ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล

ยอดเสียชีวิตจากแผ่นดินไหวเนปาลเกิน 7,000 คนแล้ว​

​

กาฐมาณฑุ 3 พ.ค. – ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินแห่งชาติเนปาลรายงานวันนี้ว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวรุนแรงเพิ่มขึ้นเป็น 7,040 คน และบาดเจ็บกว่า 14,000 คน

เจ้าหน้าที่เนปาลกล่าวว่า รายงานดังกล่าวเป็นตัวเลขที่บันทึกไว้อย่างเป็นทางการ แต่คาดว่ายอดรวมอาจสูงกว่านี้ หลังจากแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7.8 เมื่อวันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีรายงานเสียชีวิตอีกกว่า 100 คนในอินเดียและจีน ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้าน ขณะนี้การกู้ภัยเปลี่ยนจากปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิต เป็นการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากแผ่นดินไหว ซึ่งติดอยู่ในพื้นที่ห่างไกล .-สำนักข่าวไทย

รัฐมนตรีเนปาลเตือน ยอดผู้เสียชีวิตจะสูงกว่านี้มาก​

​

กาฐมาณฑุ 3 พ.ค. – นายราม ชารัน มาฮัต รัฐมนตรีคลังเนปาลกล่าวว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในเนปาลจะสูงกว่านี้มาก ขณะหน่วยฉุกเฉินเข้าถึงหมู่บ้านในพื้นที่ห่างไกล

รัฐมนตรีเนปาลแถลงว่า ยังคงมีหมู่บ้านในพื้นที่ห่างไกลซึ่งมีรายงานบ้านเรือนพังทลายทั้งหมด แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าถึงเพื่อให้ความช่วยเหลือได้ ขณะที่แรงสั่นสะเทือนหลังแผ่นดินไหว หรืออาฟเตอร์ช็อกยังไม่บรรเทาลง ทางการจึงคาดว่า ยอดผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บโดยรวมจะสูงกว่านี้อีกมาก .-สำนักข่าวไทย

ระเบียบที่ยุ่งยาก ทำให้การให้ความช่วยเหลือ บรรเทาทุกข์ในเนปาลล่าช้า​

​

กาฐมาณฑุ 3 พ.ค. – สหประชาชาติระบุว่ารู้สึกเป็นห่วงเป็นอย่างยิ่งที่เจ้าหน้าที่ด้านศุลกากรของเนปาลยังคงทำให้การจัดส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปให้ผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงในเนปาล ดำเนินไปอย่างล่าช้า ขณะตัวเลขยอดผู้เสียชีวิตเกิน 7,000 คน ไปแล้วในวันนี้

ภายหลังจากที่รัฐบาลเนปาลเชื่อว่าจะไม่พบผู้รอดชีวิตที่ติดค้างอยู่ภายใต้ซากปรักหักพังของอาคารบ้านเรือนแล้ว ทางการก็หันมาเน้นเรื่องการจัดส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปให้กับครอบครัวของผู้ประสบภัยที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล แต่วาเรอรี่ อามอส หัวหน้างานกิจการบรรเทาทุกข์ของสหประชาชาติ กล่าวว่า เธอรู้สึกกังวลว่า สิ่งของบรรเทาทุกข์ที่หลั่งไหลมาจากต่างประเทศหลังจากเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงในรอบ 80 ปี จะไม่สามารถแจกจ่ายได้อย่างรวดเร็วเนื่องมาจากกฏระเบียบที่ยุ่งยาก มีขั้นตอนมากเกินไป และใช้เวลานานกว่าจะสิ่งของเหล่านี้จะผ่านกระบวนการศุลกากรออกมาได้ อามอสกล่าวว่า เธอได้ขอให้นายกรัฐมนตรีซูชิล คอยราลา ให้ช่วยเร่งพิธีการศุลกากรสำหรับสิ่งของบรรเทาทุกข์ และเชื่อว่าหลังจากนี้กระบวนการจะรวดเร็วยิ่งขึ้น.-สำนักข่าวไทย

ตำรวจเนปาลพบศพนักปีนเขาชาวต่างชาติ​

​

กาฐมาณฑุ 3 พ.ค.- ตำรวจเนปาลพบร่างผู้เสียชีวิตประมาณ 50 ศพ ซึ่งรวมทั้งนักปีนเขาชาวต่างชาติ 6 ศพ จากบริเวณที่โดนหิมะถล่มที่ลังตัง ในขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงเกิน 7,000 คนแล้ว

เจ้าหน้าที่ตำรวจเนปาลกล่าวว่า ในจำนวนผู้เสียชีวิตนั้น ยังไม่สามารถระบุชื่อได้ โดยพบศพเมื่อวันเสาร์ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยจะกลับไปยังพื้นที่ห่างไกลอีกครั้งในวันนี้เพื่อค้นหาร่างผู้เสียชีวิตจากหิมะถล่ม ซึ่งเป็นผลมาจากเหตุแผ่นดินไหว ขณะนี้ยังมีผู้สูญหายอีกอย่างน้อย 200 คน ซึ่งรวมทั้งชาวบ้านและนักปืนเขา ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่เข้าไปยังจุดหิมะถล่มไม่ได้เนื่องจากฝนตกและสภาพอากาศไม่ดี

เครื่องบินทหารของสหรัฐและกำลังพลมีกำหนดจะเดินทางถึงเนปาลในวันนี้ ซึ่งล่าช้ากว่ากำหนดเดิม 1 วัน เพื่อช่วยขนย้ายสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปยังเขตด้านนอกของกรุงกาฐมาณฑุ ในขณะเดียวกันก็มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ตำหนิ หลังจากสิ่งของบรรเทาทุกข์เป็นจำนวนมากยังกองอยู่ที่สนามบินกาฐมาณฑุ ซึ่งเป็นเส้นทางเข้า-ออก ต่างประเทศเพียงเส้นทางเดียว เนื่องจากพิธีการทางศุลกรกร นายเจมี แม็กโกลริก ผู้แทนของสหประชาชาติกล่าวว่า รัฐบาลเนปาลจะต้องผ่อนปรนระเบียบพิธีการศุลกรกรที่เข้มงวดเพื่อแก้ปัญหาสิ่งของบรรเทาทุกข์ที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่ถูกส่งมาจากต่างประเทศ แต่รัฐบาลซึ่งร้องเรียนว่าได้รับสิ่งของที่ไม่จำเป็นเช่นปลาทูน่าและมายองเนส กล่าวยืนยันว่า จะต้องตรวจสอบสิ่งของบรรเทาทุกข์จากต่างชาติทั้งหมด.-สำนักข่าวไทย

ยอดผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมในออสเตรเลีย เพิ่มขึ้นเป็น 6 รายแล้ว​

​

ซิดนีย์ 3 พ.ค.- ยอดผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมเนื่องจากฝนตกอย่างหนักทางชายฝั่งด้านตะวันออกของออสเตรเลียเพิ่มขึ้นเป็น 6 รายแล้ว ในขณะที่ยังคงมีประกาศเตือนเรื่องน้ำท่วมต่อไป หลังจากเกิดฝนตกและน้ำท่วมทำให้กระแสไฟฟ้าดับเป็นพื้นที่บริเวณกว้าง

รัฐควีนส์แลนด์และนิวเซาท์เวลส์ ทางตะวันออกของประเทศ ต้องเจอกับงานหนักในการทำความสะอาดรออยู่ข้างหน้า หลังจากน้ำลดระดับลง แต่สภาพอากาศจะดีขึ้นในวันนี้ หลังจากฝนตกหนักมาเป็นเวลา 2 วัน แอนนาสตาเซีย พัลลาสซุค มุขมนตรีของรัฐควีนส์แลนด์ กล่าวว่า น้ำฝนในช่วงเวลา 2 วันที่ผ่านมามีปริมาณมากอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ในขณะที่อลัน ซูเธอร์แลนด์ นายกเทศมนตรีกล่าวว่า เป็นฝนตกหนักในรอบ 2,000 ปี

เด็กชายวัย 6 ขวบ เป็นผู้เสียชีวิตรายล่าสุด หลังจากที่เขาถูกคลื่นพัดออกไปจากชายหาดเซาธ์บัลลินา ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ขณะที่เดินริมหาดกับพ่อและพี่ชาย ชาวประมงพบตัวเขาและนำตัวส่งโรงพยาบาลและไปเสียชีวิตที่นั่น ก่อนหน้านี้ ประชาชน 5 คน ซึ่งมีเด็กวัย 5 ขวบ รวมอยู่ด้วย เสียชีวิตเมื่อวันศุกร์เมื่อรถขับเคลื่อน 4 ล้อ ของพวกเขาติดอยู่ในน้ำท่วมฉับพลัน

สภาพอากาศคาดว่าจะดีขึ้นในวันนี้และพรุ่งนี้ แม้จะยังมีประกาศเตือนภัยจะน้ำท่วมในหลายพื้นที่ในรัฐควีนส์แลนด์และนิวเซาท์เวลส์ นายกรัฐมนตรีโทนี แอบบอตต์ กล่าววานนี้ว่า รัฐบาลกลางจะให้ความช่วยเหลือรัฐควีนส์แลนด์ที่ประสบภัยจากพายุรุนแรง.-สำนักข่าวไทย

ผู้อพยพ 3,400 คน ได้รับความช่วยเหลือจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียน​

​

โรม 3 พ.ค. – ผู้อพยพกว่า 3,400 คน ได้รับความช่วยเหลือจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ส่วนใหญ่บริเวณนอกชายฝั่งของลิเบีย ขณะที่ประเทศในยุโรปพยายามหาหนทางแก้ปัญหาผู้อพยพที่หลั่งไหลออกนอกประเทศ และมุ่งเป้าเดินทางมาขึ้นฝั่งของประเทศในยุโรป ภายหลังจากเกิดเหตุเรือล่ม ทำให้ผู้อพยพเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก

ผู้อพยพ 3,427 คน ถูกช่วยขึ้นจากเรือในระหว่างปฏิบัติการเมื่อวานนี้ ซึ่งมีหน่วยยามฝั่งของอิตาลีเป็นผู้ประสานงาน เจ้าหน้าที่กล่าวว่า แม้จำนวนผู้อพยพจะมาก แต่ก็ไม่ถือเป็นสถิติสูงที่สุด เพราะเคยร่วมกันช่วยเหลือผู้ลี้ภัย 3,791 คน ในวันเดียวมาแล้ว เมื่อวันที่ 12 เมษายน ที่ผ่านมา และอีก 2,850 คน ในวันถัดมา

เรือตรวจการณ์ของฝรั่งเศส ซึ่งถูกส่งมาช่วยปฏิบัติการรับมือกับเรือของผู้อพยพในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ช่วยผู้อพยพได้ 217 คน จากนอกชายฝั่งลิเบีย ผู้อพยพทั้งหมดเป็นผู้ชาย โดยสารมากับเรือ 3 ลำ นอกจากนั้นยังจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 2 คนที่คาดว่าเป็นผู้ดำเนินการลักลอบนำผู้อพยพออกนอกประเทศ ซึ่งทั้งสองคนจะถูกส่งตัวให้ตำรวจอิตาลีต่อไป

