน ถ้าไม่รีบทำก็ถูกขโมยไป มีอยู่บ้านหนึ่ง พอดีขึ้นไปบนบ้านเขาเขาก็เลยให้นอน พอตกดึกตีสองได้ยินเสียงเหมือนกับเด็กคราง ร้องเหมือนกับถูกมัดถูกทรมาน เราก็แปลกใจ เอ...เสียงที่ไหนหว่า ?


    ทีแรกคิดว่าคนธรรมดา เพราะว่าลูกตัวเล็ก ๆ เขามีอยู่ มองไปดูเห็นเขาหลับกันหมด อย่างนี้มันต้องไม่ใช่แล้ว เกิดสะดุดใจเอ๊ะ ! ผีเล่นงานเสียอีกแล้ว ถ้าผีล่ะก็สนุกละ เรื่องผีเรื่องเล็ก ดูไปดูมาเห็นเหมือนสภาพเด็ก แต่ว่าโตแล้วนะ แต่ว่าถูกมัดและถูกบังคับมียันต์ติดหน้า เลยถามว่า..เอ็งเป็นใคร ?


    บอกว่าเป็นลูกบ้านนี้ เขาเรียก "ลูกกรอก" มีสถานที่อยู่ตรงที่นั้น เราก็เดินไปดู มีเปลมีที่นอนทำสวย ก็ถามว่าทำไมต้องมาร้อง ทำไมถึงถูกมัด ? ด้วยอานุภาพของมัน ทำให้เห็นภาพคนที่เรียกไปมัด ก็เลยคิดว่า เอ๊ะ..ไม่เป็นเรื่อง พรุ่งนี้เช้าจะถามแม่เขาก่อน


    ตอนเช้าก็ถามแม่เขาว่า ที่นี่มีลูกกรอกหรือเปล่า ? เขาก็บอกว่ามีแต่หายไปนานแล้ว ถามว่าสมัยที่อยู่มีอะไรบ้าง ? สมัยที่อยู่ตอนกลางคืนจะมาหา มากอดมาปล้ำเหมือนกับเด็ก ๆ เวลานี้หายไปสัก 3 เดือนแล้ว เลยบอกเขาว่า เมื่อคืนนี้เขามา แกถามว่าจะทำอย่างไร ? ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน ไม่รู้จะถามใคร เลยถามท้าวมหาชมพู ถามว่า ไง...จัดการได้ไหม ? ท่านบอกว่า เรื่องเล็ก ๆ ครับ ให้แม่ไปจัดที่นอนให้เรียบร้อยทำห้องนั้นให้สะอาด เอาน้ำหอมมาวางพรมไว้ให้หมด ถามว่าเมื่อไหร่จะมา ? ท่านบอกประเดี๋ยวมา ให้เขาเสร็จเสียก่อน พอทำเสร็จท่านบอกให้สังเกตกลิ่นว่าแม่เคยใช้น้ำหอมอะไร น้ำหอมกลิ่นอะไรให้สังเกต


    ทีนี้มาจริง ๆ หอมฟุ้งทั้งบ้านเลย ไม่ใช่กลิ่นน้อย ๆ นะ ทั้งเรือนนี่ใครนั่งที่ไหนก็ได้กลิ่น แล้วแกก็บอกว่า ให้แม่รีบถวายสังฆทานด่วน ถวายสังฆทานก็มีผ้าไตรกับพระพุทธรูปองค์หนึ่ง ของอื่นจะมีหรือไม่ก็ตาม ให้แล้วทีหลังจะเรียกไปอีกไม่ได้เพราะเป็นเทวดาแล้ว


    นี่ฉัน เพิ่งรู้ตอนนั้น พอบอกเขาเขาก็จะจัดการให้ทันที พอเขาให้เสร็จเรียบร้อยแล้ว รูปร่างแกก็สวยขึ้น ทีนี้เรียกไม่ได้แล้วหมดอำนาจ แต่ว่าคาถาของเขาจะเรียกได้ประเภทกึ่งผีกึ่งคนหรือผีโดยเฉพาะ เรียกเทวดาไม่ได้



    แต่ว่าเป็นเทวดาแล้วทุกอย่างมันอ่อนไปหน่อยนะ การให้คุณให้โทษอ่อนไปหน่อย เพราะว่าเทวดาเป็นผู้ใหญ่ โกงเขายาก เทวดาโกงเขาไม่ได้ ถ้าลูกกรอกละเอาทุกท่า ทีนี้ไอ้พวกที่เรียกไปก็ใช้บังคับ ใช้ให้เกิดคุณแก่มัน แต่ว่าจะใช้ให้ไปเข้าคนไปทำร้ายคน อย่างนี้เขาไม่ทำ เขาเอาไปหาลาภพวกนี้มีลาภ แต่ก็ดุนะ ถ้าบ้านไหนมีลูกกรอก ผีอื่นเข้าไม่ได้ นอกจากผีดีเข้าได้ ถ้าไม่ดีเข้าไปล่อแหลกหมด วิ่งหางชี้ไปตามกัน..."

    ..........................................................

    ขอขอบพระคุณเว็บ "วัดท่าซุงดอทคอม" ด้วยครับ
     
  11. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,790
    ค่าพลัง:
    +16,105
    แนะนำพระเครื่องดีคราวนี้มาช้ามาก เพราะมาในวันเสาร์คราวนี้มาลองดูของดีราคาถูก แถมผู้เสก ขึ้นชั้น "จบกิจทางศาสนา" แล้วเช่นกัน มีผู้จับภาพปาฏิหารย์มาเป็นเครื่องยืนยันได้ด้วย พ่อแม่ครูอาจารย์ท่านนี้วัตรปฏิบัติของท่านใจดี มีเมตตามาก ท่านคือ "หลวงปู่ท่อน" พ่อแม่ครูอาจารย์ในดวงใจของท่านหลายคนนั่นเองครับ

    **เชิญบูชาเหรียญหลวงปู่ท่อน ญาณธโร / วัดศรีอภัยวัน อ.เมือง เลย
    สร้างโรงอาหาร โรงเรียนโนนสูงพิทยาคาร อ.เมือง อุดรธานี ติดต่อ ท่านอ.ประสิทธิ์ อุ่นมณี 042-295204 ตอนเย็นๆ หรือ 083-4532688,087-8538890

    ปัจจุบันเหลือเนื้อทองแดง ราคา 100 บาทครับ ยินดีส่งทาง ปณ.ด้วย


    [​IMG]

    [​IMG]

    *เหรียญทองแดงครับ น่าบูชาไว้แจกในอนาคตครับ พระอริยอีกรูปที่สุดยอดในความเมตตาและคงทราบเรื่องราวท่าน 1 ใน 2 รูปที่ คุณหมอที่ รพ.วิชัยยุทธเล่าให้ ทาง บก.หนังสือพระเครื่องฉบับหนึ่งทราบ ผมก็เพิ่งทราบจากท่าน บก.ที่ว่านี้ละครับ

    [​IMG]

    *ลงภาพอัศจรรย์ มาให้ชมครับ..ภาพนี้ท่านเมตตาให้ไป พิมพ์แจกในคราวสร้างพระใหญ่ วัดเมืองตูม อ.ท่าลี่ เลย (อีกรูปไม่แน่ใจว่าองค์ใดครับ.. )


