ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล

ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล​

​

พุทธทำนายจากศิลาจารึก ที่มีบางตอนได้กล่าวไว้ดังนี้

เมื่อศาสนาของอาตมาล่วงมาได้ ๒๕๐๗ (ปีมะโรง) คนเปลี่ยนสภาพเดินเป็นคลาน ...ปัจจุบัน ปีเถาะ ตรงกับ พ.ศ.๒๕๕๔ ที่กำลังใช้อยู่ พุทธทำนายปีมะโรง ตรงกับ พ.ศ.๒๕๕๕ ที่โลกมีโอกาสพลิกขั้ว..ดังนั้น จากเดินลงมาเป็นคลาน ก็หนักหนาเอาการอยู่ ที่ภัยพิบัติจะเกิดขึ้นทั่วโลก....สนามแม่เหล็กจะกลับขั้ว โลกอาจจะไร้แรงดึงดูดชั่วคราว ดังที่พระอาจารย์รัตน์ ได้เห็นภาพอนาคต และได้เล่าให้ศิษย์ฟัง ที่วัดดอยเกิ้ง

ล่วงได้ ๒๕๐๘ (ปีมะเส็ง) ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล...ซึ่งในเมขลาพยากรณ์ ตรงกับ ๙ พ.ค. ๒๕๕๖ ในหนังสือพระมหาชนก ที่ไขปริศนาออกมา

ล่วงได้ ๒๕๑๒ (ปีระกา) เมืองมนุษย์จะมืด ๗ วัน ๗ คืน โลกดิ่งสู่ความหายนะ
ในปีนี้เป็นปี พ.ศ.๒๕๕๔ (ปีเถาะ) เมื่อนำมาเทียบกับปี พ.ศ.ในพุทธทำนายก็จะได้ปีนักษัตร ที่ตรงกับปีนักษัตรในพุทธทำนายพอดี เช่นในพุทธทำนายได้กล่าวเอาไว้ว่า ปี พ.ศ.๒๕๑๒ (ปีระกา) เมืองมนุษย์จะมืด ๗ วัน ๗ คืน เมื่อเราเอาปี พ.ศ.๒๕๖๐ มาลดจำนวนปีลง ๔๘ ปี ก็จะได้เป็นปี พ.ศ.๒๕๑๒ ซึ่งตรงกับปีระกาในพุทธทำนายอย่างไม่มีผิดเพี้ยน..

ประเทศไทย นำ พ.ศ. มาจากศรีลังกา ที่ พ.ศ. คลาดเคลื่อนระหว่างเกิดสงครามในประเทศนี้ เป็นเหตุให้นับ พ.ศ.เร็วกว่าความเป็นจริงไป ๔๘ ปี...ในพุทธทำนายที่กล่าวว่าเมืองมนุษย์จะมืด ๗ วัน ๗ คืน คาดว่าจะเป็นการเรียงตัวของดวงดาว เป็นแนวระนาบเดียวกัน ในรอบ ๒.๖ หมื่นปี ตามที่นักวิทยาศาสตร์บอก ทำให้เงาของดาวทุกดวงบดบังแสงอาทิตย์โลกจึงมืด / หรือ อาจจะมีดาวหางพุ่งชนโลกทำให้ ฝุ่นควัน ฟุ้งกระจายจนบดบังทำให้แสงจากดวงอาทิตย์ส่องมาไม่ถึงโลก หรืออาจจะเกิดสงครามนิวเคลียร์ จนทำให้พื้นโลกสั่นสะเทือน เกิดภูเขาไฟระเบิดพร้อมๆกันหลายลูก จนเถ้าถ่านของภูเขาไฟ ฟุ้งกระจายขึ้นในในบรรยากาศของโลก

ถอดรหัสจากพุทธทำนาย

- ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ปลายเดือนสิงหาคม 2550 ที่ผ่านมา มีคุณยายผู้ปฏิบัติธรรมท่านหนึ่งได้นำหนังสือเรื่องพุทธทำนายฉบับถอดรหัสมา ให้อ่าน ในขณะที่ผู้เขียนได้จัดสรรเวลาของตนเอง ไปฝึกทำสมาธิภาวนา วิปัสสนาภาวนา และเมตตาภาวนา ที่วัดเพลง แขวงและเขต บางพลัด ซึ่งพระอาจารย์ พระมหาฉัตรชัย รักขิตจิตโต ผู้ช่วยเจ้าอาวาสสอนนำการทำสมาธิภาวนา วิปัสสนาภาวนา และเมตตาภาวนา ที่กระชับ และกระทัดรัดดี​

- เมื่อผู้เขียนได้อ่านแล้ว ก็เห็นว่ามีเนื้อหาแปลกดี แต่ไม่แน่ใจว่า ข้อความทั้งหมดที่คัดลอกต่อๆ กันมามีการตกหล่นจากความเดิมจนถ้อยคำเปลี่ยนไปหรือไม่เพียงไร​

- ในหนังสือเล่มนี้ อ้างว่า นำความมาจากหนังสือใบลานเก่า ที่พบในจังหวัดอัตตะบือ ประเทศลาว โดยมีพระธุดงค์นำมาถ่ายทอดโดยสรุป คือ

1. ในปีจอ (2561) กรุงเทพฯ จะหมดสภาพเป็นเมืองหลวงของประเทศไทย
2. พระคาถาป้องกันภยันตรายในใบลาน จารึกให้นำไปท่องว่า “ปะโต เมตัง ปะระชีวินัง สุคะโต จุติ จิตตะ เมตตะ นินะนัง สุคะติ จุติ” โดยท่านแนะให้นำไปเขียนลงแผ่นผ้าก็ได้ แล้วนำไปปิดที่ประตูบ้าน หรือปิดในรถยนต์ ยามเกิดเหตุการณ์คับขันจะช่วยให้รอดชีวิตพ้นจากภยันตรายได้ มหันตภัยร้ายแรง ท่านว่าจะมี 10 ประการ ได้แก่

1. วาตภัย (ลมพายุ)
2. ธรณีพิบัติภัย ( แผ่นดินไหว) ภูเขาไฟระเบิด
3. อัคคีภัย (ไฟไหม้)
4. อุทกภัย ( น้ำท่วม)
5. ฟ้าผ่าดังลั่นสะเทือนแก้วหู
6. อากาศร้อนมากเกินไป หนาวมากเกินไป
7. สารพิษแพร่กระจายทุกแห่งหน
8. เกิดโรคระบาดต่างๆ
9. เกิดข้าวยาก – หมากแพง
10. เกิดการอาฆาตพยาบาทจองเวร จองล้าง จองผลาญ

3. ถ้าเข้าถึงปีกุน (2562) ไปแล้ว ทุกคนจะได้รับความสุขกาย - สุขใจ เคร่งครัดในการรักษาศีล 5 มาก โดยช่วงนั้นจะมีประชากรลดลงมาก แต่ประเทศไทย จะมีประชากรเหลือมากหน่อย คือ มีเหลือรอดถึง 30 % หรือประมาณ 18 ล้านคน ขณะที่ประเทศอื่นๆ จะมีชีวิตรอดอยู่เพียง 10 % เท่านั้น

4. เหตุการณ์ร้ายตามท้องถนน จะรุนแรงมาก ตั้งแต่ เดือน 7 ของปีระกา(ปี 2560) และในเดือน 9 – 10 ของปีจอ (ปี 2561) คนใจบาปจะถูกล้างผลาญหมดสภาพสังคมโดยทั่วไป มีบ้านแต่ไม่มีคนอยู่ มีข้าวแต่ไม่มีคนกิน มีทางแต่ไม่มีคนเดิน

6. ผู้ที่ต้องการได้พบผู้มีบุญระดับพระโพธิสัตว์ ซึ่งจะเป็นพระศรีอารย์ในอนาคตคัมภีร์ในใบลานแนะนำให้หมั่นภาวนา หมั่นรักษาศีล 5 ให้ครบถ้วนเป็นประจำ ก็จะสมปรารถนาได้

7. สัญญาณเตือนภยันตราย จะเกิดชัดเจนครั้งแรกในปีมะเส็ง (2556) ตลิ่งริมฝั่งน้ำจะพัง ทะเลและมหาสมุทรจะบ้าคลั่ง ให้ติดตามเหตุการณ์ดูในอีกประมาณ 2 ปีข้างหน้า หากเข้าสู่สถานการณ์นั้นๆ คัมภีร์ใบลานแนะให้ท่องว่า “สะโรนะกา โททายะโม พุทธะตะยะ” จะลดภยันตรายลงได้กึ่งหนึ่ง

8. โลกของเรากำลังเข้าสู่กลียุค จะมีปัญหาทั้งภัยธรรมชาติ จากดิน น้ำ ลม ไฟและเกิดจากน้ำมือมนุษย์ในการแย่งชิงผลประโยชน์ แย่งชิงความเป็นใหญ่ แย่งชิงอำนาจและทำสงคราม รวมทั้งใช้อาวุธทุกรูปแบบทำลายล้างซึ่งกันและกัน

9. ประเทศไทย ก็ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติเช่นเดียวกัน โดยในปี 2556 จังหวัดชายทะเล และกทม. จะมีแผ่นดินยุบตัว คลื่นน้ำจะพัดเข้าชายฝั่ง คลื่นน้ำอาจมีความสูงถึง 20 เมตร (สูงเกือบเท่าตึก 7 ชั้น) ผู้ที่อยู่ริมน้ำทั้งหมดจะล้มตายเกือบครึ่ง โดยจะมีภัยพิบัติเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไปถึงปี 2560 ในที่สุดประชากรไทย จาก 65 ล้านคน จะเหลือเพียง 18 ล้านคนในปี 2561

(ข้อนี้ฟังดูแล้วคลับคล้ายคลับคลา กับพยากรณ์ของนางมณีเมขลา 9 พ.ค. 2556 มากทีเดียว ผู้ที่ติดตามข้อมูลที่ในหลวงทรงแจ้งเตือนพสกนิกรชาวไทยล่วงหน้า เป็นปริศนา เช่นเดียวกับนอสตราดามูส ผู้ยังความไม่ประมาทพึงพิจารณาด้วยตนของตนเอาเถิด)

ซึ่ง ทั้งหลายทั้งปวงนี้ อาจเกิดขึ้นจริง หรือไม่เกิดขึ้นก็ได้ แต่พวกเราก็ไม่ควรดำเนินชีวิตด้วยความประมาท อย่างน้อยที่สุดก็ขอให้ท่านจัดสรรเวลาวันละเล็กวันละน้อย ฝึกความมีสติ และความมีสัมปชัญญะ เพิ่มการรักษาศีล และรู้จักให้ทานมากขึ้นด้วยครับ เพราะสิ่งที่ท่านให้แก่ผู้อื่น สงเคราะห์เกื้อกูลผู้อื่น มีความเมตตาผู้อื่นสัตว์อื่น หรือ ปรารถนาให้ผู้อื่นสัตว์อื่นมีความสุขในปัจจุบัน มีความกรุณาต่อผู้อื่น สัตว์อื่นหรือ มีจิตปรารถนาให้ผู้อื่น สัตว์อื่นที่มีความทุกข์ ได้พ้นจากทุกข์ในปัจจุบัน

สิ่ง เหล่านี้จะเป็นพลังกุศลผลบุญสนองตอบแก่ท่านในช่วงที่โลกเข้าสู่วิกฤติ อันจะมีผลให้ท่านมีความสุขได้ในทุกสถานการณ์ และพ้นทุกข์ได้โดยเร็วพลัน เป็นการลงทุนสร้างความงามความดีในปัจจุบัน ขณะที่เราสามารถกระทำได้โดยไม่เดือดร้อน ก็ขอให้ท่านรู้จักใช้โอกาสอันดีดังกล่าวด้วย หากประมาท ท่านอาจสูญเสียโอกาสที่ดีดังกล่าวตลอดไปก็ได้

(ในประเด็นนี้ ท่านผู้เป็นใหญ่สูงสุด ที่ได้แจ้งคณะเตือนภัยเขากะลา เอาไว้ว่าการช่วยเหลือพลโลกได้เฉพาะบางส่วนที่มีบารมี...บารมีของท่านผู้ใหญ่แห่งดาวพลูโต นั้นอาจหมายถึง ผู้ที่ได้ฝึกจิตเข้าถึงสภาวะจิตเดิม หรือ 'ทาง' ของทุกๆคนก็ได้ ...จึงจะนับว่าเป็นผู้มีบารมี ที่จะได้รับความช่วยเหลือจากชาวต่างดาวหลายๆดวง ที่ได้มาเตรียมงานบนดาวดวงนี้ล่วงหน้า 10 กว่าปีทีเดียว)

มงคล กริชติทายาวุธ

หมายเหตุ

ปี นักษัตร ชวด ฉลู ขาล เถาะ มะโรง มะเส็ง มะเมีย มะแม วอก ระกา จอ กุน เริ่มนับจากเดือนเมษายน เป็นเดือนที่ 1 ของปี เดือนสุดท้ายของปีจึงเป็นเดือนมีนาคมของปีถัดไป ดังนั้นปีระกาในพุทธทำนาย จึงหมายถึงตั้งแต่เดือนเมษายนของปี พ.ศ.2560 ถึง เดือนมีนาคม พ.ศ.2561

ที่มา http://ainews1.com/article482.html

 

ญี่ปุ่นหวั่นภูเขาไฟ "อาโสะ" ปะทุแรงขึ้น​

​

สถานการณ์การปะทุของภูเขาไฟอาโสะ บนเกาะคิวชูทางตอนใต้ของญี่ปุ่นยังอยู่ในขั้นวิกฤติ โดยล่าสุดภูเขาไฟพ่นแมกมาหรือหินหนืดจำนวนมากออกมา

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 28 พ.ย.ว่าสำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น ( เจเอ็มเอ ) รายงานความเปลี่ยนแปลงของภูเขาไฟอาโสะ บนเกาะคิวชู ทางตอนใต้ของประเทศ ซึ่งพ่นเถ้าถ่านและกลุ่มควันออกมาสูงเกือบ 1,000 เมตร ตั้งแต่วันอังคาร ว่าล่าสุดสถานการณ์ทวีความรุนแรงเนื่องจากเจ้าหน้าที่พบการปะทุของแมกมาหรือหินหนืดจำนวนมาก ส่งผลให้ต้องปิดน่านฟ้ารอบภูเขาไฟทั้งหมด เที่ยวบินเข้า-ออกระหว่างสนามบินคุมาโมโตะซึ่งอยู่ใกล้ที่สุด จำเป็นต้องระงับให้บริการอย่างไม่มีกำหนด

เจเอ็มเอยอมรับด้วยว่า การที่ภูเขาไฟอาโสะพ่นแมกมาออกมาจำนวนมากเป็นปรากฏการณ์ที่เหนือความคาดหมาย นอกเหนือจากการที่ภูเขาไฟปะทุเป็นครั้งแรกในรอบ 19 ปี โดยปราศจากสัญญาณเตือนล่วงหน้า ทั้งนี้ ภูเขาไฟอาโสะเป็นหนึ่งในภูเขาไฟขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และผู้เชี่ยวชาญเริ่มจับตาความเปลี่ยนแปลงของภูเขาไฟ หลังเกิดแผ่นดินไหวในบริเวณนี้เมื่อปลายเดือน ส.ค.

