เรื่องเด่น เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑๘ มีนาคม ๒๕๖๘

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 18 มีนาคม 2025 at 17:54.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    21,003
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,676
    ค่าพลัง:
    +26,537
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑๘ มีนาคม ๒๕๖๘


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 18.jpg
      18.jpg
      ขนาดไฟล์:
      340.3 KB
      เปิดดู:
      12
  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    21,003
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,676
    ค่าพลัง:
    +26,537
    วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๑๘ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ อากาศที่โรงแรม DEL Style Osaka - Shin Umeda ซึ่งอยู่ในเขตฟูกุชิมะ เมืองโอซากา ช่วงเช้าอยู่ที่ ๔ องศาเซลเซียส ทางโรงแรมเปิดห้องอาหารให้ตอน ๐๖.๑๕ น. ตามเวลาที่ประเทศญี่ปุ่น ถ้านับเป็นเวลาเมืองไทยก็ราว ๆ ๐๔.๑๕ น.

    ข้าวปลาอาหารนั้นถึงแม้ว่าจะเป็นบุฟเฟต์ ตักเท่าไรก็ได้ แต่กระผม/อาตมภาพเคยชินกับการปฏิบัติแบบพระ ก็คือตักครั้งเดียว นั่งลงฉันเสร็จก็เลิกกันไปเลย จึงทำให้รู้สึกว่าข้าวปลาอาหารของที่นี่ ถ้าสำหรับบุคคลทั่วไปแล้วก็คงประมาณว่าแค่ฉันรองท้องเท่านั้น..!

    เสร็จจากมื้ออาหารเช้า หลายคนก็กลับขึ้นห้องพัก เข้าห้องน้ำจนเรียบร้อย แล้วพวกเราก็เดินฝ่าลมหนาวไปยังสถานีกลางโอซากา เพื่อที่จะขึ้นรถไฟไปยังเมืองนารา ซึ่งรถไฟต่อรถแรกของเรานั้น ไปลงที่สถานีเท็นโนจิ แล้วต่อรถไฟช่วงที่สองไปยังเมืองนารา

    เมื่อลงรถไฟที่สถานีรถไฟนาราแล้ว พวกเราก็ต้องมาซื้อบัตรสำหรับขึ้นรถเมล์ เพื่อไปยังวัดโทไดจิ เขตเมืองนาราชิ ซึ่งนาราชิก็คือนาราใหม่นั่นเอง การซื้อบัตรที่นี่สะดวกสบายมาก เนื่องเพราะว่าใครมีบัตรเก่าอยู่ ก็สามารถเอามาเติมเงินแล้วก็ขึ้นรถเมล์ได้ ค่ารถเมล์คนละ ๒๕๐ เยน

    พอพวกเราเริ่มเข้าเขตนาราชิ ก็เห็นแต่ฝูงกวางเดินตามนักท่องเที่ยวเต็มไปหมด แต่เราต้องเลยจากจุดนั้นไปอีก ๒ ป้ายแล้วถึงได้ลง เพื่อที่จะตรงไปยังวัดโทไดจิ ซึ่งสร้างมาประมาณ ๑,๒๐๐ ปีแล้ว จัดว่าเป็นวัดที่มีวิหารไม้ ซึ่งใหญ่ที่สุดในโลกก็ว่าได้ เนื่องเพราะว่าวิหารไม้แบบนี้ หลังแรกนั้นโดนไฟไหม้ไป ซึ่งใหญ่กว่าหลังปัจจุบันนี้อีก

