การชำระโลกให้สะอาดยังคงดำเนินต่อไป พร้อมคลิปภัยพิบัติทั่วโลก

มีรายงานข่าวจาก DW News
เมื่อสักครู่นี้เองว่า

ขณะนี้มีเกาะจำนวน 5 เกาะ
ในหมู่เกาะโซโลมอน (Solomon Islands)
ได้จมอยู่ใต้ทะเลไปเกือบมิดเกาะแล้ว
(ดูภาพสไลด์ประกอบ)

โดยหนึ่งใน 5 เกาะนี้
มีประชาชนปลูกบ้านเรือนอาศัยอยู่
หลายครอบครัวด้วยกัน
แต่ในขณะนี้ต้องอพยพหลบภัยไปอยู่เกาะอื่น
ที่ปลอดภัยกว่าเรียบร้อยแล้ว

ท้ายข่าวรายงานว่า
เกาะอื่นๆของหมู่เกาะโซโลมอน
ก็มีความเสี่ยงที่จะจมทะเลค่อนข้างสูงเช่นกัน

เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
หมู่เกาะโซโลมอนซึ่งมีเกาะน้อยใหญ่
รวมกันอยู่หลายเกาะนี้
เป็นหมู่เกาะที่ตั้งอยู่บริเวณรอยต่อของเลือกโลก
อีกทั้งยังอยู่ในเขตที่จะได้รับแรงสั่นสะเทือน
จากการปะทุของภูเขาไฟบนหมู่เกาะวานูอาตู
อย่างเต็มที่อีกต่างหากด้วย

แผ่นดินไหวที่เกาะวานูอาตู
หรือภูเขาไฟที่วานูอาตูปะทุ
แรงสั่นสะเทือนล้วนมีผลกระทบต่อ
หมู่เกาะโซโลมอนด้วยเช่นกัน
บริเวณหมู่เกาะแห่งนี้
จึงมีการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกบ่อยๆ

ผลลัพธ์จากการสั่นสะเทือนเคลื่อนตัว
ของเปลือกโลกตรงหมู่เกาะแห่งนี้
นอกจากจะก่อให้เกิดแผ่นดินไหว
ไม่เว้นแต่ละวัน วันละหลายๆครั้งแล้ว

สิ่งที่ท่านต้องรู้ก็คือ
การค่อยๆทรุดตัวลงของหมู่เกาะเหล่านี้
จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จนจะจมหายไปใต้ทะเลทั้งหมดในที่สุด

ตามแผนการจัดระบบองค์กรโลกใหม่
ในปฏิบัติการชำระโลก ครั้งที่ 4 นี้
หมู่เกาะน้อยใหญ่เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ที่มีอยู่
จะถูกทำให้จมหายไปใต้ท้องทะเล
เพราะเกาะส่วนใหญ่เปรียบเสมือนขยะ
ที่เกิดจากการตกตะกอนของดินในทะเล
ซึ่งสะสมมาเป็นเวลานานนับพันๆปี
พระบิดามิได้ทรงกำหนดสร้างขึ้นไว้แต่อย่างใด

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
9-05-2016

 

ผมสังหรณ์ว่า wwiii จะต้องถูกชุดชนวนขึ้นมาจริงๆ

 

นี่เป็นภาพรุ้งกินน้ำฝาแฝดที่งดงามมาก
ปรากฏขึ้นกลางมวลหมู่เมฆสกปรกและหนาทึบ
เหนือท้องฟ้าเมืองวาเลนเซีย ประเทศสเปน

เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
แค่ตั้งคำถามว่า "รุ้งสวยมั้ย" เพราะแลเห็นแต่รุ้งนั้น
ยังมิใช่เป้าประสงค์หลักของช่างเท็คนิกดอกนะ

เพราะช่างเท็คนิกปรารถนาจะให้ท่านทั้งหลาย
แหงนมองขึ้นท้องฟ้าด้วยมายาแห่งรุ้งแฝด
เพื่อให้ท่านทั้งหลายได้พบเห็นสิ่งที่เร้นอยู่เบื้องหลัง
มวลหมู่เมฆสกปรกสีดำอันน่ากลัวนั่นต่างหาก

เพื่อให้ท่าน "ฉุกคิด" กันได้ว่า
บัดเดี๋ยวนี้เมฆฝนเมฆฟ้าทั่วทั้งโลกน่ะ
มันมีการเปลี่ยนแปลง มันมีความผิดปกติเกิดขึ้นแล้ว

เมื่อพบว่ามันผิดปกติมันเปลี่ยนแปลง
ก็ปรารถนาจะให้ท่านทั้งหลายคิดได้กันต่อไปอีกว่า

1.ที่มันผิดปกติที่มันเปลี่ยนแปลงนั้น
มันเกิดจากอะไร

2.เมื่อเปลี่ยนแปลงไปแล้ว
ก็ต้องการให้ท่านคิดได้อีกว่ามันจึงยังผลให้
ดินฟ้าอากาศของโลกเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย

เช่น พายุฝนลูกเห็บที่เป็นก้อนน้ำแข็งสกปรก
ได้ตกกระหน่ำลงมาทั่วโลกอย่างผิดฤดูกาลและผิดที่

หรือกรณีที่ทำให้เกิดภาวะน้ำท่วม
ประเทศในเขตทะเลทราย
หรือกรณีที่ทำให้เกิดพายุทอร์นาโด
ที่รุนแรงนอกประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นต้น

3.เมื่อท่านรับทราบรับรู้พิบัติภัยอันตรายนั้นแล้ว
ก็ปรารถนาจะให้ท่านคิดได้ด้วยว่า

ตัวท่านและมนุษย์ทุกคนบนโลกนี้
มีส่วนร่วมในการทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหรือไม่

ถ้าคิดว่ามีส่วนก็ต้องถามตนเองว่า
ท่านทำให้เกิดก้อนเมฆสกปรกพวกนี้ได้อย่างไร
ท่านจะยุติการมีส่วนร่วมทำร้ายตัวเองและโลก
ในรูปของภัยพิบัติทางธรรมชาติต่างๆได้อย่างไร

นี่แน่ะท่านทั้งหลาย...
ที่เรากล่าวมาให้ท่านขบคิดน่ะ
มันเป็นแค่เพียงกรณีคำถามตัวอย่างเท่านั้นเอง
ที่ฟ้าโดยช่างเท็คนิกพยายามจะสื่อกับพวกท่าน
เพื่อหมายสร้างสติทางวิญญาณให้รู้ว่า
พวกท่านได้เวลารับผิดชอบดาวโลกของตนเสียที
เพราะบัดนี้ดาวโลกดวงนี้วิกฤตเกินขนาดแล้ว

ถ้ามนุษย์ทำผิดคิดชั่ว
โดยไม่รู้ว่าตัวเองผิด ตัวเองชั่ว

ถ้ามนุษย์ไม่ละอายต่อการผิดบาป
จึงก่อการก้าวล่วงผู้อื่นอยู่เนืองๆ

ถ้ามนุษย์แยกไม่ออกว่า
ไหนส่วนตัว ไหนส่วนรวม ไหนหน้าที่

ถ้ามนุษย์มองว่าธรรมะเป็นเรื่องของคนแก่
จะหันมาใส่ใจเมื่อกายสังขารเริ่มไม่ไหวแล้ว

ถ้ามนุษย์ยังรักกันไม่ได้ ให้กันไม่เป็น
สร้างสำนึกแห่งการเป็นหนึ่งเดียวกันไม่สำเร็จ

เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
อีกมิช้ามินานนักหรอก
ดาวเคราะห์โลกดวงนี้จะถึงขั้นหายนะ
เพราะพวกท่านจะต้องทำสงครามกับภัยพิบัติ
อย่างชนิดที่ท่านไม่มีวันจะเอาชนะได้
แม้จะมีเท็คโนโลยีทันสมัยแค่ไหนก็ตาม

ฟ้าจะเตือนท่านให้มองฟ้า
เพื่อค้นหาสำนึกแห่งการเป็นมนุษย์โลกเสรีให้พบ
ก่อนที่จะสายเกิน....

