ขอเชิญร่วมทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย พันวฤทธิ์, 29 พฤศจิกายน 2007.

  1. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,790
    ค่าพลัง:
    +16,105
    เก็บตกมาจาก ok nation วันนี้วันอาทิตย์ยามเช้า มาพบกันเมื่อคืนให้เก็บเหรียญข้างบน วันนี้ตอนเช้าก็เลย แนะนำท่านท้าวมหาพรหมมาให้บูชาแบบไม่ต้องเช่า ลองอ่านดูก็แล้วกัน ของดีนา...หาไม่ได้อีกแล้วนา... อ่านแล้วอย่าลืมบูชาทันทีนา...ได้ผลทันตาเห็นทีเดียว

    ท่านท้าวมหาพรหมองค์นี้ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านก็ยังทรงรับรอง


    [​IMG]


    ผมคิดว่าคนไทยโดยส่วนมากโดยเฉพาะชาวพุทธ...นอกจากเราจะเคารพนับถือบูชาคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์แล้ว ความอ่อนน้อมถ่อมตนตามนิสัยของคนไทย ทำให้เรายังเคารพกราบไหว้ไปถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่นๆอีกด้วย...
    [​IMG]


    ผมเองก็เช่นเดียวกันเริ่ม เรียนหนังสือที่โรงเรียนของศาสนาคริสต์ตั้งแต่เด็ก จึงไม่แปลกที่ผมจะสวดมนต์ของศาสนาคริสต์ได้อย่างแม่นยำหรือเดินผ่านหน้าถ้ำ แม่พระ รูปปั้นพระเยซูหรือนักบุญต่างๆ ก็ก้มหัวหรือยกมือไหว้ได้อย่างสนิทใจ บางครั้งบางทีก็บนกับรูปปั้นเหล่านั้นเพื่อให้ตัวเองสอบผ่าน หรือแม้แต่เข้ามาเรียนมหาวิทยาลัยเวลาไปนอนบ้านเพื่อน ช่วงที่เขาทำละหมาดกันผมก็ยังนอนหลับตาแต่พนมมือตามไปด้วย
    จะยกเว้นอย่างเดียวสำหรับผมคือ การไม่หลงไปกราบไหว้บรรดาของประหลาดๆ ที่ตกเป็นข่าวอยู่บ่อยๆ ถามใจตัวเองว่าทำอย่างนี้ผิดไหม ผมก็ตอบใจตัวเองว่าไม่ผิด ก็เพราะผมเคารพกราบไหว้แต่สิ่งดีดี ซึ่งผมเชื่อว่าการที่ผมคิดหรือทำแบบนี้มันก็ไม่ได้ทำให้ ผมรักพระพุทธเจ้าน้อยลง” และผมก็เชื่อมั่นต่อไปอีกว่า ”พระพุทธเจ้าท่านก็ไม่คิดจะลงโทษผมเช่นกัน.......”
    [​IMG]


    สิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆเหล่านี้ ผมคิดว่าท่านเป็นพวก เทวดา” ตามภาษาชาวบ้านเราเข้าใจว่าเทวดาคือผู้ที่กระทำคุณงามความดี เมื่อหมดอายุขัยในโลกมนุษย์แล้วท่านเหล่านี้ก็จะไปเกิดเป็นเทพ เทวดา ตามชั้นตามขั้นแล้วแต่ว่าใคร ผู้ใดได้กระทำความดีไว้ขนาดไหน ....เทพ เทวดา มีจริงนะครับ ซึ่งถ้าเลยจากชั้นเบสิกนี้ไปก็จะเป็นชั้นพรหมและถ้าท่านผู้นั้นทรงคุณถึง ขั้นอรหันต์ก็จะพ้นพรหมเข้าสู่นิพพานได้ ดังนั้นการที่เราเคารพกราบไหว้เทพ พรหม “ย่อมแสดงว่าเราได้แสดงความเคารพต่อผู้ที่มีคุณธรรมอย่างน้อยที่สุดก็ต้องเหนือกว่าพวกเรา” ผมพูดอย่างนี้เพื่อนๆคิดว่าอย่างไรครับ....
    [​IMG]


    พูดถึงเรื่องอิทธิฤทธิ์บ้าง เรื่องพวกนี้เราจะไป ลบหลู่หรือดูหมิ่นดูแคลน”ว่าเป็นเรื่อง “เหลวไหล”ไม่ได้ เพราะอะไรเหรอครับ...อำนาจหรือฤทธิ์ของเทพเหล่านี้ได้เคยแสดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ให้เราเห็นอยู่เสมอๆ .....
    [​IMG]


    ยกตัวอย่างนะครับ เช่นพระสยามเทวาธิราช พระพรหมเอราวัณ หรือแม้แต่องค์จตุคามรามเทพ หรือจะเป็นเจ้าจีนบ้าง เช่นเจ้าพ่อเสือ ไต้ฮงกงโจวซือ ในบรรดาเทพเหล่านี้พระพรหม” จะเป็นมหาเทพที่เรานิยมกราบไหว้มากที่สุด..
    [​IMG]


    ในส่วนของชาดกตำนานทางพุทธเราจะพบว่าท่านท้าวมหาพรหมจะมาปรากฏให้เราเห็นอยู่บ่อยๆ เพื่อนๆลองนึกถึงภาพพุทธประวัติซิครับเราจะเห็นภาพของพระพรหมอยู่เสมอๆ ...
    ผมกำลังจะบอกต่อไปว่าในขณะเดียวกันกับที่เราเคารพกราบไหว้พระพรหมนั้น พวกเราลืมคิดถึง “มหาเทพ”ที่ อยู่ใกล้ๆตัวเราไปหรือเปล่า....ท่านเป็นท้าวมหาพรหมที่ทรงคุณวิเศษมากที่สุด ท่านเป็นเทพที่ทรงคุณความรัก ความเมตตา ความปรารถนาดีต่อเราอย่างเป็นที่สุด แม้แต่ยามที่เราเจ็บไข้เจียนตายท้าวมหาพรหมองค์นี้ก็เจ็บปวดไปพร้อมกับเรา แต่ถ้าพวกเรามีความสุขท่านก็สุขด้วย...เพียงแต่ท่านไม่เคยคิดจะขอแบ่งปันความสุขนั้นจากเราเลย....“ท่านท้าวมหาพรหมองค์นี้ ท่านทรงคุณวิเศษสุดแล้ว”ที่ผมพูดมาอย่างนี้ไม่ใช่เรื่องผิดเพี้ยนเลย....แม้แต่..”องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านก็ยังทรงรับรอง” ...ถึงตอนนี้เพื่อนๆ คงเดาออกแล้วใช่มั๊ยครับท่านท้าวมหาพรหมองค์นี้คือผู้ใด “พรหมบิดา พรหมมารดา” ของเราไงครับ...
    ครูบาอาจารย์ที่ผมเคารพนับถือหลายๆท่าน เน้นเรื่องของ ความกตัญญูต่อพ่อแม่เป็นที่สุด” ...ผมอยากจะเล่าเหตุการณ์จริงๆให้ฟังครับ...เมื่อครั้งผมยังละอ่อนและติดตามเพื่อนๆไปเที่ยวเชียงใหม่ พวกเราได้เข้าไปเที่ยวที่วัดอรัญวิเวก (บ้านปง) ตำบลอินทขิล อำเภอแม่แตงได้มีโอกาสกราบนมัสการ ท่านพระอาจารย์เปลี่ยน ปญญาปทีโป” ...ในช่วงจังหวะหนึ่งของการสนทนาผมจำได้แม่นยำเลยว่า
    [​IMG]


    ไม่ ว่าจะมีเรื่องน้อยใจอะไรก็แล้วแต่ ห้ามไม่ให้ทะเลาะกับพ่อแม่ ไม่ให้ทำหน้ายักษ์ หน้ามารเข้าใส่พ่อแม่ หรือในบางเรื่องที่เราถูกก็ห้ามต่อว่าพ่อแม่อย่างเอาเหตุเอาผลอย่างเด็ดขาด ...เพราะในชีวิตประจำวันของเรานั้น บางครั้งกับเพื่อนฝูงหรือเพื่อนร่วมงานเขากลั่นแกล้งเราทุกอย่างสารพัด เรายังต้องทนระงับโทสะเอาไว้ บางทียังไม่รู้เรื่องอะไรเลยเรายังต้องอดทนเก็บเอาความโกรธเหล่านั้นไว้ในใจ แล้วกลับพ่อแม่เราที่มีบุญคุณต่อเราอย่างที่สุด เหนือกว่าเจ้านายผู้บังคับบัญชาทั้งหมด ทำไมเราจะยอมทนยอมยกให้พ่อแม่ไม่ได้ แค่บุญคุณที่ท่านได้ให้เราเกิดมาอย่างเดียวก็ตอบแทนไม่หมดอยู่แล้ว”….ฟังแล้วได้ใจเลยครับ
    [​IMG]


    และเมื่อผมตัวโตขึ้นมาอีกหน่อย จำได้ว่าในวันเกิดผมได้ขับรถไปกราบ ท่านหลวงพ่อจ่าง วัดเขื่อนเพชร” จังหวัดเพชรบุรี หะแรกพอท่านทราบว่าเป็นวันเกิดของผม ท่านบอกจะให้ของขวัญ ผมละดีใจอย่างมากนึกว่าตัวเองจะได้รับพระจากท่าน เพราะอะไรเหรอครับเพราะท่านหลวงพ่อจ่าง ตามความเชื่อของนักนิยมพระเครื่อง เชื่อกันว่าท่านเป็น “พระเกจิที่สำเร็จอภิญญา” ดังนั้นการที่เราจะได้รับของจากท่านถือเป็นบุญแก่ตัวเราที่เดียว ….แต่แล้วฝันของผมก็ต้องสลายเมื่อท่านสั่งให้พระที่คอยดูแลท่านอยู่ให้ไปหยิบเอา “ไม้ตะพต”ของท่านออกมา จังหวะนั้นท่านหันมามองที่ผมแล้วพูดด้วยเสียงดังๆ ดุๆ ว่า
    ช่วย หยิบไม่ตะพตมาหน่อย ข้าจะเอาเลือดหัวมันซักหน่อย ไอ้คนนี้วันเกิดไม่ยอมอยู่กราบไหว้พ่อแม่ มึงรู้มั๊ยพ่อแม่เป็นพระพรหมของพวกมึงเลยนะโว๊ย
    พอเห็นผมทำท่าตกใจ ท่านก็หัวเราะเสียงดังๆ.....ซึ่งจริงๆแล้วท่านเพียงแต่ดุผมเท่านั้น ไม่ได้จะเอาไม้ตะพตมาตีหัวผมจริงๆ และในที่สุดท่านก็มอบพระมาให้ผมรวมไปถึงฝากมาให้คุณพ่อ คุณแม่ของผมด้วย...
    [​IMG]