ส่วนที่อิตาลี หน่วยยามฝั่งประกาศว่า เรือ 16 ลำ ได้เข้าช่วยผู้อยพพ 3,427 คน ในวันเสาร์เพียงวันเดียว ซึ่งเป็นการประสานงานจากสำนักงานใหญ่ของหน่วยยามฝั่งในกรุงโรมของอิตาลี โดยนอกจากเรือตรวจการณ์ของฝรั่งเศสแล้ว ยังมีเรือจากหน่วยยามฝั่งของอิตาลี 4 ลำ เรือจากกองทัพเรืออิตาลี 2 ลำ เรือสินค้า 2 ลำ เรือศุลกากรอิตาลี 2 ลำ และเรือลากจูงอีก 2 ลำ ร่วมในปฏิบัติการดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย

เผยซาอุฯใช้ระเบิดดาวกระจาย ที่สหรัฐจัดส่งให้เล่นงานในเยเมน​

​

ดูไบ 3 พ.ค. – กลุ่มฮิวแมนไรส์วอทช์ รายงานวันนี้ว่า กองกำลังที่มีซาอุดีอาระเบียเป็นแกนนำใช้ระเบิดดาวกระจาย ที่สหรัฐจัดส่งให้ในปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ เพื่อปราบปรามกลุ่มกบฏในเยเมน โดยเตือนว่าจะเป็นอันตรายต่อประชาชน

ระเบิดดาวกระจายซึ่งโดยทั่วไปเรียกร้องให้ห้ามใช้กัน เนื่องจากบางครั้งไม่ระเบิดและตกค้างอยู่ในพื้นที่ภายหลังสงคราม เปรียบเสมือนกับระเบิดที่สามารถสังหารหรือทำให้ประชาชนบาดเจ็บพิการได้ กลุ่มสิทธิฮิวแมนไรส์วอทช์ได้นำหลักฐานเช่น ภาพถ่าย วิดีโอ และข้อมูลอื่นๆมายืนยันว่ามีการใช้ระเบิดดาวกระจายโจมตีทางอากาศที่มั่นของกลุ่มกบฏชาวฮูธีในจังหวัดซาดาเขตภูเขาทางเหนือของเยเมน ตามสนธิสัญญาปี 2551 มี 116 ประเทศร่วมลงนามรับรองต่อต้านการใช้ระเบิดดาวกระจาย ยกเว้นซาอุดีอาระเบีย กลุ่มพันธมิตร และสหรัฐ .- สำนักข่าวไทย

การโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มไอเอสในซีเรีย สังหารพลเรือนไป 52 คน​

​

เบรุต 2 พ.ค. – กลุ่มสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในซีเรียเปิดเผยว่า การโจมตีทางอากาศนำโดยสหรัฐต่อเป้าหมายของกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอสสังหารพลเรือนไปอย่างน้อย 52 คนในหมู่บ้านแห่งหนึ่งทางตอนเหนือของซีเรีย

รายงานระบุว่า การโจมตีทางอากาศเกิดขึ้นเมื่อเช้าตรู่วันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในจังหวัดอเลปโป และในจำนวนพลเรือนที่เสียชีวิตอย่างน้อย 52 คน มีเด็กรวมอยู่ด้วย 7 คน และอีก 13 คนยังคงติดอยู่ในกองซากปรักหักพัง นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า กองกำลังชาวเคิร์ดและกลุ่มกบฏซีเรียกำลังปะทะกับกลุ่มไอเอสในเมืองที่อยู่ห่างออกไปราว 2 กม.

ก่อนหน้านี้ แถลงการณ์ของกองกำลังผสมระบุว่า ได้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ 6 ครั้งต่อหน่วยยุทธวิธีของไอเอสใกล้เมืองโคบานี และก่อนการโจมตีเมื่อวันศุกร์ ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของกองกำลังผสมสังหารพลเรือนไปแล้ว 66 คน นับแต่เริ่มโจมตีที่ตั้งของกลุ่มไอเอสในซีเรียเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว.-สำนักข่าวไทย

ญี่ปุ่นยกเลิกประกาศเตือนภัยสึนามิแล้ว​

​

โตเกียว 3 พ.ค. – สถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเคของญี่ปุ่น รายงานการยกเลิกประกาศเตือนภัยคลื่นยักษ์สึนามิ บริเวณหมู่เกาะทางใต้ของญี่ปุ่น ในเช้าวันนี้ ภายหลังมีคลื่นขนาดเล็กหลายระลอกตามมา หลังจากเกิดแผ่นดินไหวในมหาสมุทรแปซิฟิก

สื่อญี่ปุ่นรายงานว่า คลื่นสึนามิที่พบมีความสูง 50 เซนติเมตร บริเวณหมู่เกาะอิสุ และหมู่เกาะโองาซาวาระ ทางใต้ของกรุงโตเกียว ก่อนที่สถานีอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นจะยกเลิกประกาศเตือนภัยคลื่นยักษ์ เมื่อเวลาประมาณ 04.10 น. วันนี้ ตามเวลาท้องถิ่น หรือเวลา 02.10 น.ที่ผ่านมา ตามเวลาในไทย ทางการญี่ปุ่นระบุขนาดแผ่นดินไหวที่ 5.9 แต่สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ รายงานว่า มีขนาด 6.1 และได้ปรับลดลงมาที่ 5.7 โดยมีศูนย์กลางห่างไปทางใต้ ถึงตะวันออกเฉียงใต้ของหมู่เกาะอิสุราว 185 กิโลเมตร ขณะที่ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือทรัพย์สินเสียหาย.-สำนักข่าวไทย

ที่มา เว็บไซต์สำนักข่าวไทย

 

เดือนเดียวพายุฤดูร้อนถล่มนครพนมเสียหายกว่า 2 พันหลัง​

​

นครพนม 3 พ.ค.- ผู้ว่าฯ นครพนมย้ำยังต้องระวังผลกระทบพายุฤดูร้อน ล่าสุดกระหน่ำบ้านเรือนนับร้อยหลัง ด้าน ปภ.เผยเดือนที่ผ่านมาใช้งบฟื้นฟูแล้ว 50 ล้านบาท บ้านเรือนกว่า 2,000 หลัง 4 อำเภอ

นายวีระศักดิ์ วิเชียรแสน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครพนม เปิดเผยถึงผลกระทบจากพายุฤดูร้อนกระหน่ำพื้นที่ว่า ช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมาฝนตกหนักและลมกระโชกแรงค่อนข้างบ่อย มีบ้านเรือนได้รับความเสียหายกว่า 2,000 หลังคาเรือน 4 อำเภอ คือ อ.เมือง ศรีสงคราม ท่าอุเทน และโพนสวรรค์ หนักสุดเป็นอำเภอศรีสงครามจำนวน 1,200 หลังคาเรือน

ล่าสุดวานนี้ (2 พ.ค.) ฝนกระหน่ำอำเภอเมืองเพียง 1 ชั่วโมง บ้านเรือนเสียหาย 3 ตำบล 144 หลังคาเรือน เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานอยู่ระหว่างให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น สำหรับความเสียหายที่ผ่านมาได้นำงบประมาณมาดำเนินการซ่อมแซมไปแล้วไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท พร้อมกันนี้นายอดิศักดิ์ เทพอาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ย้ำเตือนประชาชนหมั่นตรวจสอบสิ่งปลูกสร้างและอาคารบ้านเรือน เพราะอาจเกิดพายุกระหน่ำในระยะนี้ได้อีก.-สำนักข่าวไทย

เตือนอีสานยังต้องรับมือฝนลมแรงตลอดสัปดาห์​

​

ภูมิภาค 3 พ.ค.- ศูนย์อุตุฯ อีสานตอนล่างเตือนยังมีฝนฟ้าคะนอง คาดไปถึง 9 พ.ค. ขณะที่อุบลฯ-บุรีรัมย์ฝนกระหน่ำบ้านเรือนหลายอำเภอ จนท.เร่งช่วยเหลือฟื้นฟู

ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง จ.อุบลราชธานี รายงานสภาพอากาศวันนี้ (3 พ.ค.) ว่า ยังมีอากาศร้อนกับฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และฝนฟ้าคะนองกระจายเป็นแห่ง ๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ พร้อมทั้งมีลมกระโชกแรงเป็นบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครราชสีมา บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 23.-26 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้มีความเร็ว 10-30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยสภาพอากาศยังคงเป็นเช่นนี้ไปถึงวันที่ 9 พ.ค.

สำหรับจังหวัดอุบลราชธานี วันนี้ พ.ท.ปภังกร หมื่นสา ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 6 ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ นำกำลังทหารพร้อมวัสดุก่อสร้างจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อบต.โพธิ์ใหญ่ เร่งซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ตำบลโพธิ์ใหญ่ อ.วารินชำราบ ซึ่งถูกพายุฤดูร้อนกระหน่ำวานนี้ (2 พ.ค.) เสียหาย 35 หลัง รวมทั้งยุ้งข้าวและคอกเลี้ยงวัว ส่วนใหญ่ถูกแรงลมพัดหลังคาหลุดออก นอกจากนี้ อ.เขมราฐ มีบ้านเรือนเสียหายเช่นกัน 5 หมู่บ้าน 32 หลังคาเรือน และโรงจอดรถของเทศบาลตำบลอีก 1 หลัง

เช่นเดียวกับ จ.บุรีรัมย์ ล่าสุดพายุกระหน่ำ 7 ตำบล 3 อำเภอ คือ อ.เมือง ห้วยราช และประโคนชัย บ้านเรือนเสียหายกว่า 70 หลัง บางหลังแรงลมได้พัดหลังคาปลิวไปติดอยู่บนเสาไฟฟ้า และทุ่งนา ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บ ขณะที่กำนันผู้ใหญ่บ้านเจ้าหน้าที่อาสาชุดคุ้มครองหมู่บ้าน (ชคบ.) และเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเร่งสำรวจพื้นที่เพื่อรายงานไปยังอำเภอและจังหวัดเร่งช่วยเหลือประชาชน

นายทแกล้ว นุศรีวอ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้มีบ้านเรือนถูกพายุพัดเสียหายกว่า 500 หลังคาเรือน และให้การช่วยเหลือแล้ว อีกทั้งช่วงนี้เป็นปลายฤดูร้อนยังคงมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ของพื้นที่ ให้ประชาชนเตรียมป้องกันผลกระทบ.-สำนักข่าวไทย

ชาวบ้านนครพนม ผวาพบเสือกลางป่าชุมชน​

​

นครพนม 2 พ.ค. – นายวีระ ฤกษ์วาริชย์กุล นายอำเภอท่าอุเทน จ.นครพนม พร้อมด้วยนายเชิดพันธ์ ผลวิเชียร ปลัดอำเภอหน้าฝ่ายความมั่นคง และเจ้าหน้าที่ด่านตรวจสัตว์ป่านครพนม ฝ่ายปกครอง และ อส. ลงพื้นที่รอยต่อระหว่าง ต.ท่าอุเทน กับ ต.โนนตาล อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังได้รับแจ้งจาก ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 บ้านน้อยหัวบึง ว่ามีชาวบ้านพบเห็นเสือขนาดใหญ่ขณะเข้าไปหาของป่าบริเวณป่าชุมชน เนื้อที่กว่า 500 ไร่ ทำให้ชาวบ้านพากันแตกตื่นและหวาดผวา