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
11-05-2016

 

เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

หากท่านทั้งหลายสังเกตให้ถ้วนถี่ก็จะพบว่า

1.ดาวเคราะห์โลกมีการสั่นสะเทือนใต้พิภพ
บนพิกัดอเมริกากลางและอเมริกาใต้ถี่ขึ้น
และรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ (ขณะนี้ถึงระดับ 7 แล้ว)
ซึ่งเป็นภูมิภาคที่ล้วนตั้งอยู่บนวงแหวนไฟ

2.ในภูมิภาคอื่นๆที่อยู่ใกล้แนวรอยร้าว
ของแผ่นเปลือกโลกนอกแนววงแหวนไฟ
ก็มีการสั่นสะเทือนในระดับต่ำอยู่เป็นระยะๆ
จนกระทั่งบัดนี้

3.เมฆฝนบนท้องฟ้าปัจจุบันเปลี่ยนเป็นสีเทาดำ
ที่ดำมากจนแลน่ากลัวผิดปกติไปแล้ว
มิหนำซ้ำยังลอยต่ำผิดไปจากปกติอีกด้วย

4.เกิดพายุฝนทีไรจะมีพายุลูกเห็บ
ที่เป็นก้อนน้ำแข็งสกปรกตกลงมาด้วยเสมอ
บางแห่งตกลงมาหนาเป็นฟุตและละลายช้ามาก
อีกทั้งยังมีก้อนโตขนาดเท่าลูกซอฟท์บอลแล้ว

5.พายุลูกเห็บนั้นปกติแล้ว
จะเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในเขตร้อน
ซึ่งจะมาพร้อมกับพายุฤดูร้อน
เช่นแถบอีสานและภาคเหนือของไทย เป็นต้น

แต่ขณะนี้พายุลูกเห็บเข้าไปแสดงพลัง
อยู่บนพื้นที่ในเขตทวีปอเมริกาเหนือหลายรัฐ
ทั้งๆที่เป็นพิกัดของแดนหิมะมากกว่า
แม้กระทั่งแถบอเมริกากลาง และอเมริกาใต้
พายุลูกเห็บก็มิได้ว่างเว้น

6.ระยะเวลาที่ผ่านมาจนปัจจุบันนี้
ได้เกิดมีอุทกภัยรุนแรงขึ้น แผ่นดินสไลด์
ภูเขาถล่ม โคลนถล่ม ไปทั่วทุกที่
มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
อาคารบ้านเรือนและพืชผลการเกษตร
ได้รับความเสียหายมากขึ้นเรื่อยๆ

ล้วนเกิดในประดาประเทศที่ยากจน
ล้วนเกิดในชนบทผู้ห่างไกลความเจริญ
ล้วนเกิดบนแหล่งผลิตอาหารเลี้ยงมนุษย์
ล้วนเกิดในพื้นที่ต้นน้ำลำธาร

7.พายุหมุนจากก้อนเมฆลงจุมพิตปฐพี
หรือทอร์นาโดได้ขยายพื้นที่แสดงพลัง
ออกไปจากทวีปอเมริกา มาทางเอเซีย
แล้วก็ไปทางทวีปยุโรป
จนบัดนี้สามารถเกิดขึ้นได้ทั่วโลกแล้ว
ทุกครั้งพลังอำนาจในการทำลายล้าง
ก็ทวีเพิ่มขึ้นอีกต่างหากด้วย
เช่น ทดลองยกเด็กน้อยในจีนลอยขึ้นไปสูงๆ
ก่อนที่จะวางลงบนสนามหญ้า
โดยแค่บาดเจ็บและตกใจเท่านั้น

เราจึงจะกล่าวตามความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
ข้อสังเกต 7 ประการที่เรากล่าวนี้
คงพอจะยืนยันความจริงเรื่องโลกนี้กำลังมีภัย
ที่เรากล่าวต่อท่านทั้งหลายไว้
เมื่อสามสิบปีที่ผ่านมาแล้วได้บ้างล่ะนะ

เรายังยืนยันอีกครั้งว่า
วิกฤตโลกมันยังไม่หยุดเพียงเท่านี้หรอก
ตราบใดที่มนุษย์ยังไม่มีสำนึกแห่งคุณธรรมที่ในจิต
โดยมีเพียงแค่ลมปากกันเท่านั้น

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
13-05-2016

 

(ตอนที่ 2)

เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

ข้อสังเกตที่เราแสดงไว้ต่อท่าน
ในความ (ตอนที่ 1) นั้น

ก็เพื่อสร้างแนวคิดให้ท่านสังเกตว่า
"ภัยพิบัติ" กับ "ภัยธรรมชาติ" มันแตกต่างกัน
มันไม่เหมือนกันอย่างสิ้นเชิง

เพราะถ้าเป็น "ภัยธรรมชาติ" แล้ว
จักต้องมีลักษณะที่พอสังเกตได้ดังนี้

1.จะไม่ฉวยโอกาสเกิดขึ้นตอนทีเผลอ
2.จะเป็นปรากฏการณ์ธรรมดา
คือ จักเป็นดั่งเช่นที่เคยเป็นมา
3.จะไม่สร้างความสยองขวัญสั่นประสาทให้ท่าน
4.จะไม่สร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่คนหมู่มาก
5.จะไม่เอาชีวิตผู้คนแบบหมู่คณะใหญ่ๆ
ุ6.จะไม่ทำลายความสมดุลเดิมใดๆที่มีอยู่

ดังนั้น
หากท่านใช้บัญญัติ 6 ประการ
ที่ผู้รับผิดชอบภารกิจปฏิบัติการแห่งฟ้าก็ยึดถือแล้ว
ท่านก็จะสังเกตได้เองว่า
ภัยที่เกิดแต่ ดิน น้ำ พายุ และไฟ
ซึ่งกำลังทะยอยเกิดขึ้นอยู่ทั่วโลกหล้า
เป็นภัยธรรมชาติธรรมดาหรือว่า "ภัยพิบัติ"

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
13-05-2016

 

ภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดแก่โลก
จะมิอาจหยุดได้ด้วยพลังอำนาจวิเศษใดๆทั้งสิ้น
มนุษย์จักหยุดมันได้
ก็ด้วยการกระทำที่ "จิตสำนึก" มนุษย์เองเท่านั้น

หยุดโลภะ โทสะ โมหะ และ เลิกงมงาย
โดยใช้สติปัญญาแทนการใช้อารมณ์
รักให้ได้แม้ใครไม่น่ารัก
ให้อภัยให้ได้แม้เขาคนนั้นไม่น่าให้อภัย
หยุดก้าวล่วงใครทั้งใจและกายของท่านโดยเด็ดขาด