    ผมออกจากวัดเขื่อนเพชรอย่างใจระทึก...รีบขับรถต่อเพื่อที่จะไปกราบ ท่านหลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง” ขณะนั้นทางเข้าวัดตาลกงยังคงมีสภาพเป็นหลุมเป็นบ่ออยู่ ชั่งใจว่าจะไม่เข้า...แต่ในที่สุดครับ “ความโลภก็เข้าครอบงำความกลัว” ซึ่งในเวลาไม่นานผมก็มานั่งเสนอหน้าอยู่ตรงหน้าท่านหลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง...สนทนากับท่านไปซักพัก พอท่านทราบว่าเป็นวัดเกิด ท่านก็ให้พรผมและกำชับกับผมว่า....
    ต่อ ไปนี้ทุกวันเกิด ให้ผมกราบไหว้พ่อแม่ เมื่อพ่อแม่ให้พรเรา พรนั้นแหละประเสริฐสุด ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งกว่าที่ท่านให้ผมซะอีก ท่านย้ำคำพูดว่าพรของพ่อแม่ เป็นเช่นพรของพระพรหม ยิ่งใหญ่และมหาศาลนัก
    [​IMG]


    ที่ผมเล่ามาทั้งหมดนี้ เพื่อต้องการจะบอกว่า ท่านใดที่นิยมบูชาพระพรหม ไม่ใช่สิ่งที่ผิดแต่ประการใด เพราะผมเองก็บูชาท่านเหมือนกันและมีเหรียญพระพรหมที่ครูบาอาจารย์ของผมได้ สร้างขึ้นมาติดตัวอยู่เป็นประจำ แต่ทั้งนี้การบูชาพระพรหมก็อยากให้ได้บูชาไปถึงคุณบิดา คุณมารดาด้วย พระคุณของพ่อแม่มีมากล้นเหลือคณานับ ..ลองคิดซิครับครูบาอาจารย์ที่ผมเล่าให้ฟังข้างต้นทั้งสามองค์ ท่านเป็น พระที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบขนาดไหน”..หรือแม้กระทั่ง “พระพุทธองค์” ท่านก็ยังทรงยกย่องว่า “พ่อแม่เป็นท้าวมหาพรหมของบุตร
    ครับ..คนเราบูชากราบไหว้รูปอะไรๆก็ได้ตั้งมากมาย แต่มักจะละเลยรูปพ่อ รูปแม่...ผู้เป็นพระพรหมแท้ๆ ไปได้...
    [​IMG]


    ขอขอบคุณรูปภาพประกอบเรื่องจาก หนังสือพรหมสี่หน้า (สนพ.อัมรินทร์) และวิกิพีเดีย



    เป็นงัยล่ะ ใครซื้อเราก็ไม่ขาย ใครบูชาก็ไม่เท่าเราบูชา ใครได้บุญก็ไม่เท่าเราได้บุญ สาธุ

    มาตาปิตุคุณัง อะหัีงวันทามิตัง สะทา...

    ท่องตอนเช้า ท่องก่อนนอน ใครได้ยินก็สรรเสริญท่าน
     
  2. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,790
    ค่าพลัง:
    +16,105
    วันนี้คณะกรรมการได้ประชุมกันหลายคนที่บ้านของพี่ใหญ่ในคณะทุนนิธิฯ แวบหนึ่งของการสนทนา ไ้ด้มีการพูดถึงข้อปฏิบัติที่ดีของชาวสวรรค์ชั้นฟ้า พี่ใหญ่เล่าเกริ่นให้ฟังก่อนว่า พี่สังเกตุมาหลายคนแล้ว คนที่ไหว้สวยกราบสวยมักจะมีอนาคตที่รุ่งโรจน์ และดีงาม มากกว่าคนที่ไหว้แบบขอไปที หรือไหว้แบบไหว้เจ้า หรือกราบแบบปะหลกๆ พวกนี้ไม่มีทางไปสวรรค์ได้ ดีไม่ดี จะลงข้างล่างมากกว่าด้วย และด้วยความอยากรู้เราจึงถามต่อ

    แล้วข้างบนเป็นไงพี่ ....

    เค้าไหว้สวย กราบสวย นั่งพับเพียบเรียบร้อยกันทั้งนั้น

    คุณโสระเลยยกตัวอย่าง
    ดูอย่างพระอริยเจ้าสายท่านอาจารย์มั่นท่านสิ ผู้ที่พรรษาน้อยไหว้ผู้ที่มีพรรษามากกว่า ท่านไหว้ด้วยความนบนอบ กราบด้วยความเคารพ นั่งตัวตรงพับเพียบด้วยการเหยียดยาวเท้าขนานไปกับพื้น หรืออย่างเจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราชองค์ปัจจุบันนั่นปะไร

    แล้วอยากเห็นบ้างได้มั๊ยพี่

    ผมถามต่อ

    แค่ศีล 5 เต็มก็ได้เห็นแล้วพี่ใหญ่ตอบ หรือแค่ปฐมฌาณก็ดูได้แล้ว

    วันนี้เลยลงรูปที่เห็นทีไรชอบทุกทีมาให้ดูกัน ดูแล้วอย่าลืมล่ะ ชาวฟ้า ชาวสวรรค์ น่ะ เค้าไหว้สวย กราบสวย นั่งสวย ถ้าพวกข้างล่างนั่น ปะหลกๆ กระสับกระส่ายปานลิงก็ไม่ใช่ ชะนีก็ไม่เชิง ผมเองก็เป็นอย่างหลังนี่ เพราะนั่งนานก็โอย ลุกขึ้นก็โอย เจอใครก็ไหว้น้อย คราวต่อไปต้องเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่ แบบว่าอยากอยู่สวรรค์ง่ะ..ไปอยู่ด้วยกันมั๊ยล่ะ..


    [​IMG]


     
  3. narongwate

    narongwate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    885
    ค่าพลัง:
    +3,840
    นำหนังสือธรรมดีๆ มาฝากกันครับ
    ผมได้นำมาจากเว็บ http://www.cddhamma.net/Books/Main.htm
    โมทนาบุญด้วยนะครับ

    <TABLE style="WIDTH: 100%; mso-cellspacing: 2.0pt; mso-yfti-tbllook: 480; mso-padding-alt: 0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-border-insideh: .75pt outset windowtext; mso-border-insidev: .75pt outset windowtext" class=MsoNormalTable border=1 cellSpacing=3 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR style="mso-yfti-irow: 0; mso-yfti-firstrow: yes"><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 14.66%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="14%">
    รหัส
    </TD><?XML:NAMESPACE PREFIX = U1 /><U1:p></U1:p><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 55.64%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="55%">
    หนังสือ / ผู้เขียน
    </TD><U1:p></U1:p><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 15.88%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="15%">
    ขนาดไฟล์<?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p></O:p>
    </TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 12.06%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="12%">
    โหลดไฟล์
    </TD></TR><U1:p></U1:p><TR style="mso-yfti-irow: 1"><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 14.66%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="14%">
    BOOK0001
    </TD><?XML:NAMESPACE PREFIX = U2 /><U2:p></U2:p><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 55.64%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="55%">คิริมานนทสูตร
    พระสูตรจากพระไตรปิฎก<O:p></O:p>
    </TD><U2:p></U2:p><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 15.88%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="15%">
    249 KB.<O:p></O:p>
    </TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 12.06%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="12%">
    [​IMG]
    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 2"><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 14.66%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="14%">
    BOOK0002
    </TD><U1:p></U1:p><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 55.64%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="55%">ชีวิตนี้น้อยนัก และ วิธีสร้างบุญบารมี
    โดย สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ

    </TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 15.88%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="15%">
    453 KB.<O:p></O:p>
    </TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 12.06%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="12%">
    [​IMG]
    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 3"><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 14.66%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="14%">
    BOOK0003
    </TD><U1:p></U1:p><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 55.64%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="55%">จิต คือ พุทธะ
    โดย หลวงปู่ดูลย์ อตุโล

    </TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 15.88%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="15%">
    259 KB.<O:p></O:p>
    </TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 12.06%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="12%">
    [​IMG]
    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 4"><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 14.66%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="14%">
    BOOK0004
    </TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 55.64%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="55%">ทางเอก ( การปฏิบัติธรรมแนวเจริญสติ )
    โดย พระอาจารย์ปราโมทย์ ปาโมชฺโช

    </TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 15.88%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="15%">
    866 KB.<O:p></O:p>
    </TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 12.06%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="12%">
    [​IMG]
    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 5"><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 14.66%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="14%">
    BOOK0005
    </TD><U1:p></U1:p><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 55.64%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="55%">คำถามและคำตอบแนวทางการปฏิบัติธรรม
    โดย หลวงปู่ชา สุภัทโท

    </TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 15.88%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="15%">
    251 KB.<O:p></O:p>
    </TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 12.06%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="12%">
    [​IMG]
    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 6"><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 14.66%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="14%">
    BOOK0006
    </TD><U1:p></U1:p><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 55.64%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="55%">การทำความรู้สึกตัว
    โดย หลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ

    </TD><U1:p></U1:p><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 15.88%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="15%">
    144 KB.<O:p></O:p>
    </TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 12.06%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="12%">
    [​IMG]
    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 7"><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 14.66%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="14%">
    BOOK0007
    </TD><U1:p></U1:p><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 55.64%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="55%">จิตเป็นแก่นของชีวิต
    โดย หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ

    </TD><U1:p><U2:p></U2:p><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 15.88%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="15%">
    211 KB.<O:p></O:p>
    </TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 12.06%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="12%">
    [​IMG]
    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 8"><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 14.66%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="14%">
    BOOK0008
    </TD><U1:p></U1:p><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 55.64%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="55%">สิ้นโลกเหลือธรรม
    โดย หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี

    </TD><U1:p></U1:p><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 15.88%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="15%">
    380 KB.<O:p></O:p>
    </TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 12.06%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="12%">
    [​IMG]
    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 9"><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 14.66%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="14%">
    BOOK0009
    </TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 55.64%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="55%">เสียดาย...คนตายไม่ได้อ่าน
    โดย ดังตฤณ

    </TD><U1:p></U1:p><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 15.88%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="15%">
    1,060 KB.<O:p></O:p>
    </TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 12.06%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="12%">
    [​IMG]
    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 10; mso-yfti-lastrow: yes"><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 14.66%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="14%">
    BOOK0010
    </TD><U1:p></U1:p><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 55.64%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="55%">จิตสดใสแม้กายพิการ
    โดย อ.กำพล ทองบุญนุ่ม

    </TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 15.88%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="15%">
    994 KB.<O:p></O:p>
    </TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 12.06%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="12%">
    [​IMG]
    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 10; mso-yfti-lastrow: yes"><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 14.66%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>
    BOOK0011
    </TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 55.64%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>มนต์คลายโกรธ 2551
    โดย ทูตใจ
    </TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 15.88%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>
    6,000 KB.<O:p></O:p>
    </TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 12.06%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>
    [​IMG]
    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 10; mso-yfti-lastrow: yes"><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 14.66%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>
    BOOK0012
    </TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 55.64%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>การฝึกสติเพื่อสมาธิ
    โดย หลวงพ่อพุธ ฐานิโย
    </TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 15.88%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>
    273 KB.<O:p></O:p>
    </TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 12.06%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>
    [​IMG]
    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 10; mso-yfti-lastrow: yes"><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 14.66%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>
    BOOK0013
    </TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 55.64%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>ประทีปส่องธรรม และ วิถีแห่งความรู้แจ้ง
    โดย พระอาจารย์ปราโมทย์ ปาโมชฺโช</TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 15.88%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>
    278 KB.<O:p></O:p>
    </TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 12.06%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>
    [​IMG]
    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 10; mso-yfti-lastrow: yes"><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 14.66%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>
    BOOK0014
    </TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 55.64%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>มีชีวิตที่คิดไม่ถึง
    โดย ดังตฤณ
    </TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 15.88%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>
    955 KB.<O:p></O:p>
    </TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 12.06%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>
    [​IMG]
    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 10; mso-yfti-lastrow: yes"><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 14.66%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>
    BOOK0015
    </TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 55.64%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>รวมคำสอนของหลวงปู่
    โดย หลวงปู่บุดดา ถาวโร</TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 15.88%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>
    1,930 KB.<O:p></O:p>
    </TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 12.06%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>
    [​IMG]
    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 10; mso-yfti-lastrow: yes"><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 14.66%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>
    BOOK0016
    </TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 55.64%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>ธรรมนูญชีวิต
    โดย พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต)
    </TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 15.88%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>
    352 KB.
    </TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 12.06%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>
    [​IMG]
    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 10; mso-yfti-lastrow: yes"><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 14.66%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>
    BOOK0017
    </TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 55.64%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>พิจารณากาย พิจารณาจิต
    โดย หลวงปู่ฝั้น อาจาโร
    </TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 15.88%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>
    826 KB.
    </TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 12.06%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>
    [​IMG]
    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 10; mso-yfti-lastrow: yes"><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 14.66%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>
    BOOK0018
    </TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 55.64%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>รวมคำสอนของพระอาจารย์ใหญ่สายพระป่า
    โดย หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
    </TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 15.88%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>
    5,000 KB.<O:p></O:p>
    </TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 12.06%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>
    [​IMG]
    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 10; mso-yfti-lastrow: yes"><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 14.66%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>
    BOOK0019
    </TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 55.64%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>วิมุตติปฏิปทา และ แด่เธอผู้มาใหม่
    โดย พระอาจารย์ปราโมทย์ ปาโมชฺโช
    </TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 15.88%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>
    534 KB.
    </TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 12.06%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>
    [​IMG]
    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 10; mso-yfti-lastrow: yes"><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 14.66%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>
    BOOK0020
    </TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 55.64%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว เล่ม 1 - 5
    โดย ดังตฤณ
    </TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 15.88%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>
    3,240 KB.<O:p></O:p>
    </TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 12.06%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>
    [​IMG]
    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 10; mso-yfti-lastrow: yes"><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 14.66%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>
    BOOK0021
    </TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 55.64%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>อนาลโยวาทะ
    โดย หลวงปู่ขาว อนาลโย
    </TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 15.88%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>
    1,790 KB.<O:p></O:p>
    </TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 12.06%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>
    [​IMG]
    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 10; mso-yfti-lastrow: yes"><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 14.66%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>
    BOOK0022
    </TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 55.64%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>จิตมุ่งสู่ความหลุดพ้น
    โดย หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน</TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 15.88%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>
    1,400 KB.<O:p></O:p>
    </TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 12.06%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>[​IMG]</TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 10; mso-yfti-lastrow: yes"><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 14.66%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>
    BOOK0023
    </TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 55.64%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>ใจเป็นใหญ่
    โดย หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ</TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 15.88%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>
    315 KB.
    </TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 12.06%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>
    [​IMG]
    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 10; mso-yfti-lastrow: yes"><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 14.66%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>
    BOOK0024
    </TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 55.64%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>แสงส่องใจ
    โดย สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ</TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 15.88%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>
    663 KB.
    </TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 12.06%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>
    [​IMG]
    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 10; mso-yfti-lastrow: yes"><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 14.66%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>
    BOOK0025
    </TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 55.64%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>คิดจากความว่าง
    โดย ดังตฤณ</TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 15.88%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>
    183 KB.
    </TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; WIDTH: 12.06%; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: white; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>
    [​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE></U1:p>
    <U1:p></U1:p>
    <U1:p>
    </U1:p>
     
  4. aries2947

    aries2947 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    2,031
    ค่าพลัง:
    +11,622
    ธานินทร์ พันธ์ประภากิจ - ทาสของแผ่นดิน


    [​IMG]


    อุดมการณ์ ของคนทุกคนย่อมแตกต่างกันไป
    แต่มีอุดมการณ์ของผู้ชายคนหนึ่งที่เลือกแล้วที่จะทิ้งธุรกิจหลายสิบล้านของ ตัวเอง เพื่ออุทิศชีวิตทำงานเพื่อสังคม อุทิศชีวิตเพื่อช่วยเหลือคนไทยทั่วประเทศ เพราะเขาปวารณาตัวแล้วว่า จะเป็นข้าทาสของแผ่นดิน มีนายเพียงคนเดียวคือ พ่อหลวงของปวงชนชาวไทย
    เขา ผู้นั้นคือ ธานินทร์ พันธ์ประภากิจ
    ผู้ชายที่หาเงินได้หลายสิบล้านด้วยธุรกิจส่งออก แต่ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และแผ่นดินที่ตัวเองเกิด รวมถึงจุดเปลี่ยนที่เคยเฉียดตายมาแล้วจากการถูกลอบยิงที่ศีรษะ พอลุกขึ้นมาได้เขาก็ทำโรงพยาบาลบ้านแพ้ว ฟอกไตฟรีให้กับประชาชนคนไทยทั่วประเทศ โดยใช้เงินของเขาเองทุกบาททุกสตางค์
    '
    ชีวิต ของผมตั้งใจเดินตามพระยุคลบาทขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เดินผิดไม่คิดจนตัวตาย มีแต่ความเจริญทั้งนั้น ไม่เจริญกับเรา ก็เจริญกับประเทศชาติ เจริญกับประชาชนผู้ยากจน เจริญกับวงศาคณาญาติหรือครอบครัวของเรา เพราะว่าเดินตามพระองค์ท่าน ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตไม่โกงกินแผ่นดิน และต้องไม่โกงกินผู้อื่น และต้องทำงานด้วยความเต็มใจทำ แล้วก็ต้องรักแผ่นดินใ ห้อยู่เหนือตัวเราเอง เค้าจะเรียกว่าทาสของแผ่นดิน
    '
    รพ.บ้าน แพ้ว เป็นของประชาชน เพื่อประชาชน โดยประชาชน ไม่ใช่ของเอกชน ประชาชนทุกคนต้องมีสิทธิเสรีภาพเท่าเทียมกัน ประชาชนเท่านั้นที่จะเป็นของประชาชนได้ ถ้าคนยากคนจนติดต่อมารักษาฟรีหมดเลย ค่ารถค่าเดินทางก็ฟรี เราจะดูแลทุกอย่างให้อย่างดี ไกลที่สุดที่เคยมาอยู่ที่เชียงของ โดยที่เราไปรับมา คุณจะอยู่ที่ตรงไหน เราจะไปรับคุณที่ตรงนั้น ยะลา นราธิวาส ปัตตานี ผ่ามาหมด ทำให้เสร็จ'
    หลาย คนมองว่าเขาติ๊งต๊อง แต่เขาทำด้วยใจจริงๆ
    แล้วไม่ยอมรับเงินบริจาคของใครด้วย โดยเขาบอกว่าหากใครจะเอาเงินมาช่วยทำ ก็เอาเงินจำนวนนั้นไปช่วยเหลือประชาชนได้เลย
    [​IMG]




    เรื่องราวชีวิต
    มุมมองความคิดของเขาผู้นี้ได้ถูกถ่ายทอดออกอากาศในรายการ 'เจาะใจ' เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 25 กันยายน 2551 ทางช่อง 5
    ธานินทร์
    พันธ์ประภากิจ ทาสของแผ่นดิน

