ติดตามสถานะการณ์

แบ่งปันจาก Thailand Vision

หลังจากที่รัฐบาลเกาลีใต้ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ให้ผับ บาร์สามารถเปิดให้บริการได้ ตามมาตรการการใช้ชีวิตประจำวันใหม่ ซึ่งผ่อนปรนเว้นระยะห่าง ไม่เข้มงวดเหมือนเช่นเดิม เนื่องจากเริ่มพบผู้ติดเชื้อน้อยลงอย่างต่อเนื่อง
.
แต่ล่าสุดนาย ปาร์ก วอน-ซูน นายกเทศมนตรีกรุงโซล ของเกาหลีใต้ แถลงสั้นๆว่า มีความจำเป็นต้องปิดไนท์คลับและบาร์ทั้งหมดในกรุงโซล ซึ่งคำสั่งมีผลบังคับใช้ในทันที และปิดโดยไม่มีกำหนด จนกว่าจะมีประกาศแจ้งต่อไป
.
สาเหตุที่ต้องมีคำสั่งดังกล่าวนั่นก็เพราะ มีรายงานจากศูนย์ควบคุม และป้องกันโรคของเกาหลีใต้ หรือ KCDC ยืนยันในวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 14 คนในวันนี้ โดยทั้งหมด มีความเกี่ยวข้องกับผู้ป่วย 1 คน ซึ่งเคยไปเยือนที่คลับ หรือบาร์ ในย่านอิแทวอน ย่านท่องเที่ยวขึ้นชื่อของกรุงโซล เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยในจำนวนนี้มีชาวต่างชาติ 3 คน และเป็นทหารอีก 1 นาย
.
โดยทาง KCDC ระบุว่า มีผู้ป่วยวัย 29 ปี คนหนึ่ง ที่น่าจะเป็นผู้แพร่เชื้อในครั้งนี้ โดยผู้ป่วยคนดังกล่าว ได้ไปเที่ยวที่คลับ และบาร์ในย่านอิแทวอน ถึง 5 แห่ง ตั้งแต่คืนวันศุกร์ ต่อเนื่องจนถึงช่วงเช้ามืดวันเสาร์ที่แล้ว จากนั้นเมื่อช่วงเช้าวันพุธ ชายคนนี้มีอาการป่วย และผลตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19
.
โดยผู้ป่วยรายใหม่ 12 จาก 13 คน พบว่าได้ไปยังคลับที่ผู้ป่วยรายนี้เดินทางไป ทำให้เป็นที่กังวลว่า คลับในย่านอิแทวอน จะกลายเป็นคลัสเตอร์ หรือศูนย์กลางการระบาดแห่งใหม่ เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าวพบว่ามีนักท่องเที่ยวในสถานที่เหล่านี้มากกว่า 1,510 คน
.
ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แถลงในวันนี้ แสดงความเป็นกังวลว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้ออาจสูงขึ้นอีก ขณะที่ทางการกรุงโซลระบุว่า จะเร่งทำการติดตามหาประชาชนที่ไปยังคลับทั้งหมด โดยจะตรวจสอบจากกล้อง CCTV และ การใช้งานบัตรเครดิต
.
ขณะที่ KCDC ได้ออกมาเรียกร้องให้ประชาชนที่ไปเยือนคลับดังกล่าว จงแยกกักตัว และรีบรายงานเจ้าหน้าที่ทันทีหากมีอาการของโควิด-19 โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ไปเยือน “คิง คลับ ช่วง 00.00-03.30 น. ทรังค์ คลับ จาก 01.00-01.40 น. และ คลับควีน จาก 03.30-03.50 น. ให้กักตัวเองอยู่ที่บ้านทันที ซึ่งการติดเชื้อเพิ่มขึ้นในครั้งนี้ สร้างความตื่นตัวให้กับชาวเกาหลีใต้อีกครั้ง

-------------------------------
แหล่งที่มา

https://www.channelnewsasia.com/new...vid-19-patient-club-hopping-in-seoul-12714074

https://www.wionews.com/world/south-korea-closes-bars-and-clubs-fears-second-wave-of-covid-19-297461

https://www.tnnthailand.com/content/39432
-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision

 

แบ่งปันจาก Thailand Vision

เอเอฟพี และรอยเตอร์รายงานว่า เวเนซุเอลาจับกุมทหารรับจ้างชาวอเมริกัน 2 คนนี้ได้เมื่อวันจันทร์ที่ 4 พฤษภาคม พร้อมกับพวกอีก 11 คน ที่รัฐบาลเวเนซุเอลากล่าวว่า มีแผนการโค่นล้มประธานาธิบดีนิโกลัส มาดูโร แต่แผนดังกล่าวซึ่งมีการประสานงานกับรัฐบาลสหรัฐฯ ถูกขัดขวางไว้ได้ โดยสมาชิกในกลุ่มนี้ถูกสังหารไป 8 คนเมื่อหนึ่งวันก่อนหน้านั้น และถูกจับกุมไว้ได้ 2 คน
.
โดยประธานาธิบดีมาดูโรเคยแถลงเมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา พร้อมกับนำหนังสือเดินทางของทั้งคู่มาแสดงเพื่อระบุตัวตนว่า รายหนึ่งคือ ลุค เดนแมน อายุ 34 ปี อีกรายคือ ไอราน เบอร์รี อายุ 41 ปี ต่อมากองทัพสหรัฐยืนยันว่าทั้งคู่เคยเป็นทหารหน่วยรบพิเศษกรีนเบเรต์ที่ปฏิบัติหน้าที่ในอิรัก
.
เมื่อวันพุธที่ 6 พฤษภาคม สถานีโทรทัศน์ของทางการเวเนซุเอลาเผยแพร่วิดีโอที่เดนแมนรับสารภาพว่า เขาได้รับว่าจ้างจากบริษัท ซิลเวอร์คอร์ป ยูเอสเอ ซึ่งได้ลงนามสัญญาจ้างกับฮวน ไกวโด ผู้นำฝ่ายค้านเวเนซุเอลาที่สหรัฐฯ หนุนหลัง เพื่อโค่นมาดูโรลงจากอำนาจ ไม่ชัดเจนว่าวิดีโอนี้ถ่ายเมื่อใด และชาวอเมริกันคู่นี้ถูกคุมขังไว้ที่ใด
.
ระหว่างการตอบคำถามจากบุคคลคนหนึ่งที่ไม่ได้อยู่ในกล้องซึ่งพูดคุยกับเขาเป็นภาษาอังกฤษ เดนแมนกล่าวว่า ภารกิจของเขาคือการยึดสนามบินการากัส และจัดตั้งแนวรักษาความปลอดภัยรอบนอก แต่เขาไม่เผยรายละเอียดว่ากลุ่มของเขาวางแผนจะจับตัวมาดูโรมาขึ้นเครื่องบินได้อย่างไร
.
โดยเมื่อเดือนมีนาคม กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ได้ตั้งข้อหามาดูโร และเจ้าหน้าที่เวเนซุเอลาในอดีต และที่ยังดำรงตำแหน่ง ฐานก่อการร้ายค้ายาเสพติด โดยรัฐบาลของของทรัมป์ ตั้งรางวัลนำจับเข้าไว้ 15 ล้านดอลลาร์ "ผมกำลังช่วยให้ชาวเวเนซุเอลากลับมาควบคุมประเทศของพวกเขาได้อีกครั้ง" เดนแมนกล่าวในวิดีโอ
.
โดยเขากล่าวว่า ตัวเขา และเบอร์รีได้รับว่าจ้างจากจอร์แดน กูโดร ทหารผ่านศึกที่ก่อตั้งบริษัท ซิลเวอร์คอร์ป ให้ช่วยฝึกชาวเวเนซุเอลา 50-60 คนในโคลอมเบียเมื่อเดือนมกราคม เพื่อปฏิบัติการนี้ โดยกูโดรเป็นผู้จัดหายุทธภัณฑ์ให้พวกเขา ด้านกูโดรให้สัมภาษณ์สื่อสหรัฐฯ เมื่อวันอาทิตย์ ยืนยันบทบาทของเขาในปฏิบัติการดังกล่าว เขายอมรับกับรอยเตอร์เมื่อวันจันทร์ด้วยว่า เดนแมน และเบอร์รีเป็นคนของเขา
.
ล่าสุดมาดูโรแถลงข่าวทางโทรทัศน์อีกครั้งเมื่อวันพุธ ยืนยันว่าอดีตทหารอเมริกัน 2 คนนี้เป็นผู้ร้ายถูกจับได้คาหนังคาเขา พวกเขาสารภาพผิดแล้ว และกำลังถูกดำเนินคดีโดยศาลเวเนซุเอลา โดยเขารับประกันว่ากระบวนการพิจารณาคดีจะยุติธรรม ทางการเวเนซุเอลายังต้องการให้สหรัฐส่งตัวกูโดรเป็นผู้ร้ายข้ามแดนด้วย และยังระบุว่า ประธานาธิบดีทรัมป์คือหัวหน้าใหญ่ของการบุกรุกครั้งนี้

