เรื่องเด่น เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๖๘

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 22 พฤษภาคม 2025 at 16:57.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    21,904
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,753
    ค่าพลัง:
    +26,620
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๖๘


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    21,904
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,753
    ค่าพลัง:
    +26,620
    วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๒๒ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ มีหลายเรื่องที่กระผม/อาตมภาพอยากจะกล่าวถึง

    ประการแรกเลยก็คือทางตำรวจซึ่งสอบสวนคดีอดีตท่านเจ้าคุณแย้ม - พระธรรมวชิรานุวัตร, ดร. (แย้ม กิตฺตินฺธโร) โกงเงินวัด จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่เจอเส้นทางการเงินที่โยงกับเว็บพนัน ส่วนเงินที่โอนไปตามที่โดนผู้หญิงข่มขู่ ยอดทั้งหมดก็อยู่ที่ ๑๗๖ ล้านบาทเท่านั้น

    เหตุที่ใช้คำว่า "เท่านั้น" ก็เพราะว่า บรรดาผู้สื่อข่าวไปขุดคุ้ยกันมาว่า ๓๐๐ ล้านบาท ๘๐๐ - ๙๐๐ ล้านบาท เป็น ๑,๐๐๐ ล้านบาทบ้าง ซึ่งเรื่องพวกนี้ พอความจริงกระจ่างชัด บรรดาผู้สื่อข่าวซึ่งตั้งใจจะขายข่าวโดยไม่สนใจจรรยาบรรณใด ๆ ทั้งสิ้น ก็ไม่เคยที่จะออกมาขอโทษสังคมหรือว่าผู้ติดตามข่าวเลยแม้แต่นิดเดียว..!

    เรื่องต่อไปก็คือโครงการธุดงค์ธรรมยาตราสองฝั่งโขง ซึ่งคณะพระวิปัสสนาจารย์ ๖๔ ของกระผม/อาตมภาพเป็นเจ้าภาพจัดนั้น วันนี้มีพระขออนุญาตถอนตัว ๑ ราย เหตุเพราะว่าเครื่องใช้ไม้สอยในการธุดงค์ ไม่ว่าจะเป็นเต็นท์ เป็นเชือก เป็นสมอบกสูญหาย คำว่าสูญหายในที่นี้ก็ไม่ได้หายไปไหน ก็น่าจะอยู่ในบรรดาผู้ที่ร่วมเดินทาง ๑ ใน ๘๓ รูปนั่นแหละ..!

    กระผม/อาตมภาพได้ยินแล้วก็รู้สึกสะท้อนใจ นี่เป็นการแสดงออกอย่างชัดเจนว่า
    บุคคลผู้ร่วมโครงการซึ่งก็คือพระภิกษุนั้น ยังมีส่วนหนึ่งไม่สนใจเรื่องของศีล เรื่องของธรรม ไม่สามารถที่จะระงับยับยั้ง รัก โลภ โกรธ หลง ได้สมกับที่เป็นนักบวช เห็นสิ่งของของผู้คน อยากได้แล้วก็หยิบฉวยเอาตามใจชอบ

    กระผม/อาตมภาพหนักใจตั้งแต่แรกแล้วที่มีผู้สมัครเข้ามา แล้วแจ้งว่าพรรษาที่ ๑ บ้าง พรรษาที่ ๒ บ้าง เป็นจำนวนมาก แต่ว่าหลวงพ่อพระครูณรงค์ศักดิ์ (พระครูกิตติธรรมนิวิฐ) รองเจ้าคณะจังหวัดสกลนคร ซึ่งกระผม/อาตมภาพผลักดันท่านขึ้นไปเป็นประธานรุ่น บอกว่า "ไม่เป็นไร เมื่อมีศรัทธาก็สามารถที่จะร่วมเดินทางกันได้" แล้วก็เกิดเหตุอย่างที่ว่ามา เนื่องเพราะว่ายังศึกษามาไม่ดี ในเรื่องของศีลพระ

