เรื่องเด่น สมาธิในพุทธศาสนา คือ 1 ใน 5 เล่มโปรดของบิล เกตส์ ปีนี้

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย โพธิสัตว์ ชาวพุทธ, 6 ธันวาคม 2018.

  1. โพธิสัตว์ ชาวพุทธ

    โพธิสัตว์ ชาวพุทธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    5,319
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,274
    ค่าพลัง:
    +9,590
    _104638759_gettyimages-1057955442.jpg

    บิล เกตส์ ผู้ก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ เปิดเผยรายชื่อหนังสือ 5 เล่ม ของปี 2018 ที่เขารักและเป็นแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต หนึ่งในนั้นมีหนังสือเกี่ยวกับ การทำสมาธิและการฝึกสติตามแนวทางของพุทธศาสนาของผู้สร้างแอปพลิเคชัน บรรยายสอนฝึกสมาธิที่ชื่อว่า เฮดสเปซ (Headspace) ซึ่งมีผู้ใช้งาน 31 ล้านคน ใน 190 ประเทศทั่วโลก

    “ถ้าคุณเป็นเหมือนผม รักในการเป็นผู้ให้หรือกระทั่งเป็นผู้ได้รับหนังสือในช่วงวันหยุด การให้การอ่านแก่คนอื่นเป็นของขวัญที่ยอดเยี่ยมที่สุด เพราะมันทั้งเป็นการมอบความคิดและง่ายที่จะห่อของขวัญด้วย” บิลเกตส์ เขียนไว้บนบล็อกส่วนตัวของเขาบนเว็บ www.gatesnotes.com

    คู่มือเฮดสเปซเพื่อการฝึกสมาธิและการสร้างสติ (The Headspace Guide to Meditation and Mindfulness)ของแอนดี้ พุดดิคอมบ์ เป็นหนึ่งในหนังสือที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับบิล เกตส์ในปีนี้ แอนดี้ เคยบวชเป็นพระในพุทธศาสนาและศึกษาธรรมะในหลายประเทศรวมทั้งไทยด้วย

    มหาเศรษฐีบิล เกตส์ เขียนรีวิวหนังสือเล่มนี้ไว้ว่า หากเขาอายุ25 ปี คงจะหัวเราะเยาะเมื่อเห็นหนังสือเล่มนี้ แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ เขาและเมลินดา ภรรยา สนใจในการฝึกสมาธิเป็นอย่างมาก

    เกตส์ เล่าอีกว่า หนังสือเริ่มต้นด้วยการเล่าการเดินทางของพุดดิคอมบ์ในเส้นทางตั้งแต่ชีวิตการเรียนในมหาวิทยาลัยจนกระทั่งบวชเป็นพระ ก่อนจะมาเป็นนักพูดที่บรรยายเรื่องการฝึกสมาธิ

    _104638755_gettyimages-607788940.jpg
    คำบรรยายภาพ แอนดี้ พุดดิคอมบ์ ผู้ก่อตั้งแอปฯ เฮดสเปซ

    “หากคุณกำลังคิดว่าจะเริ่มลองฝึกฝนการสร้างสติ เล่มนี้เป็นการเริ่มต้นทำความรู้จักเรื่องนี้ที่ไร้ที่ติ”

    แล้วเล่มอื่น ๆ มีอะไรบ้าง ?

    Educated โดย ทารา เวสต์โอเวอร์ หญิงสาวที่ไม่เคยได้เรียนหนังสือเลยจนถึงอายุ 17 สู่การเป็น ดร.จากเคมบริดจ์

    เกตส์ เขียนถึง ทารา ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ว่า เธอไม่เคยได้ไปโรงเรียนหรือหาหมอเลยจนกระทั่งเธอออกจากบ้านเมื่อตอนอายุ 17 และเขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า ตัวเขาจะรู้สึกผูกพันกับเรื่องราวสู้ชีวิตหญิงสาวจากครอบครัวลัทธิมอร์มอน ซึ่งเป็นพวกเตรียมตัวพร้อมสำหรับวันสิ้นโลกด้วย เกตส์บอกว่า ทาราเป็นนักเขียนที่ดี งานเขียนของเธอได้ส่องสะท้อนมายังชีวิตของเขาเมื่อได้อ่านเรื่องราวในวัยเด็ก

    “ผมและเมลินดา รักเรื่องราวชีวิตวัยเยาว์ของเด็กสาวคนนี้ที่ความกระหายในการเรียนรู้ของเธอแข็งแกร่งมาก จนกระทั่งเธอสามารถเรียนจบเป็นดอกเตอร์ที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ได้”

