ปาฏิหาริย์ พลังดุริยมนตรา

ในห้อง 'ประสบการณ์ ผลของการสวด' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 12 กรกฎาคม 2009.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,892
    [​IMG]


    เป็นที่เลื่องลือกันมานานว่าบทสวดมนต์สอนเจ้ากรรมนายเวรของ หลวงพ่อพระอาจารย์สิงห์ทน นราสโภ นี้มีความศักดิ์สิทธิ์เคยสร้างปาฏิหาริย์ให้หลายๆท่านได้ประจักษ์มาแล้ว

    ซึ่งบทสวดบทนี้เองที่หลวงพ่อท่านใช้สวดเพื่อช่วยให้คนที่คลื่นสมองดับฟื้นคืนสติมามีชีวิตต่อได้ และยังใช้สวดช่วยผู้ป่วยหนักอีกหลายๆคน หายหรือบรรเทาจากโรคร้ายที่เป็นอยู่รวมทั้งตัวของพระอาจารย์สิงห์ทนเองท่านก็เคยเป็นมะเร็งในกระเพาะอาหารเมื่ออายุ 53 ปี จนปัจจุบันท่านอายุ 70 ปีแล้ว ท่านยังมีชีวิตอยู่ได้ก็ด้วยพลังแห่งธรรมะที่เอาชนะโรคร้ายบวกกับการสวดมนต์

    พลังจากเสียงสวดมนต์ของพระอาจารย์สิงห์ทน ผู้เขียนได้มีโอกาสฟังเมื่อวันที่ท่านมาบรรยายในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์ทางจิต ครั้งที่ 11 เมื่อได้ยินเป็นครั้งแรกต้องยอมรับว่าขนลุก และรู้สึกสงบ สบาย นิ่งเหมือนถูกมนต์สะกดอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ทั้งๆที่เคยฟังพระสวดมาก็มาก แต่ท่านก็ไม่ได้สวดแบบนี้ เสียงสวดของพระอาจารย์สิงห์ทนเป็นคลื่นเสียงที่มีพลังระดับเสียง มีสูง ต่ำ หนัก เบา ฟังแล้วจึงเพลิดเพลิน และอยากให้ทุกคนได้ลองฟังเช่นกัน หรือหากจะลองสวดเอง ผู้เขียนมีบทสวดของพระอาจารย์สิงห์ทนมาลงไว้ให้ในฉบับนี้ บทสวดนี้เมื่อสวดแล้วจะเกิดพลังคุ้มครองตัวเองในยามที่ตัวเองหรือผู้ใกล้ชิดเจ็บป่วย

    สัพเพ สัตตา อะเวรา โหนตุ อัพยาปัชฌา โหนตุ อะนีฆา โหนตุ สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ (เมตตา)

    สัพเพ สัตตา สัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ (กรุณา)


    สัพเพ สัตตา ลัทธะสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ (มุทิตา)


    สัพเพ สัตตา กัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนิ กัมมะพันธุ กัมมะปฏิสะระณา ยัง กัมมัง กะริสสันติ กัลยาณัง วา ปาปะกัง วา ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ (อุเบกขา)


    ทุกกโต ทุกขะฐานันติ วะทันติ พุทธา


    นะ หิ เวเรนะ เวรานิ สะมันตีธะ กุทาจะนัง อะเวเรนะ จะ สัมมันติ เอสะ ธัมโม สะนันตะโนฯ


    พุทโธ พุทธัง รักษา ธัมโม ธัมมัง รักษา สังโฆ สังฆัง รักษาฯ พุทโธ พุทธัง อะระหัง ธัมโม ธัมมัง อะระหัง สังโฆ สังฆัง อะระหังฯ พุทโธ พุทธัง กัณหะ ธัมโม ธัมมัง กัณหะ สังโฆ สังฆัง กันหะ อายุ วัณโณ สุขัง พะลัง ภะวันตุ เม (สวดเพื่อผู้อื่นภะวันตุ เต)


    นะสาเปเส พุรุอะกัง ปะริปัตตัง ปะริชันตัง มัจจุราชา นะ ภาสะติ มัจจุราชา นะ ปัสสะติฯ


    สุญญะโต โลกัง อะเวกขัสสุ บุญชู (สมมุติคนป่วยชื่อ บุญชู)


