ระดมนักวิทย์ดำดิ่งสู่ก้นแอตแลนติกสำรวจ "ไททานิค" ทำแผนที่ 3 มิติ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 29 กรกฎาคม 2010.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,492
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ระดมนักวิทย์ดำดิ่งสู่ก้นแอตแลนติกสำรวจ "ไททานิค" ทำแผนที่ 3 มิติ


    [​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>29 กรกฎาคม 2553 11:57 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ส่วนหัวเรือไททานิคกลายเป็นซากเรืออับปางจมอยู่ก้นมหาสมุทรแอตแลนติกนานเกือบศตวรรษ (เอพี)</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ซากตัวเรือไททานิคส่วนท้ายเรือที่จมอยู่ใต้มหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งถูกนำออกเผยแพร่เมื่อเดือน ก.ค. ปี 1986 (เอพี)</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>เรือไททานิคเมื่อครั้งออกเดินทางจากอังกฤษมุ่งหน้าสู่นิวยอร์กซิตี สหรัฐฯ เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 1912 (เอพี)</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>เรื่องราวของซากเรืออับปาง "ไททานิค" ที่ทอดกายสงบนิ่งอยู่ใต้มหาสมุทรแอตแลนติกมานานเกือบร้อยปีกำลังจะกลับมาอีกครั้ง เมื่อทีมนักวิทยาศาสตร์เตรียมดำดิ่งลงสู่ก้นมหาสมุทรตรงจุดที่เรือไททานิคจมลง เพื่อสำรวจและเก็บข้อมูลทางวิทยาศาสตร์และโบราณคดีนำมาสร้างเป็นแผนที่ 3 มิติของเรือไททานิคและเผยแพร่สู่สายตาชาวโลก

    การสำรวจซากเรือไททานิคในครั้งนี้นับเป็นภารกิจวิทยาศาสตร์ขั้นสูงที่สุดอีกครั้งหนึ่งของทีมนักสำรวจที่ร่วมกันระหว่างบริษัท อาร์เอ็มเอส ไททานิค (RMS Titanic Inc.) และสถาบันสมุทรศาสตร์ วูดส์ โฮล (Woods Hole Oceanographic Institution) ในแมสซาชูเซตส์ สหรัฐฯ ซึ่งจะเริ่มปฏิบัติการโดยออกเดินทางจากเมืองเซนต์จอห์น รัฐนิวฟาวแลนด์ แคนาดา ในวันที่ 18 ส.ค. นี้ และมีระยะเวลาทำงานทั้งสิ้น 20 วัน โดยมีเป้าหมายคือการสำรวจพื้นที่บริเวณ 3-4 กิโลเมตร ภายในซากเรือที่ยังเต็มไปด้วยศิลปวัตถุกองกระจัดกระจายอยู่นับร้อยๆ ชิ้น ใต้มหาสมุทรแอตแลนติกเหนือที่ห่างจากชายฝั่งนิวฟาวแลนด์ราว 643 กิโลเมตร ระดับความลึกกว่า 4,000 เมตร

    "นับเป็นครั้งแรกที่เราปฏิบัติต่อซากเรือไททานิคในฐานะที่เป็นโบราณสถานด้วยวัตถุประสงค์ 2 ประการด้วยกัน อย่างแรกคือเพื่ออนุรักษ์มรดกที่อยู่ในเรือโดยเพิ่มเรื่องราวของไททานิคเข้าไป และอย่างที่สองคือเพื่อทำความเข้าใจให้ถ่องแท้ว่าเรือไททานิคอยู่ในสถานะใดกันแน่" เดวิด กัลโล (David Gallo) นักวิทยาศาสตร์จากวูดส์ โฮล และหัวหน้าทีมสำรวจในครั้งนี้เปิดเผยในเอพี

    ทั้งนี้ เรือไททานิคเป็นเรืออับปางที่โด่งดังมากที่สุดในโลก เนื่องจากเป็นเรือโดยสารขนาดใหญ่และหรูหราที่สุดในโลกในสมัยนั้น แต่ต้องอับปางตั้งแต่การเดินทางเที่ยวแรก โดยเรือไททานิคออกจากท่าเรือเมืองเซาท์แธมตันในอังกฤษ มุ่งหน้าสู่นิวยอร์กซิตี สหรัฐฯ เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 1912 แต่ระหว่างทางเกิดอุบัติเหตุชนกับภูเขาน้ำแข็งกลางมหาสมุทรแอตแลนติกจนทำให้เรืออับปางลงสู่ก้นมหาสมุทรเมื่อวันที่ 15 เม.ย. 1912 เป็นเหตุให้มีผู้โดยสารเสียชีวิตมากกว่า 1,500 คน

    ซากเรือไททานิคถูกพบครั้งแรกในปี 1985 โดยโรเบิร์ต บัลลาร์ด (Robert Ballard) และทีมนักสมุทรศาสตร์จากนานาชาติ ซึ่งในครั้งนั้นส่วนใหญ่เป็นการบันทึกภาพซากปรักหักพังของเรือและศิลปะวัตถุต่างๆ ที่อยู่ภายในเรือร่วมหลายพันชิ้น

