เรื่องเด่น ศน.มอบ 1 ล้านหนุน 9 ศูนย์วัดไทยอินเดีย-เนปาลดูแลชาวพุทธ

จากการที่นางฉวีรัตน์ เกษตรสุนทร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) และนายมานัส ทารัตน์ใจ อธิบดีกรมการศาสนา(ศน.)ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานของศูนย์อำนวยความสะดวกคณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชนที่เดินทางมาประกอบศาสนากิจยังสังเวชนียสถาน 4 ตำบล ณ สาธารณรัฐอินเดีย และสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาลระหว่างวันที่ 3-8 กุมภาพันธ์ 2561 นั้นวันนี้( 5 ก.พ. )พระมหานิพนธ์ ญาณวีโร เลขานุการเจ้าอาวาสวัดไทยพุทธคยา และพระธรรมทูตสายอินเดีย-เนปาล กล่าวว่า พุทธศาสนิกชนได้เดินทางมายังสังเวชนียสถาน 4 ตำบล ตั้งแต่ในช่วงเดือนตุลาคมเป็นต้นมา โดยในเดือนกุมภาพันธ์ ถือว่ามีพุทธศาสนิกชนเดินทางมาสังเวชนียสถาน 4 ตำบลมากที่สุด ซึ่งศูนย์อำนวยความสะดวกฯในวัดไทยทั้ง 9 ศูนย์พร้อมให้การดูแลพุทธศาสนิกชนชาวไทยอย่างเต็มที่ โดยศูนย์วัดไทยพุทธคยาจะเป็นสำนักงานใหญ่บริหารจัดการด้านต่างๆ อาทิ การจัดหาพระวิทยากรสายอินเดีย-เนปาล การส่งต่อผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาล ส่งผู้เสียชีวิตกลับไปยังประเทศไทย ประกอบพิธีฌาปณกิจศพ และประสานสถานทูตกรณีหนังสือเดินทางหาย หรือกรณีการอยู่ในอินเดียเกินกำหนดเวลาที่ทางการอินเดียกำหนด เนื่องจากประชาชนไทยส่วนใหญ่อาจจะยังไม่ทราบว่า ทางการอินเดียได้ปรับเปลี่ยนเวลาที่อยู่ได้จาก 6 เดือนเป็น 3 เดือนแทน ส่วนกรณีที่มีเหตุการณ์ระเบิดในช่วงที่ผ่านมาล่าสุดสถานการณ์กลับสู่ปกติแต่ทางการอินเดียได้จัดมาตรการมีเข้มงวดมากขึ้นทั้งติดตั้งเครื่องแสกนการเข้าสู่ต้นพระศรีมหาโพธิ์พุทธคยา ห้ามนำโทรศัพท์มือถือเข้าไปในพื้นที่ เพื่อรักษาความปลอดภัยแก่พุทธศาสนิกชนด้วย

นางฉวีรัตน์ กล่าวว่า ศน. ได้นำเงินจากกองทุนส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตรมาถวายจำนวน 1 ล้านบาทรวมถึงปัจจัยจากพุทธศาสนิกชนชาวไทยที่ร่วมสมทบทุนมาถวายแก่วัดไทยพุทธคยา ซึ่งถือวัดศูนย์กลางในการช่วยเหลืออำนวยความสะดวกแก่คณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทยและต่างชาติที่เดินทางมาประกอบศาสนกิจดังกล่าวส่งต่อไปยังศูนย์วัดไทยรวม 9 แห่งที่ศน.ร่วมกับพระธรรมทูตสายอินเดีย-เนปาลจัดตั้งที่วัดไทยในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งแต่ละศูนย์จะคอยอำนวยความสะดวกทั้งด้านห้องสุขา การปฐมพยาบาลโดยมีทีมแพทย์และพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุขหมุนเวียนมาประจำศูนย์ รวมถึงการให้ความช่วยเหลือกรณีหนังสือเดินทางสูญหายของกระทรวงการต่างประเทศ จากการหารือกับคณะสงฆ์พบว่านับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2560 มีคณะพุทธศาสนิกชนไทยเดินทางมาเป็นจำนวนมากด้วยสภาพอากาศที่หนาวเย็นส่งผลให้มีผู้เจ็บป่วยเพิ่มขึ้นต้องได้รับการดูแลอย่างทันท่วงทีอีกด้วย

“สำหรับการเดินทางลงพื้นที่ครั้งนี้นอกจากจะเป็นการสนับสนุนคณะสงฆ์ในการเปิดศูนย์รองรับคณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชนไทย ยังได้มีโอกาสรับฟังปัญหาเกี่ยวกับการดำเนินโครงการด้านต่างๆจากวัดไทยทั้ง 9 แห่งเพื่อนำมาสรุปจัดมาตราการอำนวยความสะดวกด้านต่างๆให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้นในอนาคตด้วย”นางฉวีรัตน์ กล่าว

ขอขอบคุณที่มา
https://www.dailynews.co.th/education/625459