สมาธิ มันแต่งเอาไม่ได้ !!!

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย วิษณุ12, 2 มกราคม 2013.

  1. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    เกร็ดธรรม
    หลวงปู่ พุธ ฐานิโย

    วัดป่าสาละวัน อ.เมือง จ.นครราชสีมา

    *******************************


    สมาธิเราแต่งไม่ได้หรอก
    เราแต่งได้แต่ บริกรรมภาวนา เช่น

    เราจะภาวนา พุทโธ พุทโธ พุทโธ พุทโธ
    แต่งจิตให้มันนึกพุทโธ พุทโธ พุทโธได้

    แหล่ะ เราจะตั้งใจพิจารณาอะไร
    พิจารณา อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
    รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
    เราตั้งใจพิจารณาได้ อันนี้มันเป็นเพียงภาคปฏิบัติ
    แต่ มันยังไม่เป็น

    ถ้าจิตมันสงบลงไปแล้ว มันภาวนาเอง มันพิจารณาเอง
    เวลามันจะเป็นไป มันรั้งไม่อยู่ มันบริกรรมภาวนาพุทโธ พุทโธ พุทโธ
    ยืน เดิน นั่ง นอน กิน ดื่ม ทำ

    มันบริกรรม พุทโธ พุทโธ พุทโธ ของมันอยู่
    ในบางครั้ง เราคิดอยู่ พูดอยู่ มันก็คล้ายๆกับว่า
    มันบริกรรมพุทโธ พุทโธ ของมันอยู่ ตลอดเวลา

    นั่นจึงจะเรียกว่า จิตมันได้ วิตก วิจาร

    ทีนี้ ถ้าหากว่า จิตมันพิจารณาอะไรแล้ว มันก็จะพิจารณาของมันอยู่ตลอดเวลา
    เวาลาเราพูดเราคิดอะไร มันก็คล้ายๆกับว่า ส่วนมันพิจารณานั่น
    มันเป็นอยู่เอกเทศน์ส่วนหนึ่ง อยู่ในส่วนลึกๆของจิต

    ในลักษณะอย่างนี้เรียกว่า จิตมันเป็นไปเองโดยอัตโนมัติ
    มันได้ วิตก วิจาร ซึ่งเป็นองค์ประกอบของฌานที่ 1
    แล้วก็มี ปิติ มีความสุข มีความเป็นหนึ่ง
    ในเมื่อสภาพจิตของท่านผู้ใดเป็นอย่างนี้
    ไม่ต้องอาศัยหมู่มาบังคับ
    ไม่ต้องอาศัยครูบาอาจารย์มาบังคับ
    ไม่ต้องเป็นผู้ภาวนาเห็นแก่หน้า
    ภาวนาโดยการเป็นเอง จิตก็เป็นไปเอง

    ศีล สมาธิ ปัญญา ประชุมพร้อมที่จิตเป็นหนึ่ง
    ปฏิวัติจิตไปสู่ภูมิจิตภูมิธรรม

    เราปฏิบัติศีลเป็นการสร้างบุญ
    เราทำสมาธิเป็นการสร้างบุญ
    เราพิจารณาธรรมเป็นการสร้างบุญ

    เมื่อเรารักษาศีล ทำสมาธิ พิจารณาธรรมเกิดการคล่องตัวขึ้นมาแล้ว
    ศีล สมาธิ ปัญญา ประชุมพร้อมที่จิต กลายเป็น ปุญญาภิสังขาร
    สามารถปรุงแต่งจิตให้ดำเนินไปสู่คลองธรรม อันเป็นแนวทางแห่งการตรัสรู้

    ปรุงจิตให้เป็นพุทธะ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ในสมาธิ

    เมื่อจิตถอนจากสมาธิมาแล้ว ปรุงจิต ให้เป็นผู้รู้สึก สำนึก ผิด ชอบ ชั่วดี
    มี สติ สัมปชัญญะ รู้พร้อมอยู่ที่จิต ทุกขณะจิต ทุกลมหายใจ

    เพราะฉะนั้น วินัย สิกขาบท
    ศีล 5 ก็ดี
    ศีล 8 ก็ดี
    ศีล 10 ก็ดี
    ศีล 227 ก็ดี
    เมื่อมันรวมลงเป็นหนึ่ง ยังเหลืออยู่อันเดียว คือ
    สติวินะโย
    มีสติเป็นผู้นำจิตอยู่ตลอดเวลา

    จิตของผู้ภาวนาจะมีลักษณะรู้เตรียมพร้อมอยู่ที่จิตตลอดเวลา
    ไม่ว่าอะไรจะผ่านเข้ามาทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย แหล่ะ ใจ
    สติสัมปชัญญะ ตัวนี้ จะทำหน้าที่ พิจารณาแหล่ะคุ้มกันเป็นเองโดยอัตโนมัติ
    โดยที่ผู้ภาวนาไม่ได้ตั้งใจ

    การภาวนาอันใด ถ้าตั้งใจภาวนา จิตจึงภาวนา
    การพิจารณาอะไร ถ้าตั้งใจพิจารณา จิตจึงภาวนา
    อันนั้นมันยังไม่เป็น

    ถ้าการภาวนาอันใด จะตั้งใจมันก็ภาวนา ไม่ตั้งใจมันก็ภาวนา
    พิจารณาอะไร ตั้งใจมันก็พิจารณา ไม่ตั้งใจมันก็พิจารณา
    ซึ่งมันเป็นเองของมันอยู่ตลอดเวลา ตลอด 24 ชั่วโมง
    นอนหลับแล้ว มันก็ยังภาวนาอยู่ ตื่นอยู่มันก็ยังภาวนาอยู่
    นอนหลับแล้วมันก็ยังพิจารณาของมันอยู่ ตื่นอยู่มันก็ยังพิจารณาของมันอยู่

    อันนั้นเรียกว่า

    จิตมันเป็นไปเองโดยอัตโนมัติ ด้วยอำนาจ แห่งปุญญาภิสังขาร
    คือ ศีล สมาธิ ปัญญาประกอบพร้อมเป็นองค์ อริยะมรรคแล้ว
    มีพลังงาน สามารถปฏิวัติจิต ให้ดำเนินไปสู่ภูมิจิตภูมิธรรม

    **********************************
     

แชร์หน้านี้

Loading...