สอบถามเกี่ยวกับศิลปะกับพระพุทธศาสนา

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย swordmanboy, 29 กรกฎาคม 2012.

  1. swordmanboy

    swordmanboy สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +2
    อยากสอบถามเกี่ยวกับการเป็นหัวครีเอท ชอบใช้ความคิดสร้างสรรค์หน่อยครับว่าจะฝึกสมาธิอย่างไรให้มันไม่ขัดกับความคิดในหัวตอนนี้ครับ ตอนนี้คิดว่าหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนาสอนให้อย่ายึดติดกับ โลภ โกรธ หลง หากเรามีอาชีพที่ต้องทำงานเกี่ยวกับการสร้างสรรค์ภาพ เช่น วาดรูป แต่งรูป หรือสร้าง โมเดล 3 มิติ สิ่งที่กล่าวมานี้ถือว่าเป็น "หลง" หรือเปล่า ถ้าเราทำสิ่งเหล่านี้มากๆจะทำใหเกิดความหลงเพิ่มขึ้นหรือเปล่า ถ้าหากนั่งสมาธิพิจารณาต่างๆทำให้ความโลภ โกรธ หลง ลดลงจะทำให้มีผลต่อการคิดสร้างสรรค์สิ่งต่างๆหรือไม่ครับ ถ้ามีจะทำอย่างไรให้หัวสร้างสรรค์ และสามารถนั่งสมาธิ ศึกษาคำสั่งสอนไปด้วยกันได้ครับ
     
  2. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,102
    ค่าพลัง:
    +2,135
    ถ้าติดสุขในฌาน หรือว่าพยายามเคร่งวิปัสสนามากเกินไปในทางที่ผิด
    จิตมันจะคอยละๆๆๆ จนทำให้นึกอะไรไม่ค่อยออกได้

    สรุปทางสายกลาง ครับ ทำแบบไม่เคร่งเครียด ไม่หักโหม ไม่มีผลหรอก
     
  3. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    ก็เอางานนั้นๆฝึกจิตฝึกสมาธิไปเลย
     
  4. vichayut

    vichayut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    168
    ค่าพลัง:
    +661
    การเอาใจไปพิจารณาธรรมที่เป็นกิเลสตัวแม่โดยตรง ในขณะที่กำลังสติของเรา
    ยังมีไม่พอ เราจะแยกแยะความจริงออกมาได้ยังไง เพราะใจมันยังไม่ยอมรับเหตุที่
    จะละความยึดติด เราต้องหาอุบายธรรมในส่วนอื่นเข้ามาพิจารณาเสริม มาประกอบ
    ให้จิตมันยอมรับถึงเหตุที่ต้องละ จนเกิดปํญญารู้แจ้ง เห็นจริงในเหตุนั้นได้


    เปรียบเหมือนว่ากว่าจะได้ความรู้นำมาประกอบอาชีพได้นั้น ก็ต้องเรียนรู้วิชาอื่นนำ
    มาประกอบกัน จนได้ความรู้จริงอันเดียว ทำให้เชี่ยวชาญชำนาญแล้วเอาความรู้นั้นมา
    ประกอบเป็นอาชีพ อีกทั้งเรายังต้องอาศัยกิเลสอันนี้เอามาดู มาพิจารณาอยู่เนืองๆเพื่อความเจริญในอาชีพของเรา เพียงแต่แค่อาศัยบ้างแต่ไม่ยึดติด เพราะรู้โทษของมัน
    อันนี้จึงจะกล่าวได้ว่าเป็น สัมมาสติ เอาไปใช้ประกอบเป็นปัญญาครับ
    ________________
    ดูจิต.........ด้วยสติ
     
  5. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    เราต้องใช้ กิเลส โลภโกรธหลงให้เป็นประโยชน์ครับ

    ใช้ไปใน ทางที่ไม่ผิดศีล 5

    ส่วนเรื่องการจะมาละโลภโกรธหลง มันเป็นหน้าที่ของ สติ สมาธิ ปัญญา

    ซึ่ง วิธีการก็มีบอกไว้ ว่า ฝึก สติ สมาธิ ปัญญา ทำอย่างไร

    อย่าเพิ่งไปกังวลในการละกิเลสโลภโกรธหลง
    ทำเพียงความรู้สึกว่า อะไรที่ไม่ผิดศีล5 ใช้ไปก่อนกับทางโลก

    ทีนี้ ทางเดินของกรรมฐานที่จะช่วยเสริมสร้าง สติ สมาธิ ปัญญานั้นมีอยู่
    และยังส่งเสริมในการสร้างสรรค์งานศิลปะได้อย่างดีเยี่ยมอีกด้วย

