@@PETER AMULET@@พระเครื่อง พระบูชา ผ้ายันต์ เครื่องรางต่าง ๆแท้ๆเท่านี้น

พระดี พระแท้แท้แท้เท่านั้น ตามหลักมาตรฐานสากล
รับประกันแท้ คืนเงินเต็ม

 

สู้ๆครับ เชียร์ๆ ครับ ลุยๆครับ รวยๆครับ เฮงๆครับ

 

ขอบคุณมากครับ

 

พระครูเกษมชัยคุณ มีนามเดิมว่า ฉาบ เกรงขาม เกิด ณ ตำบล จำลอง อำเภอแสวงหา จังหวัดอ่างทอง
เมื่อวันอังคาร ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 12 ปีมะโรง ตรงกับวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2447
โยมบิดาชื่อ ชม โยมมารดาชื่อ แผ้ว มีอาชีพทำนา พออายุได้ 18 ปี ท่านถูกเกณฑ์ไปเป็นทหาร โดย
สังกัดอยู่หน่วยทหารช่างบางซื่อ กรุงเทพ ฯ จนกระทั่งอายุได้ 22 ปี จึงพ้นเกณฑ์กลับมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ
ในปีต่อมาโยมบิดามารดาของท่านได้จัดบรรพชาอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดบ้านพราน ต. บ้านพราน อ. แสวงหา จ. อ่งทอง โดยมี พระครูสุภารวินิต เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการบาง อุทฺโย วัดบ้านพราน เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระอาจารย์หล่ำ วัดบ้านพราน เป็นพระอนุสาวนาจารย์ เมื่อวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2570 ได้รับฉายาว่า “เขมฺจตฺโต“ หลังจากอุปสมบทแล้ว ท่านได้อยู่รับใช้พระอุปัชฌาย์ ศึกษาพระธรรมวินัยและฝึกกัมมัฏฐาน เบื้องต้นกับพระอาจารย์ จากนั้นท่านได้ไปศึกษาวิชาพุทธาคมกับพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงในยุคนั้น ได้แก่
1. หลวงพ่อศรี วัดพระปรางค์ จังหวัดสิงห์บุรี เรียนวิชาทำน้ำมนต์, สีผึ้งเมตตา
2. หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา จังหวัดสุพรรณบุรี เรียนวิชาทำแหวน, ตะกรุด
3. หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ จังหวัดนครสวรรค์ เรียนวิชาทำมีดหมอ, ผ้ายันต์ช้าง
4. หลวงพ่ออินทร์ วัดเกาะหงษ์ จังหวัดนครสวรรค์ เรียนวิชาฝังเข็มทองคำ, วิชาแพทย์แผนโบราณ, ประสานกระดูก
5. หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก จังหวัดอยุธยา เรียนวิชาเมตตาลงนะหน้าทอง
6. หลวงพ่อแจ่ม วัดวังแดง จังหวัดอยุธยา เรียนวิชาทำมีดหมอ, ผ้ายันต์ มหาลาภ เมตตา ค้าขาย

หลวงปู่ฉาบ เมื่อท่านได้ศึกษาวิชากับพระอาจารย์จนเชี่ยวชาญแล้ว ท่านได้มาจำพรรษา ณ วัดคลองจันทน์ ต. ห้วยงู อ. หันคา จ. ชัยนาท ซึ่งขณะนั้นมี หลวงพ่อโป๋ เป็นเจ้าอาวาส ภายหลังหลวงพ่อโป๋มรณภาพลงชาวบ้านจึงพร้อมใจกันอาราธนานิมนต์ หลวงปู่ฉาบ เป็นเจ้าอาวาสสืมต่อมาจนถึงวันที่ 28 มีนาคม 2542 ซึ่งเป็นวันที่หลวงปู่มรณภาพ

