ล้างบาปได้ทุกคน ทุกศาสนา ทำง่ายๆ แบบนี้

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย แสงที่มองไม่เห็น, 25 มีนาคม 2008.

  1. แสงที่มองไม่เห็น

    แสงที่มองไม่เห็น สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +0
    มนตราแก้ปัญหาชีวิต พิธีศักดิ์สิทธิ์ “ล้างบาปด้วยน้ำมนต์ธาตุสี่”


    พราหมณ์โยคีที่ทำการ “รับอริยขันธ์” ตั้งแต่ขันธ์ ๘ จนถึงขันธ์ ๐ จะได้รับการถ่ายทอดพิธีการต่างๆ ของพราหมณ์โยคีในแบบของอริยพราหมณ์ สามารถนำพิธีกรรมต่างๆ ไปใช้ปัดเป่าทุกข์ บำรุงสุขให้แก่ประชาชน โปรดสัตว์บำเพ็ญบุญบารมีได้ หนึ่งในพิธีกรรมที่ใช้นั้นคือ “การล้างบาป” เพื่อเอาพลังจิตแห่งพุทธะ มาละลดเลิกบาป ไม่ทำอีก ดังนี้


    บรมครูทางจิตวิญญาณที่เกี่ยวข้องกับมนตรา
    ๑) พระพุทธเจ้าสมณโคดม
    หลักธรรมคำสอนที่ใช้ในการแก้ปัญหาชีวิต และมนตราต่างๆ จะใช้พลังจากพุทธคุณ จึงให้ผู้ทำพิธี ตั้งพระพุทธรูปเล็กๆ ไว้ด้วย เพื่อกราบไหว้ในเวลาทำพิธีไหว้ครู


    ๒) พระเยซู
    หลักธรรมคำสอนของพระเยซู ช่วยในการอยู่ร่วมกันด้วยความรักความเมตตา และท่านเป็นผู้มอบพิธีล้างบาปนี้ไว้ให้แก่มวลมนุษย์ ให้ตั้งรูปเคารพบูชาท่านก่อนทำพิธี


    ๓) พระศิวะ
    หลักธรรมคำสอนพระศิวะ ที่มุ่งเน้นการปฏิบัติบูชา อันนำมาซึ่งพิธีศักดิ์สิทธิ์คือ พิธีลอยบาปในแม่น้ำคงคา อันไหลมาจากมวยผมของท่าน จึงต้องตั้งรูปเคารพบูชาท่าน


    ผู้ใช้มนตราแก้ปัญหาชีวิตนี้ ควรศึกษาหลักธรรมจากพระพุทธองค์ และแนวทางการใช้ความรักความเมตตาต่อกันจากคัมภีร์ใบเบิล ทั้งยังควรศึกษาแนวทางการทำสมาธิแบบโยคะของพระศิวะด้วย จึงควรบูชาท่านทั้งหลายนี้เป็นครูทางจิตวิญญาณ เวลาตั้งโต๊ะบูชา ให้วางพระพุทธรูป (พระพุทธเจ้า) ไว้ตรงกลาง วางพระเยซูไว้ทางขวา ซึ่งอาจเป็นเครื่องหมายแทนท่านอย่างอื่นก็ได้ เช่น ไม้กางเขน แล้ววางองค์พระศิวะไว้ด้านซ้าย ในการกราบไหว้บูชาสามองค์ใช้ธูปสามดอก เทียนจุดเล่มเดียว ดอกไม้เลือกได้ตามควร


    สิ่งที่ใช้ในพิธีกรรม


    ๑) พระธรณี (ธาตุดิน)
    ให้ใช้ผงแป้ง, ดอกมะลิ, ดอกไม้ขนาดเล็ก ที่มีกลิ่นหอม ตามแต่สามารถหาได้ เป็นเครื่องแทนธาตุดิน ที่จะใช้ในการบูชาในพิธี ซึ่งจะใช้โรยลงในน้ำพอควร


    ๒) พระคงคา (ธาตุน้ำ)
    ให้ใช้น้ำเปล่าใสเย็นบริสุทธิ์ เป็นตัวแทนของธาตุน้ำ นำใส่ในขันที่เตรียมไว้เฉพาะ ขันที่ใช้สำหรับทำพิธีนี้เราจะไม่ใช้ทำอย่างอื่น นอกจากทำน้ำมนต์ในพิธีนี้เท่านั้น