    [​IMG]


    ขอขอบคุณ

    http://www.chiangmai1900.com/index.php?topic=267.0
     
  12. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,790
    ค่าพลัง:
    +16,105
    ไม่อยากย่อทีละรูปเลย cap. มาให้ดูทั้ง file เลย ซึ่งยังเหลืออีกเป็นร้อยรูป ไปตามล่าเอาเองแถวฟุตบาธท่าพระจันทร์ราคาองค์ละไม่กี่บาท เป็นพระพิมพ์สกุลสมเด็จเจ้าคุณกรมท่าครับ เสกในพระราชพิธีหลวง พลังกฤติยาคมท่านสุดยอดมากทั้งเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์ (โต) และหลวงปู่บรมครูพระธรรมฑูตเทพโลกอุดรลองแขวนเดี่ยวท่านดูได้ ใครมีของจริงลองทำจิตให้ว่างจะสัมผัสพลังท่านเอง แม้แต่ผู้หัดทำสมาธิใหม่ๆ ยังสัมผัสได้เช่นกัน ผมเองยังให้ลูกสาวคนเล็กแขวนเลยครับ พระหลัีกสิบ ข้างถนนคนเดิน เดิมพันกันด้วยชีวิตลูกสาว ไม่แน่จริงไม่แนะนำให้หาเก็บกันครับ

    [​IMG]


    [​IMG]



    [​IMG]

    [​IMG]


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 สิงหาคม 2009
  13. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,790
    ค่าพลัง:
    +16,105
    บางส่วนของธรรมะอันเผ็ดร้อนที่เราไม่ค่อยได้รู้ ท่าน "ผ้าขี้ริ้วห่อทอง" หลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท

    โต้ธรรมะกับท่านอาจารย์เฟื่อง

    [​IMG]
    พระอาจารย์เฟื่อง โชติโก

    สหธรรมิกหลวงปู่เจี๊ยะ

    ธรรมะ ของเรามีไม้เดียว ๑๐ ปีก็อย่างเก่าไม่มีอย่างอื่นเลย ให้สับหัวกะโหลก ผ่าไส้ ผ่าท้อง เพราะวิธีที่เราปฏิบัติได้ผลมา จะเอาอย่างอื่นไปสอนไม่ได้ การสอนเราต้องเอาปฏิปทาที่เราได้ดำเนินมาจนบางครั้งได้ทะเลาะกับท่านเฟื่อง ทะเลาะก็ทะเลาะแบบพระ ไม่เหมือนชาวบ้านเขาทะเลาะกัน

    อาจารย์เฟื่อง : เจี๊ยะ! ไปสอนเขาแบบนี้ เขาก็หนีหมดซิ ผู้หญิงฯ สอนให้พิจารณาแต่ของเน่าของเหม็น

    อาจารย์ เจี๊ยะ : “ไอ้ฉิบหาย! กูไม่เชื่อเลย ไอ้พวกนั่งจับลมๆ แม่งมึงก็หลับซิ พระพุทธเจ้าไปอยู่กับอาฬารดาบส และอุททกดาบส จนสำเร็จ ฌานแปด รูปฌาน ๔ อรูปฌาน ๔ ถึงมาเจริญอานาปานสติในตอนหลัง นี่ยังไม่ได้อะไรเลย จะมาจับลม เข้าพุท โธออก ไม่ทันหรอก อยู่กับหลวงปู่มั่น ๓ ปี ๔ แล้ง ไม่เคยสอนซักที จับลมนี่ มีแต่ให้พุทโธเร็วๆ บริกรรมพุทโธเร็วๆ เฟื่อง! สอนอย่างไรวะ”

    อาจารย์ เฟื่อง : “ไอ้ฉิบหาย! สอนเขาอย่างนี้ให้เหม็นเน่า ตัดคอตัดแขน ตัดขา แลบลิ้นออกมาตัด คอขาด แขนขาด เน่าเฟะ เรี่ยราดอยู่กลางศาลา แค่ฟังเขาก็กลัวแล้ว แล้วใครเขาจะมาฟังเทศน์เล่า ใครเขาจะเข้ามาใกล้ มีเพลงเดียว กัณฑ์เดียว ๑๐ ปี ก็เอาอย่างเก่า ปรับปรุงสำนวนให้มันนุ่มนวลหน่อยไม่ได้หรือ? บางทีคนเหล่านี้เขาเข้ามาฟังพอสบายใจ ก็กลับบ้านไปอยู่กับลูกกับเมียเขา ธรรมะรุนแรงเอาไปทำเองเอามาออกสังคมไม่ได้”

    อาจารย์เจี๊ยะ : “ที่เทศน์ที่แสดงอยู่นี่ เพราะพริ้งที่สุดในโลกแล้ว หาฟังที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว มันไม่น่าฟังก็ชั่งแม่งมัน ก็ธรรมะเป็นอกาลิโกไม่จำกัดกาล เทศน์ที่ไหนก็ซัดมันซะจนเต็มเหนี่ยว” (ขออภัยต้องรักษาสำนวนเก่าเอาไว้)

    ธรรมกิริยาของพระอาจารย์เจี๊ยะ

    พระ อาจารย์เจี๊ยะท่านมาแสดงธรรมอบรมสั่งสอนที่วัดอโศฯ ไม่มีใครฟังรู้เรื่องหรอก ทั้งพระทั้งโยม ไม่มีใครสนใจจดจำ มีคนบ่นว่า “ฟังยากฟังธรรมหลวงปู่เจี๊ยะนี้ ฟังไม่รู้เรื่อง คือคล้ายๆ ว่าโลกธรรม ท่านไม่ได้ยึดแล้ว การตำหนิติเตียนเป็นเรื่องธรรมดา ท่านเป็นอิสระมากและเป็นอิสระมานานมาก นานมากจนพวกพระเณรจับกิริยาอาการทางกายและวาจาท่านไม่ได้เลย ส่วนทางใจนั้นพอจับได้บ้าง เพราะธรรมที่ท่านสอนเผ็ดร้อนระงับดับกิเลส แก่ผู้ตั้งใจปฏิบัติตามได้เป็นอย่างดี”

    พระอาจารย์เจี๊ยะ ท่านพิจารณาโลกธรรม โลภ โกรธ หลง แล้วกิริยาของท่านทำอะไรไม่ติดข้องทางโลกเลย เช่น ปวดท้องฉี่ ท่านจะฉี่ตรงนั้นเลย คนเยอะไม่ต้องอาย ฉี่ตรงนั้นเลย ทีนี้ท่านก็ถูกตำหนิว่าเป็นพระผู้ใหญ่ทำไมถึงไม่ละอาย แต่เมื่อเรามาพินิจพิเคราะห์ด้วยดี การกระทำแบบท่านนี้ทำยากนะ อย่างเช่นท่านนั่งเกากะโปกกลางศาลาคนเยอะๆ นี่ คนธรรมดาทำได้เมื่อไร ชนทั้งหลายเขาก็ว่าพระองค์นี้ ไม่มีระเบียบเรียบร้อยเลย นึกไปนึกมาท่านก็รู้ๆ อยู่ แต่ท่านแกล้งทำเพราะรำคาญคน อยากให้มันหนีไปๆ จะได้อยู่สงบสงัด