หลวงพ่อฉาบวัดคลองจันทน์ เป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อจงวัดหน้าต่างนอกเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อเดิมวัดหนองโพธิ์และเคยไปต่อวิชากับหลวงพ่อเชื้อ วัดใหม่บำเพ็ญบุญและท่านได้ตำราถ่ายทอดมาจากสายปากคลองมะขามเฒ่าด้วย หลวงพ่อฉาบเองเป็นผู้คงแก่เรียนเคยเรียนตำหรับวิชาในสายวัดประดู่ในโรงธรรมสมัยก่อนท่านสามารถทำมีดหมอให้เป็นที่ประจักษ์คือเอาปากกาจาร เขียนยันต์อะไรก็ได้ลงบนใบมีดและแช่ในน้ำมนต์น้ำยาของท่านซึ่งเป็นตำราสูตรของท่านใบมีดที่เป็นเหล็กก็จะนูนขึ้นมาตามยันต์ที่เขียนเลย ซึ่งปัจจุบันจะหาผู้ที่ทำวิชาแบบนี้หาได้ยาก หลวงพ่อฉาบเป็นผู้มีพลังจิตแก่กล้ามาก ผ้ายันต์พญาฉัตรทันต์มีอยู่หลายสายแต่ที่ทำได้จริง สืบทอดวิชาได้จริงปัจจุบันเห็นจะไม่มีใครเกินหลวงพ่อฉาบวัดคลองจันทน์ ท่านเอาอุปเท่ห์สมัยก่อนทหารของหนุมาน พวกพญาวานรประสานกาย แปลงร่างเป็นพญาฉัตรทันต์พญาช้างเป็นตำราในรามเกียรติ์ และเป็นตำราของสำนักวัดประดู่ทรงธรรมสืบมา พญาฉัตรทันต์สม้ยก่อนถ้าอ้างถึงสมัยกรุงศรีอยุธยาหลวงตาคงวัดประดู่ทางธรรมเคยใช้วิชาพญาฉัตรทันต์เสกหุ่นพยนต์ประจุอาคมวิ่งเข้าไปทำลายปรัมพิธีของบุเรงนองซึ่งท่านมาผูกดวงเมือง เผาดวงเมือง ทำอาถรรพ์ใส่ดวงเมือง แต่หัวตาคงท่านทำลายได้จริง แต่ท่านได้ดูแล้วคราวนี้ดวงเมืองต้องแตกเพราะคนในเป็นเหตุ ภายหลังท่านจึงได้แปลงกายเป็นนกกระทุมหนีไป แต่ตำรานี้ได้ถ่ายทอดสืบมาเปป็นของวัดประดู่ทรงธรรมเป็นสายอยุธยา หลวงพ่อฉาบท่านทำผ้ายันต์พญาฉัตรทันต์ไว้ เพื่อปกป้องคุ้มครองอุปเท่ห์คือ พระโพธิสัตว์เป็นพญาช้างพระโพธิสัตว์ คุ้มครองป้องกันตัว ป้องกันภัย เสกได้จริง เสกคล้ายให้มีชีวิตจิตใจเสกอาการ32 ให้เป็นเหมือนหุ่นพยนต์ สามารถปกป้องคุ้มครองค้าขายอธิษฐานได้ 108 ผ้ายันต์นี้ท่านสร้างตั้งแต่ปี 2519เจ้าของเดิมรับมากับมือมาพร้อมมีดหมด1เล่มของหลวงพ่อฉาบปัจจุบันหาผู้ทำได้จริงมีฤทธิ์จริงอย่างหลวงพ่อฉาบนี้หาได้ยากผ้ายันต์นี้ถ้าให้ดีต้องบูชาด้วยกล้วยและน้ำ ถ้าทำสม่ำเสมอ สามารถคุ้มกันบ้านได้ คุ้มกันไฟได้ หากมีภยันตราย หรือมีเหตุเภทภัยอะไรก็ตามก็จะทำให้ระลึกรู้ได้ หรือทำให้รู้ตัวยก่อนบางครั้งก็ทำให้เป็นเสียงช้าง เคยมีคนเอาผ้ายันต์พญาฉัตรทันต์ไว้ในรถ คนที่จะมาทำร้ายเห็นเป็นเงาดำๆ บังรถ คือจะยิงคนที่อยู่ในรถ ยิงไม่ได้เห็นเป็นเงามาบัง ภายหลังคนที่มายิงได้มาสืบข่าว ได้ทราบว่าเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อฉาบ วัดคลองจันทน์ มีผ้ายันต์พญาฉัตรทันต์ และมีมีดหมอของท่านอยู่ ภายหลังพวกมือปืนก็ได้มาเป็นศิษย์ของหลวงพ่อฉาบเยอะมาก สมัยก่อนหลวงพ่อฉาบดังมาก เคยมีคนแขวนเหรียญหลวงพ่อฉาบ ตกจากบอลลูนลงมา สมัยก่อนหนังสือศักดิ์สิทธิ์สมัยก่อนเคยลงไว้ว่าตกลงมาแล้วไม่ตาย
นี่แหละหลวงพ่อฉาบ ศิษย์เอกหลวงพ่อจงน่าจะเป็นรูปหลัง ๆและที่ได้รับถ่ายทอดเกือบหมดเป็นของดีราคาเยาว์ของเก่าราคาถูก ไม่แพงครับ ราคานี้

