เรื่องเด่น “ในหลวง” พระราชทาน 2.4 พันล้าน แก่โรงพยาบาล 27 แห่ง

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย โพธิสัตว์ ชาวพุทธ, 8 พฤษภาคม 2019.

  1. โพธิสัตว์ ชาวพุทธ

    โพธิสัตว์ ชาวพุทธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    5,319
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,274
    ค่าพลัง:
    +9,590
    ทรงห่วงใยสุขภาพ ของ‘ประชาราษฎร์’ คณะผู้บริหารต่างปีติ แห่‘คชสาร’10เชือก ร่วมถวายพระพรชัย


    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทาน เงินกว่า 2.4 พันล้านบาท แก่โรงพยาบาล 27 แห่งทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการให้การรักษาทางการแพทย์ อันจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ป่วย ยังความปลื้มปีติ แก่ผู้บริหารโรงพยาบาลและประชาชนอย่างหาที่สุดมิได้ ขณะที่รัฐบาลพร้อมจัดมหรสพสมโภช เนื่องในโอกาสมหามงคล พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ.2562 ระหว่างวันที่ 22-28 พ.ค.นี้ โดยนายกฯปลื้มทุกฝ่ายร่วมพระราชพิธีฯด้วยความเรียบร้อย พร้อมขอให้ทุกคนภาคภูมิใจในความเป็นไทย ด้านกลุ่มคชสารคู่แผ่นดิน
    นำช้าง 10 เชือก ร่วมเทิดพระเกียรติแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ในหลวง ร.10

    เสร็จสิ้นอย่างสมบูรณ์สง่างามและสมพระเกียรติสูงสุด สำหรับพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ระหว่างวันที่ 4-6 พ.ค. ที่ผ่านมา ที่ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญในประวัติศาสตร์ชาติไทย ที่ประชาชนทุกหมู่เหล่าได้รวมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน แสดงความ จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และได้เห็นโบราณราชประเพณีที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาอย่างยาวนาน

    พระราชทานเงิน 2.4 พันล้านแก่ 27 รพ.


    ต่อมาเมื่อวันที่ 7 พ.ค.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ผู้อำนวยการโรงพยาบาล ผู้อำนวยการวิทยาลัยแพทย์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยพยาบาล และผู้อำนวยการสถานพยาบาล จำนวน 27 แห่ง เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานเงินสำหรับจัดซื้อเครื่องมือครุภัณฑ์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ที่ยังคงขาดแคลนและมีความจำเป็นในการรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วย ได้แก่ โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลกลาง โรงพยาบาลวชิระ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า โรงพยาบาลทหารผ่านศึก โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลสงฆ์ โรงพยาบาลตำรวจ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี โรงพยาบาลสมเด็จ พระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ วิทยาลัยพยาบาลกองทัพบก โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ โรงพยาบาลหัวหิน โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ โรงพยาบาลน่าน โรงพยาบาลศูนย์สกลนคร โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ โรงพยาบาลยะลา โรงพยาบาลปัตตานี โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก และโรงพยาบาลท่าวังผ่า จังหวัดน่าน

    ทรงห่วงใยสุขภาพประชาราษฎร์


    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยและทรงคำนึงถึงการดูแลรักษาพยาบาล สุขภาพร่างกายของประชาชน ตลอดจนประสิทธิภาพด้านการให้บริการทางการแพทย์ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราช ทานเงินในการจัดซื้อเครื่องมือครุภัณฑ์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้แก่โรงพยาบาล วิทยาลัยแพทย์และพยาบาล และสถานพยาบาลต่างๆ จากทั่วประเทศ ที่ยังคงขาดแคลนและมีความจำเป็นในการให้บริการ ในการรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วย โดยทรงมีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานเงินที่ประชาชนได้ร่วมกันทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายในการร่วมบำเพ็ญพระราชกุศล เนื่องในงานพระราชพิธีพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพล อดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทั้งหมด และส่วนหนึ่งเป็นเงินรายได้จากการจัดงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว “สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์” รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 2,407,144,487.59 บาท (สองพันสี่ร้อยเจ็ดล้านหนึ่งแสนสี่หมื่นสี่พันสี่ร้อยแปดสิบเจ็ดบาทห้าสิบเก้าสตางค์)