นี่เป็นหนทางเดียวที่ฟ้าเปิดทางให้
มหันตภัยพิบัติทั้งหลาย
จึงจะลดลงได้ดั่งร้องขอ

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
13-05-2016

 

(ตอนที่ 4)
ความแตกต่างระหว่าง
"ข่าวสาร" กับ "คำพยากรณ์"
****************************
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

ข้อมูลต่างๆเรื่องภัยพิบัติโลก
ที่เราสื่อเป็นข่าวกล่าวต่อชาวดาวโลกที่ผ่านมา
หรือที่เราจะค่อยๆนำมากล่าวไว้ในครั้งต่อๆไปนั้น
มันมิใช่ "คำพยากรณ์" ตามตำราโหรใดๆ
แต่มันเป็น "ข่าวสาร" จากจิตจักรวาล
ที่พระบิดาแห่งจิตวิญญาณมนุษย์ทั้งหลาย
ทรงเมตตาสื่อผ่านเรามาเพื่อแจ้งข่าวสารนี้ต่อท่าน

อันว่า "คำพยากรณ์" นั้นมันก็คือการทำนาย
โดยอาศัยสถิติและความสามารถเชิงวิเคราะห์
ของท่านผู้พยากรณ์เป็นสำคัญ

ส่วน "ข่าวสารจากพระบิดา" ที่ทรงสื่อผ่านเรามานั้น
คือการรายงานข่าวไปตามความจริง
คือการกล่าวถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นจริงๆ
โดยไม่ต้องวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อสร้างเป็นข่าวเลย

เป็นการบอกเล่าความจริงที่จะเกิดขึ้น
ให้ท่านทั้งหลายได้รับรู้กันเอาไว้ล่วงหน้า
ตามที่แหล่งข่าวของเราก็คือพระบิดา
ได้ทรงมีเมตตาบอกผ่านเรามาถึงพวกท่านทุกคน
ซึ่งเมื่อท่านรับรู้ข่าวสารเรื่องปฏิบัติการชำระโลก
จากองค์จิตจักรวาลผ่านเราแล้ว
ท่านจะตัดสินใจกับข่าวสารจากพระบิดาอย่างไร
มันก็เป็นหน้าที่ของท่าน

*หากท่านเป็นผู้หนึ่งซึ่งติดอยู่กับความงมงาย
ทันทีที่ได้อ่านพระวรสารจากพระบิดา
บนหน้าเฟสบุุ้ค ป.วิสุทธิปัญญา นี้
ท่านก็จะใช้เพียง "เชื่อ" กับ "ไม่เชื่อ"
เพื่อทำการพิพากษาตัวท่านเองโดยพลัน

*หากท่านเป็นผู้หนึ่งซึ่งยังติดอยู่กับอัตตาแห่งตน
ทันทีที่ได้อ่านพระวรสารจากพระบิดา
บนหน้าเฟสบุ้ค ป.วิสุทธิปัญญา นี้
ท่านก็จะเกิดอาการ "หมิ่นหยาม" ต่อพระวรสาร
ก้าวล่วงต่อการทำหน้าที่ของเราตามพระบัญชา
ทั้งๆที่ตัวท่านเองยังจดจำพระบิดาและเราไม่ได้
ทั้งๆที่ตัวท่านยังมิได้ใช้ความฉลาดทางปัญญา
พิจารณาข่าวสารของเราแต่อย่างใด

*หากท่านเป็นคนหนึ่งที่ "ขี้ขลาด"
ทันทีที่ได้อ่านพระวรสารเรื่องภัยพิบัติ
บนหน้าเฟสบุ้คของ ป.วิสุทธิปัญญา
ท่านก็จะบังเกิดอาการ "ต่อต้าน" ข่าวสารนี้ทันที
เพราะท่านยึดติดอยู่กับ "ความกลัว"
โดยกลัวว่ามันจะเกิดเหตุร้ายที่เรากล่าวขึ้นจริงๆ
โดยที่ท่านไม่อยากให้มันเกิด

ทั้งๆที่ท่านสามารถรับรู้พระวรสาร
พร้อมอ่านคำชี้แนะได้ด้วยว่า
ถ้าจะอยู่รอดปลอดภัยในท่ามกลางภัยพิบัติแล้ว
ท่านจักต้องปฏิบัติตนเช่นไรในยามนี้
ยามที่ภัยพิบัติทั้งหลายมันยังอยู่ห่างไกลตัวท่าน
แต่น่าเสียดายที่ "คนกลัวตาย" ไม่ยอมอ่าน
การเตรียมตนเองและจิตวิญญาณ
ให้พร้อมต่อการผจญภัยจึงถูกละเลย

นี่ไง...
การที่เรากลับมาตามสัญญา
เพื่อทำภารกิจพระบิดาในการพิพากษาโลกน่ะ

หนึ่งในนั้นก็คือการแจ้งข่าวสารด้านภัยพิบัติ
เพื่อให้ท่านทั้งหลายได้พิพากษาตนเองกันว่า
ท่านจะตอบสนองต่อพระวรสารนั้นๆอย่างไร

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
14-05-2016

 

(ตอนที่ 5)
เหตุแห่งการเกิดภัยพิบัติโลก
*****************************
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
ภัยพิบัติต่างๆที่กำลังเกิดกระจายไปทั่วโลก
โดยนับวันจะรุนแรงยิ่งขึ้นและถี่ขึ้นเรื่อยๆนั้น
มีสาเหตุหรือที่มาแห่งการเกิดดังต่อไปนี้

1.เกิดจากการที่โลกเสียสมดุลในทางกายภาพ
เพราะมนุษย์เป็นเหตุแห่งการเสียสมดุลนี้

การตัดโค่นต้นไม้ทำลายป่า
เป็นการทำลายแหล่งต้นน้ำลำธาร
เป็นการทำลายแหล่งอาศัยและอาหารของสัตว์ป่า

การระเบิดภูเขาทิ้งไป
เป็นการย้ายภูเขา
เพื่อนำเอาไปสร้างป่าคอนกรีตที่ในเมือง

การปิดกั้นกระแสไหลเวียนของน้ำในแม่น้ำ
ด้วยการสร้างเขื่อนเก็บกักน้ำไว้ใช้เอง
โดยไม่คำนึงถึงเพื่อนบ้านที่อยู่ปลายน้ำเลย

การถมทะเลเพื่อสร้างเกาะใหม่นอกธรรมชาติ
การสร้างเกาะขึ้นมาใหม่เพื่อสร้างเมืองใหม่
สองสิ่งนี้เป็นการสร้างใหม่
ที่ผิดกฎแห่งการสมดุลของสรรพสิ่ง
ซึ่งพระบิดาทรงกำหนดสร้างไว้ดีแล้ว

ตัวอย่างที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น
ล้วนเป็นเหตุแห่งการเกิดภัยพิบัติทั้งสิ้น
เพราะการเกิดภัยพิบัตินั้นเป็นการสร้างสมดุลใหม่
ในกระบวนการทางธรรมชาติแห่งพระผู้สร้าง