เดลินิวส์ วันศุกร์ 28 พฤศจิกายน 2557 เวลา 14:05 น.

ญี่ปุ่นยกเลิก-เปลี่ยนเส้นทางบินหนีภูเขาไฟปะทุ​

​

สายการบินในญี่ปุ่นประกาศยกเลิกเที่ยวบิน และปรับเปลี่ยนเส้นทางบินเข้า-ออก จากสนามบินคุมาโมโตะบนเกาะคิวชู หลังภูเขาไฟ "อาโสะ" ปะทุและพ่นเถ้าถ่านออกมาเป็นจำนวนมากตั้งแต่วันอังคาร

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 27 พ.ย. ว่าเจแปน แอร์ไลน์ส ( เจเอแอล ) และออล นิปปอน แอร์เวย์ส ( เอเอ็นเอ ) สายการบินยักษ์ใหญ่ 2 แห่งของญี่ปุ่น ออกประกาศในเวลาไล่เลี่ยกัน เรื่องการยกเลิกเที่ยวบินและปรับเปลี่ยนเส้นทางการบินซึ่งให้บริการระหว่างสนามบินคุมาโมโตะ บนเกาะคิวชูในระยะนี้ สืบเนื่องจากการปะทุอย่างรุนแรงของภูเขาไฟอาโสะ ที่พ่นเถ้าถ่านและกลุ่มควันออกมาสูงเกือบ 1,000 เมตร ตั้งแต่วันอังคาร โดยขอให้ผู้โดยสารติดตามข่าวสารและตรวจสอบข้อมูลกับทางสายการบินหรือตัวแทนจำหน่ายบัตรโดยสารอย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ สายการบินทั้งสองแห่งยืนยันตรงกันว่า เที่ยวบินซึ่งให้บริการในจุดหมายดังกล่าวจะเปลี่ยนไปใช้สนามบินที่อยู่ใกล้เคียงเป็นการชั่วคราว อย่างไรก็ตาม จำนวนเที่ยวบินและเส้นทางบินอื่นอาจได้รับผลกระทบ หากสถานการณ์ยังไม่มีแนวโน้มดีขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้

การปะทุของภูเขาไฟอาโสะถือเป็นครั้งแรกในรอบ 19 ปี และเกิดขึ้นเพียง 2 เดือนหลังการปะทุของภูเขาไฟออนตาเกะ ในจังหวัดนางาโนะ ทางตอนกลางของประเทศ ซึ่งพ่นเถ้าถ่านและกลุ่มควันออกมาโดยปราศจากสัญญาณเตือนล่วงหน้า ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 60 ศพ ส่วนใหญ่เป็นนักปีนเขา

เดลินิวส์ วันพฤหัสบดี 27 พฤศจิกายน 2557 เวลา 13:33 น.

พายุฝน-ลูกเห็บ ถล่มเมืองบริสเบนเจ็บนับสิบ​

​

มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 21 คน หลังเกิดพายุฝนและลูกเห็บขนาดยักษ์ ถล่มเมืองบริสเบนในออสเตรเลีย เมื่อวันพฤหัสบดี

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองบริสเบน รัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 28 พ.ย.ว่านายแคมป์เบลล์ นิวแมน มุขมนตรีรัฐควีนส์แลนด์ แถลงเกี่ยวกับสถานการณ์พายุฝนและลูกเห็บขนาดยักษ์ ซึ่งสร้างความเสียหายเป็นวงกว้างในหลายพื้นที่ของรัฐควีนส์แลนด์ โดยเฉพาะในเมืองบริสเบนที่มีรายงานการเกิดน้ำท่วมฉับพลันในหลายจุด ว่ามีความรุนแรงที่สุดในรอบ 29 ปี และทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 21 คน

ขณะที่ "เอเนอร์เจ็กซ์" รัฐวิสาหกิจด้านการผลิตและจ่ายกระแสไฟฟ้าในรัฐควีนส์แลนด์ รายงานว่าอิทธิพลของพายุที่มีความเร็วลมรุนแรงถึง 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้ต้นไม้จำนวนมากหักโค่นลงมาสร้างความเสียหายให้กับเสาไฟฟ้า ประชาชนราว 90,000 ครัวเรือน จึงต้องอาศัยอยู่ท่ามกลางความมืดมิด ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งแก้ไขสถานการณ์อย่างสุดความสามารถ

เมืองบริเสบนคือเมืองใหญ่อันดับ 3 ของออสเตรเลีย โดยมีประชากรอาศัยอยู่ราว 2.2 ล้านคน และเป็นสถานที่จัดการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ 20 แห่ง หรือ "จี 20" เมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว

เดลินิวส์ วันศุกร์ 28 พฤศจิกายน 2557 เวลา 08:47 น.

ยูเอ็นประกาศภาวะฉุกเฉินกาซ่าซิตี้​

​

สำนักงานองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ประกาศภาวะฉุกเฉินในเขตกาซ่าซิตี้เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา หลังจากฝนตกหนักสองวัน จนทำให้เกิดน้ำท่วมในดินแดนปาเลสไตน์

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกาซ่าซิตี้ดินแดนปาเลสไตน์ เมื่อวันที่ 28 พ.ย.ว่าสำนักงานเพื่อผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ แห่งองค์การสหประชาชาติ ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินในพื้นที่ทางตอนเหนือของกาซ่าซิตี้ ดินแดนของปาเลสไตน์ เนื่องจากมีฝนตกหนักในช่วงสองวันที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำท่วมต้องอพยพประชาชนหลายร้อยคน ออกนอกพื้นที่จากบ้านเรือนที่อาศัยเพราะถูกน้ำท่วม

เดิมทีนั้นยังมีชาวปาเลสไตน์ราว 1 แสนคน ต้องไร้ที่อยู่อาศัยในดินแดนเขตฉนวนกาซ่า นานถึง3เดือนเพราะผลจากสงครามสู้รบ 50 วัน ระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มขบวนการฮามาส ซึ่งการฟื้นฟูพื้นที่ดินแดนปาเลสไตน์ก็ยังไม่ได้เริ่มดำเนินการ

สำนักงานเพื่อผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์แห่งองค์การสหประชาชาติ รายงานว่ายังไม่มีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บจากภาวะน้ำท่วม ในขณะนี้แต่ทางสำนักงานฯได้สรรหาสิ่งของบรรเทาทุกข์และน้ำดื่ม ให้กับประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมแล้ว

เดลินิวส์ วันศุกร์ 28 พฤศจิกายน 2557 เวลา 03:28 น.

ม็อบอินโดฯประท้วงน้ำมันแพง​

​

มีผู้ชุมนุมประท้วง 1 รายเสียชีวิต จากการปะทะกับตำรวจ ทางตอนกลางของประเทศอินโดนีเซีย ในระหว่างการชุมนุมเพื่อประท้วงราคาน้ำมันแพง

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงจาการ์ตาประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 27 พ.ย.ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นเปิดเผยว่า มีผู้ชุมนุมประท้วง 1 ราย เป็นชายวัย 27 ปี พบเสียชีวิตบนถนนหลังปะทะกับตำรวจ ซึ่งใช้แก๊สน้ำตาและรถฉีดน้ำเข้ามาสลายการชุมนุมซึ่งมีอยู่ราว 200 คน ขณะเดินขบวนจะมุ่งหน้าไปยังสำนักงานผู้ว่าราชการจังหวัดที่เมืองมากัสซาร์ บนเกาะสุลาเวสีทางตอนกลางของอินโดนีเซีย

ที่เมืองมากัสซาร์แห่งนี้ มีการชุมนุมประท้วงราคาน้ำมันแพง โดยมีเพียงก้อนหินเป็นอาวุธในการปะทะกับฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้วประธานาธิบดีโจโค วิโดโดแห่งอินโดนีเซีย ได้ประกาศขึ้นราคาน้ำมันราวร้อยละ 30 สร้างความไม่พอใจให้กับชาวบ้าน

ในขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ก็เห็นด้วยกับการขึ้นราคาน้ำมัน และลดการใช้เงินอุดหนุนภาครัฐในเรื่องการพลังงาน เพื่อนำไปพัฒนาด้านอื่นแต่เศรษฐกิจของอินโดนีเซีย ซึ่งมีขนาดใหญ่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น ก็มีความเสี่ยงที่จะต้องเผชิญกับการขึ้นราคาการขนส่ง เพราะน้ำมันเชื้อเพลิงมีราคาแพงขึ้น

ตำรวจท้องถิ่นกล่าวอีกว่า ผู้ชุมนุมประท้วงได้ขว้างก้อนหินเข้าใส่ตำรวจ จึงถูกตำรวจขว้างก้อนหินกลับมามากกว่าเดิม ผู้ชุมนุมประท้วงพยายามที่จะพังประตูสำนักงานผู้ว่าราชการจังหวัด กำลังตำรวจจึงสกัดกั้นและผลักดันออกไป หลังเหตุการณ์ผ่านไป มีผู้พบชายคนหนึ่งนอนนิ่งอยู่บนถนนในสภาพบาดแผลที่ศีรษะด้านหลัง ตำรวจต้องดำเนินการสอบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิตของผู้ชุมนุมประท้วงรายนี้ แต่รายงานเบื้องต้นระบุว่าเขาล้มลงศีรษะกระแทกพื้นขณะพยายามวิ่งหนี

เดลินิวส์ วันพฤหัสบดี 27 พฤศจิกายน 2557 เวลา 23:38 น.

ปีนี้อหิวาต์คร่าชีวิตชาวเฮติแล้ว 132 ศพ​

​

อหิวาตกโรคเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของชาวเฮติอย่างน้อย 132 คน ตั้งแต่ต้นปีนี้ จากจำนวนผู้ป่วยเกือบ 15,000 คน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปอร์โตแปรงซ์ ประเทศเฮติ เมื่อวันที่ 27 พ.ย.ว่าสำนักงานเพื่อความร่วมมือด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ ( ยูเอ็นโอซีเอชเอ ) ออกรายงานเมื่อวันพุธ โดยอ้างข้อมูลดิบจากกระทรวงสาธารณสุขของเฮติ ว่าสถิติผู้เสียชีวิตจากอหิวาตกโรคในเฮติตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นมา อยู่ที่อย่างน้อย 8,655 ศพ จากจำนวนผู้ป่วย 712,330 คน

อย่างไรก็ตาม หากจำแนกสถิติเฉพาะตั้งแต่เดือนม.ค. ที่ผ่านมา จำนวนผู้เสียชีวิตจะอยู่ที่อย่างน้อย 132 ศพ จากจำนวนผู้ติดเชื้ออย่างน้อย 14,869 คน ในจำนวนนี้มากกว่า 2,000 คนมีอาการอยู่ในขั้นรุนแรง ขณะเดียวกัน ยูเอ็นโอซีเอชเอยังพบอัตราการแพร่ระบาดของโรคที่สูงขึ้นอย่างมากในกรุงปอร์โตแปรงซ์และเมืองที่อยู่ใกล้เคียง

ขณะที่รายงานขององค์การแพทย์ไร้พรมแดน ( เอ็มเอสเอฟ ) ซึ่งเปยแพร่ในเวลาไล่เลี่ยกัน ระบุว่าการที่ชาวเฮติยังขาดความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องในเรื่องสุขอนามัยขั้นพื้นฐาน และการขาดแคลนน้ำสะอาดสำหรับใช้อุปโภคและบริโภค คือปัจจัยหนึ่งที่ช่วยให้เชื้อโรคแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว

เฮติปลอดจากอหิวาตกโรคมานานถึง 150 ปี ก่อนเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อ 4 ปีที่แล้ว และรายงานของศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคของสหรัฐ ( ซีดีซี ) กล่าวโทษทหารรักษาสันติภาพจากเนปาล ว่าเป็นผู้นำเชื้อเข้ามาในประเทศ ซึ่งสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) ยืนกรานปฏิเสธ

เดลินิวส์ วันพฤหัสบดี 27 พฤศจิกายน 2557 เวลา 13:06 น.

