เรื่องเด่น พระคติธรรม จากสมเด็จพระสังฆราช เนื่องในวันวิสาขบูชา 2562

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย โพธิสัตว์ ชาวพุทธ, 15 พฤษภาคม 2019.

  1. โพธิสัตว์ ชาวพุทธ

    โพธิสัตว์ ชาวพุทธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    5,319
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,274
    ค่าพลัง:
    +9,590
    15-05-19-29.jpg

    ประเด็นน่าสนใจ

    • วันวิสาขบูชา ปี2562 ตรงกับวันเสาร์ ที่ 18 พฤษภาคม
    • วันวิสาขบูชา เป็นวันที่สำคัญที่สุดในพระพุทธศาสนา เพราะเป็นวันคล้ายวันที่เกิดเหตุการณ์สำคัญของพระพุทธศาสนามากถึง 3 เหตุการณ์ ในวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 6 คือ เป็นวันคล้ายวันประสูติ, ตรัสรู้ และปรินิพพาน ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ดังนั้นจึงมีคำเรียกวันนี้อีกอย่างหนึ่งว่า “วันพระพุทธเจ้า”
    0b898e0b8a3e0b8a3e0b8a1-e0b888e0b8b2e0b881e0b8aae0b8a1e0b980e0b894e0b987e0b888e0b89ee0b8a3e0b8b0.jpg

    วันนี้ (15 พ.ค. 2562) สมเด็จพระอริยวงคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้ประทานพระคติธรรม เนื่องในวันวิสาขบูชาประจำปี 2562 ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ 18 พ.ค. โดยมีใจความว่า ขอชาวพุทธดำรงตนอยู่ในความไม่ประมาท และหมั่น บำเพ็ญทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา เพื่อเป็นแสงส่องใจให้พุทธศาสนิกชนทั้งปวงสืบไป

    “ดิถีวิสาขบูชา อันเป็นวันคล้ายวันประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเป็นวันสำคัญสากลของโลก ได้เวียนมาบรรจบอีกคำรบหนึ่งแล้ว

    พระโพธิสัตว์สิทธัตถราชกุมารเสด็จอุบัติขึ้นบนโลกนี้เมื่อกว่า ๒,๖๐๐ ปีก่อน ทรงถึงพร้อมด้วยพระชาติ มีพระกายลักษณะอย่างมหาบุรุษครบถ้วนเป็นอัศจรรย์ แต่ที่วิเศษยิ่งกว่านั้นคือพระคุณ ด้วยเหตุแห่งการตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ ยังให้ทรงบริบูรณ์ด้วย ‘พระปัญญาคุณ’ สามารถชำระกิเลสเครื่องเศร้าหมองให้หมดสิ้นไปจากพระทัยบรรลุถึงความสะอาดผ่องใสที่เรียกว่า ‘พระบริสุทธิคุณ’ แล้วจากนั้นไม่นานก็ได้ทรงเผยแผ่พระธรรมสั่งสอนโลก ด้วยอำนาจแห่ง ‘พระมหากรุณาคุณ’ ครบถ้วนแห่งองค์คุณของความเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ตลอด ๔๕ พรรษาแห่งการบำเพ็ญพุทธกิจ

    สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีพระปัจฉิมวาจาก่อนเสด็จดับขันธปรินิพพานว่า ‘วยธมฺมา สงฺขารา อปฺปมาเทน สมฺปาเทถ’ แปลความว่า ‘สังขารมีความเสื่อมสลายไปเป็นธรรมดา ท่านทั้งหลายจงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด’ ดังนี้

    ขอทุกท่านหันกลับมาพิจารณาสังขารธรรม หรือความปรุงแต่งในรูปและนาม ณ บัดนี้ แล้วจงฉุกคิดถามตนเองว่า ในขณะที่รูปและนามกำลังเสื่อมสลายไปเป็นธรรมดา ท่านได้อบรมเจริญปัญญา เป็นเสบียงแห่งอนาคตไว้มากน้อยเพียงไรแล้ว ท่านกำลังมีความประมาทในชีวิต เผลอคิดไปว่ายังเหลือเวลาอยู่อีกมากหรือไม่ ในเมื่ออันที่จริง ทุกคนไม่อาจทราบได้ว่าความตายจะมาถึงเมื่อไร