    สะทา สะโต เอวัง โลกัง อเวกขันตัง มัจจุราชา นะ ปัสสะติฯ


    อิมัง สัจจะ วาจัง อธิฏฐามิ ทุติยัมปิ อิมัง สัจจะ วาจัง อธิฏฐามิ ตะติยัมปิ อิมัง สัจจะ วาจัง อธิฏฐามิ


    โย ทัณเฑนะ อทัณเฑสุ อัปปะทุฏเฐสุ ทุสสะติ ทะสันนะ มัญญัตตะรัง ฐานัง ขิปปะเมวะ นิคัจฉะติ เวทะนัง ผะรุสัง ชานิง สะรีสัสสะ วะ เภทะนัง คะรุกัง วาปิอาพาธัง จิตตักเขปัง วะ ปา ปุเณ ราชะโต วา อุปะสัคคัง อัพภักขาณัง วะ ทารุณัง ปะริขะยัง วะ ญาตีนัง โภคานัง วะ ปะภังคุณัง อะถะวาสสะ อะคะรานิ อัคคิ ฑะ หะติ ปาวะโก กายัสสะ เภทา ทุปปัญโญ นิระยัง โส อุปปะปัชชติฯ หันทะทานิ ภิกขะเว อามันตะยามิ โว ขะยะ วะยะ ธัมมา สังขารา อัปปะมาเทนะ สัมปาเทถาติ อะยัง ตะถาคะตัสสะ ปัจฉิมา วาจาฯ


    อุททิฏฐัง โข เตนะ ภะคะวะตา ชานะตา ปัสสะตา อะระหะตา สัมมาสัมพุทเธนะ โอวาทะ ปาฏิโมกขัง ตีหิ คาถาหิ ขันติ ปะระมัง ตะโป ตีติกขา นิพพานัง ปะระมัง วะทันติ พุทธา นะ หิ ปัพพะชิโต ปะรูปะฆาตี สะมะโณ โหติ ปะรัง วิเหฐะยันโต สัพพาปาปัสสะ อะกะระณัง กุสะลัสสูปะสัมปะทา สจิตตะปะริโยทะปะนัง เอตัง พุทธานุสาสะนังฯ อนูปะวาโท อะนูปะฆาโต ปาฏิโมกเข จะ สังวะโร มัตตัญญุตา จะ ภัตตัสมิง ปันตัญจะ สะยะนาสะนัง อะธิจิตเต จะ อาโยโค เอตัง พุทธานะสาสะนันติฯ


    รวบรวมโดย หลวงพ่อพระอาจารย์ ดร.สิงห์ทน นราสโภ

    จากบทสวดมนต์ข้างต้นได้มีการบอกเล่าจากลูกศิษย์ผู้ศรัทธาในพระอาจารย์สิงห์ทน ถึงปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นเมื่อได้สวดมนต์บทนี้ว่า มีอยู่ครั้งหนึ่งมีคณะคนไทยได้ไปแสวงบุญที่ประเทศอินเดีย และได้รับแจกบทสวดมนต์ไปคนละ 1 แผ่น ขากลับบนเครื่องบินมี 1 คน ในคณะเกิดอาการช็อกน้ำลายฟูมปาก หลายคนที่ไปด้วยพยายามช่วยโดยเอาสร้อยพระแม่อุมา และสร้อยพระมาแขวนให้ ปรากฏว่าสร้อยขาดทั้งพระและเหรียญพระแม่อุมา ซึ่งดูแล้วไม่น่าเชื่อ แต่แล้วก็มีคนหนึ่งนึกถึงบทสวดมนต์สอนเจ้ากรรมนายเวรของพระอาจารย์สิงห์ทนขึ้นมาได้จึงเอาออกมาสวด สักพักผู้ที่มีอาการช็อกกลับหายอย่างอัศจรรย์ เขาบอกว่าอย่างนี้ไม่เรียกว่าปาฏิหาริย์แล้วจะเรียกว่าอะไร