2.เกิดจากการที่โลกเสียสมดุลทางพลังงาน
โดยมีมนุษย์โลกเป็นเหตุอีกนั่นแหละ

พระบิดาทรงกำหนดให้มนุษย์
เป็นเพื่อนร่วมงานกับดาวโลกดวงนี้
ด้วยการ "รักกัน" ในหมู่มนุษย์ด้วยกันให้ได้
โดยมีเงื่อนไขที่จะทดสอบความรัก
ด้วยการกระทำตนไม่น่ารักต่อกันเป็นสำคัญ

ถ้าสามารถให้อภัยในความไม่น่ารักกันได้
จิตท่านก็จะผลิตสร้างพลังงานความรักออกมา
ความรักก็จะอยู่ในรูปของพลังงานไฟฟ้าแม่เหล็ก
ที่มีคุณสมบัติทางไฟฟ้าเป็นบวก
เมื่อผลิตขึ้นมาแล้วมันก็จะถูกดึงดูดเหนี่ยวรั้ง
ให้ลงไปเป็นพลังงานในโรงงานที่แกนโลก
เพื่อใช้จุดระเบิดสร้างกระบวนการต่างๆที่นั่น

พลังงานจากจิตสำนึกด้านบวกนี่แหละ
ที่ช่วยค้ำจุนดาวโลกดวงนี้ให้สมดุลอยู่ได้
ที่ช่วยให้พวกท่านมีก๊าซออกซิเจนใช้หายใจ
ที่ช่วยให้มีระบบโครงข่ายสนามแม่เหล็กหุ้มโลกไว้
ที่ช่วยให้ดาวโลกเหมาะกับพวกท่านและสัตว์เลือดอุ่น
ในการดำรงชีวิตอย่างยืนยาว เป็นต้น

เมื่อมนุษย์รักกันไม่ได้
ให้กันไม่เป็น คือ ให้อภัย

มันจะยังผลให้โลกขาดพลังงานหรือเชื้อเพลิง
ที่จะนำไปใช้เป็นพลังงานเริ่มต้นของกระบวนการ
ในโรงงานขนาดใหญ่ที่พระบิดาทรงติดตั้งไว้

ถ้าขาดพลังงานมากๆโลกจะหมุนช้าลง
แกนหมุนของโลกก็จะแกว่งส่าย
โลกก็จะเกิดแผ่นดินไหวไปทั่วทุกทวีป
สนามแม่เหล็กโลกก็จะวิปริตแปรปรวน
ก๊าซออกซิเจนในระบบโลกก็จะน้อยลง เป็นต้น

3.เกิดจากการกระทำของเจ้ากรรมนายเวร
ซึ่งเป็๋นดวงจิตวิญญาณที่อาฆาตแค้น
จนไม่ยอมไปผุดเกิดในภพชาติใหม่

เมื่อใดที่สนามแม่เหล็กโลกอ่อนแอจากปกติ
มิติระหว่างมนุษย์กับมิติแห่งโลกวิญญาณ
ก็จะเกิดการเปิดแง้มออกทันที
จิตวิญญาณผู้อาฆาตพยาบาทเหล่านี้
ก็จะสบโอกาสจับมือกันแก้แค้นเอาคืน

ด้วยการใช้ธรรมชาติเป็นเครื่องมือ
เช่น การเกิดฟ้าผ่ามนุษย์และสัตว์เลี้ยง
การเกิดพายุน้ำแข็งสกปรกตกลงมา
การเกิดพายุฤดูร้อนเข้าโจมตีทำร้าย
การเกิดโรคร้ายพันธุ์ใหม่ๆ เป็นต้น

4.เกิดจากปฏิบัติการของช่างเท็คนิก
ที่เดินทางข้ามมิติมาจากนอกระบบโลก
ตามแผนการชำระโลกเพื่อสร้างสมดุลใหม่
ในการนำโลกเปลี่ยนจากยุคพลังงานเก่า
เข้าสู่โลกยุคพลังงานใหม่โดยสมบูรณ์
ซึ่งจะใช้ธรรมชาติในระบบโลกเป็นเครื่องมือ
เช่น ดิน น้ำ ลม ไฟ เป็นต้น

ซึ่งปฏิบัติการนี้จะสิ้นสุดยุติก็ต่อเมื่อ
ผ่านคาบเวลาแห่งการปิดยุคไปแล้ว
ด้วยการเกิดมหันตภัยพิบัติพร้อมกันทั่วโลก
ในทุกรูปแบบอย่างไม่ลืมหูลืมตา
ภายในกำหนด 8 ราตรีของฟ้า
หรือเป็นเวลา 56 วันของมนุษย์

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
14-05-2016

 

คลิปนี้ถูกบันทึกเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2559
เป็นเสียงลึกลับที่ดังก้องกังวาลมาจากท้องฟ้า
ซึ่งถูกบันทึกไว้ได้ที่ประเทศโปแลนด์

เสียงลึกลับลักษณะที่ท่านได้ยินจากคลิปนี้
เป็นเสียงที่มีผู้คนได้ยินและฉงนกันมาแล้วในหลายๆประเทศ
เพราะไม่รู้ว่าเป็นเสียงอะไร แหล่งกำเนิดเสียงมาจากไหน

เราจะขอกล่าวความจริงเท่าที่พอเปิดเผยได้ในขณะนี้ว่า
เสียงดังกล่าวนี้ไม่ว่าจะถูกบันทึกไว้ที่ประเทศใด
ลักษณะของเสียงและคลื่นความถี่
จะเป็นแบบเดียวกันกับที่ท่านได้ยินจากคลิปนี้แทบทั้งสิ้น
เพราะเป็นเสียงจากเครื่องจักรกลชนิดเดียวกัน

พวกเขาคือทีมงานช่างเท็คนิกจากนอกระบบโลก
ที่เดินทางข้ามมิติเข้ามาร่วมปฏิบัติการช่วยโลก
ในการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคพลังงานใหม่
โดยภารกิจหลักในขณะนี้ก็คือ

เป็นทีมสนับสนุนช่างเท็คนิกกลุ่มแซจิตตาเรี่ยนส์
ผู้เชี่ยวชาญด้านอำนาจแม่เหล็ก
ซึ่งกำลังปฏิบัติการอยู่ที่แกนแม่เหล็กโลก

โดยช่วยขุดเจาะช่องระบายความดันจากใต้แผ่นเปลือกโลก
อันเกิดจากการระเบิดที่แกนโลกในขณะนี้รุนแรงและไม่สม่ำเสมอ
เพื่อช่วยลดทอนความแรงของแผ่นดินไหวเอาไว้ก่อน
เพื่อชะลอการระเบิดของภูเขาไฟใหม่เก่าเอาไว้ก่อน
เนื่องจากปฏิบัติการเซาะแยกแผ่นเปลือกโลกของอีกทีมหนึ่ง
ยังอยู่ในช่วงดำเนินการไม่แล้วเสร็จนั่นเอง

ท่านจะได้เห็นปรากฏการณ์ของ "หลุมยุบ"
ทั้งขนาดเล็กใหญ่และตื้นลึกเกิดขึ้นทั่วโลก
ทุกหลุมจะมีลักษณะเป็นวงกลมดั่งจงใจ
ซึ่งหลุมยุบนั้น (Sinck Hole) เกิดได้แม้ในทะเลทราย

เนื่องจากทีมปฏิบัติการและเครื่องกล
ซ้อนอยู่กับมิติโลกในลักษณะที่ท่านเรียกว่า "อำพราง"
ท่านทั้งหลายจึงมิอาจแลเห็นพวกเขาได้ด้วยตาเนื้อ
นอกจากจะได้ยินคลื่นเสียงที่พวกเขาเจตนาให้ท่านรู้เท่านั้น

