สุดท้ายก็มีคนว่าเราบ้าอีกเหมือนเดิม

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย สันโดษ, 22 มิถุนายน 2009.

  1. sundav

    sundav เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +115
    ผมชอบที่คุณเขียน เค้าจะว่าเราบ้าก็ช่าง รู้สึกว่าได้ข้อคิดจากคุณหลายอย่าง
     
  2. Likely

    Likely เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    4,151
    ค่าพลัง:
    +3,821
    มาให้กำลังใจ แม่ เพราะหนูก็รู้สึกบ้าๆเหมือนกัน ^^
     
  3. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    ฮือ ^-^
     
  4. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    หลวงพ่อสอนว่า เมื่อรู้อะไรแล้ว ก็อย่าเติมรู้

    คือ เมื่อปฏิบัติจนไปรู้อะไรแล้ว ก็แค่รู้ เสร็จแล้วก็วางไป

    เพื่อที่อีกเดี๋ยว หรือ เช้าพรุ่งนี้ จะได้รู้ซ้ำอย่างเดิมอีก

    ตอนที่มารู้ซ้ำอย่างเดิม หากก่อนหน้าไม่ทิ้งรู้ ไปอินอยู่ ไปพอใจอยู่ ไปไม่ชอบอยู่
    มันเลยทำให้เกิดการแยกไม่ออกว่า เรารู้ซ้ำโดยเริ่มจาก 0 หรือว่า เรารู้ซ้ำเพราะ
    เรายึดความรู้เอาไว้ไม่ได้วาง

    หากเรารู้ซ้ำจาก 0 ได้บ่อยๆ เนืองๆ ท่านว่ามีประโยชน์กว่า

    จะเป็นการหยิบรู้จากความว่างแท้กว่า หยิบจากในตุ่มที่ใส(เราเก็บไว้)

    * * * *

    ไม่ได้สอนนะ สันโดษอาจจะหยิบจาก 0 อยู่แล้ว เราเอามากล่าวก็เพราะ
    สันโดษเอ่ยชื่อพระท่าน ทำให้เราเผลอหยิบจากตุ่ม.....ว้า..แย่เลย เป็น
    การหยิบจากตุ่มนะนี่ สงสัยจะสู้สันโดษไม่ได้

    นะเอย นะเอย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มิถุนายน 2009
  5. theliger

    theliger เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2007
    โพสต์:
    735
    ค่าพลัง:
    +219
    แวะมาเป็นกำลังใจให้นะครับ

    ^_____^
     
  6. รอดมี

    รอดมี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    155
    ค่าพลัง:
    +161
    เจ๊สันโดษครับ เจ๊ไม่ยอมรับความเห็นของคนอื่น แต่จะให้คนอื่นยอมรับ
    ความเห็นของตัวเอง ผมว่ามันไม่เข้าท่า เคยอ่านเจอบางกระทู้ของเจ๊พอ
    ไม่พอใจความเห็นใครก็ด่ากลับ การกระทำบางอย่างของเจ๊ มันก็น่าให้คน
    อื่นสันนิฐานไปตามที่เจ๊กำลังกล่าวอ้าง
     
  7. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    <CENTER>= พ ลั ง ก า ย ทิ พ ย์ =

    </CENTER>



    [​IMG]

    พ ลั ง ก า ย ทิ พ ย์ ..
    อวกาศสีขาว . .

    . . . ม นุ ษ ย์ นั้ น มี ร่างกายและจิตใจ ทำงานร่วมกัน

    ร่างกายของมนุษย์เรานอกจากรูปร่างหน้าตาภายนอกซึ่งเรียกว่ากายเนื้อหรือกายหยาบแล้ว ยังมีร่างกายภายใน ที่เป็นกายละเอียดเกาะเกี่ยวซ้อนทับอยู่ภายในร่างกายซึ่งเรียกว่ากายทิพย์ กายทิพย์นั้นเป็นคลื่นพลังงานที่มีรัศมีเรืองรอง สามารถแผ่ซ่านออกมานอกกายเนื้อตามกระแสพลังของจิตใจ-อารมณ์-ความคิด-และความสมบูรณ์ของร่างกาย ซึ่งบางคนอาจมองเห็นด้วยตาเปล่า หรือที่เรียกว่าออร่า

