เรื่องเด่น สมเด็จพระสังฆราชแห่งกรุงธนบุรี เกี่ยวพันอย่างไรกับเมืองนครศรีธรรมราช !

ในห้อง 'วัดและศาสนสถาน' ตั้งกระทู้โดย โพธิสัตว์ ชาวพุทธ, 17 ธันวาคม 2018.

  1. โพธิสัตว์ ชาวพุทธ

    โพธิสัตว์ ชาวพุทธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    5,319
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,274
    ค่าพลัง:
    +9,590
    e0b89ee0b8a3e0b8b0e0b8aae0b8b1e0b887e0b886e0b8a3e0b8b2e0b88ae0b981e0b8abe0b988e0b887e0b881e0b8a3.jpg

    สมเด็จพระสังฆราชแห่งกรุงธนบุรี เกี่ยวพันอย่างไรกับเมืองนครศรีธรรมราช !

    โดย ว.วรรณพงษ์


    b89ee0b8a3e0b8b0e0b8aae0b8b1e0b887e0b886e0b8a3e0b8b2e0b88ae0b981e0b8abe0b988e0b887e0b881e0b8a3-1.jpg

    “หลวงพ่อโต วัดพนัญเชิง” หรืออีกชื่อหนึ่งว่า “พระพุทธไตรรัตนนายก” ประดิษฐาน ณ วัดพนัญเชิง ริมแม่น้ำป่าสัก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หน้าตักกว้าง ๒๐ เมตร สูง ๑๙ เมตร สร้างด้วยปูนปั้นปางมารวิชัย พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง อายุหลายร้อยปี ที่พระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยาได้บูรณซ่อมแซมให้มีสภาพดีมาโดยตลอด

    b89ee0b8a3e0b8b0e0b8aae0b8b1e0b887e0b886e0b8a3e0b8b2e0b88ae0b981e0b8abe0b988e0b887e0b881e0b8a3-2.jpg

    เมื่อปี พ.ศ. ๒๓๐๕ ก่อนจะเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ ๒ ได้ปรากฏเหตุ “หลวงพ่อโตมีน้ำพระเนตรไหลออกมา จากพระเนตรทั้งสองข้างเป็นที่อัศจรรย์” ครานั้น “พระภิกษุศรี” เห็นเหตุประหลาดเช่นนี้ เชื่อว่าจะเกิดเหตุร้ายแก่กรุงศรีอยุธยาอีกไม่นาน พระภิกษุศรีจึงตัดสินใจเดินทางกลับบ้านเกิด ณ จังหวัดนครศรีธรรมราช ภายหลังท่านก็คือ “สมเด็จพระสังฆราช (ศรี)” ท่านเป็นสมเด็จพระสังฆราช ๒ แผ่นดิน คือ กรุงธนบุรี และกรุงรัตนโกสินทร์

    ******************

    แต่เรื่องราวของ พระภิกษุศรี มิได้จบเพียงแค่นี้ ด้วยปรากฏเรื่องราวที่เกี่ยวพันกับพระภิกษุศรี ณ วัดป่าตอ ตำบลท้ายสำเภา อำเภอพระพรหม จังหวัดนครศรีธรรมราช โดย “พระอภิรักษ์ วิชรธัมมาภิรักโข” รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดป่าตอ เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ “วัดป่าตอ” ให้ฟังว่า ก่อนเสียกรุงครั้งที่ ๒ หลังจากหลวงพ่อโต กรุงศรีอยุธยาหลั่งน้ำพระเนตร พระภิกษุศรีได้เดินทางทางเรือจากกรุงศรีอยุธยา กระทั่งถึงเมืองนครศรีธรรมราช แล้วลัดเลาะแม่น้ำทางเรือผ่านคลองเสาธง มุ่งมายังบ้านเกิด ท่านได้มาสร้าง “วัดป่าตอ” จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อปี พ.ศ.๒๓๐๕

    b89ee0b8a3e0b8b0e0b8aae0b8b1e0b887e0b886e0b8a3e0b8b2e0b88ae0b981e0b8abe0b988e0b887e0b881e0b8a3-3.jpg

    เมื่อพระภิกษุศรีมาพำนักจำพรรษา ณ วัดป่าตอ แห่งนี้ท่านรำลึกถึง “หลวงพ่อโต วัดพนัญเชิง” จึงได้สร้าง “หลวงพ่อโต” ขึ้นที่วัดป่าตอ ด้วยปูนเพชรในสมัยโบราณ ที่สร้างเจดีย์พระบรมธาตุฯ เมืองนครศรีธรรมราช และเปลือกหอยนำมาตำเป็นผง ในสมัยโบราณมักจะนำยางไม้ น้ำอ้อย น้ำผึ้ง กล้วยน้ำว้า นำมาผสมด้วยเช่นกัน พร้อมทั้งผูกพันธสีมาทำจากปูนเปลือกหอย เป็นเขตพุทธาวาส เสร็จแล้วจึงได้ประดับอุณาโลมด้วย “นิล” สีดำเม็ดโตขนาดเท่าลูกหมาก ขนาดหน้าตักกว้าง ๕ ศอก ( ๒.๕ เมตร) เฉพาะองค์พระสูง ๖ ศอก ( ๓ เมตร)