ฝั่งโดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาปฏิเสธเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ว่าเขาไม่รู้เรื่องเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลของเขา และอ้างด้วยว่าคำกล่าวหาของมาดูโรไม่น่าเชื่อถือ เป็นการรณรงค์บิดเบือนข้อมูล จากนั้นไม่นาน ไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ออกมาบอกว่า รัฐบาลสหรัฐฯ จะใช้เครื่องมือทุกอย่างที่มีเพื่อนำคนอเมริกันคู่นี้กลับประเทศให้ได้ ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศของรัสเซียแถลงว่า คำปฏิเสธของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ว่าสหรัฐไม่เกี่ยวข้องกับทหารรับจ้างเหล่านี้ นั้นไม่น่าเชื่อถือเอาเสียเลย
.
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เวเนซุเอลาแถลงว่าสามารถสกัดทีมทหารอเมริกันรับจ้างที่ Chuao เมืองริมทะเลที่อยู่ห่างไกล ราว 60 กิโลเมตรทางตะวันตกของสนามบินกรุงคาราคัส ได้สำเร็จหลังได้รับแจ้งเบาะแสจากคนในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่เวเนซุเอลาได้ลงภาพถ่ายรูปเรือสปีดโบต พร้อมกับยุทโธปกรณ์ ปืนกล ปืนไรเฟิลทางทหาร พร้อมกระสุน และอุปกรณ์สื่อสาร
.
เดลีเมล์รายงานเพิ่มเติมว่า ในระหว่างการสารภาพ เดนแมนได้ถือเอกสารที่เขากล่าวว่า เป็นสัญญาว่าจ้างกับบริษัทซิลเวอร์คอร์ป ยูเอสเอของกูโดร และได้แสดงถึงหน้าที่ในปฏิบัติการที่ตัวเขารับผิดชอบ นอกจากนี้ เดนแมนย้ำว่าข้อตกลงว่าจ้างนี้ถูกลงนามโดยกูโดร และผู้นำฝ่ายค้านเวเนซุเอลา กวยโด และที่ปรึกษาของเขานั่นก็คือนายเรนดอน

-------------------------------
แหล่งที่มา

https://www.dailymail.co.uk/news/ar...ostage-Airan-Berry-paraded-Venezuelan-TV.html

https://www.businessinsider.com/ven...airan-berry-nicolas-maduro-kidnap-plot-2020-5

https://www.cbsnews.com/news/venezuela-coup-plot-alleged-invasion-nicolas-maduro-trial/

https://www.thaipost.net/main/detail/65324

https://mgronline.com/around/detail/9630000047807

-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision

 

แบ่งปันจาก Thailand Vision

มีเรื่องให้ได้พูดถึงกันทุกวัน สำหรับสหรัฐฯ เกี่ยวกับประเด็นสถานการณ์โควิด-19 ล่าสุดกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เปิดเผยว่า จีน - รัสเซีย รวมหัวปล่อยข่าวออนไลน์ เพื่อชวนเชื่อประชาชนของตนเอง และปกป้องการเข้าถึงข้อเท็จจริงแพร่ระบาดโควิด-19
.
โดยนางลี แกเบรียล ผู้ประสานงานศูนย์ Global Engagement Center อยู่ภายใต้กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ก่อนหน้าที่จะเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 นั้น ประเมินว่า จีนกับรัสเซียมีความร่วมมือกันเรื่องการโฆษณาชวนเชื่อในระดับหนึ่ง แต่ขณะนี้จะเห็นว่า ทั้งสองประเทศได้เร่งรัดกระชับความร่วมมือในเรื่องดังกล่าวให้ใกล้ชิดกันมากขึ้น ซึ่งก็ไม่แปลกใจ เพราะเป็นวิถีปฏิบัติของทั้ง 2 ประเทศ ที่ได้พยายามสร้างความเข้าใจในเรื่องการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ต่อสาธารณชนในประเทศตนเอง
.
นางแกเบรียลกล่าวว่า จีนได้กระจายข่าวทางออนไลน์จำนวนมาก หวังปกป้องการเข้าถึงข้อเท็จจริง พร้อมๆกับการรับมือกับโรคระบาดครั้งนี้ นี่เป็นการนำวิธีที่รัสเซียใช้มานานมาปรับใช้มากขึ้น พร้อมชี้ว่า บัญชีทวิตเตอร์ทางการทูตของจีนมีผู้ติดตามเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เดิมวันละ 30 ราย ตอนนี้เพิ่มมากขึ้นกว่า 720 ราย และส่วนใหญ่เป็นบัญชีใหม่ เกิดจากการใช้เครือข่ายบอตหรือโปรแกรมอัตโนมัติขยายความข้อความของจีน
.
อย่างไรก็ตาม นางแกเบรียล กล่าวด้วยว่า จีนเริ่มใช้วิธีออนไลน์แบบนี้ เพื่อความแตกแยกทางการเมืองในฮ่องกงอีกด้วย จนเกิดการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายเป็นฝ่ายสนับสนุนประชาธิปไตยและฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลจีน
.
ด้านนายชุย เทียนไข่ เอกอัครราชทูตจีนประจำสหรัฐฯ เขียนบทความลงในหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ของสหรัฐฯ เมื่อไม่นานมานี้ โดยตำหนิผู้ที่พยายามตราหน้าข้อเท็จจริงว่าเป็นข้อมูลบิดเบือน และการโฆษณาชวนเชื่อ พร้อมกล่าวว่า เบื้องหลังของการกล่าวโทษจีนคือการเมืองสกปรกของคนกลุ่มหนึ่งที่เบี่ยงเบนประเด็นเพื่อประโยชน์ทางการเมือง
.
ขณะที่สำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียเรื่องความร่วมมือในการรับมือกับโควิด-19 ระบาด โดยผู้นำรัสเซียกล่าวว่า รัสเซียไม่เห็นด้วยกับบางกลุ่มที่พยายามนำเรื่องการระบาดมาเป็นข้ออ้างเพื่อกล่าวโทษจีน และจะอยู่เคียงข้างจีนอย่างหนักแน่น

