เรื่องเด่น เผยเคล็ดลับเชิงพุทธ!หนุนกูเกิลอันดับหนึ่งเว็บเสิร์ชเอนจิน

เผยเคล็ดลับเชิงพุทธ!หนุนกูเกิลอันดับหนึ่งเว็บเสิร์ชเอนจิน


10 ปีกว่าแล้วที่บริษัทกูเกิล (Google) ได้เห็นความสำคัญของการฝึกสติ สมาธิ เพื่อเป็นฐานให้เกิดปัญญา ตามแนวทางพระพุทธศาสนา หรือที่เรียกว่า “Mindfulness” โดยมีการจัดกิจกรรมหรือโครงการหรือโปรแกรมอย่างต่อเนื่องอย่างเช่นโปรแกรม Google Launchpad Accelerator(LPA) พร้อมกันนี้ยังเปิดโอกาสให้บุคคลหรือกลุ่มคนหรือทีมจากทั่วโลกสมัครเข้าร่วมได้ด้วย


พร้อมกันนี้ได้นิมนต์พระวิปัสสนาจารย์อย่างเช่นพระอาจารย์ติช นัท ฮันห์ ภิกษุชาวเวียดนามซึ่งพำนักอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส ได้เดินทางไปบรรยายและอบรมการทำสมาธิภาวนาวิถีพุทธให้กับพนักงานของบริษัทกูเกิ้ลที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นเวลาครึ่งวัน ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าสมาธิภาวนาเป็นวิถีปฏิบัติที่ส่งผลดีต่อสมองและเป็นเส้นทางไปสู่ความสุขด้วย

เพราะบริษัทกูเกิ้ลเห็นประโยชน์ของการฝึกสติทำให้ทีทักษะที่สำคัญ 3 ประการ ที่ดีในการทำงาน 1) ประสิทธิภาพการทำงานของคุณจะดีขึ้นอย่างมาก 2) คุณจะมีทักษะความเป็นผู้นำที่โดดเด่นมากขึ้น 3) จะมีความสามารถในการสร้างสถานะที่ทำให้เกิด “ความสุข”

จึงไม่แปลกที่บริษัทกูเกิ้ล(Google)จะครองความเป็นหนึ่งของเว็บไซต์ประเภทค้นหาหรือเสิร์ชเอนจิน เพราะมีกรอบความคิดตั้งแต่ก่อตั้งที่สำคัญ 3 ประการที่สอดคล้องกับหลักธรรมในพระพุทธศาสนาคือมีความง่าย สะอาด ว่าง จะเห็นได้ว่าหน้าเพจของเว็บไซต์กูเกิ้ลจะไม่มีการดีไซน์อะไรมากเป็นหน้าขาวๆ และข้อความเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ความว่างนี้เอง ตรงกับหลักธรรมสำคัญในพระพุทธศาสนาหรือความไม่มีอะไรคืออนัตตา ที่หลวงพ่อพุทธทาสให้นิยามความหมายคือความว่าง หรือความไม่มีตัวกู

ประการต่อมาคือ ให้ความสำคัญของความคิดที่ดีคือ “Mindfulness” ซึ่งความคิดที่ดีนี้ตรงกับหลักธรรมคือสัมมาสังกัปปะ 1 ใน 8 มรรคมีองค์แปดในอริยสัจ 4 ที่เป็นการบวนการของคิดหานวัตกรรม และมุ่งประโยชน์บุคคลอื่นเป็นสำคัญ

อีกประการหนึ่งคือเห็นความสำคัญของลิ้งค์ที่สืบค้นไม่มีจุดจบ ซึ่งลิ้งค์นี้คือเครือข่ายตรงกับหลักธรรมในพระพุทธศาสนาคือสังฆะคือให้ความสำคัญกับส่วนรวม และสุมาอี้ในยุคสามก๊กนำมาใช้รวมจีนเป็นผลสำคัญครองอาณาจักรยาวนานแล้วอีก 2 ก๊กแม้นว่ามีอำนาจ มีปัญญา แต่ไม่มีเครือข่ายก็ไม่รอด จะเห็นได้ว่าจะปัจจุนี้เครือข่ายคืออำนาจ ที่จะสามารถทำให้องค์กร ประชากรอยู่รอดในยุคอนิจจังที่ไม่มีความแน่อนอนบั่นป่วน (disruption) จึง ต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์ (reinvention) ตรงข้ามกับแนวคิดที่ยึดติดกับสิ่งเดิมๆ ไปไม่รอด



ขอขอบคุณที่มา
http://www.banmuang.co.th/news/education/123863