ให้ทุกข์แก่ท่าน

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 27 พฤศจิกายน 2005.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,174
    ..พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน ทรงปรารภคำว่า
    'ดูก่อน อาวุโสทั้งหลาย พระเทวทัตไม่อาจ
    เพื่อแม้จะกระทำความสะดุ้งแก่พระพุทธองค์ได้'
    จึงตรัสพระธรรมเทศนานี้ มีคำเริ่มต้นว่า 'ยฺวาสํ สาลิยจฺฉาโป' ดังนี้'

    จริงอยู่ ในครั้งนั้น พระศาสดาตรัสว่า
    'ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย มิใช่บัดนี้เท่านั้น แม้ในกาลก่อน
    พระเทวทัตนี้ก็ไม่อาจเป็นผู้จะกระทำความสะดุ้งแก่เราได้'

    แล้วทรงนำเอาเรื่องในยินดีมาสาธก ดังต่อไปนี้

    ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัต ครองราชสมบัติอยู่ในนครพาราณสี
    พระโพธิสัตว์ได้บังเกิดในตระกูลกฎุมพีในหมู่บ้าน ในคราวมีอายุยังน้อย
    เล่นอยู่ที่โคนต้นไทรใกล้ประตูบ้านกับพวกเด็กที่เล่นฝุ่นกัน

    ครั้งนั้นมีหมอชั่วคนหนึ่ง ไม่มีใครจ้างให้ทำงาน
    จึงออกเดินทางไปจนถึงสถานที่แห่งนั้น เห็นงูตัวหนึ่งนอนหลับ
    โผล่หัวออกมาจากระหว่างค่าคบไม้ จึงคิดว่า
    'ไม่มีใครจ้างเราให้ทำงานอะไรในบ้านเลย เราจักลวงเด็กนี้
    ให้งูกัดแล้วจักเยียวยารักษา คงจะได้เงินค่ารักษาพยาบาลแน่แท้'

    จึงได้กล่าวกะพระโพธิสัตว์ว่า
    'เจ้าหนู!! ถ้าเธอจะพบลูกนกสาลิกา เจ้าจะจับเอาไหม?'
    พระโพธิสัตว์ตอบว่า 'จับ จับซิครับ'
    หมอกล่าวว่า 'นั่นไง ...! นั่นลูกนกสาลิกา มันนอนอยู่ระหว่างค่าคบไม้'

    พระโพธิสัตว์นั้นไม่รู้ว่านั่นเป็นงู จึงขึ้นไปยังต้นไม้
    จับที่คอมัน พอรู้ว่าเป็นงูจึงไม่ให้มันหดเข้าไป จับไว้แน่น
    แล้วรีบเหวี่ยงไปโดยแรง

    งูตัวนั้นลอยละลิ่วปลิวไปตกลงที่คอของหมอ
    รัดคออยู่ กัดเสียงดังกรุ๊บๆ ทำให้หมอล้มลงที่ตรงนั้นแล้วเลื้อยหนีไป

    คนทั้งหลายในหมู่บ้านทราบข่าวพากันออกมาห้อมล้อม
    พระมหาโพธิสัตย์เมื่อจะแสดงธรรมแก่บริษัท
    ผู้มาประชุมพร้อมกันอยู่ จึงได้กล่าวคาถาเหล่านี้ว่า

    ผู้ใดลวงให้เราจับงูเห่าว่า 'นี่คือลูกนกสาลิกา'
    ผู้นั้นตามพร่ำสอนสิ่งที่ลามก ถูกงูนั้นกัดตายแล้ว

    คนใดปรารถนาจะฆ่าบุคคลผู้ไม่ฆ่าเอง และผู้นั้นไม่ใช้ให้ผู้อื่นฆ่าตน
    คนนั้นถูกฆ่าแล้วนอนตายอยู่ เหมือนบุรุษผู้ถูกงูกัดตายแล้ว ฉะนั้น

    บุรุษผู้กำฝุ่นไว้ในมือ พึงซัด (ขว้าง) ฝุ่นไนที่ทวนลม
    ละอองฝุ่นนั้นย่อมหวนกลับมากระทบบุรุษนั้นเอง
    เหมือนบุรุษผู้ถูกงูกัดตายแล้ว ฉะนั้น

    ผู้ใดประทุษร้ายคนผู้ไม่ประทุษร้าย ผู้บริสุทธิ์ ผู้ไม่มีความผิดเลย
    บาปย่อมกลับมาถึงคนพาลนั้นเอง เหมือนกับละอองละเอียดที่บุคคลซัดไปทวนลม ฉะนั้น

    พระพุทธเจ้าครั้นทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแสดงแล้ว จึงทรงสรุปชาดก ว่า

    'หมอชั่วในครั้งนั้น ได้กลับมาเกิดเป็นพระเทวทัต
    ส่วนเด็กที่เป็นบัณฑิต ได้กลับมาเกิดเป็นเราตถาคต' ฉะนี้แล