    ๓) พระวาโย (ธาตุลม)
    ให้ใช้การเป่าเสก แทนธาตุลม เมื่อว่าคาถา แล้วให้เป่าลมออก โดยยกขันที่ใส่เครื่องบูชาขึ้นจรดหน้าผาก ว่าคาถาเสร็จ ก็เป่าเบาๆ ยาวๆ หนึ่งครั้งก็พอ คือ ปลุกธาตุลม


    ๔) พระเตโช (ธาตุไฟ)
    ให้ใช้เทียนขนาดเล็ก จุดไฟให้สว่าง แล้วหยดน้ำตาเทียนลงในขันทำน้ำมนต์ เป็นเครื่องแทนธาตุไฟ เมื่อทำน้ำมนเสร็จก็ดับเทียนได้ ก่อนทำพิธีให้จุดธูปไหว้ครูก่อน


    สิ่งที่ใช้แทนธาตุทั้งสี่ในพิธี จะปรับได้ตามยุคสมัย ขอเพียงมีลักษณะเข้าตามธาตุทั้งสี่ก็พอ ทั้งนี้ให้เลือกที่เป็นมงคล, บริสุทธิ์, หาง่าย, มีในท้องถิ่น, ไม่ต้องเสียเงินในการเตรียมมาก ทำแล้วเกิดจิตที่เป็นกุศลแต่ฝ่ายเดียว ห้ามใช้ของอัปมงคลในพิธีเด็ดขาด


    มนตราศักดิ์สิทธิ์ปลุกเสกน้ำมนต์ธาตุสี่


    โอม พุทธธัง พ้น ธรรมมัง ว่าง สังฆัง ปลด
    บาปกรรมจงลด บรรเทาเบาบาง จนหมดสิ้นไป

    ข้าขออัญเชิญ..................
    พระแม่ธรณีด้วยดอกไม้ของหอม
    พระแม่คงคาด้วยน้ำบริสุทธิ์
    พระแม่วาโยด้วยลมปราณเป่า
    พระแม่เตโชด้วยไฟจากเทียน

    ขออำนาจแห่งพระรัตนตรัย และพระแม่ทั้งสี่ จงร่วมกันปลุกเสกน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์นี้
    เพื่อขจัดความบาปให้หมดสิ้นไปจากชีวิต ของคุณ .................... (ชื่อผู้ขอทำพิธี)
    ขอให้รอดพ้นจากความบาปนี้ นำชีวิตสู่ความเจริญยิ่งๆ ขึ้นไปเทอญ สาธุ...


    ขั้นตอนการทำพิธี


    ๑) ติดต่อนัดหมาย
    ให้ผู้ที่ต้องการทำพิธี เข้านัดพบผู้ทำพิธี แล้วแจ้งว่าต้องการล้างบาป ตนไม่อยากอยู่ในวังวนบาปนั้นๆ เช่น จะเลิกเป็นโสเภณี, เลิกเป็นโจร, เลิกยาเสพติด ฯลฯ แต่ไม่มีกำลังใจในการเปลี่ยนแปลงตนเองเป็นคนใหม่ ให้นัดหมายวันเวลาในการทำพิธีที่สะดวกเหมาะสม นับเป็นฤกษ์มงคลตามแต่จะถือเคล็ดกัน (ได้หลายแบบ) อนึ่ง การล้างบาปนี้ ทำได้เฉพาะในสถานปฏิบัติธรรม เมื่อทำแล้วต้องรับธรรมไปปฏิบัติต่อเนื่อง ไม่สามารถทำได้ตามบ้านเรือน เพราะจะไม่มีพลังพอละบาป อนึ่ง การล้างบาปไม่ใช่การทำให้วิบากกรรมในอดีตหมดไป แต่เป็นการปลดเปลื้องบาปในปัจจุบัน


