นรกสวรรค์มีจริงหรอ

นรกสวรรค์มีจริงหรอ นั้นสิ เวลาสอนเพื่อนเรื่องศีล5 แล้วเจอคำถามนี้ตลอด "ที่มึงพูดๆมานะ มึงเคยเห็นหรอ" "นรกสวรรค์ มันเป็นยังไงวะอธิบายให้ฟังสิ" พอเราตอบว่าไม่รู้ อ่านมา มันก็ยังบอก "ถ้างั้นมึงก็ผิดศีล 5 ข้อ มุสา แล้วละ" พูดกับมันไม่ออกเลย

ถามว่าตั้ง กระทู้นี้เพื่อนเจตนาอะไร นั้นสิเจตนาอะไร ผมไม่รู้ รู้แค่ว่า ผมนั่งคิดดูเออ มันก็จริง แบบที่เพื่อนพูด เราไม่เคยเห็นแล้วไปพูดแบบเป็นตุเป็นตะ
ผมเชื่อในพระพุทธเจ้า เชื่อในพระธรรม เชื่อในพระสงฆ์ ส่วนเรื่อง วิญญาณ เทพฯ ผมเชื่อ แต่ไม่เชื่อสนิทใจ เพราะอะไร เพราะผมไม่เคยเจอ
สรุปทั้งหมดทั้งสิ้น จะมีวิธีไหน ให้ผม ได้พิสูจน์ เกี่ยวกับเรื่องข้างต้นได้บ้าง ครับ

 

ท่านจขกท คิดว่า "พรุ่งนี้"มีใหมครับ?..

ถ้าตอบว่ามี ท่านทราบได้อย่างไร?..ท่านเห็นหรือสัมผัสเอา หรือคิดเอง?..ในเมื่อพรุ่งนี้ยังมาไม่ถึง..!
ถ้าตอบว่าไม่มี...แล้วคำว่า"พรุ่งนี้"เกิดขึ้นด้วยเหตุใด ..?
ทำไมท่านจึงเชื่อว่ามีพรุ่งนี้...หรือว่าท่านเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง..เพราะยังไม่เจอ?....

 

ส่วนตัวดิฉันก็ไม่เชื่อเรื่องนรก สวรรค์ ที่ มีเมือง มีนางฟ้าเทวดาอยู่บนก้อนเมฆ มีชั้นนั้นชั้นนี้ มีแบบนั้นแบบนี้ หรือ มี เทพเจ้า ปกครอง ยามา ดุสิต นิมมานรดี ฯลฯ ขอโทษ แต่ตอบจากความเห็นส่วนตัวคือไม่เชื่อว่ามีนะคะ คิดว่าเป็น แค่นิทานเต็มเข้ามาเพื่อเปรียบเปรย ให้เห็นว่า ทำดีแล้วไปอยู่ที่สวยงาม และ ทำชั่วก็ไปโดนทรมานในนรก เพราะเรื่องแบบนี้ฟังดูคล้ายนิทาน ปรากฏในทุกศาสนา แต่สิ่งนึงที่ดิฉันเชื่อ คือ กฏแห่งกรรม การเวียนว่ายตายเกิด และ นิพพาน เป็นสภาวะหมดความทุกข์จากการยึดมั่นถือมั่นของวิญญาณ

ดิฉันเชื่อว่า กรรมต่างๆที่เราทำตอนมีชีวิตอยู่ มันฝังอยู่ในสัญญา เป็นเหตุให้คนที่ทำดี คิดแต่เรื่องดี มีที่จุติ ในสภาวะที่สบาย เป็นเรื่องที่เราชอ บ เราพอใจ ตอนมีชีวิตอยู่....... ส่วนคนทำชั่วนั้น วิญญามีสัญญา แต่เรื่องไม่ดี ทำให้พอตายไป ก็พบเจอสิ่งที่ตนเองชอบทำหรือฝังใจตอนเป็นคน เช่นชอบฆ่าสัตว์ตายไปก็เห็นตัวเองเป็นสัตว์โดนฆ่า พอไปเกิดก็เป็นสัตว์ เอาง่ายๆ คุณลองหมกมุ่นทำเรื่องอะไรมากๆ พอหลับไปมันก็ฝันเรื่องนั้น ตายไปก็เหมือนกัน