    แม้
    เจ้าตัวจะไม่อยากเปิดเผยเรื่องราวแห่งความดีที่เคยทำ แต่นั่นกลับเป็นสิ่งที่หลายคนควรรู้ โดยเฉพาะช่วงชีวิตกว่าจะเป็นธานินทร์ ผู้เป็นเจ้าของบริษัท ทาสของแผ่นดิน และผู้ก่อตั้งศูนย์ผ่าตัดต้อกระจก-ต้อเนื้อ ฟรีแก่ประชาชนในเวลานี้
    คุณธานินทร์ เรียนจบปวช.จากพาณิชย์วิทยาลัยสีลม
    จากนั้นได้เข้าไปเรียนที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง คณะรัฐศาสตร์ แต่เรียนได้เพียง 9 หน่วยกิตก็เลิกเรียน เพราะรู้สึกว่าการเรียนก็ได้แค่เรียนรู้เท่านั้น สู้ทำงานเองจะดีกว่า เขาจึงตัดสินใจออกมาทำธุรกิจกับเพื่อน จำหน่ายสินค้าประเภทรถยนต์ มอเตอร์ไซค์เก่า หนังสัตว์ กระดูกสัตว์ เสื้อผ้า และเครื่องใช้ต่างๆ กับต่างประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น อเมริกา ลาว เขมร เวียดนาม สิงคโปร์ และจีน ในนาม หจก.เอ็ม.เอ.ที อิมปอร์ต-เอ็กซปอร์ต
    คุณ ธานินทร์เล่าว่า เขาซื้อมอเตอร์ไซค์เก่าจากประเทศญี่ปุ่นได้ในราคาเพียงคันละ
    600 < FONT face=Verdana color=#bfbf00 size=5>บาท แต่สามารถนำเข้ามาขายในเมืองไทยได้ในราคาสูงถึง 15,000 บาท ซึ่งหลังจากหักต้นทุนขนส่งทั้งหมดแล้ว ยังเหลือกำไรคันละเกือบหมื่นบาท
    สาเหตุ ที่คุณธานินทร์สามารถซื้อมอเตอร์ไซค์เก่าในราคาถูกเช่นนั้น
    เป็นเพราะน้ำใจ ความดี และความซื่อสัตย์ในการทำธุรกิจของเขาที่มีมอบให้เพื่อนและคู่ค้าอย่างจริงใจ และสม่ำเสมอ จนเป็นที่ยอมรับและเชื่อถือแก่นักธุรกิจต่างชาตินั่นเอง
    จวบจนกระทั่งได้มาทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษา
    บริษัท เพรสซิเดนท์ ปาร์ค ( President Park ) พร้อมกับเป็นผู้ควบคุมดูแลอาคารทั้งหมด จากนั้นจึงก่อตั้ง 'บริษัท ทาสของแผ่นดิน จำกัด' เมื่อ ประ มาณ 3 ปีที่แล้ว เพื่อจัดตั้งศูนย์ผ่าตัดต้อกระจก-ต้อเนื้อแก่ประชาชน โดยเขาเล่าถึงที่มาของชื่อบริษัทว่า ต้องการให้เห็นอันแน่วแน่ที่จะแก้ไขในสิ่งผิด
    '
    ในอดีตชาติหรือปัจจุบันเราทำผิดมาก็มาก ทำถูกมาก็มาก อยาก ให้มองว่าระหว่างที่เรามีชีวิตอยู่ ไม่ควรมีการแบ่งชนชั้นวรรณะ หรือแบ่งเชื้อชาติศาสนา แต่ให้ยึดมั่นในองค์พระมหากษัตริย์ ประเทศไทยเป็นเมืองที่น่าอยู่และเป็นแผ่นดินที่ร่มเย็นมาก'
    '
    พ่อแม่ผมอยู่ในประเทศไทย แล้วผมก็เกิดในแผ่นดินนี้ ทุกคนอาจเห็นผมตัวดำ สีผิวผมที่ดำนี้คือสีดิน แล้วถ้าตัวผมไม่ดำผมจะเป็นทาสของแผ่นดินได้ยังไง เคยมีอุทาหรณ์สอนใจผมว่า ผมน่าจะเกิดเป็นลูกของคุณทักษิณ เพราะผมจะได้เป็นคนรวย มีเงินเยอะๆ ผมจะเดินทางไปหาประชาชน เดินตามรอยพระยุคลบาทของในหลวง พ่อผมจะเป็นอะไรก็เป็นไปไม่เกี่ยวกับผม แต่ผมจะเดินออกไปหาคนจนในถิ่นทุรกันดาร คิดว่าน่าจะเป็นความสุขใจในชีวิต วันนี้ผมจึงกล่าวขานขนานนามต่างๆในชีวิตของผมว่า ขอถวายชีวิตเป็นราชพลีแด่พระองค์วงศ์จักรี ธานินทร์ทาสของแผ่นดิน'
    ศูนย์ผ่าตัดต้อเกิดจากลมหายใจสุดท้าย

    [​IMG]



    ศูนย์ผ่าตัดต้อกระจก-ต้อเนื้อ
    ฟรี ดังกล่าว เกิดขึ้นจากพลังแห่งศรัทธาในบุญและบาป โดย ครั้งหนึ่งคุณธานินทร์เคยถูกลอบยิงเกือบเอาชีวิตไม่รอด สาเหตุเกิดจากสองสามีภรรยาซึ่งเป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงในแวดวงสังคม เอาภาพถ่ายของตัวเองขณะยืนอยู่หน้าทัชมาฮาลวางติดไว้ด้านบนผนังด้านบน และเอารูปเจ้าแม่อุมาเทวีวัดแขกไว้ด้านล่าง เมื่อคุณธานินทร์เห็นเข้าจึงรู้สึกเป็นสิ่งที่ไม่สมควร พร้อมกับเขียนเรื่องนี้ลงในหนังสือของตัวเองเพื่อบอกให้ประชาชนได้รับรู้
    ประเด็น นี้เองอาจสร้างความโกรธแค้นและกลายเป็นชนวนลอบสังหาร
    โดยเขาถูกมือปืนยิงบริเวณหน้าบ้านย่านสีลม ลูกปืนเข้าที่ศีรษะทำให้ต้องรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียู รพ.กรุงเทพคริสเตียน นานถึง 45 วัน และต้องทำการผ่าตัดถึง 6 ครั้ง
    '
    เป็น ช่วงเวลาที่ได้เห็นคนเสียชีวิตมากมายมหาศาล สัจธรรมเกิดขึ้นมาทันทีว่าภาพที่เห็นคนตาย คิดในทางบวกถือเป็นความสุข เพราะไม่ได้นอนกับคนที ่รักเราอย่างเดียว แต่ได้นอนกับคนที่ต้องตายทุกวัน คิดว่าน้อยคนนักที่จะได้มานอนกับคนตายแบบนี้ ระหว่างที่อยู่ไอซียูยังได้ยินเสียงทุกคนพูดตรงกัน คงอยู่ไม่เกินครึ่งชั่วโมง แต่ครึ่งชั่วโมงนั้นทำให้รอดตายมาได้ นับว่าโชคดีและเป็นบุญอย่างหนึ่ง ถามว่าสะทกสะท้านกับความตายไหม บอกได้เลยว่าไม่มี เลยได้คารมเด็ดๆในชีวิตว่า ไม่เคืองแค้นน้อยใจในโชคชะตา ไม่เสียดายเวลาถ้าสิ้นไป เพราะว่าไม่มีอะไรจะเสียแล้ว'
    เหตุนี้ ชีวิตที่เหลืออยู่ เขาจึงขอแทนคุณแผ่นดินด้วยการตั้งศูนย์ผ่าตัดต้อกระจกขึ้น
    เพื่อรักษาผู้ยากไร้ 'วันนั้นคิดว่า ถ้าผมกลับมาได้จะตอบแทนบุญคุณให้กับแผ่นดินที่เราอาศัยอยู่ได้ยังไง ถ้าไปกิน-นอนอยู่ กับใครสักคนโดยไม่ทำอะไรให้ แต่อยู่อย่างสุขสบายไม่ช่วยเหลือและเกื้อกูล ไม่ทำอะไรให้เลย เขาจะเรียกว่าเนรคุณไหม และถ้าผมอยู่ในแผ่นดินนี้ ไม่ช่วยเหลือแล้ว ยังกอบโกยโกงกินผืนแผ่นดิน เขาจะเรียกผมว่าทรราชของแผ่นดินหรือเปล่า' ชีวิตเฉียดตายทำให้เข้าใจในความเป็นมนุษย์และบุญคุณที่ต้องทดแทนแผ่นดิน
    เมื่อแนวคิดในการเปิดศูนย์ผ่าตัดต้อกระจกทำท่าว่าจะเป็นจริง
    คุณธานินทร์จึงปรึกษากับ นพ. วิทิต อรรณเวชกุล ผอ.โรง พยาบาลบ้านแพ้วในขณะนั้นทันที แม้คุณหมอจะถามย้ำถึงความเชื่อมั่นว่าทำแน่หรือ เพราะต้องใช้เงินจำนวนมหาศาล แต่เขากลับมั่นใจว่าต้องทำได้
    '
    เมื่อ ปรึกษาหารือกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงสั่งซื้ออุปกรณ์การผ่าตัดดวงตาจากต่างประเทศ และสั่งซื้อรถห้องผ่าตัดเคลื่อนที่หลายสิบล้านบาท โดยเงินทั้งหมดในการซื้ออุปกรณ์เป็นเงินส่วนตัวของผมที่ได้เก็บสะสมตลอดทั้ง ชีวิต ผมต้องการช่วยเหลือชาวบ้านผู้ยากไร้ คนไทยในแผ่นดินด้วยกัน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว'
    จากนั้นเขาได้จัดทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรงพยาบาลบ้านแพ้ว
    ลงพื้นที่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี โดยครั้งนั้นมีผู้ป่วยถึง 200 ราย หลังจากที่ผู้ป่วยได้รับการผ่าตัดต้อกระจก และสามารถมองเห็นอีกครั้ง ทุกคนต่างร้องไห้ดีใจ วิ่งเข้ามากอดเขาด้วยความซาบซึ้ง
    ตลอดเวลา
    3 ปีที่ผ่านมา ศูนย์แห่งนี้สามารถทำให้ผู้ที่เป็นต้อกระจกมองเห็นได้ประมาณ 600,000 ราย และในปี 2549 พบผู้ป่วยตกค้างสะสมกว่า 100,000 ราย ณ วันนี้หากถามว่าเหนื่อยไหม คุณ ธานินทร์ ตอบกลับทันทีว่า 'ไม่เหนื่อยเลย' เพราะแม้ กำลังกายจะสู้คนอื่นไม่ได้ หรือกำลังเงินอาจสู้ประชาชนคนรวยไม่พอ แต่เขาเชื่อว่ากำลังใจของเขาใหญ่กว่าคนรวยในแผ่นดินไทยมากมายมหาศาล
    '
    ผม มาช่วยเหลือชาวบ้าน เพราะผมแบกความจนเอาไว้ การแบกความจนจะทำให้รู้ว่าเกิดเป็นคนอย่าลืมตัว เกิดเป็นวัวอย่าลืมตีน ดังนั้น ถ้าเราแบกความจนเอาไว้จะไม่ลืมความจนเลย วันนี้เราแบกความจนเอาไว้ก็จะพาประชาชนพ้นทุกข์ได้ และหากเราแบกความรวยเอาไว้เมื่อไร เราจะกลายเป็นคนลืมตัว ถ้าตายไปแล้วขึ้นสวรรค์ ขณะเดียวกันก็ยังมีคนยากจนอยู่ในแผ่นดินนี้ ขอกลับลงมาเกิดในแผ่นดินนี้ดีกว่า ผมไม่ได้คิดที่จะเปิดศูนย์นี้เท่านั้น แต่มีความตั้งใจจะสร้าง ร.ร.อนุบาลเรารักในหลวง เพื่อต้องการปลูกรากแก้วให้กับเด็กๆ' เขาเล่าถึงสิ่งที่ได้ช่วยเหลือชาวบ้านให้หมดทุกข์ ด้วยแววตาที่มุ่งมั ่นเช่นเดิม