    การหยิบฉวยสิ่งของที่เจ้าของไม่ได้ให้ เคลื่อนออกจากฐานแม้เพียง ๑/๑๖ ของเส้นผมก็ต้องอาบัติปาราชิก ขาดจากความเป็นพระไปแล้ว..! ท่านทั้งหลายเหล่านี้ไม่ได้มีความรักในเพศนักบวชของตนเองเลย แล้วการต้องอาบัติปาราชิกก็เป็นการปิดมรรคผล
    ในชาตินี้ไปเลย ก็แปลว่าท่านปฏิบัติเหนื่อยยากขนาดไหนก็ตาม ไม่สามารถจะเข้าถึงพระนิพพานได้ เป็นอะไรที่น่าเสียดายและน่าเสียใจเป็นอย่างยิ่ง..!
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    21,904
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,753
    ค่าพลัง:
    +26,620
    บางทีเพื่อนพระสังฆาธิการก็ตำหนิกระผม/อาตมภาพว่า "วัดท่าขนุนเข้มงวด โหดร้ายเกินไป พระยังไม่ถึง ๕ พรรษา ไม่ยอมปล่อยให้ออกไปไหน" กระผม/อาตมภาพแจ้งไปว่า ไม่ใช่ไม่ยอมปล่อยให้ออกไปไหน เขามีสิทธิ์ที่จะลาตามที่ทางวัดกำหนด แต่ว่าถ้ายังไม่ถึง ๕ พรรษา จะไม่อนุญาตให้ย้ายไปอยู่ที่อื่น ยกเว้นว่าพิจารณาแล้วว่าสถานที่นั้น มีพระอาวุโสซึ่งไปจากวัดท่าขนุน เป็นเจ้าอาวาส หรือเป็นประธานสงฆ์ดูแลอยู่ ก็จะพิจารณาอนุญาตให้เป็นราย ๆ ไป

    เหตุเพราะว่าพระของเรามีกฎเกณฑ์อยู่ว่า ถ้ายังไม่ครบ ๕ พรรษาเรียกว่าพระนวกะ คือเป็นผู้ใหม่ต่อการบวช ยังศึกษาอะไรไม่ครบถ้วน ยังต้องอยู่ใน "นิสสัย" ก็คืออาศัยครูอุปัชฌาย์อาจารย์อยู่ พ้น ๕ พรรษาไปแล้ว ถ้าศึกษาดี พระอุปัชฌาย์อาจารย์พิจารณาแล้วถึงจะให้"นิสสัยมุตตกะ" คือพ้นจากการอยู่อาศัยครูบาอาจารย์ได้ แต่ถึงพ้น ๕ พรรษาไปแล้ว ถ้าพิจารณาว่ายังศึกษาไม่ดี ก็จะไม่ให้ไปอยู่ที่อื่นเช่นกัน นี่คือสิ่งที่ทำกันมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล ที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังอยู่ยงดำรงขันธ์ คอยดูแลคณะสงฆ์อยู่ เมื่อมาถึงปัจจุบันนี้ ก็โดนปล่อยปละละเลยไปมาก

    สมัยที่กระผม/อาตมภาพยังอยู่ที่วัดท่าซุง ทำหน้าที่ดูแลศาลานวราชบพิตร นอกจากจำหน่ายวัตถุมงคลแล้ว ยังต้องรับพระรับโยมที่ขออนุญาตเข้าพักด้วย มีอยู่วันหนึ่งเจอพระอาคันตุกะ เดินจีวรลากพื้นมาทีเดียว จึงบอกท่านว่า "คุณ..ห่มผ้าให้เรียบร้อยก่อน แล้วค่อยมาขอเข้าพัก" ท่านบอกว่า "ช่วยห่มให้ผมด้วยครับ ผมเพิ่งบวชเมื่อเช้านี้เอง บวชแล้วก็ออกธุดงค์เลย..!"