 

สรุปคือหาวิธีพิสูจน์ เพื่อจะไปบอกเพื่อนว่า นรกสวรรค์มีจริง ว่างั้นเหอะ

หากเพื่อนมันถามต่ออีกว่า ที่เห็นน่ะเห็นจริงไหม จะว่าอย่างไรต่อ

เพื่อนคุณคนนี้ เค้ามีศรัทธาหย่อนไป มีปัญญาล้ำหน้าตามวิสัยโลกียชน

หรืออาจจะเป็นการโต้กลับ ในลักษณะหยั่งเชิงถาม เพื่อต้องการสิ่งรับรองก็เป็นได้
แต่การที่จะเอาตนไปเป็นสิ่งรับรอง จึงยากสำหรับบุคคลบางประเภท

นอกจากเขาผู้นั้นจะมีศรัทธาปัญญาเป็นของตน

ด้วยการน้อมใจเชื่อ ในเรื่องการเวียนว่ายตายเกิด กฏแห่งกรรม

เห็นว่ามีทุกข์และตัณหาเป็นปัจจัย ส่งผลความเป็นภพชาติ

ความเป็นอินทรีย์จึงจะเริ่มเบ่งบาน เห็นโทษเห็นคุณของการรู้จักบริหารกิเลส ตามวิสัยโลกียชน

โดยอาศัยตัณหาในฝ่ายที่เป็นคุณ เพื่อละตัณหาฝ่ายที่เป็นโทษ เริ่มรู้จักทาน ศีล ภาวนา

แต่หากคุณเมื่อรู้วิธีที่จะพิสูจน์นรกสวรรค์ แต่ทำยังไงๆก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้ด้วยตาใน

และจะนำไปบอกกล่าวต่อเพื่อน ที่มีคติต่อต้าน จะทำอย่างไร

ควรชี้ให้เค้า เห็นคุณ และโทษของ ศีลธรรม ผู้มีศีลหรือผิดศีล
มีคุณและโทษ อย่างไร ชี้ไปในสิ่งที่สามารถสัมผัสได้ด้วยตาเนื้อ
เช่น คนเราเกิดมาทำไมจึงแตกต่างกัน หรือเกิดเป็นสัตว์ดิรัจฉานก็มี อย่างไร

ให้เค้าน้อมเข้ามาพิจารณา จนเชื่อมั่นในพระสัพพัญญุตญาณ ผู้รู้แจ้งในไตรโลกธาตุ

แม้ในพระสาวก ส่วนหนึ่งใน 84000 พระธรรมขันธ์
เช่น เรื่องเกี่ยวกับพระโมคคัลลานะท่องสวรรค์ เป็นบุคคลาธิษฐานของผู้มีฤทธิ์
(ที่เพลิดเพลินในสิ่งที่เป็นกิเลส คือ กามคุณทั้ง5 แต่กิเลสไม่สามารถเข้ามาแทรกแซงกับท่านได้)

ก็ลองพิสูจน์ดู เพื่อจะให้เพื่อนเค้าได้ ถึงความเป็นสัมมาทิฏฐิ ตามวิสัย ที่ถึงพร้อมด้วยปัจจัย2 (ปรโตโฆสะ และโยนิโสมนสิการ)

 

ทางพุทธ ของเราให้พิสูจน์ด้วยตัวเอง และไม่ให้เชื่อโดยได้ยินมา เขาบอกมา ครูบาอาจารย์สอนมา และธรรมมะที่ พระพุทธองค์สอนมา ให้รับรู้ไว้ก่อน และทำตามกรรมวิธีที่ท่านบอกมาว่าจะทำให้จิตสงบ จนถึงระดับปฐมฌาน ระขึ้นฌาน 2 ไปต่อด้วยฌาน3-4
เมื่อเราทำได้แล้ว นั่นก็คือการพิสูจน์ด้วยตัวเอง และความศัทธาก็จะเกิดขึ้นอย่างแรงกล้า