    ๒) เตรียมเครื่องบูชา
    เครื่องบูชา มีดอกไม้, ธูป, เทียน, และเงินตามแต่ศรัทธา (ห้ามผู้ทำพิธีเรียกเอาเงินจากผู้ขอทำพิธี) สามารถใช้เงินได้ตั้งแต่หน่วยย่อยที่สุดที่ใช้กันอยู่ เช่น ในปัจจุบัน อาจเป็นเหรียญสลึง ก็ได้ (ถ้ามี) หรือ ๑ เหรียญบาท ขึ้นไป จนถึงแล้วแต่ระดับที่ต้องการจะสนับสนุนการทำความดีของผู้ทำพิธี ส่วนผู้ทำพิธีต้องเตรียมน้ำในขัน พร้อมลอยดอกไม้ และเทียน สำหรับทำน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ (น้ำมนต์จากธาตุสี่)


    ๓) ไหว้ครูก่อนทำพิธี
    ช่วงนี้ ผู้ทำพิธีจะเตรียมของและไหว้ครู ระหว่างนั้นจะทักทายปราศรัยกับผู้ขอทำพิธีตามควร เพื่อให้เกิดความผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจ เกิดจิตปีติเป็นกุศลง่าย ไม่เกิดนิวรณ์ทั้งห้าขณะทำพิธี ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก หากผู้ขอทำพิธีลังเลแคลงใจในพิธี พิธีก็ไม่สำเร็จ ดังนั้น ต้องไม่มีทั้ง ความอยากตามใจตนเอง, ความพยาบาทเคียดแค้นใคร, ความแคลงใจระแวงสงสัยไม่ไว้วางใจ, ความฟุ้งซ่าน, ความเศร้าสลดหดหู่หมดกำลังใจขาดสติปัญญา ดังนั้น ผู้ทำพิธีต้องพูดคลายนิวรณ์ทั้งห้านี้ให้ผู้ขอทำพิธี หากไม่สามารถคลายนิวรณ์นี้ได้สำเร็จขณะทำ ก็ไม่มีความหมายในการทำพิธีนั้นๆ


    ๔) เริ่มทำพิธี
    ช่วงนี้ ให้ผู้ขอทำพิธีนั่งหลับตา ไม่จำเป็นต้องพนมมือ นั่งตามสบายปล่อยร่างกายตามสบาย ทำสมาธิให้แน่วแน่หลุดจากนิวรณ์ห้าชั่วคราว ห้ามลืมตาขึ้นจนกว่าจะเสร็จพิธี ซึ่งผู้ทำพิธีจะบอกเองว่าให้ลืมตาขึ้นได้เมื่อไร ส่วนผู้ทำพิธีก็จะทำการว่าคาถาเสกน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ให้เสียงดังฟังชัดถ้อยชัดคำ ไม่ผิดเพี้ยน หากจะอ่าน ต้องบันทึกมนตราในหนังสือแล้วเก็บไว้ในที่สูงอย่างดี หรือบนโต๊ะหมู่บูชานั้นๆ เอง เมื่อว่าคาถาเสกน้ำมนต์เสร็จเป็นอันเสร็จพิธีเสกน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ บอกให้ลืมตาได้ แล้ว


    ๔.๑) นำมือทั้งสองวางลงในขันน้ำมนต์ ล้างมือในขั้นนั้นเบาๆ พร้อมกล่าวว่า “ขออำนาจแห่งพระแม่ทั้งสี่ จงนำความบาปของลูกให้หมดสิ้นไป จากการกระทำ จากน้ำมือของลูก ณ บัดนี้”
    ๔.๒) นำมือทั้งสองที่เปียกน้ำในขันน้ำมนต์ วักน้ำขั้นลูบใบหน้า พนมมือพร้อมกล่าวว่า “ขออำนาจแห่งพระแม่ทั้งสี่ จงนำความบาปของลูกให้หมดสิ้นไป จากวาจา จากการสื่อสารใดๆ ณ บัดนี้”
    ๔.๒) นำมือทั้งสองที่เปียกน้ำมนต์ ที่พนมมืออยู่ ให้ลูบยอดอกเบาๆ พร้อมกล่าวว่า “ขออำนาจแห่งพระแม่ทั้งสี่ จงนำความบาปของลูกให้หมดสิ้นไป จากใจ จากความรู้สึกนึกคิดใดๆ ณ บัดนี้” แล้วยกมือขึ้นไหว้จรดหน้าผากหนึ่งครั้ง


