เครื่องราง"ลูกอม"

เครื่องราง"ลูกอม"คอลัมน์ ซูมโฟกัส

เซียนบ้านดอน


<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>
หลวง พ่อฤาษีตาไฟ หรือที่ลูกศิษย์ลูกหาชาวบ้านทั่วไปรู้จักท่านในนาม "หลวงพ่อถัง" (ทอง) สำนักสงฆ์ป่ามะม่วง จ.นครสวรรค์ ผู้พลิกตำนานถังตวงข้าวลงยันต์นำไปบูชา ส่งผลคณะศรัทธาทำมาหากินเจริญรุ่งเรือง ค้าขายดี ข้าวกล้าในนา ผักหญ้าในไร่ เพิ่มเป็นทวีคูณ ร่ำรวยกันมานักต่อนักแล้ว

แต่เดิม "หลวงพ่อถัง" ท่าน เป็นพระธุดงค์เดินทางไปทั่ว ข้ามน้ำข้ามทะเลไปถึงลาว เขมร พม่า ได้วิชาดีในป่ามานับไม่ถ้วน ชอบสร้างวัด พอสร้างแล้วญาติโยมนิมนต์ให้เป็นเจ้าอาวาส ท่านก็ไม่รับ เพราะไม่ชอบยึดติดกับตำแหน่ง
<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>


ล่าสุด ท่านเป็นเจ้าอาวาสที่วัดในกำแพงเพชร ทำให้เป็นที่มาของ "ถังดักทรัพย์" ที่คนมีประสบ การณ์มากที่สุด ตอนที่ท่านอยู่ในป่าท่านนิมิตเห็นองค์ปู่ฤาษีตาไฟมาอยู่กับท่าน ว่ากันว่าบางคำที่ท่านพูด บางจังหวะที่ท่านคิด เป็นขององค์ฤาษีตาไฟ ชาวบ้านเห็นว่าหลวงพ่อถังกับองค์ฤาษีตาไฟอยู่คู่กันทุกที่ จึงขนานนามว่า "หลวงปู่ฤาษีตาไฟ" ปัจจุบันท่านมาพำนักในสำนักสงฆ์ป่ามะม่วง จ.นครสวรรค์ เพื่อแสวงหาความสงบวิเวก

ตอนที่หลวงพ่อถังเดินธุดงค์ข้ามไปประเทศลาวได้ร่ำเรียนวิชาทำผงมหาเสน่ห์มา ที่นิยมเรียกว่า "พรายแม่หม้าย" ผสมกับ รังนกสาลิกา นำมาทำผงและปลุกเสก 7 เสาร์ 9 อังคาร เท่านี้เป็นผงวิเศษที่มีมหาอำนาจทางเมตตาค้าขายมากที่สุด

หลวงพ่อถังนำมาทำเป็นวัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง "ลูกอมครกแตก หรือลูกอมพรายแม่หม้าย" ปั้นเป็นลูกอมแบบมีห่วงไว้ ลูกอมนี้ตอนที่ท่านทำผงเสร็จแล้ว ท่านเสกไว้จนผงแข็งตัว นำใส่ครกตำผสมกล้วย สุดท้ายครกที่ตำแตกอย่างอัศจรรย์

หลวงพ่อถังบอกว่า ลูกอมนี้หลวงปู่ฤาษีตาไฟมาบอกท่านว่า "ถ้าจะเอาให้ขลังให้ขอครั้งเดียว จะสำเร็จสุดยอด" ลูกอมครกแตก สร้างไว้จำนวน 694 ลูก ให้บูชาลูกละ 185 บาท

เนื่องจากหลวงพ่อ ถังอยู่ที่สำนัก สงฆ์ป่ามะม่วง จ.นครสวรรค์ ติดต่อบูชาหรือมารับเองที่ท่านโดยตรง หรือบูชาที่วัดกระจับพินิจ (ข้างร.พ. ทหารเรือ) วัดหิรัญรูจี (วงเวียนใหญ่) วัดหัวลำโพง (พระครูสุเทพ) วัดสุทัศน์ (ในอุโบสถ) วัดทุ่งครุ (พระ ประแดง) และศูนย์พระเครื่องชั้นนำทั่วไป
ที่มา http://www.tumsrivichai.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538700889&Ntype=40