ด้านนายรัฐวุฒิ มณีลุน ชาวบ้านน้อยทวย เล่าว่า เมื่อ 2 -3 วันที่ผ่านมา เข้าไปเก็บของป่า และพบเสือขนาดใหญ่ สีเหลืองลายสีดำ สูงเกือบถึงเอว ยาวประมาณ 1 เมตร นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านอีก 2 -3 คน ออกมายืนยันว่าก่อนหน้านี้พบรอยเท้าเสือและเศษซากไก่ สัตว์ป่า บริเวณป่าดังกล่าวเช่นกัน ทำให้ไม่กล้าเข้าไปหาของป่า เรียกร้องให้หน่วยงานเกี่ยวข้องออกมาตรวจสอบช่วยเหลือ

ขณะที่นายอำเภอท่าอุเทน ระบุว่า หลังจากระดมเจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ทำให้เชื่อว่ามีโอกาสเป็นไปได้สูงที่จะมีเสืออยู่ในป่า เพราะพื้นที่ป่าบริเวณนี้ติดกับชายแดนไทย-ลาว เสืออาจข้ามมาหากินในช่วงหน้าแล้ง ขณะนี้อยู่ระหว่างหารือกับหน่วยงานเกี่ยวข้องเพื่อวางแผนเข้าไปตรวจสอบจุดที่พบร่องรอยอีกครั้ง แต่ต้องประสานเจ้าหน้าที่มีความชำนาญ เนื่องจากป่าหนาทึบ อีกทั้งต้องเดินเท้าเข้าไปลึกประมาณ 1 กิโลเมตร ประกาศเตือนให้ชาวบ้านเพิ่มความระมัดระวัง งดเข้าไปหาของป่าชั่วคราว เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น. – สำนักข่าวไทย

ที่มา เว็บไซต์สำนักข่าวไทย

 

สารคดี เจาะลึกพลังแห่งหายนะ ตอน แผ่นดินไหว​

เผยแพร่เมื่อ 3 ต.ค. 2014​

 

รายการพิเศษ "แผ่นดินไหว ประเทศเนปาล"​

เผยแพร่เมื่อ 26 เม.ย. 2015​

 

เปิดปม : ปริศนาควันครอบเมือง​

เผยแพร่เมื่อ 27 เม.ย. 2015​

หาของป่า ล่าสัตว์ และ พืชเชิงเดี่ยวแบบเกษตรอุตสาหกรรม ต่างตกเป็นจำเลยว่าเป็นสาเหตุของหมอกควัน ปัญหาเรื้อรังที่คุกคามภาคเหนือมานานนับสิ­บปี แต่ถึงที่สุดแล้ว ต้นเหตุของหมอกควัน อาจมาจากนโยบายรัฐที่ส่งเสริมการปลูกพืช เชิงเดี่ยวเต็มพื้นที่หรือไม่ เปิดปม หาคำตอบจากปากคำของทุกฝ่าย ที่เกี่ยวข้องรวมถึงซีพี ยักษ์ใหญ่แห่งวงการเกษตรอุตรสาหกรรม ที่ตกเป็นจำเลยสังคมเช่นกัน

ติดตามชมรายการ เปิดปม วันจันทร์ที่ 27 เมษายน 2558 เวลา 20.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง www.thaipbs.or.th/Live

 

คนเบิกทาง : บุกภูเขาไฟคาวาอีเจียน​

เผยแพร่เมื่อ 18 ส.ค. 2014​

เสี่ยงชีวิต! ไปกับคนเบิกทาง พาคุณไปบุก #‎ภูเขาไฟคาวาอีเจียน ขณะกำลังประทุ! ในประเทศอินโดนีเซีย ตามด้วยการเหยียบเปลวไฟสีน้ำเงินของลาวา ที่ถือว่าเป็นส่วนที่ร้อนที่สุด จะสวยและอันตรายขนาดไหน

 

คนเบิกทาง : เปิดหลังคาโลก มุ่งสู่วิถีคนเนปาล​

เผยแพร่เมื่อ 7 ต.ค. 2014​

คนเบิกทาง จันทร์นี้ ในวิถีแห่งคนเนปาล เดินทางข้ามผ่านความวุ่นวายมุ่งสู่วิถีที่­ยังคงอยู่ บนพื้นที่ปิดหลังคาโลก ในวิถีชาวเนวารี ผู้ที่อยู่บนต้นกำเนิดของสายน้ำแห่งหิมาลั­ย จุดกำเนิดของคำว่า "พระแม่คงคา” แล้วคุณจะรู้ว่า สายน้ำคือแหล่งกำเนิดของชีวิต ติดตามชมความตื่นเต้นเรื่องราวอันน่าสนใจ ในรายการ คนเบิกทาง สารคดีสุดโต่งที่จะพาคุณเบิกทางในแบบที่คุ­ณไม่ควรพลาด! วันจันทร์ที่ 6 ตุลาคมนี้ เวลา 23.15 - 00.15 น. ทาง ไทยรัฐทีวี

 

คนเบิกทาง : เบิกทางสู่ดินแดนมหัศจรรย์แห่งขุนเขาหิมาลัย​

เผยแพร่เมื่อ 27 เม.ย. 2015​

เชอร์ปาชนเผ่าที่อาศัยอยู่ที่สูงเขตหลังคา­โลก บนดินแดนแห่งหิมาลัย ที่อาศัยจามรีเป็นเพื่อนคู่ชีวิตมายาวนานน­ับพันปี ชีวิตที่ผูกพันระหว่างคนกับสัตว์ 4 เท้า เขาอยู่รวมกัน กับการใช้ชีวิตตามแนวความเชื่ออย่างไร ร่วมเบิกทางไปบนหลังคาโลกกับชาวเชอร์ปาผู้­รักสงบใน คนเบิกทาง วันจันทร์ 27 เมษายน ห้าทุ่มถึงเที่ยงคืน ‎ทางไทยรัฐทีวี

 

คนเบิกทาง : เบิกทางสู่ป่ากลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดประเทศลาว​

เผยแพร่เมื่อ 14 เม.ย. 2015​

คนเบิกทาง:เบิกทางสู่ป่ากลางเมืองที่ใหญ่ท­ี่สุดประเทศลาว 13 เมษายน 58 คนเบิกทางออกอากาศ ทุกวันวันจันทร์เวลา 23.15 - 00.15 น. ทางช่องไทยรัฐทีวี

 

คนเบิกทาง : ตะลุย 'ฟุกุชิมะ' แดนอีสานของญี่ปุ่น​

[ame]http://www.youtube.com/watch?v=iKQLRr0djrM[/ame]
[ame]http://www.youtube.com/watch?v=3VikVuvM5Xs[/ame]
[ame]http://www.youtube.com/watch?v=LuBMXCkM4OI[/ame]
[ame]http://www.youtube.com/watch?v=LTqnaALiimc[/ame]

เผยแพร่เมื่อ 22 ก.ย. 2014​

หนีความวุ่นวายของมหานครโตเกียว ไปเบิกทางจังหวัดฟูกุชิมะ ดินแดนอีสานของประเทศญี่ปุ่น จะเหมือนหรือแตกต่างกับภาคอีสานของประเทศไ­ทยหรือไม่? พร้อมไปเรียนรู้วิถีชาวสวนลูกพีช มีวิธีปลูกอย่างไรให้ได้ลูกพีชแสนอร่อย หวานฉ่ำ หาคำตอบได้ในรายการ "คนเบิกทาง"

 

คนเบิกทาง : พลิกแผ่นดินญี่ปุ่น..หลัง "มหาภัยพิบัติสึนามิ"​

เผยแพร่เมื่อ 15 ก.ย. 2014​

กว่า 3 ปีแล้ว ที่ สึนามิ เหตุการณ์ที่เข้ามาทำลายความสุขของคนญี่ปุ­่น มหาภัยพิบัติที่เกิดขึ้นใช่ว่าจะทำให้คนที­่นี่ยอมแพ้ และ หมดหวังพวกเค้าร่วมกันกู้ซากชีวิตที่ถูกทิ­้งร้างมานาน เราไปดูการพลิกแผ่นดินของคนญี่ปุ่นให้กลับ­มามีลมหายใจอีกครั้ง ท่ามกลางกลิ่นของกัมมันตภาพรังสีที่ตกค้าง­อยู่ ติดตามได้ในรายการ คนเบิกทาง สารคดีสุดโต่งที่จะพาคุณเบิกทางในแบบที่คุ­ณไม่ควรพลาด!

 

คนเบิกทาง : เบิกทางสู่แดนมังกร ขึ้นเทือกเขาซงซาน​

เผยแพร่เมื่อ 31 ต.ค. 2014​

 

คนเบิกทาง : ตำนาน "กังฟูเส้าหลิน" ​

เผยแพร่เมื่อ 3 พ.ย. 2014​

ตำนานกังฟูเส้าหลิน ศิลปะการต่อสู้อันลือเลื่องของจีน...เกิดข­ึ้นโดย "ปรมาจารย์ตั๊กม้อ” เป็นผู้คิดค้นเพลงมวยและกังฟูขึ้นมาเพื่อใ­ห้บรรดาหลวงจีนได้ฝึกฝนเพื่อลดความเมื่อยล­้าหลังจากการนั่งสมาธินานๆ และที่นี่ถือเป็นจุดกำเนิดของกังฟูในประเท­ศจีนด้วยนะครับ ร่วมเบิกทางเรียนรู้ฝึกกังฟูเส้าหลิน พร้อมกันคืนนี้ ใน "คนเบิกทาง"

 

คนเบิกทาง : เปิดประตูสู่แขวง "พงสาลี" แดนเหนือสุดของประเทศลาว​

เผยแพร่เมื่อ 24 พ.ย. 2014​

เปิดประตูเหนือสุดสู่พงสาลี แดนเหนือสุดของ­ประเทศลาว คนเบิกทางอัศจรรย์เปิดประตูสู่แข­วงพงสาลี พงสาลีเป็นแขวงอยู่บนเหนือสุดของป­ระเทศลาว มีชายแดนติดกับประเทศจีนและเวียดน­าม เป็นส่วนหนึ่งของแคว้นสิบสองปันนาประเทศ­จีน ในแขวงพงสาลีตั้งอยู่ใจกลางภูเขาเยอะที­่สุดในประเทศลาว ล้อมรอบด้วยภูเขาจึงทำให้ม­ีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี

ความหลากหลายทางเ­ชื้อชาติมีชนเผ่ามากกว่า 23 ชนเผ่า และใช้ภาษาพูดที่แตกต่างกันมีมนต์เสน่ห์ทา­งวัฒนธรรม และธรรมชาติในพงสาลีที่ไม่เหมือนใคร ถึงแม้ด้วยชนเผ่า วัฒนธรรม ภาษาพูดเค้าที่แตกต่างกันแต่พวกเค้าก็สามา­รถอยู่ร่วมกันอย่างมีน้ำใจ และสามัคคีคนเบิกทาง ติดตามรายการ "คนเบิกทาง"

 