    กายทิพย์หากมีรัศมีหม่นมัว สีสันไม่แจ่มจ้าสดใส อาจหมายถึงโรคภัยไข้เจ็บ หรือมีอารมณ์ความคิดที่เป็นด้านลบ การสัมผัสถึงกายทิพย์หรือรัศมีกายทิพย์ของผู้อื่น สามารถทำได้ แม้นจะไม่ใช่การมองเห็นด้วยตาเปล่า แต่อาจรับรู้ด้วยความรู้สึก ล่วงรู้ว่าบุคคลนั้นกำลังตกอยู่ในความสุขความเศร้า เป็นคนนิสัยใจคออย่างไร แม้รูปร่างภายนอกจะดูดี พูดจาดี แต่เราอาจรู้สึกว่าเขากำลังเจ็บป่วยทางใจ คือไม่เหมือนอย่างที่เห็น คนที่รู้สึกถึงกายทิพย์นี่ได้ จะต้องเป็นผู้มีสมาธิจิตพอควร ไม่ใช่ทึกทักเอาตามความคิด

    กายทิพย์และรัศมีกายทิพย์มีความละเอียดซับซ้อนมาก นอกจากจะบอกเรื่องสุขภาพหรือปัญหาสุขภาพที่จะเกิดขึ้นกับกายหยาบล่วงหน้า ยังบอกถึงสภาพอารมณ์จิตใจ โชควาสนา และยังมีความเชื่อกันว่า สามารถบ่งบอกถึงอดีตชาติซึ่งเป็นกายทิพย์ชาติก่อนๆ ซ้อนทับกันลงไปเรื่อยๆ แม้กายภายนอกของชาติก่อนๆ จะตายไปแล้ว แต่กายทิพย์ของชาติก่อนๆ ยังซ้อนกันอยู่ นี่เป็นเหตุที่ทำให้คนเราในชาตินี้ มีนิสัยใจคอ-ความรู้ความสามารถติดตัวมาจากชาติก่อนๆ ด้วย

    จิตนั้นต้องเดินทางผ่านกาลเวลามาอย่างยาวนาน อาศัยรูปขันธ์เกิดตามวิบากกรรมหรือที่เรียกว่าวาสนาบารมี จะเกิดมาดีบ้างหรือไม่ดีบ้างขึ้นลงวนอยู่ในภพภูมิสูงต่ำไปตามยถากรรม ซึ่งตัวเองปรุงแต่งไว้ตามกิเลสความลุ่มหลงและอุปาทานในขณะนั้นๆ เกิดดับเรื่อยมาช้านานด้วยความไม่รู้ และความไม่รู้นี้เองที่นำพาจิตเวียนว่ายอยู่ในทะเลทุกข์ หาทางหลุดพ้นไม่เจอ จนกว่าจะเกิดความรู้ขึ้นมา และหาทางยุติกรรมได้ด้วยความรู้นั้น

    แต่ในขณะที่จิตยังต้องท่องเที่ยวอยู่ในสังสารวัฏฏะ ก็ยังต้องอาศัยรูปหรือร่างกายเป็นแดนเกิดเพื่อสะสางกรรมที่สร้างไว้ รูปหรือร่างกายที่อาศัยนี้ก็ไม่มีความคงทน เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ตามกฎของธรรมชาติและกฎกรรมตลอดเวลา มีความเสื่อมและเจ็บป่วยอยู่เสมอ สร้างความทุกข์ให้มิใช่น้อยแม้นยังไม่ตาย การเสริมสร้างพลังกายทิพย์ นับว่าเป็นการเสริมสร้างพลังทางร่างกาย และทำให้มีสุขภาพที่แข็งแรงขึ้นด้วย เพราะการเสริมสร้างพลังกายทิพย์ ก็คือการดูแลร่างกายและจิตใจให้ดีขึ้นนั่นเอง

    แม้นปัจจุบัน วิทยาการแพทย์ในยุคดิจิตอลจะก้าวหน้าไปมาก แต่ท่ามกลางความเจริญก็กลับนำพาสารพิษและมลภาวะรวมถึงความเครียดในการดำรงชีวิตในสังคมที่ต้องแก่งแย่งแข่งขันมาสู่สุขภาพอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะคนในสังคมเมือง

    ในร่างกายมนุษย์ที่เกิดขึ้นมาได้ ประกอบด้วยธาตุหก คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ อากาศ วิญญาณ (จิต) หากรักษาความสมดุลของธาตุทั้งหลายเหล่านี้ไว้ได้ สุขภาพก็จะแข็งแรง กายทิพย์เองก็เป็นตัวบ่งบอกถึงความสมดุลในร่างกายเช่นกัน ทั้งยังสามารถพัฒนากายทิพย์ให้ทรงอานุภาพมากยิ่งขึ้นได้ด้วยการปฏิบัติทางจิตและทางกาย

    นอกจากกายทิพย์จะมีความคงทนถาวรกว่ากายเนื้อ ทั้งยังต้องเดินทางเกาะเกี่ยวไปกับจิตอีกเนิ่นนานและจะอีกนาน.. ไปจนกว่าจิตจะชำระล้างกิเลสเข้าสู่ความบริสุทธิ์หรือเข้านิพพาน หากกายเนื้อตายลงนั้น กายทิพย์หรือกายวิญญาณที่อยู่กับจิตก็จะต้องหาร่างกายใหม่หรือรูปขันธ์ใหม่อาศัย ซึ่งจะเป็นไปตามวิบากบุญบาปที่สร้างเอาไว้ หากไปเกิดเป็นเทวดาหรือพรหม กายใหม่จะละเอียดมากกว่ากายทิพย์ขณะเป็นมนุษย์ และจะมีผลต่อกายทิพย์ในกายใหม่นั้นด้วย กายทิพย์นั้นจะแปรเปลี่ยนไปตามบุญวาสนาและสภาพจิตใจ

    กายทิพย์ที่มีพลานุภาพ ย่อมทำให้กายหยาบมีพลานุภาพไปด้วย การเพิ่มพลังอานุภาพให้กายทิพย์คนเรานั้น สามารถฝึกฝนปฏิบัติได้ด้วยการรักษาสภาพร่างกายและจิตใจให้สมบูรณ์ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์เช่นผักผลไม้สะอาด การอยู่ในธรรมชาติที่สะอาด มีผลต่อสุขภาพร่างกายฉันใด การให้อาหารจิตที่ดี เช่นมีความคิดในด้านบวก มีความรักความเอื้ออาทร หรือการฝึกฝนสมาธิจิต ฯลฯ ก็มีผลต่อสุขภาพจิตฉันนั้น

    [​IMG]
    .. ภายในกายเนื้อหรือกายทิพย์ จะมีจักระหรือศูนย์พลังทั้ง 7 อยู่ภายใน เป็นทางขับเคลื่อนของปราณก่อนกระจายไปทุกอณูในร่างกาย จักระแต่ละจุดจะมีสีแห่งชีวิต จักระ1 อยู่ตรงฝีเย็บระหว่างอวัยวะเพศและทวารหนักมีสีแดง จักระ2 อยู่ตรงก้นกบมีสีส้ม จักระ3 อยู่บนกระดูกสันหนังแนวเดียวกับสะดือมีสีเหลือง จักระ4 อยู่บนกระดูกสันหลังแนวเดียวกับหัวใจมีสีเขียว จักระ5 อยู่บนกระดูกสันหลังช่วงต้นคอมีสีฟ้า จักระ6 อยู่ระหว่างคิ้วตรงหน้าผากหรือดวงตาที่สามมีสีไพลิน จักระ7 อยู่บนกระหม่อมมีสีม่วง

    เมื่อปราณหรือพลังกุณฑาลินี ที่สถิตปลายสุดของกระดูกสันหลัง ถูกปลุกให้ตื่นขึ้น มันจะพุ่งสู่จักระสุดท้ายเหนือศีรษะ ซึ่งเชื่อมต่อกับพลังจักรวาลที่มีอยู่ทั้งหมด มันจะมอบความรู้แจ้งในตนเองให้กับผู้ที่ทำได้ แต่ละจักระจะมีคุณสมบัติทางจิตวิญญาณ เมื่อจักระทั้งเจ็ดถูกเปิดขึ้น สามารถเดินลมปราณได้ทะลุทะลวงทั่วร่างกาย จะทำให้ร่างกายสามารถแก้ไขความไม่สมดุลทั้งทางร่างกายและจิตใจ โดยการนำคลื่นพลังหรือปราณไปแก้ไขในจุดที่บกพร่อง ทั้งยังช่วยให้ผู้ปฏิบัติขั้นสูงรวมเป็นหนึ่งเดียวกับความสุขสงบ และพบความสมบูรณ์ทางจิต การปฏิบัติสมาธิเป็นประจำ และนำพลังชีวิตไปใช้ในทางสร้างสรรค์ อ่อนน้อมถ่อมตน เอื้ออาทรและมีความเมตตา นอกจากสุขภาพจะพัฒนาดีขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ยังช่วยให้ตื่นตัวไวต่อการรับรู้ถึงพลังธรรมชาติรอบ ๆ ตัวของเราได้อย่างน่าอัศจรรย์ เราจึงสามารถทำให้กายทิพย์แข็งแรงทั้งด้วยการขับเคลื่อนปราณในร่างกาย และนำพลังจักรวาลเข้ามาฟื้นฟูพลังกายทิพย์เราได้