เราได้รับอนุญาตให้บอกความจริงแก่ท่านเพียงเท่านี้
เพื่อให้พวกท่านรับรู้ว่าดาวโลกดวงนี้นั้น
กำลังมีปฏิบัติการชำระโลกเพื่อการเปลี่ยนสู่ยุคพลังงานใหม่
ขอท่านทั้งหลายจงเร่งชำระจิตสำนึกตนเองด้วย
มิเช่นนั้นท่านก็จะเป็นเสมือนขยะที่ต้องถูกชำระทิ้งไป
แลให้ระแวดระวังภัยพิบัติร้ายๆอันอาจเกิดขึ้นใกล้ตัวท่าน
จากปฏิบัติการของทีมช่างเท็คนิกต่างๆในวันต่อๆไป
ขอท่านทั้งหลายจงยังชีวิตอยู่อย่างไม่ประมาทเถิด

ใครไม่เชื่อจงอย่าเพิ่งก้าวล่วง
เฝ้ารอพิสูจน์ความจริงตามที่เรากล่าวไว้ก่อนดีกว่า
อีกไม่นานนักหรอก...ความจริงจะค่อยๆปรากฏเอง
ผู้ไม่เชื่อจงหมั่นรักษาเนื้อตัวเอาไว้พิสูจน์ความจริงเถิดนะ

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
17-05-2016

 

ภายในก่อนสิ้นปีนี้กระมัง
พื้นที่สองฝั่งแม่น้ำสายต่างๆของประเทศไทย
จะมีน้ำไหลหลากมาอย่างท่วมท้น
จนเส้นทางเดินของแม่น้ำที่มีอยู่ไม่เพียงพอให้น้ำไหล
ไม่เพียงพอที่จะรองรับน้ำเอาไว้ได้

มันจะยังผลให้ชุมชนสองฝั่งแม่น้ำทั้งหลาย
รวมทั้งถิ่นฐานบ้านเมืองในที่ราบลุ่ม
อาจต้องประสบกับอุทกภัยแบบไม่ทันตั้งตัว
เพราะมวลน้ำส่วนเกินจะพยายามหาที่ให้ตัวเองอยู่

โดยภาพรวมของทั้งประเทศแล้ว
ดูทีท่าว่าน่าจะหนักหนากว่าปีที่ผ่านมา

ขอผู้ที่เกี่ยวข้องกับน้ำ
จงเตรียมการป้องกันเอาไว้เสียแต่เนิ่นๆ
สิ่งอันควรทำ 2 อย่าง คือ

1.เตรียมชาวบ้านให้พร้อมต่อการเผชิญอุทกภัย
2.เตรียมพื้นที่รับน้ำให้เต็มที่ และทำให้เส้นทางน้ำไหล
ราบรื่นไม่ติดขัด เพื่อให้ระบายน้ำผ่านเมืองสู่ทะเล
ได้อย่างรวดเร็ว

ใช้เวลา 3-4 เดือนนี้เร่งกระทำเสียได้
ทุกข์ชาวบ้านจากปัญหาอุทกภัยจะลดลงได้มาก
ขอให้คำกล่าวของเราจงมีประโยชน์เถิด

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
18-05-2016

 

เราเคยกล่าวต่อท่านทั้งหลายไว้นานมาแล้วว่า
ในช่วงเวลาคาบสุดท้ายของปฏิบัติการสะท้านโลก
เพื่อปรับสมดุลโลกสู่การเปลี่ยนผ่านไปยังยุคพลังงานใหม่นั้น
หากใครยังมีชีวิตรอดก็จักได้เผชิญกับสถานการณ์สำคัญที่สุดในชีวิต
ชนิดที่ท่านจะไม่เคยพบพานผ่านมาก่อนเลยอย่างแน่นอน

นั่นคือดาวเคราะห์โลกดวงนี้จะตกอยู่ในความมืดมิด
ไร้แสงอาทิตย์ ไร้แสงเดือน ไร้แสงดาว ไร้แสงไฟ ไร้แสงสว่างทุกชนิด
นอกจากจะมีแค่เพียงแสงสว่างจากฟ้าแลบและสายฟ้าผ่าเท่านั้น
โดยจะตกอยู่ในความมืดนานถึง 8 ราตรีของฟ้า หรือ 56 วันของโลก
(7 วันโลกเท่ากับ 1 ราตรีของฟ้า)

ความมืดมิดจะปกคลุมไปพร้อมกันทั่วทั้งโลกเลยทีเดียว
โดยปรากฏการณ์แห่งความมืดมิดจะเกิดขึ้นจากสาเหตุหลักดังนี้ คือ

1.บนท้องฟ้าจะเต็มไปด้วยเมฆฝนสีดำสกปรก
อันเกิดจากพลังจิตไร้สำนึกของมนุษย์ในชีวิตประจำวัน
ที่ผลิตสร้างกันขึ้นมาสั่งสมไว้ในชั้นบรรยากาศโลกอย่างไร้สติ
ด้วยอำนาจของกิเลสตัณหา และแม้รู้ธรรมแต่ไม่รู้ทำ

ซึ่งก่อนจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ท่านจะสังเกตได้ว่า
เมฆฝนสีดำสกปรกที่เต็มไปด้วยประจุลบนี้จะปรากฏให้เห็นกันทั่วโลก
มิหนำซ้ำเมฆจะหนาและลอยต่ำใกล้พื้นดินมากจนผิดปกติแถมน่ากลัวอีกด้วย

เมฆสกปรกเหล่านี้นับวันจะทวีจำนวนความหนาแน่นมากขึ้นเรื่อยๆ
แม้ช่างเท็คนิกจะทำให้เกิดเป็นฝนตกลงมายังพื้นดิน
จนก่อให้เกิดอุทกภัยไปจนทั่วโลก

แม้จะทำให้เกิดพายุก้อนน้ำแข็งสกปรกหรือลูกเห็บตกไปทั่วทุกทวีป
จนแม้แต่ประเทศในเขตทะเลทรายก็ยังประสบกับภาวะน้ำท่วมมาแล้ว
หรือแม้จะนำเมฆฝนไปตกในทะเลและมหาสมุทรเสียก็มากล้น
แต่ก็ยังไม่สามารถกำจัดเมฆสีดำสกปรกที่รกบรรยากาศโลกให้หมดสิ้นได้

เมื่อแผ่นฟ้าเป็นแผ่นเดียวกัน
เจ้าเมฆสกปรกทั้งหลายจากทุกภูมิภาคทั่วโลก
ก็จะถูกช่างเท็คนิกจัดการให้กลมกลืน
เป็นเมฆดำแผ่นผืนเดียวกันในชวงเวลานั้น
เพราะความหนาของเมฆดำนี่เอง
จึงสามารถบดบังแสงพระสุริยะเอาไว้ได้เกือบทั้งหมด (ดูคลิป)

2.บนท้องฟ้าในคาบเวลานั้น
ยังจะเต็มไปด้วยหมอกควันและเถ้าถ่านมากมายของลาว่า
อันเกิดจากภูเขาไฟระเบิด (เน้นว่าระเบิดมิใช่แค่ปะทุ) ไปทั่วโลก