คนเบิกทาง : ตามรอยวิถีชีวิต ชนชาติกระเหรี่ยง “ปกาเกอะญอ”​

เผยแพร่เมื่อ 16 ก.พ. 2015​

เบิกทางสู่ดินแดนชายขอบ ของประเทศไทย อาณาจักรแห่งฤาษี ต.เลตองคุ อ.อุ้มผาง จ.ตาก ค้นหาและเรียนรู้ วิถีแห่งธรรม วิถีแห่งธรรมชาติ ของชนชาติกระเหรี่ยง ที่เรียกตัวเองว่า ปกาเกอะญอ ตามรอยหมอชาวบ้าน หมอสนาม หมอตำรวจตระเวนชายแดน ในการต่อสู้กับโรคมาลาเรีย สัมผัสชีวิตเหล่าตำรวจตระเวนชายแดน ผู้กล้า ผู้เสียสละ แห่งเลตองคุ ผู้นำความสงบสุขมาสู่พื้นที่ห่างไกล แล้วคุณจะรู้ว่า ผู้เสียสละ อดทน ดำรงตนอย่างมีเกียรติ ยังมีอยู่จริงในประเทศไทยร่วมเบิกทางไปกับ­เรา

 

คนเบิกทาง - สู่วิถีชีวิตประเทศพม่า ​

เผยแพร่เมื่อ 24 ก.พ. 2015​

คนเบิกทาง- สู่วิถีชีวิตประเทศพม่า 23 กุมภาพันธ์ 2558 FULL
คนเบิกทางออกอากาศ ทุกวันวันจันทร์เวลา 23.15 - 00.15 น. ทางช่องไทยรัฐทีวี

 

คนเบิกทาง : ศูนย์รวมชนเผ่าเมืองซาปา ประเทศเวียดนาม​

เผยแพร่เมื่อ 29 ธ.ค. 2014​

ร่วมเบิกทางสู่เมืองซาปา ดินแดนแห่งขุนเขา ลมหนาวและสายหมอก ศูนย์รวมของชนเผ่าหลากลายชาติพันธุ์ในประเ­ทศเวียดนาม เดินทางด้วยมอเตอร์ไซค์ จากฮานอยสู่เมืองซาปา ระยะทาง 350 กิโลเมตร สัมผัสกับความหนาวสุดขั้ว บนเส้นทางของชนเผ่าในซาปา ดินแดนหลังยุคอาณานิคมฝรั่งเศส เรียนรู้และเข้าใจกับการปรับตัวของชนเผ่าด­ั่งเดิมไปสู่สังคมยุคใหม่ ลงแช่น้ำยาสมุนไพรกว่า 120 ชนิด ภูมิปัญญาของชนเผ่าตาฟินค้นหาความลับ และที่มาของยาสมุนไพร บนยอดเขาสูงที่ปกคลุมไปด้วยหมอกและความเย็­นแล้วคุณจะรู้ว่า ชนเผ่าตาฟิน สามารถปรับตัว เข้ากับสังคมการเปลี่ยนแปลง ได้อย่างไร ติดตามรายการ คนเบิกทาง วันจันทร์ที่ 29 ธันวาคม 2557 เวลา 23.15-00.15 น. ทางไทยรัฐทีวี

 

‘เนปาล’ระทึกเขย่าซ้ำอีก 5.0 แมกนิจูด สั่งเผาศพทิ้งทันทีป้องกันโรคระบาด​

​

เนปาลผวา ปฐพียังเขย่าไม่หยุด ล่าสุดเกิดอาฟเตอร์ช็อกขนาด 5.0 แมกนิจูด ที่มีศูนย์กลางลึกลงใต้ดินแค่ 10 กม. ขณะที่ภารกิจค้นหาผู้รอดชีวิตจากแผ่นดินไหวมาครบสัปดาห์ ยังเดินหน้าต่อแม้ทางการเริ่มถอดใจ และมีคำสั่งหากเจอศพไร้ญาติระบุตัว ให้เผาทันที เหตุที่เก็บศพไม่เพียงพอ ส่วนชาวบ้านเริ่มลุกฮือ ไม่พอใจรัฐช่วยเหลือล่าช้า ด้านทูตพิเศษยูเอ็นแฉเหตุของบรรเทาทุกข์ยังไปไม่ถึงมือผู้ประสบภัยเพราะติดระบบศุลกากรที่สนามบิน วอนรัฐบาลแก้ไขด่วน ขณะเดียวกันกระทรวงวัฒนธรรมไทยเตรียมจัดทีมช่วยเหลือสำรวจและบูรณะโบราณสถานที่พังยับเยิน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเกาะติดสถานการณ์ในประเทศเนปาล หลังเผชิญกับเหตุแผ่นดินไหววิปโยค 7.8 แมกนิจูด ซึ่งถือเป็นครั้งรุนแรงในรอบกว่า 80 ปี โดยหลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตใต้ซากปรักหักพังที่เวลาล่วงเลยมาครบสัปดาห์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 6,621 ราย ผู้บาดเจ็บอีก 14,023 รายนั้น ต่อมาเมื่อวันที่ 2 พ.ค. ชาวเนปาลที่กำลังประสบชะตากรรมอันยากลำบาก ขาดแคลนทั้งอาหาร น้ำดื่ม และที่อยู่อาศัย ก็ต้องอกสั่นขวัญหายกันอีกครั้ง หลังเกิดอาฟเตอร์ช็อกขนาด 5.0 แมกนิจูด เมื่อเวลาประมาณ 12.35 น.ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งใกล้เคียงกับเวลาที่เกิดแผ่นดินไหวใหญ่ เมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยสำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาแห่งชาติสหรัฐฯหรือยูเอสจีเอส เปิดเผยว่าจุดศูนย์กลางของการเกิดอาฟเตอร์ช็อก อยู่ลึกลงไปใต้ดินเพียง 10 กิโลเมตร ห่างจากกรุงกาฐมาณฑุ ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 93 กิโลเมตร แต่เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหายเพิ่มเติม

ด้านนายลักษมี ปราสาท ธากัล รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยแห่งเนปาล แถลงข่าวว่าสถิติผู้เสียชีวิตจะยังเพิ่มสูงขึ้น เพราะยังมีผู้ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังตามเมืองต่างๆ อีกเป็นจำนวนมาก แต่ต้องยอมรับว่าโอกาสที่จะพบผู้รอดชีวิตใต้ซากปรักหักพังแทบไม่มีความเป็นไปได้ แม้หน่วยกู้ภัยจะมีความมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มความสามารถ แต่ญาติของเหยื่อแผ่นดินไหวอาจต้องเตรียมทำใจไว้เช่นกัน

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขในกรุงกาฐมาณฑุของเนปาลออกคำสั่งให้หน่วยกู้ภัยจัดการเผาศพผู้เสียชีวิต ซึ่งไม่มีญาติมาระบุตัว เพราะโรงพยาบาลไม่มีที่เก็บศพเพียงพอ ทำให้ต้องนำร่างผู้เสียชีวิตมาวางไว้ตามถนนจนศพเริ่มเน่าเปื่อยและส่งกลิ่นเหม็นคลุ้งไปทั่ว ขณะที่การเผาศพจะช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคต่างๆ ด้วย ขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยของรัฐบาลอินเดีย ซึ่งถูกส่งมาช่วยเหลือรัฐบาลเนปาลระบุว่าผู้เสียชีวิตที่ไม่มีญาติมาชี้ตัวอาจจะเป็นชาวอินเดียที่เดินทางเข้ามาทำงานในเนปาล

ส่วนนายเรนเซ ทีริงค์ เอกอัครราชทูตแห่งสหภาพยุโรป (อียู) ประจำเนปาล แถลงข่าวว่า ยังมีพลเมืองจากกลุ่มประเทศสมาชิกอียูราว 1,000 ราย หายตัวไปในเนปาล ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวที่เข้ามาปีนเขาที่เทือกเขาเอเวอเรสต์ ขณะที่รัฐบาลเนปาลระบุว่าพบศพชาวยุโรปเสียชีวิตจากแผ่นดินไหวแล้ว 12 ราย แต่ยังไม่อาจระบุสัญชาติของผู้เสียชีวิตได้ ส่วนรัฐบาลฝรั่งเศส อิตาลี สเปน และเนเธอร์แลนด์ ระบุว่าพลเมืองประเทศตนหายตัวไปในเนปาลรวมแล้ว 371 ราย และขณะนี้ยังไม่ทราบชะตากรรม

นอกจากนี้ องค์การยูนิเซฟแห่งสหประชาชาติได้แถลงเตือนว่าเด็กชาวเนปาลประมาณ 1.7 ล้านคนที่ตกเป็นเหยื่อแผ่นดินไหวและต้องอาศัยอยู่ในเต็นท์พักพิงชั่วคราวในพื้นที่ต่างๆ เสี่ยงต่อการติดโรคระบาดซ้ำซ้อน เพราะใกล้เข้าสู่ช่วงฤดูมรสุมของเนปาลในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า แต่อาหารและยารักษาโรคยังกระจายไปสู่พื้นที่ประสบภัยไม่ทั่วถึง ทำให้ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ด้านสุขภาพและอนามัยของผู้ประสบภัยเพิ่มเติม

ขณะที่นายสุชิล คอยราลา นายกรัฐมนตรีเนปาล ประกาศขอความช่วยเหลือจากนานาประเทศเพิ่มเติม โดยระบุว่าผู้ประสบภัยพิบัติยังต้องอาศัยอยู่ในเต็นท์พักพิงชั่วคราวในอีกประมาณ 3 เดือนต่อจากนี้ และยังต้องการความสนับสนุนด้านอาหาร ยารักษาโรค และน้ำสะอาด เพราะรัฐบาลยังไม่อาจฟื้นฟูระบบสาธารณูปโภคได้ในเวลาอันใกล้ และนายราม ชารัน มหัท รัฐมนตรีกระทรวงการคลังแห่งเนปาล ประเมินว่ารัฐบาลต้องใช้เงินราว 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 64 ล้านล้านบาท) ในการบูรณะซ่อมแซม ทั้งบ้านเรือน โรงพยาบาล สถานที่ราชการ รวมถึงโบราณสถานที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของเนปาล

ขณะเดียวกัน ผู้ประสบภัยในเมืองต่างๆ ที่อยู่ห่างไกลจากกรุงกาฐมาณฑุ ยังคงรวมตัวประท้วงกดดันเจ้าหน้าที่รัฐบาลให้เร่งดำเนินการช่วยเหลือและลำเลียงเสบียงอาหารเพื่อไปมอบให้แก่ผู้ประสบภัยอย่างทั่วถึง ขณะที่โฆษกของกองทัพสหรัฐอเมริกาแถลงว่า หน่วยนาวิกโยธินอเมริกัน 100 นาย พร้อมด้วยเรือรบ เครื่องบิน และเฮลิคอปเตอร์แบบขึ้นลงแนวดิ่ง 8 ลำได้เข้าช่วยเหลือรัฐบาลเนปาลในการลำเลียงความช่วยเหลือไปให้แก่ผู้ประสบภัยตามพื้นที่ในหุบเขาต่างๆ ซึ่งถูกตัดขาดจากโลกภายนอก รวมถึงพื้นที่บริเวณเทือกเขาเอเวอเรสต์ ซึ่งประสบภัยหิมะถล่ม

อย่างไรก็ดี นายเจมี แม็คโกลด์ริค ทูตพิเศษสหประชาชาติหรือยูเอ็น เปิดเผยในเวลาต่อมาถึงสาเหตุที่สิ่งของบรรเทาทุกข์จากนานาชาติยังไปไม่ถึงมือผู้ประสบภัยในขณะนี้ว่า เนื่องจากของไปติดอยู่ที่ด่านศุลกากรในสนามบินนานาชาติกรุงกาฐมาณฑุ รัฐบาลเนปาลไม่ควรที่จะใช้ระบบศุลกากรอยู่ เพราะสถานการณ์ในขณะนี้อยู่ในช่วงวิกฤติ ควรรีบกระจายของไปให้ถึงมือชาวบ้านโดยเร็วที่สุดได้แล้ว