ผ้ายันต์พญาฉัตรทันต์ดูราวกับว่ามีชีวิต มีวิญญาณ และหากใครได้บูชาถวายกล้วย น้ำ สัปดาห์ละครั้งตามตำราช้างก็แทบจะมีชีวิตขึ้นมาจริง ๆ
หลวงปู่ฉาบจึงมักล่าวในยามประสิทธิผ้ายันต์แก่ใคร ๆว่า
“ถ้าได้ยินเสียงร้องของช้างอยู่ในบ้าน ก็อย่าตกใจ”

คาถาพญาฉัททันต์ "นะโมตัสสะมัย อภัยมัททะ อะวะโลกิเตศะวะราย ฉัททันต์โพธิสัตโต โพธิสัตตะวาย มหาสัตตะวาย นะมะพะทะ"

ขนาด 40x40CM

 

ผ้ายันต์กำเนิดนารายณ์ พระครูสถิตโชติคุณ (หลวงพ่อไสว ฐิตวณฺโณ) วัดปรีดาราม

ผ้ายันต์กำเนิดนารายณ์
ถือว่าเป็นผ้ายันต์เป็นเครื่องรางที่สูงสุดของหลวงพ่อไสววัดปรีดารามหรือวัดยายส้ม ตำรานี้เป็นตำราสูงสุดยอดของท่าน ท่านอัญเชิญผ้ายันต์สำคัญๆ ไม่ว่าจะเป็น ยันต์เสือ ยันต์สิงห์ รูปครุฑ และพระนารายณ์ ถือว่าเป็นมหาอำนาจ ทุกอย่างที่เป็นมหาอำนาจ ยันต์ตรีนิสิงเห ซึ่งอุปเท่ห์ใช้ได้108 ปกป้อง คุ้มครอง ป้องกันภัยภูตผีปิศาจกลัว สมัยท่านยังมีชีวิตอยู่จะมีผ้ายันต์นี้ในกุฏิท่าน และผ้ายันต์ยุคแรก ๆ ผ้าจะนิ่มและเบา แต่ผืนนี้เป็นผ้าสกรีนยุคต้น ๆของท่าน ผ้ายุคหลังเนื้อผ้าจะหนากว่าคือแยกกันได้ ผืนนี้เป็นผ้ายุคต้นของหลวงพ่อไสวเลย เป็นการสกรีนครั้งต้น ๆ หายากในปัจจุบันนี้ ผืนใหญ่ ขนาดเกือบเท่าโต๊ะกินข้าว ผ้ายันต์นี้สมัยหลวงพ่อมีชีวิตอยู่ จะมีผ้ายันต์นี้ในกุฏิท่านหากใครถูกผีเข้าเมื่อเข้ามาในกุฏิ ผีจะออกโดยไม่ต้องไล่ หรือบางทีถ้าผีมาแรงๆ ท่านจะเอาผ้ายันต์ถือที่มือและโปะไปที่หัว โปะด้วยผ้ายันต์นิ้ผีจะหงายหลังออกทันที โดยไม่ต้องเสียเวลาไล่ นอกจากผีที่แรงจริง ๆ ท่านจะให้เอาผ้ายันต์นี้สะบัดออกและคลุมเลย ถ้าใครไปในป่าหรือในสถานที่ที่ต้องเดินทาง เอาผ้ายันต์นี้ติดไว้ในรถ ในเรือ ผ้ายันต์หนึ่งผืน จะคุ้มได้หนึ่งคันรถ คือคนที่เดินทางร่วมพาหนะเดียวกันหลวงพ่อเคยบอกว่าสามารถคุ้มได้ทั้งคันรถทัวร์เลย คือภูตผีปิศาจ จะไม่รังควานรบกวน พวกที่เป็นเรือตังเกก็ดี เคยใช้ผ้ายันต์นี้ พกกันไว้ หรือติดไว้ที่เรือตังเก เคยละเมิดน่านน้ำไปถูกพวกเวียดกงยิง ไต้ก๋งเอาผ้ายันต์นี้โบกก็มีฤทธาปกป้องลูกปืนคือปัดลูกปืน ไม่ให้ถูกส่วนสำคัญของเรือสามารถแคล้วคลาดออกมาจากห่ากระสุนได้ ผ้ายันต์นี้ในปัจจุบัน หาผู้ที่ทำผ้ายันต์นี้ได้อย่างท่านหลวงพ่อไสวนั้นไม่มีแล้ว หลวงพ่อไสวเป็นพระที่แก่กล้าอาคมมาก สมัยก่อนวิชาของท่านล้ำลึกหลายวิชาไม่ว่าจะเป็นวิชาตกวิญญาณ วิชาเป่าทองมหามงคล คือสามารถเป่าทองได้ครั้งละเป็นปึก ๆ เลย คือเป่าทองเปลวทีเดียวทองหายเข้าหน้าผากครั้งละเป็นปึก ๆได้ สามารถพิสูจน์ได้จริงว่าฤทธิ์เดชอำนาจมีอยู่จริง ปลัดขิกของท่านสมัยก่อนเสกให้โยนลงน้ำ แล้วเรียกกลับมาได้ด้วยหัวใจคาถาของท่าน ปลัดฯของท่านว่ายน้ำได้ ไม่น้อยไปกว่าของหลวงพ่อเหลือ หลวงพ่ออี๋เลย แต่หลวงพ่อไสว เป็นพระที่มาดังเมื่อแก่ จึงทำให้ของต่าง ๆของหลวงพ่อหลาย ๆอย่างมีอยู่ในวงการไม่มากนัก ส่วนใหญ่ท่านจะทำด้วยมือของท่านเอง เหมือนปลัดขิกยุคแรก ท่านเหลาเองจารเองซะส่วนใหญ่ ผ้ายันต์กำเนิดนารายณ์ยุคแรกแรก ของท่านท่านก็จารเอง ด้วยวิริยะของท่าน แสดงถึงความวิริยะของท่านว่าจารึกผ้ายันต์ต่าง ๆ มารวมใส่อยู่ในผ้ายันต์ผืนเดียววาดได้อย่างวิจิตรพิศดารมาก ถ้ามีผ้ายันต์นี้ไว้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องเดินทาง ข้าราชการ หรือผู้ที่มีศัตรูปองร้ายจะเหมาะมากกับผ้ายันต์กำเนิดนารายณ์
มีศิษย์หลวงพ่อคนหนึ่งเผชิญมหาภัย ใช้ผ้ายันต์อธิษฐาน ทำให้ฝ่ายตรงข้ามมองมาเห็นตัว กลับเห็นคนโพกผ้าแดงเต็มไปหมด จึงหนีรอดจากปวงภัยไปได้ด้วยปาฏิหาริย์ผ้ายันต์นั้น นอกจากนี้ป้องกันภูตผีปีศาจ ผู้ร้ายไม่อาจทำอันตรายได้ นิยมติดผ้ายันต์นี้ไว้เหนือประตูบ้าน มีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก มีผู้นักพบประสบการณ์มากมาย

 

ผ้ายันต์รับทรัพย์-เพิ่มทรัพย์ พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ ประสบการณ์มากมาย