    Army of None โดย พอล แชร์

    เกตส์ บอกว่า อันที่จริง เรื่องของ อาวุธอัตโนมัติ แทบจะไม่ใช่ลิสต์หนังสืออันดับต้น ๆ ที่ควรอ่านในช่วงวันหยุด แต่เรื่องของปัญญาประดิษฐ์ในการทำสงครามที่อยู่ในหนังสือเล่มนี้ก็ทำให้เขาวางมันไม่ลง แม้ว่าอาวุธปัญญาประดิษฐ์จะเป็นหัวข้อที่ดูซับซ้อนอย่างมาก แต่นักเขียน ก็เขียนอธิบายได้อย่างชัดแจ้งและนำเสนอการทำสงครามด้วยเครื่องจักรกล ทั้งแง่มุมสนับสนุนและคัดค้าน ขณะเดียวกัน ความรู้ความเชี่ยวชาญในตัวของผู้เขียนก็ไม่ได้ทำให้เกตส์รู้สึกประหลาดใจแต่อย่างใด เพราะ พอล แชร์ คือ อดีตทหารผ่านศึกผู้เคยเข้าไปร่วมร่างนโยบายเกี่ยวกับอาวุธอัตโนมัติของสหรัฐอเมริกาด้วย

    แบด บลัด : ความลับและคำโกหกของสตาร์ทอัพแห่งซิลิคอนวัลเลย์ (Bad Blood:Secrets and Lies in a Silicon Valley Startup) โดย จอห์น แครีรู

    เป็นหนังสือที่เขียนถึงสตาร์ทอัพที่ชื่อดังและอื้อฉาวแห่งซิลิคอน วัลเลย์ที่ชื่อว่า เทรานอส (Theranos) ธุรกิจบริการทางการแพทย์ตรวจสุขภาพแบบทันใจ ซึ่งก่อตั้งโดย เอลิซาเบธ โฮล์มส เด็กสาวที่มีอายุแค่ 19 ปี

    จุดขายของ เทรานอส คือ การตรวจสุขภาพที่ให้ผู้รับบริการสามารถทราบถึงสภาวะของสุขภาพตัวเองด้วยการเจาะเลือดไปตรวจแบบวันสต็อป โดยใช้อุปกรณ์ของเทรานอส ซึ่งการมาของบริการของเทรานอส ช่วยย่นย่อระยะเวลาที่ผู้คนต้องต่อคิวรอตรวจสุขภาพ ความนิยมของสตาร์ทอัพที่เปลี่ยนแปลงความสะดวกสบายให้แก่ผู้รับบริการของเทรานอส ทำให้ถึงกับมีผู้ขนานนาม เอลิซาเบธ โฮล์มส ว่าเป็นนักปฏิวัติวงการแพทย์

    _104638757_gettyimages-491437258.jpg
    คำบรรยายภาพ เอลิซาเบธ โฮล์มส ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ เทรานอส สตาร์ทอัพทางบริการทางการแพทย์ผู้อื้อฉาว

    โฮล์มส และเทรานอสกลายเป็นสตาร์ทอัพเนื้อหอมแห่งซิลิคอนวัลเลย์ในทันที เธอได้ไปขึ้นพูดบนเวทีสร้างแรงบันดาลใจอย่างเท็ด ทอล์ก และโด่งดังขนาดได้ขึ้นปกของนิตยสารธุรกิจอย่างฟอร์บส ฟอร์จูน เทรานอส สร้างรายได้ในปี 2013 ได้มากถึง 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และขยายบริการตรวจเลือดไปยังทั่วสหรัฐฯ

    แต่ทว่าสตาร์ทอัพที่กำลังขึ้นหม้อนั้นมีปัญหา ซึ่งก็คือ มันไม่เคยใช้การได้จริงหรือใกล้เคียงเลย แต่โฮล์มสนั้นเก่งกาจในการขายฝัน ขายวิสัยทัศน์ จนกระทั่งมีคนไข้รายหนึ่งใช้อุปกรณ์ตัวทดสอบเลือดของเทรานอสเพื่อนำมาประกอบการตัดสินใจหาวิธีรักษาอาการป่วย นั่นจึงทำให้พบว่า เทรานอสใช้งานไม่ได้จริง