    แล้วยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่เกิดกับคุณหมอท่านหนึ่งที่เชียงราย ท่านเล่าให้ใครหลายคนฟังถึงปาฏิหาริย์ของบทสวดมนต์บทนี้ว่า ครั้งหนึ่งปลาที่ท่านเลี้ยงไว้ ซึ่งมีราคาแพงเกิดอาการหงายท้องทำท่าว่าจะตาย พอดีท่านนึกถึงบทสวดมนต์ดังกล่าวว่าเคยเกิดปาฏิหาริย์ช่วยคนสลบให้ฟื้นได้ และคงจะใช้กับปลาได้ ท่านจึงนำบทสวดนี้มาสวด พอสวดภาวนาไปพร้อมกับเอามือวางไว้ในอ่างใกล้ตัวปลาก็เกิดปาฏิหาริย์อย่างไม่คาดฝัน ปรากฏว่าปลาถ่ายออกมาแล้วพลิกตัวแหวกว่ายไปได้เป็นปกติ แล้วแต่ก่อนปลาตัวนั้นพอเห็นคุณหมอท่านนี้มาใกล้มันจะว่ายหนี แต่หลังจากท่านช่วยให้มันหายป่วย พอคุณหมอเข้าไปหามันก็จะมาหาให้ลูบคลำอย่างมีความสุข จึงเป็นเรื่องแปลกที่ควรเล่าสู่กันฟัง

    กับอีกกรณีเกิดขึ้นกับคุณยายท่านหนึ่ง ซึ่งเป็นมะเร็งที่กระเพาะอาหารเหมือนพระอาจารย์สิงห์ทน จนต้องตัดลำไส้ทิ้ง แล้วมะเร็งก็ยังลุกลามออกไปทำให้เกิดความทุกข์ทรมานอย่างหนัก ต้องเข้ารับการผ่าตัดเป็นครั้งที่ 2 เมื่อแพทย์เปิดแผลออกดูปรากฏว่ามะเร็งกระจายขึ้นสมอง คุณหมอจึงบอกกับญาติว่า คงไม่ต้องทำอะไรแล้วปล่อยไว้อีก 7 วัน ก็ตาย คุณยายตื่นขึ้นมาได้ยินที่หมอพูดพอดี แต่แทนที่ท่านจะเสียใจกลับดีใจที่จะได้ตายให้พ้นทุกข์ และดีใจอีกอย่างที่ยังมีเวลาเหลืออีกตั้ง 7 วัน จะได้ใช้เวลาที่เหลือสวดมนต์ตลอดเพื่อหวังจะได้ไปสู่สุคติ สวดมนต์ก็สวดไม่เก่งคุณยายได้แต่ นะโมตัสสะ พุทธัง ธัมมัง สังฆัง สะระณังคัจฉามิ เท่านั้น เมื่อตั้งใจสวดมนต์ก็สวดตลอด สวดไปหลายเดือนก็ยังไม่ตาย คุณยายจึงให้ลูกพาไปหาหมอ หมอตรวจก็พบว่าเนื้อมะเร็งร้ายหายไปแล้ว คุณยายท่านนี้ป่วยเป็นมะเร็งตั้งแต่อายุ 46 ปี จนปัจจุบันอายุ 90 ปีแล้ว ท่านยังมีชีวิตอยู่

    ทั้งหมดนี้คือประสบการณ์ของผู้ที่เชื่อใน ดุริยมนตรา คลื่นเสียงจากบทสวดมนต์ที่จะส่งพลังคุ้มครองแก่ผู้ที่เชื่อและศรัทธาผู้ดำรงอยู่ในเส้นทางธรรม พลังทั้งหลายนั้นสำหรับผู้ไม่เคยสัมผัสกับตัวเองคงมองเป็นสิ่งมหัศจรรย์ แต่สำหรับ ผู้รู้ ผู้ปฏิบัติ ทั้งหลายย่อมเข้าใจว่าสิ่งเหล่านี้คือ พลังจิต ที่มีมานานแล้วนั่นเอง


    ข้อมุลจาก
     
  2. Pandhaka

    Pandhaka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    672
    ค่าพลัง:
    +458
    อนุโมทนาครับ ถ้าจำไม่ผิด พระอาจารย์สิงห์ทน เคยรับราชการเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ใช่ไหมครับ เพราะมีรูปงานพระราชทานปริญญาบัตรที่ ม.ช สมัยนั้นอาจารย์จะเป็นคนถวายปริญญาบัตรบนพานให้ในหลวงทรงหยิบพระราชทานแก่บัณฑิต พระอาจารย์มีบารมีทั้งทางโลก ทางธรรมจริงๆ
     
  3. teelak

    teelak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    290
    ค่าพลัง:
    +900
  4. unzizu

    unzizu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    120
    ค่าพลัง:
    +227
    อนุโทนาบุญครับ
    เรื่องดีๆ อย่างนี้
     
  5. apisitTre

    apisitTre Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +60
    พระอาจารย์ ดร.สิงห์ทน นราสโภ ท่านอยู่ที่วัดวรเชษฐ์(นอกเกาะ)