และถ้าทำให้จิตสงบแล้ว ก็ ทำการพิสูจน์ดูว่า สวรรค์ และ นรก มีจริง หรือไม่ ถ้ายังสงสัยว่าภาพในนิมิต และเสียงที่ได้ยินนั่น คือของจริงหรือไม่ ก็ให้ดูเรื่องของอนาคต ว่าต่อไปอีกไม่กี่วัน จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าผลออกมาตามนิมิตหรือไม่ ถ้าตรงตามที่เห็น เราก็พิจารณาได้ว่ามาถูกทางหรือไม่ ครับ

สรุป คือ ทำสมาธิทุก ๆ วัน ไม่มีวันหยุด วันละ 2 ชั่วโมงขึ้นไป แต่ให้ดีที่สุดต้องเดินจงกลม เพราะจะเป็นประตูทางเข้าสู่ สมาธิได้ง่ายที่สุด เดิน 1 ชั่วโมง นั่ง 1 ชั่วโมง ทำติดต่อกันทันที คุณได้เห็นแน่ของที่สงสัย

 

จขกท. ต้องยืนยันด้วยตัวเองก่อนครับ
เรียกว่าต้องมีสันฐิติโก เป็นของตัวเอง

เพราะเราจะรู้วิธีทำ ทางไปรู้ไปเห็น
เราจึงสามารถบอกคนอื่นไปรู้ไปเห็นตามที่เราไปรู้ไปเห็นได้
เมื่อเขาลองทำตาม เขาจะได้รู้ได้เห็นเหมือนเรา ซึ่งเป้นเรื่องที่รู้ได้เฉพาะตน

การที่เราได้รู้ได้เห้นเรายืนยันด้วยตัวเองได้ และสามารถบอกแนะนำผู้อื่นได้เช่นกัน

ส่วนหากเรายังยันด้วยตัวเองไม่ได้ เราต้องเพียรของเราต่อไปก่อน
คนอื่นช่างเขาครับ

 

ถามกลับดูครับว่ากลัวผีไหม ถ้ากลัวแสดงว่าเชื่อว่าผีมีจริง แล้วทำไมไม่เชื่อว่านรกสวรรค์มีจริง แต่ถ้าไม่กลัวผี และไม่เชื่อเรื่องผี ลองชวนไปตั้งแคมป์ในป่าช้าสักหลายคืนดูครับ ผมว่าเพื่อนคุณไม่น่าจะกลัวนะ ถ้าไม่เชื่อเรื่องผี ไปอยู่ในป่าช้ามืดๆ ความมืดก็ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว มันทำอะไรเราไม่ได้

ผมว่าจะพิสูจเรื่องนรกสวรรค์นี่เอาเรื่องผีให้เคลียก่อนดีกว่าครับ

 

ต่อให้รู้แจ้งเห็นจริงอย่างไร หากเขาไม่เชื่อมันก็แค่นั้นครับ

 

จริงๆๆคนมันไม่ได้กลัวผีดอก มันกลัวความตายมากกว่า ที่มันกลัวผีก็เพราะว่ามันกลัวว่าผีนี่จะมีอำนาจบางอย่างมาทำร้ายทำให้มันตกตายไป อีกอย่างถ้ากลัวก๋อยากให้คิดสักนิดว่า มันก็อายหนอนอายแมลงอาสัตว์ที่มันไม่กลัวมันถึงได้กัดแทะศพที่ป่าช้าย่อยสลายตามธรรมชาติ คนมันทำอะไรได้เยอะกว่าพวกนี้ตั้งเยอะแล้วกลัวนี่มันก็กระไร คนโบราณท่านว่าคิดดีพูดดีทำดีนะผีเทวดาอะไรก็เถอะไม่ต้องไปกลัวเลยความดีมันเป็นเกราะคุ้มกัน ผีเทวดาซะอีกแทนที่จะหลอกจะหลอนทำร้ายกับมาคุ้มครอง อีกอย่างหนึ่งท่านว่าผีเทวดาจะไปทำอะไรได้ไม่น่ากลัวหรอกคนซะอีกน่ากลัวกว่าแถมชอบหลอกกันมาซะยิ่งกว่าผี ยิ่งยุคนี้ด้วยและ
ทีนี้เรื่องนรกสวรรค์ จริงๆๆ พุทธศาสนาพูดถึงภพไว้หกภพ ไม่ได้มีแค่นรกสวรรค์อย่างเดียว ทีนี้คนที่เชื่อหรือไม่เชื่อ จริงๆๆมันก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรดอกนะ
ถ้ามันเป็นไปตามเงื่อนไขเหล่านี้
1.คนที่ไม่เชื่อแต่ก็เป็นคนดีของสังคมคิดดีพูดดีทำดี อย่างงี้ความไม่เชื่อก็ไม่มีโทษอะไรเพราะเขาเป็นคนดี ตายไปก็ไม่มีทางไปที่อบายภูมิถ้าภูมิหกมันมีอยู่จริงเพราะเขาคิดดีพูดดีทำดีมาตลอด

