อำนาจกรรม

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 10 มกราคม 2010.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,174
    คนเราทุกคนที่เกิดมาบนโลกใบนี้ล้วนต้องมีชีวิตที่เป็นไปตามกรรม ด้วยเพราะกรรมเป็นสิ่งที่ดวงจิตวิญญาณของเราได้บันทึกและจดจำเอาไว้ แล้วนำเอากรรมเหล่านั้นมาเป็นสมบัติติดอยู่ภายในจิตวิญญาณของเรา กรรมจึงเป็นเสมือนเงาที่ติดตามตัวเราและเฝ้าคอยเวลาแห่งการส่งผล หากเราทำกรรมสิ่งใดเอาไว้ก็จะได้รับผลแห่งกรรมเช่นนั้นอย่างไม่อาจที่จะหลีกเลี่ยงเรื่องกรรมไปได้เลย
    คนที่ทำกรรมชั่วอันเป็นบาปกรรมเอาไว้ เมื่อกรรมติดตามให้ต้องมาชดใช้กรรมชั่วนั้น ก็พยายามที่จะหาหนทางหลบหลีกและไม่ต้องการรับกรรม เพราะกลัวการได้รับความทุกข์ จึงพยายามแสวงหาหนทางแก้กรรมด้วยอวิชชาความหลงเชื่อในรูปแบบต่างๆ ประจวบเหมาะกับในยุคสมัยปัจจุบันมักมีผู้ที่เข้ามาแสวงหาประโยชน์จากเรื่องของกรรม ด้วยการพยายามสร้างภาพให้ผู้คนเข้าใจว่าตนนั้นเป็นผู้ที่มีความสามารถพิเศษในการมองเห็นกรรม มองเห็นอดีตชาติ เห็นนรก สวรรค์
    เห็นดวงวิญญาณในปรโลก อีกทั้งยังมีความสามารถพิเศษที่จะแก้กรรมให้กับผู้คนได้
    แน่นอนว่าหากเป็นกรรมดีก็คงไม่มีใครต้องการให้ไปแก้ไขอะไรมัน เพราะกรรมดีนั้นเป็นกรรมแห่งความสุขและความสำเร็จ ส่วนเจ้ากรรมชั่วนั้นต่างหากที่ผู้คนต่างพยายามเอาชนะมัน ไม่มีใครต้องการได้รับผลของมัน ทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นผู้กระทำ เช่น คนที่เคยไปทำแท้งมาก็กลัวว่ากรรมที่ตนได้กระทำไปนั้นมันจะมาส่งผล กลัวดวงวิญญาณของเด็กที่ตายไปจะกลับมาล้างแค้น เมื่อกลัวผลแห่งกรรมจึงต่างพยายามแสวงหาหนทางแก้กรรม ฯลฯ
    หากกรรมที่กระทำนั้นได้เสร็จสิ้นสมบูรณ์ไปแล้ว เราย่อมไม่อาจที่จะไปแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงกรรมดังกล่าวได้ ยกตัวอย่างเช่น การที่เราเอามีดไปแทงคนตาย เมื่อแทงไปแล้ว และคนโดนแทงก็ตายไปแล้วจะไปเปลี่ยนแปลงกรรมเหล่านั้นได้อย่างไร จะทำให้ผู้ที่ตายไปแล้วฟื้นกลับคืนขึ้นมาได้อย่างไร
    แต่กรรมสามารถที่จะบรรเทาผลแห่งกรรมนั้นได้ด้วยกระบวนการทางจิต ซึ่งเริ่มต้นด้วยการสำนึกในกรรมที่ตนนั้นได้กระทำลงไป (ยอมรับว่ามันผิด) จากนั้นก็เข้าสู่ความเพียรในการชดใช้กรรมด้วยการประกอบกุศลกรรม ( ทาน ศีล ภาวนา) และแผ่เมตตา จนกว่ากรรมเหล่านั้นจะบรรเทาเบาบางลง และหากเป็นกรรมที่ไม่หนักก็ยังสามารถทำให้กรรมนั้นกลายเป็นอโหสิกรรมไปได้อีกด้วย
    ทุกวันนี้สังคมเรามุ่งแต่จะหาทางลัดที่จะหลีกเลี่ยงการได้รับผลของกรรมที่ตนเองเป็นผู้ก่อขึ้นมาด้วยการแก้กรรม คนที่หัวใสจึงเอาวิธีคิดทางโลกมาใช้ในเรื่องของกรรม ใช้ความโลภและความหลงอันเป็นสมบัติโลกมาเป็นเหยื่อล่อให้ผู้คนหลงเข้ามาใช้บริการแก้กรรม แต่บนโลกนี้ไม่มีผู้วิเศษคนใดที่จะสามารถมายกกรรมหรือแก้กรรมใดๆ ให้กับเราได้ คนที่บอกว่าสามารถมองเห็นกรรมของคนอื่นได้นั้น เท็จจริงประการใดเราไม่อาจทราบได้ เพราะเขารู้เขาเห็นเป็นส่วนตัวของเขาเอง เราไม่อาจไปตรวจสอบความรู้ความเห็นของเขาได้ว่ามันเป็นจริงหรือไม่ แต่ที่แปลกคือเมื่อมาบอกให้แก้กรรมด้วยการกระทำอย่างนั้นอย่างนี้ คนที่ขาดปัญญากลับพากันหลงเชื่อและกระทำตามสิ่งที่เขาบอกให้ทำ
    อำนาจแห่งกรรมนั้นไม่มีใครจะสามารถมาแก้ไขได้ กรรมเป็นสมบัติของเรา หากจะมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงบรรเทาผลแห่งกรรมก็จะต้องเกิดจากตัวของเราเป็นผู้กระทำเท่านั้น จะไปจ้างให้ใครเขามาแก้กรรมให้เราไม่ได้ จะเอาเงินไปซื้อบุญกุศลมาแก้กรรมก็ไม่ได้ หากเราเริ่มต้นทำที่ตัวเราเองก่อน ด้วยการสำรวมกาย วาจา และจิตใจของเราให้ถึงพร้อมด้วยความบริสุทธิ์สะอาด ไม่เบียดเบียนผู้ใด ทั้งทางกาย วาจา และจิตใจ ประกอบกุศลกรรม ทั้งทาน ศีล และเจริญภาวนา แผ่เมตตาให้กับบรรดาสรรพสัตว์ทั้งหลายอันเป็นเพื่อนร่วมทุกข์ เกิดแก่เจ็บตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น เราต้องทำตัวของเราให้เป็นสิ่งวิเศษให้จงได้
    หากตัวเรากลายเป็นของวิเศษแล้วเราก็ไม่จำเป็นต้องไปให้ใครเขามาแก้กรรมให้กับเรา เพราะเราสามารถทำเองได้ และรับประกันว่าเป็นวิธีการในการบรรเทาผลแห่งกรรมที่ถูกต้องที่สุด ได้ผลดีที่สุด อีกทั้งไม่หลง ไม่งมงาย
    กรรมเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวเรามาก ทุกวันนี้เรายังคงประกอบกรรมชั่วอยู่อีกหรือไม่ กรรมชั่วคือกรรมที่เรากระทำแล้วมันไปเบียดเบียนผู้อื่นให้ได้รับความเดือดร้อน ทั้งทางกาย วาจา และจิตใจ ทั้งหนักทั้งเบา ทำให้เกิดความทุกข์ทรมาน คับแค้นจิตใจ บีบบังคับ สร้างความทุกข์ให้กับผู้อื่นทั้งที่รู้ก็ดีไม่รู้ก็ดี ล้วนเป็นกรรมทั้งนั้น
    ปีเก่าผ่านไป มาเริ่มต้นรับปีใหม่กันด้วยการสร้างกรรมดี ละเว้นการสร้างกรรมชั่ว ด้วยการหยิบยื่นความสุขให้กับผู้อื่นดูบ้าง กระทำกรรมที่ทำแล้วได้รอยยิ้ม ได้ความสุข ได้ความปีติ กรรมเหล่านี้ล้วนเป็นบุญ เราจงเลือกทำกรรมแห่งความสุขนี้ให้มากๆ แล้วเราจะพ้นจากอำนาจกรรมชั่วไม่ต้องมาหาทางแก้กรรมกันเหมือนทุกวันนี้http://www.thaipost.net/tabloid/100110/16132
     
