2ชาติ2มิติโสมขาวสู่ทำเนียบยูเอ็น-โสมแดงพลิกบทจอมวายร้ายนิวเคลียร์

ในห้อง 'ข่าวทั่วไป' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 16 ตุลาคม 2006.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,492
    '2ชาติ2มิติ'โสมขาวสู่ทำเนียบยูเอ็น-โสมแดงพลิกบทจอมวายร้ายนิวเคลียร์

    2 ชาติ 2 มิติ โสมขาวสู่ทำเนียบยูเอ็น โสมแดงพลิกบทจอมวายร้ายนิวเคลียร์


    untitled.jpg [​IMG]


    คาบสมุทรเกาหลีไม่เคยสงบสุขมาเลย นับจากถูกแบ่งเป็น 2 ชาติมากว่าครึ่งศตวรรษ

    ดูเหมือนเส้นทางเดินของ 2 ชาติเกาหลีบนคาบสมุทรหนึ่งเดียว กำลังแตกต่างและโดดเด่นในสายตาของประชาคมโลกไปคนละทาง

    เกาหลีเหนือโดยเฉพาะในยุคของ ''คิม จอง-อิล'' กำลังไต่ระดับขึ้นสู่แถวหน้าของประเทศที่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ในเอเชีย

    [​IMG][​IMG][​IMG]

    เมื่อพิจารณาจากแสนยานุภาพของอาวุธทำลายล้างสูงที่ประเทศมีเป็นจำนวนมาก ทั้งพิสัยใกล้และไกล รวมถึงขีปนาวุธพิสัยไกล "แตโปดอง-2" ของเกาหลีเหนือ ซึ่งได้ทดสอบไปก่อนหน้านี้ไม่กี่เดือน แต่ล้มเหลว แต่หากการพัฒนาขีปนาวุธประสบความสำเร็จ อานุภาพทำลายล้างอาจไปได้ไกลถึงฝั่งอะแลสกาทีเดียว

    นั่นคือเหตุผลที่คณะมนตรีความมั่นคง โดยเฉพาะสหรัฐ ต้องคิดหาทางสยบโสมแดงเสียก่อนที่เขี้ยวเล็บทางอาวุธนิวเคลียร์จะแข็งแกร่งกว่านี้ เห็นได้จากการเคลื่อนไหวหลายๆ ครั้งที่จะกดดันให้คณะมนตรีความมั่นคงมีมติคว่ำบาตร แต่ทุกครั้งที่ผ่านมายังมีเสียงทัดทานของจีนและรัสเซีย คานดุลอยู่ ทำให้ไม่คืบหน้า จนกระทั่งเมื่อเกาหลีเหนือย่ามใจเดินหน้าทดลองอาวุธนิวเคลียร์ใต้ดิน เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (9 ต.ค.) ทำให้จีนไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากยอมไฟเขียวให้ยูเอ็นเดินหน้าคว่ำบาตรได้อย่างไร้ข้อทัดทานอีก

    ท่าทีของจีนได้เปิดทางให้สหรัฐส่งร่างมติคว่ำบาตรออกมาทันควัน ซึ่งไส้ในของร่างดังกล่าวหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะกระทบต่อประเทศที่ทำการค้ากับเกาหลีเหนือ ไล่ตั้งแต่จีน เกาหลีใต้ จนถึงญี่ปุ่น จนถึงการตัดเส้นเลือดของกลุ่มบุคคลหรือ องค์กรที่ให้การสนับสนุนโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ หรือ อาวุธร้ายแรงอื่นๆ และการจัดส่งผู้เชี่ยวชาญจากสำนักงานพลังงานปรมาณูสากลเข้าไปตรวจสอบในประเทศ นอกเหนือจากคำประณามที่เป็นมาตรการประจำที่ต้องมีแน่ในแผนคว่ำบาตร

    ขณะเดียวกันแนวร่วมของสหรัฐอย่างญี่ปุ่นยังแสดงท่าทีชัดว่า กำลังพิจารณามาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมจากที่ได้ดำเนินการไปแล้วในช่วงก่อนหน้านี้

    ญี่ปุ่นเป็นประเทศหนึ่งที่จะได้รับผลกระทบทางการค้าทันที หากยูเอ็นเดินตามข้อเสนอในร่างคว่ำบาตรของสหรัฐ โดยสถิติการค้าระหว่างประเทศ พบว่ามูลค่าการค้าโดยรวมระหว่างญี่ปุ่นและเกาหลีเหนือในปี 2548 มีมูลค่าทั้งสิ้น 180 ล้านดอลลาร์ ลดลงประมาณครึ่งหนึ่งจากมูลค่าการค้าที่เคยเฟื่องฟูอย่างมากในปี 2545

    อย่างไรก็ตาม ถึงจะถูกกดดันด้วยมาตรการคว่ำบาตรจากนานาชาติ แต่เกาหลีเหนือก็ดูจะไม่สะทกสะท้าน กลับท้าทายด้วยว่า จะทดลองอาวุธนิวเคลียร์ต่อไปแน่