    ๕) จบพิธีกรรม
    ผู้ทำพิธีต้องปฏิบัติบูชา “ล้างบาป” คือ การบำเพ็ญเพื่อให้พ้นไปจากบาปที่ตนได้รับ ด้วยกำลังแห่งธาตุทั้งสี่ ซึ่งในการล้างบาปนี้เอง จะช่วยทำให้บาปกรรมนั้นหมดสิ้นลงไป ซึ่งผู้ขอทำพิธีจะขาดเสียไม่ได้ หากขาดการปฏิบัติบูชาแล้ว พิธีกรรมที่ทำมาทั้งหมดนับว่าเป็น ๐ ไป ไม่เกิดผลใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งจะได้กล่าวในรายละเอียดต่อไป


    การล้างบาปในบาปกรรมต่างชนิดกัน


    เราอาราธนาคุณพระรัตนตรัยมานำทาง เพื่อปฏิบัติบูชาล้างบาปแก่แม่พระทั้งสี่ ดังนี้


    ๑) ล้างบาปปฏิบัติบูชาธาตุดิน ด้วย “ทาน”
    ผู้ขอรับทำพิธีต้องมีการล้างบาปปฏิบัติบูชาต่อพระแม่ธรณี ด้วยการปฏิบัติบูชาเท่านั้น ไม่ใช่การกราบไหว้บูชา การพลีกรรมต่อพระแม่ธรณีให้ใช้ความหนักแน่นไม่หวั่นไหว ราบเรียบรองรับได้ทุกอย่างดุจแผ่นดิน คือ การสละบาปกรรมนั้นๆ ไปจากตน ไม่ก่อบาปนั้นๆ อีก นั่นเอง คือ การเอาบาปทิ้งลงแผ่นดินไป สละบาปนั้นทิ้งไป ไม่มีอีก


    ๒) ล้างบาปปฏิบัติบูชาธาตุน้ำ ด้วย “ศีล”
    ผู้ขอรับทำพิธีต้องมีการล้างบาปปฏิบัติบูชาต่อพระแม่คงคา ด้วยการปฏิบัติบูชาเท่านั้น ไม่ใช่การกราบไหว้บูชา การพลีกรรมต่อพระแม่คงคาให้ใช้ความต่อเนื่องไม่ขาดสายดุจดั่งแม่น้ำ ดุจดั่งพระแม่คงคา หากผู้ปฏิบัติทำทาน จะเสียทรัพย์มาก จึงให้ปฏิบัติบูชาพระแม่คงคาด้วย “ศีล” คือ ให้ถือศีล ๕ อย่างเคร่งครัด เป็นเวลาติดต่อกันจนตนเองพ้นจากบาปกรรมนั้นๆ คือ ไม่หวนกลับไปปฏิบัติอีกเด็ดขาด