    ขุมพลังสู่การเพิ่มอานุภาพพลังกายทิพย์
    ด้วย พลังสมาธิ - พลังปราณ - พลังคอสมิค


    พลังสมาธิ (พลังจิต) การจะฝึกฝนศาสตร์และองค์ความรู้ทุกแขนง จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้สมาธิ-สติ-ปัญญา เป็นตัวนำพาเราไปสู่ขบวนการความรู้แจ้งในศาสตร์นั้นๆ สมาธินับเป็นฐานกำลังสำคัญต่อกระบวนทั้งร่างกายและจิตใจ การฝึกสมาธิให้จิตสงบแน่วแน่มีพลานุภาพต่อการรับรู้และนำมาใช้งานนั้นเป็นเรื่องจำเป็น เพราะจิตใจที่ไม่เป็นระเบียบและไม่เป็นสมาธิ จะไม่สามารถนำไปใช้งานอะไรได้เลย สมาธิเองเป็นฐานที่จะปฏิบัติให้พลังกายทิพย์ก้าวหน้าด้วยเช่นกัน การรวบรวมสมาธิได้ ย่อมปลุกพลังปราณและรับพลังคอสมิคได้ การรับปราณภายนอกตัวและพลังคอสมิค ในขั้นต้น ไม่จำเป็นต้องใช้สมาธิสูงอะไรเลยด้วยซ้ำ

    พลังปราณ (พลังชีวิตหรือพลังกุณฑาลิณีหรือคนจีนเรียกว่าชี่) พลังปราณหรือพลังชีวิต เป็นพลังดั้งเดิมของจักรวาลที่สั่นสะเทือนอยู่ในร่างกายเรา บ่งบอกถึงความเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาลในตัวเรา แม้นเราจะแยกตัวออกมาแล้ว เราสามารถเชื่อมต่อพลังชีวิตของเรากับจักรวาลได้ การฝึกสมาธิจนสามารถกระตุ้นปราณในตัวให้ตื่นขึ้น ไหลเวียนไปตามจักระทั้งเจ็ดในร่างกาย จะส่งผลต่อสุขภาพ ที่ทำให้มีชีวิตชีวา เป็นแรงขับเคลื่อนอยู่ภายในซึ่งหล่อเลี้ยงชีวิตให้กระชุ่มกระชวย นอกจากปราณในตัวแล้ว พลังชีวิตนอกตัวหรือปราณนอกตัว ยังมีอยู่ในอากาศ สายลม ดอกไม้ ต้นไม้ น้ำค้าง ก้อนหิน ฯลฯ สรรพสิ่งในโลกล้วนมีพลังซ่อนอยู่ในตัวเอง ธรรมชาติที่บริสุทธิ์จะช่วยให้ร่างกายของเราฟื้นสมรรถภาพได้แม้ในยามเจ็บป่วย แม้นแต่พลังจากดวงดาวต่างๆ ที่ส่องมายังโลก ก็นำมาใช้ในการฟื้นฟูจักระทั้งเจ็ดในร่างกาย พลังแสงอาทิตย์นับเป็นพลังชีวิตขนาดยิ่งใหญ่มหาศาล ก่อให้เกิดสิ่งมีชีวิตต่างๆ หากเราต้องอยู่ในที่อับแสงมืดมิดเป็นเวลานานเกินไป จะส่งผลให้ร่างกายห่อเหี่ยวและอาจถึงตายได้