    พระไตรรัตนานุภาพ

    พุทธานุภาพนำผล เกิดสรรพมงคลน้อยใหญ่
    เทวาอารักษ์ทั่วไป ขอให้เป็นสุขสวัสดี
    ธรรมานุภาพนำผล เกิดสรรพมงคลเฉลิมศรี
    เทพช่วยรักษาปรานี ให้สุขสวัสดีทั่วกัน
    สังฆานุภาพนำผล เกิดสรรพมงคลแม่นมั่น
    เทพช่วยคุ้มครองป้องกัน สุขสวัสดิสันต์ทั่วไป
     
  2. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,174
    <CENTER>จุดประทัดใส่ควาย ทำให้ถูกฟ้าผ่าหูหนวก</CENTER>ทุกชีวิตที่เกิดมาในโลกนี้ไม่ว่ามนุษย์หรือสัตว์ ย่อมมีความเกรงกลัวต่อภัย คือ ความเจ็บปวด ความตายด้วยกันทั้งสิ้น จะหาทางหลีกเลี่ยงไปให้ได้ แต่มนุษย์เรานี่สิ ช่างใจดำอำมหิต บางคนโหดเหี้ยมต่อสัตว์ไม่มีทางสู้ และหนีไม่พ้นอย่างน่าสงสาร ยังตามรังแกเขา นึกว่าเป็นเกมสนุก หาระลึกไหมว่า ชีวิตเขาจะเจ็บปวดรวดร้าว เหมือนชีวิตเราหรือไม่ ทั้งนี้เพราะขาดคุณธรรมประจำใจ แต่ระวังเถอะหนี้กรรมจะตามทวงคืน มิวันใดก็วันหนึ่ง ไม่มีการหลีกเลี่ยง ไม่มีการผ่อนผันใดๆ ทั้งสิ้น ดังต่อไปนี้
    ลุงคำเป็นคนทุพพลภาพ คือหูทั้ง 2 ข้างหนวก แทบไม่ได้ยินอะไรเลย แต่ก็ทำงานเก่งไม่แพ้คนธรรมดา ลุงคำได้เล่าประวัติเกี่ยวกับชีวิตเพื่อให้ทุกคนทราบ เพื่อจะได้รู้ และจะไม่เอาแบบอย่างชั่วๆ แล้วก็เริ่มเล่าว่า เมื่อหลายปีมาแล้ว ตอนเย็นในวันหนึ่ง ผมเตรียมเบ็ดคันและเหยื่อสำหรับใส่เบ็ด เดินลงไปที่ทุ่งนา พอไปถึงก็ปักคันเบ็ดไว้ตามคันนาที่มีน้ำ พอปักเหยื่อไปราว 4-5 คัน ฟ้ามืดครึ้ม ฝนตกปรอยๆอยู่สักครู่หนึ่ง ได้เกิดฟ้าแลบแปลบปลาบ ทันใดนั้นได้เกิดฟ้าผ่าเปรี้ยงลงบนต้นตาลที่คันนาใกล้ๆผมที่กำลังใส่เบ็ดอยู่ ผมล้มฟุบลงบนคันนาทันที และไม่รู้สึกตัวอีกเลย ราวประมาณ 50 นาที จึงรู้สึกตัว ลืมตาขึ้นได้รู้ว่า สายฟ้าฟาดสลบ จึงพยายามช่วยตัวเองลุกขึ้น เมื่อพยายามลุกขึ้นได้ รู้สึกว่าตาทั้ง 2 ข้างฝ้าฟางไปหมด มองไปทางไหนก็เห็นพอสลัวๆ เพราะในระยะนั้นตะวันกำลังโพล้เพ้ล เมื่อยืนขึ้นตั้งใจจะเดินกลับแต่หูทั้งสองข้างดังอื้อๆ พยายามเอานิ้วมือแหย่ๆ เขย่าๆ รู้สึกว่าหูทั้ง 2 ข้างหนวกไปแล้ว ไม่ได้ยินเสียงอะไร ตั้งใจให้ปกติแล้วเดินกลับบ้าน เวลานั้นดวงอาทิตย์เกือบจะตกดินแล้ว จึงพยายามเดินพร้อมกับปวดศรีษะ เมื่อลุงคำเล่ามาถึงตอนนี้บอกว่ายังมีต่ออีกครับ จึงเล่าต่อไปว่า