    ๓) ล้างบาปปฏิบัติบูชาธาตุลม ด้วย “ภาวนา”
    ผู้ขอรับทำพิธีต้องมีการล้างบาปปฏิบัติบูชาต่อพระแม่วาโย ด้วยการปฏิบัติบูชาเท่านั้น ไม่ใช่การกราบไหว้บูชา การพลีกรรมต่อพระแม่วาโยให้ใช้ความเย็น, เบา, ว่างเปล่า ดุจดั่งพระวาโย ธาตุลม ด้วยการบริกรรมตามลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า “พุทธ” แล้วรวมลมหายใจไว้ที่ท้องน้อย จน “ท้องพอง” ช่วงนี้ใช้รวมกำลังจิตกำลังใจ ความหมายของพุทธ คือ รวมจิตเป็นหนึ่งเดียว “จิตคือพุทธะ” จากนั้น ให้ผ่อนลมหายใจออกเบาๆ ช้าๆ น้อยๆ (ลมละเอียด) หายใจออกบริกรรม “โธ” ให้รู้สึกถึงความผ่อนคลายเบาสบายทั่วร่างกายและจิตใจ จน “ท้องยุบ” ช่วงนี้ใช้ปล่อยปล่อย แผ่ปราณจากท้องไปทั่วตัวแผ่ไร้ประมาณไปทุกสิ่ง ความหมาย ของ “โธ” คือ ธรรม คือ ธรรมชาติ คือ สรรพสิ่ง เราจะทลายตัวตนของตนออก ทลายขันธ์ห้าออก แล้วหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับธรรม คือ ทุกสรรพสิ่ง ไม่แบ่งแยก ไม่แตกต่าง คือ หนึ่งเดียวกัน ให้แผ่ปราณออกอนันต์ตามลมหายใจออกนั้นๆ สัมผัสความรู้สึกเบาสบายผ่อนคลายของธรรมชาติ ดุจ ความสุขสงบยามที่เราไปริมแม่น้ำ, ทะเลสาบใหญ่ๆ, ป่าใหญ่ที่สงบสงัด ภาวนาไปหลายรอบ ทุกรอบหายใจเข้าออก จนรู้สึกเบาสบายใจ สุขสงบ จนละจากนิวรณ์ทั้งห้า จึงค่อยๆ ปล่อยไปตามธรรมชาติไปเรื่อยๆ ไม่ต้องกำหนดอะไรอีก พักสุขสงบอยู่อย่างนั้น เสพความรู้สึกสุขสงบอย่างนั้น ลึกขึ้น ละเอียดขึ้น เบาขึ้น สบายขึ้น ว่างมากขึ้น จนไม่เหลืออะไรให้รู้สึกเลย ซึ่งระหว่างนี้ อาจจับได้ถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น หรืออาจระลึกได้หลังจากออกจากสมาธิแล้ว ให้ทำนานเท่าที่พอใจ จนรู้สึกเบาสบายใจ หายเครียด ให้ทำสม่ำเสมอทุกวัน


    ๔) ล้างบาปปฏิบัติบูชาธาตุไฟ ด้วย “ปัญญา”
    ผู้ขอรับทำพิธีต้องมีการล้างบาปปฏิบัติบูชาต่อพระแม่เตโช ด้วยการปฏิบัติบูชาเท่านั้น ไม่ใช่การกราบไหว้บูชา การพลีกรรมต่อพระแม่เตโช ธาตุไฟ ให้ใช้ความสว่างไสว ไล่ความมืดมน ใช้พระเพลิงผลาญความไม่รู้ให้หมดสิ้นไป ดุจดั่งไฟให้แสงสว่างและมอดไหม้เปลือกสมมุติได้ทุกสิ่ง เหลือแต่แก่นแท้คือเถ้าถ่าน อนิจจัง ความไม่มีอะไรที่ควรแก่การอาลัยอาวรณ์, อยากได้อยากใคร่หา หรือยึดมั่นถือมั่น ผู้ปฏิบัติบูชาพระแม่เตโช ให้ปฏิบัติบูชาพระแม่ทั้งสามก่อนเสมอ โดยเฉพาะพระแม่วาโย (ลม) ผู้เป็นต้นกำเนิดให้แก่พระแม่เตโช (ลมก่อให้เกิดไฟ เช่น ลมพัดแล้งในป่า จึงเกิดไฟป่าขึ้นได้) เมื่อเกิดปัญญา คือ ความสว่างไสว ความรู้เท่าทันความบาป ที่ตนเคยได้กระทำซ้ำๆ เป็นนิสัย เมื่อคิดใหม่ได้แล้ว ให้นำปัญญาไปปฏิบัติ จึงนับว่าเป็นการบูชาพระแม่เตโช ในการภาวนาบูชาพระแม่วาโยนั้น จะเกิดปัญญาขึ้นได้ ดุจ ไฟที่สว่างไสวจากการที่ลมพัดเข้าป่าจนเกิดไฟป่าได้ฉะนั้น เมื่อผู้ปฏิบัติได้แนวคิดใหม่ ได้ปัญญาแล้ว จักต้องมีศรัทธาในปัญญา ที่พระแม่เตโชช่วยให้เรา ดังนั้น เราจะไม่เย่อหยิ่งว่าเราเก่งนักเก่งหนา คิดอะไรได้ดีแล้ว แต่จะอ่อนน้อมถ่อมตน ยอมรับนับถือถึงพลังธรรมะ ธรรมชาติ คือ พลังธาตุไฟ แล้วนำความคิดที่ได้ไปปฏิบัติจนเกิดผล