    จนกระทั่งในปี 2015 จอห์น แคร์รีรู ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ ซึ่งเป็นผู้สื่อข่าวของวอลล์สตรีท เจอร์นัล ขุดคุ้ยความไม่ชอบมาพากลของเทรานอส โดยรายงานอ้างข้อมูลจากอดีตพนักงานของเทรานอสว่า อุปกรณ์อาจให้ผลการตรวจสอบที่ผิดพลาด นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์หลายรายยังกังขากับความน่าเชื่อถือของระบบนี้

    ปัจจุบันเอลิซาเบธ โฮล์มส และอดีตหุ้นส่วนเทรานอส กำลังถูกตั้งข้อหาฉ้อโกงประชาชน และตัวบริษัทเทรานอสก็ปิดกิจการไปแล้วเมื่อเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา

    บทรีวิวของเกตส์ บอกว่า “เพื่อนฝูงมากมายแนะนำหนังสือเล่มนี้ให้ผม แคร์รีรู (ผู้เขียน) ได้มอบความหมายของคนอยู่วงในของเรื่องนี้อย่างแท้จริง เขาฉายให้เห็นการขึ้นสู่จุดสูงสุดและการตกต่ำของเทรานอส เรื่องนี้ดูบ้าบาเกินกว่าที่ผมคาดคิดไว้มาก และผมก็วางมันไม่ลงตั้งแต่เริ่มอ่าน หนังสือเล่มนี้มีองค์ประกอบครบทุกอย่าง ทั้งกลอุบายที่ซับซ้อน การสมคบคิดแผนร้ายของบริษัท เรื่องจากหน้าปกนิตยสาร การทำลายความสัมพันธ์ในครอบครัว และการสิ้นสุดของบริษํทสตาร์ทอัพที่ครั้งหนึ่งโกยรายได้เกือบ 1หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

    21 บทเรียนแห่งศตวรรษที่ 21 (21 Lessons for the 21st Century) โดย ยูวาล โนอาห์ ฮารารี

    เกตส์ รีวิวหนังสือเล่มนี้ไว้ว่า เป็นคู่มือเผชิญหน้ากับความกังวลใจในศตวรรษที่ 21

    จิตใจของมนุษย์มักกระหายอยากความกังวล แต่นั่นไม่ใช่ว่าเป็นเรื่องไม่ดี ชีวิตในยุคสมัยใหม่นั้นมีเหตุผลที่ควรกังวลหลายเรื่อง ทั้งการก่อการร้าย การเปลี่ยนแปลงสภาวะภูมิอากาศ การเติบโตของปัญญาประดิษฐ์ การรุกล้ำความเป็นส่วนตัว หรือกระทั่งการสูญหายของความร่วมไม้ร่วมมือในระดับนานาชาติ หนังสือเล่มนี้ที่เขียนโดยนักประวัติศาสตร์ ได้เสนอกรอบคิดสำหรับเผชิญหน้าความน่ากลัวเหล่านี้

    เกตส์บอกว่า เขาเป็นแฟนตัวยงของฮารารี และหนังสือเล่มล่าสุดนี้ก็เช่นกัน หนังสือเล่มก่อนหน้านี้ที่ชื่อว่า เซเปียนส์ และ โฮโม อิอุส เป็นเรื่องที่เสนอเกี่ยวกับอดีตและอนาคต แต่เล่มนี้นำเสนอเกี่ยวกับโลกปัจจุบัน

    “หากปี 2018 ทำให้คุณรู้สึกกระอักกระอ่วนกับความยุ่งเหยิงที่เกิดขึ้นในโลก หนังสือศตวรรษที่ 21 ได้เสนอกรอบคิดวิธีการที่จะรับมือกับข่าวสารที่เข้ามา และชวนคุณขบคิดเกี่ยวกับความท้าทายที่เหล่ามนุษยชาติต้องเจอ”

    รายชื่อหนังสือเล่มโปรดในปีนี้ เกตส์บอกว่าคัดสรรมาหลากหลายแนว ตั้งแต่คู่มือฝึกสมาธิไปจนถึงหนังสือที่เจาะลึกเรื่องอาวุธอัตโนมัติในสงคราม และเรื่องราวสตาร์ทอัพอื้อฉาว ซึ่งเขาบอกว่า รายชื่อปีนี้ เป็นเรื่องที่เหมาะกับทุกคน

    “หากคุณกำลังมองหาของขวัญสำหรับเพื่อนและครอบครัวที่คัดสรรมาอย่างดีแล้ว คุณจะไม่ผิดหวังกับหนังสือพวกนี้”

    ขอขอบคุณที่มา
    https://www.bbc.com/thai/international-46463838
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 6 ธันวาคม 2018

แชร์หน้านี้

Loading...