    ชีวิต
    ที่เหลืออยู่ของ ธานินทร์ พันธ์ประภากิจ เขาขอเดินรอยตามพระยุคลบาทองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จนกว่าชีวิตจะหาไม่ เพราะสิ่งที่ผู้ชายคนนี้แบกไว้ ไม่ใช่ความรวย ไม่ใช่ความดี แต่คือ 'ความจน' ที่เขาจะแบกไปตลอดชีวิต...
    ผู้ ที่ประสงค์ผ่าต้อกระจกฟรี
    หรือต้องการฟอกไตฟรี กรุณาติดต่อไปยังโรงพยาบาลบ้านแพ้ว และนายชูศักดิ์ แก้วสุริยอร่าม บริษัท ทาสของแผ่นดิน จำกัด อาคารพระมหากรุณาธิคุณ เลขที่ 98 ซอยสุขุมวิท 24 ถ.สุขุมวิท แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กทม. 10110

    ฟอกไต
    : โทร. 02-262 9454-5
    โรคเกี่ยวกับตา
    : โทร. 089-889 0097, 02-261 8213-7

    โดยผู้ป่วยที่ประสงค์ผ่าต้อกระจกฟรี
    กรุณาเตรียมบัตรประชาชน และบัตรทองมาด้วย และสามารถรับการตรวจได้ในวันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 08.00 น.- 11.00 น.
    ข้อมูลส่วนหนึ่งจาก
    :

    JSL Global Media


    โครงการคืนแสงสว่างให้ผู้ป่วยต้อกระจกและต้อเนื้อ
    ขอเรียนเชิญผู้ป่วยทุกท่านมารับ บริการผ่าตัดต้อต้อกระจกและต้อเนื้อ ฟรี โดยมิต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น
    โดยมีแพทย์ของโรงพยาบาลบ้านแพ้ว(องค์การมหาชน) สาขาสุขุมวิท ซอย
    24 ติดต่อได้ที่
    บริษัททาสของแผ่นดิน จำกัด (
    02-2629454-5, 02-2618213-7) เวลาทำการ วันจันทร์-วันศุกร์ 8.00-17.00 น.
    เลขที่
    99/359-360 ซอยสุขุมวิท 24(เกษม) ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110
    โทร
    02 262 9454-5 แฟ็กซ์ 02 262 9454
    ****
    เอกสารที่ต้องนำมาด้วย ถ่ายสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและบัตรทอง อย่างละ 2 ใบ แพทย์จะทำการตรวจคนไข้ใหม่เฉพาะวันพุธและวันศุกร์ กรุณาโทรแจ้งล่วงหน้า****
    คน บางคนอาจจะเห็นว่าไม่สำคัญแต่สำหรับบางคนอาจจะต้องการแสงสว่างเพื่อที่จะทำ ให้ชีวิตเค้ามีค่ามากว่าอยู่ในความมืดมัว ถ้าใครมีจิตศรัทธาที่จะทำบุญช่วยกัน บอกต่อๆไปด้วย การทำบุญด้วยการให้แสงสว่ างแก่คนมาค่ามากกว่าสิ่งใดเพราะมันจะช่วยให้ชีวิต หนึ่งชีวิตที่พวกคุณหยิบยื่นไปให้ได้เห็นแสงสว่างอีกครั้งหนึ่ง

    *
    เช็คข้อมูลออกหน่วย
    -
    โรงพยาบาลฝาง อ.ฝาง จ. เชียงใหม่
    -
    โรงพยาบาลยุพราช ท่าบ่อ อ.ศรีเชียงใหม่ หนองคาย
    -
    โรงพยาบาลหนองจอก อ.หนองจอก กรุงเทพฯ
    -
    โรงพยาบาลยุพราช อ. เดชอุดม อุบลราชธานี

    โปรดช่วยกระจายข่าวด้วยนะครับเพื่อผู้ป่วยต้อกระจกจะได้มองเห็นโลกได้ชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง
     
  5. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    ผมได้รับพระและซีดี เรียบร้อยแล้วครับ ... ขอบคุณครับ



    .
     
  6. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,790
    ค่าพลัง:
    +16,105

    หลายตอนเป็นธรรมะที่เย็น อ่านแล้วสบายใจ ชื่นใจ ธรรมะของพ่อแม่ครูอาจารย์หลายองค์อ่านแล้วหายสงสัย อยากรวบรวมเป็นเล่มเล็กๆ เก็บไว้อ่านเพื่อเตือนตนให้เร่งปฏิบัติจัง ช่วงนี้เวลาส่วนตัวในการอุทิศธรรมมีน้อยคงเก็บไว้ในแฟ้มส่วนตัวก่อน หากมีเวลาจะนำมาคิดให้เป็นจริงอีกครั้ง ธรรมทานต้องทำกันหลายคนถึงจะได้บุญหลาย...
     
  7. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,790
    ค่าพลัง:
    +16,105
    <table width="100%" border="0" cellpadding="2" cellspacing="0"> <tbody> <tr> <td class="maintitle" valign="top"> หญิงนักภาวนาชาวกรุง</td></tr></tbody></table><hr> [​IMG]

    หญิงนักภาวนาชาวกรุง


    หลวงตากล่าวถึงสตรีท่านหนึ่ง เธอใช้ชีวิตที่ไม่แตกต่างอะไรจากคนทำงานทางโลกทั่วไป เนื่องจากมีครอบครัวมีบุตรธิดาถึง 3 คน ยิ่งกว่านั้นยังมีภาระหน้าที่การงานที่จะต้องบริหารและรับผิดชอบ แต่ด้วยจิตใจที่รักและเห็นคุณประโยชน์อันใหญ่หลวงของงานด้านจิตตภาวนา เธอจึงพยายามเจียดเวลาเพื่อเดินจงกรมและนั่งสมาธิภาวนาอย่างจริงจัง ฝึกสติอบรมปัญญาไปพร้อมๆ ควบคู่กับการงานโดยมิยอมให้เสียงานทางโลกแต่อย่างใด ยิ่งกว่านั้นยังทำให้ความคิดความอ่านในหน้าที่การงานดีขึ้นแจ่มชัดขึ้นอีกด้วย เพราะเต็มพร้อมด้วยสติสัมปชัญญะ ความคิดความอ่าน... จึงไม่วู่วามตามอารมณ์หรือตามความฟุ้งซ่านส่ายแส่ของจิตใจ เหมือนในขณะที่ยังควบคุมจิตได้ไม่ดีพอ

    เธอปฏิบัติเช่นนี้ อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอมาหลายปีด้วยความพากเพียร กระทั่งเห็นผลแห่งการปฏิบัติพอเป็นแรงจูงใจให้เพียรยิ่งๆ ขึ้น ครั้งหนึ่งเธอมีโอกาสได้เข้ากราบสนทนาธรรมกับหลวงตา ที่สวนแสงธรรม ในคราวท่านลงไปกรุงเทพฯ และได้เล่าผลอัศจรรย์ของจิตที่เกิดจากจิตตภาวนาถวายหลวงตา เป็นที่รื่นเริงในธรรมทั้งอาจารย์และศิษย์

    กาลผ่านไป เมื่อหลวงตาท่านกลับวัดป่าบ้านตาด อุดรธานีแล้ว ตอนเช้าวันหนึ่ง ปลายปี พ.ศ. 2538 หลังจังหัน หลวงตาท่านแสดงธรรมได้ระยะหนึ่ง เนื้อธรรมที่แสดงนั้นได้ไปสัมผัสกับเรื่องที่ท่านได้สนทนากับสตรีท่านนี้ ท่านจึงได้เมตตาเล่าให้ลูกศิษย์ฟังว่า มีพยานแล้ว ดังคำเทศน์ต่อไปนี้

    "...พอพูดอย่างนี้ ก็ไปสัมผัสเรื่องหญิงคนหนึ่ง แกภาวนาอยู่ตามประสีประสาของแก สุดท้ายเอาจริงเอาจัง... เป็นเข้าจริงๆ เวลาเป็นเข้าจริงๆ แล้วเห็นโทษของกิเลสนี้ แหม... แกว่าอย่างนั้นนะ

    ทำไมมันถึงร้ายแรงเอานักหนากิเลสนี่ รุนแรงมาก ทั่วสามแดนโลกธาตุกิเลสขยำคน

    ฟังซิ แกไม่ได้เรียนนะ แกไม่ได้ศึกษาเล่าเรียนทางอรรถทางธรรม ออกจากภาคปฏิบัติล้วนๆ

    มองไปที่ไหนดูมีแต่กิเลสขยี้ขยำหัวสัตว์โลกเต็มบ้านเต็มเมือง ไม่ว่าสัตว์เดรัจฉาน ไม่ว่ามนุษย์ ไม่ว่าชาติขั้นวรรณะใด มีแต่กิเลสขยำเอาโงหัวไม่ขึ้นเลย สลดสังเวช บางทีก็กระซิบบอกเพื่อนฝูงบ้าง บางคนพวกคลังกิเลสมันก็ไม่พอใจสุดท้ายจะทำภาวนาก็ต้องหลบๆ ซ่อนๆ ไปทำอยู่ตามป่าตามอะไร เพราะทำงาน อยู่ตลอดเวลา สติไม่ได้เผลอตลอดเวลา มันเป็นเองของมัน