-------------------------------
แหล่งที่มา

https://www.news18.com/news/world/u...s-spreading-lies-on-social-media-2612313.html

https://www.usnews.com/news/world-r...-spread-coronavirus-disinformation-on-twitter

https://www.mcot.net/viewtna/5eb622aee3f8e40af9440ce9

https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/879760
-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision

 

แบ่งปันจาก กระแสเอเชียใต้ - South Asian News

เมื่อจีนสอดมือเข้าไปในการเมืองเนปาล
.
หายกันไปนานเลย เพราะช่วงนี้ผมยุ่ง ๆ กับการเรียนของตัวเองเลยไม่ค่อยได้มีเวลามาเขียนเพจสักเท่าไหร่ พอดีพึ่งเขียนงานเสร็จเลยถือโอกาสมาเขียนอะไรสักเล็กน้อยก่อนกลับไปยุ่งต่อ 555
.
วันนี้ผมขอมาเล่าเรื่องการเมืองในเนปาลสักหน่อยซึ่งตอนนี้ค่อนข้างร้อนแรงมาก ๆ (หลายคนอาจจะไม่รู้ ผมเองก็มารู้หลังวันก่อนคุยกับเพื่อน) ถามว่าแรงขนาดไหน ก็แรงขนาดที่ว่าเขาจะเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีกันเลยทีเดียวครับ
.
คือช่วงนี้การเมืองในเนปาลค่อนข้างจะขาดเสถียรภาพเพราะเกิดปัญหาวุ่น ๆ ภายในพรรคคอมมิวนิสต์เนปาลซึ่งเป็นพรรครัฐบาลในปัจจุบันนั่นเอง
.
ต้องบอกอย่างนี้ครับว่า เนปาลปกครองด้วยระบบประชาธิปไตยและมีการเลือกตั้ง แต่ว่าเขาเปิดโอกาสให้พรรคการเมืองหลากหลายไม่ว่าจะมีอุดมการณ์หรือแนวคิดแบบไหนก็ตาม
.
ซึ่งการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาพรรคคอมมิวนิสต์เนปาลประสบชัยชนะในการเลือกตั้ง เอาจริง ๆ พรรคการเมืองนี้มีฐานมวลชนที่ค่อนข้างเข้มแข็ง และเป็นหัวหอกสำคัญในการปฏิรูปการเมืองเนปาล (รวมการล้มระบอบกษัตริย์ด้วย)
.
แต่ปัญหาความวุ่นวายของพรรคคอมมิวนิสต์เนปาลนั้น จริง ๆ เป็นปัญหามาระยะหนึ่งครับ เพราะว่าพรรคนี้มันมาจากการรวมกันของพรรคการเมืองฝ่ายซ้าย 2 สายด้วยกัน คือพรรคคอมมิวนิสต์สายมาร์กซิส-เลนินนิส กับพรรคคอมมิวนิสต์สายเหมาอิส
.
แม้ว่าพรรคการเมืองทั้งสองจะมีความคิดแบบซ้ายเหมือนกัน แต่แนวทางทางการเมืองและอุดมคติทางด้านการพัฒนานั้นต่างกันอย่างชัดเจน แต่เพื่อให้การเมืองมีเสถียรภาพและฝ่ายซ้ายเป็นรัฐบาลมั่นคงในสภา ทั้ง 2 พรรคเลยตัดสินใจรวมกัน
.
แน่นอนพอรวมพรรคแบบนี้ก็เหมือนเอาเสือที่ต่างก็ใหญ่ทั้งคู่มาอยู่ด้วย กัน เมื่อรักหวานซึ้งมันย่อมไม่มีปัญหา การคัดเลือกนายกรัฐมนตรีจึงตกไปอยู่ในมือของนายกรัฐมนตรีเค พี โอรี่ ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคคอมมิวนิสต์เนปาลคนปัจจุบัน และเป็นอดีตหัวหน้าพรรคคอมมิวนิสต์สายมาร์กซิส-เลนินนิส
.
อย่างไรก็ตามตลอดช่วงการบริหาร 3 ปีที่ผ่านมาคนในพรรคคอมมิวนิสต์เนปาลเริ่มเห็นว่านายกรัฐมนตรีเค พี โอรี่ นั้นตีตัวออกห่างจากพรรค จริง ๆ ก็อาจจะเพราะแกหลงละเลยด้วยกระมัง เลยเกิดคลื่นใต้น้ำขึ้นมาในที่สุด
.
แน่นอนว่าคนก่อเรื่องไม่ใช่ใครที่ไหน คืออดีตนายกรัฐมนตรีเนปาลถึง2 คนด้วยกันคือนายพุชปา คามัล ดาหัล กับนายมาเดฟ กุมาร เนปาล ซึ่งคนแรกก็คืออดีตหัวหน้าพรรคคอมมิวนิสต์สายเหมาอิสนั่นเอง
.
โดย 2 คนนี้ยื่นคำขาดให้นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่งเพราะบริหารงานไม่มีประสิทธิภาพ ที่สำคัญคือตัดสินใจเองโดยไม่มีการปรึกษาพรรคเลย
.
ทำเอานายกรัฐมนตรีต้องออกมาบอกว่าจะลาออกอย่างแน่นอนหลังจบวิกฤตโควิด19 เพราะก็ป่วยอยู่แล้ว จึงอยากขอให้รอสักหน่อย ซึ่ง
.
แน่นอนครับที่ดีลออกมาจบสวยแบบนี้นั้นเพราะมีมือที่มองไม่เห็นทำงานอยู่ด้วยนั่นเอง โดยก่อนหน้าที่จะมีการจัดประชุมพรรคคอมมิวนิสต์เนปาลเมื่อเสาร์ที่แล้ว การประชุมครั้งนั้นเขาคาดกันว่าจะมีเซอร์ไพร์ใหญ่ คือนายกรัฐมนตรีหลุดจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค
.
แต่ผลออกมาไม่ใช่ เพราะก่อนการประชุม 2-3 วัน ทูตจีนประจำเนปาล คุณโฮ ยานชี ได้มีการเข้าหารือเป็นการส่วนตัวกับนายกรัฐมนตรีโอรี่ เกี่ยวกับปัญหาเสถียรภาพทางการเมืองที่เกิดขึ้น
.
หลังจากพูดคุยเสร็จเรียบร้อยแล้วเธอได้เดินทางไปพูดคุยกับผู้นำการเมืองของพรรคคอมมิวนิสต์เนปาลซึ่งพยายามจะโค่นนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันลงจากตำแหน่งในวันถัดมา
.
มีข้อมูลออกมาว่าในการพูดคุยครั้งนั้นทูตจีนได้มีการถกเถียงเกี่ยวกับปัญหาโควิด19 ปัญหาการเมืองภายในเนปาล รวมถึงความร่วมมือทางเศรษฐกิจของสองประเทศ
.
อย่างไรก็ตามการพูดคุยของทูตจีนกับ 2 ผู้นำในพรรคคอมมิวนิสต์เนปาลนั้นไม่มีความชัดเจน เนื่องจากเธอไม่ได้มีการแจ้งไปยังกระทรวงต่างประเทศเนปาล ทำให้ไม่มีการบันทึกการสนทนาดังกล่าว
.
ทั้งนี้ข้าราชการคนหนึ่งในกระทรวงต่างประเทศเนปาลออกมาระบุว่า "ตามหลักจรรยาบรรณทางการทูต เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศควรเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว แต่เราไม่ได้รับแจ้ง"
.
ทั้งนี้สถานทูตจีนประจำเนปาลระบุว่าการพูดคุยดังกล่าวเป็นงานสื่อสารปกติเท่านั้น
.
อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์มองว่าการพบปะครั้งนี้ของทูตจีนดูเหมือนจะสะท้อนความกังวลในเสถียรภาพการเมืองของรัฐบาลจีน ยิ่งไปกว่านั้นการกระทำเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความพยายามยื่นมือเข้าไปในการเมืองเนปาลด้วย
.
เพราะอย่างไรเสียจีนก็ย่อมอยากให้พรรคฝ่ายซ้ายปกครองเนปาลต่อไป ซึ่งจะยังผลประโยชน์เชิงบวกต่อโครงการลงทุนและพัฒนาทั้งหลายที่จีนกำลังดำเนินการในเนปาล
.
#กระแสเอเชียใต้ #เนปาล #จีน #การเมือง #ความขัดแย้ง #ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