    การปฏิบัติบูชาการล้างบาปแก่พระแม่ทั้งสี่ ผู้เป็นแม่ธาตุแห่งสรรพสิ่ง แห่งธรรมะ แห่งธรรมชาตินี้ จักต้องทำด้วยศรัทธา เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น มองไม่เห็นได้ด้วยตาเลย ปาฏิหาริย์จะไม่เกิดโจ่งแจ้งให้เราเห็น มีแต่ผีมารที่อยากได้ลาภสักการบูชาเท่านั้น ที่จะแสดงฤทธิ์อำนาจอวดคน พระแม่ทั้งสี่นี้ หล่อเลี้ยงเราทั้งหลายทั้งปวง เป็นทุกสรรพสิ่ง ท่านไม่นิยมอวดฤทธิ์เดชใดๆ ไม่ต้องการเรียกร้องลาภสักการะใดๆ หากผู้ใดหลงผิดไปเชื่อพวกที่เรียกร้องลาภสักการบูชา แสดงว่าผู้นั้นนับถือผีมาร มีจิตออกห่างจากพระแม่ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสี่แล้ว ไม่ใช่ผู้มีความศรัทธาต่อพระแม่อีกต่อไป เมื่อคนไม่นับถือพระแม่ จะหลงผิด เพราะหลงผีมาร ทำความชั่วสารพัด เมื่อนั้น พระแม่ทั้งสี่จะสำแดงอิทธิฤทธิ์ปราบความดื้อด้านด้วย ดิน, น้ำ, ลม, ไฟ ไม่มีมนุษย์หน้าไหนจะหลีกหนีจากกรรมได้ จักต้องตายเกลื่อนกลาดดาษดาสิ้น ไม่ด้วยภัยแห่งแผ่นดินแยก แผ่นดินถล่มทลาย น้ำท่วมฉับพลันมหาศาล ลมพัดรุนแรงพังทลายทุกสิ่งพินาศลงราบเรียบ ไม่เหลือแม้แต่ตึกระฟ้า หรือไฟที่ไหม้ดาหน้ารวดเร็วร้อนแรงไม่เหลืออะไรเลยนอกจากขี้เถ้าสีดำ นี่คือ อำนาจแห่งความยิ่งใหญ่ของพระแม่ทั้งสี่ ที่มนุษย์หรือผีตนใดไม่อาจต้านทานได้เลย ผู้ใดประสงค์ปฏิบัติบูชาพระแม่ทั้งสี่ จักต้องทำให้ถูกวิธี ไม่ใช่ทำพิธียิ่งใหญ่ กราบไหว้บูชา นั่นไม่ใช่สิ่งที่พระแม่ต้องการเลย จำต้องทำการปฏิบัติบูชาด้วย ทาน, ศีล, ภาวนา และปัญญา เท่านั้น ดังที่ได้กล่าวไว้แล้วข้างต้น ซึ่งหลักการนี้นำมาจากพระพุทธเจ้านั่นเอง


    ความศักดิ์สิทธิ์ของการทำพิธี


    ธรรมะคือธรรมชาติ คือสรรพสิ่ง พระเจ้าทรงเป็นทุกสรรพสิ่ง สถิตในสรรพสิ่ง คือ ธรรมะ พุทธะ คือ ความตื่นรู้, เบิกบาน คือ การหลอมรวมจิต (อาตมัน) เป็นหนึ่งกับธรรมชาติ (โยคะ) สัจธรรมที่แท้จริง กลับสู่ภาวะเดิมแท้ที่ไม่เกิดไม่ดับ (ตถตา) มีความเป็นนิรันดร ความสุขเที่ยงแท้นิรันดร อันยิ่งใหญ่ไร้ประมาณ (ปรมาตมัน) พลังที่ใช้ในพิธีนี้ ได้มาจากแหล่งนี้ จึงเป็นพลังที่เหนือกว่าพลังเทพผีตนใดตนหนึ่งทั้งมวล ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งกว่าพิธีใดๆ