2.คนที่เชื่อจะเพราะเคยเห็นไม่เคยเห็นจริงๆๆมันก็ไม่มีโทษอะไรถ้าไม่งมงายจนเกินไป ชนิดที่ว่าอะไรๆๆที่หาคำอธิบายไม่ได้ก็โยนไปว่าเป็นเพราะอำนาจลึกลับซะหมด อย่างเกิดอุบัติเหตุกับตัวเองบ่อยๆๆ สงสัยมีวิญญาณร้ายตามรังคราญ จริงๆๆอาจจะเป็นเพราะความประมาทก็ได้ และจริงๆๆคนที่เชื่อก็ดีเพราะถ้าเชื่อแล้วมันก็ต้องคิดดีทำดีพูดดีเพราะมันกลัวอบายภุมิมันก็ได้ แต่พวกที่ปากบอกเชื่อแต่ยังคิดชั่วทำชั่วพูดชั่ว นี่มันก็น่าจะเชื่อแต่ปากมากกว่าใจจริงๆๆมันไม่ได้เชื่อ

ที่นี้คนมักอยากจะรู้เหลือเกินว่าภพหกนี่มันมีอยู่หลังตายหรือเปล่านะ ที่เชื่อไม่เชื่อก็เถียงกันเอาตาย ฝ่ายหนึ่งก็ว่าอีกฝ่ายงมงาย ฝ่ายหนึ่งก็ว่าอีกฝ่ายวัตถุนิยมจัด มันก็พอกันทั้งคู่ เพราะยังโง่เหมือนกันคือไม่เห็นภพหก ที่ตรงนี้เดียวนี้ในใจมันเอง เช่น ในตอนที่ความโลภครอบงำมันก็เป็นเปรตแล้ว อย่างทุกวันนี้ลัทธิบริโภคนิยมได้ครอบงำอยู่ แม้แต่กระทั้งในสถาบัณของศาสนา สิ่งนี้ปรากฏขึ้นมาทุกมุมโลก และมันได้กลายเป็นอุปสรรค์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเรา พุทธพาณิชย์ เพราะก็เลยกลายเป็นเปตรไปไม่ใช่พระ เพราะมุ่งหาเงินหาทองเข้ากระเป๋าเสียมากแล้วอ้างว่าทำเพื่อศาสนาอย่างไม่รู้จักพอ นี่เปตรมันหิวตลอดเวลา นักการเมืองที่กอบโกยนายทุนที่กอบโกยตลอดเวลานี่ก็เปรต หรือเวลาเอ็งไปเดินเห็นของสวยๆๆแล้วโลภอยากจะได้ในสิ่งที่ไม่ใช่ของตน นี่ก็เป็นเปตรแล้ว ยังสัตว์นรก ก็ดูเอาตอนที่ความเกลียดชังครอบงำนะนั้นแหละจิตสัตว์นรกที่มีแต่ความร้อนรนอย่างตอนนี้ที่คนเขาโกรธเกลียดกัน เป็นฝ่ายๆๆนี่จิตสัตว์นรก ยังพวกที่กินนอนสืบพันธุ์ใช้ชีวิตจมปลักไปวันๆๆขี้เหล้าเมายาพวกนี้ก็จิตเดรัจฉาน (สัมพันธืกับความหลง) ยัง พวกที่บ้านรวยครับค่ะแล้วชีวิตช่างน่าเบื่อหน่ายเกินคือมีทุกอย่างในทางวัตถุแล้วละ แต่ไม่มีความสุขเลยชีวิตปราศจากความหมายจังนี่ก็พวกเทวดา แบบฝรั่งในประเทศพัฒนาแล้วและพวกชนชั้นบนทั้งหลาย ยังพวกติดศีลติดพรตพวกอติมานะคือชั้นบริสุทธิ์วิเศษวิโสมีศีลตั้งหลายร้อยข้อไม่ผิดเลยแกทำได้ไหมล่ะ ฉันนี่หนึ่งบริสุทธิ์กว่าทุกคนโลกนี่ช่างสกปรก พวกนี้ก็พรหมล่ะ ยังพวกมีทุกอย่างแล้วไม่พอใจจ้องจะเอาตัวเองเปรียบเทียบกับคนอื่นคนที่มีมากกว่าหรือพอๆๆกันคอยแต่แย่งแย่งชิงดีจนไม่อาจจะมีความสุขกับสิ่งที่ตัวเองมีได้ พวกนี้ก็อสูรล่ะ