อเมริกากับปัญหาที่ยังแก้ไม่ตก​

​

สังคมอเมริกันต้องยอมรับและตระหนักอย่างจริงจังกว่านี้ ว่าประเด็นความต่างทางสีผิว คือ "ปัญหา" เรื้อรังที่ไม่เคยได้รับการเอาใจใส่และแก้ไขอย่างจริงจัง

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเฟอร์กูสัน รัฐมิสซูรี ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 26 พ.ย. ว่าบรรยากาศแห่งความโกรธแค้น ชิงชังและเศร้าโศกเสียใจกำลังปกคลุมไปทั่วทั้งเมืองเฟอร์กูสัน หลังคณะลุกขุนใหญ่มีมติเมื่อวันจันทร์ ไม่ดำเนินคดีกับตำรวจหนุ่มผิวขาวซึ่งยิงสังหารเด็กหนุ่มผิวสีเสียชีวิตทั้งที่ไม่มีอาวุธ เมื่อเดือนส.ค. ผลการตัดสินก่อให้เกิดเหตุการณ์ที่หลายฝ่ายคาดคิดเอาไว้อยู่แล้ว นั่นคือการประท้วงและจลาจลที่กำลังลุกลามเป็นลูกโซ่ไปทั่วทั้งสหรัฐ

สิ่งที่เป็นผลลัพธ์จากคำตัดสินของคณะลูกขุนไม่ใช่ทั้งโศกนาฏกรรม ความผิดพลาด หรือความเข้าใจผิด แต่มันคือ “ปัญหา” ทางสังคมที่เปรียบได้ดั่งโรคร้ายซึ่งกำลังสร้างความแตกแยกในหมู่ชาวอเมริกัน โดยมีต้นตอมาจากการขาดความเข้าอกเข้าใจอย่างแท้จริง และมุมมองทางสังคมที่แตกต่างกันระหว่างกลุ่มคนผิวสีกับผิวขาว ในยามเกิดเหตุการณ์ที่สร้างความเปราะบางให้กับความรู้สึกของคนหมู่มากเช่นนี้

ผลสำรวจโดยนสพ.ยูเอสเอ ทูเดย์ เผยแพร่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พบว่าสำนักงานตำรวจในสหรัฐอย่างน้อย 1,581 แห่ง จับกุมผู้ต้องสงสัยในคดีอาชญากรรมเป็นคนผิวสีสูงกว่าคนผิวขาวถึง 10 เท่า นอกจากนี้ มีสำนักงานตำรวจเพียง 173 แห่ง จาก 3,538 แห่งในแบบสอบถามของยูเอสเอ ทูเดย์ จับกุมผู้ต้องสงสัยในคดีอาชญากรรมที่เป็นคนผิวสีในอัตราที่เท่ากันหรือค่อนไปทางน้อยกว่าคนผิวขาว

หลายครั้งที่กระบวนการยุติธรรมในสหรัฐกลับกลายเป็นการลดคุณค่าให้กับชีวิตของคนผิวสี จึงไม่น่าแปลกใจหากการประท้วงที่สาเหตุมาจากการเสียชีวิตของเด็กหนุ่มผิวสี จะไม่ได้เกิดขึ้นที่เมืองเฟอร์กูสันเพียงแห่งเดียว ราวกับเป็นความต้องการสื่อสารอย่างมีนัยยะว่า แม้แต่ในดินแดนที่ขึ้นชื่อว่าเปิดกว้างทางเสรีภาพ กฎระเบียบและสิทธิบางอย่างระหว่างคนผิวสีกับคนผิวขาวยังขาดความเท่าเทียมอยู่มาก

กระนั้นหลายฝ่ายพยายามปฏิเสธ ทั้งที่เหตุการณ์หลายอย่างบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่า การแบ่งแยกสีผิวยังคงเป็นปัญหาที่ฝังรากลึกอยู่ในสังคมอเมริกัน ผลวิจัยในวารสารบุคลิกภาพและจิตวิทยาสังคมของสมาคมจิตวิทยาอเมริกัน ( เอพีเอ ) พบว่าตำรวจอเมริกันส่วนใหญ่มองเด็กผิวสี “อันตราย” กว่าเด็กผิวขาว จึงไม่น่าแปลกใจหากเมื่อต้นสัปดาห์นี้จะเกิดเหตุการณ์ตำรวจวิสามัญเด็กชายผิวสีวัย 12 ปี ในเมืองคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ ที่กำลังถือปืนปลอมเล่นอยู่ในสนามเด็กเล่น

ปัจจุบันกระทรวงยุติธรรมสหรัฐกำลังพยายามปรับโครงสร้างการทำงานของตำรวจทั่วประเทศใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการฝึกฝนด้านอาวุธหรือปรับทัศนคติในการทำงาน อย่างไรก็ตาม ทุกฝ่ายต้องยอมรับให้ได้เสียก่อนว่า ความแตกต่างทางสีผิวในสังคมอเมริกันไม่ใช่ความเข้าใจผิด หรือความผิดพลาดจากการกระทำของบุคคลใดบุคคลหนึ่งเท่านั้น แต่เป็น “ปัญหา” เรื้อรังที่ยังไม่ได้รับการเอาใจใส่และแก้ไขอย่างถูกจุด

เดลินิวส์ วันพฤหัสบดี 27 พฤศจิกายน 2557 เวลา 11:55 น.

ที่มา www.dailynews.co.th

 

จีนพบผู้ป่วยไข้หวัดนก "เอช7เอ็น9" รายใหม่​

​

จีนพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดนกชนิด "เอช7เอ็น9" เพิ่มอีกราย โดยเป็นหญิงชาวมณฑลกวางตุ้ง อายุ 31 ปี

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 29 พ.ย. ว่าสำนักงานสาธารณสุขแห่งมณฑลกวางตุ้ง ทางตอนใต้ของจีน รายงานการพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์ "เอช7เอ็น9" รายใหม่ โดยเปิดเผยเพียงเป็นหญิงอายุ 31 ปี ชื่อสกุล "เติ้ง" จากเมืองตงก่วน ทางตอนกลางของมณฑล ปัจจุบันผู้ป่วยเข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองกวางโจว เมืองเอกของมณฑล และอาการล่าสุดยังอยู่ในขั้นน่าเป็นห่วง

ทั้งนี้ จีนพบผู้ติดป่วยจากเชื้อไวรัสไข้หวัดนกชนิดดังกล่าวเป็นครั้งแรกเมื่อเดือน มี.ค. ปีที่แล้ว จำนวน 3 คน แต่หลังจากนั้นอัตราการแพร่ระบาดของเชื้อทวีความรุนแรงขึ้น และทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 175 ศพ จากจำนวนผู้ติดเชื้อไม่ต่ำกว่า 450 คน

เดลินิวส์ วันเสาร์ 29 พฤศจิกายน 2557 เวลา 13:01 น.

ฮูเผยตัวเลขผู้เสียชีวิตจากอีโบลาพุ่งแตะ 7,000 คน​

​

ฮู เปิดเผยตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากเชื้อไวรัสอีโบลาล่าสุด พบว่า ผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีกกว่า 10,000 ราย เป็นเกือบ 7,000 รายแล้ว จากผู้ติดเชื้อมากกว่า 16,000 ราย

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงดาการ์ประเทศเซเนกัล เมื่อวันที่ 29 พ.ย.ว่าองค์การอนามัยโลก หรือฮูหน่วยงานด้านสาธารณสุขของสหประชาชาติ เปิดเผยตัวเลขล่าสุดเกี่ยวกับการระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลาพบว่า มีผู้ติดเชื้ออีโบลาแล้วมากกว่า 16,000 คน และเสียชีวิตแล้วเกือบ 7,000 คน โดยตัวเลขผู้เสียชีวิตใหม่นี้ซึ่งเปิดเผยเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นมากกว่า 1,000 คน ตั้งแต่รายงานไปเมื่อ 2 วันก่อนหน้านี้ซึ่งผู้เสียชีวิตรายใหม่ส่วนใหญ่อยู่ในไลบีเรีย

การระบาดในปัจจุบันนี้เริ่มต้นในแอฟริกาตะวันตก และรุนแรงที่สุดใน 3 ประเทศคือกินี ไลบีเรียและเซียร์ราลีโอน ข้อมูลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาพบว่า มีผู้ติดเชื้อใน 3 ประเทศนี้ จำนวน 16,169 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้น 268 ราย ตั้งแต่รายงานเมื่อ 2 วันก่อนขณะที่ มาลีก็เริ่มมีการติดเชื้อแล้วหลังจากมีผู้ป่วยข้ามพรมแดนจากกินีประเทศเพื่อนบ้าน

เดลินิวส์ วันเสาร์ 29 พฤศจิกายน 2557 เวลา 21:04 น.

ปักกิ่งห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะ​

​

ปักกิ่งเมืองหลวงของจีน ประกาศใช้กฎห้ามสูบบุหรี่ในพื้นที่สาธารณะในร่มทั้งหมด รวมถึงสถานที่ทำงานและขนส่งสาธารณะ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่งประเทศจีน เมื่อวันที่ 29 พ.ย.ว่าสำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานว่าคำสั่งห้ามสูบบุหรี่ในพื้นที่สาธารณะในร่มสถานที่ทำงาน และระบบขนส่งมวลชนจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในกรุงปักกิ่งเมืองหลวงของจีน ซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่ 21 ล้านคน ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.ปีหน้าเป็นต้นไป ผู้ใดฝ่าฝืนหรือกระทำผิดต้องถูกลงโทษปรับเป็นเงิน 200 หยวน หรือราว 1,060 บาท ทั้งนี้ สมัชชาประชาชนแห่งเทศบาลนครปักกิ่ง ได้พิจารณาผ่านความเห็นชอบกฎระเบียบดังกล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

จีนถือเป็นประเทศที่มีผู้สูบบุหรี่มากกว่าประเทศอื่นๆ โดยมีผู้สูบบุหรี่ราว 300 ล้านคน ขณะที่อีก 740 ล้านคน ต้องกลายเป็นผู้ที่ต้องสูดเอาควันบุหรี่จากคนอื่นเข้าไป โดยเฉลี่ยในแต่ละปีสำนักข่าวซินหัวรายงานอีกว่า เฉพาะในกรุงปักกิ่งมีผู้สูบบุหรี่เกินกว่า 4 แสนคน กฎใหม่ของปักกิ่งยังรวมถึงห้ามป้ายโฆษณาบุหรี่ในที่สาธารณะโทรทัศน์ ภาพยนตร์และหนังสือพิมพ์ด้วย

เดลินิวส์ วันเสาร์ 29 พฤศจิกายน 2557 เวลา 22:56 น.

รัสเซียสำเร็จทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปติดหัวรบนิวเคลียร์​

​

กองทัพเรือรัสเซียประสบความสำเร็จ ในการทดสอบยิงขีปนาวุธข้ามทวีป "บูลาวา" ติดหัวรบนิวเคลียร์ จากเรือดำน้ำในทะเลแบเรนต์สเมื่อวันศุกร์ นับเป้นความสำเร็จครั้งที่ 2 ในรอบ 2 เดือนกว่า

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 29 พ.ย. ว่า กองทัพเรือรัสเซียประสบความสำเร็จในการทดสอบยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นปรับปรุงใหม่ "บูลาวา" ที่ออกแบบให้ติดหัวรบนิวเคลียร์ได้ โดยแถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ระบุว่า ขีปนาวุธบูลาวาขนาดความยาว 12 เมตร ซึ่งยิงออกจากเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ อเล็กซานเดอร์ เนฟสกี ใต้ทะเลแบเรนต์ส พุ่งทะยานสู่จุดหมายและกระทบเป้าที่กำหนดไว้ ในเขตทดสอบทางทหารบนคาบสมุทรคัมชัตกา ทางภาคตะวันออกไกลของประเทศ นับเป็นความสำเร็จในการทดสอบบูลาวาเป็นครั้งที่ 2 หลังจากครั้งแรกในเดือน ก.ย.

การทดสอบบูลาวาประสบความล้มเหลวหลายครั้งในช่วงแรกๆ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย กล่าวหลังความสำเร็จในการทดสอบครั้งที่แล้วว่า รัสเซียต้องรักษาความเป็นมหาอำนาจนิวเคลียร์ไว้ เพื่อต้านภัยคุกคามด้านความมั่นคงจากโลกตะวันตกที่กำลังเพิ่มขึ้น ปัจจุบันกองทัพเรือรัสเซียมีเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ 3 ลำ ที่ติดตั้งขีปนาวุธบูลาวา.

เดลินิวส์ วันเสาร์ 29 พฤศจิกายน 2557 เวลา 02:17 น.

ประกาศภาวะฉุกเฉินน้ำท่วมหนักกาซา​

​

ยูเอ็นประกาศภาวะฉุกเฉินน้ำท่วมรุนแรงในฉนวนกาซา ซึ่งเป็นการซ้ำเติมความทุกข์ยากให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสงคราม 50 วัน กับอิสราเอลก่อนหน้านี้

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกาซา ปาเลสไตน์เมื่อวันที่ 28 พ.ย.ว่าสหประชาชาติ หรือยูเอ็นประกาศภาวะฉุกเฉินในฉนวนกาซาหลังจากฝนตกหนัก 2 วัน ทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงโชคดีที่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตแต่ประชาชนจำนวนมากต้องอพยพและโรงเรียน 63 แห่ง ถูกปิดในเมืองกาซาซิตี้ก่อนหน้านี้ มีชาวปาเลสไตน์มากกว่า 400,000 คน ไร้ที่อยู่อาศัยตั้งแต่เกิดความขัดแย้งกับอิสราเอล 50 วัน ในช่วงฤดูร้อนซึ่งสิ้นสุดลงเมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา

ในเดือน ต.ค.ที่ผ่านมาบรรดาประเทศผู้บริจาคให้คำมั่นว่าจะระดมทุนจำนวน 5,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อช่วยบูรณะฟื้นฟูกาซาที่ได้รับความเสียหายจากสงคราม 50 วัน กับอิสราเอล

ทั้งนี้ฝนตกหนัก ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่วันพุธที่ผ่านมาทำให้ดินแดนเล็ก ๆ แห่งนี้ตกอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากยิ่งขึ้น เนื่องจากมีครอบครัวของชาวกาซาหลายพันยังคงอาศัยอยู่ในสถานที่พักพิงชั่วคราว ที่ทางการจัดให้หรือไม่ก็ทนอยู่ในบ้านของตนเองที่มีสภาพพังเสียหายหลังเกิดความขัดแย้ง โดยเฉพาะในเขตเชไจยาซึ่งการโจมตีทางอากาศ ในช่วงเกิดความขัดแย้งได้ทำลายอาคารหลายหลังประชาชนต้องเผชิญหน้ากับความหนาวเย็น โดยไม่มีไฟฟ้าหรือน้ำใช้

โรเบิร์ตเทอร์เนอร์ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการของยูเอ็น ฝ่ายกิจการปาเลสไตน์หรือยูเอ็นอาร์ดับเบิลยูเอในกาซา กล่าวว่าเรามีความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับพายุที่รุนแรงเช่นนี้ ที่เกิดขึ้นในช่วงต้นฤดูกาลซึ่งเป็นการซ้ำเติมความเสียหายที่เกิดจากความขัดแย้งก่อนหน้านี้ โดยความขัดแย้งในกาซา 7 สัปดาห์ ซึ่งสิ้นสุดลงด้วยข้อตกลงหยุดยิงเมื่อวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมามีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตไปมากกว่า 2,100 คน ส่วนใหญ่เป็นพลเรือนส่วนทหารอิสราเอลเสียชีวิตไป 67 นาย และพลเรือน 6 คน ในอิสราเอล

เดลินิวส์ วันศุกร์ 28 พฤศจิกายน 2557 เวลา 18:32 น.