    เพราะ พื้นฐานงานศิลปะ คือ ร่างกายมนุษย์ อารมณ์ใจมนุษย์

    เราจะสามารถนำออกมาใช้ได้ เพียงแต่ว่า ต้องหันมาศึกษากายใจ

    สำหรับงานศิลปะที่จะนำเอามาใช้นั้น ต้องมาเรียนรู้ กายด้วยอาการ 32

    ว่าประกอบด้วยอะไรบ้าง ยกอาการ 32 มาพิจารณาสอนจิตด้วยการตั้งนิมิต
    ในภายใน จนแตกครบ อาการ 32

    พูดก็ง่ายอยู่ แต่การทำนั้น ต้องอาศัยการฝึกฝนในแต่ละวัน

    หากเราแตกได้ 1 ในอาการ 32 ก็จะแตกทั้งหมด
    เราจะเข้าใจ องค์ประกอบศิลป์
    ด้วยกายมนุษย์ เป็น กายที่ถูกออกแบบอย่างสมบูรณ์
    รูป สี สถานะต่างๆของร่างกาย อิริยาบท จะสร้างสรรค์งานศิลปะ ได้อย่างวิเศษสุดเมื่อนำมาใช้ในทางโลก

    และในขณะเดียวกันนั้น ก็ใช้ในทางธรรมควบคู่ไปด้วย

    เช่นนั้นแล้ว ต้องหัดมาเรียนรู้วิธีการฝึก กายคตาสติ พิจารณาอาการ 32
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 29 กรกฎาคม 2012
  6. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    อย่าไปเข้าใจผิดว่า ธรรมะ เป็นเรื่องของการ ขวางโลก

    ธรรมะ นั้นเป็นเรื่องที่ มีประโยชน์ต่อโลก อนุเคราะห์โลก อันนี้ ตั้งจิตให้ตรง
    ในหลักการนี้ไว้ก่อน

    เสร็จแล้วมาพิจารณาใหม่ โดยต้องแบ่ง ประโยชน์ออกเป็นสอง คือ ประโยชน์
    ตน(โลกอย่างหนึ่ง) และ ประโยชน์ผู้อื่น(โลกอีกอย่างหนึ่ง)

    ทีนี้ ต้องไม่ลืมว่า พระพุทธองค์ บัญญัติอะไรเรียกว่า โลก พระพุทธองค์ตรัส
    บอกว่า อะไรก็ตามแต่ที่ปรากฏความไม่เที่ยง ไม่ใช่ตน ไม่ใช่ของๆเรา เหล่านั้น
    เรียกว่า โลกในอริยวินัยนี้

    กลับไปที่ ประโยชน์ตน โลกอย่างหนึ่ง กับ ประโยชน์ผู้อื่น ซึ่งเป็นโลกอีกอย่าง
    หนึ่ง แต่ ด้วยบัญญัติที่ว่าไม่เที่ยง ไม่ใช่ตน ไม่ใช่ของๆเรา ทั้งประโยชน์ตน
    และประโยชน์ผู้อื่น ก็ เสมอกัน เป็นหนึ่ง

    ....บทนี้ กล่าวแยกออกให้เห็น เสร็จแล้ว ก็ รวมกลับเข้ามา เพื่อสร้าง Hamony
    ไว้ก่อน เพราะ ผงงังศี๊ลลลปะ มังต้องมีความกมกึน ขาดไม่ได้ !!

    *******************

    แล้ว ความกลมกลืนนี้แหละ ที่ นักวิจิตรศิลปจะต้องประยุกต์ใช้ให้ดี

    การเอารูป เอาสี เอารส จักษุสัมผัส ให้ สรรพสัตว์มอง แน่นอนว่า ทำให้เขา
    ติดข้อง มากกว่าจะคลายออก เพราะขึ้นชื่อว่ารูปแล้ว ยังไงก็ต้องเกิดความ
    สุข พอใจ ไม่พอใจ ร้อยรัด .........รูปของสตรีย่อมเป็นที่ชอบใจของบุรุษ
    (รูปแห่งความโค้งมลกลมกลืน ย่อมสื่อถึง อิตถีเพศ) [ ....กลับกัน งดบรรยาย
    เดี่ยวหมึกสีม่วงรับไม่ได้ ]