ซึ่งในคาบเวลาเดียวกันกับเมฆดำสกปรกปกคลุมโลกอยู่นั้น
ภูเขาไฟน้อยใหญ่ทั้งใหม่และเก่า ทั้งบนบกและในทะเล
จะถูกทำให้ระเบิดขึ้นมาพร้อมๆกัน
จนยังผลให้ฟ้าสะท้านแผ่นดินสะเทือนกันเลยทีเดียว
โดยที่จะไม่มีใครรู้ล่วงหน้าและไม่มีใครจะสามารถยุติมันได้
เพราะมันอยู่ในแผนปฏิบัติการเพื่อการชำระโลกนั่นเอง

ดังนั้น
เราจึงจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
เพราะเหตุฟ้าต่ำ อากาศในระบบโลกจะสกปรกด้วยฝุ่นควัน
ปริมาณก๊าซออกซิเจนที่จะใช้หายใจก็จะเจือจางมาก
มนุษย์ สัตว์ และสิ่งมีชีวิตทั้งหลายในคาบเวลานั้น
จะมีปัญหาด้านขาดอากาศบริสุทธิ์หายใจ
ขณะที่ต่างจะตกใจกลัวในเหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้นนี้ด้วย

เราจะบอกต่อท่านทั้งหลายว่า
แม้ท่านจะไม่เชื่อที่เรากล่าว
ก็จงอย่าก้าวล่วงพระบิดาแห่งเราที่ทรงเมตตาต่อพวกท่าน
ให้เรามาเปิดเผยความจริงบางส่วนนี้ให้ท่านรู้
เพราะท่านจะเชื่อหรือไม่เชื่อมันก็เป็นเรื่องของท่าน
แต่การกล่าวความจริงในพระนามพระบิดาแห่งจิตวิญญาณ
มันเป็นหน้าที่อันสำคัญของเรา

เรากล่าวเรื่องสำคัญนี้ต่อท่านทั้งหลาย
ด้วยความรักและห่วงใยมิใช่ด้วยความสะใจ
เพียงเพื่อให้ท่านมีกฤตสติที่จะรู้ไว้ล่วงหน้าว่า
อีกไม่นานวันข้างหน้าโลกนี้จะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง
เพื่อท่านทั้งหลายจักได้เตรียมตนเองและจิตวิญญาณ
เพื่อการผจญภัยเอาไว้ให้พร้อมเสียแต่เนิ่นๆอย่างมีสติ
แทนที่จะแตกตื่นตกใจกลัวกับข่าวสารนี้แล้วต่อต้าน
โดยไม่ทำอะไรเพื่อตนเองและคนที่ตนรักเลย

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
26-05-2016

 

รอติดตามข่าวสารอยู่ครับ

 

ขณะนี้บางพื้นที่ในรัสเซีย กำลังหนาวเย็นทั้งๆที่มิใช่ฤดูหนาว
แต่ที่หนาวก็เพราะพายุฝนลูกเห็บ
ที่ตกลงมาอย่างหนักหน่วงดังภาพวิดีโอที่นำมาแสดง
จากคลิปที่บันทึกได้เมื่อ วันที่ 27-05-2016 ที่ผ่านมา

นี่ก็เป็นตัวอย่างสภาวะแห่งภูมิอากาศของโลก
ที่กำลังเริ่มแสดงให้พวกโลกสวยได้เห็นถึงความวิปริตชัดเจนขึ้น
จากที่เราเคยเตือนไว้ตั้งแต่ 30 กว่าปีที่ผ่านมาว่า
สักวันหนึ่งข้างหน้า สงครามโลกครั้งที่สามจะเกิดขึ้น
แต่มิใช่ระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ มันจะเป็นมนุษย์กับภัยพิบัติต่างหาก

ใครไม่เชื่อก็ย้อนกลับไปศึกษาประวัติศาสตร์บางหน้าของ "จิตจักรวาล" ดู
แม้จนถึงวันนี้....เดี๋ยวนี้....ที่นี่....เราก็ยังเตือนอยู่

 

พี่ๆน้องๆในภาคเหนือของประเทศฝรั่งเศส และเขตชานกรุงปารีส
กำลังผจญภัยกับภาวะน้ำท่วมที่หนักที่สุดเป็นประวัติการณ์

ประเทศที่เจริญ บ้านเมืองที่ก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตร์เท็คโนโลยี
เขาจะทำสงครามกับภัยพิบัติจากน้ำในครั้งนี้กันยังไงดี
ผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร...คงต้องติดตามเรียนรู้กันยาวๆ

 

เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
ในแผนปฏิบัติการเพื่อการชำระโลกด้วยภัยพิบัติ
ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในทวีปยุโรป และอเมริกานั้น
มันได้แฝงไว้ด้วยบททดสอบเพื่อการชำระจิตสำนึก
ที่บกพร่องตกต่ำของมนุษย์เอาไว้ด้วย

เราจึงขอเปิดเผยความลับของฟ้าบางส่วน
เพื่อช่วยให้ท่านทั้งหลายได้มีกฤตสติเอาไว้ใช้
ในวันที่ท่านจักต้องต่อสู้กับภัยพิบัตินั้นด้วยตัวท่านเอง
ในวันใดวันหนึ่งข้างหน้าว่า....
ฟ้าปรารถนาจะให้ท่านเกิดมีสำนึกอะไร?

เพื่อให้ทันสมัยกับภัยพิบัติในบททดสอบ
ซึ่งช่างเท็คนิกจากฝั่งฟ้าทะยอยส่งเข้ามาในขณะนี้
เราจึงขอกล่าวความจริงให้รู้ว่า

มนุษย์จักต้องเผชิญกับ "มหาอุทกภัย"
ที่มันจะเกิดขึ้นแบบเฉียบพลัน รวดเร็ว และรุนแรง
ชนิดที่เรียกว่าพลิกประวัติศาสตร์หาสถิติไม่เจอนั่นล่ะ

"มหาอุทกภัย" จะถูกตัดสินให้นำมาใช้ปฏิบัติการ
เพื่อการกำจัด "ราคะจริต" ของมนุษย์บนโลกเสรีนี้
ที่ยังติดใจหลงไหลใน รูป รส กลิ่น แสง สี และเสียง
อันเป็นมายาที่พวกท่านสร้างมันขึ้นมาเอง
เมื่อติดใจในสิ่งเหล่านี้จิตก็จะหมกมุ่นวุ่นวายกับสิ่งนี้
มนุษย์ก็จะละทิ้งหน้าที่ทางจิตวิญญาณกันหมดสิ้น

มนุษย์โลกส่วนใหญ่จึงเน้นที่แต่งกายให้สวยหรู
ทำตัวให้ดูเริ่ด...เฉิดฉาย
แต่ไม่ยอมแต่งจิตใจให้ใสสวย

จิตที่ลุ่มหลงงมงายอยู่กับรูปรสกลิ่นเสียงสีแสง
เป็นจิตที่นอกจากจะสั่นสะเทือนเพื่อผลิตสร้าง
พลังงานจิตด้านบวกมอบให้แก่แกนโลกแล้ว
ยังดันผลิตสร้างขยะด้านลบออกมาสั่งสมไว้
ในบรรยากาศโลกเสียอีกต่างหากด้วย
ดังที่ท่านได้เห็นเป็นเมฆประหลาดและดำสกปรก
แล้วตกลงมาเป็นก้อนน้ำแข็งสกปรกหรือลูกเห็บนั่นล่ะ

*เนื่องจากเวลาที่ท่านมือสกปรกเปรอะเลอะอะไร
หากต้องการจะชำระล้างมือของท่านให้สะอาดเมื่อไหร่
ท่านจักต้องนึกถึง "น้ำ" ทันที ใช่หรือไม่?