ที่มา www.dailynews.co.th

 

พบความเชื่อมโยงโลกร้อนก่อสงคราม เพิ่มผู้ลี้ภัยหนีอากาศเปลี่ยนแปลง​

​

นิวไซน์เอนติสท์ - นักวิชาการศึกษาประวัติศาสตร์ย้อนหลัง 500 ปี พบการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศสัมพันธ์กับสงคราม และภาวะทุกข์เข็ญของประชากรในแต่ละยุค นับเป็นครั้งแรกที่มีการศึกษาความเชือมโยงระหว่างภาวะโลกร้อนกับสงครามอย่างจริงจัง ระบุอนาคตอาจต้องเพิ่มผู้ลี้ภัยเนื่องจากหนีภาวะภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงเข้าไปในสารบบ

การศึกษาเรื่องราวในอดีตอาจทำให้รู้อนาคตได้ เมื่อนักวิชาการในสหรัฐฯ ศึกษาพบความสัมพันธ์ระหว่างการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ที่เกิดขึ้นในอดีตกับสภาพทางสังคมในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งคาดการณ์ได้ว่าโลกร้อนอาจชักนำสังคมเข้าสู่ยุคข้าวยากหมากแพงและภาวะสงครามเหมือนที่ผ่าน และก่อเกิด "ผู้ลี้ภัยจากภูมิอากาศ" (climate refugee)

ทั้งนี้ การศึกษาชิ้นล่าสุดได้วิเคราะห์ความเชื่อมโยงระหว่างการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อันส่งผลให้เกิดความขัดแย้งภายในจีนเป็นเวลายาวนานถึง 1,000 ปี ซึ่งยังมีงานวิจัยเพียงน้อยนิดที่กล่าวถึงผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศในระยะยาว

"ตัวอย่างพื้นฐานที่เห็นได้ชัดคือ การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิมีผลต่อการเพาะปลูก" ปีเตอร์ เบรค (Peter Brecke) จากสถาบันเทคโนโลยีจอร์เจีย (Georgia Institute of Technology) ในแอตแลนตา สหรัฐอเมริกา หัวหน้าทีมวิจัยระบุ

สภาพภูมิอากาศที่ย่ำแย่ลงจะทำให้เกิดผลตามมา 3 ประการหลัก ได้แก่ ภาวะข้าวยากหมากแพง ประชาชนเสียชีวิตเพราะความอดอยากมากขึ้น และเกิดความตึงเครียดในสังคม ซึ่งท้ายที่สุดจะนำไปสู่ภาวะสงครามหรือความขัดแย้งอย่างรุนแรง

ทีมวิจัยได้รวบรวมข้อมูลราคาอาหาร จำนวนประชากร และการก่อจราจลหรือสงครามที่เกิดขึ้นในช่วงหลัง ค.ศ.1400 ที่ผ่านมา เปรียบเทียบกับข้อมูลของอุณหภูมิและสภาพอากาศในช่วงเวลาเดียวกัน พบว่าทั้งสองสิ่งมีความสัมพันธ์กัน โดยการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศเป็นชนวนเหตุของสงครามและความขัดแย้งมากมาย ซึ่งเกิดขึ้นกระจายไปยังภูมิภาคต่างๆ ของโลก

ส่วนช่วงที่สงบสุขอยู่ระหว่างต้นคริสต์ศตวรรษที่ 17 ถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 18 ซึ่งหากย้อนหลังไปสัก 250 ปีก่อน ทั้งในยุโรปและจีนต่างก็เป็นช่วงที่ประชากรอยู่อย่างสันติเช่นเดียวกัน ช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วง 100 ปี ก่อนสิ้นสุดยุคหนาวเย็นหรือยุคน้ำแข็งเล็ก (Little Ice Age) ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 1450 และสิ้นสุดลงในช่วงศตวรรษที่ 18

ทีมวิจัยเชื่อว่า ช่วงที่อุณหภูมิเย็นลงกว่าปกติในยุคหนาวเย็น ส่งผลให้ภาคเกษตรกรรมผลิตพืชพันธุ์ธัญญาหารได้ลดลงจากเดิมและทำให้เข้าสู่ภาวะข้าวยากหมากแพงและเกิดสงครามช่วงชิงอาหารเพื่อความอยู่รอด กระทั่งเข้าสู่ช่วง 100 ปี ดังกล่าวที่มีอากาศอบอุ่นขึ้น ความตึงเครียดในสังคมจึงเบาบางลง แต่หลังจากนั้นราวช่วงต้นถึงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 18 อุณภูมิก็ลดต่ำลงอีก และกลับเข้าสู่ภาวะทุกเข็ญอีกครั้ง

แม้ว่าภูมิอากาศ ณ ปัจจุบันนี้จะมีแนวโน้มร้อนขึ้นมากกว่าเย็นลง แต่นักวิชาการก็คาดการณ์ได้ว่าภาวะโลกร้อน จะนำไปสู่ภาวะขาดแคลนอาหารไม่น้อยไปกว่าภาวะหนาวเย็นที่เคยเกิดขึ้นเมื่อช่วง 500 ปีที่ผ่านมาแน่นอน

"สังคมสมัยใหม่มีวิทยาการมากมายที่จะช่วยเพิ่มผลผลิตต่างๆได้ แต่ก็ควรเตรียมการระมัดระวังไว้ด้วย เพราะกลไกเหล่านั้นอาจใช้ไม่ได้ผลเมื่อเราต้องตกอยู่ในสวาวการณ์ที่เต็มไปด้วยปัญหาสิ่งแวดล้อม" เบรค กล่าว

นอกจากนี้ เขายังระบุว่า สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงอาจทำให้มีผู้ลี้ภัยเนื่องจากสภาพภูมิอากาศ โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่แถบชายฝั่งที่เสี่ยงต่อน้ำทะเลท่วมพื้นที่อาศัยอันเนื่องมาจากภาวะโลกร้อน

อย่างไรก็ดี เมื่อไม่นานมานี้ นายบัน คี-มุน (Ban Ki-Moon) เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ เขียนบทความลงในหนังสือพิมพ์เดอะวอชิงตันโพสท์ (The Washington Post) เกี่ยวกับปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นที่ดาร์ฟูร์ ประเทศซูดานว่า ส่วนหนึ่งเพราะสภาพพื้นที่กลายเป็นทะเลทราย ระบบนิเวศน์ถูกทำลาย และขาดแคลนทรัพยากรธรรมชาติ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 พฤศจิกายน 2550 12:07 น.

ที่มา www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9500000137820

 

"อาหาร" เป็นยารักษาโรค​

​

Dae Jang Geum แดจังกึม จอมนางแห่งวังหลวง

เมื่อ 500 ปีที่ผ่านมาในช่วงเวลาสมัยของราชวงศ์ Chosun ประเทศเกาหลียังคงปกครองด้วยกฎเกณฑ์ที่ผู้ชายมีอำนาจเป็นใหญ่กว่าผู้หญิง Dae Jang Geum - Jewel in the Palace สร้างมาจากเรื่องจริงของหญิงสาวผู้เป็นตำนานนามว่า Jang Geum ซึ่งเป็นผู้หญิงคนแรกของเกาหลีที่เป็นแพทย์คอยรักษาอาการเจ็บป่วยให้กับเชื้อพระวงศ์ในพระราชสำนัก ปีที่ฉาย : 2003

www.series0.com/2013/12/tae-chang-gum.html
ซีรีย์เกาหลี Dae Jang Geum แดจังกึม จอมนางแห่งวังหลวง (ตอนที่ 1 - 60 จบ) [พากย์ไทย]

 

คำทำนายเรื่องภัยพิบัติจากศาสนาคริสต์​

​

การกันดารอาหารครั้งยิ่งใหญ่...

พระเจ้าตรัสว่า“ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจะมีการกันดารอาหารเกิดขึ้น เพราะฝนฟ้าจะไม่ตกเต็มไป ทุกที่เสมอกัน ที่แห้งแล้งก็จะแห้งแล้ง หว่านอะไรลงไม่ได้ แต่ที่มีฝนก็ตกจนแฉะถึงขนาดน้ำท่วม ไม่สามารถหว่านเมล็ดลงได้ ส่วนบางพื้นที่มีฝนฟ้าดี ตกได้เสมอกันตรงตามฤดูกาล แต่เมื่อหว่านเมล็ดลงไปก็จะมีศัตรู ดินและศัตรูพืชบนบกบุกเข้าไปทำลายพืชผลที่งอกขึ้นนั้น ไม่สามารถเติบโตเกิดผลได้ ก็จะเกิดการกันดารอาหารตามถิ่นต่างๆทั่วโลก ถึงแม้บางพื้นที่จะทำมาหากินได้บ้างเล็กน้อย แต่ก็ไม่พอที่จะนำไปขายตามตลาดได้ ก็จะทำให้การหาอาหารกินตามเมืองต่างๆขาดแคลน ไม่มีอะไรจะกิน เมื่อเป็นเช่นนี้ การกันดารอาหารครั้งยิ่งใหญ่ก็จะเกิดขึ้นทั่วโลก

“เหตุการณ์แห่งความทุกข์ยากนี้ จะเริ่มขึ้นตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป (บันทึกเหตุการณ์นี้วันที่ 17 ธันวาคม ค.ศ.2009) จนถึงวันที่พระเยซูคริสต์เสด็จกลับมา” แล้วเหตุการณ์ทุกอย่างในพระคัมภีร์ที่พระเยซูคริสต์ทรงกล่าวไว้ ก็จะกระหน่ำลงมาอย่าง กะทันหันต่อหน้าต่อตามนุษย์ทั้งหลาย และจะทำให้คนเป็นอันมากตื่นตระหนกตกใจว่า “อะไรกันนี่!ทำไมเหตุการณ์เช่นนี้จึงเกิดขึ้นกับเรา”

พระเจ้าตรัสว่า สิ่งนี้จะเกิดขึ้นพร้อมกับกฎหมายวันอาทิตย์ และจะสำเร็จตามคำกล่าวของ พระเยซูคริสต์ในพระธรรมมัทธิวบทที่ 24 ข้อ 7, มาระโกบทที่ 12 ข้อ 8,วิวรณ์บทที่ 13 ข้อ 14-15,วิวรณ์บทที่ 15 ทั้งบท คำกล่าวนี้จะต้องสำเร็จก่อนที่พระเยซูคริสต์จะเสด็จกลับมา...

พระเจ้าตรัสว่า "ถ้าคนใดสามารถหาซื้อข้าวหรือสิ่งของใช้สอยในครัวเรือนได้ก็ให้ทุกคนเริ่ม เตรียมไว้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปได้แล้ว เพราะเหตุการณ์แห่งความทุกข์ยากของโลกก็จะเริ่ม ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนถึงวันที่การเสด็จมาปรากฏของพระคริสต์จะมาถึง จงเตรียมตัวให้พร้อมเสมอ ทุกเวลาที่เรียกว่า "วันนี้"

ความทุกข์ยากจากการกันดารอาหาร

ขณะนี้เป็นยุคที่ใกล้เวลาของความทุกข์ยาก ในขณะที่การกันดารอาหารเกิดขึ้นนั้นจะไม่มีอะไรกินอีกแม้แต่สัตว์ต่างๆก็ไม่มีให้มนุษย์กิน เพราะทุกสิ่งที่มีชีวิตมากมายจะหิวตายกันหมด ในขณะนั้นผู้ที่กินเนื้อสัตว์จนเป็นนิสัยเคยชินจะมีผู้หญิงที่ใจอ่อนนำลูกของตนมาฆ่ากินแทนเนื้อสัตว์ ตามที่พระคัมภีร์ได้พยากรณ์ไว้ว่า “ มือของหญิงที่ใจอ่อน กลับเอาลูกของตัวต้มกิน ลูกที่ถูกต้มเป็นอาหารนั้นกินกันเมื่อยามหายนะมาสู่ธิดาแห่งชนชาติของข้าพเจ้า” (พระธรรมบทเพลงคร่ำครวญ 4:10, เฉลยธรรมบัญญัติ 28:5-6)

พระเจ้าเตือนว่าให้ละทิ้งเนื้อสัตว์ทุกชนิดหรืออาหารเผ็ดร้อน เพราะว่าเนื้อสัตว์เป็นต้นเหตุของโรคระบาด (สัตว์ปีกก่อให้เกิดไข้หวัดนก ไข้หวัด 2009 ก็มาจากหมู และสัตว์ต่างๆก็มีโรคอยู่ภายในตัว) พระเจ้าจึงไม่ประสงค์ให้มนุษย์กินเนื้อสัตว์ เพื่อจะพ้นจากโรคระบาดและฝึกฝนทนต่อความทุกข์ยากลำบากให้เคยตัว เพราะบรรดาคนทั้งหลายที่ไม่ได้เตรียมตัวเพื่อจะละทิ้งความอยากจะต้มลูกของตนกินเป็นอาหาร พระเจ้าตรัสว่า “ดูเถิด เราให้พืชที่มีเมล็ดทั้งหมด ซึ่งมีอยู่ทั่วพื้นแผ่นดิน และต้นไม้ทุกชนิดที่มีเมล็ดในผลของมันแก่เจ้าเป็นอาหารของเจ้า” (พระธรรมปฐมกาล 1:29)

ทุกอย่างจะสำเร็จตามคำทำนายทั้งสิ้น

by: poopea

ที่มา ข่าวสารวาระสุดท้าย: การกันการอาหารครั้งยิ่งใหญ่...