    ได้ไปกราบท่านมาแล้ว ท่านบารมีสูงมาก ขอโมทนากับเจ้าของกระทู้ด้วย
     
  6. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,920
    ค่าพลัง:
    +6,434
    การสวดมนต์บทดุริยมนตรานี้มีพลังจริงๆ

    ฟังแล้วขนลุก อาการเห่อๆเหมือนคนเพิ่งส่างไข้ทุกที

    โดยเฉพาะบทสอนเจ้ากรรมนายเวร ดีจังเลย

    อนุโมทนาสาธุ
     
  7. paul1234

    paul1234 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2009
    โพสต์:
    392
    ค่าพลัง:
    +634
    <TABLE style="WIDTH: 174pt; BORDER-COLLAPSE: collapse" cellSpacing=0 cellPadding=0 width=232 border=0><COLGROUP><COL style="WIDTH: 23pt; mso-width-source: userset; mso-width-alt: 1133" width=31><COL style="WIDTH: 48pt" width=64><COL style="WIDTH: 55pt; mso-width-source: userset; mso-width-alt: 2669" width=73><COL style="WIDTH: 48pt" width=64><TBODY><TR style="HEIGHT: 15pt" height=20><TD class=xl66 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; WIDTH: 23pt; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; HEIGHT: 15pt; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8" width=31 height=20> </TD><TD class=xl66 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; WIDTH: 48pt; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8" width=64> </TD><TD class=xl66 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; WIDTH: 55pt; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8" width=73> </TD><TD class=xl66 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; WIDTH: 48pt; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8" width=64> </TD></TR><TR style="HEIGHT: 15.75pt" height=21><TD class=xl66 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; HEIGHT: 15.75pt; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8" height=21> </TD><TD class=xl67 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8; mso-ignore: colspan" align=left colSpan=3>อนุโมทนา... สาธุ...</TD></TR><TR style="HEIGHT: 8.25pt; mso-height-source: userset" height=11><TD class=xl68 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; BORDER-BOTTOM: #002060 2pt double; HEIGHT: 8.25pt; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8" height=11> </TD><TD class=xl68 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; BORDER-BOTTOM: #002060 2pt double; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8"> </TD><TD class=xl68 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; BORDER-BOTTOM: #002060 2pt double; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8"> </TD><TD class=xl68 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; BORDER-BOTTOM: #002060 2pt double; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8"> </TD></TR><TR style="HEIGHT: 25.5pt; mso-height-source: userset" height=34><TD class=xl66 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; HEIGHT: 25.5pt; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8" height=34> </TD><TD class=xl69 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8; mso-ignore: colspan" align=left colSpan=2>ทาน ศิล ภาวนา</TD><TD class=xl66 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8"> </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  8. atidtarn

    atidtarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    637
    ค่าพลัง:
    +4,168
    รบกวนช่วยหาคำแปลบาลี มาใส่ด้วยยค่ะ

    อยากทราบคำแปล
     
  9. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,920
    ค่าพลัง:
    +6,434
    คำแปลบทสวดมนต์สอนเจ้ากรรมนายเวร และเพื่อให้เกิดพลังคุ้มครองตัวเองและผู้ป่วย


    พอดีคิดถึงคำถามคุณอธิษฐานได้ พอเจอคำแปลในหนังสือ

    "พระอาจารย์สิงห์ทน นราสโภ คือใคร เพราะเหตุไร จึงมีความผูกพันกับ

    สมเด็จพระนเรศวรมหาราช"... หน้า 49

    ขอให้สรรพสัตว์ผู้เป็นเพื่อนร่วมทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น อย่ามีเวรต่อกันเลย อย่าพยาบาทปองร้ายกันเลย อย่ามีความทุกข์กาย ทุกข์ใจเลย ขอให้มีความสุขกาย สุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด (แผ่เมตา)

    ขอให้สรรพสัตว์ ฯลฯ จงพ้นจากความทุกข์โดยประการทั้งปวงเถิด (แผ่กรุณา)

    ขอให้สรรพสัตว์ ฯลฯ อย่าได้ปราศจากและอย่าได้พลัดพรากจากสมบัติและบุคคลที่เป็นที่รัก ที่ตัวมีอยู่เถิด (แผ่มุทิตา)

    สรรพสัตว์ ฯลฯ มีกรรมเป็นของตน มีกรรมเป็นทายาท มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย ทำกรรมใดไว้จะเป็นกรรมดีหรือกรรมชั่วก็ตาม จักได้รับผลแห่งกรรมนั้น (แผ่อุเบกขา)

    พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ต่างตรัสสอนไว้ว่า ทำทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นจะมาถึงตน

    เวรจะไม่ระงับด้วยการจองเวร มันเป็นเช่นนี้ไม่ว่าในกาลเวลาใดก็ตามหรือไม่ว่ากาลไหนๆก็ตาม เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร เท่านั้น ที่กล่าวมานี้เป็นคำสอนที่สืบต่อกันมาตั้งแต่ก่อนพุทธกาลแล้ว (ซึ่งพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ต่างก็ทรงยอมรับว่ามันเป็นจริงอย่างนั้น)

    ขอคุณพระศรีรัตนตรัย คือ พระพุทธ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ ปกป้องคุ้มครองรักษา ทั้งคุณญาณบารมีของพระอริยะผู้ทรงอภิญญาทั้งหลาย ช่วยปกป้องคุ้มครอง ช่วยให้มีอายุยืนยาว มีผิวพรรณผ่องใส มีความสุข และมีพลังคุ้มครอง เป็นเหตุให้เกิดความปลอดภัยจากภัยอันตรายทั้งหลาย ทั้งเป็นเหตุปัจจัยช่วยให้เกิดพลังปาฎิหาริย์อันเป็นอัศจรรย์ ทำให้พญามัจจุราช(เจ้ากรรมนายเวร) ไม่พูดถึง และมองไม่เห็น (ข้าพเจ้าหรือผู้ป่วย)

    นี่แน่ บุญชู (สมมุติว่าคนป่วยชื่อ บุญชู) เธอจงมองโลกหรือตัวเองให้ว่างเปล่า ไม่มีตัวตน เมื่อเข้าใจมองโลกหรือตัวเองว่า ว่างเปล่า (ไม่มีตัวตน) มัจจุราช (เจ้ากรรมนายเวร) จะมองไม่เห็น

    ขอกล่าวย้ำ อธิษฐานขอให้เป็นจริงอย่างนั้นอย่างแท้จริง ขอกล่าวย้ำเป็นครั้งที่ 2 เป็นครั้งที่ 3

    ผู้ใดประทุษร้ายต่อผู้ไม่เคยคิดร้ายต่อ ลงโทษผู้ที่ไม่เคยทำความผิด ย่อมได้รับภัยร้ายแรง 10 ประการ อย่างใดอย่างหนึ่ง อย่างทันตาเห็น คือ

    1. ได้รับทุกขเวทนา หรือทุกข์ทรมานอย่างแรงกล้า
    2. สรีระร่างกายถูกทำลาย
    3. เจ็บป่วยอย่างหนัก
    4. มีจิตฟุ้งซ่านอย่างหนัก อาจถึงกับเป็นบ้า
    5. ถูกทางราชการทำโทษอย่างรุนแรง
    6. ถูกกล่าวหาว่ามีความผิดอย่างร้ายแรง
    7. ญาติเสียชีวิตแทน
    8. ทรัพย์สมบัติมีอันพินาศฉิบหาย
    9. ไฟป่าหรือไฟไหม้บ้านชนิดไม่ทราบสาเหตุทั้งไม่น่าจะเกิดภัยเช่นนั้น
    10.ตายไปแล้วยังตกนรกชดใช้กรรมต่อ

    มานี่ซิ ภิกษุทั้งหลาย มา ณ บัดนี้ ฉันขอเตือนพวกเธอทั้งหลายว่า สังขารทั้งหลาย (คือสิ่งที่ประกอบด้วย รูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ ปรุงแต่งให้เป็นตัวตน) มีความเสื่อมสิ้นสลายไปเป็นธรรมดา พวกเธอพึงดำรงชีวิตอยู่ด้วยความไม่ประมาท (คือให้มีสติควบคุมเสมอ อยู่กับปัจจุบันด้วยความมีสติเสมอ)

    นี้เป็นคำสอนครั้งสุดท้าย ก่อนที่พระพุทธองค์จะปรินิพพาน ซึ่งตรัสสอนด้วยความเป็นห่วง