    ต่อมาเจมส์ คาเมรอน (James Cameron) ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องไททานิคได้นำคณะสำรวจลงไปเก็บข้อมูลและบันทึกภาพหัวเรือและท้ายเรือที่แยกออกจากกันในระหว่างที่เรือกำลังจม และครั้งสุดท้ายที่มีคณะเดินทางดำดิ่งสู่ก้นแอตแลนติกเพื่อสำรวจไททานิคคือในปี 2004 นำทีมโดยบริษัท พรีเมียร์ เอ็กซิบิชัน (Premier Exhibitions Inc.) ผู้จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับศิลปะวัตถุที่กู้ได้จากเรือไททานิค ซึ่งมีสำนักงานตั้งอยู่ในเมืองแอตแลนตา มลรัฐจอร์เจีย

    ในการสำรวจที่กำลังจะเริ่มขึ้นนี้เรียกได้ว่าเป็นทีมแห่งความหวังของนักโบราณคดี นักสมุทรศาสตร์ และนักวิทยาศาสตร์อีกหลากหลายสาขาที่ต้องการประเมินสภาพของเรือไททานิคให้ได้ผลที่ดีที่สุด ซึ่งทีมสำรวจจะต้องผจญกับกระแสน้ำและความดันใต้ทะเลลึกที่แสนจะโหดร้าย

    กัลโลระบุว่าในขณะที่ไททานิคกำลังเสื่อมสภาพลงในอัตราที่ไม่มีใครรู้ได้ การเดินทางสำรวจครั้งนี้จึงนับว่าเป็นภารกิจที่เร่งด่วนมาก

    "เราเห็นบริเวณที่คล้ายกับเป็นดาดฟ้าชั้นบนของเรือชักจะเริ่มบางลงแล้ว ผนังเรือก็บางลงด้วย และส่วนเพดานก็อาจพลังทลายลงมาได้ในพริบตา ซึ่งเราได้ยินมาว่าเรือนี้จะกำจัดสนิมออกไปโดยพังทลายลงมา ซึ่งไม่มีใครรู้เรื่องนี้แน่ชัด" กัลโล กล่าว

    สำหรับตัวช่วยสำคัญของทีมสำรวจครั้งนี้คือ เทคโนโลยีการสร้างภาพและอุปกรณ์ค้นหาวัตถุใต้น้ำด้วยคลื่นเสียงซึ่งไม่เคยใช้กับซากเรือไททานิคมาก่อน เพื่อค้นหาบริเวณภายในเรือที่ยังมีสิ่งของ ศิลปะวัตถุ หรือทรัพย์สินมีค่าที่ถูกฝังอยู่ภายใต้ดินตะกอนมานานเกือบศตวรรษ

    "ที่จริงเรากำลังทำเหมือนกับว่าซากเรืออับปางเป็นสถานที่เกิดเหตุอาชญากรรม ซึ่งเราต้องการรู้ให้ได้ว่ามีอะไรซ่อนอยู่ในซากปรักหักพังนั้น ส่วนหัวเรือและท้ายเรือนั้นมองดูเหมือนอะไร" กัลโลเผย

    ทั้งนี้ ทีมสำรวจจะมีฐานปฏิบัติการอยู่ที่เรืออาร์วี ฌอง ชาโค (RV Jean Charcot) ซึ่งเป็นเรือเดินสมุทรเพื่อการวิจัยขนาด 76 เมตร โดยมีลูกเรือทั้งสิ้น 20 คน พร้อมด้วยอุปกรณ์สำรวจใต้น้ำ อุปกรณ์ค้นหาวัตถุใต้น้ำด้วยคลื่นเสียงที่ทันสมัยที่สุด เทคโนโลยีการบันทึกภาพและคลื่นเสียง

    บิล แลนจ์ (Bill Lange) นักวิทยาศาสตร์จากวูดส์ โฮล ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมสำรวจที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า หัวใจสำคัญของการวิเคราะห์ผลสำรวจในคราวนี้คือการเปรียบเทียบภาพจากการสำรวจครั้งแรกเมื่อ 25 ปีที่แล้วกับภาพล่าสุด เพื่อประเมินความเสียหาย การสึกกร่อนและผุผังของซากเรือ

    "เรากำลังจะได้ไปเห็นสิ่งที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน และนั่นเป็นของขวัญที่ได้จากเทคโนโลยีที่พัฒนาไปมากจากเมื่อ 25 ปีก่อน" แลนจ์เผย

    ด้านกัลโลยังบอกอีกว่าการสำรวจซากเรือไททานิคในทางวิทยาศาสตร์จะไม่จบลงแค่เพียงครั้งเดียวเท่านั้น และเขาแน่ใจว่าจะต้องมีการสำรวจครั้งต่อไปเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพราะนี่เพิ่งจะเป็นการเริ่มต้นยุคใหม่ของการสำรวจเรือไททานิค เพื่อทำแผนที่ทางโบราณคดีของเรือไททานิคอย่างจริงจังเสียที
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    Science - Manager Online -
     
  2. texsum

    texsum เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +1,511
    ดีเลยครับ มีหลายสิ่งหลายอย่างบนโลกนี้ที่้เรายังไม่รู้
     

แชร์หน้านี้

Loading...