    ชีวิตนี้สั้นนัก เพราะฉะนั้น ‘ความไม่ประมาท’ ณ ขณะปัจจุบัน จึงเป็นบทสรุปแห่งพระบรมพุทโธวาทที่สั้นที่สุด แต่มีความสำคัญสูงสุดสำหรับชาวพุทธทุกคน

    ขอสาธุชนอย่าละเลยการบำเพ็ญทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา อันนับเป็น ‘ปฏิบัติบูชา’ ที่พึงกระทำต่อพระรัตนตรัย เพื่อความดำรงคงมั่นแห่งพระสัทธรรมของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นประทีปส่องใจเวไนยนิกรทั้งปวงสืบไปตลอดกาลนาน เทอญ

    ขอขอบคุณที่มา
    https://news.mthai.com/general-news/730502.html
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 15 พฤษภาคม 2019
  2. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,492
    'สมเด็จพระสังฆราช'ประทานคติธรรมวันวิสาขบูชา ชีวิตนี้สั้นนักแนะชาวพุทธไม่ประมาท

    image_big_5bbed441df17c.jpg


    ดิถีวิสาขบูชา อันเป็นวันคล้ายวันประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและเป็นวันสำคัญสากลของโลก ได้เวียนมาบรรจบอีกคำรบหนึ่งแล้ว พระโพธิสัตว์สิทธัตถราชกุมารเสด็จอุบัติขึ้นบนโลกนี้เมื่อกว่า 2,600 ปีก่อน ทรงถึงพร้อมด้วยพระชาติ มีพระกายลักษณะอย่างมหาบุรุษครบถ้วนเป็นอัศจรรย์ แต่ที่วิเศษยิ่งกว่านั้น คือ พระคุณ ด้วยเหตุแห่งการตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ ยังให้ทรงบริบูรณ์ด้วย"พระปัญญาคุณ" สามารถชำระกิเลสเครื่องเศร้าหมองให้หมดสิ้น ไปจากพระทัย บรรลุถึงความสะอาดผ่องใส ที่เรียกว่า "พระบริสุทธิคุณ" แล้วจากนั้นไม่นานก็ได้ทรงเผยแแผ่พระธรรมสั่งสอนโลก ด้วยอำนาจแห่ง"พระมหากรุณาคุณ" ครบถ้วนแห่งองค์คุณของความเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ตลอด 45 พรรษา แห่งการบำเพ็ญพุทธกิจ

    สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีพระปัจฉิมวาจาก่อนเสด็จดับขันธปรินิพพานว่า " วยธมมา สงขารา อปปมาเทน สมปาเทถ " แปลความว่า "สังขารมีความเสื่อมสลายไปเป็นธรรมดา ท่านทั้งหลายจงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด " ดังนี้ ขอทุกท่านหันกลับมาพิจารณาสังขารธรรม หรือความปรุงแต่งในรูปและนาม ณ บัดนี้ แล้วจงฉุกคิดถามตนเองว่า ในขณะที่รูปและนามกำลังเสื่อมสลายไปเป็นธรรมดา ท่านได้อบรมเจริญปัญญา เป็นเสบียงแห่งอนาคตไว้มากน้อยเพียงไรแล้ว ท่านกำลังมีความประมาทในชีวิต เผลอคิดไปว่า ยังเหลือเวลาอยู่อีกมากหรือไม่ ในเมื่ออันที่จริง ทุกคนไม่อาจทราบได้ว่า ความตายจะมาถึงเมื่อไร ชีวิตนี้สั้นนัก เพราะฉะนั้น "ความไม่ประมาท" ณ ขณะปัจจุบัน จึงเป็นบทสรุปแห่งพระบรมพุทโธวาทที่สั้นที่สุด แต่มีความสำคัญสูงสุดสำหรับชาวพุทธทุกคน

    ขอสาธุชนอย่าละเลยการบำเพ็ญทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา อันนับเป็น"ปฏิบัติบูชา" ที่พึงกระทำ ต่อพระรัตนตรัย เพื่อความดำรงมั่นคงแห่งพระสัทธรรมของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นประทีปส่องใจเวไนยนิกรทั้งปวงสืบไปตลอดกาลนาน เทอญ
    (สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ)
    สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

    ขอบคุณที่มา
    https://www.thaipost.net/main/detai...A0NLHqmhjRsgCNI3QCOMl5swrNZy7foF5XXszlGqTtySg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...