    คำพูดอย่างนี้ไม่เป็นจริงเอามาพูดได้เหรอ ต้องออกมาจากภาคปฏิบัติรู้จริงเห็นจริง

    สตินี้ดี ดีจริงๆ ไม่ใช่ธรรมดา ไม่หวั่นไหว ไม่ว่าจะทำการทำงานอะไร สติจ่อแล้ว ทำงานก็ทำไปตามเรื่อง ทำงานทางโลกก็ทำ ภายในก็ทำ หมุนติ้ว

    นั่นเห็นไหม ได้ยินแต่หลวงตาบัวว่า หมุนติ้วๆ นี่ มีพยานแล้วนะ

    เพื่อนฝูงเขาสงสาร พอทราบว่าเราไป เพราะแกอยากพบครูบาอาจารย์ อยากพบ เราแกก็อยากพบ พอดีแกก็มาจริงๆ คนมากๆ ก็ใส่เปรี้ยงเลย นั่นละ ขึ้นเวทีแชมเปี้ยน แล้วไม่ใช่เวทีธรรมดา ซัดกันใหญ่เลย แกก็ออกมาอย่างกระจ่างเลยนะ เปรี้ยงๆๆ นั่นละ ความรู้ความเห็นที่เป็นขึ้นจากจิตใจไม่สะทกสะท้านนะ แกก็ใส่มาเปรี้ยงๆ ทางนี้ก็ใส่กันเลย

    ก็ทำกำดำกำขาวไปอย่างนั้นละ แต่จิตมันดูดดื่มอยากทำตลอดไป แต่ทีนี้ก็ไม่ทราบว่า ผิดหรือถูกประการใด

    บอกแกว่า ถูกแล้ว เอ้า เอาเลยนะ รวมตัวแล้ว ทีนี้ฟาดลงไป ถลุงมันตรงนั้นๆ ชี้แจง เป็นระยะๆ เข้าไป แกพอใจเอาอย่างมาก

    ทีนี้เป็นที่ตายใจแล้ว

    เราว่า ตายใจน่ะถูกต้องแล้ว ที่ปฏิบัติมานี่ถูกต้องแล้ว แกนั่งภาวนาได้ถึง 13 ชั่วโมงก็มี 9 ชั่วโมง 10 ชั่วโมง 13 ชั่วโมงก็มี พิจารณาทุกขเวทนา ทุกขเวทนาเป็นของจริงทุกส่วน เป็นของจริงแล้วไม่มีกระทบกระเทือนกันเลย จะนั่งตั้งกัป ตั้งกัลป์ก็ได้ อย่าว่าแต่เพียง 12 - 13 ชั่วโมงเลย ลุกออกมาเฉยๆ นี่แหละจะนั่งตั้งกัป ตั้งกัลป์ก็ได้

    ไม่มีอะไรที่จะเข้ามากระทบกระเทือนจิตใจได้เลย เมื่อต่างอันต่างจริงแล้วไม่คละเคล้ากัน

    นั่นฟังซิแกพูด พูดอาจหาญเสียด้วยนะ เราก็รื่นเริงเห็นผลของการปฏิบัติธรรมนี่ละ ธรรมของพระพุทธเจ้าพอปรากฏขึ้นในใจ

    เห็นโทษของกิเลสเห็นจริงๆ เห็นจนสลดสังเวช มองไปไหนๆ พิจารณาไปไหน แหม มีแต่ กิเลสอย่างเดียวครอบงำสัตว์โลกให้ดิ้นล้มดิ้นตายกันอยู่ ไม่ว่าชาติชั้นวรรณะใด แล้วโลกก็ไม่รู้ ด้วยนะ น่าสงสารอันหนึ่ง แกว่า

    โลกก็ไม่รู้ด้วยนะ มันขยี้ขยำจนจะตายก็ยังดิ้นเพลินกันอยู่

    คนมากนะวันนั้น วันที่แกมาหา เพราะไม่มีเวลาที่จะพูดโดยเฉพาะ ไม่ต้องเฉพาะ ฟาดเลย เราว่าอย่างนี้แหละ แกเห็นโทษของกิเลสจริงๆ

    เราไม่ตายให้กิเลสตายมีสองอย่าง ขั้นนี้ขั้นเห็น โทษของกิเลสเห็นเต็มหัวใจ เห็นคุณค่าของธรรมก็เห็นเต็มหัวใจ ทั้งสองอย่างนี้บรรจุเข้าสู่ใจแล้ว เอาชีวิตเข้าแลกเลย ไม่มีความสะทกสะท้าน เรื่องกับความตายหมุนติ้วๆ

    นี่ละคนหนึ่งจะไปได้ ไม่นานละ แน่แล้ว เป็นผู้หญิงนะ มีลูก 3 คน แกก็เคยส่งปัจจัยมาวัดนี้ ประจำเดือน แกเล่าให้พัง คนฟังนี่ โห อ้าปากไม่งับแหละ ลืมตาหลับไม่ลงเพราะขึ้นตามหลัก ธรรมชาตินี่ หมุนติ้วๆ แกพูดเปรี้ยงๆ เอ้า เปิดๆ ให้หมด เราว่าอย่างนั้นนะ เราก็หิวอยากฟังนี่นะ มันมีแต่พูดคนเดียว เป็นบ้าอยู่ พูดตลอดเวลาเพราะไม่มีใครรู้ใครเห็นด้วย เหมือนบ้าพูดคนเดียว เดี๋ยวเขาจะหาว่าเราเป็นบ้า พอดีได้ผู้หญิงคนนี้มาเป็นพยาน

    เอ้าพูดๆ เลย เอาให้เต็มที่นะ เราอยากฟังเหลือเกินธรรมะประเภทนี้ พูดอย่างนี้แหละว่า

    "ไม่เคยได้ฟัง เพิ่งจะมาได้ฟังนี่แหละ เอ้า เปิดเลย" พอแกเปิดแล้วตรงไหนเป็นจุดที่ควรจะแนะ ก็แนะแก แกไม่ใช่ธรรมดานะ ตีเปรี้ยงๆ ลงไปเลย

    เอ้าจุดนี้ๆ เอ้าๆ

    นี่ละจวนจะไป ไม่อยู่แล้ว เป็นธรรมชาติแล้ว เป็นอัตโนมัติแล้วหมุนเรื่อย จิตเข้าถึงขั้นนี้แล้ว หมุนเรื่อย เห็นโทษของกิเลสจนจะสลบไสล กิเลสเป็นโทษแก่โลกขนาดไหน เวลาเข้าถึงตัวมันจริงๆ แล้ว จนสลบไสล โทษของมันทำให้เจ็บให้แสบให้เข็ดให้หลาบให้กลัว จนไม่รู้จักเป็นจักตาย หลบกิเลสหนีกิเลส ตายก็ตาย ให้ได้พ้นจากกิเลสก็แล้วกัน ให้พ้นๆ มันก็บินละซิ พระพุทธเจ้าสอนเล่นเมื่อไร พวกเราไม่เห็นนั่นซี จึงได้ว่ากิเลสแหลมคมมากนา แกพูด แกก็เปิดเต็มที่เหมือนกัน

    แกพูดด้วยความตื่นเต้น และแกก็ไม่มีผู้ใดจะตอบรับแกอย่างนั้น เราก็ตอบรับเต็มภูมิเลย เพราะหิวกระหายอยากฟังมานาน

    ธรรมะประเภทนี้มีแต่ประเภทความจำ จำได้ก็มาบ้าน้ำลายกันเหมือนนกขุนทองแก้วเจ้าขาๆ เรียนจบพระไตรปิฎก กิเลสตัวเดียวหนังไม่ถลอกเลย เห็นแต่อย่างนั้นเต็มบ้านเต็มเมือง นี่แกเอาจริงเอาจังแน่แล้ว...

    คนนี้ไม่นานด้วยนะ เมื่อมีผู้แนะจุดสำคัญนี้แล้วมันจะพุ่ง ไม่ลูบไม่คลำเมื่อมีผู้แนะ ความที่ดำเนินมาแล้วก็ว่าถูกต้องแล้วก็หายห่วง

    จุดไหนที่กำลัง ดำเนินก็ชี้บอก ทางนี้ก็พุ่งๆ เลย เป็นเรื่องอัศจรรย์เหมือนกันนะ คนไม่เคยกับศาสนาเวลามาปฏิบัติมันเป็นขึ้น นี่ละ

    ความรู้จากภาคปฏิบัติกระจายอย่างนี้เอง ความรู้ในหนังสือที่ท่านจดจารึกมาในตำรับ ตำราในพระไตรปิฎกพประมาณเท่านั้นนะ ไม่ได้ซอกแซซิกแซ็กกระจายไปทุกแห่งทุกหน เหมือนภาคปฏิบัติ... เรียกว่าทั่วท้องฟ้ามหาสมุทรเลย..."

    นับแต่เหตุการณ์ครั้งนั้นเป็นต้นมา สตรีท่านนี้ยังไม่มีโอกาสเข้ากราบหลวงตาอีกเลย จนกระทั่งต้นเดือนเมษายน ปี พ.ศ. 2542 ณ สวนแสงธรรม ถนนพุทธมณฑลสาย 3 กรุงเทพมหานคร จึงได้เข้ากราบหลวงตาและสนทนาธรรมอีกครั้งหนึ่ง ใช้เวลาสนทนาเล็กน้อย ดังนี้

    หลวงตา เวลานี้พิจารณาอะไรอยู่

    สตรีนักภาวนา การปฏิบัติของลูกอาจจะไม่ได้ถูกร่องรอยที่หลวงตาสอนให้พิจารณานะเจ้าคะ เพราะว่าการปฏิบัติของลูกตลอดเวลาตั้งแต่ตื่นนอนจนเข้านอนมีสติสัมปชัญญะ ตามรักษาจิต ใช้วิธีนี้อย่างเดียวเจ้าค่ะ ตามรักษาจิตนี้ ลูกไม่ต้องกลับมาพิจารณา เลย อยู่กับจิตว่าง อยู่กับปัจจุบันธรรมก็จะเห็นความเกิดดับของสัญญา ความ เกิดดับของสิ่งที่รู้ทั้งหมด รู้แล้วดับ ถ้ารู้แล้วไม่หลง รู้แล้วดับหมด พอทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ มันก็ชัดขึ้นมาว่า มันไม่ใช่ตัวตน มันเป็นสิ่งซึ่งไม่ใช่ ตัวตนใดๆ ทั้งสิ้น มันเป็นธรรมชาติที่เกิดดับ เกิดดับเท่านั้นเอง เท่านั้น หลังจาก ช่วงนั้นแล้วก็เลิกถูกต้ม เลิกถูกจิตต้มอีกต่อไป

    หลวงตา มันต้มยังไง ?