    พลังคอสมิค (ต่างจากกัมมันตรังสีcosmic ในอวกาศและแสงอาทิตย์ที่เป็นอันตราย) หรือที่เรียกพลังจักรวาล (จิตจักรวาล) เชื่อว่ามีอยู่รอบๆ ตัวเรา เป็นพลังที่ส่งมาจากจักรวาลหรือจิตจักรวาล เป็นคลื่นพลังงานจากจิตเบื้องบน หรือจิตที่สูงส่ง มีความรักความเมตตาหาประมาณไม่ได้ เชื่อว่าเป็นพลังแห่งความรัก พลังศักดิ์สิทธิ์ พลังแห่งการรักษา-โอบอุ้ม-คุ้มครอง เราสามารถรับพลังคอสมิคได้ชัดเจนเมื่อจิตมีสมาธิ หากสามารถกระตุ้นจักระทั้งเจ็ดในตัวและรับคลื่นพลังจักรวาลได้ นอกจากจะช่วยให้กายทิพย์และกายเนื้อเรามีพลานุภาพมากขึ้น รักษาโรคภัยไข้เจ็บในตัวเอง ยังสามารถส่งพลังนี้ผ่านตัวเราไปรักษาผู้ป่วยคนอื่นๆ โดยเชื่อว่าพลังจักรวาลจะสื่อจากตัวเราส่งผ่านมือเปล่าไปรักษาอาการเจ็บป่วยของผู้ที่ต้องการมาให้ช่วยเหลือ พลังคอสมิคมีพลังอำนาจ สามารถนำมาใช้ในด้านรักษาและทำลายล้างได้ตามจิตใจของตัวเราเอง หากนำมาใช้ในด้านดีงามพลังก็จะพัฒนาไปถึงขีดสุด แต่หากนำมาใช้ในเรื่องไม่ดีก็จะทำลายล้างตัวเราเองเช่นกัน

    จะเห็นได้ว่า เราแทบจะแยกพลังสมาธิตัวเราเอง พลังปราณในตัว-ปราณนอกตัว และพลังจักรวาลได้ยาก การมีพลังจิตจนสามารถนำพลังนอกตัวมาประสานกับตัวเอง กายทิพย์ก็จะทรงพลังมากขึ้น เมื่อนำพลังงานจักรวาลและพลังงานของดวงดาวต่างๆ มาใช้ด้วยสมาธิ โดยการใช้ตัวเองเป็นตัวกลางในการรับคลื่นพลังก่อนส่งผ่านไปยังบุคคลอื่น จะช่วยให้เราไม่สูญเสียพลังตัวเอง อีกทั้งยังช่วยให้เรามีพลังกายทิพย์มากขึ้นอีก

    .....................

    * เว็บวิชาพลังกายทิพย์ โดย คุณย่าเยาวเรศ บุนนาค
    http://www.khunya.in.th/default.asp
    * ศึกษาวิชาพลังกายทิพย์ สอนโดยคุณย่าเยาวเรศ บุนนาค
    วิชาพลังกายทิพย์ สอนโดย คุณย่าเยาวเรศ บุนนาค<!-- google_ad_section_end --> <!-- / message --><!-- sig -->
     
  8. 2ชาติตรัสรู้

    2ชาติตรัสรู้ គ្រប់គ្រាន់ รักษาดวงใจ.គ្រប់គ្រាន់

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +1,558
    เป็นเรื่องปรกติ ธรรมดา ของคนทั่วไปที่ไม่เคยมีประสพการณ์อะไรเลย
    ส่วนการแสดงออก ก็ตามระดับคุณธรรมในใจของแต่ละคน

    ขนาดคนที่พอมีประสพการณ์แปลกๆมาบ้าง พอได้มาอ่านเรื่องของคนที่เจอมามากกว่าตน แปลกกว่าตน ยังเหวอไปได้เหมือนกัน
     
