เรื่องเด่น พระสังฆราชเสด็จมอบ ‘โพธิญาณมหาวิชชาลัย’ พระพุทธชินวงศ์หวังเป็นศูนย์กลางปฏิบัติธรรมโลก ฯพณฯ...

เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ที่พุทธมณฑล อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม มีการจัดพิธีมอบอาคารปฏิบัติธรรม ‘โพธิญาณมหาวิชชาลัย’ และพิธีทอดผ้าป่าสามัคคีในโครงการอนุรักษ์และพัฒนาพุทธมณฑล มีผู้ทะยอยเดินทางรอเข้าร่วมตั้งแต่ก่อนเวลา 07.00 น. ประกอบด้วยเจ้าคณะจังหวัด 23 จังหวัด, เจ้าคณะภาค, พระสงฆ์คณะหนกลาง, คณะผู้ปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานตามโครงการฝึกอบรมพระวิปัสสนาจารย์ประจำสำนักปฏิบัติธรรม, พระสังฆาธิการที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสใหม่, แม่ชี, ข้าราชการ และประชาชนทั่วไปซึ่งพากันแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีขาวเข้าร่วมงาน รวมกว่า 700รูป/คน โดยนั่งเกือบเต็มพื้นที่ชั้น 2 ของอาคารดังกล่าว



เวลาประมาณ 09.10 น. สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จถึงมณฑลพิธี ณ อาคารโพธิญาณมหาวิชชาลัย ทรงจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย แล้วประทับพระเก้าอี้ จากนั้น สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ ประธานคณะกรรมการอำนวยการอนุรักษ์และพัฒนาพุทธมณฑล เข้าเฝ้าถวายสักการะพร้อมด้วยพระธรรมโพธิมงคล เจ้าคณะภาค 14 ,พระเทพมหาเจติยาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดนครปฐม, นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และข้าราชการในจังหวัดนครปฐม อาทิ นายภิญโญ ประกอบผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม, นางประไพ เอื้อไพจิตร คงใหม่ ผู้พิพากษาศาลจังหวัดนครปฐม เป็นต้น



จากนั้น นางสาวจันทนา สุทธิเรืองวงศ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กราบทูลถวายรายงานความเป็นมาของการดำเนินการก่อสร้างอาคารโพธิญาณมหาวิชชาลัย ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อใช้ในการปฏิบัติธรรมของพระสงฆ์และพุทธศาสนิกชน โดยดำเนินการสร้างในพื้นที่ 22 ใกล้ป่าเวฬุวัน ในพุทธมณฑล ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 120 ล้านบาท โดยได้รับการสนับสนุนจากพระสงฆ์คณะหนกลาง 23 จังหวัดและพุทธศาสนิกชนผู้มีจิตศรัทธาร่วมสมทบทุน

“เมื่อ พ.ศ.2500 ในรัฐบาลสมัยจอมพลป.พิบูลสงคราม ได้เริ่มจัดสร้างพุทธมณฑลขึ้นเพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนา และได้รับการพัฒนาขึ้นเป็นลำดับด้วยความร่วมมือจากทั้งภาครัฐและเอกชนในการก่อสร้างสถานที่ต่างๆ ต่อมา ใน พ.ศ. 2538 ที่ประชุมชาวพุทธโลกมีมติให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาโลก โดยมีพุทธมณฑลเป็นศูนย์กลาง มีการปฏิบัติธรรมในพื้นที่ 22 ต่อมา ได้ก่อสร้างอาคารโพธิญาณมหาวิชชาลัยขึ้นบนพื้นที่ดังกล่าวเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และเพื่อใช้ในการวิปัสสนารวมถึงกิจกรรมอื่นๆ รูปแบบเป็นอาคารทรงไทยประยุกต์ 2 ชั้น รองรับได้ 3,000 รูป/คน วางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2560 รวมงบประมาณ 120 ล้านบาท” นางสาวจันทนากล่าว

ต่อมา เวลา 09.35 น. นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าเฝ้ารับมอบอาคารโพธิญาณมหาวิชชาลัย จากสมเด็จพระสังฆราช จากนั้น นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ประธานฝ่ายฆราวาสและประธานทอดผ้าป่าสามัคคี กล่าวคำถวายผ้าป่า

สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ พิจารณาผ้าบังสุกุล แล้วกรวดน้ำ พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ นำโดยสมเด็จพระวันรัต วัดบวรนิเวศวิหาร และพระราชาคณะ กล่าวอนุโมทนาสาธุการ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พิธีการลำดับจากนั้น นายอานันท์ ปันยารชุนและนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ เข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราชเพื่อทูลถวายพัดรอง ผ้าไตร กระถางบอนไซ และเครื่องไทยธรรม โดยพัดรองตัดเย็บด้วยผ้าไหมสีงาช้าง ด้านบนประดิษฐ์อักษรพระนาม ออป ภายใต้พระเศวตฉัตรสมเด็จพระสังฆราช มีภาพอาคารโพธิญาณมหาวิชชาลัย ทำด้วยทองเหลืองลงยาสีเสมือนจริง เหนือภาพอาคารมีลวดลายก้อนเมฆตัดเส้นสีฟ้าอ่อน กึ่งกลางพัด ปักตัวอักษรสีทองข้อความว่า “พิธีมอบอาคารปฏิบัติธรรม โพธิญาณมหาวิชชาลัย 23 พฤษภาคม 2561” ด้านล่างสุดหรือ ‘นมพัด’ ปักภาพกระถางลายครามพร้อมลายไม้ดัดเลื้อยขึ้นล้อมข้อความข้างต้น