แต่ต่อมา นายราม ชารัน มหัท รมว.คลังเนปาล ได้ออกแถลงการณ์ว่า ขอเรียกร้องให้นานาชาติส่งสิ่งของจำพวกเต็นท์ ผ้าใบกันน้ำ และอาหารพื้นฐานอย่างข้าว เกลือ น้ำตาล มาเท่านั้น เพราะว่าของจำนวนมากที่ได้รับบริจาคมานั้นไม่มีความจำเป็นอย่างปลาทูน่า หรือมายองเนส เราจะเอาไปใช้ทำอะไรได้ อย่างไรก็ตาม นายมหัทปฏิเสธที่จะให้ความเห็นว่าทำไมสิ่งของบรรเทาทุกข์ยังคงติดค้างอยู่ที่ด่านศุลกากรสนามบิน ขณะที่เจ้าหน้าที่เนปาลฝ่ายดูแลเรื่องการแจกจ่ายอาหารประทังชีพ เปิดเผยว่า นอกจากปัญหาคอขวดที่ด่านศุลกากรแล้ว ก็ยังมีปัญหาคอขวดเรื่องการลำเลียงสิ่งของด้วย เนื่องจากรถบรรทุกและคนขับไม่เพียงพอ ซึ่งจากปัญหาการบริหารและกระจายของบรรเทาทุกข์นี้ ทำให้พลจัตวาพอล เคนเนดี้ สังกัดนาวิกโยธินสหรัฐฯ เปิดเผยว่าเครื่องบินทหาร 4 ลำ และเฮลิคอปเตอร์ 2 ลำ จะเดินทางมาถึงเนปาลในเร็วๆนี้ พร้อมกับนาวิกโยธิน 100 นาย และเครื่องจักรสำหรับยกของหนัก ซึ่งภารกิจนอกเหนือจากการเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว กองทัพสหรัฐฯก็จะเข้ามาช่วยเรื่องบริหารจัดการเสบียงสิ่งของบรรเทาทุกข์ที่ยังคงหลั่งไหลเข้ามาต่อเนื่อง ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

วันเดียวกัน สำนักข่าวเอเอฟพียังรายงานถึง “กุมารี” หรือเทพธิดาผู้มีชีวิต ที่ชาวเนปาลเชื่อว่าเป็นเทวีทาเลจูมา จุติมาเกิด และชาวเนปาลเคารพนับถือเป็นอย่างมาก ว่ารอดชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้เช่นกัน โดยนางเดอร์กา สากยา วัย 55 ปี ผู้ทำหน้าที่ดูแลกุมารี ได้ออกมาเปิดเผยว่า ตอนเกิดแผ่นดินไหวนั้น ทั้งวัดโบราณและรูปปั้นรอบๆวังขององค์กุมารี ที่จัตุรัสดูร์บาร์ในกรุงกาฐมาณฑุ ต่างพังถล่มหักโค่นลงมาจนฝุ่นควันฟุ้งไปทั่วบริเวณ แต่น่าแปลกที่วังขององค์กุมารีเองกลับมีรอยแตกเพียงเล็กน้อย ขณะที่ข้าวของภายในก็ยังอยู่ที่เดิมไม่มีอะไรหล่นแตกเสียหาย จึงเชื่อว่าองค์กุมารีได้คุ้มครองพวกเราอยู่ และองค์กุมารีปัจจุบัน ซึ่งมีอายุเพียง 9 ขวบ ก็ไม่ได้รู้สึกตื่นกลัวแม้แต่น้อย ทั้งนี้ ผู้จะเป็น “กุมารี” ได้รับการคัดสรรจะเลือกเด็กสาวพรหมจรรย์ที่มีรูปร่างลักษณะตรงเงื่อนไข มารับตำแหน่งและอาศัยอยู่ในวังกุมารีที่เรียกว่าการ์ ก่อนจะพ้นจากตำแหน่งเมื่อมีประจำเดือน หรือได้รับบาดแผลเลือดออกมาก เพราะเชื่อกันว่าการเสียเลือดออกจากร่างกายจะถือว่าไม่บริสุทธิ์อีกต่อไป

นอกจากนี้ ท่ามกลางความโศกเศร้าและลุ้นวันต่อวันในการพบตัวผู้รอดชีวิต ซึ่งสื่อต่างประเทศรายงานว่าหน่วยกู้ภัยและบุคลากรทางการแพทย์จาก 22 ประเทศทั่วโลก ที่เข้ามาช่วยเหลือรัฐบาลเนปาลยังคงปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขัน และก็ยังมีเรื่องน่ายินดี เมื่อวันที่ 30 เม.ย. หน่วยแพทย์จากประเทศอิสราเอลได้ทำคลอดทารกเพศหญิงที่ศูนย์แพทย์ฉุกเฉินในกรุงกาฐมาณฑุ โดยพ่อและแม่ของเด็กคือ นายฮาเรียนเดอร์ ชาน และนางลาตา ชาน ชาวเนปาล ระบุว่าการถือกำเนิดของลูกสาวท่ามกลางเหตุภัยพิบัติคือความหวังที่ทำให้พวกเขาต้องการมีชีวิตอยู่ต่อไป และแพทย์ระบุว่าถือเป็นเรื่องที่โชคดีมากที่นางลาตา ชาน สามารถคลอดบุตรได้อย่างปลอดภัย เพราะมีหญิงตั้งครรภ์จำนวนมากที่สูญเสียเด็กในท้องไปในช่วงเกิดเหตุแผ่นดินไหว

ด้านความช่วยเหลือจากไทย นอกจากเงินบริจาคและสิ่งของจำเป็น ทั้งเวชภัณฑ์ อาหาร น้ำสะอาด เต็นท์ ผ้าห่ม ฯลฯ ที่ทยอยจัดส่งไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเนปาลแล้ว นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม กล่าวเมื่อวันที่ 2 พ.ค.ว่า ความเสียหายที่เกิดจากภัยพิบัติแผ่นดินไหวเนปาล ส่งผลกระทบต่อโบราณสถาน มรดกโลก และศาสนสถานใน 3 เมืองหลัก ได้แก่ จัตุรัสดูร์บาร์ สถูปโพธินาถ หอธราหาร ในกรุงกาฐมาณฑุ รวมถึงวิหารและศาสนสถานฮินดูเก่าแก่ ในเมืองปักตะปูร์ และเมืองปาตัน ซึ่งทั้งหมดถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลักที่สร้างรายได้ให้กับประเทศเนปาล ทั้งนี้ ตนได้มอบหมายให้นายบวรเวท รุ่งรุจี อธิบดีกรมศิลปากร เตรียมจัดตั้งคณะทำงานในนามทีมไทยแลนด์ ซึ่งประกอบด้วย อดีตอธิบดีกรมศิลปากร ผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้เชี่ยวชาญด้านงานโบราณคดี สถาปนิก วิศวกร นักวิทยาศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์ และนักประวัติศาสตร์– ศิลป์ เพื่อเข้าไปช่วยสำรวจความเสียหายของโบราณสถาน รวมถึงให้การสนับสนุนช่วยเหลือการจัดทำแผนการบูรณะ และอนุรักษ์ ภายหลังจากที่ประเทศเนปาลจัดการฟื้นฟูเมือง และวิถีชีวิตของผู้ประสบภัยแล้ว โดย วธ.จะประสานงานไปยังกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อขอรายละเอียดข้อมูลเบื้องต้นของความเสียหายที่เกิดขึ้น จากนั้นจะนำเสนอขอความเห็นต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาต่อไป

ขณะที่นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์กรณีมีข่าวว่านายวุตติ วุตติสันต์ เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาลไม่สบายว่า ได้รับแจ้งจากท่านทูตวุตติว่ามีอาการเจ็บคอ และไอเนื่องจากอากาศเปลี่ยน และเจ็บเล็กน้อยที่เล็บ จึงให้แพทย์ทหารที่มาร่วมปฏิบัติการบรรเทาทุกข์ให้กับชาวเนปาลหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวตรวจร่างกายให้ แพทย์จึงจ่ายยาแก้แพ้อากาศให้ทานเพื่อบรรเทาอาการป่วยแล้ว ทั้งนี้ ในส่วนของการให้ความช่วยเหลือคนไทยในเนปาลที่อาจจะประสบภัยและประสงค์จะเดินทางกลับประเทศนั้น ขณะนี้ไม่มีคนไทยแจ้งขอรับความช่วยเหลือเพิ่มเติมแล้ว แต่สถานเอกอัครราชทูตไทยยังคงเปิดศูนย์ช่วยเหลือที่ทำเนียบเอกอัครราชทูตไทยในกรุงกาฐมาณฑุต่อไป

นอกจากนี้ เมื่อช่วงเช้าวันเดียวกัน ที่วัดเทพลีลา ซอยรามคำแหง 39 นายอาคม จีรวงศ์ไกรสร บิดา น.ส.มารีสา หรือน้องอีฟ จีรวงศ์ไกรสร ผู้ช่วยแพทย์สาวไทยที่เสียชีวิตจากหิมะถล่มที่เทือกเขาเอเวอเรสต์หลังเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ในเนปาล เปิดเผยว่า ตนและเครือญาติ พร้อมเพื่อนๆอีฟ กว่า 100 คน ร่วมกันทำบุญอุทิศส่วนกุศลเนื่องในโอกาสครบรอบ 7 วันการจากไปของอีฟ ส่วนศพขณะนี้เก็บไว้ที่ รพ.สมิติเวช เพื่อรอลูกชายที่อยู่ต่างประเทศกลับมาวันที่ 4 พ.ค. ส่วนวันที่ 6 พ.ค.จะมีพิธีบำเพ็ญกุศลทางศาสนาคริสต์ ที่วัดมหาไถ่ และวันที่ 7 พ.ค.ทำพิธีตามศาสนาพุทธและมีพิธีฌาปนกิจในวันเดียวกัน ที่วัดแก้วแจ่มฟ้า สี่พระยา

โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 3 พ.ค. 2558

รอดปาฏิหาริย์! กู้ภัยเนปาลช่วยเฒ่าวัย 101 ปี ติดใต้ซากบ้านนาน 7 วัน​

​

เจ้าหน้าที่ของประเทศเนปาลสามารถช่วยเหลือผู้รอดชีวิต ที่ติดอยู่ได้ซากปรักหักพังของอาคารบ้านเรือน ซึ่งพังถล่มลงมาเพราะแผ่นดินไหวเมื่อสัปดาห์ก่อนได้ 4 คน โดย 1 ในนี้ เป็นผู้เฒ่าอายุ 101 ปี…

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยของเนปาลช่วยเหลือนาย ฟันชู ตามัง อายุ 101 ปี ออกมาจากซากบ้านของเขาในเขต นูวาโกต ห่างจากกรุงกาฐมาณฑุ ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 80 กม. เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (2 พ.ค.) หลังถูกฝังทั้งเป็นนานกว่า 7 วัน นับตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหวระดับ 7.8 แมกนิจูดเมื่อ 25 เม.ย.