ท่านเริ่มทำผ้ายันต์ครั้งแรกตอน หลานท่านคนหนึ่ง มีปัญหาเรื่องการทำมาหากิน เงินทองไม่คล่องมือ ท่านเลยนำวิชานี้มาทำผ้ายันต์ครั้งแรก ส่วนหลานท่านเมื่อเปิดแต่แรก อยากจะปิดกิจการ แต่พอได้ผ้ายันต์ไปบูชา ทำให้กลับมารุ่งเรืองในเวลาไม่กี่เดือน ในตำราได้บอกไว้ว่าอันวิชารับทรัพย์ เพิ่มทรัพย์ นี้ โบราณท่านให้นำดินหัวใจแม่ธรณี มาทำดินสอเขียนยันต์ลบผงให้บังเกิดดุจดั่งพระโพธิ์สัตว์ผู้มีคุณต่อสัตว์โลก พกติดตัวไม่รู้จักอดยาก โชคลาภ บริบูรณ์ทรัพย์สินเงินทองเต็มเรือน ประดุจท้องพระคลังหลวง หรือจะนำผ้าบังสุกุล เขียนยันต์ด้วยหมึกดีสัตว์ก็วิเศษนักแลเมื่อเจอแล้วทำเอาเถิด มิอดอยาก มิรู้จน ได้เชื่อแล้วอย่าสงสัย ตีค่าไว้พันตำลึงทอง วิชาเป็นของหลวงพ่อดำ วัดนางโอพ่อท่านเขียว ท่านเรียนมาก่อนหน้านี้ ท่านทำแต่ผ้ายันต์ได้อย่างเข้มขลังจนมีผู้คนไปขอท่านมากจนทำไม่ทัน นิยมนำยันต์นี้พกติดกระเป๋าหรือติดร้านค้า และใส่ไว้ในที่เก็บเงิน

มีศิษย์ท่านไปประมูลงานที่จ.สงขลา เคยมาขอให้ท่านช่วยเรื่องงานให้ประมูลได้ มูลค่างานล้านกว่าบาท ท่านหัวเราะแล้วพูดว่า “ล้านกว่าบาทเป็นพ่อท่านจะหามาแต่ไหนได้” ท่านให้ผ้ายันต์แบบนี้ไป 1 ผืน ปรากฏว่า แล้วบอกสั้นๆว่า “ได้ทำ” หลังจากนั้นไม่นานผู้ที่ได้รับผ้ายันต์กลับมาเล่าที่วัดว่า ประมูลงานไม่ได้แต่ผู้ที่ประมูลได้มาจ้างให้ทำงานดังกล่าว เพราะไม่สามารถทำงานตามแบบและคุณภาพที่ทางราชการกำหนดไว้ในสัญญาประมูลระบุไว้ได้ ถือเป็นเรื่องแปลก ประมูลไม่ได้แต่ “ ได้ทำ ” สมดังคำที่พ่อท่านเขียว ว่าไว้จริงๆ

มี2ผืนครับ ผืนละ 500

 

เหรียญดาบหัก หลวงพ่อมุ่ย
ประสบการณ์ มีเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นกับ “เสี่ยเจ้าของบ่อดินลูกรัง” มีชื่อว่า “นายแจ่ม สังข์งาม” หรือที่ชาวอำเภอเดิมบางนางบวชเรียกขานว่า “เสี่ยโห้” ปัจจุบันอายุ ๕๓ ปี อยู่บ้านเลขที่ ๑๑๘/๔ หมู่ ๕ ต.หัวเขา อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี (เหตุที่บอกบ้านเลขที่ไว้เผื่อใครสนใจอยากไปฟังเรื่องราวกับหูตัวเองก็เชิญได้เลย) ซึ่งวันนั้นวันที่เกิดเหตุ “เสี่ยโห้” นั่งดื่มสุราอยู่กับพรรคพวก ๒ คนที่ร้านข้าวต้ม “เฮียฮ้อ” ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ “สถานีรถเมล์” สายเดิมบางนางบวช ต.ท่าช้าง อ.เดิมบางนางบวช เวลาประมาณ ๒๒.๐๐ น.