    ทีนี้ คุณฟังธรรมาแล้วนี่ รูปนี้ทำให้หลง คุณก็พิจารณายกไปสิ ว่า หลงมันเกิด
    มันครอบงำคุณอย่างไร ..............ที่นี้ อย่าลืมยกความเป็น โลกในอริยวินัย
    คือ ตามดูความหลงนั้นแสดงความไม่เที่ยง ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของๆเรา และ ตาม
    ดูการครอบงำของรูปที่ผู้อื่นอาจจะได้รับจาก ผงงังศิ๊ลลลป !! (ทำเสียงสูงๆนะ)
    ก็มีความเป็นโลก คือ การครอบงำนั้น ไม่เทียง ไม่ใช่เรา(ไม่ใช่เขา) ไม่ใช่ของๆเรา
    (ไม่ใช่ของๆเขา) ตรงนี้ หากเรา ยกโลก ให้ถูก ก็เหมือนเอา นภา มาทำ
    กระดาษ(คือพบความว่าง ) เอา มหาสมุทร มาแทนเป็นหมึกวาด ประกาศ นิพพาน ให้พอ

    เห็นไหม.....เราสามารถรังสรรค์ผลงาน ในขณะที่ จิตไหลไปก็รู้ จิตไหลไปในความ
    หลงกองต่างๆจากรูป ก็กำหนดรู้ ยก การรู้ในแบบ โลก ตามอริยวินัยของพระพุทธองค์
    ไว้ด้วย....ไม่ได้ขัดแย้ง มีความกลมกลืน ........ผงงังที่ออกมาย่อมสุกยอก!!!

    **********************

    ทีนี้ กว่านี้มีอีก ...........เพราะ ความด้อยในการ สดับธรรมะ ของ ผู้ชมผงงัง
    ย่อมมีความแตกต่างกัน อาจังทางศิลเปรอะจึงมักจะถ่ายทอด พุทธศิลป ให้สอด
    แทรกไว้ในรูปไว้ด้วย เพื่อให้ เจตนานั้นการประกอบกุศลนั้น คาน กันกับ ความ
    ที่ผงงังสุกยอกย้อนอาจจะพาผู้ชมหลงไว้ด้วย

    อาธิเช่น แสดงสีแดงเร่าร้อน ก็แซมสีม่วงเพื่อให้จิตกลับมาหดหู่ จิตที่ชมผงงัง
    แบบรับรู้ได้ด้วยอำนาจแห่งสี สัญญาแห่งสี ย่อมสามารถพาไปเห็นจิตที่แปรปรวน
    ไม่เที่ยงได้ คงชมผงงังถ้าเป็นผู้เจริญสติ เขาย่อมเห็น โลกภายใน(แปรปรวน)
    และ ย่อมดูผงงังของเราแล้ว เกิดสติ เกิดการระลึก รู้โลกอย่างที่อริยวินัย เป็น ได้
    บ้างไม่มากก็น้อย ....... หรือกรณี แสดงภาพดอกไม้เบ่งบาน เราก็แทรกเข้าไปสิ
    แทรกรูป ดอกไม้เหี่ยวเฉา เข้าไปด้วย ....

    แต่ต้องแทรกไปแบบไม่ใช่การ เสียดสีสังคม ( ผงงังศิลปหลายคงหลายทั่งมักมุ่ง
    เสียดสีเป็นหลัก ) ดังนั้น เราต้องนำเสนอให้ดี ให้อยู่ในข่ายเกิด ธรรมสังเวช
    เอาไว้ ไม่ใช่มุ่งตรงต่อการเสียดสี หรือ หมายจะยกเกรียติ ยกการกิน ยกความเอื้อ
    ต่อกามสนองต่อใคร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กรกฎาคม 2012
  7. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    โลกสูตร

    [๙๘] ครั้งนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ
    ฯลฯ ครั้นแล้วได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ที่เรียกว่า โลก
    โลก ดังนี้ ด้วยเหตุเพียงเท่าไรหนอแล จึงเรียกว่า โลก พระเจ้าข้า ฯ

    พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุ ที่เรียกว่าโลก เพราะจะต้องแตกสลาย
    อะไรเล่าแตกสลาย ดูกรภิกษุ จักษุแลแตกสลาย รูปแตกสลาย จักษุวิญญาณ
    แตกสลาย จักษุสัมผัสแตกสลาย สุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนา
    ที่เกิดขึ้นเพราะจักษุสัมผัสเป็นปัจจัย แตกสลาย ฯลฯ ใจแตกสลาย ธรรมารมณ์
    มโนวิญญาณ มโนสัมผัสแตกสลาย สุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุข-
    *เวทนา ที่เกิดขึ้นเพราะมโนสัมผัสเป็นปัจจัย ก็แตกสลาย

    ดูกรภิกษุ ที่เรียกว่าโลก เพราะจะต้องแตกสลาย ฉะนี้ ฯ

    จบสูตรที่ ๙
    พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๘ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๐
    สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค<!-- google_ad_section_end -->

    เครดิต

    [​IMG]
     
  8. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    อยั่งผงงัง วักร่องขุ่น ลำปาง หาก โบสถ์วิหาง มี ยอดฉัตรหัก ...เป็น อสุภะ
    อะสุระพังเอาไว้ด้วยเนี่ยะ

    อั๊วก็จะ ให้คะแนงพุทธศิ๊ลลลป เต็มห้อย !!