    ท่านชอบอยู่เงียบๆ ทำอะไรๆ ของท่านไป ไม่มีใครรู้เรื่องท่านหรอก ศิษย์พระอาจารย์มหาบัวที่เป็นฆราวาส ที่มียศถาบรรดาศักดิ์สูงๆ พระอาจารย์มหาบัวก็แนะนำให้มากราบอาจารย์เจี๊ยะนะ นี่แหละ “ผ้าขี้ริ้วห่อทอง”

    เมื่อเขาเข้ามาถึง มาเรียนถามปัญหา ท่านก็จะถามคืนทันทีว่าท่านอาจารย์มหาบัวสอนอะไร ยังไง? เมื่อเขาตอบมาว่าอย่างนั้นๆ ท่านก็จะสรุปเพียงว่า “เออ!...อย่างเดียวกัน สอนอย่างเดียวกัน” ท่านจะพูดเพียงแค่นั้นไม่พูดมาก เหมือนกับว่าท่านจะรักษาตัวไม่ยุ่งกับใคร

    พระอาจารย์เจี๊ยะเวลานั่ง ชอบถกเขมรเปิดแก้มก้น ฝนมีดท่านทำอย่างอิสระของท่าน แต่ชนส่วนมากมาหา เห็นกิริยาที่ท่านทำเช่นนั้นแล้ว ก็มาจับผิดท่านเอง ท่านเองไม่เคยไปยุ่งกับใคร และไม่ต้องการให้ใครมาหากราบไหว้บูชา

    แม้ ศิษย์พระอาจารย์มหาบัว วัดป่าบ้านตาด ที่ท่านบอกว่า “พระอาจารย์เจี๊ยะเป็นผ้าขี้ริ้วห่อทอง” เมื่อมาเห็นกิริยาอาการเคลื่อนไหวไปมาเช่นนั้น ก็อดที่จะตำหนิพระอาจารย์เจี๊ยะไม่ได้ เรียกว่าเดินทางเพื่อมาดู มากกว่ามาหาธรรม บางท่านบางคนจึงไม่ได้อะไร เพราะในสิ่งที่เขาว่าไม่มีอะไรนั้นแหละ มันมีความหมายอยู่ในตัว” พระอาจารย์มหาบัวจึงเตือนอยู่เสมอว่า “ระวังจะเป็นบาปเป็นกรรม กับคนที่คิดไม่ดีกับพระอาจารย์เจี๊ยะ เพราะไม่เข้าใจท่าน”

    พระ อาจารย์เจี๊ยะไม่ว่าจะอยู่ที่ใดท่านละเอียดมาก ผ้าสบงเย็บชุนเป็นระเบียบมาก การใช้จ่ายรัดกุมมาก ไม่เคยเห็นมีพระที่ไหนทำได้อย่างท่านเลย ใครก็ตามที่ไม่เคยฝึกมาก็จะคิดว่า “ทำไมท่านทำอย่างนี้นะ” ถ้ามองเผินๆ ก็อาจจะดูหยาบ ถ้าเข้าไปใกล้ๆ จะเห็นประโยชน์ทุกอย่างที่ท่านทำ เช่นอย่างเดินไปนี่ เห็นตะปู ท่านจะให้ถอนออกแล้วเคาะๆ ๆ เก็บไว้มีประโยชน์ไม่ต้องซื้อหา เวลาเดินไปเจอถังพลาสติกแตกๆ ท่านก็เอามาเคาะๆ เอามาป่นใช้แทนครั่ง ทำด้ามสิ่วด้ามขวาน เจอหมอนแตกท่านให้พระที่ติดตามลงไปงมมาจากในน้ำ ชาวบ้านมองกันหมด เมื่อได้หมอนมา เอามาตากแดดให้แห้ง แล้วก็นำมาเย็บให้ดี

    (หมอน ขาดๆ เจอตามร่องน้ำบ้านใครในทางเดินนี่ ท่านลงไปเก็บมาหมดแหละ บางทีพระรูปที่ติดตามต้องสะพายบาตรเดินตามหลังอยู่แล้ว ยังต้องมาสะพายหมอนขาดอีก ใครๆ เขาเห็นเขาก็ว่า “บ้า” แม้แต่ผู้ที่ติดตามยังคิดว่า “ทำยังงี้เหมือนบ้า” แล้วคนอื่นที่มองมันจะคิดมากขนาดไหน ดูๆ แล้วเหมือนผีบ้าเดินตามกัน คนจะมองเหมือนคนบ้ากับคนบ้าอยู่ด้วยกัน)

    ท่านห้าวหาญมากไม่กลัวใคร แม้พระที่นับถือท่านหรือไม่นับถือท่านก็ไม่กลัวเลย ยกตัวอย่างเช่น พระเดินตามกัน ๒ รูปไม่ได้เลย ถ้าท่านรูปใดทำ เป็นได้เรื่อง ท่านจะด่าเลย ท่านจะให้เร่งความเพียร การเดินตามก้นกันเหมือนฆราวาส ท่านไม่ให้ทำ

    พระบางรูปข้อวัตรปฏิบัติดีเยี่ยม เป็นเพียงกิริยา แต่พอเสร็จจากการทำตามตาราง ก็คุยกันจุกๆ จิกๆ ท่านพูดเมื่อเห็นพระกระทำเช่นนั้นว่า

    “กูไปนั่งเยี่ยวอยู่นี่ เท่ากับพวกท่านพิจารณากันทั้งคืนมั้ง”

    พระ อาจารย์เจี๊ยะดุพระเณรมาก จนบางครั้งพระอาจารย์เฟื่องต้องเตือนพระเณรว่า “อาจารย์เจี๊ยะท่านเป็นอย่างนี้แหละ อยู่กับหลวงปู่มั่น แหย่หลวงปู่มั่นให้ดุได้ทุกวัน พวกท่านอยู่กับท่านอาจารย์เจี๊ยะอย่าถือสาท่านนะ”

    อบรมลูกศิษย์

    เวลา อบรมลูกศิษย์ท่านจะดุมาก เพราะนิสัยท่านชอบฟังธรรมะที่เผ็ดร้อน เวลาอบรมพระเหมือนว่าท่านจะปั้นหน้า หันหน้าเข้าฝา ทั้งๆ ที่คุยกันอยู่ ทั้งๆ ที่ยิ้มๆ กันอยู่ดีๆ พอท่านหันหน้ากลับออกมาพูดเรื่องธรรมะนี่ หน้าท่านดุเลย

    วันไหนถ้าท่านได้ยินเสียงพระคุยกัน ไม่ประกอบความเพียร ท่านลงทุนทุบร่ม กระแป๋ง ขว้างลงมาโครมครามๆ ท่าจะพูดบ่นๆ ว่า “โน่น!...มันพากันหนีไปทางโน่นแล้ว พวกนี้ต้องสอนแบบนี้ไม่งั้นไม่กลัว” พูดเสร็จแล้วท่านก็หัวเราะ...เสียงดัง ฮ่า ฮ่า...”