หลังจากดื่มกินกันไปหลายขวดเพื่อนสองคนเมาจน “หลับพับคาโต๊ะ” จึงเหลือ “เสี่ยโห้” คนออกตังค์นั่งโจ้อยู่คนเดียวระหว่างกำลังดื่มเพลิน ๆ อยู่นั้นพลันก็มี “มีดดาบ” ฟันฉับลงบน “ลำคอเสี่ยโห้” ทางด้านหลังเต็มแรงยังผลให้ “เสี่ยโห้” หัวทิ่มลงไปกับพื้นพร้อมกับบังเกิดความมึนงงอยู่ชั่วขณะ พอตั้งสติได้จึงหันไปมองผู้ที่ย่องมาลอบทำร้ายก็พบเห็นเป็น “นายซีน” (ขอสงวนชื่อจริง) ลูกชายของ “ร้านตัดกางเกง” ซอยตลาดบนในตลาดท่าช้างนั่นเองซึ่งเป็นคนรู้จักกันดียืนผงาด “มือกำดาบ” ขาววับเล่มใหญ่กำลังเงื้อดาบหมาย “ฟันซ้ำ” อีก “เสี่ยโห้” เห็นเช่นนั้นรีบลนลานลุกขึ้นวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนด้วยความกลัวท่ามกลาง “สายตาของชาวบ้าน” ที่เห็นเหตุการณ์หลายสิบคน “เสี่ยโห้” ที่วิ่งแบบไม่คิดชีวิตตามแบบฉบับของคน “หนีตาย” ไปได้ชั่วครู่ก็วิ่งไปชนเอารถเมล์ที่จอดอยู่ที่ “ท่าจอดรถ” เสียงดังสนั่นผลก็คือตัวเอง “ล้มกลิ้งกับพื้น” ทำให้ “นายซีน” ที่วิ่งไล่กวดมาติด ๆ พอเห็น “เสี่ยโห้” ล้มกลิ้งอยู่กับพื้นจึงใช้มีดดาบเล่มที่ถืออยู่ในมือ “แทงเสี่ยโห้” แบบไม่ยั้งกระทั่งดาบเล่มนั้น “หักคามือ” ท่ามกลางสายตาของ “ไทยมุง” ที่เรียงรายมาล้อมวงดูเหตุการณ์

ระหว่างนั้น “จ่าธง” แห่ง “สภ.เดิมบางนางบวช” ได้ยินเสียงคนเอะอะจึงวิ่งมาดูเหตุการณ์พร้อมทำการ “ระงับเหตุ” ก็พบว่าผู้ถูกทำร้ายนอนสลบเหมือดอยู่กับพื้นแล้วจึงจับ “นายซีน” ไปโรงพักทางด้านเพื่อนร่วมดื่มของ “เสี่ยโห้” ที่บัดนี้หายเมาแล้วกลับคิดว่าเสี่ยโห้ถูกมีดแทงตายแล้วจึงช่วยกันหามร่างเสี่ยโห้ไปยัง “ศาลาวัดท่าช้าง” จากนั้นก็ไปแจ้งข่าว “คุณพ่อคุณแม่” ของ “เสี่ยโห้” ให้ทราบเรื่องซึ่งพอทราบเรื่อง “คุณพ่อคุณแม่” ของเสี่ยโห้รีบรุดไปดูลูกชายทันทีแต่พอไปถึง “ศาลาวัดท่าช้าง” ก็เห็นลูกชาย “ลุกนั่ง” แต่อยู่ในสภาพ “โงนเงน” เต็มทีเลยตกใจเพราะตามคำของผู้ไปบอกนั้น “ลูกชาย” ถูกแทงตายแล้วจึงตรงไปสำรวจตรวจดูตามร่างกายปรากฏว่า “ลูกชาย” ไม่มี “รอยแผล” ใด ๆ เลยเพียงแต่ที่ “คอด้านหลัง” มีรอยแดงเป็นทางยาวปูดนูนออกมาให้เห็นชัดเจนส่วนลำตัวที่ถูกถอดเสื้อออกแล้วพบว่ามี “รอยขีดข่วน” เต็มไปหมดที่ด้านหลังโดยที่ “พระเลี่ยมทอง” พร้อม “สร้อยคอทองคำ” ที่ใช้แขวนพระเป็นเพื่อนที่ช่วยหามเสี่ยโห้เก็บเอาไว้ก็พบว่าเป็น “สร้อยคอทองคำหนัก ๓ บาท” ที่อยู่ในสภาพ “ขาดกระจุย” ร่วงตกอยู่ในเสื้อของ “เสี่ยโห้” ที่เกิดจากแรงฟันของดาบส่วน “พระเลี่ยมทอง” ซึ่งก็คือ “เหรียญหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่” รุ่น “วางศิลาฤกษ์” ปี ๒๕๐๗ ที่มีเพียงเหรียญเดียวก็ยังอยู่ครบจึงเป็นที่กล่าวขวัญกันในหมู่ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ครั้งนั้นว่า “เสี่ยโห้” รอดตายเพราะ “เหรียญหลวงพ่อมุ่ย” ช่วยไว้แน่นอนเพราะขณะโดนฟันโดนแทง “เสี่ยโห้” แขวนเหรียญหลวงพ่อมุ่ยเพียง “เหรียญเดียว” ที่แต่เดิมชาวบ้านเรียกว่า “เหรียญ ๕ เสาร์” แต่พอมีเหตุการณ์นี้จึงเรียกเหรียญรุ่นนี้ใหม่ว่า “เหรียญดาบหัก”