    ผู้บริหาร รพ.–ปชช.สุดปลื้มปีติ


    ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการให้การรักษาทางการแพทย์ให้แก่โรงพยาบาล วิทยาลัยแพทย์และพยาบาล และสถานพยาบาลต่างๆ อันจะเป็นประโยชน์ในการให้การบริการทางการแพทย์แก่ผู้ป่วย การรักษาพยาบาลที่ดีมีคุณภาพ เพื่อให้ผู้ได้รับการรักษามีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น การได้รับพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณในครั้งนี้ยังความปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแก่คณะผู้บริหาร บุคลากร และเจ้าหน้าที่ ตลอดจนประชาชน ทุกหมู่เหล่าอย่างหาที่สุดมิได้

    ในการนี้ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เจ้ากรมแพทย์ทหารบก เจ้ากรมแพทย์ทหารเรือ เจ้ากรมแพทย์ทหารอากาศ และปลัดกรุงเทพมหานคร ร่วมเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทด้วย

    -e0b89ee0b8a3e0b8b0e0b8a3e0b8b2e0b88ae0b897e0b8b2e0b899-2-4-e0b89ee0b8b1e0b899e0b8a5e0b989e0b8b2.jpg
    กลุ่มคชสารฯนำช้างถวายพระพร


    สำหรับกิจกรรมหลังพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเช้าตรู่วันเดียวกัน คณะผู้บริหารมูลนิธิพระคชบาล พร้อมด้วยสมาชิกกลุ่มคชสารคู่แผ่นดิน ตัวแทนคนเลี้ยงช้าง ควาญช้าง และเจ้าของปางช้างทั่วประเทศ จำนวน 500 คน นำช้าง 10 เชือกแต่งเป็นช้างเผือก จัดกิจกรรมเดินเทิดพระเกียรติ แสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก โดยเดินทางออกจากหมู่บ้านช้างเพนียดหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา มาถึงหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน ถนนมหาไชย ในเวลา 05.00 น. และร่วมกันเคารพธงชาติ เวลา 08.00 น. จากนั้นสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.6 กระทั่งเวลา 09.10 น. มีการตั้งริ้วขบวนจากหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน เดินไปถวายพระพรชัยมงคลหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบริเวณประตูสวัสดิโสภา พระบรมมหาราชวัง เพื่อแสดงความจงรักภักดี ภายหลังเสร็จพิธี คณะทั้งหมดได้เดินทางกลับหมู่บ้านช้างเพนียดหลวง

    0b89ee0b8a3e0b8b0e0b8a3e0b8b2e0b88ae0b897e0b8b2e0b899-2-4-e0b89ee0b8b1e0b899e0b8a5e0b989e0b8b2-1.jpg
    ประเพณีดั้งเดิมของคนเลี้ยงช้าง


    ทั้งนี้ นายอิทธิพันธ์ ขาวละมัย เลขาธิการมูลนิธิพระคชบาล กล่าวว่า กิจกรรมในวันนี้เป็นการรวมตัวของคนเลี้ยงช้าง ควาญช้าง และเจ้าของปางช้างทั่วประเทศ เพื่อร่วมกันถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและความจงรักภักดีต่อสถาบันมหากษัตริย์ ถือเป็นประเพณีของกลุ่มคนเลี้ยงช้างทั่วประเทศร่วมกันทำต่อเนื่องมาแต่ครั้งสมัยรัชกาลก่อน