    สตรีนักภาวนา ถ้าเมื่อก่อนนี้การที่จะระมัดระวังเฝ้ารักษาจิตนี้ ต้องสติตามดูตามรู้ กิเลสถึงจะไม่เกิดนะเจ้าคะ แต่ถ้ามีสติสัมปชัญญะแล้วรู้เท่าทันสัญญา สติตั้งมั่น ไม่หลงอารมณ์ ทุกอย่างดับหมด ดับหมด เพราะอย่างนั้นถ้าครั้งไหนเกิดเพลิน เผลอไป แล้วหลงอารมณ์ ไปคว้าอารมณ์ก็ปล่อยได้เลย เพราะว่ารู้ว่ามันโง่ไปแล้ว เพราะฉะนั้น ลูกกราบรายงานหลวงตาว่า การรักษาจิตของลูกนี้มิได้พิจารณา เลยเจ้าค่ะ แต่การรู้ที่เห็นขึ้นเป็นขึ้นในขณะที่อยู่กับปัจจุบันธรรมตลอดเวลา แล้วทุกๆ วันนี้สิ่งที่ปฏิบัติอยู่ของลูกนี้ แม้แต่ฟังหลวงตา แม้จะอยู่ในหมู่ผู้คน ลูกเหมือนกับมี ตาอีกตาหนึ่งเห็นจิตตลอดเวลา เฝ้าดูจิตตลอดเวลาตั้งแต่ลืมตาจนเข้านอน ฉะนั้น การภาวนาของลูกนี้ ความเผลอเพลินในการทำงาน มีบ้างที่จิตส่ออก แต่นอกนั้นแล้วจิตจะอยู่รักษาข้างในหมด จะไม่ออกไปเพ่นพ่าน เพราะรู้ดี รู้เช่น เห็นชาติหมดว่ามันออกไปมันเอามาแต่อะไรแล้วเข็ดหลาบเบื่อหน่ายเจ้าค่ะ เพราะฉะนั้นวันทั้งวันจะมีสติตามรักษาจิตโดยไม่ต้องมีใครมาบอกเลย

    หลวงตา เข้าใจ เอาอยู่จุดนั้นละนะ เราจะไม่เร่งไม่บอกอะไรละ ให้เอาปัจจุบันนี้ เป็นหลักนะ เร่งก็เร่งอยู่ในปัจจุบัน ไม่เร่งก็อยู่ในปัจจุบัน ไม่นอกปัจจุบันแล้วไม่ผิด เข้าใจไหม ให้อยู่ในปัจจุบัน จิตในลักษณะในธรรมชาตินี้เป็นยังงั้น คุณก็มีครอบครัวเหย้าเรือน มีงานมีการอยู่ จึงไม่ค่อยเร่งให้ ปล่อยให้เจ้าของ เร่งเจ้าของเอง เข้าใจ ? ถ้าเป็นนักบวชนักปฏิบัติ แล้วไล่ตีหลงทิศไปเลย มันเป็นขั้น เป็นตอน

    สตรีนักภาวนา แต่จิตที่ดูเหมือนไม่เร่ง แต่มันก็ไม่ยอมปล่อยนะ

    หลวงตา เราเข้าใจ พูดอย่างนี้เข้าใจทันทีทันทีเลย ยังบอกให้ไปตามหลักธรรมชาติ ปัจจุบันๆ อย่างนั้นละ มันไม่มีอะไรละ มันอยู่กับปัจจุบันนั้นหมดเลย พอเรียนจบ ปัจจุบันแล้วละ ไม่ต้องถามแล้ว ปัญหาอะไรไม่มีละ ทีนี้เอาละ ดูปัจจุบันของเจ้าของเป็นยังไงเท่านั้นละ

    สตรีนักภาวนา ถ้ามีคนถามว่าลูกจะถามอะไรหลวงตา ลูกไม่รู้จะถามอะไร เพราะว่า ลูกเฝ้าแต่ปัจจุบันตลอดเวลา ถ้าอยู่กับปัจจุบันเมื่อไหร่ เกิดดับก็มาตลอดสายเจ้าค่ะ

    หลวงตา ก็ยังงั้นแล้ว นี่ก็ไม่ถามอะไร เพราะงั้นจึงว่าปัจจุบันนี้ พิจารณายังไงเท่านั้นเอง แน่ะ ก็เข้าปัจจุบันแล้วใช่ไหมล่ะ ถามตรงนั้นแหละ ตรงปัจจุบันสำคัญมาก นี้มันลงปัจจุบันแล้ว

    สตรีนักภาวนา เมื่อก่อนลูกตื่นตี 3 นะเจ้าคะ รู้สึกว่าเวลามันน้อยไป เดี๋ยวนี้ลูกขยับมา เป็นตี 2 ครึ่งทุกวันเจ้าค่ะ ลูกเดินจงกรมทุกวัน ลูกจะอยู่กับปัจจุบันเจ้าค่ะ อยู่กับปัจจุบัน เพราะฉะนั้น มันไม่มีความกลัวตาย ไม่มีความกลัวอะไรเลย เพราะรู้ว่าทุกๆ ขณะจิต ถ้าตายลงในขณะใด นี่มันอยู่พื้นเลยเจ้าค่ะ มันไม่มีสิทธิ์เลยที่จะหลุดไปไหนเจ้าค่ะ



    ..................................................................

    คัดลอกบางส่วนมาจาก ::
    หนังสือ...หยดน้ำบนใบบัว
    หนังสือชีวประวัติของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน

    ::
     
  8. narongwate

    narongwate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    885
    ค่าพลัง:
    +3,840
    เรื่องนี้ก็น่าอ่านเหมือนกันครับ

    ปฐมบทแห่งพระมหาโพธิสัตว์ ( พระพุทธเจ้า สมณโคดม )
    เนื้อหาบทความนี้จะเกี่ยวกับ ชาติกำเนิดของพระพุทธเจ้า การบำเพ็ญเพียร ความปรารถนาพระพุทธภูมิ จนกระทั่งมาเป็นพระพุทธเจ้า

    เนื้อเรื่องจะ เริ่มจาก ต้นอสงไขยที่ 21 จาก ปัจจุบัน
    <!-- google_ad_section_end -->
    ลองอ่านกันดูครับน่าติดตาม....
    link: ==>http://palungjit.org/posts/2144272




    ขอเชิญร่วมทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มิถุนายน 2009
  9. ลูกปลาใหญ่

    ลูกปลาใหญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    166
    ค่าพลัง:
    +577
    วันนี้ 02/06/52 เมื่อเวลาประมาณ 10.15 น. ได้โอนเงินเพื่อขอร่วมทำบุญกับทุนนิธิฯ ประจำเดือนมิถุนายนจำนวน 1,000 บาท โดยมีพี่ที่ทำงาน คุณศศิธร สิงห์คำ และ ครอบครัว ขอฝากร่วมทำบุญจำนวน 500 บาทด้วยครับ

    ขอบคุณครับ
     
  10. pon98

    pon98 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +3,886
    วันนี้ได้ส่งพระปิยบารมีและcdประวัติพระโดยมีรายชื่อดังนี้ครับ
    คุณtanya 123
    คุณnathaphat
    คุณhongsanart
    คุณnatta pea

    โมทนากับทุกๆท่านที่ได้ร่วมทำบุญกับทุนนิธิฯอย่างต่อเนื่อง ได้ทั้งบุญได้ทั้งพระที่ทรงไว้ซึ่งพระบารมีให้องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านามพระพุทธกกุสันโธและบารมีของครูอาจารย์หลายท่านเช่น หลวงปู่โลกอุดร หลวงปู่ทวด สมเด็จโต หลวงพ่อเงิน หลวงปู่หมุน หลวงปู่เกษม หลวงพ่อฤาษี หลวงปู่ครูอาจารย์หลายท่านบรรยายไม่หมดท่านใดได้รับเก็บรักษาบูชาให้ดีนะครับ พระนี้ดีมีประสบการณ์อย่างไรไว้จะค่อยๆเล่าให้ฟังในโอกาสต่อไปครับ
     