 

John Traczyk

ลูกไฟอุกกาบาตที่มีอากาศกระจายตัว เหนือประเทศบราซิล 8 พฤษภาคม 2020

เช้าวันที่ 8 พฤษภาคมมีรายงานว่ามีแสงวาบขนาดใหญ่ตามมาด้วยเสียงระเบิดดังจากภาคพื้นของ Patos de Minas ทางตะวันตกของ Minas Gerais ประเทศบราซิล

วิดีโอวิดีโอเครือข่ายการสังเกตการณ์ Bramon ของบราซิล:

Meteor fireball with aerial burst over Brazil. May 8. 2020.

The morning of May 8, several reports of a great flash followed by a strong explosion noise coming from the region of Patos de Minas, west of Minas Gerais, Brazil.

Bramon - Brazilian Meteor Observation Network Video footage:

 

John Traczyk


นี่คือประวัติการณ์ในอดีต กรุณาตื่นขึ้น
ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานถึง 33 ล้านคน อัตราการว่างงานที่แท้จริงคือ 23-24%

This is historically unprecedented. Please wake up.
Jobless claims reaches 33 million. Real unemployment is 23-24%.

 

John Traczyk

นักฆ่า คลื่นความร้อนเกินขีด จำกัด ของมนุษย์ชนโลกมากกว่า 30 ปีข้างหน้าของการคาดการณ์ การวิเคราะห์เป็นครั้งแรกที่แสดงอุณหภูมิกระเปาะเปียกในบางสถานที่มีเกิน 35 C (95 F) ซึ่งมนุษย์ไม่สามารถควบคุมความร้อนในร่างกายได้อีกต่อไป

"พวกเขาถูกความร้อนแรงกล้าแผดเผาและพวกเขาแช่งด่าพระนามของพระเจ้าผู้ทรงควบคุมภัยพิบัติเหล่านี้ แต่พวกเขาไม่ยอมกลับใจสำนึกผิดและถวายพระเกียรติสิริแด่พระองค์" คัมภีร์ไบเบิล. วิวรณ์ 16: 9

Killer heatwaves beyond human limits hit Earth more than 30 years ahead of projections. The analysis is the first to show wet-bulb temperature in some places has already exceeded 35 C (95 F), at which people can no longer regulate body heat.

"And men were scorched with great heat, and blasphemed the name of God, which hath power over these plagues: and they repented not to give him glory." The Bible. Revelation 16:9.

 

John Traczyk

สมาคมการจัดการทรัพยากรมนุษย์พบว่ากว่าครึ่งของธุรกิจขนาดเล็กทั้งหมดในสหรัฐอเมริกาคาดว่าจะเลิกกิจการภายในหกเดือน

The Society for Human Resource Management found that over half of all small businesses in the U.S. expect to be out of business within six months.

 

พายุฝนถล่มพื้นที่รอยต่อ อ.สบปราบ-อ.เสริมงาม จ.ลำปาง ตั้งแต่เย็นถึงค่ำ ทำน้ำป่าไหลทะลักลงเขาล้นลำห้วยท่วม 5 หมู่บ้าน-เรือกสวนไร่นาชาวบ้านทันที เดชะบุญไม่มีคนเจ็บหรือเสียชีวิต

อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9630000048612
………………………………
● อีกช่องทางติดตาม NEWS1
Line : http://nav.cx/4tvbDJ8
Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

 

แบ่งปันจาก Oil Trading - ทันตลาดน้ำมันและเศรษฐกิจโลกกับ KP

#โอบามาทนไม่ไหวแล้ว ! ออกโรงต่อว่าทรัมป์ว่ารับมือการระบาดของไวรัสโควิดได้แย่ๆมากๆ และเขานั้นพร้อมจะช่วยหาเสียงให้ โจ ไบเดน อย่างเต็มที่เพราะ อเมริกาต้องการประธานาธิบดีที่ไม่แต่แก่ตัวเองเป็นหลัก !