    เมื่อพวกเราข้ามถนนไป ก็เจอกับฝูงกวางนอนตากแดดเคี้ยวเอื้องอยู่เต็มไปหมด ทิดโฮป (นายกฤตบุญ ปัญจรัตนากร) จัดการซื้ออาหารเลี้ยงกวางชุดละ ๒๐๐ เยน มอบให้กระผม/อาตมภาพทำการเลี้ยงพวกกวางทั้งหลาย ซึ่งพอเห็นว่ามีอาหารก็ลุกขึ้นมารุมล้อมเต็มไปหมด ตัวไหนถ้าหากว่าชักช้าไม่ทันใจก็ดึงจีวรบ้าง ดึงผ้าคลุมบ้าง เพื่อให้หันไปเลี้ยงตนเอง บางตัวก็โค้งแล้วโค้งอีกเพื่อขออาหาร ไม่ทราบเหมือนกันว่าใครเป็นคนสอนเอาไว้..!
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    21,003
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,676
    ค่าพลัง:
    +26,537
    จนกระทั่งไม่มีอะไรเหลือที่จะเลี้ยงกวางแล้ว พวกเราถึงได้เดินเข้าไปภายในวัด ซึ่งจะต้องไปซื้อตั๋วเพื่อเข้าชมเสียก่อน เพียงแต่มีข้อห้ามว่าไม่ให้ถ่ายรูปหมู่ทางด้านหน้าวิหารไม้หลังใหญ่ เนื่องเพราะว่าเวลานักท่องเที่ยวมาก ๆ แล้วไปเกะกะเขา แต่กระนั้นก็ตาม ยังมีคนไปถ่ายรูปเดี่ยวกันชนิดที่เรียกว่าตะแบงข้างคำสั่งของเขาไป เพราะว่าไม่ใช่รูปหมู่..! เนื่องเพราะว่าหน้าวิหารไม้หลังใหญ่นั้นมีของสำคัญคือตะเกียงสัมฤทธิ์ ซึ่งสร้างมาพร้อมกับวัด ก็แปลว่าอายุ ๑,๒๐๐ กว่าปีแล้ว..!

    พวกเราเข้าไปกราบหลวงพ่อวัดโทไดจิ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปสัมฤทธิ์องค์ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น มีความสูงถึง ๑๕ เมตร ทางด้านข้างซ้ายขวายังมีพระพุทธรูปขนาดรองลงมาอีกข้างละ ๑ องค์ ถ้าหากว่าวนไปทางด้านซ้ายมือนั้น จะมีรูปแกะสลักท้าวจาตุมหาราชอยู่ ๑ องค์ ใหญ่โตมโหฬารมาก ถ้าอ้อมไปทางด้านหลังก็จะมีโมเดลให้ดูว่า ศาลาเดิมที่หลังใหญ่กว่าปัจจุบันนี้ หน้าตาเป็นอย่างไร ? แล้วรูปทรงในปัจจุบันนี้เป็นอย่างไร ?

    พวกเราเมื่อชมและสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์กันแล้ว ก็ยังต้องรอคณะให้มาพร้อมเพรียงกันด้วย ทิดโฮปของเราก็เลยไปสำแดงวิชาดำดิน มุดลอดต้นเสา ซึ่งมีความเชื่อกันว่ารูที่ต้นเสานั้นมีความใหญ่เท่ากับช่องพระนาสิกของหลวงพ่อโตวัดโทไดจินี่เอง ถ้าใครสามารถมุดลอดไปได้ก็จะมีแต่ความโชคดี ทิดโฮปของเราก็เลยจัดการมุดข้ามไป โดยมีกระผม/อาตมภาพช่วยยันปลายเท้าส่งไปให้ เพื่อที่จะให้พ้นจากอุปสรรคต่าง ๆ และประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว..!

    แต่ว่ามีผู้หญิงอยู่คนหนึ่ง ซึ่งก็ไม่ได้ตัวใหญ่ตัวโตอะไรนัก แต่ทำไมมุด ๒ ครั้ง ๓ ครั้ง แม้แต่ไหล่ก็ไม่สามารถที่จะเข้าได้ จนกระทั่งไปยืนบ่นกับพรรคพวกตัวเองว่า "เป็นเพราะอะไรถึงมุดไม่เข้า ?" กระผม/อาตมภาพก็ไม่สามารถที่จะตอบได้เช่นกัน จนกระทั่งพวกเรามากันครบ คนไหนอยากมุด คนไหนอยากลอด ก็ทำตามสบาย กระผม/อาตมภาพเองแม้มั่นใจว่าจะลอดได้ แต่ว่าถ้าไปลอดก็คงจะดูไม่งาม จึงมีหน้าที่คอยเชียร์คนอื่นเท่านั้น