  9. สายน้ำผึ้ง

    สายน้ำผึ้ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    125
    ค่าพลัง:
    +379
    เข้าใจความรู้สึกนี้ได้ดี บางทีจริตคนเราก็ไม่เหมือนกัน จะทำให้คนอื่นเข้าใจในตัวเราทั้งหมดก็เป็นไปไม่ได้ มีหลายครั้งนะคะที่เข้ามาเวบนี้แล้วบางทีอยากหนีหายไปเลยไม่อยากเข้ามาอีกเพราะเจอคนด่ากลับมาด้วยถ้อยคำที่ไม่น่าฟังเลยทีเดียว สามารถมองได้ทะลุถึงระดับคุณธรรมของเขา ในดีมีเสียในเสียมีดี เราก็มองไปว่าโอหนอมนุษย์บางคนก็มีทั้งโง่เขลา มีทั้งปานกลางและปัญญาอันมาก สูงต่ำต่างกัน เป็นการเฝ้าดูจิตอย่างหนึ่งได้ดีเหมือนกัน มีหลายกระทู้ที่ต้องลบออกไปเพราะบางกระทู้ก็กระตุ้นให้คนอื่นบาปเพราะเราได้เหมือนกันเพราะทำให้เขามีอคติและจิตที่ขุ่นมัว โดยที่มีอวิชชาเป็นฝ้าบังจักษุ พ่อเคยสอนนะคะว่าคนเราถือกำเนิดมาต่างที่ สื่อสารกันจึงไม่ค่อยจะรู้เรื่องหรอก เว้นแต่ว่าคนนั้นจะมาจากที่เดียว ระดับภูมิธรรมใกล้เคียงกันมันจึงจะสมดุลและคุยกันรู้เรื่อง
     
  10. ธิดารัตน์

    ธิดารัตน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,939
    ค่าพลัง:
    +4,568
    เราทำในส่วนของเราให้ดีที่สุด ดีมากๆๆๆๆๆแล้วค่าพี่สันโดษ
    ได้ข้อคิดหลายอย่างเลยจากกระทู้นี้ตรง อุเบกขาน่ะค่ะ
    ได้ใจมากๆๆๆ รับรู้ถึงความอึดอัดใจของพี่สันโดษได้เลยค่ะ
    เป็นกำลังใขให้พี่สันโดษข้ามพ้นเรื่องต่างๆอย่างสงบและสวยงามนะคะ^^
    เป็นกำลังใจให้พี่คนสวยเสมอ

    "พระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งของเรา
    พระธรรมเป็นที่พึ่งของเรา
    พระสงฆ์เป็นที่พึ่งของเรา"

    อนุโมทนากะพี่สันโดษนะคะ
     
  11. catwoman121

    catwoman121 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    101
    ค่าพลัง:
    +87
    เราชอบที่พี่สันโดษเขียนนะ


    ยังไงก็เป็นกำลังใจให้นะค่ะ


    เข้าใจ ^___________^
     
  12. chattrg

    chattrg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    4,337
    ค่าพลัง:
    +13,241
    ขอศีกษาด้วย คนนะ
     
  13. nattapong0925

    nattapong0925 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    174
    ค่าพลัง:
    +165
    อย่าไปสนเลยครับ...

    อย่าไปสนเลยครับ...กับคนที่มีความคิดต่าง ไม่มีความเข้าใจในหมู่คนที่ไม่เข้าใจ ผมอ่านข้อความของคุณบ่อยๆ รู้สึกถึงความต่างในตัวคุณกับคนอีกหลายๆคน แต่ผมเข้าใจนะ...เพราะผมเองก้อเป็นคนที่มีความคิดบางอย่างแตกต่างจากคนอื่นบ้างเหมือนกัน เช่น บางครั้ง ผมเห็นอะไรในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น แต่เล่าไปก้อไม่มีใครเชื่อสักเท่าไร หลายๆครั้งผมเองยังไม่เชื่อตัวเองเลย ไม่มั่นใจในสิ่งที่เห็นว่าเห็นจริงหรือเปล่า .. ได้แต่เก็บไว้คนเดียว และจากความที่ไม่แน่ใจเลยทำให้ ผมละเลยที่จะปฎิบัติอย่างจริงจัง ทั้งๆที่อยากเห็นให้มากกว่านี้ แต่ยังไงก้อเอาใจช่วยนะครับ อย่าละทิ้งในสิ่งที่คุณกระทำ แม้จะมีบางคนไม่เห็นด้วยกับคุณ
     
  14. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ชมหลินฮุ่ยเลี้ยงลูก24ชม.

    [​IMG]
     
  15. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    สันโดษชอบสอนคน แต่ไม่ชอบให้คนมาสอน
    พฤติกรรมของสันโดษ ก็คงไม่ต่างกับ ฮิตเลอร์
    จริงๆ แล้วคนพวกนี้ มีพลังมาก แต่ใช้ไม่เป็น
    นี่ถ้ายอมฟัง ผมสักหน่อย คงไม่เป็นแบบนี้
    แนะนำ อะไรไป เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา แล้วก็บ่นว่าเศร้าสร้อยหงอยเหงา แฟนทิ้ง