 

โชคช่วยเด็กมะกันรอดตายหลังถูกหิมะฝัง 7 ชม.​

​

เด็กชายสองคนรอดชีวิตราวปาฏิหาริย์หลังถูกฝั่งอยู่ใต้หิมะสูงราว 5 ฟุต นานถึง 7 ชม. ในรัฐนิวยอร์ก สหรัฐ ท่ามกลางการระดมทีมออกตามหาเด็กทั้ง 2 คน จนพบว่าทั้งคู่ถูกฝังอยู่ใต้กองหิมะ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองนิวเบิร์ก รัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 29 พ.ย.ว่า ด.ช.อีลิจาห์ มาร์ติเนซ วัย 11 ปี กับด.ช.เจสัน ริเวอรา วัย 9 ปี ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกันถูกพบว่าฝังอยู่ใต้กองหิมะสูงราว 5 ฟุต เป็นเวลานานถึง 7 ชม. เมื่อคืนวันพุธที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา หลังทั้งคู่ออกไปเล่นหิมะนอกอพาร์ทเมนท์ของ ด.ช.อีลิจาห์ ด้วยกัน ก่อนถูกรถกวาดหิมะที่กำลังทำความสะอาดลานจอดรถ ซึ่งไม่เห็นเด็กทั้งสองคน เทหิมะที่กวาดมาได้ทับใส่ร่าง

ทั้งนี้เด็กทั้ง 2 คน แทบจะไม่สามารถขยับเขยื้อนตัวและหายใจได้สะดวก เนื่องจากถูกหิมะฝังกลบจนมิด ขณะที่ ด.ช.เจสัน ได้ทำถุงมือและหมวกหายไปท่ามกลางความหนาวเหม็บของหิมะ แต่ทั้งคู่ก็พยายามที่จะให้กำลังใจกันและกัน และพูดคุยกันตลอดเพื่อไม่ให้เผลอหลับ ซึ่ง ด.ช.อีลิจาห์ ได้นำผ้าปิดหน้ามาช่วยให้ความอบอุ่นแก่มือของทั้งคู่

ส่วนพ่อแม่ของเด็กทั้งสองคนได้ตัดสินใจแจ้งตำรวจ ให้มาช่วยตามหาลูกชาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ระดมทีมช่วยกันค้นหาเด็ก ที่ไม่มีใครรู้ว่าแท้จริงแล้วทั้ง 2 คน อยู่ห่างจากบ้านของพวกเขาไปเพียงไม่กี่ฟุตเท่านั้น ก่อนจะไปเคาะประตูบ้านคนในหมู่บ้าน เพื่อขอยืมพลั่วและขอแรงให้ช่วยกันออกตามหา

จนในที่สุดเมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. นายแบรนดอน โรลา ตำรวจนายหนึ่งได้พบรอยเท้าที่แทบจะเลือนหายไปเนื่องจากหิมะที่ตกลงมา จากนั้นเขาได้เหลือบไปเห็นพลั่วคันหนึ่ง จึงรีบขุดลงไปใต้หิมะและเริ่มเห็นรองเท้าบูท 1 ข้างตามมา พร้อมกับรู้สึกว่ามีอะไรขยับอยู่ข้างใต้ ก่อนที่ชาวบ้านจะเร่งมือช่วยกันขุดจนพบร่างเด็ก โดยทั้ง 2 คนยังมีสติอยู่ ก่อนจะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ท่ามกลางความดีใจของพ่อแม่และเจ้าหน้าที่ ซึ่งเผยว่าที่ทั้งคู่รอดมาได้ก็เพราะใต้หิมะมีช่องอากาศอยู่

เดลินิวส์ วันอาทิตย์ 30 พฤศจิกายน 2557 เวลา 00:36 น.

เซาเปาลูแล้งจัดในรอบ 80 ปี​

​

เมืองเซาเปาลูของบราซิลกำลังเผชิญกับวิกฤตภัยแล้งรุนแรงที่สุดในรอบ 80 ปี ปริมาณน้ำสำรองในเขื่อนลดต่ำลงเป็นประวัติการณ์ คาดว่าอาจมีน้ำใช้ไปอีกราว 60 วัน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเซาเปาลู ประเทศบราซิล เมื่อวันที่ 30 พ.ย. ว่า เมืองเซาเปาลู เมืองใหญ่ที่สุดของบราซิลที่มีประชากรราว 20 ล้านคน กำลังประสบปัญหาภัยแล้งรุนแรง ระดับน้ำในระบบชลประทานลดลงต่ำจนถึงขั้นวิกฤตตั้งแต่เมื่อเดือนที่แล้ว โดยปริมาณน้ำสำรองฉุกเฉินถูกใช้ไปราว 2 ใน 3 ส่วนของที่มีอยู่

นางมารุซเซีย เวทลีย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการทรัพยากรน้ำ จากองค์กรอินสติตูโต โซชัมเบียนทัล หน่วยงานอิสระด้านสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า หากอัตราการใช้น้ำและปริมาณน้ำฝนยังคงที่เหมือนที่ผ่านมา น้ำสำรองที่กักเก็บไว้จะมีใช้เพียงพอไปอีกอย่างมากที่สุดแค่ 60 วัน ซึ่งในความเป็นจริงระยะเวลาอาจน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากน่าจะมีปริมาณความต้องการใช้น้ำเพิ่มสูงขึ้น ในช่วงวันหยุดคริสต์มาสและปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงนี้

ภาวะแห้งแล้งในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของบราซิลในปีนี้ นับว่ารุนแรงที่สุดในรอบอย่างน้อย 80 ปี ซึ่งส่งผลถึงระดับน้ำที่ลดต่ำลงในแม่น้ำและแหล่งน้ำสำรองหลายแห่ง โดยนายอันโตนิโอ โนเบร นักวิทยาศาสตร์ผู้ทำการศึกษาด้านสภาพภูมิกาศ จากสถาบันวิจัยอวกาศแห่งชาติของบราซิล กล่าวว่า สภาวะแห้งแล้งที่รุนแรงขึ้นในบราซิล เป็นผลมาจากภาวะโลกร้อนและการทำลายป่าอะเมซอน ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อปริมาณน้ำฝนและน้ำที่ป่าฝนจะช่วยกักเก็บได้.

เดลินิวส์ วันอาทิตย์ 30 พฤศจิกายน 2557 เวลา 13:32 น.

อิหร่านประณามเหตุถล่มมัสยิดในไนจีเรีย​

​

อิหร่านประณามเหตุการณ์โจมตีมัสยิดในไนจีเรีย จนทำให้ประชาชนที่กำลังสวดมนต์เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงเตหะรานประเทศอิหร่าน เมื่อวันที่ 30 พ.ย.ว่ามาร์เซห์ อัฟคัมโฆษกหญิงของกระทรวงต่างประเทศอิหร่าน ประณามอย่างรุนแรงเมื่อวันเสาร์ ต่อเหตุการณ์กลุ่มก่อการร้ายโจมตีมัสยิดในไนจีเรียซึ่งมีผู้เสียชีวิต 120 คน และบาดเจ็บอีก 270 คน อัฟคัมซึ่งแสดงความเสียใจต่อโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นครั้งนี้กล่าวว่า ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติเช่นนี้ ต้องถูกนำตัวมาดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรมขนาดของโศกนาฏกรรมครั้งนี้ ทำให้ต้องมีการรณรงค์กันอย่างจริงจังเพื่อทำลายล้างกลุ่มก่อการร้ายและกลุ่มหัวรุนแรงในไนจีเรีย

เธอกล่าวอีกว่าไนจีเรีย ควรจะตั้งหน่วยเฝ้าระวังเพื่อป้องกันการก่อเหตุของกลุ่มก่อการร้าย และป้องกันความขัดแย้งทางศาสนาหรือเชื้อชาติ

เดลินิวส์ วันอาทิตย์ 30 พฤศจิกายน 2557 เวลา 14:49 น.

ไอเอสถูกถล่มในเมืองโคบานี วันเดียวดับ 50 ศพ​

​

นักรบไอเอส ถูกถล่มวันเดียว ดับ 50 ศพในเมืองโคบานี โดยถูกโจมตีทางอากาศไป 30 ครั้ง

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงการากัสประเทศซีเรีย เมื่อวันที่ 30 พ.ย.ว่ากลุ่มสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในซีเรีย เปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ว่านักรบกลุ่มหัวรุนแรงไอเอสอย่างน้อย 50 คน เสียชีวิตในการปะทะกันในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ซึ่งมีทั้งการระเบิดฆ่าตัวตายและการโจมตีทางอากาศที่นำโดยสหรัฐ 30 ครั้ง ในเมืองโคบานีพรมแดนซีเรีย จำนวนผู้เสียชีวิตถือว่าสูงสุดจากการโจมตีกลุ่มไอเอสในวันเดียว ตั้งแต่ไอเอสเริ่มโจมตีเมืองยุทธศาสตร์แห่งนี้บริเวณพรมแดนตุรกีในเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา

กลุ่มสังเกตการณ์ฯที่มีสำนักงานอยู่ในอังกฤษกล่าวว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 คน จากระเบิดฆ่าตัวตายในจำนวนนี้ 2 คน เกี่ยวข้องกับการโจมตีบริเวณจุดผ่านแดนแบ่งแยกเมืองโคบานีและตุรกี นอกจากนี้ มีผู้เสียชีวิตอีก 11 คน ในการปะทะกันระหว่างชาวเคิร์ดในเมืองโคบานีและนักรบไอเอส

กลุ่มสังเกตการณ์ฯบอกด้วยว่านักรบชาวเคิร์ด 11 คน เสียชีวิตในช่วงเวลาเดียวกันในเมืองโคบานี พร้อมด้วยนักรบกบฏซีเรียอีกคนหนึ่ง ซึ่งสนับสนุนกองกำลังชาวเคิร์ด

เดลินิวส์ วันอาทิตย์ 30 พฤศจิกายน 2557 เวลา 18:18 น.

ยูเครนโวยคอนวอยรัสเซีย ข้ามแดนสู่ภาคตะวันออกอีก​

​

ทางการยูเครนกล่าวหาขบวนรถบรรทุกรัสเซีย 106 คัน ข้ามแดนสู่ภาคตะวันออกโดยไม่ได้รับอนุญาตอีกเมื่อวันอาทิตย์

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานจากกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 30 พ.ย. ว่า ทางการยูเครนกล่าวในวันนี้ ว่า ขบวนรถบรรทุกหนัก 106 คัน ข้ามแดนจากรัสเซียเข้าสู่ภาคตะวันออกของยูเครน โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเคียฟในวันนี้ พร้อมกับกล่าวหารัสเซียใช้การขนส่งสิ่งของช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม เป็นฉากบังหน้าการขนส่งอาวุธและเครื่องกระสุน ให้กับกลุ่มกบฎแบ่งแยกดินแดนภาคตะวันออกของยูเครนอีกครั้ง

เมืองโดเนตสก์ ทางภาคตะวันออกของยูเครน ซึ่งปัจจุบันตกอยู่ในความยึดครองของกลุ่มกบฎ ยังมีการสู้รบดุเดือดอย่างต่อเนื่อง ระหว่างทหารกองทัพยูเครนกับนักรบกบฎ แม้จะมีการลงนามในข้อตกลงหยุดยิงเมื่อวันที่ 5 ก.ย.การสู้รบยืดเยื้อนานหลายเดือน ทำให้ประชาชนจำนวนมากในพื้นที่ขาดแคลนอาหาร ยารักษาโรค และสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวัน รัสเซียได้ส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์เข้าไปช่วยเหลือหลายครั้ง แต่ พ.อ.แอนดรี ไลเซนโก โฆษกกองทัพบกยูเครน กล่าวว่า สิ่งของที่รัสเซียส่งข้ามแดนส่วนใหญ่ตกไปสู่มือกลุ่มกบฏ และเป็นอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ใช้สำหรับการสู้รบ

ขบวนรถบรรทุกส่งสิ่งของของรัสเซียชุดล่าสุด เป็นครั้งที่ 8 นับตั้งแต่กลางเดือน ส.ค. สำนักข่าวอาร์ไอเอของรัสเซียรายงานโดยอ้างกระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินรัสเซีย ว่า ขบวนรถส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ 7 ครั้งแรก รวมน้ำหนักสิ่งของกว่า 9,500 ตัน ส่วนใหญ่เป็นอาหาร วัสดุก่อสร้าง และยารักษาโรค.

เดลินิวส์ วันอาทิตย์ 30 พฤศจิกายน 2557 เวลา 22:29 น.

ยูเอ็นชี้อีโบลาเสี่ยงแพร่ออกนอกแอฟริกาตะวันตก​

​

สหประชาชาติ (ยูเอ็น)เผย มีความเป็นไปได้สูงมากที่เชื้อไวรัสอีโบลาจะแพร่ระบาดออกไปในพื้นที่อื่นๆของโลก หลังการระบาดหนักในแอฟริกาตะวันตก

สำนักข่าวบีบีซี รายงานจากกรุงฟรีทาวน์ ประเทศเซียร์ราลีโอน เมือวันที่ 1 พ.ย.ว่า นายแอนโทนี บันเบอรี หัวหน้าคณะปฏิบัติการฉุกเฉินด้านอีโบลาของยูเอ็นในแอฟริกาตะวันตกเผยในกรุงฟรีทาวน์ของเซียร์ราลีโอน ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการแพร่ระบาดอย่างหนักของเชื้ออีโบลาว่า ยังมีความเป็นไปได้สูงที่เชื้อนี้จะสามารถแพร่กระจายออกไปตามพื้นที่อื่นๆ ของโลก นอกจากการระบาดในแอฟริกาตะวันตก เนื่องจากผู้คนที่เดินทางไปมาข้ามประเทศผ่านทางการโดยสารอากาศยาน

ทั้งนี้ นายบันเบอรีได้ตั้งเป้าหมายในการสกัดโรคโดยแบ่งเป็นสัดส่วนความช่วยเหลือต่อผู้ป่วยและการฝังศพผู้เสียชีวิตอย่างถูกสุขอนามัย ในเดือนต.ค.เขาได้แถลงเป้าหมายต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี)ว่า ภายในเดือน ธ.ค. ร้อยละ 70 ของผู้ติดเชื้อ จะต้องได้รับการรักษาและร้อยละ 70 ของผู้เสียชีวิต จะต้องถูกฝังอย่างถูกวิธี หากการแพร่ระบาดได้ยุติลง อย่างไรก็ตาม แผนการชั่วคราวได้ถูกจัดตั้งขึ้นเช่นกัน ด้วยความพยายามปรับลดการติดเชื้อที่ที่กำลังเพิ่มสูงขึ้น โดยมีเป้าหมาสูงสุดอยู่ที่ยูเอ็นจะทำให้การติดเชื้อกลายเป็นศูนย์

นายบันเบอรีกล่าวว่า การติดเชื้อจะพบมากใน 3 ประเทศ ได้แก่ เซียร์ราลีโอน กินีและไลบีเรีย แต่พื้นที่อย่างกรุงฟรีทาวน์ของเซียร์ราลีโอนนี้กลับพบการติดเชื้อน้อย ทั้งนี้ ยุทธศาสตร์รับมือจะพุ่งประเด็นไปที่การควบคุมวิกฤตการระบาดให้อยู่ภายใต้ศูนย์ดูแลที่จัดตั้งขึ้น การขนส่งและการฝังศพผู้เสียชีวิตต้องเป็นไปอย่างถูกสุขอนามัย อย่างไรก็ตาม แม้ยูเอ็นจะยื่นมือเข้ามาช่วยสถานการณ์การติดเชื้อแล้วแต่ก็ยังมีผู้ป่วยเสียชีวิตสัปดาห์ละเฉลี่ย 200-300 คน

เดลินิวส์ วันจันทร์ 1 ธันวาคม 2557 เวลา 10:00 น.