    เมื่อใดใครก็ตามได้เข้าไปสัมผัสจริง จะรู้ว่าพระอาจารย์เจี๊ยะ เป็นที่อบอุ่นมีเมตตาอารี ท่านมีนิสัยล่อหลอกทดสอบคนใกล้ชิดท่านอยู่เสมอ ไม่ให้ตายใจ เหมือนว่าเวลาเราจะเดินหน้า ท่านจะถอยหลัง เราถอยหลัง ท่านเดินหน้า เราไป ท่านจะเหยียบเบรค เราต้องจับเอาธรรมะท่านไม่ซ้ำซาก พูดตรงๆ แต่เฉพาะการพิจารณากายนี้ ๑๐๐ ครั้ง ก็พูดอย่างเก่า เทศน์อย่างเก่าไม่เปลี่ยนแปลง เฉพาะการพิจารณากายอย่างเดียว อย่างอื่นอาจมีแหลมคมตามแง่เหตุผล

    สำหรับการสอนพระ สอนให้ “พุทโธ” ถ้าพุทโธไม่อยู่ ให้กลั้นหายใจพุทโธไป ๒๐ ครั้ง แล้วออกอีก ๒๐ ครั้งในลมหายใจเดียว ให้รัวเหมือนเอ็ม ๑๖ ท่านว่าอย่างนั้น “พุทโธๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” ให้อย่างนั้นเลย มันถึงจะอยู่ ต้องไว ท่านสอนต่อไปว่า “ถ้าพิจารณากายไม่ไหวนี่ เอาระเบิดใส่ในตัวเรา เอ็ม ๑๖ จ่อขมองเลย ถ้าตัดลิ้นตัดคอยังเสียวอยู่ เอาระเบิดให้แม่มันคอขาดไป” ให้นึกไปอย่างนั้น

    นิมิตภาวนาพลาสติกครอบหัวพระ

    หลวงปู่เจี้ยะเล่าว่า...

    [​IMG]
    กุฏิหลวงปู่เจี๊ยะสมัยที่อยู่วัดอโศการาม

    เรา ไปว่าเขา เขาก็ไม่ชอบเราเหมือนกัน แต่บางทีก็ต้องเสือก ผมว่าเตือนพวกท่านเพราะหวังดี ผมก็ลูกศิษย์ท่านพ่อเหมือนกันนี่ บางองค์ท่านโกรธหน้าดำหน้าแดง ทำท่าอึดอัดน่าหัวเราะบางองค์ท่านหลับอยู่ตลอด เรานั่งสมาธิลองเพ่งไปดู ถ้าเอาพลาสติกไปครอบหัวมันในนิมิต ถุงพลาสติกก็ครอบหัวอยู่อย่างนี้

    พอเช้าก็เรียกมา “แหม!....พอเรียกขึ้นมาหน่อย ท่านนี้หน้าเขียวหน้าขาวเชียวนะ”

    “ทำไม อาจารย์มีธุระอะไร?”

    “เอ้า! ก็มีหน่อยซิ! ท่านน่ะลูกศิษย์ใคร ลูกศิษย์ท่านพ่อลี ผมก็เป็นลูกศิษย์ท่านพ่อลี แล้วเราปรึกษากันได้ หรือท่านมีความรู้ ท่านก็มาสอนผมได้ เข้าใจมั้ย? ผมมีความรู้ก็สอนกันเพื่อให้มันเป็นประโยชน์ ท่านนี่นั่งฟังเทศน์สัปหงกตลอดเวลา จริงหรือเปล่า”

    แต่ท่านเถียงว่า “ท่านไม่หลับ ใครๆ ก็เห็นทั้งนั้นเลย”

    บอก ไปก็ไม่ค่อยยอม เราก็ต้องวางอุเบกขา เขาไม่เชื่อจะทำยังไง อย่างองค์นี้ ถ้าอาตมาขาดี ทีเดียวคาที่เลย ฮึ! ตัวเตี้ย ๆ ตบกรามทีเดียวคาที่เลย นับสิบทีเดียวไม่ลุกเลย หมดนี่มันแรง ไม่ได้ (หัวเราะ ฮึ...)

    วัยผ่านเหมือนถูกบังคับ

    [​IMG]
    วัดเวฬุวัน (เขาจีนแล)

    ใน ระหว่างที่พระอาจารย์เจี๊ยะ พักจำพรรษาปฏิบัติภาวนาอยู่ที่วัดอโศการามนั้น ท่านยังได้ออกเที่ยววิเวกตามสมณวิสัย ยินดีทางด้านจิตใจแบบมุนี ปลีกตัวออกห่างจากผู้คน ปรารถนาหาถ้ำเงื้อมผาป่าเขา จะอยู่และตายแบบลูกศิษย์ตถาคต สมศักดิ์ศรีที่เป็นศากยบุตรพุทธชิโนรส เพราะสังขารร่างกายขณะนั้นก็เข้าสู่วัยชราแล้ว พระอาจารย์เจี๊ยะท่านจึงพิจารณาว่า

    “วัยของเรานี้ผ่านไปรวดเร็ว เหมือนถูกบังคับ รูปที่มีอยู่ก็เปลี่ยนไปเหมือนรูปอื่นๆ ที่เปลี่ยนไปแล้วและดับไปแล้ว เมื่อย้อนมาพิจารณาระลึกถึงตัวของเรา เราก็จะเหมือนกับตัวตนของคนอื่นที่ล่วงผ่านไปแล้วตามคติของโลก อย่างไรเลยก่อนตายเราควรจะไว้ลายศิษย์ท่านพระอาจารย์มั่น ควรจะตายอยู่ตามท้องถ้ำ เงื้อมผา ป่าเขา จึงจะสมน้ำสมเนื้อแห่งความเป็นนักรบธรรม”

    เมื่อปรารภดังนั้นท่านจึง คิดออกวิเวกตามป่าเขาในที่ต่างๆ ตามรอยบุพพาจารย์ของท่านคือท่านพ่อลี ธมฺมธโร ในเบื้องแรกท่านออกเที่ยววิเวกที่เขาจีนและจังหวัดลพบุรี

    สำนักสงฆ์ห้วยปลาหลด

    [​IMG]
    หมู่บ้านมูเซอที่ห้วยปลาหลด

    พระ อาจารย์เจี๊ยะท่านออกเที่ยวแสวงหาถิ่นที่วิเวกทางกายและจิตพอสมควรแก่กาล แล้ว ท่านก็จะเดินทางกลับมาจำพรรษาที่วัดอโศการามในฤดูฝน เพื่ออบรมสั่งสอนพระเณรเท่าที่ความสามารถที่พึงจะกระทำได้ แต่เมื่อท่านกลับเข้ามาอยู่วัดอโศการาม เป็นพระเถระผู้ใหญ่รูปหนึ่ง พระเณรก็ไม่ค่อยจะเชื่อฟังท่านมากนัก มักมองท่านด้วยสายตาว่าเป็นพระแก่เลอะเลือนไม่มีความหมาย พระบางรูปถึงขนาดดูหมิ่นว่า “ท่านเป็นพระบ้า”