    ในช่วงแรกพระสังฆราชศรีสร้าง “หลวงพ่อโต” ไว้กลางแจ้ง ภายหลังชาวบ้านทำหลังคาชั่วคราวคลุมไว้ เมื่อหลังคาชั่วคราวพังลง ทำให้เศียร “หลวงพ่อโต” แตกหัก อุณาโลมสูญหายไป จึงปรากฏการซ่อมแซมเศียรพระขึ้นมาใหม่อีกครั้ง แต่เศียรที่ทำมาใหม่ในครั้งที่สอง แต่เมื่อกรมศิลปากรมาซ่อมแซมปรากฏว่า ไม่สามารถซ่อมแซมได้ จึงได้ทำเศียรพระขึ้นมาเป็นเศียรที่สามประดิษฐานติดกับองค์พระ ด้วยความศรัทธาชาวบ้านจึงสร้างเสาขึ้นมาในโบสถ์แล้วนำ “เศียรที่สอง” ประดิษฐานไว้ดังที่ปรากฏ นี่คือ อนุสรณ์ประวัติศาสตร์ที่ยังคงปรากฏถึงทุกวันนี้

    *****************

    ครั้นในปี พ.ศ. ๒๓๑๒ พระเจ้าตากสินทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้รวมเมืองนครศรีธรรมราชเป็นอาณาจักรธนบุรี ครานั้นเมืองนครศรีธรรมราชและหัวเมืองปักษ์ใต้เป็นดินแดนหนึ่งในอาณาจักรธนบุรีแล้ว คราพระเจ้าตากสินเสร็จศึกเมืองนครศรีธรรมราช ทรงยั้งทัพอยู่ที่เมืองนครศรีธรรมราช ตั้งแต่ในช่วงเดือน ๑๒ (พฤศจิกายน) พ.ศ. ๒๓๑๒ ในช่วงนั้นเป็นช่วงฤดูลมมรสุม หากเดินทางกลับกรุงธนบุรี เรือจะเกิดอันตราย พระองค์พำนักที่นี่ประมาณ ๓ เดือนเศษ

    b89ee0b8a3e0b8b0e0b8aae0b8b1e0b887e0b886e0b8a3e0b8b2e0b88ae0b981e0b8abe0b988e0b887e0b881e0b8a3-4.jpg

    ในช่วงเดือนมกราคม พ.ศ. ๒๓๑๓ นี่เองที่ สมเด็จพระเจ้าตากสิน ทางรำลึกถึง “พระภิกษุศรี” ด้วยเป็นพระอาจารย์ที่เคยสอนท่านตั้งแต่เมื่อคราเป็นสามเณร ณ วัดสามวิหาร กรุงศรีอยุธยา ทราบแต่เพียงว่า “พระภิกษุศรี” เดินทางกลับบ้านเกิด ณ เมืองนครศรีธรรมราช ก่อนเสียกรุงครั้งที่สอง หลายปีมาแล้วที่ไม่ได้เจอท่าน

    ณ เมืองนครศรีธรรมราช เดือนมกราคม พ.ศ. ๒๓๑๓ พระเจ้าตากสินจึงเสด็จมานมัสการพระภิกษุศรี ได้สนทนาธรรม และพระภิกษุศรีได้อ่าน “พระไตรปิฎกอักษรขอมบาลีใต้” อักษรสมัยโบราณของเมืองนครศรีธรรมราช ให้พระองค์ได้ฟัง พระเจ้าตากสินจึงได้อาราธนานิมนต์พระภิกษุศรี ให้ไปช่วยกันแปลพระไตรปิฎกอักษรขอมบาลีใต้และคัดลอกเป็นภาษาไทย โดยยืมพระไตรปิฎก จาก วัดหอไตร อำเภอเมืองจังหวัดนครศรีธรรมราช (ปัจจุบันกลายเป็นวัดร้างไปแล้ว)

    เมื่อไปถึงกรุงธนบุรี จึงได้มีการสังคายนาพระไตรปิฎกในกรุงธนบุรี ณ วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร กรุงเทพฯ ครั้นสมเด็จพระสังฆราช (ดี) สมเด็จพระสังฆราชพระองค์แรกในสมัยกรุงธนบุรี สถิต ณ วัดอมรินทรารามวรวิหาร กรุงเทพฯ สิ้นพระชนม์เมื่อปี พ.ศ. ๒๓๑๙

    b89ee0b8a3e0b8b0e0b8aae0b8b1e0b887e0b886e0b8a3e0b8b2e0b88ae0b981e0b8abe0b988e0b887e0b881e0b8a3-5.jpg