ยิ่งถ้าต้องการล้างออกเร็วๆ
ท่านก็ต้องการให้เอาน้ำมาเร็วๆ

ถ้ามือสกปรกมาก
ท่านก็ต้องการใช้น้ำปริมาณมากๆมาล้างออก

ดังนั้น
ช่างเท็คนิกจึงต้องนึกถึง "น้ำ" ทันที
เมื่อต้องการนำมาใช้ชำระล้างจิตใจ
ของผู้คนที่รกด้วยราคะ

เพราะราคะเปรียบเสมือนสิ่งสกปรกที่ล้างออกง่ายๆ
เพียงแค่ใช้น้ำราดรดลงไป
สิ่งสกปรกที่เปรอะเลอะอยู่
ก็หลุดออกได้แล้ว

ซึ่งปกติมนุษย์ก็สามารถชำระล้างออกเองก็ได้
แต่ก็ปรากฏว่าไม่มีใครยอมทำ!

เมื่อไม่ยอมทำไม่ยอมล้างออกเองทั้งภพชาติ
ราคะที่เป็นขยะในจิตจึงหมักหมมสั่งสมเสียจนหนา
หากจะใช้น้ำฝนเพียงห่าสองห่าก็ดูท่าไม่พอจะล้าง
จึงต้องส่งต้องขนมวลน้ำกันมาบนฝั่งฟ้านับสิบๆตัน
แล้วขนส่งกันมาแบบเฉียบพลันอีกด้วย คือ
สาดกันแรงๆ รดกันแรงๆ ส่งน้ำมาเร็วๆอย่างที่เห็น
จึงเกิดเป็นสภาวะน้ำท่วมเฉียบพลันชนิดไม่ทันตั้งตัว

แน่นอนว่า...ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดแต่เหตุ
ถ้าเหตุดับทุกสิ่งย่อมดับตามไปด้วย

ดังนั้น
ผู้เป็นเหตุเป็นต้นแบบให้คนอื่นบนโลกเกิดราคะจริต
งมงายหลงไหลในแฟชั่น สี แสง เสียง สด สวย
จึงไม่น่าแปลกใจที่พวกเขาต้องเผชิญบททดสอบ
เพื่อการชำระจิตสำนึกกันก่อนใครเขาเพื่อน

ส่วนประเทศอื่นคนอื่นๆบนโลกนี้
ที่ยังมีราคะจริตค่อนข้างหนา
ก็จงเตรียมตนเองและจิตวิญญาณไว้รอท่า
มหาอุทกภัยแบบเดียวกันนี้เถิด....
นี่ล้วนเป็นความจริงที่เราได้กล่าวมา

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
4-06-2016

 

เหตุแห่งการเกิดภัยพิบัติโลก
*****************************
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
ภัยพิบัติต่างๆที่กำลังเกิดกระจายไปทั่วโลก
โดยนับวันจะรุนแรงยิ่งขึ้นและถี่ขึ้นเรื่อยๆนั้น
มีสาเหตุหรือที่มาแห่งการเกิดดังต่อไปนี้

1.เกิดจากการที่โลกเสียสมดุลในทางกายภาพ
เพราะมนุษย์เป็นเหตุแห่งการเสียสมดุลนี้

การตัดโค่นต้นไม้ทำลายป่า
เป็นการทำลายแหล่งต้นน้ำลำธาร
เป็นการทำลายแหล่งอาศัยและอาหารของสัตว์ป่า

การระเบิดภูเขาทิ้งไป
เป็นการย้ายภูเขา
เพื่อนำเอาไปสร้างป่าคอนกรีตที่ในเมือง

การปิดกั้นกระแสไหลเวียนของน้ำในแม่น้ำ
ด้วยการสร้างเขื่อนเก็บกักน้ำไว้ใช้เอง
โดยไม่คำนึงถึงเพื่อนบ้านที่อยู่ปลายน้ำเลย

การถมทะเลเพื่อสร้างเกาะใหม่นอกธรรมชาติ
การสร้างเกาะขึ้นมาใหม่เพื่อสร้างเมืองใหม่
สองสิ่งนี้เป็นการสร้างใหม่
ที่ผิดกฎแห่งการสมดุลของสรรพสิ่ง
ซึ่งพระบิดาทรงกำหนดสร้างไว้ดีแล้ว

ตัวอย่างที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น
ล้วนเป็นเหตุแห่งการเกิดภัยพิบัติทั้งสิ้น
เพราะการเกิดภัยพิบัตินั้นเป็นการสร้างสมดุลใหม่
ในกระบวนการทางธรรมชาติแห่งพระผู้สร้าง

2.เกิดจากการที่โลกเสียสมดุลทางพลังงาน
โดยมีมนุษย์โลกเป็นเหตุอีกนั่นแหละ

พระบิดาทรงกำหนดให้มนุษย์
เป็นเพื่อนร่วมงานกับดาวโลกดวงนี้
ด้วยการ "รักกัน" ในหมู่มนุษย์ด้วยกันให้ได้
โดยมีเงื่อนไขที่จะทดสอบความรัก
ด้วยการกระทำตนไม่น่ารักต่อกันเป็นสำคัญ

ถ้าสามารถให้อภัยในความไม่น่ารักกันได้
จิตท่านก็จะผลิตสร้างพลังงานความรักออกมา
ความรักก็จะอยู่ในรูปของพลังงานไฟฟ้าแม่เหล็ก
ที่มีคุณสมบัติทางไฟฟ้าเป็นบวก
เมื่อผลิตขึ้นมาแล้วมันก็จะถูกดึงดูดเหนี่ยวรั้ง
ให้ลงไปเป็นพลังงานในโรงงานที่แกนโลก
เพื่อใช้จุดระเบิดสร้างกระบวนการต่างๆที่นั่น

พลังงานจากจิตสำนึกด้านบวกนี่แหละ
ที่ช่วยค้ำจุนดาวโลกดวงนี้ให้สมดุลอยู่ได้
ที่ช่วยให้พวกท่านมีก๊าซออกซิเจนใช้หายใจ
ที่ช่วยให้มีระบบโครงข่ายสนามแม่เหล็กหุ้มโลกไว้
ที่ช่วยให้ดาวโลกเหมาะกับพวกท่านและสัตว์เลือดอุ่น
ในการดำรงชีวิตอย่างยืนยาว เป็นต้น

เมื่อมนุษย์รักกันไม่ได้
ให้กันไม่เป็น คือ ให้อภัย

มันจะยังผลให้โลกขาดพลังงานหรือเชื้อเพลิง
ที่จะนำไปใช้เป็นพลังงานเริ่มต้นของกระบวนการ
ในโรงงานขนาดใหญ่ที่พระบิดาทรงติดตั้งไว้

ถ้าขาดพลังงานมากๆโลกจะหมุนช้าลง
แกนหมุนของโลกก็จะแกว่งส่าย
โลกก็จะเกิดแผ่นดินไหวไปทั่วทุกทวีป
สนามแม่เหล็กโลกก็จะวิปริตแปรปรวน
ก๊าซออกซิเจนในระบบโลกก็จะน้อยลง เป็นต้น