    ในช่วงที่ถ่ายรูปหมู่ด้านข้างหลวงพ่อโตวัดโทไดจิ มีฝรั่งใจดีรับอาสาเป็นตากล้องให้ แต่ด้วยความที่พ่อเจ้าประคุณไม่เข้าใจ จึงตั้งใจจะถ่ายรูปแต่พวกเราเท่านั้น โดยที่ถ่ายหลวงพ่อโตได้ครึ่งองค์ หรือว่าได้เศียรส่วนหนึ่งเท่านั้น จนกระทั่งต้องกดเป็นเลนส์ไวด์ พ่อเจ้าประคุณจึงสามารถที่จะถ่ายพระพุทธรูปได้เต็มองค์อย่างที่พวกเราต้องการ
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    21,003
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,676
    ค่าพลัง:
    +26,537
    ครั้นออกมาทางด้านหน้าประตูแล้ว ถ้าหากว่าเป็นขาเข้าก็อยู่ทางขวามือ ถ้าหากว่าเป็นขาออกก็จะอยู่ทางซ้ายมือ มีรูปแกะสลักจากไม้ของหลวงพ่อบินซูรุ ซึ่งถ้าเป็นภาษาบาลีคือหลวงพ่อปิลโฑลภารทวาชะ ซึ่งสร้างมาแล้วประมาณ ๗๐๐ กว่า ๘๐๐ ปี มีความเชื่อว่าเราเจ็บไข้ได้ป่วยตรงไหน ถ้าลูบคลำส่วนนั้นของหลวงพ่อ เราก็จะหายป่วย กระผม/อาตมภาพก็เลยลูบหม้อยาในมือหลวงพ่อไปเลย เพราะว่าป่วยทั้งตัว ไม่รู้ว่าจะลูบอย่างไร ?!

    แล้วก็เดินออกมาวนออกทางด้านซ้ายมือ ซึ่งผ่านร้านค้าของที่ระลึก ทำให้หลายต่อหลายคนต้องละลายทรัพย์กันยกใหญ่ กระผม/อาตมภาพเองเป็นคนตัดสินใจเร็ว รีบ ๆ ซื้อ รีบ ๆ ออกมา ก็เลยมานั่งรอคนอื่นเสียนาน ทิดโฮปเห็นว่าเสียเวลารอนานจึงส่งขนมสำหรับกวางมาอีก แต่ว่าเพิ่งจะเริ่มเลี้ยง โยมที่กวาดถนนอยู่บริเวณนั้นก็ขอร้องว่าอย่าเลี้ยงแถวนี้ เนื่องเพราะว่าถ้ากวางถ่ายเลอะเทอะ ตนเองก็มีงานเพิ่มขึ้น ฟังดูแล้วก็น่าเห็นใจอยู่เหมือนกัน

    เมื่อรอพวกเราออกมาจนครบถ้วนและเดินออกมาทุกคนก็ร้อง "โอ้โฮ..!" เนื่องเพราะว่านักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลเข้าไปนั้น ดูแล้วมืดฟ้ามัวดินไปหมด ถ้าพวกเราช้ามีหวังน้ำตาเล็ดแน่ ๆ..!

    คุณเผือกน้อย (นายเฉลิมเดช รุจิราวรรณ) เจ้าภาพทัวร์ครั้งนี้ พาพวกเราตรงไปยัง Nara National Museum (พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติเมืองนารา) ซื้อตั๋วคนละ ๗๐๐ เยนให้พวกเราเข้าไปชมพระพุทธรูปงาม ๆ ตลอดจนกระทั่งเทวรูปและส่วนประกอบอื่น ๆ ซึ่งรูปไหนก็ตามที่สวยงามสมบูรณ์ เจ้าหน้าที่จะห้ามถ่ายรูป ซึ่งความชัดเจนจะอยู่ตรงที่ว่า ถ้าหากว่าเป็นรูปกล้องแล้วมีขีดขวางสีแดง ก็แปลว่าห้ามถ่ายรูปเลย ถ้าหากว่ามีรูปกล้องขีดขวางสีแดง แล้วมีแสงแฟล็ช ก็แปลว่าถ่ายรูปได้แต่ห้ามใช้แฟล็ช ถ้าเป็นรูปกล้องมีวงกลมสีเขียวล้อมรอบ ก็สามารถที่จะถ่ายรูปได้ตามสบาย ซึ่งนับว่าชัดเจนดี