    วันหนึ่งในวันออกพรรษา ทางบ้านผมจะมีการจุดประทัดกันมาก ซึ่งเป็นประเพณีสืบทอดกันมานานๆแล้ว ในคืนนั้นผมกับเพื่อน 2 คน เป็นเด็กซุกซนเอาประทัดไปจุดแล้วก็ทิ้งใส่พวกสาวๆ เพราะเขาตกใจ ร้องด่าสาปแช่งไปต่างๆนานา แต่พวกผมยิ่งสนุกหัวเราะ ทำเป็นทองไม่รู้ร้อน ในค่ำคืนวันออกพรรษานับเป็นคืนที่สนุกเต็มที่ ผมก็ได้เก็บประทัดเอาไว้ 2 ลูก เพื่อจุดเล่นในวันต่อไป พอตื่นเช้าขึ้นมา กิจประจำวันก็คือ ต้องนำควาย 1 ตัวไปเลี้ยงที่ดอนนาใกล้ๆกับป่าละเมาะริมดงกับเพื่อนอีกคนหนึ่ง ควายผมตัวหนึ่งเป็นควายเขาสั้นๆ ที่คนเรียกว่าควายตู้ตัวผู้ เป็นความมีนิสัยชอบซุกซน เลี้ยงดูเผลอไม่ได้ต้องแอบไปกินข้าวในท้องนาที่กำลังมีท้องบ่อยๆ ทำความไม่พอใจกับผมมากทีเดียว ถึงเฆี่ยนตีมันก็ไม่หลาบจำ นึกสนุกขึ้นมา ก็บอกให้เพื่อนช่วยคือ ในเวลาควายตัวนั้นพักผ่อนอยู่ในร่มไม้ จะใช้ไม้เกาที่ก้นของมัน พอมันถูกเกา ก็รู้สึกสบายหลับตาพริ้มๆ อยากจะนอนในระยะนั้น ผมก็เอาลูกประทัด 2 ลูก เหน็บใส่สายสนตะพายข้างหน้า ทั้ง 2 ทางๆ ละ 1 ลูก แล้วบอกให้เพื่อนเกาก้นมันแรงขึ้น แล้วผมก็เอาไม้ขีดจุดชนวนประทัดพร้อมกัน 2 ลูก ในขณะมันกำลังง่วงอยากจะนอน เพราะสบายที่ถูกเกา
    ทันใดนั้น เสียงประทัดระเบิดดังตูมตามทันทีควายสะดุ้งผวา มันคงนึกว่าเป็นลูกระเบิดปรมาณูหรือไง มันตกใจสุดขีดวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิตชีวา ไปแอบซ่อนตัวอยู่ในป่าเงียบๆ ผมกับเพื่อน 2 คน ชอบใจตบมือหัวเราะจนท้องขดท้องแข็ง ไม่นึกถึงบาปอะไรทั้งนั้น นึกว่าสนุกมากกว่า มันแอบอยู่ในป่าไม่ยอมออกมากินน้ำกินหญ้าเลย จนกระทั่งบ่าย 3 โมง ผมนึกสงสารจึงเข้าไปหา มันก็ตกใจจะวิ่งหนีต่อ ผมจับเชือกจูงพามากินน้ำและกินหญ้าต่อไป เมื่อคิดดูๆมันแล้ว มันหวาดผวาอยู่เรื่อยๆ เพราะตกใจในเสียงแตกของประทัดนั่นเอง ได้แต่ยืนซึม ไม่ค่อยจะกินน้ำกินหญ้า หงอยเหงา ผมร้องด่าตวาดมันบางครั้งมันก็เฉยๆ เข้าใจว่ามันหูหนวกไปแล้ว แต่ถ้าเงื้อมือเงื้อไม้มันจะกลัวทำท่าจะวิ่งหนี ผมเลี้ยงมันมาได้ 3 ปี มันก็ผอมโซ แล้วก็ตายลงในครั้งนั้น
    ลุงคำยังพูดอีกว่า กรรมชั่วนี่แหละตามสนองให้ผมหูหนวก จนทุกวันนี้ ตามเรื่องที่ลุงคำมาเล่านี้ เป็นความจริง ทุกคนเมื่อรู้แล้ว อย่าประมาทเรื่องของบาปกรรม เวรกรรมมีจริง หากท่านใดไม่อยากเจอเหตุการณ์อย่างที่เล่าสู่กันฟังนี้ ขอความกรุณาอย่าไปสร้างบาปกรรม เพราะเราทำกรรมใดย่อมได้รับผลกรรมนั้น
     
  3. Attawat_Rx

    Attawat_Rx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,183
    ค่าพลัง:
    +18,402
    โมทนาครับ บาปกรรมแม้เพียงเล็กน้อยก็อย่าไปแตะต้องมันเลย
     
  4. สุวรรณา รัตนกิจเกษม

    สุวรรณา รัตนกิจเกษม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2005
    โพสต์:
    311
    ค่าพลัง:
    +772
  5. สุวรรณา รัตนกิจเกษม

    สุวรรณา รัตนกิจเกษม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2005
    โพสต์:
    311
    ค่าพลัง:
    +772

แชร์หน้านี้

Loading...