"มะเร็ง" เป็นแล้วใช่จะสิ้นหวัง

" มะเร็ง"เป็นโรคที่จะรักษาได้ผลดียิ่งถ้าตรวจพบแต่ระยะแรกๆ และเป็นโรคที่มีวิธีการรักษาในแต่ละระยะของโรคแตกต่างกัน การวินิจฉัยระยะของโรคที่ถูกต้องและแม่นยำจึงมีส่วนสำคัญ เดิมการตรวจหาและวินิจฉัยโรคมะเร็งจะอาศัยการตรวจทางกายภาพ เช่น อัลตราซาวนด์ หรือเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ เป็นต้น มะเร็งต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพปรากฎขึ้นมาเป็นก้อนโตพอสมควรจึงตรวจพบ

ปัจจุบันวิทยาการสามารถวินิจฉัยเนื้อเยื่อที่มีเซลล์มะเร็งอยู่ แม้จะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางรูปร่างด้วยเทคโนโลยีการถ่ายภาพระดับชีวะเคมีในเซลล์ที่มีความผิดปกติได้ ด้วยเครื่อง PET Scan

น.พ.สามารถ ราชดาราน แพทย์เวชศาสตร์นิวเคลียร์ โรงพยาบาลวัฒโนสถ กล่าวว่า การฉายแสงบำบัดสมัยก่อนต้องฉายเป็นรูปทรงเรขาคณิตสี่เหลี่ยมหรือสามเหลี่ยม มะเร็งเป็นรูปมะละกอก็ต้องฉายเป็นรูปสี่เหลี่ยม ทำให้เนื้อเยื่อดีๆ ถูกทำลายไปด้วย แต่ปัจจุบันสามารถฉายตามรูปร่างของมะเร็ง หรือการให้เคมีบำบัด กำหนดให้มุ่งตรงไปที่มะเร็ง ไม่ไปที่อวัยวะอื่น และด้วยพัฒนาการทางการตรวจและการรักษาที่ดีขึ้น มะเร็งจะไม่ใช่โรคที่เป็นแล้วจะหมดสิ้นทุกอย่างในชีวิต

"สมัยเป็นนักเรียนแพทย์ คนไข้คนไหนที่หมอทุ่มเทการรักษาแล้วมาตรวจพบว่าเป็นมะเร็ง การทุ่มเทในการรักษาจะลดระดับสูง เพราะมองว่ายังไงก็ตาย แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่ หมอมะเร็งสู้สุดชีวิต คนไข้ที่เป็นมะเร็งในระยท้าย ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเสียชีวิตภายใน 1-2 ปี การตรวจและการรักษาที่ดีขึ้น คนไข้ระยะท้ายสามารถมีชีวิตยืนยาวต่อไปได้ 5-8 ปี ก็เป็นไปได้ ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมขณะนี้รักษาแล้วหายขาดก็มีเยอะ คนไข้เมื่อรักษาแล้วก็มีหน้าที่ต้องดูแลตัวเองให้ดี ต้องมาตรวจเช็กตามวงรอบ ต้องทำตามคำแนะนำของแพทย์ และคนไข้ก็อยู่ต่อไปอีกยาวนอน และคุณภาพชีวิตก็ดีด้วย" คุณหมอกล่าว

คนไข้รายหนึ่งเป็นมะเร็งหลอดอาหาร การตรวจด้วยวิธีส่องกล้อง พบมะเร็งที่ส่วนปลายหลอดอาหารแต่ตรวจด้วย PET/CT ปรากฎว่าพบมะเร็งตั้งแต่ลำคอลงไปจนถึงกระเพาะอาหาร และพบจุดเรืองแสงที่ตับ นั่นหมายถึง มะเร็งได้กระจายไปที่ตับ การวินิจฉัยจะเปลี่ยนทันที วิธีการรักษาก็เปลี่ยนโดยสิ้นเชิง จากเดิมที่ต้องผ่าตัด ก็เปลี่ยนมาทำเคมีบำบัด

PET/CT ไม่ได้ตรวจมะเร็งได้ทุกชนิด การใช้ในเงื่อนไขที่เหมาะสมจึงจะได้รับประโยชน์สูงสุด ได้รับการยอมรับว่าเหมาะกับการตรวจวินิจฉัยเพื่อกำหนดระยะของโรค หรือเมื่อรับการรักษาเคมีบำบัดไปแล้วใช้ตรวจเพื่อทำนายว่ามะเร็งมีการตอบสนองต่อยาเคมีบำบัดหรือไม่ เพื่อจะสามารถปรับเปลี่ยนวิธีรักษา หรือเปลี่ยนตัวยาได้ทัน หรือเมื่อรักษาแล้วใช้ตรวจเพื่อเช็กการกลับเป็นซ้ำของมะเร็ง

PET/CT โดยทั่วไปสามารถใช้ตรวจมะเร็งชนิดที่เป็นก้อนได้เกือบทุกชนิด เช่น มะเร็งปอด มะเร็งตับอ่อน มะเร็งต่อมน้ำเหลื่อง มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งบริเวณฐานกะโหลกถึงฐานลำคอ ได้แก่ มะเร็งในช่องปาก มะเร็งที่ลิ้น มะเร็งหลังโพรงจมูก เป็นต้น หรือมะเร็งตับบางชนิดตรวจพบด้วย PET/CT มะเร็งตับบางชนิดตรวจด้วยวิธีนี้ไม่พบ