    แต่เหตุที่ว่าห้ามถ่ายรูปพระพุทธรูปงาม ๆ เหล่านั้นก็น่าจะเป็นไปได้ว่า ถ้าออกไปแล้วบุคคลที่เห็น มีความต้องการ อาจจะมีใบสั่งให้ขโมยพระพุทธรูปองค์นั้น ๆ ก็เป็นได้..!

    กระผม/อาตมภาพซึ่งปกติแล้ว ก็ชอบฝ่าฝืนป้ายห้ามหรือว่าคำสั่ง แต่วันนี้ต้องทำตัวสงบเสงี่ยมเรียบร้อย เนื่องเพราะว่ายังเหลือเวลาอยู่ที่ญี่ปุ่นนี้อีก ๓ วัน ขืนรบกวนท่านฮันโซมากไปก็อาจจะทำให้ตนเองเดือดร้อนทีหลังได้ เก็บเอาไว้รบกวนในเรื่องที่สำคัญกว่านี้จะดีกว่า
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    21,003
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,676
    ค่าพลัง:
    +26,537
    เมื่อวนกันจนรอบแล้วก็ออกมาเข้าห้องน้ำ จากนั้นพวกเราก็เดินตามกูเกิ้ลแม็พเพื่อไปยังร้านอาหาร ซึ่งหมอโส (นายโสภณ ศิริปุณย์) ได้นำหน้าไปเพื่อสั่งอาหารสำหรับพวกเราแล้ว ปรากฏว่าเดินแล้วเดินอีก และเดินแล้วเดินอีก จนกระทั่งรู้สึกว่าเรี่ยวแรงชักจะหดหาย ไม่ทราบเหมือนกันว่าเลี้ยวไปกี่แยกและกี่ซอย ?!! ก็มาถึงร้านอาหารที่ว่า แต่ก็ยังต้องรออยู่ด้านนอก เนื่องเพราะว่าโต๊ะยังไม่ว่าง..!

    บรรดาผู้เชี่ยวชาญก็เข้าไปสั่งอาหารจากตู้อัตโนมัติ ซึ่งต้องใส่เงินเข้าไป แล้วกดรายการอาหารที่ตนเองต้องการ ใบสั่งก็จะไปปรากฏที่พ่อครัวแม่ครัว ชอบใจอยู่อย่างเดียวว่าเจ้าของร้านผู้หญิงสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ แม้ว่าจะเป็นภาษาอังกฤษสำเนียงญี่ปุ่นก็ตาม

    พวกเรารออยู่เกินครึ่งชั่วโมง กว่าที่จะมีโต๊ะว่างให้เข้าไปข้างในได้ ปรากฏว่าเมื่อชามราเม็งมาถึง กระผม/อาตมภาพก็ตกใจ เพราะว่าชามใหญ่มาก แต่ในระหว่างที่รอน้ำซุปตามมานั้น ตั้งใจใช้ตะเกียบคีบดูว่ามีเส้นจำนวนมากน้อยเท่าไร รู้สึกว่าไปกระทบอะไรแปลก ๆ จึงเขี่ยเส้นออกแล้วดู ถึงได้เห็นว่าด้านล่างนั้นมีไม้สานเป็นวงกลม รองครึ่งชามล่างเอาไว้ มีเส้นเฉพาะครึ่งบนเท่านั้น ทุกคนตกอยู่ในอาการประมาณว่า "คุณหลอกดาว..!"