    พระอาจารย์เจี๊ยะ ท่านกล่าวว่า พระทุกวันนี้มักติดรูปแบบในการปฏิบัติมากกว่าวิธีปฏิบัติจริงเพื่อถึงความ พ้นทุกข์ ดังคำที่ว่า “โลกชอบ แต่ธรรมชัง หรือธรรมชอบ แต่โลกชัง” สาเหตุเพราะว่าทุก ๆ คนชอบมองแต่กิริยาภายนอกอันเป็นไปแบบสบายๆ

    [​IMG]
    กุฏิหลวงปู่เจี๊ยะที่ห้วยปลาหลด

    เมื่อ พระอาจารย์เจี๊ยะเห็นเหตุการณ์อย่างนั้น ท่านจึงสลดใจ ครั้นออกพรรษาเวียนมาถึงฤดูแล้งอีก ท่านคิดจะแสวงหาสถานที่พักภาวนาอยู่จำพรรษาอย่างถาวร แต่ว่ายังไม่สามารถหาได้ อายุมากแล้วไม่คิดจะตะลอนรอนแรมไปที่ใดอีก ท่านจึงเที่ยววิเวกไปตามที่ต่างๆ อันเป็นที่สบายกายจิตเป็นวิหารธรรม ท่านเดินทางไปทางภาคเหนือ จังหวัดตาก เพราะคณะศิษย์ของท่านไปปักหลักอยู่ที่นั้นก่อนแล้วก็มี ไบ่พักที่ห้วยปลาหลด บ้านห้วยปลาหลด ตำบลด่านแม่ละเมา อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก และที่ถ้ำช้างร้องอันเป็นเขตแดนติดต่อกัน ระหว่างจังหวัดตากกับจังหวัดลำพูน (ฝั่งช้ายป่าอมก๋อย จังหวัดตาก ฝั่งขวาลี้ จังหวัดลำพูน)

    เทพบันดาล

    ที่ถ้ำช้างร้อง มีเหตุการณ์ที่มนุษย์ผู้มีนัยน์ตามืดบอด อันกิเลสปกคลุมอยู่นั้น ไม่สามารถทราบได้ แต่สำหรับพุทธญาณ ตลอดจนญาณแห่งพระอริยสงฆ์นั้นท่านรับรู้ได้โดยตลอด

    พระลูกศิษย์ของ พระอาจารย์เจี๊ยะ รูปหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ชอบทดลองเรื่องผี เทพ เทวดา ตลอดจนพวกกายทิพย์ว่ามีจริงหรือไม่ ในที่สุดท่านก็เจอดีเข้าจนได้

    เวลา ที่ท่านเข้าที่นั่งภาวนา จะมีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาในนิมิตเสมอๆ แสดงอาการกิริยาว่าไม่พอใจที่ท่านเข้ามาอยู่ที่นี่ อาจจะเป็นเพราะการแสดงกิริยามรรยาทไม่งามอย่างใดอย่างหนึ่ง อันนี้ก็สุดแล้วแต่ใครจะคิดคาด ในขณะที่หญิงงามเข้ามาในนิมิตภาวนานั้น เธอมักจะถามว่า

    “พระคุณเจ้า! มาอยู่ที่นี่ทำไม มาอยู่ป่าทำไม มาอยู่ป่าแล้ว ไม่เห็นเหล่าพระคุณเจ้า สงบกาย วาจา ใจเลย” นางถามขึ้นพร้อมกับแสดงกิริยารังเกียจ ด้วยการมองด้วยหางตา

    [​IMG]
    บรรยากาศภายในสำนักสงฆ์ห้วยปลาหลด

    “สงบยังไง ยังไงเรียกว่าความสงบ อธิบายให้อาตมาฟังซิแม่หญิง!” พระรูปนั้นสอบถามขึ้น

    “ความ สงบก็คือ ต้องอยู่อย่างเงียบๆ เป็นพระกรรมฐาน ต้องไม่พูดจาวาทีกับใครทั้งนั้น” นางกล่าวขึ้นพร้อมกับรูปร่างที่งดงามของนางค่อยๆ เปลี่ยนไปสู่วัยชรา จากหญิงสาวกลายเป็นหญิงแก่ หน้าไม่รับแขกที่มาเยือน ในขณะที่ผู้หญิงแก่หน้าไม่รับแขกคนนี้พูดจบลง นางก็แสดงกิริยารังเกียจเพิ่มขึ้นออกมาอย่างเห็นได้ชัด ประหนึ่งจะเป็นการประกาศสงคราม ระหว่างพระสาวกของพระพุทธเจ้ากับภุมเทวดานางหนึ่ง สรุปว่าเธอไม่ชอบใจพวกพระอย่างเรา เธอชอบพระกรรมฐานแบบพม่า

    ในที่สุดจิตพระรูปนั้นก็แสดงอาการฉายกระแสลำแสงของจิตไปกระทบนางเข้าว่า

    “อีฉิบหาย! กูอยู่แบบพระกรรมฐานไทยไม่ได้หรือ?”

    ด้วย เหตุเพียงคำพูดกระทบเพียงเท่านี้แหละ เธอโกรธเป็นวรรคเป็นเวรแกล้งสารพัดอย่าง พระที่ไปอยู่ด้วยกันอยู่แทบไม่ได้ ลำบากลำบนเกิดอาเพศต่างๆ นานา ในขณะนั้นมีพระเข้ามาอยู่ด้วยกันหลายองค์ เมื่อภายในถ้ำก็ขรุขระมาก พระเณรจึงช่วยกันปรับถ้ำให้พออยู่ พอเดินไปได้สะดวก

    ขณะที่พระเณรปรับปรุงถ้ำช้างร้องอยู่นั้น รู้สึกว่าแม่หญิงภูมิเจ้าที่ ที่เป็นผู้อารักษ์ถ้ำและสมบัติของเจ้าแม่จามเทวีจะไม่เห็นดีด้วย

    เทวดาจะช่วยสร้างวัดสร้างศาลา

    [​IMG]
    พระพุทธบาทแก่งสร้อย อยู่ไม่ห่างจากถ้ำช้างร้อง

    ล่องเรือประมาณ ๓๐ นาที

    พอ ตกตอนกลางคืน ต่างองค์ก็ต่างภาวนา พระรูปเดิมที่สามารถติดต่อกับเทวดาเหล่านี้ได้ก็เข้าที่ภาวนา ท่านภาวนาแล้วปรากฏภาพในนิมิตภาวนาของท่าน ให้เห็นสตรีคนเดิมที่เข้ามาในนิมิตของท่านบ่อยๆ คราวนี้เขามาอีก มาแปลกกว่าคราวก่อนๆ ที่เคยมา คือไม่มาเป็นคนแก่ มาเป็นคนรุ่นอายุประมาณ ๓๐ ปี รูปร่างหน้าตาดีมาก มาท้วงติงว่าทำไมพวกพระเราถึงทำอย่างนี้ และก็พูดอย่างที่เขาเคยพูดว่า