 

รูปถ่ายหลวงพ่อกวย หลังเกศา ผ้ารองสังขาร พลาสติกที่รองโลหิตเเละบุพโพของหลวงพ่อกวย เหมือนได้ตัวหลวงพ่อไปบูชาครับ ลูกศิษย์หลวงพ่อเชิญเลยครับ
แบ่งบูชา 3,000 บูชาแล้ว

 

พระผงรูปเหมือนหลวงปู่เย็น วัดสระเปรียญ วัตถุมงคลของท่านเด่นทางเมตตาและแคล้วคลาด
สร้างพิธีฝังลูกนิมิต วัดกลางชูศรีเจริญสุข ปี๒๕๒๒ นิมนต์ศิษย์ในสายหลวงพ่อศรีมาเสกกันหลายท่านและแน่นอนพิธีนี้หลวงพ่อกวยท่านมานั่งปรกด้วย
มีทั้งหมด 15 องค์ครับ แบ่งให้บูชาองค์ละ 1,000 สวยทุกองค์นะครับ

 

พระหลวงปู่โต๊ะ วัดกำแพง เนื้อดินขุยปู หลังจาร เลี่ยมเดิม หายาก ในท้องที่ประสบการณ์มากมาย

หนึ่งในคณาจารย์ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาที่เต็มเปี่ยมด้วยเมตตา และบริสุทธิ์ด้วยศีลาจารวัตร ฯลฯ