    สมเด็จพระสังฆราช (ศรี) ทรงดำรงตำแหน่งเป็นสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๒ แห่งกรุงธนบุรี เมื่อปี พ.ศ. ๒๓๑๙ เป็นต้นมา ครั้นถึง พ.ศ. ๒๓๓๔ สมเด็จพระสังฆราช (ศรี) ได้ถูกถอดจากตำแหน่งเนื่องจากได้ถวายวิสัชนาร่วมกับ พระพุฒาจารย์ วัดบางหว้าน้อย (วัดอมรินทราราม) และพระพิมลธรรม วัดโพธาราม (วัดพระเชตุพนหรือวัดโพธิ์) เรื่องพระสงฆ์ปุถุชนไม่ควรไหว้คฤหัสถ์ที่เป็นอริยบุคคล ดังความว่า

    ถึงมาตรว่าคฤหัสถ์เป็นพระโสดาก็ดี แต่เป็นหินเพศต่ำ อันพระสงฆ์ถึงเป็นปุถุชน ก็ตั้งอยู่ในอุดมเพศอันสูง เหตุทรงผ้ากาสาวพัสตร์ และพระจตุปาริสุทธิศีลอันประเสริฐ ซึ่งจะไหว้นบคฤหัสถ์ อันเป็นพระโสดานั้นก็บ่มิควร

    ข้อวิสัชนาดังกล่าวนี้ไม่ต้องพระทัยสมเด็จพระเจ้าตากสิน พระองค์จึงให้ถอดเสียจากตำแหน่งพระสังฆราช แล้วทรงตั้งพระโพธิวงศ์ เป็นสมเด็จพระสังฆราช พระองค์ที่ ๓ แห่งกรุงธนบุรี

    ครั้นเมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชทรงปราบดาภิเษกและสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๓๒๕ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้คืนสู่สมณฐานันดรศักดิ์ “สมเด็จพระสังฆราช (ศรี)” เป็นสมเด็จพระสังฆราชแห่งกรุงรัตนโกสินทร์พระองค์แรก โดยสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท ตรัสสรรเสริญว่าพระองค์ท่านซื่อสัตย์มั่นคงที่จะรักษาพระศาสนาโดยไม่อาลัยชีวิต ควรเป็นที่นับถือ ต่อไปหากมีข้อสงสัยใดในพระบาลี ก็ให้ถือตามถ้อยคำพระองค์ท่าน กระทั่งเมื่อเดือน ๕ ปีขาล จ.ศ. ๑๑๕๖ (เดือนเมษายน พ.ศ. ๒๓๓๗) สมเด็จพระสังฆราช (ศรี) อาพาธถึงแก่มรณภาพ น่าจะมีชันษาไม่น้อยกว่า ๘๐ ปี

    โดยมีพิธีอัญเชิญพระอัฐิสมเด็จพระสังฆราช (ศรี) พระสังฆราชสองแผ่นดินกลับมายังบ้านเกิด ณ จังหวัดนครศรีธรรมราช (ไม่ปรากฏหลักฐานว่านำมาพระอัฐิมาเพียงบางส่วน หรือทั้งหมด) อย่างไรก็ตามจากข้อมูลหลากหลายที่มาโดยส่วนใหญ่ยืนยันพ้องว่า สถานที่เก็บ “พระอัฐิ” สมเด็จพระสังฆราช (ศรี) คือ “โกศบัว” ที่อยู่ในเขตวัดแจ้งวรวิหาร (ภายหลังวิทยาลัยเทคโนโลยีสถาปัตย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช มาเช่าสถานที่วัดแจ้งวรวิหารนี้) อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช ดังที่ปรากฏในปัจจุบัน

    b89ee0b8a3e0b8b0e0b8aae0b8b1e0b887e0b886e0b8a3e0b8b2e0b88ae0b981e0b8abe0b988e0b887e0b881e0b8a3-6.jpg

    ทุกวันนี้ ชาวเมืองนครศรีธรรมราช ยังคงรำลึกถึง สมเด็จพระสังฆราช (ศรี) จึงมักจะไปกราบสักการะ “หลวงพ่อโต” อายุ ๒๕๐ กว่าปีมาแล้ว ณ วัดป่าตอ ตำบลท้ายสำเภา อำเภอพระพรหม จังหวัดนครศรีธรรมราช ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่ธรรมดา ขอเชิญทุกท่านไปพิสูจน์ความจริงด้วยตัวท่านเอง !

    ขอขอบคุณที่มา
    http://www.banmuang.co.th/column/other/5097
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 18 ธันวาคม 2018

แชร์หน้านี้

Loading...