นายอรุน กุมาร สิงห์ เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่น เปิดเผยต่อสำนักข่าวเอเอฟพีว่า ผู้เฒ่าวัย 101 ปีรายนี้ ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยบริเวณข้อเท้าและที่มือ โดยขณะนี้เขาถูกนำตัวส่งยังโรงพยาบาลประจำเขตแล้ว และมีอาการทรงตัว

นอกจากนี้ ในวันอาทิตย์ (3 พ.ค.) ตำรวจเนปาลยังสามารถช่วยเหลือผู้หญิง 4 คนออกมาจากซากปรักหักพังในเขต สินธุปัลชอว์ก ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวมากที่สุดด้วย ในขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 7,250 ราย และผุ้บาดเจ็บเพิ่มเป็นมากกว่า 14,000 คนแล้ว

ด้านนาย ราม ชาราน มาฮัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของเนปาล ระบุว่า จำนวนผู้เสียชีวิตในเหตุแผ่นดินไหวจะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด เมื่อทีมกู้ภัยสามารถเข้าถึงหมู่บ้านบนภูเขาห่างไกล ซึ่งใกล้จุดศุนย์กลางแผ่นดินไหวมากที่สุด และเชื่อว่าบ้านเรือนส่วนใหญ่ถูกทำลายจนราบคาบ

ในวันเดียวกัน นายมเหนธรา สิงห์ ราวัล หัวหน้าสำนักงานการบินพลเรือนของเนปาลประกาศห้ามเครื่องบินขนาดใหญ่ น้ำหนักเกินกว่า 196 ตัน ลงจอดที่ท่าอากาศยานในกรุงกาฐมาณฑุอีกครั้ง หลังจากการจราจรอันแออัดที่สนามบินทำให้เกิดหลุมบนรันเวย์ แต่เครื่องบินขนาดกลางและขนาดเล็กจะยังสามารถลงจอดได้ตามปกติ โดยคำสั่งนี้จะมีผลจนกว่าการซ่อมแซมรันเวย์จะเสร็จสิ้น

รัฐบาลเนปาลยืนยันว่า คำสั่งของสำนักงานการบินพลเรือน จะไม่กระทบต่อความพยายามในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว และการขนส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 4 พ.ค. 2558

อึ้ง! อิตาลีเผยแค่ 2 วัน ช่วยผู้อพยพข้ามทะเลแล้ว 4,100 คน​

​

ปฏิบัติการช่วยเหลือจากนานาชาติในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน สามารถช่วยชีวิตผู้อพยพจากทวีปแอฟริกาได้มากถึง 4,100 คน ในเวลาเพียงแค่ 2 วัน ในขณะที่ประมาณผู้อพยพไปประเทศอิตาลีกำลังเพิ่มสูงขึ้น...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานตามการเปิดเผยของ หน่วยยามฝั่งและกองทัพเรือของประเทศอิตาลี ว่า เจ้าหน้าที่สามารถช่วยชีวิตผู้อพยพซึ่งพยายามนั่งเรือจากประเทศลิเบีย ข้ามทะเลเมดิเตอร์เรเนียนได้เกือบ 4,100 คน ระหว่างปฏิบัติการช่วยเหลือในช่วงวันเสาร์และอาทิตย์ที่ผ่านมา

เจ้าหน้าที่เผยอีกว่า ผู้อพยพซึ่งได้รับควมช่วยเหลือทุกคนถูกนำตัวขึ้นฝั่งในดินแดนต่างๆของอิตาลี เช่น เกาะลัมเปดูซา, เกาะซิซิลี และเมืองตราปานี อีกด้านหนึ่ง เจ้าหน้าที่ในประเทศอียิปต์ระบุว่า มีผู้อพยพเสียชีวิต 3 ราย ในช่วงที่เรืออพยพลำหนึ่งอับปาง ขณะพยายามเดินทางออกจากชายฝั่งเพื่อมุ่งไปยังประเทศกรีซ

ทั้งนี้ ความสับสนวุ่นวายและไร้กฎหมายที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆในประเทศลิเบีย จากสถานการณ์ความไม่สงบ เปิดช่องให้เกิดการค้ามนุษย์และการลักลอบย้ายถิ่นฐานอย่างกว้างขวาง โดยผู้ตกเป็นเหยื่อส่วนใหญ่คือผู้อพยพหนีความยากจนและเหตุความรุนแรงจากหลายพื้นที่ในทวีปแอฟริกาและภูมิภาคตะวันออกกลาง

เมื่อช่วงปลายเดือนเม.ย. เกิดเหตุเรืออพยพซึ่งบรรทุกผู้โดยสารเกินกำหนด อับปางในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 900 ราย เหตุการณ์นี้ส่งผลให้สหภาพยุโรป ยกระดับปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือทางทะเล เพื่อลดจำนวนผู้เสียชีวิต

อนึ่ง ตามการเปิดเผยของกระทรวงมหาดไทยอิตาลี เมื่อปี 2014 มีผู้อพยพเดินทางขึ้นฝั่งประเทศอิตาลีราว 30,000 คน แต่ในปีนี้ คาดว่าจะมีผู้อพยพเข้าเมืองมากถึง 200,000 คน

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 3 พ.ค. 2558

ปีติเจ้าหญิงเคท ประสูติพระธิดา รั้งรัชทายาทอันดับ4 ต่อจาก‘เจ้าชายจอร์จ’​

​

อังกฤษปลื้มปีติ “เจ้าหญิงเคท” พระชายาในเจ้าชายวิลเลียม ดยุคแห่งเคมบริดจ์ รัชทายาทลำดับที่ 2 แห่งราชวงศ์อังกฤษ ทรงมีพระประสูติกาลแล้ว เป็นพระธิดา ทรงมีน้ำหนักแรกคลอด 3.7 กก. ทรงมีพระพลานามัยสมบูรณ์ทั้งสองพระองค์ ขณะที่รัฐบาลอังกฤษเตรียมจัดพิธียิงปืนสลุตเฉลิมฉลอง 103 นัด และประดับธงชาติตามอาคารที่ทำการของรัฐ ขณะเดียวกันเริ่มคาดการณ์ถึงพระนามของพระธิดาน้อย รวมถึง “ไดอานา” พระนามของพระมารดาเจ้าชายวิลเลียม

หลังจากที่คนอังกฤษรอคอยข่าวดี นับตั้งแต่มีการแถลงข่าวการตั้งพระครรภ์ของแคทเธอรีน ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ พระชนมายุ 33 พรรษา หรือ “เจ้าหญิงเคท” พระชายาในเจ้าชายวิลเลียม ดยุคแห่งเคมบริดจ์ รัชทายาทลำดับที่ 2 แห่งราชวงศ์อังกฤษ เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2557 ที่ผ่านมา ในที่สุดเมื่อวันที่ 2 พ.ค. พระตำหนักเคนซิงตันของอังกฤษ ออกแถลงการณ์ระบุ เจ้าหญิงเคทที่เสด็จพร้อมเจ้าชายวิลเลียม พระสวามี โดยรถยนต์พระที่นั่งไปประทับที่อาคารฝั่งลินโด วิง ที่เป็นแผนกผดุงครรภ์ของโรงพยาบาลเซนต์แมรี ในย่านแพดดิงตัน กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อเวลา 06.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นหรือตรงกับเวลาประมาณ 12.00 น. วันเดียวกันตามเวลาในไทย เพื่อทรงมีประสูติกาลทายาทพระองค์ที่ 2 ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเดียวกับที่เจ้าชายวิลเลียมประสูติเช่นเดียวกับเจ้าชายจอร์จ อเล็กซานเดอร์ หลุยส์ พระโอรสองค์โตในเจ้าชายวิลเลียม และดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ เมื่อวันที่ 22 ก.ค. 2556

ขณะที่ทัพสื่อมวลชนและกลุ่มคนที่จงรักภักดีราชวงศ์อังกฤษได้มารวมตัวกันที่หน้าอาคารฝั่งลินโด วิง ของโรงพยาบาลเซนต์แมรี เพื่อติดตามข่าวพระประสูติกาลองค์พระทายาทพระองค์ใหม่ ซึ่งเดิมคาดว่าจะทรงมีพระประสูติกาลเมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา ตามกำหนดพระครรภ์ของดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ ซึ่งต่อมาพระตำหนักเคนซิงตันแถลงเพิ่มเติมผ่านเว็บไมโครบล็อก “ทวิตเตอร์” ว่า เจ้าหญิงเคททรงมีพระประสูติกาลรัชทายาทองค์ใหม่แล้ว เป็นพระธิดา เมื่อเวลา 08.34 น.ตามเวลาท้องถิ่นหรือประมาณ 14.34 น.ตามเวลาในไทย โดยพระธิดาทรงมีน้ำหนักแรกคลอด 8 ปอนด์ 3 ออนซ์ หรือประมาณ 3.7 กิโลกรัม มีสุขภาพแข็งแรงดีทั้งเจ้าหญิงเคทและพระธิดาองค์น้อย โดยเจ้าชายวิลเลียมที่ทรงลาราชการในฐานะนักบินหน่วยฉุกเฉินประจำกองทัพอังกฤษตั้งแต่วันที่ 21 เม.ย. ได้ประทับอยู่ในห้องทรงคลอดกับพระชายาดังเช่นที่ทรงปฏิบัติเมื่อครั้งเจ้าชายจอร์จประสูติ แถลงการณ์ระบุด้วยว่าเหล่าสมาชิกราชวงศ์ระดับสูงของอังกฤษต่างทรงปีติยินดีเป็นอย่างยิ่งกับข่าวพระประสูติกาลพระธิดาองค์น้อย

โดยทันทีที่มีการแถลงข่าวมงคลออกมาเป็นทางการ กลุ่มคนที่มารอที่หน้าอาคารฝั่งลินโด วิงของโรงพยาบาลเซนต์แมรี ต่างส่งเสียงโห่ร้องด้วยความยินดี หลายคนพากันร้องเป็นเพลงว่าพวกเราได้พระธิดาๆ ขณะที่ผู้ติดตามข่าวราชวงศ์อังกฤษคนหนึ่งเผยด้วยความปลาบปลื้มว่ารู้สึกยินดีอย่างมาก เจ้าชายวิลเลียมและเจ้าหญิงไดอานา (พระมารดาของเจ้าชายวิลเลียม) ผู้ล่วงลับ ต่างต้องการพระธิดาและคิดว่าเป็นเรื่องดีที่เจ้าชายจอร์จจะมีพระขนิษฐา

ทั้งนี้ เจ้าชายวิลเลียมและพระชายา จะเสด็จไปประทับที่พระตำหนักเคนซิงตันในกรุงลอนดอนระยะหนึ่งหลังจากคณะแพทย์ยินยอมให้เสด็จออกจากโรงพยาบาล แต่จะยังไม่มีการประกาศพระนามทายาทพระองค์ใหม่จนกว่าเจ้าชายวิลเลียมและพระชายาจะเสด็จกลับไปประทับยังตำหนักซานดริงตัน ในเมืองนอร์ฟอล์ก ทางตะวันออกอังกฤษ