    แล้วพอน้ำซุปมาถึง วิธีการกินก็คือคีบเอาเส้น เนื้อหมู หรือว่าเนื้อไก่ตามที่ตนเองสั่งเอาไว้นั้น ลงไปลวกจิ้มในน้ำซุปร้อน ๆ แล้วค่อยคีบใส่ปากของตน เป็นอันว่าใครถนัดแบบไหนก็ทำแบบนั้นแล้วกัน ฉันเสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็ออกมาที่หน้าร้าน ซึ่งมีขนมขายอยู่ฝั่งตรงกันข้าม ไปสั่งขนมกินกันต่อ ขณะที่ทางหน้าร้านก็มีญาติโยมเข้าแถวเพื่อรอคิวเข้าร้านอาหารกันอยู่จำนวนไม่น้อยเลย

    ครั้นเมื่อได้ขนมที่ตนเองต้องการกันแล้วก็เดินย้อนกลับมาทางเดิม ถึงทางด้านข้างสระน้ำ ซึ่งมีร้านกาแฟยี่ห้อดังของฝรั่งอยู่ พวกเราเข้าไป ส่วนหนึ่งก็ซื้อกาแฟ ส่วนหนึ่งก็สั่งน้ำชาสำหรับกระผม/อาตมภาพ ครั้นได้มาเรียบร้อยแล้วก็ขึ้นไปยังวัดโกฟุกุจิ เพื่อที่จะสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งต้องซื้อตั๋วเข้าไปบริเวณวิหารทองคนละ ๗๐๐ เยน และส่วนที่สำคัญอีกส่วนหนึ่งก็คือพระเจดีย์ ๕ ชั้น แต่ปรากฏว่าเขาตีเป็นโรงงานมหึมาคลุมเจดีย์ไว้ทั้งหลังเพื่อทำการปิดซ่อม ไม่รู้ว่าอีกกี่ปีถึงจะเสร็จเรียบร้อย
     
  6. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    21,003
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,676
    ค่าพลัง:
    +26,537
    ครั้นออกมาทางด้านข้างพิพิธภัณฑ์ของวัด ต้องจ่ายอีกคนละ ๗๐๐ เยนถึงจะเข้าชมได้ กระผม/อาตมภาพจึงชี้ให้ทุกคนดูรูปแปดเทพอสูรมังกรฟ้าพิทักษ์พระพุทธซึ่งเป็นรูปในโบรชัวร์แทน เนื่องเพราะว่ารูปภายในก็ประมาณนี้เท่านั้น

    จากนั้นพวกเราก็เดินออกไปทางด้านนอกเพื่อที่ไปต่อรถเมล์ ครั้นขึ้นรถแล้วก็ย้อนกลับมายังสถานีรถไฟเมืองนารา แต่ขากลับนั้นกลับกลายเป็นการนั่งรถไฟแค่ต่อเดียวเท่านั้น เมื่อสอบถามแล้วผู้เชี่ยวชาญบอกว่า ขึ้นอยู่กับการจัดตารางรถ ซึ่งตอนเช้าต้องนั่งสองต่อ ถ้าตอนบ่ายก็นั่งต่อเดียวอะไรประมาณนี้

    พวกเรามาลงรถไฟที่สถานีกลางโอซากาแล้ว ก็ยังงง ๆ อยู่พักใหญ่ เนื่องเพราะว่าประตูออกมีทั้ง ๔ ทิศ จนท้ายที่สุดก็ใช้วิธีเปิดกูเกิ้ลแม็พ เพื่อเดินทางกลับยังที่พักของพวกเรา ทุกคนอยู่ในลักษณะที่ทั้งเหนื่อย ทั้งเพลีย ประมาณว่าแทบจะไร้แรงบินแล้ว จึงพากันกลับขึ้นห้องพักของตนเอง เพื่อเก็บแรงเอาไว้ในการเที่ยววันพรุ่งนี้ กระผม/อาตมภาพเมื่อบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนนี้เสร็จแล้วก็ว่าจะพักเหมือนกัน

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันอังคารที่ ๑๘ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...