เก้าอี้ประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ของทรัมป์นั้นอาจสั่นคลอนครั้งใหญ่ ⚠️

เพราะตอนนี้ไม่ได้เจอแค่ศึกนอกประเทศกับจีน แต่ศึกเลือกตั้งในประเทศก็กำลังเดือดสำหรับทรัมป์ เหลือเวลาในการหาเสียงอีกเพียง 5 เดือนเท่านั้นแต่สถานการณ์ต่างๆในประเทศยังไม่ดีขึ้นเลย อีกทั้งอดีตประธานธิบดีสหรัฐ 2 สมัยผู้มีคะแนนความนิยมสูงอย่างโอบามากำลังจะออกโรงมาสนับสนุนคู่แข่งของทรัมป์อย่างเต็มตัว

หลังจากที่ บารัค โอบามา ถือว่าเก็บตัวอยู่เงียบค่อนข้างนานกว่า 3 ปี ไม่ว่าจะโดนทางทรัมป์กล่าวอ้างมากมายเพียงใดว่ารัฐบาลโอบามาได้สร้างความเสียหายทิ้งไว้อย่างมากมาย

1) โดนกล่าวหาว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้จีนเอาเปรียบสหรัฐเรื่องการค้า
2) โดนกล่าวหาว่าเป็นผู้พยายามเชื่อมสัมพันธ์กับอิหร่าน
3) และล่าสุดเรื่องการระบาดของไวรัสโควิดนั้น ทรัมป์ก็กล่าวว่าอเมริกากำลังเผชิญศึกหนักเพราะรัฐบาลโอบามาไม่เคยซื้อและเตรียมเครื่องมือทางการแพทย์ไว้เพียงพอ...

ล่าสุดเมื่อคืนนี้ทางโอบามาทนไม่ไหวแล้ว ได้ออกมาพูดความในใจแบบหมดเปลือก

โอบามากล่าวว่า "รัฐบาลทรัมป์รับมือการระบาดของไวรัสได้อย่างน่าผิดหวังมากๆ ทำให้กลายเป็นหายนะครั้งใหญ่ของประเทศ (Chaotic Disaster)" เพราะตอนนี้ผู้เสียชีวิตในสหรัฐกำลังพุ่งแตะ 8 หมื่นคน ผู้ป่วยติดเชื้ออีก 1.3 ล้านคน และคนตกงานอีก 30 ล้านคน

"สิ่งที่ประเทศเรากำลังสู้อยู่ตอนนี้ไม่ใช่แค่ปัญหาเรื่องไวรัสเพียงอย่างเดียว แต่เรากำลังต้องต่อสู้กับปัญหาระยะยาว คือการโดนปลูกฝังให้เป็นคนเห็นแก่ตัว เป็นประเทศที่แบ่งแยกว่าดีกว่าผู้อื่นและกำลังมองประเทศอื่นๆว่าเป็นศัตรู" โอบามาน่าจะกล่าวถึงหลักคิด America First ของทรัมป์ที่กำลังได้รับคะแนนความนิยม

"ซึ่งแนวคิดเหล่านี้กำลังเป็นแรงกระตุ้นที่ทำให้ชีวิตของชาวอเมริกันกำลังเป็นปัญหาอยู่ในทุกวันนี้ การคิดว่าอะไรที่ดีที่สุดสำหรับฉันก็พอใครคนอื่นจะเป็นอย่างไรก็ช่างมัน กำลังทำให้การระบาดของไวรัสครั้งนี้กลายมาเป็นหายนะของประเทศ” โอบามากล่าว

"It has been an absolute chaotic disaster when that mindset -- of ‘what’s in it for me’ and ‘to heck with everybody else’ -- when that mindset is operationalized in our government.” คำพูดของโอบามา

และอดีตประธานาธิบดีจึงได้พูดปิดท้ายว่า...

"เพราะเหตุนี้ ผมจึงจะใช้เวลาที่เหลือทั้งหมดก่อนการเลือกตั้ง ร่วมกันช่วยหาเสียงให้ โจ ไบเดน แห่งพรรคเดโมแครต"

นี่ถือว่ากำลังจะเป็นอีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงสำคัญใน #เวทีการเลือกตั้งของสหรัฐ ที่เวลากำลังเหลือลดน้อยลงไปทุกที ทางทรัมป์จะมีวิธีไหนที่ยังจะแก้สถานการณ์ต่างๆกลับมาได้ทันเวลาหรือไม่...

⛔️ ท่านใดไม่อยากพลาดข่าวสารในตลาดจากทีมงาน แนะนำให้กด Like ที่โพสต์เรื่อยๆ หรือกดตั้งค่า “เห็นโพสต์ก่อน” หรือ See First ไว้ที่เมนูมุมขวาบนของเพจได้เลยครับ ไม่งั้นทาง Facebook จะไม่ค่อยแสดงโพสต์ของทีมเราที่อัพเดทใหม่ๆครับ

#OilTradingKP

 

แบ่งปันจาก World Forum ข่าวสารต่างประเทศ

มาเลเซีย : เจ้าหน้าที่ทหารล้อมลวดหนามปิดตายชุมชน ตลาดโอ๊ทแมน ในเขตเซลังงอร์เพิ่มอีก 3 โซน 2900 ครอบครัวหลังตรวจพบ 26 คนติดเชื้อโควิด เพื่อเป็นการคุมโรค เจ้าหน้าที่ได้ขยายเวลาปิดโซนเดิมที่ปิดก่อนหน้าจาก 10 พค. เป็น 23 พค. 63 หลังจากมีการปิดตายหลายโซนทำให้ตัวเลข ผู้ติดเชื้อในมาเลเซียลดลง เหลือบางจุดเท่านั้นที่ระบาดในกลุ่มชุมชน มาเลเซียได้ผ่อนปรนเปิดเมืองแล้วบางส่วน

ตัวเลขผู้ติดเชื้อ 6,589 เสียชีวิต 108 รักษาหาย 4,929 ราย

 

แบ่งปันจาก World Forum ข่าวสารต่างประเทศ

ตุรกี : เมือง เออซูรุม หิมะเริ่มตกเมื่อวานนี้ อุณหภูมิต่ำกว่า 3 องศา ทำให้เมืองและทุ่งหญ้าเริ่มเต็มไปด้วยหิมะ

 

แบ่งปันจาก World Forum ข่าวสารต่างประเทศ

ไต้หวัน : อากาศร้อนออกซิเจนต่ำทำให้ปลาตาย ในแม่น้ำไทเปจำนวนมาก

 

แบ่งปันจาก World Forum ข่าวสารต่างประเทศ

รัสเซีย : มอสโกไฟไหม้โรงพยาบาลผู้ป่วยโควิด
โรงพยาบาล Spasokukotsky ทำให้ต้องอพยพผู้ป่วย 200 คน เหตุดังกล่าวคุณหมอเสียชีวิต 1คน ผู้ป่วยปลอดภัยทั้งหมด ไฟได้ลามจากห้องผู้ป่วยอย่างรวดเร็ว ทางโรงพยาบาลกำลังสอบสวนหาสาเหตุ ตัวเลขผู้ติดเชื้อของรัสเชีย 198,676 คน เสียชีวิต 1,827 คน

 

แบ่งปันจาก World Forum ข่าวสารต่างประเทศ

สวิตเซอร์แลนด์ : เจนีวา เป็นภาพที่หาดูยากที่ชาวสวิส มายืนเข้าแถวรับอาหารฟรีกว่า 1000 คน เจนีวา คือศูนย์การเงิน ธนาคาร ต้นกำเหนิดและแหล่งผลิตแบรนด์ชั้นนำของโลกจำนวนมาก ประชาชนมายืนเข้าแถวแต่เช้าตั้งแต่ตี 5 รออาหารฟรีแจกในช่วงปิดเมืองกว่า 1000 คนแถวยาวเกือบกิโลเมตร ผู้มารับส่วนมากผู้มีรายได้น้อย ผู้ที่ขาดอาหารจากการปืปิดเมืองและมีแรงงานอพยพจำนวนหนึง
จากการสำรวจมีประชากร 8.6 ล้านคน ผู้มีรายได้น้อย 6.8 แสนคน รายได้ต่อหัวสูงมาก 82,796 USD/ปี