    พระพุทธองค์ผู้ทรงไว้ซึ่งพระมหากรุณาธิคุณ ทรงตรัสรู้เห็นแจ้งกำจัดกิเลสโดยพระองค์เอง ได้ทรง แสดงโอวาทปาฎิโมกข์ คือหลักคำสอนสำหรับผู้จะปฎิบัติตนเพื่อความหลุดพ้นจากกิเลส เป็นหลักการโดยย่อว่า ผู้ที่มุ่งต่อพระนิพพาน อันเป็นบรมสุข ต้องมีความอดทน เพียรพยายามเผาทำลายกิเลสให้สิ้นไป เพียรพยายามด้วยความอดทนอดกลั้นอย่างแรงกล้าจนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย (หากจะเร่งปฎิบัติตนเพื่อบรรลุเป้าหมาย) บำเพ็ญตัวเป็นนักบวชก็ขอให้เป็นนักบวชที่แท้จริง ไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน สงบกาย วาจา ใจ ไม่เบียดเบียนใคร ไม่ทำบาปโดยประการทั้งปวง ทำแต่กุศล ชำระจิตใจให้สะอาดผ่องใส ทั้งไม่กล่าวใส่ร้ายใคร ไม่ทำร้ายใคร รักษาศีลของตนให้บริสุทธิ์ รู้จักประมาณตนในการฉัน การบริโภค (ใช้สอยปัจจัย 4) ยินดีอยู่อาศัยในที่เงียบสงัด เพียรพยายามบำเพ็ญภาวนาให้เกิด ภาวนามยะปัญญา ที่แท้จริง

    นี่แหละคือคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย

    ข้าพเจ้า (พระอานนท์เถระ) ได้สดับมาอย่างนี้

    สมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน พระอารามสร้างถวายโดยเศรษฐีอนาถะปิณฑิกะ ครั้งนั้น พระพุทธเจ้า พระผู้ทรงไว้ซึ่งพระมหากรุณาธิคุณ ได้ตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายมารับฟัง เมื่อพระภิกษุทั้งหลายได้มาแล้ว พระพุทธองค์ตรัสสอนดังนี้

    ภิกษุทั้งหลายผู้เจริญเมตตา จนกระทั่งข่มนิวรณ์ได้ เสพเสวย อบรมตนทำให้มาก นำมาใช้เป็นประจำ ทำให้เกิดเป็นรูปธรรม กระทำด้วยความเพียร ไม่ย่อท้อสะสมไว้เสมอ บำเพ็ญเพียรพยายามด้วยดี ย่อมได้รับอานิสงส์ 11 ประการเป็นแน่แท้ คือ

    1. หลับก็หลับอย่างเป็นสุข
    2. ตื่นมาก็เป็นสุข
    3. ไม่ฝันร้าย
    4. เป็นที่รักของเพื่อนมนุษย์ทั้งหลาย
    5. เป็นที่รักของอมนุษย์ทั้งหลายด้วย
    6. เทวดาคุ้มครองรักษา
    7. ปลอดภัยจากไฟไหม้ ปลอดภัยจากยาพิษ ปลอดภัยจากของมีคม
    8. จิตเป็นสมาธิได้เร็ว
    9. สีหน้าผ่องใส
    10.ตายไปไม่หลงทาง (คือเป็นไปตามกรรมที่ได้ทำมา)
    11.หากไม่สามารถบรรลุความเป็นพระอริยะ อย่างน้อยก็จะได้เกิดเป็นพรหม

    ด้วยอานุภาพแห่งพระพุทธเจ้า ขอสรรพมงคลจงเกิดมี ขอปวงเทพปกป้องคุ้มครองรักษา
    ด้วยอานุภาพแห่งพระธรรม ขอสรรพมงคลจงเกิดมี ขอปวงเทพปกป้องคุ้มครองรักษา
    ด้วยอานุภาพแห่งพระอริยสงฆ์ ขอสรรพมงคลจงเกิดมี ขอปวงเทพปกป้องคุ้มครองรักษา

    ปาฎิหาริย์ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับการสวดมนต์เพียงแต่สวดบทย่อที่พระอาจารย์ได้จัดให้ลูกศิษย์พิมพ์แจกแก่ผู้สนใจ และตั้งใจสวดมนต์อย่างจริงจัง เพียงแต่สวดดังที่ปรากฏ (อย่างที่คุณ VANCO นำมาเสนอ) ก็ปรากฏเป็นปาฎิหาริย์ขึ้นดังกล่าวไว้ข้างต้นแล้วค่ะ
     
  10. ''Kritchakorn Sittibusaya

    ''Kritchakorn Sittibusaya สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2011
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +5
    download.drtanasit.com มีหนังสือสวนมนต์ และไฟล์เสียง เข้ามาโหลดกันได้เลยจ้า...
     

แชร์หน้านี้

Loading...