3.เกิดจากการกระทำของเจ้ากรรมนายเวร
ซึ่งเป็๋นดวงจิตวิญญาณที่อาฆาตแค้น
จนไม่ยอมไปผุดเกิดในภพชาติใหม่

เมื่อใดที่สนามแม่เหล็กโลกอ่อนแอจากปกติ
มิติระหว่างมนุษย์กับมิติแห่งโลกวิญญาณ
ก็จะเกิดการเปิดแง้มออกทันที
จิตวิญญาณผู้อาฆาตพยาบาทเหล่านี้
ก็จะสบโอกาสจับมือกันแก้แค้นเอาคืน

ด้วยการใช้ธรรมชาติเป็นเครื่องมือ
เช่น การเกิดฟ้าผ่ามนุษย์และสัตว์เลี้ยง
การเกิดพายุน้ำแข็งสกปรกตกลงมา
การเกิดพายุฤดูร้อนเข้าโจมตีทำร้าย
การเกิดโรคร้ายพันธุ์ใหม่ๆ เป็นต้น

4.เกิดจากปฏิบัติการของช่างเท็คนิก
ที่เดินทางข้ามมิติมาจากนอกระบบโลก
ตามแผนการชำระโลกเพื่อสร้างสมดุลใหม่
ในการนำโลกเปลี่ยนจากยุคพลังงานเก่า
เข้าสู่โลกยุคพลังงานใหม่โดยสมบูรณ์
ซึ่งจะใช้ธรรมชาติในระบบโลกเป็นเครื่องมือ
เช่น ดิน น้ำ ลม ไฟ เป็นต้น

ซึ่งปฏิบัติการนี้จะสิ้นสุดยุติก็ต่อเมื่อ
ผ่านคาบเวลาแห่งการปิดยุคไปแล้ว
ด้วยการเกิดมหันตภัยพิบัติพร้อมกันทั่วโลก
ในทุกรูปแบบอย่างไม่ลืมหูลืมตา
ภายในกำหนด 8 ราตรีของฟ้า
หรือเป็นเวลา 56 วันของมนุษย์

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
6-06-2016

 

มันจะเป็นเช่นนั้นแล..เตรียมพร้อมรับ..เตรียมจิตให้แกร่ง พร้อมเผชิญกับสิ่งที่มนุษย์ไม่เคยเห็นไม่เคยพบเจอ..เช่นนั้น ดังคำ อาจารย์ปริญญา ตันสกุล ได้บอกกล่าว..ข่าวสาร..ด้วยเมตตายิ่งแล้ว..ครับ

 

แค่อ่านก็มีบุญ บารมีเกิดขึ้นกับตัวท่านแล้ว..สาธุ..

 

นี่เป็นภาพการค้นพบหลุมยุบ Sink Hole ในไซบีเรีย
เป็นหลุมยุบขนาดใหญ่ กว้าง และลึกมาก
โชคดีที่ไปเกิดในพื้นที่ห่างไกลผู้คน

ชาวบ้านบอกว่าเหตุน่าจะเกิดตอนกลางคืน
เพราะพวกเขาได้แลเห็นลูกไฟบนท้องฟ้า
ก่อนที่จะได้ยินเสียงระเบิดดังลั่นสั่นสะเทือนอยู่ไกลๆ
ซึ่งพวกเขาเชื่อว่าน่าจะเป็นสาเหตุให้เกิดหลุมยุบนี้

เราได้กล่าวต่อท่านทั้งหลายมาแล้วว่า
รูยักษ์ หรือหลุมยุบลักษณะเช่นนี้
เป็นช่องระบายความเครียดจากใต้แผ่นเปลือกโลก
ที่ถูกเจาะถูกกระทำขึ้นโดยช่างเท็คนิก
ขณะที่แกนแม่เหล็กโลกกำลังถูกปรับความสมดุลอยู่
เพื่อชะลอการปะทุระเบิดของภูเขาไฟใหม่เก่าเอาไว้ก่อน
เพราะมันยังไม่ถึงเวลาดังกล่าว

รูยักษ์ลักษณะนี้ยังจะต้องเกิดใหม่เพิ่มขึ้นต่อไปเรื่อยๆ
ถ้าไปเกิดใต้เมืองใหญ่ๆ หลุมใหญ่ๆ
เขาก็จะเรียกปรากฏการณ์นั้นว่า "ธรณีสูบ" ทันที

ก็เคยเตือนไว้นานแล้วว่า
"โลกรั่วน่ะ น่ากลัวกว่าโลกร้อน"

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
16-06-2016

 

นี่เป็นภาพเก็บตกจาก "เทศกาลกินเนื้อหมา"
เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2559
ของคนกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นการกระทำที่โหดร้ายต่อสุนัข
ผิดทั้งกฎหมาย ไร้ทั้งมนุษยธรรม
และผิดต่อกฎแห่งกรรมในมิติทางจิตวิญญาณด้วย

พวกเขาไม่รู้หรอกว่า
ดวงจิตวิญญาณของสุนัขทุกตัวที่ถูกฆ่านั้น
แท้แล้วเป็นดวงจิตวิญญาณ
ของผู้เคยเกิดเป็นมนุษย์มาก่อนทั้งสิ้น

ที่เขาต้องตกชั้นมาเกิดเป็นสุนัข
เพราะมีมูลเหตุการประพฤติผิดบาปหลายแบบ
จึงต้องมาเกิดเป็นสุนัขเพื่อดัดจริตที่ผิดบาป
ตัวอย่างเช่น....

1.ถ้าชอบทำตัวเบ่งเป็นนักเลงหัวโจก
ชอบยกพวกตีกัน ทำตัวเป็นนักเลงเจ้าถิ่น
ก็จะต้องมาเกิดเป็น "หมาวัด"

2.ถ้าเป็นคนเนรคุณต่อผู้มีพระคุณ
ไม่กตัญญูต่อพ่อแม่ครูบาอาจารย์และผู้มีพระคุณ
ก็จะต้องมาเกิดเป็น "หมาเฝ้าบ้าน"

3.ถ้าเป็นคนที่ชอบทำตัวเร่ร่อน
ไม่สนใจทำมาหากิน เกาะพ่อเกาะแม่กิน
ก็จะต้องมาเกิดเป็น "หมาจรจัด"

4.ถ้าเป็นคนที่ทำตัวน่ารังเกียจ
ไปอยู่ร่วมสังคมกับใครก็ไม่มีใครคบหา
ก็จะต้องมาเกิดเป็น "หมาขี้เรื้อน"

5.ถ้าเป็นคนหมกมุ่นในกามารมณ์
ชอบกระทำผิดลูกผิดเมียผู้อื่น
ก็จะต้องมาเกิดเป็น "หมาจรจัด"

นี่เป็นเพียงสาระพอสังเขปเท่านั้นนะ
ซึ่งเราจะขอกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
พวกเขาคือพี่ๆน้องๆของพวกท่านทุกตัวเลย
เพียงแต่เปลี่ยนเครื่องยนต์แห่งกรรม
ไปเป็นสุนัขชั่วคราว....เท่านั้นเอง

รู้อย่างนี้แล้วท่านยังจะฆ่าแกงกินเลือดกินเนื้อของเขา
ทำร้ายเขา กักขังเขาให้ทุกข์ทรมานกันอยู่อีกไหม

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
22-06-2016