    เอาง่ายที่สุด คือ เลิกไปสนใจ เรื่องพลัง เรื่องหลักเกณฑ์ ทฤษฎีต่างๆ

    ทำใจให้มันหยุดให้ได้ มองตรงหน้า แล้วหยุด ทำให้ใจมันเคลื่อนเป็นอย่างๆ

    ขอให้โชคดี
     
  16. Nibiru

    Nibiru สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +12
    ถึงน้องจอยจะออกแนวบ้าๆบอๆไปหน่อย แต่น้องจอยก็น่ารักดีครับ
     
  17. Likely

    Likely เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    4,151
    ค่าพลัง:
    +3,821
    เอ ... กระทู้แม่สงบรึยัง --
     
  18. อู๋ซิน

    อู๋ซิน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    213
    ค่าพลัง:
    +45
    สมาธิแหว่ง นี่ น่าจะเพิ่มการพิจารณา เข้าไปอีกนะว่า ที่ตัวเราเหวี่ยงได้มีเหตุปัจจัย มากจากอะไร
    อย่างการที่คุณโดนหาว่าบ้าก็เอามาพิจารณาได้อีกว่า มีปัจจัยมาจากอะไร บางอย่างคุณจอยเรียนรู้น้อยเกินไป บางอย่างเรียนรู้มากเกินไป ล้วนแต่ทำให้เกิดกิเลส เรียนรู้ไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป ทางสายกลาง ครับดีที่สุด
     
  19. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    สันโดษไม่ได้ยึดอะไรเลย เเละ ไม่ได้มีอะไรที่เป็นหลักการ ในการเรียนรู้

    สันโดษไม่เคยสอนคน เเต่ สันโดษเขียนกระทู้ ในเเบบที่ ตัวเองอยากเขียน

    คนก็ไปตีความเอาว่า เราสอน ทั้งๆที่สันโดษ ไม่ได้สอน

    สันโดษ คิดเเบบนี้ ก็เลย พิมพ์ไป

    ตั้งเเต่เด็ก สันโดษ ปฏิบัติได้เองจนเห็นสิ่งมหัศจรรย์มามากมาย

    เเต่สันโดษไม่รู้ว่า สิ่งที่เกิดเเละปรากฎการณ์ทางจิตเหล่านั้นคือ อะไร

    สันโดษ จึงต้องการเรียนรู้ จากเเหล่งต่างๆ ไม่ว่าจะ ...

    วิทยาศาสตร์ ศาสนา หรือ ความรู้รอบตัว ฯลฯ

    เพื่อให้ตัวเอง ได้เข้าใจว่า สภาวะ เเละ เหตุการณ์ที่เกิดกับเรามัน คือ อะไร

    เพราะว่า ถึงเเม้ว่า จริตสันโดษจะเหมาะกับ การเรียนรู้ ดูจิต เเบบ หลวงปู่ดุลย์

    เเต่กรรมฐาน หรือ การทำสมาธิ ที่สันโดษชอบที่สุด คือ การทำสมาธิเหวี่ยง

    เพราะนั้น คือ เหตุการณ์ที่เกิดกับสันโดษ ขณะนั่งสมาธิเเบบสมถะ ตั้งเเต่เล็กๆ เเล้ว

    สันโดษ นั่งเเล้วตัวหมุนติ้วๆ ทำมือจีบ (เหมือนคนองค์ลง) พูดคนเดียวตลอดเวลา

    พวกคุณนั่งเเบบตัวเเข็งๆ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะ คุณกำกับจิตตัวเอง บังคับจิตตัวเอง

    พระพุทธเจ้าให้เจริญอานาปานสติ ระลึกรู้ ดูกาย ดูจิต ต่างหาก ไม่ได้สอนให้กำกับจิตสักหน่อย

    ถ้าเรามีสติ เราระลึกรู้เราก็จะเห็น จิตเราเองไม่เที่ยง

    พวกคุณ ชอบเรียนอะไรทำอะไร ก็ทำไปซิ ทำไมต้องมาสอน??????

    ไม่พอใจก็ผ่านไปซิ ทำไมต้องมาวุ่นวาย มันน่ารำคาญ

    เเละสิ่งที่คุณต่อว่า มันคือ โมหะจริต

    บอกเเล้วไงว่า ต่างคนต่างอยู่ไป ดูจิตคนอื่น เเต่ไม่ว่างดูจิตตัวเองว่า อย่างขัดเเย้ง

    สันโดษดูจิตตัวเอง 24 ชม. เเละไม่ชอบยุ่งกับใคร เพราะกลัววิบากกรรม

    เห็นหลายๆคนเเล้วล่ะ ที่ชอบสอน ตั้งตนเป็น ครูบาอาจารย์ โทรมาจะสอน

    อยากได้สันโดษเป็น ลูกศิษย์ทำไม ในเมื่อสันโดษไม่ได้ ต้องการ??????