ประสบการณ์เยอะทางมหาอุด ท่านเป็นสหธรรมิกกับหลวงพ่อเส็งวัดน้อยนางหงส์ สมัยก่อนเคยมีคนทำเลียนแบบพระท่าน ท่านมีมนต์มหาสะท้อนอันแก่กล้าคนที่ทำพระท่านหรือคนที่ทำไม่ดีท่านแช่งไว้ เคยมีคนทำพระเก๊ของท่าน ท่านแช่งไว้ว่ามันจะไม่เหลือแม้แต่เสาเรือน แล้วพอถึงเวลาฤดูน้ำหลาก น้ำได้พัดพาบ้านของคนที่ทำพระปลอมของท่านไปไม่เหลือแม้แต่เสาเรือน และภายหลังคนคนนี้ก็ตายโหง โดนไฟดูดตาย ทางคนแถวดอนเมืองที่เป็นทหารอากาศจะขึ้นกับท่านมาก เพราะมีคนที่ใส่พระท่านแล้วขับรถโดนรถชนยับทั้งคัน ต้องเอาเครื่องตัดถ่าง เอาร่างออกมา รถต้องขายเป็นซากทิ้งไป แต่คนไม่เป็นไรเลยแค่หัวโน เคล็ดขัดยอก หลวงปู่โต๊ะวัดกำแพง ท่านเป็นพระที่ทำด้วยตนเองทุกอย่าง ตั้งแต่เริ่มไปขุดหาดินขุยปู ท่านก็จะต้องดูดินที่มีปูอุด ยิ่งดินที่ปูอุดปากรูแล้วตัวเองออกมาไม่ได้ ตายอยู่ในรู เป็นมหาอุดอย่างสูง ท่านจะเอาดินพวกนั้นรวบรวมไว้กับดินแสงอรุณ คือดินที่ปูขุดคุ้ยออกมาอยู่ปากหลุม ท่านจะเก็บมาเรื่อย ๆ เก็บทุกวัน และเอามานวด เอามากรอง ตากแห้งแล้วมาบดเป็นผง มาร่อนเอาเศษทราบเศษใบไม้กิ่งไม้ออก แล้วเอาดินนวดแล้วนวดอีก นวดด้วยน้ำมนต์แล้วใส่ผงวิเศษของท่านเข้าไป แล้วทำพิมพ์พระเอง กดพระเอง ตากแดด ทำเองหมด องค์ไหนที่มีจาร มีความสำคัญคือท่านลงยันต์ไว้ อย่างพระของท่านจะมีพิมพ์ใบโพธิ์ จะเกี่ยวเรื่องค้าขาย และจะมีพิมพ์ม่านทองท่านจะแจกพวกพ่อค้าวานิช แต่ของหลวงปู่โต๊ะผลทางคงกระพัน จะน้อย จะเด่นเรื่องแคล้วคลาด มหาอุดมากกว่า คงกระพันจะไม่ค่อยเจอ ส่วนใหญ่จะยิงไม่ออกซะมากกกว่า เป็นของดีราคาเยาว์ ของเก่าราคาไม่แพง พุทธคุณเยี่ยมยอด แม้แต่หลวงพ่อเส็งวัดน้อยนางหงส์ยังพูดกับลูกศิษย์เสมอว่า “ที่สิงห์บุรี เค้าก็มีของดี ถ้าใครผ่านมาทางนี้ ให้ไปหาหลวงปู่โต๊ะ วัดวัดกำแพง” ถ้าไปหาหลวงพ่อแพ “ท่านก็จะบอกว่าไปหาอาจารย์โต๊ะ วัดกำแพงมาแล้วนี่ ถ้าไปหามาแล้วไม่ต้องมาหาท่าน” เพราะหลวงปู่โต๊ะ วัดกำแพง แม้แต่หลวงพ่อซวง วัดชีปะขาว ยังเคยกล่าวถึงไว้ว่าเป็นพระที่มีพลังจิตดี หาพระที่พลังจิตอย่างหลวงปู่โต๊ะวัดกำแพง หาได้น้อย หาได้ยาก
แบ่งกันไปที่ 2,000

 

มีแต่ของเด็ด ๆ ทั้งนั้น

ร่ำรวย ๆ ครับ

 

ขอบคุณมากนะครับ

 

หลวงพ่อเชื้อครับ หลังตะกรุด3ดอก
แบ่งบูชา 1,000.-

 

รบกวนขอดูภาพด้านหลังนะคะ

 

คลิกที่ตัวหนังสือสีฟ้าใต้รูปเลยครับ ตรงคำว่า "หลวงพ่อกวย หลังเกศาและผ้ารองบุพโพ"

 

เพิ่มรูปให้ใหม่ครับ อันเก่าไฟล์ใหญ่มากเลย

 

ด้านหลังครับ

 

จองนะครับ โอนวันจันทร์นะครับ

 

รับทราบการจองครับ ขอบคุณมากนะครับ

 

ผมโอนเช้าพรุ่งนี้นะครับ
จิรานุวัฒน์ ศิริสุนทรินท์
918/27-28 ซ.โรงไม้ขีด ต.บางปลาสร้อย
อ.เมือง จ.ชลบุรี 20000