    Link : http://www.oknation.net/blog/buddhabath

     
  2. คนไชยา

    คนไชยา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    303
    ค่าพลัง:
    +171
    มนุษย์เราทุกคน
    เมื่อสร้างกรรมสร้างบาปแล้ว
    ก็ต้องรับผลแห่งกรรม
    รับผลแห่งบาปนั้น
    ถ้าเราล้างบาปได้จริง
    คนก็พร้อมใจกันทำบาป
    เพราะถือว่าถึงอย่างไรก็ล้างบาปได้
    แล้วอะไรจะเกิดขึ้นครับ
     
  3. นายโบ๋เบ๋

    นายโบ๋เบ๋ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +0
    ยังงี้น่าเรียกคนเหล่านี้มาเนอะ

    ๑) โจรปล้นร้านทอง
    ๒) นักเลงสุรา
    ๓) ขี้ยาบ้ายาอี
    ๔) สาวโสเภณี
    ๕) คนยักยอกของหลวง

    ฯลฯ


    มาๆ ล้างบาปให้โหม้ดดดดด
     
  4. นายโบ๋เบ๋

    นายโบ๋เบ๋ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +0

    เพ่ๆ อ่านบทความเขาป่าวน่ะ
    เขาเขียนว่าไม่ได้ล้างวิบากกรรมในอดีต
    เขาล้างบาปที่ก่อขณะปัจจุบัน


    แหม หน้าแตกเลยเพ่
     
  5. นายโบ๋เบ๋

    นายโบ๋เบ๋ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +0
    เอ้าอ่านตรงนี้ดีๆ


    ๑) ติดต่อนัดหมาย
    ให้ผู้ที่ต้องการทำพิธี เข้านัดพบผู้ทำพิธี แล้วแจ้งว่าต้องการล้างบาป ตนไม่อยากอยู่ในวังวนบาปนั้นๆ เช่น จะเลิกเป็นโสเภณี, เลิกเป็นโจร, เลิกยาเสพติด ฯลฯ แต่ไม่มีกำลังใจในการเปลี่ยนแปลงตนเองเป็นคนใหม่ ให้นัดหมายวันเวลาในการทำพิธีที่สะดวกเหมาะสม นับเป็นฤกษ์มงคลตามแต่จะถือเคล็ดกัน (ได้หลายแบบ) อนึ่ง การล้างบาปนี้ ทำได้เฉพาะในสถานปฏิบัติธรรม เมื่อทำแล้วต้องรับธรรมไปปฏิบัติต่อเนื่อง ไม่สามารถทำได้ตามบ้านเรือน เพราะจะไม่มีพลังพอละบาป อนึ่ง การล้างบาปไม่ใช่การทำให้วิบากกรรมในอดีตหมดไป แต่เป็นการปลดเปลื้องบาปในปัจจุบัน
     
  6. com16

    com16 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2005
    โพสต์:
    451
    ค่าพลัง:
    +1,182
    ไม่น่าใช้คำว่าล้างบาป มันชวนให้เข้าใจผิด
     
  7. นายโบ๋เบ๋

    นายโบ๋เบ๋ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +0
    แต่เขาก็ไม่ได้ใช้คำว่า "ล้างผลกรรม" หรือ "ล้างวิบากกรรม" นี่หนา
     
  8. นายโบ๋เบ๋

    นายโบ๋เบ๋ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +0
    ถ้าเราไม่ศึกษาคริสต์ แล้วได้ยินคำว่าบาป ไม่เข้าใจความหมาย
    ก็หลงเอง ไปด่าคนคริสต์เอง หาว่าเขาเพี้ยน อันนี้โทษใครดี


    โทษคนที่ไม่ยอมศึกษาทำความเข้าใจ หรือโทษชาวคริสต์?
     
  9. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    สวัสดี คุณมะกะโท
     
  10. มะกะโท

    มะกะโท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2008
    โพสต์:
    533
    ค่าพลัง:
    +373
    สวัสดีครับ
     
  11. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    สบายดีนะครับ
    แม้ชื่อไม่อยุ แต่จิตยังวนเวียนแถวเว็บบอต์ดนะ หุหุ
     
  12. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    อากาศร้อน
    สองศิษย์โง่ ชวนวิดน้ำในทะเล.
     