จากนั้นกรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะภาค เจ้าคณะจังหวัด และพุทธศาสนิกชนผู้มีจิตศรัทธาสมทบทุนการก่อสร้างอาคาร เข้ารับประทานโล่เกียรติคุณ 50 คน/รูป อาทิ พระพรหมดิลก วัดสามพระยาวรวิหาร กรุงเทพ, พระเทพมหาเจติยาจารย์ วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร จังหวัดนครปฐม, พระธรรมโพธิมงคล วัดนิมมานรดี กรุงเทพ, พระธรรมรัตนมงคล วัดพนัญเชิงวรวิหาร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา, พระเทพสมุทรโมลี วัดเพชรสมุทรวรวิหาร จังหวัดสมุทรสงคราม, พระเทพปริยัติสุธี วัดพระนอนจักรสีห์วรวิหาร จังหวัดสิงห์บุรี, พระเทพวิสุทธิโสภณ วัราชคฤห์ กรุงเทพ, พระเทพสิทธิวิมล วัดคลองวาฬ พระอารามหลวง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์, ดร.แม่ชีทศพร วชิรบำเพ็ญ, คุณหญิง ดร.สมนึก เปรมวัฒนะ, ดร.พรเพ็ญ เดชวิไลศรี, นางรุ่งฟ้า ว่องทวีทรัพย์ดี, นางศิริวงศ์ รุ่งวัฒนโสภณ และนายรังษีพรหม ปริยัติ เป็นต้น

ต่อมา สมเด็จพระสังฆราช เสด็จลงไปยังบริเวณด้านหน้าอาคารเพื่อกดปุ่มเปิดป้าย ‘โพธิญาณมหาวิชชาลัย’ แล้วทรงประกอบพิธีปลูกต้นพระศรีมหาโพธิ์พุทธคยา ตามโครงการทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทยที่ได้รับพระบรมราชานุญาตให้ปลูกต้นโพธิ์เนื่องในวันเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ 70 ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 วันที่ 9 มิถุนายน 2559 สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ และนายอานันท์ ปันยารชุน ร่วมพิธีด้วย

สำหรับบรรยากาศโดยทั่วไปหลังจบพิธีการ ประชาชนยังคงนำเงินร่วมทอดผ้าป่าสามัคคีและเดินเยี่ยมชมจุดต่างๆของอาคารโพธิญาณมหาวิชชาลัยโดยส่วนใหญ่มีการบันทึกภาพด้วยโทรศัพท์มือถือไว้เป็นที่ระลึกด้วย

นางประไพ คล้ายเอี่ยม อายุ 68 ปี กล่าวว่าตนเดินทางมาจากบ้านย่านบางกะปิ กรุงเทพฯ โดยนั่งรถตู้มาพร้อมกับเพื่อนๆประมาณ 10 คน เพื่อร่วมงานนี้โดยเฉพาะ เนื่องจากมีความสนใจด้านธรรมะ โดยปฏิธรรมเป็นประจำอยู่แล้ว เมื่อทราบข่าวผ่านสื่อจึงร่วมทำบุญทอดผ้าป่าสามัคคี และตัดสินใจมาร่วมงาน

“ที่ผ่านมาได้เห็นภาพของโพธิญาณมหาวิชชาลัยในรูปภาพผ่านสื่อ วันนี้ได้มาเห็นด้วยตา รู้สึกปลื้มใจมากที่ได้เห็นอาคารขนาดใหญ่ซึ่งสร้างขึ้นด้วยความศรัทธาของชาวพุทธ ถ้ามีโอกาสจะต้องมาร่วมปฏิบัติธรรมที่นี่แน่นอน” นางประไพกล่าว

ทั้งนี้ ชื่อโพธิญาณมหาวิชชาลัย หมายถึง สถานที่ปฏิบัติธรรมเพื่อบรรลุพระโพธิญาณ ซึ่งการสร้างอาคารหลังนี้ ได้ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยอัญเชิญนามเทียบเคียงจากบทพระราชนิพนธ์เรื่องพระมหาชนกของในหลวง ร.9 ตอนที่ทรงคิดวิธีพัฒนาต้นมะม่วงและทรงตั้งมหาวิทยาลัยชื่อ ‘โพธิยาลัยมหาวิชชาลัย’ หรือ ‘ปูทะเลมหาวิชชาลัย’ เพื่อให้การศึกษาแก่พสกนิกร

ตัวอาคารมี 2 ชั้น ชั้นบน ประกอบด้วยห้องพระวิปัสสนาจารย์ ห้องประชุมย่อย ห้องพักพระมหาเถระ มีห้องน้ำในตัว และห้องโถงใหญ่ เพื่อใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม

ส่วนชั้นล่าง มีห้องพัก 28 ห้อง พักได้ห้องละ 50 รูป/คน โดยมีห้องน้ำไว้บริการ 109 ห้อง แบ่งโซนอย่างเป็นสัดส่วน ระหว่างบรรพชิต และฆราวาส ประกอบด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกจำนวนมาก

ขอขอบคุณที่มา
https://www.matichon.co.th/heading-news/news_967869