โอบามาประชุมด่วนจัดการประเด็น “เฟอร์กูสัน”​

​

ประธานธิบดีบารัค โอบามา เตรียมมีประชุมกับคณะรัฐมนตรี เหล่าแกนนำสิทธิพลเมืองและเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อหารือจัดการกับประเด็นการจลาจลในเมืองเฟอร์กูสัน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ว่า นายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐเตรียมมีประชุมในวันนี้กับเหล่าคณะรัฐมนตรีผู้ที่เกี่ยวข้อง แกนนำกลุ่มสิทธิพลเมืองรุ่นใหม่ และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง โดยประเด็นที่สำคัญในการอภิปรายครั้งนี้คือ การทบทวนโครงการของรัฐบาลที่จะจัดเตรียมอาวุธซึ่งใช้ในปฏิบัติการทหารให้กับหน่วยงานพิทักษ์สันติราษฎร์

นอกจากนี้ ทำเนียบขาวยังได้ออกมาเปิดเผยด้วยว่า นายโอบามาจะเข้าพูดคุยหารือกับเหล่าแกนนำสิทธิพลเมืองรุ่นใหม่ถึงการปัญหาความไม่ไว้วางใจกันที่เกิดขึ้นระหว่างตำรวจและชุมชนคนผิวสี รวมทั้งจะหารือในประเด็นการแก้ไขปัญหาเพื่อให้ชุมชนกลับมาแข็งแกร่งเหมือนเดิมได้

ขณะที่การประท้วงในเมืองเฟอร์กูสัน รัฐมิสซูรียังคงดำเนินต่อไป แต่ก็สงบลงมากเมื่อเทียบกับเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นช่วงที่คณะลูกขุนใหญ่ออกคำพิจารณาไม่ฟ้องร้องตำรวจผิวขาวที่ก่อเหตุยิงนายไมเคิล บราวน์ หนุ่มผิวสี วัย 18 ปี ที่ไม่มีอาวุธจนเสียชีวิต

เดลินิวส์ วันจันทร์ 1 ธันวาคม 2557 เวลา 09:20 น.

ที่มา http://www.dailynews.co.th/

 

องค์การอาหารโลกขาดงบหนุนซีเรียลี้ภัย​

​

องค์การอาหารโลก (ดับเบิลยูเอฟพี) เผย อาจต้องระงับความช่วยเหลือทางอาหารแก่ผู้ลี้ภัยชาวซีเรียในต่างแดนกว่า 1.7 ล้านคน เนื่องจากปัญหาการขาดแคลนงบประมาณ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโรม ประเทศอิตาลี เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ว่า องค์การอาหารโลก (ดับเบิลยูเอฟพี) เผยเมื่อวันจันทร์ว่า หน่วยงานกำลังประสบปัญหาขาดแคลนเงินทุนสนับสนุน และอาจต้องระงับการช่วยเหลือทางอาหารแก่กลุ่มผู้ลี้ภัยชาวซีเรียกว่า 1.7 ล้านคนในประเทศใกล้เคียง เช่น จอร์แดน เลบานอน ตุรกี อิรัก และอียิปต์ หากยังไม่สามารถหางบประมาณราว 64 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (กว่า 2,100 ล้านบาท) ภายในเดือน ธ.ค. นี้ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจะส่งผลกระทบรุนแรงต่อบรรดาผู้ลี้ภัยในฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึงนี้

นายอันดตนิโอ กูเตร์เรส ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชซีอาร์) ได้เรียกร้องให้ประชาคมโลกให้ความช่วยเหลือ ซึ่ง รมว.กระทรวงการต่างประเทศของเยอรมนี ฟินแลนด์ สวีเดน และสหรัฐ ให้การตอบรับข้อเรียกร้องดังกล่าวในทันที โดยนายแฟรงก์ วอลเตอร์ สไตน์ไมเออร์ รมว.กระทรวงการต่างประเทศเยอรมี กล่าวว่า กรณีนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนในการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ผู้ลี้ภัย รวมถึงประเทศเจ้าบ้านที่ให้การพักพิงแก่ผู้ลี้ภัยด้วย

นอกจากปัจจัยด้านอาหาร ผู้ลี้ภัยชายซีเรียยังต้องเผชิญกับสภาพอากาศหนาวเย็นที่ปราศจากเครื่องนุ่งห่มกันหนาวและที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมด้วย โดยนายเอธาริน คัสซิน ผู้อำนวยการบริหารของดับเบิลยูเอฟพี กล่าวว่า การระงับความช่วยเหลือทางอาหาร จะกระทบต่อความปลอดภัยและสุขภาพของผู้ลี้ภัย ซึ่งอาจนำไปสู่ความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นทั้งในด้านความปลอดภัยและความมั่นคงของประเทศที่้เป็นเจ้าบ้านด้วย

ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลากว่า 3 ปีที่ผ่านมาของความขัดแย้งภายในของซีเรีย มีผู้เสียชีวิตเกือบ 200,000 คน มีผู้อพยพออกนอกประเทศราว 3.2 ล้านคน และผู็ที่ต้องย้ายถิ่นฐานภายในประเทศอีกกว่า 7.2 ล้านคน.

เดลินิวส์ วันอังคาร 2 ธันวาคม 2557 เวลา 11:14 น.

ไข้หวัดนกที่อียิปต์ตาย 3 ศพ​

​

มีผู้เสียชีวิต 3 ศพเพราะไวรัสไข้หวัดนก เอช5เอ็น1ในประเทศอียิปต์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ตัวเลขผู้เสียชีวิตในปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 6 ศพแล้ว

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงไคโรประเทศอียิปต์ เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ว่ากระทรวงสาธารณสุขของอียิปต์แถลงว่ามีผู้เสียชีวิต 3 ศพ เพราะไวรัสไข้หวัดนก เอช5เอ็น1 ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ตัวเลขผู้เสียชีวิตทั้งหมดในปีนี้เพิ่มเป็น 6 ศพแล้ว จากจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดนกทั้งหมด 11 รายด้วยกันในปีนี้

กระทรวงสาธารณสุขระบุอีกว่า ผู้เสียชีวิตเพราะไข้หวัดนก 3 รายล่าสุด เป็นชายวัย 40 ปี และหญิงวัย 29 ปี อาศัยอยู่ในจังหวัดมินยาทางตอนกลางของประเทศและ อีกรายนั้นเป็นหญิงวัย 25 ปี ที่เมืองเบนิซุเอฟ ทางใต้ของกรุงไคโร นอกจากนั้นแล้วยังพบเด็กวัย 2 ขวบ ซึ่งรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลในจังหวัดมินยานั้น ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดนก เอช5เอ็น1

องค์การอนามัยโลก ได้ประกาศเตือนว่าการแพร่ระบาดของไข้หวัดนก จะปะปนอยู่กับสัตว์ปีก หากคนไปสัมผัสกับสัตว์ปีกที่ติดเชื้อไวรัส ก็อาจจะติดเชื้อได้ นอกจากนั้นแล้วการติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ เอช5เอ็น1 ในคนนั้นเกิดขึ้นน้อยมาก และยังไม่มีการแพร่ระบาดจากคนไปสู่คนด้วย

ไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์ เอช5เอ็น1 ในประเทศอียิปต์นั้นส่วนใหญ่พบในพื้นที่ชนบททางตอนใต้ของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้หญิงซึ่งเป็นแม่บ้าน และจะฆ่าสัตว์เลี้ยงเช่น ไก่ มาปรุงอาหารในบ้านของตัวเอง

เดลินิวส์ วันอังคาร 2 ธันวาคม 2557 เวลา 01:02 น.

ฮูกระตุ้นจีนแก้ปัญหาเอดส์จริงจัง​

​

องค์การอนามัยโลก เตือนจีนเอาจริงในการแก้ปัญหาการระบาดของเอชไอวี/เอดส์ หลังมีผู้ติดเชื้อขณะนี้ เกือบ 5 แสนคน

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงปักกิ่งประเทศจีน เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ว่าองค์การอนามัยโลก หรือฮูหน่วยงานสาธารณสุขของสหประชาชาติ เรียกร้องให้รัฐบาลจีนจัดการแก้ปัญหาการระบาดของไวรัสเอชไอวี/เอดส์ อย่างจริงจัง ขณะที่ตัวเลขของรัฐบาลจีน ระบุว่ามีผู้ติดเชื้อมรณะนี้หรือเริ่มต้นป่วยจากการติดเชื้อเอชไอวีแล้วเกือบ 5 แสนคน โดยยังมีอีกนับแสนคนที่ยังไม่ได้มีการวินิจฉัยโรคเบิร์นฮาร์ด ชวาร์ทแลนเดอร์ผู้แทนฮูประจำจีนเขียนบทความแสดงความคิดเห็นลงในหนังสือพิมพ์ไชน่าเดลีย์ ของทางการจีนว่ามีความจำเป็นอย่างมาก ที่จีนต้องจัดการกับปัญหาดังกล่าว เพื่อป้องกันการติดเชื้อและช่วยเหลือผู้ติดเชื้อเอชไอวีให้ดีกว่านี้

ชวาร์ทแลนเดอร์เขียนว่า บางทีสิ่งที่สำคัญที่สุดเราต้องไม่ตราหน้าและเลือกปฏิบัติต่อผู้ติดเชื้อเอชไอวี และต่อประชาชนกลุ่มเสี่ยงเช่นชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย,ผู้ค้าบริการทางเพศ และผู้ใช้ยาเสพติดแบบฉีด ผู้แทนฮู ระบุด้วยว่าเขาเคยเห็นเพื่อนร่วมงานในสาขาอาชีพแพทย์ของเขา บางคนไม่ใส่ใจผู้ป่วย เพราะพวกเขาไม่เป็นเห็นด้วยกับรสนิยมทางเพศของบุคคลกลุ่มนี้ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้และต้องหยุดพฤติกรรมเช่นนี้

ทั้งนี้บทความของชวาร์ทแลนเดอร์ถูกเผยแพร่ในวันเอดส์โลก หนึ่งวันหลังจากคณะกรรมาธิการสาธารณสุขและวางแผนครอบครัวแห่งชาติของจีน ระบุว่า ภายในสิ้นเดือน ต.ค.ที่ผ่านมามีประชาชนในจีนทั้งสิ้น 497,000 คน ได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อไวรัสเอชไอวี/เอดส์ ตั้งแต่พบผู้ป่วยรายแรกในประเทศเมื่อปี 2528 ซึ่งตัวเลขดังกล่าวเพิ่มจากเดือน ก.ย.2556 ที่มีประชาชนในจีนติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ 434,000 คน แต่ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าการเพิ่มขึ้นดังกล่าวนี้ เป็นเพราะการติดเชื้อเพิ่มขึ้นหรือมีการวินิจฉัยผู้ป่วยมากขึ้น

คณะกรรมาธิการดังกล่าวระบุด้วยว่า ในช่วง 30 ปี ที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิตเพราะโรคเอดส์แล้ว 154,000 คน

เดลินิวส์ วันจันทร์ 1 ธันวาคม 2557 เวลา 19:15 น.