    กระผม/อาตมภาพได้ยินแล้วก็กลืนน้ำลายแทบไม่ลง ก็คือพระอุปัชฌาย์อาจารย์ก็ไม่สั่งไม่สอนอะไรเลย ท่านเองก็กล้าจนเกินงาม ไม่รู้เรื่องอะไรแม้แต่อย่างเดียว แต่บอกว่าออกธุดงค์ ประมาณว่าถ้าอยู่ต่อไปได้แล้วโด่งดังขึ้นมา จะได้มีประวัติสวย ๆ ว่าธุดงค์ตั้งแต่วันแรกที่บวช ซึ่งเป็นการอวดความโง่ของตัวเองชัด ๆ..! เพราะเท่ากับบอกคนอื่นว่าตัวเองผิดศีลอยู่ทุกวัน เนื่องจากยังเป็นพระนวกะ อยู่ภายใต้การปกครองดูแลของครูบาอาจารย์ ยังไม่ได้รับอนุญาตให้พ้นจากนิสสัย ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ทุกอย่างที่ท่านทำจึงกลายเป็นสร้างอาบัติ คือศีลขาดใส่ตัวอยู่ทุกวัน..!
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    21,904
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,753
    ค่าพลัง:
    +26,620
    ถ้าเป็นที่วัดท่าขนุน ผู้ใดที่ไม่ได้รับอนุญาตแล้วแหกคอกหนีจากวัดไป ทางวัดจะขึ้นบัญชีดำเอาไว้ ไม่รับเข้าพัก ต่อให้สึกหาลาเพศกลับมาก็ไม่บวชให้ใหม่ เพราะถือว่าเป็นผู้ดื้อด้าน ไม่เชื่อฟังครูบาอาจาย์..!

    ถ้าพระอุปัชฌาย์อาจารย์หรือเจ้าอาวาสไม่เข้มงวดแบบนี้ ก็จะเจอสถานการณ์แบบเดียวกับที่คณะธุดงค์ธรรมยาตราสองฝั่งโขงเจอเข้า ก็คือการใช้สิ่งของที่ดูดี ดูมีราคา คนที่อยากได้ก็ขโมย โดยที่ไม่ได้คำนึงถึงว่าตนเองอยู่ในเพศนักบวช นอกจากจะมีโทษทางโลกก็คือลักขโมยสิ่งของ ถ้าเจ้าของจับได้ แจ้งความขึ้นมาก็คงจะกลายเป็นนักโทษไป ถ้าหากว่าในด้านธรรมะ ก็แปลว่าปิดมรรคผลนิพพานของตนเองไปเลย ชาตินี้เกิดมาเป็นหมันโดยสิ้นเชิง ทำความดีเท่าไรก็ไปถึงพระนิพพานไม่ได้..!

    จึงเป็นเรื่องที่น่าหนักใจมากสำหรับพระภิกษุสามเณรสมัยนี้ เพราะว่าส่วนใหญ่มั่นใจตัวเอง คิดว่ารู้ดี รู้ทั่ว รู้ครบ ทั้ง ๆ ที่การฝึกฝนนั้นยังไม่เป็นที่ไว้วางใจของครูบาอาจารย์ แต่ว่าตะเกียกตะกายไปขอธุดงค์ เพราะแค่อยากจะข้ามไปเหยียบประเทศลาวเท่านั้น ยังไม่ทันจะข้ามฝั่ง ก็ทำความขายหน้า สร้างทุกข์สร้างโทษให้กับตนเองจนถึงขนาดนี้..!