    “พวกท่านเป็นพระไม่สงบ พวกท่านเป็นพระกิริยาไม่งาม” นางชี้ไม้ชี้มือด่าว่าโดยตลอด

    “แม่หญิง! จะให้สงบได้อย่างไร เมื่อท้องถ้ำมันสกปรกอย่างนี้ อยากให้พระสงฆ์ก็ช่วยปรับปรุง ท้องถ้ำให้เสร็จซิ”

    พระรูปนั้นพูดกับนาง ด้วยวาจาที่แสดงออกไปทางกระแสจิตที่อ่อนหวานบ้าง

    “ท่านอยากทำวัด ทำศาลาสวย ๆ มั้ย?” นางถาม

    “อาตมาไม่ทำหรอก ตั้งใจมาภาวนา กำจัดกิเลสออกจากจิตใจให้ใสสะอาดและที่สำคัญไม่มีเงินทำด้วย”

    “พระคุณเจ้า! ทำเถอะ อันเรื่องเงินนั้นไม่เป็นปัญหาสำคัญแต่อย่างใด”

    แม่หญิงเทวดาที่มาในนิมิตกล่าวยืนยันที่จะช่วยเหลืออย่างแข็งขัน

    “แม่ หญิง! อาตมาไม่ทำหรอก อันการสร้างวัดนี้ จะเป็นภาระติดตามมาอย่างมากมาย ความพะรุงพะรังทางใจนี้ก็มีมากอยู่แล้ว ยังมาให้อาตมาพะรุงพะรังทางกายอีกหรือ?”

    เมื่อพระรูปนั้นตอบเพียงเท่านั้นนางก็ไม่ถาม อย่างใดต่ออีก อันตรธานหายไปในขณะนั้น

    [​IMG]
    สายน้ำที่หน้าถ้ำช้างร้อง

    เมื่อ หญิงเทวดานั้น อันตรธานหายไป สร้างความงุนงงให้ภิกษุรูปนั้นมากเหลือเกิน อันความอัศจรรย์นั้น อัศจรรย์อยู่แล้ว แต่ความอัศจรรย์ที่หญิงเทวดานี้ ปรารถนาจะมาช่วยสร้างวัด นางจะมาช่วยสร้างได้อย่างไร เมื่อนางมายกหินแบกไม้ก็ไม่ได้

    ท่านจึงคิดเป็นเชิงรำพึงว่า “เอ๊ะ!... พวกกายทิพย์นี้ เขาจะหาเงินมาให้มนุษย์อย่างเรานี้ด้วยวิธีใดน้อ!...”

    หลัง จากนั้นอีกไม่กี่วัน พระเณรที่อยู่ด้วยกันหลายองค์ ต่างก็เร่งความเพียรบางองค์นั่งภาวนา บางองค์เดินจงกรม บางองค์ทำกิจที่ควรทำ ภายในถ้ำบ้างนอกถ้ำบ้าง เวลาบ่ายตะวันคล้อยมามากแล้ว มีเรือใหญ่ลำหนึ่งล่องผ่านมาทางอุทยานแห่งชาติแม่น้ำปิง มาทางพระพุทธบาทแก่งสร้อย อาจจะแวะไปทางดอยเต่าก็ได้ หรือจะไปที่อื่นก็ได้ เพราะสายน้ำเป็นทางสามแพร่งอยู่โดยตลอด

    [​IMG]
    พระกลับจากบิณฑบาตที่ถ้ำช้างร้อง

    เรือ ลำนี้เป็นเรืออะไร พวกเราทั้งหลายที่อยู่ที่ถ้ำช้างร้อง ไม่มีใครสามารถรู้ได้ มองเห็นเรือแต่ไกลๆ และคนในเรือทั้งหมดนั้นก็ไม่สามารถมองเห็นพวกเราได้ เพราะอยู่กันข้างในถ้ำที่มีแต่เครือไม้ปกคลุม มองจากภายนอกแม้ผ่านเข้ามาใกล้ๆ ก็จะไม่สามารถทราบได้ว่าเป็นถ้ำหรือมีพระอยู่

    เรือใหญ่ลำนั้น ล่องอยู่ท่ามกลางแม่น้ำที่มองเห็นแต่ไกลๆ อยู่นาน จะไปทางซ้ายก็ไม่ไป จะไปทางขวาก็ไม่ไป จอดนิ่งและนานคล้ายว่ามีอะไร หรือว่าเรือเสียเครื่องหรือพัง แต่โดยที่สุดแล้วเรือลำใหญ่นั้น ก็ค่อยๆ ตรงดิ่งเข้ามาทางถ้ำช้างร้องที่พวกเราอยู่เหมือนว่าในเรือนั้น มีคนรู้ว่าถ้ำช้างร้องอยู่ตรงนี้ เรือนั้นล่องลอยเข้ามาเรื่อยๆ มาใกล้บริเวณที่พระเณรอยู่ และกำลังจะล่องผ่านไป ภายในเรือนั้นมีคนมากมาย พูดคุยกันเสียงดังโว้กว๊าก พระเณรที่อยู่ในถ้ำเห็นดังนั้น ก็พากันออกมาดู

    เมื่อ คนในเรือเห็นพระเณรเท่านั้นแหละ เขาร้องตะโกนว่า “เจอแล้ว ๆ นั่นพระอยู่ตรงนั้น” ต่างก็ส่งเสียงอึกทึกกันใหญ่เมื่อเรือเลียบฝั่งได้แล้ว คนบนเรือกลุ่มหนึ่งก็ตรงรี่เข้าไปหาพระ พร้อมกับหิ้วถุงใบเขื่องไปด้วยตัวแทนคนหนึ่งก็พูดว่า

    “ท่านอาจารย์ เป็นบุญเหลือเกิน ที่ได้พบพวกท่านที่นี่”

    “มี บุญอย่างไรกันละโยม มีเหตุการณ์อะไรหรือ?” พระที่อยู่ในถ้ำนั้นก็พากันกล่าวถามขึ้นด้วยความตกตื่น เพราะเขาหน้าตาตื่นมายังกับถูกผีหลอกกลางวันแสกๆ

    “ท่านอา... อาจารย์ไม่มีอะไรไม่ดีหรอก ถึงมีเรื่องไม่ดีมันก็ผ่านมาและก็ผ่านไปแล้ว”

    เขา กล่าวขึ้นแบบตะกุกตะกักเหมือนคนติดอ่าง ทั้งที่ไม่ติดอ่าง เหมือนมีอะไรครอบงำ แล้วเขาก็หันไปหยิบธนบัตรฟ่อนใหญ่มากองไว้ข้างหน้า ก้มลงกราบแล้วกล่าวว่า

    “ท่านอาจารย์และพระเณรทั้งหลาย ผมขอถวายปัจจัยทั้งหมดนี้ไว้ให้ท่าน ขอให้ท่านนำเงินจำนวนมากนี้ไปสร้างวัด”

    [​IMG]
    ท่าน้ำที่หน้าถ้ำช้างร้อง

    พูดแล้วเขาก็ยกมือขึ้นใส่หัว...สาธุ

    “มัน เรื่องอะไรกันโยม อยู่ดีๆ เอาเงินมาถวายกันเป็นจำนวนเยอะๆ พระรับเงินไม่มีต้นสายปลายเหตุไม่ได้หรอก ยิ่งพวกเราเป็นพระป่า ต้องรู้ที่มาที่ไปด้วยน้ำใจใสสะอาด”