    รัฐบาลจัดมหรสพสมโภช 7 วัน


    ส่วนที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึงการจัดงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ว่า เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ได้อำนวยความสะดวกประชาชนที่เข้าร่วมงาน ขณะที่ต่างจังหวัดจัดงานคู่ขนานตามจุดต่างๆ เช่น กิจกรรมอุปสมบทของกระทรวงวัฒนธรรม และการถวายพระพรของทุกจังหวัดอย่างพร้อมเพรียงกัน โดยเฉพาะวันที่ 5 พ.ค.ช่วงเสด็จเลียบพระนครด้วยขบวนพยุหยาตราทางสถลมารค ประชาชนจากต่างจังหวัดเดินทางมาร่วมงานจำนวนมาก กระทรวงมหาดไทยอำนวยความสะดวกประชาชนให้เกิดความปลอดภัยสะดวกเสมือนว่า ประชาชนที่มาร่วมงานเป็นแขกของพระองค์ท่าน อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ประชาชนต่างจังหวัดได้เดินทางกลับถึงพื้นที่เรียบร้อยแล้ว และช่วงต่อไปจะมีกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯตามพระราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในเรื่องสาธารณะ เช่น คูคลอง ตกแต่งสวนย่อมทุกจังหวัด จะเร่งดำเนินการให้เป็นไปตามพระราชประสงค์ ในส่วนของมหรสพสมโภชงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของกระทรวงวัฒนธรรมจะเริ่มวันที่ 22-28 พ.ค.นี้ ที่ท้องสนามหลวง เช่น โขน การแสดงต่างๆ โดยบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงขอเชิญชวนประชาชนมาร่วมงานมหรสพดังกล่าว

    ปชช.กว่า 2 แสน ร่วมพระราชพิธีฯ


    ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวก่อนเป็นประธานการประชุมปิดกองอำนวยการร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษก (กอร.) ที่กระทรวงกลาโหม ว่า ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี ไม่มีปัญหาและอุปสรรคใดๆ ทุกภาคส่วนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยในช่วงพระราชพิธีมีประชาชนมาเข้าร่วมกว่า 200,000 คน โดยเฉพาะช่วงกลางวันในวันที่ 5 พ.ค. ส่วนวันเสด็จออกสีหบัญชร มีประชาชนมาร่วมพิธีเกือบ 100,000 คน สำหรับการเตรียมความพร้อมงานการจัดมหรสพสมโภช เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ.2562 ระหว่างวันที่ 22-28 พ.ค. เจ้าหน้าที่จะดูแลความปลอดภัยเช่นเดียวกับงานพระราชพิธีฯ ไม่ต้องเป็นห่วง ทั้งนี้ ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ให้ความร่วมมือ ทำให้เกิดความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย อย่างไรก็ตาม ในส่วนการเสด็จพระราชดำเนินทางชลมารคจะตั้งกองอำนวยการร่วมพระราชพิธีฯเช่นกัน

    นายกฯขอให้ทุกคนภาคภูมิใจ


    จากนั้นในช่วงเย็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ทำเนียบรัฐบาลว่างานพระบรมราชาภิเษกเสร็จสิ้นไปด้วยความเรียบร้อย ขอขอบคุณทุกคน ถ้ารวมกันทั้งประเทศก็หลายสิบล้านคน แสดงให้เห็นว่าเรายังคงมีความรัก ความสามัคคีและยึดมั่นในสถาบันหลักของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อย่างแน่นแฟ้น และสิ่งที่เราคาดหวัง สิ่งที่เราต้องทำและตั้งใจทำคือการทำงานถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 และทุกพระองค์ หลายอย่างที่เราทำวันนี้ โดยเฉพาะพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ไม่มีที่ไหนในโลก ขอให้ทุกคนที่เป็นคนไทยควรภาคภูมิใจ สิ่งเหล่านี้คือ จารีต วัฒนธรรม ประเพณีของคนไทยที่มีแต่มาโบราณกาล ถ้าไม่มีสิ่งเหล่านี้ประเทศไทยจะถูกเลือนหายไปจากความทรงจำของโลกใบนี้ทันที และตอนนี้ยังเป็นช่วงวาระแห่งความสุขอยู่ อย่าลืมความสุขในช่วงที่ผ่านมานี้ ตนคิดว่าทุกคนอยากให้เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆตลอดไป ถือเป็นช่วงชีวิต และประวัติศาสตร์ของเราที่ได้ทำร่วมกัน ถือว่าเป็นครั้งเดียวในชีวิตของเรา