  13. 90

    90 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    227
    ค่าพลัง:
    +67
    บาปไม่อาจจะล้างออกได้เหมือนฝุ่นละออง แต่ถ้าสำนึกถึงบาปที่ได้กระทำไปแล้ว และปฏิญาณตนว่าจะไม่กระทำบาปอีก จะมุ่งทำแต่ความดี น่าจะถูกต้องกว่า เกลือที่อยู่ในภาชนะยังคงเป็นเกลือที่เค็มเช่นเดิม แต่เราทำให้มันลดความเค็มได้โดยการหมั่นเติมน้ำจืดลงไป อนุโมทนาบุญกับทุกท่านครับ
     
  14. ผู้พันจุ่น

    ผู้พันจุ่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,396
    ค่าพลัง:
    +2,983
    เอาเถอะน่า อย่าไปคิดมาก ทำแล้วสบายใจ ทำไปเถอะ กรรมที่มันส่งผลทำให้เราต้องคิดถึงสิ่งที่เราทำอยู่ตลอดเวลา สลัดออกไปจากความคิดไม่ได้ เป็นเพราะเราบังคับใจเราเองไม่ได้นั่นเอง

    กรรมพิธีต่าง ๆ ถ้ามันล้างสมองที่จดจำกรรมต่าง ๆ ไว้ได้ ก็น่าจะทำให้มีความสุขขณะยังมีชีวิตอยู่ มันก็น่าทำ เพราะไม่มีสมาธิพอที่จะคุมความคิดได้ บางทีคิดจนประสาท... ศาสนาทำให้มีความสุขก็น่าสนับสนุน บางคนกลัวจนเปลี่ยนศาสนาก็มี

    ชาติหน้าเป็นอย่างไรปล่อยมันเถอะ........เมื่อสบายใจแล้วก็อย่าทำอีก หมั่นทำความดีลบล้างไปเรื่อย ๆ เราก็พ้น....วังวนแห่งความคิด....กลายเป็นโจรกลับใจ ..อหิงสกะยังเป็นพระอรหันต์ได้ ...แต่เราอย่าไปยึดถือว่าบาปล้างไม่ได้ มันจะติดตัวไปจนตาย

    ผลสุดท้าย บุญก็ทำไม่ได้ มัวแต่คิดถึงกรรมที่เคยก่อ ภาพมันหลอนติดตา...ประสาทกิน แล้ว....นับถือไปทำไมศาสนา มีประโยชน์อะไร........ใช่ใหมพี่น้อง.
     
  15. น้องหน่อยน่ารัก

    น้องหน่อยน่ารัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,976
    ค่าพลัง:
    +4,975

    (||) (||) (||)
     
  16. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,698
    ค่าพลัง:
    +51,933
    ตัวกระทำไม่ตาย ตัวกระทำมีผลตอบแทน
    คือ หลักสัจจะธรรม

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  17. neung48

    neung48 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    465
    ค่าพลัง:
    +457
    อิอิ บาปที่กำลังทำอยู่ บางทีเขาก็ต้องการกำลังใจในการปลดออกจากตัวนะ วิธีนื้ก็ดีอยู่นะ วิบากอะทำมาแล้ว ได้แต่สำนึกขอขมากันต่อไป แต่ที่ล้างนี่ก็เหมือกะทำให้ตั้งใจเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเองให้ดีขึ้นนะ ใคเห็นด้วยยกมือขึ้น
     
  18. Pelagia

    Pelagia เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    790
    ค่าพลัง:
    +1,198
    การขออโหสิกรรมและอีกฝ่ายก็อโหสิกรรมให้ เหมือนหรือแตกต่างกับการล้างบาปอย่างไร
     
  19. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,698
    ค่าพลัง:
    +51,933
    ที่แล้ว ก็แล้วกันไป...เริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วย "สัจจะ"
    ทำจริง...ดินฟ้าอากาศ เป็นพยาน

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  20. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,698
    ค่าพลัง:
    +51,933
    ตัวกระทำ...จากสัจจะ
    จะเบี่ยงเบน ....กรรมที่กำลังตามมา
    ท่าน จึงรอดพ้นกรรม...ด้วย "สัจจะ" ที่ทำได้

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     

แชร์หน้านี้

Loading...