 

แบ่งปันจาก World Forum ข่าวสารต่างประเทศ

อินเดีย : ช่วงปิดเมือง โควิดระบาดผู้คนไม่ออกจากบ้าน มีธุรกิจหนึ่งที่ได้รับความนิยมคือรถขายนม พ่อค้าได้ติดถังนม ต่อท่อ เพื่อให้มีระยะห่างกับผู้ซื้อ รถจะตระเวนไปในหลายๆชุมชน นับว่าเป็นธุรกิจเกิดใหม่ ที่ขายดีมากในช่วงปิดเมือง จึงทำให้หลายคนหันมาขายนมในช่วงตกงานรอเมืองเปิด

 

แบ่งปันจาก Thailand State

รัฐบาลอินเดียเชื่อว่าแม่น้ำคงคามีฤทธิ์สามารถรักษา
โรค COVID-19 ได้ จึงขอให้หน่วยงานวิจัยด้านการแพทย์
ชั้นนำของอินเดียช่วยทำการวิจัยเกี่ยวกับทฤษฎีนี้
แต่คำขอดังกล่าวถูกปฏิเสธในทันที
.
สภาการวิจัยทางการแพทย์ของอินเดีย (ICMR)
ปฏิเสธ “คำขอ” ของรัฐบาลเพื่อทำการวิจัยเกี่ยวกับทฤษฎี
ที่ว่าน้ำจากแม่น้ำคงคาสามารถรักษา Covid-19 ได้
.
คำขอนี้เริ่มต้นมาจากแหล่งข่าวในรัฐบาลที่เชื่อว่า
ในแม่น้ำคงคามี "นินจาไวรัส" ที่เรียกว่า bacteriophage
โดยอาจจะมีฤทธิ์ที่สามารถรักษา Covid-19
ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจาก coronavirus ได้
รัฐบาลอินเดียจึงได้ขอให้ ICMR ทำการวิจัยเพิ่มเติม
.
แต่ทว่าคำขอดังกล่าวกลับถูกปฏิเสธจาก ICMR ในทันที
โดย ICMR ได้ให้เหตุผลว่า ตอนนี้องค์กรกำลัง
เพ่งความสนใจไปที่การต่อสู้กับ Covid-19 เป็นหลัก
และไม่ต้องการเสียเวลาให้กับการวิจัยอื่น ๆ
ท่ามกลางการระบาดใหญ่ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในประเทศขณะนี้
.
ข้อมูลที่น่าสนใจ : ปัจจุบันประเทศอินเดียมีผู้ติดเชื้อ
Covid-19 สะสม 62,808 คน เสียชีวิตแล้ว 2,101 คน
ข้อมูล ณ วันที่ 10 พฤษภาคม 2563 เวลา 12.00 น.
.
เพื่อให้ท่านไม่พลาดทุกสิ่งที่น่าสนใจจากเพจ Thailand State
กด Like เพจ และตั้งค่า See First
เพื่อติดตามข้อมูลดีๆได้เลยครับ
.
Source : https://www.dawn.com/news/1555412/modi-govt-request-to-test-ganges-for-virus-cure-declined
.
https://www.worldometers.info/coronavirus/country/india/
.
#ThailandState #ThailandStateUpdate

 

เศรษฐกิจในอังกฤษและอเมริกา กำลังกอดคอกันจม?:

เมื่อวาน บอกท่านไปแล้วว่าอเมริกาน่าจะมีสหายเก่าคือ Great Depression มาเยือน ส่วนวันนี้ มีข่าวจากหนังสือพิมพ์ Financial Times ของอังกฤษว่าอังกฤษอาจเจอภาวะเศรษฐกิจซบเซารุนแรงสุดในรอบ ๓๑๑ ปีนับตั้งแต่พ.ศ.๒๒๕๒ เป็นต้นมา เป็นคำเตือนจากแบ็งค์ของอังกฤษเอง

ที่ผมเดาว่าสหายเก่า Great Depression น่าจะมาเยือนอเมริกา เพราะมีข้อมูลหยาบๆ ดังนี้ครับ

๑.มีหนี้สิน ๒๕ ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐอเมริกา โดนัลด์ ทรัมป์วางแผนกู้เพิ่ม ๔ ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐอเมริกา

๒.มีคนจน ๔๖ ล้านคน

๓.มีคนไร้บ้านมากกว่า ๕ แสนคน

๔.ขณะนี้ คนตกงาน (จากลิงค์ข่าวข้างล่าง) มีถึง ๔๐ ล้านคนไปแล้ว คิดเป็น ๒๔% ของประชากรทั้งหมด (หลายวันก่อน ผมนำเสนอว่าคนตกงานมี ๓๗ ล้านคน ตัวเลขเพิ่มขึ้น) คาดการณ์กันว่าจะมีคนว่างงานสูงถึง ๓๔.๖% ของจำนวนประชากรทั้งหมด

๕.งบขาดดุล อเมริกาปีนี้ คาดว่าจะสูงถึง ๔ ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐอเมริกา

ข่าวต้นฉบับ
https://www.forbes.com/sites/sarahh...e-economy-continues-to-nosedive/#42a12ded207b

๖.แม้จะมีคนประท้วงนโยบายล็อคดาวน์ แต่รัฐบาลก็ยังไม่ได้เปิดประเทศเข้าสู่ภาวะปรกติ เพียงแต่ทยอยลดมาตรการจำกัดบริเวณลง

๗.อเมริกามีฐานทัพอยู่ทั่วโลก ๘๐๐ แห่ง มีฐานทัพจำนวนมากที่อเมริกายกกองกำลังไปตั้งเอาเอง โดยที่ประเทศที่ไปไม่เคยอนุญาตเลย ว่ากันว่าถ้ารวมกับฐานทัพลับด้วยก็ไม่น้อยกว่า ๙๐๐ แห่งทั่วโลก

๘.วันนี้ อเมริกามีคนติดเชื้อไวรัสโคโรน่า โควิด ๑๙ จำนวน ๑,๓๒๔,๓๓๕ คน และเสียชีวิตแล้ว ๗๘,๗๐๐ คน ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

ถ้าโควิดยังเล่นงานคนอเมริกันไม่หยุดอย่างนี้ต่อไปอีก ๓-๕ เดือน ผมว่า Great Depression สหายเก่าอเมริกาน่าจะมาเยือน

ถ้าสหายเก่านี้มาเยือน อเมริกาคงบอบช้ำไปไม่น้อยกว่า ๑๐ ปี ข้อดีคือฐานทัพอเมริกาจะลดบทบาทลงมาก ตะวันออกกลางจะถูกรุกรานน้อยลง เกาหลีเหนือและอิหร่านน่าจะเติบโตแบบก้าวกระโดดช่วงนี้แหละครับเพราะไม่มีชาติไหนมารบกวน