และสุดท้ายคือพวกที่แสวงหาดิ้นรนเพื่อที่จะพัฒนาตัวเองให้ประเสรฺฐยิ่งๆๆขึ้นไปจนกระทั้งเป็นพระอริยะเจ้า เป็นพระปัจเจก เป็นพระสัมมาสัมพุทธะ พวกนี้ก็คือมนุษย์

ดังนั้นพวกเอ็งก็อย่าเพียงแต่มองหาภพทั้งหกเหล่านี้หลังตายลงโลงไปให้มองหาที่ตรงนี้เดี๋ยวนี้สำรวจจิตสำรวจใจเราให้เห็นด้วยนะไอ้หนุ่มกับอีหนูลุงจักบอกให้ ก็จะเกิดประโยชน์สูงสุด เหมือนคนโบราณท่านสอนว่านรกสวรรค์นะไม่ต้องไปหาไกลหรอกมันอยู่ในใจ(นรกอยู่ในอกสวรรค์อยู่ในใจเรา) นี่แหละ ลูกเอ๋ยหลานเอ๋ย คนโบราณท่านลึกซึ้งนัก อย่างเงินพกด้วง ที่ท่านทำเป็นรูปเหมือนวงกลมคือท่านหมายแทนสังสารวัฏคือตราบใดที่ยังโลภในวัตถุเงินทอง ก็ยังต้องวงเวียนในสังสารวัฏต่อไป นี่ท่านฉลาดมาก เดี๋ยวนี้คนสมัยนี้ไม่เข้าใจแล้ว

 

คนเราถ้าคิดจริงๆ พิจารณาจริงๆ เข้าถึงจริงๆ ลองเอา เกิด แก่ เจ็บ ตาย มาพิจารณาทีละข้อสิ
เกิด บางคนก็ไม่ได้เกิดตายอยู่ในท้องเลย
แก่ บางคนก็ไม่ได้แก่ก็ตายเลย
เจ็บ บางคนก็ไม่ทันได้เจ็บเพราะตายในท้องเลย
ตาย ทุกคนต้องตาย นั่นเป็นสัจธรรม
เพราะฉะนั้น เวลาทำบุญหรือทำดีของคนเรามีเวลาทำทุกลมหายใจ และไม่ว่าศาสนาใดก็สอนคนเป็นคนดี พิจารณาตามความเป็นจริง ไม่รู้ต้องศึกษา ไม่แน่ใจก็ต้องศึกษา ดังที่พระพุทธเจ้ากล่าวว่า สนฺทิฏฺฐิโก (อันผู้ปฏิบัติจะพึงเห็นชัดด้วยตนเอง คือ ผู้ใดปฏิบัติ ผู้ใดบรรลุ ผู้นั้นย่อมเห็นประจักษ์ด้วยตนเองไม่ต้องเชื่อตามคำของผู้อื่น ผู้ใดไม่ปฏิบัติ ไม่บรรลุ ผู้อื่นจะบอกก็เห็นไม่ได้ )สุดท้ายขอให้ทุกศาสนาจงเจริญรุ่งเรือง เพราะท่านสอนให้เป็นคนดีทั้งนั้น สาธุ