    ไม่ทราบเหมือนกันว่าท่านเองจะรู้ตัวหรือเปล่าว่า ขาดจากความเป็นพระไปแล้ว ? ต่อให้บวชอยู่ก็ไม่ใช่พระ นุ่งห่มผ้าเหลืองอยู่ก็ไม่ใช่พระ ไปร่วมกินร่วมนอนกับพระ ไปรับสิ่งของที่ญาติโยมผู้มีจิตศรัทธาถวาย ก็มีแต่สร้างทุกข์สร้างโทษให้ตัวเองหนักขึ้นไปทุกวัน รังแต่จะสร้างโทษจ่อมจมลงไปในนรกอเวจีหนักขึ้นไปเรื่อย ๆ..!

    กระผม/อาตมภาพไม่ได้เอาเรื่องนรกสวรรค์มาข่มขู่ท่านทั้งหลาย เนื่องเพราะว่าเห็นมาด้วยตนเองตั้งแต่ก่อนอายุ ๒๐ ปี จึงผลัดแล้วผลัดเล่า ไม่กล้าบวช เพราะเกรงว่าจะลงนรก..! เนื่องเพราะว่าจากภาพที่เห็น บรรดานักบวชลงไปจนแน่นขนัด เหมือนกับเปิดกล่องไม้ขีดแล้วเห็นหัวไม้ขีดอย่างไรอย่างนั้น ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เมื่อโยมแม่ขอร้องให้บวช จึงผลัดแล้วผลัดอีกจนอายุ ๒๗ ปี พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ ขอให้ช่วยบวชแก้บนให้ท่าน จึงได้รับปาก และตั้งใจจะบวชแค่ ๗ วันเท่านั้น..!
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    21,904
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,753
    ค่าพลัง:
    +26,620
    ที่อยู่มาได้จนทุกวันนี้ ก็เพราะความหน้าด้านหน้าทนที่ว่า ในเมื่อธรรมะของพระพุทธเจ้าเป็นของจริง เป็นของแท้ เราเองแค่ทำได้เพียงเศษเสี้ยวส่วนเดียว ยังมีความสุขขนาดนี้ ถ้าสามารถเข้าถึงที่สุดแห่งธรรมได้ จะมีความสุขขนาดไหน ?

    จึงได้หน้าด้านหน้าทน ต่อสู่ฟันฝ่า เพื่อหวังที่จะเข้าถึงที่สุดแห่งทุกข์ เพื่อที่จะล่วงพ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพาน โดยที่ทั้งตนเองก็ดี การสั่งสอนพระภิกษุสามเณรก็ดี ได้ย้ำเตือนตนเองและพระภิกษุสามเณรว่า
    "ถ้าเราไม่สามารถสร้างความเจริญให้กับพระพุทธศาสนาได้ ก็อย่าทำให้พระพุทธศาสนาต้องมาพังลงไปด้วยมือเรา..!"

    ในเมื่อเตือนสติตนเองลักษณะนี้ จึงได้หน้าด้านหน้าทนสู้มาจนถึงปัจจุบัน ท่ามกลางความเป็นห่วงเป็นใยต่อ
    บรรดาพระภิกษุสามเณรทั้งหลาย ที่ครูบาอาจารย์ไม่สั่งสอน หรือว่าสั่งสอนแต่ไม่ฟัง อาศัยความคิดเห็นของตนเองเป็นใหญ่ ไม่คิดที่จะศึกษาธรรมะหรือว่าศีลพระให้ลึกซึ้ง ไม่คิดที่จะรักษาตนเองให้รอดพ้นจากทุคติ เอาแต่ทำตามความปรารถนาของตนเอง ซึ่งมีแต่ก่อทุกข์ก่อโทษ ทั้งชาตินี้และชาติหน้า ปิดมรรคปิดผลยังไม่พอ ตายจากชาตินี้ยังต้องไปทุกข์ทรมานอยู่ในนรกอีกนับเวลาไม่ถ้วน เป็นอะไรที่น่าสงสารและน่าเห็นใจเป็นอย่างยิ่ง..!

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันพฤหัสบดีที่ ๒๒ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...