  11. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,790
    ค่าพลัง:
    +16,105
    เห็นคุณโสระโพสท์ข้างบนแล้ว กลัวไม่เชื่อเลยนำภาพของจริงมาให้ดู ทั้งแผ่นยันต์ และทองคำแท้ๆ ราว 8 บาท ที่ผสมอยู่ หากใครได้รับพระแล้ว ให้ดูเถิด จะเห็นกระแสทองคำแพรวพราวอยู่ ถึงได้บอกว่าทำได้ครั้งเดียว เพราะพระที่เสกก็มรณะภาพหมดแล้ว ทองก็ไม่มีปัญญาสะสมกันแล้ว วัตถุดิบอื่นจะไปหาที่ไหนอีก รวมมูลค่าการทำทั้งหมดก็นับแสนบาท ทำมาแล้วพอเป็นองค์พระก็แจกให้ฟรี สำหรับผู้ที่ทำบุญ จะเงินมากเงินน้อย หรือ ร้อยสองร้อยต่างกันก็ไม่ว่า ขอให้ทำมาตลอด เดิมทีกติกาต่อเนื่อง 6 เดือน แต่ก็หยวนๆ กัน 4 เดือนก็มี แต่ไม่ต่อเนื่องก็ลงมติว่าให้ได้ หลายท่านผมก็เสียใจ มาขอกันฟรีๆ โดยไม่ยอมช่วยทำบุญเลยสักครั้ง หรือมาทำแค่สองครั้ง แล้วมาขอรับพระ ไม่มีศรัทธาที่จะทำจริงๆ ผมก็ไม่ชอบเหมือนกัน ดังนั้น ผู้ที่ได้รับพระไป เป็นผู้ที่ผมและคณะกรรมการฯ รวมถึงพี่ใหญ่ ได้เห็นว่าเป็นผู้ที่สมควรแล้วด้วยมีศรัทธามั่น เราจึงเต็มใจที่ให้ทั้งๆ ที่บางท่านไม่เคยขอ เช่น เฮียปอฯ คุณhongsanat คุณnattpea คุณธิติ และอีกหลายๆท่าน ที่ไม่ได้เอ่ยนามเป็นต้น แต่ไม่เป็นไร นี่แค่รายชื่อในส่วนแรก ยังมีอีกครับ เพราะเรามีบันทึกอยู่ ประชุมทุกเดือนก็ถามกันตลอด เพราะอยากให้ได้รับกันจริงๆ นี่ก็เหลือไม่ถึงร้อยองค์แล้ว ส่วนรายละเอียด การสร้าง การเสก ใครได้ซีดีแล้ว ดูเอาเถิด ยากเย็นขนาดไหน ผมกับคุณโสระก็ได้พยายามบันทึกทั้งเบื้องหน้าเบื้องหล้ังไว้ให้มากที่สุดแล้ว นี่ก็พยายามนึกถึง จำนวนที่สร้าง ว่ามีกี่องค์กันแน่ เพราะตัวเลขยังเห็นแย้งกันอยู่ จึงยังไม่ลงประวัติเอาไว้ เมื่อรับพระแล้วขอเอาไว้อย่างเดียวอย่าแช่งใครเขาล่ะ เกิดเค้าเป็นจริงคณะกรรมการฯ มีหวังลงเหวหมดแหง.. หรือเก็บไว้ในที่อันควร ไม่งั้นเทวดาท่านจะลงโทษเอา ขนาดไม่รับโมทนาบุญเลยทีเดียว เช่นผม เลยต้องไปถือศีลในป่าเพื่ออุทิศให้ท่านแบบเจาะจงกันเลยล่ะไม่งั้นท่านไม่ยอม เพราะพระที่องค์สมเด็จพระพุทธเจ้าท่านทำให้ไม่ว่า จะเป็นพระ "ปิยบารมี" "สมเด็จองค์ปฐมไม่ว่าจะเป็นวัดท่าซุง วัดโขงขาว หรือของครูบาชัยยะฯ" หรือพระที่ได้บรรจุพระบรมสารีริกฐาตุไว้ เทวดาชั้นสูงท่านรักษาไว้ทั้งนั้น ทำดีกับท่านก็จะดีจะเจริญมาก ถ้าทำไม่ดีผลร้ายก็คูณสองหรือมากกว่านั้น ลองแขวนท่านดูสักสองสามเดือนก็พอจะเห็นอะไรลางๆ ได้บ้างแล้วล่ะ ดาบสองคมจริงๆ ว่าแล้วก็ดูรูปครับ


    [​IMG]




    [​IMG]



    รูปแผ่นพระยันต์ต่างๆ พร้อมขันตักบาตรเก่า
    ทำด้วยทองเหลืองแท้




    [​IMG]


    ดูเอาเถิดทองคำแท้ๆ ทั้งสายสร้อยของคุณโสระ
    และของพี่ใหญ่






     
  12. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,790
    ค่าพลัง:
    +16,105
    เอาละทีนี้มาถึงที่ติดค้างกันเอาไว้เป็นภาพ "พระปิยบารมี" ที่สร้างจากส่วนผสมตามรูปข้างบนในกระทู้ โดยพี่ใหญ่ของทุึนนิธิฯ ที่มีความเกี่ยวพันกับท่านได้อธิษฐานขอบารมีจาก "ท่านข้างบน" มาช่วยทำให้สำเร็จตามความประสงค์แห่งท่านทุกประการ...

    [​IMG]








    (ขออภัยภาพข้างบน คุณโสระเจ้าของขันเค้าบอกว่าขันเงิน ก็ต้องว่าตามเจ้าของครับ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มิถุนายน 2009
  13. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,790
    ค่าพลัง:
    +16,105
    การเริ่มต้นปฏิบัติวิปัสสนา...(หลวงปู่ดูลย์)

    [​IMG]


    หากต้องการภาพขนาดใหญ่ เพื่อทำ Wallpaper
    Download Wallpaper Link...
    (กดปุ่มเมาส์ด้านขวา เลือก Save Target As)

     
  14. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,790
    ค่าพลัง:
    +16,105
    ผู้มีปัญญา...(หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต)

    [​IMG]


    หากต้องการภาพขนาดใหญ่ เพื่อทำ Wallpaper
    Download Wallpaper Link...

    (กดปุ่มเมาส์ด้านขวา เลือก Save Target As)


     
  15. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,790
    ค่าพลัง:
    +16,105
    ถ้าท่านมีศรัทธา ตั้งใจจริง...ท่านจะได้รับผลจริง


    [​IMG]


    หากต้องการภาพขนาดใหญ่ เพื่อทำ Wallpaper
    Download Wallpaper Link...
    (กดปุ่มเมาส์ด้านขวา เลือก Save Target As)



    ภาพสวยๆ และบทธรรมะดีๆ ทั้งหมดข้างต้น post โดยคุณลูกโป่งจากเวบ

    http://www.dhammajak.net

     
  16. pon98

    pon98 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +3,886
    [​IMG]

    ขอบรรยายภาพแทนพี่พันวฤทธิ์ครับ
    -ขันที่เห็นเป็นขันสำหรับใส่ข้าวตักบาตรเป็นเนื้อเงินหนักเป็นกิโลครับอายุประมาณ50ปี
    -แผนโลหะลงยันต์ที่เรียงซ้อนๆกันถ้านับจริงๆคงเป็นร้อยๆยันต์
    -เม็ดขาวๆที่อยู่ในถุงติดกับขันเป็นเม็ดเงินแท้บริสุทธิ์เกือบร้อยเปอร์เซนต์ครับ
    -อย่างอื่นคงต้องดูตามcdที่แจกพร้อมพระปิยบารมีครับ
     
  17. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,790
    ค่าพลัง:
    +16,105
    รักพ่อสงสารพ่อเข้าไปดูต่อในเวบนี้น๊ะ

    Untitled-1
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มิถุนายน 2009
  18. pon98

    pon98 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +3,886
    [​IMG]

    มาบรรยายภาพต่อครับ
    -ตะกรุดที่เห็นเนื้อตะกั่วเป็นของหลวงพ่อตัด วัดชายนา และตะกรุดเนื้อทองแดง เป็นของหลวงปู่ดู่ วัดสะแก
    -เม็ดสี่เหลี่ยมสามเม็ดคือ แร่ข้าวตอกพระร่วงที่หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุงได้อธิษฐานไว้
    -ทองทั้งหมดประมาณแปดบาทถ้าเป็นราคาทองในปัจจุบันก็ประมาณแสนสองครับ
    -ดูกันชัดๆครับ ของที่อยู่ในถุงและแท่งวาวๆด้านบนคือ แร่เงินบริสุทธิ์เกือบร้อยเปอร์เซนต์
     
  19. chaipat

    chaipat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +11,099
    สำหรับท่านที่ได้รับพระปิยบารมี ผมขอร้องนะครับว่า

    อย่าไปแลกพระปิยบารมี กับ พระองค์ใดเลยครับ

    จนพระท่านเบื้องบน ต้องลงมาแจ้งให้ทราบ

    ผมเสียความรู้สึกครับ

    อยากได้พระท่านมาบูชา ก็เช่าบูชา หรืออธิฐานขอสักองค์ก็พอเป็นกำลังใจ

    ได้ยินมาก็ไม่อยากพูดครับ ไม่รู้ว่า พี่ๆ ท่านจะว่าผมไหม

    ขอสักครั้งครับ เก็บรักษาไว้ให้ดี คุ้มครองตน คุ้มครองครอบครัว ตั้งมั่นทำดีครับ

    ผมพูด ผมก็ทำนะครับ

    สาธุครับ
     
  20. นายสติ

    นายสติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    918
    ค่าพลัง:
    +4,293
    ขอนำใบโมทนาบัตรและหนังสือขอบคุณของโรงพยาบาลต่างๆที่ทางทุนนิธิสงเคราะห์สงฆ์อาพาธ อ.ประถม ได้ส่งเงินไปร่วมบริจาคให้กับทางโรงพยาบาลนั้นๆเพื่อใช้ในกิจการสงฆ์ นำมาให้ทุกๆท่านได้โมทนาบุญร่วมกันด้วยนะครับ นอกจากนั้นก็จะมีสำเนาใบเสร็จที่ทางทุนนิธิฯได้ส่งเงินไปบริจาค และใบโมทนาบัตรของวัดป่าดงหวาย ของหลวงปู่แฟ็บที่ทางทุนนิธิฯได้บริจาคร่วมสร้างเครื่องอุลตร้าซาวด์มาให้ร่วมโมทนาด้วยนะครับ

    โมทนา สาธุ โมทนา สาธุ โมทนา สาธุ


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]





    <TABLE cellSpacing=2 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD style="WIDTH: 15px; HEIGHT: 299px" vAlign=top></TD><TD style="HEIGHT: 299px">
    <TABLE width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#fbcf2f>




    [​IMG]


    [​IMG]








    </TD></TR></TBODY></TABLE>​



    </TD></TR></TBODY></TABLE>​

    [​IMG]



    [​IMG]




    [​IMG]



    [​IMG]



    [​IMG]


    [​IMG]



    [​IMG]


    [​IMG]



    [​IMG]

    และเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมามีท่านผู้ใจบุญร่วมบริจาคเงินให้ทางทุนนิธิฯผ่านทางพี่ใหญ่ซึ่งผมได้นำเงินไปส่งเข้าบัญชีเรียบร้อยแล้วครับ

    คุณ ประสิทธิ์ อุรุเอกโอฬาร 1000 บาท

    กราบขอบพระคุณและโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยครับ

    โมทนา สาธุ โมทนา สาธุ โมทนา สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มิถุนายน 2009

แชร์หน้านี้

Loading...