ชาวซีเรียเร่งหาฟืนรับมือภัยหนาว​

​

กลุ่มชาวซีเรีย ออกมาตัดไม้ เพื่อนำไปเป็นฟืน สร้างความอบอุ่นในครอบครัว ท่ามกลางฤดูหนาวที่ กำลังมาเยือน

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงดามัสกัสประเทศซีเรีย เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ว่า ด้วยสภาวะการขาดแคลนเชื้อเพลิงและไฟฟ้า ทำให้ประชาชนจำนวนมากในเมืองเดอร์อาของซีเรีย ต้องออกไปตัดต้นไม้เพื่อทำเป็นฟืนเอาไว้ใช้ เนื่องจากอุณหภูมิเริ่มเย็นแล้ว โดยสงครามความขัดแย้งในซีเรียที่ล่วงเข้าสู่ปีที่ 4 ได้ทำให้เกิดการขาดแคลนทรัพยากรทั่วประเทศ ทางการท้องถิ่นหลายแห่ง ต้องควบคุมสิ่งจำเป็นขั้นพื้นฐานอย่างเข้มงวด รวมทั้งเชื้อเพลิงและไฟฟ้า

ทั้งนี้แก๊สหนึ่งถังในพื้นที่ที่ไม่ใช่เขตควบคุมของรัฐบาลซีเรีย หรืออยู่ในพื้นที่ยึดครองของฝ่ายกบฎจะมี ราคาเฉลี่ย 8,000 ปอนด์ ซีเรียหรือราว 1,650 บาท แต่ถ้าอยู่ในพื้นที่ควบคุมของทางการราคาแก๊ส จะขายในราคา 1,250 ปอนด์ซีเรียหรือราว 242 บาท

นายโมฮัมหมัดซูบี้ ได้เริ่มตัดต้นไม้เพื่อนำไปทำเป็นฟืนและสร้างความอบอุ่นให้แก่ครอบครัวช่วงฤดูหนาว เขาบอกว่า ต้นไม้บางต้นมีอายุถึง 50 ปี และจำเป็นต้องตัด เพื่อนำมาทำเป็นฟืนเพราะประชาชนไม่มีแก๊สและไม่มีไฟฟ้าเอาไว้ใช้ รวมทั้งไม่มีน้ำมันเบนซิน อีกทั้งพวกเขาไม่มีเงินจึงต้องออกไปตัดไม้ เพื่อทำเป็นฟืน ด้าน นายอาบู โอบาดาห์อัล โมฮัมหมัด ซึ่งเป็นชาวซีเรียที่ออกมาหาฟืนกล่าวว่า พื้นที่ยึดครองของฝ่ายกบฎได้ถูกรัฐบาลตัดการจ่ายเชื้อเพลิงทั้งหมด ทำให้ประชาชนไม่มีทางเลือกต้องออกมาตัดไม้ทำลายป่า เพื่อทำเป็นฟืนเอาไว้รับมือฤดูหนาวที่กำลังมา

รายงานจากสหประชาชาติระบุว่า สงครามในซีเรียคร่าชีวิตผู้คนราว 200,000 ราย และไร้ที่อยู่อาศัยเกือบ 10 ล้านคน

เดลินิวส์ วันจันทร์ 1 ธันวาคม 2557 เวลา 16:55 น.

ที่มา http://www.dailynews.co.th/

 

หอบลูกจูงหลานหนีเพลิงไหม้วุ่น​

​

เพลิงไหม้อาคารเรียนโรงเรียนบ้านสังขะ จ.สุรินทร์ ครู-พ่อแม่ รีบพาลูกหลานหนีจ้าละหวั่น สุดท้ายอาคารและอุปกรณ์การเรียนการสอน วอดเกลี้ยง ค่าเสียหายกว่า 5 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. พ.ต.ท.กิ่งเพชร สุดเสียงสังข์ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการ สภ.สังขะ จ.สุรินทร์ ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ภายในโรงเรียนบ้านสังขะ เขตเทศบาลตำบลสังขะ จึงประสานรถดับเพลิงรุดไปช่วยเหลือ ที่เกิดเหตุเป็นอาคารเรียนสูง 2 ชั้น มีทั้งหมด 12 ห้องเรียน พบเพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง ทำให้ครูและผู้ปกครองที่กำลังพาลูกหลานมาส่งต้องรีบพาเด็กนักเรียนไปอยู่ในที่ปลอดภัยจ้าละหวั่น จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ต่อสายเร่งฉีดน้ำจนผ่านไป 20 นาที เพลิงจึงสงบ จากการตรวจสอบพบว่าอาคารวอดทั้งหลัง รวมถึงทรัพย์สิน อาทิ อุปกรณ์การเรียน หนังสือ เครื่องคอมพิวเตอร์ ก็เสียหายเช่นกัน

นายอุดม เกษมสุข ผอ.โรงเรียนสังขะ กล่าวว่า โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนประถมเปิดสอนตั้งแต่ อนุบาล-ป.6 มีนักเรียน 273 คน มีครู ผู้บริหาร 13 คน ลูกจ้างชั่วคราว 1 คน อาคารที่เกิดเหตุเป็นอาคารเก่าสร้างขึ้นปี 2516 ปัจจุบันใช้เป็นห้องเรียนของเด็กนักเรียนชั้นต่างๆ เนื่องจากนักเรียนจะเวียนไปเรียนในแต่ละห้อง โดยต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ห้องเรียนชั้น 2 ก่อนลุกลามอย่างรวดเร็ว มูลค่าความเสียหายกว่า 5 ล้านบาท แต่ที่กังวลคือจะให้นักเรียนไปเรียนที่ไหนเป็นการชั่วคราว ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้นั้นกองวิทยาการจะเข้ามาหาหลักฐานอีกครั้ง.

เดลินิวส์ วันอังคาร 2 ธันวาคม 2557 เวลา 13:21 น.

วอนโจรใต้อย่าสังหารนักเรียน​

​

ครูและนักเรียนปัตตานีกว่า 2,500 ชีวิต เดินรณรงค์ต่อต้านความรุนแรง หลังกลุ่มไม่สงบประกบเด็ก ม.5 เสียชีวิต วอนโจรอย่าทำร้ายนักเรียนอีกเลย

เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ข้าราชการครูและนักเรียนจากโรงเรียนเดชะปัตตนยานุกูล จ.ปัตตานีกว่า 2,500 คน ได้ร่วมตัวกันเดินขบวนรณรงค์รอบเมืองปัตตานี เพื่อต่อต้านความรุนแรงในพื้นที่ชายแดนใต้ หลังเกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญเมื่อกลุ่มก่อความไม่สงบประกบยิงนักเรียนชายชั้น ม.5 วัย 17 ปี จนเสียชีวิต ส่วนเพื่อนบาดเจ็บสาหัส ยังรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ศูนย์ยะลา เหตุเกิดบนถนนสายปัตตานี-นราธิวาส บ้านจาแบปะ หมู่ 3 ต.ตันหยงดาลอ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมา

โดย นางกุลวรา เต็มรัตน์ อาจารย์ของโรงเรียนกล่าวว่า การเดินรณรงค์ครั้งนี้อยากให้ทุกฝ่ายเห็นว่าเราไม่อยากให้เกิดความรุนแรงลักษณะนี้อีก อยากขอร้องคนร้ายว่าอย่าทำร้ายเด็กนักเรียนอีกเลย ไม่ว่าเป็นโรงเรียนไหนก็ตาม เพราะมันมีแต่ความสูญเสียและคราบน้ำตา.

เดลินิวส์ วันอังคาร 2 ธันวาคม 2557 เวลา 12:18 น.

ไทยตอนบนเย็นตอนล่างมีฝน​

​

บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากจีน แผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ส่งผลให้มีอากาศเย็น และมีลมแรง ส่วนภาคใต้และอ่าวไทย ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือทำให้มีฝนกระจายเป็นแห่งๆ

เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 2 ธ.ค. กรมอุตุนิยมวิทยารายงาน สภาพอากาศทั่วไปว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ส่งผลให้พื้นที่ดังกล่าว มีอากาศเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ทำให้ภาคใต้จะมีฝนอยู่ในเกณฑ์เป็นแห่ง ๆ ในระยะนี้

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้

ภาคเหนือ มีหมอกบางในตอนเช้า กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส ตอนบนของภาค อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศาเซลเซียส ตอนล่างของภาค อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด กับมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 3-10 องศาเซลเซียสลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และมีลมแรง โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดสระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดพังงา ภูเก็ต และกระบี่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้าและมีลมแรง โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียสลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

เดลินิวส์ วันอังคาร 2 ธันวาคม 2557 เวลา 07:04 น.

ที่มา www.dailynews.co.th

 

สุดล้ำ!กลุ่มก่อการร้ายผุด “นกติดระเบิด”โจมตีอัฟกัน​

​

สุดล้ำ!กลุ่มก่อการร้ายผุด “นกติดระเบิด”โจมตีอัฟกัน

เว็บไซต์หนังสือพิมพ์สหรัฐ “นิวยอร์ก โพสต์”รายงานจากประเทศอัฟกานิสถาน เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ว่า ตำรวจอัฟกานิสถานสามารถยิงนกติดระเบิด ตัวหนึ่งได้บริเวณทางหลวงสายหนึ่งใกล้จุดตรวจของตำรวจในจังหวัดฟาร์ยาบ ทางตอนเหนือของอัฟกานิสถานใกล้ชายแดนเติร์กเมนสถาน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กลุ่มก่อการร้ายตาลีบันยึดครองอยู่ ขณะที่นกกำลังเดินอยู่บนถนน เจ้าหน้าที่ได้สังเกตุเห็นความผิดปกติ เนื่องจากนกดังกล่าวไม่ใช่นกท้องถิ่นแต่ก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นนกชนิดใด มีขนาดใหญ่กว่านกอินทรี และยังมีสายอากาศ ระเบิด รวมทั้งอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ติดอยู่บนตัวมัน เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจยิง ทำให้นกตัวดังกล่าวระเบิดขึ้น อุปกรณ์ที่ติดมาด้วยจึงระเบิดกระจัดกระจายไปพร้อมตัวนกด้วย

ตำรวจยังคงทำการตรวจสอบอุปกรณ์มากมายที่ติดมากับตัวนก ซึ่งประกอบไปด้วย อุปกรณ์นำทางระบบจีพีเอส กล้องขนาดเล็ก วัตถุระเบิด และสายอากาศ ทั้งนี้ เหตุการณ์นกติดระเบิดนี้เพิ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก เจ้าหน้าที่สืบสวนคาดว่า นกตัวนี้ถูกใช้ในภารกิจสอดแนมของกลุ่มก่อการร้ายที่ไม่มีอากาศยานไร้คนขับ (โดรน)เป็นของตัวเอง จึงต้องหาวิธีอื่น ด้วยการส่งนกติดระเบิดเช่นนี้บินเข้ามาโจมตีในดินแดนอัฟกานิสถาน

เดลินิวส์ วันพุธ 3 ธันวาคม 2557 เวลา 12:40 น.

สตีเฟ่น ฮอว์กิ้ง เตือนพัฒนาสมองกลล้ำยุคเป็นจุดจบของมนุษย์​

​

ศาสตราจารย์สตีเฟ่น ฮอว์กิ้ง นักฟิสิกส์ทฤษฎีและนักจักรวาลวิทยา เตือนการพัฒนาสมองกลล้ำยุค จะเป็นจุดจบของมวลมนุษย์ เหมือนอย่างในหนังเรื่องคนเหล็ก ที่หุ่นยนต์เข่นฆ่าชาวโลก

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงลอนดอนประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ว่า สตีเฟ่น ฮอว์กิ้ง นักฟิสิกส์ทฤษฎีและนักจักรวาลชื่อดังชาวอังกฤษออกมาเตือนว่า การพัฒนา artificial intelligence (ปัญญาประดิษฐ์ใช้ตัวย่อว่า AI หมายถึงแขนงการศึกษาทางวิทยาการคอมพิวเตอร์แขนงหนึ่ง ที่พยายามจะทำให้คอมพิวเตอร์สามารถคิดหาเหตุผลได้เรียนรู้ได้ ทำงานได้เหมือนสมองมนุษย์) อาจหมายถึงจุดจบของมวลมนุษยชาติ

ฮอว์กิ้งให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์บีบีซีว่า เทคโนโลยีดังกล่าวจะมีการพัฒนาอย่างรวดเร็วจนสามารถตามทันและล้ำหน้าชาวโลกเหมือนอย่างภาพยนตร์ในจินตนาการเรื่อง”เทอร์มิเนเตอร์”หรือ”คนเหล็ก” ซึ่งเขาคิดว่า การพัฒนาสมองกลให้สมบูรณ์ที่สุด จะนำมาซึ่งจุดจบของเผ่าพันธุ์มนุษย์ เมื่อคนพัฒนาสมองกลล้ำยุคขึ้นมา มันจะสั่งการด้วยตัวเองและสร้างตัวเองขึ้นมาใหม่ด้วยอัตราที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ฮอว์กิ้งยังเตือนว่า อินเตอร์เน็ตนำมาซึ่งอันตราย และผลประโยชน์ต่างๆ แต่ได้กลายเป็นศูนย์กลางของอาชญากรและผู้ก่อการร้าย

เดลินิวส์ วันพุธ 3 ธันวาคม 2557 เวลา 13:29 น.

ยูเอ็นบีบยิวเลิกอาวุธนิวเคลียร์​

​

สหประชาชาติออกมติด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น สนับสนุนกลุ่มชาติอาหรับที่เรียกร้องให้อิสราเอลล้มเลิกโครงการอาวุธนิวเคลียร์

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากสหประชาชาติ นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ว่า สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ(ยูเอ็น)ได้อนุมัติด้วยคะแนนเสียงท่วมท้นต่อมติของกลุ่มชาติอาหรับ ที่เรียกร้องอิสราเอลให้ล้มเลิกการครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ และนำโครงการนิวเคลียร์เข้าสู่การตรวจสอบของนานาชาติ

ยูเอ็นสนับสนุนมติดังกล่าวด้วยคะแนน 161 ต่อ 5 เสียง อย่างท่วมท้น และว่าอิสราเอลเป็นเพียงชาติเดียวในตะวันออกกลาง ที่ไม่ได้เข้าร่วมในสนธิสัญญาห้ามแพร่กระจายอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งอิสราเอลจะต้องยอมทำตามเงื่อนไขของสนธิสัญญาดังกล่าวโดยไม่รีรอ ไม่ทดลอง รวมทั้งไม่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์

อย่างไรก็ตาม มีเพียงสหรัฐ แคนาดา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสี่ประเทศร่วมกับอิสราเอลไม่เอาด้วยกับมติเรียกร้องให้อิสราเอลยุตินิวเคลียร์ ขณะที่ อีก 18 ประเทศ งดออกเสียง แม้อิสราเอลถูกมองเป็นวงกว้างว่าครอบครองนิวเคลียร์ แต่ไม่มีการยืนยัน ทั้งนี้ มติของยูเอ็นที่ผลักดันโดยอียิปต์ที่มีหัวข้อว่าความเสี่ยงของการแพร่กระจายนิวเคลียร์ในตะวันออกกลาง ได้ผลักดันกรอบการกำหนดเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์ในตะวันออกกลาง

เดลินิวส์ วันพุธ 3 ธันวาคม 2557 เวลา 14:27 น.