    วธ.เตรียมจัดทำจดหมายเหตุ


    ขณะที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการทำจดหมายเหตุเรื่องงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกว่า กระทรวงวัฒนธรรมจะเป็นเจ้าภาพ ดำเนินการจดบันทึกรวบรวมข้อมูลของงานพระราชพิธีฯเรียบเรียงจัดทำเป็นรูปเล่ม เพื่อจำหน่ายหรือจ่ายแจกให้กับประชาชน หลังจากนี้จะมีการจัดงานต่อเนื่อง ทั้งงานสโมสรสันนิบาตในวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และในช่วงปลายเดือน ต.ค. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเสด็จพระราชดำเนินโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค รวมทั้ง
    กิจกรรมจิตอาสา

    เตรียมประกาศ 4 พ.ค. วันฉัตรมงคล


    ส่วนการประกาศวันสำคัญ เช่น วันฉัตรมงคล นั้น นายวิษณุกล่าวว่า รัฐบาลชุดใหม่จะต้องเตรียมการและประกาศให้วันที่ 4 พ.ค. เป็นวันฉัตรมงคล เป็นวันหยุดราชการภายในปีนี้ เพื่อจัดทำเป็นปฏิทินวันหยุดของปี 2563 สำหรับวันสำคัญอื่นๆ เช่น วันแม่แห่งชาติ ต้องรอการประสานงานและมีมติ ครม.ก่อนประกาศให้ทราบ เช่นเดียวกัน วันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี จะมีการจัดกิจกรรมใดบ้าง รวมทั้งการออกพระนามอย่างย่อในภาษาพูด ยกตัวอย่างที่เคยออกพระนามสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเรียกใหม่ว่า สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า หรือกรมสมเด็จ ขอให้รอฟังต่อไป เพราะกำลังประสานกับผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อซักซ้อมความเข้าใจ

    จัดเจริญพระพุทธมนต์ทั่วประเทศ


    ต่อมาเมื่อเวลา 17.00 น. ที่พระอุโบสถวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (อัมพร อมฺพโร) เสด็จเป็นประธานในการนำสมเด็จพระราชาคณะ รองสมเด็จพระราชาคณะ และพระสังฆาธิการทุกระดับ ในเขตกรุงเทพฯ ประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคลเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ซึ่งมหาเถรสมาคม (มส.) มีมติให้คณะสงฆ์ทั่วประเทศจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ดังกล่าวขึ้น โดยมีนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส นำข้าราชการ และพุทธศาสนิกชน ที่พร้อมใจใส่เสื้อสีเหลืองเข้าร่วมพิธีจนเต็มพื้นที่โดยรอบพระอุโบสถวัดราชบพิธฯ

    ร.10 พระราชทานหนังสือสวดมนต์


    ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานหนังสือบทเจริญ พระพุทธมนต์สืบสานพระราชปณิธาน “ธรรมราชินี” จำนวน 100,000 เล่ม เพื่อใช้ในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ โดยปกหนังสือเป็นภาพวาดฝีพระหัตถ์ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พร้อมข้อความ “ความรัก ความเข้าใจ สามัคคี กลมเกลียว จะเป็นพลัง นำพา ความสุข ความเจริญ อย่างวัฒนาถาวร เป็นหนึ่งเดียวกัน ร่วมสร้างชาติไทย” อักษรพระปรมาภิไธย ว.ป.ร. และพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรง ฉายกับสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ล้อมกรอบด้วยรูปหัวใจ โดยสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แจกหนังสือบทเจริญพระพุทธมนต์นี้ให้กับผู้ร่วมพิธีทุกคน รวมถึงแจกให้กับคณะสงฆ์ทั่วประเทศ จังหวัดละ 1,000 เล่มด้วย