ข่าวต้นฉบับ
https://www.chicagofed.org/publicat...-jAIZjFDj28RG8uRJ55IJaJnFumb0Z7zjY_UjWo55EHXo

บทความโดย: ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์

 

ซาอุดิอาระเบีย ปฏิเสธไม่ปฏิบัติตามคำขอของสหรัฐ ในการใช้ความพยายามเพื่อให้ราคาน้ำมันสูงขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจน้ำมัน และหุ้นของบริษัทน้ำมันในสหรัฐพังพินาศยับเยิน ทำลายฐานเสียงของลุงตั้มอย่างหนักหน่วง เป็นเหตุให้สหรัฐตัดสินใจ ถอนระบบ ขีปนาวุธต่อต้านขีปนาวุธ ที่ติดตั้งในซาอุดิอาระเบียออกจากดินแดนแห่งนั้น โดยหวังว่าซาอุดิอาระเบียอาจจะกลัวการถูกโจมตีจากอิหร่านและพันธมิตร หรือเยเมน แล้วจะยอมปฏิบัติตามคำขอของสหรัฐนั้น ปรากฏว่าผิดคาด ซาอุดิอาระเบีย ไม่ปฏิบัติตามคำขอนั้น

สำหรับประเทศ ที่อยู่ภายใต้อาณัติของสหรัฐอย่างซาอุดิอาระเบีย เกิดเหตุเช่นนี้ขึ้นได้อย่างไร มีความเป็นไปได้ว่า

1.ซาอุดิอาระเบียไม่สามารถอดทนต่อการแบล็คเมล์และรีดไถได้อีกต่อไป หรือไม่สามารถอดทน โปรแกรมที่ถูกผลักไสให้เป็นกองหน้าเปิดศึกสงครามกับประเทศกลุ่มอาหรับและเป็นปฏิปักษ์กับอิหร่าน ซึ่งทำให้ซาอุดีอาระเบียอ่อนแอลงในทุกด้าน

2.ซาอุดิอาระเบีย ตื่นรู้แล้วว่ารุ่นแสนยานุภาพของโลกเปลี่ยนแปลงไปอยู่ข้างรัสเซียจีนเกาหลีเหนือและอิหร่านแล้ว กลุ่มนาโตมีสภาพเป็นแค่เสือกระดาษ ที่ถูกฝนตกใส่ทั้งนั้น

3.ซาอุดิอาระเบียรู้แล้วว่า พวกมหาอำนาจตะวันตกกำลังเล่นกลสนับสนุนตุรกี ให้เป็นมหาอำนาจในตะวันออกกลางแข่งกับซาอุดิอาระเบียด้วย ซึ่งถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไป เศรษฐกิจซาอุดิอาระเบียจะพังพินาศยับเยิน

4.Saudi Arabia ทราบว่า มหาอำนาจตะวันตกกำลังขับเคลื่อน ยุทธศาสตร์ล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ ไปทั่วโลกและซาอุดิอาระเบียก็เป็นเป้าหมายที่ใกล้จะสำเร็จแล้วเพราะมีการต่อสู้แย่งชิงอำนาจกันภายในราชกุลชาอุด จนเหลือแต่ มกุฎราชกุมาร บินชนมานซึ่งเป็นเชื้อสายตรง ของพระมหากษัตริย์รัชกาลปัจจุบันของซาอุ คืนคบหากันแบบนี้ต่อไป สถาบันพระมหากษัตริย์ของซาอุเป็นอันล่มสลายแน่

5.ซาอุดิอาระเบียประสานงานกับทั้งจีนและรัสเซีย ในการไกล่เกลี่ยปัญหาความขัดแย้งกับอิหร่านมายาวนานและร่วมธุรกิจการค้าระหว่างประเทศระหว่างกันอย่างคึกคักถึงขนาดยอมใช้สกุลเงินหยวน ในการซื้อขายน้ำมันระหว่างกัน การปรับความสัมพันธ์กับอิหร่าน คงบรรลุผลขั้นใหญ่แล้วอย่างแน่นอน เพราะ ถ้าไม่ทำตรงนี้ให้สำเร็จซาอุดิอาระเบียนอกจากจะอยู่ใต้อาณัติของฝรั่งตะวันตกแล้ว ยังจะกลายเป็นลูกไล่ของอิสราเอลซึ่งจะทำให้ประเทศอิสลามทั่วโลก ตั้งข้อรังเกียจ ต่อซาอุดิอาระเบียเพราะจะทำให้หมดฐานะผู้นำประเทศอิสลามไปโดยปริยาย

6.ซาอุดิอาระเบียเป็นศูนย์กลางของศาสนาอิสลามนิกายวาฮาบี ที่ตกลงร่วมมือกับอังกฤษก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 ก็เพราะต้องการฟื้นนิกายวาฮาบีขึ้นในโลกนี้ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ แต่กลับทำให้ภาพลักษณ์และความเชื่อถือต่อวัน ได้รับผลกระทบมาก เนื่องจากถูกผลักดันให้กลายเป็นพวกหัวรุนแรงซึ่งทั่วโลก ไม่ยอมรับนับถือ และจะเป็นอันตรายต่อ นิกายวาฮาบี ดังนั้น จึงเชื่อว่าบทบาทของตระกูลวาฮับซึ่งเป็นหุ้นส่วนแห่งอำนาจของราชสกุลชาอุด จะมีบทบาทในเรื่องสำคัญอย่าเงียบๆ

ตะวันออกกลางกำลังเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แล้วจะส่งผลต่อ ศาสนาอิสลาม และจะเป็นผลเชิงบวกมากขึ้น จะทำให้ บรรดาโองการทั้งหลายในพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานได้รับการแปลความและ ประกาศต่อศาสนิกในลักษณะที่ไปในทางเดียวกันมากขึ้น

และจะส่งผลให้สหรัฐโดดเดี่ยวและอ่อนแอลงอย่างมาก ทิศทางกำลังเป็นไปในทางนี้

ข่าวต้นฉบับ:www.aljazeera.com
Cr.Paisal Puechmongkol

https://www.aljazeera.com/programme...ent&utm_medium=trueAnthem&utm_source=facebook

 