    ในอีกภาพหนึ่ง เกาหลีใต้กลับมีวิถีทางไปคนละด้านกับเกาหลีเหนือ บัน คี มูน รัฐมนตรีต่างประเทศ ได้รับการโหวตให้นั่งเกาอี้เลขาธิการองค์การสหประชาชาติอย่างเป็นทางการแล้วในสัปดาห์นี้

    สื่อต่างประเทศหลายสำนักวิเคราะห์ว่า เขาเป็นตัวเลือกเลขาธิการใหญ่ยูเอ็นที่เหมาะสมที่สุดกับช่วงเวลาเช่นนี้ เพราะประเด็นเกาหลีเหนือกำลังโดดเด่นขึ้นมาในความกังวลของประชาคมโลก


    [​IMG][​IMG]

    คิม จา-ฮุน ฮาบูช ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเกาหลี จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ในสหรัฐ ตั้งข้อสังเกตว่า การเสนอชื่อบัน คี-มูน เริ่มเพิ่มความหวังว่า ปัญหาเกาหลีเหนือจะได้รับการคลี่คลายอย่างแน่นอน เพราะการที่เขาเป็นชาวเกาหลี แนวทางการแก้ไขปัญหาจะต้องเลือกแนวทาง ปรองดองมากกว่า เพียงแต่ปัญหาอยู่ที่ว่า เขาจะสามารถโน้มน้าวให้สหรัฐเห็นด้วย และยอมเจรจากับเกาหลีเหนือได้อย่างไร

    เป็นเรื่องที่ยากมากที่บัน คี-มูนจะประสบความสำเร็จในการเปิดโต๊ะเจรจาตรงระหว่างสหรัฐกับเกาหลีเหนือ เพราะสหรัฐยืนกระต่ายขาเดียว ไม่ยอมเจรจา 2 ฝ่ายกับเกาหลีเหนือมาโดยตลอด

    อย่างไรก็ดี นั่นเป็นเพียงทรรศนะด้านบวกของนักวิชาการสายหนึ่ง แต่กับนักวิชาการบางคน การขึ้นสู่ตำแหน่งใหญ่ในยูเอ็นของบันซึ่งเป็นชาวเกาหลีใต้ อาจไม่เป็นที่สบายใจนักของรัฐบาลเปียงยาง และตีความการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ใต้ดินของโสมแดง เมื่อวันที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมาคือ "ไม่อนุมัติ"

    ประกอบกับเกาหลีเหนือเองไม่ได้พอใจกับบทบาทขององค์การสหประชาชาติมาตั้งแต่อดีต ในช่วงที่ยูเอ็นเข้าแทรกแซงทางการทหาร จนทำให้เกาหลีต้องแบ่งออกเป็นสองฝ่ายในปี 2496

    ดังนั้นถึงแม้ตำแหน่งเลขาธิการใหญ่ยูเอ็นจะเป็นตำแหน่งอันทรงเกียรติและเชิดหน้าชูตาให้กับเกาหลีใต้ แต่ในมุมมองของ ชาร์ลส์ อาร์มสตรอง ผู้เชี่ยวชาญประวัติศาสตร์เกาหลีสมัยใหม่ กลับมองว่า บันกำลังเผชิญงานที่ท้าทายอย่างยิ่ง เพราะเขาต้องบริหารฝ่ายต่างๆ ในยูเอ็นให้เกิดสมดุล ต้องระมัดระวังที่จะไม่ใช้มุมมองในฐานะตัวแทนของเกาหลีใต้ หรือรัฐบาลเกาหลีใต้ต่อปัญหาเกาหลีเหนือ

    [​IMG]

    บางทีเกาหลีใต้อาจจะต้องปรับมุมมองใหม่กับการก้าวขึ้นสู่อำนาจของบัน คี-มูน ในองค์กรระหว่างประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุด เพราะตำแหน่งนี้อาจจะเป็นงานที่ยากที่สุดในชีวิตของเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกาหลีใต้น้อมรับคำวิจารณ์ที่ดังเซ็งแซ่ในระยะหลังๆ ว่า เหตุใดตัวแทนของเกาหลีใต้จึงได้ เก้าอี้นี้มา

    หากไม่ใช่เพราะ "โสมขาว" เหมาะสมที่สุดแล้วในเวลานี้ที่จะแก้ปัญหาที่โลกเผชิญอยู่

    แต่คำถามที่รอวันพิสูจน์กันต่อไปคือ การเปิดทางให้เกาหลีใต้เข้ามาแก้ปัญหาเกาหลีเหนือในบทบาทใหม่ ใช่ทางออกที่เหมาะสมแล้วจริงๆ หรือ




    Ref.
    http://www.matichon.co.th/prachachat/prachachat_detail.php?s_tag=02for04161049&day=2006/10/16
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ตุลาคม 2006
  2. pattarawat

    pattarawat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,671
    ค่าพลัง:
    +7,982
    เป็นงานที่ยากจริงๆ สำหรับ "บัน คี-มูน"
    ไม่แน่ว่าการเผชิญหน้ากันระหว่าง "เลขายูเอ็น" กับ "ประเทศที่ทดลองนิวเคลียร์" จะกลายเป็นจุดชนวนสำคัญ ที่ทำให้เกิดสถานการณ์สำคัญอันใกล้
     