โรงพยาบาลวัฒโนสถมีเครื่องกำเนิดรังสีสำหรับผลิตสารรังสีเพื่อใช้ทางการแพทย์ และในการตรวจหามะเร็งกับเครื่อง PET/CT ภายในโรงพยาบาลและจำหน่าย โดยมีแผนการจะผลิตสารรังสีเพิ่มอีก 1 ตัว เพื่อใช้กับการตรวจหามะเร็งจากเครื่อง PET/CT ที่ครอบคลุมกลุ่มมะเร็งกว้างยิ่งขึ้น ศักยภาพในการตรวจรักษามะเร็งก็จะเพิ่มขึ้น

ที่มา : โรงพยาบาลวัฒโนสถ
http://www.wattanosoth.com
http://www.bangkokhealth.com



"มะเร็ง" เป็นแล้วใช่จะสิ้นหวัง - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ป่วยทุกท่านครับ

 

ใบทุเรียนเทศ รักษามะเร็งได้จริง

ผมได้ไปเจอหน้าเฟสบุ๊คอยู่หน้านึงใช้ชื่อว่า ขายใบทุเรียนเทศ ชงดื่มเป็นชา เลยลองเข้าไปแล้วพบว่ามันสามารถรักษามะเร็งได้ ก็ลองค้นดูในอินเตอร์เน็ตก็พบว่ามีข้อมูลจริงๆ และยืนยันได้จริง ว่าเป็นสมุนไพรที่ฆ่าเซลล์มะเร็ง และไม่ทำลายเซลล์ดีในร่างกาย และไม่มีผลข้างเคียงอีกด้วยผมว่ามันเป็นประโยชน์มากๆสำหรับผู้ป่วยเป็นมะเร็ง และได้คัดลอกบทความบางช่วงมาให้ดูกัน ท่านใดสนใจลองเข้าไปในเพจนี้ได้ เค้าขายใบทุเรียนเทศ ถือว่าเป็นทางเลือก เค้ามีเบอร์โทรด้วย 090-9954797

'ทุเรียนน้ำ' เอาใบมาทำน้ำชา ออกฤทธิ์ดีกว่าคีโม 10,000 เท่า Cancer Cell Killer Guyabano หรือ Sour Sop เป็นผลไม้พื้นเมืองในประเทศฟิลิปปินส์ ไทยซึ่งสามารถพบได้ในบราซิลด้วย ซึ่งเรียกว่า Graviola เป็นผลไม้ขนาดใหญ่กว่าฝรั่งไม่มากแต่ไม่เท่าส้มโอ มีหนามแต่ไม่แหลม คนฟิลิปปินส์จะรับประทานน้ำจากผลไม้ซึ่งมีผลการรับรองจากแล็บมากมายว่าผลไม้ชนิดนี้สามารถช่วยในการ...ฆ่าเซลส์มะเร็งกว่า 12 ชนิดซึ่งรวมถึง มะเร็งลำไส้ มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกมาก มะเร็งปอด และมะเร็งตับอ่อนผลจากการรับประทานยาที่สกัดจากทุเรียนน้ำ หรือการนำใบของทุเรียนน้ำมาต้มเป็นชาแล้วรับประทาน จะช่วยในการฆ่าเซลส์มะเร็ง ซึ่งมีประสิทธิภาพมากกว่าการทำคีโมถึง 10,000 เท่า แต่จะไม่ทำร้ายเซลล์ดีในร่างกาย ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่าผลไม้มหัศจรรย์นี้จะช่วยสู้เซลส์มะเร็งอย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ก่อให้เกิดการคลื่นเหียนวิงเวียน หรือเกิดอาการผมร่วงเหมือนกับการทำคีโม เพราะส่วนผสมนั้นเป็นธรรมชาติทั้งสิ้น ไม่มีเคมีใดๆ
และช่วยป้องกันระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายและไม่ก่อให้เกิดการติดเชื้อ ทำให้ผู้ป่วยที่รับประทานยาสกัดจากทุเรียนน้ำ
นั้นมีสุขภาพแข็งแรงขึ้น ช่วยให้มีกำลังวังชาตอนนี้ที่ Tagaytay (เป็นเมืองเล็กๆ ทางใต้ของมะนิลา) ที่มีศูนย์ช่วยเหลือ-รักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งโดยชาวแคทอลิก ที่นี่เองจะให้ผู้ป่วยทานชาที่ได้จากการต้มใบของทุเรียนน้ำ ปรากฎว่าผู้ป่วยมากมายที่ค่าของเซลส์มะเร็งลดลง และบางรายถึงกับหาย...
การรับประทาน
ใบชาที่ทำให้แห้งโดยการใช้วิธีการ Air Dry จะช่วยทำให้ประโยชน์ในการรักษา นั้นเข้มข้นขึ้น
เมื่อใบแห้งแล้ว ฉีกใบเป็นชิ้นเล็กๆ และตวงให้ได้ 1 ถ้วยตวงต่อน้ำ 1 ลิตร นำไปต้ม และลดไฟให้ต่ำ เคี่ยวอีก 20 นาที
ใช้ดื่ม 3 ถ้วยต่อวัน 30 นาทีก่อนมื้ออาหารดื่มน้ำชาแบบนี้ทุกวันเป็นระยะเวลา 30 วัน หากต้องการดื่มติดต่อกันเกิน 30 วัน แต่ร่างกายยังไม่ดีขึ้น ให้พักก่อนสักส้ปดาห์จึงค่อยทานชาต่อ

หมายเหตุ: ข้อมูลเหล่านี้ ไม่มีจุดประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการแพทย์ หรือใช้ในการอ้างอิง ผลิตภัณฑ์เหล่านี้เป็น สมุนไพรธรรมชาติ ไม่มีส่วนประกอบที่ต้องใช้ใบสั่งจากแพทย์ ข้อมูลเหล่านี้ มีจุดประสงค์ เพื่อให้การศึกษาและให้ข้อมูลเท่านั้น และเพื่อความปลอดภัยผู้อ่านควรปรึกษาแพทย์ ก่อนใช้