 

เอาเฉพาะเหตุผลที่พิสูจน์ได้ก็พอครับ
ทาน ให้มากๆ มีกรุณามาก มีแต่คนเผื่อแผ่แบ่งปันต่อกัน ไม่มีอดอยาก
ศีล รักษาดี ไม่เบียดเบียน เมตตามาก มีแต่คนรัก สัตว์ก็รัก โพยภัยไม่ค่อยเกิด
ภาวนา ให้ดี จิตมีสุข ไร้ทุกข์ที่ยึดมั่น ไร้ทุกข์หมดโศกเบาโรคเบาภัย เกิดสติมีปัญญา เคยมักโกรธก็เบา เคยซึมเศร้าก็หาย จิตใจแจ่มใสร่างกายแข็งแรง

ทั้งสามอย่างนี้ รวมเรียกกันว่า "ความดี" มีอยู่จริง ทำแล้วเห็นผลได้ด้วยตนเองงงงงงงงง

 

สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจครับ
ถามเพื่อนสิ โกหก แล้วสบายใจใหม ต้องระแวงกลัวเขารู้
ผิดลูกผิดเมีเขาสะบายใจใหม ทำผิดลักขโมยเขาสะบายใจใหม
ถ้าเขาบอกว่าสะบายใจ
ก็ปล่อยเขาไปเถอะครับเพราะเขาไม่รับความจริง โกหกแม้กระทั่งตัวเอง
ส่วนว่าไม่เคยเห็นนรกสวรรค์เลยไม่เชื่อก็ถูกของเขาอยู่(ในแบบของเขา)
แมลงวันตอมขี้ จะให้ไปตอมดอกไม้เป็นไปไม่ได้ ยังไงขี้ก็ยังเป็นของหอมสำหรับแมลงวันอยู่ดี ศิลเป็นของหอมสำหรับคนดี เช่นกันความชั่วก็เป็นของหอมสำหรับหมู่คนพาลเช่นกัน
สวรรค์กับนรกไม่ต้องรอตายหรอกคับค่อยเจอเจอกันตอนเป็นๆนี่ละทุกข์ใจก็ตกนรกสุขใจก็ขึ้นสสวรรค์ ถึงได้บอกว่า สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ ไม่ต้องมองหาให้เหนื่อยจนตายเปล่า มองที่ใจเราเองครับ

 

นรก และ สวรรค์ มีอยู่จริง
นรก ข้าพเจ้า เคยเห็น ไม่น้อยกว่า ๔ ครั้ง ครั้งหลังสุด เป็นวันครบรอบร้อยวันการเสียชีวิตของ พ่อตาข้าพเจ้าเอง เมื่อประมาณเดือน สิงหาคม หรือ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๖ ที่ผ่านมา ข้าพเจ้าได้ อุทิศส่วนกุศล ด้วยการกรวดน้ำ ณ.ที่พ่อตาเคยนั่งอยู่เป็นประจำ ข้าพเจ้ามองเห็น สิ่งมีชีวิต คล้ายมนุษย์ใส่ผ้านุ่งสีแดง เฉพาะช่วงล่างเห็นได้อย่างชัดเจน และเห็นพ่อตาซึ่งนั่งอยู่ข้างซ้ายของสิ่งมีชีวิตนั้นยิ้มให้กับข้าพเจ้า และหน้าตาของสิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์นั้น ก็ยิ้มแย้ม ไม่น่ากลัว เบื้องหลังไกลออกไป ไม่มากนัก มองเห็นไม่ค่อยชัด ดูเหมือนจะคล้าย เป็นที่อยู่ของผู้คนหลายคน และมีสิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์ นุ่งผ้านุ่งสีแดงเฉพาะช่วงล่างอีกหลายคน กำลังยืนอยู่ แต่มองเห็นไม่ค่อยชัดเจนนักว่ากำลังทำอะไรกันอยู่
สวรรค์ ถ้าหาก ทุกคนมีความเข้าใจว่า คือดินแดนที่อยู่นอกเหนือโลกไป ย่อมมีหลายแห่ง ตั้งแต่ ขอบฟ้า ดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์ ล้วนเป็นสวรรค์ ชั้นต่างๆทั้งสิ้น ขอรับ