ไต้ฝุ่นกำลังแรง'ฮากูปิต'จ่อถล่มปินส์​

​

ไต้ฝุ่น “ฮากูปิต” พายุลูกใหม่กำลังแรง กำลังเคลื่อนตัวเข้าหาชายฝั่งใกล้เมืองทาโคลบัน ที่ยังไม่ฟื้นจากความเสียหายจากไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนเมื่อปีที่แล้ว ทางการสั่งอพยพประชาชนด่วนเมื่อวันพุธ

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงมะนิลาประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ว่าเจ้าหน้าที่ในเมืองทาโคลบันของฟิลิปปินส์ซึ่งเป็นเมืองที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากซูเปอร์ไต้ฝุ่น “ไห่เยี่ยน” กำลังประสบปัญหาอย่างหนักในการหาวิธีดูแลช่วยเหลือประชาชนอีกจำนวนมากที่ยังอาศัยอยู่ภายในเต้นท์ชั่วคราวหลังเกิดภัยพิบัติเมื่อปลายปี 2556 ให้มีความปลอดภัยขณะที่ พายุไต้ฝุ่นกำลังแรงลูกใหม่ที่ชื่อว่า “ฮากูปิต” จ่อถล่มซึ่งจะทำให้เกิดคลื่นขนาดยักษ์ซัดเข้าฝั่งซ้ำเติมความทุกข์ยากของประชาชนเหล่านี้อีก

ทั้งสี้สำนักงานพยากรณ์อากาศฟิลิปปินส์แถลงว่า ไต้ฝุ่นฮากูปิตซึ่งมีความหมายว่า “เฆี่ยนตี”ตั้งชื่อโดยฟิลิปปินส์กำลังเคลื่อนตัวอยู่ทางตะวันตกมุ่งหน้าไปยังเกาะซามาร์และเลย์เต ภาคกลางของประเทศและจะทำให้เกิดฝนตกหนักอย่างเร็วสุดในช่วงบ่ายวันเสาร์นี้พายุลูกนี้เคลื่อนตัวด้วยความเร็วลมที่จุดศูนย์กลางถึง 170 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง

ประชาชนในเมืองทาโคลบัน ซึ่งเพิ่งถูกไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนพายุกำลังแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ถล่มราบเป็นหน้ากลองเมื่อปีที่แล้ว ต่างพากันเตรียมรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินด้วยการกักตุนสิ่งของจำเป็นต่างๆ ก่อนที่พายุจะมาถึงขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่รัฐบาลท้องถิ่นก็ประชุมร่วมกันเมื่อบ่ายวันพุธเพื่อกำหนดศูนย์อพยพแห่งใหม่ให้ห่างจากฝั่งรองรับผู้อพยพ

เจอร์รีเยียวกาซิน รองนายกเทศมนตรีเมืองทาโคลบันกล่าวว่า ยังมีประชาชนอีกประมาณ 500 ครอบครัว อาศัยอยู่ในเต้นท์มานานกว่า 1 ปีแล้วหลังจากคลื่นยักษ์สูง 7 เมตร ซัดชายฝั่งจากอิทธิพลของไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนทำลายบ้านเรือนของพวกเขาเสียหายยับเยินและมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 7,350 คนโดยพวกเขาและอีก 3,000 ครอบครัว อาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราวต้องอพยพตามคำสั่งของรัฐบาลเพื่อความปลอดภัย

สำนักงานพยากรณ์อากาศแถลงว่าพื้นที่ชายฝั่งเป็นพื้นที่เสี่ยงที่จะถูกถล่มด้วยคลื่นซัดฝั่ง(สตอร์มเซิร์จ) หรือกำแพงน้ำสูงถึง 4 เมตร จากกระแสลมที่รุนแรงของไต้ฝุ่นฮากูปิต

เดลินิวส์ วันพุธ 3 ธันวาคม 2557 เวลา 16:40 น.

เด็กออสเตรียเล่นไฟฉายเลเซอร์ทำตาบอดเกือบสนิท​

​

เด็กชายชาวออสเตรียวัย 12 ปี ได้รับบาดเจ็บนัยน์ตาทั้ง 2 ข้าง “อย่างรุนแรงและถาวร” จากการเล่นไฟฉายเลเซอร์ ทำให้ความสามารถในการมองเห็นภาพลดลงถึงร้อยละ 60

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ว่า นายแพทย์ยูซัฟ อัล-ชาบราวี หัวหน้าแพทย์ประจำคลีนิกคลาเกนฟู อัม เวอร์เธอร์ซี ทางตอนใต้ของออสเตรียเชื่อว่า เด็กชายลูคัสวัย 12 ปี ที่ได้รับบาดเจ็บที่ดวงตาทั้ง 2 ข้าง น่าจะนำไฟฉายเลเซอร์มาส่องเล่นกับกระจก ทำให้แสงเลเซอร์สะท้อนเข้าที่นัยน์ตาของเขา ส่งผลให้สูญเสียความสามารถในการมองเห็นภาพถึงร้อยละ 60 อย่างถาวร ซึ่งอาการบาดเจ็บดังกล่าวไม่สามารถรักษาให้หายได้ มากที่สุดทำได้แค่ให้ดวงตาเยียวยาอาการด้วยเอง

ทั้งนี้พ่อของเด็กชายลูคัสได้ซื้อไฟฉายเลเซอร์จากอินเตอร์เน็ต ซึ่งโฆษณาว่าเป็นของเล่นใช้เล่นกับแมว หลังจากนั้น 1 สัปดาห์ต่อมา เด็กชายลูคัสบ่นว่ามองเห็นภาพจุดสีดำ นายแพทย์อัล-ชาบราวีกล่าวว่า ไฟฉายเลเซอร์ดังกล่าวติดป้ายไว้ว่ามีค่ากำลังของแสงเลเซอร์อยู่ที่ระดับ 2 ซึ่งอยู่ภายใต้กฎหมายควบคุมของสหภาพยุโรป(อียู) แต่ไม่มีใบรับรองมาตรฐานของอียู ที่เรียกว่า “อีเอ็น สแตนดาร์ด”

ไฟฉายเลเซอร์ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งบางรุ่นมีลำแสงรุนแรงมาก ถึงขั้นส่องทะลุผ่านกระจกเครื่องบินเข้าไปในห้องนักบินได้ โดยในปี 2556 สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ รายงานว่าเฉพาะที่สหรัฐมีคนใช้ไฟฉายเลเซอร์ ส่องเข้ามาในห้องนักบินของเครื่องบินถึง 99 ครั้ง

เดลินิวส์ วันพุธ 3 ธันวาคม 2557 เวลา 21:44 น.

ชาวนิวยอร์กยัวะลูกขุนไม่ฟ้องตำรวจรัดคอชายผิวสีจนตาย​

​

ชาวนิวยอร์กพากันมารวมตัวที่จัตุรัสไทม์สแควร์ แสดงความไม่พอใจหลังคณะลูกขุนใหญ่พิจารณา ไม่สั่งฟ้องตำรวจผิวขาวรัดคอชายผิวสีจนเสียชีวิตขณะจับกุม

สำนักข่าวบีบีซี รายงานจากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ว่า คณะลูกขุนใหญ่มีคำพิจารณาไม่สั่งฟ้องร้องเอาผิดนายแดเนียล แพนทาเลโอ เจ้าหน้าที่ตำรวจผิวขาวจากสำนักงานตำรวจนิวยอร์ก ซิตีของสหรัฐ หลังเขาเข้าจับกุมนายอีริค การ์เนอร์ ชายผิวสีวัย 43 ปี ฐานค้าบุหรี่เถื่อนโดยการกอดรัดคอจนนายการ์เนอร์หายใจไม่ออก และในที่สุดจึงเสียชีวิตเมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา

หลังคำพิจารณาของคณะลูกขุนชาวนครนิวยอร์ก ได้พากันมารวมตัวกันที่จัตุรัสไทม์สแควร์ใจกลางเมือง เพื่อแสดงความไม่พอใจต่อการพิจารณาดังกล่าว ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐออกมาเปิดเผยว่า ทางกระทรวงได้จัดชุดสืบสวนเพื่อสอบสวนในคดีดังกล่าวอย่างละเอียดแล้ว

ในคลิปวิดีโอที่แสดงภาพเหตุการณ์ขณะมีการเข้าจับกุมนั้น นายการ์เนอร์ได้ตะโกนใส่ตำรวจที่เข้าจับกุมเขาหลายนายว่า เขาหายใจไม่ออก โดยวิดีโอนี้เป็นสิ่งที่ทำให้มีผู้ไม่พอใจการทำงานของตำรวจเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ การพิจารณาไม่สั่งฟ้อง มีขึ้นหลังจากคณะลูกขุนในรัฐมิสซูรีพิจารณาไม่สั่งฟ้องตำรวจผิวขาวที่ยิงนายไมเคิล บราวน์ วัยรุ่นผิวสีจนเสียชีวิตเพียงสัปดาห์เดียวเท่านั้น ยิ่งทำให้ประเด็นเหยียดผิวในสหรัฐปะทุมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม นายปีเตอร์ คิง สมาชิกรัฐสภาของนิวยอร์กออกมาปกป้องการกระทำของตำรวจ เนื่องจากในภาพวิดีโอ นายการ์เนอร์เป็นฝ่ายดิ้นรนขัดขืนการจับกุม ทำให้ตำรวจยิ่งต้องใช้กำลังมากขึ้น

เดลินิวส์ วันพฤหัสบดี 4 ธันวาคม 2557 เวลา 08:47 น.

ที่มา http://www.dailynews.co.th/

 

​

การเตรียมรับมือก่อนเกิดแผ่นดินไหว

แผ่นดินไหวเกิดจากการเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลก ทำให้เกิดการสั่นสะเทือนของพื้นดิน ทรัพย์สินเสียหาย รวมไปถึงการเสียชีวิต เรามีการเตรียมตัวเพื่อรับมือก่อนเกิดแผ่นดินไหวมาฝากครับ

1.ซักซ้อมเหตุการณ์เมื่อเกิดแผ่นดินไหว กำหนดจุดนัดพบที่ปลอดภัย
2.ตรวจสอบเครื่องใช้ภายในบ้าน ยึด อุปกรณ์กับฝาบ้านหรือเสาให้ แน่น
3.แนะนำสมาชิกในครอบครัว ให้รู้วิธี “การปฐมพยาบาลเบื้องต้น”
4.ไม่ควรวางสิ่งของที่ “หนัก” หรือแตกหักง่าย ไว้บนที่สูงเพราะเวลาเกิดแผ่นดินไหวอาจทำให้หล่นใส่ได้
5.ตัดไฟฟ้า ปิดวาล์วน้ำ และถังแก็ส โดยเร็ว เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายที่ไม่คาดคิด

ไฟฉาย และ นกหวีด มีประโยชน์อย่างมาก มีสติ อย่าตื่นตระหนกเมื่อเกิดแผ่นดินไหว

​

ที่มา การเตรียมรับมือก่อนเกิดแผ่นดินไหว : ทรูปลูกปัญญาดอทคอม

 

​

การเตรียมกระเป๋ายังชีพ...กรณีเกิดภัยพิบัติ

เตรียมกระเป๋ายังชีพ เป็นการเตรียมอุปกรณ์จำเป็นต่างๆ ที่สามารถทำให้มีชีวิตรอด และมีเวลา เพียงพอที่จะออกไปขอความช่วยเหลือจากภายนอก โดยภายในกระเป๋ายังชีพควรมีสิ่งจำเป็น ต่างๆดังนี้

1.อาหารแห้ง อาหารกระป๋อง และน้ำ สำหรับกิน ดื่ม ประมาณ 3-4 วัน
2.เสื้อผ้าที่สามารถสร้างความอบอุ่นได้ 2-3 ชุด
3.รองเท้าหุ้มส้น ป้องกันเท้าบาดเจ็บจากของมีคมต่างๆ
4.ยารักษาโรคและอุปกรณ์ปฐมพยาบาล
5.ของใช้ส่วนตัว เช่น ยาสีฟัน แปรงสีฟัน สบู่ ฯลฯ
6.เอกสารสำคัญทางราชการต่างๆ เช่นทะเบียนบ้าน บัตรประจำตัวประชาชน เพื่อยืนยัน ตัวตนและรับความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ

ขอบคุณเนื้อหาจาก นิทรรศการเตรียมตัวรู้รอด 2 : เตรียมรับมือ สู้ภัยพิบัติ โดย สำนักงานอุทยานการเรียนรู้ (TK park) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.)

ที่มา การเตรียมกระเป๋ายังชีพ...กรณีเกิดภัยพิบัติ : ทรูปลูกปัญญาดอทคอม

 

รายการ Healthy 3 min ตอนสาธิตวิธีล้างผัก 11 วิธี​

เผยแพร่เมื่อ 18 ก.พ. 2013​

 

รางจืด สมุนไพรขับสารพิษ​

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=faV8JkVGC_4]แกงส้มรางจืด - YouTube[/ame]

 

ขั้นตอนการทำอุปกรณ์ช่วยคนตกน้ำ​

 

การปฐมพยาบาล​

 

การปฐมพยาบาลเมื่อโดนงูกัด​

 

วิธีหนีตายจากโรงแรมไฟไหม้ : รายการต้องรอด​

เผยแพร่เมื่อ 7 ส.ค. 2014

รายการต้องรอด ตอน “วิธีหนีตายจากโรงแรมไฟไหม้”
ออกอากาศวันพุธที่ 6 สิงหาคม 2557
เวลา 21.45-22.15 น. ทางไทยรัฐทีวี HD ช่อง 32​

 

พายุมรณะ : รายการต้องรอด​

เผยแพร่เมื่อ 27 พ.ย. 2014

รายการต้องรอด ตอน “พายุมรณะ”
ออกอากาศวันพุธที่ 26 พฤศจิกายน 2557
เวลา 21.45-22.15 น. ทางไทยรัฐทีวี HD ช่อง 32​

 

คลื่นกลืนมนุษย์ : รายการต้องรอด​

เผยแพร่เมื่อ 13 พ.ย. 2014

รายการต้องรอด ตอน “คลื่นกลืนมนุษย์”
ออกอากาศวันพุธที่ 12 พฤศจิกายน 2557
เวลา 21.45-22.15 น. ทางไทยรัฐทีวี HD ช่อง 32​