  3. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,492
    ไส้ในร่างมติคว่ำบาตรโสมแดง

    มติยูเอ็นฉบับสหรัฐ

    สหรัฐได้ส่งหนังสือเวียน ซึ่งบรรจุราย ละเอียดมาตรการคว่ำบาตรของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) รวม 5 หน้า ต่อเกาหลีเหนือ เพื่อเป็นการตอบโต้การทดลองอาวุธนิวเคลียร์ ของเกาหลีเหนือ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยผ่านนายจอห์น โบลตัน เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำยูเอ็น ประเด็นคว่ำบาตรสำคัญ ในร่างมติฉบับดังกล่าว มีดังนี้คือ

    - ประเทศที่ได้รับมอบอำนาจจะ "ดำเนินการและอำนวยความสะดวกต่อการตรวจสอบคาร์โก้สินค้า" ที่ส่งไปยังและออกจากเกาหลี เหนือ เพื่อที่จะตรวจหาวัตถุที่เกี่ยวข้องกับอาวุธ

    - กำหนดการห้ามซื้อขายอาวุธทั้งหมด

    - เรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ระงับการให้เงินช่วยเหลือ หรือสินทรัพย์ทางการเงินอื่นๆ ของบุคคล หรือองค์กรที่ให้การสนับสนุนโครงการขีปนาวุธข้ามทวีป และนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ

    - จัดตั้งคณะกรรมการคว่ำบาตรของคณะมนตรีความมั่นคง ซึ่งจะขอให้ประเทศสมาชิกรายงานเกี่ยวกับขั้นตอนต่างๆ ที่ได้มีการดำเนินการตามมติดังกล่าว กำหนดรายการสินค้าที่ถูกสั่งห้าม รวมทั้งบุคคล หรือองค์กรที่อยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตร

    - กำหนดให้ประเทศต่างๆ สามารถระงับการเดินทางเข้า หรือผ่าน ของประชาชน และครอบครัว ซึ่งให้การสนับสนุนนโยบายอาวุธอนุภาพทำลายล้างสูงของเกาหลีเหนือ ยกเว้นการเดินทางเพื่อความจำเป็นด้านมนุษยธรรม หรือภารกิจทางศาสนา

    - ประณามการทดลองนิวเคลียร์ที่เกาหลีเหนือประกาศเมื่อวันที่ 9 ต.ค.ว่า เป็น "การละเมิดอย่างโจ่งแจ้ง" ต่อมาตรการของคณะมนตรีความมั่นคง และเรียกร้องไม่ให้เกาหลีเหนือมีการทดลองนิวเคลียร์อีกต่อไป หรือยิงขีปนาวุธข้ามทวีป

    - เรียกร้องให้เกาหลีเหนือยกเลิกการประกาศถอนตัวออกจากสนธิสัญญาห้ามแพร่กระจายอาวุธนิวเคลียร์ในทันที

    - เรียกร้องให้เกาหลีเหนือยกเลิกโครงการอาวุธนิวเคลียร์ และอนุญาตให้สำนักงานพลัง งานปรมาณูสากล (IAEA) เข้าตรวจสอบได้

    - ออกคำสั่งห้ามนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยเข้าสู่เกาหลีเหนือ

    จีน "กุญแจ" สำคัญกดดันโสมขาว

    หากร่างมติคว่ำบาตรของสหรัฐผ่านความเห็นชอบของยูเอ็น จีนจะถือเป็นตัวแปรสำคัญในการผลักดันมาตรการคว่ำบาตรครั้งล่าสุดให้บรรลุผล เพราะหากจีนตัดสินใจตัดการค้าสำคัญๆ กับเกาหลีเหนือในบางรายการ จะสั่นสะเทือนต่อเมือง "ดันดอง" เขตการค้าสำคัญของการค้า ตามแนวชายแดนระหว่างสองประเทศที่มีระยะทางกว่า 1,400 กิโลเมตร

    สินค้านำเข้า

    - สินค้าที่เกาหลีเหนือนำเข้าจากจีนในปี 2548 5 อันดับแรกได้แก่ 1.เชื้อเพลิง มูลค่า 286 ล้านดอลลาร์ 2.เครื่องจักร 134 ล้านดอลลาร์ 3.เนื้อสัตว์ 104 ล้านดอลลาร์ 4.พลาสติก 52 ล้านดอลลาร์ และ 5.ธัญพืช 50 ล้านดอลลาร์

    สินค้าส่งออก

    - สินค้าที่เกาหลีเหนือส่งออกไปยังประเทศจีน 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.ถ่านหิน 112 ล้านดอลลาร์ 2.อาหารทะเล 92 ล้านดอลลาร์ 3.สินแร่ ขี้โลหะ และเถ้าถ่าน 92 ล้านดอลลาร์ 4.เหล็กและเหล็กกล้า และ 5.เสื้อผ้าทอ





    ที่มา:ประชาชาติธุรกิจ
    http://www.matichon.co.th/prachachat/prachachat_detail.php?s_tag=02for05161049&day=2006/10/16
     

แชร์หน้านี้

Loading...