เรื่องเด่น ท่องเที่ยวทางพุทธศาสนาในจีนบูม

อังคารวันนี้เป็นวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 เป็นวันที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนาธัมมจักกัปปวัตนสูตร โปรดปัญจวัคคีย์ พระโกณฑัญญะ พระวัปปะ พระภัททิยะ พระมหานามะ และพระอัสสชิ ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน เมืองพาราณสี แคว้นมคธ จนพระอัญญาโกณฑัญญะได้บรรลุธรรมและขอบวชเป็นพระภิกษุรูปแรกในพระพุทธศาสนา จึงถือว่าวันนี้มีพระรัตนตรัยครบองค์สามบริบูรณ์ครั้งแรกในโลก คือ พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนพุทธศักราช 45 ปี หรือกว่า 2,600 ปีที่แล้ว


เมื่อมีการปฏิวัติวัฒนธรรมครั้งใหญ่ของชนชั้นกรรมาชีพ ระหว่าง พ.ศ. 2509-2519 มีการทำลายพันธะเก่าหรือสี่เก่า คือ ประเพณีเก่า วัฒนธรรมเก่า ความคิดเก่า และนิสัยเก่า เพื่อสร้างประสบการณ์การปฏิวัติให้แก่เยาวชน โดยมีเรดการ์ดหรือผู้พิทักษ์แดงเป็นผู้ดำเนินการปฏิวัติ ในช่วงการปฏิวัติวัฒนธรรมมีการทำลายสถานที่ทางศาสนาอย่างรุนแรง

แต่โชคดีที่บางแห่งยังหลุดรอดจากการถูกทำลายและกลายเป็นสถานที่ที่ให้ผู้คนเข้าไปท่องเที่ยวหรือปฏิบัติธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจีนภาคเหนือ ที่กำลังฮิตติดอันดับในขณะนี้คือ อดีตเมืองหลวงของราชวงศ์เว่ย์เหนือที่มีชื่อว่าต้าถง เป็นดินแดนที่มีคนตั้งถิ่นฐานมานานกว่า 4 พันปี และเคยเป็นศูนย์กลางความเจริญของพระพุทธศาสนานิกายมหายานในจีน

ต้าถงมีพื้นที่ 2,000 ตารางกิโลเมตร ใหญ่เท่ากับบางจังหวัดของประเทศไทย เป็นพื้นที่ที่มีภูเขาล้อมรอบและอยู่สูงกว่าระดับ ทะเลปานกลางถึง 1,000 เมตร เดี๋ยวนี้ ต้าถงกลายเป็นแหล่งศึกษาพระพุทธศาสนาที่สำคัญของจีน ท่านใดที่ชอบอ่านหนังสือเก่าๆ ต้าถงก็คือเมืองผิงเฉิง ท่านใดที่ชอบอ่านวรรณกรรมสามก๊ก ในสามก๊ก ก็ยังเรียกต้าถงว่าผิงเฉิงอยู่ เพิ่งมาเปลี่ยนเรียกเมืองต้าถงเมื่อ 971 ปีที่แล้วนี่เองครับ ตอนนั้น จักรพรรดิจังซีแห่งราชวงศ์เหลียวเป็นผู้สั่งให้เปลี่ยน ในวรรณกรรมเก่าๆ บางครั้งก็เรียกต้าถงว่าซีจิง

สมัยก่อนตอนโน้น พวกเผ่าเร่ร่อนยังนับถือมดถ่อหมอผี นับถือพิธีกรรมและไสยศาสตร์ พวกนี้ตีเมืองต่างๆมาเรื่อยๆ เมื่อมาพบพระสงฆ์ในพุทธศาสนาที่มีหลักการสูงกว่า มีพระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่น่าศรัทธากว่าความเชื่อโง่งมงายแบบเดิม หัวหน้าเผ่าเร่ร่อนเหล่านี้จึงเข้ามายอมรับนับถือศาสนาพุทธและประกาศตนเป็นพุทธศาสนิกชน


พระพุทธศาสนานิกายมหายานเผยแผ่เข้ามาในจีนภาคเหนือตามเส้นทางสายไหม หลักธรรมทางพุทธศาสนาทำให้การปกครองจีนภาคเหนือเป็นไปด้วยความราบรื่นและมีหลักศาสนาประกอบการปกครอง ตอนที่พวกหัวหน้าเผ่าเข้ามาตีเมืองทางแถบนี้ได้ ที่ปรึกษาชาวจีนที่หันมาเข้ากับพวกชนเผ่าเร่ร่อนแนะนำให้พวกหัวหน้าเผ่าเหล่านี้นับถือลัทธิขงจื๊อ แต่หัวหน้าเผ่าส่วนใหญ่ปฏิเสธ เพราะมีความศรัทธาในหลักการพระพุทธศาสนามากกว่า

ถ้าผู้อ่านท่านที่เคารพเดินทางไปในเมืองต้าถงก็จะพบวัด เจดีย์ พระพุทธรูป และพุทธศาสนวัตถุอื่นๆ เป็นจำนวนมาก ที่เป็นเช่นนี้เพราะในสมัยที่ต้าถงเป็นเมืองหลวงของราชวงศ์เว่ย์เหนือ กษัตริย์ในราชวงศ์นี้มีศรัทธาในพระพุทธศาสนามากถึงขนาดประกาศให้พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำจักรวรรดิ ผู้คนในสมัยนั้นนิยมสร้างวัด เจดีย์ พระพุทธรูป ฯลฯ

โชคดีที่การปฏิวัติวัฒนธรรมครั้งใหญ่ของชนชั้นกรรมาชีพไม่ว่าจะเป็นระยะที่ 1 (พฤษภาคม 2509-เมษายน 2512) ระยะที่ 2 (เมษายน 2512-สิงหาคม 2516) และระยะที่ 3 (สิงหาคม 2516-ตุลาคม 2519) ก็ยังไม่ทำลายเมืองต้าถงได้

คนจีนในยุคปัจจุบันและพวกคนจีนโพ้นทะเลจึงแห่กันไปเยือนวัดถ้ำหยุนกัง เชิงเขาอู่โจว พระสงฆ์ ศิลปิน และชาวต่างชาติร่วมกันเจาะภูเขาสร้างถ้ำและแกะสลักพระพุทธรูปมากถึง 53 ถ้ำ ใช้เวลาสร้างนานถึง 34 ปี เมื่อรวมกับถ้ำอื่นๆแล้วที่วัดถ้ำหยุนกังมีถ้ำน้อยใหญ่มากถึง 252 ถ้ำ มีพระพุทธรูปเก่าแก่ประดิษฐานตามถ้ำต่างๆ มากถึง 51,000 องค์ และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมเมื่อ พ.ศ.2544

เขียนยังไม่ทันจบ หมดพื้นที่ซะแล้ว มาต่อกันพรุ่งนี้ครับ.

นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com


อ่านเพิ่มเติม…

ขอขอบคุณที่มา
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1615306