แก้ไขความไม่ควร/ข้อผิดพลาด ปรับปรุงคุณภาพชีวิต ด้วยหลักธรรม

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=700 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top></TD><TD>[SIZE=+2]มาขอขมาพระรัตนตรัยกันเถิด[/SIZE] </TD></TR></TBODY></TABLE>​

​

<TABLE style="WIDTH: 700px; HEIGHT: 535px" cellSpacing=10 width=700 bgColor=#853a7b border=0><!"#853A7B"><TBODY><TR><TD align=middle width="100%"><CENTER><TABLE width="100%" bgColor=#bbddff border=0><TBODY><TR><TD colSpan=2>เนื้อความ :

นะโมตัสสะ ภควโต อรหโต สัมมา สัมพุทธัสสะ​

​

</B>​

​

​

นะโมตัสสะ ภควโต อรหโต สัมมา สัมพุทธัสสะ​

</B>​

นะโมตัสสะ ภควโต อรหโต สัมมา สัมพุทธัสสะ

กรรมชั่วอันหนึ่งอันใดก็ตามที่พวกข้าพเจ้า ได้ล่วงเกินแล้วต่อพระรัตนตรัยอันมี
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรม และพระอริยสงฆ์เจ้าทั้งหลาย
ทั้งทางกาย วาจา ใจ โดยเจตนาก็ตาม หรือไม่เจตนาก็ตาม โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี
พวกข้าพเจ้าขอกราบขอขมาซึ่งโทษล่วงเกินอันนั้น
ขอพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรม และพระอริยะสงฆ์ ได้โปรดอดโทษซึ่งกรรมชั่วเหล่านั้น
ให้แก่พวกข้าพเจ้า ตั้งแต่บัดนี้ตราบเท้าเข้าสู่พระนิพพาน...
​

</TD></TR><TR><TD colSpan=2>

จากคุณ : 4 [ 24 ก.ย. 2543 / 22:12:43 น. ] </B></B>

[SIZE=-1][ IP Address : 203.121.130.39 ][/SIZE]
​

</TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>​

​

</TD></TR></TBODY></TABLE>​

</B>

​

<TABLE cellSpacing=10 width=700 bgColor=#853a7b border=0><TBODY><TR><TD align=middle width="100%"><CENTER><TABLE width="100%" bgColor=#e4f3f3 border=0><TBODY><TR><TD colSpan=2>ความคิดเห็นที่ 1 : (โต) ​

นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
​

</B>นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ​

ขอนอบน้อมต่อพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น ผู้ไกลจากกิเลส เป็นผู้ตรัสรู้ชอบได้ด้วยพระองค์เองฯ
ขอนอบน้อมต่อพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น ผู้ไกลจากกิเลส เป็นผู้ตรัสรู้ชอบได้ด้วยพระองค์เองฯ
ขอนอบน้อมต่อพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น ผู้ไกลจากกิเลส เป็นผู้ตรัสรู้ชอบได้ด้วยพระองค์เองฯ

สัพพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต
อุกาสะ ทวารัตตะเยนะ กะตัง
สัพพัง อะปะราถัง ขะมะถะเม ภันเต
อุกาสะ ขะมามะ ภันเตฯ

หากข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ได้เคยประมาทพลาดพลั้งล่วงเกินต่อพระรัตนตรัย อันมีพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรม และพระอริยะสงฆ์ทั้งหลาย ในชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ด้วยทางกาย หรอทางวาจาก็ดี และด้วยเจตนาหรือไม่มีเจตนาก็ดี รู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย และผู้มีพระคุณทุกท่าน ได้โปรดอดโทษให้แก่ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตราบเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ​

</TD></TR><TR><TD colSpan=2>

จากคุณ : โต [ 25 ก.ย. 2543 / 10:33:53 น. ] </B>​

[SIZE=-1][ IP Address : 161.246.14.88 ][/SIZE] ​

</TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER></B>


</TD></TR></TBODY></TABLE>​

</B>

ที่มา http://www.larntum.in.th/cgi-bin/kratoo.pl/001667.htm

....................................................​

พุทธํ สรณํ คจฺฉามิ (พุทธัง สะระณัง คัตฉามิ) แปลว่า ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเป็นที่พึ่ง การที่ชาวพุทธกล่าวคำขอพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งนี้ เพราะพระพุทธเจ้าเป็นผู้ประเสริฐด้วยพระคุณ คือพระปัญญาคุณ พระวิสุทธิคุณ และพระมหากรุณาคุณ เมื่อชาวพุทธกล่าวคำระลึกถึงพระพุทธเจ้าดังนี้แล้ว จะทำให้เกิดศรัทธาเชื่อมั่นในพระพุทธคุณ

ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ (ธัมมัง สะระณัง คัตฉามิ) แปลว่า ข้าพเจ้าขอถึงพระธรรมเป็นที่พึ่ง การที่ชาวพุทธกล่าวคำขอพระธรรมเป็นที่พึ่ง เพราะพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าเป็นคำสอนประเสริฐด้วยพระคุณ คือ คุ้มครองรักษาผู้ปฏิบัติไม่ให้เป็นคนชั่ว เมื่อชาวพุทธกล่าวคำระลึกถึงพระธรรมจะทำให้เกิดความศรัทธา เชื่อมั่นในพระพุทธเจ้าคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า

สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ (สังฆัง สะระณัง คัตฉามิ) แปลว่า ข้าพเจ้าขอถึงพระสงฆ์เป็นที่พึ่ง เพราะพระสงฆ์เป็นผู้ประเสริฐด้วยคุณความดีเป็นผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติตรง เมื่อชาวพุทธกล่าวคำระลึกถึงพระสงฆ์แล้ว จะทำให้เกิดความศรัทธาในความบริสุทธิ์ และการปฏิบัติของพระสงฆ์ผู้สืบทอดพระพุทธศาสนา
การปฏิญาณ ขอรับพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่งนี้เรียกว่า ไตรสรณคมน์

ที่มา http://ecurriculum.mv.ac.th/ebhuddismmusiem/religion/dhammathai/view.php-No=744.htm​

 

ผมเคยอ่านในพระสูตรจำเนื้อหาที่พระพุทธองค์ท่านทรงสอนว่า

1.เรื่องไม่จริงพูดไปคนฟังเดือดรัอนไม่เป็นผลดี ไม่ควรพูด
2.เรื่องไม่จริงพูดไปคนฟังร่มเย็นเป็นผลดี ไม่ควรพูด
3.เรื่องจริงพูดไปคนฟังเดือดร้อนไม่เป็นผลดี ไม่ควรพูด
4.เรื่องจริงพูดไปคนฟังร่มเย็นเป็นผลดี ควรพูด

สรุปคือพระพุทธองค์ท่านสอนให้พูดแต่เรื่องจริง ดีงามร่มเย็น ไม่ควรโกหก แม้แต่โกหกให้เขาทำความดีก็ไม่ควร

 

<TABLE width=550 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top> พุทธศาสนสุภาษิต หมวดที่ 4 "หมวดวาจา"</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=5 width=550 align=center border=0><TBODY><TR bgColor=#ff9900><TD background=../pics/22orange.gif height=20>

พุทธศาสนสุภาษิต​

</TD><TD background=../pics/22orange.gif height=20>

คำแปล​

</TD></TR><TR bgColor=#ffee99><TD width="50%" height=25>วาจํ ปมุญเจ กุสลํ นาติเวลํ</TD><TD height=25>ไม่ควรเปล่งวาจาที่ดี ให้เกินแก่ควรกาล</TD></TR><TR bgColor=#ffdd99><TD width="50%" height=25>พทฺธาปิ ตตฺถ มุจฺจนฺติ ยตฺถ ธีรา ปภาสเร </TD><TD height=25>คนมีปัญญา แม้มีปัญหา และ ถูกผูกมัดอยู่ พอพูดในเรื่องใด ก็หลุดได้ในเรื่องนั้น </TD></TR><TR bgColor=#ffee99><TD width="50%" height=25>หทยสฺส สทิสี วาจา </TD><TD height=25>ว า จ า เ ช่ น เ ดี ย ว กั บ ใ จ</TD></TR><TR bgColor=#ffdd99><TD width="50%" height=25>น หิ มุญเจยฺย ปาปิกํ</TD><TD height=25>ไม่ควรเปล่งวาจาที่ชั่วเลย</TD></TR><TR bgColor=#ffee99><TD width="50%" height=25>อพทฺธา ตตฺถ พชฺฌนฺติ</TD><TD height=25>คนพาลที่ยังไม่ถูกผูกมัด แต่พอพูดในเรื่องใด ก็ถูกผูกมัดตัวในเรื่องนั้น </TD></TR><TR bgColor=#ffdd99><TD width="50%" height=25>มุตฺวา ตปฺปติ ปาปิกํ </TD><TD height=25>คนกล่าววาจาชั่ว ย่อมเดือดร้อน</TD></TR><TR bgColor=#ffee99><TD width="50%" height=25>มนุญฺญเมว ภาเสยฺยํ</TD><TD height=25>ควรกล่าวแต่วาจา ที่น่าพอใจ</TD></TR><TR bgColor=#ffdd99><TD width="50%" height=25>ทุฏฺฐสฺส ผรุสา วาจา</TD><TD height=25>คนโกรธมีวาจาหยาบ</TD></TR><TR bgColor=#ffee99><TD width="50%" height=25>สจฺจํ เว อมตา วาจา</TD><TD height=25>คำสัตย์ แลเป็นวาจาที่ไม่ตาย</TD></TR><TR bgColor=#ffdd99><TD width="50%" height=25>อภูวาที นิรยํ อุเปติ</TD><TD height=25>คนพูดไม่จริง ย่อมเข้าถึงนรก</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE width=550 align=center border=0><TBODY><TR><TD> สารบัญพุทธศาสนสุภาษิต วิธีอ่านคำภาษาบาลี</TD></TR></TBODY></TABLE>

ที่มา.. http://www.dhammathai.org/proverb/proverbthai04.php