    สันโดษ จะบอกพวกคนที่ชอบ เข้ามาสอนสันโดษว่า ขอบคุณเเต่ไม่ต้อง

    เพราะ วันที่สันโดษจิตเเตก สันโดษก็ไปตั้งกระทู้เอง เพื่อรักษาตัวเอง

    ในห้องหลุมดำ 12 หน้า>>> สันโดษปลีกวิเวก ([​IMG] 123456789101112 )

    สันโดษไม่เห็นว่าจะมีใคร ช่วยสันโดษได้เลยสักคน ไม่เห็นจะมีใครเก่งจริง

    พวกคุณอย่ามาพูดเลยว่าอยากสอน สันโดษ จิตเเตก ไม่เห็นมีใครตอบได้เลยว่าเเก้ยังไง?

    ที่ทำได้ก็คือ ให้กำลังใจสันโดษ สันโดษขอขอบคุณ เเต่นั้นไม่ใช่ทางรักษา

    เพราะฉะนั้น อย่ามาบอกว่า สันโดษไม่ได้ให้ใครสอน!!!

    คุณเองปฏิบัติไม่ได้ถึงขั้นพระอริยะคุณถึงตอบไม่ได้

    สิ่งที่สันโดษทำ คือ ค้นคว้าทุกอย่าง ด้วยจิตนำไป

    มนุษย์อย่างพวกคุณ ดีเเต่พูดว่าเวลาที่สันโดษ เป็นปกติ

    มีเเต่สันโดษ เรียนเอง ขอพระพุทธองค์เอง ช่วยสอนลูกให้พ้นทุกข์ด้วยเทอญ

    พวกคุณ ดีเเต่ปาก เเต่ไม่เก่งจริง เพราะพวกคุณ มัวเเต่ดูชาวบ้าน ไม่ดูจิตตัวเอง

    สันโดษอธิษฐานจิต สันโดษได้คำตอบจาก หลวงพ่อปราโมทย์ จากการฟังซีดี

    หลวงพ่อปราโมทย์ให้ดูจิต ตลอดเวลา

    เเละ สอนว่า มนุษย์มีจิตที่เหมาะที่สุดในการดูไตรลักษณ์ ในการเกิด-ดับ

    จิตไม่ใช่เรา เเละมันไม่เคยเป็นเราจริงๆ เมื่อทุกข์ดูไปว่ามันทุกข์

    สันโดษก็ดูจริงๆ ดูว่า กลัวจิตเเตกอีกเเล้ว

    ดูไปสักพัก ก็รู้ว่า มันกลัวเเตกทั้งวัน

    เเต่ไม่เดือดร้อน เพราะสันโดษ ดู ณ ปัจจุบันขณะ

    จึงไม่เดือดร้อนเเละไม่รุ้สึกว่ามันนาน

    เเละ พระมหาสีไพร เกี่ยวกับ การเปิดจักระ7 ของพลังจักรวาล

    ตอนนี้ สันโดษ สามารถ เเก้อาการปวดหัว

    ด้วยวิปัสสนาญาณของตนเองโดยการเดินลมปราณ

    ด้วยสมาธิเหวี่ยง เเละ ฝึกพลังชี่กง ได้เองเเล้วด้วยซ้ำ

    พวกคุณดีเเต่อ่าน เเต่ไม่ได้รู้จริง ว่าจิตเขามีอำนาจมากขนาดไหน

    เพราะฉะนั้น กรุณาเอาความรู้เท่าที่มีของคุณสอนตัวเองให้บรรลุจริงๆก่อนเเล้วค่อยคิดสอนคนต่อไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มิถุนายน 2009
  20. สองโลก

    สองโลก สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +12
    hello6 แจ้งข่าว ย้ายสถานที่ปฏิบัติธรรมพระ อ.สีไพร ไปวัดศรีวนารามใกล้ท่าเรือแหลมฉบัง
    ผู้ส่ง.+66810060504:z6
     

แชร์หน้านี้

Loading...