 

1) ท่านว่า ไม่เชื่อก็โง่เหมือนกัน เพราะว่าคนตาดีท่านทราบว่ามี
ส่วนเรายังเพิ่งศึกษาเหมือนคนตาบอด ก็ต้องอ่านหาข้อมูลและพิจารณาไปเรื่อยๆ ก่อน
(เพราะฉะนั้นเราจะมุสาได้งัย เรายกเรื่องมาเล่า ยกตำรามาอ้าง)

2) อีกอย่างถ้าบอกว่า เฮโรอีนไม่ดี แบบนี้ต้องลองด้วยตัวเองเหรอจึงจะเชื่อ

3) นักวิทยาศาสตร์ยุคแรกๆ ไม่มีใครเคยเห็นอะตอมมาก่อน แต่เค้าสร้างระเบิดอะตอมได้(นิวเคลียร)
ไม่เห็นมีใครว่าต้องเห็นจับต้องได้ก่อนเลย

4) เรื่องการถือศีลเป็นเรื่องบังคับกันไม่ได้ การบังคับให้ถือศีล แทนที่จะเป็นบุญแต่กลับกลายเป็นบาปแทน ..
ดังนั้นเราชวนแล้วเค้าไม่สนใจก็ต้องปล่อยวาง

5) พี่เคยเจอหนักว่าน้องอีก ญาติพี่บอกว่า รู้ได้งัยว่าพระพุทธเจ้ามีจริง
เค้าไม่ได้แต่งเรื่องขึ้นมาให้เราอ่านง่ายเหรอ? มีหลักฐานมั้ย? .. หนักว่ามั้ยคำถามนี้

6) ไม่ต้องเสียใจที่ตอบเพื่อนไม่ได้ .. ท่านว่าหลังจากหมดยุคศาสนาแล้ว
คนจะฉลาดแบบเพื่อนน้องกันทั้งนั้น เค้าเรียกว่าปัญญามิจฉาทิฏฐิ
ในพระไตรปิฎกก็มีอยู่เรื่องพระนารทพรหม ลองหาอ่านดูครับ
มันไม่ใช่เรื่องไกล ท่านว่าตอนนั้นคำว่าบุญบาปจะไม่มีในหัวใจสัตว์

 

เชื่อในสิ่งที่จะเกิดในชาตินี้ก่อนดีกว่า

แต่สำหรับเราเชื่อ เพราะเป็นร่างทรงเอง จะบอกว่าไม่มีก็ไม่ได้เพราะเห็นเอง

 

คนไม่เคยเห็น ไม่เชื่อเป็นเรื่องธรรมดาคับ ผมก็ไม่เคยเห็น ยังไม่ค่อยจะเชื่อเลยเพราะมันพิสูจน์ไม่ได้ด้วยตาเปล่า
แต่ท่านอธิบายดีมาก ทำให้ผมได้ เข้าใจในสิ่งที่สงสัย สิ่งที่รู้ แต่ไม่เห็นก็อาจจะจริง สิ่งที่ไม่เคยรู้มาก่อน ก็อาจจะโผล่ให้เห็นก็ได้ มีอีกเป็น 100ล้านเรื่องที่ยังไม่ถูกค้นพบ เหมือนคนสมัยยุคแรกเลย จะรู้ไหมว่า จะมีเครื่องบิน และตอนนี้เราก็อาจจะกลายเป็นคนสมัยเก่า ในอีก 1ล้านปีข้างหน้า อาจจะเป็นยุค ที่ สร้างเครื่องหายตัวได้ ก็ได้ 555