    จัดบทสวดใหม่เฉลิมพระเกียรติ ร.10


    จากนั้นคณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชน ได้ร่วมกันเจริญพระพุทธมนต์ด้วยกัน 34 บท อาทิ ชุมนุมเทวดา, บทนอบน้อมพระผู้มีพระภาคเจ้า, บทพระไตรสรณคมน์, บทนมการสิทธิคาถา (สัมพุทเธ), บทนมการสิทธิคาถา (โย จักขุมา), บทนโมการอัฏฐกคาถา, บทธัมจักกัปปวัตตนสูตร, บทมงคลสูตร, บทรตนสูตร, บทกรณียเมตตสูตร, บทขันธปริตร, บทเมตตานิสังสสุตตปาฐะ, บทโมรปริตร, บทจันทปริตตปาฐะ, บทสุริยปริตต-ปาฐะ ฯลฯ รวมถึง บทจกฺกิวํสทสมปรเมนฺทมหาราชา-ภิถุติคาถา ซึ่งมหาเถรสมาคมแต่งขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 พร้อมทั้งร่วมกันเจริญจิตตภาวนาด้วย

    สมเด็จพระสังฆราชนำเจริญจิตตภาวนา


    ทั้งนี้ ก่อนเริ่มการเจริญจิตตภาวนา สมเด็จพระสังฆราช ประทานสัมโมทนียกถาตอนหนึ่งว่า บัดนี้เรามีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระองค์ใหม่แล้ว และทรงถวายพระองค์ต่อพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า และพระสงฆ์เจ้า ดั่งที่ทราบกันแล้วนั้น ขอเราพระสงฆ์ และพุทธศาสนิกชนจงร่วมกันถวายอนุโมทนา และถวายพระพร ขอพระองค์ทรงพระเจริญชนมายุสุขสวัสดิ์ เพื่อเป็นกำลังหลักชัยของชาติ และรักษาบวรพระพุทธศาสนาได้เต็มพระกำลัง

    คนไทยในต่างแดนพร้อมใจถวายพระพร


    ผู้สื่อข่าวรายงานกระทรวงการต่างประเทศว่า ในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ.2562 สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ทั่วโลก ได้จัดกิจกรรมจิตอาสาเฉลิมพระเกียรติ และกิจกรรมทางศาสนาเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและเฉลิมพระเกียรติ พร้อมจัดพิธีถวายพระพรชัยมงคลในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก โดยคนไทยที่อาศัยอยู่ต่างประเทศเข้าร่วมพิธีด้วยความปลื้มปีติ อาทิ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน จัดพิธีถวายพระพรชัยมงคล ณ โรงแรม Four Seasons กรุงวอชิงตัน ขณะที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร จัดพิธีถวายพระพรชัยมงคล ณ ห้อง Nine Kings Suite โรงแรม Royal Lancaster กรุงลอนดอน นอกจากนี้ ยังมีสถานเอกอัครทูตและสถานกงสุลใหญ่ ร่วมกันจัดพิธีถวายพระพรชัยมงคลโดยมีเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่เป็นประธานอย่างพร้อมเพรียงกัน ได้แก่ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงไนโรบี เคนยา สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตา อินโดนีเซีย สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมาดริด ประเทศสเปน สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซีอาน มณฑลส่านซี สาธารณรัฐประชาชนจีน และสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟูกูโอกะ ประเทศญี่ปุ่น เป็นต้น



    ขอขอบคุณที่มา
    https://www.thairath.co.th/news/royal/1562805
     

แชร์หน้านี้

Loading...