เครื่องบินของสายการบินต่างๆเกือบทั่วโลก ส่วนใหญ่ยังจอดนิ่งอยู่ และยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเปิดทำการกันเต็มที่ได้เมื่อไหร่ หรือเมื่อเริ่มออกบินได้แล้วจะมีผู้มาใช้บริการกันมากน้อยแค่ไหน
.
การเดินทางโดยเครื่องบิน หรือการบินระหว่างประเทศ ยังมีความจำเป็น และจะต้องกลับมาเปิดให้บริการอีก แต่แนวทางปฏิบัติคงเปลี่ยนแปลงไป กลายเป็น New Normal ที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างมาก
.
ความมั่นใจของผู้โดยสารเป็นประเด็นสำคัญที่จะทำให้มีผู้กลับมาใช้บริการอีก แต่ความยุ่งยากในการเดินทางโดยเครื่องบิน อาจทำให้เกิดความท้อแท้ไม่อยากเดินทาง
.
เหตุการณ์ 9/11 ในปี 2001 ซึ่งอเมริกาโดนผู้ก่อการร้ายโจมตีพร้อมๆกันหลายแห่ง มีเครื่องบินถูกจี้มาถล่มตึกเวอร์ดเทรดในนิวยอร์ค ทำให้หลังจากนั้นมีความเข้มงวดของการเดินทางโดยเครื่องบินอย่างมาก มีความเชื่อกันว่าหลังจากนี้ไป การเดินทางผ่านสายการบินต่างๆ จะมีความเข้มงวดมากกว่าสมัย 9/11 เสียอีก
.
คราวนี้ไม่ได้กลัวผู้ก่อการร้าย แต่กลัวเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า จะมีการสกรีนตรวจคัดกรองผู้โดยสารเข้มงวดขึ้นมาก และอาจมีข้อจำกัดหลายอย่างเกี่ยวกับกระเป๋าเดินทาง
.
SimpliFlying บริษัทที่ปรึกษาทางด้านการบิน ได้คาดคะเนไว้ว่า จะมีมากกว่า 70 อย่างที่จะต้องเปลี่ยนแปลงไป
.
เริ่มตั้งแต่ก่อนออกจากบ้าน ผู้โดยสารต้องเตรียมหนังสือเดินทางที่มีการยืนยันว่าเป็นคนที่มีแอนติบอดีโควิด-19 ไม่มีเชื้อไวรัส มีหนังสือรับรองจากหมอ อาจมีการตีตราไว้ในหนังสือเดินทาง
.
ผู้ซื้อตั๋วต้องเตรียมตัวเตรียมใจไว้ด้วยว่า อาจถูกปฏิเสธไม่ให้เดินทางด้วยสารพัดเหตุผล
.
ผู้เดินทางต้องถึงสนามบินก่อนเวลาเดินทางไม่ต่ำกว่า 4 ชั่วโมง เพราะขบวนการคัดกรองผู้โดยสารก่อนขึ้นเครื่องจะใช้เวลานานมาก
.
มีการตรวจคัดกรองว่าผู้โดยสารมีความฟิตพร้อมที่จะบินหรือไม่ ทางเข้ามีการตรวจวัดอุณหภูมิ มีอุโมงค์พ่นยาฆ่าเชื้อก่อนเข้าสนามบิน
.
มีด่านเช็คอินตรวจสุขภาพ ซึ่งอาจจะประกอบด้วย ตรวจเลือด หรือแม้แต่การทำซีทีสแกนปอด
.
กระเป๋าเดินทางจะถูกทำความสะอาดด้วยการฉีดพ่นควันหรืออาบแสงยูวี และมีการฆ่าเชื้อโรคให้ตาย
.
ผู้โดยสารต้องใส่ถุงมือและหน้ากากอนามัยตลอดเวลา มีการรักษาระยะห่างทางกายภาพ 1.5 เมตร ตลอดขบวนการคัดกรองเข้าสนามบิน
.
ไม่มีการสัมผัสอะไร ประตูเปิดปิดได้แบบอัตโนมัติ ไม่ต้องไปรอกันมากๆอยู่ในห้องเดียวกัน ผู้โดยสารจะขึ้นเครื่องได้เมื่อได้รับข้อความในมือถือเพื่อแจ้งให้ขึ้นเครื่อง
.
ช่องทางเดินเข้าเครื่องเป็นอุโมงค์ฆ่าเชื้อโรค และเดินเข้าทีละคนโดยทิ้งระยะห่างทางกายภาพ 1.5 เมตร
.
ที่นั่งบนเครื่องจะไม่อัดแน่นเหมือนที่เคยเป็นในอดีต ผู้โดยสารแต่ละคนจะนั่งห่างกันเพื่อป้องการการแพร่เชื้อจากระบบการหายใจ หรือสิ่งที่อาจจะกระเด็นออกมาจากปากหรือจมูก
.
ก่อนเครื่องออก นอกจากข้อมูลที่เตือนเรื่องความปลอดภัยในการเดินทางแล้ว ยังมีวิดีโอเตือนเรื่องความปลอดภัยด้านสุขภาพด้วย
.
บนเครื่องจะไม่มีหน้าจอให้สัมผัสดูอะไร นิตยสารหรือแผ่นพับอะไรก็ไม่มีให้เห็นอีกต่อไป ทุก 30 นาที ต้องทำความสะอาดมือด้วยแอลกอฮอล
.
บนเครื่องบินอาจมีพนักงานทำความสะอาดประจำเครื่อง บริเวณที่มีการสัมผัสบ่อยจะมีการทำความสะอาดบ่อย ห้องน้ำจะได้รับการดูแลทำความสะอาดบ่อยมาก และมีการสอบถามความเห็นจากผู้โดยสารเพื่อให้คะแนนความสะอาด
.
ที่สถานีปลายทางก็จะมีการคัดกรองที่เข้มงวดหลายอย่าง เช่น ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ตรวจหนังสือเดินทางเพื่อยืนยันการปลอดเชื้อ

.
พนักงานสนามบินขาเข้า จะทำงานอยู่หลังกระจกหรือพลาสติกใสที่ป้องกันตัวเองจากการแพร่เชื้อจากผู้โดยสาร
.
เครื่องบินที่มาถึงสนามบินปลายทาง จะต้องถูกฉีดพ่นทำความสะอาดด้วยควันหรืออาบแสงยูวี มีการฆ่าเชื้อโรคห้องโดยสารทั้งหมดก่อนที่จะเปิดรับบริการผู้โดยสารชุดต่อไป
.
บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องอาจถูกยกเลิก ผู้โดยสารแต่ละคนอาจได้รับเป็นอาหารกล่องแทน
.
ที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นเพียงการคาดการณ์ทั้งนั้น แต่มาจากผู้เชี่ยวชาญที่เป็นที่ปรึกษาด้านการบิน ในความเป็นจริงอาจเข้มงวดหรือหย่อนยานกว่าที่กล่าวมาก็ได้ แต่ข้อสำคัญที่สุดจะต้องมั่นใจว่า สายการบินต่างๆจะไม่พาใครที่ติดเชื้อไวรัสเดินทางข้ามประเทศ
.
New Normal ที่จะเกิดขึ้นกับสายการบินต่างๆ ทำให้ต้นทุนการเดินทางสูงขึ้น และอาจทำให้มีลูกค้ามาใช้บริการน้อยลง
.
วอเรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนเบอร์หนึ่งของโลกได้ตัดสินใจเทขายหุ้นสายการบินทั้งหมดที่มีอยู่ในมือออกไป เพราะมองไม่เห็นอนาคต และรับสารภาพว่าเป็นการลงทุนที่ผิดพลาด
.
เห็นการตัดสินใจของ วอเรน บัฟเฟตต์ แล้วทำให้คิดถึงอนาคตของสายการบินไทย!!!
.
https://simpliflying.com/sanitised-travel/
.

Cr : ธุรกิจ 4.0