  2. apichai53

    apichai53 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    630
    ค่าพลัง:
    +2,261
    เป็นบทความที่ดีมากครับ ...
    "อำนาจแห่งกรรมนั้นไม่มีใครจะสามารถมาแก้ไขได้
    กรรมเป็นสมบัติของเรา หากจะมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลง
    บรรเทาผลแห่งกรรม ก็จะต้องเกิดจากตัวของเราเป็น
    ผู้กระทำเท่านั้น จะไปจ้างให้ใครเขามาแก้กรรมให้เราไม่ได้
    จะเอาเงินไปซื้อบุญกุศลมาแก้กรรมก็ไม่ได้ "
    ..."เริ่มต้นทำที่ตัวเราเองก่อน ด้วยการสำรวมกาย วาจา
    และจิตใจของเรา ให้ถึงพร้อมด้วยความบริสุทธิ์สะอาด
    ไม่เบียดเบียนผู้ใด ทั้งทางกาย วาจา และจิตใจ ประกอบ
    กุศลกรรม ทั้งทาน ศีล และเจริญภาวนา แผ่เมตตาให้กับ
    บรรดาสรรพสัตว์ทั้งหลาย."......
    "เราก็ไม่จำเป็นต้องปให้ใครเขามาแก้กรรมให้กับเรา
    เพราะเราสามารถทำเองได้ และรับประกันว่าเป็นวิธีการ
    ในการบรรเทาผลแห่งกรรมที่ถูกต้องที่สุด ได้ผลดีที่สุด
    อีกทั้งไม่หลง ไม่งมงาย "

    ปัจจุบัน ผู้มีอาชีพแก้กรรมจำนวนมาก ใช้ความไม่รู้ไม่เข้าใจ
    ของคน เป็นช่องทางในการทำมาหากิน ขออนุโมทนาสาธุ
    กับบทความนี้เป็นอย่างมาก ซึ่งมีส่วนช่วยในการเผยแพร่
    ความรู้ความเข้าใจ เพื่อให้การปฏิบัติในทางศาสนาพุทธ
    เป็นไปในแนวทาง ที่ถูกต้อง มีปัญญา และไม่งมงาย....
    ....ชาวพุทธต้องมีปัญญาครับ ..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มกราคม 2010

แชร์หน้านี้

Loading...