    พูดเสร็จแล้วเหล่าพระก็นั่งรอฟังว่าเขาจะว่าอย่างไร

    “คือเรื่องมันเป็นไปเป็นมาอย่างนี้ครับท่านอาจารย์”

    เขาพูดขึ้นพร้อมเอามือปาดเหงื่อที่ไหลซิกๆ

    “เริ่ม แรกทีเดียวพวกผมมาในนามนักท่องเที่ยว ล่องเรือชมวิวทิวทัศน์เพื่อปกปิดอะไรบางอย่างไว้ แท้ที่จริงแล้วเรือลำใหญ่ๆ ที่ท่านอาจารย์เห็นอยู่นั้น เป็นเรือบ่อนการพนันขนาดใหญ่ แต่แอบแฝงมาในนามเรือท่องเที่ยวชมวิวทิวทัศน์บริเวณเขื่อนภูมิพล เพื่อไม่ให้ทางการรู้ ในนั้นมีแต่พวกเศรษฐีเจ้ามือใหญ่ๆ ผมเป็นเพียงตัวแทนเขา ให้นำเงินมาถวายท่าน

    เมื่อเรือท่องเที่ยวล่อง มาตามลำน้ำ ก็เล่นการพนันสนุกสนานมาเรื่อยๆ ไม่ปรากฏว่ามีอะไร แต่พอมาถึงช่วงก่อนหน้านี้ไม่นานนัก การโกงกันก็เกิดขึ้น ตกลงกันไม่ได้ พวกนักเลงการพนันแบ่งออกเป็นสองฝ่าย ต่างฝ่ายต่างก็มีอาวุธอยู่ครบมือ เกือบจะยิงกันตายทั้งลำ บนเรือนั้นมีแต่เจ้าพ่อทั้งนั้น ไม่มีใครยอมใคร ต่างฝ่ายก็ต่างมีศักดิ์ศรี จึงตกลงกันว่า

    “เงินทั้งหมดที่อยู่บนเรือนี้จะเป็นของใครไปไม่ได้”

    “พวกเราจะทำกันอย่างไรล่ะทีนี้” หัวหน้าตัวโจกทั้งสองฝ่ายพูดขึ้น

    [​IMG]
    วิหารน้อยซึ่งประดิษฐาน
    พระพุทธรูปในถ้ำช้างร้อง เจ้าแม่จามเทวีทรงสร้าง

    “เอา อย่างนี้ก็แล้วกัน ถ้าเราล่องเรือไปเจอวัดเจอพระที่ไหน ก็มอบถวายท่านไปเลย ปัญหาจะได้จบ” หัวหน้านักเลงการพนันอีกฝ่ายหนึ่งพูดขึ้น

    “เอาเป็นว่าตกลงกันตามนี้” หัวหน้าอีกฝ่ายโต้ตอบยอมรับแสดงความเป็นธรรม

    จึง สรุปความว่า เงินนี้พวกเราจะถวายพระ ที่เจอครั้งแรกในการเดินทางต่อไปนี้ จึงมาเจอท่านอาจารย์และพระเณรนี้แหละ ในระหว่างนี้เหตุการณ์ตึงเครียดเหลือเกิน ไม่นึกไม่ฝันว่า พวกพระคุณเจ้าทั้งหลายจะมาอยู่ในป่าดงพงลึกขนาดนี้ พวกผมเห็นแล้วดีใจกันใหญ่ ไม่งั้นจะต้องฆ่ากันตายแน่ๆ

    “โยมเอ๋ย. เงินของโยมพระรับไม่ได้ดอก มันมีที่มาไม่บริสุทธิ์ เอาเป็นว่าอาตมารับแล้วก็คืนให้ขืนอาตมารับไว้ พระที่นี่ก็ฆ่ากันตายอีกหรอก เงินมันมากขนาดนี้ หรือถ้าโยมมีศรัทธาจะเอาไปถวายพระที่ไหนก็แล้วแต่”

    เขารับเงินคืนแล้วแสดงอาการดีใจจนลิงโลด ออกอาการไชโยโห่ร้อง เป็นทางออกที่ปลอดโปร่งโล่งใจแทบทุกฝ่าย

    พระภิกษุรูปที่ติดต่อกับหญิงเทวดาได้นั้น ถึงกับอุทาทานในใจว่า

    “นี้หรือที่มึงว่าจะช่วยกูสร้างวัค...หึ...อีแม่หญิงร้าย...อีแก่ มึงจะมาบังคับกูทางอ้อมหรือ”

    แล้วเหตุการณ์นี้ก็ผ่านไป เป็นเหตุการณ์แรกที่ถ้ำช้างร้อง
     
  14. pon98

    pon98 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +3,886
    วันนี้ได้โอนเงินทำบุญประจำเดือนสิงหาคมดังนี้
    คุณวิศัลย์ ณ ระนอง 1000 บาท
    คุณสงวนชัย อัครวิทยาภูมิ1000บาท
    คุณปิยะวัฒน์ วรัทเศรษฐ์ 1000บาท
    คุณสุนารี ตั้งธาราวิวัฒน์ 1000 บาท
    คุณนาลดา อมรพัชระ และบุตร 400 บาท
    คุณพิชญ์ธนัน อนันธรสิริ และเพื่อนๆ 2300 บาท
    คุณชมพู่ ดิษฐ์ประเสริฐ 200 บาท
    รวมเป็นเงินทำบุญทั้งหมด 6900 บาท
     
  15. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,790
    ค่าพลัง:
    +16,105
    บางส่วนของพระพิมพ์สกุลบรมครูพระธรรมฑูตเทพโลกอุดร ทรงพิมพ์มาตรฐาน 15 ทรงพิมพ์ โดยพระพิมพ์สกุลนี้ ท่าน อ.ประถมฯ เคยกล่าวไว้ในคราวที่มาในงานกิจกรรมของทุนนิธิฯ ว่า มีอายุพระพิมพ์ประมาณ 600 ปี และมีพลังกฤติยาคมที่เข้มแข็งที่สุดในทุกๆ ด้านแม้แต่ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ (โต) ก็ยังทรงเป็นลูกศิษย์ของท่าน และท่านคืออาจารย์ในดงของหลวงพ่อจรัล, หลวงปู่โง่น ฯลฯ (ทุนนิธิฯ เคยนำมาแจกให้ฟรีบางส่วน ซึ่งขณะนี้ยังมีพระที่น่าจะเหลือราวๆ ร้อยกว่าองค์ และคงต้องรอโอกาสดี ที่จะนำมาแจกให้ฟรีแก่ผู้ที่ทำบุญเป็นประจำอีกครั้ง เพื่อให้เก็บไว้เป็นพระในตำนานของครอบครัวสืบไป)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,790
    ค่าพลัง:
    +16,105
    จบไปอีกครั้งสำหรับภารกิจงานบุญประจำเดือนสิงหาคม 2552 นี้ โดยมียอดถวายสังฆทานภัตตาหารเช้าแด่พระสงฆ์ที่อาพาธ 147 รูป และมียอดบริจาครวมทั้งสิ้น 7 รพ. พร้อมค่าสังฆทานทั้งหมด 54,410.- เงินเบิกจากบัญชีมา 55,000.- จึงเหลือคืนเข้าบัญชีทุนนิธิฯ 590.- โดยปัดเศษเป็น 600.-ถ้วนครับ และมียอดสมทบในห้องพิธีการโดยผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมในวันนี้ 33,800.- ดังนั้น ยอดคงเหลือในบัญชีน่าจะประมาณใกล้ๆ 250,000.- แล้วครับ ซึ่งคงต้องเป็นภาระหน้าที่ของคณะกรรมการฯ ที่ต้องหา รพ.เพิ่มเติมอีก โดยในวันนี้ มีพยาบาลจาก รพ.อุตรดิตถ์มาทำกิจกรรมด้วย 2 คน ได้ฝากเรื่องไปแล้วด้วยเช่นกัน โดยให้ลองหา รพ.แถบชายแดนลาวเพิ่มขึ้นอีก 1 แห่งด้วยครับ จึงเรียนมาทราบในเบื้องต้นก่อน สำหรับรูปกิจกรรมในวันนี้ น้องๆ ที่ช่วยถ่ายรูป จะได้ทยอยนำมาลง ทั้งเบื้องหน้า เบื้องกลาง และเบื้องหลังครับ