    ซึ้ง..บ่ ?
     
  9. ผีกระติ๊บ

    ผีกระติ๊บ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +51
    ซึ้งกับภาษาของลื้อมาก ปลบมือห้ายเลย(||)(||)
     
  10. มะหน่อ

    มะหน่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +1,210
    การละสมมุติสุขและทุกข์
    คือเรื่องอรูป ว่าไปถึงจิต

    แล้วสมมุติที่เอามาใช้เป็นสื่อคืออะไร
    พุทธอาศัยการเทศนา
    อาศัยสื่อโดยการ รำ หมอรำ โนราห์ ซอ
    ทำไมไพเราะทั้งเบื้องต้น ท่ามกลาง และบั้นปลาย
    เสียง..หรือไม่

    รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส
    อรูป อรส อกลิ่น อเสียงคืออะไร

    ศิลปมีสิบหมู่นะครับ
    หากแยกเป็นสองคืออะไร
    ปั้นเพิ่ม คือทำให้เพิ่ม
    แกะออกคือทำให้ลด

    สามคืออะไรสี่คืออะไร
    เช่นเดียวกับทศรู้ ตัสรู้หรือตรัสรู้ต่างกันตรงไหน

    บัญญัติคือสมมุติที่ใช้ภาษาเป็นสื่อ
    เมื่อก่อนเขาวาดภาพผนังถ้ำพัฒนามาเรื่อยๆ

    กล่าวเรื่องศาสนาพุทธ
    เดิมเป็นของอินเดียหรือมีมาก่อนแล้ว
    แต่อินเดียเข้าใจในความหมายนั้น
    ในการสื่อ เปรียบเทียบเป็นนิทานเป็นสุตต เป็นอภิธรรม

    ดังคำว่าวิสาขา
    หากมีสาขาคือปัจจัยที่มีอยู่คือการลากเส้นรัศมีในวงกลม
    พุทธท่านว่าไว้หนึ่งถึงแปดขา
    หากวิสาขาคือไม่มีขาเหมือนจันทร์อีกที่เต็มดวงหรือไม่

    มาว่าภาพสามมิติ
    คือภพหรือไม่..........มีสามภพ
    คือไตรลักษณ์หรือไม่

    สุดท้ายคำว่าดุลย์หรือตุล ตุลาคือสามมิติหรือไม่
    เมืองไทยตามฝรั่งอีกเอามกราคมมาเป็นเดือนที่หนึ่ง

    พระพุทธองค์บอกว่าคือบัว
    บัวแบนๆคงเป็นโลกที่แบนหรือไม่

    เราดูแต่รูป ไม่ดูผัง ผนัง ตื้นลึกหนาบางได้ไหม
    รู้ว่าเป็นตัวหนังสือที่เขาเขียนไว้
    เพื่อไปสอบหรือไปประดับบนบ่าแบนๆคือบั้งหรือไม่

    โลกกลมหาเจอแล้วรู้ว่ากลม

    เหตุ.........ที่มา........ต้องกลมเช่นกัน
    กระสุนเขาคงไม่มาข้างหน้าอย่างเดียวแน่นอน
    จึงใช้ตัวสื่อว่า....ระ...วะ....งะ เขียนให้สวยระวัง

    เลิกเถอะครับ
    ธรรมแบนๆเพราะโลกนี้กลม
    ท่านคงไม่นั่งสมาธิแบนแบนนะครับ

    แล้วจะสมมุติเจตีย์....อุบายโสถ วิหารมาทำไม
    สุดท้ายจตุระมุขคืออะไร
    ทางเข้าสี่ด้านจตุมหาราชาใครมีเรื่องมีราวสั่นกระดิ่ง
    เหนือกลางใต้อีสาน

    ขอท่านเจริญในธรรมยิ่งแล้วครับ
     
  11. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,102
    ค่าพลัง:
    +2,135
    คือ อยากจะกดโมทนาให้ท่านมะหน่อนะครับ รู้ว่ามีสาระแน่นอน...
    แต่ยาวเหลือเกิน ไม่มีเวลาอ่าน + ตีความครับ :z1
     

แชร์หน้านี้

Loading...