ด้านพระธิดาองค์น้อย จะได้เป็นรัชทายาทลำดับที่ 4 ในการสืบสันตติวงศ์ราชวงศ์วินด์เซอร์ของอังกฤษ ต่อจากเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ พระอัยกา (ปู่) เจ้าชายวิลเลียม ผู้เป็นพระบิดา และเจ้าชายจอร์จ พระเชษฐา ตามลำดับ ส่วนเจ้าชายแฮร์รี พระอนุชาของเจ้าชายวิลเลียม ต้องเลื่อนลำดับองค์รัชทายาทลงมาเป็นลำดับที่ 5 ตามที่มีการเปลี่ยนกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ใหม่ของอังกฤษและมีผลบังคับเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งให้สิทธิ์พระธิดาเป็นผู้สืบสันตติวงศ์ได้เหมือนพระโอรส

ขณะที่รายงานข่าวระบุว่า นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้ทวีตข้อความถวายพระพรเจ้าชายวิลเลียมและพระชายา ในการทรงมีพระ ประสูติกาลพระธิดา ตั้งแต่ช่วงเช้า และรัฐบาลอังกฤษจะทำพิธียิงสลุตเฉลิมฉลองพระประสูติกาล โดยยิงสลุต 62 นัดจากหอคอยลอนดอน และยิงสลุตอีก 41 นัด จากกรีนพาร์ก พร้อมทั้งมีการประดับธงชาติยูเนียนแจ็คตามอาคารและสถานที่ราชการต่างๆทั่วประเทศ ซึ่งรัชทายาทพระองค์ใหม่จะทรงเข้าพิธีรับศีลจุ่ม ซึ่งประกอบพิธีโดยอาร์คบิชอพ ประมุขคริสตจักร นิกายแองกลิคัน แห่งอังกฤษ หลังจากทรงได้รับการถวายพระนามอย่างเป็นทางการ ส่วนพระนามที่ได้รับการคาดหมายและมีการพนันว่าจะเป็นพระนามขององค์รัชทายาทพระองค์ใหม่มากสุดกรณีเป็นธิดา คือ อลิซ ชาร์ล็อตต์ อลิซาเบธ วิคตอเรีย และไดอานา ตามลำดับ

โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 3 พ.ค. 2558

ที่มา ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

คนตราดตื่น!! เห็ดยักษ์ หนัก 10 กิโลกรัม ลาภปาก นำไปทำกับข้าว​

​

ฮือฮา!! เห็ดโคนยักษ์ ใน ต.หนองบอน อ.บ่อไร่ จ.ตราด เส้นผ่าศูนย์กลาง 12 นิ้ว ชาวบ้านยันสามารถนำมาทำอาหารรับประทานได้...

วันที่ 3 พ.ค. 58 มีรายงานว่า มีผู้พบเห็ดขนาดใหญ่ อ้างว่า สามารถรับประทานได้ ในพื้นที่ ต.หนองบอน อ.บ่อไร่ จ.ตราด โดยเห็ดดังกล่าวถูกเก็บไว้ในบ้านเลขที่ 18/1 หมู่ที่ 4 ต.หนองบอน อ.บ่อไร่ จังหวัดตราด ซึ่งเป็นของนายผาสุก พูลพิพัฒน์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.4 ต.หนองบอน โดยเป็นเห็ดดอกขนาดใหญ่ ชื่อเห็ดโคนตีนช้าง มีเส้นผ่าศูนย์กลาง ประมาณ 12 นิ้ว วางอยู่ในอ่างพลาสติกสีฟ้าหน้าบ้าน จำนวน 6-7 ดอก

นายผาสุก เผยว่า เห็ดดังกล่าวได้มีแรงงานกัมพูชา ซึ่งเป็นลูกจ้างกรีดยางอยู่แถวบ้านไปพบเห็ดนี้ ที่มีดอกขนาดใหญ่ บริเวณสวนปาล์มแห่งหนึ่งในพื้นที่ แต่คนงานคนดังกล่าวไม่รู้จักว่าเป็นเห็ดอะไร แต่ด้วยความแปลกที่มีขนาดใหญ่และอยู่รวมกันเป็นกอๆ จึงได้ขุดมาให้กับตนเอง เมื่อตนเห็นก็รู้ว่าเห็ดดังกล่าวเป็นเห็ดโคนตีนช้าง เพราะตนรู้จักและเคยเห็นมาก่อน และเมื่อตนนับก็พบว่าเห็ดกอดังกล่าวมีเห็ดขนาดใหญ่อยู่จำนวน 13 ดอก ซึ่งมีน้ำหนักรวมกันมากกว่า 10 กิโลกรัม ซึ่งแรงงานกัมพูชาที่พบไม่กล้านำไปรับประทาน และคนในหมู่บ้านส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะรู้จักเห็ดชนิดนี้มากนักเพราะค่อนข้างหายาก ส่วนใหญ่จะเป็นคนเก่าแก่จึงจะเคยพบ เห็ดจำพวกนี้จะขึ้นในที่ที่มีความชื้นสูง และมีดินที่อุดมสมบูรณ์ และจะพบเพียงปีละครั้งเท่านั้น แต่หากพื้นที่หรือดินไม่สมบูรณ์เห็ดเหล่านี้จะไม่เกิด ซึ่งตนได้แจกจ่ายเห็ดดังกล่าวให้กับเพื่อนบ้านนำไปทำอาหารรับประทานบ้างแล้ว จึงเหลือแค่เพียง 7 ดอกเท่านั้น

ขณะที่ คุณยาย จำปา ชมพู่ อายุ 79 ปี เพื่อนบ้านที่นำเห็ดไปทำอาหาร กล่าวว่า ตนเคยกินเห็ดโคนตีนช้างมาก่อน ส่วนใหญ่จะนำไปผัด หรือแกงกะทิ คนรุ่นหลังอาจจะไม่รู้จักเห็ดชนิดนี้จึงไม่กล้านำไปกิน ซึ่งวิธีที่จะรู้ว่าเห็ดมีพิษหรือไม่มีพิษ เวลานำเห็ดไปต้มทำอาหารเวลาต้มให้นำข้าวสารใส่ลงไปด้วย ถ้าหากข้าวสารสุกแสดงว่าเห็ดนั้นไม่มีพิษ แต่ถ้าต้มแล้วข้าวสารไม่สุกก็แสดงว่าเห็ดชนิดดังกล่าวมีพิษ ไม่ควรรับประทาน นี่คือเป็นวิธีที่โบราณได้ทำกันมา

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 3 พ.ค. 2558

สาหร่ายพวงองุ่น เลี้ยงแขวนในบ่อดิน​

​

การเพาะเลี้ยง “สาหร่ายพวงองุ่น” ในอดีตเป็นเรื่องที่ซับซ้อนยุ่งยาก ให้ผลผลิตน้อย มิหนำซ้ำยังมีปัญหาเรื่องความสกปรกเกาะติดเป็นจำนวนมาก...แต่วันนี้ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งเพชรบุรีได้วางระบบการเพาะเลี้ยงแบบแขวนลอยในบ่อดิน ให้ผลผลิตมากและคุณภาพดี สามารถขยายไปเลี้ยงในเชิงพาณิชย์ได้แล้ว

“แต่เดิมการเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่นซึ่งเป็นสาหร่ายทะเลสีเขียว เม็ดกลมเล็กรวมกันเป็นช่อคล้ายกับพวงองุ่น บางคนก็เรียกว่า สาหร่ายไข่ปลาคาเวียร์ จะใช้วิธีเพาะเลี้ยงหลายรูปแบบ ทั้งในตู้ปลา บ่อซีเมนต์ และบ่อดิน ทุกวิธีล้วนแต่เพาะเลี้ยงบริเวณก้นตู้หรือก้นบ่อเป็นหลัก ปัญหาที่ตามมาก็คือความสกปรกทั้งหลายจะลงไปสะสมบริเวณก้นบ่อ และการเจริญเติบโตไม่สม่ำเสมอ ทิศทางการเติบโตเป็นไปในแนวตั้งทางเดียวเลยทำให้ปริมาณผลผลิตที่ได้ต่ำ

เราจึงเปลี่ยนวิธีการเพาะเลี้ยง มาเป็นแบบ การเลี้ยงโดยใส่ต้นพันธุ์ประมาณครึ่งกิโลกรัม ลงในตะกร้าแล้วนำไปแขวนลอยในบ่อดิน ใช้เวลาเลี้ยงนาน 6-8 สัปดาห์ จะได้สาหร่ายพวงองุ่นหนัก 8-10 กก. สามารถขายที่ปากบ่อ ได้ราคาสูงถึง กก.ละ 70 บาท”

​

น.ส.มนทกานติ ท้ามติ้น ผอ.ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งเพชรบุรี บอกอีกว่า แต่ถ้านำสาหร่ายพวงองุ่นที่เพาะเลี้ยงมาผ่านกระบวนการทำความสะอาดด้วยเครื่องสกิมเมอร์หรือเครื่องดูดโคลนที่ใช้กับสระว่ายน้ำ จะทำให้ได้ราคาสูงถึง กก.ละ 200 บาท และถ้ามีการตัดแต่งคัดคุณภาพสาหร่ายพวงองุ่นให้เป็นเส้นยาวๆสวยงามสม่ำเสมอกัน จะมีราคาสูงถึง กก.ละ 500 บาท

นอกจากนั้น มนทกานติ ยังกล่าวถึงข้อดี ของการเลี้ยงแบบแขวนลอยในบ่อ ยังช่วยแก้ปัญหาเรื่องความเค็มของน้ำได้ด้วย โดยเฉพาะในฤดูฝน เนื่องจากภาวะความเค็มที่เหมาะสมกับสาหร่ายพวงองุ่นอยู่ที่ 30-32 ในส่วนพัน เมื่อถึงหน้าฝนความเค็มจะเจือจาง ทำให้หยุดการเจริญเติบโต แต่เมื่อเลี้ยงด้วยวิธีแขวน เกษตรกรยกขึ้นมาพักดูแลในบ่อซีเมนต์สำรองได้สะดวก

แถมการเลี้ยงในบ่อดินยังมีข้อดีอีกอย่าง เกษตรกรไม่ต้องเติมสารอาหารเลี้ยงบำรุง แต่อย่างใด เพราะในดินมีสารอาหารเพียงพอที่จะช่วยสาหร่ายเจริญเติบโตดีอยู่แล้ว...สนใจจะศึกษา เรียนรู้ อบรมวิธีการเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่น พืชน้ำเศรษฐกิจตัวใหม่ ติดต่อได้ที่ 08–1861–8118.

โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 4 พ.ค. 2558

โพลเผยคนไทยส่วนใหญ่ช็อกเหตุดินไหวเนปาล จี้รัฐรับมือภัยธรรมชาติ​

​

สวนดุสิตโพลเผย คนไทยส่วนใหญ่ตกใจเหตุแผ่นดินไหวเนปาล สงสารผู้ประสบภัย ส่งกำลังใจ-แรงใจช่วย รองลงมาร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือ อยากให้ไทยนำมาเป็นบทเรียนทำแผนรับมือภัยธรรมชาติ...