    สุดท้าย ต้องขอขอบคุณสิทธิพงษ์และคณะพระวังหน้าทุกคนที่มาร่วมในงานนี้ด้วย รวมทั้งคุณ newcomer ที่มีน้ำใจนำพระพิมพ์ที่ขอบารมีจากหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ ฯลฯ มามอบในวันนี้ด้วยเช่นกัน...

    พันวฤทธิ์
    23/8/52

    [​IMG]




     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 สิงหาคม 2009
  17. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,790
    ค่าพลัง:
    +16,105
    อยากมีกินมีใช้อ่ะป่าว เอ้า..ลองภาวนากันทุกๆ วัน

    นี่คือต้นฉบับคาถาบูชาพระสิวลีที่หลวงพ่อกวยได้จดบันทึกไว้ เเละมีการทำสำเนาเเพร่หลายอยู่ทั่วไปในบ้านเรา

    [​IMG]
    <hr class="hrcolor" size="1" width="100%"> [​IMG]

    [​IMG]


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 สิงหาคม 2009
  18. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,790
    ค่าพลัง:
    +16,105
    นี่ก็อีกคาถาหนึ่ง เรียกว่าคาถา "ยอดเสน่ห์" เสกวันละ 108 จบ ส. 108 ท. (เสกวันละ 108 เที่ยว)



    ไม่มีคำอธิบาย เพราะหลวงปู่ท่านเขียนไว้ละเอียดดีเเล้วครับ
    <hr class="hrcolor" size="1" width="100%"> [​IMG]
     
  19. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,790
    ค่าพลัง:
    +16,105
    นี่ก็อีกบทหนึ่ง พวกที่เจ้านายไม่ชอบหน้า เขาว่ากันว่าฉมังนัก

    คาถาพระสิวลีอีกบทนึงของหลวงพ่อ ดีทางเมตตามหานิยม คนรักใคร่ ทั้งชายหญิง ค้าขายดี มีเสน่ห์
    ลองอ่านดูเเล้วรู้สึกขนลุก ใครอยากเรียน ให้จุดธูปบอกกล่าวหลวงพ่อก่อนท่อง จักเกิดผล

    ผมขอถอดคาถานี้ ทั้งไทยเเละขอม ตามหลวงพ่อจด โดยไม่มีการเปลี่ยนเเปลงทุกตัวอักษร
    ตัวคาถาว่าดังนี้

    คาถาพระฉิมภาลี

    นะ โมพุทธายะ พุทธะสังมิ นะชาลิติ อุชาลิติ ข้าพระธรณีเจ้าเอย รูปจะขอเสียงอาตมาพาบ ลูกจะขอลาบพระฉิมภาลี ขอเดชะพระภายเจ้าข้านี่เอ่ย จงมาพัตพระคาถานี้ ลอยละลิ่วปลิวไป เข้าดนใจคนทั้งหลาย นะคือตัวข้า อะคือตัวคลทั้งหลายเมตา โมกรุณา พุทธปลานิ ธายินดี ยะเอนดู นะสังสิโม นะสิสังนะ นะเลื่อนเปื้อน โมฟั่นเฝือ พุทงวยงง ธาหลงไหล สาระพัตจงงง สาระพัตจังงัง พรัมะจะริยัง หญิงชายทั่วทั้งเเผ่นดิน อมมะนิจิตตัง อาคัชฉัยยะ อาคัชฉาหิ จิตคลทั้งหลาย มานี่ รักกูทุกผู้ทุกคล ใจมานี่รักกูทักผู้ทุกคล มะอะอุ เกลื่อนกล่นกันมา สับพะบูชา พะวันตุเม พุทโธเม อัมหากัง สัตตะปาการัง ชะนะจิตตัง สังโตเม อัมหากัง สัตตะปาการัง ชะนะจิตตัง สิทธิพรหมา ชะนะจิตตัง สักขะมีชัย สิทธิเทวา ชะนะจิตตัง สักขะมีชัย สิทธิอินโก ชะนะจิตตัง สักขะมีชัย สิทธิราชา ชะนะจิตตัง สักขะมีชัย สิทธิเทวา ชะนาจิตตัง สักขะมีชัย ประสิทธิเม

    จบพระคาถาพระฉิมภาลี แต่เท่านี้ /

    <hr class="hrcolor" size="1" width="100%"> [​IMG]

    [​IMG]
     
  20. chaipat

    chaipat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +11,099
    ภาพการทำบุญ ณ โรงพยาบาลสงฆ์

    วันที่ 23 สิงหาคม 2552 ครับ

    1. การเตรียมภัตรหารสำหรับพระภิกษุสงฆ์ในช่วงเช้าครับ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    สาธุครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SDC11433.JPG
      SDC11433.JPG
      ขนาดไฟล์:
      117.2 KB
      เปิดดู:
      909
    • SDC11434.JPG
      SDC11434.JPG
      ขนาดไฟล์:
      114.9 KB
      เปิดดู:
      887
    • SDC11436.JPG
      SDC11436.JPG
      ขนาดไฟล์:
      104.9 KB
      เปิดดู:
      893
    • SDC11437.JPG
      SDC11437.JPG
      ขนาดไฟล์:
      91.6 KB
      เปิดดู:
      886
    • SDC11438.JPG
      SDC11438.JPG
      ขนาดไฟล์:
      93.4 KB
      เปิดดู:
      874
    • SDC11439.JPG
      SDC11439.JPG
      ขนาดไฟล์:
      93.5 KB
      เปิดดู:
      872
    • SDC11440.JPG
      SDC11440.JPG
      ขนาดไฟล์:
      118 KB
      เปิดดู:
      768
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 24 สิงหาคม 2009

แชร์หน้านี้

Loading...