เมื่อวันที่ 3 พ.ค. 58 “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นคนไทยจำนวน 1,327 คน กรณีเหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรงประเทศเนปาล ดังนี้ 1. ประชาชนคิดอย่างไร? กับเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ประเทศเนปาล อันดับ 1 ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รู้สึกสงสารและเห็นใจผู้ที่ประสบภัยในครั้งนี้ 85.53% อันดับ 2 เป็นภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ที่ไม่อาจควบคุมได้ มีคนเสียชีวิตจำนวนมาก ไม่คิดว่าจะรุนแรงขนาดนี้ 83.80%

อันดับ 3 กลัวว่าจะเกิดขึ้นกับประเทศของเราเอง รัฐบาลควรนำเหตุการณ์นี้มาเป็นบทเรียน 78.90% อันดับ 4 โบราณสถานและสถาปัตยกรรมเก่าแก่ซึ่งเป็นมรดกโลกได้รับความเสียหายอย่างมาก 75.66% และอันดับ 5 ธรรมชาติแปรปรวน รุนแรงมากขึ้น เป็นผลจากฝีมือมนุษย์ 73.47%

2. สิ่งที่ตัวประชาชนเองจะสามารถช่วยเนปาลได้ คือ อันดับ 1 ส่งกำลังใจ แรงใจ อธิษฐาน สวดมนต์ 82.29% อันดับ 2 บริจาคเงินช่วยเหลือผ่านหน่วยงานของรัฐหรือองค์กรที่เกี่ยวข้อง 72.27% อันดับ 3 ช่วยเผยแพร่ บอกต่อข้อมูลที่จำเป็นและมีประโยชน์ให้กับผู้อื่น 68.73% อันดับ 4 ชักชวนเพื่อน ระดมทุน นำสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นไปบริจาคให้กับผู้ประสบภัย 60.59% และอันดับ 5 บริจาคโลหิต ช่วยเหลือด้านการแพทย์ อุปกรณ์การแพทย์ 54.48%

3. จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว สิ่งใดบ้างที่ประเทศไทยควรนำมาเป็นบทเรียนเพื่อปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ อันดับ 1 ภาครัฐต้องมีแผนรับมือภัยพิบัติทางธรรมชาติ เฝ้าระวังภัย มีศูนย์เตือนภัยล่วงหน้า 88.92% อันดับ 2 หากเกิดเหตุควรมีการช่วยเหลือที่รวดเร็ว มีหน่วยกู้ภัยที่มีประสิทธิภาพและชำนาญ 82.82%

อันดับ 3 มีการตรวจสอบอาคาร ตึกสูง ต้องแข็งแรงมั่นคง ได้มาตรฐาน รองรับแผ่นดินไหวได้ 80.11% อันดับ 4 ให้ความรู้กับประชาชนเกี่ยวกับการรับมือภัยธรรมชาติต่างๆ 77.69% และอันดับ 5 ทุกคนควรตระหนักและเห็นความสำคัญของธรรมชาติ ช่วยกันดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม 59.08%.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 3 พ.ค. 2558

พายุกระหน่ำหล่มสัก บ้านพังกว่า 40 หลัง ใบยาสูบเปียกน้ำ​

​

เกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มบ้านเรือนราษฎรใน อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ พังเสียหายกว่า 40 หลัง เกษตรกรเก็บใบยาสูบ 1.6 ตัน ไว้ในโรงเรือน เตรียมนำออกขาย ถูกน้ำฝนเสียหายกว่า 1 แสนบาท ทหารค่ายพ่อขุนบางกลางหาวระดมกำลังออกช่วยเหลือเป็นการด่วน...

เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 3 พ.ค. 58 เกิดพายุฝนฤดูร้อนพัดถล่มบ้านเรือนราษฎร ต.ปากช่อง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ เสียหาย 6 หมู่บ้าน บ้านเรือนพังกว่า 44 หลังคาเรือน หลังพายุสงบ พ.ท.ณฑี ทิมเสน ผบ.ม.พัน.28 ค่ายพ่อขุนบางกลางหาว นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร จำนวน 50 นาย เข้าช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายข้าวของและเก็บเศษวัสดุสังกะสีหลังคา และส่วนต่างๆ ของบ้าน

นอกจากนี้ กำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ได้ช่วยกันตัดต้นไม้ที่ล้มพาดเสาไฟฟ้าและทับบ้านเรือนออก พร้อมอำนวยความสะดวกให้แก่ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน ดำเนินการซ่อมแซมบ้านเรือนที่เสียหายในเบื้องต้น ก่อนที่จะรายงานให้ พล.ตรี กษิดิศ หลักกรด ผบ.พล.ม.1 เพชรบูรณ์ ทราบ

ขณะที่บ้านของสินลา ขุนแอะ อายุ 44 ปี เลขที่ 250 หมู่ 17 บ้านห้วยตูม ต.ปากช่อง อ.หล่มสัก ถูกพายุฝนกระหน่ำพัดหลังคาบ้านเสียหาย และพัดถล่มโรงเก็บใบยาสูบกว่า 1,600 กิโลกรัมมูลค่า 110,000 บาท ถูกน้ำฝนเสียหายเกือบทั้งหมด เจ้าของเผยด้วยสีหน้าเคร่งเครียดว่า เตรียมนำใบยาสูบไปจำหน่ายในไม่กี่วันนี้ แต่ก็มาถูกพายุฝนพัดถล่มเสียก่อน

ด้าน จ.อ.วิชชา ฉัตรวิโรจน์ นายก อบต.ปากช่อง ได้ออกตรวจความเสียหายเบื้องต้น พบว่ามีบ้านเรือนราษฎรเสียหาย จำนวน 6 หมู่บ้าน ประกอบด้วย หมู่ 1 หมู่ 2 หมู่ 3 หมู่ 11 หมู่ 12 และหมู่ 17 ประมาณ 44 หลังคาเรือน ซึ่งจะได้รายงานให้ทางจังหวัดทราบ เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือต่อไป.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 4 พ.ค. 2558

ทั่วไทยอากาศร้อน ภาคกลาง-อีสาน มีฝนบางพื้นที่​

​

ไทยมีอากาศร้อน ถึงร้อนจัด โดยเฉพาะภาคเหนือ ส่วนภาคกลาง-อีสาน มีฝนบางแห่ง ขณะที่ กรุงเทพมหานคร มีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ...

วันที่ 4 พฤษภาคม ทีมข่าวไทยรัฐ ร่วมกับ Weather Company ของสหรัฐอเมริกา รายงานสภาพอากาศเริ่มต้นสัปดาห์ใหม่ กับการรับมือความร้อนที่ไต่ระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงพายุฝน ที่เข้ามากวนใจเป็นระยะๆ

จากการตรวจสอบล่าสุด พบว่า ปัจจัยที่ควบคุมสภาพอากาศในไทยให้มีอากาศร้อนสลับฝน ยังคงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำหย่อมใหญ่ทางตอนบนของประเทศ ที่เกิดจากการสะสมความร้อนมาหลายวันติด จึงทำให้หลายพื้นที่ของไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด โดยเฉพาะภาคเหนือ

ส่วนตัวที่ทำให้เกิดฝน คือ ลมตะวันออกเฉียงใต้ ที่พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทย เข้าปกคลุมภาคอีสานตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคกลาง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางแห่งในระยะนี้

โดยจากการคาดการณ์สถานการณ์ฝนวันนี้ เริ่มก่อตัวช่วงเที่ยงเป็นแนวยาว ตามรอยต่อของภาคกลางและอีสาน ตั้งแต่ขอนแก่นมาถึงกลางตอนล่าง

ช่วงบ่ายกระจายตัวเป็น 3 จุด ภาคเหนือแถวๆ ลำปาง เชียงใหม่ ตะวันตกแถวๆ กาญจนบุรี ไปถึงสุพรรณบุรี อีสานแถวๆ บริเวณเขาใหญ่ ตกหนักหน่อยที่นครราชสีมา

ช่วงเย็นยังคงตกต่อฝั่งตะวันตก ตกหนักหน่อย แถวจังหวัดตาก ช่วงค่ำย้ายไปตกเน้นๆ อีสานตอนล่างหนักหน่อยที่อุบลราชธานี มุกดาหาร ส่วนทางภาคใต้ ฝนเริ่มก่อตัวช่วงเที่ยง ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ผ่านกระบี่ไปถึงตรัง

ขณะที่ช่วงบ่ายนั้นตกเพิ่มในจังหวัดระนอง และตกเรื่อยๆ ไปจนถึงช่วงหัวค่ำ ก่อนที่กลุ่มฝนจะออกทะเลไป มาดูอุณหภูมิความร้อนทั่วไทยวันนี้สูงสุดที่ 41 องศา เน้นๆ บริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน

สำหรับอุณหภูมิในแต่ละภาค

ภาคเหนือ อากาศร้อนจัดบางพื้นที่ กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศาเซลเซียส สูงสุด 41 องศาเซลเซียส

อีสาน มีฝนฟ้าคะนองกระจาย และลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศาเซลเซียส สูงสุด 38 องศาเซลเซียส

ภาคกลาง อากาศร้อนจัดบางพื้นที่ มีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศาเซลเซียส สูงสุด 40 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออก อากาศร้อนในตอนกลางวัน กับมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง บางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศาเซลเซียส สูงสุด 37 องศาเซลเซียส

ล่องใต้ฝั่งอ่าวไทย มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ฝั่งอันดามัน มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูง 1 เมตร

กรุงเทพมหานคร อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้า คะนองและลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 26 องศาเซลเซียส สูงสุด 38 องศาเซลเซียส

วันนี้ช่วงตี 1 เกิดพายุโซนร้อน โนอึล "NOUL" เป็นภาษาเกาหลี ที่แปลว่า แสงสีแดงบนท้องฟ้าเวลาดวงอาทิตย์ขึ้น หรือตก ในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก ทางตะวันออกของฟิลิปปินส์ ห่างจากประเทศไทย 3,977 กม. อยู่ระหว่างเกาะกวม กับเกาะปาเลา และคาดว่าจะกลายเป็นไต้ฝุ่นระดับ 1 ช่วงบ่ายโมงวันพรุ่งนี้ และจะเพิ่มความเร็วจนกลายเป็นไต้ฝุ่นระดับ 4 ช่วงเวลาตี 1 วันที่ 9 พฤษภาคมนี้ ก่อนจะขึ้นฝั่งเอาโรร่าบนเกาะลูซอนประเทศฟิลิปปินส์ในวันที่ 11 พฤษภาคมนี้ เบื้องต้นพายุโซนร้อน โนอึล "NOUL" ยังไม่มีผลต่อสภาวะอากาศของไทย

ขณะที่สภาพอากาศที่กรุงกาฐมาณฑุ เนปาล เริ่มต้นสัปดาห์ด้วยสภาพอากาศที่ ปลอดโปร่ง ฟ้าใสแดดแรงในช่วงบ่าย อุณหภูมิต่ำสุด 12 สูงสุด 26 ก่อนที่วันพุธไปจนถึงวันศุกร์ จะมีฝนกลับมาโปรยปรายอีกครั้ง.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 4 พ.ค. 2558

ที่มา www.thairath.co.th

 

สาหร่าย : รายการครัวหัวหมอ​

เผยแพร่เมื่อ 30 ม.ค. 2015​

พาคุณผู้ชมไปชิมเมนูจากสาหร่ายที่หน้าตาคล­้ายองุ่น เอ๊ะ หรือจะเรียกช่อพริกไทยดี เขาเพาะเลี้ยงอย่างไรบ้าง แล้วมีสายพันธุ์อะไรบ้าง เอาไปทำอาหารอะไรได้ นอกจากอาหารของคนแล้ว ยังเป็นอาหารของสัตว์ อาหารของพืช ดูแลสิ่งแวดล้อมให้น้ำใสสะอาด และยังเป็นอาหารของยานพาหนะด้วย